ตอนที่ ๑๐ แทบขาดใจ
“หยิบกระดาษสะอาดสีขาว มองดูดาวเลื่อนคล้อยลอยต่ำ
หยดน้ำหมึกบันทึกถ้อยคำ คนใจดำฟังคำบรรยาย
เขียนจากชายที่ค่ายทหาร จากมานานคิดถึงแทบตาย
ฝึกนะหรือเหงื่อไหลโทรมกาย ลูกผู้ชายขอตายยอมพลี
เอ้าฝึก ฝึก ฝึก ฝึก ฝึก ฝึกฝนให้คนแข็งแกร่ง
เราจะแกร่ง เราจะแกร่ง เราจะแกร่ง มีแรงต่อสู้ไพรี
น้อยใจนักคนรักเราซี เจ้าช่างมีน้ำใจแสนดำ
ยอดชีวีนี่คือจดหมาย เขียนจากชายอยู่ดุสิตธานี
ส่งไปแล้วส่งถึงคนดี อยากจะถามมีแล้วบ่ อยากจะถามมีแฟนแล้วบ่
จำจากมานะกานดา จากมาอุราพี่เจ็บ ถึงจะเจ็บพี่ก็ต้องฝืนทน
คนจนไม่มีคนเป็นห่วง ช้ำรักจากสาวกระทรวง สาวกระทรวงศึกษาธิการ
ไอ้หนุ่มกระทรวงกลาโหม เอวกลมเห็นพี่เป็นทางผ่าน
เจ็บนี้ เจ็บนี้อีกนานไอ้หนุ่มทหารไปรักกันกับสาวครู ไอ้หนุ่มทหารไปรักกันกับสาวครู
ความรัก เมื่อครั้งน้องเรียนวค. ปวค.น้องบอกให้รอ รอก่อนน้องเรียนจบครู
ไอ้หนุ่มทหาร คิดอยากแต่งงานกับสาวครู วิมานวาดไว้สวยหรู
แต่แล้วโฉมตรู สาวครูมาหลอกลวง ถึงจะเจ็บพี่ก็ต้องทนเจ็บ เจ๊บ เจ๊บ
เจ็บชอกช้ำระกำทรวง อดีตคือฉันเป็นแฟน เจ็บแสนเมื่อรักโรยร่วง
วันหนึ่งสาวครูมาหลอกลวง ไอ้หนุ่มกระทรวงกลาโหมขอลา ไอ้หนุ่มกระทรวงกลาโหมขอลา โอ๊ย เจ็บๆๆๆ”
“โยกตัวทางข้าง”
“โยกตัวทางข้าง”
“๑๐ ยก”
“๑๐ ยก”
“ปรี๊ดดด ปรี๊ดดด ปริ๊ด”
“เอนตัวทางข้าง”
“เอนตัวทางข้าง”
“๑๐ ยก”
“๑๐ ยก”
“ปรี๊ดดด ปรี๊ดดด ปริ๊ด”
“แตะสลับ”
“แตะสลับ”
“๑๐ ยก”
“๑๐ ยก”
“ปรี๊ดดดด ปรี๊ดดดด ปริ๊ด”
“๑ ๒ ๓ ๑ ๑ ๒ ๓ ๑ ...... ๑ ๒ ๓ ๙ ๑ ๒ ระวัง หยุด”
“แต่ละหมวด แถวตอนเรียง ๔ ทั้งหมดจัดแถว”
พรึ่บ เฮ้ “๑ ๒ ๓ ๔” “นิ่ง เดี๋ยวจะให้ไปอาบน้ำ เหลือเวลาอีก ๑ ชั่วโมง หมวดไหนที่ต้องไปจัดเวรเลี้ยงก็อาบให้ไว อ่ะ แต่ละหมวดให้ผู้ช่วยครูพาไป หมวด ๑ ให้พลทหาร ขีปนาวุธมาพบผู้หมวดด้วย ผู้ช่วยครู พาทหารใหม่ไปอาบน้ำไป”ผมแยกตัวออกมาอย่างงงๆ แต่ก็แอบยิ้มในใจเบาๆ สงสัยคิดถึงรสจูบของไอ้บอมบ์สุดหล่อคนนี้แน่เลย ฮ่าๆๆๆๆ
