ʕ = •́ .̫ •̀ = ʔ
ปุ้ง!
เสียงควันสีขาวจางระเบิดขึ้นหลังจากสายเฮชดีเอมไอถูกต่อเข้ากับจอทีวีบนชั้นไม้ เริ่มกิจกรรมตามล่าซีรีย์เน็ตฟลิคที่ยังหลงเหลืออยู่บนโลกนี้ให้สิ้นซาก เหมียวน้อยตัวสีขาวคิดในใจขณะนอนบิดขี้เกียจไปมา
วันนี้เป็นวันเสาร์ แต่ตาเจ้าของห้องซื่อบื้อของเขาก็ยังต้องไปเรียน พักหลังๆ เขาว่าหมอนั่นชักจะเรียนหนักขึ้นเรื่อยๆ ก็เข้าใจอยู่หรอกว่าเรียนสัตว์แพทย์ เป็นหมอก็ต้องเรียนเยอะ แต่จำเป็นต้องเรียนเยอะขนาดนี้มั้ยนะ
วันที่ไม่มีแม็กซ์เวลนี่มันน่าเบื่อจริงๆ เลย
“แอนโธนี่ ดูเน็ตฟลิคด้วยกันปะ”
“มดเขาไม่ดูเน็ตฟลิคกันหรอก”
“อ้าว แล้วดูไรอ่ะ”
“ชู่วว! เงียบๆ ได้มั้ย ชั้นกำลังขุดเจล ต้องใช้สมาธิ”
เออ...เอ็งน่ะมันสมาธิสั้น คุยด้วยกันไม่เคยยืดหรอก มีแต่เขานี่แหละที่ชอบวอแวคนอื่นไปเรื่อย มิวนิคถอนหายใจก่อนจะกระโดดกลับขึ้นไปนอนกลิ้งเกลือกบนฟูกเพื่อดูซีรีย์อีกครั้ง อันที่จริงถ้ามีป๊อปคอร์นกับน้ำอัดลมกินคู่กันไปด้วยก็คงดี
ทว่าความขี้เกียจของแมวเหมียวนั้นช่างอันตราย พอได้ลองอยู่ในร่างแมวซักครั้งแล้ว...ร่างกายมันก็ปวกเปียกไปหมด อยากนอนมันซะทั้งวัน แค่จะแปลงร่างกลับไปเป็นมิวนิคเขายังขี้เกียจเลย อ่า...เมื่อไรแม็กซ์จะมา เขาขี้เกียจลุกจัง อยากเอาหน้าถูหน้าท้องที่เป็นมัดกล้ามนั่นเหลือเกิน...
“อยู่ไหน”
“บ้าน”
“ปกติไม่เห็นกลับ”
“แม่ดราม่า บอกพี่ฟ้าติดเด็กที่ร้านไม่ยอมกลับ น้ำก็เอาแต่คุยกับต้นไม้หลังอกหัก ปกติสุดก็กูละ”
ดูได้ไม่ถึงครึ่งเรื่องก็กดปิดทีวี ถือวิสาสะใช้คอมของบางคนวิดีโอคอลหาสายหมอก เมื่อเริ่มชินกับการแปลงร่างก็เป็นอย่างที่เห็น เวลาแม็กซ์เวลไม่อยู่เขาก็ชอบโทรกวนสายหมอกตลอด เป็นอีกคนล่ะนะที่รู้ทุกความเป็นไปของมิวมิวเดอะแคท
โกรธกันขึ้นมาเขาคงถูกจับส่งสถาบันวิจัยสัตว์ประหลาด
“อยากไปกินเหล้าร้านพี่ฟ้า...”
“เป็นแมวกินได้รึไง”
“เป็นแมว ไม่ได้เป็นตับแข็ง”
“หึ...มึงไม่ได้อยากกินหรอก”
เขาเกลียดสายตาแบบนั้นของสายหมอกชะมัด มันดูล้อเลียนราวกับสามารถอ่านความในใจของเขาออกทะลุปรุโปร่ง มิวนิคเกลียดการถูกรู้ทัน เขาไม่ชอบอะไรที่อยู่เหนือการควบคุมเอาซะเลย
“มึงแค่กำลังมองหาคนพาไปกิน”
“หมอก...”
“และคนๆ นั้น ก็ไม่ใช่กู”
ให้ตายสิ เขาเกลียดสายหมอกเวอร์ชั่นกวนประสาทแบบนี้ที่สุด
“ต้องทำยังไงถึงจะเลิกล้อ”
“ขอเค้าเป็นแฟนดิ”
“กูหรอต้องขอ?” คนชุดขาวขมวดคิ้ว ยกนิ้วชี้หน้าตัวเองเป็นท่าประกอบ
“ถ้ารอคุณหมอขอ มึงว่าจะได้เป็นมั้ย?”
ก็จริงอย่างที่อีกฝ่ายว่า มิวนิคคิดตาม คนอย่างแม็กซ์เวลน่ะหรอจะขอเขาเป็นแฟน แค่บอกว่าชอบยังเป็นเขาเลยที่ต้องเค้นออกมาจากปากด้วยตนเอง อีกอย่าง...ดูท่าหมอนั่นคงไม่เคยผ่านประสบการณ์มีแฟนมาก่อนแหงๆ
“ยังไม่รู้”
“หืม?”
“ยังไม่รู้ว่าที่กำลังรู้สึกอยู่ มันมากขนาดนั้นแล้วหรือยัง”
“อืม…ก็ไม่ได้เร่ง แต่เป็นคนแรกหรือเปล่าที่คุยนานขนาดนี้?”
“นับตอนเป็นแมวด้วยหรือเปล่า?”
“เริ่มรู้สึกดีตั้งแต่ตอนไหนล่ะ”
เหมียวน้อยในร่างคนชะงักไปชั่วครูเพื่อใช้ความคิด ถ้าถามว่าแม็กซ์เวลเป็นคนที่เขาชอบมากกว่าคนอื่นๆ ที่ผ่านมาไหมนั้นก็ตอบยาก แม็กซ์เวลยืนอยู่คนละฝากกับคนพวกนั้นทั้งหมดเลย จะว่ายังไงดีล่ะ...
แม็กซ์เวลเป็นความสบายใจ...
...ความปลอดภัย อย่างงั้นหรอ?
“นานที่สุด”
และเขาก็ถูกสายหมอกล้วงความลับจนหมดพุงอีกครั้ง
“เอ้อ...ว่าจะไปคณะ ไว้เดี๋ยวโทรหา”
“เปลี่ยนเรื่อง”
“หยุดได้แล้วหมอก”
“หึ...ให้ไปรับตอนไหนก็บอกแล้วกัน”
หมดยุคการตกเป็นเหยื่อ เพราะเขาไม่มีวันกลายเป็นเหยื่อของใครทั้งนั้น มิวนิครีบพับหน้าจอลงก่อนจะลอบถอนหายใจเฮือกใหญ่ อาจคงไม่ใช่เร็วๆ นี้หรอกที่เขาจะออกไปเจอสายหมอก
มันอันตรายเกินไป
ต่อให้แปลงร่างได้ตามใจชอบแต่เขาก็ยังเป็นแค่แมวเหมียวตัวหนึ่ง การจะอยู่ในจุดที่สายหมอกล้อไม่ได้มันต้องสูงกว่านั้น หลังคาหรอ? ไม่สิ...ต้องสูงกว่าหลังคา อ่า...ถ้าไอ้กระปู๋แมวสาปให้เขากลายเป็นนกเรื่องคงสนุกกว่านี้
แต่เดี๋ยวก่อนนะ! นกงั้นหรอ!?
“เอ๋? แกจะบินวันนี้เรอะไอ้หนู”
“ใช่เลยลุง ต้องวันนี้เท่านั้น นานกว่านี้ผมคงแห้งตายเพราะความเบื่อหน่าย”
“แมวอย่างพวกแกน่าจะแห้งตายเพราะความขี้เกียจมากกว่า”
นี่ก็อีกตัว...รู้ทันทุกอย่างจริงๆ เป็นแค่นกไม่ใช่หรออย่ามาทำรู้ดีหน่อยเลยน่า เหมียวน้อยกลอกตาใส่นกอินทรีย์ยักษ์ที่ถูกปิดผนึกอยู่ในกรงเหล็กด้านบนดาดฟ้า เป็นการถูกจองจำอย่างเต็มใจท่ามกลางทุ่งดอกเดซี่สดใส แย่จัง...หลังกลับร่างเป็นมิวนิคได้ตามใจนึกเขาก็ไม่ค่อยได้ขึ้นมาเยี่ยมเลย
ลืมไปเสียสนิทเลยว่าดอกเดซี่น่ะคืออีกหนึ่งความสบายใจของเขา
ไม่ใช่ไอ้ลุงปากแหลมนี่จ้า
“จะอะไรก็ช่าง แต่ลุงสัญญากับผมไว้แล้วนี่ว่าจะพาผมบินอ่ะ รักษาสัญญาหน่อย”
“รู้โว้ย แต่ช่วยแหกตาดูหน่อยได้มั้ย คนที่จะพาเอ็งบินกำลังติดแง็กอยู่ในกรงเนี่ย”
“หึ...นั่นไม่ใช่ปัญหาเลย” ดวงตาสีฟ้าวาวโรจน์
ปุ้ง!
“วู้วฮู้ววว!! นี่มันเจ๋งสุดๆ ไปเลยลุงฮอวค์!!”
และยิ่งวาวโรจน์ขึ้นไปอีกเมื่อร่างสีขาวถูกพาขึ้นไปยังจุดที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์อันสวยงามได้ทั่วทั้งเมือง เพิ่งรู้เหมือนกันว่าย่านหอพักบ้านสุขใจช่างเป็นบริเวณที่ป่าเยอะพอตัว มิหน่าล่ะถึงสดชื่นขนาดนี้
หนึ่งสิ่งที่ค่อนข้างประหลาดใจอีกอย่างก็คือลุงฮอวค์เชื่อคำที่เขาเล่าทั้งหมด ทั้งเรื่องคำสาป เรื่องมิวมิว เรื่องไอ้เทพเจ้ากระปู๋แมว ราวกับพวกสัตว์คุณเคยกับสิ่งเหนือธรรมชาติเป็นปกติอยู่แล้ว
จู่ๆ ก็ขนลุกขึ้นมาเลยแฮะ!
“พวกโน่ไม่เคยขอให้ลุงพาขึ้นมาหรอ”
“ไม่มีแมวที่ไหนอยากบิน นี่ถ้าไม่รู้ว่าแกเป็นมนุษย์ชั้นก็ไม่คิดว่าจะเอาจริงหรอกนะ”
จริงสินะ เขามันแปลกแมว จะว่าเป็นมนุษย์ก็ไม่ใช่ เป็นแมวก็ไม่เชิง
“...ขอบคุณนะที่ยังเป็นเพื่อนผมต่อ”
“พูดเหมือนพวกมนุษย์จะเลิกเป็นเพื่อนกับแกถ้าแกกลายเป็นแมวอย่างงั้นแหละ”
คนฟังหยุดชะงัก มันก็เป็นคอมม่อนเซนส์อยู่แล้วไม่ใช่หรอถ้าผู้คนจะปฏิบัติแบบนั้น มิวนิคแค่คิด...เขาไม่ได้พูดออกไป บางทีอาจเพราะวัฒนธรรมของมนุษย์กับสัตว์ช่างแตกต่าง เรายอมรับและต่อต้านเรื่องบางเรื่องในแง่มุมที่ไม่เหมือนกัน
ฉะนั้นเขาจะไม่ตัดสินวิธีการคิดของพวกสัตว์ว่าแปลก
แหงล่ะ...มนุษย์เราน่ะแปลกยิ่งกว่าสัตว์เสียอีก
“นี่! เหม่ออะไรไอ้หนู”
“ปะ...เปล่า ลุงอย่าหันมาซี่ บินมองทางหน่อย”
“มองไปข้างล่าง”
“เชี่ยย!!”
ผู้โดยสารตัวขาวอ้าปากค้างอย่างพูดไม่ออก มันเป็นทุ่งป่าสนอย่างกับหนังฝรั่ง สาบานว่าไม่เคยคิดถึงการมีอยู่ของสถานที่แนวๆ นี้ใกล้มอเรามาก่อน จริงๆ ก็ไม่ใกล้หรอก ดูจากระยะทางน่าจะห่างไกลจากมอพอสมควร แต่คงเพราะบินมาถึงใช้เวลาไม่มากนัก อีกอย่างวันนี้แดดน้อยแถมลมยังเย็นสบายสุดๆ
อากาศเป็นใจต่อการบินชมวิวเหลือเกิน
“มันดีมากเลยลุง”
“ชอบขนาดนั้นเลยรึไง”
สายตาของเขาคงบรรยายเป็นความรู้สึกออกมาแทนคำพูดทั้งหมด ภาพอาร์ตแกลลอรี่ถูกวาดขึ้นในหัวเป็นฉากๆ มิวนิคเฝ้ารอวันที่จะมาถ่ายรูปเก็บบรรยากาศไม่ไหว ไหนจะวิวตึกรามบ้านช่องที่ได้เห็นจากบนท้องฟ้าด้วยตาเปล่าอีก ถ้าไม่ใช่การเช่าเครื่องบินเพื่อมาดูเขาก็นึกไม่ออกเลยว่าต้องทำวิธีไหน
“ลุง มีที่ไหนอีก พาไปหน่อย”
“ไอ้ได้มันก็ได้ แต่วันหลังแล้วกัน” นกยักษ์เอ่ยด้วยเสียงเซ็ง
“ทำไมล่ะ ผมยังดูไม่จุใจเลย” เริ่มทำเสียงงอแง
“วันเสาร์ทาสกลับเร็ว ขืนกลับมาไม่เห็นเฮียเดี๋ยวได้ซวยกันหมด”
ด้วยเหตุนั้นเหมียวน้อยผู้อยู่ไม่ติดห้องจึงจำต้องกลับมานอนกลิ้งเกลือกอยู่ในห้องอีกครั้ง ทำไมแม็กซ์เวลไม่กลับเร็วแบบลุงทาสของลุงฮอวค์บ้าง เขาชักจะเบื่อแล้วนะ ทว่าพอเหลือบมองนาฬิกาก็เพิ่งจะสี่โมงเย็นอยู่เลย เฮ้อ...เบื่อ
ปุ้ง!
เช็คเฟสบุคซะหน่อยดีกว่า ไม่ได้ตามข่าวคณะนานป่านนี้ทุกคนคงลืมเขาไปแล้วล่ะมั้ง
แกร้กๆ !
เสียงไขประตูห้องขยุกขยิกเป็นสัญญาณว่ามีใครบางคนกำลังพยายามเข้ามา และเขาก็สัมผัสได้จากกลิ่นตั้งแต่ต้น...เป็นมนุษย์แว่นแน่นอน หัวใจเหมียวน้อยในร่างคนเต้นตึกตักลิงโลด ก่อนภาพเบื้องหน้าจะปรากฏร่างสูงที่เฝ้ารอมาตลอดทั้งวัน บ้าจริง...นี่เขาชักจะเหมือนแมวขึ้นเรื่อยๆ แล้วแฮะ
เอ๊ะ...แต่ไอ้ที่ตั้งหน้าตั้งตารอเจ้านายกลับมามันน้องหมาไม่ใช่รึไง
“กลับมาแล้วหร...”
“คุณมิว!”
แววตาและน้ำเสียงขึงขังของอีกฝ่ายทำคนฟังถึงกับขมวดคิ้ว แล้วอาการหอบแฮ็กราวกับวิ่งมาร้อยไมลนั่นคืออะไร เกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นหรือเปล่าเนี่ย หรือหอจะไฟไหม้? แต่เขาก็ไม่ยักกะได้ยินสัญญาณเตือน
“มีอะไร? ใจเย็นๆ”
“คุณ...คุณไปไหนมาครับ!”
“ไปไหน ก็นั่งเล่นอยู่ห้อง” ทำท่าเฉไฉ รู้สึกลางไม่ดีเลยว่ะ ขอแว้ปไปเปิดไพ่ยิบซีได้ไหม
“ไม่ได้ออกไปซนที่ไหนใช่มั้ย?” คราวนี้นัยน์ตามนุษย์แว่นฉายแววดุกว่าเดิม น่ากลัวจัง
“ไม่มี เรานั่งเล่นคอมทั้งวันเลย”
“อย่าโกหกผมครับ มันไม่เนียน”
คราวนี้เดินมาประชิดตัวแถมแผ่รังสีผู้พิพากษาเหมือนกำลังคาดคั้นนักโทษ ไปทำตัวเก่งขนาดนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่แม็กซ์เวล หน็อย...ถ้าไม่มีคดีเป็นชนักติดหลังอยู่เขาจะสวนกลับให้หน้าเหวอไปเลย
“อ่า...โกหกอะไรแม็กซ์ ไม่มี” เลิ่กลั่กจังวะมิวนิค เรียนนิเทศนะโว้ย...สกิลแอคติ้งหายไปไหนหมด!
“ผมเห็นคุณขึ้นหลังนกตัวยักษ์บินไปไหนไม่รู้เมื่อตอนบ่าย มันใช่เรื่องไหมครับ!? ถ้าคุณตกลงมาผมจะทำยังไง!”
เวรแล้วไง ไอ้ลุงหอกมันพาเขาบินผ่านแถวคณะสัตว์แพทย์ด้วยหรอวะ มัวแต่ดูวิวธรรมชาติจนลืมสังเกต
“ตะ...ตาฝาดแล้ว แมวที่ไหนจะขึ้นหลังนก”
“มิวนิค! ”
อ่ะ...ถ้าเรียกชื่อเต็มๆ แบบนี้แสดงว่าโกรธจริง ล่าสุดที่เรียกก็ตอนเขากัดหมอนหนุนหลังเล่นจนขาด ถึงจะเป็นการดุแบบไม่ลงโทษร้ายแรงแต่ดุก็คือดุ แม็กซ์เวลไม่พอใจกับการกระทำของเขาเป็นอย่างมาก และนั่นคงถึงเวลาต้องพิจารณาตัวเอง ไม่ก็เก็บข้าวของออกจากห้องนี้ไป อันหลัง...เขาติดมาจากซีรีย์เน็ตฟลิค
“ขอโทษ...” คนผิดก้มหน้างุด ก็รอบนี้เขาผิดจริงๆ ...มั้ง
“ผมไม่ได้โกรธครับ...” แม็กซ์เวลยกมือนวดขมับพร้อมถอนหายใจเฮือกโต “...แต่คุณรู้ใช่มั้ยว่าผมเป็นห่วง”
“อื้อ” ค่อยๆ เหลือบสายตามองคนเฉิ่มจอมดุ “มากขนาดไหน”
“คุณรู้คำตอบอยู่แล้ว”
กลายเป็นคนกล้าหาญถึงขนาดฮึดต่อกรกับเขาได้แบบนี้แล้วเชียวรึแม็กซ์เวล แต่ก็ดีแล้ว...นานๆ เห็นอีกมุมของมนุษย์แว่นอันแสนโซแดมฮอตเหมือนเรือนร่างใต้ชุดนักศึกษานั่นก็ทำให้หัวใจเต้นตึกตักดีเหมือนกัน
แหมะ!
“อ๊ะ! คุณมิว กะ...กอดผมทำไมครับ”
“กอดแทนคำขอโทษ” บนอุบอิบขณะฝังใบหน้าลงบนแผ่นอกอบอุ่น
“คุณก็พูด...ไปแล้วนี่ครับ”
“คำพูดก็ส่วนคำพูด...การกระทำก็ส่วนการกระทำ”
“.....”
“เราเหงาว่ะแม็กซ์...วันธรรมดาก็เหงาจะแย่อยู่แล้ว ยิ่งวันเสาร์ที่ไม่มีนายเรายิ่งโคตรเหงาเลย”
“คุณมิว...”
เขาถูกท่อนแขนที่ใหญ่กว่ายกโอบร่างจนรับรู้ได้ถึงความอบอุ่นเต็มกอด เสียงก้อนเนื้อในอกด้านซ้านของอีกฝ่ายดังโครมครามจนทำเอาคนฟังหลุดยิ้ม กลิ่นเหงื่อแม็กซ์เวลเริ่มผสมกับกลิ่นมิ้นท์ของห้องเหมือนทุกวัน และมันก็หอมจนเขาไม่อยากจะผละใบหน้าออก
“ยกโทษให้ได้ยัง?”
“คุณรู้มั้ยครับ…
ผมใจอ่อนตั้งแต่เห็นหน้าคุณแล้ว”
tbc.
ʕ = •́ .̫ •̀ = ʔ
==============================================
เทอๆๆ สองคนนี้เขาเป็นแฟนกันหรอ อะไรยังไงบอกเลาหน่อยย
ปล.ถ้าชอบก็ขอคนละเม้นเป็นกำลังใจให้เค้าด้วยน้า
หรือจะติดแท็ก #แปลกไหมถ้าจะคิดอะไรกับแมว มาพูดคุยกันก็ได้เน้อออ
ทุกคอมเม้นเป็นกำลังจัยให้เค้าจีงๆ ๆ ๆ