ER-นาทีหัวใจ Special Moment: สงกรานต์ [13/04/59] p.22
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ER-นาทีหัวใจ Special Moment: สงกรานต์ [13/04/59] p.22  (อ่าน 249222 ครั้ง)

ออฟไลน์ Baitaew

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 361
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
หูยยยยยย เรื่องนี้สนุกอ่ะ ชอบๆ ^O^

ออฟไลน์ leGGyDan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 347
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
Special Moment part 0 : One night in winter

ย่างเข้าเดือนธันวาคมความเหน็บหนาวอย่างร้ายกาจก็เริ่มคืบคลานเข้ามา อุณหภูมิซึ่งลดลงอย่างรวดเร็วทำให้ใบไม้ที่กลายเป็นสีน้ำตาลแก่ตั้งแต่ปลายฤดูใบไม้ร่วงปลิดขั้วแห้งกรอบปลิวลงสู่พื้นดินแห้งผากและเย็นเยียบ ทิ้งลำต้นสูงใหญ่เหลือแต่กิ่งร้างยืนเดียวดายสู้ลมหนาวเพียงลำพัง

ภายในห้องหนึ่งของหอพักประจำมหาวิทยาลัยชื่อดังเมืองน้ำหอม เด็กหนุ่มคนหนึ่งกำลังคร่ำเคร่งกับการอ่านตำราเล่มหนาหนัก ทุกบรรทัดเต็มไปด้วยรอยขีดเน้นและโน้ตอธิบายยึกยือที่ลากออกมาจากตรงนั้นตรงนี้ นั่นยังไม่รวมถึงกระดาษโพสอิทที่คั่นไว้ตามหน้าต่างๆ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ต้องท่องจำให้ขึ้นใจ

ทั้งที่อากาศภายนอกหนาวจนแทบติดลบ แต่มือของคนผมน้ำตาลในสเวตเตอร์สีกรมท่ากลับชื้นเหงื่อด้วยความเครียดสะสมจนปากกาลื่นหลุดจากมือกลิ้งลงไปอยู่ใต้โต๊ะ เขาสบถออกมาเบาๆ อย่างหัวเสียและก้มลงเก็บ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาไล่สายตาไปตามตัวอักษรเพื่อหาจุดที่อ่านค้างไว้และค้นพบว่าแท้จริงแล้วตัวเองแทบจะไม่เข้าใจในสิ่งเปิดผ่านมาตั้งแต่ต้นเลยแม้แต่นิดเดียว

ภาวัฒน์เม้มริมฝีปากที่สั่นระริกไว้แน่นพร้อมกับปิดหนังสือเล่มหนาที่พยายามอ่านมาตั้งแต่ช่วงเย็น ในที่สุดเขาก็ต้องยกธงขาวยอมแพ้ให้กับการทำความเข้าใจตัวอักษรที่ไม่ใช่ภาษาบ้านเกิดของตัวเอง หัวคิ้วขมวดมุ่นจนแทบจะผูกกันตรงกลาง เด็กหนุ่มซบศีรษะลงบนหน้าปกและสูดลมหายใจเข้าให้ลึกที่สุดเพื่อสะกดกลั้นอารมณ์อ่อนไหวของตัวเองที่กำลังจะระเบิดออกมา

เป็นครั้งที่สองในชีวิตที่เขาเกิดความรู้สึกแบบนี้กับการเรียนหนังสือ มันไม่ใช่แค่ความรู้สึกท้อแท้แต่มันคือความสิ้นหวัง รูปประโยคแสนยากนั้นซับซ้อนพอๆ กับกายวิภาคของมนุษย์ที่เคยทำให้เขาต้องรีไทร์ออกจากมหาวิทยาลัยเมื่อตอนเรียนแพทยศาสตร์ชั้นปีที่สอง

เสียงเตือนข้อความเข้าดังมาจากโทรศัพท์มือถือ ภาวัฒน์ผงกศีรษะขึ้นช้าๆ พลางขยี้นัยน์ตาอ่อนล้าให้ลืมขึ้นพร้อมกับเอื้อมมือไปหยิบมาเปิดดู แต่ทันทีที่สายตาแปลข้อความสองบรรทัดแรกสู่สมอง ทำนบน้ำตาที่พยายามฝืนกลั้นไว้สุดชีวิตก็ปริและแทบจะพังครืนลงง่ายๆ ด้วยว่ามันคือถ้อยคำแสดงความห่วงใยของบุพการีที่อยูคนละซีกโลก เมื่อรู้ว่าตอนนี้ภูมิอากาศเริ่มเปลี่ยนเข้าสู่ฤดูหนาวและหิมะคงจะตกในไม่ช้า แต่ที่สิ่งทำให้ใจเจ็บคือคำถามไถ่ถึงการเรียนและผลการสอบเก็บคะแนนครั้งแรกของปีการศึกษา

ภาวัฒน์กดปิดอีเมล เขาอ่านจนจบได้แต่ไม่อาจตอบได้ เรื่องอากาศเปลี่ยนทำร้ายเขาก็จริงแต่ไม่เลวร้ายเท่าการเรียนและการสอบวัดผลที่คะแนนต่ำอย่างไม่น่าเชื่อจนถูกศาสตราจารย์ประจำวิชาเรียกไปพบช่วงเช้าวันนี้พร้อมกับข่าวร้ายที่ว่าเขาต้องอยู่โยงในช่วงปีใหม่เพื่ออ่านหนังสือสอบซ่อมแต่เพียงผู้เดียว แล้วแบบนี้จะให้เขามีหน้าตอบไปได้อย่างไร เขาไม่อาจทำให้พ่อกับแม่ผิดหวังในตัวเขาได้

“นี่เรามาทำบ้าอะไรที่นี่เนี่ย” เด็กหนุ่มรำพึงกับตัวเองอย่างปวดร้าว “ไอ้คนไม่ได้เรื่องเอ๊ย!”

เสียงเตือนข้อความดังขึ้นอีกครั้ง ภาวัฒน์หยิบขึ้นมาเปิดอ่าน  อีเมลฉบับที่สองนี้มาจากคนที่ตอนนี้ทำงานอยู่ในซีกโลกที่ใกล้กว่าแต่ก็ไกลกันคนละทวีปเขียนมาสอบถามเรื่องเดียวกัน แต่ครั้งนี้เขากลับไม่กดปิด นิ้วรัวพิมพ์ข้อความตอบกลับไปอย่างรวดเร็วเพื่อระบายสิ่งที่มันอัดอั้นอยู่ในอก หวังให้อีกฝ่ายได้รับรู้และบรรเทาความทุกข์นี้ลงบ้าง

“ผมสอบตก อาจารย์ให้สอบซ่อมอาทิตย์หน้า”

เขากดส่งและเฝ้ารอ ถึงจะไม่ยุ่งแต่คนไม่เก่งเทคโนโลยีอย่างปาวัสม์อาจต้องใช้เวลาหลายนาทีในการพิมพ์ข้อความสั้นๆ

“เรื่องเล็กน้อยน่า ออกไปเที่ยวรอบเมืองแก้เครียดสักรอบสองรอบแล้วค่อยกลับมาอ่าน เครียดไปก็อ่านหนังสือไม่รู้เรื่องหรอก เวลาแบบนี้ต้องรีแลกซ์ ทำหัวให้โล่งก่อน ถ้าไม่เข้าใจก็ไปถามเพื่อนหรือให้อาจารย์อธิบายให้ฟัง นายทำได้อยู่แล้วน่าคนเก่ง”

ภาวัฒน์เม้มริมฝีปาก และพิมพ์ตอบคนหัวดีที่ไม่ว่าจะหยิบจับอะไรก็ดูจะง่ายดายไปเสียหมด

“เวลาแบบนี้ผมจะออกไปเที่ยวได้ยังไง นี่ผมสอบตกอยู่นะ แล้วถ้ามันง่ายขนาดนั้นผมคงไม่สอบตกหรอกครับ ที่นี่มีแต่คนเก่งๆ อาจารย์ก็อธิบายเร็ว ผมตามไม่ทันเลยสักนิด ทั้งคลาสมีผมเป็นคนไทยอยู่คนเดียว ถึงจะมีเพื่อนชาติอื่นแต่เขาก็ใช้ภาษาอังกฤษกันเก่งๆ ทั้งนั้น ผมพยายามจนไม่รู้จะทำยังไงแล้วครับ”

“ไม่เอาไม่ท้อน่า ฉันรู้ว่านายทำได้ สู้ๆ ฉันเป็นกำลังใจให้นายนะ”

“ผมไม่ได้เก่งเหมือนหมอปืนนะ”

ภาวัฒน์กดส่งพร้อมกับปิดโทรศัพท์มือถือ รู้ว่าตัวเองหงุดหงิดเองแล้วพาลไปลงกับปาวัสม์ แต่มาคิดได้ตอนนี้ก็แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว เขาลุกขึ้นเดินไปทิ้งตัวลงแผ่หราบนที่นอน สองมือยกขึ้นก่ายกุมหน้าผาก

ปาวัสม์จะรู้ไหมว่าวันนั้นที่สนามบินเขาต้องฝืนเก็บความรู้สึกมากมายไม่ให้ระเบิดออกมามากแค่ไหน สำหรับคุณหมอหนุ่มการรักใครสักคนอาจไม่ใช่เรื่องยากแต่สำหรับเขามันคือเวลาทั้งชีวิต จริงอยู่ว่ามันคือ ‘รักแรกพบ’ ทว่า ‘การตัดสินใจ’ ที่จะมาพบมันไม่ได้ใช้เวลาแค่เสี้ยววินาทีหรือวันสองวัน และเขาใช้เวลาคิดมาแล้วถึงหกปีในการไตร่ตรองและทบทวนหัวใจตัวเอง

...เพราะคิดมาดีแล้วถึงได้ปรากฏตัวต่อหน้าคุณ...
...เพราะทำใจมาแล้วแม้จะได้เป็นเพียงแค่เส้นขนานที่ไม่มีวันบรรจบ...
...เพราะ ‘รัก’ ...
...นั่นไม่ใช่เหตุผล แต่มันคือคำตอบ...

และเพราะเหตุนี้ทุกๆ อย่างทุกการกระทำจึงมีแต่เรื่องของผู้ชายคนนี้เป็นที่ตั้ง จริงอยู่ที่เขาไม่ได้เอาตัวเองไปผูกไว้กับคนๆ หนึ่งจนเสียความเป็นตัวเองเพียงแต่ถ้าเขาจะมองอนาคตร่วมกัน มันไม่ใช่แค่ข้ามผ่าน ‘ความเป็นเด็ก’ ไม่ใช่แค่ต้องวิ่งตามคนที่นำหน้าอยู่สิบปีให้ทัน แต่เขาต้องดีมากพอที่จะไปยืนเคียงข้างให้ปาวัสม์ไม่ต้องรู้สึกอายใคร และกุมมือเดินเคียงกันไปบนหนทางที่ย่อมไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ

แต่ตอนนี้สิ่งนั้นมันยังดูห่างไกลเหลือเกิน เขาคิดอย่างท้อแท้และผล็อยหลับไปในที่สุดด้วยความเหนื่อยล้า

ถ้าเพียงแค่ได้เห็นคนที่อยู่ในหัวใจแม้ตัวจะอยู่ไกลสุดสายตา เขาจะสามารถยิ้มออกและมีแรงสู้ต่อไหมนะ

OOOOOO

“เรื่องเมื่อวันก่อนขอโทษนะ อารมณ์ดีขึ้นบ้างหรือยัง อ่านหนังสือถึงไหนแล้ว ไม่ล่ะ... วันนี้ฉันจะไม่พูดถึงเรื่องหนังสือ แต่ฉันมีเรื่องจะขอร้องนาย พรุ่งนี้หลังเลิกเรียนนายช่วยไปที่หอไอเฟลหน่อยได้ไหม ไม่ต้องถามนะว่าทำไม เดี๋ยวจะบอกให้ฟังทีหลัง แค่ตอบว่าได้หรือไม่ได้”

ภาวัฒน์อ่านทวนข้อความซ้ำแล้วซ้ำอีกอย่างชั่งใจ พรุ่งนี้ที่ปาวัสม์พูดถึงมันคือวันคริสต์มาสอีฟ การเข้าไปเบียดเสียดในเมืองที่เต็มไปด้วยบรรยากาศหวานๆ ของคู่รักไม่ส่งผลดีต่อหัวใจเหี่ยวๆ เลย อีกทั้งเขาควรจะต้องกลับไปอ่านหนังสือเตรียมสอบซ่อมที่จะมีขึ้นทันทีหลังปีใหม่ แต่อีกใจเขาก็อยากรู้เหลือเกินว่าปาวัสม์มีอะไรจะบอกหรือให้เขาทำ

และในที่สุด ‘ความคิดถึง’ ก็เป็นฝ่ายชนะ

“ได้ครับ”

OOOOOO

“ตอนนี้อยู่ที่หอไอเฟลแล้ว หมอปืนบอกผมมาได้แล้วว่ามีอะไร”

“ไม่เชื่อหรอก ถ่ายรูปตัวเองกับหอไอเฟลมายืนยันให้ดูก่อน ถ่ายเองนะห้ามให้คนอื่นถ่าย”

ภาวัฒน์ถอนหายใจกับคำสั่งเจ้ากี้เจ้าการแปลกๆ การถ่ายภาพตัวเองคู่กับหอไอเฟลในยามเย็นซึ่งตกแต่งด้วยหลอดไฟหลากสีสันจนมันดูคล้ายต้นคริสมาสต์เรืองแสงขนาดยักษ์ที่บรรดานักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนมากมายถึงเพียงนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เขาเดินขยับอยู่หลายมุมจนกระทั่งได้ภาพคู่กับหอไอเฟลที่แลเห็นฐานเหล็กสีเงินอยู่เสี้ยวหนึ่ง แต่ความหม่นเศร้าที่ฉายชัดบนใบหน้าในรูปจนไม่มีแอปพลิเคชั่นใดลบได้ทำให้เขาต้องเดินวนเวียนเพียรกดถ่ายใหม่อีกหลายรอบและเลือกรูปที่คิดว่าดีที่สุดส่งไปให้

แต่ผ่านไปหลายนาทีเสียงเตือนข้อความเข้าก็ยังไม่ดัง ภาวัฒน์กดรีเฟรซแล้วรีเฟรซอีกเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้เป็นความผิดพลาดของระบบการสื่อสาร

“อะไรของหมอปืนเนี่ย ให้รอมาครึ่งชั่วโมงแล้วนะ”

ภาวัฒน์บ่นพลางซุกมือลงในกระเป๋าเสื้อโอเวอร์โคตสีน้ำตาลเข้ม ลมหนาวพัดแรงขึ้นเรื่อยๆ ตีเรือนผมสีน้ำตาลที่ปกติก็ไม่ค่อยจะเรียบอยู่แล้วให้ยุ่งขึ้นไปอีก พวงแก้มที่เริ่มกลับมาขาวเนียนตามพิมพ์นิยมหนุ่มเมืองเหนือเพราะไม่ต้องออกไปทำงานกรำแดดแดงเป็นริ้วเพราะถูกความเย็นกัด มือทั้งสองข้างเริ่มชา เขากวาดสายตามองไปรอบๆ เพียงเพื่อพบกับความบอบช้ำที่ยิ่งตอกย้ำให้หัวใจเจ็บปวดมากขึ้นไปอีกเมื่อตอนนี้รอบตัวรายล้อมไปด้วยคู่รักที่ออกมาเที่ยวชมความงามและทัศนียภาพของหอเหล็กแห่งนี้ เสียงเพลงท่วงทำนองทุ้มหวานดังมาจากร้านรวงโดยรอบยิ่งพาลให้ใจว้าเหว่

...หนาวกายไม่เท่าหนาวใจ...

“นี่เรามัวทำอะไรอยู่เนี่ย รีบกลับไปอ่านหนังสือดีกว่ามั้ง”

ภาวัฒน์รำพึงกับตัวเอง เขาเงยหน้าขึ้นมองหอไอเฟลที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้าอีกครั้งและหมุนตัวกลับ ขายาวๆ กำลังจะก้าวจากไปอยู่แล้วเมื่อเสียงข้อความเข้าที่รอคอยดังขึ้น

มือหยาบรีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเปิดดู รูปภาพรูปหนึ่งที่ถูกแนบมาพร้อมกับอีเมลทำหัวใจเต้นรัวจนแทบหลุดจากอก นัยน์ตาสีดำขลับเหลียวมองซ้ายขวาก่อนจะออกวิ่งสุดแรงกลับไปยังจุดที่เขาถ่ายภาพตัวเองเมื่อสักครู่

ภาวัฒน์เปิดภาพขึ้นดูอีกครั้ง มันคือภาพปาวัสม์ที่ถ่ายคู่กับฐานเหล็กสีเงินของหอไอเฟลที่เหมือนกันกับของเขาไม่มีผิด เด็กหนุ่มเหลียวมองรอบกายรวดเร็ว หัวใจยังเต้นแรงไม่หยุดทั้งสับสนและเต็มไปด้วยความหวังแต่สุดท้ายแล้วก็ไม่เห็นแม้เงาของคนที่อยากพบ เขาก้มหน้าลงมองภาพนั้นอีกครั้งและเริ่มอ่านข้อความยาวเหยียดที่คุณหมอหนุ่มส่งมา

“ขอโทษที่ให้รอนานนะพลุ นายก็รู้ว่าฉันถ่ายรูปไม่ค่อยเก่ง ตอนนี้นายคงกำลังมองหาฉันสินะ ขอโทษอีกครั้งที่ทำให้ผิดหวังเพราะว่าฉันยังอยู่ที่อเมริกา ที่โรงแรมปารีสบนถนนสตริปของลาสเวกัส

ฉันแค่อยากให้นายมองภาพนี้ ภาพที่คล้ายกันนี้และรับรู้ว่าฉันอยู่ตรงนั้น ไม่ใช่การคิดไปเองหรือหลอกตัวเองแต่ฉันอยู่ข้างนาย อาจไม่ใช่ร่างกายแต่ฉันส่งใจไปอยู่กับนายเสมอนะ ลองเงยหน้ามองฟ้าสิ เพราะฉันกำลังมองอยู่ นายเห็นดาวไหม คืนนี้ดาวสวยนะเหมือนคืนนั้นที่เราอยู่ด้วยกันที่ระเบียงบ้านเทมส์ที่เชียงใหม่ จำได้ไหมว่าตอนนั้นที่ฉันจับมือนายไว้แล้วบอกนายว่าอะไร

‘สู้ๆ นะพลุ ตราบใดที่นายยังสู้ฉันจะสู้เป็นเพื่อนนาย’

ไม่เห็นหน้านายสี่เดือนฉันรู้สึกเหมือนสี่ปี แล้วนี่ฉันยังต้องทนไปอีก 46 เดือนเลยนะ ไม่ได้มีแค่นายหรอกที่เหงา ฉันเองก็คิดถึงนายเหมือนกัน พยายามเข้านะ แต่ถ้ามันไม่ไหวจริงๆ ก็บอกมาฉันจะบินไปหา ไปปลอบนายเพราะจริงๆ แล้วฉันเองก็อยากจะไปใจแทบขาดแล้ว แต่เพราะนายน่ะแหละที่ห้ามไม่ให้ฉันไป นายเป็นแฟนคนแรกเลยนะที่ฉันยอมให้ทำตามใจและทำให้ฉันคิดถึงได้มากมายถึงขนาดนี้ เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นรีบๆ เรียนให้จบแล้วกลับมาให้ฉันกอดเร็วๆ เลยนะ
คิดถึงมากถึงมากที่สุด

                                                                                                                                   ปืน”


“คุณหมอบ้า” ภาวัฒน์รำพึงกับโทรศัพท์ “เล่นอะไรแบบนี้เนี่ย แล้วยังข้อความนี้อีก โคตรน้ำเน่าเลย” ปากพูดไปแบบนั้นแต่กลับเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าสีหมึกที่ประดับด้วยดวงดาราสีทองส่องประกายวับแวมสู้แสงไฟนีออนของเมืองใหญ่ มุมปากกระตุกขึ้นอมยิ้มน้อยๆ เป็นครั้งแรกในรอบหลายวัน เมื่อนึกถึงภาพร่างสูงในชุดโอเวอร์โคตตัวยาวสีดำเหมือนในภาพวิ่งวุ่นหามุมถ่ายรูปให้เหมือนกับเขาอย่างเก้ๆ กังๆ ก่อนคนขี้หนาวจะไปยืนหลบมุมกดพิมพ์ข้อความด้วยหัวคิ้วที่ขมวดมุ่นแต่ก็คงไม่ได้ลดความคมเข้มของเครื่องหน้าหล่อเหลาที่เขาจำได้ติดตาตั้งแต่เจอกันครั้งแรกได้เลย

“ดาวสวยจังเลยครับ”

มันไม่ใช่แค่ข้อความให้กำลังใจที่ทำให้หัวใจของเขารู้สึกอิ่มเอม แต่มันเติมเต็มด้วยความนัยของคำว่า ‘รัก’ ที่เขาเป็นคนสร้างข้อตกลงนี้ขึ้นมาในวันที่จากกันว่าห้ามพูดจนกว่าจะได้เจอกันอีกครั้งผ่านตัวอักษรที่เรียกว่า ‘แฟน’ ถ้อยคำที่เขาไม่เคยใช้กับใครมาก่อนในชีวิต และในที่สุดวันนี้มันก็ถูกหยิบยกขึ้นมาใช้โดยคนที่เขาเฝ้ารอมาทั้งชีวิต

ภาวัฒน์หลับตา มือกำโทรศัพท์แน่นและสูดลมหายใจเข้าจนเต็มปอด เนิ่นนานหลายนาทีกว่าเขาจะลืมตาขึ้นอีกครั้งและพิมพ์ข้อความตอบกลับไป

“ขอบคุณมากครับ อีก 46 เดือนเจอกันนะครับ คิดถึงคุณหมอมากกว่าที่คุณหมอคิดถึงผม

                                                                                                           พลุ”

ใช่แล้วพลุ... นายจะมาท้อแท้ทำไมกับเรื่องแค่นี้ ในเมื่อครั้งหนึ่งนายได้ตัดสินใจแล้วว่าจะสู้ ก็ต้องสู้ให้ถึงที่สุด มันคงไม่มีอะไรน่ากลัวและยากลำบากไปกว่าความตายที่เคยผ่านมาได้แล้วครั้งหนึ่งหรอก และอีกสี่ปีนับจากนี้นายจะได้กลับไปยืนอยู่ตรงหน้าเขา และเดินเคียงข้างไปพร้อมๆ กับเขาได้อย่างเต็มภาคภูมิ

ร่างสูงในโอเวอร์โคตตัวยาวสีดำสนิทอมยิ้มกับข้อความที่ส่งมา เขาขยับนิ้วพิมพ์กลับไปอย่างเชื่องช้าก่อนจะยกโทรศัพท์ขึ้นแนบปาก ปาวัสม์กดส่งเป็นครั้งสุดท้ายและเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าสีหมึกเมื่อรับรู้ถึงปุยสีขาวนวลที่ลอยละล่องอยู่รอบตัว หิมะแรกของปีในลาสเวกัสกำลังโปรยปรายลงมาราวกับของขวัญจากสรวงสวรรค์

น่าแปลกที่เหตุการณ์นี้ก็กำลังเกิดขึ้นเช่นเดียวกันกับอีกเมืองที่อยู่ไกลออกไป

เสียงเตือนที่ดังขึ้นอีกครั้งทำให้คนผมน้ำตาลที่กำลังอมยิ้มกับตัวเองหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดอ่าน มันก็แค่ประโยคสั้นๆ ที่เขียนว่า “มีอะไรจะบอก” แต่เพราะข้อความเสียงที่แนบมาทำให้รอยริ้วสีแดงจัดราวกับถูกหิมะสาดใส่พาดเต็มแก้มขาวหากอุณหภูมิใบหน้ากลับพุ่งสูงจนแทบไหม้

“สุขสันต์วันเกิดเจ้าเด็กแสบ”

“รู้ได้ยังไงเนี่ยไอ้คนแผนสูงเอ๊ย!” ภาวัฒน์ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับของขวัญวันเกิดที่คนต่างแดนส่งมาเซอร์ไพรส์โดยไม่ได้รู้เลยว่าเมื่อกลับไปถึงหอพักเขาจะได้พบกับของขวัญจริงๆ ที่ถูกบรรจงเลือกสรรและส่งมาโดยคำนวนให้ถึงในวันนี้พอดิบพอดี

OOOOOO

เมื่อปีใหม่ผ่านไปหิมะที่เริ่มตกตั้งแต่คริสต์มาสก็ถมตัวหนาจนแม้แต่การเดินบนทางเท้าปูอิฐสีน้ำตาลแดงระหว่างอาคารเรียนในรั้วมหาวิทยาลัยที่ได้รับการกวาดอยู่ตลอดยังเป็นเรื่องลำบาก แต่เด็กหนุ่มคนหนึ่งที่คลุมกายด้วยโอเวอร์โคตสีน้ำตาลเข้มกำลังออกวิ่งสุดฝีเท้าโดยไม่กลัวว่าจะลื่นล้ม ร่างโปร่งหยุดวิ่งเมื่อมาถึงห้องพัก เขารีบควานหาโทรศัพท์ที่วางลืมไว้ตั้งแต่เมื่อเช้าบนโต๊ะหัวเตียง

