ตอนที่ 3 : STALKER ปวดใจ“พี่เหนือครับ นี่เพื่อนผมชื่อเจ้า จะมาช่วยถ่ายรูปวันนี้”
“สวัสดีครับพี่” เจ้ายกมือไหว้พี่เหนืออย่างงดงาม บอกแล้วว่าเจ้ามันปกติที่สุดในกลุ่มผม
“สวัสดี นี่เพื่อนพี่ชื่อสกาย” ผมรีบยกมือไหว้ อยากบอกว่าไม่ต้องแนะนำผมก็รู้จักครับ
นี่พี่สกาย ชื่อจริงนภันต์ ชื่อพี่มันอ่านว่า นะ-พัน แปลว่า สุดขอบฟ้า เห็นไหมผมรู้ละเอียดยิบ ผมรู้จักหมดแหละ เพื่อน ผู้หญิง
พี่รหัส น้องรหัส หลานรหัส ปู่รหัส รับรองว่าข้อมูลครบแน่นเอี๊ยด
ส่วนพี่เหนือ ชื่อนิมมาน แปลว่า นฤมิต แม่พี่เหนือไม่ได้ตั้งเพราะความหมาย แต่ตั้งตามชื่อซอยดังในจังหวัดเชียงใหม่
มาพร้อมชื่อเล่นว่าเหนือเพื่อให้เข้ากัน
พี่เหนือมีน้องสาวชื่อ ลัน มาจากสิมิลัน น้องพี่เหนือเกือบมีชื่อเล่นว่าใต้ แต่เคราะห์ดีที่เกิดมาเป็นผู้หญิง แม่เลยเปลี่ยนเป็นลัน
แทน ( แล้วนี่ผมจะแนะนำอะไรเสียใหญ่โต กลับเข้าสู่บทสนทนา)
“โต๊ะรอแป๊บนะ พี่รอเพื่อนอีกคนกำลังมา”
“ได้ครับ” ใครหว่า พี่ต่อ พี่ของขวัญ หรือพี่ฝน (กลุ่มพี่เหนือมีกัน 5คนครับ ชายสามหญิงสอง)
“เหี้ย” เสียงเจ้าหลุดออกมาเบาๆ ผมถึงกับสะดุ้ง นานๆ ทีไอ้เจ้ามันจะพูดจาไม่สุภาพสักครั้ง
“มีอะไรเจ้า” ผมหันไปมองหน้าเพื่อน
“โต๊ะดูโน้น” เจ้าพยักหน้าให้ผมหันไปทางบันไดหน้าตึก อื้อหือชัดเลย มันใช่เลยครับ จะรออะไรล่ะ มาสิ เพลงมา
~♬ ~♬ แต่แล้ว ฝันนั้นก็สลายไปในพริบตา
เมื่อมีคนหนึ่งเดินเข้ามา จับมือเธอแล้วเดินจากไป ~♬~♬
“โต๊ะ เจ้า นี่เพื่อนพี่ชื่อพราว”
“สวัสดีครับ” แนะนำเฉยๆ ไม่ได้เหรอมือไม่ต้องแตะเอว ระยะประชิดแบบนี้ไอ้โต๊ะทำใจลำบาก เก็บอาการไม่อยู่
เคยส่องแต่ระยะสองร้อยเมตรขึ้นไป
“พราว นี่โต๊ะกับเจ้ารุ่นน้องเทพมัน จะมาเป็นช่างภาพให้วันนี้”
“สวัสดีค่ะ ฝากถ่ายพี่กับเหนือเยอะๆนะ รูปคู่ไม่ค่อยมีนายแบบเล่นตัวมาก”
“พราวก็รู้ว่าผมไม่ชอบถ่ายรูป”
“นิสัยเพวกจ้าชู้ไงพราว ต้องไม่มีรูปไว้เป็นหลักฐาน” พี่สกายแซวเพื่อนได้ลึกซึ้งมาก เล่นเอาพี่เหนือผมดูเลวได้ใจ
