จอมร้าย
By : Dezair
……………………………
ตอนที่ 2
จอมขวัญไม่ใช่คนยอมแพ้อะไรง่ายๆ ถึงจะเคยล้มเลิกเรื่องบางเรื่องในระยะเวลาไม่นาน หากแต่กับเรื่องบางเรื่องแล้ว เขาก็สู้ขาดใจ
โดยเฉพาะเรื่องของน้ำทิพย์
เรื่องนี้ชายหนุ่มหมายจะสู้ให้ตายกันไปข้าง เพราะตั้งมั่นแล้วว่าจะทำทุกวิถีทางเพื่อยื้อหญิงคนรักมาเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียวให้จงได้
เที่ยงวันนี้ ร่างสูงโปร่งจึงบุกไปที่ทำงานของน้ำทิพย์ ตั้งใจจะพาเธอไปทานอาหารจีนของโปรด ในเมื่อเข้าทางคุณรุ่งทิพไม่ได้ เขาก็จะทำให้น้ำทิพย์รักเขาไม่รู้ลืมเอง!
ทว่า…ทันทีที่เข้าเหยียบย่างเข้าไปที่โถงตึก จอมขวัญก็ชะงักกึกเมื่อเห็นว่าน้ำทิพย์กำลังยืนอยู่กับใคร
“เฮ้ย! ค…คุณอธิป!!!...”
อธิปและน้ำทิพย์หันมาเห็นเขาพอดี ฝ่ายหญิงสาวนั้นหน้าซีดเผือด ในขณะที่ชายหนุ่มกลับมีสีหน้าเรียบเฉยไม่ทุกข์ไม่ร้อน
“สวัสดี” ฝ่ายนั้นทักทายเขาด้วยน้ำเสียงเหมือนเป็นเรื่องปกติที่จะเจอกันที่นี่ ยิ่งทำให้จอมขวัญคอแข็งอย่างไม่พอใจ
“เช่นกันครับ ไม่ทำงานเหรอครับ” ใจจริงอยากจะถามว่า ‘ไม่มีงานมีการทำเหรอ’ แต่ดีว่าป้าพัชรีอบรมสั่งสอนมาดี ไม่อย่างนั้นคงหลุดปากออกไปแล้ว
“คุณเองก็ด้วยนี่”
“ผมมันพนักงานลูกกระจ๊อก งานน้อยอยู่แล้วเมื่อเทียบกับกรรมการผู้จัดการบริษัทอสังหาฯอย่างคุณ”
ครอบครัวของอธิปทำบริษัทเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ส่วนตัวอธิปเองก็ขึ้นชื่อลือชาด้านฝีมือในการบริหาร เพราะเป็นคนฉุดธุรกิจของทางบ้านที่ตกอยู่ในเหวลึก แม้ในยามนั้น หมอนี่จะเป็นเพียงนักศึกษาธรรมดาๆก็เถอะ
…คิดแล้วก็น่าหัวเราะ ในขณะที่มันกำลังถูกทับถมเพราะกิจการทางบ้านย่ำแย่ ตัวเขาในยามนั้นกลับเป็นวัยรุ่นคึกคะนองอย่างไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหน แล้วพอตอนนี้…เมื่อนายอธิปประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างงดงาม เขากลับกลายเป็นเพียงมดตัวเล็กๆในกำมือของคุณรุ่งทิพที่พร้อมจะปลิวหายไปได้ทุกเมื่อ…
“กรรมการผู้จัดการก็มีวันที่งานน้อยเหมือนกัน” จอมขวัญหันหน้าหนีไปอีกทางแล้วบ่นเบาๆ
“แล้วทำไมต้องมาน้อยวันนี้ด้วยวะ” อธิปโคลงศีรษะน้อยๆเมื่ออีกฝ่ายมาพาลเอากับงานของเขา แต่เพียงครู่เดียวคนที่ดูเหมือนจะหงุดหงิดก็ปรับอารมณ์เสียใหม่ ก่อนจะก้าวเท้าเข้าไปหาหญิงสาวที่ยืนหน้าเสียอยู่ข้างเขา
“คุณน้ำงานหนักมั้ยครับ” น้ำทิพย์แทบอยากร้องไห้เมื่อจอมขวัญยังคงใช้น้ำเสียงนุ่มหูคุยกับเธอ ทั้งๆที่ตัวเธอเองกลับทำเหมือนกำลังนอกใจเขาอยู่แบบนี้ ที่ยอมเปิดทางให้อธิปเข้ามาตามความต้องการของมารดา เพื่อแลกกับที่การที่เธอไม่ต้องเลิกรักจอมขวัญ
“ก็…นิดหน่อยค่ะ” เสียงที่ตอบกลับมานั้นอ้อมแอ้ม พร้อมกับการก้มหน้าลงอย่างไม่กล้าสบตา
“ถ้าอย่างนั้นผมไม่กวนคุณน้ำดีกว่า” จอมขวัญตัดบทพาเอาคนที่กำลังก้มหน้าต้องรีบเงยมองด้วยความไม่เข้าใจ หากแต่ใบหน้าหล่อเหลายังคงส่งยิ้มมาให้
“แล้วคุณอธิปเอง…ก็ไม่ควรกวนคุณน้ำด้วย จริงมั้ยครับ คุณอธิป” ว่าแล้วจอมขวัญก็หันไปทางชายหนุ่มอีกคนที่เขามองยังไงก็เหมือนเห็นคำว่าส่วนเกินแปะอย่บนหน้าผากของมัน
…ใช่! มันเป็นส่วนเกิน!! เป็นส่วนเกินในเวลานี้! และเป็นส่วนเกินในชีวิตรักของเขาและน้ำทิพย์!!!
อธิปพยักหน้ารับราวกับเห็นด้วย ก่อนจะเบี่ยงกายจากที่ยืนข้างน้ำทิพย์ มายืนข้างจอมขวัญแทน
“นั่นสิ…น้ำน่าจะได้ไปทานข้าวกับเพื่อนๆที่ทำงานมากกว่า”
จอมขวัญยิ้มกริ่มกับตัวเองที่ลากอธิปออกมาจากหญิงสาวคนรักได้สำเร็จ เขารีบลาน้ำทิพย์ ก่อนเหลือบตามองชายหนุ่มข้างกายแล้วใช้สายตาบังคับให้อีกฝ่ายเดินออกจากตึก
และทันทีที่ก้าวพ้นตัวอาคาร เสียงอธิปก็ดังขึ้นเบาๆที่ข้างหู
“ในเมื่อตัวเองไม่ได้ คนอื่นก็ต้องไม่ได้ด้วย นิสัยหลักของพวกขี้แพ้ชวนตี ว่าอย่างนั้นมั้ย นายจอมขวัญ วิมลกิตติ”
……………………….
“มันน่าหงุดหงิดมั้ยล่ะป้า เรื่องอะไรมาหาว่าขวัญขี้แพ้วะ!!”
โต๊ะอาหารเย็นวันนี้ยังคงเป็นที่ระบายเพียงหนึ่งเดียวของหลานชายสุดที่รักของคุณชัยและคุณพัชรี เจ้าตัวหอบหน้าบูดๆกลับมา แต่ก่อนจะมาถึง คุณชัยก็ได้รับรายงานจากลูกน้องในแผนกของจอมขวัญแล้วว่าวันนี้ หลานชายของเขาหงุดหงิดตั้งแต่บ่ายโมง จนกระทั่งเลิกงาน
“เขาก็พูดถูกนี่ เรามันขี้แพ้ชวนตี ว่างๆพาเขามารู้จักป้าหน่อยนะ ป้าจะให้รางวัล” คุณพัชรีอดหมั่นไส้หลานชายไม่ได้ หวังจะให้ใครมาลดความมาดมั่นอันเกินพอดีของจอมขวัญมานานแล้ว แต่ไม่เห็นจะโผล่มาแม้แต่เงา แน่ล่ะ ไอ้เจ้าตัวแสบนี่มันร้ายที่หนึ่ง ฝีปากมันก็ไม่มีใครเกิน ใครที่ไหนจะกล้ามายุ่งวุ่นวายให้มันอารมณ์เสีย แต่ตอนนี้ดันมีคนที่สมน้ำสมเนื้อพอตัว อย่างนี้สิถึงจะเรียกว่าของจริง!
“ลุงชัยดูป้ารีพูดดิ ครั้งที่สองแล้วนะที่ไม่เข้าข้างหลานตัวเองน่ะ”
“แต่ลุงเข้าข้างเมียลุงว่ะ” จอมขวัญถึงกับหน้าคว่ำวางช้อนลงกับจานทันที พาเอาคุณชัยหัวเราะเอิ้กอ้ากอารมณ์ดี ก่อนจะหันไปตักไข่เจียวยัดไส้มาใส่จานหลานชาย
“แกมันก็เหลือเกินนี่หว่า คุณอธิปเขายังไม่ได้ทำอะไรเลย แค่ไปหาหนูน้ำอย่างเดียวเอง” คนเป็นหลานที่ถูกประคบประหงมมาแต่เล็กยอมตักไข่ยัดไส้เข้าปาก แต่ทั้งอย่างนั้นก็ยังหน้าบูด
“แค่ไปหาก็หึงแล้วลุง”
“วะ! ขี้หึงเหมือนใครเนี่ย!”
“เหมือนลุงไง” แล้วก็ตักข้าวเข้าปากอีกคำพร้อมกับผัดผักคะน้าปลาเค็ม
“เหมือนลุงยังไง ลุงไม่เคยหึงป้าแกเว้ย!”
“โห ไม่หึง ทีแต่ก่อนมีเด็กผู้ชายเอาดอกไม้มาให้ป้า ลุงยังไล่เตะเลย”
“ก็นั่นมันไอ้เด็กเปรตที่แอบตัดดอกโป๊ยเซียนของลุงน่ะสิ!!!” แล้วไอ้คนถูกด่าว่า ‘เด็กเปรต’ ก็ก้มหน้างุดตอบกลับงุบงิบเบาๆ
“เด็กเปรตอะไรกันเล่า” แค่เด็กซนที่ชื่อ จอมขวัญต่างหาก
“เอาเถอะๆ ลุงหลานคู่นี้ แล้วนี่จะทำยังไงต่อล่ะของขวัญ ถึงขนาดเขาไปหาถึงที่ทำงานแบบนั้น จะไม่แย่เหรอ” จอมขวัญได้แต่นิ่งเงียบเพราะใจเขาก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อไป ถึงความรู้สึกที่ไม่อยากพ่ายแพ้ในความรักครั้งนี้จะแจ่มชัดทุกเวลา แต่เขาก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงให้คุณรุ่งทิพยอมรับในตัวเขา และยอมให้น้ำทิพย์ได้เลือกคู่ครองด้วยตัวของเธอเอง
“ไม่แย่! ขวัญจะดึงคุณน้ำคืนมา…ส่วนนายอธิปนั่น…เขาต้องรู้ว่าถ้าจะหาเรื่องกับคนอย่างนายจอมขวัญ เขาต้องเตรียมใจที่จะพบกับ…นายจักรกฤษณ์”
จอมขวัญโยนงานให้เป็นของพี่ชายลูกพี่ลูกน้องที่วันนี้ไม่กลับบ้านทันที ก่อนจะหัวเราะลั่นอย่างที่คนเป็นป้าหวนคิดไปถึงตัวร้ายในละครที่เพิ่งดูมาเมื่อคืนเปี๊ยบ
………………….
จักรกฤษณ์ วิมลกิตติวางโทรศัพท์มือถือลงกับโต๊ะทำงานอย่างครุ่นคิด เขาเพิ่งคุยกับน้องชายลูกพี่ลูกน้องเรียบร้อย รายนี้คงอัดอั้นมานาน เพราะเมื่อวานเขาไม่กลับบ้าน วันนี้ก็ไม่ได้เจอกันตั้งแต่เช้า มันก็เลยเล่นโทร.เข้ามาเสียเลย
แม้จอมขวัญจะเคยออกปากไม่ต้องการให้เขาช่วยเหลือเรื่องของ ‘น้ำทิพย์’ แต่เอาเข้าจริงๆแล้ว เรื่องนี้ใหญ่เกินกว่าที่จอมขวัญจะรับมือคนเดียวได้ หากมีแค่ผู้หญิงบื้อๆไม่มีปากมีเสียงนั่นกับคุณแม่แสนดุก็คงพอรับไหว แต่นี่…มีผู้ชายเพิ่มมาอีกหนึ่ง…
‘มันชื่ออธิป…ขวัญเหมือนเคยเห็นชื่อบริษัทมันเป็นลูกค้าของโรงแรมเรา’ จักรกฤษณ์ในฐานะผู้บริหาร อยากบอกน้องชายเหลือเกินว่านอกจากบริษัทของอธิปจะเป็นลูกค้าของโรงแรมในเครือวิมาลาแล้ว ยังเป็น ‘ลูกค้า V.I.P’ อีกต่างหาก
‘ขวัญอยากได้ประวัติมัน พี่จักรหาให้ขวัญได้มั้ย’
…ประวัติผู้ชายเพอร์เฟ็คอย่างอธิปน่ะหรือ?...จักรกฤษณ์อยากย้อนไปแบบนั้น แต่กลัวรายนั้นจะงอนเสียก่อน เลยได้แต่รับคำอืออาไปตามเรื่องว่าจะจัดการให้ เจ้าน้องชายลูกพี่ลูกน้องถึงยอมวางสายแต่โดยดี
…แล้วพอวางสายแล้ว จักรกฤษณ์ก็ได้แต่นิ่ง เพราะไม่รู้ว่าควรจะสนับสนุนให้จอมขวัญหาทางพิสูจน์รักแท้ต่อไปหรือไม่
…คุณรุ่งทิพไม่ชอบจอมขวัญ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ แล้วผู้หญิงแบบยัยน้ำทิพย์อะไรนั่นมีหัวสมองคิดอะไรเองเสียที่ไหน ดูก็รู้ว่าอ่อนแอ ว่าง่าย หัวอ่อน เข้าอีหรอบทำตามคำสั่งแม่ตามเคยนั่นแหละ! เขาคิดเอาไว้แล้วว่าคู่นี้คบกันไม่เกินสองปี คุณรุ่งทิพต้องจัดการอะไรสักอย่างเพื่อให้น้องชายเขากระเด็นออกจากชีวิตลูกสาวของเธอ แล้วเป็นยังไง ปีครึ่งฤกษ์งามยามดี คุณรุ่งทิพก็หาผู้ชายคนใหม่ที่ไฉไลกว่าน้องชายเขาทุกอย่างมาประเคนลูกสาว…
…ถ้าจอมขวัญจะดันทุรังต่อไป ก็มีแต่เจ็บกับเจ็บ…อคติในใจคนมันลบกันได้ง่ายๆเสียเมื่อไหร่…
ก๊อก ก๊อก ก๊อก…เสียงเคาะประตูห้อง ทำให้ชายหนุ่มหลุดจากภวังค์
“เชิญครับ” พอเอ่ยปากออกไปแบบนั้น ประตูห้องก็เปิดเข้ามาด้วยเลขานุการรุ่นลุงที่ทำงานกับบิดาของเขามานาน พอจักรกฤษณ์เข้ามาทำงาน บิดาจึงโอนคนเก่าแก่มาเป็นทั้งเลขาฯและที่ปรึกษา
“ทางศุภฤกษ์มากันพร้อมแล้วครับ”
“คุณอธิปมาด้วยรึเปล่า” ศุภฤกษ์เป็นชื่อโครงการในเครือบริษัทอสังหาฯของครอบครัวของอธิปที่ใช้บริการห้องจัดเลี้ยงของเขามาตั้งแต่เปิดตัวโครงการครั้งแรก จนกระทั่งครั้งนี้ซึ่งเป็นครั้งที่ 5
“มาครับ”
“ลุงวิทย์ ให้คนไปตามจอมขวัญมาร่วมประชุมด้วยนะ”
“ตามคุณจอมหรือครับ?” วิทยาทวนประโยคอย่างสงสัย
“ก็มันต้องดูแลเรื่องห้องจัดเลี้ยงให้เขาไม่ใช่เหรอ ให้มันมาเจอระดับสูงของโครงการนี้ซะบ้าง จะได้คุ้นเคย” จักรกฤษณ์ให้เหตุผลแบบนั้นก่อนจะลุกขึ้นยืนเตรียมตัวไปต้อนรับลูกค้าสำคัญ ในขณะที่วิทยาได้แต่มองตามด้วยความไม่เข้าใจ
……………………
อย่าว่าแต่วิทยาไม่เข้าใจเลย กระทั่งคนโดนเรียกก็ยังนั่งหน้าเอ๋อมองคุณลุงวิทยาที่นำข่าวมาบอก
“ให้ผมเข้าประชุมด้วย? เข้าทำไมอ่ะลุง!” จอมขวัญย้อนถามอีกต่างหาก ไม่ใช่ว่าเขาเกี่ยงงาน แต่เขาเป็นฝ่ายออกแบบห้องจัดเลี้ยงตามที่ฝ่ายขายคุยกับลูกค้ามา เขาไม่มีความจำเป็นใดๆที่จะต้องเข้าไปร่วมรับฟังความต้องการของลูกค้าด้วย
“คุณจักรสั่งมาน่ะครับ”
“พี่จักรเนี่ยนะ?!!” จอมขวัญย้อนอีกรอบ ยิ่งจักรกฤษณ์สั่งมายิ่งไม่น่าเชื่อเข้าไปใหญ่ พี่ชายลูกพี่ลูกน้องรู้จักนิสัยเขาดี ว่าไม่ชอบเข้าไปยุ่งเกี่ยวประจบนบนอบใคร เพราะอย่างนั้นก็เลยไม่ให้ไปพบเจอลูกค้าที่ไหน
“ครับ” เมื่อวิทยาย้ำมาแบบนั้น จอมขวัญก็ได้แต่เก็บงำความสงสัยเอาไว้ แล้วยอมเออออลุกขึ้นเดินตามไปแต่โดยดี
…………………..
…เอาแล้วไง!! พี่จักรเล่นเขาแล้ว!!!...
จอมขวัญตะลึงตั้งแต่เปิดประตูเข้าไปในห้องประชุมแล้วเห็นว่าลูกค้าที่เขาต้องพบเป็นใคร และก็ได้แต่นั่งหงุดหงิดอยู่แบบนั้นไม่พูดไม่จาอย่างไม่สบอารมณ์ พอเหลือบตาไปมองจักรกฤษณ์ พี่ชายตัวแสบก็เอาแต่ยักคิ้วไม่แยแสน้องชายอย่างเขาเอาเสียเลย!!
…บอกว่าให้ช่วยหาประวัติให้! ไม่ใช่ให้ลากเขามาเจอกับมัน! พูดภาษาไทยไม่รู้เรื่องคราวหลังจะสื่อสารด้วยภาษายานแม่! แม่ง!!!
“ถ้าหากคุณอธิปต้องการแบบไหน บอกกับจอมขวัญได้เลยนะครับ รายนี้เป็นคนคุมเรื่องการจัดห้องจัดเลี้ยงทั้งหมด” จักรกฤษณ์เอ่ยปากแล้วผายมือมาที่น้องชายลูกพี่ลูกน้องที่นั่งนิ่งไม่พูดไม่จา แต่ถ้าใครมองสบเข้าไปในดวงตาของชายหนุ่มร่างโปร่งแล้ว จะรับรู้ในทันทีว่าตอนนี้ในใจจอมขวัญกำลังมีกองไฟใหญ่เบ้อเริ่มแผดเผาจนแทบนั่งไม่ติดเก้าอี้
อธิปเหลือบตามองไปยังชายหนุ่มร่างสูงโปร่งที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเขา แค่สบตาก็พอจะรู้แล้วว่าอีกฝ่ายเกลียดเขามากแค่ไหน
...เพราะเขาเข้าไปยุ่งกับน้ำทิพย์…
จอมขวัญจะรู้ตัวไหม ว่าต่อให้ไม่ใช่เขา มารดาของน้ำทิพย์ก็ต้องหาผู้ชายคนอื่นมาเข้ามาแยกลูกสาวตัวเองกับจอมขวัญออกจากกันอยู่ดี…ไม่ว่าอย่างไร คนอย่างคุณรุ่งทิพก็ไม่มีวันยอมให้จอมขวัญได้แต่งงานอยู่กินกับน้ำทิพย์
“เอาเป็นว่า เดี๋ยวผมจะเข้ามาคุยกับคุณจอมขวัญโดยตรงก็แล้วกัน”
“เฮ้ย!!” จอมขวัญร้องแทบลั่น ก่อนจะรู้สึกตัวว่าเขาไม่ควรทำตัวไร้มารยาทกลางที่ประชุมที่ไม่ได้มีแค่เขา จักรกฤษณ์ และไอ้ผู้ชายหน้าด้านคิดจะแย่งแฟนเขา
“หรือคุณไม่สะดวก?” อธิปถามทันควัน ซึ่งแน่นอนว่าจะตอบอย่างอื่นไม่ได้นอกจาก…
“เปล่าครับ”
“หมายความว่าสะดวก?” จอมขวัญเหลือบตามองชายหนุ่มที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามอย่างแค้นเคือง
…ไอ้นี่ก็อีกคน! คราวหลังกูจะแสดงสีหน้าด้วยภาษาจากยานแม่ เผื่อมึงจะได้เข้าใจบ้างว่าหน้าตาแบบนี้คือกูไม่สะดวกทุกเวลากับมึง!!!...
“จอมขวัญสะดวกอยู่แล้วครับ คุณอธิปติดต่อเขาได้ทุกเมื่อ” จักรกฤษณ์เป็นคนตอบแทนเมื่อน้องชายเริ่มไม่ให้ความร่วมมือ เขาเหลือบตาไปมองจอมขวัญแล้วส่งสายตาเป็นเชิงให้ผู้เป็นน้องแจกนามบัตรให้แก่อีกฝ่าย
“ผมไม่ได้เอานามบัตรติดตัวมาด้วย…” จอมขวัญว่าอย่างนั้น กำลังจะเสริมว่าให้อธิปติดต่อมาทางเบอร์ส่วนกลางแล้วให้โอนสายเข้ามา แต่อีกฝ่ายชิงพูดขึ้นมาเสียก่อน
“ไม่เป็นไร เลิกประชุมแล้วเดี๋ยวผมจะตามไปเอาที่โต๊ะคุณ”
…แม่ง!!!! หน้าตากูเชื้อเชิญให้มึงไปที่โต๊ะทำงานกูรึไง!!! มึงเห็นไฟในตากูมั้ย!!!!...
จอมขวัญอยากจะพ่นไฟใส่ไอ้ผู้ชายหน้านิ่งตรงหน้านี่จริงๆ!!
“โต๊ะผมรก…” จอมขวัญปฏิเสธทันที แต่พูดไม่ทันจบ จักรกฤษณ์ก็ขึ้นแทรก
“จอมขวัญหมายความว่า จะสะดวกกว่าถ้าหากว่าคุณอธิปจะให้เกียรติร่วมมื้อเย็นด้วย เพื่อคุยงานแล้วก็แลกนามบัตรไปด้วยเลย” ร่างโปร่งที่ถูกอ้างชื่อถึงกับตาโต เขาตวัดสายตาไปมองพี่ชาย แต่รายนั้นไม่ได้สนใจเขาแม้แต่น้อย
“งั้นหรือครับ เย็นนี้ผมว่างพอดี” คราวนี้จอมขวัญหันมามองอธิปทันที
…นี่มันอะไรกันนักหนาวะเนี่ย!!...
………………….
“หมายความว่าไงพี่จักร”
ออกจากห้องประชุมมาได้ จอมขวัญก็ลากพี่ชายไปคุยกันแบบตัวต่อตัวทันที ส่วนลูกค้าอย่างนายอธิปนั้น เขาปล่อยไปตามเวรตามกรรม! มันจะไปไหนก็เรื่องของมัน! ไปตายได้ยิ่งดี!!
“หมายความ? แกหมายถึงเรื่องอะไร” จักรกฤษณ์ทำซื่อไม่รู้เรื่อง
“ก็เรื่องที่ให้ขวัญมาเจอมัน! แล้วไหนจะให้ขวัญพามันไปกินข้าวอีก! พี่จักรก็รู้ว่ามันจะแย่งคุณน้ำไปจากขวัญ!!” จักรกฤษณ์อยากบอกว่าผู้หญิงบื้อๆแบบน้ำทิพย์น่ะ ให้คนอื่นเขาแย่งไปเถอะ! แต่เขาก็รู้ดีว่าจอมขวัญผูกใจกับความรักครั้งนี้มากแค่ไหน น้องชายเขามองผู้หญิงเรียบๆแบบน้ำทิพย์ว่าเป็นนางฟ้านางสวรรค์ที่ทำให้คนอดีตร้ายแบบจอมขวัญกลับกลายมาเป็นคนดี…เหอะ! น้ำทิพย์ก็แค่คนธรรมดา ที่ทำให้จอมขวัญเลิกเจ้าชู้เสเพลก็เป็นเพราะตัวเองอยากจะเลิก! มันจะไปเกี่ยวกับคนอื่นได้ยังไง!!
“พี่จักร! อย่าเงียบ!!!”
“ก็ฉันเห็นว่าแกควรจะรู้จักเขาให้มากๆ รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง คนระดับคุณอธิป ประวัติเขาเพอร์เฟ็ค รู้มาก็รกสมองทำอะไรไม่ได้ ถ้าแกอยากจะรู้จุดอ่อนเขา แกต้องเข้าไปสัมผัสเนื้อแท้เขา เข้าไปรู้ว่าเขาทำตัวแบบไหน มารยาทยังไง” จอมขวัญนิ่งไป หากจะว่าตามที่จักรกฤษณ์พูดมาก็ถูก
“เย็นนี้ไปกินข้าวกับเขาตามที่ฉันว่านั่นแหละ แล้ว ‘กินดีๆ’ อย่าหาเรื่องให้โรงแรมเสียชื่อ ไม่งั้นแกเตรียมก้นรอไม้เรียวแม่ฉันได้เลย” จักรกฤษณ์ขู่ ก่อนจะเดินเลี่ยงกลับไปที่ห้องทำงานของตัวเอง ทิ้งน้องชายให้มองตามอย่างขุ่นเคือง
…………………..
ห้าโมงครึ่ง…
อธิปเหลือบมองไปยังชายหนุ่มร่างสูงโปร่ง ใบหน้าหล่อเหลาแบบหนุ่มสำอางที่ยืนอยู่หน้าลิฟต์ รายนั้นคงเห็นเขานั่งอยู่ที่ล็อบบี้แล้ว เพราะทันทีที่สบตากัน จอมขวัญก็ชักสีหน้าเป็นเรียบตึงทันทีก่อนจะยอมเดินเข้ามาหา
“ขอโทษที่ให้รอครับ” ปากขอโทษแต่ใจไม่ อธิปเข้าใจได้ทันทีที่ได้ยินประโยคนี้จากปากของจอมขวัญ แต่สายตาของเจ้าตัวแลดูสะใจที่เห็นเขาต้องมานั่งรอ
“ไม่เป็นไร แล้ว…จะไปทานที่ไหน”
“ห้องอาหารของโรงแรมสิครับ” อธิปถอนหายใจแผ่ว ก่อนจะเอ่ยปาก
“ผมเพิ่งทานที่นี่เมื่อกลางวัน” …ก็แล้วมึงจะกินอีกมื้อไม่ได้รึไง!!... จอมขวัญนึกอย่างหงุดหงิด
“…ออกไปทานข้างนอกดีกว่า เดี๋ยวคุณไปรถผมเลย” อธิปเป็นฝ่ายตัดสินใจอย่างรวดเร็ว จนจอมขวัญต้องอ้าปากค้าง แล้วรีบร้องบอก
“แต่ผมมีงาน!”
“กินเสร็จ จะพากลับมาส่งที่นี่” ว่าแล้วอธิปก็หมุนตัวเดินนำออกจากล็อบบี้โรงแรมอย่างที่คนถูกบังคับได้แต่มองตามอย่างแค้นเคือง
…ฝากไว้ก่อนเหอะวะ!! ทั้งไอ้อธิป! ทั้งไอ้พี่จักร!!!!...
………………..