นิ้วเรียวสไลด์ปุ่มปลดล็อคพลันภาพหน้าจอซึ่งเป็นรูปของเขาและปาวัสม์ที่ถ่ายกับหอไอเฟลถูกตัดต่อมาอยู่ในเฟรมเดียวกันปรากฏขึ้นสู่สายตา รอยยิ้มกว้างคลี่เต็มริมฝีปากพร้อมกับรัวนิ้วพิมพ์ข้อความส่งไปหาคนในภาพ

“ผมสอบผ่านแล้วนะ”

ครู่ใหญ่ๆ ก็มีคำตอบกลับมา

“ให้มันได้อย่างนี้สิคนเก่ง ทำให้ได้แบบนี้ไปอีก 45 เดือนเลยนะ อ้อ! เขาบอกปีนี้จะหนาวกว่าทุกปี ดูแลตัวเองดีๆ อย่าปล่อยให้มือเย็นล่ะ”

ภาวัฒน์วางโทรศัพท์และล้วงมือลงในกระเป๋าเสื้อโคตหยิบเอาถุงมือหนังสีดำที่ข้างในบุขนแกะอย่างดีขึ้นมาสวมก่อนจะวางทาบแนบอก หลับตาลงพลางนึกถึงลายมือขยุกขยุยสไตล์นายแพทย์ที่พยายามบรรจงคัดใส่การ์ดอวยพรวันเกิดมาให้เขาว่า

                                               คิดถึงแต่บินไปหาไม่ได้ เลยฝากสิ่งนี้มาจับมือนายไว้แทน

ยิ้มหวานคลี่เต็มริมฝีปาก มือที่ว่าอุ่นแล้วยังเทียบไม่ได้เลยกับความอบอุ่นในหัวใจ... อีกสี่สิบห้าเดือนทำไมมันนานขนาดนี้นะ

                                                                              The End


*********************************************************************************************

หายไปนานเลย ยังไม่ตายนะคะแต่เกือบๆ ล่ะ555
ซุ่มทำวิทยานิพนธ์ภาคสองอยู่ค่ะ ได้ 40% แล้ว >.<
แต่ก่อนจะลงให้อ่าน ขอทำ 'เลกกี้โพล' สักเล็กน้อยนะคะ ...กรุณาตอบเค้าหน่อยน้า :impress2:

อยากอ่านเรื่องเกี่ยวกับอะไร ของใคร หรือคู่ไหนเป็นพิเศษไหมคะ แค่นี้แหละค่ะ

*สปอยตอนพิเศษในเล่ม มี 5 ตอน + ของแถมอีก 1เรื่อง*

ขอบคุณทุกๆ คำตอบนะค้า^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-08-2015 02:54:41 โดย leGGyDan »

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
อุ่นไปทั้งใจ จนอยากอ่านอีก

ออฟไลน์ litlittledragon

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +304/-1
น่ารักจริงๆ เลยคู่นี้ จะหวานไปไหน

ออฟไลน์ Infinity 888

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2026
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-7
ชอบเรื่องนี้ เดี๋ยวตามไปเก็บ

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
คิดถึงหอมปืนน้องพลุที่สุดเลยยยย

ออฟไลน์ fanglest

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
น่ารัก อบอุ่นจริงๆค่ะ
เป็นคู่ที่ละมุนจริงๆ
 :o8:

ออฟไลน์ Yร้าย

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
หวานแบบไม่เลี่ยน หวานแบบแมน ๆ  อยากอ่านอีก

ออฟไลน์ kautumn

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
เต้าเด็กพลุ นอยด์ซินะทหมอปืนน่ารักให้กำลังใจน้องพลุด้วย

ออฟไลน์ ovam

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ cartoons

  • "ละอองกอ"
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-2
 :-[ หวานนนน น้ำตาลท่วมมมมมมม

ออฟไลน์ Bear Company

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ดีใจที่มีตอนพิเศษตอนนี้ เพราะจากเรื่องหลัก
ทำให้คิดว่าตลอดที่พลุเรียน ทั้งคู่ได้ติดต่อกันหรือไม่
เพราะไม่ได้เจอกันเลยน่ะ แต่ตอนนี้กระจ่าง
อ่านไปอมยิ้มไปกับความรักและคิดถึงของทั้งคู่

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
โอ้ยยย น่ารัก อบอุ่นเกิ๊นนนหมอปืน
อยากเห็นตอนพลุเรียนจบ โมเมนต์อยู่ด้วยกัน
เซอร์ไพร์อีกไรงี้ น่ารัก

ออฟไลน์ whitelavenders

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 197
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
อุ่นอีกแล้ว เมื่อไหร่ทั้งคู่จะได้เจอกันสักทีน้ออ  :กอด1: ตอบที่ถามนะคะ : อยากเห็นภาคอนาคตตอนเค้าอยู่ด้วยกันจังค่ะ แล้วก็อยากเห็นเทมส์อีก

ออฟไลน์ nokkaling

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 941
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษ  o13

แล้วมาต่ออีกเรื่อย ๆ นะ  :กอด1:

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
รู้สึกได้ว่าเขารักกันจริงๆ นะ

อ่านแล้วซึ้ง

ออฟไลน์ QXanth139

  • ♡동해 #Always13
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
 อบอุ่นดีจัง :กอด1:

ออฟไลน์ Memindbucker

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 94
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เรื่องนี้สนุกมากกกกกกก อ่านจบแล้วรู้สึกเหมือนหลายๆความเห็นที่ว่า
โชคดีจังที่มีโอกาสได้อ่านนิยายเรื่องนี้. พล็อตเรื่องก็ดีมาก ไม่ซ้ำใคร เป็นควิามรักที่ไม่หวือหวาแต่อบอุ่นและยิ่งใหญ่
นับถือหัวใจที่ภักดีของพลุจริงๆ ความรักที่บริสุทธิ์ รักที่เทิดทูล อบอุ่นหัวใจจริงๆค่ะ
เนื้อเรื่องในแต่ละตอนมีมาให้ลุ้นบ่อยๆ ช่วงทำcprนี่ลุ้นไปกับทุกเคสเลย โดยเฉพาะเคสหมอจิว อ่านไปน้ำตาไหลไป

ขอบคุณคนเขียนนะคะที่แต่งนิยายดีๆแบบนี้มาให้อ่าน ถ้ามีเวลามีแรงบันดาลใจก็อยากให้แต่งเรื่องใหม่ๆมาให้อ่านอีก
ถ้าเป็นไปได้ก็อยากอ่านตอนพิเศษของเรื่องนี้อีกหลายๆตอน นิยายนี้จะเป็นหนึ่งในนิยายที่ตราตรึงในความทรงจำค่ะ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6
 :pig4: ก็นะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ sebaspote

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อ่านนิยายรื่องนี้จบในหนึ่งวัน กับหนึ่งคืนค่ะ ติดมากไม่เป็นอันทำอะไรเลย
คนเขียน วางโครงเรื่องได้ดีค่ะ แปลกใหม่ไม่เหมือนคนอื่น
และอ่านแล้วรู้สึกว่าชอบความรักในเรื่องนี้มาก ไม่ว่าจะเป็นความรักที่พลุมีให้หมอปืน
ความรักที่เพื่อนมีให้กัน และความรักของพ่อ อ่านแล้วรู้สึกอบอุ่น และยิ้มได้ค่ะ

หมอปืนเป็นผู้ชายที่ดูอบอุ่น ใจดี แต่ก็ขี้เหงา และโลเล อยู่ใกล้ใครก็โอนอ่อนเข้าหาเค้าง่ายๆ
และยังแอบซื่อบื้อด้วย แถมตอนจบคงกลัวกลายเป็นลุงแก่ลงพุง เลยฟิตหุ่นมาซะกล้ามแน่นเลย
หมอปืนยังไม่ทันกินเด็กก็เตรียมเป็นอมตะซะแล้ว 555

พลุเป็นคนที่มุ่งมั่นเพื่อความฝัน และก็รั้นด้วย แต่เราดีใจที่สุดท้ายน้องพลุก็ยอมมองความจริง
และกลับไปเรียนต่อ แอบขำตอนจบที่พลุบอกหมอว่าผมจะดูแลหมอปืนหลังเกษียณเอง 555

คู่ของหมอจิวกับนายน์ นี่รวบรัดตัดความมากค่ะ ถ้ากล่าวถึงคู่รองมากกว่านี้ ความฟินคงเพิ่มขึ้น

หมอนิว เธอช่างเป็นคุณหนูเอาแต่ใจ ที่นิสัยร้ายกาจมาก กลัวใครจะมาแย่งแฟนไป จนต้องทำร้ายคนอื่น
ทั้งให้น้องชายมาจีบหมอจิว จ้างคมาจัดฉากเป็นพ่อลูกที่เกิดอุบัติเหตุ แล้วยังจะให้พ่อใช้อำนาจกลั่นแกล้งหมอปืนอีก
อยากบอกหมอนิวว่า ถ้าผู้ชายเค้าไม่รักก็ปล่อยเค้าไปเถอะ รั้งไว้ได้แต่ตัวมันไม่มีความหมายหรอก

อุ้มเป็นตัวละครที่เราชอบมากค่ะ เป็นคนที่รักเพื่อนมาก และแสดงความรู้สึกแบบตรงไปตรงมา
ขอให้อุ้มได้เจอหนุ่มเกาหลีแสนดีสักคนนะคะ

ความสมจริงของเหตุการณ์ทางการแพทย์ก็ทำได้ดีค่ะ คนเขียนหาข้อมูลมาได้ดีมากค่ะ
ทั้งการทำงาน และศัพท์ที่พูดกัน ชอบคำว่าอิเพิ้งเซิ้งยันเช้ามากค่ะ
เราเคยเลิกอ่านนิยายบางเรื่อง หรือเลิกดูละครบางเรื่อง
เพราะเจอฉากกู้ชีพ ต้องทำ CPR แต่ดันใช้หน้ากากออกซิเจนครอบ
(อาการหนักขนาดนั้นใส่ท่อช่วยหายใจเถอะ)

จะมีความไม่สมจริงอยู่บ้างก็ตอนหมอจิว คือหลังผ่าตัดถึงจะเริ่มหายใจต้านเครื่องช่วยหายใจ
แต่ในความจริงอาการหนักขนาดนั้นยังไม่น่าปิดเครื่องช่วยหายใจ และถอดท่อได้
แต่น่าจะให้ยานอนหลับเพื่อให้หมอจิวหลับจะได้ไม่หายใจต้านเครื่องช่วยหายใจ

หลังหมอปืน CPR เสร็จส่งหมอจิวเข้าห้องผ่าตัดแล้ว ไม่น่าว่างไปนั่งเฝ้าหน้าห้องค่ะ
หมอปืนอยู่เวรไม่ใช่เหรอ ถึงเกิดเรื่องก็ต้องทำงานต่อไปนะ ไม่งั้นใครจะอยู่เวนแทน

โรงพยาบาลที่พวกหมอปืนทำงานอยู่เป็นโรงพยาบาลรัฐ เพราะงั้นหมอนิวไม่ใช่ลูกเจ้าของโรงพยาบาลนะคะ
และตำแหน่ง ผอ.ก็คงส่งต่อให้หมอปืนไม่ได้ด้วย ต่อให้หมอปืนเก่งแค่ไหน อายุแค่ 30 ปี
นี่น่าจะเพิ่งจบแพทย์ประจำบ้านมาทำงานเป็นแพทย์เฉพาะทางได้ไม่เกิน 1 ปี
อายุราชการน้อยแบบนั้นให้ตายก็เป็น ผอ.โรงพยาบาลรัฐขนาดใหญ่ไม่ได้ค่ะ

ตอนที่หมอปืนได้ทุนไปเรียนต่อแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว นี่ก็ไม่น่าเป็นไปได้ค่ะ
การจะไปเรียนแพทย์ประจำบ้านต่อยอดที่อเมริกาไม่ใช่เรื่องง่าย (เอาแค่เรียนต่อในไทยยังยากเลยค่ะ)
ทั้งต้องไปสอบสัมภาษณ์ ติดต่อโรงพยาบาล ติดต่ออาจารย์ที่จะไปเรียนด้วย
หมอปืนต้องติดต่อเอง คุยเอง ไม่ใช่อยู่ๆ ผอ.ยื่นเอกสารให้ว่าไปสิ เรื่องจริงนี่โรงพยาบาลที่อเมริกาไม่รับหมอปืนไปเรียนแน่คะ
ขนาดแค่ไปดูงานระยะสั้นไม่กี่เดือนยังลำบากเลย


มีหลายครั้งที่บอกว่านายน์เป็นหลานหมอนิว แต่คู่นี้เป็นลูกพี่ลูกน้องก็น่าจะเป็นน้อชายนะคะ

ไอ้ที่พูดมาทั้งหมดนั่นเป็นแค่รายละเอียดยิบย่อยที่เวลาอ่านแล้วเรารู้สึกว่ามันสะดุดเฉยๆ ค่ะ
ไม่ได้ทำให้โครงเรื่องหลักเสียไปแต่อย่างใด แต่ถ้าสามารถเก็บรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ได้จะทำให้การอ่านนิยายลื่นไหลขึ้นค่ะ

จะไปซื้อนิยายแน่นอนค่ะ อยากอ่านตอนพิเศษด้วย จะคอยติดตามผลงานเรื่องต่อไปนะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-09-2015 13:31:50 โดย sebaspote »

ออฟไลน์ leGGyDan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 347
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
อ่านนิยายรื่องนี้จบในหนึ่งวัน กับหนึ่งคืนค่ะ ติดมากไม่เป็นอันทำอะไรเลย
คนเขียน วางโครงเรื่องได้ดีค่ะ แปลกใหม่ไม่เหมือนคนอื่น
และอ่านแล้วรู้สึกว่าชอบความรักในเรื่องนี้มาก ไม่ว่าจะเป็นความรักที่พลุมีให้หมอปืน
ความรักที่เพื่อนมีให้กัน และความรักของพ่อ อ่านแล้วรู้สึกอบอุ่น และยิ้มได้ค่ะ

หมอปืนเป็นผู้ชายที่ดูอบอุ่น ใจดี แต่ก็ขี้เหงา และโลเล อยู่ใกล้ใครก็โอนอ่อนเข้าหาเค้าง่ายๆ
และยังแอบซื่อบื้อด้วย แถมตอนจบคงกลัวกลายเป็นลุงแก่ลงพุง เลยฟิตหุ่นมาซะกล้ามแน่นเลย
หมอปืนยังไม่ทันกินเด็กก็เตรียมเป็นอมตะซะแล้ว 555

พลุเป็นคนที่มุ่งมั่นเพื่อความฝัน และก็รั้นด้วย แต่เราดีใจที่สุดท้ายน้องพลุก็ยอมมองความจริง
และกลับไปเรียนต่อ แอบขำตอนจบที่พลุบอกหมอว่าผมจะดูแลหมอปืนหลังเกษียณเอง 555

คู่ของหมอจิวกับนายน์ นี่รวบรัดตัดความมากค่ะ ถ้ากล่าวถึงคู่รองมากกว่านี้ ความฟินคงเพิ่มขึ้น

หมอนิว เธอช่างเป็นคุณหนูเอาแต่ใจ ที่นิสัยร้ายกาจมาก กลัวใครจะมาแย่งแฟนไป จนต้องทำร้ายคนอื่น
ทั้งให้น้องชายมาจีบหมอจิว จ้างคมาจัดฉากเป็นพ่อลูกที่เกิดอุบัติเหตุ แล้วยังจะให้พ่อใช้อำนาจกลั่นแกล้งหมอปืนอีก
อยากบอกหมอนิวว่า ถ้าผู้ชายเค้าไม่รักก็ปล่อยเค้าไปเถอะ รั้งไว้ได้แต่ตัวมันไม่มีความหมายหรอก

อุ้มเป็นตัวละครที่เราชอบมากค่ะ เป็นคนที่รักเพื่อนมาก และแสดงความรู้สึกแบบตรงไปตรงมา
ขอให้อุ้มได้เจอหนุ่มเกาหลีแสนดีสักคนนะคะ

ความสมจริงของเหตุการณ์ทางการแพทย์ก็ทำได้ดีค่ะ คนเขียนหาข้อมูลมาได้ดีมากค่ะ
ทั้งการทำงาน และศัพท์ที่พูดกัน ชอบคำว่าอิเพิ้งเซิ้งยันเช้ามากค่ะ
เราเคยเลิกอ่านนิยายบางเรื่อง หรือเลิกดูละครบางเรื่อง
เพราะเจอฉากกู้ชีพ ต้องทำ CPR แต่ดันใช้หน้ากากออกซิเจนครอบ
(อาการหนักขนาดนั้นใส่ท่อช่วยหายใจเถอะ)

จะมีความไม่สมจริงอยู่บ้างก็ตอนหมอจิว คือหลังผ่าตัดถึงจะเริ่มหายใจต้านเครื่องช่วยหายใจ
แต่ในความจริงอาการหนักขนาดนั้นยังไม่น่าปิดเครื่องช่วยหายใจ และถอดท่อได้
แต่น่าจะให้ยานอนหลับเพื่อให้หมอจิวหลับจะได้ไม่หายใจต้านเครื่องช่วยหายใจ

หลังหมอปืน CPR เสร็จส่งหมอจิวเข้าห้องผ่าตัดแล้ว ไม่น่าว่างไปนั่งเฝ้าหน้าห้องค่ะ
หมอปืนอยู่เวรไม่ใช่เหรอ ถึงเกิดเรื่องก็ต้องทำงานต่อไปนะ ไม่งั้นใครจะอยู่เวนแทน

โรงพยาบาลที่พวกหมอปืนทำงานอยู่เป็นโรงพยาบาลรัฐ เพราะงั้นหมอนิวไม่ใช่ลูกเจ้าของโรงพยาบาลนะคะ
และตำแหน่ง ผอ.ก็คงส่งต่อให้หมอปืนไม่ได้ด้วย ต่อให้หมอปืนเก่งแค่ไหน อายุแค่ 30 ปี
นี่น่าจะเพิ่งจบแพทย์ประจำบ้านมาทำงานเป็นแพทย์เฉพาะทางได้ไม่เกิน 1 ปี
อายุราชการน้อยแบบนั้นให้ตายก็เป็น ผอ.โรงพยาบาลรัฐขนาดใหญ่ไม่ได้ค่ะ

ตอนที่หมอปืนได้ทุนไปเรียนต่อแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว นี่ก็ไม่น่าเป็นไปได้ค่ะ
การจะไปเรียนแพทย์ประจำบ้านต่อยอดที่อเมริกาไม่ใช่เรื่องง่าย (เอาแค่เรียนต่อในไทยยังยากเลยค่ะ)
ทั้งต้องไปสอบสัมภาษณ์ ติดต่อโรงพยาบาล ติดต่ออาจารย์ที่จะไปเรียนด้วย
หมอปืนต้องติดต่อเอง คุยเอง ไม่ใช่อยู่ๆ ผอ.ยื่นเอกสารให้ว่าไปสิ เรื่องจริงนี่โรงพยาบาลที่อเมริกาไม่รับหมอปืนไปเรียนแน่คะ
ขนาดแค่ไปดูงานระยะสั้นไม่กี่เดือนยังลำบากเลย


มีหลายครั้งที่บอกว่านายน์เป็นหลานหมอนิว แต่คู่นี้เป็นลูกพี่ลูกน้องก็น่าจะเป็นน้อชายนะคะ

ไอ้ที่พูดมาทั้งหมดนั่นเป็นแค่รายละเอียดยิบย่อยที่เวลาอ่านแล้วเรารู้สึกว่ามันสะดุดเฉยๆ ค่ะ
ไม่ได้ทำให้โครงเรื่องหลักเสียไปแต่อย่างใด แต่ถ้าสามารถเก็บรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ได้จะทำให้การอ่านนิยายลื่นไหลขึ้นค่ะ

จะไปซื้อนิยายแน่นอนค่ะ อยากอ่านตอนพิเศษด้วย จะคอยติดตามผลงานเรื่องต่อไปนะคะ

ตอบข้อสงสัย
ก่อนอื่นขอบคุณมากๆ เลยที่ชี้จุดบกพร่อง จริงๆ เรามีคำแก้ตัวทั้งหมดนั้นไว้แล้วแต่เราใส่รายละเอียดไม่ลงลึกเองในบางจุดเพราะกลัวว่าถ้ามากเกินไปจะดูจริงจังไปหรือเปล่า บางจุดคือเราลืมใส่ทั้งที่หาข้อมูลไว้แล้ว(ยอมรับแบบแมนๆ)

1. คุณพ่อนิวไม่ใช่เจ้าของ.รพ. แต่จะให้หมอปืนรับช่วงต่อในตำแหน่ง ผอ.รพ.ได้แน่ๆ ค่ะ ถ้าต้องการ(เพราะนิวไปคุกเข่าขอร้องเชียวนะ) ในระบบที่เรียกว่า 'เส้นสาย' ไม่ใช่วันนี้พรุ่งนี้แน่ๆ ค่ะแต่เป็นในอนาคต
2. เรื่องไปเรียนต่อ ผอ.ไม่ได้เป็นคนติดต่อค่ะ คนที่ติดต่อเป็นพ่อของจิวที่เป็นผู้นำเข้าเครื่องมือแพทย์รายใหญ่ของไทยที่ค่อนข้างมีอิทธิพลมาก และช่วงที่ใช้ติดต่อคือ 1 เดือนนับจากนอนรพ.โดยประมาณ และคอร์สที่ไปเรียนคือสำหรับพ.ที่จะกลับมาเป็นอาจารย์สอน ATLS (Advance Trauma life support)เป็นคอร์สซึ่ง Emergency medicine หรือพ.ประจำห้องฉุกเฉินทุกคนต้องเรียน จะว่าติดต่อง่ายก็ง่าย ยากก็ยาก แต่ในกรณีนี้คือ พ่อจิวใช้เส้นค่ะ+โปรไฟล์ปืนดี เค้าเลยรับง่ายๆ
3. คุณคำนวณได้เป๊ะมากค่ะว่าประสบการณ์การทำงานของปืนคือ 1ปี(สุดยอดอะ)หลังจบเฉพาะทางมาแล้ว ดังนั้นตำแหน่งของปืนตอนนี้คือ Young staff ค่ะ ถ้าหากจะไปนั่งเฝ้า staff ด้วยกันที่ป่วยหนักแล้วให้น้องๆ เดนท์ที่มีอยู่มากมายดูเคสไปเราจึงคิดว่าไม่น่าเกลียด มีเคสหนักจริงๆ น้องตามค่อยลงไปเพราะห้องฉุกเฉินอยู่ชั้น 1 ห้องผ่าตัดอยู่ชั้น 2 และ ICU อยู่หน้าห้องผ่าตัดวิ่งลงบันไดไปแป๊บเดียวค่ะ
4. วินิจฉัยโรคของหมอจิวคือ Fracture neck of femur กระดูกfemur บริเวณโคนขาหักค่ะ(เราใส่ไว้อยู่นะ) ตัวโรคไม่หนักหนาแต่บังเอิญไปโดนเส้นเลือดใหญ่ที่โคนขา(ใส่ไว้เช่นกัน) femoral vein ทำให้เกิดภาวะเสียเลือดมาก หรือ hypovolemic shock ถ้าเติมเลือดได้ทันและเพียงพอจะช่วยผู้ป่วยได้ทัน และจิวไม่ได้เอาท่อช่วยหายใจออกทันทีใน24 ชั่วโมงค่ะ เราใช้วิธีตัดฉากจริงๆ เวลาในเรื่องมันผ่านไป 2-3 วัน ขอโทษจริงๆ ค่ะ (และจากประสบการณ์ตรงประมาณ 24 ชั่วโมง ถ้าตื่นดีก็เอาท่อช่วยหายใจออกได้ค่ะ) (ในส่วนของการผ่าตัดทำเป็น External fixation with repaired vascular โดยพ.กระดูกและพ.ศัลยกรรมเส้นเลือด)
5.เรื่องนิว-นายน์ นายน์เป็นลูกของน้องชายพ่อนิว... เป็นลูกพี่ลูกน้องถูกแล้วค่ะ เป็นหลานของพ่อนิว คงมีจุดที่เรามึนบ้าง ขอบคุณมากมายค่ะ

สุดท้าย
ขอบคุณมากมายค่ะสำหรับข้อติ-ชม เราจะเก็บไว้พัฒนาเรื่องต่อไปนะคะ^^
ปล.ในส่วนของตอนพิเศษ 5 ตอนมีตอนของ นายน์-จิว ด้วยค่ะ รับรองไม่ผิดหวัง และเราจะได้รู้กันว่ากล้ามที่หมอปืนอุตส่าห์ฟิตมามีไว้ทำอะไรค่ะ

