จังหวะรัก..จังหวะร็อค((My Sexy Darling))~จบseason1~ มาแจ้งข่าวจองFicหน้า56คับ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: จังหวะรัก..จังหวะร็อค((My Sexy Darling))~จบseason1~ มาแจ้งข่าวจองFicหน้า56คับ  (อ่าน 432309 ครั้ง)

kimagain

  • บุคคลทั่วไป
อยากอ่านอีกกกกก :sad4:

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
พี่บอลจัดมาได้เลย ยินดีอ่านทุกกรณี ^^

บอลลูนลอยฟ้า

  • บุคคลทั่วไป
หวัดดีครับ(ทักทายกันสักหน่อย) ... วันนี้ผมมาพร้อมกับ ตอนพิเศษ ครับ

ซึ่งตอนนี้ ผมจะแบ่งออกเป็น 2 Part (จริงๆแล้วไม่ใช่อะไรหรอก ยังเขียนไม่เสร็จอ่ะ กะว่าจะมาลงอันนี้ให้ก่อน แล้วจะรีบปั่นที่เหลือของตอนพิเศษนี้ให้จบคืนนี้แหละ)

และผมขอใช้ชื่อตอนที่มันดูแรงๆหน่อยล่ะกันนะครับ ..จริงๆผมว่าเนื้อหาของตอนพิเศษ(Special NC-18 ตอน..ความหลังของซูเปอร์สตาร์)มันก็ไม่ได้มีNCอะไรแรงเท่าไหร่หรอก(เอ..หรือว่าแรง? ไำม่รู้อ่ะ แต่สำหรับผมว่าไม่แรงนะ)

แต่สาเหตุที่ต้องตั้งชื่อแรงไว้ก่อนเพราะ ผมไม่แน่ใจว่าอาจมีคน(บางคน)ที่อาจจะรับไม่ได้ที่จะเห็นตอนNCของคนอื่นกับพระเอก(สำหรับผมให้เขาเป็นพระเอกในเรื่องนะ ก็งงอยู่ทำไมหลายคนมองเขาเป็นนายเอกหว่า?) ก็เลยขอตั้งชื่อจั่วหัวไว้เลย ว่าถ้าคุณเข้ามาอ่านตอนนี้ คุณจะต้องเจออะไร

.. ก็ ขอบอกแบบชัดเจนอีกครั้งเลยนะครับ สำหรับคนที่อาจจะรับไม่ได้ที่จะอ่านตอนNCของคนอื่นๆกับพระเอก ว่า..มันเป็นNCนะครับ ถ้าคิดว่ารับไม่ได้ ก็ช่วยกรุณาปิด หรืออ่านข้ามไปเลยครับ ..

v
v
v
v
 
ไปเจอกัน ข้างล่างครับ
B a l l o o n
 :z2:

บอลลูนลอยฟ้า

  • บุคคลทั่วไป
Special 1 .. ความหลังของ ซูเปอร์สตาร์



อ๊ะ.. อา~ ด..เดี๋ยว เรา จ..เจ็บ ..อ๊ะ”

“อา.. โกหก! นาย ช..ชอบ แบบนี้ ต่างหากล่ะ ฮา~”

      ภายในห้องสว่างจ้า ของตกแต่งถูกประดับไว้สวยงาม ทั้งกระดาษลายหลากสี ลูกโป่งเล็กๆ ตามมุมผนัง และช่อดอกไม้สีสด บ่งบอกว่าเจ้าของวันเกิดคงเป็นคนที่เป็นที่รักของบรรดาแขกเรื่อและเพื่อนๆที่มาร่วมงานและตั้งใจสร้างงานวันนี้ขึ้นมาให้เขา .. หากเมื่อผู้คนเหล่านั้นกลับออกไป ก็เหมือนพวกเขาพาเอาความสนุกความรื่นเริงนั้นๆออกไปจากเขาด้วย ..

24.00 น. นาฬิกาแขวนผนังเลือนสวยตีบอกเวลา ว่าเริ่มย่างเข้าวันใหม่.. กี่ปีแล้วนะ ที่เขาปล่อยให้หัวใจตัวเองว่างเปล่า แล้วเฝ้ารอดูความสำเร็จของคนๆนึง ถึงห้องนี้จะเปิดรับผู้ชายสักกี่คนเข้ามา แต่เขาก็ไม่เคยอนุญาตให้ใครได้ค้างจนถึงเช้า เพราะที่ตรงนี้เป็นของคนเพียงคนเดียว คนที่ไม่เคยคิดจะทำอย่างนั้นเลยนับจากวันนั้น ..ร่างบางของต้นแทนถูกดึงกึ่งลากลงจากโต๊ะอาหารแล้วผลักลงโซฟายาว ผ้าชิ้นสุดท้ายบนร่างกายถูกกระชากออกอย่างไม่ใยดี พร้อมกับมือเรียวขาวที่คอยกดใบหน้าเขาลงกับโซฟา แสงไฟจากแชนเดอเลียร์ราคาแพงขับรอยช้ำบนผิวสองสีเนียนให้เห็นชัดจนน่ากลัว

พูดสิ ..ว่านายชอบ อา~ นายชอบที่จะถูกทำแบบนี้น่ะห๊ะ” เสียงแหบเอ่ยบังคับเอาอย่างห้วนๆ ตามมาด้วยเสียงกรุงกริ้งของโลหะบางอย่างคล้ายเข็มขัดที่อาจกำลังถูกคลายออก

“อือ.. ชะ..ชอบ” ต้นแทนเลือกที่จะตอบออกไปให้ถูกใจปีศาจร้ายข้างหลังที่กำลังกดเขาคว่ำลงกับโซฟานุ่ม เขารู้ดีคืนนี้จะจบลงอย่างไร และเขาจะต้องเจอกับอะไรบ้าง ..ชายหนุ่มค่อยหลับตาลงเมื่อรู้สึกถึงร่างกายดุดันที่เข้าแนบประชิดด้านหลังของเขา

“อะ..อ๊ากก อา~” ปราศจากการเล้าโลมและเตรียมความพร้อม หรือแม้แต่สิ่งหล่อลื่นให้กับช่องทางด้านหลังใดๆ ..ปีศาจร้ายจงใจแหวกเนินเนื้อแน่นออก แล้วกดกระแทกท่อนเนื้อแข็งของตนใส่ร่างของชายหนุ่มอย่างไม่ปราณี

“ฮา.. แน่นจังนะ อ่ะ.. นายต้องพยามแค่ไหน ฮา~ ที่จะดูแลตัวเอง ห..ให้ฟิตเหมือนเดิม จ..จากผู้ชายพวกนั้น น่ะ..ห๊ะ อา~” นิ้วเรียวกดลากไปตามผิวเนื้อเนียน สอดเข้ากลุ่มผมสีเข้ม แล้วจิกเอากลุ่มผมนั้นขึ้น ประกบริมฝีปากเข้าที่ลำคออย่างตะกละตะกราม ขณะที่สะโพกแกร่งก็ยังขยับกระแทกสิ่งนั้นเข้าด้านหลังของอีกฝ่ายอย่างรุนแรง

ไม่! ..ไม่ เรา~ ไม่ได้ เป็น อะ..อย่างนั้น~ อ๊ะ!” ผมรู้.. ไม่ว่าผมจะพูดอะไรออกไป ไม่ว่าจะปฏิเสธแค่ไหน มันก็สายเกินไป สายไปแล้วสำหรับเราสองคน มันสายไปที่เขาจะรับฟัง เพราะคนที่กำลังรุกรานผมอย่างบ้าคลั่งด้านหลังนี้ ไม่ใช่เขา แต่มันคือปีศาจ ปีศาจที่มันจะโผล่มาที่นี่ทุกครั้งที่เมามาย ปีศาจที่มันจะโผล่มาทุกวันที่เคยเป็นวันพิเศษสำหรับเราสองคน

“อ้าขาออกอีก!! ..ยกสะโพกของนายขึ้น!!” ปีศาจ

..ปีศาจ ที่ผมยินดีนอนอ้าขาให้เขา แม้ว่าจะถูกทำให้เจ็บปวดเพียงไร ปีศาจที่ผมได้แต่คอยเฝ้าภาวนาให้เขายังจะมาที่นี่ มาทำกับผมแบบนี้อีก ไม่ว่าจะด้วยความรู้สึกอย่างไร ...

     แต่สุดท้าย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะคำภาวนาของผมมันยังไม่ดังพอ หรือเป็นเพราะกรรมที่ผมทำไว้กับเขากันแน่ จึงทำให้คำอ้อนวอนเหล่านั้นไม่กลาย เป็นจริง

    
    เกือบรุ่งเช้ากว่าที่เจ้าปีศาจร้ายจะหยุดลากร่างกายของผมไปปู้ยี่ปู้ยำตามที่ต่างๆจนจะวนรอบห้องแล้ว ไม่รู้ว่าเป็นเพราะผมเหนื่อยหรืออะไร ทำให้อยู่ๆผมก็มารู้ตัวอีกทีเมื่อรู้สึกได้ถึงแผ่นหลังของตัวเองกำลังจะถูกวางลงสัมผัสกับเตียงนุ่มตามมาด้วยผ้าห่มหนาที่ค่อยๆคลุมมาบนหน้าอก เสียงเลื่อนผ้าม่านดังขึ้นเบาๆทำให้แสงสว่างจ้าที่กระทบเปลือกตาของผมหายไป ..นานแค่ไหนแล้วนะ ที่ผมไม่เคยรู้สึกดีขนาดนี้ กลิ่นของอากาศยามเช้า กับแสงแดดสว่างที่พยามจะลอดผ่านผ้าม่านสีหวาน ท่ามกลางอากาศเย็นจากเครื่องปรับอากาศ ทว่าความอบอุ่นจากไอร้อนที่แผ่ซ่านมาจากร่างกายของใครบางคนที่กำลังขยับเข้ากอดกุมตัวผมไว้ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นช่างเหมือนกับฝันจนผมไม่กล้าที่ลืมตาตื่น ปีศาจร้ายกาจเมื่อคืนกลับกลาย เป็นเทพบุตรสุดที่รักคนเดียวคนนั้นของผมแล้วในเช้าวันนี้ เช้าที่เป็นวันแรกในรอบ3ปีที่ผ่านมา

..ผมจำกลิ่นหอมอ่อนๆจากตัวของเขาได้

..ผมจำสัมผัสจากข้อนิ้วบางที่กำลังลูบไล้อยู่บนใบหน้าของผมได้แม่น ..


..แต่ประโยคที่เพิ่งหลุดออกจากริมฝีปากบางที่กำลังขยับเอ่ยอยู่ข้างใบหูของผมนี่สิ ไม่ต่างอะไรกับสายฟ้าฝาดที่กำลังจะปริดเอาชีวิตรักของผมจากไป

“ต้น ..เราขอโทษ สำหรับทุกอย่างที่ผ่านมา จากนี้ไป..เราจะไม่ทำให้ต้นต้องเจ็บตัวอีก เราจะลืมทุกอย่างที่ต้นเคยทำกับเรา อย่าโทษตัวเองอีก และยกโทษให้เราด้วยนะ”

“ไม่ว่ายังไง ต้นก็จะเป็นคนที่สำคัญสำหรับพีมเสมอ ขอให้โชคดี ลาก่อนครับ”  


นานร่วมชั่วโมงแล้วที่ผมยังคงนอนนิ่งปิดเปลือกตาอยู่ที่เดิมตรงนี้ ผมไม่กล้าแม้กระทั้งจะลุกขึ้นดูความว่างเปล่าของห้องนอนที่ไม่เขาแล้ว แม้ว่าน้ำตาจะไหลรินออกมามากมายสักแค่ไหน ผมก็ยังขี้ขลาดที่จะลืมตาขึ้นมารับรู้ว่า คนที่ผมรักได้เดินจากผมไปแล้วจริงๆ ..คนรักของผม คนที่ผมเลือกที่จะทิ้งสิทธิ์ที่จะรักเขาไปด้วยตัวของผมเอง ..ใช่ครับ เค้าคือซูเปอร์สตาร์ของใครหลายๆคน รวมถึงผมด้วย

เขาชื่อ พีม พีราณุ

คนที่ยากจะเอื้อมถึง
.
.

