SECRET IN THE BACKYARDromantic & erotic“เสือจำอาตะวันได้ไหมลูก”
เสียงของแม่ที่เอ่ยถามถึงคนๆ หนึ่งในความทรงจำของเขาเมื่อสิบปีก่อนผ่านสัญญาณโทรศัพท์ที่ดังขึ้นกลางดึก ความรู้สึกที่เขาเคยคิดว่าลืมเลือนไปแล้วกำลังสาดกระทบตรงเข้ามาพร้อมภาพใบหน้าสวยหวานราวกับภาพวาดของคุณอาคนนั้นที่ฉายชัดขึ้นในหัวสมอง
“ได้ครับ”
“ดีเลย ลูกช่วยไปงานศพแทนแม่ทีนะจ๊ะ” หัวใจของเขากระตุกวูบไปกับประโยคเรียบง่ายของผู้เป็นมารดา แต่ในวินาทีต่อมา เสียงถอนลมหายใจด้วยความโล่งอกก็ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบในเวลาเที่ยงคืน “พอดีแม่ของอาเขาเสีย แต่แม่ติดธุระสำคัญเลยไปไม่ได้ ยังไงมะรืนนี้เราช่วยไปเป็นตัวแทนของแม่ทีนะ ที่อยู่ของบ้านอาเขาแม่จะส่งไปให้ทางข้อความ”
“ครับ”
รถยนต์แฮทช์แบ็คสีดำสนิทออกเดินทางจากตัวเมืองตั้งแต่ช่วงสายของวันศุกร์ไปยังนอกเมืองที่อยู่ห่างไกลออกไปเกือบสองร้อยกิโล
การพบหน้ากันอีกครั้งในรอบสิบปีเป็นเหมือนการปลดล็อกประตูที่ถูกปิดตายมาอย่างยาวนานให้เปิดขึ้น อาตะวันยังดูงดงามเหมือนเดิมในความทรงจำ กาลเวลาไม่สามารถพรากความอ่อนเยาว์บนใบหน้าของอีกฝ่ายไปได้เลย
ดวงตาคมกริบของชายหนุ่มวัยยี่สิบห้าจ้องมองรอยยิ้มหวานของคุณอาคนสวยที่ยิ้มมาให้อย่างตื่นตะลึงเหมือนเด็กชายวัยสิบห้าในปีนั้นที่ถูกส่งมาอยู่บ้านหลังนี้ในช่วงปิดเทอมไม่มีผิด
นานมากแล้วที่เสือไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองกำลังทำตัวเหมือนพวกซื่อบื้อ
แต่ทานตะวันกำลังทำให้เขารู้สึกแบบนั้น
“โตขึ้นเยอะเลยนะ”
ภายใต้รอยยิ้มที่สวยงาม ดวงตาของคุณอาดูหม่นแสงไป
ชายหนุ่มจำได้ดีว่าอีกฝ่ายมีเพียงมารดาเท่านั้น และเพราะสุขภาพที่อ่อนแอของคนตรงหน้า ครอบครัวที่มีเพียงกันสองคนแม่ลูกนี้จึงตัดสินใจย้ายออกจากบ้านหลังข้างกันกับครอบครัวของเขามายังเขตนอกเมืองที่เงียบสงบ
“ผมเสียใจด้วยนะครับ”
“ทักทายอาเขาสิ”
“สวัสดีครับ”
สิ้นเสียงเอ่ยทักออกไปตามคำสั่ง ใบหน้าของเขาก็ถูกมือคู่ที่มักวาดภาพอยู่เสมอแตะเข้าที่บริเวณแก้ม
“ตัวสูงจัง โตขึ้นมาคงหล่อมากๆ แน่”
“ยังไงพี่ต้องขอรบกวนตะวันฝากเจ้าเสือไว้สักอาทิตย์หน่อยนะ”
“ไม่รบกวนเลย แม่ไม่อยู่พอดี มีเสือมาอยู่เป็นเพื่อนตะวันก็จะได้ไม่เหงาเหมือนกัน”
เสือได้แต่ยืนเงียบแล้วจ้องมองใบหน้าของคนที่ถูกแนะนำว่าเป็น ‘อาตะวัน’ อย่างโง่งม“ขอบใจนะ”