ออฟไลน์ sebaspote

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ดีใจมากค่ะ ที่คนเขียนมาตอบ ขอชี้แจงในส่วนที่ทำให้เราสงสัยค่ะ

1.เนื่องจากในเรื่องมีบางตอนที่มีคนพูดว่าหมอนิว ทั้งเก่ง สวย รวย แถมยังเป็นลูกเจ้าของโรงพยาบาลอีกด้วย
ทำให้เราไม่แน่ใจว่าคนเขียนลืมรึเปล่าว่านี่โรงพยาบาลรัฐนะ ไม่ใช่เอกชน
ส่วนตำแหน่งผอ. จริงอยู่ว่าระบบเส้นสายมีจริงแต่ด้วยอายุตอนนี้หมอปืนอายุ 30 ปี
หมอนิวจบเฉพาะทางแล้ว และเป็นรุ่นน้องหมอปืนถ้าจบเฉพาะทางได้แสดงว่าต้องเป็นแพทย์ใช้ทุนไม่ครบ 3 ปี
หรืออาจไม่ได้ใช้ทุนเลย แสดงว่าหมอนิวต้องอายุ 27-29 ปี คุณพ่อหมอนิวคงอายุ 54-59 ปี
อีกไม่กี่ปีคุณพ่อก็เกษียณ ซึ่งตอนนั้นหมอปืนจะอายุไม่เกิน 36 ปี ด้วยอายุขนาดนั้นเป็นผอ. ไม่ได้แน่ค่ะ
และกว่าจะถึงอายุที่เหมาะสมคุณพ่อหมอนิวก็เกษียณไปนานแล้ว ซึ่งคุณพ่อคงไม่มีส่วนร่วมตัดสินใจในการเลือกผอ. แน่นอน
ตามความคิดของเรา เพราะการจะเลือกผอ. มันต้องดูทั้งอายุราชการ วัยวุฒิ และผู้สนับสนุนที่ยังทำงานอยู่ในโรงพยาบาล
และโรงพยาบาลที่พวกหมอปืนทำงานอยู่น่าจะเป็นโรงเรียนแพทย์ ก็คงมีพวกอาจารย์เข้ามาเกี่ยวข้องอีก
อันนี้เป็นความโรคจิตส่วนตัวของเราค่ะที่จะชอบเดาอายุตัวละครแล้วคิดไปไกล

2.เรื่องเรียนต่อ เราเข้าใจดีถึงเรื่องเส้นสายของพ่อหมอจิวค่ะ แต่ที่เราแปลกใจคือ คุณพ่อหมอจิวน่าจะให้ทุนส่งไป
และเป็นแบ็คอัพในการติดต่อประสานงานกับโรงพยาบาลในอเมริกาให้ แต่หมอปืนควรต้องเป็นคนติดต่อเองด้วย
เพราะมันน่าจะต้องใช้เอกสารหลายอย่าง เช่นคะแนนทดสอบภาษาอังกฤษ ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน
แต่ตอนอ่านเราเข้าใจว่าอยู่ๆ ผอ. ก็ยื่นเอกสารมาให้หมอปืนเลยว่าโรงพยาบาลที่อเมริกาให้หมอปืนไปเรียนต่อนะ
ทั้งที่หมอปืนไม่รู้เรื่องอะไรเลย แล้วผอ. กับพ่อหมอจิวเอาเอกสารส่วนตัวของหมอปืนจากไหนไปยื่นให้โรงพยาบาลที่อเมริกา

3.อันนี้เราลืมนึกไปว่าน่าจะมีสต๊าฟคนอื่นเข้าเวรอีกด้วยค่ะ พอดีเห็นหมอปืนกับหมอจิวเข้าเวรทั้งคู่ เลยสงสัยว่าใครจะอยู่เวรแทน

4.เราเข้าใจเรื่องที่หมอจิวกระดูกหัก และกระดูกที่หักไปโดนหลอดเลือดใหญ่ แล้วทำให้เกิดภาวะช็อคเนื่องจากการเสียเลือดมากค่ะ เราแค่แปลกใจเฉยๆ ว่าอาการหนัก ขนาดหยุดหายใจ หัวใจหยุดเต้น แค่เริ่มฟื้นหายใจต้านเครื่องจะรีบถอดท่อแล้วเหรอ แต่นั่นน่าจะเพราะคนเขียนตัดฉาก แต่เราเข้าใจผิดไปเองว่ามันยังเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องอยู่ และเห็นด้วยค่ะว่าถ้า CPR ได้ดี และไม่มีข้อแทรกซ้อนอะไร อาจเอาท่อช่วยหายใจออกได้ใน 24 ชั่วโมง

5.อันนี้เป็นประเด็นใหม่ค่ะ ถ้ามีพยาบาลเรียกหมอเฉพาะทางว่าอาจารย์จะยิ่งดีค่ะ เห็นส่วนมากเป็นธรรมเนียมปฏิบัติกันว่าจะเรียกหมอที่จบเฉพาะทางแล้วว่าอาจารย์

จะรออ่านตอนพิเศษนะคะ อยากเห็นหมอปืนกับน้องพลุมุ้งมิ้งหวานกันบ้างอะไรบ้าง ในเรื่องพอยอมรับว่ารักกันก็ต้องแยกจากกันซะแล้ว ที่สำคัญรอดูกล้ามหมอปืนอยู่ค่ะ 555 คู่นายน์กับหมอจิวก็รออ่านค่ะอยากให้กล่าวถึงคู่นี้เยอะหน่อย เพราะในเรื่องได้ออกนิดเดียวเอง ตอนนี้นับวันรอให้หนังสือมาส่งอยู่ค่ะ

ปล.เราค่อนข้างคิดอะไรยิบย่อยไปหน่อยหวังว่าคนเขียนคงไม่รำคาญนะคะ พอดีนิยายเรื่องนี้หาข้อมูลมาดี และเขียนค่อนข้างสมจริงมาก เราเลยอยากช่วยดูจุดเล็กๆ น้อยๆ ที่เรารู้สึกว่ามันดูไม่จริง เพราะเราชอบนิยายเรื่องนี้มากค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-09-2015 03:30:28 โดย sebaspote »

ออฟไลน์ am_am

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
สนุกมาก ๆ เลยค่ะ  อ่านแล้วลุ้นมาก ๆ เลย
เขียนเก่งจริงๆเลยค่ะ  :กอด1:

ออฟไลน์ leGGyDan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 347
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
ดีใจมากค่ะ ที่คนเขียนมาตอบ ขอชี้แจงในส่วนที่ทำให้เราสงสัยค่ะ

1.เนื่องจากในเรื่องมีบางตอนที่มีคนพูดว่าหมอนิว ทั้งเก่ง สวย รวย แถมยังเป็นลูกเจ้าของโรงพยาบาลอีกด้วย
ทำให้เราไม่แน่ใจว่าคนเขียนลืมรึเปล่าว่านี่โรงพยาบาลรัฐนะ ไม่ใช่เอกชน
ส่วนตำแหน่งผอ. จริงอยู่ว่าระบบเส้นสายมีจริงแต่ด้วยอายุตอนนี้หมอปืนอายุ 30 ปี
หมอนิวจบเฉพาะทางแล้ว และเป็นรุ่นน้องหมอปืนถ้าจบเฉพาะทางได้แสดงว่าต้องเป็นแพทย์ใช้ทุนไม่ครบ 3 ปี
หรืออาจไม่ได้ใช้ทุนเลย แสดงว่าหมอนิวต้องอายุ 27-29 ปี คุณพ่อหมอนิวคงอายุ 54-59 ปี
อีกไม่กี่ปีคุณพ่อก็เกษียณ ซึ่งตอนนั้นหมอปืนจะอายุไม่เกิน 36 ปี ด้วยอายุขนาดนั้นเป็นผอ. ไม่ได้แน่ค่ะ
และกว่าจะถึงอายุที่เหมาะสมคุณพ่อหมอนิวก็เกษียณไปนานแล้ว ซึ่งคุณพ่อคงไม่มีส่วนร่วมตัดสินใจในการเลือกผอ. แน่นอน
ตามความคิดของเรา เพราะการจะเลือกผอ. มันต้องดูทั้งอายุราชการ วัยวุฒิ และผู้สนับสนุนที่ยังทำงานอยู่ในโรงพยาบาล
และโรงพยาบาลที่พวกหมอปืนทำงานอยู่น่าจะเป็นโรงเรียนแพทย์ ก็คงมีพวกอาจารย์เข้ามาเกี่ยวข้องอีก
อันนี้เป็นความโรคจิตส่วนตัวของเราค่ะที่จะชอบเดาอายุตัวละครแล้วคิดไปไกล

2.เรื่องเรียนต่อ เราเข้าใจดีถึงเรื่องเส้นสายของพ่อหมอจิวค่ะ แต่ที่เราแปลกใจคือ คุณพ่อหมอจิวน่าจะให้ทุนส่งไป
และเป็นแบ็คอัพในการติดต่อประสานงานกับโรงพยาบาลในอเมริกาให้ แต่หมอปืนควรต้องเป็นคนติดต่อเองด้วย
เพราะมันน่าจะต้องใช้เอกสารหลายอย่าง เช่นคะแนนทดสอบภาษาอังกฤษ ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน
แต่ตอนอ่านเราเข้าใจว่าอยู่ๆ ผอ. ก็ยื่นเอกสารมาให้หมอปืนเลยว่าโรงพยาบาลที่อเมริกาให้หมอปืนไปเรียนต่อนะ
ทั้งที่หมอปืนไม่รู้เรื่องอะไรเลย แล้วผอ. กับพ่อหมอจิวเอาเอกสารส่วนตัวของหมอปืนจากไหนไปยื่นให้โรงพยาบาลที่อเมริกา

3.อันนี้เราลืมนึกไปว่าน่าจะมีสต๊าฟคนอื่นเข้าเวรอีกด้วยค่ะ พอดีเห็นหมอปืนกับหมอจิวเข้าเวรทั้งคู่ เลยสงสัยว่าใครจะอยู่เวรแทน

4.เราเข้าใจเรื่องที่หมอจิวกระดูกหัก และกระดูกที่หักไปโดนหลอดเลือดใหญ่ แล้วทำให้เกิดภาวะช็อคเนื่องจากการเสียเลือดมากค่ะ เราแค่แปลกใจเฉยๆ ว่าอาการหนัก ขนาดหยุดหายใจ หัวใจหยุดเต้น แค่เริ่มฟื้นหายใจต้านเครื่องจะรีบถอดท่อแล้วเหรอ แต่นั่นน่าจะเพราะคนเขียนตัดฉาก แต่เราเข้าใจผิดไปเองว่ามันยังเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องอยู่ และเห็นด้วยค่ะว่าถ้า CPR ได้ดี และไม่มีข้อแทรกซ้อนอะไร อาจเอาท่อช่วยหายใจออกได้ใน 24 ชั่วโมง

5.อันนี้เป็นประเด็นใหม่ค่ะ ถ้ามีพยาบาลเรียกหมอเฉพาะทางว่าอาจารย์จะยิ่งดีค่ะ เห็นส่วนมากเป็นธรรมเนียมปฏิบัติกันว่าจะเรียกหมอที่จบเฉพาะทางแล้วว่าอาจารย์

จะรออ่านตอนพิเศษนะคะ อยากเห็นหมอปืนกับน้องพลุมุ้งมิ้งหวานกันบ้างอะไรบ้าง ในเรื่องพอยอมรับว่ารักกันก็ต้องแยกจากกันซะแล้ว ที่สำคัญรอดูกล้ามหมอปืนอยู่ค่ะ 555 คู่นายน์กับหมอจิวก็รออ่านค่ะอยากให้กล่าวถึงคู่นี้เยอะหน่อย เพราะในเรื่องได้ออกนิดเดียวเอง ตอนนี้นับวันรอให้หนังสือมาส่งอยู่ค่ะ

ปล.เราค่อนข้างคิดอะไรยิบย่อยไปหน่อยหวังว่าคนเขียนคงไม่รำคาญนะคะ พอดีนิยายเรื่องนี้หาข้อมูลมาดี และเขียนค่อนข้างสมจริงมาก เราเลยอยากช่วยดูจุดเล็กๆ น้อยๆ ที่เรารู้สึกว่ามันดูไม่จริง เพราะเราชอบนิยายเรื่องนี้มากค่ะ

555 ไม่ค่ะไม่ว่าเราดีใจด้วยซ้ำแสดงคุณตั้งใจอ่านจริงๆ

ในข้อ 1-2 เรายังยืนยันนะว่าเป็นไปได้ จากBase on true story ที่เราได้มีโอกาสเจอมามันยิ่งกว่านี้อีก... ผอ.ที่มีแต่ชื่อไม่เคยเห็นหน้าจนกระทั่งวันย้ายไปตำแหน่งสูงกว่า หรือแม้แต่ผอ.ที่เป็นคนละคนกับคำสั่งที่แต่งตั้งขึ้นไป (ความจริงมันโหดร้าย)
ข้อ 3-4 จริงๆ เรามีฉากที่จิวตื่นมาแล้วโวยวายจะดึงทิวป์ ขอกินน้ำ ไอขย้อนทิวป์ด้วยนะ ต้องให้อุ้มกับพลุช่วยจับกดลงเตียง พยาบาลไอซียูจับมัดมือ ปืนสั่งยาsedate แล้วตามพ.ศัลย์มาออฟทิวป์ แต่เราตัดทิ้งเพราะจากฉากซึ้งๆ มันดูน่ากลัวไปเลย
ข้อ 5 เรื่องเรียก อาจารย์... ตัวละครที่เป็นพบย.ในภาคนี้คืออุ้ม=> เพื่อนสนิทมากปกติก็ไม่เรียกอยู่แล้ว ถ้าเรียกก็จะเป็นตอนอยู่ต่อหน้าน้องๆ ในสถานการที่ดูเป็นทางการหน่อย
น้องมิลค์ นางโผล่มาสองฉากจู่ๆ จะให้เรียก อาจารย์ปืนขา กลัวว่าจะอธิบายกันยาว แต่ในภาคต่อ(ถ้าได้เขียนนะคะ) หมอปืนได้เป็นอาจารย์ปืนแน่ค่ะ(ดูเป็นลุงหมอมากอะ555) (ส่วนนิวเป็นหมออายุกรรมยังเรียนไม่จบเฉพาะทาง)

ปล.(hard sale) สั่งยกเซ็ตได้เรื่องแถมของคุณถ้าเธอเป็นท้องฟ้าด้วยนะคะ เรารับประกันความแซ๋บของนักเขียนท่านนี้

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
สนุกมากเลย อ่านแล้วติดใจจนวางไม่ลง   รวดเดียวจบ  สุดยอดดดดด

ออฟไลน์ Aumy8059yaoi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
กรี๊ดดดดดดด อยากได้อีกสักตอนจริงๆๆๆ
ขอบคุณคนเขียนมากๆค่ะ :pig4: :กอด1:

ออฟไลน์ maminmeaw

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 205
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
ขอบคุณนะคะ เรื่องนี้น่าอ่านและน่ารักมากๆจ้า

ออฟไลน์ Raina

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
ตอนแรกลังเลว่าจะอ่านดีไหม เพราะเรน่าอยู่ในวงการที่เกี่ยวกับสุขภาพเหมือนกัน งานเครียดพอแล้ว ตามมาหลอกหลอนต่อถึงในนิยายเห็นท่าจะไม่ไหว 555

ลองอ่านดู อืมๆ เรื่องไม่เครียดมาก สำนวนใช้ได้ มีสาวอุ้มออกมาเบรคให้ขำเรื่อยๆ โอเคๆ พอไหวๆ  :ruready

เรื่องนี้ขัดใจอย่างเดียว ทำไมหมอปืน(ที่น่าจะฉลาด)ถึงดูแฟน(หมอนิว)ไม่ออก! ทานอาหารเสริมบ้างนะคะ อย่าทานแต่หญ้า // อุ้ปส์ ใส่อารมณ์เกินไป ไม่งามๆ 555

อยากอ่านเรื่องเกี่ยวกับอะไร ของใคร หรือคู่ไหนเป็นพิเศษไหมคะ  << อืมมม จริงๆเรื่องก็สมบูรณ์ดีแล้วนะคะ งั้นยกให้ตาเพื่อนวิดวะ(เทม?)แล้วกัน จะได้ไม่เหงาปล่าวเปลี่ยวเกินไป  :hao3:

ออฟไลน์ gayraygirl

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3013
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-3
ตอนพิเศษแบบหวานๆ ขออีกค่า

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด