โทโมะจัง
พี่ยูหรือตายูค่ะ
-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-
“ไง โทโมะจัง เดี๋ยวนี้อารมณ์ดีจังนะ มีเรื่องอะไรดีๆหรือเปล่าเนี่ย หืม” ฉันถามน้องชายขึ้นในเช้าวันหนึ่ง เมื่อสังเกตได้ว่า ช่วงนี้เขาดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ดูสิ ฮัมเพลงแต่เช้าเชียว
“อ๋อ ก็...นิดหน่อยฮะ” โทโมะจังตอบด้วยท่าทางเขินๆ ใบหน้านวลสีน้ำผึ้งระเรื่อขึ้น น่าเอ็นดูจริงเชียว น้องใครเนี่ย หึหึ ฉันคิดพลางอมยิ้มออกมา
“เหรอจ๊ะ” ฉันถามแล้วส่งสายตาล้อเลียนไปให้อีกฝ่าย สงสัยฉันคงเป็นพี่สาวประเภทเห่อน้องชายตัวเองแน่ๆ ถึงได้เห็นว่าน้องชายตัวเองนี่ช่างน่ารักเสียจริงๆ โดยเฉพาะเวลาเขินเนี่ย เห็นแล้วอยากจับฟัดจริงๆ
“พี่อ่ะ อย่ามองผมด้วยสายตาแบบนั้นนสิฮะ” ดูสิ เขินใหญ่แล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า น่ารักจริง
“อ่ะ โอเค พี่ไม่ล้อแล้ว ป่ะไปเรียนได้แล้ว ประเดี๋ยวจะไปสายเอา” ฉันเลิกแหย่น้อง เช้านี้เอาเท่านี้ก่อนแล้วกัน ตอนเย็นค่อยแหย่ต่อ หึหึ น้องชายหน้าหวานแบบนี้มีไว้เป็นอาหารตาให้กับพี่สาวอย่างเรา ได้แหย่น้องชายเล่นก่อนไปเรียนนี่ช่างเป็นการเริ่มต้นวันที่สดชื่นดีจริงๆ
“ฮะ งั้นผมไปล่ะ”
“จ้า เลิกเรียนแล้วตรงกลับบ้านเลยนะ” ฉันร้องบอกโทโมะ
“เอ่อ แต่พี่ฮะ เย็นนี้ผม...” โทโมะชะงักอยู่กับที่ทันที แล้วค่อยๆหันหลังกลับมาช้าๆ ด้วยท่าทางไม่มั่นใจ
“เห~? มีเดทหรอกเหรอเนี่ย” ฉันถามพลางทำหน้าประหลาดใจ มีโอกาสแกล้งน้องอีกแล้วสิเนี่ย เช้านี้สงสัยยังอีกยาวไกล(สินะ)
“อ่ะ เอ่อ ฮะ” อีกฝ่ายตอบด้วยท่าทางกระดากอาย มันช่างน่ารักในสายตาพี่สาวคนนี้จริงๆ แต่ก็ไม่อยากให้น้องชายไปเรียนสาย ก็เลยต้องยอมปล่อยตัวให้ไปเรียนแต่โดยดี หากก็ยังแอบเสียดายอยู่นิดๆ
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-
ณ โรงเรียนมัธยมกรีนการ์เด้น
“นี่พี่ยู สงสัยโทโมะจังต้องมีแฟนแล้วแน่ๆเลยอ่ะ” ฉันเอาเรื่องของน้องชายสุดรักสุดสวาทมาปรึกษาคนรักที่เรียนอยู่ที่เดียวกัน
“เห? โทโมะจังเนี่ยนะ มีแฟนแล้ว พูดจริงหรือเปล่าเนี่ย” อีกฝ่ายถามกลับอย่างไม่อยากเชื่อ หึหึ คงรู้สึกเหมือนฉันแน่ๆเลย ที่คิดว่าโทโมะจังยังเด็กอยู่
“อ่าว ทำไมล่ะ แล้วนิจิจะโกหกให้มันได้อะไรขึ้นมาล่ะเนี่ย” ฉันแกล้งถามอีกฝ่าย
“ก็ พี่ยังรู้สึกว่าโทโมะจังเขายังเด็กอยู่เท่านั้นล่ะ” ฮ่าฮ่าฮ่า นั่นปะไร คิดเหมือนกันจริงๆด้วยสินะ อืม จะว่าไป พี่ยูจะคิดแบบนั้นมันก็ไม่แปลกอะไรนักหรอก เพราะว่าฉันกับโทโมะจังน่ะ เจอพี่ยูพร้อมกันน่ะสิ แล้วตอนนั้นโทโมะจังก็ยังอยู่ชั้นประถม 6 อยู่เลย ส่วนฉันอยู่มัธยมต้นปีที่ 2 พี่ยูอยู่มัธยมต้นปีที่ 3 ตอนนี้โทโมะจังก็อายุเท่าพี่ยูตอนนั้นแล้ว แต่ถึงอย่างนั้น ฉันก็ยังเห็นว่าโทโมะจังยังเด็กอยู่อยู่ดีนั่นแหละ
“นิจิก็คิดว่าโทโมะจังยังเด็กอยู่เหมือนกันแหละ แต่ถ้าจะคิดให้ดีแล้วเนี่ย ปีนี้โทโมะจังอายุ 15 แล้วนะ แต่เอ๊ะ ยังไงก็ยังเด็กอยู่จริงๆนั่นแหละ แต่คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง...นะ ความรักช่วงนี้ก็คงจะเป็นแบบรักแรกอะไรแบบนั้นล่ะ รักในวัยเรียนน่ะ คงไม่มีอะไรให้ต้องเป็นห่วงหรอกเนอะ” ฉันคิดเองเออเองสรุปเองเสร็จสรรพ เหมือนพูดกับตัวเองมากกว่าที่จะปรึกษาคนข้างๆ
“อืม พี่ก็ว่าอย่างนั้นนะ พวกเราก็แค่คอยดูแลอยู่ห่างๆก็พอแล้วล่ะ ว่าแต่ เคยเห็นหน้าเด็กคนนั้นหรือยังล่ะ” พี่ยูถาม
“ไม่เคยหรอก ไว้เย็นนี้จะบอกให้โทโมะจังพาตัวมาแนะนำให้รู้จักซะหน่อย อยากรู้จังว่าจะหน้าตาน่ารักขนาดไหนนะ จะน่ารักกว่าโทโมะจังไหมเนี่ย” ฉันว่าพลางทำหน้าครุ่นคิด
“ฮ่าฮ่าฮ่า ยังเป็นพี่ที่เห่อน้องไม่เปลี่ยนเลยแฮะ” พี่ยูหัวเราะพลางขยี้ผมของฉันอย่างหมั่นเขี้ยว
“โอ๊ย พี่ยู ทรงผมนิจิเสียทรงหมดแล้วเนี่ย ชิชิชิ” ฉันเหลือบมองอีกฝ่ายอย่างขุ่นเคือง บังอาจมาแตะต้องทรงผมของฉันได้ยังไงเนี่ย ยิ่งจัดทรงยากๆอยู่ข้าง เฮ้อ ขี้แกล้งจริงๆเชียว นิสัยเหมือนใครก็ไม่รู้ ชิ
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-
ที่บ้าน
“พี่ยูขอบคุณนะคะที่มาส่ง” ฉันกล่าวขอบคุณที่พี่ยูมาส่งถึงบ้าน
“จ้า งั้นพี่ไปนะ” พี่ยูเอ่ยลา แต่ฉันก็เรียกรั้งไว้เสียก่อน แล้วบอกอีกฝ่ายไปว่า “กลับบ้านดีๆนะ เดินระวังๆด้วย อย่าเดินตกท่อล่ะพี่ ยิ่งซุ่มซ่ามอยู่” ฉันแกล้งแซวพี่ยูเล่น ก็จริงนี่นา พี่ยูน่ะ ซุ่มซ่ามตัวยงเลยเชียวล่ะ
“จ้า~” พี่ยูหันกลับมาบอก แต่ก็ยังไม่วายแอบส่งสายตาเคืองๆมาให้ฉันได้แอบขำก่อนกลับไป
เมื่อพี่ยูเดินไปแล้ว ฉันก็ตรงเข้าบ้าน เฮ้อ เหงาจัง โทโมะจังยังไม่กลับเลยแฮะ วันนี้จะกลับมากินข้าวเย็นไหมเนี่ย แต่แหม มีเดทแบบนี้คงกินจากข้างนอกมาเรียบร้อยแล้วล่ะสิ แต่เอาเถอะ จะทำเผื่อแล้วกัน กันเหนียว ว่าแล้วฉันก็เดินไปเก็บกระเป๋า อาบน้ำเสร็จจึงลงมาทำอาหารเย็นกินโดยไม่ลืมที่ทำเผื่อน้องชายด้วย
“กลับมาแล้วคร้าบบบบบบบบบบบบ” ฮ้า กลับมาแล้วสินะเจ้าน้องชาย แหม ดูสิ เสียงสดใสมาเชียวนะ
“กลับมาแล้วหรอจ๊ะ แล้วกินอะไรมาหรือยังละ” ถามไปอย่างนั้นเองแหละ ที่จริงก็รู้อยู่หรอก ไปเดทก็ต้องกินกลับมาแล้วทั้งนั้นล่ะ
“ยังฮะ พี่ฮะเย็นนี้มีอะไรกินบ้างฮะ” เห? ยังไม่ได้กินอีกหรอเนี่ย ฉันได้แต่มองตามน้องชายที่เดินเข้าไปในครัว และฉันก็เดินตามเข้าไปอีกคน เห็นโทโมะจังกำลังเปิดๆปิดๆหม้อเพื่อดูว่ามีอะไรให้กินบ้าง
“แล้วทำไมไม่กินจากข้างนอกมาเลยล่ะ นี่ถ้าพี่ไม่ได้ทำเผื่อเราจะทำยังไงเนี่ยหืม” ฉันถาม ไม่ได้ประชดหรอกนะ แต่ก็จริงนี่นา ถ้าไม่ได้กินมา แล้วฉันไม่ได้ทำเผื่อจะทำยังไงกันล่ะ ถ้าเป็นแบบนั้นคงต้องทอดแค่ไข่ดาวให้กินแน่ๆ
“ก็...อยากกลับมากินข้าวกับพี่มากกว่านี่นา” ฉันได้ฟังก็อมยิ้ม หึหึ จะกลับมากินข้าวพร้อมฉันนี่นะ น่ารักไปไหมเนี่ย
“อ่ะ เอาล่ะ เอาล่ะ รีบกินแล้วจะได้ขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้า พี่มีอะไรจะคุยด้วยหน่อยน่ะจ่ะ” ฉันเร่งน้องชาย
เมื่อโทโมะกินข้าวเสร็จก็รีบขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ระหว่างนั้นฉันก็จัดการเก็บล้างถ้วยชามให้โทโมะ แล้วจึงมานั่งรออยู่ที่โซฟาหน้าโทรทัศน์ สักพักจึงได้ยินเสียงฝีเท้าเดินลงบันไดมา ไม่ต้องหันหน้าไปดูก็รู้ว่าเป็นใคร จากนั้นจึงรู้สึกถึงน้ำหนักที่ทิ้งตัวลงมาที่โซฟาตัวเดียวกัน ฉันจึงหันไปมองโทโมะเพื่อที่จะพูดในสิ่งที่อยากพูด เป็นต้องขมวดคิ้วมุ่นขึ้นมาทันที
“นี่โทโมะ สระผมมาใช่ไหมเนี่ย แล้วทำไมไม่เช็ดผมให้แห้งล่ะ ดูสิผมยังเปียกอยู่เลยเนี่ย” ฉันถามออกไปด้วยความเป็นห่วง ประเดี๋ยวจะไม่สบายเอาน่ะสิ จริงๆเลย น้องคนนี้นี่ ชอบทำให้เป็นห่วงเรื่อยเลย ฉันคิดขณะเดินขึ้นไปข้างบนเพื่อเอาผ้าขนหนูลงมาเช็ดผมให้น้อง โดยไม่รอให้อีกฝ่ายกล่าวอะไร หยิบเสร็จแล้วจึงรีบเดินลงมาที่ข้างล่างทันที
“ขอบคุณฮะพี่” โทโมะว่าเสียงใสพลางยิ้มสดชื่นมาให้ ทำให้ฉันอดที่จะคลายจากอารมณ์เสียไม่ได้
“เฮ้อ จริงๆเลยน้องคนนี้นี่” ฉันพูดพลางถอนใจเฮือกใหญ่
“ว่าแต่ พี่มีอะไรจะพูดกับผมหรอฮะ” เออ นั่นสินะ ถ้าโทโมะไม่ถามฉันคงลืมไปแล้วนะเนี่ย
“โทโมะ ตอบพี่ตามตรงนะ เราน่ะ มีแฟนแล้วใช่ไหม” ฉันพูดน้ำเสียงจริงจัง ซึ่งแตกต่างจากเมื่อครู่นี้พอสมควร มองสบตาน้องชายเพื่อรอคำตอบ
“เอ่อ ฮะ” ฉันมองเห็นแววตาที่ประหม่าของโทโมะ นี่คงรักเขาเข้าจริงๆสินะ น้องฉัน
“แล้วเด็กคนนั้นน่ะ ชื่อเสียงเรียงนามอะไรล่ะ” ฉันถามพลางอมยิ้ม
“เอ่อ คือ ชื่อ ทางุจิ จุนโนะสุเกะฮะ” ทำไมโทโมะพูดออกมาเหมือนไม่มั่นใจเลย มีอะไรหรือเปล่านะ เหมือนกับไม่ค่อยอยากให้ฉันรู้จักเด็กคนนั้นเลยแฮะ ก็แค่เด็กที่ชื่อทางุจิ จุนโนะสุเกะเท่านั้นเองนี่นา แต่...เอ๊ะ ทางุจิ...จุนโนะสุเกะงั้นหรอ
“ชื่อจุนโนะสุเกะงั้นหรอ งั้นก็ต้องเป็นเด็กผู้ชายน่ะสิโทโมะ” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงเครียดออกมาโดยไม่รู้ตัว แต่จากท่าทางของโทโมะแล้วฉันก็คิดว่าตัวเองคงพูดด้วยเสียงน่ากลัวออกไปแน่ๆ แต่ก็ทำได้แค่รอฟังคำตอบที่ฉันเองก็พอที่จะรู้แล้วจากอีกฝ่าย
“เอ่อ ฮะ เอ่อ พี่ เอ่อ “ โทโมะพูดติดขัดจนฉันนึกสงสารขึ้นมา
“เฮ้อ ไม่เห็นต้องกลุ้มใจขนาดนั้นเลยนี่นา พี่ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย” ฉันพูดกับโทโมะแล้วยิ้มออกมาให้อีกฝ่ายได้สบายใจ
“เอ่อ พี่ไม่ว่าอะไรหรอฮะที่ ผม เอ่อ”
“จ้า แล้วพี่จะว่าอะไรได้ล่ะ หืม เรามีกันแค่สองคนพี่น้องนะ คนที่โทโมะรัก พี่ก็ต้องรักสิจ๊ะ” ฉันพูดให้กำลังใจน้อง เท่านั้นแหละ รอยยิ้มแจ่มใสก็แต่งแต้มทั่วใบหน้านวลทันที
“จริงหรอฮะ ผมดีใจจัง” พูดจบโทโมะก็โถมตัวเข้ามากอดฉันจนแทบจะหายใจไม่ออก จึงเกือบที่จะหงายหลังตกโซฟา แต่ดีที่ฉันตั้งหลักได้เสียก่อน
“เอ้า เบาๆหน่อยสิ เดี๋ยวก็ตกเก้าอี้กันพอดี” ฉันทำเสียงดุๆ แต่ก็ไม่ได้จริงจังอะไร ออกจะขำๆเสียด้วยซ้ำ
“ขอโทษฮะ” โทโมะพูดขอโทษพลางยิ้มแหยๆอย่างคนสำนึกผิดมาให้
“หึหึ เอ้อ ว่าแต่ พี่อยากเจอเด็กคนนั้นจัง วันหลังพามาที่บ้านให้พี่ได้รู้จักด้วยสิ พี่จะได้ช่วยดูให้ด้วยว่าเด็กคนนั้นจะรักน้องพี่จริงหรือเปล่า นะ” ฉันพูดในสิ่งที่คิดออกไป ที่จริงแล้วก็อยากรู้จักนั่นแหละนะ
“ฮะ” โทโมะตอบรับพลางยิ้มกว้างด้วยความดีใจ ทำให้ฉันอดที่จะยิ้มตามไปด้วยไม่ได้
“วันนี้มีการบ้านหรือเปล่าเนี่ย หืม” ฉันถาม
“ฮะ มี เยอะด้วยแหละ” โทโมะตอบ ยังยิ้มไม่ยอมหุบอยู่
“อ่ะ มีการบ้านก็ไปทำเถอะไป เดี๋ยวจะนอนดึกเอา” ฉันเป็นห่วง นอนดึกเดี๋ยวหน้าหมองหมดราศีกันพอดี
“ฮะ เอ่อ พี่ฮะ ขอบคุณนะฮะ” เจ้าตัวพูดจบจึงลุกขึ้นเดินขึ้นไปทำการบ้านบนห้อง ปล่อยให้ฉันอยู่ข้างล่างคนเดียว ฉันอยู่ว่างๆก็เปิดโทรทัศน์ดูเปลี่ยนช่องไปเรื่อย เมื่อไม่พบว่ามีช่องไหนน่าดู จึงปิดแล้วเดินขึ้นห้องไปอ่านหนังสือ
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-
โรงเรียนมัธยมกรีนการ์เด้น
“พี่ยูคะ นิจิไปคุยกับโทโมะจังแล้วล่ะ เรื่องนั้นน่ะ” ฉันเปิดประเด็นขึ้นมาในขณะที่กำลังกินอาหารกลางวันที่โรงเรียน
“อ้อ หรอ แล้วโทโมะว่าไงล่ะ” อีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมาถามฉัน
“โทโมะจังบอกว่าวันหลังจะพามาให้รู้จักค่ะ” ฉันตอบพลางระบายยิ้มไปให้คนที่นั่งฝั่งตรงข้าม
“อื้มดีนะ พี่น้องคู่นี้นี่ไม่มีอะไรปิดบังกันดีจริงๆ” ฉันดูจากสายตาพี่ยูก็รู้ว่าพี่เขารู้สึกอย่างที่พูดไปจริงๆ ฉันจึงได้แต่ยิ้มตอบกลับไปอย่างภูมิใจ ก็แน่ล่ะ มีกันแค่ 2 คนเองนี่นา พ่อกับแม่ก็ไปทำงานที่เมืองนอกกันทั้งคู่ ไม่ให้ห่วงน้องแล้วจะให้ไปห่วงแมวที่ไหนล่ะเนี่ย
“เอ่อ พี่ยู เย็นนี้กลับด้วยกันนะ ฉันมีเรื่องจะคุยด้วยน่ะ” ฉันเปลี่ยนสีหน้าเป็นจริงจังขึ้นมาแล้วพูดออกไปด้วยน้ำเสียงซีเรียส
“อื้ม ก็ต้องกลับด้วยกันอยู่แล้วนี่ มีอะไรหรือเปล่า” พี่ยูถามด้วยเสียงที่ฟังดูก็รู้ว่าพี่ยูเป็นห่วง ทำให้ฉันสบายใจขึ้นมาได้บ้าง
“เอาน่าพี่ ตอนนี้ยังคุยไม่ได้ ไว้ค่อยคุยตอนนั้นแล้วกันค่ะ” ฉันพูด เพราะไม่อยากพูดกลางโต๊ะอาหารในโรงอาหาร
“อืม เอางั้นก็ได้ แล้วแต่เราแล้วกัน” พี่ยูยิ้มให้อย่างเข้าใจ พอกินเสร็จพี่ยูก็เดินไปส่งฉันที่ห้องเรียน จากนั้นจึงเดินกลับห้องตัวเอง
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-
ตอนเย็น
พอออดเลิกเรียนดังปุ๊บฉันก็รีบเก็บของปั๊บ ทั้งที่อาจารย์ยังไม่ทันออกจากห้องด้วยซ้ำ พออาจารย์ออกจากห้องไปแล้ว ฉันเก็บของเสร็จพอดี จึงรีบเดินออกจากห้องทันที พอพ้นประตูห้องเรียนก็เจอเข้ากับพี่ยูที่มายืนคอยอยู่ก่อนแล้ว เพราะนักเรียนม.ปลายปี 3 จะเลิกเร็วกว่าชั้นปีอื่น ฉันจึงเดินเข้าไปหา แล้วเดินออกไปด้วยกัน
“เราน่ะ มีอะไรจะคุยหรอ ว่ามาสิ” พอเดินมาจนถึงหน้าประตูโรงเรียน พี่ยูก็ถามขึ้น พี่ยูนี่ความจำดีจริง
“เอ่อ เดี๋ยวก่อนแล้วกันค่ะ วันนี้โทโมะจังกลับช้า ไปคุยกันที่บ้านแล้วกัน” ฉันพูดพลางเดินต่อไป จะให้คุยกันตรงนี้ก็ไม่น่าจะเหมาะแฮะ มีนักเรียนเยอะแยะไปหมดอย่างนี้
“อื้ม เอางั้นก็ได้ ท่าทางจะเป็นเรื่องสำคัญมากเลยสินะเนี่ย” พี่ยูหันหน้ามามองฉันแล้วถามขึ้นมา
“ค่ะ สำคัญมากเลยแหละ” ฉันทำได้แค่ตอบกลับไปแค่นี้เท่านั้น เพราะรายละเอียดนั้นฉันคิดว่าต้องพูดที่บ้านเท่านั้น ถึงจะสะดวกกว่า
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-
ที่บ้าน
เมื่อกลับมาถึงบ้าน ฉันจึงจัดการไขกุญแจแล้วเชื้อเชิญให้พี่ยูเข้าไป จากนั้นก็บอกให้พี่ยูไปนั่งที่โซฟาก่อน แล้วฉันก็เข้าไปเอาน้ำมาให้พี่ยู และนั่งลงที่โซฟาตัวข้างๆกัน
“คือ พี่ยู เอ่อ” ฉันเปิดประเด็นขึ้นอีกครั้ง ฉันรู้สึกลำบากใจที่จะปรึกษาอีกฝ่าย ด้วยไม่รู้ว่าพี่เขาจะคิดยังไงกับเรื่องนี้ จึงพูดค้างไว้ก่อน
“หืม?” พี่ยูหันหน้ามาทางฉันที่จู่ๆก็หยุดพูดไป
“คือ พี่ยูคิดยังไงเกี่ยวกับเรื่อง เอ่อ ผู้ชายกับผู้ชาย..” ฉันถามออกไป ตอนท้ายประโยคเบาราวกระซิบ ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะได้ยินหรือเปล่านะ
“เห? ผู้ชายกับผู้ชายหรอ มีอะไรหรือเปล่า” พี่ยูถามน้ำเสียงอ่อนโยน ทำให้ฉันรู้สึกสบายใจขึ้น หากจะพูดเรื่องโทโมะจังออกไปให้อีกฝ่ายฟัง ...คงไม่เป็นไรสินะ
“คือ คนรักของโทโมะจังเป็น...” ฉันพูดค้างไว้อีกแล้วสิ จนพี่ยูต้องเอ่ยพูดต่อประโยคให้จนจบ
“ผู้ชายใช่ไหม” เสียงพี่ยูนิ่ง นิ่งซะจนฉันกลัว ทำไมล่ะ เมื่อกี้เสียงพี่ยูยังอ่อนโยนอยู่เลย ทำให้ฉันนึกกังวลขึ้นมาว่า พี่ยูจะว่าอะไรหรือเปล่านะ จะรังเกียจไหม เฮ้อ รู้สึกอึดอัดจัง ทำไมเงียบไปแบบนี้ล่ะ ฉันได้แต่ก้มหน้ามองมือที่วางบนตักตัวเองอยู่อย่างนั้นด้วยความไม่สบายใจ แล้วฉันก็สะดุ้งตกใจเล็กน้อยเมื่อพี่ยูเอื้อมมือมาแตะที่ฝ่ามือฉันเบาๆ ความไม่สบายใจ ความรู้สึกอึดอัดที่รู้สึกเมื่อครู่ก็บรรเทาเบาบางลงจนไม่หลงเหลือถึงความรู้สึกนั้นอีก ฉันสบายใจขึ้นมาก จนสามารถมองหน้าพี่ยูตรงๆได้ แล้วก็เห็นพี่ยูมองมาอยู่ก่อนแล้ว มันเป็นสายตาที่อ่อนโยนเหลือเกิน
“ไม่เป็นไรนะ พี่ไม่ได้ว่าอะไรหรอก เรื่องแค่นี้เองนี่” พี่ยูพูดแล้วก็ยิ้มให้ฉันอย่างใจดี ฉันจึงยิ้มตามไปด้วย
“หรอคะ เอ่อ พี่ยูไม่รังเกียจโทโมะหรอ” เมื่อรู้สึกสบายใจขึ้น ฉันถึงกล้าถามพี่เขาออกไป
“แล้วทำไมพี่ต้องรังเกียจโทโมะด้วยล่ะ” พี่ยูพูดแล้วเลิกคิ้วถาม ทำให้ฉันต้องยิ้มออกมาด้วยความดีใจ
“ดีใจจัง ที่พี่ยูไม่รังเกียจ” ฉันพูดทั้งที่ยังไม่หุบยิ้ม
เมื่อคุยธุระเสร็จ พี่ยูก็ยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่มจนหมดแก้ว แล้วจึงขอตัวกลับ เมื่อพี่ยูกลับไปแล้ว ฉันจึงขึ้นไปทำการบ้านที่ข้างบนเพื่อรอน้องชายกลับมา วันนี้มีการบ้านน้อย ฉะนั้นขอทำการบ้านก่อนแล้วกัน เดี๋ยวค่อยลงไปทำอาหาร จะได้กินพร้อมโทโมะจังด้วยเลย
“กลับมาแล้วคร้าบบบบบบบ” เสียงดังขึ้นที่ข้างล่าง บ่งบอกให้รู้ว่าสมาชิกภายในบ้านอีกคนได้กลับมาถึงแล้ว พอดีกับที่ฉันทำการบ้านเสร็จพอดี ฉันจึงลงไปข้างล่างทันทีหลังจากที่เก็บการบ้านเข้าที่แล้ว
“กลับมาแล้วหรอ ป่ะ ไปอาบน้ำก่อน เดี๋ยวพี่จะทำอาหารให้กินนะ” ฉันพูดพลางเดินเข้าไปในครัว เพื่อทำหน้าที่แม่บ้านประจำบ้าน ซึ่งเป็นหน้าที่ที่ทำอยู่ประจำ
“ฮะ” ดีจัง วันนี้เสียงก็สดใสอีกแล้ว นี่แหละน้า คนกำลังมีความรัก หึหึ
“จ้า แล้วลงมาเร็วๆล่ะ” ฉันพูดไปมือก็เปิดตู้เย็นเพื่อที่จะเอาของสดออกมาประกอบอาหาร
“ฮะพี่” จากนั้นเสียงเดินขึ้นบันไดก็ดังขึ้นแล้วค่อยๆเบาลง เป็นที่รู้กันว่าอีกคนได้เดินขึ้นไปข้างบนแล้ว ฉันจึงมุ่งสมาธิไปกับการทำอาหารจริงๆจังๆเสียที เวลาผ่านไปสักพัก จึงได้ยินเสียงขึ้นจมูกของน้องชายดังขึ้น
“ฮ้า หอมจังฮะ พี่ให้ผมช่วยไหม” โทโมะที่จัดการกับตัวเองเสร็จแล้ว ก็เดินเข้ามาในครัวทันที ปากพูดตาก็มองหาว่ามีอะไรที่พอจะช่วยทำได้บ้าง
“เอ้าดีเลย มาคนแกงนี่ให้พี่ดีกว่า เนี่ยจะเสร็จแล้วล่ะ” ฉันจึงหางานให้ทำเสียเลย ส่วนตัวเองก็หันไปทำอย่างอื่นที่รออยู่ ไม่นานอาหารเย็นสำหรับวันนี้ก็เสร็จสิ้นและพร้อมที่จะลำเลียงออกไปวางไว้บนโต๊ะอาหารได้แล้ว
เมื่อกินข้าวเสร็จแล้ว จึงช่วยกันเก็บจานชามที่กินแล้วไปล้าง ฉันทำหน้าที่ล้างโทโมะจังทำหน้าที่เช็ดจาน พอเสร็จแล้วจึงพากันออกไปดูโทรทัศน์
“โทโมะ วันเสาร์นี้ว่างไหม” ขณะที่กำลังดูรายการโทรทัศน์อยู่นั้น จู่ๆฉันก็ถามขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
“เห? วันเสาร์หรอฮะ คือ ผมมีนัดแล้วอ่ะฮะ” โทโมะพูดเสียงอ่อยๆ ทำให้ฉันรู้ทันทีว่านัดกับใครไว้ จึงได้แต่คิดว่า เฮ้อ นี่แหละน้า คนมีแฟน ก็ต้องให้เวลากับคนรักบ้างสิเนอะ คิดอย่างนั้น แต่ในใจก็อดที่จะรู้สึกเหงาขึ้นมาไม่ได้
“อืม งั้นหรอ ไม่เห็นเป็นไรเลย ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ พี่ไม่ได้ว่าอะไรซะหน่อย” ฉันพูดพลางยิ้มให้ ยิ้มที่ทำให้อีกฝ่ายรู้ว่าฉันไม่ได้คิดอะไร
“หรอฮะ ขอโทษฮะ” แน่ะ ยังทำหน้ารู้สึกผิดอีก
“นี่ ถ้ายังไม่ยิ้มให้พี่อีกนะ พี่จะไม่อนุญาตให้เราไปเดทจริงๆด้วย” เมื่อพูดดีด้วยแล้วไม่ได้ผลก็ต้องใช้ไม้นี้แหละ ฉันพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง และก็เป็นผลให้โทโมะยิ้มกว้างให้ฉันทันที ฉันจึงยิ้มตอบกลับไปเช่นกัน
“ว่าแต่ พี่จะชวนผมไปไหนหรอฮะ” โทโมะถามฉันด้วยท่าทางสงสัย พลางเอียงคอน้อยๆแต่พองามทำให้เด็กชายตรงหน้าฉันดูไร้เดียงสายิ่งขึ้น
“ก็กะว่าจะพาไปกินอาหารนอกบ้านซะหน่อยน่ะ พอดีพรุ่งนี้เงินเดือนจากงานพิเศษพี่ออก เลยกะว่าจะพาไปเลี้ยง พี่ยูก็ไปด้วยนะ”
“เห? พี่ยูไปด้วย พี่จะเลี้ยงอาหารพี่ยูด้วยหรอฮะ” โทโมะถามพลางอมยิ้มจนแก้มตุ่ย น่าหมั่นเขี้ยวนัก
“ตอนแรกพี่กะว่าจะพาเราไปด้วย พี่น่ะจะเลี้ยงเราคนเดียวเท่านั้นแหละ ส่วนตายูก็ออกเองสิ เรื่องอะไรพี่ต้องเลี้ยงเขาด้วยล่ะ” ฉันอธิบาย มีน้องไปด้วยก็ต้องเลี้ยงน้องสิ จะเลี้ยงทำไมคนอื่น ถึงคนอื่นในที่นี้จะเป็นแฟนตัวเองก็เถอะ แต่ถ้าจะให้เลือกเลี้ยงจริงๆก็ต้องเลือกเลี้ยงน้องอยู่ดี
“หรอฮะ อื้ม แต่ถึงผมไปได้ ผมก็ไม่อยากไปหรอกฮะ” โทโมะพูดออกมา ทำให้ฉันต้องขมวดคิ้วทันที ทำไมล่ะ ไม่อยากไปกับฉันหรอ นี่ฉันโดนน้องชายเบื่อหน้าแล้วใช่ไหมเนี่ย ฉันคิดสงสารตัวเอง หัวใจห่อเหี่ยว
“ก็...ผมไม่อยากเป็นก้างน่ะสิฮะ แหมคู่รักจะไปหวานชื่นกันสองคน แล้วผมจะไปทำไมกันล่ะ จริงไหมฮะ” โทโมะเฉลยให้ฟังโดยไม่ต้องให้ฉันถามแล้วยิ้มขำออกมา
“ไม่จริง ไม่จริงเลยขอบอก พี่กับพี่ยูเคยหวานกันซะที่ไหนล่ะ เราก็เคยเห็นนี่ แล้วในโอกาสพิเศษแบบนี้พี่ก็อยากจะอยู่กับคนสำคัญของพี่บ้างสิจ๊ะ อ๊ะ แล้วก็ไม่ต้องพูดเลยนะว่าคนสำคัญของพี่น่ะ คือพี่ยู” ฉันพูดดักคอน้องชายไว้ก่อนเลย ที่จริงแล้วคนสำคัญก็ใช่พี่ยูหรอกนะ แต่ถ้าให้เทียบความสำคัญจริงๆแล้วน่ะ ที่สำคัญที่สุดก็คนที่อยู่ตรงหน้าฉันนี่แหละ เจ้าน้องชายที่น่ารักของฉันคนนี้อย่างไรล่ะ
“อ้าว แล้วพี่ยูไม่สำคัญหรอฮะ” เฮ้อ ยัยเด็กคนนี้นี่คนนึง ฉันคิดพลางถอนใจอย่างกลุ้มๆ
“โทโมะ” ฉันพูดเสียงดุส่งสายตาอาฆาตไปให้ เป็นเชิงให้หยุดได้แล้ว เท่านั้นแหละโทโมะถึงหยุดได้ แต่ก็ยังมีหัวเราะคิกคักอยู่
“เอ้า มีการบ้านหรือเปล่าเนี่ย ไปทำการบ้านได้แล้วไป” ฉันได้ทีไล่น้องชายให้ขึ้นไปทำการบ้านทันที ไม่ไหวมานั่งต่อล้อต่อเถียงกับโทโมะแล้ว
“ฮะ ฮะ อ่อ พี่ฮะ” โทโมะจังที่กำลังจะลุกเพื่อจะขึ้นไปทำการบ้านเรียกฉัน
“หืม อะไรล่ะ” ฉันถามออกไปเสียงออกจะห้วนสักหน่อย เพราะไม่รู้ว่าจะมาไม้ไหนอีก จะแซวอะไรอีกก็ไม่รู้
“คือว่า ผมจะพารุ่นพี่ทางุจิมาให้พี่รู้จักวันอาทิตย์หน้านะฮะ พี่ทำตัวให้ว่างด้วยนะฮะ” โทโมะบอก พอฉันพยักหน้ารับรู้พลางยิ้มกว้างออกมา โทโมะจังจึงเดินขึ้นไปทำการบ้าน วันอาทิตย์หน้านี้งั้นหรอ อืมม ได้สิ จะทำตัวให้ว่างเข้าไว้ แล้วก็จะบอกพี่ยูด้วย ให้มาช่วยกันดูเจ้าหนุ่มนั่นอีกคน
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-
To be con.. 2
อ่านตอนแรกอาจจะงงๆเนอะ มันวายตรงหนายย แต่ก็อยากให้อดทนอีกนิดส์ค่ะ พอดีเรื่องเน้นเรื่องพี่สาวเห่อน้องชายน่ารักค่ะ เอาเรื่องตัวเองมายำซะ 555 ยังไงก็ฝากด้วยนะคะ