สงสัยใช่มั้ยครับ ว่าเศษดินอย่างผม รู้จักกับดวงดาวที่สุกสว่างอย่างพีมได้ยังไง ..ผมจะเล่าให้ฟังครับ..


(4 ปีก่อน .. ตอนที่วงการเพลง และวงการบันเทิง ยังเป็นสิ่งที่ไกลเกินจะคว้าสำหรับคนบ้านนอกอย่างผม)

    
     ท่ามกลางเมืองหลวงสิวิไล เมืองแห่งแสงสีที่รายล้อมไปด้วยสิ่งยั่วยุต่างๆนานา เคยมีใครหลายคนบอกผมว่า หากวันนึงเราอับจนหนทางจนถึงที่สุด ก็ให้ไปที่กรุงเทพฯ ที่นั่นมีทุกอย่าง ที่นั่นจะไม่ทำให้ผมอดตาย

..หึๆ คนพวกนั่นพูดถูกนะ แต่พวกเขาลืมบอกผมไปอย่างว่า ไปที่นั่นแล้ว เราอาจต้องขายวิญญาณความเป็นคนทิ้งไปด้วย

เฮ้!.น้องชาย มานั่งทำมิวสิคไรอยู่ตรงนี้ว่ะ ข้างในนั้นมีหนุ่มหล่อๆออกเพียบ” ครั้งแรกที่ผมเจอเขา ผู้ชายคนแรกและคนเดียวที่ได้วิญญาณของผมไป เขาดูน่ารักมากๆ ดวงตาเรียวรีแต่แววตาข้างในนั้นกลับกลมป๊อกใสแจ๋วเหมือนเด็กไร้เดียงสาตลอดเวลา และนั่นเป็นสิ่งที่ผมชอบและหลงไหลที่สุดในตัวเขา

.. วั้นนั้นเป็นวันครบรอบ1ปีพอดีที่ผมเข้ามาเผชิญโชคในเมืองหลวงที่โหดร้ายนี้ และที่ๆผมมักจะมาบ่อยที่สุดเพราะมันเป็นที่ๆทำให้ผมมักจะได้อะไรดีๆกลับไปบ่อยที่สุดก็คือที่นี่ ผับใหญ่กลางเมือง ที่เป็นแหล่งรวมพวกนักเรียนนอกและคนมีเงินทั้งหลายแหล่ ..อีพวกชะนีกร้านโลกมันเคยบอกว่าพวกเด็กนอกหรือพวกนักเรียนเก่าอังกฤษ อเมริกา มันชอบพากันมาเที่ยวที่นี่

ตลอดเกือบปีที่ผมมา ผมว่ามันก็ไม่เห็นจะมีเยอะเหมือนที่อีพวกนั้นมันว่าสักเท่าไหร่เลย จนกระทั่งวันนี้

“ฮา.. อา ยู ไชนีส?” ผมแกล้งทักเค้าเล่นไปสองสามประโยค แต่ที่ได้กลับมาก็มีแต่แววตากลมแป๋วที่เอาแต่จ้องมองหน้าผม จนผมชักสงสัยแล้วว่า ผมคงจะเจอนักเรียนนอกเข้าจริงๆซะแล้ว และด้วยการประเมินจากสายตาอันแหลมคมของผม ผิวขาวโบ๊ะขนาดนี้ รูปร่างผอมๆ ตัวกระทัดรัดแบบนี้ เจ้าเด็กน้อยตรงหน้านี่ก็คงไม่แคล้วต้องมาจากจีน หรือไม่ก็ญี่ปุ่นแน่ๆ แต่เผอิญว่าภาษาญี่ปุ่นนั้นผมพูดไม่เป็น เอาเป็นว่า สาธุ..ให้มันเป็นคนจีนแล้วกัน

“No..” อ้าว.เวรแล้ว เสือกไม่ได้เป็นจีนอีก

“เอิ่ม.. งั้น อา ยู ญี่ปุ้น”

!!@#!?@!..หา.. ฮ่าๆๆๆๆ!!” อ้าวเฮ้ย..ไอ้ตี๋นี่ หัวเราะกรูทำไมฟร่ะ เดี๋ยวแม่งจับโยนลงสระน้ำเลยนี่  

“เฮ้ย ไอ้หน้าจิ้งจก ขำไรนักว่ะ ญี่ปุ่นก็ไม่ใช่ เจ๊กก็ไม่ใช่ งั้นกูไปล่ะกัน” เหอะ..ผมล่ะเซ็ง วันนี้ผมอุตส่าห์ทำใจใจสบายๆจะมานั่งดูหนุ่มหล่อย้อมใจที่กลับมาเป็นโสดอีกครั้งในรอบสมาเดือนสักหน่อย หลังจากที่ผมโดนไอ้เวรอาร์ทมันหัวเราะเยาะใส่หน้าผมว่า ดีแค่ไหนที่มันทนคบทนเลี้ยงผมมาได้ตั้งสามเดือน คอนโดมันก็ซื้อให้แล้ว รถมันก็ดาวน์ให้ ผมยังจะเอาอะไรอีก แถมก่อนไปมันยังพาอีตุ๊ดสะดิ้งนั่นมาหัวเราะเย้ยผมอีก ผมล่ะเกลียดการถูกหัวเราเยาะที่สุดเลย ..ไม่คิดว่าคืนนี้ก็ถูกคนหัวเราะใส่หน้าอีก แต่ไอ้เด็กหน้าตี๋นี่ก็เสือกมาช่วยผมรำลึกความหลังซะนี่ แม่งซวยกว่านี้มีอีกมั้ย ไอ้ต้นแทนเอ้ย

“ผมเป็นคนไทย..” หา.. อ้าวว แล้วเสือกนั่งอมดอกพิกุลไว้ทำไมตั้งนานว่ะ ให้กรูยืนปล่อยไก่อยู่ได้

“ผมชื่อพีมครับ แล้วพี่ล่ะ ชื่ออะไร?” ว๊าว..เสียงแหบนิดๆ ฟังดูหวานชิบเป๋งเลย ดูใกล้ๆแล้วหน้าก็เนียนใสกิ๊งๆ แถมปากยังแดงแจ๊ดเลยอีกต่างหาก อย่างงี้ท่าทางจะขั่วเดียวกัน เสียดายชิบเลยเว้ย จับใครกดไม่เป็นซะด้วยสิกรู

“ต้น.. ต้นแทน เพิ่งเคยมาที่นี่เหรอ ไม่เห็นเคยเจอ” ไอ้เด็กหน้าตี๋มันพยักหน้าตอบผมดิ๊กๆ พร้อมกับรอยยิ้มหวานหยดย้อย โอย.. ดูแล้วน่ารัก ดูสบายตาชิบหายเลย ปกติแล้วเวลาผมเจอผู้ชายคนไหน อันดับแรกๆเลยที่ผมจะมองก่อนก็คือหน้าตาและออฟชั่นต่าง เช่น รถ นาฬิกา มือถือ เสื้อผ้า ก็จะทำไงได้ล่ะครับ ผมมันจนนิ ถ้าคบกับคนจนๆ ผมจะมีชีวิตอยู่ในเมืองหลวงแห่งนี้ได้ไง แต่สำหรับไอ้เด็กหน้าตี๋นี่ นับว่าเป็นคนแรกเลยที่ทำให้ผมลืมมองออฟชั่นเสริมต่างๆในตัวมันได้ ผมรู้แต่เพียงว่า ถูกชะตากับคนนี้มาก แน่นอนผมไม่อยากให้มันรู้เลยว่าผมเป็นไอ้ตัวที่คอยมาล่าเหยื่อที่ผับนี้    
 
“อายุเพิ่งถึงอ่ะดิ ถึงได้เพิ่งมาอ่ะ”

“อายุถึงตั้งนานแล้ว แต่เพิ่งได้กลับมาไทยเฉยๆ เพราะยูที่นู้นอนุญาตให้เราฝึกงานที่สิงค์โปร์ได้ เลยได้กลับ” เอ่อ..อะไรนะครับ ถ้าผมฟังไม่ผิด เหมือนมันเพิ่งบอกว่า มันจะฝึกงาน มันอยู่ยูๆอะไรเนี่ย ง..งั้น.หมายความว่ามันเรียนมหาลัยแล้วดิ แล้วไอ้ฝึกงานเนี่ยมันต้องปีไหนล่ะ

“หา.. น..นายอายุเท่าไหร่เนี่ย?” ขี้เกียจเดาแล้วครับ

“22..” ชิบหาย.แก่กว่ากูอีก กู21เอง หน้าอย่างนี้ มันเป็นพี่ผมหรือนี่?

“แล้วพี่ล่ะ เรียนจบแล้วเหรอ อายุเท่าไหร่อ่ะครับ” ผมฟังที่มันถามแล้วรู้สึกประหม่าไม่อยากตอบยังไงไม่รู้ ไม่ใช่เรื่องอายุหรอกครับ แต่เป็นที่มันถามผมว่าผมเรียนจบแล้วยังต่างหาก ถ้ามันรู้ว่าผมเพิ่งได้วุฒิม.6มาเมื่อไม่กี่เดือนก่อนตอนที่ผมเอาตังค์ค่าเทอมที่ค้างไว้ไปจ่ายที่โรงเรียน มันคงหัวเราะเยาะผมจนตกเก้าอี้แน่

..แย่จัง ไม่น่ามาถูกชะตากับคนอย่างนี้เลย

“ช่างมันเถอะ ฉันขอตัวก่อนนะ ออกมานานแล้ว” ผมตัดสินใจลุกพรวดออกมาทั้งอย่างนั้น รู้สึกว่ายังไงผมกับมันก็อยู่คนล่ะโลก ให้มันมองเห็นแต่โลกสวยงามของมันดีกว่ามาเป็นเพื่อนกับคนทุเรศๆอย่างผมดีกว่าครับ    
.
.

      สงสัยคืนนี้คงจะเป็นคืนแห่งความซวยของผมแล้วล่ะครับ เพราะนอกจากผมจะไม่ได้ใครกลับไปแล้ว รถที่จอดทิ้งไว้ที่คอนโดก็ไม่ได้เอามาเพราะคิดว่าคงได้เพื่อนรวยๆกลับไป สุดท้ายก็เลยต้องมายืนหาแท๊กซี่หน้าผับหรูที่ใครๆเค้าก็เอารถมากัน ซ้ำไอ้แท็กซี่เวรก็ไม่ผ่านมาสักทีอีก เฮ้ออ..

“เฮ้.. พี่ต้น ขึ้นมาสิ จะไปไหน ผมไปส่งเอามั้ย” นั่นไง ไอ้ตี๋นักเรียนนอก มันเปิดกระจกรถมินิออสติน รุ่นล่าสุดของมันมาทักทายผมเข้าแล้ว อายจังเลยครับ ถ้าเป็นคนอื่นผมคงไม่อายหรอก แต่มันเป็นคนที่ผมเห็นครั้งแรกก็ปิ๊งแล้ว ผมไม่อยากให้มันเห็นด้านมืดของผมเลยให้ตายเถอะ ผมเลือกที่จะเดินหนีมันทั้งอย่างนั้น ไม่เอาหรอกครับ ไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด

“ปรี๊นนนนนน” เอ๋า.. มันบ้าไปแล้วครับ อยู่มันก็ลงจากรถแล้ววิ่งมาขวางหน้าผม

นายจะมายุ่งกับเราทำไม เรากำลังรอแฟนเรามารับ ไป๊!!” ผมตวาดใส่หน้ามัน จนมันหน้าเวอไปเลยครับ

“แต่ผมเห็น พี่ยืนอยู่ตรงนี้นานแล้วนะ ทะเลาะกับแฟนหรือเปล่า” แนะ.. มันยังไม่เลิกวอแวผมอีกครับ เออ..เอาสิ นั่นผมเห็นตำรวจเดินมาแต่ไกลแล้วครับ ก็รถมันนั่นแหละที่จอดเปิดไฟต๊อกแต๊กขวางทางชาวบ้านชาวเมืองเค้าอย่างนี้ สุดท้ายผมเลยต้องจรลีวิ่งขึ้นรถมันไปในที่สุด

“นายมาเที่ยวคนเดียว ไม่มีเพื่อนเหรอ”

“ครับ ผมเบื่อๆแล้วก็ไม่มีเพื่อนที่นี่ พอดีวันก่อนมีเพื่อนในเน็ตแอดชวนให้มาที่นี่ ก็เลยมา แต่สุดท้ายไอ้คนนั้นมันก็หายไป สงสัยเค้าคงไม่คิดว่าผมจะมาจริงๆล่ะมั้ง” ตลกดีนะครับ คนอย่างไอ้ตี๋นี่ แค่ถูกชวนทางเน็ตมันก็ไปกะเค้าแล้ว นี่ดีเท่าไหร่แล้วที่เค้าไม่หลอกมันไปเรียกค่าไถ่เอา หรือถูกหลอกไปเปิดซิง ถ้าไอ้คนนั้นมันมาเห็นไอ้ตี๋นี่ตัวจริง มันคงนึกเสียดายไปจนตายเลยล่ะ

 ..ระหว่างทางผมกับมันก็คุยกันไปเรื่อยเปื่อย ผมสังเกตุว่ามันพยามขับรถช้าลงเรื่อยๆ สงสัยมันจะๆขี้เหงาและไม่มีเพื่อนจริงๆ และมันก็เปลี่ยนสรรพนามมาเรียกผมแบบกันเองมากขึ้นตอนที่ผมบอกมันว่าผมกับมันห่างกันแค่ไม่กี่เดือน ผมเป็นคนตลกครับ แล้วมันก็เป็นคนยิ้มง่าย ตลอดทางผมพูดอะไรไปมันก็ยิ้มขำอย่างเดียว ดูๆไปท่าทางมันดูห้าวๆลุยๆเหมือนกันต่างกับหน้าตี๋ๆหวานๆของมันลิบลับ  

“พีม.. เรามีอะไรจะบอก..."


**********************
จะพยามปั่น ที่เหลือมาลงให้เร็วที่สุดนะครับ (แต่คงไม่ใช่วันนี้ แฮะๆ~)
B a l l o o n  
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-03-2010 22:46:24 โดย บอลลูนลอยฟ้า »

KM

  • บุคคลทั่วไป
Re: จังหวะรัก...จังห&#
«ตอบ #274 เมื่อ02-03-2010 22:43:37 »

 :z13:

ทันป่ะเนี่ย


ไปอ่านก่อนน่ะ


ง่ะ โหดเกิ๊น

ต้นครับ มาให้ผมเคลมดีกว่า ฮี่ๆๆ

น้ำเชี่ยวดีเกิ๊น  หาใหม่เห๊อะ น้ำเชี่ยว ฮ่าๆๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-03-2010 22:50:27 โดย KM »

ออฟไลน์ jasmin

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1801
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +174/-1
พีมเป็นรุก แม่เจ้า :a5:

แถมแอบโหดร้ายอีกตะหาก

น้ำเชี่ยว งานเข้าแล้ว

ออฟไลน์ โมโม่ที่รัก

  • ٥ﻻ ﻉ√٥ﺎ ٱu
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 942
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
ไม่น่าเชื่อออออออออ
แล้วน้ำเชี่ยวเป็นรุกรึรับอ่ะ
งง
 :m28: :m28:

thananuluk

  • บุคคลทั่วไป
ว้าวๆๆๆๆ

เชียร์ครับ เชียร์ให้พีม :oo1:น้ำเชี่ยว

 :haun4: :haun4: :haun4:

ออฟไลน์ Chatcha

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 717
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
พี่ก็คิดว่าพีมเปงรับนะนี่

vvivy

  • บุคคลทั่วไป
 o22

ผิดกับที่คิดไว้..รอติดตามๆค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






speedboy

  • บุคคลทั่วไป
มารอเลยละครับ  ก็น่ารักดีนิครับ

จุดเปลี่ยนอยู่ตรงไหนเนี่ย  รออ่านต่อนะครับ


 :oni2: :oni2: :oni2:

RomeO_C_Leng

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ ~มือวางอันดับ1~

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
 :m20:น้ำเชี่ยว งานเข้า o22 พีมรุก สนุกดี o13

ออฟไลน์ 。◕rainfall◕。

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
อ๊ายยพีมเปนรุกหรอเนี่ย :-[

เค้าคิดถึงน้ำเชี่ยว

แต่ก้อเอาตอนพิเศษมาต่อไวๆนะค่ะ

กำลังเป็นเรื่องเป็นราวเลย

ขอบคุณที่มาต่อค่ะ :bye2:

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
เอิ๊กๆ อดีตที่พี่พีมอยากจะลืมมมม

ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวมีน้ำเชี่ยวมาเยียวยาให้

kimagain

  • บุคคลทั่วไป
 o22  เปนรุกกะเปี่ยนมาเปนรับได้นินา :laugh:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
เห๋ ๆๆๆ
อดีตพี่พีมนี่...
แล้วน้ำเชี่ยวจะทำไงล่ะคราวนี้ ฮร่า ๆๆๆๆ

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
พี่พีม...อดีตรุก...อนาคต รับ o13 ฮ่าฮ่า..

รออ่านต่อจ้า ... คิดถึงเคโระน้อยยย

ออฟไลน์ โมโม่ที่รัก

  • ٥ﻻ ﻉ√٥ﺎ ٱu
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 942
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1

princehoo

  • บุคคลทั่วไป
ไม่อยากคิดถ้าน้ำเชี่ยวรู้ว่าพีมเป็นรุก

 :z1:

หรือพีมจะเป็นรับเฉพาะน้ำเชี่ยวคนเดียว

 :o8:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






morrian

  • บุคคลทั่วไป
ไม่!! น้ำเชี่ยวรักพี่พีมคร้าบบบ..  แม่เจ้าโว้ยยยย คนนี้แฟนโผมมม น่ารักมั้ย! เป็นเมียก็ได้เป็นสามีก็ดีสุดๆ ใช้ประโยชน์ได้หลายอย่างด้วย ฮ่าๆๆๆๆ”


อ้างอิงจากตอนแรกที่ไรเตอร์อินโทรไว้นะค้าบบบ

ก็แสดงว่า สองคนนี้ ช่วยกันทำมาหากินคับ อิอิ  :z2:

prawy

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ Nabee

  • 너만 사랑해~♥
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1205
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +121/-3
 o22

พี่พีมเป็นรับเหรอ????

อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก~กกกกกกกก

ผิดจากที่คิดไว้เยอะมากเลยอ่ะ...งานเข้าแล้วน้ำเชี่ยวเอ๋ยยยยยย~!!!

โชว์ห่วย

  • บุคคลทั่วไป
ก็ถ้าคุณพี่พีมไม่เคยรุก แล้วใครจะมาสอนคุณน้องน้ำให้รุกได้ล่ะคะ ก็ในเมื่อนุ้งน้ำยังเวอร์จิ้นอยู่เลย คุณน้องต้องการครูที่มากประสบการณ์คะ
 :-[
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-03-2010 13:11:22 โดย โชว์ห่วย »

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
อยากอ่านต่อแล้วง่าพี่บอลลลลลลล

Panny

  • บุคคลทั่วไป
คนแต่งหายไปไหนแล้ว อยากอ่านต่อด้วยคนค๊า

บอลลูนลอยฟ้า

  • บุคคลทั่วไป

 :oni1: :laugh3: มาแร้ววววววค้าบบบบ วิ่งมาด้วยความเร็วสูง ฮ่าๆๆๆ

ขอโทษด้วย ที่มาต่อให้ช้า อิอิ พอดีไปเที่ยว แล้วก็นอนต่อบ้านเพื่อน ทีนี้ยาวเลยยยย

แฮ่ๆๆ เพิ่งกลับมาบ้านเมื่อเย็นนี่แหละครับ ก็งงกับการหาวิธีที่จะเอาเพลงมาลง ก็ลองหลายอย่างมาเลยครับ

ไม่รู้จะโอเคมั้ย เดี๋ยวจะลงตอน(พิเศษ)ต่อไปให้นะครับ

ขอแจ้งอีกอย่างนิด ตอนพิเศามี3ตอนนะครับ แบบว่าเขียนไปเขียนมา มันยาวซะงั้น ลงวันนี้ เดี๋ยวพรุ่งนี้มาต่อให้จนจบครับ

ปล.ใครที่รอน้ำเชี่ยว ใจเย็นหน่อยนะค้าบบบบ รับรองน้ำเชี่ยวสมชื่อแน่ๆ อิอิ

บอลลูนลอยฟ้า

  • บุคคลทั่วไป
Special 2 ... ความหลังของซูเปอร์สตาร์

    
        สุดท้ายผมก็ตัดสินใจบอกความจริงเกี่ยวกับตัวผม ที่ว่าผมไม่ใช่พวกผู้รากมากดีมาจากไหน ผมไม่ใช่นักเรียนนอก ผมไม่เคยเรียนมหาวิทยาลัย ผมเป็นเพียงคนที่เร่ร่อนมาจากบ้านนอก และทุกวันนี้ผมก็ใช้ชีวิตด้วยการเป็นแมงดา ที่คอยจะเกาะหาแต่พวกผู้ชายที่มีเงิน และผมก็ขอร้องให้มันไม่ต้องติดต่อผมอีก คิดซะว่าคืนนี้มันได้ทำบุญ ที่ขับรถมาส่งไอ้ตัวไม่มีที่ไปอย่างผม .. ผมมองหน้ามันที่ดูอึ้งๆไปหลังจากที่ผมบอกเรื่องราวของผมไป เหมือนมันจะงงๆ สุดท้ายมันก็ขับรถออกไปโดยไม่ได้พูดลาผมสักคำ ก็ถูกแล้วที่มันเป็นอย่างนั้นล่ะครับ ท่าทางลูกคุณหนูอย่างมันคงไม่เคยเจอคนอย่างผม ถึงต่อไปผมกับมันจะเป็นเพื่อนกัน ก็คงไม่มีเรื่องอะไรที่เราจะคุยกันรู้เรื่องหรอกครับ 

   หลังจากวันนั้นผมก็ใช้ชีวิตของผมตามปกติ ออกหาเหยื่อ หรือพูดอย่างสุภาพก็คือพวกคนมีตังค์ที่อยากได้ตัวผมแลกกับเงินนั่นแหละครับ เพียงแต่ผมไม่เลือกที่จะโผล่ไปที่ผับแห่งนั้นอีก.. ผ่านไปหลายคืน ผมก็เจอเหยื่อชั้นดีจนได้ครับ คืนนี้เป็นคืนที่สามที่ผมหลอกให้มันมาที่ห้องผม แผนการของผม ปกติผมจะไม่ยอมให้มันได้ขึ้นเตียงกับผมง่ายๆตั้งแต่คืนแรกหรอกครับ ผมจะใช้เวลาดูท่าทีของมันว่า มันต้องการผมมากแค่ไหน หรือแค่จีบหยอกๆไปวันๆ จริงๆแล้วสามวันก็ยังนับว่าเร็วไปสำหรับผมอยู่ดี แต่สำหรับคนนี้คงเป็นเคสพิเศษครับ เพราะผมต้องการให้มีใครสักคนมาทำให้ความคิดฟุ้งซ่านของผมที่คอยแต่จะคิดถึงไอ้ตี๋หน้าหวานคนนั้นให้หลุดไปจากหัวผมสักที ..ที่ลานจอดรถของคอนโดเกือบหรูกลางเมือง แม้บรรยากาศหลังเที่ยงคืนจะเย็นเยียบและเงียบสงัด แต่ทั้งหมดนั้นคงตรงกันข้ามกับสิ่งที่กำลังเกิดกับผมบนรถสปอตสุดหรูตอนนี้

“อะ..อา~ ยะ..อย่า อา~” ผมสูดปาก ปลายเท้าเหยียดเกร็งไปตามความรู้สึกเสียววาบไปทั่วหน้าท้องและส่วนนั้น ที่กำลังถูกชายหนุ่มนักธุรกิจวัยกลางคนปรนเรอให้อยู่อย่างหิวกระหายบนรถคันหรู

“อา.. ชั้นชอบเธอ เธอเป็นของชั้นเถอะ ชั้นจะเลี้ยงดูเธออย่างดี นะต้นแทน” เค้าพูดไปพร้อมกับโลมเลียส่วนนั้นของผมราวกับเป็นอะไรสักอย่างที่จะทำให้เค้าหายหิวจากอาการอดอยากมาสักสิบวันอย่างนั้นแหละ

“ลงจากรถก่อนเถอะครับ ฮา~.. ผมกลัวคนมาเห็น” ผมไม่ปฏิเสธหรอกครับ ว่าลีลาการใช้ปากและลิ้นของเขาทำให้ผมเคลิ้มจนแทบลืมว่าจะต่อรองถึงสิ่งที่เค้าจะให้ผมยังไง ถ้าผมยอมเป็นคู่นอนของเค้า แต่อยู่ๆก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นครับ

      เหตุการณ์ที่ชาตินี้ผมไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นกับผมได้ ระหว่างที่ผมและนักธุรกิจคนนั้นกำลังเกาะเกี่ยวพยุงกันลงจากรถ อยู่ๆผมก็รู้สึกเหมือนตัวเองถูกเหนี่ยวไปทางด้านหลัง ยังไม่ทันจะเห็นว่าเป็นใคร ใบหน้าด้านขวาของผมก็ถูกวัตถุแข็งบางอย่างฝาดเข้าอย่างจัง ตอนนั้นผมตาลายเห็นเดือนเห็นดาวเต็มไปหมด ผมล้มคลุกไปกับพื้นรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงเอะอ๊ะรอบๆตัว พร้อมกับถูกฉุดยื้อไปทางนู้นทีทางนี้ที แล้วก็มีอะไรบางอย่างกระทบมาที่ตัวผมเต็มไปหมด

ไอ้ตัววิปริต ไอ้แมงดา มึงกล้าแย่งผัวกูเชียวเหรอ !! มึงอย่าอยู่เลย!!!” ใช่แล้วครับ ผมกำลังถูกอีนังชะนีหนังเหี่ยวนางนึง มันมายืนค้ำหัวผมด่ากราดลั่นไปทั่วทั้งคอนโด พร้อมกับรองเท้าส้นสูงที่มันพยามเตะ กระทืบมาบนตัวผมที่นั่งมึนอยู่ที่พื้น มันไม่ได้มาคนเดียวครับ มันพกผู้ชายหน้าอย่างโจรมากับมันอีกสองคน นี่มันคงกะมาเล่นผมเด็ดๆเลยมั้งครับ

หยุดนะ! พวกคุณทำอะไรกันน่ะ” ขณะที่กำลังชุลมุน อยู่ๆก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมกับยามเฝ้าตึกอีกสองคนวิ่งเข้ามาห้ามไว้ซะก่อน นำทัพมาโดยไอ้พีมตี๋หน้าขาวเจ้าเก่าเลยครับ มันวิ่งนำหน้ามาลากตัวผมออกจากปลายตีนไอ้พวกนั้นจนได้ ผมมารู้ทีหลังว่าไอ้พีมนี่แหละครับที่มันเป็นคนเรียกตำรวจมา เพราะว่ามันมาแอบซุ่มสังเกตุการณ์ผมมาตลอดหลายวัน จนถึงวันนี้ที่มันเห็นผิดสังเกตุที่มีผู้หญิงและผู้ชายหน้าโหดมาคอยจอดรถเฝ้าดูผมกับผัวมัน พีมมันก็เลยวิ่งไปเรียกยามให้ตามตำรวจแถวนี้ไว้อีกที ..สุดท้ายผมและอีนังชะนีพร้อมกับสมุนของมันรวมถึงไอ้นักธุรกิจหน้าแหยที่ตอนนี้กลายเป็นเต่าหัวหดไปแล้ว ก็ถูกพาไปที่โรงพักเพื่อลงบันทึกประจำวัน ผมละอายแทบแทรกแผ่นดินหนีเลยครับ ตอนที่อีนังชะนีหนังเหี่ยวมันชีหน้าด่าผมว่าเป็นแมงดามาทำร่านใส่ผัวมันกลางโรงพัก ตอนนั้นผมถึงเพิ่งรู้ว่าไอ้ของแข็งๆที่ผมโดนไปดอกแรกนั่นก็คือ ส้นรองเท้าแหลมปรี๊ดของมันนั่นเอง ไอ้พีมมันก็พยามลากผมออกมาจากรองเท้าราคาแพงที่อีชะนีมันเขี้วยงไล่หลังมา       

   
      พอกลับมาถึงคอนโด ผมเห็นไอ้พีมมันเข้าไปคุยอะไรกับยาม2คนนั้น ทำนองว่าขอโทษขอโพยมั้ง แล้วจัดแจงย้ายรถของผมไปจอดในที่สังเกตง่ายแล้วฝากยามช่วยดูให้อีกครั้ง รอบครอบจริงๆ เสร็จแล้วมันก็เดินนำผมขึ้นห้อง ไม่รู้ว่ามันไปรู้ได้ยังไงว่าผมอยู่ห้องไหนชั้นอะไร แล้วผมอนุญาติมันตั้งแต่เมื่อไหร่

“เอ่อ.. ขอบใจนะ ที่ช่วยเราไว้ ไว้เดี๋ยวเราเลี้ยงข้าวนายตอบแทนแล้วกัน” ผมเห็นมันนั่งบื้อดูทีวีของผมอยู่ตั้งนานไม่พูดอะไรสักคำแล้ว มันอึดอัดครับ นึกได้ว่ายังไม่ได้ขอบใจมันเลย แต่มันก็ไม่ได้ตอบอะไรผม มองมันยังไม่มองหน้าผมสักนิด ..ผมสังเกตุเห็นแผลถลอกที่ข้อมือมันและรอยขีดข่วนนิดๆหน่อยตามแขนขาวๆของมัน คงจะถูกลูกหลงตอนที่เข้าไปคลุกกับไอ้พวกนั้นเพื่อไปเอาตัวผมออกมา

“ขอมือหน่อย เราทายาให้” แนะ.. ทำเป็นหยิ่ง มันเห็นผมเป็นไส้เดือนกิ้งกือหรือไงครับนี่ ผมอุตส่าห์เดินคุ้ยหายาทาแผลให้ว่อนทั่วห้อง หมั่นไส้ชิบ ไม่ได้ขอให้ช่วยสักหน่อย อิโธ่..

ช่างมันครับ มันเริ่ด มันเชิ่ด มันหยิ่ง ส่วนผมหน้าด้าน หน้าหนา หน้าทน โอเคทดแทนส่วนที่ขาดหายได้พอดี ผมไม่สนครับมันจะนั่งเป็นพระเทวรูปต่อไปก็ช่าง แต่ผมจะทายาให้มันซะอย่าง ผมนั่งลงข้างๆคว้ามือของมันมาทาเองเลยครับ ไม่ขออนุญาติด้วย แต่ขอบอก ว่าไอ้นี่มันคงลูกคุณหนูตัวจริงเพราะมือมันนิ่มโครตๆเลยครับ ตัวมันก็หอมมากๆด้วย ผมทาข้อมือเสร็จ ก็จับแขนมันยกซ้ายยกขวาหารอยข่วนต่างๆแล้วก็ทาเลยครับ แกล้งทาช้าๆด้วย หึๆ..ก็อยู่ใกล้มันแล้วอบอุ่นดี แอบมองหน้ามันใกล้ๆ จมูกมันแหลมโด่งแทบถิ่มหน้าผมเลย แก้มก็ใส ปากแดงน่าจูบด้วย อิอิ

“ค่าตัวนาย คืนล่ะเท่าไหร่?” ใช่แล้วครับ คุณฟังไม่ผิดหรอก มันกำลังถามผมว่าผมคืนเท่าไหร่

..ผมแน่ใจแล้วว่าไม่ได้หูฝาดหลังจากถามมันเป็นครั้งที่สอง มันพูดประโยคเดิมครับพร้อมกับหันมองหน้าผมนิ่ง ในดวงตาใสๆของมัน ผมเพิ่งรู้ว่ามันก็สามารถเปลี่ยนไปเป็นแววดุดันท้าทายได้เหมือนกัน ผมหน้าชาไปหมดเลยครับ รู้สึกเหมือนมันกำลังดูถูกผม มันมองผมเป็นแค่ไอ้แมงดาข้างถนน บางทีการที่มันมาแอบเฝ้าผมในช่วงหลายวันนี่ มันอาจกำลังคิดว่าจะจ่ายเงินเท่าไรเพื่อซื้อผมให้ขึ้นเตียงกับมันก็ได้ แต่ขอโทษเถอะครับ คนอย่างผม จะซื้อผม ผมต้องพอใจด้วย แต่สำหรับมันผมจะให้มันฟรีๆก็ได้ ถ้ามันไม่มองผมแล้วพูดกับผมด้วยประโยคหมาๆแบบนี้

..ผมทำตาขวางใส่มันอยู่พักนึงก็ขว้างยาทาแผลใส่หน้ามันแล้วไล่ให้มันกลับเลยครับ แต่ดูแล้ว นอกจากมันจะเชิ่ดหยิ่งแล้ว มันยังหน้าด้านหน้าทนไม่แพ้ผมเลยครับ เพราะขนาดผมไล่มันด้วยการเดินไปเปิดประตูอันเชิญมันออกจากห้องมันยังไม่ไปเลยครับ

“เหอะ.. นายคิดว่ามีเงินแล้วจะซื้อได้ทุกอย่างงั้นเหรอ ขอโทษนะ กลับไปเถอะ เราง่วงแล้ว”

“ง่วงหรือว่า อยากจะไล่ฉันไป แล้วจะได้ออกไปไล่จับผู้ชายอีก”

--- ปัง!! ---  พอได้ยินที่มันพูดออกมาเท่านั้น สติผมก็ขาดผึ่งเลยครับ ปากหมาอย่างนี้มันต้องโดนครับ ผมกระแทกประตูห้องปิดลงแล้วถลาไปซัดปากมันเต็มเหนี่ยวเลยครับ   

“ผลั่ว!!” หึๆ.. สะใจชิบ ถึงผมจะตัวไม่ใหญ่ แต่ผมก็สู้คนนะครับ ผมต่อยมันคว่ำจนปากมันแตกมีเลือดซิบเลย

“ทำไมล่ะ คิดจะขายตัวแล้ว ยังเลือกลูกค้าอีกเหรอ” ดูมันครับ ยังไม่หยุดปากดี ลุกขึ้นมายืนด่าผมฉอดๆได้อีก ผมล่ะนึกโมโหตัวเองจริงๆ แม่งตาต่ำชิบหายไม่น่าไปรู้สึกดีกับมันตั้งแต่แรกเลยคนแบบนี้

“คืนล่ะ2แสน แต่ถ้านายอยากให้ฉันใช้ปากให้ด้วยต้อง4แสน นายมีปัญญาจ่ายมั้ยล่ะ ถ้าไม่ ก็เชิญไสหัวออกไปเลย ไป๊!

“4แสน โอเค” ห๊า!! .. ใช่แล้วครับผมไม่ได้หูฝาดครับ มันจะจ่ายผมจริงเหรอ 4แสนเชียวนะ ผ่อนรถผมหมดเลยทีเดียว มันบ้าไปแล้ว มันต้องบ้าแน่ๆ ถ้าไม่บ้ามันก็คง..

“ทำไม? นายชอบฉันเหรอ 4แสนมันไม่ใช่น้อยๆนะ” มันส่ายหัวครับ จริงๆผมดูตามันก็พอรู้หรอกว่ามันไม่ได้ชอบผมหรอก แต่มันอะไรล่ะที่ทำให้มันยอมจ่ายตั้ง4แสน

“ฉันไม่ต้องการความสงสารจากใคร บอกไว้ก่อน ถ้านายคิดว่าทำแบบนี้แล้วจะทำให้ฉันเลิกขายตัวแลกเงิน บอกไว้เลยนายคิดผิด!”

“เราอาจจะสงสารนาย แต่นั่นมันก็ไม่ใช่เหตุผลทั้งหมดหรอก สรุปว่านายตกลงหรือเปล่า?” ทำไมว่ะ ถ้ามันไม่ได้ชอบผม ผมก็มองไม่เห็นเหตุผลผลอื่น ที่จะทำให้มันอยากจะนอนกับผม หรือต่อให้มันชอบก็เถอะ ผมก็ยังรู้สึกว่า4แสนมันยังมากไปสำหรับค่าตัวของผมอยู่ดี .. ช่างแม่งเถอะครับ ในเมื่อผมเองก็เสียความรู้สึกกับมันไปแล้ว ป่วยการณ์ที่จะมาเล่นตัวในเมื่อเงินสดๆกำลังลอยมาอยู่ตรงหน้า แถมยังได้นอนกับคนหล่อๆอย่างมันอีกต่างหาก ไม่ว่ายังไงผมก็ยังถือว่าได้กับได้ล่ะว่ะงานนี้

“น..นายจะทำอะไร เฮ้ยย” จะเสียเวลาทำไมครับ ในเมื่อมันอยากจะนอนกับผม ผมก็ต้องสนองมันสิ จะได้จบๆไปสำหรับคืนนี้ ผมปิดประตูล็อคกลอนแน่นหนา เดินหน้าหามันพร้อมกับปลดกระดุมกางเกงจัดแจงถอดเสื้อออกทันที

“ก็สนองตัณหาให้นายไง อยากให้ฉันเริ่มตรงไหนก่อนล่ะ ถ้าจะเอาสด ฉันคงต้องขอบายล่ะนะ” ตอนนี้ผมเหลือแค่กางเกงในตัวเดียวแล้วครับ ย่างสามขุมใส่มันไปเลย แต่ปฏิกิริยาที่มันแสดงออกนี่มันดูแปลกๆแล้วแฮะ ถ้าผมจำไม่ผิดมันน่าจะอายุได้22-23แล้วมั้ง เด็กนอกอีกต่างหาก เป็นไปไม่ได้ที่มันจะไม่เคยผ่านเรื่องอย่างว่า แล้วไอ้อาการลนๆถอยเอาๆ แถมตอนนี้หน้ามันขึ้นสีแดงแจ๊ดเลยครับ ยิ่งพอผมจับมือมันมาไว้ตรงเป้าผม มันร้องอย่างกับถูกเชือดแถมยังวิ่งหนีผมไปอีกมุมเลยครับ หรือว่า..

“ฉันไม่เชื่อว่าหน้าอย่างนายไม่เคยขึ้นเตียงกับใคร เว้นแต่นายจะไม่เคยนอนกับผู้ชาย! .. นายเป็นเกย์หรือเปล่า?

"!@!#@!#!!"

       สุดท้ายผมก็ได้คำตอบว่า ทำไมคนอย่างมันจะต้องยอมเสียเงินมากมายเพื่อซื้อไอ้ตัวข้างถนนอย่างผมถึง 4แสนบาทต่อคืนครับ เพราะมันกำลังสงสัยในตัวเองว่า มันอาจจะเบี่ยงเบนทางเพศหรือเปล่า มันสารภาพว่ามันไม่เคยนอนกับผู้ชาย แต่หลายครั้งมันรู้สึกว่ามันนึงถึงผู้ชายเวลาที่มันมีเซ็กส์กับแฟน หรือแม้กระทั่งตอนช่วยตัวเอง มันบอกว่าตัวมันเองก็ไม่รู้ว่ามันเป็นเกย์หรือเปล่าเพราะมันก็ยังมีเซ็กส์กับผู้หญิงของมันปกติ มันสงสัยว่าอาการของมันอาจเป็นแค่สับสนหรืออาจเป็นแค่อยากรู้อยากลองเท่านั้น และเมื่อวันที่เจอผมครั้งแรก มันก็รู้สึกถูกชะตากับผม จนเมื่อผมสารภาพกับมัน มันก็ยังอึ้งๆ อึ้งที่ไม่คิดว่าผมจะเป็นเกย์ จากนั้นมันจึงคิดว่าผมอาจให้คำตอบหรือให้คำปรึกษากับมันได้ แถมยังปลอดภัยอีกด้วยเพราะผมไม่ใช่คนในสังคมที่มันอยู่ ไม่รู้จักแฟนมัน ไม่รู้จักเพื่อนในมันสังคมของมัน

       หึๆ.. ผมฟังเรื่องของมันแล้ว ผมแทบจะหัวเราะก๊ากกเลยครับให้ตายสิ ..ผมมองหน้ามัน อยากจะตะโกนใส่หน้ามันจังว่า ไอ้อาการของมึงเนี่ยแหละ ที่เค้าเรียกกันว่าเบี่ยงเบน ไม่ต้องถึงกับลองนอนกับผู้ชายที่ไหนหรอกครับ แค่มึงนึงถึงผู้ชายด้วยกันเวลามีเซ็กส์กับผู้หญิง แค่นั้นมึงก็ผิดปกติแล้ว ผมลังเลครับที่จะบอกมันว่า อาการของมันน่ะ แถวบ้านผมเรียกว่า ไม่ยอมรับความจริง แบบนี้อย่างดีที่สุดมึงก็เป็น ไบ หน้าก็ได้ หลังก็เอาแล้ว .. แต่คิดไปคิดมา ไม่เอาดีกว่า ผมไม่อยากจะชี้ทางให้ใคร ถึงผมจะเคยผ่านอาการสับสนอย่างนั้นมาก่อน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าร้อยคนจะเหมือนกันร้อยคน ถ้าสมมติว่ามันเกิดไม่ได้เป็นจริงๆ แต่ผมไปชี้ทางเขวให้มัน ผมก็ปาบชิบหาย แค่ทุกวันนี้ผมก็ปาบพอแล้วครับ ทางที่ดีผมให้มันเลือกทางของมันเองน่าจะดีกว่า

       จากวันนั้นผมกับมันก็คบเป็นเพื่อนกันไปเลยครับ ไปไหนเฮนั่นกันอยู่สองคน ก็ผมปิ๊งมันเป็นทุนอยู่แล้วส่วนมันก็คนขี้เหงาไม่มีเพื่อน มันบอกผมว่าอีก20วันมันจะต้องไปฝึกงานที่บริษัทหลักทรัพย์ที่สิงค์โปร ระหว่างนี้มันอยากให้ผมอยู่กับมันเป็นเพื่อนมัน โดยมันจะจ่ายเงินให้ผมวันล่ะ5หมื่น สรุปรวม20วัน ก็1ล้านพอดี ไม่รู้ว่าบ้านมันผลิตเงินได้มั้งครับ มันถึงพูดออกมาได้หน้าตาเฉย ผมก็เลยชี้หน้าด่ามันให้ ว่าถ้าคิดจะคบกับผมเป็นเพื่อน อย่าเอาเงินมาซื้อกัน เอาไว้ถ้าวันไหนมันหน้ามืดปล้ำผมทำเมียก่อนแล้วค่อยมาจ่ายผมดีกว่า มันหน้าหงอยเลยครับว่าเวลาที่ผมแว๊ดเสียงใส่มัน ผมพอจะเดาออกว่ามันน่าจะเป็นคนที่ติดนิสัยเอาแต่ใจสไตล์ลูกคุณหนูอยู่บ้าง มันคงอยากจะเถียงผมเวลาผมแว๊ดๆใส่มันแต่ขอบอก มันยังเด็กๆครับ ยิ่งพูดไทยไม่ค่อยแตกฉานด้วย ไม่มีทางเถียงผมได้หรอก เพราะถึงผมจะมีนิสัยห่ามๆแบบผู้ชาย แต่ลองเวลาผมอารมณ์ปรี๊ดขึ้นมา ผมก็ด่ากราดจนกระเทยอายมาเยอะแล้วครับ

..สรุปว่า เราทั้งคู่จึงทำข้อตกลงร่วมกัน โดยผมเสนอขึ้นก่อน ว่าผมจะยอมถวายตัวเองให้เป็นเพื่อนคู่ปาท่องโก๋กับมัน 20วัน อย่างที่มันต้องการ โดยที่จะไม่รับเงินค่าจ้าง แต่มันก็ต้องรับผิดชอบชีวิตการดำรงอยู่ของผม เช่น หาข้าว หาน้ำ ผมจะไปไหนมันก็ต้องเป็นสารถีพาผมไป และสุดท้ายถ้าผมเจอเหยี่อมีตังค์ล่ะก็ มันก็ต้องให้เวลาผมไปกับพวกนั้น เพราะนั่นคืองานและวิถีชีวิตของผม ผมเห็นมันทำท่าจะค้านครับ แต่พอมันหันมาเจอผมถลึงตาตั้งท่าจะแหววใส่มัน มันก็เลยจำใจสงบเงียบไป ส่วนข้อเสนอของมัน ร้ายกาจมาก มันให้ผมขนข้าวขนของอพยพไปอยู่กับมัน และห้ามไม่ให้ผมไปเที่ยวกลางคืน จะไปได้ก็ต่อเมื่อมีมันไปด้วยเท่านั้น นี่มันกะจะตัดโอกาสทำมาหากินของผมใช่มั้ย มันแสบจริงๆ เล่มมาห้ามกันอย่างนี้ ว่าแต่มันคงไม่ได้หลงเสน่ห์ผมแน่รึป่าวว่ะ ทำไมจะต้องมาออกคำสั่งห้ามไปหาผู้ชายอื่นด้วยอ่ะ แถมยังให้ผมไปนอนกับมันอีกต่างหาก ..อร๊ายยย ตายๆ แล้วเกิดผมหน้ามืดจับมันขึงพรืดขึ้นนั่งขย่มมันเข้า ผมจะโดนมันถีบออกมาจากบ้านมั้ยเนี่ย หุหุ หน้าตาผิวพรรณอย่างมันยิ่งน่ากินอยู่ด้วย คริ๊ๆๆๆ~

        ครั้งแรกที่ผมเหยีบเข้าอาณาเขตบ้าน ไม่ใช่สิมันต้องเรียกว่าคฤหาสน์มากกว่า ของมัน พ่อเจ้าประคุณเอ้ย มัน ใหญ่ มาก แค่ประตูทางเข้าบ้านมัน(ที่พอกดรีโมทปริ้ด)มันก็เลื่อนเปิด ก็ทำผมตื่นเต้นยังกับจะได้เข้าปราสาทราชวงศ์แล้วครับ พอได้มาเห็นตัวบ้านเต็มๆผมไม่สงสัยแล้วครับว่า ทำไมมันกล้าจ่ายผมสี่แสนต่อคืนได้แบบไม่ต้องคิด คนเรานี่เลือกเกิดไม่ได้จริงๆ มันคงทำบุญมาดีเมื่อชาติก่อน พอได้เข้ามาในบ้านบรรยายกาศชักเริ่มวังเวงแฮะ บ้านหลังเท่าวัง หันซ้ายหันขวาเจอแต่หมากับคนใช้เดินอยู่ไกลลิบๆเอาน้ำเอาขนนมาให้แล้วก็หายไป งงครับ ไม่มีใครอยู่เลย พอถามมัน เลยได้รู้ว่าบ้านนี้มีมันกับพี่สาวอยู่กันสองคน แต่ช่วงนี้พี่สาวมันไม่อยู่ ต้องไปติดต่องานที่ต่างประเทศคงจะกลับราวๆเดือนหน้า อ้าว..งั้นพี่มันกลับมาจะเจอมันได้ไง ก็มันจะไปสิงค์โปรอยู่สิ้นเดือนนี้ พ่อแม่ก็ตายไปหมดตั้งหลายปีแล้ว ฟังดูชีวิตมันคงโดดเดี่ยวเหมือนหน้ามันตอนทำท่าหงอยๆนั่นแหละ ตอนที่มันให้ผมไปอาบน้ำแล้วค่อยลงไปกินข้าวมันจะไปรอข้างล่าง นาทีที่ผมเดินลงมาแล้วเห็นมันนั่งอยู่ท่ามกลางโต๊ะอาหารใหญ่ขนาด20เก้าอี้แล้ว ผมรู้สึกสงสารมันจับใจเลยครับ บ้านกว้างใหญ่แต่ไม่มีใครให้คุยด้วยเลย ผมยืนมองแล้วรู้สึกเหมือนมันตัวเล็กลงๆในขณะที่บ้านก็วังเวงมากขึ้น ผมบอกกับตัวเองนาทีนั้นว่า 20วันที่เหลือ ผมจะต้องทำให้มันยิ้ม ให้มันหัวเราะ จนลืมเรื่องราวความเหงา ความโดดเดี่ยวที่ผ่านให้ได้ให้หมด ผมสัญญา!

      ที่แรกที่ผมพามันไปเดท.. เอ้ย! พามันไปเปิดหูเปิดตา คือวัดพระแก้ว วัดภูเขาทอง วัดเบญฯ วัดในเขตกรุงเทพและปรมณฑลที่ดังๆผมพามันไปแทบทุกที่อ่ะครับ เห็นผมแรดๆอย่างนี้ ผมเป็นคนชอบสวดมนต์ไหว้พระไหว้เจ้านะครับ อาจจะเพราะตอนช่วงม.ต้น พ่อกับแม่ผมเชดหัวผมออกจากบ้านไปอยู่วัดเพราะบ้านจนไม่มีข้าวให้กิน ผมเลยติดวัดครับ ผมสังเกตุดูมันก็ไม่ได้เบื่อหรืออะไรที่ผมพามันไปเที่ยววัด มันดูตื่นหูตื่นตากับวัฒนะธรรมการไปวัดแล้วต้องเสี่ยงเซียมซี ตีฆ้อง ปล่อยหอย ปล่อยเต่า และภาพศิลปะตามกำแพงวัดมากกว่าครับ มันบอกมันเคยเข้าวัดตอนเด็กๆบ่อยเหมือนกัน แต่พอพ่อกับแม่เสียก็ไม่ได้ไปอีกเลย สิ่งที่มันจำได้เกี่ยวกับวัดก็คือวันสุดท้ายที่เผาพ่อกับแม่มัน ผมเลยบอกมันว่า ไม่เป็นไร ต่อไปนี้ถ้ามันไม่มีใครมาวัดเป็นเพื่อนให้โทรหาผมครับ มันชอบหัวเราะเอิ๊กๆลงคอ เวลาผมทำหน้าประหลาดๆเล่าเรื่องตลกๆให้มันฟัง ก็ผมมันเป็นพวกนกแก้วนกขุนทองหนิ พูดมากพูดไปเรื่อย พูดจนลิงหลับ เวลามันกำลังมีสมาธิกับอะไรสักอย่างผมก็จะแกล้งเล่นตลกหาเรื่องขำเรื่องสัปดนมาพูดแหย่มัน จนมันต้องหัวเราะเอิ๊กอ๊ากออกมา ผมชอบเวลามันหัวเราะครับ มันดูน่ารักน่าแกล้งมาก เพราะตามันจะหยีเป็นสระอิเลย ที่สำคัญรอยยิ้มมันสวยมากครับ ฟันเรียงกันสวย แบบที่เขาเรียกกันว่ายิ้มทั้งปากและตานั่นแหละ เราขับรถเที่ยวหาของกินตามที่อร่อยๆดังๆในกรุงเทพฯสลับกับเที่ยวห้างหรูๆบ้าง ดูหนังบ้าง ..พออยู่ด้วยกันหลายวันเข้า มันก็เริ่มจะสังเกตรู้ว่าผมชอบอะไร ไม่ชอบอะไร ไปร้านอาหารเวลาสั่งอะไรมันจะบอกพนังงานว่าไม่ใส่หัวหอม ไม่ใส่กระทียม เพราะผมไม่ชอบ เวลาไปที่กลางแจ้งมันจะเอาหมวกมาใส่ให้ผม เพราะมันรู้ว่าผมไม่อยากตากแดดเดี๋ยวตัวดำ และพอขึ้นรถเวลาเจอดีเจเปิดเพลงร็อคแหกปากๆ มันก็จะกดเปลี่ยนคลื่นทันที เพราะผมเคยบ่นหนวกหูรำคาญ

.
.
.
ต่อข้างล่างครับ ยาวจัดโพสต์ไม่ได้  

บอลลูนลอยฟ้า

  • บุคคลทั่วไป
       ทุกคนครับเดาถูกกันมั้ยครับ.. ใช่ ผมหลงรักมันเข้าแล้ว ไม่ต้องลังเล ไม่ต้องแสตนอิน ไม่ต้องอะไรทั้งสิ้น งานนี้รักจริง เจ็บจริงครับ ก็มันน่ารักหนิ เทคแคร์ขนาดนี้ ผมจะไม่รักมันได้ยังไงล่ะ แต่ผมก็รู้ตัวครับ ว่าผมมันอยู่ที่จุดไหน ความเจียมตัวของผมมีอยู่เต็มสายเลือดครับ ผมไม่อาจจะเอื้อมดึงมันลงมาคลุกขี้โคลนอย่างผมหรอก ผมก็หวังแต่ว่า อีก10กว่าวัน ที่กำลังจะผ่านไป ผมจะได้เก็บเกี่ยวความทรงจำดีๆของผมที่มีร่วมกับมันไว้ให้ได้มากที่สุด แล้วผมจะหาซอกที่ลึกและแน่นหนาที่สุดในหัวใจของผม ไว้เพื่อเก็บเรื่องราวเหล่านี้ครับ
.
.

“ต้น.. นายเล่นดนตรีเป็นมั้ย?”

“หึ ไม่เป็น แต่ร้องเพลงเป็น ทำไมเหรอ” วันนี้เราไปเที่ยวตลาดน้ำกันมาครับ ผมกินของข้างทางซะพุงกางเลย ตอนนี้มันเพิ่งอาบน้ำเสร็จ และมายืนเช็ดหัวอยู่ปลายเตียงที่ผมกำลังนอนแผ่ไกล้จะหลับเต็มทีแล้ว หนังท้องตึงหนังตาย่อนครับ แต่มันแกล้งผมอ่ะ มันโยนผ้าเช็ดตัวชื้นน้ำของมันมาโป๊ะบนหน้าผม แล้วมันยังลากผมอีก มันจะพาผมไปไหนอีกครับเนี่ย ง๊วงงงงงงง ง่วง ..อ่า

มันพาผมมาที่ห้องๆนึงที่ถูกแยกสัดส่วนออกให้ไกลจากห้องนอน ห้องนี้อยู่ติดกับระเบียงหลังบ้านที่ด้านหลังจะเห็นทะเลสาบกว้าง ภายในห้องถูกตกแต่งแบบเรียบๆด้วยสีขาว-ฟ้า สบายตา ตรงกลางของห้องมีแกรนด์เปียโนหลังใหญ่ตั้งอยู่ และโซฟายาววางอยู่ชุดนึงข้างๆกัน มันลากผมไปวางแหมะไว้ตรงนั้นแล้วมันก็ไปนั่นประจำเครื่องดนตรีอย่างเดียวที่มันเล่นได้


[wma=300,50]http://www.opendrive.com/files/6158139_MNuPm_0b98/???-???????????.mp3[/wma]

… เมื่อไหร่เห็นแสงอ่อนๆ นึกถึงตอนที่เราเจอกัน
ยังจำได้เรื่องเก่าๆ ภาพของเราเมื่อในวันวาน
มีรอยยิ้มของเธอ เสียงหัวเราะของเธอ
เหมือนผ่านมาเพียงไม่นาน
ช่วงเวลาเหล่านั้น มันยังชัดเจนในใจ

เวลานั้นน้อยเกินไป ต้องทำใจโบกมืออำลา
เคยสุขและทุกข์เท่าไหร่ ถึงเข้าใจเมื่อผ่านมันมา
ต่อจากนี้ไม่มี ลาแล้วคนดี คงมีแต่รอยน้ำตา
หากวันนี้เราต้องเอ่ยลา บอกให้ใจยังเหมือนเดิมได้ไหม

ถึงแม้ว่าวันพรุ่งนี้ต้องพบอะไร หรือต้องเจอกับใครที่ไหน
ฉันจะไม่ลืมความทรงจำมากมาย ช่วงเวลาที่เราได้เคยพบกัน
รู้ไว้เพื่อนเธอคนนี้นั้น รักเธอ แม้เวลาผ่านไปแสนนาน
ฉันจะไม่มีวันลืมเธอ และจะมีเธออยู่ในใจเสมอ ตลอดไป

คืนวันไม่เคยจะหยุด และไม่เคยหมุนกลับมาหา
คนเราต้องก้าวเดินไป มันก็เป็นเรื่องธรรมดา
แต่ความหลังของเรา และเรื่องเก่าๆ ยังจะแทนคำสัญญา
เมื่อไหร่เรานั้นได้กลับมา จะบอกให้ใจยังเหมือนเดิมได้ไหม

ถึงแม้ว่าวันพรุ่งนี้ต้องพบอะไร หรือต้องเจอกับใครที่ไหน
ฉันจะไม่ลืมความทรงจำมากมาย ช่วงเวลาที่เราได้เคยพบกัน
รู้ไว้เพื่อนเธอคนนี้นั้น รักเธอ แม้เวลาผ่านไปแสนนาน
ฉันจะไม่มีวันลืมเธอ และจะมีเธออยู่ในใจเสมอ ตลอดไป ...

((ถ้าฟังข้างบนไม่ได้ กดลิงค์นี้ฟังได้ครับ/บอลลูน))


     ตอนนี้ผมได้แต่นั่งเคลิ้มฟังมันเล่นเปียโนและร้องเพลงให้ผมฟัง มือมันเรียว นิ้วที่ยาวสวยพริ้วพรมลงไปบนแกรนด์เปียโนหลังใหญ่นั่น พร้อมกับเสียงแหบๆของมันที่ร้องคลอไปเบาๆ แต่ผมได้ยินทุกประโยคชัดไปจนถึงหัวใจเลยครับ มันเล่นไปและเงยขึ้นมามองหน้าผม ผมไม่รู้หรอกว่ามันต้องการจะสื่ออะไรให้ผมแค่ไหน? มันต้องการจะให้กำลังใจผม หรือให้ผมรู้สึกมากกว่านั้น ผมไม่กล้าคิดเลย รู้แต่ว่า ฟังเพลงนี้ที่มันร้องแล้ว ผมมีความสุขจนเต็มตื้น แม้จะรู้ว่ามันจะจบแบบเศร้าก็ยังสุขครับ ‘พีม เรารักนาย’ ผมอยากพูดคำนี้มาก แต่ไม่หรอก ผมไม่มีวันจะดึงมันลงมา ถ้ามันไม่คิดจะลงมาหาผมเอง ผมจะไม่ทำครับ ด้วยเหตุผลง่ายๆก็คือผมรักมัน..

     หลังจากมันเล่นเพลงจบ มันก็เดินมานั่งข้างผมและเล่าให้ผมฟังว่ามันมีความฝันนึงที่มันไม่ได้มีโอกาสได้บอกพ่อกับแม่ว่า มันชอบดนตรี ชอบร้องเพลง และมันอยากเป็นนักร้อง จริงๆแล้วคนที่จุดประกายนี้ให้กับมันคนแรกก็คือแม่ของมันนั่นเองที่เป็นคนส่งมันให้ไปเรียนดนตรีตั้งแต่ตอน7ขวบ และจุดเปลี่ยนที่สุดที่ทำให้มันได้รู้ ว่าดนตรีเป็นเพื่อนที่ดีเวลาเหงา ดนตรีเป็นสิ่งที่ช่วยปลอบประโลมและสร้างกำลังใจให้มันเวลาที่ไม่เหลือใคร และการที่ได้ระบายความรู้สึก อารมณ์ต่างๆผ่านดนตรีและเสียงเพลงทำให้มันคลายความคิดถึงพ่อกับแม่ได้ มันใช้วิธีนี้เรื่อยมา กว่าจะมารู้ตัวอีกทีมันก็รู้สึกแล้วว่า มันคงขาดดนตรีและเสียงเพลงไม่ได้อีกต่อไปแล้ว

..มันเล่าให้ผมฟังด้วยสีหน้าที่มีความสุข ก่อนที่จะบอกข่าวดีกับผมว่า ตอนนี้ทางค่ายเพลงยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งที่มันได้ส่งเดโมเพลงไปเมื่อหลายเดือนที่แล้ว ได้ตอบรับที่จะให้มันเข้าไปทำ สกรีนเทสต์แล้ว ผมยินดีกับมันมากถึงมากที่สุด ไม่รู้สิ ในนาทีนั้น แค่ผมมองมันปราดเดียวผมก็รู้ว่า มันไม่ใช่คนธรรมดา มันเป็นคนมีของ มีเสน่ห์ มีความน่ารักอยู่ในตัวเต็มเปี่ยม แถมมันยังเล่นดนตรีร้องเพลงได้เพราะ ผมว่าอย่างมันคงจะดังได้ไม่ยาก ไม่รู้ว่าถ้าใครหลายๆคน ได้มาเห็นมันเหมือนอย่างตอนที่ผมเจอมันครั้งแรก ก็จะรู้สึกปิ๊ง และติดตา เพราะความน่ารักน่าหลงไหลในตัวของมันนี่แหละ

.
.
“ครับ ว่ายังครับจี” พอเรามาถึงห้อง ไอ้มือถือเครื่องหรูของมันก็แผดเสียงซะลั่นห้อง ดูท่าคนที่โทรมา จะกระหน่ำโทรมาได้สักพักแล้ว เพราะเครื่องมันสั่นจนไถลจะตกโต๊ะ จนไอ้พีมแทบวิ่งไปรับไว้ไม่ทัน

“อ๋อ.. ก็กำลังจะนอนแล้ว ครับ.. คิดถึงครับ ครับ? วันไหนหรือครับ ได้สิครับ รักครับ กู้ดไนท์ ครับ” เหอะ.. มันรับสายแล้วก็เดินออกนอกระเบียงไป แต่ผมมันประเภทชอบเสือกครับ ผมเลยแอบไปนั่งตรงมุมเก้าอี้ข้างระเบียง ได้ยินมันพูดออดอ้อนหวานหยดกับแฟนมันซะเต็มสองรูหู รู้สึกเจ็บจี๊ดข้างในอกไปเลย อิจฉาผู้หญิงคนนั้นที่สุด ผมคงไม่มีอะไรจะไปเทียบเค้าได้สักแค่ปลายเล็บก็คงไม่มี

       รุ่งขึ้นมันก็ให้ผมมาบริษัท GS เอ็นเตอนเทนเมนต์ บรษัทค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ที่ดำเนินธุรกิจเพลง รายการทีวี วิทยุ มีบริษัทลูกแตกไลน์ออกมาผลิตหนัง ทำละครมากมาย ทางทีมงานนัดมัน 11โมงตรง ตอนนี้ก็10.10นาทีแล้ว

“เป็นอะไรน่ะหืม?.. ไม่สบายหรือเปล่า ทำไมดูเงียบๆ ไม่ค่อยพูดเหมือนทุกวันเลย หรือว่ายังไม่หายง่วง” มันพูดกับผมขณะที่จอดรถรอไฟแดง วันนี้ตั้งแต่เช้าผมซึมๆครับ คงเพราะเมื่อคืนหลังจากที่ฟังมันพูดออเซาะฉอเลาะกับเมียมัน ผมก็หงอยไปเลย ไม่รู้เป็นอะไ รอาจเพราะผมอิจฉาหรือเพราะผมรู้ดีว่าผมกับมันคงเป็นได้แค่เท่านี้มั้งครับ มันก็เลยเบลอๆ เหมือนจะหมดแรงยังไงไม่รู้ ทั้งที่ตั้งใจไว้อยู่แล้วว่าจะวางตัวเองไว้ตรงไหน แต่พอมาเจอเข้าจริงๆกับทำใจยากซะอย่างนั้น ก็ได้แต่คิดว่าเวลาจะเยียวยาผมให้หายได้เร็วๆ

“อืมง่วงอ่ะ.. แล้วก็หมดมุขแล้วด้วย วันนี้ของดเล่นตลกหนึ่งวันนะ” ผมพูดพรึมพรำให้มันฟังพร้อมกับเอียงหัวไปแอบซุกไหล่หอมๆของมัน มันก็ยิ้มเผล่แล้วจับหัวผมโยกไปมาแล้วเอื้อมมือมาปรับเบาะให้ผมนอนลง ปิดวิทยุ แล้วปรับแอร์เบาๆ บอกว่าให้ผมนอนไปก่อนถึงแล้วมันจะปลุก

     พอหลุดจากถนนสายธุรกิจได้รถลาก็เบาลง ไม่นานเราก็มาถึงครับ ตรงเวลาเป๊ะ ตอนแรกมันจะให้ผมขึ้นไปกับมัน แต่ผมปฏิเสธ ผมกลัวจะไปทำให้มันขายหน้า ใครจะไปรู้ข้างบนนั้นอาจจะมีใครบางคนเคยซื้อผมจากข้างทางก็ได้ ผมไม่อยากจะไปเป็นตัวซวยให้มันครับ ผมเลยให้มันทิ้งผมไว้ที่ร้านอาหารข้างๆตึกสูงนี่ดีกว่า เสร็จแล้วมันค่อยมาหาผม ผมก็อ้างไปนู้นนี่ว่าผมหิว อยากกินของแพงๆ และผมจะรอให้มันมาจ่ายตังค์ มันก็ยิ้มตาหยีน่ารักตามสไตล์ แล้วก็ยื่นบัตรเครดิตการด์พร้อมกับแบงค์พันอีก3ใบไว้ให้ผม มันบอกว่าเผื่อผมเบื่ออยากจะไปเดินเที่ยวที่ห้างใกล้ๆ อยากได้อะไรก็ใช้ไอ้การด์นี่จ่ายเงินเอา แค่พยามเซ็นลายมือให้เหมือนกับข้างหลังบัตรที่สุดเท่านั้น.. ดูสิครับ ก็มันเป็นคนแบบนี้จะไม่ให้ผมรักผมหลงมันได้ยังไง ไม่แน่ว่าถ้าผมเป็นผู้หญิงผมอาจจะวางยามันแล้วลากมันขึ้นเตียงทำตัวเองให้ท้องแล้วไปบังคับให้มันแต่งงานกับผมก็ได้ เหอะๆๆ~

...ผมนั่งค่าเวลาด้วยการเล่นเกมส์ในโทรศัพท์ สั่งนู้นนี่ที่หน้าตาน่ากิน มากินทีล่ะอย่างสองอย่าง จาก1ชั่วโมง เป็น2 เป็น3ชั่วโมง มันก็ไม่เห็นโทรมาสักที ระหว่างที่ผมกำลังเมื่อยตรูดได้ที่ คิดว่าจะไปเดินเล่นห้างไกล้ๆรอมัน หรือว่าจะไปดูหนังสักรอบ อยู่ๆก็มีใครบางคนเข้ามาทักผมครับ เขาเป็นผู้ชายอายุน่าจะซัก30ต้นๆ แต่งตัวดี สุภาพ หน้าตาสะอาดสะอ้าน เราไม่รู้จักกันหรอกครับ แต่เขาบอกว่าเขาสังเกตุเห็นผมนั่งอยู่ตั้งนานแล้ว ก็เลยเข้ามาคุยเป็นเพื่อน เพราะวันนี้เขาก็ว่างๆไม่รู้จะไปไหนเหมือนกัน เขาชื่อทินครับ เขาบอกว่าเขาทำงานแถวๆนี้ แต่อีกไม่นานเขากำลังจะย้ายไปอีกที่ ช่วงนี้ก็เลยว่างๆเพราะเขาเข้ามาเคลียร์งานบางส่วนเท่านั้น ระหว่างที่คุยกันอยู่ไอ้พีมก็โทรมาพอดีครับ มันบอกว่าอีกประมาณ3ชั่วโมงจะเสร็จ ให้ผมขึ้นมานั่งข้างบนหรือจะกลับไปรอที่บ้านก็ได้แล้วแต่ ผมเลยบอกว่าไม่เป็นไรผมอยู่ได้ผมอาจจะไปเดินเล่นห้างแถวๆนี้ ให้มันทำตัวตามสบายไม่ต้องตื่นเต้น เค้าให้ทำอะไรก็ตั้งใจทำให้ดีที่สุด ไม่ต้องห่วงผม แล้วเดี๋ยวอีก3ชั่วโมงผมจะมาเจอมันที่ร้านเดิมพร้อมกับเอาซากเครดิตการด์ที่วงเงินเติมแล้วมาคืนมัน อิอิ มันก็หัวเราะเอิ๊กๆลงคอแล้วก็วางไปครับ

จากนั้นผมกับพี่ทินก็ชวนกันไปเดินเล่นห้างกันครับ แต่เนื่องจากเรากินอิ่มมาจากร้านเดิมแล้ว และไม่รู้จะไปเดินไหนค่าเวลาได้ตั้ง3ชั่วโมง ผมเลยออกความเห็นว่าหาหนังดูสักเรื่องแล้วกัน พี่ทินก็ตามใจผมครับ ผมกับพี่ทินคุยกันแป๊บเดียวก็เหมือนสนิทกันได้ง่ายๆเลยครับ เพราะเขาเป็นคนไนซ์ดี ส่วนผมก็เข้ากับคนง่ายอยู่แล้ว ผมไม่รู้เขามีจุดประสงค์อะไรหรือเปล่า จะจีบผมมั้ย? ก็อาจเป็นไปได้ แต่อารมณ์นี้ผมขี้เกียจคิด ขี้เกียจเล่นเกมส์ใดๆ เพราะผมไม่ได้เจอเขาตามที่เที่ยว หรือตามที่ๆคนเข้ามาเพราะอยากซื้อผมขึ้นเตียง ตอนนี้พี่ทินก็คงเห็นผมในภาพของหนุ่มคนนึงที่มนุษย์สัมพันธ์ดี ไม่ได้คิดว่าผมเป็นพวกอย่างว่า และดูท่าพี่แกก็เซ็งๆเหมือนมีอะไรในใจอาจอยากหาเพื่อนคุย ส่วนผมก็กำลังว้าวุ่นอยู่ไม่น้อยทั้งเรื่องของผมกับพีมและเรื่องที่ผมจะต้องรีบทำใจเมื่อมันจากไป ฉะนั้นวันนี้ก็เลยไม่อยากคิดอะไรให้วุ่นวายได้เพื่อคุยแก้เหงาสักคนก็คงดี

..พอเวลา18.30พอดิบพอดี พระอาทิตย์กำลังตกแสงสีส้มสวยเลย ผมนั่งอยู่ในรถของพี่ทิน กำลังฝ่ารถติดมหาโหดกลับไปที่ร้านอาหารร้านเดิม ที่ตอนนี้ไอ้พีมมันคงกำลังนั่งหน้าบูดเป็นตูดเป็ด ไม่ใช่เพราะมันไม่ได้เป็นนักร้องหรือทำสกรีเทสต์ออกมาไม่ดีหรอกครับ แต่เป็นเพราะมันโทรหาผมแล้วพบว่า ผมกำลังดูหนังอย่างเพลิดเพลินใจจนลืมเวลานัดไปเลย พอมันว่าจะขับรถมาหาผมที่ห้างผมก็ไม่อยากให้มันลำบากฝ่ารถติดอีก เพราะทางกลับบ้านไม่ไม่ใช่ทางนี้ เลยให้มันรอที่ร้านเดิมนั่นแหละ ผมมาถึงที่ร้านเกือบจะทุ่มนึง ผมให้พี่ทินจอดรถส่งผมแค่ที่หน้าร้านไม่ต้องลงไปส่งเพราะผมไม่รู้ไอ้พีมมันจะคิดอะไรหรือเปล่าว่าผมหายไปแป๊บเดียวก็มีคนมาส่งเลย เราร่ำลากับสักพัก พี่ทินขอบอกขอบใจผมที่ผมอุตส่าห์อยู่เป็นเพื่อเขาแล้วให้นามบัตรไว้กับผมว่า หากผมมีอะไรให้เขาช่วยเหลือได้ก็ให้โทรไป

โอ้ย..”

ใคร.. ไอ้นั่น ที่มาส่งนายน่ะใคร นายไปไหนมาห๊ะ” ระหว่างที่ผมกำลังจะเดินเข้าร้านอยู่ๆก็มีมือกาว จะของใครล่ะถ้าไม่ใช่ไอ้พีมมาฉุดผมไว้ มันนี่ตาไวชะมัดผมพยามๆจะหลบมันแล้วแท้ๆ มันเข้ามาดึงผมไว้แล้วลากมาที่ลานจอดรถด้านหลังที่มันจอดรถไว้ แล้วถามผมหน้าตาดุเอาเรื่องทีเดียว

“ก็เพื่อน.. เพิ่งรู้จักกัน ก็คุยถูกคอดี เลยไปดูหนังมา” ผมก็ตอบไปตามจริง แต่นั่นยิ่งทำให้มือที่กำลังกำข้อมือผมอยู่ขณะนี้ขยำขยี้แรงมากขึ้น มันลากผมมาจนถึงที่รถแล้วเหวี่ยงผมจนแทบเซถลา แล้วมันก็หยุดมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า สายตาที่มันมองมาที่ผม ทำเอาผมแทบหมดแรงขาอ่อนลงเดี๋ยวนั้น ข้างในแววตาที่ผมชอบหนักหนาคู่นั้น มีแต่แววสื่อมาว่า ดูถูกดูแคลน สมเพชผมเสียเหลือเกิน นี่มันกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่?

“เพิ่งรู้จัก หึๆ เพิ่งรู้จักก็ไปกับมันแล้วงั้นเหรอ .. นายไปดูหนังหรือไปทำอะไรกันแน่ ถึงเพิ่งมาเอาป่านนี้น่ะ” นั่นไงครับ ผมกะแล้ว แค่เห็นสายตาที่มันมองผมก็พอรู้อยู่ว่า มันคงคิดว่าผมไปมั่วมา ก็ดินยังไงมันก็ต้องอยู่บนดินบนพื้นนั่นแหละครับ มันคงไม่มีวันมองผมให้ดีกว่านี้ไปได้

“นายพูดแบบนี้ อยากให้เราไปทำอะไรมาล่ะ ม่านรูดแถวนี้ดีมั้ย หรือไม่ต้องหรอก อย่างเราแค่จอดรถข้างทางก็.. อ๊ะ!” ผมยังไม่ทันต่อปากต่อคำกับมันเสร็จเลยก็โดนมันคว้าเอาข้อมือแทบหักพลักไปติดกำแพงเข้าแล้ว ตัวมันก็พอๆกับผมนะ แต่แรงมันเยอะกว่ามากครับ อาจเพราะมันออกกำลังตลอด ดูภายนอกเหมือนมันตัวเล็กผอมๆ แต่จริงๆแล้วข้างในมันเป็นกล้ามเนื้อแบบที่ถูกดูแลมาอย่างดีเลยทีเดียว นี่แหละครับนิสัยของผมชอบพูดจาท้าทาย ยั่วโมโหเก่งเป็นที่หนึ่ง และตอนนี้ไอ้พีมมันก็กำลังโมโหผมจนหน้าแดงเถือกเส้นเลือดปูดไปหมด

ทำไมต้องทำอย่างนี้!! คิดว่าทำเรื่องต่ำๆ เที่ยวขายตัวมั่วไปทั่วแล้วมันจะช่วยให้ชีวิตดีขึ้นงั้นเหรอ!” ผมฟังคำที่มันกำลังพูดใส่หน้าผมแล้วแทบจะร้องไห้เลยครับ เจ็บ.. เจ็บมากก ไม่เคยมีใครด่าผมได้เจ็บเท่าครั้งนี้ มันว่าผมต่ำ ผมมั่ว ขายตัว แล้วมันมาคบกับผมทำไม แล้วจะให้ผมทำยังไง ก็ชีวิตผมมันเป็นแบบนี้หนิ ใช่..ผมอาจจะมักง่ายเลือกที่จะขายตัวแลกเงินจำนวนมากแทนที่จะไปขายแรงงานเพื่อแลกกับเงินน้อยนิด แล้วยังไง ก็ในเมื่อผมเป็นเกย์ มีคนมากมายมักเข้ามาหาผมต้องการนอนกับผม แล้วถ้าผมจะใช้ตัวผมให้เป็นประโยชน์สักหน่อยเวลาที่ผมถูกใจจะนอนกับใครแล้วจะเป็นอะไร อีกอย่างคนอย่างผมจะให้ไปทำงานที่ใช้แรงงานใครเขาจะรับ ตัวก็แค่นี้ มีแต่จะโดนไอ้พวกเถื่อนๆมันอุ้มไปสอยตรูดเอาฟรีๆ แต่คนรวยๆอย่างมันคงนึกเรื่องพวกนี้ไม่ออกหรอก มันถึงได้มีหน้ามายืนด่าผมฉอดๆอย่างนี้ ผมยอมรับครับว่าผมอึ้ง โมโห โกรธมันมาก ที่มันมาด่าผม ดูถูกผม แต่ผมเถียงมันไม่ออก ไม่คิดว่ามันจะเห็นผมต้อยต่ำได้ขนาดนี้ ผมไม่อยากเห็นหน้ามันอีกแล้วครับ พอกันที

“ถ้านายคิดว่าเราต่ำขนาดนั้น นายจะมาสนใจคนอย่างเราทำไม ขอบใจที่อุตส่าห์ให้เราได้เข้าไปนอนในบ้านใหญ่ๆของนายนะ แต่เราว่าเราคงไม่เหมาะที่จะอยู่ที่นั่น มันสูงเกินไป เอาของๆนายคืนไป แล้วก็ขอโทษด้วยที่ทำตามสัญญาที่ให้ไว้ไม่ได้” ผมควักบัตรเครดิตและเงินจำนวนสองพันกว่าบาทที่เหลือหลังจากผมจ่ายค่าอาหารไปเมื่อเช้าออกมายัดใส่มือมันแล้วรีบเดินออกจากตรงนั้นไม่หันกลับมามองมันอีก แม้ว่ามันจะตะโกนพูดอะไรต่างๆนานาไล่หลังผมมา หรือมันจะวิ่งมายื้ดยุดผมให้หยุดและกลับไปกลับมัน ผมก็ไม่เอาแล้วครับ ผมเจ็บพอแล้ว เหนื่อย เหนื่อยตั้งแต่ได้ฟังมันคุยกับแฟนมันเมื่อคืนแล้ว มันอาจจะไม่รู้ แต่ผมรู้และเข้าใจตัวเองดีว่ารู้สึกกับมันไปมากเท่าไหร่แล้ว ยิ่งอยู่มีแต่จะยิ่งเจ็บช้ำเปล่าๆ และยิ่งมาเจอมันพูดกับผมแบบนี้อีก

“ต้น ต้น! หยุดก่อนได้มั้ย จะไปไหน ในตัวนายไม่มีเงินสักบาท ไปกลับเราเดี๋ยวนี้” ผมก้มหน้าเดินๆไปตามทาง ไม่มองกลับ ไม่สนใจรถมันที่ขับไล่มา กระทั่งมันขับปาดผมที่ข้างหน้าแล้ววิ่งลงมาพ่นคำอะไรมากมาย ที่ผมไม่อยากจะฟัง ผมเลยเดินเลี่ยงไปอีกทาง ตั้งใจว่าถ้าสลัดมันหลุดไปได้จะเรียกแท๊กซี่ให้ขับไปส่งผมที่คอนโดแล้วค่อยไปแวะหาตู้กดเงินเอาก็ได้ ผมก็พอมีเงินเก็บอยู่บ้างล่ะครับถึงไม่มากแต่ก็พอมี

..แต่หน้าหนามือกาวอย่างไอ้พีม ตื้อได้ตื้อทนจริงๆครับ มันไม่ยอมปล่อยให้ผมหลุดเลย มันขับรถตามผมจนมันคงทนไม่ไหววิ่งลงมาหิ้ว ต้องใช้คำนี้เลยครับ เพราะผมถูกมันรวบแขนสองข้างแล้วช้อนเอวขึ้นจนขาลอย แล้วถูกโยนเข้ารถที่เบาะหลังรถทันที ผมไม่เข้าใจจริงว่ามันทำอย่างนี้ทำไม มันไม่ได้ชอบผม มันไม่คิดกับผมในเรื่องที่เกินเพื่อน แล้วทำไมมันต้องให้ผมตัวติดกับมันตลอด จะว่ามันเหงาไม่มีเพื่อนอยากให้ผมเป็นเพื่อน แต่มันก็ไม่เห็นเกี่ยวกับเหตุผลที่มันจะต้องมาคอยแว๊ดๆใส่ผมเวลาผมไปกับคนอื่นเลยหนิในเมื่อผมก็กลับมาหามันอยู่ดี ผมไม่หายโกรธมันง่ายๆหรอกครับ มันอยากเป็นแท็กซี่ขับรถให้ผมก็ตามใจ ผมก็นอนคว่ำหน้าอยู่เบาะหลังนี่แหละ มันโยนผมลงมาท่าไหนผมก็จะนอนดื้ออยู่ท่านั้นแหละ

       สุดท้ายมันก็ขับรถพาผมกลับมาพระราชวังเวิ้งว้างของมันเหมือนเดิม ตอนนี้หน้ามันไม่ดูดุหน้าดำหน้าแดงเหมือนตอนที่ลานจอดรถนั่นแล้วครับ แต่ดูเหมือนมันจะเหนื่อยหน่ายกับผมมากกว่า เพราะผมยังคงนอนเท้งเต้งอยู่เบาะหลังรถเหมือนเดิมไม่ไปไหน แม้ว่ามันจะเอารถจอดจนลงไปกินข้าวกินอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็ตาม ผมยังไม่หายโมโหมันหนิครับ ในเมื่อผมจะกลับแล้วมันมาจับตัวผมไว้ ผมก็จะไม่ทำอะไรแล้ว ดูสิมันจะทำยังไงอย่างมากก็นั่งจนมันเหี่ยวตายอยู่ในรถนี่แหละ

.
.
***************************************
พรุ่งนี้มาต่อตอนจบให้คร้าบบบบบบ
B a l l o o n

     

vvivy

  • บุคคลทั่วไป
 o13

ขอบคุณที่มาต่อให้ค่ะ ตั้งตารอวันพุ่งนี้เลยค่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด