Glass #7
NC
อเวเค่นเบิกตากว้างก่อนจะเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มที่ชเนย์ไม่เคยเห็นมาก่อน
"ได้เลยคุณพ่อครัว"
"โอเคครับ งั้นลุกออกจากตัวผมก่อน" ร่างเล็กกว่าเอียงคอสงสัยแต่ก็ลุกออกไปแต่โดยดี คนสั่งก็ลุกตามมายืนประชิด "พอดีท่าเมื่อกี้อุ้มไม่ถนัด..."
จบประโยคชเนย์ก็โอบเอวอีกคนเข้ามาแนบติดกับตัวเองแล้วก้มลงจูบอีกฝ่ายอย่างเร่าร้อนผิดกับที่ผ่านๆ มาที่จะค่อยเป็นค่อยไป
แม้จะเตรียมใจมาดีแล้ว แต่พอถูกจู่โจมเข้าจริงๆ นักฆ่าหนุ่มก็แทบตั้งตัวไม่ติด รสเหล้าที่ยังติดอยู่ปลายลิ้นของทั้งคู่แลกรสกันจนรู้สึกเมามายยิ่งกว่าแอลกอฮอล์ทั้งหมดที่ดื่มเข้าไป
ชเนย์ถอนริมฝีปากออกเพียงครู่เดียวก็ประกบปากลงไปใหม่ มือหนาช้อนคอให้ใบหน้าของอีกคนอยู่ในมุมที่เขาจูบได้ถนัดมากขึ้น อเวเค่นเริ่มจะยืนไม่อยู่แข้งขาอ่อนแรง คนตัวสูงกว่าดันร่างอีกคนติดผนังห้องและมือเริ่มรุกไล่ไปที่เข็มขัดของร่างเล็กกว่าด้วยความรวดเร็วและความชำนาญงาน
สูททั้งสองชั้นของอเวเค่นถูกปลดออกจนหมด ชเนย์หยุดแลกจูบกับอีกฝ่ายแล้วลากลิ้นลงมาตั้งแต่ต้นคอจนกระทั่งถึงขอบกางเกง ไม่คิดจะแวะพักทักทายจุดอื่นๆ ให้เสียเวลา
"เอ๊ะ? ... ไม่คิดว่านี่เร็วไปนิดเหรอ? " อเวเค่นหอบหายใจไม่ทันกับอารมณ์ราวพายุของคนที่ตนปั่นหัวเล่น
"ก็นิดนึง พอดีโดนรบเร้าเลยเตลิดน่ะ" ยักคิ้วกวนๆ ปนขบขันให้ระหว่างที่มือก็แกะเอาทั้งเข็มขัดและอะไรๆ ก็ตามที่ขวางทางออกอย่างว่องไว แต่ยังไม่ยอมเปิดเอาส่วนสงวนของอีกฝ่ายออกมาทันที
ชเนย์อ้าปากใช้ฟันงับตามลำแท่งอีกคนเบาๆ ไซร้จมูกและปากซุกซนไปทั่วจนส่วนสำคัญนั้นเริ่มแข็งตัวขึ้นมาเต็มที่
“อึ่ก...” อเวเค่นยกมือข้างขวาปิดปากไม่ให้เสียงเล็ดลอดออกมา กางเกงชั้นในเริ่มตึงคับแน่นเพราะส่วนล่างที่ถูกปลุกเร้าจนแข็งขืนตื่นตัวจากปากที่กำลังปรนเปรอช่วงล่างให้
“อยากให้ทำอะไรบอกได้นะครับ...” แอบช้อนตาขึ้นเงยมองหน้าคนที่กำลังทรมาน เมื่อกี้เขาโดนทำไว้เยอะจึงอยากแกล้งลงโทษให้อีกฝ่ายรู้สึกพ่ายแพ้บ้าง
“เอามันออก...” เสียงสั่นตอบลอดมือที่ยังปิดปากตัวเอง เจ็บใจนิดหน่อยแต่แค่ประคองตัวให้ไม่ให้ล้มก็แทบจะไม่ไหวแล้ว
ชเนย์ใช้ปากงับดึงกางเกงลง ส่วนกลางตื่นตัวปรากฏให้เห็น คนกลั่นแกล้งอมน้ำลายไว้ในปากแล้วรูดริมฝีปากผ่านตั้งแต่ส่วนหัวลงไปจนถึงปลายลำแท่งอย่างรวดเร็วจนอเวเค่นไม่มีโอกาสได้อายด้วยซ้ำ
"ฮ้ะ!? ..." เผลอหลุดครางออกมาทีหนึ่งอย่างไม่ทันตั้งตัว แถมคนข้างล่างไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายได้เก็บเสียง เรียวลิ้นรุกกดลงบนส่วนปลายที่อ่อนไหวสลับกับการดูดเบาๆ เหมือนรีดเร้นเอาน้ำจากลำแท่งอุ่น เพียงเท่านี้ก็ทำเอาคนถูกปรนเปรอแทบดิ้น
"เพิ่งเริ่มเองนะครับ" ชเนย์ได้โอกาสก็แอบแซะ ก็แหงล่ะ...เท่าที่ผ่านมายังไม่มีใครทนฝีปากเขาได้นานสักราย