เราต่างคนต่างเงียบ มีเพียงสายตาที่ส่งสัญญาณหากันเท่านั้น
พิธีฝังศพมีแขกเหรื่อไม่มาก อาจมีแค่เฉพาะคนสนิทของผู้ตายซึ่งมีไม่กี่คนเมื่อเทียบจำนวนกับงานอื่นที่เขาเคยไป
ท่ามกลางผู้คนเกือบยี่สิบชีวิต คงมีเขาคนเดียวที่อายุน้อยกว่าใคร
ขั้นตอนการฝังถูกดำเนินไปอย่างเรียบง่ายและเต็มไปด้วยความสงบ ดวงตาของชายหนุ่มยังคงเอาแต่เฝ้ามองไปที่ใบหน้าของคุณอาที่ยืนอยู่ใกล้กับหลุมฝังศพที่สุด เขาเห็นความเสียใจมากมายอยู่ภายในดวงตาคู่นั้น แต่มันก็ถูกกดทับด้วยความเข้มแข็งอีกที
เขาคงจะเลวมาก หากคิดว่าความโศกเศร้าที่เต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยวของคุณอาคนสวยช่างเย้ายวนใจเหลือเกิน
ราวกับเหตุการณ์เมื่อสิบปีก่อนในห้องนอนเล็กๆ ย้อนกลับมาอีกครั้ง
ร่างอรชรที่ขยับโยกเคลื่อนไหวไปมาราวเปลวไฟบนตัวของเขา
เสียงแหบพร่าที่ร้องครวญครางสลับกับเสียงชื้นแฉะของน้ำลายที่แลกเปลี่ยนกันผ่านรสจูบ
ประสบการณ์และความทรงจำหน้าร้อนที่เขาไม่มีวันลืม
ผู้คนทยอยเดินออกไปจนหมดแล้ว เหลือเพียงร่างที่แสนบอบบางในสายตาของเขาเท่านั้นที่ยังคงยืนจ้องมองดอกกุหลาบสีขาวและถุงดินที่ถูกนำมาวางไว้
เป็นอีกครั้งที่เราต่างให้ความเงียบเป็นตัวกลางทำหน้าที่เชื่อมเราทั้งคู่เอาไว้ด้วยกัน
“เสือ แอบดูอาอยู่เหรอ”
เด็กชายวัยสิบห้าสะดุ้งไปเมื่อถูกจับได้ว่ากำลังแอบมองคุณอาคนสวยอยู่ ดวงตากลมโตที่เปล่งประกายความสดใสและใจดีของคนแก่กว่าจ้องมองไปที่ลูกชายของพี่สาวคนสนิทอย่างนึกเอ็นดูก่อนจะยกมือขึ้นกวักเรียกให้อีกฝ่ายเข้ามา
“เข้ามาก่อนสิ”
ร่างของเด็กหนุ่มที่ดูจะโตเกินกว่าเพื่อนค่อยๆ ทรุดตัวนั่งลงเคียงข้างกับคนที่มีศักดิ์เป็นอา พวกเขาไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกันแม้แต่น้อยทางสายเลือด แต่เป็นเพราะมิตรภาพของสองครอบครัวอันแสนยาวนานต่างหากที่ทำให้ในวันนี้เสือได้พบกับ’คุณอาคนสวย’ของตัวเอง
“อยากวาดรูปหรือเปล่า”
“ผม...วาดรูปไม่เก่ง”
ผิวแก้มของกัปตันทีมบาสประจำโรงเรียนขึ้นสีน้อยๆ ด้วยความเขินอาย ทว่าคนแก่กว่าไม่ได้สังเกตเห็นเพราะกำลังจดจ่อกับรูปวาดตรงหน้าอยู่
เสือได้กลิ่นหอมจางๆ จากคนข้างตัว เฝ้ามองมือที่ตะหวัดพู่กันพลิ้วไปมาเหมือนต้องมนต์สะกด
รู้ตัวอีกที เขาก็เห็นภาพคล้ายของตัวเองอยู่บนนั้น
“เหมือนเสือไหม”
อาตะวันหันมายิ้ม
เป็นยิ้มที่หวานยิ่งกว่าอะไรทั้งหมดที่เขาเคยเจอ
