คำเตือน : นิยายตอนต่อไปนี้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีควรได้รับคำแนะนำ อาจมีภาพ เสียง หรือเนื้อหา ที่ไม่เหมาะสมด้านพฤติกรรม ความรุนแรง เพศ และการใช้ภาษา ผู้ปกครองควรให้คำแนะนำแก่บุตรหลาน เอิ้กๆ
รักใสปิ๊ง
พิเศษ ผู้ชายใจเย็น ((น้ำปิง+แสตมป์))
เธอกำลังดูใจกันหรือเธอแค่อยากเก็บฉันเอาไว้
เธอเป็นผู้ชายใจเย็นหรือเธอเก็บรักไว้เพื่อใคร
ไม่ได้ใจร้อนเท่าไหร่หรอกนะ แต่วันนี้ฉันไม่มั่นใจ
ถ้าเธอมีคำว่ารักอยู่ข้างใน ได้โปรดเถอะใช้มันตอนนี้เลย
ปิ๊บ!!“เฮ้ย! พี่แสตมป์ ทำอะไรน่ะ สตาร์กำลังฟังอยู่นะ!”
“ไม่ต้องฟัง!”
สตาร์ น้องสาวของแสตมป์ สาวกคามิกาเซ่ โวยใส่พี่ชายที่มาปิดเพลงที่เธอกำลังฟัง แสตมป์ที่เพิ่งกลับจากมหาวิทยาลัยเดินหน้าบูดเข้าไปหาน้องสาว ก่อนผลักศีรษะน้องแล้วนั่งลงที่โซฟาข้างกัน ทำราวกับน้องไม่ใช่ผู้หญิง เถื่อนได้อีก=^=
“พาลอ่ะ พี่สตั๊นท์ ดูพี่แต้มดิ... โอ๊ย~~”
น้องสาวหันไปฟ้องพี่ชายคนโตที่นั่งเล่นคอมอยู่ใกล้กันนั้น แสตมป์เขกหัวน้องอีกโป๊กทำให้เสียงร้องโอดโอยดังตามมา
“ชิชะ กล้าดีมาเรียกพี่ว่าแต้มนะยัยดาวเคราะห์!”
“ไม่ใช่ดาวเคราะห์นะ!”
“งั้น ยัยดาวมฤตยู!”
สตาร์เบิกตาโตใส่พี่ชาย ก่อนคว้าหมอนอิงมาปาใส่ สองพี่น้องเลยอีรุงตุงนังตีกันแล้วทีนี้ พี่สตั๊นท์ลุกเข้ามาแยกสองพี่น้องที่กำลังกัดกัน ก่อนเอ่ยถามแสตมป์ที่ท่าทางจะอารมณ์ไม่ดี
“เป็นอะไรน่ะเรา ไปกินรังแตนที่ไหนมา พาลน้องพาลนุ่งไปทั่ว”
แสตมป์ถอนหายใจพรืด ก่อนเอนหลังพิงพนักโซฟาแล้วกอดอก
“เซ็งว่ะ”
“เรื่อง’ไรอ่ะ?” สตาร์รีบยื่นหน้าเข้าไปถามทันทีด้วยความอยากรู้
“จุ้น!”
แสตมป์ปรายตามองแล้วว่า ก่อนจิ้มหน้าผากน้องอีกไปอีกจึ้ก น้องสาวเลยบ่นว่าพี่ชายชอบใช้ความรุนแรง แสตมป์ลุกขึ้นจากโซฟาแล้วคว้าเป้เดินลากขาขึ้นห้อง พี่ชายคนโตกับน้องสาวมองตามก่อนหันมามองหน้ากันเพราะไม่รู้ว่าแสตมป์เป็นอะไรไป
แสตมป์เข้ามาในห้องนอนของตนเองด้วยความเซ็ง เซ็งที่ตนเองแคร์ใครบางคนมากเกินไป ไม่ว่าเขาคนนั้นจะทำอะไร ต่อให้เรื่องนั้นจะเล็กน้อยแค่ไหนก็กระทบใจแสตมป์ไปเสียทั้งหมด
เมื่อนึกย้อนความไปถึงตอนที่แสตมป์ยังชอบอุ้มรักอยู่ ในตอนนั้นอุ้มรักก็ได้มีใครอีกคนเข้ามา ทำให้เขาต้องอกหักช้ำรักนักหนา และในเวลานั้นเองที่ใครบางคนเข้ามาวุ่นวายกับเขา ก่อนนี้ที่เรียนด้วยกันสมัยมัธยมต้น เขาไม่เคยจะถูกโฉลกกับคนๆนี้แม้แต่น้อย มองอย่างไรก็ดูขี้เก๊ก ชอบทำตัวเป็นผู้ใหญ่กว่าเขา บางทีก็ชอบพูดจากระทบกระเทียบ น่าหมั่นไส้สิ้นดี แต่สุดท้ายแล้วคนๆเดียวกันนี้ก็เป็นคนที่ทำให้เขาไม่มีเวลามานั่งเศร้ากับเรื่องที่อุ้มรักบอกปฏิเสธความรักที่เขามีให้ เพราะมีคนๆนี้มาคอยกวนใจจนเผลอใจรักไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ... น้ำปิง
