ตอนที่ 17
สัปดาห์ถัดมาทุกอย่างก็ยังคงผ่านไปอย่างปกติ เขาไปถึงที่ตอนทำงานแปดโมงตอกบัตรออกสี่โมงครึ่ง เข้าแผนกไปเช้าวันจันทร์ก็มีคนแซวเรื่องแหวนที่นิ้ว เขาที่เตรียมแถเอาไว้แล้วก็บอกว่าผู้หลักผู้ใหญ่ซื้อให้ ประมาณว่าลุงที่บ้านนอกส่งมาให้เป็นของขวัญวันเกิด แน่นอนว่าของเก๊ ทุกคนเหลือบตามองหน้าเขาสลับกับแหวนก็เชื่ออย่างสนิทใจ ทำไมวะ หนังหน้าเขามันจนมากหรือไงฮึ! มีแต่ไอ้รุตนี่แหละที่ส่งยิ้มมีเลศนัยมาให้บอกว่าปลอมเหมือนเน๊อะ อ่าว มึง ดูถูกของเสิ่ยเจิ้น ของปลอมก็อปเกรดมิลเลอร์น่ะ เคยดูเดี่ยวภาคล่าสุดไหม พี่ตูนบอดี้สแลมก็มานะ
ตกเที่ยงถึงเวลาออกไปหาอะไรกิน เขากับไอ้ขิม ไอ้รุต ตกลงไปกันไปฝากท้องที่โรงงานของพนักงาน ตอนนี้เพิ่งจะกลางเดือนแต่เขาใช้เงินสดไปหมดแล้ว จะขายหุ้นให้เสี่ยคืน เสี่ยก็ไม่ยอมรับซื้อ ต๊ะเงินไว้บอกว่าค่อยยกยอดไปเป็นคราวหน้า จะได้ไม่เสียค่าธรรมเนียมการโอนเพราะเขากับเสี่ยถือกันคนละโบรค*
นี่น่ะนะเสี่ยสายเปย์ ที่เงินสดล่ะใช้จ่ายเป็นว่าเล่น แต่พอเป็นเรื่องหุ้นล่ะดันมาทำเหนียม ขี้เกียจโอนหุ้น ลำบากเขาที่เงินสดหมดตัวไม่เหลือซักแดง ต้องแกะกระปุกหมู แคะเหรียญออกมาใช้แทน จะแลกตรง BTS พนักงานก็ไม่ให้แลกบอกว่าคนต่อแถวเยอะ เขาเลยต้องหอบเหรียญหนักๆ จนกระเป๋าตุงมาทำงาน
พอไปถึงห้องอาหาร ย่างขาเข้าไปแล้ว เขาพวกไอ้ขิมถึงได้เห็นความผิดปกติ ห้องอาหารพนักงานที่เคยมีเสียงจ้อกแจ้กจอแจ ตอนนี้เงียบกริบยิ่งกว่าอยู่ในป่าช้า พวกเขาสามคนที่มองหน้ากันไปมา แต่ก็เดินต่อไปแบบไม่รู้เรื่อง จนกระทั่งเดินไปถึงกลางห้องเขา ถึงเห็นต้นตอแห่งความเงียบ
ชิบหาย...
เสี่ยกับคุณปุยฝ้าย!
ทำไมประธานกับว่าที่เมียท่านประธานถึงโผล่มากินข้าวถึงในโรงอาหารนี่!
"พระแพงคะ" เสียงเรียกหว๊านหวาน แต่เขาไม่เดินไปหาได้ไหมอ่ะ เขาไม่อยากได้ยินเสียงหวานๆ ตอนนี้!
" ไอ้แพง คุณปุยฝ้ายเรียกมึงอ่ะ" เสียงไอ้ขิมกระแซะ มึงไม่ต้องบอก กูรู้!
" นางฟ้านางสวรรค์มึงเรียกแน่ะ" เสียงไอ้รุต.. มึงหุบปากไปเลยไอ้ฝรั่งขี้นก!