และในตอนนั้นเองที่เขาคิดว่ากำลังตกหลุมรักคุณอาคนสวยของตัวเอง
เม็ดฝนที่ร่วงหล่นจากท้องฟ้าทำให้คนสองคนในสุสานเริ่มรู้สึกตัว
ร่างสูงโปร่งหากแต่ยังบอบบางเหมือนในวันวานของตะวันหันตัวมา ก่อนจะพบว่าร่างสูงใหญ่ของเด็กผู้ชายเมื่อสิบปีก่อนคงยืนรอคอยเขาอยู่ไม่ไปไหน
“เดี๋ยวเป็นหวัด” เสือไม่ได้พูดอะไรมาก แต่กลับถอดเสื้อสูทตัวนอกออกพลางยื่นแขนไปจับตัวของคนเป็นอาให้เข้ามาใกล้แล้วกางผ้าออกเพื่อใช้ปกคลุมศีรษะของพวกเขาทั้งสอง
“ขอบใจนะ”
ตะวันร่างกายอ่อนแอตั้งแต่เด็ก พอเรียนจบชั้นมัธยม ครอบครัวที่เหลือกันเพียงสองคนแม่ลูกก็ตัดสินใจซื้อที่ดินสองไร่บริเวณนอกเมืองเพื่อสร้างอาณาจักรเป็นของตนเองจากเงินมรดกของพ่อ
ทรัพย์สมบัติของแม่และมรดกของพ่อมีมากจนที่จะสามารถเลี้ยงลูกชายคนเดียวเป็นดั่งเจ้าชายได้จนหมดลมหายใจ ตะวันเลยเรียนจบเพียงแค่ชั้นมัธยมปลาย และศึกษาการวาดรูปโดยเฉพาะต่อจากนั้น
ท่ามกลางความเขียวชอุ่มของสวนดอกไม้ บ้านหลังเล็กสีขาวสไตล์โมเดิร์นได้ตั้งตระหง่านอยู่อย่างมั่นคง
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนมันจะถูกเปิดออกพร้อมเสียงแตกหนุ่มของเด็กชาย
“ขอโทษครับ”
“เสือเองเหรอ โทษทีนะ อาลืมดูเวลาไปเลย เราหิวแล้วใช่หรือเปล่า”
เด็กหนุ่มส่ายหน้าแล้วจ้องมองใบหน้าสวยหวานที่กำลังง่วนอยู่กับการเก็บจานสีของตัวเองเพื่อเตรียมตัวเข้าครัวทำมื้อเย็นให้กับเขาในวันที่สองนี้
“มีพัสดุมาส่งเมื่อกี้”
ร่างบอบบางของคุณอาที่กำลังขยับไปมาหยุดนิ่งไปสักพัก ก่อนใบหน้าหวานนั้นจะหันมามองเสือพร้อมรอยยิ้มเหมือนทุกที “สงสัยเป็นของที่อาสั่งไว้ เสือช่วยรับไว้ให้แล้วใช่หรือเปล่า”
“ครับ ผมวางไว้บนโต๊ะทานข้าว”
“ขอบใจนะ”
อาตะวันว่าพลางเดินเข้ามาใกล้แล้วบีบไหล่เขาเบาๆ แล้วเดินออกไปจากห้องเล็กๆ ที่เจ้าตัวมักใช้สำหรับวาดรูปพลางบ่นพึมพำถึงเรื่องเมนูอาหารที่จะทำในเย็นนี้
ดวงตาของเด็กชายมองตามร่างของอีกฝ่ายไป เสือไล่สายตาตั้งแต่หัวจนมาถึงบั้นท้ายเล็กๆ ที่ถูกปิดอำพรางด้วยกางเกงสีดำของอีกฝ่าย
ชื่อที่อยู่ผู้ส่งของกล่องพัสดุนั่นมาจากเว็บของเล่นผู้ใหญ่ที่เขาเคยแอบแม่ซื้อของแผลงๆ ไปโชว์เพื่อนเมื่อปีที่แล้ว
และคุณอาคนสวยไม่ได้รู้เลยสักนิด ว่าความลับนี้ได้ถูกหลานนอกไส้ล่วงรู้เสียแล้ว
“ครับแม่ อาทิตย์นี้คงไม่ได้กลับบ้าน ครับ เดี๋ยวผมอยู่เป็นเพื่อนอาตะวันเอง”
ดวงตากลมโตคู่สวยของเจ้าของบ้านจ้องมองร่างของเสือที่กำลังยืนโทรศัพท์ติดต่อผู้เป็นมารดาเงียบๆ