มือข้างซ้ายที่ยังว่างจับเส้นผมคนที่ยังยุ่งอยู่กับการใช้ลิ้นปรนเปรอให้เขาจิกลงไปเป็นการเอาคืน ชเนย์สะดุ้งที่โดนดึงรั้งผมเล็กน้อย แล้วก็ตอบโต้ด้วยลิ้นที่ตนภูมิใจดูดเอาส่วนที่แข็งขืนใกล้จะถึงจุดหมายนั้นเร็วและรุนแรงยิ่งขึ้นจนอีกฝ่ายเผลอโยกสะโพกรับกับปากของเขา
"อึ้ก! " แค่เวลาไม่กี่นาทีร่างเล็กกว่าก็ปลดปล่อยของเหลวร้อนสีขุ่นออกมา บางส่วนก็ล้นออกมาเลอะมุมปากของชเนย์
"...ข้นจังนะครับ อยู่ที่นี่ไม่ค่อยได้ปลดปล่อยเหรอ? "
"ใครจะหื่นเหมือนคุณล่ะ...แล้วที่นี่ก็ไม่มีสาวๆ แบบนั้นด้วย" พอได้ปล่อยออกมาสักครั้งรู้สึกว่าสติจะเริ่มกลับเข้าที่ แต่แขนขาอ่อนแรงจนต้องเกาะไหล่อีกคนเพื่อพยุงตัวไว้
"อะไรเนี่ย นึกว่าคุณจะเชี่ยวชาญซะอีก" ชเนย์ยิ้มขบขัน และลุกขึ้นพร้อมอุ้มกึ่งลากตัวอเวเค่นมาไว้บนเตียงแล้วเริ่มเล้าโลมใหม่อีกครั้ง
"ม...ไม่รู้... กับผู้ชายด้วยกันยังไม่เคยนี่หว่า"
ถึงจะใช้ปากเหมือนกัน แต่ที่ผ่านมาก็ไม่มีสาวฝีมือดีคนไหนทำเขาเสร็จได้ไวขนาดนี้ ....หรือเพราะเป็นเพศเดียวกันเลยรู้จุดที่รู้สึกดีเหรอ! ?
"อือ..." เพิ่งจะปล่อยไปทำให้ร่างกายของอเวเค่นยังไวต่อความรู้สึกเกินกว่าจะรับห้วงอารมณ์ใหม่ แน่นอนว่าชเนย์รู้ดีจึงค่อยๆ ปลุกเร้าอย่างค่อยเป็นไปผิดกับครั้งแรก ขบฟันลงไปตามแนวไหปลาร้าและถอดยางรัดผมของอเวเค่นออก
"จะว่าไป...เพิ่งเคยเห็นคุณอยู่ในสภาพนี้นะ..."
รอยยิ้มเหมือนจะสื่อได้ว่าค่อนข้างตื่นเต้นกับลุคใหม่ของนักฆ่าปากหนักพอสมควร เพราะปกติแล้วอเวเค่นมักจะแต่งตัวเนี้ยบแถมมิดชิดเสียจนมองแล้วอดสงสัยไม่ได้ว่าไม่อึดอัดบ้างหรือที่ต้องใส่สูทแทบจะตลอดเวลา ถึงแม้เมื่อวานจะเห็นหมดแล้วตอนที่อุ้มขึ้นจากสระที่ห้องอาบน้ำใหญ่ก็ตาม แต่ตอนนั้นก็ไม่ได้มานั่งพิจารณารูปร่างสมส่วนเหมือนอย่างในเวลานี้
“จะจ้องอีกนานมั้ย?” คว้าหมอนมาตีใส่หน้าคนมองที่แทะโลมด้วยสายตาลามก ปกติชอบทำสายตาเหมือนคนว่างเปล่า แต่ทีเวลาอย่างนี้กลับเป็นประกายยังกับสัตว์กินเนื้อเจอเหยื่อชั้นดี
“ดูนิดดูหน่อยก็ไม่เห็นเป็นไรนี่ครับ ยังไงก็จะโดนผมกินอยู่แล้ว”
“ไม่ใช่อาหารนะเฮ้ย!”
“เสียใจด้วย ตอนนี้คุณเป็นจานหลักเรียบร้อยแล้วครับ” พ่อครัวหนุ่มแย่งเอาหมอนออกไปและก้มหน้าลงไปใช้ลิ้นที่ชำนาญเล้าโลมต่อ ส่วนมือที่ว่างก็คอยปลดเสื้อผ้าอีกคนออก
“อย่าถอดหมด...” อเวเค่นเอ่ยเสียงสั่น
“หืม?” ชเนย์หยุดกระทำแล้วเงยหน้าคล้ายจะถามว่าทำไม
“เดี๋ยวเห็นแผลตามตัวผมแล้วคุณจะหมดอารมณ์ทำเปล่าๆ” ดวงตาสีทองสื่อถึงความกังวลที่ปิดไว้ไม่มิด
“ตอนที่ไปติดฝนข้างนอกด้วยกันผมก็เห็นไปตั้งเยอะแล้ว อย่ากลัวไปเลยครับ” เอ่ยปลอบและจูบที่ขมับ มือก็ปลดเสื้อผ้าอาภรณ์เนื้อดีออกจนเหลือแค่เสื้อเชิ้ตสีขาวเป็นปราการสุดท้าย
สายตาก้มมองดูและมือไล้ไปทั่วร่างกายที่ถูกฝึกมาอย่างดี นอกจากใบหน้าแล้วก็แทบไม่มีส่วนไหนที่ว่างเว้นจากแผลเลย
“น่าเกลียดใช่รึเปล่า...?”
“ไม่หรอกครับ...” ตรงกันข้าม พอเขามองบาดแผลพวกนี้แล้วกลับรู้สึกอยากจะอ่อนโยนกับอีกฝ่ายให้มากที่สุด
“ไม่ต้องถนอมกันหรอกน่า ทำตามใจชอบเถอะพ่อสุภาพบุรุษ” ทั้งเหน็บแนมและพูดเหมือนรู้ทันความคิดอีกฝ่าย อเวเค่นดันตัวขึ้นไปกระซิบข้างหู “ถึงคุณจะทำรุนแรงผมก็ไม่ว่าหรอก”
“พอดีว่าผมไม่ใช่พวกซาดิสม์หรอกนะครับ” ดันร่างเล็กกว่าให้นอนลงไปและยันตัวขึ้นคร่อม “แถม...นี่ก็เป็นครั้งแรกของคุณอีกด้วย”
อเวเค่นอายจนหน้าแดงก่ำ พอจะยกมือขึ้นปิดหน้าก็โดนมือจับเอาไว้ไม่ให้ทำได้
“อย่าหลบสิครับ หน้าตาเวลาแบบนี้ของคุณมันหาดูยากนะ” ชเนย์จูบลงตามแผ่นอกอย่างบางเบา เผยอวาดริมฝีปากเป็นวงกลมไปทั่ว ตรงที่มีรอยแผลขนาดใหญ่ยิ่งหมั่นเขี้ยวดูดกัดลงจนเป็นรอยแดง สองมือไม่เว้นว่างลูบสำรวจไปทั่วตัวอีกคนและเนียนถอดเสื้อเชิ้ตและกางเกงแสนเกะกะขวางทางนั้นออก
เสียงเครือในลำคอค่อยๆ ถี่ขึ้นตามการปลุกเร้า ใช้เวลาสักพักกว่าร่างเล็กที่นอนแผ่อยู่จะกลับมาเครื่องติด แต่คนเล้าโลมก็ไม่ได้เร่งรีบอะไร
"ความอดทนสูงจังนะ..." อเวเค่นลูบไล้เข้าไปใต้เสื้อยืดสีดำของอีกฝ่ายอย่างกล้าๆ กลัวๆ ยังรู้สึกเขินแบบแปลกๆ อยู่ เพราะไม่นึกฝันว่าเขาจะได้ทำแบบนี้กับผู้ชาย
"เรื่องอดทนรอนี่ของถนัดล่ะ" ชเนย์ก้มลงจูบหนักลงบนต้นคอที่เริ่มชื้นเหงื่อจากอุณหภูมิของร่างกาย "ทนเจ็บหน่อยนะครับ"
"เอ๊ะ? " มัวแต่เคลิ้มกับการพรมจูบระรานไปทั่วตัวจนลืมนึกถึงมือที่ลูบต่ำลงไปจนถึงต้นขาที่กำลังวนเวียนอยู่แถวๆ ส่วนน่าอายสำหรับท่านชายทั้งหลายที่ยังคงระลึกว่าตนเป็นชายแท้ๆ "ด...เดี๋ยวสิ! "
"ไม่เกร็งนะ เด็กดี" นิ้วอุ่นกดแทรกเข้าไปทางช่องด้านหลังทีละนิดพลางกอดคนข้างล่างไว้เหมือนจะปลอบไปในตัว
"อึ้ก!! " อเวเค่นขบเม้มริมฝีปากข่มความกลัวต่อสิ่งแปลกปลอมที่บุกรุกเข้ามาตรงช่องทางคับแคบ นิ้วยาวกวาดเข้าไปสำรวจและค่อยๆ เพิ่มจำนวนนิ้วให้ร่างที่กำลังบิดเร้าให้คุ้นชินทีละนิด
"ไม่ต้องกลัว ผมไม่ทำร้ายคุณหรอก" เสียงทุ้มพยายามปลอบคนที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์ถูกรุกรานจากด้านหลังมาก่อนให้สงบจิตใจลง
"อือ..." ดวงตาสีทองมองตาคนที่อยู่ด้านบนไม่ให้ใจเผลอไปคิดเรื่องไม่เป็นเรื่อง มือกำแน่นจิกผ้าปูที่นอนอย่างหาที่ระบายความรู้สึกแปลกๆ ที่เริ่มเข้ามาแทนที่ความเจ็บในครั้งแรก
ชเนย์สังเกตเสียง ท่าทาง ใบหน้าของอีกคนให้กลับมามีอารมณ์ร่วม เมื่อไร้แรงเกร็งต้านเรียวนิ้วจึงขยับหาจุดกระสันในช่องทางลับที่ชายหลายคนหาได้เคยลองไม่
"อ่ะ...อ๊ะ..." เพียงครู่เดียวก็เจอโดยง่ายดาย ลูบไล้สะกิดหยอกเล่นเพียงนิดก็ทำคนเพิ่งได้ลองเผลอเปล่งเสียงน่าอายออกมาไม่หยุด และเพราะไม่รู้จะบรรเทาความอายนี้ยังไงอเวเค่นเลยทำได้แค่กอดคอคนข้างบนแล้วซุกหน้าหนีบนซอกคอนั้น ทว่ากลับช่วยให้เสียงเบาของตัวเองอยู่ใกล้หูชเนย์มากขึ้น...
"อย่ามาร้องข้างหูกันสิ มัน...เซ็กซี่นะครับ" พูดเท่านั้นไม่พอ คนโดนยั่วยวนขบเม้มใบหูแดงให้รู้ว่าเขาเองก็แทบทนรอไม่ไหว...
“งั้นก็ไม่ต้องฟังสิ” ถึงอารมณ์จะเตลิดแต่ก็ยังติดพูดจาปากดีอย่างที่เคยชิน และมันทำให้คนโดนยั่วอยากแกล้งเอาคืน นิ้วกดย้ำๆ โดนจุดกระสันภายในช่องคับแคบของร่างเล็กจนต้องดิ้นพล่าน “แกล้งกันนี่!”
อเวเค่นแกล้งงับหูอีกคนเป็นการเอาคืน แต่กลับได้ผลตรงข้ามเพราะชเนย์กลับรู้สึกเสียวซ่านมากกว่าจะรู้สึกเจ็บ และตอนนี้ส่วนล่างของเขามันก็ตื่นตัวจนแทบจะระเบิด คนข้างบนถอนนิ้วก่อนถอดเสื้อตนออกและก้มลงมายันแขนคร่อมไว้ตามเดิม
"ผมเตือนก่อนว่าถึงคุณจะร้องไห้ คราวนี้ผมไม่หยุดแล้วนะ"
"มาถึงขนาดนี้แล้ว ตามสบายเลย" อเวเค่นโอบคอชเนย์ลงมาจูบร้อนแรง ท่อนขาเปลือยยกขึ้นแอบอิงกับขาอีกคนเป็นสัญญาณว่าเขาก็ต้องการมันพอๆ กัน
สองมือปลดกางเกงของตนให้ลำท่อนร้อนระอุได้ออกมาเตรียมตัว สัมผัสได้ชัดว่าอีกคนตัวสั่นขนาดไหน แต่ก็ทำได้แค่กอดไว้แนบอกเพราะแรงอารมณ์ปะทุจนไม่อาจจะหยุด
“ผมจะใส่แล้วนะครับ” บอกกล่าวเพื่อให้อีกคนเตรียมใจ ก่อนจับเอาท่อนล่างอุ่นร้อนมาจ่ออยู่ที่ปากทางเข้า อเวเค่นเผลอหลับตามุ่นคิ้วและกลั้นหายใจรอรับความเจ็บปวดที่กำลังจะแทรกเข้ามา ชเนย์จูบลงที่เปลือกตาไล่ลงมาที่ริมฝีปากก่อนมอบจุมพิตเร่าร้อนอีกครั้งให้อีกฝ่ายไม่มีเวลาคิดถึงตอนที่เขากระแทกความเป็นชายเข้าไปจนสุดในทีเดียว
“อื๊อออ!” เสียงร้องอื้ออึงในลำคอ แต่ลิ้นร้อนยังคงกระหวัดเกี่ยวพันในช่องปากและขยับสะโพกปรนเปรอร่างเล็กกว่าทั้งด้านบนและด้านล่างไปพร้อมๆ กัน
"อ๊าาา!! อึกก! " พอถอนริมฝีปากออก อเวเค่นก็ครางเสียงกระเส่าอย่างอัดอั้น ชเนย์มองภาพเบื้องล่างตนเพลิดเพลิน แต่คนถูกจ้องไม่มีที่ว่างในสมองให้คิดถึงความอับอายนี้ ทำได้เพียงเกาะยึดเอาแขนอีกคนไว้และจิกลงตามแรงอารมณ์ที่เพิ่มขึ้นทุกขณะ
"อา..." ร่างสูงเปล่งเสียงหอบต่ำเคล้าตามไปกับคนข้างล่าง เพราะอเวเค่นเกร็งตัวเสียแน่นยิ่งทำให้ช่องทางคับนั้นบีบรัดแก่นกลางเขาจนรู้สึกดีสุดๆ "อเวเค่น..."
เสียงเรียกดึงสติคนที่กำลังเคลิ้มกลับมา"อื๋อ? "
"เล่าต่อได้มั้ยว่าชอบผมเพราะอะไร" จู่ๆ ชเนย์ก็ผ่อนแรงกระแทกลงเหมือนจงใจไม่ให้ถึงที่หมายกันเสียก่อน
“วะ...เวลาแบบนี้เนี่ยนะ” สายตามองคาดโทษไปยังคนที่ทำให้ขาดช่วงทั้งที่เขาใกล้จะเสร็จอยู่แล้ว
“เล่าหน่อยน่า...นะ” ชเนย์ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์และยังหยุดขยับสะโพกกลางคัน สีหน้าของคนที่ถูกทำให้อารมณ์ค้างตอนนี้ช่างน่าดูเสียเหลือเกิน
“ทำให้เสร็จก่อนไม่ได้เหรอ...” ทั้งใบหน้าและคำเอ่ยแกมขอร้องนั้นทั้งดูยั่วและน่ารังแก ร่างสูงเผลอกลืนน้ำลายลงคอแต่ยังอยากแกล้งต่ออีกสักนิด
“ไม่ได้ครับ” ยิ้มให้และมองดูแววตาที่เหมือนอยากจะร้องไห้นั้นอย่างเอ็นดู
“.....หลงคิดว่าจะเป็นคนดี ที่แท้ก็มีนิสัยแย่ๆ ในเวลาแบบนี้งั้นเหรอ” คนอารมณ์ค้างอยู่ด้านล่างหรี่ตามองอย่างผิดหวังในตัวคนข้างบนนิดๆ
“เหมือนผมจะเคยบอกไปแล้วนะครับว่าจริงๆ แล้วผมเองก็ไม่ใช่คนดีอะไร” ชเนย์ยิ้มและยังคงรอดูท่าที
“อา...แต่ก็ดีแล้ว” ร่างสูงทำหน้าแปลกใจนิดหน่อยกับสิ่งที่อีกฝ่ายพูดออกมา
“ยังไงเหรอครับ?” ชเนย์ยังคงมึนงงกับคำพูดของคนร่วมเตียง
“ก็เพราะ....ตัวคุณที่เป็นแบบนี้แหละ ผมถึงได้ชอบ” ดวงตาสีทองจ้องมองมาและตอบอย่างซื่อตรงต่อใจตัวเอง พอโดนจ้องตรงๆ แบบนั้นแล้วกลับเป็นชเนย์ที่เผลอหลบหน้าเขินเสียเอง
ชเนย์หันหน้ากลับมา และสายตาที่จ้องมาก็เปลี่ยนไปจนอเวเค่นแอบหวั่นใจเล็กๆ “ที่เหลือเอาไว้ค่อยพูดให้ฟังทีหลังก็แล้วกันนะครับ”
“เอ๊ะ? อะ อ๊ะ! เดี๋ยว...!”
อเวเค่นร้องเมื่อคนข้างบนเอามือจับขาทั้งสองข้างแยกออกเพื่อให้ลำตัวและสะโพกสอดแทรกเข้าไปในช่องทางแคบได้ลึกขึ้น
“อ๊ะ! อ๊า!! ร...แรงอีก” อเวเค่นร้องครางไม่หยุด เสียงกระเส่าเร่งเร้าคนที่กำลังถาโถมแก่นกายเข้ามา ความเจ็บแปรเปลี่ยนเป็นความสุขสมทุกครั้งที่ถูกกระแทกโดนจุดที่ไม่เคยรู้สึกดีขนาดนี้มาก่อน และไม่ต้องให้ร้องขอ ชเนย์ก็เร่งจังหวะสอดแทรกขึ้นเองตามแรงอารมณ์ที่พุ่งขึ้นจนแทบจะแตะจุดสุดยอดนั้น
“...ถึงเป็นครั้งแรก แต่ตรงนั้นของคุณนี่ลามกใช้ได้เลยนะครับ”
“จะไปรู้เรอะ!” ปากว่าแต่ร่างกายกลับตอบสนองอย่างซื่อตรง ส่วนแข็งขืนที่เร่าร้อนเสียดสีกับช่องทางแคบที่ตอดรัดถี่ๆ จนทั้งคู่ใกล้จะถึงฝั่งพร้อมกัน มือหนาคว้าเอาหมอนที่พึ่งจะโดนใช้ฟาดหัวตัวเองมาหนุนแทรกสะโพกอีกคนไว้ให้ยกสูงขึ้นพอดีกับการร่วมรัก
"ดี...ดีจัง..." สติชเนย์ค่อยๆ ล่องลอยไปไหนต่อไหน เผลอพูดอะไรออกมาบ้างก็ไม่รู้แล้ว หน้าเจือสีแดงระเรื่อพอๆ กับคนร่วมเตียงก้มซุกอยู่ตรงซอกคอและโปรยจูบไปทั่วโดยลืมที่จะคิดว่าคอเสื้ออีกฝ่ายจะปิดมิดหรือเปล่า
"อื้อ... ชเนย์" เสียงสั่นครางเรียกหาผู้ปรนเปรออย่างลืมตัวหลายครั้ง
จนเมื่อทุกอย่างถึงปลายทาง อเวเค่นสะดุ้งเกร็งและเปล่งเสียงรัญจวนใจอย่างซาบซ่านดังประสานกับเสียงครางต่ำต่อเนื่องของอีกคน ชเนย์สวมกอดตัวคนข้างล่างแนบแน่นและปล่อยให้ของเหลวอุ่นของตัวเองทะลักเข้าช่องทางเล็กๆ นั่น
"อ้า...❤" ท้องน้อยของนักฆ่าหนุ่มเต็มไปด้วยน้ำรักข้นที่ถูกปล่อยออกมาอีกครั้ง แม้จะเสร็จกิจไปแล้วแต่อารมณ์บางส่วนที่ยังคั่งค้างก็ยังส่งให้ต่างคนต่างยังหอบครางไปอีกครู่ใหญ่
“...ต่อเลยมั้ยครับ?” ร่างสูงมองตาคนที่เสร็จไปสองครั้ง แต่ก็รู้ว่าที่เพิ่งทำไปนั้นยังเติมเต็มความกระหายอยากของอีกฝ่ายไม่เพียงพอ ร่างเล็กกว่าเป็นฝ่ายพลิกตัวดันร่างของคนข้างบนให้นอนราบลงไปกับที่นอน ส่วนตัวเองตวัดขาขึ้นมาคร่อมอยู่บน
“ท่าแบบที่คุณชอบสินะ?”
“คุณ...ทำเป็นเหรอ?” ชเนย์ถามลองเชิงคนบนตัวที่ยังหอบกระเส่า
“ไม่เป็น เพราะงั้นก็สอนผมสิคุณหมอ”
"เรียกแบบนี้มัน..." รู้สึกเหมือนกำลังเล่นโรลเพลย์เป็นหมอที่ลักลอบมีอะไรกับคนไข้ของตัวเองแล้วก็ยิ้มแก้เขินออกมา
"ทำไมล่ะ เร้าใจดีออกนี่ คุณหมอชเนย์" ยิ่งเห็นอีกคนทำตัวไม่ถูกยิ่งพูดให้อายแทบมุดผ้าห่มหนี
"สอนเหรอ... เอ่อ จะว่าไงดี" เปลี่ยนเรื่องหนีดื้อๆ "มันก็...แค่ใส่เข้าไป? "
"จะให้รู้เรื่องนี่ต้องเปลี่ยนไปเรียกคุณครูรึเปล่า? " อเวเค่นยังคงพูดหยอกและก้มลงมาจูบประปราย สิ่งที่ถูกปลดปล่อยไว้เมื่อครู่ช่วยเป็นตัวหล่อลื่นอย่างดี "อา..."
คราวนี้อเวเค่นเป็นคนคุมเองเลยค่อยๆ กดแทรกลำท่อนที่แม้จะปล่อยไปแล้วครั้งหนึ่งก็ยังคงแข็งขืนพร้อมปฏิบัติภารกิจต่อได้
ชเนย์นอนจ้องภาพที่คนอยู่ข้างบนกำลังยกสะโพกขยับขึ้นลงบนตัวเขา ถึงจะบอกให้สอนแต่ดูเหมือนนักเรียนคนนี้จะเรียนรู้ได้เร็วเพราะเชี่ยวชาญเรื่องอย่างว่านี้อยู่แล้ว ก็แค่ไม่เคยต้องเป็นฝ่ายอยู่บนตัวใครแบบนี้มาก่อน
“ดูทำหน้าเข้าสิ...คุณนี่เร่าร้อนจริงๆ เลยนะครับ” ชเนย์เอ่ยพลางขยับช่วงล่างของตัวเองให้สอดรับเข้ากับจังหวะของคนข้างบนที่กระแทกลงมาจนร่างเล็กกว่าถึงกับสะดุ้งเพราะโดนจุดกระสันพอดี
“อึ้ก! อ่ะ! ...แล้วไม่ชอบรึไง?” เสียงที่ขาดห้วงถามโดยที่แทบไม่ได้สติ เพียงพูดโต้ตอบไปตามที่หูพอจะได้ยิน
“เปล่าครับ ยิ่งชอบมากกว่าเก่าอีก” ชเนย์ชันเข่ายกขึ้นดันหลังให้อีกคนกระเถิบขึ้นมา พอกดสะโพกลงช่องทางตอดรัดก็ยิ่งเสียดสีถูกจุดจนหยุดขยับย้ำๆ ไม่ได้
“อ๊า! อ๊ะ! ฮ้าา!” เสียงหอบสลับครางดังไปทั่วทั้งห้องอย่างลืมอาย มือหนาที่ว่างอยู่เลื่อนขึ้นไปสะกิดตุ่มไตแข็งที่อกซึ่งเป็นจุดที่ไวต่อความรู้สึกของผู้ชายเช่นกัน
“อึ้ก! อย่าเล่นสิ” อเวเค่นดุเสียงสั่น แววตาเริ่มปรือฉ่ำด้วยแรงปรารถนาที่พุ่งสูงอีกครั้ง
"วิวตรงนี้ดีสุดๆ เลยล่ะครับ" เมื่อโดนห้ามก็ยอมๆ ไปสักเรื่องก่อนจะยันตัวเองลุกขึ้นมาใช้ลิ้นกับส่วนยอดอกนั้นแทน
"อ้ะ! อึก...บอกว่าอย่าเล่นไง! " คราวนี้ห้ามไปก็ไม่หยุด ลิ้นนุ่มชโลมยอดอกจนชุ่มสนุกปากในขณะที่มือทั้งสองจับเอาเอวของร่างเล็กกว่าให้ขยับตามใจเขาเสียเอง
“ฮะ! อ๊าา!” ส่วนร้อนกระแทกเข้ามาอย่างเอาแต่ใจ และด้วยท่าที่ทำอยู่มันก็ยิ่งง่ายต่อการสอดใส่เข้ามาให้ลึกยิ่งกว่าเดิม อเวเค่นยกแขนขึ้นโอบรัดคอร่างสูงยึดไว้เป็นหลักในขณะที่กระแทกกระทั้นซอยสะโพกถี่ๆ เพราะใกล้ถึงฝั่งอีกครั้ง
“จะ...ไม่ไหวแล้ว” เสียงครางไม่ได้ศัพท์ของคนข้างบนบอกข้างหูอีกฝ่าย
“ทนอีกนิดนะครับ ผมเองก็ใกล้แล้ว” ชเนย์ออกแรงขยับเพื่อให้แรงอารมณ์ตามทันร่างเล็ก
"อ๊าา! "
นอกจากกระแทกสอดใส่ที่ด้านหลัง แก่นกายด้านหน้ายังถูกมือหนาตรงเข้ารูดรั้งให้ จากที่ใกล้จะถึงจุดสูงสุดอยู่ร่ำไรก็เหมือนโดนเร่งหนักกว่าเดิม อเวเค่นโถมตัวกอดอีกคนแน่น
"เด็กดี...รับรางวัลไปละกันนะ"
เสียงพร่ากระซิบก่อนมือข้างที่กอบกุมส่วนกลางอีกฝ่ายจนเลื่อนนิ้วไปกดสัมผัสที่ส่วนปลาย รูดวงนิ้วผ่านเส้นที่ด้านหลังของลำแท่งซึ่งทั้งอ่อนไหวและไวต่อสัมผัส แค่เพียงเท่านั้นร่างเล็กกว่าก็ไม่อยู่รอให้ชเนย์ได้ปลดปล่อย
"ฮ้าา! อ๊าา! " เสียงครางเสียวซ่านที่ดังระงมอยู่ข้างหูกับช่องทางแคบที่กลืนกินความเป็นชายของเขาจนมิดนั่นก็เกร็งรัดจนรู้สึกดีพอจะทำให้ร่างสูงไปถึงสวรรค์พร้อมๆ กัน
สองร่างหอบหนักค่อยๆ หย่อนตัวลงเตียงไปพร้อมเพรียงโดยชเนย์กอดและเอาตัวรองอเวเค่นไว้ให้นอนทับบนตัวเขา
“อเวเค่น...” เสียงทุ้มที่ยังพอมีแรงเหลืออยู่เรียกคนที่นอนหอบหายใจอยู่บนตัวเขา
“อือ...อะไร?” คนสติเริ่มเลือนรางขานตอบ
“ขอบคุณสำหรับอาหารครับ” เอ่ยกระเซ้าแหย่และจูบขมับที่ชื้นเหงื่ออีกคนปลอบโยน
“...บ้า” คนที่ตกเป็นอาหารหันหน้าหนีไปซุกหมอนกลบเกลื่อน
"เอ...แต่คุณเพิ่งเคยทำ..." ชเนย์ทำหน้าเหมือนเพิ่งนึกอะไรได้ "งั้นก็คงไม่รู้ใช่มั้ยว่าต้องเอาออก"
"ห้ะ? " อเวเค่นขมวดคิ้วแล้วมองตามนิ้วชเนย์ไปทางต้นขาของตัวเองซึ่งมีน้ำรักสีขาวข้นเยิ้มออกมา
"ถ้าไม่เอาออกพรุ่งนี้เช้าคุณท้องเสียแน่..." คำพูดกับน้ำเสียงดูสวนทางจนไม่มั่นใจว่าพูดจริงรึเปล่า
"....ค่อยว่ากัน" แต่เจ้าตัวดูไม่สนใจเท่าไหร่แถมยังซบลงบนคออีกคนเหมือนจะสูดเอากลิ่นหอมเฉพาะตัวนั้นต่อ
"งั้นเอ่อ...ถ้าไม่ลำบากใจเกินไป" ชเนย์ลูบผมอีกคนเบาๆ "ช่วยเล่าเรื่องของคุณให้ผมฟังหน่อยได้มั้ย"
"หือ? " อเวเค่นเงยหน้ามามองหน้าคนถาม
"แบบว่า อย่างน้อยๆ ก็...เป็นใครมาจากไหนน่ะ ผมยังไม่รู้จักอะไรคุณเลย"
รอยยิ้มรู้สึกผิดเจือบนหน้า แววตาไร้อารมณ์แบบเดิมกลับถูกเติมเต็มด้วยประกายแปลกตาจนคนมองเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
“ถ้าเรื่องของคุณเป็นนิยาย ของผมก็คงเป็นละครน้ำเน่าล่ะมั้ง” อเวเค่นเกริ่นนำเรื่องของตัวเอง
“ขนาดนั้นเลยเหรอครับ?”
“อืม... ขอข้ามเรื่องสมัยเด็กไปแล้วกันนะ ผมจำอะไรไม่ได้น่ะ”
“...คุณไม่รู้?” ชเนย์มองหน้าคนข้างๆ สายตาของอีกฝ่ายมองขึ้นไปบนเพดานห้องนอนที่ว่างเปล่าเหมือนกับชีวิตวัยเยาว์
“ใช่ เป็นใครมาจากไหน มีครอบครัวญาติพี่น้องรึเปล่า เรื่องนั้นผมไม่เคยรู้” เสียงอเวเค่นเบาลงไป ชเนย์ดึงคนในอ้อมแขนเข้ามากอด
“ไม่เป็นไร ถ้าคุณไม่อยากเล่าล่ะก็...”
“เปล่า ผมไม่ได้เศร้า แค่กำลังนึกว่าควรจะเริ่มตรงไหนดี”
"...เอ่อ อาจจะเสียมารยาท...แต่คุณชื่ออเวเค่นจริงๆ เหรอครับ? " ชเนย์เลือกที่จะเปลี่ยนเรื่องเอง
"อืม... นั่นสินะ แล้วคุณคิดว่าไง? " รอยยิ้มสนุกสนานกลับมาระบายบนหน้า
"ไม่เอาแบบนี้แล้วสิ..." คนโดนย้อนส่ายหน้า แต่ก็กลอกตาครุ่นคิดตามที่โดนสั่งให้คิด "ผมว่าไม่ใช่ชื่อนะ ไม่น่าจะมีใครตั้งชื่อลูกตัวเองแบบนี้หรอกมั้งครับ"
“คุณนี่เดาเก่งนะ...ถูกแล้ว อเวเค่น ซันไรส์ ไม่ใช่ชื่อจริงของผม นั่นเป็นชื่อเรียกของนักฆ่าที่ผมตั้งให้ตัวเอง” ชเนย์เกือบหลุดขำกับเซ้นส์การตั้งชื่อที่สุดโต่งนี้จริงๆ
“แล้วชื่อจริงๆ ของคุณล่ะ?”
“เคน” นักฆ่าหนุ่มตอบ เป็นชื่อที่สั้นซะจนชเนย์ยังแปลกใจ
“แค่นั้นเหรอครับ?”
“อืม...ก็จำอะไรไม่ได้เลยนี่ สำหรับคนที่ลืมเรื่องของตัวเองไปหมด แค่นึกชื่อจริงออกได้ก็ดีเท่าไหร่แล้ว”
ชเนย์กำลังจะเอ่ยปากเอ่ยอะไรบางอย่างออกไป แต่ก็หุบเงียบไปซะก่อน สุดท้ายก็ทำแค่จูบลงบนหน้าผากคนข้างบนตัวของตัวเอง
"ขอเรียกอเวเค่นนี่แหละ ติดปากไปแล้ว"
"ถึงจะอยากเรียกชื่อจริงผมก็ไม่ยอมหรอก... เดี๋ยวงานผมพังพอดี" อเวเค่นหัวเราะอารมณ์ดี ไม่ได้นอนคุยสบายๆ แบบนี้มานานตั้งแต่ใช้ชีวิตช่วงหลังๆ มา "อย่าว่าแต่ชื่อผมเลย ชเนย์? ชื่อคุณนี่แปลกหูชะมัด"
"ใครๆ ก็ว่างั้นครับ" ชเนย์เพิ่งนึกได้ว่าส่วนล่างยังไม่ได้ทำความสะอาดเลยมองหาทิชชู่ไปพลาง "ชื่อผมแปลว่า ‘หิมะ’ ครับ"
“มิน่า...สีผมถึงได้ออกไปทางนั้น” ยกนิ้วขึ้นเกี่ยวเส้นผมสีอ่อนม้วนเล่นไปมาจนเด้งเป็นลอนสนุกสนาน “ผมไม่ค่อยชอบผมสีแดงนี่เท่าไหร่เลย”
“แต่ผมชอบผมของคุณออกนะ” ยิ่งพูดชมยิ่งทำให้เจ้าของผมแดงหน้าขึ้นสีระเรื่อมากกว่าเดิม ชเนย์ลูบผมยาวและสูดกลิ่นหอมเฉพาะของคนข้างกาย อเวเค่นหน้าแดงแข่งกับสีผมก่อนจะหยิบยางรัดมารวบไว้ตามเดิม
สองคนคุยกันเจื้อยแจ้วไปเรื่อยเปื่อย เปลี่ยนเรื่องนั้นไปเรื่องนี้และทำความสะอาดตัวกันไปพลาง เวลาผ่านไปไวเสียจน...
"อ่ะ จะเย็นแล้วนี่นา" ชเนย์หันไปมองนาฬิการะหว่างจัดแจงใส่เสื้อผ้าตัวเองให้เรียบร้อย
"ถึงว่า...เริ่มหิวแล้วสิ" อเวเค่นลูบท้องว่างๆ ของตนและบ่นอุบอิบ
"รอสักหน่อยแล้วกันครับ เสร็จแล้วจะยกมาให้"
"หา? ทำไมล่ะ ก็ไปรอที่ครัวเลยสิ จะได้กินตอนเพิ่งทำเสร็จใหม่ๆ "
"...ลุกไหวหรือไงครับ? " ร่างสูงโปร่งเหลือบมองคนที่แม้แต่จะลุกมาแต่งตัวเองยังลำบาก ใส่เสื้อเชิ้ตและกางเกงคืนได้ก็แทบยกนิ้วให้
"...ไหนว่าไม่ชอบความรุนแรงไง" อเวเค่นพยายามทำตัวปกติ แต่เห็นชัดๆ ว่ายังไม่ชิน ความรู้สึกที่โดนบางอย่างทะลวงเข้าที่ทางด้านหลังยังเหลือตกค้างให้แอบรู้สึกว่าไม่ใช่แค่ฝันกลางวันไป...
“รออยู่นี่แหละครับ เดี๋ยวผมทำเสร็จจะรีบเอามาให้ อยากทานอะไรเป็นพิเศษมั้ย?” พ่อครัวถามออร์เดอร์จากคนทาน
“อะไรก็ได้เหมือนเดิม”
“โธ่...นั่นไม่เรียกเมนูนะครับ” ชเนย์ส่ายหน้าพลางหัวเราะเบาๆ และแกล้งขยี้ผมสีแดงจนยุ่งเหยิง อีกคนเลยย่นคิ้วขมวดใส่
“รีบๆ ไปทำเลย! ถ้าผมเดินไปถึงห้องครัวแล้วยังทำไม่เสร็จล่ะก็ผมจะกินคุณแทน”
“ครับๆ ถ้ากินผมได้ก็เชิญ แต่ระวังเป็นฝ่ายโดนกินอีกรอบนะครับ” หนุ่มผมเงินยื่นหน้าเข้ามาใกล้และทำหน้าเอาจริง จนฝ่ายที่ขู่ไปเมื่อครู่เผลอกลืนน้ำลายเอื้อก
“ใครจะยอม ให้แค่ครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว ปวดเอวชะมัดเป็นคนโดนทำซะเองเนี่ย”
“โดนไปสองครั้งครับไม่ใช่ครั้งเดียว”
“แล้วจะย้ำทำไมฟะ!”
อเวเค่นหน้าแดงจนถึงหู มือฉวยหยิบเอาขวดเหล้าบนโต๊ะที่ดวลกันไปก่อนหน้านี้มาขว้างใส่พ่อครัว ชเนย์พยายามจะหลบแต่บางขวดถ้าแตกไปก็เสียของเลยต้องคว้ามือรับไม่ให้เสียหาย
“คุณ!! เหล้านี่มันแพงนะครับ!” ชเนย์ตะโกนตอบโต้ แล้วขวดแชมเปญหรูก็ขว้างมาทักทาย
“ไม่สนละเฟ้ย!!”
“เหวอ!!”
เสียงเอะอะดังมาจากห้องพักของนักฆ่าหนุ่ม แต่บรรยากาศกลับกรุ่นความสุขสนุกสนานมากกว่าจะเป็นความน่ารำคาญ