ตอนที่ 11 วันเกิดในเวลาเดียวกันนั้น ณ โรงแรมแห่งหนึ่ง
บุญตานั่งเจรจากับคุณเกษมที่ยิ้มเยาะอย่างชอบใจ “ได้ผมตกลง แล้วจะเป็นวันไหนละ” บุญตายิ้มที่มุมปากแล้วยื่นเอกสารให้ “เซ็นสัญญานี้ก่อนซิครับแล้วผมจะให้สิ่งที่คุณต้องการ”คุณเกษมหยิบเอกสารขึ้นมาอ่านแล้วทำตาโต “แค่คืนเดียวจะพอเหรอ แล้วพวกคุณก็จะเอาเงินผมไปเป็นล้าน ๆ ” บุญตาขยับแว่นแล้วทำท่าจะลุก “ถ้างั้นผมคงต้องขอตัว” คุณเกษมรีบเซ็นแล้วยื่นเอกสารคืน “ก็ได้ ก็ได้ ส่วนนี่เช็คตามจำนวนที่คุณขอ” บุญตารับมาแล้วเดินออกจากโรงแรมไปอย่างเงียบ ๆ
วันรุ่งขึ้น
คุณกิตติสั่งให้ใบข้าวไปบริษัทก่อนโดยมีบุญตาเป็นผู้สอนงาน ระหว่างที่เดินเข้าไปยังบริษัท พนักงานหลายคนต่างมองใบข้าวที่ตอนนี้รู้สึกประหม่าเดินตามติดบุญตาที่เลิกคิ้วมองอย่างสงสัย อมยิ้มกับท่าทางของใบข้าว “งานแรกของคุณคือนี่ครับ ทำตามที่คุณญาดาสั่งนะครับ” บุญตาชี้ไปยังเครื่องถ่ายเอกสารที่ใบข้าวพยักหน้ารับ“ครับ”
หลังจากบุญตาเดินออกไป ทุกคนก็เดินมาหาใบข้าวต่างยิงคำถามมากมายจนญาดาต้องเบรคไว้แล้วหันมาคุยกับใบข้าว “น้องชื่ออะไรจ๊ะ แล้วมาทำงานที่นี่ได้อย่างไง”
“คือ ผมชื่อใบข้าวครับ พี่บุญตาเขาแนะนำงานพิเศษชั่วปิดเทอมเลยได้มาทำงานที่นี่ ฝากตัวกับทุกคนด้วยนะครับ” ทุกคนพยักหน้าตอบแต่จะมีพวกของญาดาที่กริ๊ดกร๊ากกันออกนอกหน้าจนบุญตาเดินเข้ามา “อย่าลวนรามคุณหนูของผมนะครับ” ทั้งหมดเงียบมองไปยังใบข้าวเป็นตาเดียวแล้วหันกลับไปทำงานของตัวเอง
ส่วนญาดา “อะ เออ คุณหนูใบข้าวเรามาทำงานกันเถอะนะคะ” ใบข้าวมองบุญตาอย่างคาดโทษแล้วหันไปสนใจสิ่งที่ญาดาสอน ในช่วงพักเที่ยง ใบข้าวลงมากินข้าวกับญาดาและคนอื่น ๆ ที่ตอนนี้ชวนคุยอย่างออกรสไม่เหมือนในตอนแรกที่เจอกัน ใบข้าวยิ้มให้ทุกคน แล้วรู้สึกตื่นเต้นกับสภาพแวดล้อมอันแปลกใหม่
กาลเวลาผ่านไปบุญตาได้ให้ใบข้าวมาช่วยงานเอกสารที่ห้องทำงานของคุณกิตติแทน ทำให้ใบข้าวรู้สึกเบื่อหน่ายเป็นอย่างยิ่ง จากที่เคยออกไปกินข้าวกับพวกญาดา ก็มีอาหารมาเสริฟ์ถึงบนห้องทำงาน พอเลิกงานจะลงไปหาพวกพี่ ๆ ก็ถูกบุญตาพาไปห้างแห่งหนึ่งบอกว่าคุณตาจะเลี้ยงฉลองวันเกิด ให้แต่งตัวเหมาะกับสถานที่ที่จะไป แต่ใบข้าวก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมต้องให้เขาขัดผิวแล้วแช่น้ำนมด้วย พอจะถามบุญตาก็ให้พนักงานพาไปลองชุดแล้วทำผม ระหว่างเดินออกจากร้านนั่งบนรถ โดยมีนายมั่นขับรถออกจากห้างขับไปตามที่บุญตาบอก ส่วนใบข้าวทนไม่ไหวจึงเอ่ยถาม “พี่บุญตา ข้าวไม่ไปได้ไหม” ใช่เขารู้สึกว่ามันแปลก ๆ
“ไม่ได้ครับคุณใบข้าว คุณท่านอุตสาห์หาเวลามาฉลองวันเกิดให้ทั้งที แล้วนี่ก็เป็นครั้งแรกของคุณใบข้าวที่คุณท่านทำแบบนี้ ไม่ดีใจเหรอครับ” ใบข้าวนิ่งไป แล้วยิ้มอย่างดีใจ จริงซินะคุณตาฉลองวันเกิดของเขาเป็นครั้งแรก
ไม่นานบุญตาพาใบข้าวมานั่งในห้อง V.I.P ของโรงแรม ที่ตอนนี้มีอาหารนานาชนิดและเค้กก้อนใหญ่วางไว้ ใบข้าวยิ้มแล้วนั่งลงมองหาผู้เป็นตาที่ตอนนี้ไม่ได้อยู่ภายในห้อง ส่วนบุญตาที่ออกไปโทรศัพท์เดินกลับเข้ามายังห้องอาหารแล้วเอ่ยบอกใบข้าว “คุณท่านติดเจรจาธุรกิจอยู่ เดียวก็มาครับ”ใบข้าวพยักหน้า มองเค้กแล้วอมยิ้มอีกครั้ง นี่เขาไม่ได้ฝันไปใช่ไหมที่ได้ฉลองวันเกิดครั้งแรกเหมือนคนอื่น ๆ ไม่เหมือนทุกปีที่ผ่านมา ที่ไร้ซึ่งคำอวยพรจากปากผู้เป็นตามีเพียงกล่องของขวัญและการ์ดใบเล็ก ๆ ที่บุญตาคอยเอามาให้
ใบข้าวมองนาฬิกาจนตอนนี้เข็มสั้นชี้ไปที่เลข 11 เข็มยาวชี้ไปเลข 40 บุญตาเดินกลับเข้ามาปลุกใบข้าวให้ตื่น “คุณใบข้าวครับ คุณท่านบอกว่ามาไม่ได้แล้ว เลยให้คุณใบข้าวนอนที่นี่ครับ” ใบข้าวที่งัวเงียโอบกอดบุญตาด้วยความเคยชิน เหมือนอย่างตอนเด็ก ๆ บุญตายิ้มแล้วอุ้มใบข้าวไปยังห้องพักแห่งหนึ่ง วางลงบนเตียงถอดรองเท้าแล้วห่มผ้าให้พลางเอามือลูบหัวใบข้าวกับเสียงกระซิบอันแผ่วเบา “พี่ขอโทษ” บุญตาเดินจากไปโดยมีผู้มาใหม่เข้ามายืนมองใบข้าวภายในห้อง
ส่วนใบข้าวที่รู้สึกเหมือนมีใครจ้องเขาอยู่จึงตื่นขึ้น มองคนตรงหน้านิ่ง “ตื่นแล้วเหรอจ๊ะ ที่รัก” ใบข้าวขมวดคิ้วอย่างสงสัยพลางลุกขึ้นออกจากเตียง แต่ก็ถูกชายชุดดำอีกคนจับไว้ ใบข้าวตกใจรีบเอาศอกกระทุ้งท้องจนชายคนนั้นเผลอปล่อยมือ ใบข้าวได้โอกาศวิ่งออกจากห้องไป โดยมีคุณเกษมสั่งให้ลูกน้องตามไปจับ
ระหว่างที่ลูกน้องของคุณเกษมวิ่งผ่านห้องน้ำไป ใบข้าวมองซ้ายมองขวาแล้วรีบวิ่งหนีสุดชีวิต แต่แล้วก็ถูกลูกน้องของคุณเกษมจับตัวไว้ได้ แล้วอุ้มให้มายังห้องพักที่มีคุณเกษมนั่งยิ้มอย่างอารมณ์ดี เอามือลูบใบหน้าของใบข้าวที่หันหน้าหนี “เอาเด็กคนนี้มาแทนน้ำฟ้านี่ก็ดีเหมือนกันฉันชอบ ” ใบข้าวได้ยินชื่อของน้ำฟ้ามองหน้าของคุณเกษมนิ่ง (อะไรใครแทนอะไรกัน) ระหว่างนั้นลูกน้องของคุณเกษมพยายามจะถอดเสื้อผ้าของใบข้าวที่ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น “ไอ้เชี้ยปล่อยกูนะ”ใบข้าวพยายามดิ้นไปมาเพื่อให้หลุดแต่ก็ไม่เป็นผล เพราะมีชายชุดดำอีกคนล็อคตัวเขาไว้แน่น “มามะ ถ้ายอมป๋าดี ๆ จะให้เงินหนูไม่อั้นเลย”
“ท่านครับ ในสัญญาห้ามให้เงินหรือสิ่งของนะครับ” ชายที่หน้าตาดีกับหุ่นที่สมส่วนเปลือยเปล่าท่อนบนเหลือเพียงกางเกงขาสั้นรัดรูป เอ่ยบอกคุณเกษมที่ทำเป็นหัวเราะในลำคอ “เออ งั้นเริ่มเลยละกัน”
ใบข้าวยิ่งดิ้นขัดขืนกว่าเดิมที่อยู่ ๆ ชายทั้งสองคนจับแขนเขาไว้ด้านหลัง อีกคนจับเขาถอดกางเกง “พี่ครับ ผมขอร้องอย่าทำผมเลยนะครับ พี่เกษมครับผมขอร้องละครับ ผมจะไม่บอกเรื่องนี้กับคุณตาแต่อย่าทำอะไรผมเลยนะ” คุณเกษมแสยะยิ้มอย่างน่ากลัว พลางลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินเข้ามาใกล้แล้วเอามือบีบคางของใบข้าวแล้วเอ่ยขึ้น
“เพราะคุณกิตติเอาแกมาแทนน้ำฟ้า แลกกับเงิน ฉันถึงได้ของเล่นอย่างแกไง ไอ้นะ ไอ้ฤทธิ์พวกมึงหยุดทำไม ทำต่อซิวะ ” ใบข้าวได้ยินดังนั้น พยายามดิ้นออกจากสองคนนั้นสุดกำลัง แต่ก็ถูกชายที่อยู่ตรงหน้าอย่างฤทธิ์ต่อยท้องจนตัวใบข้าวตัวง้อเป็นกุ้ง นะที่จับแขนใบข้าวไว้ด้านหลัง แสยะยิ้มอย่างชอบใจประกบปากพร้อมส่งลิ้นไปให้ใบข้าวที่พยายามขัดขืน ส่วนฤทธิ์ ถอดส่วนล่างของใบข้าวเสร็จก็ปนเปรอะส่วนหน้าจนใบข้าวร้องออกมา
“อ๊ะ อืม อื้อ อื้อ อ๊ะ ปล่อย” หน้าสะบัดหนีทำให้ นะหงุดหงิดจึงจับปลายค้างให้หันมาหาเขาอีกครั้ง พลางเน้นคลึงยอดอกที่เริ่มตั้งชูชัน “อือ ปล่อยผม ขอร้องละ อึก อย่าทำอะไรผมเลย อะ อ๊า เจ็บ ” ปลายนิ้วของฤทธิ์ที่แทรกเข้าออกพร้อมกับเลียส่วนหัวนั้นอย่างช่ำชองทำให้ใบข้าวเริ่มดิ้นหนีอีกครั้ง แต่การขัดขืนนั้นยิ่งช่วยเพิ่มความกระสันให้คุณเกษมนั่งดูอยู่อย่างชอบใจ
“เฮือก อือ ปล่อยกูนะไอ้เชี้ย ปล่อยกู ฮือ ฮือ ปล่อยกู” ใบข้าวบิดตัวหนีแต่ก็ถูกนะล็อคตัวไว้ ส่วนฤทธิ์ได้ทีแทรกเข้าไปในตัวของใบข้าวได้จนสุด ร่างที่พยายามถอยหนีกับน้ำตาไหลออกมาด้วยความเสียใจของการถูกหักหลัง มันปวดร้าวทุกครั้ง ที่คนตรงหน้าขยับเข้าออกบนตัวเขา รสจูบที่ถูกยัดเยียดมาให้มันไม่ช่วยให้เขารู้สึกดีขึ้นเลยซักครั้ง “อะ อ๊า อย่าตอดพี่ซิครับ พี่จะไปแล้ว อือ อ๊า” สุดเสียงของฤทธิ์พร้อมการปลดปล่อยน้ำสีขาวภายในตัวของใบข้าวไร้ซึ่งเรียวแรงจะต่อต้าน ฤทธิ์ยิ้มอย่างชอบใจค่อย ๆ ถอนตัวออก ส่วนนะ ได้ทีดึงตัวใบข้าวให้ยกสะโพรกขึ้นพร้อมแทรกเข้าไปด้านหลังในคราวเดียว “อ๊า เอามันออกไอ้เชี้ย ปล่อยกู ฮือ ฮือ” ยิ่งดิ้นนะ ยิ่งเน้นและลึก ใบข้าวเอามือกุมส่วนหน้าที่มีน้ำสีขาวออกมาและยังคงพยายามเบียดหนีออกจากนะให้ได้ แต่ก็ถูกฤทธิ์ตบไปที่หน้าผลักให้มานั่งตักของนะดั้งเดิม พลางจับส่วนอ่อนของใบข้าวที่พยายามหนีสิ่งแปลกปลอมเข้าออกภายในตัวของเขา นะ ซิดส์ปาดพลางยิ้มอย่างพอใจ จากขยับขึ้นลงอย่างช้า ๆ กลับเริ่มเร็วขึ้น “อ๊า โครตแน่นเลยวะ อะ อ๊า อือ”
“อะ อ๊า ปล่อยกู ฮะ ฮือ ฮือ ” เสียงที่เล็ดลอดออกมาของใบข้าวทำให้คุณเกษมต้องลุกขึ้นจากเก้าอี้ปลดพันธนาการของตนเองแล้วดึงหน้าใบข้าวให้เข้ามาใกล้ “ทำซิแล้วฉันจะปล่อยเธอ”
“อย่า ไม่เอา ฮึก ปล่อยผมไปเถอะนะ” ใบข้าวส่ายหน้า แต่ถูกสิ่งใหม่แทรกเข้ามาในโพรงปาก “ถ้ามึงกัด กูจะฆ่ามึง” เวลาผ่านไปไม่กี่นาทีคุณเกษมก็ถึงฝั่งฝันปลดปล่อยในโพรงปากของใบข้าวที่สำลักและทรมานในคราวเดียวกัน จากนั้นจึงถูกผละออกจากคนทั้งสองที่กำลังแต่งตัวแล้วเดินออกไปจากห้อง โดยมีคุณเกษมยิ้มอย่างอารมณ์ดี “อย่าเสียใจไปเลย คิดซะว่าคนไร้ค่าอย่างเธอได้ช่วยงานบริษัทของคุณตาละกัน” มือค่อย ๆ ลูบหน้าใบข้าวที่หันหน้าหนี ทำให้ คุณเกษมมองท่าทางนั้นอย่างอารมณ์เสียแล้วเดินออกไป
เสียงประตูที่ปิดลงไปก็เหมือนกับใจของใบข้าวที่เหลือแต่ความเกลียดชังกับเสียงสะอื้นไห้ด้วยความเสีย “ฮือ ฮือ กูทำอะไรผิดเหรอ กูทำอะไรผิดเหรอ ฮะ ฮือ ฮือ กูเกลียดพวกมึง ฮือ ฮือ ได้ยินไหม ได้ยินไหม” ร่างที่พยายามจะลุกขึ้นยืนแต่ก็ต้องล้มลงไปกับพื้นหลายต่อหลายครั้ง ทำให้ใบข้าวค่อย ๆ คลานไปยังห้องน้ำอย่างทุรักทุเร เขาไม่อยากเห็นน้ำลาคะหลงเหลืออยู่บนตัวเขา มันชวนให้คิดถึงภาพที่เกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา มือค่อย ๆ แตะขอบอ่างอาบน้ำอยู่เป็นเวลานาน ค่อย ๆ ยันตัวขึ้นแล้วก้าวขาที่สั่นเทาลงไปนั่งบนอ่างอาบน้ำด้วยความเจ็บปวด เปิดน้ำให้ไหลล้างสิ่งต่าง ๆ นั้นออกมา จากน้ำที่ใสสะอาดบัดนี้ได้แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงขึ้นเรื่อย ๆ ใบข้าวยิ้มเยาะแล้วหัวเราะออกมา ด้วยเสียใจพลางตัดพ้องชะตาชีวิตของเขา ทำไมเขาทำอะไรผิดเหรอ เขาได้เจอแต่เรื่องเลวร้ายแบบนี้ เปลือกตาที่ค่อย ๆ ปิดพร้อมกับนอนลงในอ่างอาบน้ำที่มีน้ำไหลออกมาไม่หยุดจนเลยหน้าและจมูกของเขาไป (ลาก่อนป้ากลิ่น พี่ภัทร)
ส่วนบุญตาวิ่งเข้ามาภายในห้องเดินหาใบข้าวจนมาเจอที่ห้องกับน้ำสีแดงที่กำลังล้นออกมาจากอ่างอาบน้ำ จึงรีบอุ้มใบข้าวแล้วพยายามผายปอดแต่ก็ไร้ซึ่งปฎิกิริยาของคนตรงหน้า บุญตายังคงไม่ลดละพยายามผายปอดจนใบข้าวสำลักน้ำออกมา ไม่นานคุณหมอมาดูอาการของใบข้าวพลางมองบุญตาอย่างคาดโทษ แต่ก็เงียบแล้วทำแผลและจัดยาไว้ให้ หลังจากคุณหมอกลับไป บุญตาเอามือค่อย ๆ ลูบหัวของใบข้าวอย่างเบามือ พลางมองตามตัวที่ตอนนี้ช้ำไปทั้งตัว จุดแดงช้ำ เป็นจ้ำ ๆ ก็รู้ว่าผ่านเรื่องอะไร มันทำให้เขารู้สึกผิด จึงดึงใบข้าวมากอดไว้แน่นพลางพูดซ้ำไปมา “พี่ขอโทษ พี่ขอโทษนะ ใบข้าว”
ภายในห้องสมุดที่มีบุคคลสองคนแสดงสีหน้าเรียบเฉยไร้ซึ่งการสนทนาใด ๆ คุณกิตติมองบุญตานิ่งกับสิ่งที่ได้ยิน “ผมทำตามคำสั่งของคุณท่าน ได้ไปเจรจากับทางคุณเกษมยอมตกใจให้เรายอมเงิน ผมจึงรีบนำเงินไปทำให้ตอนนี้สถานะการณ์ของบริษัทดีขึ้นไปตามลำดับ”บุญตาพูดด้วยเสียงเป็นปกติ มีเพียงคุณกิตติยังคงจ้องมองอยู่ “มีอะไรอีกไหม อย่างเช่นเรื่องใบข้าว” บุญตาขยับแว่นพลางคิดในใจไอ้เกษมบอกซินะ
“……………………………”
“ฉันบอกว่าอย่าเอาหลานฉันไปแลกกับไอ้เกษมไง” บุญตายิ้มแล้วเอ่ยเสียงเรียบ “คุณใบข้าวไม่ใช่หลานแทน ๆ ของคุณท่านนิครับ ผมเลยคิดว่าน่าจะไม่เป็นอะไร”คุณกิตติกำมือแน่น ถึงไม่ใช่หลานแท้ ๆ และเกลียดเด็กคนนี้ แต่เขาก็ไม่เคยคิดจะทำแบบนี้ “คุณใบข้าวบอกว่า ทุกอย่างไม่สามารถเอากลับคืนมาได้แล้ว ถือว่าเป็นการทดแทนบุญคุณของคุณท่านครับ” คุณกิตตินิ่งไปชั่วครู่ “ เด็กนั้นอยู่ไหน”
“คุณใบข้าวหลับอยู่ที่คอนโดของผมครับ”
“ดีแล้วให้เด็กนั้นอยู่กับเธอไปก่อนละกัน ขืนมาอยู่กับฉันจะยิ่งทำให้โมโหแล้วลงไม้ลงมือกับเด็กนั้นอีก”
“ครับ คุณท่าน”
หลังออกจากห้องหนังสือบุญตาขับรถไปคอนโดของตัวเอง หยุดเดินที่หน้าห้องว่าจะว่าเริ่มพูดกับใบข้าวอย่างไงดี //เพล้ง// บุญตารีบเปิดประตูเข้าไปดูก็เห็นใบข้าวถือเศษแก้วค่อย ๆ กรีดลงบนข้อมือกับน้ำตาที่ไหลริน “คุณใบข้าว หยุดเถอะครับ อย่าทำแบบนี้ เพี๊ยะ” แรงตบทำให้ใบข้าวมีสติโผลกอดบุญตา “ฮะ ฮือ ฮือ ข้าวทำอะไรผิดเหรอ พี่บุญตา ฮึก คุณตาถึงไม่รักข้าวเลย ฮะ ฮือ ฮือ ” บุญตานิ่งไปชั่วขณะจับไหล่ใบข้าวให้หันมามอง “อย่าไปขอความรักจากคนใจร้ายเลยครับ มันไม่คุ้มกัน”
“แต่ข้าวเจ็บ เจ็บเหลือเกิน ฮือ ฮือ ”
“คุณใบข้าวต้องเข้มแข็งเอาไว้ คนที่ทำให้เราเจ็บก็ต้องได้รับการเอาคืนอย่างสาสม”แววตาภายใต้กรอบแว่นนั้นดูเศร้าหมอง ปนชิงชังกับทุก ๆ สิ่ง “ใช่ ถ้าไม่มีน้ำฟ้า ข้าวก็ไม่ต้องเจอเรื่องแบบนี้ ถ้าไม่มีมันคุณตาต้องรักข้าวคนเดียว แม่จะไม่หนีข้าวไป พ่อจะกลับมาหาข้าว แฮ่ก ๆ ใช่ไหม พี่บุญตา บอกมาซิ บอกมา! ทุกคนต้องรักข้าว ฮือ ฮือ ถ้าไม่มีมัน ข้าวจะไม่ถูกพวกมันข่มขืน ฮะ ฮือ ฮือ ฮือ ” ใบข้าวกอดบุญตาแน่น โดยไม่รู้ถึงรอยยิ้มที่ปรากฎบนใบหน้าของบุญตา (ใช่แล้วครับ เพราะน้ำฟ้าคนเดียว)
หลังจากบุญตาทำแผลให้ใบข้าวที่ตอนนี้หลับไปพร้อมกับน้ำตา จึงอุ้มมาวางบนเตียงแล้วห่มผ้าให้ พลางเดินไปยังห้องครัวเพื่อเตรียวอาหารเย็นไว้รอตอนใบข้าวตื่น ในระหว่างนั้นใบข้าวบิดตัวไปมาสะอื้นไห้อย่างทรมาน ฝันร้ายที่เป็นเงาตามตัวกัดกร่อนหัวใจที่ไร้ภูมิต้านทานกับสิ่งที่เกิดขึ้น ยิ่งหนียิ่งไร้ทางออก “เฮือก อย่า ฮือ ฮือ ปล่อยกู” ใบข้าวสะดุ้งตื่นขึ้นมาจากฝันร้าย พลางเช็คเหงื่อบนใบหน้ามองไปรอบ ๆ ห้องที่เงียบสงัด
บุญตาที่ได้ยินเสียงก็รีบวิ่งเข้าภายในห้องแล้วถอนหายใจ ยื่นมือไปกอดใบข้าวที่สะอื้นไห้ปนน้อยใจผู้เป็นตามากยิ่งขึ้น “คุณใบข้าวไปล้างหน้าล้างตาแล้วมากินข้าวกันนะครับ” ใบข้าวมองบุญตานิ่ง “แล้วข้าวไม่ต้องกลับบ้านใหญ่เหรอ” บุญตาพยักหน้า “ท่านอนุญาตให้คุณใบข้าวมาอยู่กับผมจนกว่าจะเปิดเทอมครับ” รอยยิ้มในช่วง 5-6 วันมานี้ได้ปรากฎบนใบหน้าของใบข้าวเป็นครั้งแรก “จริง ๆ นะ พี่บุญตา”
“ครับ คุณท่านอนุญาตแล้ว” ใบข้าวยิ้มอย่างดีใจ แต่แล้วก็ต้องหุบยิ้มเพราะทุก ๆ วันบุญตาออกไปทำงานปล่อยให้เขาที่ไม่มีเงินติดตัวเลยอยู่ภายในห้องอันน่าเบื่อ ทำความสะอาด ก็แล้วลงไปข้างล่าง ขึ้นมาทำการบ้านก็แล้ว ความรู้สึกก็ไม่ได้แตกต่างกับที่อยู่บ้านใหญ่ซักเท่าไร มันเหมือนกรงที่มองไม่เห็น แต่อย่างน้อยก็ช่วยให้เขาได้เป็นอิสระไม่ต้องทำตามคำสั่งของคนอื่น ใบข้าวนอนลงบนโซฟายิ้มอย่างอารมณ์ดีรอการกลับมาของบุญตา โดยไม่ได้รู้เลยว่าความสุขนั้นค่อย ๆ หายไปทีละนิดอย่างช้า ๆ
To Be Continued
อ่า ไม่รู้จะพูดอย่างไง สงสารใบข้าว ส่วนพระเอกใกล้ออกมาแล้ว
ขอบคุณที่ติดตามจ้า