แสตมป์รู้ดีว่าใจของตนเองนั้นยกให้น้ำปิงไปหมดแล้ว แต่ที่เขาไม่รู้คือใจของน้ำปิง ว่าตกลงที่น้ำปิงยอมคบกับเขานั้นมันเพราะรักเขา หรือเพราะเพียงแค่สงสาร เห็นใจ ตามประสาผู้ชายที่นิสัยโคตรพระเอกกันแน่ เพราะน้ำปิงก็ยังคงใจดีกับคนไปทั่ว ทำเหมือนว่าไม่ได้มีแฟนเป็นตัวเป็นตน ถึงแม้ว่าเขากับน้ำปิงจะไม่ได้เปิดเผยถึงขั้นจะไปป่าวประกาศบอกใคร แต่ก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจดีนี่ว่า ... มีแฟนแล้ว…
หรือที่จริงแล้วเพราะแสตมป์ขี้หึงมากจนเกินไป เพราะแค่เห็นว่ามีคนมาอี๋อ๋อกับน้ำปิงโดยที่น้ำปิงก็ไม่ได้แสดงท่าทีรังเกียจรังงอนแสตมป์ก็โมโหแล้ว ถึงได้ทำให้ทะเลาะกันอยู่บ่อยๆแบบนี้ ปกติน้ำปิงจะใจเย็นเสมอ แต่พอเป็นเรื่องของเขาความใจเย็นของน้ำปิงก็ไม่เหลือ เพราะเขาคือคนสำคัญหรือเปล่าน้ำปิงถึงมักจะควบคุมตัวเองไม่อยู่ หรือที่จริงแล้วเพราะเขาไม่สำคัญ น้ำปิงถึงโกรธง่ายขนาดนั้นกันแน่
เสียงโทรศัพท์ของแสตมป์ดังขึ้น เด็กหนุ่มนอนนิ่งอยู่บนเตียงไม่คิดจะกดรับ เขากลัวจะทะเลาะกับน้ำปิงอีก ไม่อยากเลิก แต่ก็ยังไม่อยากคุยเหมือนกัน เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์นั้นดังเพียงรอบเดียวก็เงียบไป ไม่มีการโทรซ้ำอีก มันเป็นเช่นนี้ประจำ ถ้าเขาทำตัวงี่เง่า น้ำปิงจะไม่ง้อ ก็รู้ว่าอีกฝ่ายอยากดัดนิสัย แต่ง้อบ้างก็ได้นี่นา คิดแล้วแสตมป์ก็ถอนใจอีกเฮือก แย่ชะมัดที่เป็นแบบนี้ โกรธเองก็ต้องง้อตัวเองอีก น่าอนาถใจจริงๆเลยแสตมป์ เฮ้ออออ
---------------------
ช่วงพักกลางวัน แสตมป์มาหาเพื่อนอีกคณะหนึ่งในมหาวิทยาลัย เก่งกล้า เกย์สาวเพื่อนข้างบ้านของแสตมป์ที่เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก แต่ไม่ได้เรียนที่เดียวกันเพราะบ้านของเก่งส่งให้ลูกเรียนโรงเรียนเอกชนจะได้ดูมีหน้ามีตา แต่ทั้งสองคนก็ยังเป็นเพื่อนกันมายาวนาน
“อีเก้ง!!”
แสตมป์ส่งเสียงเรียกเพื่อนรัก เก่งที่กำลังเม้าส์กับสาวๆหันมามองก่อนทักตอบ
“ว่ายังไงนังดอกโสน~~ ผัวมึงแอบไปมีเมียใหม่เหรอ ถึงได้มีเวลามาหากูถึงคณะ”
ช่างเป็นคำทักทายที่อ่อนหวานดีแท้ แสตมป์มักจะเรียกเพื่อนว่าเก้งมากกว่าจะเรียกว่าเก่ง ทำให้เก่งสรรหาคำมาเรียกเพื่อนอย่างแสตมป์บ้าง จึงทำให้ไม่มีใครเรียกชื่อจริงๆของกันแล้วเวลานี้
“หยาบคายมาก”
แสตมป์จะตบหัวเพื่อน แต่เก่งไวกว่าเลยจับมือไว้ได้ทันท่วงที ด้วยความที่เก่งตัวสูงกว่าแสตมป์ แถมยังหน้าตาจัดว่าดูดี หากไม่นับนิสัยที่ดูตุ้งติ้งก็ถือเป็นหนุ่มที่น่าจะเสน่ห์แรงพอตัว แสตมป์มองหน้าเพื่อนนิ่งๆทำให้เก่งเลิกคิ้วมองอย่างสงสัย
“มึงช่วยอะไรกูอย่างดิ”
“อะไร?”
