[เปิดจอง,ทำมือ] Just ' U แค่คุณ ❥ [CH.42 UP!] #บักธีร์กับพี่หมีควาย [23.10.16]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เปิดจอง,ทำมือ] Just ' U แค่คุณ ❥ [CH.42 UP!] #บักธีร์กับพี่หมีควาย [23.10.16]  (อ่าน 43567 ครั้ง)

ออฟไลน์ ป้ากิ่งkingkarn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ไม่น่าเลยป้า ไม่น่ายอมให้ชื่อเรื่องมีผลกับการเข้ามาอ่านเลย น่าจะอ่านตั้งนานแล้ว สนุกมากกกกค่ะ^^

ขอบคุณคนแต่งนะคะ  :กอด1:

ออฟไลน์ Kiitos

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 45
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Re: Just ' U แค่คุณ ❥ CH.24
«ตอบ #91 เมื่อ19-09-2016 14:24:11 »

Chapter24
| Corgi vs Anaconda

อนาคอนด้าจริงๆ เเม่งอนาคอนด้าจริงๆนะเว้ย!

ผมนี่อึ้งค้างอย่างคนทำอะไรไม่ถูกยามที่ก้มไปเจอ...เอ่อ อนาคอนด้าที่กำลังชูหัวอยู่ใต้กางเกงตัวสั้นจนต้องกลืนน้ำลายเอื๊อกเพราะถ้าขยับนิดเดียวขาผมได้ไปโดนมันเเน่ๆ

'มึงต้องทำความรู้จักกับมันก่อน'

เเล้วจะรู้จักยังไงวะเนี่ย ให้ไปเชคเเฮนด์เซย์ไฮกับมันเรอะ!

"Let's sleep.(นอนเถอะนะ)"

หมับ

"Wha!"

นะ...นี่ผมทำอะไรลงไป!!

หน้าเห่อร้อนอัตโนมัติเมื่อจู่ๆมือมันก็ไปเอง ไปไหนไม่ไปตะครุบอะนาคอนด้าที่อยู่ใต้ร่มผ้านั่นอีก

"T-Thee"

"Can I touch it?"ผมถามไปอย่างที่สมองยังตื๊อๆ อยากนึกตบปากตัวเองที่ไวเกินจะได้ไตร่ตรองก็ครั้งนี้ จับไปแล้วยังมีหน้ามาถามอีกกู

"อ่า..อืม"มันตอบเเล้วพยักหน้าให้ ผมพยายามจะไม่มองหน้ามันเลยไม่รู้ว่ามันกำลังทำหน้ายังไง เเต่จะให้ก้มลงไปมองสิ่งที่อยู่ในมือเลยตรงๆเลยก็ทำไม่ได้

นี่ผม...กำลังจับของผู้ชายคนอื่นอยู่...

ถอยตอนนี้ยังทันนะไอธีร์

"เอ่อ...นอนดีกว่าเนอะ แหะๆ"ผมบอกเเล้วยิ้มแห้งๆ เมื่อสัมผัสได้ว่าอนาคอนด้าในมือตอนนี้มันกำลังจะตื่นขึ้นมากกว่าเดิม รีบปล่อยมือออกผละตัวไปนอนที่เดิม...

หมับ!

แผ่นหลังผมกลับมาเเนบกับเตียงอีกครั้ง หากเเต่ไม่ใช่ฝั่งของตัวเองอย่างที่หมายมั่นไว้ กลับเป็นฝั่งขอคนที่จู่ๆก็จับหมับเข้าที่เเขนผมเเล้วผลิกตัวไว ส่งให้ผมลงมาอยู่ใต้ร่างเขาเเทน
           
"Now you can't leave.(ตอนนี้ถอยไม่ได้เเล้วล่ะ)"

"อื้อ!"

ผมได้ส่งเสียงอืออึงในลำคอ เมื่อถูกคนตัวโตจู่โจมโดยการประกบปากทั้งยังส่งลิ้นร้อนเข้ามาพัวพันจนคนได้รับอย่างผมถึงกับระทวยเลยทีเดียว รู้สึกเหมือนกำลังถูกสูบวิญญาณออกไปก็ไม่ปาน เเต่มือใหม่อย่างผมที่อย่าว่าเเต่หายใจให้ถูกจังหวะเลย เเค่มันดูดปากผมเหมือนตายอดตายอยากมาผมก็เผลอกลั้นหายใจอย่างทำอะไรไม่ถูก จนสุดท้ายก็ต้องทุบหลังมันเเรงๆเเล้วหอบแฮ่กๆ
           
จุ๊บ

ไอหมีควายก้มลงมากดจูบเบาๆดังจุ๊บอีกรอบ สติผมเลื่อนลอยเต็มที เป็นครั้งเเรกเลยที่รู้สึกสมองมันตื้อมากจนคิดอะไรไม่ออกซักอย่าง ตอนนี้เเทบไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยยกเว้นเสียงเต้นของหัวใจตัวเองที่มันชัดมากเหมือนอยู่ข้างหู

อีกฝ่ายไม่รอให้ผมได้พักเหนื่อยไปนานกว่านี้ ฝ่ามืออุ่นของคนที่ทาบทับก็รุกล้ำเข้ามาใต้สาบเสื้อ ลูบขึ้นลงอยู่ตรงหน้าท้องให้ผมต้องเกร็งเพราะความรู้สึกเสียววูบวาบ ร้อนๆหนาวๆอย่างบอกไม่ถูก

"ยะ...อย่าลูบ"

            จนอดไม่ได้ที่จะบอกออกไป หากเเต่ไอฝรั่งก็ทำเพียงเหลือบตามามองก่อนจะเผยยิ้ม...ที่ดูร้ายกว่าปกติและที่สำคัญ...เซ็กซี่สุดๆ

ถ้าใครมาเห็นภาพฝรั่งผมน้ำตาลทองตัวโตไหล่กว้างกล้ามเเน่น ที่เสยผมตัวเองขึ้นอย่างลวกๆกับเสื้อกล้ามใส่นอนที่เวลามันก้มลงมานี่เห็นหมดไปยันตับไตไส้พุง ไม่สิ ถ้าจะให้ถูกก็คือเห็นตั้งเเต่ลาดไหล่จนถึงซิกเเพคก้อนๆนั่นจะเห็นภาพกว่าก็คงคิดเหมือนผมนั่นเเหละ

ยิ่งประกอบกับรอยยิ้มร้ายที่ผมไม่เคยเห็นอีก เเต่ถึงมันจะดูเจ้าเล่ห์ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันมีเสน่ห์จนผมละสายตาออกไม่ได้เลย ไหนจะสายตาที่เลื่อนมาสบกับผม แค่เพียงมองก็รู้สึกร้อนๆหนาวๆไปทั่วร่างเสียเเล้ว

ฟรึบ!

"อ้ะ!"

เสื้อนอนลายน้องหมีของผมได้ลอยปลิวติดมือไอหมีควายร่างยักษ์นี่ไปอย่างรวดเร็วชนิดที่ว่าคนที่ยังมึนๆงงๆสติไม่เต็มร้อยเผลอร้องออกมาอย่างตกใจ แต่ก็ไม่ยักกะมองหา กลับจับจ้องไปยังใบหน้าคมค้ามของหนุ่มตะวันตกที่กำลังเลื่อนเข้ามาประกบริมฝีปากอีกครั้งเเทน

"อืม.."คราวนี้คนบุกเองก็ส่งเสียงครางต่ำในลำคออย่างพึงพอใจ

"อ้ะ อย่า อย่าขยับ"เสียงผมเบาหวิวยาวที่บอกห้ามเมื่อมันขยับช่วงล่างเข้ามาเบียดถูไถกันจนรู้สึกแปลกๆอ

แต่เหมือนเสียงผมมันไร้ความหมายเพราะถึงจะบอกอย่างนั้นเเต่ก็ไม่ได้ปัดป้อง เพราะตอนนี้เเรงมันหมดไปแล้วน่ะสิ ขนาดเเค่โดนจูบยังขนาดนี้กับลูบๆคลำๆยังเป็นขนาดนี้

ไอฝรั่งก็ไม่หยุดเเค่นั้นมือทั้งสองข้างยังคงลูบวนไปวนมาตรงช่วงท้อง วนไปวนมายังไม่รู้เลี้ยวขึ้นกลับมาด้านบนเเล้วมือมันดันไปสะดุดกับจุดที่ผมไม่เคยคิดว่ามันจะทำให้รู้สึกได้...

"อ้ะ! มะ..มึง มัน แปลก"

"This is cute.(ตรงนี้มันน่ารักดีนะ)"

"ยะ อย่าขยี้ อื้อ!"

ผมไม่เคยคิดว่าตรงเม็ดเล็กๆทั้งสองข้างของผู้ชายจะทำให้รู้สึกได้ขนาดนี้ เพราะเพียงเเค่ถูกใช้มือเขี่ยไปมาสลับกับขยี้เเรงๆ ผมก็เเทบจะตายคาที่แอ่นอกเข้าหาอย่างที่ร่างกายมันเป็นไปอัตโนมัติ

"อย่า..อื้อ กัด"

ตอนนี้ผมไม่รู้อะไรทั้งนั้น ไม่รู้ว่าพูดไปมันจะเข้าใจรึเปล่าเเต่พอมันก้มลงซุกอกผมเเล้วครอบริมฝีปากลงบนตุ่มไตทั้งสองข้างผมก็เเทบดิ้น ยิ่งฟันมันครูดเบาๆยิ่งสะท้านไปทั้งตัว จนทำให้...

"You're already hard.(นายเเข็งเเล้วนะ)"

"เพราะยูนั่นเเหละ อ้ะ!"ผมตอบกลับเมือมันพูดด้วยรอยยิ้มเเล้วคว้าเข้าที่ธีร์น้อยของผมจนผมสะดุ้ง ตอนนี้ไม่ได้ร้อนเเค่ตรงหน้าเเล้ว ผมร้อนไปทั้งตัวเเล้ว โดยเฉพาะจุดที่มันสัมผัสมันยิ่งร้อนจนทนไม่ไหว

"Are you ready?(พร้อมรึยัง)"

"เรดี้ แฮ่ก อะไร"

"Ready for this thing.(ก็พร้อมที่จะเจอกับเจ้านี้ไง)"มันชี้ไปยังเบื้องล่างที่เเค่มองเห็นลางๆยังรู้เลยว่ามันขยายมากกว่าเดิมอีก

"อะ...อนาคอนด้า?"

"Hmm..Anaconda? Then, is corgi ready to fight with anaconda ?(หืม? อนาคอนด้าหรอ งั้นคอร์กี้พร้อมจะสู้กับอนาคอนด้ารึยังเอ่ย?)"มันถามเเล้วยิ้ม ให้คนที่นอนตาเยิ้มอยู่ใต้ร่างอย่างผมผงกหัวขึ้นไปมองนิดอย่างเตรียมใจ สูดหายใจเข้าลึกๆเพื่อเรียกสติเเล้วตอบอย่างหนักเเน่น

"I'm ready.(ผมพร้อมเเล้ว)"

ทันทีที่ผมเอ่ยปาก กางเกงเจเจพร้อมชั้นในก็ปลิวไปตกอยู่ข้างเตียงตามเสื้อไปอย่างรวดเร็วโดยฝีมือของใครอีกคน

ฉ่า

เเม้จะมาถึงขนาดนี้เเล้วก็ตาม แต่ผมก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอาย แต่ก่อนผมอาจจะไม่รู้สึกอะไรที่มาเปลือยให้ผู้ชายเห็น เเต่ตอนนี้มันไม่ใช่ สายตาที่ไล่มองผมตั้งเเต่หัวจรดเท้าทำเอาเสียววาบอย่างไร้สาเหตุ จนต้องเอื้อมมือไปปิดส่วนลับไว้โดยสัญชาตญาณ

คงเพราะผมไม่ค่อยได้ปลดปล่อยมันเท่าไหร่ ธีร์น้อยมันเลยเกิดปฏิกริยาได้รวดเร็วถึงขนาดนี้ รวดเร็วขนาดที่ผมยังตกใจ

"This is cute too.(ตรงนี้ก็น่ารักเหมือนกัน)"

เฮือก
           
"อึ่ก"ผมกัดริมฝีปากตัวเองเเน่นพยายามยับยั้งอารมณ์ที่กำลังพลุ่งพล่านยามที่มือหนาคว้าหมับเข้าที่แก่นกลางลำตัว ทั้งริมฝีปากก็ยังคงปรนเปรออยู่ที่ตุ่มไตเม็ดเล็กไม่ขาดสายจนผมยอมเเพ้ นอนนิ่งเหมือนคนไม่มีกระดูก

ไม่ไหวเเล้ว ร้อน ร้อนจนเหมือนจะละลายแล้ว

ผมเหมือนคนไม่มีกระดูกกระทันหัน ได้เเต่นอนนิ่งๆปล่อยให้มันปลุกปั่นอารมณ์ของผม อ่า...เวลาคนอื่นทำให้นี่มันคนละฟีลกับการโลกสวยด้วยมีเราจริงๆนะครับ ยิ่งคนอย่างผมที่ไม่ค่อยสนใจเรื่องเเบบนี้ซักเท่าไหร่ เเค่มันจับก็สะท้านไปทั้งตัวเเล้วตอนนี้

ผมพยายามจะโฟกัสสายตาอันพร่ามัวของตัวเองไปยังอีกคนที่ละมือจากผมไปกระทันหัน ก่อนจะเห็นว่ามันกำลังปลดกางเกงของมันตาม พอกางเกงขาสั้นกับบ็อกเซอร์สีเข้มของอีกคนหายไปผมถึงกับต้องกลืนน้ำลายอีหน

อนาคอนด้าได้ออกมาสูดอากาศภายนอกเเล้วครับ

ผมยันตัวขึ้นมานั่งช้าๆ เรี่ยวเเรงที่หายไปเริ่มกลับมาเเล้วครับ พอเห็นอนาคอนด้าตัวเป็นๆเปลือยๆเเบบนี้มันเเอบผวาเล็กน้อย จนต้องรีบลุกขึ้นมาไม่งั้นถ้ายังนอนอ้าซ่าต่อมีหวังผมได้ตายคาที่เพราะพิษอนาคอนด้าเเน่ๆ

กูยังไม่พร้อม วันนี้กูมาทักทายเฉยๆนะ ฮืออ

ตอนนี้ผมเข้าใจเเล้วครับไอคำว่า'ยังไม่พร้อม'ของมันเนี่ย ถ้าจะรอให้ผมพร้อมก็คงต้องขอเวลาเตรียมใจก่อน เพราะดูจากขนาดมันเเล้ว...

อืม...ผมไม่พร้อมจริงๆนั่นเเหละ...

"I won't do anything.(ฉันไม่ทำอะไรหรอก)"จู่ๆคนที่นั่งคุกเข่าอยู่ด้านหน้าผมก็พูดขึ้นพร้อมรอยยิ้มบาง มือก็เอื้อมมารวบผมเข้าไปกอดจนจมลงไปในอกมัน มือข้างนึงถูกใช้มาลูบหัวผมเบาๆ ซึ่งผมก็ได้เเต่เงยหน้าเอาคางเกยอกเปลือยของมันไว้เเล้วส่งสายตาสงสัยไปให้

"?"

"You're not ready for that. (นายยังไม่พร้อมหรอก แค่จะช่วยให้สบายตัวน่ะ)"

"หืม? อ้ะ!"ผมสะดุ้งตัวเผลอหลุดร้องออกมาเมื่อรู้สึกได้ถึงความร้อนด้านล่างซึ่งไม่มองก็รู้ว่าเกิดจากอะไร

มือข้างหนึ่งของไอหมีควายกำลังใช้ประคองหน้าของผมให่เงยขึ้นไปสบตากับเขา สบกับเเววตาที่ร้อนเเรงเสียจนต้องเบือนหนี ส่วนอีกมือนั้นกำลังรวบท่อนเนื้อของผมเเละเขาไว้ด้วยมือเดียวจากนั้นก็รูดขึ้นลงส่งให้คนได้รับอย่างผมต้องซี๊ดปากอย่างห้ามตัวเองไม่ได้

"อื้อ...เเค่ถูกัน..มันเสียวขนาดนี้เลย..แฮ่ก...หรือวะ"

ตอนพึมพำไปก็รู้สึกเหมือนตัวเองจะละลายหายไปอีกรอบ ถ้าไม่ใช่เพราะไอหมีควายมันเลื่อนมือข้างนึงมาโอบเอวเเล้วกระชับเข้าไปให้ใกล้ขึ้นอีกเเทน ซึ่งพอมันทำอย่างนั้นผมก็จำเป็นที่จะต้องนั่งชันเข่าเพื่อให้ตรงจุดนั้นมันสัมผัสกันตามที่มันต้องการ

"Ah...good."

มันครางเสียงต่ำ เสียงหอบหายใจของเราดังก้องไปทั่วห้อง สมองผมตอนนี้มันว่างเปล่ามาก ทำได้เเค่ใช้สองเเขนกอดแผ่นหลังกว้างของมันไว้เเน่นๆ ขยับเอวเข้าหาอีกคนมากขึ้นๆอย่างที่ควบคุมตัวเองไม่อยู่ 

"จะเสร็จ..อื้อ..ไวอีก"

"ธีร์...อืม..ธีร์"

คงไม่ใช่เเค่ผมที่รู้สึกอย่างนั้น เมื่อพูดออกไปปุ๊ปโดยที่ไม่ทันคิดว่ามันจะเข้าใจรึเปล่า แต่มันก็เพิ่มความเร็วให้อย่างที่ต้องการ เป็นเหตุการณ์ที่ดูหน้าอายอยู่ไม่ใช่น้อยเวลามองเห็นของผมกับมันเทียบกันจะๆขนาดนี้

 เเถมเวลาอยู่ท่านี้ทำซึ่งผมกับมันอยู่ตรงข้ามกันทำให้ผมเห็นหน้ามันได้อย่างชัดเจนเลยละ ใบหน้าคมที่เคยบอกว่าเซ็กซ์ซี่ ตอนนี้มันยิ่งกว่าเก่าอีก เหงื่อกาฬไหล่อาบตามกรอบหน้า กับปากที่ถูกขบไว้เบาๆตลอดอีก และที่สำคัญ...ไม่ว่าจะทำอะไรอยู่มันก็จะมองหน้าผมตลอดเวลาจนผมเหมือนจะไหม้ไปกับสายตามันอยู่เเล้ว

เเต่ตอนนี้มันมีอารมณ์อื่นมากกว่าอารมณ์ที่จะอาย ดังนั้นสิ่งที่ทำออกไปคือการสวนสะโพกรับมือที่กอบกุมของผมไว้ ทั้งยังความร้อนราวกับไฟที่ของอีกคนยิ่งทำให้ผมมีอารมณ์มากขึ้นไปอีก

"อึก อีกนิด! อีก อื้อ!!!!"

พรวด!

ผมเกร็งไปทั้งตัว หลับตาเเน่นยามที่ไปถึงฝั่งฝัน เมื่อได้ปลดปล่อยเหมือนเเรงทั้งหมดจะถูกสูบไปจนเกลี้ยง เลยได้เเต่หอบแฮ่กเหมือนหมาเป็นลมแดดทิ้งตัวลงซบอกของอีกคน

ความง่วงเข้าจู่โจมแทบจะทันที เพียงได้ปลดปล่อยในรอบปีก็ทำเอาหมดเเรงอยากนอนเสียตอนนี้ มือที่กอดมันไว้เเน่นเริ่มผล็อยร่วงเหมือนถ่านหมด จนสุดท้ายก็ต้องทิ้งตัวลงบนที่นอน ซึ่งมันเองก็ไม่ได้ขัดอะไรปล่อยให้ผมตกอยู่ในสภาวะทิ้งตัวขณะที่เปลือกตาก็ใกล้จะปิดแหล่มิปิดแหล่

"Thee"

"หือ"ผมครางรับในลำคอเบาๆ ลมหายใจเริ่มกลับมาเป็นปกติเเล้ว สติที่หายไปก็ค่อยๆกลับคืน ผมหลับตาลงพักนึงอย่างเหนื่อยอ่อนหากเเต่ก็ต้องลืมตาโผล่งเมื่อจู่ๆอีกคนก็ขยับมาชิดเเล้วดันขาผมขึ้น!

เดี๋ยวมึงเดี๋ยว!

ผมนี่ตื่นเต็มตามองกระเด้งตัวขึ้นไปมองอีกฝ่าย  ก่อนจะสำนึกอะไรบางอย่างได้

อนาคอนด้ามันยังไม่ได้รีดพิษเลยนี่หว่า...อีกทั้งยัง...

"เอ่อ ซอรี่นะ"ผมเหลือบมองคราบน้ำสีขุ่นที่ติดเต็มมือของมันเลย สงสัยเพราะผมไม่ได้ปลดปล่อยนานมันเลยออกมาเยอะกว่าปกติหน่อย แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้ลุกไปหาทิชชู่มาเช็ดให้มัน อีกฝ่ายก็พูดขึ้นมาก่อน

"Don’t worry. It’s tasty.(ไม่เป็นไรหรอก อร่อยดี)"

ผมเบิกตากว้างเมื่อมันเอานิ้วที่เปื้อนไปด้วยคราบน้ำนั่นเข้าปากทีละนิ้วเเถมยังดูดดังจ๊วบเป็นของเเถมด้วย

"เฮ้ย! มันสกปรก!"ผมปรี่เข้าไปจับมือข้างนั้นมันไว้ก่อนที่มันจะนึกพิเรนท์แดกเข้าไปอีก แต่ห้ามมันได้ไหมล่ะ พอผมไปดึงมือมันไว้มันก็ก้มหน้าลงมาเลียเเทน ซึ่งนั่นทำให้หน้าของผมกับมันใกล้กันมากจนผมผงะถอยออกมาเอง

เอางี้ใช่ไหม ได้...

หมับ!

แผล่บ

"ธ...ธีร์"ทีนี้ละเรียกเสียงอ่อนเสียงอ่อย มันดูตกใจที่ผมพุ่งเข้าไปตะครุบมือมันอีกรอบ แต่คราวนี้ผมดึงมือที่เต็มไปด้วยคราบนั่นมาเลียเอง

คาวชิบหาย อร่อยตรงไหนวะเนี่ย

ผมเบ้หน้าหน่อยๆเมื่อรสเฝื่อๆคาวๆมันคลุ้งไปทั้วปาก เเต่ยังไงมันก็ของผม ฉะนั้นผมจะเป็นคนทำความสะอาดให้เอง!

ซึ่งไม่รู้ว่าช็อคหรืออะไรมันก็ไม่ชักมือหนีปล่อยให้ผมทำความสะอาดตั้งเเต่ฝ่ามือ ไล่เลียขึ้นมาทีละนิ้วๆ ซึ่งตรงนิ้วนี่เเอบชอบนิดๆไม่รู้สึกพอดูดปุ๊ปมันรู้สึกมันเขี้ยวอยากเเทะเล่นจริงๆ ว่าเเล้วก็ขอหน่อยเถอะ

หงับ

จึก

หืม?

พอผมเเอบเนียนขบฟันลงบนนิ้วมันเบาๆ อะไรบางอย่างก็มาโดนเข้าที่โคนขาของผม จนผมชะงักไปนิดเพื่อก้มมอง

"It’s calling you.(มันเรียกเเล้วนะ)"

ฉ่า

ผมรีบละริมฝีปากเเล้วปล่อยมือออกจากมือมันทันที เมื่อสิ่งที่ก้มลงไปเจอคืออนาคอนด้าตัวยักษ์ที่ผงกหัวขึ้นมาเรียก เเถมดูจากขนาดที่เห็นเมื่อกี้เเวบๆเหมือนมันจะตัวใหญ่ขึ้นอีกหน่อยด้วย

นะ..นี่มันมีอารมณ์มากขึ้นเพราะผมดูดนิ้วมันหรอ...

"หะ..ให้ช่วยไหม?"

"หืม?"

"Help ไง ให้ I help you ไหม?"

"Well, Just stay still.(งั้นช่วยนอนนิ่งๆก็แล้วกัน)"

"ห้ะ?"ผมยังไม่ทันได้เข้าใจ มันก็ผลักให้ผมกลับไปนอนที่เดิมผลิกให้ผมนอนตะเเคงดันขาผมให้เฉียงไปด้านข้างนิด ก่อนจะเเทรกเเก่นกายเข้ามาระหว่างต้นขาของผม..

"อ่า.."

"..!!"
           
ผมตกใจเล็กน้อยที่มันใช้วิธีเเบบนี้ คือการที่จับขาผมให้บีบเข้าหากันเเล้วเสียงเเก่นกายเข้ามาตรงนั้นเเทน เมื่อพอจะเข้าใจเจตนามันขึ้นมาบ้าง ผมก็เลยให้ความร่วมมือโดยการบีบขาตัวเองให้ชิดกันมากขึ้น

มันกระเเทกกายเข้าหาผมถี่ๆจนได้ยินเสียงเตียงโยกเอี๊ยดอ๊าด ความร้อนที่สัมผัสโคนขาว่าทำให้เขินเเล้ว เเต่การที่มันจ้องหน้าผมตลอดเวลานี่เขินกว่า

เขินยังไงไม่รู้ถึงทำให้ธีร์น้อยมันเริ่มตื่นมาอีกหน..