ใช้เวลาไม่นานมาก เจ้าของร่างสูงใหญ่ที่ตัดสินใจเอาเองว่าคืนนี้จะค้างที่บ้านเขาก็เดินเข้ามาใกล้แล้วทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาตัวเดียวกัน
“ผมจะอยู่เป็นเพื่อน”
“อื้ม เอาสิ”
บ้านทั้งหลังตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง ที่ด้านนอกฝนยังคงตกอยู่แม้เวลาจะล่วงเลยมาเกือบหนึ่งทุ่มแล้วก็ตาม ในขณะที่เสือเอาแต่จ้องมองใบหน้าและท่าทางของคนแก่กว่าอย่างโง่งม ตะวันเองก็กำลังนึกถึงเรื่องเมื่อสิบปีก่อนที่เคยเกิดขึ้น
“เสือเปลี่ยนไปเยอะเลยนะ แต่ทำไมยังเอาแต่มองอาเหมือนเมื่อตอนนั้นอีกล่ะ”
ริมฝีปากสีสดที่ตั้งแต่ผู้เป็นแม่จากไปก็แย้มยิ้มน้อยลงกำลังคลี่ยิ้มบางๆ อีกครั้งให้กับคนที่กำลังจับจ้องใบหน้าของตนเองอยู่
“คงดีกว่านี้นะครับ ถ้าเราไม่ได้เจอกันในสถานการณ์แบบนี้”
“เหรอ แต่อาว่าก็ไม่ได้แย่เท่าไหร่หรอก”
ใบหน้าอ่อนกว่าวัยของคุณอาเงยขึ้นจากการมองมือที่กุมไว้บนตักของตัวเองแล้วหันไปมองหนุ่มน้อยที่ตอนนี้โตเป็นชายหนุ่มแล้วของเสือ
เรื่องแม่
ตะวันทำใจเอาไว้ล่วงหน้านานแล้วนับตั้งแต่รู้ว่าเธอป่วยเป็นโรคที่ไม่มีทางรักษาหาย แต่ต่อให้จะเข้าใจและเตรียมใจพร้อมรับกับเหตุการณ์การสูญเสียมานานแค่ไหน แต่ถึงเวลาจริง เขาก็ยังรู้สึกเสียใจเหมือนโลกทั้งใบได้พังทลายลงมาแล้วอยู่ดี
คุณอาคนสวยแลบลิ้นเลียรอบริมฝีปากเล็กน้อย ก่อนจะล้วงเข้าไปในกางเกงเพื่อหยิบมวนบุหรี่ขึ้นมา “โทษทีนะ เดี๋ยวอามา”
“เดี๋ยวสิ นี่คุณอาสูบบุหรี่ด้วยเหรอครับ” น้ำเสียงตกใจที่ถามขึ้นทำให้มุมปากของเขายกขึ้นเล็กน้อย
“อืม แต่ไม่ได้ติดอะไรหรอก แค่เฉพาะตอนเครียดๆ แต่ก็คิดว่านี่คงเป็นครั้งสุดท้ายแล้วแหละ” เพราะไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาต้องใช้มันเพื่อปลดปล่อยอารมณ์อีก
แม่จากไปแล้ว
ราวกับอารมณ์และความทุกข์ใจในช่วงตลอดระยะเวลาสามปีที่ผ่านมาได้จบลงไปพร้อมๆ กับการตายของเธอ
ดวงตาของเด็กชายกำลังจ้องมองภาพที่อยู่ตรงหน้าด้วยความจดจ่อ
มองเรือนร่างขาวผ่องเพราะแทบไม่ได้โดนแสงแดดของคุณอาที่กำลังเคลื่อนไหวตัวไปมาบนเตียงด้วยความกระสับกระส่าย ขาเรียวยาวทั้งสองข้างอ้าออกกว้างจนมองเห็นอะไรบางอย่างที่กำลังสั่นไหวไปมาที่ช่องทางลับด้านหลัง
เด็กหนุ่มมองภาพที่คุณอาคนสวยกำลังเร่าร้อนอยู่กับของเล่นผู้ใหญ่ด้วยความรู้สึกตื่นตัว
อาตะวันที่ดูเรียบร้อยในตอนกลางวันดูราวกับเป็นคนละคนกับในเวลานี้เหลือเกิน
เขาจ้องมองภาพของอีกฝ่ายพลางกำความเป็นชายของตนเองในมือแน่น แล้วเริ่มท่องไปในโลกแห่งความสุขสมพร้อมกับคุณอาแสนสวยหลังบานประตูที่ถูกแง้มออกเพียงนิด
“เดี๋ยวอาไปนอนห้องแม่เอง ส่วนเสือนอนที่นี่แล้วกัน”
“เดี๋ยวครับ” ไวกว่าความคิด มือของเขาก็เอื้อมไปคว้าแขนของคุณอาจับไว้เสียแล้ว
ตะวันเอียงคอน้อยๆ อย่างไม่เข้าใจ ก่อนร่างทั้งร่างจะถูกดึงเข้าไปกอดไว้แน่น
“เสือ”
ดวงตากลมโตของตะวันนิ่งอึ้งไปเมื่อหันไปเห็นร่างของใครบางคนกำลังแอบมองเขาอยู่หลังประตู ร่างกายเปลือยเปล่าค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้นอย่างเชื่องช้าแล้วเดินเข้าไปหาเด็กชายที่กำลังยืนตัวแข็งทื่อเพราะถูกจับได้
หลานนอกไส้กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากขณะที่สายตาเอาแต่จดจ้องไปทั่วร่างของคุณอาคนสวย เด็กหนุ่มไม่ได้มีความรู้สึกเกรงกลัวเลยสักนิดที่ถูกจับได้แบบนี้ ตรงข้ามแล้ว เขารู้สึกว่ามีอะไรน่าตื่นเต้นกว่ากำลังรออยู่
“อาตะวัน...”
“แอบมองอาแบบนี้ เป็นเด็กไม่ดีเลยนะ” คนที่ควรโกรธยืนยิ้มหวานแล้วใช้สายตาฉ่ำเยิ้มจากอารมณ์ก่อนหน้ากวาดตามองร่างกายของเด็กหนุ่มไปมาอย่างเจ้าเล่ห์
“อยากลองไหมล่ะ”
“...”
“ถ้าอยากก็เข้ามาแล้วปิดประตูสิ”
“อยู่กับผม”
“ทำไม กลัวเหรอ”
“เปล่า... อาก็รู้ว่าทำไม”
ริมฝีปากของคุณอายกยิ้มขึ้นอย่างนึกไม่ถึง ความแข็งขืนจากท่อนล่างของคนที่กำลังกอดเขาอยู่กำลังเสียดสีไปมาจนรู้สึกได้
ตะวันรู้ว่าเสือไม่ลืม
สายตาที่เอาแต่มองมาที่เขาราวกับคนงี่เง่านั่น
“อาไม่ใช่วัยรุ่นอายุ 24 เหมือนเมื่อสิบปีก่อนนะเสือ”
“ผมรู้”
“…”
ดวงตาคู่คมของชายหนุ่มวัยยี่สิบห้ากำลังจดจ้องสำรวจร่างกายเปลือยเปล่าของคุณอาคนสวยอย่างละเอียด
สิบปีผ่านไป แต่ความเย้ายวนของอีกฝ่ายไม่ได้ลดน้อยลงไปเลย เสือกลับรู้สึกว่า คุณอาของเขาสวยยิ่งกว่าเมื่อตอนนั้นเสียอีก
“จะมองอาแบบนี้ตลอดเลยเหรอ” ตะวันเอ่ยเย้าพลางยื่นมือขึ้นไปลูบแก้มสากของหลานชายตัวโตที่กางแขนใช้ร่างคร่อมตัวเขาอยู่จนเกือบมิด
บนเตียงเดิม
และห้องเดิม
สถานการณ์ทุกอย่างคล้ายกับได้ย้อนไปยังจุดเริ่มต้นอีกครั้ง
“สวย”
ริมฝีปากสีสดบิดเป็นรอยยิ้มอ่านยาก ถ้อยคำเพ้อเจ้อจากปากของเด็กหนุ่มทำให้เขารู้สึกอารมณ์ดีขึ้นผิดกับความทุกข์เศร้าในใจกับการสูญเสียที่เผชิญเพียงลำพัง