“ผู้หญิงชอบผู้ชายเจ้าชู้” นี่ก็ไม่แก้ตัวสักนิด รับอย่างหน้าชื่นตาบานดูภูมิใจในตัวเองมาก
“ก็จริงนะ ไม่งั้นพราวจะชอบเหนือเหรอ”
พอเถอะครับพี่ๆ ผมจุกจะแย่อยู่แล้ว ซัดกันมาไม่ยั้งแต่ละดอก
“ขอบคุณครับ” พี่เหนือโหมดยิ้มละลายหัวใจสาวๆ ผมคิดถูกคิดผิดวะที่ตัดสินใจเอาตัวเข้ามาอยุ่ใกล้ๆ แบบนี้
ห่างๆ อย่างห่วงๆ ก็ดีอยู่แล้วเชียว
“ไปกันเถอะ ไปถึงโต๊ะจะได้พอมีเวลาเตรียมตัว เดี๋ยวพี่พาเดินดูสถานที่”
“ครับ” ผมกับเจ้าเดินตามสองหนุ่มหนึ่งสาวไปขึ้นรถ
ผมนั่งหลังคนขับซึ่งก็คือพี่เหนือ เจ้านั่งตรงกลาง ต่อด้วยพี่สกาย เบาะหน้าก็ต้องเป็นของพี่พราวตามระเบียบ
ผมมองที่นั่งข้างคนขับแล้วอดนึกไปถึงเมื่อคืนไม่ได้ ผมที่กำลังจัดอุปกรณ์กล้อง ทำความสะอาดเลนส์ จัดเก็บลงกระเป๋า
กับเพลงที่ฮัมติดปาก
~♬ ~♬ จะเป็นตุ๊กตาหน้ารถบนถนนแห่งความรัก
อยากให้รู้จะอยู่เคียงข้างเธอ ไม่ว่าทางจะไกลแค่ไหน ~♬ ~♬
เมื่อคืนคือชั่วโมงเพ้อเจ้อของไอ้โต๊ะ จัดของไปก็หัวเราะคิกคัก นึกวาดภาพตัวเองได้นั่งข้างๆ พี่เหนือ มีเจ้านั่งเป็นลูกคู่
อยู่ข้างหลัง เราสามคนเดินทางไปบ้านพี่เหนือด้วยกัน หู้ย ยังกับพระเอกพานางเอกไปเปิดตัวกับพ่อแม่
แล้วเป็นไงครับดูตอนนี้สิ เขาคุยกันเบาๆ หัวเราะให้กันนิดๆ เดี๋ยวพี่พราวก็เอียงหัวไปซบไหล่ เดี๋ยวก็จับแขน
ดอกรักเบ่งบานเต็มรถ เฮ้อ
“น้องเจ้าขยับมาทางพี่ก็ได้ ไม่ต้องไปนั่งเบียดเพื่อน” พี่สกายแตะมือลงบนเบาะข้างตัว ผู้ชายสามคนนั่งข้างหลัง
รับประกันได้ว่าแน่นเอี๊ยด แต่เจ้ามันก็มีความสามารถพอที่จะเบียดผมจนเกิดพื้นที่ว่างข้างพี่สกาย
“ไม่เป็นไรครับพี่” เจ้าตอบพี่สกาย ไม่ยอมขยับตัว
“แล้วจะนั่งเบียดกันทำไมขยับมา พี่ไม่กัด”
“ไม่เป็นไรครับ” เจ้ายังยืนยันคำเดิม
“ดื้อ” พี่สกายไม่พูดเปล่า คว้าเอวเจ้าดึงไปนั่งเสียชิดเหมือนแกล้ง กลายเป็นเหลือที่ว่างระหว่างผมกับข้าวเจ้าแทน
“พี่สกาย!!” หน้าไอ้เจ้าหงิกเป็นตูด มันพยายามขยับมาทางผมแต่ติดว่ามือที่ล็อคเอวอยู่ไม่ยอมปล่อย
“นั่งดีๆ แล้วพี่จะปล่อย” ผมคิดไปเองหรือเปล่าว่าพี่สกายกำลังสนุก หน้าแม่งโครตยิ้ม
