ทุกคนครับเดาถูกกันมั้ยครับ.. ใช่ ผมหลงรักมันเข้าแล้ว ไม่ต้องลังเล ไม่ต้องแสตนอิน ไม่ต้องอะไรทั้งสิ้น งานนี้รักจริง เจ็บจริงครับ ก็มันน่ารักหนิ เทคแคร์ขนาดนี้ ผมจะไม่รักมันได้ยังไงล่ะ แต่ผมก็รู้ตัวครับ ว่าผมมันอยู่ที่จุดไหน ความเจียมตัวของผมมีอยู่เต็มสายเลือดครับ ผมไม่อาจจะเอื้อมดึงมันลงมาคลุกขี้โคลนอย่างผมหรอก ผมก็หวังแต่ว่า อีก10กว่าวัน ที่กำลังจะผ่านไป ผมจะได้เก็บเกี่ยวความทรงจำดีๆของผมที่มีร่วมกับมันไว้ให้ได้มากที่สุด แล้วผมจะหาซอกที่ลึกและแน่นหนาที่สุดในหัวใจของผม ไว้เพื่อเก็บเรื่องราวเหล่านี้ครับ
.
.
“ต้น.. นายเล่นดนตรีเป็นมั้ย?”
“หึ ไม่เป็น แต่ร้องเพลงเป็น ทำไมเหรอ” วันนี้เราไปเที่ยวตลาดน้ำกันมาครับ ผมกินของข้างทางซะพุงกางเลย ตอนนี้มันเพิ่งอาบน้ำเสร็จ และมายืนเช็ดหัวอยู่ปลายเตียงที่ผมกำลังนอนแผ่ไกล้จะหลับเต็มทีแล้ว หนังท้องตึงหนังตาย่อนครับ แต่มันแกล้งผมอ่ะ มันโยนผ้าเช็ดตัวชื้นน้ำของมันมาโป๊ะบนหน้าผม แล้วมันยังลากผมอีก มันจะพาผมไปไหนอีกครับเนี่ย ง๊วงงงงงงง ง่วง ..อ่า
มันพาผมมาที่ห้องๆนึงที่ถูกแยกสัดส่วนออกให้ไกลจากห้องนอน ห้องนี้อยู่ติดกับระเบียงหลังบ้านที่ด้านหลังจะเห็นทะเลสาบกว้าง ภายในห้องถูกตกแต่งแบบเรียบๆด้วยสีขาว-ฟ้า สบายตา ตรงกลางของห้องมีแกรนด์เปียโนหลังใหญ่ตั้งอยู่ และโซฟายาววางอยู่ชุดนึงข้างๆกัน มันลากผมไปวางแหมะไว้ตรงนั้นแล้วมันก็ไปนั่นประจำเครื่องดนตรีอย่างเดียวที่มันเล่นได้
[wma=300,50]http://www.opendrive.com/files/6158139_MNuPm_0b98/???-???????????.mp3[/wma]
… เมื่อไหร่เห็นแสงอ่อนๆ นึกถึงตอนที่เราเจอกัน
ยังจำได้เรื่องเก่าๆ ภาพของเราเมื่อในวันวาน
มีรอยยิ้มของเธอ เสียงหัวเราะของเธอ
เหมือนผ่านมาเพียงไม่นาน
ช่วงเวลาเหล่านั้น มันยังชัดเจนในใจ
เวลานั้นน้อยเกินไป ต้องทำใจโบกมืออำลา
เคยสุขและทุกข์เท่าไหร่ ถึงเข้าใจเมื่อผ่านมันมา
ต่อจากนี้ไม่มี ลาแล้วคนดี คงมีแต่รอยน้ำตา
หากวันนี้เราต้องเอ่ยลา บอกให้ใจยังเหมือนเดิมได้ไหม
ถึงแม้ว่าวันพรุ่งนี้ต้องพบอะไร หรือต้องเจอกับใครที่ไหน
ฉันจะไม่ลืมความทรงจำมากมาย ช่วงเวลาที่เราได้เคยพบกัน
รู้ไว้เพื่อนเธอคนนี้นั้น รักเธอ แม้เวลาผ่านไปแสนนาน
ฉันจะไม่มีวันลืมเธอ และจะมีเธออยู่ในใจเสมอ ตลอดไป
คืนวันไม่เคยจะหยุด และไม่เคยหมุนกลับมาหา
คนเราต้องก้าวเดินไป มันก็เป็นเรื่องธรรมดา
แต่ความหลังของเรา และเรื่องเก่าๆ ยังจะแทนคำสัญญา
เมื่อไหร่เรานั้นได้กลับมา จะบอกให้ใจยังเหมือนเดิมได้ไหม
ถึงแม้ว่าวันพรุ่งนี้ต้องพบอะไร หรือต้องเจอกับใครที่ไหน
ฉันจะไม่ลืมความทรงจำมากมาย ช่วงเวลาที่เราได้เคยพบกัน
รู้ไว้เพื่อนเธอคนนี้นั้น รักเธอ แม้เวลาผ่านไปแสนนาน
ฉันจะไม่มีวันลืมเธอ และจะมีเธออยู่ในใจเสมอ ตลอดไป ...
((ถ้าฟังข้างบนไม่ได้ กดลิงค์นี้ฟังได้ครับ/บอลลูน)) ตอนนี้ผมได้แต่นั่งเคลิ้มฟังมันเล่นเปียโนและร้องเพลงให้ผมฟัง มือมันเรียว นิ้วที่ยาวสวยพริ้วพรมลงไปบนแกรนด์เปียโนหลังใหญ่นั่น พร้อมกับเสียงแหบๆของมันที่ร้องคลอไปเบาๆ แต่ผมได้ยินทุกประโยคชัดไปจนถึงหัวใจเลยครับ มันเล่นไปและเงยขึ้นมามองหน้าผม ผมไม่รู้หรอกว่ามันต้องการจะสื่ออะไรให้ผมแค่ไหน? มันต้องการจะให้กำลังใจผม หรือให้ผมรู้สึกมากกว่านั้น ผมไม่กล้าคิดเลย รู้แต่ว่า ฟังเพลงนี้ที่มันร้องแล้ว ผมมีความสุขจนเต็มตื้น แม้จะรู้ว่ามันจะจบแบบเศร้าก็ยังสุขครับ
‘พีม เรารักนาย’ ผมอยากพูดคำนี้มาก แต่ไม่หรอก ผมไม่มีวันจะดึงมันลงมา ถ้ามันไม่คิดจะลงมาหาผมเอง ผมจะไม่ทำครับ ด้วยเหตุผลง่ายๆก็คือผมรักมัน..
หลังจากมันเล่นเพลงจบ มันก็เดินมานั่งข้างผมและเล่าให้ผมฟังว่ามันมีความฝันนึงที่มันไม่ได้มีโอกาสได้บอกพ่อกับแม่ว่า มันชอบดนตรี ชอบร้องเพลง และมันอยากเป็นนักร้อง จริงๆแล้วคนที่จุดประกายนี้ให้กับมันคนแรกก็คือแม่ของมันนั่นเองที่เป็นคนส่งมันให้ไปเรียนดนตรีตั้งแต่ตอน7ขวบ และจุดเปลี่ยนที่สุดที่ทำให้มันได้รู้ ว่าดนตรีเป็นเพื่อนที่ดีเวลาเหงา ดนตรีเป็นสิ่งที่ช่วยปลอบประโลมและสร้างกำลังใจให้มันเวลาที่ไม่เหลือใคร และการที่ได้ระบายความรู้สึก อารมณ์ต่างๆผ่านดนตรีและเสียงเพลงทำให้มันคลายความคิดถึงพ่อกับแม่ได้ มันใช้วิธีนี้เรื่อยมา กว่าจะมารู้ตัวอีกทีมันก็รู้สึกแล้วว่า มันคงขาดดนตรีและเสียงเพลงไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
..มันเล่าให้ผมฟังด้วยสีหน้าที่มีความสุข ก่อนที่จะบอกข่าวดีกับผมว่า ตอนนี้ทางค่ายเพลงยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งที่มันได้ส่งเดโมเพลงไปเมื่อหลายเดือนที่แล้ว ได้ตอบรับที่จะให้มันเข้าไปทำ สกรีนเทสต์แล้ว ผมยินดีกับมันมากถึงมากที่สุด ไม่รู้สิ ในนาทีนั้น แค่ผมมองมันปราดเดียวผมก็รู้ว่า มันไม่ใช่คนธรรมดา มันเป็นคนมีของ มีเสน่ห์ มีความน่ารักอยู่ในตัวเต็มเปี่ยม แถมมันยังเล่นดนตรีร้องเพลงได้เพราะ ผมว่าอย่างมันคงจะดังได้ไม่ยาก ไม่รู้ว่าถ้าใครหลายๆคน ได้มาเห็นมันเหมือนอย่างตอนที่ผมเจอมันครั้งแรก ก็จะรู้สึกปิ๊ง และติดตา เพราะความน่ารักน่าหลงไหลในตัวของมันนี่แหละ
.
.
“ครับ ว่ายังครับจี” พอเรามาถึงห้อง ไอ้มือถือเครื่องหรูของมันก็แผดเสียงซะลั่นห้อง ดูท่าคนที่โทรมา จะกระหน่ำโทรมาได้สักพักแล้ว เพราะเครื่องมันสั่นจนไถลจะตกโต๊ะ จนไอ้พีมแทบวิ่งไปรับไว้ไม่ทัน
“อ๋อ.. ก็กำลังจะนอนแล้ว ครับ.. คิดถึงครับ ครับ? วันไหนหรือครับ ได้สิครับ รักครับ กู้ดไนท์ ครับ” เหอะ.. มันรับสายแล้วก็เดินออกนอกระเบียงไป แต่ผมมันประเภทชอบเสือกครับ ผมเลยแอบไปนั่งตรงมุมเก้าอี้ข้างระเบียง ได้ยินมันพูดออดอ้อนหวานหยดกับแฟนมันซะเต็มสองรูหู รู้สึกเจ็บจี๊ดข้างในอกไปเลย อิจฉาผู้หญิงคนนั้นที่สุด ผมคงไม่มีอะไรจะไปเทียบเค้าได้สักแค่ปลายเล็บก็คงไม่มี
รุ่งขึ้นมันก็ให้ผมมาบริษัท GS เอ็นเตอนเทนเมนต์ บรษัทค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ที่ดำเนินธุรกิจเพลง รายการทีวี วิทยุ มีบริษัทลูกแตกไลน์ออกมาผลิตหนัง ทำละครมากมาย ทางทีมงานนัดมัน 11โมงตรง ตอนนี้ก็10.10นาทีแล้ว
“เป็นอะไรน่ะหืม?.. ไม่สบายหรือเปล่า ทำไมดูเงียบๆ ไม่ค่อยพูดเหมือนทุกวันเลย หรือว่ายังไม่หายง่วง” มันพูดกับผมขณะที่จอดรถรอไฟแดง วันนี้ตั้งแต่เช้าผมซึมๆครับ คงเพราะเมื่อคืนหลังจากที่ฟังมันพูดออเซาะฉอเลาะกับเมียมัน ผมก็หงอยไปเลย ไม่รู้เป็นอะไ รอาจเพราะผมอิจฉาหรือเพราะผมรู้ดีว่าผมกับมันคงเป็นได้แค่เท่านี้มั้งครับ มันก็เลยเบลอๆ เหมือนจะหมดแรงยังไงไม่รู้ ทั้งที่ตั้งใจไว้อยู่แล้วว่าจะวางตัวเองไว้ตรงไหน แต่พอมาเจอเข้าจริงๆกับทำใจยากซะอย่างนั้น ก็ได้แต่คิดว่าเวลาจะเยียวยาผมให้หายได้เร็วๆ
“อืมง่วงอ่ะ.. แล้วก็หมดมุขแล้วด้วย วันนี้ของดเล่นตลกหนึ่งวันนะ” ผมพูดพรึมพรำให้มันฟังพร้อมกับเอียงหัวไปแอบซุกไหล่หอมๆของมัน มันก็ยิ้มเผล่แล้วจับหัวผมโยกไปมาแล้วเอื้อมมือมาปรับเบาะให้ผมนอนลง ปิดวิทยุ แล้วปรับแอร์เบาๆ บอกว่าให้ผมนอนไปก่อนถึงแล้วมันจะปลุก
พอหลุดจากถนนสายธุรกิจได้รถลาก็เบาลง ไม่นานเราก็มาถึงครับ ตรงเวลาเป๊ะ ตอนแรกมันจะให้ผมขึ้นไปกับมัน แต่ผมปฏิเสธ ผมกลัวจะไปทำให้มันขายหน้า ใครจะไปรู้ข้างบนนั้นอาจจะมีใครบางคนเคยซื้อผมจากข้างทางก็ได้ ผมไม่อยากจะไปเป็นตัวซวยให้มันครับ ผมเลยให้มันทิ้งผมไว้ที่ร้านอาหารข้างๆตึกสูงนี่ดีกว่า เสร็จแล้วมันค่อยมาหาผม ผมก็อ้างไปนู้นนี่ว่าผมหิว อยากกินของแพงๆ และผมจะรอให้มันมาจ่ายตังค์ มันก็ยิ้มตาหยีน่ารักตามสไตล์ แล้วก็ยื่นบัตรเครดิตการด์พร้อมกับแบงค์พันอีก3ใบไว้ให้ผม มันบอกว่าเผื่อผมเบื่ออยากจะไปเดินเที่ยวที่ห้างใกล้ๆ อยากได้อะไรก็ใช้ไอ้การด์นี่จ่ายเงินเอา แค่พยามเซ็นลายมือให้เหมือนกับข้างหลังบัตรที่สุดเท่านั้น.. ดูสิครับ ก็มันเป็นคนแบบนี้จะไม่ให้ผมรักผมหลงมันได้ยังไง ไม่แน่ว่าถ้าผมเป็นผู้หญิงผมอาจจะวางยามันแล้วลากมันขึ้นเตียงทำตัวเองให้ท้องแล้วไปบังคับให้มันแต่งงานกับผมก็ได้ เหอะๆๆ~
...ผมนั่งค่าเวลาด้วยการเล่นเกมส์ในโทรศัพท์ สั่งนู้นนี่ที่หน้าตาน่ากิน มากินทีล่ะอย่างสองอย่าง จาก1ชั่วโมง เป็น2 เป็น3ชั่วโมง มันก็ไม่เห็นโทรมาสักที ระหว่างที่ผมกำลังเมื่อยตรูดได้ที่ คิดว่าจะไปเดินเล่นห้างไกล้ๆรอมัน หรือว่าจะไปดูหนังสักรอบ อยู่ๆก็มีใครบางคนเข้ามาทักผมครับ เขาเป็นผู้ชายอายุน่าจะซัก30ต้นๆ แต่งตัวดี สุภาพ หน้าตาสะอาดสะอ้าน เราไม่รู้จักกันหรอกครับ แต่เขาบอกว่าเขาสังเกตุเห็นผมนั่งอยู่ตั้งนานแล้ว ก็เลยเข้ามาคุยเป็นเพื่อน เพราะวันนี้เขาก็ว่างๆไม่รู้จะไปไหนเหมือนกัน เขาชื่อทินครับ เขาบอกว่าเขาทำงานแถวๆนี้ แต่อีกไม่นานเขากำลังจะย้ายไปอีกที่ ช่วงนี้ก็เลยว่างๆเพราะเขาเข้ามาเคลียร์งานบางส่วนเท่านั้น ระหว่างที่คุยกันอยู่ไอ้พีมก็โทรมาพอดีครับ มันบอกว่าอีกประมาณ3ชั่วโมงจะเสร็จ ให้ผมขึ้นมานั่งข้างบนหรือจะกลับไปรอที่บ้านก็ได้แล้วแต่ ผมเลยบอกว่าไม่เป็นไรผมอยู่ได้ผมอาจจะไปเดินเล่นห้างแถวๆนี้ ให้มันทำตัวตามสบายไม่ต้องตื่นเต้น เค้าให้ทำอะไรก็ตั้งใจทำให้ดีที่สุด ไม่ต้องห่วงผม แล้วเดี๋ยวอีก3ชั่วโมงผมจะมาเจอมันที่ร้านเดิมพร้อมกับเอาซากเครดิตการด์ที่วงเงินเติมแล้วมาคืนมัน อิอิ มันก็หัวเราะเอิ๊กๆลงคอแล้วก็วางไปครับ
จากนั้นผมกับพี่ทินก็ชวนกันไปเดินเล่นห้างกันครับ แต่เนื่องจากเรากินอิ่มมาจากร้านเดิมแล้ว และไม่รู้จะไปเดินไหนค่าเวลาได้ตั้ง3ชั่วโมง ผมเลยออกความเห็นว่าหาหนังดูสักเรื่องแล้วกัน พี่ทินก็ตามใจผมครับ ผมกับพี่ทินคุยกันแป๊บเดียวก็เหมือนสนิทกันได้ง่ายๆเลยครับ เพราะเขาเป็นคนไนซ์ดี ส่วนผมก็เข้ากับคนง่ายอยู่แล้ว ผมไม่รู้เขามีจุดประสงค์อะไรหรือเปล่า จะจีบผมมั้ย? ก็อาจเป็นไปได้ แต่อารมณ์นี้ผมขี้เกียจคิด ขี้เกียจเล่นเกมส์ใดๆ เพราะผมไม่ได้เจอเขาตามที่เที่ยว หรือตามที่ๆคนเข้ามาเพราะอยากซื้อผมขึ้นเตียง ตอนนี้พี่ทินก็คงเห็นผมในภาพของหนุ่มคนนึงที่มนุษย์สัมพันธ์ดี ไม่ได้คิดว่าผมเป็นพวกอย่างว่า และดูท่าพี่แกก็เซ็งๆเหมือนมีอะไรในใจอาจอยากหาเพื่อนคุย ส่วนผมก็กำลังว้าวุ่นอยู่ไม่น้อยทั้งเรื่องของผมกับพีมและเรื่องที่ผมจะต้องรีบทำใจเมื่อมันจากไป ฉะนั้นวันนี้ก็เลยไม่อยากคิดอะไรให้วุ่นวายได้เพื่อคุยแก้เหงาสักคนก็คงดี
..พอเวลา18.30พอดิบพอดี พระอาทิตย์กำลังตกแสงสีส้มสวยเลย ผมนั่งอยู่ในรถของพี่ทิน กำลังฝ่ารถติดมหาโหดกลับไปที่ร้านอาหารร้านเดิม ที่ตอนนี้ไอ้พีมมันคงกำลังนั่งหน้าบูดเป็นตูดเป็ด ไม่ใช่เพราะมันไม่ได้เป็นนักร้องหรือทำสกรีเทสต์ออกมาไม่ดีหรอกครับ แต่เป็นเพราะมันโทรหาผมแล้วพบว่า ผมกำลังดูหนังอย่างเพลิดเพลินใจจนลืมเวลานัดไปเลย พอมันว่าจะขับรถมาหาผมที่ห้างผมก็ไม่อยากให้มันลำบากฝ่ารถติดอีก เพราะทางกลับบ้านไม่ไม่ใช่ทางนี้ เลยให้มันรอที่ร้านเดิมนั่นแหละ ผมมาถึงที่ร้านเกือบจะทุ่มนึง ผมให้พี่ทินจอดรถส่งผมแค่ที่หน้าร้านไม่ต้องลงไปส่งเพราะผมไม่รู้ไอ้พีมมันจะคิดอะไรหรือเปล่าว่าผมหายไปแป๊บเดียวก็มีคนมาส่งเลย เราร่ำลากับสักพัก พี่ทินขอบอกขอบใจผมที่ผมอุตส่าห์อยู่เป็นเพื่อเขาแล้วให้นามบัตรไว้กับผมว่า หากผมมีอะไรให้เขาช่วยเหลือได้ก็ให้โทรไป
“
โอ้ย..”
“
ใคร.. ไอ้นั่น ที่มาส่งนายน่ะใคร นายไปไหนมาห๊ะ” ระหว่างที่ผมกำลังจะเดินเข้าร้านอยู่ๆก็มีมือกาว จะของใครล่ะถ้าไม่ใช่ไอ้พีมมาฉุดผมไว้ มันนี่ตาไวชะมัดผมพยามๆจะหลบมันแล้วแท้ๆ มันเข้ามาดึงผมไว้แล้วลากมาที่ลานจอดรถด้านหลังที่มันจอดรถไว้ แล้วถามผมหน้าตาดุเอาเรื่องทีเดียว
“ก็เพื่อน.. เพิ่งรู้จักกัน ก็คุยถูกคอดี เลยไปดูหนังมา” ผมก็ตอบไปตามจริง แต่นั่นยิ่งทำให้มือที่กำลังกำข้อมือผมอยู่ขณะนี้ขยำขยี้แรงมากขึ้น มันลากผมมาจนถึงที่รถแล้วเหวี่ยงผมจนแทบเซถลา แล้วมันก็หยุดมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า สายตาที่มันมองมาที่ผม ทำเอาผมแทบหมดแรงขาอ่อนลงเดี๋ยวนั้น ข้างในแววตาที่ผมชอบหนักหนาคู่นั้น มีแต่แววสื่อมาว่า ดูถูกดูแคลน สมเพชผมเสียเหลือเกิน นี่มันกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่?
“เพิ่งรู้จัก หึๆ เพิ่งรู้จักก็ไปกับมันแล้วงั้นเหรอ ..
นายไปดูหนังหรือไปทำอะไรกันแน่ ถึงเพิ่งมาเอาป่านนี้น่ะ” นั่นไงครับ ผมกะแล้ว แค่เห็นสายตาที่มันมองผมก็พอรู้อยู่ว่า มันคงคิดว่าผมไปมั่วมา ก็ดินยังไงมันก็ต้องอยู่บนดินบนพื้นนั่นแหละครับ มันคงไม่มีวันมองผมให้ดีกว่านี้ไปได้
“นายพูดแบบนี้ อยากให้เราไปทำอะไรมาล่ะ
ม่านรูดแถวนี้ดีมั้ย หรือไม่ต้องหรอก อย่างเราแค่จอดรถข้างทางก็.. อ๊ะ!” ผมยังไม่ทันต่อปากต่อคำกับมันเสร็จเลยก็โดนมันคว้าเอาข้อมือแทบหักพลักไปติดกำแพงเข้าแล้ว ตัวมันก็พอๆกับผมนะ แต่แรงมันเยอะกว่ามากครับ อาจเพราะมันออกกำลังตลอด ดูภายนอกเหมือนมันตัวเล็กผอมๆ แต่จริงๆแล้วข้างในมันเป็นกล้ามเนื้อแบบที่ถูกดูแลมาอย่างดีเลยทีเดียว นี่แหละครับนิสัยของผมชอบพูดจาท้าทาย ยั่วโมโหเก่งเป็นที่หนึ่ง และตอนนี้ไอ้พีมมันก็กำลังโมโหผมจนหน้าแดงเถือกเส้นเลือดปูดไปหมด
“
ทำไมต้องทำอย่างนี้!! คิดว่าทำเรื่องต่ำๆ เที่ยวขายตัวมั่วไปทั่วแล้วมันจะช่วยให้ชีวิตดีขึ้นงั้นเหรอ!” ผมฟังคำที่มันกำลังพูดใส่หน้าผมแล้วแทบจะร้องไห้เลยครับ
เจ็บ.. เจ็บมากก ไม่เคยมีใครด่าผมได้เจ็บเท่าครั้งนี้ มันว่าผมต่ำ ผมมั่ว ขายตัว แล้วมันมาคบกับผมทำไม แล้วจะให้ผมทำยังไง ก็ชีวิตผมมันเป็นแบบนี้หนิ ใช่..ผมอาจจะมักง่ายเลือกที่จะขายตัวแลกเงินจำนวนมากแทนที่จะไปขายแรงงานเพื่อแลกกับเงินน้อยนิด แล้วยังไง ก็ในเมื่อผมเป็นเกย์ มีคนมากมายมักเข้ามาหาผมต้องการนอนกับผม แล้วถ้าผมจะใช้ตัวผมให้เป็นประโยชน์สักหน่อยเวลาที่ผมถูกใจจะนอนกับใครแล้วจะเป็นอะไร อีกอย่างคนอย่างผมจะให้ไปทำงานที่ใช้แรงงานใครเขาจะรับ ตัวก็แค่นี้ มีแต่จะโดนไอ้พวกเถื่อนๆมันอุ้มไปสอยตรูดเอาฟรีๆ แต่คนรวยๆอย่างมันคงนึกเรื่องพวกนี้ไม่ออกหรอก มันถึงได้มีหน้ามายืนด่าผมฉอดๆอย่างนี้ ผมยอมรับครับว่าผมอึ้ง โมโห โกรธมันมาก ที่มันมาด่าผม ดูถูกผม แต่ผมเถียงมันไม่ออก ไม่คิดว่ามันจะเห็นผมต้อยต่ำได้ขนาดนี้ ผมไม่อยากเห็นหน้ามันอีกแล้วครับ พอกันที
“ถ้านายคิดว่าเราต่ำขนาดนั้น นายจะมาสนใจคนอย่างเราทำไม ขอบใจที่อุตส่าห์ให้เราได้เข้าไปนอนในบ้านใหญ่ๆของนายนะ แต่เราว่าเราคงไม่เหมาะที่จะอยู่ที่นั่น มันสูงเกินไป เอาของๆนายคืนไป แล้วก็ขอโทษด้วยที่ทำตามสัญญาที่ให้ไว้ไม่ได้” ผมควักบัตรเครดิตและเงินจำนวนสองพันกว่าบาทที่เหลือหลังจากผมจ่ายค่าอาหารไปเมื่อเช้าออกมายัดใส่มือมันแล้วรีบเดินออกจากตรงนั้นไม่หันกลับมามองมันอีก แม้ว่ามันจะตะโกนพูดอะไรต่างๆนานาไล่หลังผมมา หรือมันจะวิ่งมายื้ดยุดผมให้หยุดและกลับไปกลับมัน ผมก็ไม่เอาแล้วครับ ผมเจ็บพอแล้ว เหนื่อย เหนื่อยตั้งแต่ได้ฟังมันคุยกับแฟนมันเมื่อคืนแล้ว มันอาจจะไม่รู้ แต่ผมรู้และเข้าใจตัวเองดีว่ารู้สึกกับมันไปมากเท่าไหร่แล้ว ยิ่งอยู่มีแต่จะยิ่งเจ็บช้ำเปล่าๆ และยิ่งมาเจอมันพูดกับผมแบบนี้อีก
“ต้น
ต้น! หยุดก่อนได้มั้ย จะไปไหน ในตัวนายไม่มีเงินสักบาท ไปกลับเราเดี๋ยวนี้” ผมก้มหน้าเดินๆไปตามทาง ไม่มองกลับ ไม่สนใจรถมันที่ขับไล่มา กระทั่งมันขับปาดผมที่ข้างหน้าแล้ววิ่งลงมาพ่นคำอะไรมากมาย ที่ผมไม่อยากจะฟัง ผมเลยเดินเลี่ยงไปอีกทาง ตั้งใจว่าถ้าสลัดมันหลุดไปได้จะเรียกแท๊กซี่ให้ขับไปส่งผมที่คอนโดแล้วค่อยไปแวะหาตู้กดเงินเอาก็ได้ ผมก็พอมีเงินเก็บอยู่บ้างล่ะครับถึงไม่มากแต่ก็พอมี
..แต่หน้าหนามือกาวอย่างไอ้พีม ตื้อได้ตื้อทนจริงๆครับ มันไม่ยอมปล่อยให้ผมหลุดเลย มันขับรถตามผมจนมันคงทนไม่ไหววิ่งลงมาหิ้ว ต้องใช้คำนี้เลยครับ เพราะผมถูกมันรวบแขนสองข้างแล้วช้อนเอวขึ้นจนขาลอย แล้วถูกโยนเข้ารถที่เบาะหลังรถทันที ผมไม่เข้าใจจริงว่ามันทำอย่างนี้ทำไม มันไม่ได้ชอบผม มันไม่คิดกับผมในเรื่องที่เกินเพื่อน แล้วทำไมมันต้องให้ผมตัวติดกับมันตลอด จะว่ามันเหงาไม่มีเพื่อนอยากให้ผมเป็นเพื่อน แต่มันก็ไม่เห็นเกี่ยวกับเหตุผลที่มันจะต้องมาคอยแว๊ดๆใส่ผมเวลาผมไปกับคนอื่นเลยหนิในเมื่อผมก็กลับมาหามันอยู่ดี ผมไม่หายโกรธมันง่ายๆหรอกครับ มันอยากเป็นแท็กซี่ขับรถให้ผมก็ตามใจ ผมก็นอนคว่ำหน้าอยู่เบาะหลังนี่แหละ มันโยนผมลงมาท่าไหนผมก็จะนอนดื้ออยู่ท่านั้นแหละ
สุดท้ายมันก็ขับรถพาผมกลับมาพระราชวังเวิ้งว้างของมันเหมือนเดิม ตอนนี้หน้ามันไม่ดูดุหน้าดำหน้าแดงเหมือนตอนที่ลานจอดรถนั่นแล้วครับ แต่ดูเหมือนมันจะเหนื่อยหน่ายกับผมมากกว่า เพราะผมยังคงนอนเท้งเต้งอยู่เบาะหลังรถเหมือนเดิมไม่ไปไหน แม้ว่ามันจะเอารถจอดจนลงไปกินข้าวกินอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็ตาม ผมยังไม่หายโมโหมันหนิครับ ในเมื่อผมจะกลับแล้วมันมาจับตัวผมไว้ ผมก็จะไม่ทำอะไรแล้ว ดูสิมันจะทำยังไงอย่างมากก็นั่งจนมันเหี่ยวตายอยู่ในรถนี่แหละ
.
.
***************************************
พรุ่งนี้มาต่อตอนจบให้คร้าบบบบบบ
B a l l o o n