แสตมป์ทำหน้าจริงจัง นั่งลงที่ม้าหินอ่อนข้างๆเพื่อนเกย์สาวของตนเอง
“ช่วยจีบกูหน่อย”
“หา!!? กูไม่อยากตีฉิ่งนะมึง”
เพื่อนเก้ง เก่งกล้า ทำหน้าปุเลี่ยนๆ มือแสตมป์เลยฟาดผลัวะพร้อมให้พร
“ห่านจิก!”
“แค่แกล้งๆน่ะ กูไม่ได้จะให้มึงมาเอากู แค่คิดก็สยองแล้วไอ้เหี้ยยย”
“ทำไมต้องให้กูแกล้งจีบมึงด้วยวะ?” เพื่อนเก้งเอ่ยถามอย่างข้องใจ ก่อนจะทำหน้าเหมือนนึกขึ้นได้ นิ้วเรียวยาวชี้หน้าเพื่อน
“หรือว่า... ต้องใช่แน่ๆ มึงทะเลาะกับผัวมึงมาใช่ไหม!” เก้ง เก่งกล้าฟันธง ตรงฉับ!
“อย่ามาทำเป็นรู้ดี ตกลงจะช่วยกูไหม?” แสตมป์เอ่ยปัด ก่อนถามเพื่อน
“ถ้ากูช่วยมึงแล้วกูจะได้อะไรเป็นสิ่งตอบแทน?” เพื่อนเก้งปรายตามองก่อนเอ่ยถามยียวน
“เชี่ยยย น้ำใจน่ะ มึงเคยมีไหม?” แสตมป์ตบโต๊ะรัวๆ เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน
“เอ้า อีนี่ คนเราทำงานมันก็ต้องได้สิ่งตอบแทนดิวะ ถ้าไม่มีกูก็ไม่ทำ กูไม่เสียหายอะไรอยู่แล้ว”
เพื่อนเก้งของแสตมป์กอดอกแล้วลอยหน้าไม่สนใจ แสตมป์ได้แต่ข่มใจไม่ให้ลุกขึ้นมาบีบคอเพื่อน น่าหมั่นไส้ว่ะ!
“เออๆ งั้นกูจะให้พี่สตั๊นท์ไปเดทกับมึงหนึ่งวัน โอป่ะ?”
แสตมป์เอาพี่ชายเข้าล่อ เพราะเพื่อนเขาแอบปลื้มพี่สตั๊นท์ พี่ชายคนโตของแสตมป์อยู่ พอได้ยินว่าจะได้ไปเดทกับพี่สตั๊นท์เพื่อนเก้งก็เก็บอาการแทบไม่อยู่
“ก็โออ่ะ แต่ว่าพี่สตั๊นท์เขาจะยอมเหรอวะ?”
“ถ้ากูพูดเขาต้องยอมแหละ แต่ว่า... มึงอย่าทำอะไรพี่กูนะเก้ง” แสตมป์มองเพื่อน สีหน้ากังวลอย่างจริงจัง
“ห่า! กูออกจะรักนวลสงวนตัว”
“เหรอ~~~~”
แสตมป์เบ้ปากอย่างไม่เชื่อเพื่อนอย่างที่สุด เพื่อนเก้งสะบัดบ๊อบไม่สนใจ นึกกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ในใจที่จะได้ไปเดทกับพี่สตั๊นท์ แสตมป์มองเพื่อนที่ปกปิดความคิดชั่วร้ายไม่มิดแล้วหวั่นใจ คุ้มไหมนี่ที่เอาพี่ชายมาเสี่ยงกับนังเก้งมันแบบนี้ แตมป์ขอโทษนะพี่ตั๊นท์-/\-
-----------------
เสียงวี้ดว๊ายของสาวๆดังมากระทบหูแสตมป์ที่กำลังนั่งร่างรายงานอยู่ที่โต๊ะหน้าคณะ มือเรียวกำปากกาในมือจนเกร็งไปหมดพยายามท่องเอาไว้ว่าใจเย็นๆ ใจเย็นๆ แต่มันก็ดูจะไม่เป็นผล เมื่อน้ำปิงยังคงคุยเล่นหัวกับสาวๆกลุ่มนั้นอยู่ แสตมป์เก็บงานทุกอย่างแล้วรวบขึ้นในอ้อมแขน ก่อนจะลุกจากโต๊ะเพื่อไปหาที่สงบจิตสงบใจ แต่เพราะลุกพรวดขึ้นมาแล้วก้าวหมุนตัวโดยไม่ดูทำให้แสตมป์ชนเข้ากับคนที่กำลังเดินผ่านมาพอดี
“โอ๊ะ!!”
ข้าวของที่แสตมป์หอบเอาไว้หล่นกระจัดกระจายพร้อมทั้งตัวของแสตมป์ที่เสียหลักลงไปนั่งแหมะกับพื้น เสียงของแสตมป์เรียกให้กลุ่มของน้ำปิงหันมามอง น้ำปิงรีบลุกจะเข้าไปช่วยแฟนตัวเองแต่ก็ยังช้ากว่าหนุ่มอีกคน คนเดียวกับที่ชนแสตมป์เมื่อครู่นี้ เขายื่นมือให้แสตมป์เพื่อพยุงตัวลุกขึ้นมา แสตมป์ส่งมือให้กับหนุ่มคนนั้นก่อนลุกขึ้นปัดฝุ่นจากกางเกงของตนเอง น้ำปิงก้าวเข้าไปหาทั้งคู่ที่ก้มลงช่วยกันเก็บข้าวของที่หล่นอยู่บนพื้นก่อนดึงแขนแสตมป์ให้ลุก
“อะไรปิง?”
แสตมป์เอ่ยถามงงๆที่อยู่ๆน้ำปิงก็เข้ามาดึงแขนเขาให้ลุกขึ้นมาจากการช่วยกันเก็บของกับหนุ่มอีกคนอยู่ น้ำปิงมองมือแฟนของตนเองที่ถูกมือของอีกคนกุมเอาไว้เหมือนไม่ตั้งใจ เพียงแค่จะช่วยเก็บของชิ้นเดียวกัน แต่นี่มันนานไปไหม?
“จะจับอีกนานไหม?”
น้ำปิงเอ่ยถามหนุ่มคนนั้น สายตามองหน้าอีกฝ่ายเขม็ง แสตมป์ก้มมองมือของตนเองที่ถูกหนุ่มแปลกหน้าจับเอาไว้แล้วจึงกระตุกเบาๆเป็นสัญญาณให้อีกฝ่ายปล่อย หนุ่มแปลกหน้ายักไหล่ให้น้ำปิงเล็กน้อยก่อนค่อยปล่อยมือของแสตมป์
“ขอโทษที ไม่ตั้งใจ”
ท่าทางกวนอารมณ์นั้นทำให้น้ำปิงอยากจะซัดมันสักหมัด แต่ก็ต้องอดใจไว้เพราะไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไปทำแบบนั้นกับคนเพิ่งเจอกัน นอกจากแค่หวงแฟน น้ำปิงก้มลงเก็บของทั้งหมดมาถือ ก่อนจับแขนแสตมป์จะลากเดินออกไปจากตรงนี้ แสตมป์ผวาตามเมื่ออีกฝ่ายกระตุกดึงแขนเสียแรง แต่เสียงเรียกของหนุ่มแปลกหน้ากลับหยุดเท้าของน้ำปิงเอาไว้
“เดี๋ยวครับ!”
น้ำปิงกับแสตมป์หันมามองหนุ่มแปลกหน้าพร้อมกันแต่ต่างอารมณ์ คนหนึ่งหันมามองเชิงถาม อีกหนึ่งคนหันมามองด้วยความหงุดหงิด หนุ่มแปลกหน้าก้าวมาหยุดตรงหน้าแสตมป์ เพื่อนนักศึกษาบางกลุ่มมองทั้งสามหนุ่มด้วยความสนใจ
“ผมเก่งนะ เก่งกล้า ไม่ทราบว่าคุณ…”
“ปิง”
น้ำปิงเอ่ยตอบเสียงห้วนก่อนที่แสตมป์จะทันได้อ้าปากตอบด้วยซ้ำ เด็กหนุ่มที่เคยใจเย็นกับทุกสถานการณ์มองอีกหนึ่งหนุ่มตรงหน้าด้วยแววตาไม่เป็นมิตร ก่อนที่จะลากแสตมป์ไปด้วยกัน
เก่งกล้ามองตามแสตมป์ที่ถูกลากไปแล้วแอบขำอยู่คนเดียว ทิ้งมาดกวนๆนั้นไปหมดไม่มีเหลือ ‘ไหนว่าผัวไม่สนใจไงนังแสตมป์ ท่าทางหึงโหดขนาดนั้นน่ะนะ คืนนี้ท่าจะโดนหนัก ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตล่ะงานนี้ กร๊าก’
หลังจากที่แสตมป์โดนชนจนหกล้มไปวันนั้น นายเก่งกล้า (เพื่อนเก้งของแสตมป์) ก็เข้ามาวุ่นวายในชีวิตของน้ำปิงกับแสตมป์เหลือเกิน มาคอยตามแฟนน้ำปิงอยู่ได้จนน่ารำคาญ น้ำปิงเคยเอ่ยเตือนแสตมป์ถึงเรื่องนี้แล้วว่านายเก่งกล้าอะไรนั่นมันไม่น่าไว้ใจ ให้แสตมป์ถอยห่างออกมาหน่อยจะดีกว่า แต่อีกคนกลับไม่ฟังแถมหาว่าเขามองโลกในแง่ร้ายอีกต่างหาก แต่ยิ่งปล่อยไว้ก็ดูเหมือนทั้งคู่จะยิ่งสนิทกันมากขึ้น จนถึงขั้นชวนกันไปเที่ยวกลางคืนด้วยกันแล้ว
น้ำปิงคิดว่าตนเองคงยอมต่อไปอีกไม่ได้แล้ว เด็กหนุ่มจึงไปตามแสตมป์กลับ ลากแสตมป์ที่ท่าทางเริ่มเมาจนจะเข้าคลุกวงในกับนายเก่งกล้าอะไรนั่นอยู่รอมร่อกลับออกมาจากสถานที่เที่ยวแห่งนั้น แสตมป์ขืนตัวไม่ยอมเดินตามดีๆก่อนสะบัดแขนให้หลุดจากการเกาะกุม
“เป็นบ้าอะไรของนาย อยู่ดีๆมาลากเราออกมาแบบนี้คนเขาจะคิดยังไง?”
“ก็คิดว่าผัวนายมาตามกลับบ้านไง!”
แสตมป์อึ้งสนิท ไม่คิดว่าน้ำปิงจะพูดอะไรแบบนี้เป็นด้วย โคตรพระเอกหายไปไหนแล้ววะ?
“เป็นอะไรไปอีก เราแค่มาเที่ยวนะ หงุดหงิดอะไรนักหนา?”
แสตมป์ว่าเสียงอุบอิบ เพราะไม่เคยเจอน้ำปิงที่เป็นแบบนี้มาก่อน น้ำปิงผ่อนลมหายใจยาว พยายามระงับอารมณ์ฉุนเฉียวของตนเองอย่างเต็มที่
“เราบอกแล้วใช่ไหมแสตมป์ว่าหมอนั่นมันไว้ใจไม่ได้ ดูตามันสิ มันแทบจะกินนายไปทั้งตัวอยู่แล้วถ้าทำได้...”
“เลิกพูดได้ไหมปิงเรื่องนี้น่ะ ยิ่งพูดเรายิ่งรู้สึกว่านายดูถูกเรานะ คิดว่าเราจะยอมให้มันเอาง่ายๆหรือไง?”
“แล้วมันใช่ไหมล่ะ?”
“ไอ้ปิง!!” แสตมป์กระแทกเสียงเมื่อน้ำปิงโต้กลับมาแบบนั้น
“บอกกี่ที เตือนกี่หน เคยฟังกันบ้างไหม นี่ยังแรดตามมันมาอีก ถ้าเรามาไม่ทันคงเอากันบนโต๊ะไปแล้วมั้ง!”
“ไอ้เชี่ยปิง!! นี่มึงดูถูกกูมากเลยนะ ที่กูยอมมึงอยู่ทุกวันนี้มึงคงคิดมาตลอดสินะว่ากูง่าย!”
แสตมป์มองอีกฝ่ายด้วยความผิดหวังกับคำพูดนั้น แววตาที่มองมานั้นทำให้คนพูดไม่คิดเมื่อครู่ถึงกับสลด เอื้อมมือจะไปจับมือของแสตมป์
“แสตมป์ ขอโท…”
แสตมป์ปัดมือที่เอื้อมมาออก มองหน้าน้ำปิงแล้วก้าวถอยก่อนหมุนตัวกลับ
“จะไปไหน?” น้ำปิงรีบถามเมื่อแสตมป์เดินย้อนกลับไปทางเดิมที่ถูกเขาลากออกมา
“ไปให้ไอ้เชี่ยนั่นมันเอาไง กูง่ายอยู่แล้วนี่!” แสตมป์ประชดกลับ
“อย่ามาประชดงี่เง่าอย่างนี้นะแสตมป์” ปิงก้าวตามคนที่เดินดุ่มไม่สนใจเสียงเรียกของเขา ก่อนกระชากแขนกลับมาเสียแรง
“แสตมป์!!”
“ปล่อยกู อย่ามายุ่ง!”
แสตมป์จะยกเท้าถีบ แต่น้ำปิงเบี่ยงกายหลบ จับต้นแขนบีบแรงจนเจ็บแล้วลากไปยังรถของตนเองที่จอดอยู่ เปิดประตูด้านหลังแล้วผลักแสตมป์เข้าไปก่อนโถมตัวตามแล้วปิดประตู แสตมป์ที่ล้มหงายไม่เป็นท่ามองน้ำปิงที่โน้มกายอยู่เหนือตัวเขาอย่างตกใจ จะขยับลุกแต่ถูกอีกฝ่ายกดเอาไว้เลยได้แต่ส่งเสียงข่มขู่
“ถอยไป!”
“ไม่ อยากโดนเอามากนักนี่ มีผัวเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้วยังเที่ยวแรดมาให้ใครเอาอีกฮึ!... หรือลีลาผัวมันไม่เร้าใจพอ หืม ที่รัก?”
น้ำปิงเชยคางคนดื้อด้าน แสตมป์ปัดมือนั้นออก มองอย่างไม่พอใจ แต่น้ำปิงกลับยิ้มมุมปาก เอียงศีรษะเล็กน้อยก่อนเอ่ยถามยียวน
“ลองอีกสักทีดีไหม เดี๋ยวจะติดใจจนร้องขออีก”
“อย่านะปิง กูไม่เอาในนี้ ปิง... อุ๊บ!”
ริมฝีปากที่เอ่ยห้ามปรามนั้นถูกน้ำปิงบดจูบปิดกั้นทุกถ้อยคำ พื้นที่เบาะหลังรถแสนคับแคบทำให้แสตมป์ดิ้นหนีลำบาก ยิ่งดิ้นร่างกายก็ยิ่งเสียดสีกับอีกฝ่ายมากขึ้นเท่านั้น น้ำปิงที่รู้จุดอ่อนไหวบนร่างกายของอีกคนเป็นอย่างดีไม่ปล่อยเวลาให้เสียเปล่า เล้าโลมโจมตีมันเสียทุกที่ แสตมป์เกร็งตัว หายใจติดขัดเมื่อน้ำปิงตีถูกจุดไปหมด
“อา ปิง... ปิง…”
น้ำปิงยกตัวแสตมป์มานั่งบนตัก เลิกชายเสื้อขึ้นสูงแล้วรวบดูดยอดอก ในขณะที่มือก็ปลดเข็มขัดของแสตมป์ไปด้วย แสตมป์สะดุ้งเมื่อมือของน้ำปิงล้วงเข้าไปภายในกางเกงของเขา ก่อนจะใช้มือช่วยให้อารมณ์ของเขากระเจิดกระเจิงไปไกล แสตมป์ครางรับความซ่านเสียวในลำคอเพราะริมฝีปากยังโดนประกบจูบอย่างไม่ยอมให้หยุดพักหายใจ
ร่างเพรียวถูกดันให้นอนลงบนเบาะรถ ก่อนกางเกงจะถูกถอดออกไปอย่างง่ายดาย น้ำปิงก้มลงใช้ปากปลุกปั่นอารมณ์หวาม มือเรียวถูกยกขึ้นปิดปากปิดกั้นเสียงคราง แสตมป์บิดตัวด้วยความเสียว แทบจะทนต่อไปไม่ไหวเมื่อถูกจู่โจมจุดสำคัญบนร่างกาย
ขาเรียวถูกยกพาดที่พิงเบาะรถ น้ำปิงมองประสานสายตากับคนที่นอนตัวอ่อนระทวยอยู่แนบเบาะนั้น ก่อนค่อยๆแทรกกายเข้าไปช้าๆแล้วขยับ ความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามไฟอารมณ์ปรารถนา ใบหน้าของเด็กหนุ่มทั้งสองแดงก่ำด้วยฤทธิ์แห่งเพลิงอารมณ์ปรารถนา น้ำปิงขบกรามจนขึ้นสันเมื่อความกำหนัดพุ่งสูง ขยับสวนกายถี่ระรัวก่อนปลดปล่อยออกมาพร้อมกันในที่สุด…
กระดาษทิชชูถูกน้ำปิงนำมาใช้เช็ดเนื้อตัวให้แสตมป์ แสตมป์เอนตัวพิงประตูรถงอเข่าขึ้น ยกหลังมือปิดปากเบือนหน้าไปทางอื่นไม่ยอมมองว่าน้ำปิงทำอะไรบ้าง ก่อนจะหน้าแดงเถือกเมื่อน้ำปิงเช็ดส่วนนั้นให้ แต่ไม่มีแรงจะเอ่ยห้ามปราม เมื่อเช็ดให้อีกคนเสร็จน้ำปิงก็ข้ามไปนั่งที่นั่งคนขับ แสตมป์ขยับลุกนั่งก่อนสวมใส่เสื้อผ้าเงียบๆอยู่เบาะหลัง น้ำปิงสตาร์ทเครื่องขับรถเพื่อกลับหอพักของตนเอง สายตาคอยเหลือบมองคนที่นั่งเงียบอยู่เบาะหลังบ่อยๆจนถึงหอ
น้ำปิงจับจูงแสตมป์ขึ้นห้องเมื่อมาถึงหอพักเป็นที่เรียบร้อย พี่ชายของน้ำปิงที่พักอยู่หอเดียวกันเพิ่งกลับจากร้านสะดวกซื้อมาเจอจึงเอ่ยทัก แต่น้ำปิงแค่ตอบอือแล้วเดินลิ่วไม่สนใจ พาแสตมป์เข้ามาในห้องแล้วตนเองก็ถอดเสื้อผ้าเตรียมจะอาบน้ำ ภายในห้องมีแต่ความเงียบ เงียบ แล้วก็เงียบ เงียบเกินไปจนแสตมป์รู้สึกใจไม่ดี น้ำปิงโยนเสื้อผ้ากองๆไว้แถวนั้นก่อนไปเอาผ้าขนหนูพันเอวแล้วเข้าห้องน้ำ แต่ก่อนไปยังกำชับแสตมป์ว่าอย่าไปไหนเพราะมีบัญชีต้องสะสาง
เมื่อน้ำปิงเข้าห้องน้ำไปแล้วแสตมป์จึงไปนั่งที่เก้าอี้หน้าโต๊ะคอมฯ เด็กหนุ่มสะดุ้งเบาๆด้วยความเจ็บเมื่อนั่งลง แสตมป์นั่งบิดมือไปมารอคนเข้าห้องน้ำที่ท่าจะวิ่งผ่านน้ำเพราะออกมาเร็วเหลือเกิน น้ำปิงเอาเสื้อผ้าชุดใหม่มาให้แสตมป์แล้วบอกให้ไปอาบน้ำแต่แสตมป์ส่ายหน้า พอน้ำปิงมองดุๆแสตมป์ถึงค่อยลุกเดินแปลกๆเข้าห้องน้ำไป
พอแสตมป์ออกมาจากห้องน้ำ น้ำปิงก็แทบหลุดขำเมื่อชุดที่อีกคนใส่มันดูหลวมโคร่งแบบนั้น นี่แสตมป์ตัวเล็กกว่าเขามากเลยนะนี่ น้ำปิงรีบเก๊กหน้าขรึมเหมือนเดิมเมื่อแสตมป์มองมาที่ตนเอง เพื่อที่จะเข้าเรื่องกันเสียที เด็กหนุ่มให้แสตมป์มานั่งที่เตียงด้วยกัน เพราะในห้องไม่มีที่นั่งนอกจากที่พื้นและเก้าอี้โต๊ะคอม แสตมป์ยืนนิ่งไม่ขยับเข้าไปหา น้ำปิงถอนใจก่อนจะลุกขึ้นมาหาอีกคนเสียเอง เอาใจยากจริงวุ้ย!
น้ำปิงมายืนตรงหน้าของแสตมป์ก่อนพูดเหมือนจะดุแสตมป์ไปในทีที่ไม่ดูแลตัวเองจนเกือบจะเสร็จนายคนนั้นไปแล้ว แสตมป์เถียงคอเป็นเอ็นว่าถึงน้ำปิงไม่มาตนเองก็ดูแลตัวเองได้หรอก ทำให้น้ำปิงเงียบแล้วมองอย่างตำหนิ พอเห็นสายตาน้ำปิงแบบนั้นแล้วความรู้สึกน้อยใจบางอย่างมันก็ทำให้เด็กหนุ่มอยากต่อต้านน้ำปิง แสตมป์เงียบปากก่อนหมุนกายกลับแล้วเอ่ยขอกลับบ้าน
“เอาแต่หนี!”
น้ำปิงว่าเสียงดังทำให้แสตมป์ชะงัก แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะไม่สน ตั้งท่าจะกลับบ้านอยู่ดี น้ำปิงคว้าตัวอีกฝ่ายมากอดแล้วบดจูบริมฝีปากคนดื้อด้านหนักๆ แทรกลิ้นเข้าไปกวาดต้อนล่อหลอกให้เด็กดื้อหลงเพริดตาม มันดูรุนแรงแต่กลับดูดดื่มอย่างที่สุดเมื่ออีกฝ่ายตอบรับกลับมาร้อนแรงพอกัน น้ำปิงถอนจูบแต่ยังไม่ผละห่างจากริมฝีปากของแสตมป์ไปไหน ยังคงแตะจูบแผ่วๆให้อีกคนไล่ตามติด ก่อนกระซิบถามชิดเรียวปากแล้วกดจูบหนักหน่วงย้ำๆซ้ำอีกหลายครั้ง
“ทำขนาดนี้ยังไม่รู้หรือไงว่ารัก?”
แสตมป์ไม่ตอบคำถามที่ได้รับ ใช้ความเงียบต่อต้านน้ำปิงอย่างดื้อดึง จะไม่ยอมลงให้กันเลยสินะ
“หรือที่จริงแล้วแสตมป์อยากเลิกกับเรา…?”
แสตมป์ยังเงียบ จะดื้อเกินไปหน่อยแล้ว ไม่ดัดนิสัยกันบ้างต่อไปคงเอาใหญ่เลยแบบนี้ น้ำปิงถอนใจกับคนดื้อนั้นก่อนผละถอยออกมา
“เอาล่ะ ในเมื่อมันพูดยากนักเราก็มีทางให้แสตมป์เลือก”
“............?”
แสตมป์เอียงคอเล็กน้อยแต่ยังเงียบอยู่ เล่นแบบนี้สีหน้าน้ำปิงจึงดูจริงจังมากขึ้นเมื่อเอ่ยถ้อยคำถัดมา
“ถ้านับหนึ่งถึงสามแล้วแสตมป์ยังยืนอยู่ตรงนี้เราจะถือว่าใจเราตรงกัน และจะยังคบกันต่อไป แต่ถ้าไม่... รีบก้าวออกจากห้องเราไปเดี๋ยวนี้เลย หนึ่ง สอ...”
แสตมป์ตาโตเมื่ออีกคนบอกแล้วเริ่มนับทันทีแบบนั้น ก่อนก้าวเข้าไปกอดน้ำปิงเหมือนตัดสินใจปุบปับด้วยความตกใจเพราะตั้งตัวไม่ทันมากกว่าอย่างอื่น น้ำปิงอึ้งไปเล็กน้อยที่ถูกอีกฝ่ายกอดหมับก่อนยิ้มขำแล้วยกแขนกอดตอบ
“ปากหนักจริง แฟนใครนะ?”
เด็กหนุ่มเอ่ยเย้าคนที่กำลังกอดตนเองเสียแน่นหนึบ เสียงอู้อี้ของแสตมป์ที่ซุกหน้ากับอกเขาจึงดังแย้งมา
“ไม่ใช่แฟนนายสักหน่อย อย่ามามั่ว”
“เหรอ? ถ้างั้นก็เป็นซะสิ” น้ำปิงเลิกคิ้ว ก้มลงมองคนที่ซุกอกตัวเองแล้วรอยยิ้มยิ่งกว้างขึ้นไปอีก
“ง่ายจังวะ?” น้ำเสียงเคืองเล็กๆที่อีกฝ่ายเออออห่อหมกเองไปหมด
“ยอมไหมล่ะ?”
แสตมป์เงยหน้าขึ้นมามองเมื่อได้ยินคำถาม ก่อนเอ่ยตอบยียวนกวนอารมณ์
“ถ้าไม่ยอมแล้วจะยืนให้กอดอยู่แบบนี้ไหม?”
“พูดให้มันตรงกับใจโดยไม่กวนจะได้ไหม ฮึ!?” น้ำปิงบีบจมูกคนกวนด้วยความหมั่นเขี้ยว แล้วว่า “ไหนลองบอกว่ารักน้ำปิงหน่อยซิ อยากฟัง”
“ไม่เอา”
“น่า ไม่ต้องอาย”
“ใครจะหน้าหนาอย่างนายเล่า!”
“นะ”
“ฮื้อ”
แสตมป์ทุบอกคนเซ้าซี้ปึ้กหนึ่ง คนเขินจะแย่แล้วยังล้อกันอยู่ได้ น้ำปิงจูบแก้มที่เริ่มจะขึ้นสีระเรื่อให้เห็นก่อนหัวเราะชอบใจ
เมื่อปรับความเข้าใจกันแล้วคืนนี้น้ำปิงเลยให้แสตมป์นอนด้วยกันที่นี่ ไม่พากลับไปส่งบ้าน พรุ่งนี้ไปมหาวิทยาลัยก็ให้ใส่ชุดของตนเองไปก่อน อาจจะตัวใหญ่หน่อยคงไม่เป็นไร หลังจากที่แสตมป์ดูจนแน่ใจแล้วว่าน้ำปิงคงนอนหลับไปแล้วแสตมป์จึงยกตัวขึ้นมานอนตะแคงมองหน้าน้ำปิง ก่อนเอ่ยบอกในสิ่งที่น้ำปิงอยากได้ยินในเวลาปรกติแต่เขาอายแสนอายนั้น
“ถึงนายมันจะกวนใจไปหน่อย…”
“………………”
ถึงจะรู้ว่าน้ำปิงคงไม่ได้ยินแต่แสตมป์ก็ยังอดเขินไม่ได้ เด็กหนุ่มกัดปากตนเองเบาๆด้วยความเขินก่อนเอ่ยบอก
“แต่เราก็... รักนายนะ น้ำปิง”
สารภาพคำรักเสร็จแสตมป์ก็ยิ้มขำตัวเอง บอกรักตอนเขาหลับแล้วเขาจะรู้ไหมนี่ เด็กหนุ่มกดจมูกหอมแก้มน้ำปิงเป็นการราตรีสวัสดิ์ก่อนเอนนอนลงข้างๆแล้วหลับตาลง โดยที่ไม่รู้ว่าไอ้คนที่ตนเองนึกว่าหลับไปแล้วนั้นจะหรี่ตาแล้วลืมตาขึ้นมามองตนเองยิ้มๆ ก่อนทำเป็นแกล้งพลิกตัวมาสวมกอด แสตมป์ลืมตาพรึ่บเมื่อแขนของน้ำปิงรวบกอดเอวเขาให้ขยับเข้าไปชิด แต่พอเห็นว่าอีกฝ่ายหลับอยู่ เลยคิดไปว่าคงแค่ละเมอ แสตมป์จึงยอมให้กอดอยู่แบบนั้นจนถึงเช้า…
++++++++++++
ต่อด้านล่างค่ะ