“ครับผู้หมวด”ผมตีสีหน้าเรียบเฉยไม่แสดงอาการอะไรอออกไป ถึงแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างผมกับผู้หมวดจะเลยเถิดไปจนเกินที่ผมคาดหมายไว้ก็ตามที แต่ตอนนี้ผมยังเป็นทหารใหม่อยู่ ยังเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาต้องทำตามหน้าที่ของตนเอง ไม่ไปตีตนเสมอท่านต่อหน้าธารกำนัล เขาจะหาว่าผมเป็นคนนิสัยไม่ดี
“หมอบ ลุก หมอบ ลุก......ลุก หมอบ นอนหงาย ลุก หมอบ นอนหงาย....ทำตามเสียงนกหวีด ปริ๊ด ลุก ปริ๊ดหมอบ ปริ๊ดนอนหงาย....ปริ๊ด ปริ๊ด ปริ๊ด”เกือบครึ่งชั่วโมงที่ผมโดนผู้หมวดลงโทษ ผมทำตามอย่างไม่อิดออด ในใจก็พลางคิดหาเหตุผลต่างๆนานา เขาคงจะโกรธ จะเกลียดผมแล้วล่ะ ต่อไปผมคงอยู่ลำบากกว่าคนอื่น นี่ยังไม่ถึง ๒ สัปดาห์ด้วยซ้ำผมก็ก่อคดีร้ายแรงซะแล้ว เหลืออีกตั้งอีก ๘ สัปดาห์กว่าจะฝึกจบ คิดแล้วท้อ
“เหนื่อยไหม”
“หนะ เหนื่อย คะ ครับ”คิดดูหุ่นควายๆ ออกกำลังกายแทบทุกวันอย่างผมถึงกับหอบแฮกๆ แทบขาดใจตาย ถ้าคนอื่นนี่ผมว่าได้สลบไสลลงไปนอนแนบกับพื้นแล้วครับ
“เออ ให้มันรู้ซะบ้าง”พอถึงคำนี้ผู้หมวดเว้นวรรคแล้วเดินมากระซิบที่ข้างหูผม “ว่าเมื่อคืน ผู้หมวดก็แทบขาดใจตายรู้ไหม ครู พาไอ้ยักษ์ไปอาบน้ำด้วยนะ”เฮ้อ โล่งอกครับ คิดว่าเขาจะโกรธผมไปมากกว่าเดิมซะอีก หันมาพูดกับผมเสร็จก็หันไปสั่งครูนายสิบที่ยังว่าง
“ขอบคุณครับ”ก่อนไปผมยืนตรงกล่าวขอบคุณให้ถูกต้องตามมารยาทของทหารเมื่อผู้ใหญ่อบรมเสร็จ เราต้องทำความเคารพ เดินไปกับครูนายสิบเอาขันน้ำ สบู่ยาสีฟันรีบลงมาอย่างรวดเร็ว ไปถึงเพื่อนร่วมหมวดเขาอาบน้ำกันเสร็จเรียบร้อยแล้วเหลือแค่ผมคนเดียว ไม่รอช้าเมื่อครูอนุญาต ผมรีบอาบรีบทำอะไรให้มันทันคนอื่น ไม่ถึง ๑๐ นาทีผมก็อาบน้ำเสร็จ ขึ้นไปแต่งตัวแล้วลงมารวมแถวกับคนอื่นอยู่ที่ศาลาน้ำ
“ผู้หมวดเขาทำอะไรมึงวะ”นั่งลงได้ไอ้นนท์ที่นั่งข้างหลังผมมันสะกิดเอวถาม
“แดก”สั้นๆครับได้ใจความ
“เหรอวะ กูว่าแล้ว แล้วโดนเรื่องอะไรวะ”ถ้ากูตอบว่า กูทำผู้หมวดเสียวแทบขาดใจมึงจะเชื่อกูมั้ย ฮ่าๆๆ
“กูกวนตีนเขาเมื่อวานไง เขาหมั่นไส้”ผมตอบเลี่ยง
“เหรอ เออๆ ดีนะไม่โดนทั้งหมดเหมือนเมื่อวานอีก แม่ง กูยกแขนไม่ไม่ได้ ปวดไปหมดทั้งตัว”มันบ่นพลางนวดที่ไหล่ของตัวเอง นั่งได้พักหนึ่งจากนั้นไปกินข้าวเช้า กินเสร็จมาเบิกปืนแล้วฝึกกันต่อ สัปดาห์นี้เขาเริ่มวนตามสถานีแล้วนะครับ ก็จะมีสถานี ๒ ฝึกท่ามือเปล่ากับท่าอาวุธ พวกซ้ายหันขวาหันอะไรเหล่านั้นน่ะ สถานี ๓ ฝึกเกี่ยวกับอาวุธศึกษา พวกถอดประกอบอาวุธ สถานี ๔ ยิงปืนด้วยกระสุนจริง สถานี ๕ ฝึกเกี่ยวกับยุทธวิธีเกี่ยวกับการรบอะไรเหล่านั้น
“ไม่น่าเชื่อเนอะว่าอะอีแค่เศษเหล็กจะเอาไม่กี่ชิ้นสามารถทำให้คนตายเป็นร้อยเป็นพันได้”มหาตวงหันมาพูดกับผม หลังจากที่จ่าถอดปืนเอ็มสิบหกให้ดู พอแยกแต่ละชิ้นส่วนออกไปมันก็ไม่ต่างจากเศษเหล็กดีๆนี่เอง แต่พอประกอบเข้ามามันเป็นปืนที่สามารถฆ่าคนให้ตายได้
“เออว่ะมหา”ผมพยักหน้าเห็นด้วยกับมัน
“นี่นะกูว่าถ้ามนุษย์โลกทุกคนนะ ไม่มีความโลภ โกรธ หลง ก็คงไม่มีสงครามหรอก ไม่ต้องฆ่ากันหรอก กูคิดว่านะที่ต้องมีทหารน่ะเพราะว่าคนเราทะเลาะกัน ต้องแย่งที่ดินทำกิน เพราะกินมันถึงต้องมีกาม ความใคร่ การบำเรอปรนเปรอรูปร่างของตน การเสพสมอารมณ์ พอมีกามมันก็ต้องมีเกียรติ การอวดเบ่งยศถาบรรดาศักดิ์ใส่กัน แสดงแสนยานุภาพ แล้วสุดท้ายก็ต้องทำสงครามกัน เฮ้อ คิดแล้วเบื่อทางโลกว่ะ”
“สัส เห็นงานกูอยากเป็นลม...”ยังไม่ทันต่อให้จบประโยค
“พอเห็นนมกูสู้ตาย สู้ๆ แม่ง สวยว่ะ”ไอ้มหามันมองไปยังสาววัยรุ่นคนหนึ่งซึ่งซ้อนท้ายมอไซด์ไปกับแฟนผ่านคลองสายตาพวกผมไปพอดี กูว่ามึงปลงไม่ตกแล้วล่ะมหาเอ๊ย ฮ่าๆๆๆ
“กระผม พลทหารรพีพรรณ วงศ์กฤษณ์ ขออนุญาตรับอะไหล่ครับ”
“กระผมพลทหาร อนุชา .... ขออนุญาตรับอะไหล่ครับ”
“กระผม พลทหารฉลอง.... ขออนุญาตรับอะไหล่ครับ”
“กระผมพลทหาร ขีปนาวุธ อุดมลักษณ์ขออนุญาตรับอะไหล่ครับ”
“กระผม พลทหารอภิวัฒน์.... ขออนุญาตรับอะไหล่ครับ”
“ปริ๊ด อิ่มกันหมดแล้วใช่ไหม”เสียงนกหวีดดังขึ้นเมื่อทุกอย่างอยู่ในความสงบ
“ครับ”ตอบเสียงดัง
“ทหารใหม่ อิ่มแล้ว ลุก ตอนเรียง ๔ ตามลำดับหมวดจัดแถว”
“พรึบ เฮ้ วิ่งกันตาลีตาเหลือกออกมาจัดแถวด้านหน้าโรงเลี้ยง หมวดที่มาจัดเวรเลี้ยงก็ต้องเก็บจานชามเอาไปล้างตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย แดดร้อนเปรี้ยงๆยามเที่ยงวันแทบจะเผาร่างกายให้ไหม้เป็นจุล ฝนไม่ตกมานานแล้ว วันก่อนที่ตั้งเค้าว่าจะตกไม่รู้ลมมันพัดเมฆหมอกไปที่ไหนหมด ไม่ตกแม้แต่นิดเดียว วันนี้ก็ดูอบอ้าว แต่คงจะเป็นเหมือนเดิมล่ะครับ ทนร้อนกันต่อไป
“เช็ดปืนให้สะอาดนะ อย่าให้สนิมขึ้น พรุ่งนี้ปืนใครโดนสนิมแดกกูจะแดกพวกมึง เข้าใจไหม”ทหารรุ่นพี่ที่อยู่รอรับคืนปืนพูดตักเตือน
“ครับ”
“ข้าวทุกจาน อาหารทุกอย่าง อย่ากินทิ้งขว้าง เป็นของมีค่า.....”
“กินให้อิ่ม กินให้เงียบ กินให้ไว เชิญรับประทาน”
“ขอบคุณครับ”
“ทำไมไม่ห่มผ้า”เสียงดังมาจากซอยด้านใจ “วิดพื้นก่อนเลย ๒๐”
“ไอ้ยักษ์ทำไมไม่ห่มผ้า”
“ร้อนครับครู”
“ก่อนขึ้นนอนสิบเวรสั่งว่าไง ให้นอนห่มผ้าไม่ใช่เหรอ วิดพื้นไป ๑๐๐ ครั้ง”
“โหยครูครับ”
“มีโหๆ ๒๐๐ ครั้ง”ไอ้เหี้ยเอ๊ย ผมได้แต่กัดฟันเลิกชายมุ้งลงจากเตียงมาวิดพื้น อากาศมันร้อนอบอ้าวอยู่แล้ว พัดลมก็ไม่โดนสักแอะ กว่าจะครบ ๒๐๐ ครั้งเหงื่อแตกซกเหมือนลูกหมาตกน้ำ ถอดเสื้อเช็ดเหงื่อให้แห้งแล้วหยิบตัวใหม่มาใส่ ตัวที่เปียกก็ตากไว้ใต้เตียงค่อยเก็บตอนเช้า ทาแป้งเย็นอีกครั้งหลับตาเบาๆแล้วหลับไปทั้งอย่างนั้น
ซ่าๆๆๆ (สมมติว่าเป็นเสียงฝนตก) อากาศเย็นกระทบเข้ากับผิว รู้สึกขนลุกซู่ซ่า ทำไมวันนั้นหนาววะ กว่าจะรู้ตัวว่าฝนตกก็เมื่อได้ยินเสียงฟ้าผ่าดังเปรี้ยง สะดุ้งตกใจลืมตาขึ้นมามองไปด้านนอกผ่านหน้าต่าง ฝนตกมืดฟ้ามัวดิน ตกหนักมากแล้วลมก็กรรโชกแรงจนได้ยินเสียงใบไม้ที่ถูกลมพัดดังวี้ดวิ้ว
หลับตาลงอีกครั้งนอนฟังเสียงฝนเสียงฟ้าร้อนก่อนที่จะหลับไปอย่างอ่อนเพลีย
“ปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด ปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด ปรี๊ดดดดดดดดดดดดดด ปริ๊ด”
“อรุณสวัสดิ์ครับสิบเวร อรุณสวัสดิ์ครับครูฝึก อรุณสวัสดิ์ครับผู้ฝึก”
“ให้เวลา ๕ นาที แต่งตัวลงไปรวมด้านล่าง”
“กระผม พลทหาร...... ขออนุญาตเข้าห้องน้ำครับ”
“แต่ละหมวดรายงานยอดเวลานี้”
“หมวด ๑ จำนวนยอด ๔๔ นาย จำหน่ายป่วย ๒ นาย คงแถว ๔๒ นายครับ”
“หมวด ๒ จำนวนยอด ๔๔ นาย จำหน่ายป่วยนอนโรงพยาบาล ๑ นาย คงแถว ๔๓ นายครับ”
“หมวด ๓ จำนวนยอด ๔๔ นาย จำหน่ายป่วย ๔ นาย คงแถว ๔๐ นายครับ”
“หมวด ๔ จำนวนยอด ๔๓ นาย ไม่มีจำหน่าย คงแถว ๔๓ นายครับ”
“ไอ้แว่นยืนหาวในแถว หมอบ ลุก หมอบ ลุก หมอบ ลุก”โดนลงโทษแต่เช้า พื้นราดยางที่เจิ่งนองไปด้วยน้ำฝนเมื่อคืนเป็นอันต้องแห้งลงเพราะพวกผม ใครโดนที่แห้งๆก็สบายไป ใครโดนที่เปียกๆก็ซวยไป อย่างผมนี่ไม่เหลือครับ ชุ่มไปยันกางเกง
“จัดแถวตอนเรียง ๔ ตามลำดับหมวด จัดแถว”
พรึบ เฮ้
“กอดคอ”ไม่จบง่ายครับ
“กอดคอ”
“๕๐ ยก เริ่ม”
“๑ ๒ ๓ ๑ ๑ ๒ ๓ ๒ ........ ๑ ๒ ๓ ๔๙ “
ปริ๊ดๆ”
“ผู้สั่งสั่งคนเดียวทำไมทำไม่พร้อมกัน ใช่ทหารหรือเปล่า ห๊ะ ตอบผู้หมวดมา”
“ใช่ครับ”เสียงดังอย่างพร้อมเพรียงกัน
“ถ้าใช่แล้วทำไมไม่พร้อมกัน เอาใหม่ ถ้าครั้งนี้ยังเหมือนเมื่อกี้อีก วันนี้ไม่ต้องออกกำลังกาย แต่ผู้หมวดจะแดกพวกมึงทั้งหมด ทราบ”
“ทราบ”
“๕๐ ยก เริ่ม”ใครว่าลุกนั่ง ๕๐ ยกขี้ๆนี่ผมขอยกมือไหว้เลย เมื่อกี้ทำไปเกือบครบแล้วแต่ต้องเริ่มใหม่ อาการล้าสะสม ปวดตั้งแต่หลัง บั้นเอว ไปยันขาอ่อนและน่อง กอดคอลุกนั่งเรื่อยๆจนครบตามจำนวนจากนั้นก็ไปรวมแถวทำกายบริหารแล้ววิ่งรอบสนาม วันนี้วิ่งทั้งหมด ๔ รอบ วิ่งเสร็จอาบน้ำ อาบน้ำเสร็จกินข้าว แล้วมาฝึกต่อ เป็นแบบนี้ทั้งวัน.... เฮ้อ เมื่อไหร่มันจะผ่านไปวะ