( ต่อ )
" เลี้ยวซ้ายข้างหน้า "
ผมพยักหน้านิดๆ ก่อนจะตอบเบาๆ " ครับ "
ใจจริงอยากถามต่อนะว่าคุณชายจะแวะห้างทำไมหรืออยากช้อปปิ้ง ดูไม่น่าจะใช่ ก็ได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้คนเดียว เพราะดูจากสีหน้าหงุดหงิดของคนข้างๆ แล้วไม่กล้าเสี่ยง
" กูหิว " ทันทีที่ขาทั้ง 4 ก้าวเข้าห้าง เสียงคนตัวสูงก็ดังขึ้น
" คุณชายอยากทานอะไรครับ อาหารญี่ปุ่น ปิ้งย่าง หรือว่า... "
" ฝีมือมึง "
ผมหันขวับมองหน้าคนข้างๆ รู้สึกเหมือนหูจะมีปัญหาอย่างที่เคยถูกกล่าวหาไว้
" มองหน้ากูไม อย่าบอกนะว่ากูหล่อ เปลี่ยนคำเหอะ ฟังจนเบื่อละ "
ผมจิ๊ปากพลางหยิบรถเข็น ไม่คิดไม่ฝันว่าคนข้างๆ จะพูดอะไรแบบนี้เป็นด้วย เขาต้องป่วย ป่วยแน่ๆ
" คุณชายอยากทานอะไรเป็นพิเศษมั้ยครับ "
" กูอยากกินโจ๊ก "
มือที่กำลังเอื้อมหยิบบล็อกโคลี่ชะงักกลับมาไว้ข้างตัวทันที
" คุณปูนป่วยหรอครับ "
" เปล่าหรอก กูเบื่ออาหารนิดหน่อย รีบซื้อสิจะได้รีบกลับ "
" ครับ "
เมื่อมาถึงห้องพักคุณปูนก็เข้าไปอาบน้ำในห้องนอน ทิ้งผมไว้ให้ทำโจ๊กในครัวพลางคิดถึงบทสนทนาเมื่อเช้า
“ ผมขอใช้ลูกสาวขัดดอก ”
“ ผมขอปฎิเสธ ”
“ แต่ในสัญญาเขียนไว้ว่าผมมีสิทธิที่จะทำ คุณปุณณัตต์เป็นคนร่างเองกับมือ หวังว่าจะคงจะไม่ลืมนะครับ ”
“ เสร็จยังวะ ”
“ โอ้ยยยย ”
ผมที่กำลังคิดอะไรเพลินๆ เจอคนมาใหม่มาทักก็ต้องตกใจเป็นธรรมดา แต่ที่แย่คือมือดันจับทัพพีคนโจ๊กในหม้ออยู่
สะดุ้งตัวโยนขนาดนั้นจึงหนีไม่พ้นที่ฝ่ามือจะชนเข้ากับขอบหม้อร้อนๆ อย่างจัง จนร้องเสียงหลง
“ เหม่ออะไรอยู่ ไหนดูสิ ”
เจ้าหนี้รีบวิ่งเข้ามาหาชักมือผมไปพิจารณา ยามที่ฝ่ามือหนาพลิกมือผมไปมาด้วยแววตาสำรวจ ความรู้สึกร้อนก็ถ่ายเทจากมือคู่นั้นขึ้นมายังหน้าผม หัวใจก็กำลังทำงานหนักเช่นเดียวกับดวงตาที่มองใบหน้าหล่อเหลานั้นอย่างไม่ลดละ
“ มึงนี่มัน โง่หรือซุ่มซ่ามกันแน่ว่ะ ดูดิแดงหมดเลย ถ้าหม้อมันคว่ำรดมือจะว่าไง ยิ้มอะไรนักหนากูด่ามึงอยู่นะเว้ย ” ผมสะดุ้งหลุดจากภวังค์ทันทีที่โดนคนตรงหน้าขึ้นเสียงใส่ ที่ผมยิ้มก็เพราะรู้สึกดีในสิ่งที่เขาทำ มันดูใกล้เคียงคำว่าเป็นห่วงถึงจะออกแนวฮาร์ดคอไปหน่อยก็เหอะ แต่พอเจอสายตาดุเลยต้องหลุบตาต่ำมองมือที่ถูกกำแน่นอยู่
“ มือก็ด้านคิดว่ากูอยากจับหรอ ” คุณปูนสะบัดมือผมออกอย่างแรง ผมแอบเฟลแต่เพราะประโยคถัดมาเลยทำให้รู้ว่าจริงๆ เขาไม่ได้รังเกียจผมตามที่พูด “ ไปหายาใส่ซะ บัวหิมะอยู่ในตู้เย็น แล้วเรื่องโจ๊กเดี๋ยวทำต่อเอง ”
หลังมือเย็นที่เงียบเป็นป่าช้า ผมก็เก็บจานไปล้างโดยที่เจ้าหนี้แยกตัวไปดูโทรทัศน์บนเตียงนอนของผม หรือจริงๆ มันคือโซฟาของคนอื่นนั่นแหละ พอล้างเสร็จก็กะว่าจะไปอาบน้ำเพราะไม่กล้าจะไปนั่งดูทีวีข้างเจ้านายตัวเองกลัวเสียมารยาท
“ มานี่สิ ” เจ้าหนี้ใช้มือตบเบาะข้างตัวพร้อมกับเรียกผมไปนั่ง
“ แต่ว่าผมจะไปอาบน้ำ ”
ลมหายใจหนักๆ ถูกพ่นออกมาจากร่างใหญ่ ทำเอาผมต้องรีบวิ่งไปนั่งข้างๆ อย่างช่วยไม่ได้ เจ้าหนี้ทำหน้าพอใจแล้วหันกลับไปดูทีวีต่อหน้าตาเฉย
“ กูควรทำไงเรื่องลูกสาวคุณกิตติดี ”
“ ผม.. ”
“ พูดมาเหอะ กูไม่ว่าหรอก ” คุณปูนหันมามองผมแล้วรอฟังตามที่พูด ตั้งแต่รถออกจากคฤหาสน์ผมรู้สึกคุณปูนเปลี่ยนไป แต่ผมยังหาสาเหตุไม่ได้
“ ผมคิดว่าคุณกิตติน่าจะมีทางหาเงินมาใช้หนี้ได้โดยไม่ต้องพึ่งลูกสาว แต่ที่ทำเพราะหวังสบายระยะยาว ผมว่าคุณปูนไม่ควรจะเอา ห…เห้ย ”
ผมร้องเสียงหลงเมื่อจู่ๆ คนตัวใหญ่โน้มตัวเข้ามาหาผมจนหน้าเราห่างกันไม่ถึงคืบ
“ สรุปว่ามึงไม่อยากให้กูมีเมีย ” คุณปูนพูดพลางยกยิ้มมุมปากส่งสายตาเจ้าเล่ห์มาให้ก่อนจะถอนตัวออกไปพร้อมกับรีโมทในมือ ผมแอบถอนหายใจที่แท้ก็มาหยิบรีโมทนี่เอง ใจเต้นหมด
“ ถ้าคุณอยากจะมีจริงๆ ผมจะไปห้ามอะไรคุณได้ล่ะครับ ”
“ ลองห้ามดูสิ กูอาจเปลี่ยนใจ ”
ผมมองหน้าเขาอย่างไม่เข้าใจว่าต้องการคำตอบแบบไหนจากผมกันแน่ แต่ที่รู้คือเขากำลังทำให้ผมคิดว่าตัวเองสำคัญ ทั้งๆ ที่ความจริงสถานะของผมไม่ได้ใกล้เคียงกับคำนั้นเลย
" ถ้ามึงไม่ห้ามงั้นพรุ่งนี้เช้ากูจะไปบ้านคุณกิตติแล้วรับข้อเสนอ "
ความรู้สึกชาลามไปทั่วใบหน้า ผมอยากจะตะโกนบอกเขาว่าไม่ให้ไป แต่ใจไม่กล้าพอ ในเมื่อผมไม่มีสิทธิ์ เลยเสมองไปทางอื่นแล้วเปลี่ยนเรื่องคุย
" ผมขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะครับ จะได้รีบนอน เผื่อพรุ่งนี้คุณปูน.. "
" มึงจะเอาแบบนี้ใช่มั้ย ดี พรุ่งนี้มึงรีบตื่นเลย กูอยากมีเมียใจจะขาด "
ปัง!
ผมก็ยังนั่งนิ่งอยู่บนโซฟา ทั้งๆ ที่ถูกคู่กรณีตวาทใส่แล้วหนีเข้าห้องไปตั้งนานแล้ว
ความรู้สึกจุก อึดอัด เสียใจ สับสน ทุกอย่างตีรวนกันไปหมด ผมไม่เข้าใจว่าเจ้าหนี้มาไม้ไหน เขาอยากให้ผมรั้งตามที่พูดจริงๆ หรอ เพราะอะไร ยิ่งหาคำตอบเท่าไหร่ผมก็ยิ่งเกลียดตัวเองเท่านั้น
เกลียดที่อยากเป็นเจ้าของ
เกลียดที่อยากเป็นคนสำคัญ
เกลียดที่ปากไม่ตรงกับใจ
เกลียด..ที่รักไม่ได้
เวลา 3.00 น.
ทั้งๆ ผมควรจะหลับได้แล้ว แต่ตาผมกลับยังตาสว่างมองเพดานจินตนาการนับแกะจนหมดไปหลายฟาร์มก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะง่วง การกระทำของคุณปูนยังคอยตามมารบกวนจิตใจไม่หยุด
Sugar , yes please
Won't you come and put it down on me
I'm right here, 'cause I need
Little love and little sympathy แสงไฟสว่างขึ้นท่ามกลางความมืดมิดมาพร้อมกับเสียงของพ่อหนุ่มสุดหล่อขวัญใจผม ผมหยิบเจ้าสมาร์ทโฟนเครื่องสีดำขึ้นมา แต่ก็ต้องหรี่ตาเพื่อปรับโฟกัส
เมื่อสายตาเริ่มชินกับแสง ผมก็ต้องสะดุ้งที่เห็นชื่อแรกที่โทรเข้ามาตั้งแต่ได้เครื่อง
' Boss ' ตกใจที่เห็นชื่อตัวเองปรากฏอยู่บนหน้าจอ แต่พอคิดได้ว่าคงเป็นเจ้าของเครื่องตัวจริง เจ้านายที่กำลังหลับใหลบนเตียงคิงไซส์ก็รีบกดรับ
" อึก โอ้ยยยยย "
เสียงปลายสายดังขึ้นมาทันที ผมทิ้งโทรศัพท์แล้วรีบวิ่งเข้าไปยังห้องนอน ภาพที่เห็นคือคุณปูนนอนทุรนทุรายตัวงอเป็นกุ้งอยู่บนเตียงใหญ่
" คุณปูนนนนนน "
เรี่ยวแรงมหาศาลมาจากการหลั่งอดีนารีนในร่างกาย ผมตรงเข้าแบกร่างที่สูงกว่าเกือบ 15 เซนขึ้นหลังแล้วคว้ากุญแจรถออกจากห้องพักของโรงแรม
โชคดีที่โรงพยาบาลอยู่ไม่ไกลจากที่พักและช่วงเวลาแบบนี้รถไม่ติด ผมเลยใช้เวลาไม่นานในการมาถึง
หลังจากจอดรถเรียบร้อยก็วิ่งไปยังห้องฉุกเฉิน เป็นเวลาเดียวกับที่เหล่าบุรุษชุดขาวเข็นรถที่บรรทุกร่างคุ้นตาออกมา
" ญาติคนไข้ใช่มั้ยครับ กรุณาเซ็นรับรองตรงนี้ด้วย คนไข้ต้องเข้ารับการผ่าตัดทันที "
มือที่เอื้อมหยิบปากกาจรดลงกระดาษด้วยความสั่นเทา อยากจะอ้าปากถามว่าคุณปูนเป็นอะไร แต่ปากดันไม่ขยับ ไม่รู้เรี่ยวแรงหายไปไหนหมด
" ไม่ต้องห่วงนะครับ หมอจะช่วยอย่างสุดความสามารถ " ชายร่างสูงใส่แว่นในชุดสีเขียวบอกผมก่อนจะเข้าห้องผ่าตัดไป
" ญาติเข้าไม่ได้นะคะ " เสียงพยาบาลสาวรั้งผมไว้พลางเข็นเตียงคุณชายเข้าด้านในตามคุณหมอ
หลังจากถูกทิ้งให้อยู่หน้าห้องเพียงลำพัง ผมก็เดินวนไปวนมาเป็นหนูติดจั่น สิ่งที่อยู่ในมือมีเพียงโทรศัพท์รุ่นใหม่สีเดียวกับผมแต่เป็นของคนที่อยู่ภายในห้อง ผมมองเจ้าเครื่องสี่เหลี่ยมในมือนิ่ง มันเป็นสิ่งที่คุณปูนกำไว้แน่นตลอดทาง เบอร์โทรออกล่าสุดขึ้นชื่อว่า Boss ยังไม่ได้กดวาง ผมเลยตัดสายทิ้งแล้วไล่ดูบันทึกสนทนาอย่างถือวิสาสะ
Boss
Outgoing Calls
0:06 canceled
0:53 canceled
1:32 canceled
1:44 canceled
2:15 canceled
2:48 canceled
3:01 canceled
3:02 canceled
3:04 33 minutes น้ำตาผมไหลออกมาเป็นทางกับภาพที่เห็น คุณปูนคงชั่งใจอยู่นานกว่าจะโทรหาผม ไม่ว่าด้วยสาเหตุอะไรผมก็รู้สึกผิด ทั้งๆ ที่เราอยู่ใกล้กันแค่นี้ ทั้งๆ ที่ผมอยู่กับเขาตลอดวัน แต่ไม่เคยรู้เลยว่าเขาป่วย เขาต้องทนนอนปวดท้องนานขนาดไหนกว่าผมจะไปพบ ถ้าเขาเป็นอะไรขึ้นมา ผมจะไม่มีวันให้อภัยตัวเองเลย
ตื้ดดดดดดดดดดดด
ขาผมอ่อนยวบทรุดตัวลงนั่งลงกับพื้น น้ำตาไม่รู้มาจากไหนไหลทะลักเหมือนเขื่อนแตก เมื่อเสียงที่ผมไม่อยากได้ยินที่สุดดังลอดมาจากห้องผ่าตัด
คุณปูน คุณจะทิ้งผมไปอีกคนจริงๆ หรอ อย่าไปได้ไหม ผมเพิ่งเป็นเลขาคุณได้แค่ 3 วันแท้ๆ แถมยังใช้หนี้ให้คุณไม่หมดเลย และที่สำคัญที่สุด
ผมยังไม่ได้บอกรักคุณเลย
ได้โปรดกลับมาหาผม หากผมสามารถขอพรได้ 1 ขอ ผมจะขอให้คุณกลับมา ต่อให้คุณ จะดุ จะด่า จะว่า จะตวาดผมแค่ไหน หรือแม้แต่คุณจะมีผู้หญิงคนไหนข้างกาย ผมก็ยินดี
...ขอเพียงแค่คุณยังอยู่...
Poon , you're my Boss.
-----------------------------------
TBCวีวอวีวอวีวอวีวอ~~~~~
ฮื่อๆ คุณปูน ทำใจดีๆ ไว้ก่อนนะ ตื่นมาเดี๋ยวนี้ !!!!
ตื่นมาฟังน้องบอสบอกรักก่อน TT อย่าทิ้งน้องไป
อุปป้า คาจิมา << อันนี้ไม่ใช่ละ
ยังไงก็ฝากเอาใจช่วยให้เจ้าหนี้ปลอดภัยด้วยนะคะ #prayforPunnut