กับดักรักหลุมที่ 3
.
.
.
.
ขณะนี้เป็นเวลา 01.30 ทุกคนเริ่มเข้านอนกันหมดแล้ว แต่แม่ไอ้ฟอสทำข้าวต้มรอบดึกไว้ให้ เลยมีบางส่วนที่นั่งกินกันอยู่หน้าโซฟา และบางส่วนก็นอนๆนั่งอยู่แถวนั้น ห้องน้ำมีทั้งข้างล่างและข้างบน ผมรอให้พวกมันอาบเสร็จก่อน แล้วค่อยอาบคนสุดท้าย ส่วนไอ้ฟอสกับไอ้กรรกำลังขนที่นอนลงมาเพิ่ม สมาชิก 6/5 โรงเรียนสิริธารฯ เยอะได้อีก แม่งมองไปทางไหนก็อืดอ่ะ พวกผู้หญิงก็ไม่แคร์ครับ ว่าจะทำหน้าตาหรือแสดงอะไรๆออกมาได้ เป๋อๆ หรือฮา ๆ เพราะสนิทกันอยู่แล้ว
เต็มที่เลยครับงานนี้ ใครอยากนอนตรงไหนก็เลือกได้เต็มที่ เจ้าของบ้านอย่างไอ้ฟอสก็ต้องลงมานอนข้างล่าง เพราะไม่มีใครนอนข้างบน ผมเห็นมันซุบซิบกับไอ้ยูกันสองคนตอนที่ผมเผลอ แล้วก็ได้คำตอบว่า ไอ้ยูมันอยากให้ผมนอนข้างบน ไอ้ฟอสก็บอกว่าเดี๋ยวจัดการให้ แต่ปรากฏว่าไอ้ฟอสหักหลังไอ้ยูครับ กักตัวผมให้นอนด้านล่าง ซึ่งผมก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรอยู่แล้ว นอนข้างล่างก็ไม่เสียหายอะไร เพื่อนเยอะอีกต่างหาก
“ถึงบ้านยัง?” ผมเดินไปรับโทรศัพท์ ที่ไอ้ทองเดินมายื่นให้ สงสัยมันดังจนพวกมันหนวกหูแน่ๆ ไม่งั้นคงไม่มีใครหน้าไหนเดินเอามาให้ถึงตัวอย่างนี้
“ถึงแล้วครับ...............” เสียงปิดประตูรถดังแทรกเข้ามา อะไรจะเคร่งครัดต่อหน้าที่ปานนั้น ถึงห้องก่อนก็ได้ แล้วมึงค่อยโทรมา กูก็ไม่ว่า
“กินข้าวเลยนะมึง ห้ามลืม ไปกินเลย อิดๆออดๆ อาบน้ำเสร็จแล้วค่อยโทรมาทีเดียวเลย”
“กินข้าวตอน ตีหนึ่งเนี่ยนะครับ” เอ๊าๆ!! มันจะแปลกตอนไหน บางวันกูยังลุกขึ้นมากินตอน ตีสองตีสามเลย อารมณ์หิวมันมาเมื่อไร เราก็สนองมันเมื่อนั้น
“หรือมึงจะไม่กิน งั้นพรุ่งนี้ไม่ต้องเสนอหน้ามารับกู...” ขู่มันกลับบ้างแหละดี มันเข้มงวดกับผมได้ แล้วทำไมผมจะเข้มงวดกับมันไม่ได้
“ครับๆ งั้นแค่นี้นะครับ กินข้าว อาบน้ำเสร็จยูจะโทรหา” ให้มันได้อย่างนี้ซิ สั่งเป็นสั่ง ให้มันรู้ซะบ้างว่าใครมันมีอำนาจมากกว่าใครกันแน่
“ยูนิต.......”
“ครับ??”
“มึงก็วางไปซิ รอทำหอกอะไร”
ปัญหาระดับชาติ ที่ไม่ว่าชาติไหนก็แก้ไขไม่ได้ ใครจะเป็นคนวางก่อนกัน ไม่ว่าจะถอดรูสและสมการอย่างไร ผมก็คิดไม่ตกซักทีว่าไอ้ใครวางก่อนใครมันจะแก้ไขอย่างไร
“ฮะๆ ครับๆ หมีนอนดีกว่านะ ดึกมากแล้ว เดี๋ยวยูเมสเซสไปหา พักผ่อนนะครับ”
ผมรับคำแล้วกดวาง ถ้าไม่วางคราวนี้ได้มีด่า ใครด่าใคร อันนี้ไม่ต้องบอกนะครับ
หลังจากวางสายจากไอ้ยูเสร็จ ไอ้ฟอสก็ลากผมไปอาบน้ำ ซึ่งใช้เวลาอาบเพียง 5 นาทีเท่านั้น ไอ้กรรนี่ถึงกับด่าในความสะอาด ( ประชด ) ของผม แต่ทำไมอ่ะ ก็คนมันไม่ถูกกับน้ำ เหมือนมึงไง ไม่ชอบกินไข่แดง แต่ชอบกินไข่เจียว แม่งๆ แตกต่างกันมากว่ะสัด
ครืดดดดดดดดดด.........ครืดดดดดดดดดดดดดดดด
สะดุ้งตื่นขึ้นมา เพราะโทรศัพท์เครื่องเล็กกว่าฝาบ้านนิดๆ แต่น่ารัก ของผมมันเกิดอาการชักแล้วก็สั่นขึ้นมา เปิดฝาผับขึ้นมาก็เจอกับ 1 ข้อความจาก…..
‘สวามี’
“ห่างกันแค่นี้ แม่งต้องรายงาน” ไอ้ฟอสที่นอนด้านขวาผมพูดขึ้นมา ไอ้ห่า กูก็นึกว่าหลับแล้ว ตกใจหมดสัด!!!!!!!
ไอ้พวกไม่เคยมีแฟน มึงไม่รู้หรอกว่าการมีบ่วงมาผูกคอนั้นมีความสุขแค่ไหน แล้วอีกอย่างเขาไม่เรียกว่ารายงานโว้ย อย่างนี้มันเรียกว่าเล่าสู่กันฟัง เราทำอะไรหรือว่าเขาทำอะไร มันต้องเอามาเล่าให้อีกฝ่ายฟัง นี่แหละชีวิตคู่ของจริง ไม่อิงนิยาย
“นอนๆไป พรุ่งนี้ตื่นทำกับข้าวให้พวกกูแดกด้วย” ผมเอาผ้าคลุมหัวจนมิดแล้วจดเปิดเข้าไปอ่านข้อความ อะไรมันจะปกปิดปานนั้น ฮ่าๆ
‘ฝันดีนะครับหมีน้อย >>>>>>>…… ห้ามให้ใครกอดด้วย ไม่งั้นจะโดนไม่ใช่น้อยนะครับ’
เสือกหักมุมตอนหลังซะงั้น ประโยคข้างหน้าแม่งอย่างสวยงามอ่ะ พออ่านไล่ๆมาด้านล่าง มันก็ยังคงคอนเซ็ปต์หวงได้ทุกที และทุกเวลาจริงๆ กดปุ่มแดงออกเมนูข้อความ ก็มาเจอกับหน้าไอ้ยูที่ยิ้มอยู่บนหน้าจอผม รูปนี้มันถ่ายของมันเอง แล้วมันก็ตั้งค่าเป็นภาพพื้นหลังเครื่องผมเอง ในขณะที่เครื่องมันก็ทำอย่างนี้เหมือนกัน เอารูปผมที่หอมแก้มมันขึ้น แต่มันไม่ค่อยให้ใครจับโทรศัพท์มันหรอกครับ เพราะความลับเยอะ ไม่ใช่ซ่อนกิ๊กหรืออะไรนะครับ ในเครื่องมันมีอะไร หลายๆอย่างที่ผมกับมันทำไว้ เอ่อ............พูดมากกว่านี้ไม่ได้ครับ ความลับ ฮ่าๆ
“ไอ้กรร มือมึงน่ะเอาออกจากเอวกูนะบัดนาว” ผมตะแคงหันไปบอกไอ้กรรที่นอนด้านซ้ายเอามือเท่าใบลานของมันออกจากเอว ซึ่งมันก็ทำตามได้ดีมากครับ ไม่ปฏิบัติตาม แถมยังกอดแน่นกว่าเดิมอีก ผิดผีแล้วสัด
“แม่งงงงงงงงงงงงงงงงงงงง กูจากอดดดดดดดดดดดดดดด คายยจะทำมายยย ” ผมนอนกลางไอ้สองตัวร้อยมันนอนขนาบข้าง ขาไอ้ฟอสนี่ก็เกยอยู่บนตัวผม ขาผมก็เกยเอวไอ้ฟอส ฟรีสไตร์มากครับพี่น้อง ถ้าไอ้ยูนิตมันมาเห็น ผมว่ามันได้อกแตกตายแน่ๆ ฮ่าๆ
“มึงก็รู้ว่ามันมีผัวแล้ว เข้าใจป่ะว่าไอ้ยูมันหวง”
เหมือนไอ้ฟอสจะเป็นคนดี แต่ก็ไม่เลยครับ เพราะมือมันก็พาดอยู่บนหลังผมเหมือนกัน ยังมีสอดเข้าไปเกาหลังให้อีกด้วยนะ เหี้ยยยยยย!!!!!!!!!!!! จ่ายค่าทำขวัญกูมาซะดีๆ เอ๊ะ! หรือความจริงแล้วผมชอบก็ได้
“มึงจะแหกปากเสียงดังทำไม เดี๋ยวพวกนั้นก็ตื่นหรอก กว่าพวกมันจะหลับได้ กูนี่ลุ้นจนเหนื่อย แม่ง” พวกไอ้ทองอ่ะครับ มันไม่ได้เมาเหล้านะ แต่มันเมาแกงจืด พูดเหี้ยไรนักหนา ด่าไปอาบน้ำก็ไม่ไป ด่าไปนอนก็ไม่ฟัง จนสุดท้าย ไอ้หนอนสตรีผู้น่ารักก็ลากไปอาบด้วยท่าทางที่สวยงาม แล้วขู่จะตัดคะแนน นั่นแหละ พวกไอ้ทองมันถึงพระบรรทมได้
“อายเหรอสัด ..... ทีตอนเย็นแม่งนั่งเกยกันทำไมไม่อาย” ไอ้กรรพูดเสียงนิ่ง ผมกับไอ้ฟอสเลยนิ่งฟังมัน อยากรู้ว่ามันนิ่งเพราะด้วยเหตุผลอะไร หรือความจริงแล้วมันรับไม่ได้ที่ผมเอาผู้ชายด้วยกันทำผัว
“มึงรับไม่ได้เหรอที่กูเป็นเกย์” ผมตะแคงไปหาไอ้กรรทันที ยังไงผมก็แคร์มันอยู่ดีนั่นแหละครับ ผม ไอ้กรร ไอ้ฟอส คบกันมาตั้งแต่ ม.ต้น ยังไงความรู้สึกลึกๆบางครั้ง มันก็แคร์เพื่อนมากกว่าแฟนอยู่บ้าง
“ไม่ใช่ว่ากูรับไม่ได้.... แต่ .....กูแม่ง หวงมึงอ่ะสัด”
เมื่อมาถึงจุดนี้ ผมกับไอ้ฟอสก็ข่มเสียงหัวเราะกันสุดฤทธิ์ แม่งเอ๊ยๆ อยากให้เป็นตอนกลางวันจริงๆ พอจะหัวเราะให้เต็มที่ แต่ตอนนี้ทำไมไม่ได้ ดึกแล้ว หัวเราะมากเดี๋ยวผีหลอก ( เกี่ยวไหม)
“อย่างที่ไอ้กรรพูดก็ถูกนะไอ้หมี ไม่ได้รังเกียจ แต่ก็ช่วยเกรงใจพวกกูสองคนหน่อย ยังไงมึงก็เพื่อนตายพวกกูนั่นแหละ อีกอย่าง อิจฉาว่ะสัด” สันดารมากอ่ะ เหี้ยยยยยยย หักมุม
“อย่ามาซึ้งดิสัด.............แต่กูรักพวกมึงจัง” พวกมันสองตัวก็กระโจนกอดผมซะแน่นกว่าเก่าอีกครับพี่น้อง จากที่หนาวๆ อยู่ร้อนขึ้นมาเลยอ่ะ
“มึงรักมากได้กูไม่ได้ว่าอะไรเลย แต่มึงก็เผื่อใจไว้บ้าง ตอนเจ็บจะได้ไม่ต้องเจ็บมาก” ไอ้ฟอสพูดถูก เผื่อใจไว้บ้าง เคยทำแล้วครับ แต่ผลปรากฏว่าทำได้แค่ 10 นาที แล้ววหลังจากนั้นก็กลับมารักไอ้ยูอย่างโงหัวไม่ขึ้นเหมือนเดิม
“กูทำไม่ได้ว่ะ ..........มันเป็นของมันเอง แต่ยังไงถ้ากูเจ็บ ยังมีพวกมึงปลอบใจกูอยู่นี่หน่า”
“เพื่อนน่ะ อยู่กับมึงไม่ได้ตลอดเวลาหรอกนะ แต่แฟนมึงน่ะอยู่กับมึงตลอด แต่ไม่ใช่ว่าที่พวกกูไม่พูด แปลว่าไม่สนใจ บางครั้งการแสดงออกว่าห่วงใยมันอาจไม่จำเป็น ความรู้สึกข้างในต่างหากที่ห่วงมึงไม่เปลี่ยนแปลง” ไอ้กรรไกรใส่มาเป็นชุด ผมนี่น้ำตาซึมเลยครับ
ใช่แล้วครับ พวกมันไม่ค่อยแสดงออกมาห่วงผม เวลาเป็นไข้ก็แค่โทรไปถาม ไม่ได้ไปเยี่ยมที่บ้าน จนบางครั้งผมยังอดน้อยใจพวกมันไม่ได้ ว่าทำไมถึงไม่ห่วงใยกันเลย มารู้วันนี้นั่นแหละครับ ว่าทุกอย่างมันมีที่มา
“กูไม่โกรธที่มึงปิดบังเรื่องแฟน แต่กูโกรธตัวเองมากกว่าที่มัวแต่มองมึงอย่างเงียบๆ แล้วไม่ได้เอ่ยปากถาม ทั้งที่มึงก็รอให้กูถามอยู่เหมือนกัน” ไอ้ฟอสจับมือผมไปกุม เลยกลายเป็นว่ามือทั้งสองข้างของผม กุมมือไอ้ฟอสกับไอ้กรรไกรเอาไว้
“กูไม่ได้อยากปิดบังนะโว้ย แต่.........พวกมึงไม่ถามเองอ่ะ” เสียงอ่อยไปไหมไอ้หมี อย่างงี้แหละผม ในกลุ่มจะเป็นน้องเล็กในกลุ่มก็ว่าได้ แต่ลิมิตความซ่าส์นี่แซงพวกมันสองคนอีกนะ
เลยกลายเป็นว่านอนคุยกันซะงั้นครับ นอนค้างร่วมกันบ่อยก็จริง แต่ส่วนมากจะค้างเพราะว่านัดกันเล่นเกมส์มากกว่า บางคืนไม่ได้นอนก็ยังทำมาแล้ว ไอ้ที่นอนปรับทุกข์คุยกันอย่างนี้ไม่มีหรอกครับ
“แม่งอีกไม่กี่เดือน ก็จะจบ ม.6 แล้ว โอยยยยยยยยยยยยยย ไม่อยากจบ” ไอ้กรรไกร
“ลงเรียนซ้ำอีกรอบซิมึง” ไอ้หมี
“ความคิดดี งั้นเดี๋ยวก็แกล้งสอบตก แล้วเรียนซ้ำอีกปี พวกมึงว่าไง” ไอ้ฟอส
“เหี้ย!!!!!!!!!!” ไอ้หมี+ไอ้กรรไกร
“นี่กูคบกับพวกมึง มา 6 ปีแล้วเหรอเนี่ย ไม่อยากจะเชื่อ อะไรจะเร็วปานนั้น”
“ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับ มึงต้องขอบใจกูที่เชื้อพระวงศ์อย่างกูลดตัวมาคบกับพวกมึง” ไอ้เหี้ยกรรไกรครับ ไอ้บ้านี่ชอบเล่นมุขอย่างนี้แหละครับ ชอบบอกว่าตัวเองเป็นเจ้าชายจากแคว้นอันแสนไกลโพ้น แต่มันพัดพรากกับพระแม่ กับพระพ่อมันตั้งแต่ยังน้อย ๆสาเหตุก็เพราะระหว่างที่นั่งเครื่องบนผ่านไทย แม่มันเสือกทำมันหลุดมือ มันเลยกลายเป็นเจ้าชายผู้ตกยาก คนอ่านอย่าถือสาเพื่อนผมนะครับ ถ้าสงสารมันมากๆ ก็ช่วยซื้อโอเลี้ยงกับหัวผักกาดมาให้มันก็พอแล้วครับ ฮ่าๆ
“กูเริ่มยอมรับไม่ได้กับความเยอะไปของมึงแล้วนะกรรไกร นอนๆ เลิกฟุ้งซ่าน พรุ่งนี้ต้องลุยงานธรรมเนียมต่ออีก” ไอ้ฟอสด่าให้นอน มันลุกขึ้นแล้วชะโงกตัวไปจับผ้าห่มคลุมหน้าผมกับหน้าไอ้กรร แล้วก็ขู่ให้นอนอย่างจริงจัง ไม่งั้นได้ออกไปนอนนับดาวหน้าบ้านแน่ครับ
“พวกมึงน่ะเพื่อนตาย ของกู” เหี้ยฟอส!!!!!!!!! ซึ้งปิดท้ายเหรอมึง
************************************************
ไอ้ฟอสกับผมตื่นตั้งแต่ ตี4 อันเนื่องมาจากมันและผมต้องช่วยกันเตรียมข้าวเช้าส่วน คนอื่นๆก็ทยอยตื่นตาม อาบน้ำกันเสร็จก็ 6 โมงพอดี ไอ้กรรกับพวกที่เหลือก็เก็บที่นอนหมอน มุ้ง ( ไม่มี ) ผ้าห่มรอเวลาแดก ( รับประทาน 55+ ) ส่วนเรื่อง ปัดกวาดเช็ดถูก็เป็นหน้าที่ของผู้หญิง ซึ่งนำทีมโดยไอ้หนอน ผู้อ่อนหวาน ( ประชด )
เสียงรถยนต์มาจอดหน้าบ้าน พวกผมก็มองหน้ากัน แบบลุ้นๆมาใครมา แล้วพวกมันก็เล่นทายปริศนากันครับ
“กูว่ายูนิต เพราะเหี้ยนี่ห่างเมียนานๆไม่ได้” ไอ้ฟอส
“กูกด like ไอ้ฟอส เพราะมึงพูดได้ตรงมาก” ไอ้กรรไกร
“แต่กูว่าไม่ใช่ อาจจะเป็นพ่อไอ้ฟอสก็ได้” ไอ้ทอง
“กูว่าคนส่งพิซซ่า” ไอ้หนอน พ่อมึงซิ ใครที่ไหนเอารถยนต์มาขับส่งพิซซ่า กว่าจะถึง แข็งเป็นซอฟซิลพอดี แล้วแม่งไอ้หน้ากร๊วกที่ไหนสั่งพิซซ่าตอน ตี5 ครับ กูว่าเกินไปล่ะ
“กูว่าบุรุษไปรษณีย์” ไอ้เพียงครับ พวกมึงยิ่งคุยยิ่งออกดาวอังคารไปโน้นนนน แล้ว พอๆ เลิกไร้สาระ ไอ้ยูนั่นแหละครับ เพราะก่อนออกมามันโทรมาถามผมว่าจะกินอะไรไหม จะซื้อไปฝาก เพราะปากซอยบ้านมันมีตลาดเช้าตั้งขายอยู่ ไอ้หมีสั่งโอวันติลร้อนๆ แล้วก็สั่งปาท่องโก๋ ให้กับพวกผีปอปทั้งหลาย ความจริงอยากกินข้าวมันไก่นะครับ แต่กลัวว่าจะอิ่มแล้วกินข้าวเช้าที่ผม ไอ้ฟอส และแม่ฟินช่วยกันทำไม่ได้เต็มที่ เพราะฉะนั้นเลยเผื่อท้องไว้ดีกว่า
พวกแม่งก็พนันกันเต็มที่ ใครที่เล่นเสี่ยงทายในเกมส์นี้ถ้าแพ้ต้องจ่ายคนละ 100 บาท เบี้ยวไม่ได้ เพราะดอกจะงอกเงยตามด้วย อะไรไม่พอเล่น พวกมันก็เอามาเล่นจนได้ครับ
“โอ้วววววววววว เป็นมึงจริงๆด้วย” ไอ้ฟอสกับไอ้กรรไกรนี่น้ำตาแทบไหลเมื่อเห็นหน้ายูนิตครับ ส่วนพวกที่เหลือก็น็อคตายคาที่ไปแล้วครับ
ที่รักผมมองทุกคนอย่าง งงๆ ผมก็ส่ายหน้าให้อย่างไม่รู้ว่าจะทำอะไรแล้ว พวกแม่งปัญญาอ่อนเกิน
“จ่ายกูมาซะดีๆ ใครเบี้ยว นี่จ่ายสองเท่านะครับ” ไอ้ฟอสเดินเก็บเงินอย่างสบายอารมณ์ ได้ครบก็เอามาแบ่งกับไอ้กรรสองคน สบายไปหลายวันซิมึง
ยูนิตมองเพื่อนผมยิ้มๆ แล้วถามว่ามีอะไรกันเหรอ ผมก็บอกไปว่ามันเอามึงไปเล่นพนัน ยูนิตก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่เดินไปเอาเงินกับไอ้ฟอส 200 เล่นเอาฮากันทั้งห้องครับ มันบอกว่าขอค่านายหน้าหน่อยแล้วกัน หลังจากนั้นมันก็ยื่นเงินมาให้ผม ไอ้หมีก็รับเงินไปใส่กระเป๋ากางเกงด้วยความเร็วแสง ชักช้าเดี๋ยวไอ้ฟอสกับไอ้กรรไกรมันจะแย่งกลับคืน
“ปลาท่องโก๋น้ำเต้าหู้ .......นี่โอวันติลร้อนของหมีนะครับ” มันยื่นของกินสารพัดอย่างมาให้ผมดู ผมชื่นชมเสร็จก็เรียกให้ไอ้ทองเอาไปวางไว้ในครัว กำชับว่าใครหิวก็กินรองท้องรอไปก่อน ส่วนโอวันติลร้อนผมกัดตูดถุงแล้วดูดมันเพียวๆไปเลย ก็ร้อนไปซิครับ
“มันร้อนไม่ใช่เหรอ ...... เดี๋ยวก็ลวกปากหรอก” มันเอาผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับปากให้ผมนิดหน่อยแล้วก็พากันเดินเข้าไปนั่งดูข่าวภาคเช้า รวมกับคนอื่นๆ
“คุณยูครับ เสนอหน้ามาแต่เช้าเลยนะครับ” ปากไอ้ทองคาบปลาท่องโก๋ ส่วนในมือก็แก้วน้ำเต้าหู้ คนที่ซื้อมาก็หน้าบานไปซิ ยูนิตมันเป็นคนที่ชอบเอาใจใส่คนรอบข้างครับ ยิ่งมาเห็นเพื่อนๆผมกินปาท่องโก๋กันอย่างถ้วนหน้า ยิ่งดีใจเข้าไปใหญ่
ไอ้ยูไม่ตอบ แต่หันมามองหน้าผมเล็กน้อย ทำไม?? หน้ากูมีอะไร มองได้มองดี มองแม่ง อยู่นั่นแหละ แล้วมันต้องเป็นธรรมดาของคนเราที่จะต้องพะวงว่าหน้าของเรามันติดอะไรหรือเปลา เอ๊ะ!! หรือว่าเมื่อคืนนอนน้ำลายไหล แล้วมันลงเหลือแล้วทิ้งคาบเอาไว้ ไอ้หมีลูบหน้าใหญ่เลยครับ
“มีอะไรติดหน้ากูหรือเปล่า?? ขี้ตา..ขี้ฟัน...น้ำลาย”
มันไม่ตอบมองแล้วยิ้มอย่างเดียว อะไรว่ะ กำลังจะหันไปถามคนอื่นๆ มันก็ดึงแขนห้ามเอาไว้ก่อน ผมหันไปจิ๊ปากใส่ มันก็ก้มลงมาหอมแก้มด้วยความรวดเร็ว ซึ่งไอ้พวกที่เหลือที่นั่งรอสอดส่องพฤติกรรมไอ้ยูก็ส่งเสียงโห่ แซวขึ้นมาอย่างกับ ผีได้น้ำมนต์ กรีดร้องซะดัง
“โดนน้ำมนต์สาดเหรอสัด ร้องอยู่ได้ ไอ้หนอนรีดผ้าไป ไม่ต้องมอง” โวยวายเพื่อกลบเกลื่อนความอาย แต่ถึงยังไงด่าพวกมันด้วยกระบวนท่าไหน ก็ไม่สลดหรอกครับ พวกนี้มันหน้ามึนระดับขั้นเทพ
พวกมันมองผมอย่างประณาม เอ๊าๆ !!! แฟนกัน แค่หอมแก้มนี่มันจะเป็นไรไป แต่ก็ลืมไปว่าไอ้พวกนี้มันยังอินโนเซนต์เรื่องพวกนี้อยู่ แล้วตอนที่พวกมึงดูคลิปทำไมไม่อาย
“อาบน้ำหรือยังครับ”
“อืม” กำลังเบลอ เพราะเหมือนจะง่วงอีกรอบ มือไม้ก็อ่อนไปหมด ไอ้ยูมันจับไปวางไว้ที่ตักมัน ผมก็ไม่ว่า เพราะผมก็ชอบด้วยไง ฮ่าๆ
“วันนี้มีคาบสุดท้ายว่างใช่ไหมครับ?” มันอาศัยความเนียนและความด้านซึ่งเป็นเอกลักษเฉพาะตัวค่อยๆดึงเอวผมเข้าไปนั่งข้างมัน พวกที่เหลือมันก็นั่งดูข่าวไปกันอย่างครื้นเครง ไม่มีซะละไอ้ที่ว่าเบลอจากตื่นนอน ไอ้พวกนี้มันพร้อมคุยพร้อมฮากันทุกเมื่อ และทุกสถานการณ์ครับ
“อืม” คือ มึงรู้ดีกว่ากูได้ไง อ้อ ลืมไป มันมีตารางเรียน ตารางอ่านหนังสือผมนี่หน่า
“งั้น ไปบ้านยูกันนะ”
“อืม....................!!!!!!!!!!”
เฮ้ยยยย!!!!!!!!!!!!!
หายง่วงเลยไหมล่ะไอ้หมี หันไปมองมันก็นั่งทำหน้าตาเจ้าเล่ห์มองผมอย่างกับไอ้หมีเป็นแกะตัวน้อยๆให้มันเชือดอย่างนั้นแหละ น่ากลัวมากอ่ะ ถึงจะยอมรับหน้าชื่นตาบานว่าได้กันแล้ว!! แต่เมื่อถึงเวลาจริงๆแล้วผมก็ซีดเหมือนกันครับ เลี่ยงได้เป็นเลี่ยง ถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็สลบซัก วันสองวัน ฮ่าๆ
“ล้อเล่นครับ มันน่าตกใจขนาดนั้นเชียว” กูไม่ได้ตกใจ แต่กูกลับหลบใน!
“เปล่าๆ กูทำหน้าโอเวอร์ไปอย่างนั้นแหละ ใครมันจะตกใจ ( กูแค่ผวา )” ผมทำทียัดส้มเข้าปากหน้าตาเฉย แต่ข้างในนี่ตื่นเต้นจนลำไส้ใหญ่มันจะเต้นบีบอยอยู่แล้ว กลัวมันจะทำจริงๆ ไอ้นี่ไว้ใจไม่ได้ มันชอบทำอะไรหน้ายิ้มๆ ซึ่งยิ้มร้ายๆนั่นแหละคืออาวุธของมัน เจอเมื่อไรผมก็ตายน็อคไปเลยครับ
“ความจริงยูก็ว่าจะพาหมีไปจริงๆแล้ว แต่มันติดงานของ ม.6 อยู่นี่ครับ” กูนึกรัก ผอ. ก็วันนี้นี่แหละ ถ้าไม่มีงานนี่ผมว่าต้องไปนอนเสร็จมันที่บ้านสองยกเพียวๆแน่ๆ
“นานๆมึงจะสำนึกได้ ถ้าขืนกูและมึงหายกันทั้งคู่ งานนี้มีแต่เละกับเละ”
ไอ้ยูก็หัวเรี่ยว หัวแรงในการทำเวที ซึ่งคาดว่าได้ทำวันนี้แน่ๆ ส่วนผมก็หัวหน้าฝ่ายดีไซน์และตกแต่ง โดดไม่ได้ครับ ถ้าโดดงานไม่เดินแน่ๆ เพราะห้องอื่นๆเขาก็มีงานในส่วนของเขา
จริงอยู่ที่ ม.6 ทั้ง 16 ห้องไม่ได้สมานฉัน กันทุกห้อง จะมีแต่ห้องผมกับห้องไอ้ยูนี่แหละที่ดูเหมือนจะรักใคร่กลมเกลียวกัน นอกนั้นก็แยกเขี้ยวใส่กันอย่างเดียว เข้าใจนะครับว่าความคิดของคนเรามันค่อนข้างที่ต่างกัน นานๆครั้งที่จะมีใครสักคนยอมหยุดฟัง และยอมรับความคิดของคนอื่น แต่เวลามีงาน พวกม.6 มันก็รู้เรื่อง รู้งานดีครับ ไม่มีมาตีกันให้รุ่นน้องเห็นหรอก ก็เป็นพี่ใหญ่สุดในโรงเรียน ต้องทำตัวให้น้องๆเคารพหน่อย ถ้าหากมันมือคันเท้า(ตีน) ก็จะนัดกันที่ค่ายมวยกันเลยครับ ยกไปเชียร์กันทั้งห้อง ซึ่งผมก็ว่าแฟร์ดีนะ มีกฎ มีกติกา ใครแพ้ก็ต้องยอมรับ
นั่งคุยกันประมาณครึ่งชั่วโมงได้ ผมก็เดินไปรับชุดนักเรียนกับไอ้หนอน ตอนแรกมันไม่ให้ดีๆหรอกครับ ผมเลยเดินกลับมาเอาแบงก์ยี่สิบกับไอ้ยูสองใบ แล้วเดินกลับเอาไปให้มัน นั่นแหละไอ้หนอนมันถึงยอมปล่อยเสื้อกับกางเกงมาให้ผม ตอนแรกคิดว่าผมจะโดนคนเดียว ที่ไหนได้โดนทั้งกลุ่มเลยครับ เว้นแต่ไอ้ฟอสคนเดียว เพราะมันไม่ได้เอาเสื้อกับกางเกงมาให้ไอ้หนอนรีดให้
“กินให้อิ่มนะทุกคน เดี๋ยวจะเรียนไม่รู้เรื่อง” แม่ไอ้ฟอสพูดขึ้นอย่างใจดี ท่านเอาน้ำผลไม้มาวางให้ทุกคนเสร็จเรียบร้อย ก็ขอตัวออกไปดูต้นไม้ที่สวนข้างๆบ้าน
ถ้าพวกมึงกินข้าวต้มคนละ 3 ชามแล้วเรียนไม่รู้เรื่องนี่กูว่าลาออกไปรับจ้างล้างจานตามร้ายก๋วยเตี๋ยวดีกว่า สุดยอดอ่ะ ยัดเป็นยัด ไอ้ยูเห็นหน้าหล่อ ผู้ดีๆอย่างนี้มันกินไป 3 ชาม นมหนึ่งแก้ว แอปเปิลหนึ่งลูก ซึ่งมันก็ยังแพ้ผมอยู่ดี ผมนี่ฟาด 4 ชาม นมอีก 1 มะละกอครึ่งลูก ส้มเขียวหวานอีก 2 เบสิคมากครับสำหรับเรื่องแดก ว่าจะปิดท้ายด้วยคุ้กกี้ แต่ไอ้ยูมันมองแบบนิ่งๆใส่ก่อน ก็เลยไม่กิน มันกลัวว่าผมจะกินเยอะ แล้วอ้วกครับ
“แม่ฟินครับ หมีไปเรียนก่อนนะครับ เดี๋ยววันหลังแวะมาค้างอีกนะครับ” ไม่ได้บอกลานะครับ เพราะยังไงก็ต้องแวะมาอีก แม่ไอ้ฟอสพยักหน้าแล้วอวยพรให้เรียนรู้เรื่อง ถ้าคำอวยพรของคุณแม่เป็นจริง ปานนี้ผมไม่ต้องไปนั่งอ่านหนังสือหรอกครับ
“หมี เพื่อนหมีไปโรงเรียนกันยังไง ถ้ารถคันไหนแน่นมาก ให้มานั่งรถเราก็ได้นะ” มันใช้คำว่ารถเราครับพี่น้อง ได้ข่าวว่าคันนี้แม่มึงซื้อมึงในฐานะที่ลูกตัวเองเล่นเกมส์เก็บผักชนะกูไม่ใช่เหรอ อย่าตกใจครับ นี่คือเรื่องจริง ผมเล่นเกมส์ปลูกผักแพ้ยูนิต แล้วแม่ยีนต์ แม่ของไอ้ยูก็เลยตบรางวัลซื้อรถให้ลูก เพื่อแสดงความดีใจ แต่จริงๆแล้ว แม่ยีนต์อยากให้ยูเฉยๆ เลยเอาเรื่องเกมส์มาอ้าง แต่ความจริงแล้วแม่ยีนต์บอกผมว่าอยากปลอบใจมันที่มันไม่ได้ไปเรียนแลกเปลี่ยนที่ออสเตรเลีย
ผมก็เลยบอกแม่ยีนต์ไปตามเนื้อผ้าว่า ที่ยูนิตมันไม่ไปก็เพราะผม ผมก็เลยขอโทษแม่ยีนต์ยกใหญ่ ท่านก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะยังไงแม่ผมกับแม่มันต้องส่งไปเรียนนอกอยู่แล้วหลัง จบ ม.6 พวกแม่ๆ เขาคุยกันเอาเองครับ ผมกับยูนิตยังไม่ได้บอกว่าจะไปเรียนเลย
“เฮ้ยยยยยยยยย!!!!!!!!!!! คันไหนแน่น มานั่งกับกูได้ คนหล่อใจดี” พวกมันหันมามองพรึบพรับ มันจะแน่นได้ไงครับ ก็บ้านรวยกันทุกคน บางคนก็เอารถมา บางคนรถที่บ้านก็มารอรับ คนไหนที่ไม่มีรถส่วนตัว ก็อาศัยนั่งไปกับเพื่อน ตะโกนไปอย่างนั้นแหละ เชื่อฟังผัวไม่ผิดนี่ครับ
“กูเกรงใจอ่ะสัด” เกรงใจบ้านมึงซิ เกรงใจเขาไม่ทำอย่างนี้หรอกเว้ย ไอ้ห่ากรรปากบอกว่าเกรงใจแต่มันเดินหอบกระเป๋ากับหนังสือเรียนเดินมาเปิดประตูหลังเข้าไปนั่งทำหน้ากวนตีนแล้วครับ
“ไอ้ฟอส .....รถมึงก็มี แล้วทำไมไม่เอาไป” ไอ้เพื่อนเวรทำหูทวนลมแล้วก็เปิดเข้าไปนั่งคู่กับไอ้กรรไกร พวกมึงสองตัวทำหน้ากวนตีนจนน่าตบมากอ่ะ ส่วนไอ้คนขับก็ไม่พูดอะไรครับ มันยิ้มอย่างเดียว ที่บ้านมันส่งมายิ้มครับ เดี๋ยววันหลังส่งมันไปยิ้มกับพวกเสื้อแดง ( เกี่ยวไรกัน )
“คือกูอยากนั่งพรีอุสไปโรงเรียน รถกูเก่าแล้ว เบาะมันแข็ง อีกอย่างขี้เกียจขับ” ได้ข่าวว่ารถมึงเพิ่งซื้อเมื่อ 3 เดือนที่แล้วก่อนขึ้น ม.6 ไอ้พวกนี้มันยังไง มีรถก็ขี้เกียจขับ โอนมาให้กูซิ กูจะขับแม่งทั้งวันเลย
“ลืมของหรือเปล่าครับ โทรศัพท์ กระเป๋าเรียน กระเป๋าสตางค์ หนังสือ........” ไอ้หมีก็นึกตามที่มันพูด ปรากฏว่าลืมกระเป๋าสตางค์ไว้ที่ห้องไอ้ฟอส เจ้าของห้องก็เลยต้องขึ้นไปเอาให้
“สามีดีเด่นประจำปีเลยนะนายอ่ะ” ไอ้ฟอสยัดกระเป๋าสตางค์ใส่มือผมแล้วก็ไม่ลืมปิดท้ายด้วยการตบหัวผมเล่น เดี๋ยวๆ เดี๋ยวมึงจะโดนไอ้ยูมันด่า
“ฟลอเซ็นต์ เราว่าเมื่อกี้นายตบหัวหมีแรงไปนะ” เห็นไหม มันไม่ได้ด่าแบบคนอื่นะเขานะ ไอ้นี่มันด่านิ่งๆ ผมเลยหัวเราะเยาะแม่งเลย
“ถนอมกันเข้าไป เดี๋ยวแม่งก็เป็นง่อย” ไอ้กรรพูดแล้วเอื้อมมือมาหยิกหูผม ไอ้ยูนี่หันขวับเลยครับ แต่คราวนี้ไม่ได้ว่าอะไรไอ้กรรเลย เพราะไอ้กรรไกรมันทำหน้านิ่งมองไอ้ยูอยู่
ผมเข้าใจมันนะ กรรไกรมันแค่อยากให้ยูนิตเลิกถนอมผมซะที เพราะเดี๋ยวผมจะเคยตัว ซึ่งก็ไม่ทันแล้วครับ เพราะตอนนี้ไอ้หมีเคยตัว เคยใจไปตั้งนานสองนานแล้วครับพี่น้องแม้ว!!
กด 1 โหวต หมี
กด 2 โหวด ยูนิต
กด 3 โหวต คนเขียน
กด 4 โหวต ตัวเอง
ไม่กด >>>>>>>> "หน้าเหี่ยว" สาธุ!!!!!!!!!