"ธีร์...ธีร์"ยิ่งมันครางเรียกชื่อผมด้วยเสียงต่ำนี่อีก

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ที่มันพร่ำครางเรียกชื่อผมเเล้วกระเเทกกายเข้าหาไม่หยุด จนสุดท้ายมันก็ปลดปล่อยออกมาจนเลอะไปทั่วหน้าท้องของผม

ซึ่งมันทำให้ผมรู้ว่ามันเองก็ไม่ได้ปลดปล่อยมานานเช่นกัน 

"แฮ่ก sorry"มันว่าปนหอบเเล้วทิ้งตัวลงมานอนข้างๆผมจากนั้นก็รวบตัวผมไปกอดไว้โดยซุกหน้าลงที่ซอกคอผมจนผมต้องย่นคอหนีเพราะตอหนวดมันทิ่มคอผม

"Do you want me to help you clean that?(ให้ช่วยทำควาสะอาดไหม)"

"ไม่ต้อง!"ผมรีบบอกเเล้วกระเด้งตัวขึ้นไปคว้าทิชชู่ที่วางอยู่ตรงหัวเตียง ปาดเหล่าลูกมันนับร้อยล้านตัวให้เกลี้ยงจากนั้นก็โยนลงถังขยะทันที

ไอทำความสะอาดมันเนี่ยไม่พ้นมาเลียชัวร์ๆ ทำไมถึงคิดว่าเลียน่ะหรือก็เพราะจะเอาคืนที่ผมไปเลียนิ้วมันไว้ไงเล่า แล้วใครจะปล่อยให้มันมาเอาคืนผมกันล่ะ!

ไหนๆก็ลุกมาเเล้วผมเลยกะจะเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าเพื่อหาเสื้อผ้ามาใส่ หากเเต่ยังเดินไปไม่ถึงก็ถูกรวบเอวไปกอดไว้จากข้างหลัง ซึ่งอย่าลืมว่าตอนนี้เรากำลังเปลือยอยู่ทั้งคู่...

"อ่ะ เอ่อ.."

"Thee..."มันเรียกชื่อผมเสียงเเผ่วจนเเทบไม่ได้ยิน

"มีอะไรรึเปล่า"พอมันเว้นช่วงนานผมเลยอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นไปถามมัน

จุ๊บ

ริมฝีปากหนาจรดลงมาที่หน้าผากผม ก่อนจะผละออกไปไวๆ เผยให้เห็นใบหน้าคมที่ประดับไปด้วยรอยยิ้มจนตาปิด

            "ลักนะ"

ตาย...มึงตายอีกเเล้วไอธีร์


ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
(น่า)ลัก(พาตัว)นะ

หอบหิ้วธีร์กลับบ้านเลยเจ้าข้าาาาา ออสติน  :jul1:


ต้องให้ธีร์ทำความคุ้นเคยนะ รู้เป่า  :laugh:

ออฟไลน์ ป้ากิ่งkingkarn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ธีร์หื่นแบบน่ารักๆอ่ะ คือพี่หมีสุภาพบุรุษมากกกก.....

ตอนนี้ป้าเลยขอยกให้เป็นความดีความชอบของความหื่นของน้องธีร์นะคะ555+

อยากอ่านอีกๆๆๆๆ^^ พี่หมีน่ารักใจเย็นเข้าอกเข้าใจน้องที่สุด ที่สำคัญคือไม่เล่นตัวดี

พี่หมีน่ารักได้ขนาดนี้ ถึงสุดจะห้ามใจขนาดไหน แต่ก็ยังไม่หักหาญน้ำใจน้อง :กอด1:

คงจะด้วยเพราะ "ลักนะ" จริงๆ


ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ตายๆๆๆ
แพ้ทางฝรั่งอย่างแรง,,,,

ออฟไลน์ Kiitos

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 45
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Re: Just ' U แค่คุณ ❥ CH.25 #ครึ่งแรก
«ตอบ #95 เมื่อ20-09-2016 14:07:46 »

Chapter25
| Ex-friend


          เช้าวันใหม่สดใสกว่าวันเก่า...

          นั่นคงจะเป็นความคิดที่เกิดขึ้นยามที่ผมตื่นมาในเช้าอีกวันหลังจากที่ได้ปลดปล่อยไป แถมได้ปลดกับอีกคนที่บอกเลยว่าไอหมาธีร์รู้สึกดี...เกินคาดเลยเเหละ

          ถ้าใครคิดว่าเมื่อคืนมันจบเเค่รอบเดียวผมออกตัวไว้เลยว่าคุณคิดผิด

          หลังจากมันปล่อยมารอบนึงเเล้ว บอกรักผมให้เขินเล่นๆ แต่เเทนที่จะจบเเค่นั้นมันกลับส่งมือชี้ไปยังด้านล่าง เผยให้เห็นอนาคอนด้าที่ท่าทางยังเหลือพิษอีกมากโข

          และด้วยความที่ธีร์น้อยเองก็ตื่นขึ้นมาตั้งเเต่มันมาถูๆผมเเล้ว ฉะนั้นก็เลย...ต่อ

          ต่อยังไงก็ไม่ทราบ ที่เเน่ๆคือผมหลับคาที่ไปเลย ไม่รู้ด้วยว่ากี่โมงกี่ยาม

          ออด! ออด! ออดๆๆๆๆๆ

          "โอ้ย!! ได้ยินเเล้ว!"

          ใช่ เช้านี้มันเกือบจะดีถ้าไม่มีเสียงออดจากหน้าประตูดังมารัวๆจนคนที่นอนฝันหวานอย่างสบายตัวอย่างผมต้องกระเด้งตัวขึ้นมายีหัวตัวเองอย่างหงุดหงิด

          ไอธีร์เป็นคนไม่คิดมากไม่ค่อยโกรธหรือหงุดหงิดใคร...เเต่ถ้ายามเพิ่งตื่นนอนมันอีกเรื่อง

          ผมกร่นด่าคนที่มารบกวนเวลานอนอยู่ในใจ ก่อนจะก้มลงสำรวจตัวเอง ก็เห็นว่าเสื้อผ้าตัวใหม่ถูกเปลี่ยนให้เรียบร้อยเเล้วซึ่งไม่ต้องเดาให้เมื่อยสมอง ก็รู้ว่าเป็นคนที่นอนอยู่ข้างกาย...

          "เอ้ะ ไม่อยู่?"

          ออด!

          "ใจเย็นโว้ย!!"

          เสียงออดที่ดังขึ้นอีกรอบทำเอาผมต้องตะโกนออกไปเสียงดัง กลัวว่าถ้ามันยังกดอีกออดห้องผมต้องไหม้เเน่ๆ ก่อนที่จะลุกออกจากเตียงเพื่อไปดูสิว่าใครมันช่างไม่รู้จักเกรงใจอะไรเลย

          ถ้ามันอยู่คงไม่ปล่อยให้คนมายืนกดออดเล่นเเบบนี้หรอก

          ความคิดของคนที่เดินโงนเงนไปหน้าห้องเเบบที่ตายังไม่เปิดดี เพราะถ้ามันอยู่มันคงเดินมาเปิดเรียบร้อยเเล้ว

          แอด..

          "อ่าว พี่เร..."

          "นี่อย่าบอกนะว่ามึงเพิ่งตื่นน่ะไอธีร์!!!!"

          "ห้ะ? ทำไมหรือพี่ วันนี้วันหยุดนี่"ผมตอบกลับไปอย่างงงๆ จริงๆเเค่เปิดประตูมาเจอหน้ารุ่นพี่ลูกครึ่งก็งงเเล้ว ร้อยวันพันปีไม่เคยจะถ่อมาหาถึงห้อง

          "ก็เพราะเป็นวันหยุดนี่ไง! นี่มึงลืมนัดกูหรอวะไอหำน้อย!!"

          นานเเล้วที่พี่เรนไม่ได้เรียกผมว่าไอหำน้อย..

          เดี๋ยวๆ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นนะไอธีร์

          จากท่าทีร้อนรนเหมือนอยากจะเข้ามาขย้ำคอผมเสียตรงนี้จากรุ่นพี่ตรงหน้าที่ฟิดฟัดดันผมเข้ามาในห้องเเล้วปิดประตูเสียงดัง จากนั้นก็พุ่งเข้ามาเขย่าไหล่ผมเเรงๆจนหัวผมสั่น สมองตื้อๆเลยพลันประมวลอย่างช้าๆ ก่อนที่ดวงตาจะเบิกกว้างขึ้นนิดเเล้วพูดได้คำเดียว...

          "ฉิบหาย!!!!!!!"

          "เออ! ฉิบหาย!"พี่เรนว่าย้ำ ก่อนจะยอมปล่อยมือออกจากไหล่ผม ก้มลงไปดูโทรศัพท์ที่สั่นไม่หยุดของตัวเองจากนั้นก็ถอนหายใจหนักๆ

          "เห้ยพี่ผมขอโทษ เดี๋ยวรีบไปอาบน้ำเเต่งตัวแปปนะ"ผมว่ารัวๆ ความรู้สึกผิดเกาะกินจิตใจ ยามมองหน้ารุ่นพี่ที่มักมีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์กำลังขรึมขึ้นเรื่อยๆจนชักขะเห็นออร่าสีทะมึนเเผ่ออกมาอยู่เเล้ว

          หมับ

     
         "ไม่ตอบอาบเเล้ว"

          "ห้ะ?"

          "ไปเปลี่ยนชุด ไวๆ"

          "เห้ยพี่! ขออาบเถอะ สิบ ไม่สิ ห้านาที"

          เมื่อคืนถึงเเม้จะเเค่นั้นเเต่เเน่นอนว่าเหงื่อนี่ออกเป็นลิตร...

          "หำน้อย"

          "ยอมเเล้วครับ"ผมยกมือยอมเเพ้เมื่อสรรพนามที่คุ้นเคยย้อนคืนกลับมา ทั้งสายตาดุๆที่ปรามบอกว่าอย่าดื้อนี่อีก

          พี่เรนในเวอร์ชั่นนี้ไม่ได้เจอตั้งเเต่นาน...

          ผมไม่ยืนพูดให้เสียเวลาอีก จริงๆก็อยากจะพูดอีกหน่อยละว่าให้พี่แกเลิกเรียกผมอย่างนั้นซักทีเเต่พอเจอสายตาที่กดดันมา ผมก็ได้เเต่น้อมรับความผิด  รีบวิ่งเข้าไปเปลี่ยนเสื้อเปลี่ยนกางเกงในห้อง ดีหน่อยที่ขอล้างหน้าแปรงฟันได้ ไม่งั้นไม่อยากนึกสภาพเวลาคุยกับคนอื่น

          คงได้มีโศกนาถกรรมเเน่

          แต่เอาจริงๆตอนเเรกที่ดึงดันจะอาบก็เพราะคิดว่าต้องเหนียวตัวกับเหม็นเหงื่อ เเต่พอตื่นเต็มตาเปลี่ยนเสื้อผ้าก็พบว่าไม่มีทั้งสองอย่าง ทั้งยังได้หลิ่นหอมๆเหมือนแป้งเด็กจากตัวเองอีกต่างหาก

          "พร้อมเเล้วใช่ไหมไอหำน้อย"พี่เรนที่ยืนพิงเคาท์เตอร์ครัวเอ่ยถามทันทีที่ผมเดินออกมาจากห้องน้ำ ซึ่งผมก็พยักหน้าตอบเเล้วเอ่ยท้วง

          "พี่เลิกเรียกผมงั้นเถอะ ถึงที่บ้านมันจะปกติ เเต่ในเมืองมันน่าอายนะพี่"ผมเเทบจะยกมือไหว้ในขณะที่เดินออกมา

          "ถ้าเอาให้ถูกต้องเป็น บักหำน้อยสินะ"พี่เรนว่ากลั้วหัวเราะ มีการยักคิ้วหลิ่วตาให้อีกเป็นหลักฐานว่าอารมณ์พี่เเกกลับมาเป็นปกติเเล้ว ผิดกับเมื่อตอนเเรกที่ทำท่าจะเเดกหัวผมอย่างเดียวเลย

          "เอาที่พี่สบายใจเลย"ผมบอกตัดบทเพราะรู้ตัวว่าพูดไปก็เถียงสู้อีกคนไม่ได้เลยขอยอมเเพ้ตั้งเเต่เเรกเเล้วรีบเดินตามคนที่เมื่อเช้าเร่งยิกๆเเต่ตอนนี้กำลังเดินไปที่บิ๊กไบค์คันใหญ่เเบบที่ผมบอกได้เลยว่าโคตรชิล

          แล้วจะมาเร่งผมทำไมวะครับ!


--------------

          ใช้เวลาไม่นานเลยในการเดินทางมาที่ห้างหรูที่อยู่ไม่ไกล ที่ไม่นานก็เพราะมันใกล้บวกกับความซิ่งที่ยังสงสัยว่าทำไมไม่โดนตำรวจเรียกของพี่เรน

          "ผมคิดว่าจะไม่ถึงซะเเล้ว"

          "หือ?"

          "คิดว่าพี่จะพาผมไปเฝ้ายมบาลก่อนที่จะถึงเนี่ย"ผมพูดเเล้วก็เอามือทาบอก ถึงจะยอมซ้อนอีกฝ่ายหลายรอบเเล้วก็เถอะ เเต่เเบบเหตุการณ์ฝังใจที่ได้ไปนอนหยอดน้ำข้าวต้มมันก็ยังคอยหลอกหลอนผมอยู่นะเฮ้ย

          "อย่าเว่อร์ไอธีร์ อย่างมากก็เเค่พาไปให้นางพยาบาลเฝ้าเเค่นั้นเอง"

          "ทำไมพี่ดูชิลจัง ตอนเช้าเร่งผมเเทบตาย"

          "ก็เพราะมันจะถึงเวลานัดเเล้วไงกูเลยต้องเร่ง เเต่ไหนๆเเม่งก็เลทละ ขอเลทให้คุ้มไปเลยแล้วกัน"ว่าเเล้วก็ตอบหน้าระรื่น ผมนี่ถึงกับส่ายหน้ากับตรรกะประหลาดๆของพี่เรน ก็อย่างที่ผมเคยบอกประเภทพี่เเกนี่เรียกว่าอะไรนะ...อินดี้? ทำนองนี้เลย
     
          "แล้วเอ่อ...คนนัดเขาไม่ด่าพี่หรอ"ผมถามยามที่ก้าวตาแผ่นหลังกว้างของอีกคนไป ซึ่งคนโดนถามจู่ๆก็หยุดเดินกระทันหันส่งให้ผมเกือบจะชน

          "ก็คงด่าเเหละ"แล้วหันมาบอกง่ายๆ

          "เอ้า!"

          ยังไม่ทันได้งงกับความคิดในหัวของรุ่นพี่ร่างสูงไปมากกว่านี้ คนที่หยุดเดินก็ถอยมายืนข้างกันเเทนจากนั้นมือกร้านก็ขยับมากุมมือผมไว้

          ผมเงยหน้ามองอีกคนอย่างงงๆ ซึ่งพี่เรนก็ขยิบตาให้ จากนั้นก็กระชับมือให้เเน่นขึ้นอีกต่างหาก

          ถ้าถามว่าทำไมผมถึงไม่สะบัดทิ้ง บอกได้เลยว่าถ้าจู่ๆพี่เรนมาจับมือนี่มันต้องไม่ปกติเเน่ๆ เพราะร้อยวันพันปีไม่เคยหรอกครับมาเดินกุมมือเหมือนสาวน้อยวัยใสกลัวพลัดหลงกันเเบบนี้เนี่ย

          "อีกชั้นจะถึงเเล้ว ช่วยเนียนๆตามน้ำกันไปหน่อย วันนี้วันสุดท้ายเเล้วนะ"คนตัวสูงก้มลงมากนะซิบเบาๆ ให้ผมพยักหน้ารับเข้าใจทันที อีกนิดเดียวพันธะประหลาดๆระหว่างผมกับพี่เรนก็จะจบเเล้วครับ อีกนิดเดียวเท่านั้น!

          พวกเราขึ้นบรรไดเลื่อนซึ่งเป็นบรรไดเลื่อนชั้นสุดท้ายเเล้ว ใจจริงผมเเอบประหม่าอยู่ไม่น้อย เพราะผมรู้ตัวเองดีว่าโกหกใครไม่เก่ง ถ้าความเเตกขึ้นมาผมน่ะไม่เป็นอะไรหรอกเเต่คนที่จะเเย่คือพี่เรน ทุกวันนี้ผมยังไม่เข้าใจเลยว่าทำไมต้องเป็นผมที่รับบทบาทนี้ทั้งๆที่หน้าตาก็ไม่ได้ดูเหมาะกับพี่เรนเลยซักนิดไม่แปลกที่คนที่ตามตื๊อพี่เรนเขาจะไม่เชื่อ

          หมับ

          เเรงบีบมือจากคนข้างๆทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นไปมอง พี่เรนฉีกยิ้มโชว์เขี้ยวเล็กๆก่อนจะเลิกคิ้วขึ้น ไม่ได้พูดอะไร เเต่เเค่นั้นก็ทำให้คนที่รู้จักกันมานานอย่างผมเข้าใจว่าพี่แกไม่อยากให้กังวล ผมเลยได้เเตายิ้มตอบไป

          พวกเราถึงชั้นที่นัดไว้เรียบร้อยเเล้ว พี่เรนเป็นฝ่ายนำทางไปยังร้านอาหารเเห่งหนึ่งโดยที่ยังคงกุมมือผมไว้ตลอดเวลา

          "กี่ท่านคะ"

          "พอดีมีคนมาจองไว้เเล้วน่ะครับ"พี่เรนตอบพนักงานสาวที่ออกมาต้อนรับตามหน้าที่ ก่อนจะเดินเข้าไปในร้านจนถึงโต๊ะมุมในสุดที่เหมือนตั้งใจสร้างให้มันออกมาอยู่เดี่ยวๆในมุมอับสายตาคน

          "เลทสี่สิบนาที พี่เรนคะ นี่มันเกินไปเเล้ว!"หญิงสาวที่นั่งอยู่หันมาเเหวเสียงดังเมื่อหันมาเจอพี่เรน ผมมองเธอด้วยความอึ้งอยู่พักนึง เธอสวย...สวยมากด้วย เเละหน้าก็คุ้นมาก เธอคงเคยเล่นละครหรือโฆษณามาเเน่ๆ ผมเกือบจะมองเธอสวยเเล้วนะ เเต่พอฟังน้ำเสียงที่หาเรื่องของอีกฝ่ายนี่ชักจะเข้าใจที่พี่เรนเคยเล่าให้ฟัง

          เเต่ที่อึ้งจริงๆคือเธอไม่ได้มาคนเดียวนี่สิ

          "เธอก็พาคนนอกมานะ ใบเตย"พี่เรนปรายตามองคนนอกที่ว่า น้ำเสียงขี้เล่นเปลี่ยนเป็นเย็นเยียบในพริบตา ซึ่งคนนอกคนนั้นก็ได้หาสนใจไม่ฉีกยิ้มการค้าเเล้วเเนะนำตัว

          "ปกป้องครับ เรียกป้องเฉยๆก็ได้ครับ"


          ------ครึ่งแรก-----

อนญาติผ่าเป็นครึ่งๆเพราะตัวอักษรเกินค่ะ  :hao5:

ออฟไลน์ Kiitos

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 45
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Re: Just ' U แค่คุณ ❥ CH.25 #ครึ่งหลัง
«ตอบ #96 เมื่อ20-09-2016 14:08:37 »

 "ไอป้อง!"ผมเรียกชื่อมันด้วยความตกใจ

             เห้ย! นี่มันไม่ตลกเเล้ว! ทำไมไอป้องถึงมากับใบเตยอะไรนี่ได้!

            "ไม่เจอกันนานเลยนะธีร์ ขอบคุณสำหรับการช่วยเหลือครั้งก่อนด้วย"มันว่าเเล้วยกยิ้ม

             ไอปกป้อง หรือป้อง เป็นเพื่อนสมัยเด็กของผม เรียกได้ว่ามาสมัยเดียวกับพี่เรนเนี่ยเเหละ ถ้าจะพูดให้ถูกคือพวกผมเเทบจะโตมาด้วยกันสามคน คือพี่เรน ผมเเละไอป้อง เเต่รู้สึกเหมือนครอบครัวมันจะมีปัญหามันเลยต้องย้ายมาอยู่กรุงเทพตั้งเเต่มอปลายเหมือกับพี่เรน เเต่พี่เรนมาเพราะอยากมาเองอ่ะนะ เลยแยกกันไปอยู่คนละที่

               ถึงตอนนี้จะพอรู้ว่ามันอยู่มหาลัยเดียวกับผม เเต่กลับไม่เคยเจอหน้ากันเลยซักครั้ง เบอร์ติดต่อก็ไม่มีเพราะมันเปลี่ยนเบอร์บ่อยยิ่งกว่ารองเท้าเสียอีก

               "อะ อืม ไม่เจอกันนานเลย"ผมตอบมันอย่างประหม่าเล็กน้อย เกือบจะหลุดหลบตามันเเล้วด้วยถ้าพี่เรนไม่กระตุกมือผมให้เข้าไปนั่งก่อน

               "นี่ป้องรู้จักกับเอิ่ม..แฟนเรนด้วยหรอ"คราวนี้ผู้หญิงเพียงคนเดียวหันถามไอป้องที่นั่งอยู่ข้างๆอย่างสงสัยแต่ตอนพูดคำว่าแฟนนี่ทำท่ากระอั่กกระอ่วนใจน่าดู ซึ่งไอป้องก็ยิ้มตอบง่ายๆ

               "ครับ เพื่อนเก่าน่ะ"

               "งั้นก็ดีเลย เอ่อ..คุณตรงนั้นน่ะ"

               "ผมหรอครับ?"ผมชี้เข้าหาตัวเองอย่างงงๆ เมื่อจู่ๆใบเตย..เอ่อ พี่ใบเตยล่ะมั้งก็หันมาบอกพร้อมรอยยิ้มหวานเจี๊ยบ ซึ่งพี่เขาก็พยักหน้าเป็นคำตอบ

               จะโดนอะไรไหมวะเนี่ย

               "ช่วยเรียกพนักงานให้หน่อยสิ ยังไม่ได้กินอะไรไม่ใช่หรอ"สาวสวยยังคงส่งยิ้มบางไร้พิษสงมาให้ แอบให้ผมโล่งอกโล่งใจขึ้นมานิด คิดว่าจะโดนเเบบในละครพวกนางร้ายที่ชอบกลั่นเเกล้งคนอะไรอย่างนี้ พอได้ยินเเละท่าทางของคนด้านหน้าผมก็ทำให้ผมผ่อนคลายขึ้นมาหน่อย เเล้วชะโงกหัวไปออกไปเพื่อเรียกพนักงาน..

               "พี่ครับๆ!!"ผมเรียกเสียงค่อนข้างดังเพราะาอย่างที่บอกว่าโต๊ะนี้เเม่งโคตรถูกสร้างออกมาเหม่อนอยู่คนละโลกกับด้านหน้า เเถมเเถวนี่ยังไม่มีพนักงง่นคอยเดินอีกต่างหาก พอเรียกออกไปเสียงดังก็ยังไม่มีใครได้ยิน เลยกะจะลุกไปตามมาเเต่ดันมีเสียงหัวเราะเเหลมเล็กของผู้หญิงเพียงคนเดียวในโต๊ะขัดขึ้นก่อน

               "คิกๆๆๆ"

               พี่ใบเตยหัวเราะคิกคักเหมือนขำมาก มือเล็กถูกนำขึ้นป้องปากอย่างมีท่าให้ผมต้องหันมองอย่างงงๆ

               ขำอะไรวะ นี่เจ๊เเกประสาทรึเปล่า อยู่ๆก็ขำ

               "เฮ้อ"พี่เรนก็ถอนหายใจออกมาเเล้วกระตุกมือผมให้กลับไปนั่งดีๆ ผมก็ได้เเต่ทำหน้างงหันไปหาพี่เรนด้วยความสงสัย แต่รุ่นพี่ที่พ่วงตำเเหน่งเเฟนหนุ่มยังไม่ทันจะได้เปิดปากตอบอะไร คนที่หัวเราะอยู่ก็พูดขึ้นมาก่อน

             "ธีร์ไม่เคยมาร้านหรูๆเเบบนี้สินะ เขามีปุ่มให้กดเรียกพนักงานอยู่น่ะ คิกๆ"

               อ้อ ที่เเท้ก็อย่างนี้ แล้วมันขำตรงไหนวะ

               พอเขาเฉลยผมก็ไม่เข้าใจอยู่ดีเลยหันไปทำหน้างงๆให้พี่เรนที่ยกยิ้มขึ้นเเต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร

               "นี่ครั้งเเรกเลยครับ แล้วปุ่มอยู่ไหนอ่ะ"ผมก็ไม่รู้จะทำไงได้เเต่เกาหัวเเกรกๆยิ้มอย่างเขินๆเเล้วหันไปถามพี่สาวคนนั้น

               จบคำถามทั้งโต๊ะก็ตกอยู่ในความเงียบทันที จู่ๆพี่คนสวยที่นั่งขำเหมือนคนบ้าก็ชะงักกึกเเล้วนิ่งไปเลยไม่ตอบคำถามผมด้วย

               "หึ"

               "?"เสียงหัวเราะเบาๆจากพี่เรนทำให้ผมต้องหันมาทำหน้าสงสัยใส่พี่แกอีกรอบ นี่จะไม่มีใครคิดจะพูดกับผมจริงๆหรอวะ ผมทำอะไรผิดอีกวะเนี่ย

               "ขอโทษๆ เดี๋ยวพี่กดเอง มันอยู่ด้านในน่ะ"หนุ่มลูกครึ่งโบกมือสูดหายใจเข้าลึกๆเพื่อกลั้นขำก่อนจะบอกผมเเล้วชี้ไปยังปุ่มเเถวๆที่วางเมนู

               "เจ๋งว่ะ เพิ่งเคยเจอร้านอย่างนี้ครั้งเเรกเลย"ผมพูดไปตามที่คิด พอพี่เรนกด มันก็ไม่ได้มีเสียงอะไรนะเเต่ผมว่าอีกไม่นานพนักงานก็คงมา

               "ก็คงเเน่ล่ะค่ะ อย่างธีร์นี่คงเคยกินเเต่ร้านข้างทางใช่ไหมล่ะคะ"เสียงหวานใสดังขึ้นมาอีกหน ทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นไปสบตากับดวงตากลมที่ถูกเเต่งเเต้มไปด้วยเครื่องสำอางค์

               "หือ พี่รู้ได้ไงอ่ะ พี่เรนเคยเล่าหรอครับ"ผมถามอย่างสงสัย นี่ผมสงสัยจริงๆนะ เเต่พอผมตอบไปเท่านั้นเเหละ คนถามก็นิ่งไปเลย เเถมไอคนข้างๆผมก็กำลังกลั้นขำอย่างสุดกำลัง ขนาดไอป้องยังอมยิ้มเลยอ่ะ

               แต่ไม่ทันที่หญิงสาวจะได้โต้ตอบอะไรพนักงานก็เดินมาซะก่อน เอ่ยประโยคคลาสสิคให้ผมหันไปหาพี่เรนอีกรอบ

               "รับอะไรดีครับ"

               "เอ้า เมนู"

               ผมรับเมนูมาจากพี่เรนก่อนจะเปิดดู ไล่สายตาไปทั่วเเต่ก็ต้องขมวดคิ้วหนัก

               "ธีร์อ่านออกไหมเนี่ย ให้เตยช่วยเเนะนำให้ไหม"

               หืม...ที่จริงก็ดูใจดีออก ทำไมพี่เรนถึงอยากเลี่ยงขนาดนี้วะ

               ผมเงยหน้าไปมองคนถามอีกรอบกับความคิดที่ว่าอีกฝ่ายก็ไม่ได้เเย่อะไร เเถมท่าทางจะเข้าอกเข้าใจผมดีด้วย ผมเลยเผยยิ้มรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมากเลย
คิดว่าจะโดนด่าหนักๆเเรงๆซะอีก

               "ฮื่อ อ่านไม่ออกอ่ะครับ ทำไมมีเเต่ภาษาอังกฤษเนี่ย เเต่ไม่รบกวนพี่เตยดีกว่า พี่เรนๆ ช่วยผมหน่อย"ผมส่ายหน้าอย่างยอมรับ เเต่มันเเอบหน้าอายนิดหน่อยที่ผมง่อยภาษาอังกฤษ เลยปฏิเสธเเล้วสะกิดรุ่นพี่ข้างกายเเทนซึ่งพี่เรนก็ยิ้มเเล้วเอาเมนูในมือตัวเองไปเก็บ

               "ไหนๆ อยากกินอะไรล่ะ"ว่าเเล้วก็ชะโงกหน้ามาดูเมนูด้วยกัน ส่งให้ผมต้องยื่นมือไปกางเมนูให้อยู่ระหว่างเรา เเต่ถึงอย่างนั้นเมนูของที่นี่ก็มาเป็นเล่มๆไม่ใช่แผ่นพับมันเลยกางมากไม่ได้ต้องสุมหัวเเบบที่เเทบจะกินหัวกันได้เเล้วเเทนเนี่ยเเหละ

               "ไม่รู้ว่ะ ทำไมในรูปมันดูน้อยมากเลยอ่ะ จะอิ่มหรือวะพี่ ราคาเท่านี้นี่ซักส้มตำได้หลายมื้อเลยนะ"ว่าเเล้วก็กลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก

               ไอจานกว้างๆที่มีอาหารอยู่ประมาณหนึ่งส่วนสิบของจานนี่มันจะไปอิ่มอะไร ไม่เข้าใจพวกคนรวยจริงๆ ราคาก็เเพงได้มาเเค่นั้น เเถมส่วนมากทำเพื่อความสวยงามด้วย บางอันก็แปะๆมากินได้รึเลป่าก็ไม่รู้

               "ทำใจว่ะ ร้านเเบบนี้มันก็เเบบนี้เเหละ เอางี้ให้พี่สั่งให้โอเคไหม"

               ผมเกือบจะพยักหน้ารับเเล้ว เเต่ดันมีความคิดนึงผุดขึ้นมาในหัวซะก่อน

               "เดี๋ยวนะ เเล้วใครจ่าย"

               ถ้าออกเองนี่ไม่ไหวนะ เสียดายตังตายเลย

               "ถามมาได้ ก็พี่สิ"

               คำตอบที่ได้ทำให้ผมถอนหายใจอย่างโล่งอก เเต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ...

               "เเต่มันเเพงมาก..."

               "เลี้ยงเเฟนคนเดียวจะเป็นไรไป เลี้ยงมาขนาดนี้เเล้วเพิ่งมานึกเกรงใจรึไง"พี่เรนเลิกคิ้วถามส่งมือมาขยี้หัวผม ผมก็ปล่อยให้พี่เเกทำไปส่วนสมองก็กำลังคิดตาม

               เออว่ะ ตลอดมาพี่เเกก็เลี้ยงตลอดนี่หว่า ฉะนั้น...

               "หูย งั้นไม่เกรงใจเเล้วนะ"

               "พี่เรนคะ!"

               "หืม ว่าไงเตย"ร่างสูงละมือออกจากหัวผมเปลี่ยนมาโอบไหล่เเบบเนียน ผมเองก็ปล่อยไปตามน้ำ ที่จริงเเล้วการสกินชิฟเเบบนี้มันค่อนข้างเป็นเรื่องปกติไปแล้วสำหรับผมกับพี่เรนน่ะนะ

               "คะ คือเตยว่า.."

               "ว่า?"

               "รีบสั่งอาหารเถอะครับ พนักงานรอนานเเล้วนะ"คนที่เงียบมานานอย่างป้องพูดขึ้นขัด ให้ผมได้หันไปมองพี่พนังงานที่ส่งยิ้มแห้งๆมาให้อยู่

               "รีบสั่งเถอะพี่"

               "งั้นก็เอา..."



               หลังจากที่สั่งอาหารไปเรียบร้อย จนอาหารมาเสิร์ฟ จนกระทั่งกินจนหมด ผมกับพี่เรนเเทบจะเป็นสองคนที่คุยกัน ส่วนเจ๊คนนั้นก็มีเเทรกบ้างเเต่ก็พอผมตอบกลับไปก็จะหยิ่งไม่ยอมคุยต่อ เเถมยังทำท่าหงุดหงิดอย่างปิดไม่อยู่ เเต่ก็นะ...ถึงจะไม่เข้าใจเเต่ก็ไม่ใช่เรื่องของผมอยู่ดี

               "งั้นมาเข้าธุระกันดีกว่าค่ะ เสียเวลามามากเเล้ว"

               อันนี้เเอบรู้สึกผิดนิดนึงนะ เเบบว่าผมกับพี่เรนมาเลทเกือบชั่วโมงไง เขาก็เลยกินกันไปก่อนเเล้ว พอพวกผมมาก็มานั่งรอผมกินเสร็จอีก เเต่คือผมไม่เข้าใจว่าทำไมไม่คุยไปกินไป หรือไม่ก็คุยกันให้จบๆตั้งเเต่เเรก อาหารอะไรเนี่ยก็เเพ๊งเเพงเเถมลิ้นผมก็ไม่ถูกกับของเเพงๆสักเท่าไหร่ด้วย

               "เตยต้องการอะไรจากพี่อีก นี่พี่ก็เอาเเฟนพี่มายืนยันตัวตนเเล้วนี่ไง"

               "ยังไงเตยก็ไม่เชื่อค่ะ จนกว่าจะได้ยืนยันด้วยตัวเอง”หญิงสาวกอดอกพูดอย่างมั่นใจ แถมยังปรายตามามองผมด้วยความเป็นไม่เป็นมิตรอย่างชัดเจนผิดกับลุคนางฟ้าที่ผมเห็นตอนแรกลิบลับ

               แถมยังมองผมตั้งแต่หัวไล่ลงมาแล้วเหยียดยิ้มอีก

               อ่า นี่นะหรือตัวจริงของเขานะ ผมนี่ไม่ถนัดเรื่องการมองคนจริงๆด้วยแฮะ

               “เฮ้อ แล้วจะให้พี่ทำยังไง”พี่เรนทำสีหน้าเบื่อหน่ายออกมาอย่างเห็นได้ชัด ถอนหายใจออกอย่างปลงๆให้หญิงสาวเพียงคนเดียวยกยิ้ม

          “หอมแก้มเขา ถ้าเป็นแฟนกันก็คงทำ...”

               ฟอด!

               “พี่เรน!”

               “อะไรครับ พี่ก็ทำแล้วนี่ไง”

               พอหนุ่มลูกครึ่งหันไปถามด้วยเสียงเหนื่อยๆเบื่อ ผมเองก็ตกใจเล็กน้อยที่จู่ๆพี่เรนก็ดึงผมเข้าไปแล้วกดจมูกลงมาที่แก้มแรงๆ ให้ผมต้องเบิกตากว้างแล้วยกมือขึ้นมากุมแก้มอัตโนมัติ คือผมบอกแล้วว่าการสกินชิฟสำหรับเรามันคือเรื่องปกติแต่พอกระทันหันแบบนี้ผมก็ตกใจนะ

               ซึ่งการที่พี่เรนทำได้ง่ายแถมโคตรเป็นธรรมชาติ กอปรกับที่ผมไม่ปฏิเสธก็ทำเอาเจ๊แกตาลุกเป็นไฟหนักกว่าเก่า ส่งเสียงฮึดฮัดให้ผมได้แต่ยิ้มแห้งไม่เข้าใจผู้หญิงเลยจริงๆ

               “ถ้าไม่พอเอาอีกก็ได้นะ”

               “พอ! พอแล้วค่ะ เตย..เตยเชื่อ..”

               “จูบให้ดูหน่อยสิครับ"

                   อีกนิดเดียวเท่านั้นที่หญิงสาวที่ไม่สามารถทนดูภาพบาดตาไปได้มากกว่านี้จะกัดปากพูดคำที่พี่เรนรอคอย หากแต่ก็มีมารตัวเป้งที่ตั้งแต่เข้ามายัไม่รู้เลยว่ามายังไง มาได้ไง แล้วมาเพื่อจุดประสงค์ใด

               “ป้อง พี่..”ใบเตยเอ่ยชื่อรุ่นน้องข้างกายอย่างแผ่วเบา ยื่นมือไปกระตุกเสื้ออีกฝ่ายหน่อยๆแล้วส่ายหน้าเหมือนไม่ต้องการเห็นอะไรไปมากกว่านี้แล้ว

               “ผมบอกแล้วไงว่าผมจะช่วยพี่ ฉะนั้น...ช่วยดูหน่อยนะครับ ถ้าแฟนกันเรื่องพวกนี้ก็น่าจะเป็นเรื่องปกติไม่ใช่หรือ”

               “แต่นี่มันที่สารธารณะนะไอป้อง”คราวนี้ผมเป็นฝ่ายเอ่ยปาก คิ้วขมวดเข้าหากันอัตโนมัติ หอมแก้มยังพอรับได้แต่จูบนี่มัน...

               “ธีร์”

               พี่เรนเรียกผมเสียงแผ่วพร้อมกระชับมือผมที่จับไว้ใต้โต๊ะเบาๆ ส่งให้ผมต้องหันไปหา ก็พบกับใบหนาคมที่เลื่อนเข้ามาใกล้จนสัมผัสได้ถึงลงหายใจอุ่นๆพร้อมคำกะซิบเบาๆให้ผมกลืนน้ำลายลงคอแล้วหลับตาลง

               “แค่แตะก็พอ”

                จุ๊บ

               เสี้ยววิที่ริมฝีปากแตะกันก่อนที่จะผละออกไปโดยมีสายตาคู่หนึ่งจ้องมาราวกับกำลังวิเคราะห์ ซึ่งนั่น...ผมไม่อยากจะคิดเลย

                ป้องเป็นคนฉลาด เขามักมีแผนการต่างๆอยู่ในหัวเสมอ ตอนที่พี่เรนมาบอกว่าเงินที่เขายืมผมไปนั้นถูกเอาไปปลดหนี้พนันบอลที่อีกฝ่ายไปก่อไว้ ตอนนั้นผมไม่เชื่อ..ที่จริงตอนนี้ผมก็ยังไม่เชื่อ ยังไงเราก็เป็นเพื่อนเก่าเพื่อนแก่กันมา หรืออาจจะเป็นเพราะผมมองคนไม่ออกหรือมองโลกในแง่ดีเกินไปก็ได้ ทุกวันนี้ผมเลยยังนับมันเป็นเพื่อนทั้งๆที่มันไม่

               พี่เรนเป็นคนทิฐิแรงไม่เหมือนกับผมที่อะไรปล่อยได้ก็ปล่อยไป และถึงแม้พี่เรนจะเป็นคนขี้เล่น ดูไม่จริงจัง แต่ถ้าเกลียดใครแล้วคนนั้นแม่งไม่มีทางที่จะกลับมาคุยกันได้อีก

               เพราะฉะนั้นตอนนี้พี่เรนก็แทบจะกลายร่างเป็นยักษ์เข้าไปขย้ำคอไอป้องอยู่แล้ว แค่มันมานั่งเฉยๆพี่เขาก็เหม็นขี้หน้าจะแย่ยิ่งมาทำอะไรๆให้มันยากขึ้นไปอีกก็ไม่แปลกที่พี่เรนจะฉุนหนักกว่าเก่า

               ปกป้องมองมายังผมกับพี่เรนนิ่งๆเหมือนกำลังใช้ความคิด ก่อนจะเอ่ยขึ้นมาเสียงเรียบ

               “ใช้ลิ้นด้วย”

               “ไอปกป้อง!!!!”

               “ว้าย!!”

               “พี่เรน! ใจเย็นพี่!”ผมผวาไปคว้าตัวพี่เรนไว้แทบไม่ทันเมื่อรุ่นพี่ตัวสูงเอ่ยชื่ออีกคนออกมาเสียงดังจากนั้นก็ถลาไปคว้าคอเสื้อของไอป้อง ทั้งยังเงื้อหมัดขึ้นสูงและคงจะออกหมัดไปในไม่ช้าหากผมไปรั้งไว้ไม่ทัน

               “มึงเจอกูแน่”พี่เรนยอมละมือ หากแต่ไม่วายชี้หน้าอีกคนทิ้งท้าย บอกตรงๆผมไม่ชินกับพี่เรนแบบนี้เลยว่ะ

               แต่คนที่เกือบถูกต่อยกลับแค่นยิ้มให้ แล้วหันไปบอกหญิงสาวข้างกายที่ทนั่งหน้าเหลอหลาไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นแทน

               “ถ้าทำไม่ได้ก็อย่าเชื่อเลยครับพี่ใบเตย ผมรู้จักสองคนนี้มาตั้งแต่เด็ก แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะเป็นมากกว่าพี่น้อง”

               “จะ จริงหรือป้อง”เธอถามกลับด้วยความไม่แน่ใจ ตอนแรกเธอตัดใจไปตั้งแต่เขาหอมแก้มกันแล้ว แต่พอคนที่รู้จักกันมานานว่าอย่างนั้นเธอเองก็คงอดรู้สึกมีหวังขึ้นมาไม่ได้

               “จริงสิครับ”

               “ถ้าจูบแล้วจะยอมเชื่อใช่ไหม ทั้งมึงไอป้อง แล้วก็ใบเตย”

               อย่าบอกนะว่าพี่เรนคิดจะทำจริงนะ!

               “ครับ ถ้าทำได้ผมจะเชื่อ”

               “พี่...”ผมตั้งใจจะท้วง เพราะจูบแบบปากแตะปากผมกับพี่เรนน่ะเคยๆกันมาแล้วแต่ให้แลกลิ้นนี่คงไม่ไหวว่ะ อีกอย่างตอนนี้ผมมีแฟนเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้วด้วยจะให้ทำแบบนี้มัน...

               “ครั้งเดียว ขอครั้งเดียวนะธีร์”แต่พอพี่เรนหันมาพูดเสียงแผ่ว ด้วยสายตาราวกับขอร้องผมก็ได้แต่เก็บคำทักท้วงไว้ในใจ ถ้าเทียบกับสิ่งที่พี่เรนทำให้ผมมาตลอดแล้วแค่เสียจูบครั้งเดียวมันเล็กน้อยมาก
ฉะนั้นผมจึงพยักหน้าแล้วยอมหลับตาลง

               สองมือกร้านประคองหน้าผมไว้ให้เงยขึ้น ผมสัมผัสได้ว่าใบหน้าอีกคนกำลังเคลื่อนเข้ามาใกล้จนผมหน้าร้อนวูบ สัมผัสอุ่นๆประทับลงมาที่ริมฝีปากก่อนที่ผมจะสัมผัสได้ถึงลิ้นชื้นที่พยายามจะสอดแทรกเข้ามาแต่...

               ผมทำไมได้

               ผมทำใจอ้าปากรับลิ้นคนอื่นเข้ามาไม่ได้ จู่ๆหน้าของไอฝรั่งก็โผล่ขึ้นมาในหัวจนผมร้อนวูบๆในอก

               พี่เรนค้างอยู่ค่อนข้างนานเพราผมไม่ยอมเปิดปาก จริงๆผมก็อยากจะดิ้นหนีถ้าไม่ติดว่ามือทั้งสองข้างของอีกคนกำลังกุมใบหน้าผมแน่นทั้ยังเริ่มออกแรงบีบให้ผมอ้าปาก

                ผมรู้ว่ายิ่งผมขัดขืนพี่เรนก็จะลำบาก ทั้งสถานการณ์น่าอึดอัดแบบนี้จะดำเนินต่อไปเรื่อยๆแทนที่จะทำให้จบๆแต่...ผมทำไม่ได้

               “อื้อ!”

               แต่ในที่สุดผมก็สู้แรงบีบที่เพิ่มขึ้นมากเรื่อยๆไม่ได้ จนต้องยอมอ้าปากออก เบิกตากว้างอย่างตกใจ มือพยายามจะผลักอีกคนออกแต่ด้วยความที่แรงผมกับพี่เรนมันต่างกันมากเกินไปทำให้ผมหมดแรงที่จะขัดขืน ขอบตาเริ่มร้อนผ่าวๆเหมือนจะปล่อยโฮออกมาอย่างไม่เข้าใจตัวเอง

               แต่ดีที่รุ่นพี่จะเข้าใจผมเพราะเพียงไม่นานก็รีบผละออกไป ก่อนจะหันไปบอกชายหญิงที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเสียงนิ่ง

               “พอใจแล้วใช่ไหม ต่อจากนี้ไม่ต้องติดต่อมาอีก”

               จากนั้นก็ฉุดให้ผมลุกขึ้น ผมที่มึนๆงงๆน้ำตาซึมๆให้ลุกขึ้นแล้วดันให้เดิน หากแต่เพียงแค่ลุกแล้วหมุนตัวเพื่อจะออกจากที่นี่ก็แทบจะลืมหายใจ

               “ไอ..หมีควาย..”

               มัน...มาตั้งแต่เมื่อไหร่

               ผมครางชื่ออีกคนออกมาเหมือนคนจิตหลุด ร่างสูงใหญ่ของผู้ชายชาวตะวันตกตรงหน้าผมคือไอหมีควายไม่ผิดแน่ ผมไม่รู้ว่าตัวเองควรจะพูดหรือทำอะไรในสถานการณ์แบบนี้ ยิ่งอีกคนมองมาด้วยสีหน้าอึ้งไม่ต่างจากผม

               แต่เพียงไม่นานมันก็ปรับสีหนากลับมาเป็นปกติแล้วก็...ยิ้ม

               เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกอึดอัดกับรอยยิ้มของมัน ได้แต่หวังว่ามันจะพูดอะไรออกมาบ้าง

               สักคำก็ยังดี...

               แต่มันก็ไม่พูดอะไร เพียงแค่ยิ้มแล้วหันหลังกลับเดินออกจากร้านไป

               ผมช็อก ใจผมอยากจะก้าวเท้าวิ่งตามมันไปแล้วบอกมันว่าทุกอย่างเป็นเรื่องเข้าใจผิด แต่อีกใจมันกลับบอกว่าคำพูดของผมมันก็เป็นได้แค่คำแก้ตัว เพราะทุกอย่างเมื่อกี้มันคือเรื่องจริง มันคือสิ่งที่มันเห็นไปกับตา

               ผมเป็นคนไม่คิดมากหรือไม่คิดเลย

               นั่นเป็นสิ่งที่ผมพร่ำบอกตัวเองและคนอื่น แต่ตอนนี้ผมกำลังรู้สึกหมดแรงไปชั่วขณะ เกือบจะทรุดลงไปกับพื้นแล้วถ้าไม่มีพี่เรนที่คว้าดึงเอาแขนผมเอาไว้แล้วรีบพาออกมาจากร้านนั้นไป

               ผมไม่รู้ว่าตัวเองก้าวมาถึงไหน เดินมาไกลเท่าไหร่ พี่เรนพูดกับผมว่ายังไง เพราะตอนนี้สมองผมที่ไม่ค่อยได้ใช้มันกำลังแล่นเร็วจี๋เพื่อหาทางออกสำหรับเรื่องนี้ แต่ท่าทางสมองที่มีดีแค่เรื่องเรียนจะช่วยอะไรไม่ได้ ยิ่งตอนนี้มันตื้อไปหมด

               ขอบตาผมร้อนผ่าว และไม่นานน้ำตาก็ไหลออกมาราวกับเขื่อนแตก..

               ทางเดียวที่มีอยู่ตอนนี้...   

               ผมหยุดเดิน สะบัดมือพี่เรนออก จากนั้นก็ออกตัววิ่งออกมามองซ้ายขวาเพื่อหาใครอีกคน

               ผมต้องอธิบาย ผมต้องไปอธิบายให้มันเข้าใจ

               “มึง!”ผมวิ่งไปหาคนร่างสูงกระชากแขนอีกฝ่ายแรงๆ

               “เอ่อ...มีอะไร..”

               ไม่ใช่! นี่ไม่ใช่มัน!

               “ฮึก”ผมพยายามกั้นก้อนสะอื้นที่อยู่ตรงคอ ตาผมพร่าไปหมดเพราะน้ำตาจนมองใครไม่ชัด ใครตัวสูงใหญ่หน่อยก็เขาไปทักแต่มันไม่ใช่...

               ตอนนี้เลยได้แต่ทรุดตัวลงไปนั่งพิงกำแพงหน้าร้านอะไรสักอย่างเมื่อรู้ตัวว่าตอนนี้ทำอะไรไม่ได้ น้ำตาก็ทะลักออกมาอย่าหยุดไม่อยู่ ได้แต่ก้มหน้าซุกลงตรงหัวเข่าพื่อปกปิดใบหน้าที่เปื้อนน้ำตานี่

               “ธีร์”

                “มะ...พี่เรน..”ผมรีบเงยหน้าขึ้นไปทันทีเมื่อได้ยินคนเรียกอย่างมีความหวัง หากแต่คนที่ยืนค้ำหัวผมอยู่กลับไม่ใช่คนที่ผมหวัง

               “เพราะพี่...ฮึก..เพราะพี่”

               “อือ เพราะพี่เองธีร์ เพราะฉะนั้นพี่จะรับผิดชอบเรื่องนี้มึงไม่ต้องห่วงนะ”

               “พี่ก็พูดได้ ฮึก มัน..ฮือ อาจจะไม่เชื่อใจผมอีกแล้ว ฮือออ”ผมไม่รู้อะไรทั้งนั้นนาทีนี้ ไม่สนว่าตัวเองกำลังโยนความผิดให้คนอื่น

               รุ่นพี่ตัวสูงไม่ได้พูดอะไรอีก เพียงแค่ทรุดตัวลงนั่งข้างๆเป็นเพื่อนแล้วส่งมือมาลูบหัวผมเบาๆ
 
               “ลองมันไม่เชื่อสิ พี่จะไปตั๊นหน้ามัน”

               “พี่!”

               “โอเคๆ พี่ไม่ทำอะไรผัวมึงหรอก”

               “ฮึก ฮืออ”

               “ร้องให้หมดนะธีร์ ร้องจนกว่าจะสบายใจ แล้วค่อยมาตั้งสติค่อยๆคิดหาทางออก”

               คนเป็นพี่ว่าอย่างนั้นด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง พร้อมกับความคิดที่ว่า..

               ท่าทางเรื่องนี้เขาจะต้องเป็นคนไปเคลียร์  ยังไงนี่มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญเเน่ๆ







ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
 :mew2:

พี่หมีจะตามร้านมาถูกได้ยังไง ใครบอก? หรือพี่หมีตาม gps หนูธีร์มา? หรือว่ารู้จักกับออสติน? ไม่มั้งงงงงงงง :a5:


ปกป้องนี่ใครวะ ห๊ะ จุ้นจริงๆ อย่าวุ่นวายชีวิตธีร์เลย ไม่งั้นคงไม่พ้นบาทาพี่เรนกับออสติน  :fire:

Y Y อยากให้ออสตินฟังพี่เรนอธิบายนะๆ ให้ชกหน้าพี่เรนทีนึงเลยเอ้า หนูธีร์ไม่ผิดนะงานนี้ :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3:


ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
แผนปกป้องป่าว???

ออฟไลน์ ป้ากิ่งkingkarn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ธีร์สู้ๆลูก #ทีมธีร์กะพี่หมี

 :z6: :beat:ไอ่3ตัวชอบสร้างปัญหา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Kiitos

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 45
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Re: Just ' U แค่คุณ ❥ CH.26
«ตอบ #100 เมื่อ22-09-2016 19:34:44 »

Chapter 26
| Understood

Darren's part

          หลังจากนั่งรอให้ไอธีร์ร้องไห้จนน้ำตาหมด กว่ามันจะหยุดได้ก็ปาไปเป็นชั่วโมง ผมถึงกับต้องถอนหายใจหนักๆ

          มันก็จริงอย่างที่ธีร์ว่า จริงๆทั้งหมดมันก็เป็นความผิดเเละความเห็นแก่ตัวของผมนั่นเเหละครับ

          "ดูไม่ได้เลยนะ"ผมพึมพำยามที่เหลือบตาไปมองคนที่ร้องไห้หนัก หนักขนาดที่ว่าร้องจนหลับมาซบอย่างนี้ ดวงตาที่ปิดสนิทตอนนี้บวมเป่ง หน้ามันยังมีคราบน้ำตาอยู่เลย

          ผมเคยเห็นธีร์ร้องไห้หนักๆครั้งล่าสุดตอนป.2ได้ละมั้ง ตอนที่หมามันตาย 

          ที่เขาว่ากันว่าคนที่ปกติดูร่าเริงเวลาร้องไห้จะน่าสงสารมาก

          สภาพธีร์ตอนนี้เป็นอย่างนั้นเลยล่ะ

          วินาทีที่ผมหันไปเจอไอฝรั่งนั้นมองมา ผมยอมรับเลยว่าตกใจไม่เเพ้ธีร์เลยล่ะ เเต่จะให้พูดอะไรตอนนั้นมากก็ไม่ได้เพราะไอป้องกับใบเตยมองอยู่ใจตอนนั้นก็กลัวว่าไอฝรั่งร่างใหญ่นั่นจะบุ่มบ่ามทำอะไรเเต่สุดท้ายมันก็เเค่ยิ้ม ธีร์เองก็ดูช็อคไปแล้วด้วย เลยได้เเต่รีบพาอีกคนที่ตัวเเข็งทื่อออกไปจากตรงนั้นเเล้วค่อยว่ากันอีกที

          ตอนเเรกก็กะจะมาหาทางออกกับไอเด็กข้างตัวนี่ทีหลัง เเต่มันกลับทำหน้าเหมือนสติหลุดไปแล้วทั้งน้ำตายังไหลพรากอย่างที่ตอนที่หันไปเห็นนี่ผมยังตกใจ

          และเพราะธีร์ร้องไห้ยาก ผมเองก็จนปัญญาที่จะปลอบจริงๆ

          ถึงธีร์จะไม่บอกว่าเป็นความผิดผม ผมก็คิดว่าตัวเองต้องรับผิดชอบอยู่เเล้วล่ะ อีกอย่างเรื่องนี้มันเเปลกเกินไป

          "ธีร์ ไปนอนที่ห้องดีกว่าไหม"ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง สะกิดคนข้างๆเบาๆซึ่งอีกฝ่ายก็ฝืนลืมตาขึ้นมาช้าๆก่อนจะพยักหน้า

          ผมช่วยประคองเขาให้ลุกขึ้นก่อนจะเรียกเเท็กซี่ให้ไปส่งเขาที่คอนโดเขาซึ่งผมก็ไปด้วยนะ มอไซค์'ผมไว้ทีหลังละกันค่อยกลับมาเอาก็ยังไม่สาย ถ้าปล่อยอีกฝ่ายไปคนเดียวกลัวจะล้มพับไปก่อนน่ะสิ เเถมจะให้ซ้อนมอไซค์ผมไปก็คงไม่มีสติพอจะทรงตัวเเล้วนั่น

          ผมไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ถึงได้ร้องไห้โฮออกมาเหมือนเด็กที่ทำอะไรไม่ถูกก็ร้องไห้ออกมาเเบบนั้น เเต่หลังจากที่ตามมาเจอก็พอเข้าใจขึ้นมานิดหน่อยล่ะนะ

          'พี่ ฮึก ก็พูดได้สิ ถ้ามันไม่เชื่อใจอีกเเล้ว จะทำยังไง'

          คำพูดของธีร์ลอยเข้ามาในหัว ถึงรู้ว่ามันไม่ใช่เวลามาดีใจเเต่ก็อดยกยิ้มขึ้นมานิดไม่ได้เมื่อรู้สึกว่า...เด็กน้อยที่ผมเคยรู้จักเริ่มเปลี่ยนไปเเล้ว

          ซึ่งเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นซะด้วย อย่างที่รู้กันคือผมกับธีร์เเทบจะโตมาด้วยกัน เห็นกันมาตั้งเเต่ปิกาจูเท่านิ้วก้อย ผมมองเขาเป็นน้องชายคนนึง ผมเอ็นดูเขา ผมชอบนิสัยของเขานะ จะว่าซื่อก็ซื่อ เเต่บางครั้งมันก็เป็นดาบสองคม

          ถ้ามองในเเง่บวก เขาคือคนไม่คิดมาก อะไรปลงได้ก็ปลง มองโลกในเเง่บวกสุดๆ
 
          แต่ถ้ามองในเเง่ลบ เขาคือคนที่ไม่ค่อยใส่ใจคนอื่นนัก จะว่าใส่ใจก็ในระดับหนึ่งเเต่ที่เห็นชัดๆเลยว่าความจำเรื่องอื่นของเขานอกจากเรื่องเรียนมันเเย่มาก เขามักลืมนัดของคนอื่นเสมอ

          เหตุผลที่ผมเลือกธีร์มาช่วยเป็นเเฟนหลอกๆนี่น่ะก็เพราะนิสัยพื้นฐานเขานี่เเหละ ใบเตยเป็นผู้หญิงร้ายกาจ เเต่ไม่น่ากลัว เธอทำได้อย่างมากก็พูดเหยียดไม่กล้าทำร้ายอะไรใครหรอก ดังนั้นผมเลยวางใจ ให้ธีร์ที่ไม่เคยคิดอะไรซับซ้อนมารับบทนี้
ก็ดูอย่างเหตุการณ์วันนี้สิ ไอนี่มันรู้สึกอะไรที่ไหนกัน ใครพูดยังไงมามันก็หมายความอย่างนั้น ไม่คิดมากไม่แปลอะไรซับซ้อนกว่านั้นหรอก ฉะนั้นการด่าเหยียดๆเเบบที่ผู้หญิงชอบทำมันไม่มีผลกับคนซื่ออย่างธีร์หรอก

          เเต่ตอนนี้ธีร์กำลังไม่เป็นตัวของตัวเองเพราะเขาเริ่มที่จะมองโลกในเเง่ลบบ้างเเล้ว ซึ่งนั่นผมว่าเป็นสิ่งที่ดีนะ

          จะมองโลกในแง่ดีมันก็ดีนั่นเเหละ เเต่ทุกอย่างถ้าคิดเเง่ลบเผื่อไว้บ้างมันก็ดีกว่า

          "พี่เรน..."

          "หืม ว่าไง"ผมหันไปทางต้นเสียง คนที่ตาบวมจนหมดสภาพกำลังท้าวคางมองออกไปนอกหน้าต่าง หากเเต่ไม่หลับ เหมือนเหม่อมองวิวไปเรื่อยๆมากกว่า

          "เขา...จะโกรธไหมวะ"ธีร์หันมาเอ่ยถามอย่างไม่มั่นใจ ผมเชื่อว่าในสมองเขาต้องมีเเต่ความคิดเเง่ลบเต็มไปหมดเเน่นอน ถึงได้ทำหน้าจะร้องไห้อีกรอบอย่างนั้น

          "โกรธแน่นอน"

          "ฮึก"พอตอบปุ๊ปมันก็เบะปากจะร้องทันทีจนผมต้องรีบโบกไม้โบกมือเเล้วพูดต่อให้จบก่อนที่ไอคนเชื่อคนง่ายจะได้ร้องอีกรอบ

          "เดี๋ยวๆอย่าเพิ่งร้องสิ ฟังก่อน เขาจะโกรธแน่นอน เเต่เขาจะโกรธพี่"ผมยิ้มนิดยื่นมือไปยีหัวคนที่เด็กกว่าเพียงสองปีอย่างเอ็นดู ธีร์ก็เงยหน้าขึ้นมามองอย่างสงสัย

          "ธีร์ มึงคิดดีๆว่ามึงทำอะไรผิดให้เขาโกรธ"

          "ก็จะ..จูบพี่"

          "อ่าหะ แล้วถ้าเป็นมึงไปเห็นมันจูบคนอื่นมึงจะทำยังไง"ผมถามกลับ

          "ระ..ร้องไห้มั้ง"มันหยุดคิดไปนิดก่อนจะตอบอย่างไม่เเน่ใจ

          "อือฮึ นั่นคือมึง เเต่ไอฝรั่งนั่นเเค่ยิ้ม"

          "นั่น...แปลว่าเขาไม่สนใจผมหรอ..."

          ป้าบ

          มือที่ยีหัวทุยๆอยู่เปลี่ยนเป็นตบเบาๆเเทน ส่งให้คนโดยร้องโอ้ยขึ้นมาอย่างตกใจ เเต่ผมรู้ว่ามันไม่เจ็บหรอก ที่ตบไปก็เพราะอยากให้มันคิดตาม เฮ้อ ความรักนี่มันเปลี่ยนคนได้จริงๆหรือวะเนี่ย เปลี่ยนโลกสีสายรุ้งของไอธีร์เป็นโลกสีเทามืดหม่นเลยนะเนี้ย พูดนิดพูดหน่อยก็คิดไปไกลซะเเล้ว

          "แล้วหลังจากร้องไห้มึงจะทำอะไรต่อ"

          "ก็...อยากฟังเหตุผล..."

          "นี่ไง มันก็คงเหมือนกัน ธีร์ มึงเป็นแฟนมันนะ มึงน่าจะรู้จักนิสัยแฟนตัวเองดีกว่าคนอื่นสิ จากที่พี่ที่เป็นคนนอกเห็นยังรู้เลยว่าใจมันไม่ได้ยิ้มเหมือนหน้าหรอก"ผมพูดตามความจริง เพราะนี่แค่จูบนะ ไม่ได้ไปได้เสียกันเสียหน่อยฝรั่งเขาไม่ถือไม่ใช่หรือไง แต่จะให้พูดออกไปคงโดนด่าแน่นอนขอเก็บไว้ใจอย่างเดียวละกันนะ

          ไอธีร์เงียบลงไปเหมือนใช้ความคิด ผมเลยพูดขยายความต่อ

          "และจากที่พี่เจอกันไม่กี่ครั้ง...พี่ว่าตอนนี้มันกำลังรอคำอธิบายของมึงอยู่ แถมมันยังยินดีที่จะเชื่อสุดใจด้วย"

          "แล้วทำไมเขาหนี..."

          "ธีร์ มึงลองคิดกลับกันว่าเป็นตัวเองสิ"

          ถ้ารัก ก็ต้องกลัวคำตอบเป็นธรรมดา

          คนฟังเงียบไปนิด ก่อนสมองน้อยๆจะเริ่มประมวลผลตาม ผ่านไปชั่วครู่ มันก็เงยหน้ามอมๆใช้ตาบวมๆเเดงๆมองมาที่ผมตาแป๋วเเล้วเอ่ยวลีสั้นๆที่ผมเเทบอยากจะเข้าไปเขย่าคอมัน

          "ไม่เข้าใจง่ะ"

          บทจะโง่ก็โง่จังเลยน้องกู

          "ก็สมเป็นมึงอยู่หรอก เฮ้อ! เอาใหม่ๆ เมื่อกี้คงจะเข้าใจยากไป งั้นเอาง่ายๆเมื่อกี้มึงตั้งใจที่จะจูบไหมล่ะ"ปลงครับ ปลงอย่างเดียว พูดเข้าใจยากไอธีร์มันก็ไม่เข้าใจ จะพูดบอกไปตามที่คิดเลยก็คิดว่ามันก็ไม่ได้ถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์ ถ้าผิดขึ้นมาก็หน้าเเตกสิครับ อีกอย่างเรื่องเเบบนี้มันก็อยู่ที่คนสองคน ถึงเเม้ผมจะเป็นคนทำให้เขามีเรื่องกันก็ตามที

          "ไม่ ผมไม่อยากจูบ"

          "ใช่ ฉะนั้นมึงไม่ได้ทำอะไรผิดหรอกธีร์ พี่ผิดคนเดียวที่ลากมึงมายุ่งกับเรื่องยุ่งยากเเบบนี้"

          "เรื่องนั้นผมเต็มใจช่วย.."

          "หยุดความใจดีของมึงเอาไว้ก่อนเถอะ พี่รู้ เเต่ตอนนี้มึงมีเเฟนแล้ว แล้วพี่ก็รู้ว่าพี่ไม่ควรหนีเเบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ"ผมรีบยกมือห้ามมันอีกรอบ ก่อนจะเป็นคนหันมากุมขมับเเทน ไอแผนแฟนกำมะลอนั่นมันก็แค่แผนชุ่ยๆที่ผมคิดขึ้นมาได้เท่านั้น ผมไม่คิดว่ามันจะหลอกคนอื่นได้ไปตลอดหรอกนะ ฉะนั้นผมก็คิดแผนสำรองไว้บ้างเเล้วนั่นเเหละ เพียงแต่...ตอนนี้คงต้องเอาเรื่องของผมเอาไว้ทีหลัง

          "ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้นเเหละ ถ้ามึงไม่ผิดก็ทำหน้ามั่นใจไว้สิวะ จะทำเหมือนตัวเองยอมรับผิดไปทำไม"ผมบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง ถ้าคิดดีๆเเล้วไอธีร์มันไม่ผิดเหี้ยอะไรด้วยซ้ำไป มันก็เเค่ใจดียอมช่วยผมเเถมเปลืองเนื้อเปลืองตัวมันอีกต่างหาก ซึ่งคราวนี้มันก็ยกยิ้มขึ้นนิดเเล้วพยักหน้ารับ

          "ครับ"


--------------------


Thee's part

          สมองผมยังตื้อไม่หาย มันขาวโพลนไปหมดอย่างที่ไม่เคยเป็น เป็นครั้งเเรกที่ผมลังเลที่จะทำอะไรซักอย่าง ครั้งเเรกเลยที่ไม่สามารถตัดสินใจได้เสียทีว่าควรจะทำยังไงต่อไป ยอมรับเลยว่ามันกลัวไปหมด

          เเต่พอคิดตามที่เรนพูด ผมผิดที่ไปจูบคนอื่นก็จริงแต่มันเกิดขึ้นโดยที่ผมไม่ได้เต็มใจแถมพยายามจะขัดขืนแล้วด้วย เพราะฉะนั้นผมไม่จำเป็นต้องตีตนไปก่อนไข้ ตอนนี้สิ่งที่ควรทำที่สุดตอนนี้คือตั้งสติแล้วเรียบเรียงคำพูดเพื่อที่จะไปอธิบายให้อีกคนเข้าใจ...

          แต่มันไม่ง่ายขนาดนั้น จะให้บอกมันว่าผมไม่ได้เต็มใจงั้นหรือ มันก็เท่ากับโยนความผิดทั้งหมดให้พี่เรน ถึงแม้ว่าพี่เขาจะออกปากว่าจะรับความผิดไปเองก็เถอะ ผมเองก็เต็มใจที่ช่วยตั้งแต่ต้นเพียงแต่การจูบมันไม่ใช่สิ่งที่ได้คาดคิดกันไว้ก่อน แต่จะให้บอกเรื่องราวทั้งหมดไปตามความจริงก็ใช่ว่ามันจะเชื่อแถมผมไม่ฉลาดพอที่จะเรียบเรียงประโยคยาวๆเป็นภาษาอังกฤษได้หรอกนะ 

          แค่คิดก็ปวดหัวแล้ว ผมรู้แหละว่าคงต้องบอกไปตามจริง เพียงแต่มันจะเชื่อรึเปล่านี่สิ...

          “นี่ครับ”

          ผมนั่งทะเลาะกับตัวเองตั้งแต่ออกมาจากห้างยันตอนนี้ที่รถได้มาหยุดอยู่ที่หน้าคอนโดผมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จนแล้วจนรอดก็ยังไม่ได้ข้อสรุป ทั้งเปลือกตาทั้งสองข้างก็หนักขึ้นทุกทีๆเพราะความล้า

          หลังจากที่พี่เรนได้จัดการเคลียร์ค่าโดยสารเรียบร้อยแล้ว เขาก็ยังเป็นคนช่วยประคองผมไปส่งที่ห้อง ที่จริงผมก็ไม่เชิงไม่มีแรงแต่เหมือนสติมันหลุดลอยไปไหนแล้วก็ไม่รู้เลยเบลอๆ ปกติก็ป้ำๆเป๋ออยู่แล้วด้วย เหมือนพี่เรนจะรู้เลยต้องลำบากช่วยลากถูผมจนถึงห้องนั่นแหละ

          ตอนแรกก็หวั่นๆว่าหลังประตูห้องตัวเองจะมีใครอีกคนอยู่ หากแต่เปิดมาก็พบแต่ความว่างเปล่า

   แหงล่ะ มันคงไม่อยากเห็นหนาผมแล้วละมั้ง

   “ไปพักก่อนเถอะ ตื่นมาค่อยมาหาทางออก ตอนนี้มึงฝืนตัวเองไปมันก็ยังไม่กลับมาหรอก”เหมือนรุ้นพี่ตัวสูงข้างกายจะเดาออกว่าผมคิดอะไรอยู่เลยพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเจือความเป็นห่วง ให้ผมพยักหน้ารับแล้วเดินเข้าห้องนอนไป

   ถึงผมจะโง่ แต่ทางออกเรื่องนี้มันก็มีอยู่ทางเดียวนั่นแหละ เพียงแต่...

   ‘ธีร์ มึงเป็นแฟนมันนะ มึงน่าจะรู้จักนิสัยแฟนตัวเองดีกว่าคนอื่นสิ’

   ประโยคนี้ต่างหากที่มันทำให้ผมหยุดความคิดตัวเองไม่ได้ซักที


------------------------------------------

            แอด..

           ผมตื่นขึ้นมาหลังนอนยาวจนกระทั่งดวงตะวันลับขอบฟ้า ซึ่งพอตื่นมาก็พบว่าสมองปลอดโปร่งขึ้นเยอะ เหลือเพียงอาการปวดตุ้บๆตรงกระบอกตา แถมตายังบวมเป่งจนหน้ากลัว แต่พอเปิดประตูห้องนอนออกมาเพื่อหาอะไรมาประทังชีวิตก็ต้องชะงักกึกกับภาพตรงหน้า

                ไอหมีควายกลับมาแล้ว

                แต่พี่เรนยังไม่กลับไป

                ภาพที่เห็นตรงหน้าคือผู้ชายตัวโตสองคนนั่งอยู่บนโซฟาเดียวกันเงียบๆ มีเพียงเสียงโทรทัศน์ที่ฉายรายการสารคดีสัตว์โลกค้างไว้ ทั้งคู่หันมามองผมอย่างพร้อมเพรียง แต่ก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมา

                “คือ ไอ ไอ “ผมจึงรวบรวมความกล้า สูดหายใจเข้าลึกๆแล้วมองเข้าไปในดวงตาน้ำข้าวของใครอีกคน

                เอาวะ ไม่พูดตอนนี้ก็ไม่รู้จะไปพูดตอนไหนแล้ว

                “แอม ซอรี่นะ! คือไอไม่ คือ ไม่ได้ตั้งใจ! คือ ไอ ฮึก”คำที่เคยคิดไว้มลายหายสิ้น เมื่อสบตาสีน้ำข้าวที่ไม่สื่อแววอะไรออกมาเลย ทั้งยังนิ่งเงียบเสียจนคนพูดต้องกัดปากเพื่อกลืนก้อนสะอื้นเข้าไป

                “ซอรี่...ขอโทษนะ ขอโทษ ฮือออ ขอโทษ”

                “ขอโทษ...ผมขอโทษ”

                แต่สุดท้ายก็พูดได้แค่นี้จริงๆ

                “เฮ้อ..”

                หมับ

                “There…there don’t cry I understand everything now. Don’t think too much. I don’t get mad at you.(โอ๋ๆ อย่าร้องๆ ตอนนี้ฉันเข้าใจทุกอย่างแล้ว อย่าคิดมากเลย ฉันไม่ได้โกรธนายหรอก)”

                “Should I be  glad that you’re crying because of me? (นี่ฉันควรดีใจไหมที่นายร้องไห้ขนาดนี้เพราะฉัน)”มันว่ากลั้วขำ แต่ผมไม่ขำด้วยนะเว้ย รู้บ้างไหมว่าผมกลัวใจมันขนาดไหน กลัวมันจะไม่เชื่อใจผมอีกต่อไปแล้ว

                ผมไม่ตอบอะไรเพียงแค่ฝังหน้าลงกับอกกว้างแข็งๆถือโอกาสป้ายน้ำตาน้ำมูกที่ปนกันจนไม่รู้อะไรเป็นอะไรไปพลาง ในขณะที่มันก็แค่ลูบหัวผมต่อไปเรื่อยๆ

                “Thank you for letting me know that I’m not the only one thinking about it. (ขอบคุณนะ ที่ทำให้ฉันรู้ว่าฉันไม่ได้คิดอยู่ฝายเดียว)"


 
                “เอ่อ...ว่าแต่ทำไมพี่เรนถึงโดนต่อยล่ะ”

                หลังจากที่เคลียร์กันจบเข้าใจรู้เรื่องทั้งสองฝ่าย เอาจริงๆคือผมแทบจะไม่ได้พูดอะไรเลยด้วยซ้ำ แต่พอเห็นมันยิ้มได้เหมือนเดิมไม่มีความเศร้าโศกเสียใจอะไรใดๆอยู่เลยในขณะที่ผมหยุดน้ำตาที่ไหลพรากๆของตัวเองไม่ได้ซักทีจนเวลาล่วงลับมาถึงตอนนี้

                “ก็ไปอธิบายเรื่องทั้งหมดให้มันเข้าใจไงล่ะ เลยได้นี่มาเป็นของตอบแทน”รุ่นพี่ที่นั่งท้าวคางมองมาซักพักเอ่ยเรียบๆ แถมยังชี้นิ้วไปที่โหนกแก้มตัวเองที่เปลี่ยนมาเป็นสีม่วงช้ำ

                “แต่พี่เรนไม่ได้ทำอะไรผิด...”

                “ธีร์ พี่บอกมึงแล้วว่าให้หยุดความใจดีเรี่ยราดของมึงไว้ก่อน เรื่องนี้ยังไงพี่ก็ผิด ถึงแม้มึงจะเต็มใจช่วยแต่เรื่องจูบ ความจริงที่ว่าพี่เป็นคนบังคับมึงก็ยังไม่เปลี่ยนอยู่ดี”คนพูดร่ายยาวก่อนจะถอนหายใจหนักๆแล้วพูดต่อ

                “ถ้าเคลียร์กันเสร็จแล้ว พี่ขอกลับแล้วนะ นั่งดูผัวเมียสวีทกันมันไม่น่าอภิรมย์ใจสักเท่าไหร่”พี่เรนว่าก่อนจะยันตัวขึ้นจากโซฟาที่นั่ง เนื้อความประโยคมันทำให้ผมรู้สึกหน้าร้อนๆเล็กน้อยจนต้องเอ่ยแย้ง

                “ผะ ผัวเผออะไรกันพี่ แล้วก็อย่าเพิ่งกลับ มานั่งเลยๆ”และฉุดมือรุ่นพี่ตัวสูงให้กลับมานั่งตามเดิน แล้วลุกขึ้นแทน

                “ไอธีร์”

                “เดี๋ยวผมทายาให้แปปเดียว ฟกช้ำนี่ทายาได้เลยไหมพี่หรือต้องประคบอะไรก่อน”ผมถามเพื่อความแน่ใจก่อนจะเดินไปเอายาเพราะไม่ค่อยมีความรู้ด้านนี้สักเท่าไหร่

                “ถ้าให้ดีก็ควรประคบเย็นก่อนนั่นแหละ แต่พี่ว่าเดี๋ยวพี่กลับไปทำเองดีกว่า”คนเป็นรุ่นพี่ส่ายหน้าปฏิเสธผิดวิสัยคนอะไรก็ได้อย่างพี่เรน ซึ่งปกติถ้าอาสาทำอะไรให้ไม่เคยหรอกครับไอการปฏิเสธเนี่ย

                “ไม่ต้องเกรงใจหรอกพี่ ห้องพี่กว่าจะหายาเจอแผลคงหายไปแล้ว”ผมเองก็ส่ายหน้ายืนยันว่าจะทำให้ พี่เรนทำท่าคิดแวบนึงก่อนจะส่ายหัวอีกรอบแล้วยันตัวขึ้นยืนสุดความสูง

                “แต่ถึงอย่างนั้น พี่ก็คิดว่าพี่ไปทำเองคงดีกว่า”

                “พอดีไม่อยากได้เพิ่มอีกรอยน่ะ”ว่าแล้วพี่เขาก็เหล่ไปทางอีกด้านของโซฟาให้ผมหันมองตาม...ก็พบกับรอยยิ้ม...

