มาต่อกันเลย.........
องค์ที่ 7
ทำไงได้ละครับ มากะมัน ของก็อยู่ในรถมัน ก็เลยจำใจไปกะมัน เฮ้อ.....ไอ้ที่ไปกะมันเนี่ย ไม่ได้กลัวน๊า ห่วงของหรอก (มรึงกะให้เป็นแบบนี้ตั้งแต่แรกแล้วใช่มะไอ้หมีฟาย) ชิ ขัดใจ ขัดใจ
พอถึงบ้านมัน มันให้ผมเดินเอาของไปตั้งรอที่โต๊ะหินอ่อนในสวน แล้วมันก็เข้าบ้านไป ระหว่างนั้น ผมก็เดินดูสวนรอมัน
บ้านมัน หลังไม่ใหญ่เท่าไหร่ แต่มีอาณาเขตกว้าง มีสวนหย่อม บ่อเลี้ยงปลา(ปลาหางนกยูง) ต้นไม้เยอะมาก แต่ส่วนใหญ่จะเป็นไม้ดอกไม้ผล
มันบอกว่า คิดจะปลูกแล้ว มันต้องมีลูกให้กินได้ รึไม่ ก็ต้องมีดอกให้ดู ถ้ามีแต่ใบ มันไม่เอา เปลืองเนื้อที่เปล่าๆ อันนี้ความคิดผมกับมันตรงกันครับ ไม่ได้งกนะเนี่ย
บ้านมันเลี้ยงหมา หลายตัวเลย แต่ไม่รู้ว่ามันเรียกว่าพันอะไรมั่ง เพราะบ้านผมไม่ได้เลี้ยงสัตว์เนื่องจาก คุณแม่เป็นภูมิแพ้ แต่จริงๆแล้วผมรักสัตว์นะ
แล้วมันก็เดินออกมาพร้อมถ้วย จาน ชาม กับหมาวิ่งตามอีกเป็นพรวน มีตัวนึงครับ พันธ์ที่หน้าตามันย่นๆ ตัวเล็ก ไม่แน่ใจว่าใช่ ปั๊ก รึเปล่า มันวิ่งตรงมาที่ผม ดมๆอยู่ 2-3 ที แล้วมันก็ตั้งท่าผสมพันธ์กับขาผม
“เฮ้ย ไอ้ทศ หมามรึงอ่ะ”
ตกใจเลย หมาไรวะ โคตรหื่น ขนาดผมสบัดขาออก มันยังวิ่งตามมาทำต่ออ่ะ เศร้าครับ เสน่ห์แรงจริงๆผม
“เป็นไง หมากรูเก่งมะ กรูสอนมาดี”
แทนที่มันจะมาจับหมามันออก กลับยืนหัวเราะร่าเลย
“ไอ้เชี่ยนี่ เอาหมามรึงออกไปเลย แม่ง หื่นว่ะ แล้วนี่ บ้านมรึงไม่มีใครอยู่หรอ” กลัวครับ เพิ่งเอาของบ้านเค้าไป แล้วยังมานั่งกินข้าวในบ้านเค้าอีก
“อยู่ในบ้านอ่ะ” แล้วมันก็ตั้งหน้าตั้งตาจัดของกิน
“เอ้า ไอ้เชี่ยนี่ มึงไม่คิดจะพากรูไปหวัดดีหน่อยไงวะ”
“เออ เดี๋ยวกรูไปตามป๊ากรูมาให้มรึงหวัดดี” มันไม่พูดปล่าว มันทำท่าจะเดินเข้าบ้าน
“เฮ้ย........มรึงนี่” หน้าซีดเลยดิผม
“เอ้า ยืนนิ่งอีก ตามกูมาดิ จะไหว้ป๊ากรูไม่ใช่หรอ” มันเอี้ยวคอมาบอก พอเห็นผมที่กะลังยืนอึ้งๆอยู่ มันก็หัวเราะลั่นเลย เอ้าก็คิดว่ามันจะทำจริงๆนี่เนอะ มรึงยิ่งเถื่อนๆอยู่ไอ้หมีฟาย เออ ฝากไว้ 1 ดอกนะมรึง เดี๋ยวกูเอาคืน
“ป๊า แม่ ผมพาเพื่อนมาบ้าน” มันตะโกนลั่นบ้านเลย โอ๊ย กรูยิ่งทำหน้าไม่ถูกอยู่นะเมิง ผมก็เดินตัวลีบๆเลยซิครับ
เด็กต่างจังหวัดอย่างผม จะรู้สึกแบบนี้เวลาต้องเจอหน้ากับพวก พ่อแม่ของเพื่อน ยิ่งเป็น พ่อแม่ไอ้หมีเถื่อนนี่แล้ว ผมยิ่งกลัว