“สกายอย่าไปแกล้งน้องมัน” พี่เหนือเตือนมาจากด้านหน้า
“ใครแกล้ง นี่กูกำลังเทคแคร์น้องมันอยู่ ดูแลอย่างดี ไอ้เหนือมึงไม่เห็นน้องมันนั่ง มันจะขี่กันอยู่แล้ว”
“เฮ้ย!!” “พี่!!” ผมกับไอ้เจ้าแหกปากดังลั่นรถ ขี่กะไอ้เจ้า แค่คิดก็อึ๋ยแล้วครับ ฟ้าผ่าตายพอดี
“บอกแล้วว่าให้มึงเอารถมา ก็เกิดจะขี้เกียจมาเบียดนั่งน้องกูอีก”
ชอบๆ ผมชอบประโยคแสดงความเป็นเจ้าของแบบนี้ที่สุด แต่ถ้าเป็นคำอื่นแทนคำว่าน้อง อย่างแฟนกูก็ดีสิ ไอ้โต๊ะคงฟินลืม
“ก็นี่ไง กูจัดให้นั่งสบายๆ อยู่นี่ ดีขึ้นหรือยังน้องเจ้า”
“พี่เรียกผมคำเดียวก็พอครับ จะน้องหรือจะเจ้าก็ได้”
“ตกลง น้อง..เจ้า”
ผมว่าพี่สกายตั้งใจกวนตีนไอ้เจ้าแล้วล่ะครับ เพื่อนผมก็ฮึดฮัด แต่มันไม่กล้าแผลงฤทธิ์
หลังจากที่มวยคู่เอกตบตีกันเป็นที่เรียบร้อย เราก็นั่งกันเงียบๆ มาตลอดทาง ปล่อยให้คนที่นั่งข้างหน้าเขาคุยกันไป
พี่สกายมีขัดบ้างตามโอกาส ผมว่านิสัยพี่สกายดูชื่นชอบการกวนชาวบ้านเป็นพิเศษ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
พอถึงบ้าน พี่เหนือพาผมไปแนะนำให้รู้จักน้องลัน พ่อกับแม่ บ้านนี้เกิดมามีหน้าตาเพื่อฆ่าคนอื่นจริงๆ ครับ
บ้านพี่เหนือเป็นบ้านสองชั้น ใหญ่โตโอ่อ่า งานจัดในบ้านเพราะอากาศค่อนข้างร้อน มีทีมแคทเทอริ่งเข้ามาจัดอาหาร
และตกแต่งสถานที่ให้ ผมบอกได้คำเดียว สวยและไม่อิ่ม (สำหรับผมนะครับ ไอ้โต๊ะผู้กินข้าวทีละสองจาน)
“ผู้ใหญ่กับเพื่อนๆ ลันจะทานในห้องอาหาร ประมาณ 20 คน ส่วนพี่กับเพื่อนๆ เขาจัดที่ให้ในห้องนั่งเล่น
โต๊ะถ่ายรูปที่ห้องอาหารเป็นหลัก พวกพี่ไม่ต้องถ่ายก็ได้”
“เดี๋ยวผมสลับๆ กับเจ้าครับ จะไปถ่ายให้บ้างจะได้ทั่วทั้งงาน”
“ไม่เป็นไร ตอนตัดเค้กพวกพี่ต้องไปรวมที่ห้องอาหารอยู่ดี ค่อยถ่ายตอนนั้นก็ได้ไม่ต้องยุ่งยากหรอก”
“ไม่เป็นไรครับ” ยังไงผมก็ต้องถ่ายให้ได้ ก็ที่มานี่ผมอยากถ่ายอยู่คนเดียวเอง
“ตามใจเรา อยากวิ่งรอกสองห้องก็ตามใจ เหนื่อยนะ”
“สบายมากครับ เอ่อ พี่เหนืออครับ คือ..”
“หือ?”