ใบหน้าหล่อเหลาของคนเป็นหลานค่อยๆ ก้มลงแนบชิดกับแผ่นอกขาวเนียน แล้วรับฟังเสียงจังหวะการเต้นของหัวใจของคนแก่กว่าด้วยความรู้สึกราวกับกำลังถูกเติมเต็ม
คุณอาคนสวยคงไม่รู้
ว่าหลังจากที่เสือต้องไปเรียนต่อที่ต่างประเทศจนจบระดับมหาวิทยาลัยนั้น เขารู้สึกอย่างไร
จินตนาการที่เคยอยากโอบกอดร่างเนียนนุ่มนี้ไว้ไม่ไปไหนได้ถูกทำลายไปแล้วครั้งหนึ่ง เรื่องของอาตะวันกลายเป็นความทรงจำที่ถูกชายหนุ่มเก็บไว้ลึกสุดหัวใจ แต่ในตอนนี้เขากำลังได้กอดอีกฝ่าย ได้แนบหูฟังเสียงจังหวะชีวิต และมีมือคู่นั้นที่มักวาดรูปอยู่เสมอกำลังลูบไล้ไปมาตามเส้นผมสีดำสนิท
“อ๊ะ เสือ” เสียงร้องของคนใต้ร่างดังขึ้น มือที่เคยวางไว้อยู่บนกลุ่มผมนุ่มของหลานชายนอกไส้กำลังเปลี่ยนเป็นกำไว้แน่น
ลิ้นร้อนของเสือกำลังไล้เลียรอบยอดอกสีชมพูของคนเป็นอา ร่างนวลเนียนเริ่มสั่นไปมาเพราะความเสียวซ่านที่เกิดขึ้น
คุณอาคนสวยเขาเป็นพวกความรู้สึกไว เมื่อก่อนอีกฝ่ายอาจเป็นคนจับหน้าเขาให้แนบชิดกับแผ่นอกของตัวเอง แต่ไม่ใช่ในตอนนี้ เด็กชายวัยสิบห้าที่โตเป็นหนุ่มเต็มวัยกำลังครอบครองและดูดดุนยอดอกสีหวานของคนเป็นอาอย่างกระหายในอารมณ์
ตะวันเชิดหน้าขึ้นด้วยความพึงพอใจอย่างเชื่องช้า ความเสียวซ่านที่เกิดจากหนุ่มน้อยวัยกลัดมันกำลังทำให้อารมณ์ปรารถนาที่ถูกเว้นว่างไปนานกลับมาลุกโชนอีกครั้ง
ฟันขาวกัดริมฝีปากสีสดจนกลายเป็นภาพที่แสนยั่วยวน เสือใช้สายตามองภาพที่คุณอาคนดีกำลังปลดปล่อยอารมณ์ไปกับสัมผัสของเขาอย่างได้ใจ
มือหนาค่อยๆ ลูบไปทั่วร่างกายเปลือยเปล่าแล้วไล่ลงไปยังส่วนข้างล่างจนคนเป็นอาต้องสูดลมหายใจเข้าลึกๆ
“อื้อ”
แท่งเนื้อสีอ่อนถูกชายหนุ่มอ่อนวัยกว่าใช้โพรงปากครอบครอง เสือเลียมันคล้ายกับเป็นไอติมแท่งโปรดในวัยเด็ก ความปรารถนาที่อยากจะปรนเปรอให้ตะวันร้องครวญครางจนหมดแรงภายใต้ร่างทำให้ชายหนุ่มยิ่งอมมันให้ลึกขึ้นไปอีก ให้เหมือนกับที่คุณอาคนสวยเคยทำให้เขา
ภาพดวงตาคู่สวยที่จ้องมองมาที่เขาพลางใช้ลิ้นร้อนแลบเลียไปมาที่ความเป็นชายของเขาปรากฏขึ้นในหัวสมอง เสือได้ยินเสียงร้องครางหวิวดังออกมาเป็นระยะ และหลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ถูกบังคับให้หยุด
แขนสองข้างของตะวันยกขึ้นผลักร่างของคนหนุ่มกว่าให้ออกไป ก่อนจะดันร่างกายบอบบางของตนเองให้ลุกขึ้นแล้วเปลี่ยนเป็นฝ่ายขึ้นคร่อมร่างสูงใหญ่ของหลานนอกไส้เสียเอง
“อา...”
ตะวันยิ้ม แล้วมองใบหน้าที่ดูจะตื่นตะลึงไปของหนุ่มน้อย
มือนุ่มนิ่มยิ่งกว่าหญิงสาวหลายคนกำลังจับแท่งร้อนๆ ของเสือไว้เอาแน่นพร้อมใบหน้าที่โน้มเข้าใกล้อีกฝ่ายเชื่องช้า
ในที่สุด ริมฝีปากของผู้เป็นอาก็ประทับลงกับอวัยวะส่วนเดียวกันของหลานชาย
พวกเขาต่างค่อยๆ ละเลียดชิมลิ้มรสที่ห่างหายไปนาน แล้วไล่ระดับความร้อนแรงของรสจูบขึ้นเรื่อยๆ จนได้ยินแต่เพียงเสียงชิ้นแฉะของน้ำลายที่แลกเปลี่ยนกัน
ตะวันค่อยๆ ผละจากชายหนุ่มออกมาแล้วเลียรอบริมฝีปากของตัวเองด้วยท่าทางที่เสือรู้สึกว่าร่างกายของเขากำลังร้อนยิ่งกว่าเดิม
ดวงตาของหนุ่มวัยยี่สิบห้าจ้องมองภาพแสนงดงามที่คนสวยของเขากำลังก้มลงใช้โพรงปากครอบครองความเป็นชายที่ใหญ่โตขึ้นกว่าครั้งงวัยเยาว์อย่างหลงใหล
ความคับแน่นจนน้ำสีใสไหลเยิ้มออกมารอบกลีบปากสีสดยิ่งทำให้บรรยากาศร้อนระอุ
“โตขึ้นเยอะจริงๆ” ตะวันถอนใบหน้าออกแล้วเอ่ยชมเสือตัวน้อยที่อยู่ในปากเมื่อครู่
ใบหน้าหล่อเหลาของหลานชายขึ้นสีน้อยๆ ที่ถูกมองด้วยสายตาปรือปรอย ต่อให้กับคนอื่น เสือจะทั้งโชกโชนและเก่งกาจขนาดไหน แต่พอเป็นต่อหน้าคุณอาคนสวยทีไร เขาก็รู้สึกว่าตัวเองคล้ายกับยังเป็นเด็กชายเมื่อปีนั้นไม่เปลี่ยน
ร่างโปร่งบางค่อยๆ ยกตัวขึ้นพลางจับความเป็นชายของคนใต้ร่างไว้แล้วกดตัวลงเพื่อกลืนกินมันอย่างค่อยเป็นค่อยไป
“คับไปหมด ของเสือใหญ่กว่าของเล่นของอาเยอะจัง” คนแสนสวยในสายตาของเขาเป็นเหมือนเทพธิดาและซาตานในคราวเดียวกัน
อาตะวันยังคงทำท่าทางแบบเดียวกับเมื่อครั้งแรกไม่มีผิด
มีเพียงสิ่งเดียวที่เปลี่ยนไปคือร่างกายที่โตเต็มวัยของเขา
อีกฝ่ายค่อยๆ ยกตัวขึ้นแล้วกดตัวลงดูดกลืนตัวตนของเขาทีละนิด
ชายหนุ่มเองก็รู้สึกลำบากไม่แพ้กันเพราะความคับแน่นของช่องทางด้านหลังที่กำลังเคลื่อนตัวเข้าออกของคนเป็นอากำลังทำให้เขาแทบควบคุมอารมณ์ไม่ไหว
เสืออยากจะจับร่างของคุณอาเข้ามากอดไว้แน่นแล้วเป็นฝ่ายออกแรงกระแทกจนอีกฝ่ายตัวสั่นคลอน
แต่เขาก็ต้องควบคุมมันไว้เพื่อที่จะได้มองภาพสวยงามของร่างกายที่กำลังขยับกายเคลื่อนไหวสะบัดพริ้วไปมาราวกับผีเสื้อของอาตะวัน
“อ๊ะ อ่ะ อืออ”
เขาสามารถอดทนได้จนเกือบถึงปลายทาง แต่สุดท้ายเพลิงอารมณ์ที่เก็บกดมาเนิ่นนานก็ถูกทำลายลงด้วยใบหน้าสวยหวานที่แสนยั่วยวนและเสียงหอบครางอันแสนรัญจวนใจ
ร่างสูงใหญ่ของหลานนอกไส้ยื่นแขนไปคว้าตัวของคนเป็นอาเข้ามากอดไว้แน่นเต็มอ้อมอก แล้วเปลี่ยนฝ่ายเป็นผู้นำแทน ส่งแรงกระแทกเข้าออกภายในกายบอบบางของคุณอาคนสวยจนอีกฝ่ายตัวสั่นเกร็งกระตุก
และถึงจุดสุดยอด...
3 เดือนผ่านไป
เสียงรถยนต์ดังแล่นเข้ามาเรียกให้เจ้าของบ้านที่กำลังนั่งวาดรูปอยู่กลางสวนดอกไม้ต้องหยุดมือที่กำลังทำงานอยู่แล้วลุกขึ้นยืนช้าๆ เพื่อมองร่างของเจ้าของรถที่กำลังเดินตรงเข้ามาสวมกอดเขาเหมือนทุกอาทิตย์
“คิดถึงที่สุดเลย”
“ปากหวาน”
เสือไม่สนใจว่าเวลานี้คุณอาคนสวยของเขาจะว่าอย่างไร ชายหนุ่มทำเพียงแค่หลับตาลงแล้วซึมซับไออุ่นของคนที่ตัวเองรักไว้แน่น
ตั้งแต่วันนั้น..
เขาก็เอาตัวเองเข้ามาผูกติดไว้กับอีกฝ่าย ทุกเย็นวันศุกร์ต่อให้การจราจรจะเป็นเหมือนดั่งนรกบนดินแค่ไหน พนักงานบริษัทธรรมดาอย่างเสือก็ไม่รู้สึกเหนื่อยเลยสักนิดที่หลังเลิกงานจะต้องขับรถออกจากเมืองเกือบ 200กิโลเมตรแบบนี้
ขอแค่ได้กอด ได้หอม ได้จูบ
และได้ตอกย้ำตัวตนของตัวเองลงบนร่างบอบบางที่แสนเย้ายวนนี้ เขาก็คิดว่ามันช่างคุ้มค่า
“อาตะวัน..”
คุณอาแสนสวยของเขา
“หืม มีอะไร”
“อยาก’กอด’อาอีกแล้ว”
เสียงหัวเราะแผ่วเบาดังขึ้น ก่อนที่เสือจะรู้สึกได้ถึงความนุ่มชื้นที่บริเวณซอกคอ “ลองทำกันที่สวนนี่ดีไหม”
“เอาสิ”
ไม่ว่าที่ไหน เขาก็อยากจะอยู่ทานตะวันทั้งนั้น
END
สวัสดีค่าา
อ่านจบแล้วไม่รู้ว่าชอบไหม
อาตะวันในเรื่องคงเป็นผู้ชายที่หน้าสวยมากๆ จนเสือเพ้อเรียกแต่คุณอาคนสวยตลอด
ยังไงก็ฝากพระเอกวัยกำลังกรุบกริบและนายเอกวัยสามสิบอัปเรื่องนี้ด้วยนะคะ
ถ้าชอบก็ช่วยคอมเมนต์ให้หน่อยน้า
แล้วก็ขอฝากเรื่องยาวที่กำลังลงไว้ให้ลองไปติดตามด้วยนะคะ
★ [เรื่องยาว] เป็น ที่ รัก ขอบคุณมากค่ะ