เข้าไปก็กวาดตามองก่อนเลย มีถ้วยรางวัล เหรียญรางวัล ใบประกาศเยอะเลย แล้วก็เหรียญหรือตรา ที่คล้ายๆของตำรวจอ่ะ อยู่ในกรอบ
“เฮ้ยทศ เหมือนตราตำรวจเลยว่ะ” ผมบุ้ยปากไปทางพวกตราในกรอบ
“ก็เออดิ ก็ป๊ากรูเป็นตำรวจ แปลกตรงไหนวะ” ไม่แปลกเลยมรึง
แต่หัวใจกรู ร่วงไปอยู่ที่ตาตุ่มละ เกิดเค้ารู้ว่าของในบ้านหายไป เค้าจะคิดว่าผมไปหลอกเอาของจากลูกชายเค้ามั้ย เค้าจะคิดว่าผมเป็นพวกต้มตุ๋นรึเปล่า
และก่อนที่หน้าผมจะซีดไปกว่านี้ พ่อมันก็เดินออกมาจากทางในครัว เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกว่า อาการน้ำลายเหนียวมันเป็นยังไง
“เพื่อนที่ทำงานผมอ่ะป๊า ชื่อหนุ่ม” ยังดีที่มันยังมีจิตสำนึกจะแนะนำ
“สวัสดีครับ” ยังไงก็ขอยกมือไหว้งามๆ 1 ที ป๊ามัน หน้าตาออกแนว อาเปี๊ยก-พิศาล เลยอ่ะ ตอนนี้รู้สึกเหมือนผม ยืนอยู่หน้าวัดพระแก้วเลย มียักษ์ยืนอยู่ 2 ตน (โทดครับป๊า)
“เห็นไอ้ทศมันเล่าให้ฟังอยู่ คนนี้เอง บ้านอยู่สุโขทัยใช่มั้ยเรา” เสียงป๊ามัน ฟังดูมีอำนาจโคตรๆ
“ครับ” พูดไม่ออกครับ
“เออป๊า เมื่อเช้าผมเอาของที่ไม่ค่อยได้ใช้ไปให้ไอ้หนุ่มมันอ่ะ หอมันยังไม่มีอะไรเลย มันจะได้ไม่ต้องซื้อ” ไอ้หมีฟาย มรึงไปสารภาพกันวันอื่นได้ป่ะ เกิดป๋ามรึงโกรธ กรูไม่กลายเป็นอาหารหมาบ้านมรึงหรอ
มรึงฆ่ากรูเลยดีกว่าไอ้ทศ
“อืม ก็ดีแล้ว ยุคสมัยนี้ ข้าวของแพง อะไรประหยัดได้ก็ประหยัด ก็ลองดูละกัน มีอะไรขาดอีก ก็เอาไปใช้ได้ ป๊าอนุญาติ”
ผมรักป๊าครับ รักป๊าที่สุด รู้สึกโล่งใจอย่างแรง
“เห็นมะ กรูบอกแล้ว ป๊ากรูใจกว้าง” มันหันมายิ้มให้ผมทีนึง เพิ่งสังเกตุว่า มันมีลักยิ้มด้วย.....
“ขอบคุณครับป๊า” กะลังดีใจหางสั่น ดิ๊ก ดิ๊ก เลย แม่มันก็เดินตามออกมาจากในครัวพร้อมถาดผลไม้ โอ้ว ต่างกันลิบลับเลย
แม่มันออกแนวขาวๆ ตัวเล็กๆ หน้าตาใจดีโคตรๆ
“สวัสดีครับ” ไหว้งามๆอีกที
“หวัดดีจ้ะ กินอะไรมารึยังจ้ะหนุ่มๆ แม่ปอกผลไม้ไว้ มาเอาไปกินเร็ว” ไม่ใช่แค่หน้าตา แต่แม่มันใจดีจริงๆครับ ผมรู้ละ ไอ้หมีฟาย มันได้เชื้อพ่อมันมานี่เอง
“หนุ่มมันซื้อไก่ย่าง ส้มตำ มาฝากอ่ะ ป๊า แม่ อยู่ในสวน” กรูไม่ได้ซื้อฝากนะ มรึงบังคับกรูซื้อ แต่ก็ดี ผลประโยชน์แบบนี้ กรูรับ เหอๆๆๆๆ ขอเอาหน้าหน่อย ไหนๆก็เอาของบ้านเค้าไปแล้ว
“ปะ ออกไปคุยกันในสวนดีกว่า คุยไป กินไป” ผมอาสาถือถาดผลไม้ออกไปให้ อิอิ เอาหน้าอีกแระกรู