                “What’s are you doing?(พวกนายกำลังทำอะไรกันอยู่น่ะ)”

                “มึงอาจจะไม่รู้ แต่ผัวมึงขี้หึงชนิดที่ว่าขู่ฆ่าพี่เลยนะ”
               

 




ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
ว่าที่ฝาละมีธีร์โหดแท้

แบบนี้สิถึงจะดีย์~ อิอิ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ปกป้อง เพื่อนเลว
เรน เป็นสุภาพบุรุษมากกกกก
แต่ไม่เข้าใจ ว่าเรน กลัวอะไร กับการตื๊อของใบเตย
ถึงกับต้องทำอะไรๆ เพื่อให้ใบเตยเชื่อว่ามีแฟนแล้ว
คราวนี้ หมีควายต้องซาบซึ้ง ว่าธีร์ รักหมีควายมากจริงๆ
อยากอ่าน น้ำพุ จีน หรือ จีน น้ำพุ :mew1: :mew1: :mew1:
แต๊ก ทำตัวมีลับลมคมใน กับใครเอ่ย
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
เคลียร์กันลงตัวซะที,,,

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
อื้อหือออ สนุกกกกก

ออฟไลน์ นางฟ้าเชียงชุน

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
เข้ามาอ่านรวดเดียวเลย สนุกมาก น่าสนใจทุกคู่เลย แอบอยากอ่านคู่พี่เรนอ่ะ กับคู่แต้ก

ออฟไลน์ Kiitos

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 45
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Re: Just ' U แค่คุณ ❥ CH.27
«ตอบ #106 เมื่อ23-09-2016 16:22:13 »

Chapter 27
| Punishment



          "นี่ๆ don't mad จริงๆหรือ"

          หลังจากพี่เรนขอตัวกลับไปด้วยความไวแสงผมก็ยังไม่เลิกเกาะเเกะอยู่กับไอฝรั่งร่างควาย ก็คนมันไม่เชื่อนี่หว่าทำไมถึงหายโกรธง่ายๆงี้เล่าแถมไม่ถามอะไรผมสักคำเลย

          ซึ่งคำตอบที่ได้รับก็คือการพยักหน้าพร้อมยิ้มบางๆ

          "It's late now let's go to bed.(มันดึกเเล้ว นอนกันเถอะ)"มันว่าเเล้วกดปิดทีวีที่เปิดค้างไว้ตั้งเเต่เย็น ยันตัวขึ้นจากโซฟาหมายจะเดินไปห้องนอน

          หมับ

          "นี่...don't feel anything เลยหรือ"ผมถามเสียงหงอยๆ ได้แต่ก้มมองมือตัวเองที่จับปลายเสื้อมันไว้เพราะไม่กล้าเงยหน้าไปมอง

          ใช่...ตอนนี้ผมกำลังอยู่ในภาวะที่เรียกว่า'คิดมาก'

          แปะ

          ความอุ่มที่วางลงบนหัวทำให้ผมต้องเงยหน้าไปมองมันอย่างไม่มั่นใจ ไอฝรั่งยิ้มให้น้อยๆมือก็ลูบหัวผมไปพลาง

          "It doesn't mean I don't have any feeling but I just don't want you to worry. Actually at that moment I wanted to kill him.(ไม่ใช่ไม่รู้สึก แต่ฉันไม่อยากให้นายคิดมากไปกว่านี้ ตอนนั้นฉันเเทบจะพุ่งไปบีบคอไอบ้านั่นเลยรู้ไหม)"

          "ฆะ ฆ่า?"ผมเอ่ยทวนอย่างไม่มั่นใจ นี่ฟังไม่ผิดใช่ไหม คิลๆนั่นแปลว่าฆ่าใช่ไหม

          "Just kidding. I'm just thinking but I'm not sure that next time he will alive. (ล้อเล่นหน่า ฉันได้แต่คิดเเต่คงไม่ทำจริงหรอก แต่ถ้ามีครั้งต่อไปก็ไม่แน่)"มันพูดกลั้วขำ แต่เมื่อกี้ตอนมันพูดเห็นสายตามันวาววับขึ้นมาเเวบนึง

          อึ๋ย นี่แสดงว่าที่พี่เรนพูดนี่เรื่องจริงใช่ไหม

          "ละ แล้วจะไม่เอ่อ let me do something for you หน่อยหรือ แบบว่าแทนคำขอโทษ"ผมเอ่ยถามอย่างไม่มันใจ คือก็ดีอยู่หรอกที่มันไม่โกรธแต่มันก็ค้างคาใจแปลกๆนี่หว่า อย่างน้อยก็ให้ทำอะไรไถ่โทษหน่อยก็ได้จะได้สบายใจขึ้นมานิด

          "Hmm... Good idea. Are you sure?(หืม ความคิดดีนี่ นายเเน่ใจเเล้วหรือ)"

          "อือ"

          "Then...(งั้นก็...)"

          "เหวอ!"

          ผมร้องอย่างตกใจเมื่อพอเดินเข้าไปหา มันก็จัดการสอดมือทั้งสองข้างเข้าใต้รักเเร้ผมเเล้วยกผมขึ้นเหมือนเวลาที่ผู้ใหญ่ชอบเล่นกับเด็ก แต่ประเด็นคือผมไม่เด็กแล้วไงครับ!

          แต่มันก็คงรู้ว่าผมไม่อาจทนให้เท้าไม่เเตะพื้นได้นาน พอยกขึ้นเสร็จก็เปลี่ยนเป็นอุ้มเเทนให้ผมได้เอาเเขนเกี่ยวคอมันไว้เป็นหลักยืนยันว่าผมจะไม่ร่วงลงไปแน่ๆหรือร่วงก็จะพามันไปด้วยกันนี่แหละ แล้วจากนั้นมันก็ดิ่งเข้าห้องนอน..

          เอ้ะ! หรือว่า!

          พลันความคิดจังไรสิบแปดบวกเรทฉ.ก็ฉายเข้ามาในหัวเเบบนอนสต็อป อุณหภูมิบนใบหน้าเริ่มสูงขึ้นเมื่อคิดภาพตาม

          ร่างผมถูกปล่อยลงบนเตียงอย่างเบามือทั้งร่างสูงใหญ่ก็ตามมาทาบทับด้วยรอยยิ้ม มือกร้านกดข้อมือผมลงกับเตียงไม่เเรงนักเเต่ถึงอย่างนั้นผมก็ขยับไม่ได้อยู่ดี

          ผมหลับตาปี๋รอรับสัมผัสเมื่อหน้าคมหล่ออย่างชาวตะวันตกกำลังเลื่อนเข้ามาใกล้ ในใจนี่คิดไปก่อนเลยว่าต้องโดนจัดหนักจัดเต็มหรือกัดปากกันเลือดสาดบ้างเเหละแต่...

          จุ๊บ

          ริมฝีปากหนาจรดลงบนหน้าผากเบาๆ ไล่ลงมาที่เปลือกตา ปลายจมูก เเก้มทั้งสองข้างและ...

          ริมฝีปาก

          "อื้อ.."ผมครางอืออึงในลำคอทันทีเมื่อปากอีกฝ่ายประกบลงมาพร้อมลิ้นที่รุกล้ำเข้ามาตักตวงความหวานอย่างอ้อยอิ่ง

          ยังคงเป็นจูบที่นุ่มนวลและหวานเหมือนเคย

          ไม่รู้ผ่านไปนานเท่าไหร่กว่าเราจะผละออกจากกัน สายตาเราประสานกันเหมือนมีเเรงดึงดูด

          ฟอด! ฟอด! ฟอด!

          มันก้มลงมาหอมแก้มผมอีกรอบทั้งซ้ายทั้งขวา และมันไม่หยุดแค่นั้นหอมซ้ำๆจนผมต้องดันหน้ามันออกเพราะหนวดตอๆมันทิ่มหน้าผม

          "พอๆ มันจั๊กจี้  ก็บอกว่าพอไง ฮ่าๆ หนวดมึงทิ่มหน้า"ผมพยายามจะดันหน้ามันออกเเต่มันก็ยังคงพยายามที่จะหอมแก้มผมเเรงๆอีกจนผมหลุดหัวเราะเพราะจั๊กจี้แปลกๆ

          "พอเเล้ว แก้มกูช้ำหมดเเล้วเนี่ย!"

          คราวนี้มันยอมหยุดโดยที่มือผมยังดันหน้ามันไว้อยู่ มันเผยยิ้มนิด

          "Look. You can smile now.(ยิ้มได้แล้วนิ)"

          "หือ"

          "I like when you smile more than when you serious.(ฉันชอบเวลานายยิ้มมากกว่าทำหน้าเครียดนะคอร์กี้)"มันว่าเเล้วกุมมือผมที่จับหน้ามันไว้อีกที เเต่ตายังคงมองมาที่ผม

          "This is more lovely.(แบบนี่น่ารักกว่าเยอะ)"

          ฉ่า..

          อีกแล้ว... ทำไมคำพูดมันถึงได้แอคเเทรคผมทุกที ทำไมถึงพูดอะไรอย่างนี้ได้ด้วยหน้าตายิ้มๆเเบบนั้น แค่รอยยิ้มมาผมก็ตายไปครึ่งทางเเล้ว เจอเเบบนี้นี่ไม่มีสิทธิ์ต่อต้านเลย

          "So, last punishment.(เอาล่ะ บทลงโทษสุดท้าย)"

          "ยังไม่หมดอีก?"ผมเลิกคิ้วถาม ไอเรื่องกามๆสิบแปดบวกนี่ผมปัดมันทิ้งไปแล้ว เพราะพอคิดๆดูเเล้วมันไม่ได้เป็นคนอย่างนั้น

          อีกฝ่ายผลิกมาทิ้งตัวนอนตะเเคงข้างๆโดยหันหน้ามาทางผมให้ผมต้องผลิกตะเเคงหันหน้าไปทางมันบ้าง  มันยิ้มเหมือนปกติก่อนจะตบเตียงที่เหลือพื้นที่เพรยงน้อยนิดระหว่างเราปุๆ

          "Come! My bolster. (มาเป็นหมอนข้างฉันซะ)"

          ผมยิ้มออกทันที แล้วขยับเข้าไปประชิดตัวคนที่อ้าเเขนรออย่างว่าง่าย

          "นี่มันไม่ใช่บทลงโทษเเล้ว"

          "This. I'll hug you tight.(นี่ไง จะกอดให้ช้ำไปทั้งตัวเลย)"

          "มันใช่ที่ไหนเล่า.."

          จุ๊บ

          "Trust me and yourself Corgi.(เชื่อใจฉันและตัวเองนะคอร์กี้)"

          "อือ"ผมครางรับในลำคอเป็นเชิงรับรู้ ขดตัวเข้าหาไออุ่นจากคนตัวใหญ่ ซึ่งอีกฝ่ายก็คงคิดเหมือนกันเลยกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นก่อนที่พวกเราจะจมดิ่งเข้าสู่ห้วงนิทราโดยที่ผมไม่สามารถหุบยิ้มตัวเองได้

          คนมีแฟนเขารู้สึกแบบนี้กันสินะ...

          ความรู้สึกที่เรียกว่าความสุขล้นอกเนี่ย



-----------------------------


Darren's part

          "ซี๊ด..ไอฝรั่งนั้นหมัดเเรงใช้ได้เลยนี่หว่า"ผมบ่นพึมพำยามที่เคลื่อนมือไปเเตะเบาๆตรงโหนกแก้มตัวเองที่ช้ำจากการถูกกระแทกอย่างเเรง

          แต่ยังไงผมก็ถือว่ามันทำถูกแล้วที่ต่อยผมน่ะนะ

          ถ้าจะย้อนความ หลังจากที่ไอธีร์หมดเพลียจนหลับไป ผมก็ออกมารอไอคนที่ยังไม่กลับห้องมา และผ่านไปมันนานมันก็กลับมาพร้อมหมาไทยตัวนึง ซึ่งให้เดาว่าน่าจะเป็นไอเตอร์ที่ธีร์มันเคยเล่าให้ฟัง ตอนมันเจอหน้าผมมันก็ชะงักไปนิดนะแต่ก็ไม่ได้ทำอะไร เเต่พอผมเอ่ยปากบอกมันว่าที่เห็นวันนี้ผมเป็นคนบังคับธีร์เองเท่านี้เเหละ..

          วางหมาเเล้วกระโจนมาต่อยผมทันทีเลยครับ

          แต่มันก็ต่อยเเค่หมัดเดียวนี่เเหละเห็นบอกว่าต่อยเเทนไอธีร์ หลังจากนั้นมันก็รอผมอธิบายเงียบๆ พยักหน้ารับรู้เเถมยังถอนหายใจเหมือนโล่งอกอีกต่างหาก

          ไอฝรั่งนั่นดูจะเชื่อใจไอธีร์จนผมอิจฉาเลยล่ะ

          และผมเคลียร์เรื่องที่มันระเเวงว่าผมชอบธีร์ไปเเล้วด้วย ตอนเเรกที่ผมบอกว่ารักธีร์น่ะ ผมรักมันจริงๆนะ แต่เป็นเเบบพี่ชายรักน้องชาย ผมมองมันเป็นเเค่น้องชายเอ๋อๆซื่อๆคนหนึ่งก็เท่านั้น ตอนนั้นก็เเค่อยากเเหย่ไอฝรั่งเล่นทั้งยังสับสนกับตัวเองหน่อยๆว่าจะสามารถคิดกับธีร๋ได้เกินกว่านี้ไหม แต่สุดท้ายผมก็รู้ว่าผมคิดกับมันได้เเค่พี่น้องจริงๆ

          คนซื่อๆเเบบนี้มันไม่ใช่สเป็คผมหรอก...

          ...ต้องคนหัวไวเจ้าเล่ห์เเบบคนตรงหน้าผมต่างหาก

          "คิดถึงผมหรือครับ มาหาถึงที่เลย"ผมทักคนที่ในชุดสูทที่ยืนกอดอกอยู่หน้าคอนโดผมทันทีเมื่อเดินเข้าไปใกล้

          "ดาร์เรน"

          "เรียกซะเต็มยศเชียวนะเอสเปอร์"เมื่ออีกฝ่ายหันมาว่าเสียงนิ่งด้วยใบหน้าไร้รอยยิ้ม ผมก็ไม่หวั่นยิ้มกลับไปอย่างเป็นมิตร

          "ผมจะบอกอีกครั้งนะว่าเอาของๆผมคืนมาซะ"เอสเปอร์ว่าเสียงเข้ม ใบหน้าที่ปกติมักจะประดับด้วยรอยยิ้มที่ผมมักบอกว่ามันจอมปลอมได้หายไปแล้ว เหลือเพียงใบหน้าเคร่งเครียดจนผมต้องหุบยิ้มเมื่อท่าทางอีกฝ่ายจะไม่เล่นด้วย

          ตั้งเเต่เจอกันผมชอบเวลาเขาหลุดมาดหุบยิ้ม แต่คราวนี้มันต่างกันออกไป...

          "ผมไม่มีของอะไรของคุณหรอก คุณไปทำตกที่อื่นรึเปล่า"

          "โกหก!"เอสเปอร์พูดเสียงดังจนเหมือนตะหวาด ดวงตาที่มักเฉยชาฉายเเววโรจอย่างชัดเจนจนผมสะดุ้งกับเสียงนั้น

          นี่มัน...แปลกเกินไปแล้ว

          "เกิดอะไรขึ้นรึเปล่า"ผมพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลง ไม่มีความยียวนกวนบาทาอีกต่อไป จากสภาพอารมณ์คนตรงหน้ามันทำให้ผมพอจะรู้ว่านี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาล้อเล่น

          "นั่นไม่เกี่ยวกับคุณ เอาของของผมคืนมา"คนในชุดสูทลูบหน้าตัวเองเเรงๆราวกับต้องการจะสงบสติตัวเอง ท่าทางของอีกคนทำเอาผมไม่อาจทำเป็นเล่นได้อีกต่อไป

          สงสัยคงหมดเวลาเล่นเเล้วสินะ

          "นี่ครับ"

          นี่คงเป็นประโยคแรกที่ผมเติมหางเสียงตอนพูดกับเขา ผมไม่รู้ว่าเขาไปเจออะไรมาแต่ท่าทางคงเป็นอะไรที่หนักหนาพอควรจึงส่งสร้อยที่เก็บไว้กับตัวอย่างดีคืนอีกฝ่ายไปง่ายๆและสูดหายใจเข้าลึกๆอ้าปากถามอีกรอบ

          "ขอถามอะไรหน่อยได้ไหม"

          "ผมไม่มีอารมณ์มาตอบคำถามกับคุณ"

          ความเย็นชานี่ไม่เปลี่ยนแปลงเลยสินะ

          "สร้อยนั่นมันสำคัญมากเลยหรือ"แต่ถึงยังไงผมก็ยังหน้าด้านถามอยู่ดีแม้ว่าอีกคนจะหมุนตัวจะเดินออกไปตั้งเเต่ที่ได้ของคืนเเล้ว

          แต่เหมือนเอสเปอร์จะยังมีความเมตตากรุณาต่อผมอยู่บ้างจึงหันมามองผมด้วยสายตาเย็นชาเหมือนเดิม และขยับปากบอก

          "สำคัญกว่าคุณก็แล้วกัน"

          จากนั้นก็เดินออกไปโดยไม่เหลียวหลังกลับมาอีก ให้ผมได้เเต่มองตามแผ่นหลังที่ไม่กว้างมากหากแต่แฝงไปด้วยความรู้สึกโดดเดี่ยวเเละทะนงในเวลาเดียวกันกำลังเคลื่อนไปไกลเรื่อยๆจนสุดสายตา

          อ่า...นี่มันเจ็บกว่าหมัดไอฝรั่งนั่นอีกแฮะ

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
เอสเปอร์โหดจริง เรนกับเอสเปอร์ใครจะรุกใครน้อ~


ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
เย็นชาจริงๆ

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Kiitos

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 45
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Re: Just ' U แค่คุณ ❥ CH.28
«ตอบ #110 เมื่อ24-09-2016 16:14:06 »

Chapter 28
| New guy




          "กรี๊ดๆๆๆๆ น้องธีร์คะ! เเถลงการณ์ด่วนค่ะน้องขา!"เสียงที่ถูกดัดจนเเหลมดังมาเเต่ไกลทำให้ผมที่กำลังเดินชิลๆจะขึ้นตึกชะงักฝีเท้าเเล้วหันไปทางเสียงเมื่อได้ยินชื่อตัวเองอยู่ในประโยค

          "แถลง? แถลงอะไรนะพี่เเชมป์"ผมว่าอย่างงงๆเมื่อหันไปเจอรุ่นพี่ในคณะที่หยุดยืนหอบแฮ่กๆอยู่ด้านหน้า

          "แชมมี่ย่ะ! แถลงการณ์หน่อยค่ะคุณน้อง ยืนยันข่าวให้พี่หน่อยว่าน้องมีผัวเเล้วใช่ไหมคะ!"พี่เเชมป์...อ่า..พี่เเชมมี่ถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นแต่คำถามนี่ทำเอาผมตาโตเเล้วส่ายหัวรัวๆ

          "มะ..ไม่ใช่ผัวสักหน่อย"

          แล้วทำไมกูต้องเสหน้าหลบตาเเถมเสียงยังสั่นด้วยวะครับ!!

          "กรี๊ด! แล้วๆไปเก็บฝรั่งเเซ่บๆเเบบนี้มาจากไหนกัน สีลมซอยสองรึเปล่าคะ พี่จะได้ไปบ้าง"รุ่นพี่สาวเทียมกระโดดไปมาอย่างตื่นเต้นถ้าลงไปนอนดิ้นๆกับพื้นได้ผมว่าพี่แกคงทำไปแล้ว

          "เอ่อ...คือเขาเป็นรูมเมทผม เอ๊ะ..เเต่ทำไมพี่ถึงรู้ล่ะ"

          "แล้วไปเอารูมเมทมาจากไหนคะน้องธีร์!"ดูท่าพี่แกจะไม่ได้สนใจคำถามของผมสักนิด ตานี่วาววับถ้าเป็นการ์ตูนคงเห็นเเสงวิ้งๆออกมาจากตาพี่แกแล้วล่ะ

          ผมเลยได้แต่ถอนหายใจแล้วยิ้มแห้งๆตอบไปตามตรง

          "พอดีเป็นเพื่อนเจ้านายน่ะพี่"

          "โถ่ งี้ก็แสดงว่าไม่มีแหล่ง กระเทยเสียใจค่ะ!"

          "เอ่อ ว่าแต่พี่รู้ได้ยังไง"ผมวกกลับมาที่คำถามที่ถูกเมินไปแล้วหนหนึ่ง คิ้วทั้งสองเริ่มเคลื่อนเข้าหนากันอย่างสงสัย

          "รู้เรื่องไหนล่ะ เรื่องสละโสด เรื่องมีผัว หรือเรื่องผัวเป็นฝรั่งอิมพอร์ทมาไกล"

          "ทุกเรื่องนั่นแหละพี่"

          "โอ้ย แหล่งข่าวพี่เยอะเเยะ คอนเนคชั่นพี่กว้างไกลยันต่างประเทศเลยนะ"พี่แกตอบอย่างมั่นใจทั้งยังมีท่าทางประกอบยืนยันว่ามันกว้างมาก จนผมต้องเลิกคิ้วถามอย่างตกใจ

          "จริงป่ะเนี่ย?"

          พี่แกไม่ใช่กระเทยธรรมดาแต่เป็นกระเทยอินเตอร์หรือนี่!

          "ฉันโม้ย่ะ! แกก็เชื่อเนอะ คืองี้พอดีเห็นฝรั่งเเซ่บคนนั้นมาตามรับตามส่งแกทุกวันมันก็สงสัยไง นี่รู้ไหมว่าช่วงเดือนที่ผ่านมาไม่มีใครตามตัวน้องธีร์เจอเลยเชื่อไหม เข้าเรียนตรงเวลา เลิกปุ๊ปก็กลับเลย"พี่แกร่ายยาวให้ผมคิดตาม จะว่าไปช่วงที่ผ่านเพราะไอฝรั่งมันมารอรับตลอดผมเลยไม่ได้เถลไถลไปไหนเลย

          "และพอสงสัยปุ๊ปพี่ก็เลยไปถามเพื่อนๆของน้องธีร์เลยได้คำตอบมาว่าน้องมีผัวแล้ว พวกเพื่อนๆพี่ๆน้องๆมันก็ไม่เชื่อกันเลยส่งตัวเเทนสวยๆอย่างพี่มาถามไง"

          "เพื่อนผม? ไอจีนใช่ไหมพี่"ผมขมวดคิ้วหนักกว่าเก่าเมื่อจบประโยค มีอยู่คนเดียวนี่ล่ะมั้งที่ปากรั่ว...

          "ใช่ๆ น้องคนที่หน้าคมๆหน่อยน่ะที่ชอบอยู่กับน้องที่ตาคล้ำๆ"

          ชัดเลย! ไอเพื่อนเวร!

          "ดูจากปฏิกริยาเเล้วคอนเฟิร์มใช่ไหมคะคุณน้อง กรี๊ด! พี่อยากหวีด! ทำไมถึงได้คนหล่อๆเเซ่บๆมาได้นะ ติดตามเขามาตั้งนานไม่คิดว่าคนที่ได้มาจะเป็นคนใกล้ตัวเยี่ยงนี้! อิจค่ะอิจ!"

          "ติดตาม?"คราวนี้ผมทวนคำอย่างสงสัย ไอที่พี่แกหวีดฝรั่งหล่อน่ะไม่แปลกแต่ไอติดตามมานานนี่มันตะหงิดๆนะ บวกกับที่ก่อนหน้านี้ผมสงสัยว่ามันเป็นคนดังอะไรจากไหนรึเปล่าถึงมีคนคุ้นหน้ามันบ่อย

          "นี่น้องธีร์ไม่รู้หรือคะว่าเขาเป็นนายเเบบ ไม่สิ ถ้าพูดให้ถูกคือเคยเป็นมากกว่า นี่พี่เคยส่องไอจีฝรั่งไปเรื่อยๆเเล้วไปป๊ะกับเขาเนี่ย ก็พอรู้อยู่นะว่าชอบผู้ชาย แต่เจ๊คิดว่าเขามีแฟนอยู่ก่อนแล้วซะอีก"พี่แกพูดไปก็บิดไป

          ผมพยักหน้าเข้าใจขึ้นมานิด แต่ก็ยังไม่หายสงสัย  แค่เคยเป็นนายแบบคนมันจะมีคุ้นหน้าขนาดนี้เลยหรือวะ

          "พี่ๆ ผมขอไอจีอะไรนั่นหน่อยได้ไหม"

          "เดี๋ยวนะ นี่หนูไม่รู้หรือลูก หนูแฟนเขานะ"พี่แกเอามือทาบอกเหมือนไม่เชื่อ

          "คือ...ผมไม่ค่อยได้เล่นโซเชี่ยวอ่ะพี่ เลยไม่เคยถาม"ผมยิ้มเจื่อนแล้วยื่นโทรศัพท์ที่มีทุกแอพเเหละครับแต่ไม่ได้เล่น ที่เห็นๆอยู่นี่ไอกลองเเต็กมันโหลดให้แล้วบอกให้ผมหัดเล่นซะบ้างจะได้ติดต่อได้ง่ายๆ แต่ถึงอย่างนั้นผมก็เล่นเเค่ไลน์กับเฟสบุ๊คร้างๆเท่านั้นแหละ

          พี่แช..แชมมี่รับไปกดๆจิ้มๆอยู่ไม่นานก็ส่งคืนมาให้ผมก้มดู...ถ้าจำไม่ผิดมันคืออินสตราแกรมสินะ

          "อ่ะ พี่จะไม่เสือก เอ้ย ถามละ เอาเป็นว่าคอนเฟิร์มนะน้องธีร์"

          "ครับ?"ผมละสายตาจากหน้าจอชั่วครู่เงยไปมองหน้ารุ่นพี่สาวเทียมที่ยิ้มกรุ้มกริ่มมาให้อย่างงงๆ

          "ตามนั้น ขอให้รักกันไปนานๆนะหนูนะ ถ้าหลุดมาเมื่อไหร่พี่จับไม่ปล่อยเเน่ อิอิ"พูดจบก็หมุนตัวติ้วๆเหมือนเต้นบัลเล่ย์จากผมไป มีการหันมาส่งจูบให้ขนลุกเล่นอีกต่างหาก

          ผมมองตามร่างกำยำนั่นไปอย่างงง กระพริบตาปริบๆกับความมาไวไปไว สมองก็ประมวลผลคำพูดสุดท้ายอย่างช้าๆ..

          ขอโทษนะพี่แชมป์...ยังไงผมก็ไม่ปล่อยให้หลุดไปหรอก...


---------------



          'คิดว่าเขามีแฟนอยู่ก่อนแล้วซะอีก'

          คงเป็นเพราะคำนี้ ผมถึงได้ขอไอจงไอจีอะไรนั่นมา สมาธิเรียนอะไรไม่ต้องมีนั่งไล่ดูรูปของมันอย่างเดียว

          คิดมากอีกแล้วไอธีร์เอ้ย

          พักหลังมานี่...เรียกว่ายังไงดีล่ะ ผมรู้สึกไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเองเท่าไหร่เลย ไม่รู้ทำไมผมถึงสะอึกกับคำว่าผมเป็นแฟนมันนะทำไมถึงไม่รู้เรื่องของมันเลยโคตรๆเลย ตั้งแต่พี่เรนทักยันพี่แชมป์จนผมว่าเหตุผลที่ผมขอไอจีนี่มาน่าจะมาจากประโยคนั้นมากกว่า

          ผมอยากรู้จักมันมากกว่านี้

          ผมเมันเป็นพวกหัวช้าทุกเรื่องยกเว้นเรื่องเรียนที่พอเอาตัวรอดไปได้ ความจำนี่ติดลบถ้าอันไหนไม่ใช้สอบสมองผมนี่พร้อมจะลบมันออกทันที

          "วันนี้ก็ไม่มีใครมาซักคน"ผมบ่นพึมพำยามเงยหน้าขึ้นไปมองอาจารย์ที่บรรยายอะไรก็ไม่รู้อยู่หน้าห้อง ข้างกายที่ปกติจะมีสองเกลอหลับหรือไอแต็กนั่งจดยิกๆอยู่ก็เหลือแต่ความว่างเปล่า

          พี่อ้อยพี่ฉอดประจำตัวกูหายไปแล้วกูจะไปปรึกษาใครวะเนี่ย!

          ไอแต็กผู้ให้คำปรึกษาในทุกเรื่องแต่พักหลังๆนี่มีแต่เรื่องความรักก็หายหัว ไอจีนไอพุนี่ช่างหัวเถอะครับเหมือนก็เหมือนไม่อยู่ แต่ตอนนี้ผมต้องการไอแต็กมาก ปกติผมมีอะไรก็ปรึกษามันตลอดไง ถ้ามันคิดเงินค่าปรึกษาป่านนี้มันรวยไปแล้ว

          กึก

          ก่อนที่ผมจะได้พร่ำเพ้อถึงเพื่อนรักไปมากกว่านี้ก็ต้องชะงักและหยุดทุกความคิดเมื่อก้มลงมองไอจีที่เปิดไว้อีกทีหลังจากที่รอเน็ตมันโหลดยาวนานกว่าสิบปี รูปที่ตอนเเรกเป็นสีเทาๆก็เริ่มเด้งขึ้นมาทีละรูปๆให้ผมเลื่อนนิ้วลงไปเรื่อยๆพร้อมกับดวงตาที่เบิกกว้างขึ้นเรื่อยๆ

          นี่มันรูปผมทั้งนั้นเลยนี่หว่า!!

ต่อ

          รูปผม...รูปผมจริงๆนะเว้ย!! ถึงแม้จะมีแต่แบบที่เห็นแค่ข้างหลังหรือด้านข้างเบลอๆ หรือจะมุมไหนก็ตามที่ไม่ได้เห็นชัดๆแต่ผมก็รู้นะว่านี่ทันทีคือตัวผมอ่ะ!!

          นี่มัน...

          ผมไล่ตามรูปไปเรื่อยๆก็พบว่ามันลงตลอด ลงเเทบจะทุกวัน ไอเตอร์ยังมีเกือบสิบรูปเลย แต่รูปไอเตอร์น่ะช่างมันก่อน!

          นี่มันตอนที่ไปกินเอ็มเคนี่หว่า!

          ผมเลื่อนจนไปเจอรูปที่ผมจำได้ลางๆว่ามันเคยถ่ายตอนซื้อโทรศัพท์ใหม่ๆ แถมรูปนี้ก็เป็นรูปที่เห็นหน้าผมชัดที่สุดแล้ว เป็นรูปที่บอกได้เลยว่าโคตรอุบาทว์! ทำไมมึงถึงเลือกรูปนี้ไอหมีควายยยบ

          อุบาทว์ยังไงผมขอบรรยาย มันคือภาพตอนที่ผมกำลังโซ้ยอุด้งอยู่เต็มปากจนมันอูมแก้ม แล้วในจังหวะเดียวกันผมก็เงยหน้าขึ้นมาเจอมันถือโทรศัพท์จนเบิกตากว้างนิดๆดูผ่านๆคือทำตาถลนใส่กล้อง

          พร้อมแคปชั่น..

          With My lovely mate

          และอีกมากมายในหลายๆรูป ที่ผมเลื่อนมือสั่นๆไปกด ไม่อยากจะมองแต่ก็ห้ามความอยากรู้อยากเห็นของตัวเองไม่ได้ พร้อมกับอุณหภูมิบนใบหน้าที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆจนต้องฟุบหน้าลงกับโต๊ะ

          ทั้งๆที่มันเอารูปผมไปลงเเบบไม่ได้รับอนุญาตแถมยังมีแต่รูปอุบาทว์ๆ แต่ทำไมปากผมถึงหุบยิ้มไม่ได้เลยวะ

          "แม่ง.."

          ถึงแม้จะไม่ได้โกรธแต่เย็นนี้คงต้องไปบ่นสักนิดสักหน่อยจะดีกว่าโทษฐานที่เเอบถ่ายรูปผมแม้กระทั่งตอนนอนน้ำลายยืดแบบนั้น!!


------------


          "อ่าว"

          ไม่อยู่

          มันเนี่ยไม่อยู่ ตอนนี้ผมได้ย้ายร่างตัวเองกลับมาจากมหาลัยกลับมาที่ห้องเรียบร้อยแล้ว กะจะไปถามไอฝรั่งเรื่องไอจีอะไรนั่นแต่พอมาถึงก็เจอแต่ห้องอันว่างเปล่า..

          "โฮ่ง!"

          ไม่ว่างก็ได้วะ

          "ไอเตอร์! บอกแล้วไงว่าอย่าเห่า!"ผมรีบจุ๊ปากเอ็ดไอหมาไทยที่เดินมาแล้วเห่าใส้หน้าผมทันที

          "โฮ่ง!"

          เออ ขอบคุณมึงมาก

          Rrrrrrrrr

          ยังไม่ทันที่ผมจะได้อ้าปากเถียงกับไอเตอร์ต่อเสียงรินโทนของผมก็ดังขึ้นจนต้องควักมันออกมา พอเห็นชื่อคนโทรก็กดรับทันที

          "ว่าไงพี่เต้"

          [แหม ไม่เจอนานเลยนะมึงน่ะ ได้เสียกับเพื่อนคุณโคลด์ไปรึยัง]

          "บ้า! พะ พูดอะไรของพี่วะ!"

          [เป็นอะไร ร้อนตัวทำไม กูแค่แซวเอง เอ๊ะ..หรือมึงได้..]

          "สรุปพี่โทรมามีอะไรรึเปล่า!"ผมรีบพูดแทรกก่อนที่พี่เต้จะพูดจบประโยค ผมดันพลาดไปร้อนตัวจริงๆนั่นเเหละ ฮืออ

          [เออใช่ๆ ตอนนี้มึงว่างไหม ไม่สิ ช่วงนี้ พอดีช่วงนี้ทางนั้นมันยุ่งๆคนดูแลร้านมันเลยน้อย กูจะขอยืมแรงมึงหน่อย]ดีที่พี่เต้ไม่สงสัยหรือสงสัยแต่ไม่พูดก็ไม่รู้เลยวกกลับเข้าเรื่องให้ผมหายใจหายคอได้โล่งขึ้น ส่วนทางนั้นที่ว่านี่คือธุรกิจอีกอย่างของเฮีย แต่ถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่รู้อยู่ดี

          "หืม? ได้เลยพี่ แล้วทำไมเฮียแกไม่จ้างคนเพิ่มล่ะ"

          [ถ้าเป็นพวกเด็กเสิร์ฟหรือเชฟน่ะคุณโคลด์จัดการเรียบร้อยแล้วล่ะ แต่ตอนนี้ขาดคนทำบัญชีน่ะ ช่วงที่มึงไม่อยู่ฟางก็ทำอยู่คนเดียวนะแต่ไม่ไหวว่ะ จะให้ใช้คนอื่นทำคุณโคลด์ก็ไม่ไว้ใจด้วย มีมึงเนี่ยที่มีหัวด้านนี้]

          อาจจะดูยิ่งใหญ่อลังการกับการให้นักศึกษาปีหนึ่งหน้าตาบื้อๆแบบผมไปจัดการเรื่องการเงินของร้านอาหารกึ่งบาร์ที่ถึงแม้จะไม่ใหญ่มากนักแต่มีชื่อเสียงค่อนข้างมาก อันที่จริงตอนแรกผมก็ไปสมัครเป็นพนักงานเสิร์ฟธรรมดาเนี่ยแหละครับ แต่เกิดเหตุการณ์อะไรนิดหน่อยให้ผมได้ไปเจอใบเบิกค่าของของร้านซึ่งตอนนั้นเป็นผู้จัดการคนหนึ่งที่เฮียจ้างไว้ พอไล่สายตาดูก็พบถึงความผิดปกติของจำนวนเงินทันที ด้วยความที่คิดยังไงก็บอกอย่างนั้นผมเลยเอาไปแจ้งเฮียทันทีถึงแม้ว่าตอนนั้นจะไม่เคยคุยกันมาก่อนแม้แต่คำเดียวก็ตาม

          ผมไม่ได้คาดหวังจะให้เขาชม เลื่อนตำแหน่งหรืออะไรอยู่แล้ว แต่ผมไม่ชอบคนโกงแบบนี้เลย แต่เหมือนการที่ผมเอาไปบอกตรงๆพร้อมหลักฐานเต็มมือก็ทำให้เฮียเกิดถูกชะตาผมขึ้นมาซะอย่างนั้น ตั้งแต่นั้นผมก็ได้เริ่มทำพวกบัญชีของร้าน ถึงจะไม่ได้ทำคนเดียวทั้งหมดแต่ก็เป็นเหมือนคนคอยเช็คอีกทีซะมากกว่า

          ไม่รู้ทำไมแต่เฮียค่อนข้างจะไว้ใจผมมากทีเดียว

          "งั้นได้เลยพี่ ให้ผมออกไปเลยตอนนี้ไหมผมเรียนเสร็จสักพักแล้ว"

          [มาเลยๆ จะให้มึงเช็คของเดือนที่แล้วให้ด้วย คงดึกหน่อยนะ]

          "รอแปปนะพี่"ผมว่าก่อนจะตัดสาย จากนั้นก็ดิ่งไปที่ร้านทันที


------

          "เฮ้อ! เสร็จสักที!"

          ผมบิดขี้เกียจยาวๆหลังจากที่พอมาถึงก็ถูกพี่เต้ถีบขึ้นมาหลังร้านพร้อมกองเอกสารของทั้งเดือนที่ผ่านมาทันทีแบบไม่ทักไม่ทาย จนนั่งตรวจเช็คมันทุกตัวทุกอย่างให้แน่ใจจนเวลาล่วงลับมาถึงตอนนี้

          "ขอบคุณมากนะธีร์ ตอนแรกพี่คิดว่าจะทำคนเดียวไหว ลำบากเรารึเปล่า"พี่ฟางเดินเข้ามาหาด้วยรอยยิ้มถึงแม้หน้าจะยิ้มแต่ผมก็พอดูออกว่าคงเหนื่อยไม่น้อย พี่แกก็คนดีจนผมต้องยิ้มแล้วส่ายหน้า

          "ไม่เลยพี่ฟาง ผมชอบจะตายเรื่องเเบบนี้ สนุกดีออก"

          คือ...มันเป็นสิ่งที่ผมทำได้ดีไง ถ้าผมทำแล้วมันเกิดประโยชน์ผมก็ดีใจ

          "หิวรึเปล่าถ้าหิวเดี๋ยวไปทำอะไรมาให้กิน"

          ผมส่ายหน้า งานพี่แกก็เยอะอยู่แล้ว ผมอาจจะลืมบอกแต่นอกจากพีาแกจะเป็นผู้จัดการร้านแล้วยังเป็นคนคอยคุมพวกเชฟและพนักงานด้วยตัวเองอีก ช่วงนี้คงคนเยอะดูล้าอย่างเห็นได้ชัดเลย

          "ไม่เป็นไรพี่ผมไม่หิว"

          "งั้นเดี๋ยวพี่ออกไปช่วยพวกนั้นก่อน ยิ่งดึกคนยิ่งแน่น เราจะกลับไปก่อนเลยก็ได้นะ"

          "ให้ผมไปช่วยไหมพี่ฟาง"ผมเอ่ยถาม ไหนๆก็มาแล้วดูจากท่าทางของพี่ฟางคนเซอร์แล้วคนคงเยอะจริงๆ แอบรู้สึกผิดหน่อยๆที่แอบอู้ไปนอนๆกินๆอยู่คนเดียว

          "ไม่เป็นไรๆ แค่นั้นก็ล้าจะแย่แล้ว กลับไปพักเถอะ"

          "อ่า ขอบคุณครับ งั้นผมไปก่อนนะ"ผมกล่าวลาให้คนแก่กว่าพยักหน้ารับแล้วเดินออกไปก่อน ผมหลับตาลงไล่ความล้าสายตาก่อนจะลุกขึ้นบิดขี้เกียจอีกสักรอบ การนั่งจ้องอะไรเป็นเวลาหลายชั่วโมงติดกันนี่มันโคตรล้าเลยจริงๆนะครับ ถึงตอนทำจะไม่รู้สึกแต่พอเสร็จนี่รู้เรื่องเลย

          สี่ทุ่มแล้วหรือเนี่ย ป่านนี้ไอหมีควายคงกลับถึงแล้วมั้ง

          กึก

          ผมชะงักเมื่อพอเดินออกมาจากหลังร้าน ก้าวออกมาได้ไม่กี่ก้าว สายตาดันไปสบเข้ากับร่างของคนคุ้นตาที่นั่งอยู่ที่โต๊ะมุมหนึ่ง

          ไอหมีควาย?

          ผมมั่นใจว่าตัวเองไม่ได้เบลอ ดูจากไกลๆแต่ผมก็มั่นใจว่าเป็นมันแน่ๆ แถมไม่ได้นั่งเปล่า กระดกเอาๆ ซึ่งเดาได้เลยว่าเหล้าแน่ๆ

          มาหาเฮียรึเปล่าวะ?

          "พี่เต้ วันนี้เฮียเข้ามาหรือ"ผมหันไปถามพี่เต้เจ้าเก่าที่เดินผ่านมาพอดี

          "ไม่นี่"

          "อ๋อ"ผมครางรับเบาๆ พี่เต้แกก็ดูสงสัยว่าผมจะถามอะไรนะแต่ยังไม่ทันจะได้เปิดปากถามต่อก็ถูกพนักงานคนหนึ่งเรียกไปซะก่อน

          คิ้วทั้งสองข้างขมวดหากันเข้าเล็กน้อยอย่างเป็นห่วงและสงสัยพร้อมกับขาที่ก้าวไปหาโดยทันที เพราะดูจากท่าทางนี่เมาแอ๋แน่ๆ

          กึก

          ผมชะงักเท้า จากมุมที่ผมมองตอนแรกทำให้ผมเห็นมันแค่คนเดียวแต่พอเดินมาใกล้ขึ้นก็พบว่ามันไม่ได้อยู่คนเดียว แต่มีผู้ชายร่างอีกคนหนึ่งนั่งอยู่ข้างๆ

          "น้องธีร์ใช่ไหมครับ?"

          "คะ ครับ"ผมตอบไปแบบอัตโนมัติ ผมสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อถูกผู้ชายคนนั้นทักเพราะผมหยุดอยู่ห่างจากโต๊ะเขาพอสมควร แต่อีกฝ่ายก็เงยหน้าขึ้นมาแล้วส่งยิ้มบางมาให้ทั้งยังเอ่ยทักแต่นั้นยังไม่น่าตกใจเท่าที่เขารู้จักผม

          เขาเป็นผู้ชายที่อายุน่าจะไม่น่าเกินสามสิบ ไม่สิถ้าหน้าตาอาจจะเเค่ยี่สิบต้นๆหากแต่บรรยากาศรอบๆตัวเขากลับให้ความรู้สึกเหมือนผู้ใหญ่ ผิวขาวแต่ไม่ถึงกับโอโม่ ผมสีดำตัดสั้นดูเรียบร้อย ตาคมกริบล้อมด้วยแพขนตาสีเดียวกับผม ไหนจะส่วนสูงอันมากมายที่ถึงแม้เขาจะนั่งอยู่แต่ผมก็รู้ได้เลยว่าเกินร้อยแปดสิบแน่ๆ

          ดูดี...ดูดีมาก

          "พอดีเลย พี่ชื่อตองนะครับ พอดีเป็นเพื่อนเก่ากับอออสตินน่ะ วันนี้เลยนัดกันมาดื่มนิดหน่อยแต่ท่าทางมันจะหนักไปหน่อย"เขาว่าอย่างนั้นพร้อมรอยยิ้มไร้พิษภัยให้ผมถอนหายใจอย่างโล่งอกได้นิดนึง เมื่อสมองประมวลออกมาว่าคนตรงหน้าไม่อันตรายผมก็เผยยิ้มทันที

          "ผมธีร์ครับ เอ่อ..เป็นรูมเมทกับเอ่อ...เขา"ชี้ไปยังคนที่กึ่งนั่งกึ่งฟุบ ใบหน้าแดงแจ๋ชูแก้วเหล้าไปมาอย่างไม่รู้เรื่อง

          "เขาเล่าให้พี่ฟังหมดแล้วล่ะ พอดีเลยช่วยพาเขากลับไปด้วยได้ไหม พี่กำลังกลุ้มอยู่พอดีเลยว่าจะพามันกลับไปไหน ธีร์กลับแท็กซี่ใช่ไหมเดี๋ยวพี่ช่วยแบกไปส่ง เราคนเดียวคงเอาไม่ไหวหรอก"พี่ตองว่าด้วยรอยยิ้ม

           ซึ่งผมก็เห็นด้วยทันทีตกลงปลงใจให้พี่เขาช่วยแบกร่างหมีควายตามหลังผมมา ถ้าถามว่าทำไมผมถึงไม่ช่วย บอกเลยครับว่าตอนแรกจะช่วยนะ แต่ด้วยความที่ส่วนสูงมันต่างกันมากเกินไปมันเลยค่อนข้างจะทุลักทุเลพอสมควร

          "เอ่อ ขอบคุณมากครับพี่ตอง"ผมกล่าวขอบคุณหลังจากยัดร่างของไอหมีควายนั่นเข้าไปในแท็กซี่ได้สำเร็จ ซึ่งพี่ตองก็ยิ้มบางๆมาให้

          "อืม ไม่เป็นไรหรอก ยังไงก็ดูแลมันดีๆด้วยล่ะ"

          ผมยิ้มรับกับคำนั้นและยัดตัวเองเข้าแท็กซี่ตามไอฝรั่งไป หลังจากประตูปิดลงก็โบกมือลาคนที่ยังยืนยิ้มส่งให้อีกที

          รถแท็กซี่เขียวเหลืองได้เคลื่อนตัวออกไปแล้ว รอยยิ้มบางเบาของชายร่างโปร่งผู้มีศักดิ์เป็นถึงหมอและเพื่อนเก่าแก่ก็ค่อยๆหุบลงจนเหลือเพียงใบหน้าเรียบนิ่งที่ไร้อารมณ์


 





























ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
ออสตินมานั่งปรับทุกข์อะไร เล่าให้คอร์กี้ฟังมั่งสิ ระบายก็ยังดี~

ออฟไลน์ neverland

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 653
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
งืออออ อย่ามาม่าแรงนะ  :hao5:

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ไม่ใช่แฟนเก่าหรอ???

ออฟไลน์ Kiitos

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 45
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Re: Just ' U แค่คุณ ❥ CH.29
«ตอบ #114 เมื่อ26-09-2016 00:03:31 »

Chapter 29
| Finally


          "หนัก!ฉิบ!หาย!"

          ผมทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงทั้งยังหอบแฮ่กๆ ขามามีพี่ตองคนนั้นช่วยไงครับ ปต่พอตอนพาขึ้นคอนโดนี่ผมคนเดียวเลยนะ แล้วไอคนข้างๆนี่ก็ตัวหนักโคตรๆเเถมส่วนสูงก็ต่างกันมากๆจนมันจะล้มทับผมอยู่หลายครั้งหลายครา

          แดกยังไงให้เมาขนาดนี้วะ

          คนอย่างมันน่าจะรู้ลิมิตตัวเองดีนี่ ถ้าจะบอกว่าเพื่อนเสี้ยมแต่พี่ตองไม่น่าจะทำอย่างนั้น รายนั้นดูเหมือนไม่ได้กระดกเลยสักแก้วด้วยซ้ำ

          ผมมองหน้าคนที่ตัวเองเอามาทิ้งไว้บนเตียงอีกครั้ง หน้าคมที่เห่อเเดงอย่างเห็นได้ชัด มันแดงตั้งแต่หน้ามาทั้งคอ แต่เหมือนเพราะฤทธิ์เหล้าทำให้ทันไม่มีสติหลงเหลืออยู่แล้วดูได้จากเสียงกรนครอกๆที่ดังออกมาสิ

          กลิ่นเหล้านี่หึ่งเลย จะปล่อยไว้อย่างนี้ก็คงไม่ได้

          ผมเดินไปเอากาละมังใส่น้ำกับผ้าผืนเล็กๆมาหนึ่งผืน เอาผ้าจุ่มน้ำจากนั้นก็บิดให้หมาดๆแล้วเริ่มเช็ดตัวให้อีกฝ่าย

          เมื่อผ้าเย็นๆสัมผัสกับผิวหน้าคนเมาก็ส่งเสียงฮึมฮัมในลำคอเหมือนสบายหรือยังไงก็ไม่ทราบแต่มันก็ไม่ได้ขยับหนี ผมจึงค่อยๆซับลงมาเรื่อยๆจนถึงคอ

          สงสัยต้องลอกคราบก่อน

          ผมค่อนข้างชินกับการดูแลคนเมา ถึงแม้ผมจะเที่ยวไม่บ่อยแต่ผมก็เคยไปกับพวกเพื่อนๆ ผมกับไอแต็กจะสลับกันแดก เพื่อที่จะได้เหลือคนหนึ่งไว้คอยเก็บศพ

          ไอหน้าที่คอยเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้านี่ก็เคยทำอยู่แล้ว...

          แล้วมือมึงจะสั่นทำไมวะไอธีร์!

          ผมอยากจะตบมือสั่นๆของตัวเองยามค่อยๆเลิกเสื้อมันขึ้น พยายามโฟกัสสายตาตัวเองไว้สูงๆ ไม่ใช่ว่าไม่เคยเห็นแต่เห็นกี่ครั้งก็ไม่ชิน มันร้อนๆหนาวๆตลอดเลย

          ฟึ่บ

          รอดไปหนึ่ง เหลือกางเกง..

          ผมโยนเสื้อตัวใหญ่ไปไว้มุมห้องก่อนจะกลับมามองกางเกงยีนส์ที่เหลืออยู่

          เอื้อก

          แล้วกลืนน้ำลายลงอย่างฝืดคอ

          มึงมาใส่กางเกงยีนส์อะไรวันนี้วะไอหมีควาย! มันถอดยากโว้ย!

          ถึงจะคิดอย่างนั้นแต่มือก็เลื่อนไปปลดกระดุมอย่างระแวดระวัง กลัวมันจะไปเกี่ยวอะไรที่ไม่สมควรเกี่ยวเข้า แล้วรูดซิปลงตามลำดับ จากนั้นก็ค่อยๆดึงกางเกงยีนส์ที่ค่อยข้างเข้ารูปออกอย่างยากลำบาก

          จนในที่สุดมันก็เหลือเพียงชั้นในสีขาวตัวเดียว

          ซึ่งผมไม่ถอดมันออกแน่ๆ

          ผมละสายตาสั่นๆออกมาจากเอ่อ...สิ่งนูนๆกลางตัวนั่นก่อน พยายามโฟกัสมาที่หน้าที่ตัวเอง ลากผ้าชุบน้ำไปตามตัว ตั้งแต่ไหล่ ไหปาร้า ลงมายันหน้าอก

          มันหุ่นดีมากจริงๆ มาก..มากเกินไปแล้ว

          ผมไม่รู้ว่ากลายเป็นคนแพ้หุ่นผู้ชายตั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะเพียงแค่มองก็ทำเอาหน้าร้อนๆแล้ว แล้วยังร้อนหนักกว่าเก่าเมื่อมีความคิด'อยากสัมผัส'เข้ามาในหัว

          ไว้เท่าความคิด ไม่ต้องไตร่ตรองอะไรทั้งนั้น ผมเหล่อบมองหน้าคนที่กลับตาพรึ้มอย่างไม่รู้เรื่องว่ากำลังโดนผมลวนลามเพื่อความเเน่ใจว่ามันจะไม่ตื่นมาถีบผม มือข้างที่ว่างอยู่ก็เลื่อนไปวางบนซิกแพคหกลูกนั่น

          แปะ

          "อืม.."

          ขวับ!

          ผมหันมองอัตโนมัติก่อนจะโล่งอกว่ามันแค่ครางในลำคอออกมาโดยที่ไม่รู้ตัวเท่านั้น ขอขอบคุณพลังแห่งเหล้าที่ทำให้มันหลับลึกขนาดนี้ ไม่งั้นได้อายยันชาติหน้าแน่ มาลักหลับมันแบบนี้

          "อื้ม.."

          เสียงครางเเผ่วๆดังขึ้นตลอดเมื่อผมเริ่มลากมือไปตามกล้ามเนื้อสวยนั่น แต่ตอนนี้ผมไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างเท่าไหร่ มัวแต่แปลกใจที่ตัวเองรู้สึกดีแปลกเมื่อได้สัมผัสคนด้านหน้า

          มัน...เอ่อ...เรียกว่าไงนะ ฟิน?

          ผมว่าผมเริ่มโรคจิตแล้วล่ะ ยิ่งพอลูกชึ้นลูบลงแล้วไอกล้ามเนื้อหกก้อนนั่นเกร็งขึ้นจะเป็นลูกหนักกว่าเก่ายิ่งทำให้ผมรู้สึกสนุกแปลกๆจนชักหนักมือลูบผ่านแบบแผ่วๆไล่มาให้ถึงขอบชั้นในแล้วไล่ขึ้นไปใหม่

          "ฮึ่ม"

          การทำแบบนี้มันยิ่งดูเกร็งเข้าไปอีก และด้วยอะไรก็ไม่รู้ผมดันทำในสิ่งที่พลาดอย่างแรงลงไป

          แผล่บ

          เกร็งกว่าเดิมจริงด้วย

          ลิ้นเล็กถูกตวัดลงบนกล้ามเนื้อสวย ไล่ลงมายังแอ่งสะดือก่อนจะ...วนรอบ

          สนุก รู้สึกดี และรู้สึกร้อนแบบแปลกๆ

          ไม่รู้ว่าผมเพลินขนาดไหน ขนาดไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองได้ปีนขึ้นมานั่งทับมันเสียงแล้ว มันแต่สนใจซิกแพคและสามเหลี่ยมคว่ำ จนไม่ได้ฟังดลยว่าเสียงครางแปลกๆมันหายไปแล้ว

          "Naughty Corgi (คอร์กี้จอมซน)"

          หือ!

          ผมชะงักมือตัวเองแล้วเงยหน้าขึ้นมาตามเสียงพร้อมกับสติที่ค่อยๆกลับมา

          คนที่คิดว่าหลับลึกไปแล้วลืมตาเยิ้มๆมองมาทางผมพร้อมรอยยิ้ม...

          ฉะ ฉิบหาย!

          ผมนี่กุลีกุจอลุกออกจากตัวมันแทบไม่ทัน หน้านี่ร้อนจนแทบไหม้ แต่ยังไม่ทันได้ลุกไปยืนข้างเตียงดีๆก็มีมือดีมาฉุดแขนให้ผมกลับไปนอนใหม่...ไม่ใช่ท่าเดิมด้วย

          ไอหมีควายพลิกตัวขึ้นคร่อมผมทันที ดวงตาน้ำข้าวเหมือนมีประกายไฟอยู่ด้านใน สายตามันเหมือนจะเผาผมทั้งเป็นเพราะร้อน แค่มันมองผมก็ร้อนไปทั้งตัวแล้ว

          ผมไม่ได้ขัดขืน นอนตัวเเข็งทื่อมองมันกลับอยู่ใต้ร่างมันอย่างหวาดๆ หลับตาปี๋เมื่อหน้ามันเคลื่อนเข้ามาใกล้

          ลมหายใจอุ่นๆเป่ารดหูผมจะขนลุกไปทั้งตัว

          "I can't bear it anymore (ฉันทนไม่ไหวแล้วนะ)"

          เสียงกระซิบอันเเผ่วเบานั่นเหมือนเป็นชะนวนระเบิดที่ทำให้เกิดเสียงดังปุ้งในหัวผม จนสติผมหายไปหมดเหลือเพียงสีขาวโพลนเท่านั้น.


"อื้อ!"

ริมฝีปากสีแดงเข้มถูกบดเบียดลงมาเเทบจะทันทีหลังพูดจบ ลิ้นร้อนที่แทรกเข้ามาร้อนแรงกว่าทุกทีจนผมอ่อนปวกเปียก สมองที่โล่งอยู่แล้วโล่งเข้าไปอีก

ไม่เพียงแค่ริมฝีปากเท่านั้นที่ถูกจู่โจม มือหนากร้านล้วงเข้ามาใต้สาบเสื้อตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทราบ รู้เพียงแต่ว่าเวลาที่มันลากมือขึ้นลงตรงท้องน้อยทำเอาผมสยิวไปทั้งตัว และไม่อยากจะบอกเลย...ผมขึ้นแล้ว

ที่จริงมันก็เริ่มๆตั้งแต่ที่ผมลวนลามมันแล้วน่ะเเหละ

"อ้ะ อื้อออ"ผมร้องออกมาอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้เมื่อมือสากลูบผ่านตุ่มไตที่แข็งชันขึ้นสู้ทันที

ผมเพิ่งรู้ว่าหัวนมมันเซนซิทีฟขนาดนี้ก็วันนี้

มันไม่ปล่อยให้ผมพักหายใจเลยแม้แต่นิด แค่จูบเดียวผมก็รู้สึกเหมือนไปวิ่งมาหลายกิโลแล้ว พอมันผละออกจากริมฝีปากมันก็เลิกเสื้อผมขึ้นจนมากองอยู่เหนืออกจากนั้นก็ละเลงลิ้นลงบนเม็ดเล็กๆจนผมเผลอแอ่นอกเข้าหา

ในระหว่างที่เคลิ้มไปกับรสสัมผัสอันแปลกใหม่ มันก็ได้ใช้มืออีกข้างดึงกางเกงของผมออกไปจนเหลือเพียงชั้นใน แต่ตอนนี้ผมมองไม่เห็นอะไรทั้งนั้นเห็นแต่หัวสีน้ำตาลทองที่ยังคลอเคลียอยู่แถวหน้าอกจนได้แต่ยื่นมือไปขยุ้มผมอีกฝ่ายไว้เป็นที่ระบายความเสียวซ่านที่เกิดขึ้น

ไอหมีควายก็ยังเล่นกับตุ่มไตทั้งสองไม่เลิก เหมือนสนุกกับการได้เขี่ยๆคีบๆจนมันชูชันสู้มือซะอย่างนั้น

ผมได้แต่บิดไปบิดมาอยู่ใต้ร่างเพื่อระบายความเสียวซ่านที่เกิดขึ้น แต่เหมือนมันจะช่วยอะไรไม่ได้มากเมื่อมืออีกคนกำลังเลื่อนต่ำคว้าหมับเข้าที่เอ็นอุ่นขนาดกระทัดรัด

มือใหญ่กำรอบแก่นกายของผมได้อย่างสบายๆ ผมค่อนข้างมั่นใจนะว่าผมเองก็ขนาดมาตรฐานชายไทย แต่มือมันท่าจะใหญ่ไปเพราะพอมันกำก็เหลือเพียงส่วนหัวที่เลยออกมา

ไอหมีควายไม่พูดพร่ำทำเพลงหรือให้สัญญาณใดๆทั้งสิ้น มือมันเริ่มขยับอย่างเอื่อยๆให้ผมเสียววาบๆตรงช่องท้อง ทั้งนังใช้นิ้วโป้งบดคลึงส่วนปลายอย่างรู้ว่าแบบไหนจะรู้สึกดี

"ยะ..อย่าขยี้..อื้อ ตรงนั้น.."

มันเก่งเกินไปแล้ว..

ความรู้สึกที่ถูกส่งให้มันเป็นไปอย่างธรรมชาติไม่มีติดขัด แถมมันยังรู้สึกดีมากดีจนตกใจ ครั้งที่เคยสัมผัสภายนอกกันมารอบนั้นยังเทียบไม่ได้ด้วยซ้ำ ทั้งดวงตาปรือที่มองมาก็ดูร้อนแรงกว่าทุกที รอยยิ้มที่มองก็รู้สึกเสียววาบแปลกๆราวกับว่ามันกลายเป็นคนละคน

มันเร่งจังหวะมือมากขึ้นแล้วก็ผ่อนความเร็ว สลับไปสลับมาจนผมแทบจะบ้าเพราะมันไม่ยอมให้ผมถึงฝั่งฝันเสียที

"อ้ะ อื้อ ขอ ขอเถอะ" ผมครางแผ่วๆพยายามจะเอื้อมมือไปปัดมือมันออกจะได้รีบๆจัดการให้เสร็จเสียทีหากแต่มันก็ไม่ยอม เขยิบขึ้นมากดข้อมือผมไว้กับเตียงไม่แรงนักแต่ผมในสภาพแบบนี้นี่ไร้เรียวแรงจะขัดขืนจริงๆ

มันไม่ได้พูดอะไรมีเพียงรอยยิ้มบางเบาส่งมาเท่านั้น มันผละมืออกจากธีร์น้อยจนผมต้องผงกหัวขึ้นไปมองอย่างสงสัย แต่สิ่งที่เห็นคืออนาคอนด้าที่กำลังออกมาสูดอากาศภายนอก

อึก..

ถึงนี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้เห็น แต่ก็อดกลืนน้ำลายกับความมหึมาของมันไม่ได้ ธีร์น้อยที่ผมภูมิใจนี่กลายเป็นหนอนไปเลย

มันลอกคราบตัวเองจากที่เหลือกางเกงในตัวเดียวตอนนี้ก็ล่อนจ้อนเป็นเพื่อนผมเรียบร้อยแล้ว จากนั้น...ก็ลุกขึ้น

"จะ..."

แกร็ก

ผมยันตัวขึ้นมาอย่างงงๆแล้วหันไปมองคนที่จู่ๆก็ลุกพรวดพราดไปยังข้างๆเตียงเพื่อเปิดลิ้นชักในชั้นข้างๆหัวเตียง...แล้วโยนอะไรบางอย่างมาบนเตียงให้ผมหันมองตาม

Durex..

ทั้งกล่องสี่เหลี่ยมอันคุ้นตากับขวดทรงแปลกที่ผมเคยหยิบมาดูในวันนั้น

วินาทีที่เหลือบไปมองคนที่โยนมาก็รู้ได้ในทันทีว่ายังไงวันนี้ผมก็ไม่รอดแน่ๆ..

ร่างกายที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อสวยที่ผมเคยนึกอยากมีบ้างเดินขึ้นมาทาบทับ ดวงตาน้ำข้าวเหมือนมีประกายออกมาจนผมละสายตาออกมาไม่ได้ มันคลานเข้ามาใกล้เรื่อยๆ เรื่อยๆจากนั้นก็...

"เฮ้ย!"

ผมร้องลั่นอย่างตกใจ สติกลับเข้าร่างเมื่อจู่ๆมันก็ดึงขาจนหัวผมตกลงจากหมอนจากนั้นก็ดันขาผมขึ้นแล้วเอาตัวเองมาแทรกกลาง

"ดะ เดี๋ยว!" ความเคลิ้มก่อนหน้านี้นี่หมดสิ้น เมื่อสายตาเหลือบไปเห็นอีกฝ่ายคว้าขวดทรงสูงที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงขึ้นมาจากนั้นก็บีบให้เจลสีใสชะโลมที่นิ้วตนเอง จนคนที่นอนมองอยู่ใจสั่น

3.ควรใช้เจลหล่อลื่นในการเบิกทาง

ประโยคในอินเตอร์เน็ตที่เคยไปเสิร์ชหาลอยเข้ามาในหัวทันทีเมือเห็นของเหลวสีใสเยิ้มๆนั่นบนนิ้วของอีกคน และถึงแม้จะไปศึกษามาบ้างแต่พอเจอของจริงก็อดหวั่นใจไม่ได้

ทางนั้น...ทางนั้นมันจะเข้าได้จริงๆหรือวะ ของมันก็ไม่ใช่เล็กๆ

เฮือก!

ผมสะดุ้งสุดตัวถดตูดสุดขีดเมื่อนิ้วเย็นๆนั่นเเตะเบาๆต้องปากทางเข้าในจังหวะที่ผมกำลังเหม่อลอย แต่คิดเหรอว่ามันจะปล่อยให้ผมขยับหนี คว้าหมับเข้าที่ข้อเท้าก่อนจะดึงให้ผมล้มตัวลงไปนอนราบใต้ร่างมันอีกรอบ เเถมยังดันขาผมขึ้นจนอะไรๆปรากฏเด่นสู่สายตามัน...ไม่เพียงแต่ธีร์น้อยขนาดกระทัดรัดแต่รวมถึงช่องทางที่ยังไม่เคยถูกบุกเบิกมาก่อน

อายกูก็อาย แต่ตอนนี้กูกลัวมากกว่า! ความกล้าก่อนหน้านี้คืออะไรไม่รู้แต่ตอนนี้ผมยอมรับเลยว่าตอนนี้ผมป็อด!

คิดภาพมีอะไรบางอย่างเข้ามาทางนั้นสิครับ มันไม่ได้สร้างไว้ทำแบบนั้นนะเฮ้ย เเละที่สำคัญคือ..

"เดี๋ยว! กูยังไม่ได้ล้าง!"

ฟึ่บ

"โอ้ย!"

แต่มันไม่ฟังอะไรเลย ขยับนิ้วเข้ามาโดยไม่บอกไม่กล่าว ผมที่ตกใจปนยังไม่พร้อมก็ร้องลั่นพยายามดึงเเขนมันออกน้ำตาคลอปริ่มๆ มันเจ็บครับถึงจะไม่มากอย่างที่คิดแต่มันก็เจ็บ

"จะ เจ็บ มันเจ็บ.."ผมพยายามจะเปล่งเสียงบอกมันว่าผมเจ็บ ผมไม่ไหว แค่นิ้วมันนิ้วเดียวผมก็จะตายอยู่แล้ว มันชะงักเล็กน้อยเมื่อผมบีบเเขนมันแน่นแต่ก็เท่านั้น

"Take it easy. Just relax.(ใจเย็นๆ ไม่ต้องเกร็ง)"

"รีเเล็ก..ยังไง..อ้ะ! ยะ..อย่า.."ผมร้องไม่เป็นภาษาเมื่อนิ้วเเทรกเข้ามาลึกขึ้นเรื่อยๆ จนได้แต่จิกเล็บลงบนเเขนอีกคนเมื่อมันเจ็บและเสียดกว่าที่คิดไว้ ยิ่งลึกเท่าไหร่ความเสียววาบๆตรงช่องท้องก็เดินชัดมากขึ้น

มันคานิ้วไว้สักพักก่อนจะเริ่มขยับช้าๆให้ผมหลับตาลงกัดปากแน่นมือก็เลื่อนไปขยุ้มที่นอนเพื่อระบายความเสียดภายใน จนกระทั่ง..

"อ้ะ! ยะ..อย่า! ตรงนั้น ฮื่ออ"ผมสะดุ้ง ผวาจนก้นลอยพยายามจะถดตูดหนีออกจากมือมันเมื่อจู่ๆก็รู้สึกถึงความรู้สึกแปลกๆ แต่ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุมันใช้มือข้างที่ว่างอยู่เลื่อนมากดมือผมไว้ไม่ให้ถอยหนีทั้งยังกดนิ้วย้ำๆลงที่จุดเดิมจนผมแทบดิ้น

"ฮื่อ แฮ่ก มัน มันแปลกๆ"

"Feel good. Hmm?"ไอหมีความโน้มมากระซิบที่ข้างหู ให้ผมที่เบลอๆพยักหน้ารับเบาๆแล้วตอบปนหอบ

"อื้อ กู๊ด อ้ะ! ดี มันเสียว ฮ่า แฮ่ก"

ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่ผมลืมความกลัวก่อนหน้านี้ไปหมดสิ้น ไอธีร์ที่ตัวสั่นหงกๆเมื่อกี้หายไปแล้วเหลือเเต่คนที่ร้องไม่เป็นภาษาปนหอบหายใจโอบรอบคอของอีกคน

ไม่รู้ผ่านมาเท่าไหร่ แต่ตอนนี้นิ้วทั้งสามของมันได้เข้ามาอยู่ในช่องทางสีสวยเป็นที่เรียบร้อย มันขยับเข้าๆออกๆอยู่พักใหญ่ มืออีกข้างก็เปลี่ยนมาใช้ลูบไล้ตัวผมเพื่อปลุกปั่นอารมณ์ คราวนี้ผมไม่ดิ้นหนีแล้วครับ ไม่สิ ถ้าจะพูดให้ถูกคือไม่มีเเรงจะดิ้นต่างหาก

"Ahh..I can't bear it.(อ่า..ฉันทนไม่ไหวเเล้ว)"

ฟึ่บ

หือ!

คนที่นอนตาเยิ้มหมดแรงอยู่สะดุ้งน้อยๆเมื่อจู่ๆอีกคนก็ถอนนิ้วทั้งหมดออกจนรู้สึกโหวงๆตรงช่องทางด้านหลัง หากแต่ยังไม่ทันที่จะได้ยันตัวขึ้นไปดู อะไรบางอย่างก็มาสัมผัสที่ปากทางเข้าเสียก่อน

ฟึ่บ

"โอ้ย!! เจ็บ! เจ็บๆๆๆ ฮื่อ มันเจ็บ เอาออก เอาออกไป"น้ำตาที่คลอหน่วงอยู่ไหลพรากทันทีเมื่อรู้ว่าอะไรบางอย่างนั้นคืออนาคอนด้าตัวใหญ่ที่กำลังบุกเข้ามา ตอนมองดูตาเปล่าก็ว่าใหญ่เเต่พอได้สัมผัสก็รู้เลยว่ามันใหญ่กว่าที่คิด จนรู้สึกเหมือนช่องทางด้านหลังกำลังจะฉีกขาดแค่เพียงส่วนหัวที่ถูกกดเข้ามา

"ฮืออ เจ็บ ผมเจ็บ ฮึก"

"Shit!"เสียงสบถจากอีกคนไม่ได้เข้าหูผมเลยซักนิด ตอนนี้ผมรู้เพียงแต่ว่าผมเจ็บมากๆ น้ำตาไหลไม่หยุด เเถมยังไม่มีเรี่ยวแรงจะผลักมันออกอีกต่างหาก

ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากจะมีอะไรๆกับมัน ตรงกันข้ามอยากลองไวๆด้วยซ้ำ แต่พอเจอของจริงแล้วบอกเลยว่ากูไม่พร้อม ไม่พร้อมอย่างแรง

"Corgi look at me (คอร์กี้มองหน้าฉัน)"

"..."

"Trust me.(เชื่อใจฉันสิ)"ไอฝรั่งพูดแล้วยิ้มให้ แม้ตามกรอบหน้าจะเต็มไปด้วยเหงื่อทั้งยังขบกรามจนเห็นเอ็นตรงคอชัดเจนบ่ฃบอกว่าอีกคนก็ทนเเทบไม่ไหวแล้ว

จุ๊บ..

คนตัวโตก้มริมฝีปากลงบนหน้าผากมน ไล่ลงมาที่เปลือกตา ปลายจมูก และเเตะเบาๆที่ริมฝีปาก ไม่มีการรุกล้ำแต่นั่นทำให้ผมสงบลฃได้อย่างน่าประหลาด..

"อื้ออ"ผมร้องออกมาเบาๆเมื่ออนคอนด้าตัวโตกำลังเคลื่อนเข้ามาลึกเรื่อยๆ

"See. It's not scary(เห็นไหม มันไม่น่ากลัวหรอก)"มันพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มๆราวกับกำลังกล่อมให้ผมผ่อนคลายซึ่งมันได้ผลมากกว่าที่คิดเสียอีก

"อึก เข้ามา เลย เฮือก!"

พูดปุ๊ปก็เข้าปั๊ป แต่คือกูแค่บอกให้เข้ามาไม่ได้หมายความว่าให้เข้ามาหมดทีเดียวโว้ย!!

ปั่ก!

"Ouch!"

ทุบหลังแม่งเลย!
               
"ฮือออ เจ็บ!"อยากจะด่ามากกว่านี้นะ แต่ร่างกายไม่อำนวยจริงๆ น้ำตาที่กำลังจะหยุดนี่ร่วงเผาะๆเลย เหมือนอะไรทางด้านหลังมันฉีกจนแสบๆเสียดๆไปหมด

"Sorry. I'm sorry."

ซอรี่แล้วมึงยิ้มทำอะไร!

ปั่ก!

"Ouch!"

"ไม่ ฮึก ต้องมา ร้องเลย ฮือ เจ็บ"ผมพูดไปก็สะอื้นไป จนร้อนให้อีกคนต้องโน้มตัวมาใช้นิ้วปาดน้ำตาให้ผมอีกรอบ แต่ปาดไปเถอะปาดไปมันก็ไหลอีกอยู่ดี

มันคาอนาคอนด้าที่พองตัวเต็มที่ไว้ในช่องทางด้านหลังผมซักพักใหญ่ๆ ในระหว่างนั้นก็จูบผมบ้าง เล่นกับธีร์น้อยบ้างจนผมเริ่มมีอารมณ์มากขึ้นๆแล้วลืมความเจ็บไปชั่วขณะ

"อะ อึดอัด"

"I'll move(จะขยับแล้วนะ)"

เฮือก!

"Take a deep breath (หายใจเข้าลึกๆ)"มันว่าให้ผมทำตามอย่างรวดเร็วมือทั้งสองข้างจิกลงบนผ้าปูเตียงเพื่อระบายความเสียดภายในเมื่อมันเริ่มขยับเข้า ขยับออกช้าๆ

"Ahh Thee you so tight (อ่า ธีร์ นายแน่นมาก)"

"อื้อ ยะ..อย่าเพิ่ง..อ้ะ! อย่า! อื้ออ ฮื่อ"ผมครางไม่เป็นภาษาเมื่อจู่ๆมันก็เพิ่มความเร็วเเบบไม่บอกไม่กล่าวจนแถมไม่เร็วเปล่ายังทวีความเเรงจนนอกจากเสียดแล้วยังจุก แต่จุกได้ไม่นานก็มีความรู้สึกอื่นเข้ามาเเทรกเเทน

ความรู้สึกแปลกๆแบบนี้อีกแล้ว

"อย่า ย้ำ อื้อ อ้ะ! ฮื่อ"ยิ่งพอมันกระแทกเข้ามาตรงจุดๆนั้นซ้ำๆ ผมนี่สะท้านไปทั้งร่าง

"Thee Thee ahh"มันครางเสียงต่ำในลำคอ เรียกชื่อผมซ้ำไปซ้ำมา ยามที่ขยับสะโพกเข้าออกจนได้ยินเสียงเตียงไม้ขยับดังเอี๊ยดอ๊าด

ผมขยับมือไปรูดธีร์น้อยอย่างไปเป็นเองตามธรรมชาติ ยิ่งมันเร่งความเร็วผมก็ยิ่งจุก แต่เป็นความจุกที่ผมรู้สึกดีโคตรๆจนสัมผัสได้ว่าตัวเองใกล้จะถึงฝังฝันแล้ว

"Good ahh"

คนตัวโตโน้มตัวเข้ามาโอบกอดตัวผมไว้ในขณะที่สะโพกก็ยังคงขยับ เร็วขึ้น เร็วขึ้น ผมจึงเอื้อมมือหนึ่งไปโอบลำคอมันไว้อีกมือก็เร่งความเร็วขึ้นเรื่อยๆ

"จะถึง อึก จะแตก แฮ่ก อื้ออออ!!!"

พรวด!

น้ำขาวจุ่นพุ่งออกมาจนเปรอะไปทั้งมือรวมถึงบนหน้าท้อง ผมหอบแฮ่กอย่างเหนื่อยอ่อน เหมือนพลังงานถุกใช้ไปจนหมดสิ้น เพราะพอเสร็จกิจตาผมก็เเทบจะปิดในทันที

หากแต่..

"Ahh Thee"

อีกคนยังไม่เสร็จ..