เขาเดินคอตกเข้าไปหาเสี่ยกับคุณปุยฝ้ายทั้งน้ำตา สายตาแน่วแน่ไม่มองไปที่เสี่ยเลยซักนิด ถึงจะเคยถูกจับได้คาหนังคาเขา แต่เราอย่ายอมรับ หน้าด้านไว้ก่อนพ่อสอนไว้ (ถึงพ่อเขาจะหนีไปมีเมียน้อยแล้วก็เถอะ) เขาเดินไปหาคุณปุยฝ้ายอย่างสุภาพเรียบร้อย ก่อนถามคุณปุยฝ้ายว่า "มีอะไรให้ผมช่วยเหรอครับ"
สาวเจ้าที่เขาเคยเห็นว่าสวยน่ารัก ตอนนี้เหมือนกางปีกแยกเขี้ยว เขายืนเหงื่อตกมองมือขาวๆ ของคุณปุยฝ้ายล้วงไปที่กระเป๋าถือ คุณเธอล้วงหาของบางอย่าง แล้วยื่นบางอย่างมาให้เขา
" ปุยฝ้ายหิวน้ำค่ะ ช่วยไปซื้อน้ำส้มให้ปุยฝ้ายหน่อยนะคะ"
ครับ...
คุณปุยฝ้ายยื่นแบงก์ยี่สิบมาให้ แบบที่เท่ากับราคาค่าน้ำแป๊ะ เขาที่โดนสั่งงานแบบไม่ทันตั้งตัวก็ทำตาปริบๆ พอแน่ใจว่าไม่มีค่าทิปเพิ่ม เขาก็ตอบกลับไปว่า "ครับ" แล้วเดินออกไปซื้อน้ำ
คลับฟรายเดย์... ถ้าจะออนแอร์สายก็บอกกันก่อนสิวะ แล้วไอ้ตัวผู้กำกับน่ะอย่าทำหน้านิ่ง ไหนว่าจัดการได้ แล้วทำไมถึงได้ปล่อยให้รถไฟชนกันแบบนี้!
ฮ่วย! เขาที่เคืองแสนเคืองเพราะอยู่ๆ ก็ถูกรถไฟชนก็ได้แต่เดินออกไปซื้อน้ำ ไหนๆ ก็ซื้อแล้วเลยถือโอกาสซื้อมาเพื่อตัวเองกับไอ้ขิมด้วย ส่วนไอ้รุตนี่ไม่ต้องซื้อเพราะมันตีขนาบมา จากที่มันยิ้มๆ เพราะได้แซวเขา ตอนนี้มันบ่นเป็นงึมงำบอกว่าคุณปุยฝ้ายไม่ควรใช้เขาแบบนี้ เขาไม่ใช่ทาสในเรือนเบี้ย ที่เมืองนอกต่อให้เป็นเจ้านายกับลูกน้องก็ไม่มีสิทธิ์จิกหัวใช้ เขาที่ได้ฟังมันบ่นก็หัวเราะ ถามสวนกลับไปว่า "ถ้าเป็นมึงจะทำไงวะ"
เท่านั้นล่ะไอ้รุตจอมพูดมากถึงกับปิดปากเงียบ ตบบ่าให้กำลังใจเขาสองสามที แล้วซื้อน้ำชาเขียวของตัวเอง
ของแบบนี้ต่อไม่มีชะงักติดหลัง แต่เพื่อให้เรื่องมันจบ มันก็มีแต่ต้องเดินออกมาซื้อ อีกอย่างคุณปุยฝ้ายก็เป็นผู้หญิง เขาเองก็เคยซื้อน้ำให้เพื่อนผู้หญิงในกลุ่มอยู่บ่อยๆ แค่นี้ไม่อะไรมาก พอซื้อน้ำเสร็จก็เดินไปเสิร์ฟน้ำให้กับคุณปุยฝ้าย ในตอนที่เขากำลังวางแก้ว เสียงหวานๆ ก็ส่งมาอีกรอบ
.
.
.
" ขอบคุณค่ะ"
ไม่มีคลับฟรายเดย์ ไม่มีดราม่า เขาที่รอลุ้นจนตัวโก่ง กลัวว่าคุณเธอจะสาดน้ำส้มใส่ แกล้งขัดขา พูดให้เขาขายหน้า ก็ถึงกับกลัวเก้อ สรุปก็คือว่าทุกอย่างราบเรียบสงบเรียบร้อย เขายืนงง ห้ามมือไม่ให้เกาหัวแกรกๆ ลอบมองหน้าเสี่ยทั้งที่ตั้งใจจะไม่มองหน้า เสี่ยเลิกคิ้วเล็กน้อยด้วยมาดของท่านประธาน เขาหูตกหางลู่
ใช่สิ เขามันแค่ผัวน้อย เมียหลวงมาข่มถึงที่ เขาจะปริปากพูดอะไรได้ ได้แต่ขอบคุณและซาบซึ้งในพระกรุณาที่ไม่เหยียบย่ำซ้ำเติมข้าพเจ้า
ถุย มันใช่ซะที่ไหนกันเล่า! เขาอ่านสายตาเสี่ยออกหรอกน่ะว่าถ้าไม่อยากมีปัญหาก็อย่าเปิดปากพูด เสี่ยจัดการทุกอย่างได้ เขาที่เชื่อเสี่ยมาตลอด มีหรือจะกล้าขึ้นเสียงให้เสี่ยขายหน้า ในเมื่อคุณปุยฝ้ายรู้ว่าเสี่ยมีสามีน้อยแล้วยังนิ่งอยู่ได้ เขาที่เป็นผัวน้อยก็ได้แต่ทำหน้านิ่ง เดินออกไปซื้อข้าวของตัวเองมากินบ้าง
เขาไม่รู้หรอกนะว่าเสี่ยกับคุณปุยฝ้ายกำลังเล่นอะไรอยู่กันแน่ แต่ต่อไปกรุณาอย่าดึงเอาเขาเข้าไปเอี่ยวด้วย
ในความรู้สึกเขาตอนนี้ เสี่ยกับคุณปุยฝ้ายไม่เหมือนคนที่กำลังจะแต่งงานกันเลยซักนิด ทั้งสองคนเป็นเหมือนคนแปลกหน้าที่พร้อมจะแทงข้างหลังกันมากกว่า ถึงมองจากภายนอกดูเหมือนว่าทั้งสองคนเป็นคนรัก แต่ตาเสี่ยกับคุณปุยฝ้ายมันไม่บอกแบบนั้น คุณปุยฝ้ายเอง ถึงปากจะยิ้ม ชวนเสี่ยคุยนั่นนี่ แต่เขาสัมผัสไม่ได้ถึงความผูกพันระหว่างคนสองคนเลยซักนิด ถึงเขาจะไม่เคยมีความรัก แต่เขาบอกได้เลยว่าตอนนี้เสี่ยกับคุณปุยฝ้ายต่างเสแสร้งด้วยกันทั้งคู่
ตัวเขาเองถึงจะไม่ได้เกิดมาในครอบครัวที่อบอุ่น แต่เขาก็ยังมีความรักจากแม่ ได้อยู่กับยายลุงเองก็ไม่เคยทอดทิ้ง และถึงแม่จะไม่เคยบอกว่ารักหรือไม่รักพ่อ แต่ช่วงเวลาที่แม่อยู่กับพ่อ แม่ก็น่าจะยังมีความรู้สึกดีๆ เพราะแม่มีความสุขทุกครั้งที่พูดถึงชีวิตคู่
แต่ในกรณีของเสี่ยกับคุณปุยฝ้ายนี้... การแต่งงานที่ต่างฝ่ายต่างไม่รัก เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะก่อให้เกิดความสุขที่ไหนได้บ้าง ขนาดเสี่ยเองยังหนีปัญหาด้วยแอบมากกสามีน้อย หงุดหงิดทุกครั้งเมื่อต้องอยู่กับคุณฝ้าย
ส่วนตัวคุณปุยฝ้าย... เขาไม่รู้ แรกๆ เขายังมีความรู้สึกว่าคุณปุยฝ้ายยังรักเสี่ยอยู่บ้าง แต่ตอนนี้เขาเริ่มไม่มั่นใจแล้ว เพราะถ้าคุณปุยฝ้ายรักเสี่ยจริง คุณปุยฝ้ายก็ไม่น่าจะนิ่งได้ขนาดนี้ และต่อให้เป็นคนใจกว้างขนาดมหาสมุทรยังชิดซ้าย แต่เห็นสามีอยู่กับผัวน้อย ต่อให้ใจกว้างแค่ไหนก็น่าจะแสดงออกมาบ้าง
เขาถอนหายใจ นั่งเขี่ยข้าวในจาน พยายามปลุกปลอบใจ คิดในแง่ดีว่า อย่างน้อยๆ เหตุการณ์คลับฟรายเดย์ก็คงไม่เกิดขึ้นแน่ๆ แล้ว แต่ต้องมาอยู่กันอย่างสามคนสองผัวหนึ่งเมียหรือเปล่าเขาไม่รู้ ถ้ารู้... เขาคนหนึ่งล่ะไม่ยอมแน่ๆ ถึงเสี่ยจะยอมยกคุณปุยฝ้ายให้ แต่เขาก็ไม่เอาหรอกนะ เห็นแบบนี้เขาก็เลือกนะเออ เขาจะไม่ยอมใช้เมียร่วมกับชาวบ้านหรอกนะ
มันใช่ซะที่ไหนกันเล่า! เขาเคยบอกไปแล้วไงว่าถ้าเสี่ยแต่งงาน ยังไงเขาไปจากเสี่ยแน่ เขาไม่ยอมอยู่เป็นผัวน้อยหรอกน่า ไม่ปล่อยให้คนอื่นด่าลับหลังด้วย
เอาเป็นว่าตอนนี้เขาอยู่ไปแบบเงียบๆ ไปก่อนดีกว่า คิดมากหน้าแตกหมอไม่รับเย็บบ่อยๆ เข้า เขาก็อายเหมือนกันนะ ถึงคนอื่นจะไม่รู้มีเขารู้อยู่แค่คนเดียวก็เถอะ แล้วอีกอย่างเสี่ยก็บอกไว้แล้วว่าเสี่ยจัดการได้ เพราะงั้นถึงเขาคิดเยอะไปก็ไม่มีประโยชน์อยู่ดี สู้เอาเวลามากินข้าวดีกว่า เขี่ยไปเขี่ยจนไอ้ขิมจะเอาส้อมจิ้มมือเขาอยู่แล้วฐานกินทิ้งกินขว้าง
หลังพักเที่ยง เขาโยนเรื่องหนักหัวออกจากสมอง นั่งทำงานตามปกติ มีแต่ไอ้รุตนั่นแหละที่เซ้าซี้คอยเป็นห่วงเขา ประมาณว่าเขาช่างน่าสงสาร ตกเป็นทาสในเรือนเบี้ย เที่ยวแหย่จนถูกเขาแยกเขี้ยวใส่ไปหนึ่งยก กูไม่คิดมาก แต่จะมาคิดมากก็เพราะมึงนั่นแหละมาตอกย้ำ!
แต่หลังจากที่มันหายไปได้สิบนาที ไอ้รุตกลับมาอีกทีพร้อมเอากาแฟร้อนเจ้าดังใต้ออฟฟิส มันมาเซ่นไหว้เขาหนึ่งแก้ว กับให้หัวหน้าแผนก เขาที่ชอบกินกาแฟดำแบบช็อตอยู่แล้วมีเหรอจะพลาด ซัดโฮกเข้าปากไปทีเดียวจนหมดแก้วเตรียมรับความหอมกลมกล่อมนุ่มลิ้น
แต่ที่ไหนได้พอกลืนลงท้อง เขาถึงได้รู้ว่ากาแฟที่ไอ้รุตซื้อมาดันเป็นกาแฟโรบัสต้าไม่ใช่อะราบิก้า เขาล่ะโคตรเกลียดชนิดนี้ เกลียดรสขมติดเปรี้ยวของกาแฟโรบัสต้าจนต้องหาน้ำเปล่ามาล้างปาก เสี่ยเองก็ดื่มแต่กาแฟอะราบิก้า เพราะงั้นทุกเช้าเขาเลยได้รับอานิสงส์ ได้ดื่มกาแฟผู้ดีมาทุกจนยิ่งเกลียดกาแฟชนิดนี้
แล้วพอต้องมาเจอโรบัสต้าอัดหนักเข้ามาทีเดียวตั้วงแต่ตอนบ่าย ไมเกรนที่ไม่ค่อยจะเป็นกับชาวบ้านก็มาถามหาพร้อมกันแบบเป็นจังหวะสามซ่า ทำเอาเขาปวดหัวตาค้าง ท้องอืด ลำบากไอ้ขิมต้องไปเบิกพารามา เพราะเขาเริ่มปวดหัวจี๊ดแถมยังอยากจะอ้วก
สุดท้ายเขาที่ทนสภาพตัวเองไม่ไหว ถึงกับต้องลากลับก่อนแล้วมานอนตายอยู่ที่คอนโด หลับยาวตั้งแต่บ่ายสามโมง ตื่นขึ้นมาอีกทีตอนหกโมงเขาก็รู้สึกดีขึ้น ถ่ายหนักเอาโรบัสต้าเจ้าปัญหาออกไปหนึ่งครั้งเขาก็สบาย_ูดลั้ลลา กำลังลังเลอยู่ว่าจะล้างนอกล้างในดีไหม เสี่ยส่งไลน์มาบอกว่าวันนี้ไม่ว่าง เขาที่ฟรีแล้ว ประจวบเหมาะกับที่เพื่อนโทรมาชวนกินหมูกะทะพอดี เขาเลยสะบัดก้นออกจากห้อง นั่งลั้นลาอยู่บนรถไฟฟ้าเตรียมไปดูศึกแดงเดือดกับเพื่อนที่ร้านหมูกะทะ
เขาซึ่งเป็นแฟนสิงโตสีน้ำเงินครามเชลซี ดูไปก็สาปแช่งให้ทั้งสองทีมเจอใบแดงบ้าง บาดเจ็บบ้าง ให้ดีก็เสมอกันไป เก็บไปคนละหนึ่งแต้ม ให้ดีกว่านั้นก็ให้ผู้เล่นเจ็บยาวไปเลยจะได้ลงแข่งต่อไม่ได้ เชลซีของเขาจะได้ผงาดมาครองแชมป์แทนที่อาเซนอลที่กำลังนำเป็นจ่าฝูงอยู่ตอนนี้
เขาผู้มีน้ำใจนักกีฬาเลยถูกเพื่อนจากทั้งสองฝั่งรุมตบหัวสั่งสอนกันไปคนละหนึ่งยก ก่อนนั่งซดเบียร์ ฟาดหมูกะทะจนอิ่มแปล้พุงเกือบปลิ้น ก่อนกลับยังมีหน้าขอเบอร์โทรศัพท์จากสาวเชียร์เบียร์ที่ส่งสายตามาให้เขาเป็นระยะๆ ร่ำๆ อยากจะไปจูบ อยากจะหอมสาวเจ้าทรงโตซักหนึ่งฟอดแล้วไปต่อที่โรงแรมแถวนี้ แต่ถึงจะเมา เขายังมีสติจำได้ว่าตัวเองมีสามีแล้ว เพราะงั้นน้องรอพี่ฟรีก่อน แล้วพี่จะติดต่อไปใหม่นะจ๊ะ สามีพี่ขี้โหดมาก ลองนอกใจอาจถึงขั้นบ้านแตกได้ และถึงพี่จะเป็นสามีน้อยแต่พี่ก็มีจรรยาบรรณนะเออ ไม่ควงสองให้เสียชื่อเด็กเลี้ยงเกรด A เล่น ผิดกับใครบางคนที่.....
พอๆๆ อย่าคิดมาก พลาดท่ามากับคลับฟรายเดย์มาแล้วเราต้องอยู่นิ่ง ขืนเล่นบทผัวน้อยช้ำรักถูกเมียหลวงแกล้ง คราวนี้นอกจากเสี่ยจะไม่โอ๋ไม่เข้าข้างแล้ว เสี่ยอาจจะมีแตะโด่งไล่ไปอีกด้วย เขารู้หรอกน่าว่าตัวเองอยู่ในสถานะอะไร ถึงมีปากมีเสียงแต่สิ่งที่ไม่ควรพูดก็อย่าพูด เก็บเอาไว้แค่อยู่ในใจก็พอแล้วอย่าบอกให้คนอื่นรู้
เอ่อ แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าเขาน้อยใจหรือชอบเสี่ยหรอกนะ เขาแค่รู้สึกผูกพันกับเสี่ยแบบลึกซึ้ง (เหมือนเสี่ยเป็นพ่อ) วันนี้เขาอาจจะนอยด์ไปบ้างเพราะเสี่ยไม่ข้าง แต่สิ่งที่เสี่ยทำมันก็ถูกต้องแล้ว จะให้เสี่ยออกหน้าแทนเขาที่ถูกจิกหัวใช้ให้ไปซื้อแค่น้ำก็ใช่ที่ เพราะงั้นเขาต้องไม่คิดมาก เฮ้อ สงสัยเขาจะถูกเสี่ยตามใจจนเสียคน พอเสี่ยเมินเฉย เขาเลยรู้สึกเสี่ยใจนิดๆ อารมณ์คงประมาณเด็กอนุบาลถูกเพื่อนแกล้งแต่พ่อไม่เข้าข้าง ไปเข้าข้างลูกคนอื่นอะไร ประมาณนั้น
เพราะงั้นเขาที่กลับห้องมาอีกทีเจอแต่ห้องมืดๆ ก็ได้แต่หนีไปอาบน้ำล้างกลิ่นหมูกะทะ แต่พอล้มตัวนอน จะนอนก็ดันหลับไม่สนิท ไม่รู้ว่าท้องอืดเพราะอาหารไม่ย่อย หรือท้องอืดจากเบียร์ก็ไม่รู้ ได้แต่นอนกระสับกระส่ายอยู่บนเตียง สลับกับนอนฝันเลอะเทอะ ฝันว่าเสี่ยกลับมาบ้างอะไรบ้าง แต่พอลืมตามา เห็นว่าเป็นแค่ฝันเขายิ่งหงุดหงิด
สุดท้ายก็ได้แต่ใช้พระธรรมนำใจ ท่องพุทโธ ธัมโม สังโฆ ไปจนถึงบทอาราธนาศีลเขาถึงหลับตาได้ ถึงท่องไปจะกลัวตกนรกไป เพราะผิดศีลข้อกาเมแต่เขาก็หลับตาลงได้ ในความฝันตอนที่เขาหลับสนิท เขาฝันถึงแม่ ฝันว่าแม่เอาอกเอาใจตามใจเขา เขาทำผิดก็ไม่เคยว่าแค่บอกว่าเขาเป็นลูกรัก แม่รักเขามาก
เขาที่ตื่นมาหลังจากฝันเห็นเห็นแม่ก็อารมณ์ดี๊ดี ออกไปตักบาตรกรวดน้ำตั้งแต่หัวรุ่ง ก่อนกลับขึ้นคอนโด เขาก็ซื้อดอกไม้มาถวายพระเครื่องที่ขอมาให้เสี่ยตั้งแต่ตอนกลับบ้านด้วย
จะว่าไปตั้งแต่กลับมา เสี่ยก็อยู่กับเขาน้อยมาก หรือว่าพระท่านเป็นของดี ไล่ผีจอมสะกิดได้ออกไปได้ แต่ท่านคงไม่แสดงอภินิหารถึงขั้นออกฤทธิ์นอกห้องหรอกมั้ง เพราะสุดท้ายเขาก็ถูกเสี่ยกินตับที่บริษัทอยู่ดี
อืมมม ดูท่าเขาจะเมาค้างไปหน่อยจนคิดเลอะเทอะ เอาพระเครื่องบูชามาปนกับเรื่องกาเม คราวนี้ล่ะเขาได้ตกนรกของจริงแน่ ดังนั้นเขาที่เริ่มสำนึกผิดเลยนั่งสมาธิสงบจิตสงบใจอยู่กับห้อง พอถึงเวลาอาหารก็ฟาดเรียบแล้วนอนต่ออีกรอบ เรียกได้ว่าเกือบกลายเป็นหมูของจริงเพราะช่วงนี้เขาออกกำลังกายน้อยมาก ยังดีที่เขายังหนุ่ม ถึงจะมีพุงแต่ก็ยังเห็นไม่ชัด
ดังนั้นเขาที่อยู่ว่างๆ ตอนเย็นเลยได้ฤกษ์ไปออกกำลังกายลดพุงที่สวนสาธารณะ วิ่งสลับเดิน สูดอากาศบริสุทธิ์อยู่ในสวน มีเหล่ดูสาวไปบ้าง ดูเด็กๆ วิ่งเล่นไปบ้าง ตอนที่เห็นหมาพันธุ์ใหญ่ตัวยักษ์หน้าตาโคตรดุเขาก็ถึงกับหูตั้ง รีบวิ่งเข้าไปหาอย่างกับเจอพวกของตัวเอง เข้าไปหอมเข้าไปฟัดจนเจ้าที่ถือสายจูงอยู่มองหน้า ยังดีที่หมาหน้าดุส่วนใหญ่จะเลี้ยงง่ายและค่อนช้างเชื่อง ถ้าเอาออกมาเดินเล่นได้แบบนี้แสดงว่าไม่ดุมาก
เขาที่เล่นไปก็ชวนเจ้าของหมาคุยไปด้วย คนที่จูงหมาเด็กผู้ชายหน้าตาน่ารัก แต่จะเรียกว่าเด็กก็คงไม่ถูก เพราะดูอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเขา ติดก็แต่ตัวเตี้ยกว่าแถมหน้าเด็กกว่าเขาเยอะ ส่วนไอ้คนที่ยืนอยู่ข้างๆกัน... พี่แกทำท่าเหมือนจะกัดหัวเขาให้ขาดให้ได้ เขาเคยเห็นผู้ชายคนนี้ตามนิตยสารที่มีข่าวสังคม พี่แกชื่อเพ้นท์ เรียกว่าเป็นคนรวยน่าดู น่าจะรวยพอๆ กับเสี่ยเลยมั้ง เด็กที่ยืนอยู่นี่ดูท่าจะเป็นกิ๊ก... เป็นแฟนน่าจะถูกต้องกว่าเพราะคนยืนคุมนี่ทำท่าดุมาก คงกะว่าถ้าเขาเผลอลวนลามน้องเขาเมื่อไหร่ ไอ้หมาตัวใหญ่ที่ถูกฝึกมานี่ได้กระโดดมางับหัวเขาแน่ๆ
คือหมาเชื่องน่ะใช่ แต่หมาฉลาดก็อีกเรื่อง ถึงตอนนี้จะดูว่าง่าย แต่ถ้าเจ้าของสั่งก็สามารถกัดแขนเขาขาดได้ สุดท้ายเขาก็ได้แต่บอกลาหมาเศร้าๆ เพราะคนที่คุมอยู่ดูท่าจะไม่ไว้ใจเขาเอามากๆ ทำไมวะ หล่อไม่เท่าแล้วเป็นไง ตัวใหญ่ตัวดำแล้วถือว่าเป็นโจรเหรอ ไอ้คนตัดสินคนที่ภายนอก!
ยังดีที่เด็กตัวเล็กดูมีอัธยาศัยดีกว่ามาก คุยกันอีกสองสามคถึงได้ำรู้ว่าเป็นรุ่นพี่ ชื่อพี่พี อายุยี่สิบหกแล้วแต่ดูเด็กเท่าเขาที่เพิ่งจบ แถมจบมหาลัยเดียวกันอีกด้วย เรียกได้ว่าโลกกล๊มกลมเนอะ แต่จะให้เข้าไปกอดคอสวัสดี ทำตัวเป็นรุ่นน้องสถาบันก็ไม่ได้เพราะเจ้าของ(แฟน)หวงมาก เขาเลยแต่สวัสดีงามๆ ให้พี่พีกับคุณชายในนิตยสารหนึ่งรอบ ไหว้เสร็จก็ตัดสินใจหนีไปออกกำลังกายที่ฟิตเนสดีกว่า ดูท่าจะปลอดภัยกว่าเยอะ เพราะพี่คุณชายมีบอดี้การ์ดส่วนตัววนเวียนอยู่ใกล้ๆ ขนาดเสี่ยที่(เขาว่า)รวยล้นฟ้ายังไม่มีบอร์ดี้การ์ดมาตามคุมแบบนี้เลย เพราะงั้นรีบเผ่นแล้วกลับไปสร้างกล้ามอยู่ในห้อง ยกเวทซิทอัพ ทำคาดิโอ* ฆ่าเวลาไปตามเรื่อง
แต่สงสัยเพราะไม่ได้ออกกำลังกายมานาน พอออกเสร็จเขาก็ปวดกล้ามเนื้อ ข้าวก็กินไม่ลงเพราะอะดรีนาลีนหลั่งออกมาเยอะ
นั่งเขี่ยๆ ข้าวที่เป็นอาหารโปรดที่เพิ่งกินไปได้แค่สามสี่คำก็ต้องวางช้อน ลำบากแม่บ้านต้องเก็บใส่กล่องพลาสติกแช่ตู้เย็นให้ ยังดีที่แม่บ้านใจดี ทำข้าวต้มย่อยง่ายเพื่อไว้ให้อีกหนึ่งหม้อ รอจนเขาหิวข้าวนั่นแหละ เขาถึงได้อาศัยข้าวต้มกินรองท้อง
ตกดึกเริ่มหิวจัด เขาก็เตรียมเอากับข้าวเก่ามาเวฟ ข้าวเปล่านี่มีอยู่แล้วเต็มหม้อเขาเลยไม่ต้องออกไปซื้อ เขารอเวลาอาหารเวฟได้ที่ด้วยความใจจดใจจ่อ จ้องอยู่หน้าเครื่องไมโครเวฟแบบวิต่อวิ กะว่าไมโครเวฟร้องติ๊งปุ๊บ เขาจะเอาออกมาแล้วจ้วงแดกทันที แต่เหมือนมีเดจาวู หรือเวรกรรมกลั่นแกล้งก็ไม่รู้
ในระหว่างที่ไมโครเวฟส่งเสียงดังติ๊ง เขาที่เตรียมแดก เอ๊ย เตรียมหม่ำเต็มที่ก็ต้องวิ่งไปรับโทรศัพท์แทน เขาจำเสียงเรียกเข้าได้ว่าเป็นทำนองของไอ้รุต ปกติถึงเขากับไอ้รุตจะสนิทกัน แต่นอกจากเรื่องงาน มันก็ไม่เคยติดต่อมาในเวลานอก เพราะงั้นตอนที่มันโทรมาในเวลาดึกดื่นเที่ยงคืน เขาก็รู้ว่ามันต้องมีเรื่องด่วนแน่
แล้วพอกดรับสายก็ปรากฎว่าเป็นเรื่องด่วนจริง คุณปุยฝ้ายท้องแล้ว และเสี่ยกับคุณปุยฝ้ายกำลังจะจดทะเบียนสมรส ตอนนี้ผู้ใหญ่ของทั้งสองฝั่งก็รับรู้แล้ว เสี่ยกับคุณปุยฝ้ายเลยต้องรีบเดินเรื่องแต่งงาน ทำเรื่องทุกอย่างให้มันถูกต้อง
ตอนที่เเขาฟังข่าวจากไอ้รุต เขาคิดอย่างเดียวเลยว่า ทำไมเสี่ยไม่เป็นคนบอกเรื่องนี้กับเขา หรือท้ายที่สุดแล้วเขาก็เป็นได้แค่คนนอกที่เสี่ยไม่ต้องบอกก็ได้ เรื่องสำคัญแบบนี้... เวลาที่ผ่านมาสาม.. จะสี่เดือน ความจริงแล้วคือสิ่งไร้ค่า? เป็นเขาที่คิดไปเองว่าเสี่ยรักและเอ็นดู เมื่อถึงเวลาเสี่ยเลยเลือกตัวจริง ไม่ใช่เขา
เขายืนฟังเสียงไอ้รุตส่งโวยวายแต่สมองกลับจับใจความอะไรไม่ได้ สติกับสมองปลิวหายไปจนว่างเปล่าไปหมดแล้ว
ตอนที่ไม่รู้ว่ารัก ก็คิดว่าถ้า “รัก” แล้วจะต้องรู้สึกตัวแน่ๆ แต่ในตอนที่ความจริงถ่าโถมเข้ามา ตอนที่กำลังจะเสียเสี่ยไป เขากลับไม่อาจจัดการกับความรู้สึกที่เรียกว่า “รัก”
ใครกันเคยบอกว่าความรักคือสิ่งสวยงาม สำหรับเขา... ความรักคือสิ่งดำมืด เมื่อยืนมือออกไป เขากลับพบแต่ความว่างเปล่าที่ไม่มีใครคอยอยู่เคียงข้าง
ตอนที่ไม่รู้ตัวก็คือไม่รู้ แต่พอรู้... ทุกอย่างกลับสายเกินไปหมดแล้ว จะไม่มีเสี่ยที่คอยโอ๋ คอยเอ็นดูเขาอีกต่อไป ทุกอย่างที่ผ่านมา... จะเป็นเพียงแค่ความฝันช่วงตื่นหนึ่ง จะไม่มีเวลาที่เขากับเสี่ยอยู่ร่วมกันอีกแล้ว เวลาแห่งความสุขของเขากับเสี่ยจบลงแล้ว...
>>> ตอนนี้มาเร็วพร้อมโฆษณานิยายเก่าที่แต่งไม่จบ เอิ๊กๆ
>>>> อีกไม่กี่ตอนก็จบแล้ว สงสารพระแพงจัง ส่วนอิเสี่นี่เฉยๆ มาก อยากให้โดนเมียทิ้ง=_=