“ ผมเอา..” ผมกำลังจะเอื้อมมือไปหยิบของบางอย่างออกจากกระเป๋า
“เหนือคะ กล่องของขวัญเอาวางไว้ที่ไหนคะ หรือพราวต้องให้น้องลันกับมือ” พี่พราวเดินเข้ามาหาพี่เหนือ
“เห็นลันเตรียมโต๊ะวางของขวัญไว้ในห้องอาหาร แต่พราวให้ลันเองน่าจะดีกว่า”
“ได้ค่ะ ไม่รู้น้องจะชอบหรือเปล่า พราวซื้อกระเป๋าสตางค์ให้ แบรนด์นี้เพิ่งออกคอลเลคชั่นใหม่มา เป็น LIMITED EDITION
มีแค่หนึ่งหมื่นใบทั่วโลก”
กึก!! สะดุดสิครับเพราะของขวัญที่ผมกำลังจะหยิบขึ้นมาฝากให้น้องลันก็ LIMITED EDITION เหมือนกัน ถ่ายเองกับมือทุกรูป
แต่ด้านราคาห่างชั้นกันจนไม่กล้าเสนอหน้าหยิบออกมา
ผมรู้ว่าชื่อน้องลันมาจากหมู่เกาะสิมิลัน ผมมีโอกาสได้ไปเที่ยวหลายครั้ง ถ่ายรูปไว้เยอะมาก ต่างมุม ต่างเวลา ผมเลยทำเป็น
รูปเล็กๆ เอามาเรียงต่อกัน จนกลายเป็นรูปขนาด 8x12” มีอักษรเป็นตัวเขียนสีขาวพาดผ่านจางๆ เขียนว่า Similan อยู่ในกรอบ
สีขาวสะอาดตา
“ชอบอยู่แล้วพราว ขึ้นชื่อว่าของขวัญลันชอบหมด”
แต่คงไม่ใช่ของขวัญแบบผมมั้งครับ ผมก็มัวแต่คิดว่ามางานวันเกิดถึงจะมาทำงานแต่ถ้ามาตัวเปล่าคงน่าเกลียด ลืมนึกไปว่า
ของขวัญผมมันคู่ควรที่จะให้ไหม
“เมื่อกี้โต๊ะจะพูดอะไรกับพี่”
“ไม่มีอะไรครับ” ผมเปลี่ยนใจคิดว่าอย่าให้จะดีกว่า
“พี่เหนืออยู่นี่เองแม่ให้มาตาม เพื่อนลันมากันครบแล้ว แม่บอกว่าให้ไปทักทายหน่อยแล้วค่อยแยกห้องกันทานข้าว”
“โอเค”
“เดี๋ยวค่ะน้องลัน นี่ของขวัญพี่พราวซื้อมาให้ เป็นกระเป๋าสตางค์ของ....”
“ขอบคุณค่ะ” น้องลันไหว้ก่อนยื่นมือไปรับ แล้วก็หันมามองผมแทน คนบรรยายเลยเก้อเล็กๆ
“นี่ก็ของลันหรือเปล่าคะ” น้องลันชี้ไปที่กระเป๋าผม เห็นขอบกรอบรูปโผล่ขึ้นมา ผมผูกโบว์ผ้าสีฟ้าอ่อนไว้ด้วย
น้องลันคงเห็นโบว์เลยถาม
“ใช่ครับ” ผมจำใจต้องหยิบกรอบรูปส่งให้น้องลันไปแต่โดยดี
“โห สวยจังเลยพี่โต๊ะ ลันชอบ พี่โต๊ะถ่ายเองทั้งหมดนี่หรือเปล่า”
“ใช่ครับ”
“พี่เหนือดู ดู” น้องลันดูจะดีใจมากจริงๆ ไม่เหมือนแกล้งชม
“สวย” พี่เหนือเงยหน้าขึ้นจากภาพมายิ้มให้ผม
“พี่เหนือน้องฝากของขวัญหน่อยจะเอารูปไปอวดเพื่อน” น้องลันยัดของขวัญของพี่พราวใส่มือพี่เหนือแล้ววิ่งจู้ดหายไปเลย
“โต๊ะเข้าใจคิดนะ ลันชอบถ่ายรูปมากถึงกับให้พี่หาช่างภาพมาให้วันนี้ ตอนเห็นรูปพี่ที่โต๊ะถ่ายก็กรี๊ดแบบนี้แหละ”
“รูปนั้นโต๊ะถ่ายเหรอ” พี่พราวมองผมทำสีหน้าแปลกใจ
“ครับผมถ่ายเอง พี่พราวมีอะไรหรือเปล่าครับ” จะไม่ให้ถามได้ยังไงล่ะครับ จ้องผมเสียขนาดนั้น
“ไม่มี ไปกันเถอะค่ะเหนือ” พี่พราวลากแขนพี่เหนือให้เดินตามไป ผมกับเจ้าก็ต้องเดินตามไปด้วย เพราะงานกำลังจะเริ่มแล้ว
“โต๊ะ ไม่เป็นไรนะ” ไอ้เจ้าที่เงียบมาตลอดทางที่พี่เหนือแนะนำสถานที่ ฉุดมือผมไว้ให้เดินช้าลงก่อนกระซิบถามเบาๆ
“เฮ้ย สบายมาก โต๊ะเห็นออกบ่อยไป รูปก็มีเป็นโฟล์เดอร์”
“แต่มันไม่เหมือนกัน นี่มันใกล้ไป”
“ไม่ต้องห่วง จริงๆ นะเจ้า” ผมพยักหน้าเพื่อยืนยันว่าผมสบายดีไม่อยากให้เพื่อนกังวล เจ้าดึงผมให้หยุดเดิน
รอจนพี่เหนือกับพี่พราวห่างออกไปพอสมควรจึงพูดขึ้น
“ไม่ต้องคิดมากนะ พี่เหนือกับพี่พราวเขาไม่ได้เป็นแฟนกัน โต๊ะก็รู้นี่ พี่เหนือไม่เคยตอบรับใคร” ไอ้เจ้าพูดให้กำลังใจผม
“แต่ก็ไม่เคยปฏิเสธใคร” อันนี้ผมพูดเอง เจ็บนิดหน่อยแต่ต้องคอยเบรคตัวเองไว้บ้าง
“ก็จริง ไปเถอะ ทำงานๆ”
“ใช่ ทำงานๆ”
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ผมเตือนตัวเองให้โฟกัสเรื่องงานเข้าไว้ อยากให้รูปออกมาดีให้พี่มันประทับใจสมกับที่เลือกผม ต้องไม่คิดถึงคนที่อยู่ข้างๆ
พี่เหนือ ไม่อย่างนั้นจิตผมมันคอยแต่จะหลุดออกจากร่าง
ผมถ่ายรูปคู่ให้พี่เหนือกับพี่พราวพอสมควร หนึ่งผมกลัวพี่พราวมาถามหาไม่อยากถูกสงสัยในเมื่อพี่พราวพูดขอไว้แล้ว
สองถึงไม่อยากถ่ายก็ต้องถ่าย เล่นนั่งข้างกันแบบนั้น พี่พราวคล้องแขนไว้กับแขนพี่เหนือตลอด เว้นตอนทานข้าวถึงยอมปล่อย
พี่เหนือก็ยิ้มๆ ไม่ได้พูดหรือบ่นอะไร ผมก็เหมือนกันไม่ได้พูดอะไร มันพูดไม่ออกไปแล้วครับ
งานลากยาวตั้งแต่หกโมงไปจนถึงสี่ทุ่มกว่า กว่าคนในห้องอาหารจะแยกย้าย ผมกับเจ้าเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่นที่พี่เหนือ
กับเพื่อนๆ รวมตัวกันอยู่
“พี่เหนือครับ น้องลันกับเพื่อนๆ แยกย้ายแล้วนะครับ พ่อแม่พี่ก็ขึ้นไปพักแล้ว”
“อืม เจ้ากับโต๊ะก็พักเถอะ ดื่มหน่อยไหม” พี่เหนือส่งแก้วให้ผม
“อย่าดีกว่าครับ เดี๋ยวผมถ่ายรูปให้พวกพี่ไปเรื่อยๆ ไม่อยากโฟกัสพลาด”
“ไม่ต้องถ่ายแล้ว” พี่เหนือโบกมือห้าม
“นั่นสิ มาเล่นเกมส์กับพวกพี่ดีกว่า” พี่สกายดึงผมกับไอ้เจ้านั่งลงบนเก้าอี้ที่เหลืออยู่
“เล่นอะไรครับ”
“นี่” พี่สกายส่งกล่องมาให้ผมสองกล่อง มันเป็นกล่องขนมที่ถูกตัดฝาออก
“กล่องหนึ่งคือชื่อคน กล่องหนึ่งคือแอคชั่นจ. มี จีบ จับ จูบ เจ็บ จอด”
“จีบ ถ้าจับชื่อคนไหนขึ้นมาคนนั้นต้องจีบหรือเทคแคร์เราหนึ่งอาทิตย์ จับ จูบ ตรงตัว จับตรงไหนก็ได้ของคนที่เราหยิบชื่อขึ้นมา
แต่จูบต้องปากเท่านั้น ส่วนเจ็บ จะตีจะฟาด จะเตะได้ทั้งนั้น 1ครั้ง อันสุดท้ายจอด ห้ามพูดกันหนึ่งอาทิตย์”
“จูบมีแค่ใบเดียว นอกนั้นมีอย่างละสามใบ เล่นเลย” พี่สกายไม่ยอมให้พวกผมปฏิเสธ ถือกล่องยื่นให้ไอ้เจ้าจับ
“ผมไม่เล่นครับ”
“ไม่ได้ ทุกคนในห้องนี้ต้องเล่นหมด” ไอ้เจ้ามองหน้าผม ผมก็พยักหน้าให้มัน เล่นๆ ไปเหอะวะ
เจ้าหยิบกระดาษในกล่องขึ้นมาหนึ่งใบยื่นให้พี่สกาย
“จีบ”
“ทีนี้ก็ใครจะได้จีบน้องเจ้า หยิบเลย” พี่สกายเปลี่ยนกล่องแล้วยื่นให้อีกครั้ง เจ้าหยิบกระดาษขึ้นมา แต่ชิงเปิดดูเองไม่ยอมส่ง
ให้พี่สกาย
“น้องเจ้าอ่านดังๆ เลย ใครคือผู้โชคดี”
“......”
“ว่าไงครับ ไม่อ่านพี่อ่านเอง” พี่สกายเอื้อมคว้ากระดาษในมือไอ้เจ้าไป
“.......”
“มึงอย่ามาท่ามาก เร็วๆ ใคร” เพื่อนๆ พี่เหนือเร่งกันแบบลุ้นสุดตัว
“กูเอง”
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
“อยากชวนน้องมันดีนัก เทคแคร์เจ้าทั้งอาทิตย์นะมึง อย่าให้ตกหล่นแม้แต่วันเดียว” พี่เหนือดูจะสะใจมากกว่าคนอื่น
“ต่อๆ ไม่ต้องพูดมากให้เสียเวลา น้องโต๊ะเชิญครับ” พี่สกายหยิบกล่องที่เป็นชื่อส่งมาให้ผม ผมกำลังเอื้อมมือลงไปหยิบแต่ก็วื้ด
“เดี๋ยว ไม่ต้องหยิบ” พี่สกายวางกล่องลงกับโต๊ะ
“ไอ้เหนือคนอื่นเขาโดนกันทั้งห้องแล้ว มีมึงรอดอยู่คนเดียว เอาชื่อตัวเองออกหรือเปล่าวะ”
“เออ นั่นสิ” เสียงสนับสนุนมีมากกว่าหนึ่งคน
“ครั้งนี้ไม่ต้องจับ เป็นไอ้เหนือไปเลย”
“สกาย” พี่เหนือหรี่ตามองเพื่อน เหมือนจะเตือนด้วยสายตา แต่พี่สกายหาสนใจไม่
“มึงนั่นแหละถูกแล้ว น้องมันไม่รู้จักใคร จะได้ไม่ลำบากใจ”
ผมอยากจะถามว่าแล้วไอ้เจ้ามันรู้จักใครเหรอครับ แต่แบบนี้ก็ดีแล้ว ไม่ว่าจะ จ.ไหนผมก็เอาทั้งนั้น โดยเฉพาะ จ.จูบ
อึ๋ย บนเลยถ้าลูกช้างจับได้จูบจะเลิกร้องเพลงกวนเจ้าที่อาทิตย์นึง แล้วก็ต้องไม่ได้จอดด้วยนะ สาธุ
ตึกตึก..ตึกตึก..
ผมมองลงไปในกล่อง พี่เขาให้มองได้ครับเพราะกระดาษมันพับไว้ จูบมีใบเดียวก็ต้องไม่ค่อยมีใครหยิบ ใบที่ไม่มีรอยยับ
นั่นไง!! ผมพบเป้าหมายแล้ว รีบหยิบขึ้นมาทันที ทำหน้าเนียนๆ ดูตื่นกลัวนิดๆ ส่งกระดาษให้พี่สกายไป
“จ....”
“จูบ”
เฮ้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เสียงเฮดังลั่นห้อง พี่เหนือทำหน้าพิลึกพิลั่น ส่วนผมก้มหน้าซ่อนสายตาสุดฤทธิ์
“บ้า ผู้ชายกับผู้ชายจะจูบกันได้ยังไง ให้น้องเขาจับใหม่” พี่พราวรีบออกความคิดเห็น
“กฎตอ้งเป็นกฎ ไม่เกี่ยวว่าเป็นผุ้หญิงผู้ชาย ไม่งั้นไอ้บาสมันจับได้จอดแถมจับได้ชื่อแฟนมันด้วย ก็ต้องยกเลิกให้มันด้วยสิ”
“ใช่ ใช่” ผู้ที่คงถูกกระทำมาเยอะ รีบเข้ามาสนับสนุนพี่สกายทันที
“ไงวะ ไอ้เหนือ มึงไม่กล้า?” พี่สกายท้าท้ายเพื่อนทั้งหน้าตาและน้ำเสียง คงอยากเอาคืนเมื่อกี้ ผมก็ก้มหน้าเหมือนเดิมสิครับ
ลุ้นจนฉี่จะราดอยู่แล้ว กลัวเขายกเลิก
“กูไม่มีปัญหา โต๊ะโอเคไหม”
ผมกำลังคิดว่าจะพูดยังไงให้ดูดี เดชะบุญมีเพื่อนดีเป็นศรีแก่ตัว
“ต้องโอเคสิครับ ผมยังโดนเลย ห้ามโต๊ะเบี้ยวต้องเล่นเป็นเพื่อนกัน” หึๆ กูรักมึงที่สุดเลยไอ้เจ้า
“งั้นก็ตามนั้น”
พี่เหนือดึงผมให้ลุกขึ้นยืน จูงแขนให้เดินออกไปยืนหลังเก้าอี้ พี่เหนือหันหลังให้เพื่อน ผมหันหน้าเข้าหา
“อย่าตกใจ แค่ทำตามพี่ก็พอ” พี่เหนือกระซิบ มือเอื้อมมารั้งคอผม จับให้เอียงไปด้านข้าง อีกมือนึงก็จับคางผมเชยขึ้น
เสียงกรี๊ด เสียงเชียร์ดังมากแต่ผมจับใจความอะไรไม่ได้ทั้งนั้น ในหัวมันขาวโพลนไปหมด ได้แต่ปล่อยให้พี่เหนือเป็นผู้นำ
พี่เหนือก้มหน้าลงมาใกล้ ใกล้มากจนผมเห็นหน้าพี่เหนือไม่ชัด ตามันพร่าไปหมด พี่เหนือยิ้มให้ผมเหมือนปลอบใจ
ก่อนจะกดริมฝีปากลงชิดปากผม
“อืมม” พี่เหนือหลุดเสียงออกมาเบาๆ ทำเอาเสียงโห่ร้องดังขึ้นกว่าเดิม เสียงเหมือนใครเคาะโต๊ะ เคาะแก้วดังมั่วไปหมด
ม..มือพี่เหนือ น..นิ้ว นิ้ว อย่าแตะตรงน้านนนนน!!!
ม่ายยยยยย
ฮือๆ
ไอ้พี่เหนือมันจูบลงบนนิ้วโป้งของตัวเองที่ยกขึ้นมาแตะไว้บนปากผม หน้าเราชิดกันมาก องศาของการเอียงคอ
เนียนเกินกว่าคนที่อยู่ด้านหลังพี่เหนือจะจับได้
ฮือๆ ไม่ต้องเกรงใจผมก็ได้ ผมไม่ถือ ผมไม่โกรธ ได้โปรดจูบโต๊ะเถอะ ขอร้องงงงงงง
“ติดใจนะมึง นานเชียว” พี่ต่อแซวขึ้นเป็นคนแรกเมื่อพี่เหนือปล่อยผม
“เป็นไงบ้างวะจูบกับผู้ชายครั้งแรก” พี่สกายจอมบงการถามบ้าง
“ก็ดี”
ไม่ดีครับ ไม่ดี ผมอยากตะโกนตอบ มันไม่เรียกว่าจูบ มันไม่ถูก มันไม่ช่ายยยยย
“พอใจแล้วใช่ไหมงั้นก็เลิกเล่น ดึกแล้วแยกย้าย กูต้องไปส่งพราวกับน้องๆ ด้วย เหนื่อยกันแย่แล้วถ่ายรูปตั้งแต่เย็น”
“เออ เดี๋ยวกูกลับกับไอ้ต่อ มึงได้ไม่ต้องไปส่งหลายที่”
“ตามนั้น”
พี่ๆ ตกลงกันเสร็จแล้วผมยังยืนอึ้งอยู่เลย ไปไม่เป็น เศร้าเกินคำบรรยาย น้ำตาตกใน เจ็บยิ่งกว่าเห็นพี่เหนืออยู่กับพี่พราวอีก
ผมก้มหน้าลงมองมือพี่เหนือ โฟกัสที่นิ้วโป้งโดยเฉพาะ
“ไอ้นิ้วโป้ง ไอ้นิสัยแย่ ไอ้ก้างขวางคอ ไอ้ทำตัวไม่น่ารัก เกลียดดดดดด”
“โต๊ะ” เจ้าแตะไหล่ผม
“หือ?” ตาผมยังลอยๆ ไร้สติอยู่นิดๆ ความผิดหวังครอบงำจนฟั่นเฟือน
“ดูนี่สิ” เจ้าหยิบกล้องขึ้นมากดเลื่อนภาพให้ผมดู
รูปผมจูบกับพี่เหนือ!! มุมกล้องนี้มันใช่เลย มันได้เลย มันเหมือนจนไม่ต้องบรรยาย โห ผมหลับตาพริ้มเคลิ้มจนดูน่าเกลียด
ห้ามให้ใครเห็นรูปพวกนี้เด็ดขาด
“ปลอบใจพอไหม” ไอ้เจ้าถามผม
“เจ้าเพื่อนรัก มึงมันสุดยอด” ผมอยากจะกระโดดกอดเพื่อนเหลือเกิน
“เอ๊ะ แต่เจ้ารู้เหรอว่าโต๊ะ ไม่...”
“รู้สิ ไม่ได้เห็นกับตาหรอก แต่โต๊ะทำหน้าเหวอมาก คนอื่นคงคิดว่ากำลังตกใจ รับไม่ได้ แต่เจ้ารู้ว่าถ้าโต๊ะได้จูบกับพี่เหนือ
คงหน้าบานไปแล้ว”
แหะๆ เพื่อนผมมันรู้จริงครับ
“เดี๋ยวถึงหอค่อยดูอีกรอบ จะให้เอาไปนอนกอดให้ฉ่ำปอด ตอนนี้ช่วยเก็บอาการหน่อย”
“กูลืม” ผมทำหน้าจ๋อย ลืมตัวจนได้
“ไปเถอะ พี่เหนือกวักมือเรียกแล้ว”
“อืม”
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
พี่เหนือส่งผมกับเจ้าที่หอก่อนเป็นที่แรก ก็แน่ล่ะครับเขาจะส่งพวกผมทีหลังทำไม ไอ้เจ้ามันพักหอเดียวกับผมแต่คนละห้อง
ก็ได้อาศัยติดรถมันนี่แหละครับไปกลับมหาลัยทุกวัน
“โต๊ะ”
“หือ?” ผมหันไปมองเจ้าที่เรียกผมเอาไว้ เรากำลังจะแยกกันที่หน้าห้องเจ้า ผมก็ไม่ได้ลืมอะไร เมมของกล้องเจ้าก็เอามาแล้ว
“อะไร?”
“เอามาดูสิ”
“ดูอะไร รูปที่โต๊ะถ่ายเหรอ เดี๋ยวรอให้ปรับแสงเสร็จก่อนจะเรียกไปดู” ผมกะจะนั่งทำคืนนี้เลย จะได้หาเรื่องไปเจอพี่เหนืออีกเร็วๆ
“ไม่ใช่”
“งั้นอะไร”
“เอาอะไรมาจากบ้านพี่เหนือบ้าง”
“หะ?!!!”
“ไม่ต้องทำมาเป็นตาโตตกใจ เร็วๆ ส่งมา หรือจะให้เจ้าค้น”
ผมอยากร้องไห้กระซิกๆ ได้แต่พยักหน้าให้เจ้ามันเปิดห้อง ก่อนเดิมตามเข้าไป แบบว่ามันหลายอย่างเกิน ไม่สามารถหยิบขึ้นมา
ให้ดูหน้าห้องได้ ทั้งปากกาที่พี่มันใช้เขียน(แห่งไม่กี่บาทครับ) ผ้าเช็ดปากที่พี่มันใช้ ทั้งดอกไม้ที่พี่มันเด็ดจากแจกันบนโต๊ะ
มาโยนเล่น และ.... ฮือ อย่าให้ผมบรรยายเลยครับ ตอนนี้ขอเวลาไปนั่งฟังไอ้เจ้ามันบ่นก่อน มันเล่นผมหูชาแน่
ชีวิตSTALKER อย่างผม ไม่ได้เป็นกันง่ายๆ นะครับ บอกเลย
....................................................TBC........................................................
ลงอีกทีวันเสาร์นะคะ พรุ่งนี้ขอไปลงคุณรองประธานกับบอดี้การ์ดตัวอ้วนก่อน แล้วเจอกันค่า ^^
Darin ♥ FANPAGE