ฝรั่งตัวโตยังคงรัวสะโพกเข้าใส่ ขบกรามแน่น ซุกหน้าเข้าที่ซอกคอผมจากนั้นก็เอาแต่เรียกชื่อผมปนหอบกระเส่า

สติสตังผมไม่เหลือเเล้ว ภาพสุดท้ายที่เห็นคือผู้ชายร่างใหญ่ยังคงไม่หยุดกระเเทกกายเข้าหา เสียงเรียกชื่อยังดังเเผ่วๆมาตลอด

"...I..so..ry...T.."

            ก่อนที่ผมจะจมดิ่งสู่ห้วงนิทราเพราะความล้า...

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
เห้ย

ทำไมหนูคอร์กี้ใจแตกไวจริง ต้องขอแต่งงานก่อนเซ่ะ

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
แหมมมม ยั่วหนุ่มกลัดมันตอนเมา ธีร์น้อยกล้าจริงๆ

ออฟไลน์ Kiitos

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 45
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Re: Just ' U แค่คุณ ❥ CH.30
«ตอบ #117 เมื่อ26-09-2016 17:40:38 »

Chapter 30
| Coma


Austin's part


          ปวดหัว..คือความรู้สึกแรกในยามที่รู้สึกตัว ผมค่อยๆลืมตาขึ้นก่อนจะกระพริบถี่ๆเพื่อปรับโฟกัสมองไปยังเพดานขาวก่อนจะค่อยๆตั้งสติ และก็พอรู้ว่าเมื่อคืนผมดื่มไปค่อนข้างหนักเลยไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่ตื่นมาเจออาการแฮ้งค์แบบนี้

         แต่ทว่า...

         "หืม.."

          สัมผัสอุ่นๆค่อนไปทางร้อนที่แตะโดนผิวกายอยู่ทำให้ผมต้องครางในลำคออย่างสงสัยพร้อมปรายตาไปยังที่มาและก็พบกับร่างเปล่าเปลือยของใครบางคน

          เดี๋ยวนะ...

          ความทรงจำเมื่อคืนประดังประเดเข้ามาในสมองทันทีเมื่อเห็นร่างเล็กที่อยู่ในอ้อมอก ถึงผมจะเมาแต่ไม่ได้หมายความว่าผมจะจำไม่ได้ว่าตัวเองทำอะไรลงไป และผมก็รู้ตัวด้วยว่าทำไปกี่รอบ..

          ทำทั้งๆที่อีกคนสลบไปเนี่ยแหละ

          อาการเมาค้างหายเป็นปลิดทิ้ง สิ่งเเรกที่ทำหลังตั้งสติได้คือรีบถอนกายออกจากตัวอีกคนก่อนที่อนาคอนด้าจะตื่นมาอีกรอบ และใช่ คุณอ่านไม่ผิดผมเพิ่งจะ'ถอนกาย'ออกจากอีกฝ่าย ไม่ใช่เพราะลืมหรือเหนื่อยจนขี้เกียจเอาออกแต่เพราะมันเป็นนิสัยเสียๆของผมเวลามีเซ็กซ์ที่มักจะชอบคาไว้ยันเช้าวันต่อไป

          และแน่นอนมันไม่ใช่เรื่องดี

          ผมรีบลุกพรวดพราด เหลือบไปมองนาฬิกานิดแล้วพบว่านี่เกือบเที่ยงแล้ว คอร์กี้น้อยยังนอนนิ่งอยู่บนเตียงแถมไม่มีท่าทีที่จะตื่นทั้งยังตัวสั่นน้อยๆ ผิวแทนขึ้นสีเเดงเรื่ออย่างเห็นได้ชัดจนต้องก้มลงไปเพื่อเอามือไปอังหน้าผากอีกฝ่าย

          ร้อนจี๋เลย

          ผมนิ่วหน้านิดเมื่อพบว่าเขาไข้ขึ้นสูงมาก จนต้องกวาดตาสำรวจเนื้อตัวอีกฝ่ายและก็ได้เห็นผลงานชิ้นโบว์แดงที่ตัวเองทำไว้เมื่อคืน ลอยช้ำจ้ำๆไปทั่วตัวยันลำคอ จะว่าไงดีนี่ก็เป็นนิสัยเสียๆของผมอีกอย่างเช่นกันที่ชอบทำรอยมาร์กเเสดงความเป็นเจ้าของไว้

          และที่หนักคือ

          "Shit! (ฉิบหาย)"ผมสบถออกมาทันทีเมื่อลางสังหรณ์ของผมเป็นจริง พอเลิกผ้าห่มลงมาเรื่อยๆจนถึงเบื้องล่างก็ได้พบกับผลงานชิ้นโบว์แดงโดยฝีมือผมอีกชิ้น...

          น้ำสีขาวขุ่นที่ไหลเยิ้มออกมาจากช่องทางรักจนเปรอะไปทั่วผ้าปู

          ผมจำได้ว่าผมใส่ถุงยางจากนั้นก็...แตก

          เหมือนถุงยางที่เตรียมไว้จะไม่พอดีสำหรับอนาคอนด้าโตเต็มวัย และหลังจากที่มันแตกก็ไม่รู้อะไรอีกแล้ว

          โอ้ นี่ผมทำอะไรลงไป

          แผนการสร้างความประทับใจในครั้งแรกของธีร์พังครืนไม่เป็นท่า อุส่าห์พูดดีบอกรอให้เขาพร้อมดันไปมอมเหล้าตัวเองจนขาดสติแบบนี้มันใช้ได้ที่ไหน

          แต่ในเมื่อทำลงไปแล้วก็คงกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ ผมลูบหน้าเพื่อเรียกสติตัวเองอีกรอบแล้วค่อยๆเรียงลำดับสิ่งที่ควรทำ อย่างแรกผมคงต้องไปจัดการตัวเองให้เรียบร้อยก่อนอย่างน้อยก็หากางเกงมาใส่ล่ะนะ

          หลังจากไปหาเสื้อผ้ามาใส่และจัดการธุระส่วนตัวเรียบร้อยภายในเวลาไม่ถึงสิบนาที ก่อนจะหันมาจัดการคนตัวเล็กที่ยังคงนอนซุกผ้านวมผืนหนา ผมหันไปกดเบาแอร์หวังจะลดอาการหนาวสั่นของเขาได้ไม่มากก็น้อย จากนั้นก็...ทำอะไรต่อดี

          ใจจริงผมอยากจะเช็ดตัวให้เขา แต่อีกใจก็อยากจะเอาสิ่งนั้นออกก่อนเพื่อความสะอาด

          ผมตั้งใจจะทำให้เขาอยู่แล้วเพียงแต่ตอนนี้เขาไม่มีสติพอเเม้แต่จะลิมตาขึ้นมาด้วยซ้ำ จะให้อุ้มไปในห้องน้ำที่ไม่มีอ่างก็คงจะลำบากเวลาเอาออก ดังนั้นก็เหลือเพียงทางเลือกเดียว

          ผมเช็ดตัวให้เขาอยู่พักใหญ่ๆเนื่องจากมันค่อนข้างควบคุมตัวเองลำบากนะถ้ามาเห็นคนที่เราชอบนอนเปลือยแบบนี้ ทั้งตัวคอร์กี้ยังชอบส่งเสียงแปลกๆออกมาแบบไม่รู้ตัวอีกซึ่งผมฟังยังไงมันก็ยั่วกันอยู่ชัดๆ

          เสร็จสักที

          ผมยืนมองผลงานที่ใช้เวลาไปทั้งสิ้นเกือบชั่วโมงกับการเปลี่ยนชุดให้เขาใหม่ ส่วนสิ่งนั้นผมพยายามควานออกให้แล้วแต่ถ้าไม่ใช้น้ำยังไงมันก็ไม่หมดคงต้องรอจนกว่าเขาจะตื่น

          โคร่กกก

          "อุ๊บ!"

          ผมยกมือปิดปากกลั้นขำแทบไม่ทัน แน่นอนว่าเมื่อกี้คือเสียงท้องร้องแต่ประเด็นคอไม่ใช่ท้องผมหากแต่เป็นท้องของคนป่วยที่ยังไม่ได้สติอยู่บนเตียงต่างหาก

          ป่วยแต่ก็ยังหิวสินะ

          ผมยกยิ้มเอ็นดู ก้มลงไปกดจูบบนหน้าผากมนเบาๆ รวมถึงขโมยหอมแก้มทั้งสองข้างอย่างหมันเขี้ยว จบด้วยการขยี้หัวทุยเบาๆ

---------------------

Thee's part

          Rrrrrrrrr

          Rrrrrrrrrr

          จะโทรอะไรหนักหนาวะ!

          ผมขมวดคิ้วมุ่นทั้งๆที่ยังไม่ลืมตาเมื่อเสียงโทรศัพท์ยังคงแผดร้องวนรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้แต่ที่แน่ๆมันพอที่จะปลุกคนหลับลึกแบบผมขึ้นมาบ้าง

          Rrrrrrrrrrrrrr

          "รู้แล้วหน่า.."ผมพึมพำมือก็ควานหาโทรศัพท์ทั้งๆที่ตายังปิดอยู่ ถ้าจะพูดให้ถูกคือผมลืมไม่ขึ้นต่างหาก หัวก็ปวดตุบๆอย่างที่รู้ได้ทันทีว่าผมกำลังป่วย

          แต่ยังไม่ทันที่มือจะได้แตะโทรศัพท์เสียงก็หยุดไปเสียก่อน ในขณะเดียวกันก็มีเสียงเปิดประตูจนต้องพยายามลืมตาชะโงกหน้าไปดู

          "Oh! You're awake. Let's eat and take a pill first before you go to sleep.(ตื่นแล้วเหรอ มากินข้าวกินยาก่อนเถอะแล้วเดี๋ยวค่อยนอนต่อ)"

          พูดอะไรของเขาวะ

          ผมยันตัวเองขึ้นมานั่งอย่างมึนๆ ภาพตรงหน้ายังเบลอๆเหมือนสติยังมาไม่เต็มร้อย เอ๊ะ หรือว่าผมฝันอยู่หว่า

          ร่างสูงใหญ่ที่ผมเห็นอยู่ลางๆเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะยื่นมือมาช่วยพยุงผมที่มองตามเขาอย่างงงๆขึ้น

          "เย็น.."

          "Hey..(เฮ้..)"

          "งืมม เย็นจัง"

          แต่ก่อนที่เเขนหนาๆเเข็งๆจะผละออกไป ผมที่กึ่งนอนกึ่งนั่งก็คว้าเข้าที่แขนนั่นก่อนจะแนบหน้าลงไป ไม่รู้ว่าแขนอีกคนเย็นหรือเพราะตัวผมร้อนกันแน่ แต่ที่แน่ๆเลยคือแบบนี้มันโคตรสบาย

          ไปๆมาๆผมก็เผลอเอนทั้งตัวพิงร่างเย็นๆของอีกคน พอได้ที่สบายๆตาก็ปรือลงจะปิดลงอีกครั้งถ้าไม่มีมือเย็นๆตบแปะๆที่แก้มผมเบาๆ

          "Please eat some...(กินซักหน่อย...)"

          "ไม่เอา..."

          ผมส่ายหน้าหวือ นาทีนี้ผมง่วง ผมล้า ผมจะนอนจะอะไรผมก็ไม่เอาทั้งนั้นแหละ

          ผมได้ยินเสียงถอนใจจากอีกคน ก่อนที่ความเย็นที่ผมชอบจะหายวูบไปจนต้องปรือตาขึ้นมองนิด ก็เห็นแผ่นหลังกว้างที่กำลังลุกขึ้นจากเตียง

          หมับ

          "ไม่ไปนะ"

          "I not going anywhere. If you don't want to eat just take a pill.(ไม่ได้ไปไหน ถ้าไม่กินข้าวก็ยาเถอะนะ)"

          ผมยอมพยักหน้าหงึกหงักยอมแต่โดยดี ยังไงก็ได้แต่ห้ามเอาไอเย็นของผมไปนะ

          ผมที่เบลอๆรับยาเม็ดเล็กๆมาอย่างงงๆ แต่ก็ยอมเอามันเข้าปากแต่โดยดี อาการปวดหัวปวดเนื้อปวดตัวทำเอาผมเบ้หน้านิดยามที่ขยับตัวซึ่งนั่นก็ทำให้ผมพอเข้าใจสภาพตัวเองตอนนี้ว่าตัวเองกำลังป่วย

          หมับ

          ผมเอื้อมมือไปคว้าชายเสื้อคนตัวโตที่ทำท่าจะลุกไปอีกรอบ ส่งให้อีกคนหันไปวางอะไรซักอย่างตรงหัวเตียงจากนั้นก็...ทรุดลงนอนข้างๆ

          "I'm not go anywhere. I'm here with you.(ไม่ไปไหนหรอก อยู่ตรงนี้แหละ)"เสียงทุ้มดังขึ้นบนหัว ทั้งยังสัมผัสอุ่นๆของฝ่ามือบนหัว

          อีกฝ่ายกระชับอ้อมแขนให้เเน่นขึ้น ดึงผมเข้ามาให้จมไปกับไอเย็นที่ถึงแม้อุณภูมิที่ผิวกายสัมผัสจะเย็นแต่ข้างในกลับอบอุ่น

          อ้อมกอดที่ทำให้คนป่วยหลับตาลงก่อนจะจมดิ่งสู่ห้วงนิทราอีกครั้ง


---------------------------


          ในชีวิตไอธีร์ป่วยแทบจะนับครั้งได้หากแต่พอเป็นทีจะเป็นโคตรหนัก ส่วนมากเป็นทีไรก็ร้อนให้พ่อหามไปโรงพยาบาลกันทุกหน ดีที่ครั้งนี้ท่าจะเป็นเพียงไข้ธรรมดาไม่ถึงกับไข้หวัดฉะนั้นคงไม่ต้องถึงมือหมอแต่ว่า

          ปวดสะโพกฉิบหายเลยครับ!

          คนป่วยที่สะลึมสะลือตื่นมาอีกทีท้องฟ้าก็มืดเสียแล้ว กำลังพยายามยันตัวขึ้นนั่งหากแต่ก็ติดแขนหนักๆที่ทาบทับไว้ของใครอีกคนจนได้แต่นอนมองเพดานยกแขนขึ้นกุมขมับ

          แค่จะผลิกตัวกูยังปวดเลย

          คิดแล้วก็จะร้องไห้ เมื่อกี้จะเปลี่ยนท่านอนหน่อยเดียวนี่ซี๊ดขึ้นมาเลย ไม่รู้ว่าไอหมีควายบ้านี่มันทำต่อไปกี่รอบแถมไม่ออมแรงกันเลยซักนิด แต่ถ้าไม่นับอาการปวดเมื่อยที่ตามทีหลังก็แอบยอมรับนิดนึงก็ได้ว่ามันก็ไม่ได้แย่มากนัก และที่สำคัญเลย..

          "Hmm. Do you feel better?(หืม ดีขึ้นแล้วเหรอ)"

          "..."ผมนอนนิ่งไม่หือไม่อือแอบทำหน้ามุ่ยใส่ ใจจริงอยากจะพลิกตัวหนีทันเสียด้วยซ้ำถ้าไม่ติดว่าสังขารมันไม่อำนวย

          "You still have high temperature.(ตัวยังรุมๆอยู่เลย)"

          "..!!"

          ผมสะดุ้งเมื่ออีกฝ่ายก้มลงมาวัดไข้ ประเด็นคือไม่วัดแบบคนปกติไง แต่เอาหน้าผากมันมาแนบกับหน้าผากผม จนจากที่ทำหน้าไม่ถูกอยู่แล้วยิ่งเข้าไปใหญ่จะผลิกหนีก็ไม่ได้ สุดท้ายก็ได้แต่เสตามองไปทางอื่นแทน

          "What's wrong? Do you have a headache? Are you hurt? (เป็นอะไรรึเปล่า ปวดหรือเจ็บตรงไหนไหม)"

          "..."

          "Corgi.(คอร์กี้)"

          พอผมเงียบไปนานทั้งยังไม่ยอมสบตา อีกฝ่ายก็จับนู่นจับนี่หาแผลก่อนจะเรียกผมเสียงอ่อนใช้มือจับหน้าผมให้หันไปสบตาเขาจนผมได้แต่เปล่งเสียงแหบๆตอบเขาไป

          "เปล่า.."

          "Then, what's up with sullen face? Hmm?(แล้วทำไมหน้าบึ้งอย่างนั้น หืม?)"

          "เพราะยูนั่นแหละ"

          "Me?(ฉัน?)"

          ฝรั่งตัวโตเลิกคิ้ว

          "น้ำ"ผมบอกเสียงสั่นๆ พร้อมกับอุณภูมิที่เพิ่มขึ้นบนใบหน้า ซึ่งไอหมีควายก็ทำหน้าเหมือนไม่เข้าใจจนผมต้องกัดปากข่มความอายแล้วโผลงออกไป

          "ก็your water อ่ะ!!"

          "Hmm? Oh..I see. I'm sorry for that it had a little accident plus you were sleeping, so I couldn't clean it all. (หืม? อ่อ..เรื่องนั้นขอโทษด้วยพอดีเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อย แถมนายหลับอยู่เลยทำความสะอาดให้ไม่เกลี้ยง)"

          ยังมีหน้ามาพูดด้วยรอยยิ้มนั่นอีก!!

          "ฮื่ออ แล้วจะเอาออกยังไง ต้องล้วงหรอ ไม่นะ ยังแสบก้นอยู่เลย"

          ผมเริ่มงอแง ใครใช้ให้มัน...เอ่อพ่นพิษอนาคอนด้าไว้ในตัวผมกันเล่า! พอขยับทีน้ำเหนอะๆก็ไหลออกมาทันทีจนผมอยากจะเอาฝังหมอนไม่อยากมองหน้าอีกฝ่าย เพราะมัน..มันน่าอายนี่หว่า เมื่อคืนผมครางอย่างตุ๊ดเลยนะเว้ย ตะ..แต่นั่นมันก็ความผิดไอหมีควายนั่นแหละ ใครจะไปนึกว่าทางนั้นมันจะรู้สึกได้ขนาดนี้

          "Can you stand? I'll help you to clean that . Don't worry, I'll do it softly.(ลุกไหวไหม เดี๋ยวฉันช่วยเอาออกให้ ไม่เจ็บหรอก)"

          "เฮ้ย! ไม่ต้องมาhelp!"

          "ฮึบ"

          "ยู! ปล่อยๆ ไอเดินเองได้นะ!"

          แต่คนตัวโตไม่ฟังคำอวดเก่งของผมเลยซักนิด ช้อนตัวผมเดินลิ่วๆเข้าห้องน้ำ ก่อนจะวางผมลงตรงหน้าฝักบัว ให้ผมพิงกำแพงไว้ส่วนเขาก็ก้มลง...

          ฟึ่บ!

          "เฮ้ย!"

          ผมร้องเสียงหลงเอามือปิดธีร์น้อยแทบไม่ทันเมื่อจู่ๆอีกฝ่ายก็ดึงบ็อกเซอร์เพียงตัวเดียวของผมลง และยังไม่ทันที่ผมจะตกใจเสร็จมันก็จับตัวผมพลิกให้เอาหน้าเข้ากำแพงจนผมต้องเอี้ยวตัวไปมอง...คนที่กำลังใช้มือข้างนึงจับฝักบัว ส่วนอีกข้างก็ยึดก้นผมไว้แน่น

          "Put up with it.(ทนนิดนึงนะ)"

          และจากนั้นมันก็เปิดน้ำก่อนจะทำการล้วง...


--------------------------


          ตอนแรกผมก็รู้สึกนะว่าตื่นมาอีกทีก็มืดแล้วแต่ไม่คิดว่ามืดที่ว่าจะล่วงลับมาถึงเที่ยงคืนเสียแล้วจนอดตั้งคำถามกับตัวเองไม่ได้ว่านี่นอนหรือตายกันแน่ถึงเเม้จะป่วยก็เถอะ

          หลังจากเอ่อ..ล้างกันเสร็จแล้วมันก็ไม่ทำอะไรไปมากกว่านั้น แม้จะเสียวๆตรงมวลท้องเล็กน้อยแต่ในขณะนั้นมันเสียดและเเสบเสียไม่มีเวลามามีอารมณ์เลย อีกฝ่ายก็ดูรีบเร่งแม่จะพยายามเบามือก็ตาม

          ผมกลับมานอนเป็นผักเหี่ยวบนเตียวอีกรอบ รออีกฝ่ายยกอาหารที่เป็นข้าวต้มเข้ามาให้ พอกินน้ำกินยาเสร็จก็ตั้งท่านอนต่อ

          ถึงแม้ลำคอจะเจ็บ กินอะไรก็ขมคอ แต่ท้องมันหิวผมก็ทำอะไรไม่ได้ยัดๆมันเข้าไปทั้งอย่างนั้น เรื่องยาผมก็ไม่ใช่คนกินยายาก ยิ่งเวลาป่วยทีผมอยากจะจับกรอกปากจะได้หายไวๆเสียที เวลาป่วยนี่มันโคตรน่าเซ็ง นอกจากจะทรมาณกายเเล้วยังน่าเบื่อโคตรๆอีก

          "เดี๋ยวยูก็ sick หรอกมาsleep with me เนี่ย"ผมกล่าวบอกอีกคนที่เดินไปปิดไฟโดยไม่ลืมเปิดไฟหัวเตียง และสอดตัวเข้ามาช้อนด้านหลังภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน

          "I'm not be sick for sure. I'm very strong.(ไม่ติดหรอก ฉันแข็งแรง)"

          "เหอะ มั่นใจจังนะ" ผมเบ้ปากนิดๆกับความมั่นหน้าของอีกคน

          " Whatever the case, I won't sick for sure.(ก็แน่สิ ยังไงฉันก็ไม่ป่วยหรอก)"ไอฝรั่งข้างกายบอกด้วยน้ำเสียงมั่นใจ มือก็เนียนเอามาพาดเอวผมจากนั้นก็เนียน(อีกแล้ว)ดึงผมเข้าไปใกล้จนแผ่นหลังสัมผัสได้ถึงแผ่นอกเเข็ง

          "Who will take care of you If I'm sick, Right?(ถ้าป่วยเเล้วใครจะดูแลนายกันล่ะ ใช่ไหมหื้ม?)"

          อีกแล้ว...ขยันหยอดกูจังเลยนะบักสีดานี่!

          ผมนิ่งไปพักใหญ่ ไม่รู้จะสรรหาคำอะไรมาตอบมันดี ชีวิตนี้ผมไม่เคยโดนจีบ ถึงแม้ผมกับมันจะเลยคำว่าจีบมาแล้ว แต่ยิ่งตั้งแต่เป็นแฟนตกลงปลงใจและยิ่งหลังจากได้เสียกันแล้วผมก็พบว่ามันขยันหยอดมากๆแถมเลี่ยนขั้นสุด

          หรืออาจจะเป็นเพราะตอนแรกๆผมโง่อังกฤษจนมันขี้เกียจจะพูดวะ

          จะว่าไปแล้วผมก็อยู่กับมาสองเดือนแล้วนะเนี่ย คิดไปคิดมาก็พบว่าผมไม่รู้เรื่องอะไรของมันซักอย่าง ขนาดชื่อจริงๆของไอหมีควายผมยังจำไม่ได้เลย ไหนจะเรื่องนายแบบ ไอจงไอจีอะไรนั่น อาจจะเพราะเราไม่ค่อยได้คุยเรื่องส่วนตัวกันเสียเท่าไหร่ อันที่จริงเรื่องทั่วไปก็ไม่ได้คุยกันด้วยซ้ำ ส่วนมากก็ภาษามือภาษากายกันล้วนๆ

          "นี่...ยู เอ่อ เคย do this with another people ไหมอ่ะ"ผมตัดสินใจผลิกตัวไปถามอีกคนด้วยความสงสัย จากความทรงจำเมื่อคืนมันค่อนข้าง...เก่ง

          "Yes.(เคย)"

          ผมเผลอมุ่ยหน้าทันทีเมื่อได้รับคำตอบ และสีหน้าแบบนั้นก็ทำให้อีกฝ่ายหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วกดริมฝีปากลงมาบนเหม่งผมดังจุ๊บ ให้ต้องเสตาไปสบกับเวงตาพราวเสน่ห์ที่มองอยู่ก่อน

          "But I never feel good like this with anyone before.(แต่กับนายรู้สึกดีที่สุดแล้ว)"

          ไอหมีควายนี่พักหลังๆเริ่มเลี่ยนมากเกินไปจริงๆนั่นแหละ

          "มะ เหมือนกัน"

          แต่ถึงกระนั้นผมก็ยังตอบกลับไปเสียงเบาราวกับกลัวอีกฝ่ายจะได้ยินก่อนจะผลิกตัวกลับไปอีกด้านอย่างรวดเร็วอย่างเผลอตัว นั่นทำเอาต้องซี๊ดปากเบาๆเพราะบาดแผลภายใน

          และผมก็บ้าบอยิ้มเขินกับทุกคำเลี่ยนๆของมันนี่แหละ


ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
 :m20:

นุ่งธีร์เจ็บแล้วจำนะคะ นี่โดนไปหลายยกเลยนะเนี่ย บอบช้ำขนาดนี้ออสตินต้องรับผิดชอบชั่วชีวิตนะ  :jul3:

(ปอลิง ออสตินตกลงเคยเป็นนายแบบแต่ลาวงการหรืออย่างไร อื้มมมมมม  :mew2:)

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
จัดหนักกกกกก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด