[Rewrite] •HANDSOME GHOST• ตอนที่[19][END] Up 8/6/60
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [Rewrite] •HANDSOME GHOST• ตอนที่[19][END] Up 8/6/60  (อ่าน 15089 ครั้ง)

ออฟไลน์ niightziiz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 94
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-0


•HANDSOME GHOST•

[13]-คนที่ชอบ

 

 

 

“พี่อยากชดใช้ ต่อจากนี้ไปขอให้พี่ได้ชดใช้ได้ไหม... ให้พี่ได้ดูแลฟานนะครับ”

อ้าว....นั่งฟังตั้งนาน ไม่มีเรื่องอะไรเกี่ยวกับกูเลยไหมหละ

มือเย็นขยับมาบีบมือผมแน่น คริสมันคงอึดอัดมาก มันทำไม่ได้แม้แต่จะบอกกับน้องชายมัน ผมไม่รู้เหตุผลหรอก ว่าทำไมมันถึงไม่อยากให้ไอ้พี่โฬมดูแลฟาน ไม่รู้ว่าเพราะมันยังรักโฬมอยู่ หรือเพราะมันเป็นห่วงน้องชายมัน

“เห้ย จะดีหรอพี่...พี่เป็นแฟนเก่าคริสมันไม่ใช่หรอ” ผมพูดจบ ไอ้พี่โฬมก็หันมายิ้มให้ผม ก่อนจะหันไปมองหน้าฟานต่อ ฟานเองก็มีท่าทีอ้ำอึ้งไม่น้อย

“นะครับฟาน พี่รู้สึกผิดกับเรื่องที่ผ่านมาจริงๆ พี่อยากจะชดใช้ ให้พี่ได้ดูแลฟานแทนคริสได้ไหม” อ้าว กดskipกูอีก ไอ้พี่โฬมปล่อยมือข้างหนึ่งจากพวงมาลัยแล้วดึงมือของฟานมาจับไว้ คริสบีบมือผมแน่นขึ้นไปอีก

“ฉันไม่ไว้ใจเขา... ฉันกลัวมันจะซ้ำรอยเดิม”

“เอ่อ คือ....” ฟานมีท่าทีอ้ำอึ้ง คงจะสับสนอยู่ไม่น้อย

 

“นะครับ ถ้าคริสรู้ว่าฟานมีคนดูแลแล้ว คริสคงจะไม่ห่วงอะไรแล้วนะครับ” ใครบอกว่ามันไม่ห่วงอะไร นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่ตรงนี้ไง

“จริงด้วยนะครับ ....บางทีถ้าผมมีคนดูแล คริสอาจจะหมดห่วงผมก็ได้”ฟานพยักหน้าแล้วคิดตาม ใบหน้าคมนั่นค่อยๆยิ้มออกมา ก่อนจะหันไปตอบตกลงกับไอ้พี่โฬม ทำเอาผมและคริสอึ้งไปตามๆกัน ผมก็เตือนอะไรฟานตอนนี้ไม่ได้ด้วย

ทำไงดีวะ ไอ้พี่โฬมมันไม่น่าไว้ใจจริงๆ ไหนจะแม่มันอีก ที่ตอนนี้อยู่ไหนก็ไม่รู้ ถ้าเกิดแม่มันมาเห็นว่าไอ้พี่โฬมอยู่กับฟาน มันไม่ฆ่าพี่ฟานอีกคนหรือไง ทำไมไอ้พี่ฟานมันไม่คิดให้มากกว่านี้วะ คิดแค่ว่าไอ้คริสมันจะสบายใจถ้ามีคนดูแลมัน

สบายใจหาห่าอะไร จะแดกหัวกูอยู่แล้วเนี่ย !

 

ในที่สุดเราสามคนกับผีอีกหนึ่งตัวก็มาอยู่ที่บ้านของพี่ฟาน มันเดินเข้าครัวไปทำกับข้าวมาให้ผมกิน ไอ้พี่โฬมก็ช่วยไอ้ฟานยกถ้วยยกจานออกมาวางบนโต๊ะกินข้าว ไอ้คริสก็เอาแต่มองสองคนนั้นอย่างไม่คลาดสายตา ผมก็ได้แต่เปิดทีวีดู ไม่รู้จะทำอะไรไปมากกว่านั้นแล้วจริงๆ ถ้าไม่มีคริสอยู่ ผมนึกว่าผมมาเป็นเมียน้อยให้ไอ้สองคนนี้ซะอีก

โคตรส่วนเกินเลยกูเนี่ย  !

“พี่โฬมครับ แล้วแม่พี่อยู่ไหนหละ ?” ทั้งสามคนหันมามองหน้าผมพร้อมกันโดยทันที การกระทำทุกๆอย่างถูกหยุดลง พี่ฟานกับคริสทำหน้าอึ้งๆเพราะไม่คิดว่าผมจะถามอะไรแบบนี้ออกไป ส่วนไอ้พี่โฬมมันอึ้งกว่า มันทำสายตาหลุกหลิก พยายามหลบตาผม

“เอ่อ.... คือ... แม่พี่อยู่ต่างประเทศครับ”

ไปทำห่าอะไรต่างประเทศครับ !

ผมคิดประโยคต่อไปไว้ในใจเรียบร้อยแล้ว แต่คริสดันห้ามผมไม่ให้ถามซะก่อน ดูก็รู้ว่าไอ้พี่โฬมมันโกหกพวกผม ถ้าต้อนให้จนมุม รับรองต้องพูดความจริงแน่ๆ

แต่ถึงจะพูดความจริงออกมา พวกผมคงทำอะไรไม่ได้นอกจากระวังตัวให้มากกว่าเดิมเท่านั้น ที่ผมเป็นห่วงมากที่สุดตอนนี้ก็คงเป็นพี่ฟาน ก็อย่างที่รู้ๆกันว่าไอ้ฟานมันซื่อ มันบื้อ มันรู้เรื่องห่าไรบ้าง

มึงโตมาได้ไง20กว่าปีเนี่ย !

ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ ไอ้ความรู้สึกห่วงคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าผมทำไมมันเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆแบบนี้วะ มันไม่ใช่ความรู้สึกห่วงแบบที่ไอ้คริสห่วงน้องมัน... มัน....ไม่รู้สิ ผมก็อธิบายไม่ถูก รู้แค่ว่า ผมไม่สามารถจะปล่อยให้เรื่องนี้มันผ่านไปแล้วปล่อยให้พี่ฟานอยู่ในอันตราย

 

สุดท้ายแล้วผมก็ห้ามอะไรฟานไม่ได้ หลังจากวันนั้น ไอ้พี่โฬมมันก็มาหาพี่ฟานทุกวัน ทั้งที่มหาวิทยาลัยและที่บ้าน ผมไม่มีโอกาสได้เข้าไปคุยกับพี่ฟานเลย แต่แปลกที่ผมมักจะเห็นสายตาของพี่ฟานมองมาที่ผมทุกครั้งที่ผมมองไปทางมัน ไม่ว่าจะกี่ครั้งที่ผมมองหาพี่ฟาน ทุกครั้งที่ผมหาเขาเจอ ผมก็จะพบว่าเขามองผมอยู่ก่อนแล้ว

ดูเหมือนพี่ฟานอยากจะเข้ามาคุยกับผมหลายทีแล้ว หลายครั้งที่ผมเห็นมันลุกขึ้นแล้วเดินมาทางผม แต่ยังไม่ทันถึงตัวผมไอ้พี่โฬมก็เข้ามาพอดี

นี่มึงไม่มีการงานจะทำเลยหรือไง ถึงตามไอ้พี่ฟานแจขนาดนี้อะ

 

 

 

ผมเป็นห่วงไอ้ผีที่อยู่กับผมตอนนี้เหมือนกันนะ มันเงียบมาหลายวันแล้ว ข้าวปลาก็ไม่ยอมกิน บอกให้ไปเฝ้าน้องมันก็ไม่ยอมไป หรือว่ามันทนเห็นแฟนเก่ามันอยู่กับน้องชายมันไม่ได้วะ

“กูถามมึงจริงๆนะ มึงยังรักแฟนเก่ามึงอยู่หรอ”

“ไม่รู้สิ...คงจะไม่ได้รักแล้วมั้ง แต่ที่แน่ๆความผูกพันที่ฉันเหลืออยู่ตอนนี้คือน้องชายฉันคนเดียว”...

“กูอะ ?”

“ฉันเห็นนายเป็นน้องชายฉันคนหนึ่งเท่านั้นแหละ ......ปาร์ค ฉันขอร้องนาย... เป็นเรื่องสุดท้ายได้ไหม”ประโยคแรกที่มันพูด ทีแรกผมคิดว่าตัวเองจะรู้สึกแย่ๆซะอีก.... แต่ไม่เลย...ผมไม่ได้รู้สึกแย่อะไร.... อาจจะเป็นเพราะผมเห็นมันเหมือนเพื่อนผมคนหนึ่งเท่านั้น

“สาบานว่าเรื่องสุดท้ายไอ้สัส”

“อืม.... ถ้าเรื่องนี้จบ ฉันคงหมดห่วง... ฉันคงจะไม่ต้องวนเวียนอยู่แบบนี้อีกแล้ว... ขอร้องนะ นายช่วยฉันได้ไหม ช่วยวิญญาณตนนี้ได้ไหม...” หยดน้ำตาไหลออกมาจากดวงตาคมคู่นั้น.... ผมไม่ได้มีความลังเลเลย ผมช่วยแน่นอนอยู่แล้ว มาถึงขนาดนี้แล้ว... แต่ถ้าคริสมันต้องหายไปหละ?

“ก็ได้ กูจะช่วยมึง ให้กูทำอะไร”

“ช่วยดูแลน้องชายฉันได้ไหม ดูแลเขาจนกว่าเขาจะดูแลตัวเองได้”ผมคิดตาม... ให้ผมดูแลน้องชายของมัน พูดง่ายๆก็คือให้ผมไปเป็นแฟนของน้องชายมันหนะแหละ ผมรู้ว่ามันกังวลเรื่องของโฬมมาก แต่มันทำอะไรไม่ได้ เพราะมันเป็นแค่วิญญาณ ความทุกข์ทรมานของมันผมเข้าใจดี ถึงแม้ว่าผมจะไม่เคยตายก็เถอะ

“ได้ดิ  เรื่องเล็กน้อยมาก กูจะดูแลฟานแทนมึงเอง” ผมยิ้มให้ไอ้คริส มันร้องไห้หนักกว่าเดิมแล้วโผเข้ากอดผม ผมก็กอดมันตอบ ส่งมือไปลูบแผ่นหลังกว้างอย่างต้องการจะปลอบประโลม

ผมก็คิดนะ... บางทีเราควรละทิ้งความเชื่อ แล้วหันมาสนใจความจริงของโลกใบนี้บ้าง...

ผมไม่มีทางจะรู้สึกอะไรกับไอ้คริสได้เลย เพราะอะไรหนะหรอ

เพราะผมเป็นคน และมันเป็นวิญญาณ ไม่มีตัวตน เหลืออยู่แค่ความรู้สึกที่บอกใครไม่ได้เท่านั้นเอง

 

.....................................................

 

ตอนนี้ผมมายืนอยู่หน้าบ้านของพี่ฟานครับ หน้าบ้านมีรถคันหนึ่งจอดอยู่ แน่นอนว่าต้องเป็นของไอ้พี่โฬมแน่นอน ไฟในบ้านเองก็เปิดสว่างโร่ คริสมีสีหน้ากังวลอย่างเห็นได้ชัด ผมรู้ว่ามันเป็นห่วงน้องมันมาก แต่เพราะมันเป็นผี มันเลยทำอะไรไม่ได้

ผมปีนข้ามรั้วทันที ไม่ต้องกดออดหรือตะโกนเรียกให้เจ้าของบ้านมาเปิดหรอกครับ คนอย่างไอ้ปาร์ค ไม่จำเป็นต้องมีมารยาทโว้ย

แกร้ก....

และทันทีที่ผมเปิดประตูมา ผมก็ต้องพบว่า

ไอ้พี่โฬมกับไอ้ฟานมันกำลัง

“เห้ยพี่ จะกินสุกี้ทำไมไม่ชวนผมวะ เอ้อ หิวพอดีเลย” ทั้งสองคนรีบหันมาทางผมทันที

“อ้าวน้องปาร์ค เข้ามาได้ไงเนี่ย พี่ล็อครั้วไว้ไม่ใช่หรอ” ไอ้ฟานถามผมอย่างแปลกใจ คือมึงไม่น่าจะแปลกใจเลยนะ มึงน่าจะรู้จักกูดี

“หูยยย น่ากินมากเลยพี่ ” ผมยื่นหน้าเข้าไปดูในหม้อสุกกี้ ไอ้น่ากินมันก็น่ากินอยู่หรอก แต่ผมจะเนียนยังไงไม่ให้ไอ้พี่โฬมมันรู้ว่าผมมากันท่ามันออกจากพี่ฟาน ไอ้คริสก็เอาแต่ยืนมองน้องชายมัน แสดงถึงความเป็นห่วงอย่างเห็นได้ชัด ผมรีบเดินเข้าไปในครัว หยิบช้อนหยิบถ้วยออกมาโดยไม่ต้องขออนุญาตเจ้าของบ้าน

พอผมออกมาจากห้องครัว ผมก็เห็นไอ้คริสที่ยืนมองคนสองคนกำลังหยอกล้อกัน ที่จริงเป็นฝ่ายไอ้พี่โฬมทำอยู่ฝ่ายเดียวมากกว่า ไอ้พี่ฟานได้แค่ยิ้มรับตามมารยาท ผมมองตามสายตาไอ้คริส ก็เจอกับสายตาและรอยยิ้มของพี่ฟานที่ส่งมาให้ผม

อยู่ๆก็เกิดอาการร้อนบนหน้าขึ้นมาซะงั้นแหละ เขินหรอวะ ??

 

“โหยยย กุ้งงง หูยยย ปลาหมึกกก” แล้วผมก็หันไปสนใจหม้อสุกี้แทนตักกุ้งและปลาหมึกจากหม้อมาจนหมด ผักอะไรไม่มีสน พี่ฟานหัวเราะให้ผมเบาๆ เพราะมันน่าจะรู้ว่าผมตะกละขนาดไหน แต่สายตาจากอีกคนเนี่ยสิ ไม่เป็นมิตรเอาซะเลย

“กินเยอะๆเลยน้องปาร์ค หึหึ” พี่ฟานพูดแล้วส่งยิ้มให้ผม ส่วนตัวเองก็ตักผักในหม้อที่เหลือไปกิน

“ปาร์คแบ่งปลาหมึกให้พี่ฟานนะครับ” ผมพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนสุดๆ แบบที่แทบจะไม่เคยใช้เลย แล้วผมก็ตักปลาหมึกใส่ถ้วยไอ้ฟานไปหนึ่งชิ้น.....เสียดายจัง

“ขอบคุณครับน้องปาร์ค หึหึ” ฟานยิ้มอีกรอบ มันดูยิ้มแย้มดี แต่ผมไม่รู้ว่าในใจมันกำลังคิดอะไรอยู่หรือเปล่า

“พี่แกะกุ้งให้ฟานดีกว่านะครับ” แล้วไอ้พี่โฬมก็ตักกุ้งที่แกะเปลือกแล้วใส่ถ้วยของไอ้ฟาน

อ้าวไอ้สัส เกทับกูหรอ

ผมหันมามองกุ้งตัวสีส้มๆในถ้วย มันกำลังนอนอยู่ในถ้วยของผม กุ้งตัวอวบๆ กับน้ำจิ้มสุกี้แสนอร่อย.... ไหนจะปลาหมึกที่อยู่ข้างๆกุ้ง ราวกับจะบอกผมว่า อย่าพรากกุ้งไปจากปลาหมึกนะ ผมจะแกะกุ้งให้ไอ้ฟานดีไหมนะ.............. สุดท้ายแล้ว ความตะกละก็เอาชนะไปได้ ผมเลิกสนไอ้สองคนนั้นแล้วนั่งกินของตัวเองไป

แล้วผมก็นึกได้ว่าบางทีไอ้คริสอาจจะอยากกิน ผมเลยลุกเข้าไปในห้องครัวอีกครั้งเพื่อหยิบถ้วยออกมาอีกใบ ผมตักผักแล้วก็กุ้งหนึ่งตัว ปลาหมึกอีกชิ้นหนึ่งใส่ถ้วย วางไว้บนโต๊ะข้างๆผม แล้วผมก็สวดอะไรของผมไป พี่ฟานมองผมอย่างอึ้งๆ แต่ไอ้พี่โฬมมองผมด้วยสายตาสงสัย

“น้องทำอะไรครับ” ไอ้พี่โฬมเอ่ยปากถามผม

“อ้อ พอดีผมเลี้ยงผีไว้ตัวหนึ่งอะครับ เฮี้ยนมากๆ ถ้าไม่ให้มันกินข้าว มันก็จะเข้าสิงผม” แล้วผมก็ส่งยิ้มร้ายไปให้ไอ้พี่โฬม คริสนั่งลงข้างๆแล้วนั่งมองสุกี้ในถ้วย

“ขอบใจนะ” แล้วคริสมันก็หันมายิ้มให้ผม เป็นครั้งแรกในรอบหลายวันที่ผมเห็นมันยิ้ม ผมยิ้มตอบแล้วตั้งหน้าตั้งตากินสุกี้ในถ้วยผมต่อ

“น้องปาร์ค....” พี่ฟานทำท่าจะถามถึงไอ้คริส ผมจึงรีบตัดบทมันไปก่อน

“ไว้เดี๋ยวค่อยคุยดีกว่านะครับ ตอนนี้ผมหิวมากๆ” พี่ฟานได้แต่พยักหน้าแล้วกินสุกี้กันต่อ สีหน้าเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

“พี่โฬมครับ คืนนี้พี่ไม่ต้องค้างกับฟานนะครับ คือฟานว่า..” ไอ้ฟานพูดขึ้น ทำเอาไอ้พี่โฬมที่กำลังจะตักสุกี้ในหม้อถึงกับค้างกึก

“อ้าว ทำไมหละฟาน”

“เอ่อ.... คือ...”

“อะไรนะ... เขาไม่ให้อยู่...ก็ไม่ต้องไปอยู่สิ กลับบ้าน” แล้วผมก็พูดขึ้น ทำเป็นหันไปที่นั่งข้างๆ ไอ้คริสมองผมงงๆว่าผมต้องการจะสื่ออะไร ไอ้ฟานเองก็ดูงงๆ แต่ไอ้พี่โฬมนี่ดูท่าจะเข้าใจดีเลยหละ

“............”

“เอ่อ โทษครับ ผมคุยกับผีที่ผมเลี้ยงอะ เนอะ” ผมหันไปพูดเนอะกับไอ้คริส ตอนนี้ไอ้คริสก็พอจะเข้าใจแล้วครับ มันก็ยิ้มขำๆ

“โอเค งั้นเดี๋ยวพี่กลับบ้านก็ได้” โอ้โห ถึงกับต้องทำเสียงเศร้า ฟานก็ดูมีท่าทีแสดงออกถึงความสงสาร แต่ในใจผมนี่ด่าเลย ไอ้ตอแหล !

 

ตอนนี้ผมอยู่กับไอ้คริสในบ้านสองคน ส่วนฟานออกไปส่งไอ้พี่โฬมข้างนอก ผมกับไอ้คริสก็แอบมองอยู่ตรงประตูบ้าน เห็นไอ้พี่โฬมมันจับมือไอ้ฟานขึ้นมาลูบๆ หึยยย ขนลุกกก แต่ที่ผมไม่เข้าใจคือ ไอ้คริสมันจะมายืนแอบดูอยู่ข้างหลังผมทำไม ทั้งๆที่มันไปยืนมองสองคนนั้นใกล้ๆได้

ไม่เข้าใจผีปัญญาอ่อนอย่างมันเลยจริงๆ

แล้วไอ้พี่โฬมก็ขับรถออกไป พี่ฟานก็กำลังเดินกลับเข้ามาในบ้าน ผมกับไอ้คริสรีบมานั่งลงบนโซฟาทันที ....เอะ ไอ้คริส มึงจะปัญญาอ่อนทำตามกูทำไม !

 

“น้องปาร์ค คริสยังอยู่แถวนี้หรอ” เข้าบ้านมาพี่ฟานก็รีบร้อนถามผมในทันที

“คริสพึ่งมาที่นี่พร้อมผมครับ มันบอกว่า มันไม่ไว้ใจพี่โฬม มันกลัวจะเกิดอันตรายกับพี่ฟานอีก พี่ฟานรู้ไหม ตั้งแต่ที่พี่คิดไปเองว่าถ้าพี่โฬมมาดูแลพี่ คริสมันคงจะสบายใจขึ้น แต่ตรงกันข้ามเลยครับ ตั้งแต่วันนั้นมันไม่เคยยิ้มเลย มันพึ่งมายิ้มหัวเราะตะกี้นี้เอง ตอนที่ผมทำเป็นคุยกับคริสก็เพราะอยากจะไล่พี่โฬมให้รีบๆกลับบ้านไปซักที”

“จริงหรอน้องปาร์ค พี่ทำให้คริสไม่สบายใจอีกแล้วหรอ... แล้วแบบนี้เมื่อไหร่คริสจะไปสู่สุขติซักทีหละ พี่ไม่อยากให้คริสวนเวียนอยู่แบบนี้” พี่ฟานนั่งลงข้างๆผม สีหน้าไม่สบายใจสุดๆ คริสค่อยๆยื่นมือไปลูบหัวน้องชายตัวเอง แล้วพูดขึ้น

“จนกว่าฟานจะดูแลตัวเองได้จริงๆไง ถ้าฟานยังดูแลตัวเองไม่ได้ พี่ก็อยากให้ปาร์คช่วยดูแลฟานแทนพี่ ถึงปาร์คจะนิสัยกวนๆหน่อยก็เถอะ แต่เขาเป็นคนดีคนหนึ่งเลย”

โอ้โห ไอ้สัส ตบหัวแล้วลูบหลังนี่หว่า

“คริสกำลังลูบหัวพี่ฟานครับ แล้วก็บอกว่า อยากให้ฟานดูแลตัวเองให้ได้จริงๆ ถ้ายังก็อยากให้ผมดูแลพี่ฟานแทนคริส เพราะผมทั้งหน้าตาดี นิสัยดี แล้วก็เป็นคนดีมากๆด้วย” ผมพูดจบคริสก็หัวเราะให้กับความเกรียนของผม หึ !

“แล้วพี่โฬมหละ จะทำยังไงครับ”

“ปล่อยไปก่อนครับ แต่อย่าไปไว้ใจเขามากนัก”

“ครับ งั้น คืนนี้น้องปาร์คนอนที่นี่ไหม ดึกแล้วนะ ค้างนี่แหละเนอะ” อ้าว..... ถามเองตอบเอง เอาจริงๆผมก็ขี้เกียจกลับหอแล้วเหมือนกัน

“เออ พูดถึงเรื่องค้าง พี่โฬมค้างที่นี่ตลอดเลยหรอครับ ?”

“บางคืนครับ”

“แล้ว...เขาทำอะไรพี่ฟานรึเปล่าครับ”

“ไม่ครับ.. ถ้าน้องปาร์คหมายถึงเรื่องแบบนั้น พี่ไม่ทำหรอกครับ พี่เห็นพี่โฬมเป็นพี่ชายคนหนึ่ง ตอนนอนพี่ก็ให้พี่โฬมนอนห้องคริส”

“เดี๋ยวฉันมานะ” แล้วคริสก็พูดแทรกขึ้นมา

“ไปไหน”

“ไปทำธุระ” แล้วมันก็หายแว้บไปเลย ฟานก็มองผมงงๆ เพราะอยู่ๆผมก็หันไปคุยกับไอ้คริส

 

“ใครไปไหนครับน้องปาร์ค”

“คริสครับ มันบอกว่ามีธุระ” ผีอย่างมันมีธุระด้วยหรอวะ

“อ้าว ไปไหนของเขานะ...งั้นน้องปาร์คไปอาบน้ำดีกว่า จะได้เข้านอน เดี่ยวพี่หาผ้าเช็ดตัวกับชุดให้”

แล้วผมก็เข้ามาอาบน้ำในห้องคริส ฟานกำลังนั่งรออยู่ข้างนอก เพื่อรอที่จะคุยกับผม คงจะคุยเรื่องพี่ชายของเขาอีกเหมือนเดิม แล้วผมจะคุยอะไรนอกจากเรื่องที่ไอ้คริสบอกให้ผมดูแลฟาน นั่นแปลว่าจากที่จะให้ผมหาแฟนให้ฟาน กลายเป็นผมต้องเป็นแฟนของไอ้ฟานซะเอง

ความจริงผมก็ไม่ได้อยากจะเป็นแฟนกับพี่ฟานหรอกนะ คนอะไร ทำกับข้าวโคตรอร่อย แถมยังดูแลเทคแคร์ดีอีกต่างหาก ไหนจะหน้าตาหล่อๆนั่นอีก.... ถ้าไม่ติดว่าผมหล่อกว่าพี่ฟานผมคงอยากจะคบกับพี่เขาเป็นแฟนอยู่อะนะ

ผมยืนจ้องหน้าตัวเองอยู่หน้ากระจก ลูบหน้าตัวเองไปมา.... ถามคำถามเดิมๆกับตัวเองหลายๆรอบ.... ผมอยากคบกับพี่ฟานเพราะคริสขอร้องผม หรือเพราะผมชอบพี่ฟานไปแล้วกันแน่ ชอบแบบที่ผมไม่รู้ตัวเลย...

 

ผมอาบเสร็จก็รีบแต่งตัวออกจากห้องน้ำทันที พี่ฟานนอนอ่านหนังสือรออยู่ที่เตียง มันใส่ชุดนอนลายริลัคคุมะ... นึกภาพตามนะครับ ผู้ชายตัวใหญ่ๆ หน้าคมๆ ทรงผมเปิดข้าง ใส่ชุดนอนหมีสีเหลืองที่มีจมูกอยู่ตรงกลาง กับตาดำบริเวณหัวนม คือมันเข้ากับหน้ามึงไหม ถามใจตัวเองดู

ผมคุยกับฟานไปเรื่อยๆ เรื่องความทุกข์ใจของไอ้คริสที่ผ่านมาบ้าง เรื่องรับน้องบ้าง อันนี้ผมแอบถามเอานะ พี่ฟานมันก็เผลอตอบทุกที ว่าพี่จะทำยังไง แล้วจะให้ปีหนึ่งทำยังไงถึงจะได้รุ่น คุยกันไปเรื่อยๆจนเริ่มง่วง ไอ้คริสก็ยังไม่กลับมา.. ผมก็ขี้เกียจรอแล้ว ไหนพรุ่งนี้ต้องไปมหาวิทยาลัยอีก

“ที่คริสบอกให้น้องปาร์คดูแลพี่ คือให้น้องปาร์คมาเป็นแฟนพี่ใช่ไหมครับ ?”

“เอ่อ... ก็ประมาณนั้นมั้งครับ พี่ก็ไม่มีแฟนใช่ไหมหละ” พี่ฟานพยักหน้าหงึกๆ

“แต่พี่มีคนที่ชอบแล้วนะ” อ้าว..... เอาไงอีกเนี่ย.... จะบอกคริสมันว่ายังไงดีละทีนี้

แบบนี้ผมก็นกตั้งแต่ยังไม่เริ่มเลยอะดิ ??

“ใครอะครับ บอกผมได้ป่าว”

“หึหึ .......” ฟานเอาแต่หัวเราะในลำคอ แต่ไม่ได้ให้คำตอบผม ซักพักก็พูดขึ้นมาอีกประโยค

“ปะ นอนกันดีกว่านะครับ พรุ่งนี้พี่มีเรียนเช้า” แล้วพี่ฟานก็ลุกไปปิดไฟที่ข้างประตูแล้วเดินกลับมาขึ้นบนเตียง

“อ้าว พี่ฟานจะนอนด้วยกันหรอครับ ?”

“ครับ ได้หรือเปล่า ?”

“ได้ดิพี่ นี่มันบ้านพี่นะ” ผมพูดจบฟานก็ดึงผ้าห่มขึ้นไปห่ม..... คือผ้าห่มมันก็ผืนเดียวกับที่ผมห่มอยู่ไง... ใจผมเต้นตุ๊บๆตับๆ แทบไม่เป็นจังหวะ เมื่อรู้สึกถึงมือของอีกคนที่เข้ามากุมมือผมไว้..... เห้ย ตื่นเต้น นอนกอดไอ้คริสยังไม่ตื่นเต้นเท่านี้เลย...

“ทำไมต้องจับมือหละครับ...”

“พี่จับมือคนที่พี่ชอบไง”

 


++++++++++++++++++++++++++++++++++++

แหมมมมม พี่ฟานนนนนนนนน อิตาบ้าาาาาาา



ขอบคุณทุกคอมเมนท์มากๆเลยนะครับ

ยังไงมีอะไรแนะนำหรือติติงคอมเมนท์บอกได้เลยนะครับ ไรท์จะได้ปรับปรุงแก้ไข



ปล.ใครอยากได้ตอนพิเศษแบบไหนยังไงรีเควสมาได้เลยนะครับ พอลงเสร็จแล้วจะได้ลงตอนพิเศษต่อเลย



ชอบก็อย่าลืมคอมเมนท์เป็นกำลังใจและแชร์ให้เพื่อนๆอ่านกันด้วยนะครับ



#HsGผีหล่อ

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
 สนุกมากๆคับ ดีขึ้นกว่าฉบับที่แล้ว ชัดเจนเลย
  รออ่านต่อคับ

ออฟไลน์ ikou

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เฮ้ย...  สนุกมาก :katai2-1:

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ฟานกับคริสทั้งน่ารักและน่าสงสาร.
อยากรู้จักมากกว่านี้จัง. ฝากน้องปาร์คสืบๆ

ออฟไลน์ niightziiz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 94
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-0
Re: [Rewrite] •HANDSOME GHOST• ตอนที่[14] Up 6/2/60
«ตอบ #35 เมื่อ06-02-2017 23:37:50 »

•HANDSOME GHOST•

[14]-ฟานเป็นคนยังไงกันแน่

 

 

 

“พี่จับมือคนที่พี่ชอบไง” จบประโยคนั้นของไอ้ฟานผมก็ถึงกับนิ่งสนิท รู้สึกร้อนใบหูเหมือนเลือดจะมาเลี้ยงที่หน้าผมมากไปหน่อย ก่อนอื่นผมขอถอนคำพูดของตัวเองก่อนหน้านี้ที่ผมบอกว่าไอ้ฟานมันเป็นคนซื่อๆบื้อๆ มันไม่ใช่คนซื่อๆบื้อๆหรอกครับ ไอ้นี่มันร้าย !

มือของผมถูกมือหนาของอีกคนกุมไว้ เมื่อสายตาของผมเริ่มชินกับความมืด ผมก็เห็นใบหน้าคมนั่นกำลังยิ้มให้ผมอยู่... มันเหมือนกับตอนที่ไอ้คริสยิ้มให้ผมไม่มีผิด หน้ามันเหมือนกันจริงๆนะ เหมือนกันจนทำให้ผมต้องคิดถึงไอ้คริสขึ้นมา

“น้องปาร์ค คบกับพี่ได้ไหมครับ....?” ไอ้ฟานยิงคำถามที่ทำให้ผมค้างอีกรอบ

เอาจริงๆผมยังไม่รู้ว่าตอนนี้ผมคิดกับฟานยังไง ผมอาจจะพอมีใจให้มันบ้าง แน่นอนเพราะว่ามันทำอาหารอร่อย และมันก็เป็นคนดี ไหนจะสายตาของมันเวลามองผมอีก... มันคงจะชอบผมจริงๆ

ในหัวผมเริ่มตีกันไปมา ถึงแม้จะรับปากกับไอ้คริสไปว่าผมจะดูแลน้องมันให้... แต่ถ้าไอ้คริสต้องหายไป ผมคงเหงาแย่ จะมีใครคอยมาปลุกให้ผมในตอนเช้าอีกไหม จะมีใครที่คอยแต๊ะอั๋งผมอีกไหม... ระหว่างที่ผมกำลังคิดถึงคนพี่ คนน้องก็ส่งมืออีกข้างที่ว่างมาลูบแถวๆเอวของผม

เดี๋ยว !

“เอ่อ พี่ฟานครับ ผมว่า....” มึงเอามือออกจากเอวกูเดี๋ยวนี้เลย ไอ้ลามก ! เหมือนพี่มึงไม่มีผิด โอ้ย~ ละที่ผ่านมาตั้งนานนี่ทำไมผมถึงมองว่ามันบื้อไปได้วะ ทำไมมันดูหื่นกว่าพี่มันอีก !

“นะครับน้องปาร์ค... พี่รู้ว่าน้องปาร์คก็ต้องมีใจให้พี่บ้างใช่ไหม” เอ่อ จะว่ายังไงดีหละ...

ผมมีใจให้ไอ้ฟานไหมหรอ.. ผมก็ชอบนะ ที่มันหล่อ แล้วก็ทำกับข้าวอร่อย อันนี้สำคัญมากจริงๆ.... พอคิดถึงตรงนี้ใจผมมันก็โลเลไปมากโข นึกถึงกับข้าวอร่อยๆที่ไอ้ฟานทำแล้วคิดว่า ถ้าได้กินข้าวอร่อยๆฟรีๆทุกวันก็คงจะดี

“ก็ได้ครับ แต่ผมมีข้อแม้สองข้อ” ฟานหยุดมือข้างที่กำลังลูบเอวผม ใบหน้าคมนั่นยิ้มให้ผมอีกครั้ง

“ว่ามาได้เลยครับ”

“พี่ฟานต้องทำกับข้าวให้ผมกินทุกวัน” ฟานหัวเราะให้กับความตะกละของผมทันที แต่เขาหัวเราะแค่เบาๆ

“ข้อต่อไปหละครับ”

“ห้ามพี่ฟานเข้าใกล้พี่โฬมเด็ดขาด”ฟานสะดุดกับข้อนี้ทันที คิ้วเข้มขมวดมุ่น

“ทำไมหละครับ?”

“คือ...”

“อ้อ พี่รู้แล้ว น้องปาร์คหึงพี่ใช่ไหมครับ หึหึ”

ฟรรค ! ใครบอกมันร้ายอย่างเดียว มันหลงตัวเองด้วย ละที่มึงทำตัวใสๆมาตั้งนานนี่คืออะไร

“ครับ จะว่าแบบนั้นก็ได้” ความจริงคือผมเป็นห่วงฟาน กลัวว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับฟานเหมือนไอ้คริสอีก มันคงจะแย่มากถ้าผมทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับไอ้คริสไม่ได้

ว่าแต่ตอนนี้ไอ้คริสมันหายไปไหนวะ ยังไม่กลับมาอีก

“งั้น ตกลงว่าเราเป็นแฟนกันแล้วนะ” มันยิ้มให้ผม ยิ้มแบบที่ผมเองก็รู้สึกร้อนหน้าแค่รู้ว่ารอยยิ้มนั่นมันเป็นของผม

“ผ...ผมง่วงแล้ว”ผมบอกไปแบบนั้นเพราะทนไม่ไหวกับสายตาที่ฟานใช้มอง...ผมเขิน

“งั้นนอนกันดีกว่าเนอะ” แล้วมันก็หลับทั้งๆอย่างนั้น มือข้างหนึ่งกุมมือผมไว้ อีกมือก็พาดไว้บนเอวของผม.. แบบนี้เหมือนมันกำลังนอนกอดผมอยู่เลย

 

.................................

 

“อื้อ.... สะ..เสียว...” ผมรู้สึกเสียวขึ้นมาที่ส่วนกลางลำตัว... เหมือนกับว่ามีบางอย่างกำลังหยอกล้อกับมันอยู่...

ต้องเป็นไอ้คริสที่กำลังลวนลามผมอยู่แน่ๆ....

“ค........” แต่ยังไม่ทันที่ผมจะพูดชื่อคริสออกไป ความทรงจำจากเมื่อคืนก็โผล่ขึ้นมาในหัว... ผมนอนอยู่กับไอ้ฟาน... และผมก็ตกลงคบกับไอ้ฟานไปแล้วด้วย... ผมรีบลืมตาขึ้นมามองทันที แล้วก็พบว่าไอ้ฟานมันกำลังใช้ปากกับส่วนกลางของผม !

“พี่ฟาน ! อ้า ! หยุดนะครับ อื้อ !” โอ้ยยยยย ลามกยิ่งกว่าพี่มันอีกกกก พี่มันยังแค่จับของผมชัก ไอ้นี่มันอมเข้าไปในปากเลย มึงชักจะลามกเกินไปละนะ

“อ้า.. ผมเสียว อะ” ปากของฟานยังอยู่ที่กลางลำตัวของผม มือหนาก็ลูบเข้ามาภายในชุดนอนบางๆ นิ้วแข็งๆของฟานเขี่ยที่เม็ดสีน้ำตาลบนหน้าอกผม....

“อ้า.. จะเสร็จแล้ว... อะ...อะ !” แล้วผมก็ถึงจุดๆนั้นจนได้ ผมปลดปล่อยเข้าไปในปากของไอ้ฟานเยอะมาก เป็นครั้งแรกในชีวิตที่มีคนใช้ปากให้ผม.... มันรู้สึกสุดยอดจริงๆ พี่ฟานกลืนของเหลวลงในคอ ก่อนจะช้อนตามองผม....

ค...โคตร....ลามกเลย

“เอ่อ... น้องปาร์ค... ของพี่ยังแข็งอยู่เลย” แล้วมันก็แอ่นเป้าของมันที่แข็งเป็นลำให้ผมดู ท่อนลำขนาดเท่าไฟฉายกระบอกใหญ่ๆพาดตัวไปทางขาซ้าย..... โอ้ยยยยยยยยย ไอ้ฟานนน มึงหลอกกูว่ามึงเป็นคนใสๆมาตั้งแต่แรกใช่ไหมมมมม มึงมันไอ้โรคจิต หื่นกามมมม

“พี่ก็ช่วยตัวเองไปดิ... ผมมีเรียนแปดโมงครึ่ง เดี๋ยวสาย” แล้วผมก็ทำท่าจะลุกออกจากเตียง แต่ฟานก็พุงเข้ามาคร่อมผมไว้ซะก่อน

“ตอนนี้พึ่งหกโมงครึ่งครับ พี่ว่าจะตื่นมาทำกับข้าวให้น้องปาร์ค แต่เห็นของน้องปาร์คแข็ง พี่เลยช่วยน้องปาร์คไง... น้องปาร์คไม่คิดจะช่วยพี่บ้างหรอครับ” มันทำเสียงอ้อนผม เอาหัวทรงเปิดข้างมาซบตรงอกผม.... ผมแพ้ลูกอ้อนสองพี่น้องนี่จริงๆครับ

“ก็ได้ครับ... แต่ผมไม่เคยนะ” มันยิ้มทันที

“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวพี่สอน”


โอ้โห เชี่ยวมากไหมไอ้สัส

ฟานค่อยๆโน้มหน้าลงมา ริมฝีปากหนาประกบจูบกับผม จะว่านี่เป็นจูบแรกของผมก็ได้ เพราะกับพี่มันผมยังไม่เคยจูบเลยครับ ริมฝีปากหนาของฟานค่อยๆเม้มริมฝีปากของผม เรียวลิ้นแทรกเข้ามาภายในปาก โลมเลียไปทั่วทั้งปากผม.... แล้วฟานก็ผละออก มันยกหัวผมขึ้นแล้วเอาหมอนมารองท้ายทอยผมไว้

“อ้าปากกว้างๆนะครับ” ฟานพูดด้วยสีหน้าหื่นจัด  แล้วมันก็นั่งคุกเข่าทับหน้าอกผมเอาไว้ มือนึงดึงกางเกงตัวเองลง อีกมือก็จับท่อนลำมาจ่อที่ปากผม

“น้องปาร์คลองแลบลิ้นออกมาแล้วเลียตรงหัวดูสิครับ .....” ผมทำตามที่ไอ้ฟานบอก ผมใช้ลิ้นเลียลงไปตรงส่วนหัวที่มีน้ำใสๆอยู่... ความรู้สึกแรกคือ... เค็มครับ... ไม่อร่อยเลย รสชาติแปลกๆ แต่ไอ้ฟานสิครับ ครางลั่นเลย

“ซี้ดดดด อ้า... แบบนั้นแหละครับ แล้วก็ค่อยๆเอาเข้าปากนะครับ พยายามอย่าให้โดนฟันนะ” แล้วฟานก็ค่อยๆยัดท่อนลำเข้ามาในปากผม

นึกไว้นะไอ้ปาร์ค... มึงกำลังกินใส้กรอกแสนอร่อยอยู่ พอมึงกินเสร็จเดี๋ยวมันก็จะมีชีสเลอะปากมึง เท่านั้นเอง... แค่ใส้หรอก แค่ใส้หรอกอันใหญ่เท่ากระบอกไฟฉายเท่านั้นเอง

“อูย สุดยอดครับ... อ้า” ฟานสูดปากเงยหน้าขึ้น บ่งบอกว่ากำลังเสียวสุดขีด ฟานกระแทกท่อนลำเข้ามาในปากผมเบาๆ คงจะกลัวผมสำลัก แล้วมันก็เร่งจังหวะขึ้นเรื่อยๆ ผมพยายามดูดสุดแรง

“อะ ! พี่จะเสร็จแล้วครับ อ้า !!!”ฟานก็ดึงท่อนลำออกจากปากผม ใช้มือชักของมันไม่นานของเหลวสีขาวก็พุ่งออกมาจากท่อนลำของมัน ฟานกระตุกหลายที ไม่มีทีท่าว่าจะหมด ของเหลวสีขาวเลอะหน้าผมจนผมต้องหลับตา เสียงครางค่อยๆเงียบลง กลายเป็นเสียงหอบหายใจเลย ผมลืมตาขึ้นมอง มันก็กำลังจ้องหน้าผมอยู่

“น้องปาร์คน่ารักจังเลยครับ หึหึ” พูดจบก็หัวเราะตบท้าย... โอ้พระเจ้า ไอ้ฟานที่ผมรู้จักมันเป็นคนหื่นขนาดนี้เชียวหรือ ใส้กรอกอันเท่ากระบอกไฟฉายนั่นอีก... ผมหัวเราะแหะๆกลับแล้วรีบคว้าผ้าเช็ดตัวที่มันยื่นมาให้ พุ่งเข้าห้องน้ำ ล้างหน้าที่ยังรู้สึกเหนียวๆอยู่

โอ้พระเจ้า โอ้วมายก้อดดดดด แม่จ๋า ลูกชายแม่สมยอมให้ผู้ชายแปลกหน้ากระทำชำเรา ท่านแม่ช่วยข้าด้วย ฮือออออ

 

ผมอาบน้ำจนเสร็จก็ออกจากห้องน้ำมา แต่งตัวด้วยชุดนักศึกษาของไอ้คริส ถึงจะหลวมๆไปบ้าง แต่ผมไม่ได้ซีเรียสอะไร แต่งตัวเสร็จไอ้ฟานก็อาบน้ำเสร็จพอดี สีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น.....

โอ้ย เจ็บใจ คราวหน้าผมจะเย็-มัน คอยดู !



ผมนั่งกินข้าวต้มที่ไอ้ฟานทำ มันอร่อยจนผมแทบจะลืมเรื่องลามกที่มันทำกับผม มันพูดคุยกับผมแทบจะเหมือนเดิม คำว่าแฟนระหว่างผมกับไอ้ฟานแทบจะไม่ทำให้มีอะไรเปลี่ยนไปเลย ยกเว้นแต่เรื่องที่เราทำกันเมื่อตอนตื่นนอน

เรามามหาลัยด้วยรถส่วนตัวของไอ้ฟาน ทีแรกผมก็บอกให้เดินมา เพราะมันไม่ได้ไกลมาก แต่ไอ้ฟานก็บอกว่า อยากขับรถมาส่งแฟน....

จ้า เอาที่มึงสบายใจเลย

แต่สุดท้ายผมก็ลงที่หน้าตึกคณะอื่นใกล้ๆกับคณะของผม แล้วให้ไอ้ฟานขับรถเข้าไปเอง เพราะการรับน้องยังไม่ผ่านไป ถ้าผมอยู่กับรุ่นพี่ปีสาม เพื่อนปีหนึ่งอาจจะมองผมแปลกๆ รุ่นพี่หลายคนก็อาจจะสงสัยด้วย

การเรียนในตอนเช้าผ่านไปแบบทุกวัน เพียงแต่วันนี้ไอ้คริสยังไม่โผล่หัวมาเลยด้วยซ้ำ ไอ้คริสไม่ได้พกโทรศัพท์ไว้ซะด้วย ผมจะติดต่อมันก็ไม่ได้..... แล้วนอกจากผมก็ไม่มีใครมองเห็นมันอีก จะไปถามเอาจากใครก็ไม่ได้

พี่ๆ เห็นไอ้คริสไหม ไอ้คริสที่เป็นผีหน้าหล่อๆอะ ....

คนเขาก็จะหาว่ากูบ้าหนะสิ !

Rrrrrrrr เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้น ผมหยิบออกมาจากกระเป๋า เป็นเบอร์ของไอ้ฟานที่โทรมา ผมทำใจอยู่ซักพัก แล้วก็กดรับไป..ผมกลัวความลามกของฟานอะ ไม่รู้มันยังซุกซ่อนความร้ายกาจอะไรไว้อีก

“ว่าไงครับพี่ฟาน”

“น้องปาร์คไปหาไรกินกัน”

“ที่โรงอาหารหรอครับ เดี๋ยวเพื่อนๆผมสงสัยอะ”

“ไม่ใช่ครับ กลับไปกินที่บ้านไง บ่ายไม่มีเรียนแล้ว หึหึ” โอ้ยยย ผมเกลียดเสียงหัวเราะหึหึของมันจริงๆเลยครับ มันทำเอาผมรู้สึกร้อนวูบวาบบนหน้า ในหัวนึกไปถึงกิจกรรมตอนเช้ากับใบหน้าโคตรหื่นของพี่ฟาน

“แต่ผมมีเวลาพักเที่ยงแค่ครึ่งชั่วโมงนะครับ”

ตู๊ด ๆ ๆ ๆ ๆ  แล้วมันก็ตัดสายไปเลย

ปี้น ! ผมหันไปตามเสียงแตรรถก็เห็นรถของไอ้ฟานจอดอยู่ ผมรีบวิ่งไปขึ้นรถทันที เพราะกลัวเพื่อนๆจะเห็น ไอ้ฟานยิ้มให้ผมทันทีที่ผมขึ้นไปนั่งบนรถมัน

“ผมพักเที่ยงแค่ครึ่งชั่วโมงนะครับ” คาบบ่ายเป็นวิชาแล็ปซะด้วย วิชานี้ถ้าผมไม่อยู่ เพื่อนๆต้องพากันตามหาผมแน่ๆครับ

“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวพี่กลับมาส่ง ทันแน่นอน

 

.............................................

 

“ฮัลโหล !! เรากำลังวิ่งไป !” ผมรับสายประธานรุ่นที่โทรเข้าโทรศัพท์ผม ขาก็กำลังวิ่งขึ้นตึกแล็ปด้วยความเร็วสูง

ที่ไอ้พี่ฟานบอกว่ากลับมาส่งทันแน่นอนอะหรอครับ... ทันห่าอะไร นี่เลยคาบมา20นาทีแล้ว อย่าว่าแต่ข้าวเที่ยงเลยครับ กลับถึงบ้านมันยังไม่ถึงเลย รถมันติดหนักมาก ผมเลยตัดสินใจบอกลาไอ้พี่ฟานแล้ววิ่งกลับเข้ามาในมหาวิทยาลัย โบกวินมอไซต์หน้ามหาวิทยาลัยให้เข้ามาส่งที่ตึกแล็ป คือถ้าให้วินขึ้นตึกไปส่งได้ผมคงให้วินไปส่งแล้วครับ

 

ผมวิ่งมาถึงห้องแล็ป ค่อยๆมองลอดเข้ามา เห็นอาจารย์กำลังก้มหน้าเรียกชื่ออยู่ ผมอาศัยจังหวะที่อาจารย์ก้มหน้าลงไปอ่านชื่อนักศึกษาอีกครั้ง วิ่งข้างห้องแล้วคว้าเก้าอี้แถวนั้นนั่งลง แล้วอาจารย์ก็เรียกชื่อผมพอดี

“มาครับ !” โอ้วก้อด ยังทันเว้ย เช็คชื่อเสร็จอาจารย์ก็เริ่มสอนทันที ผมก็เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง แอบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เห็นแจ้งเตือนไลน์ขึ้นมาหลายข้อความ เปิดดูก็เห็นว่าเป็นของฟาน

 

 
Farn :      ขอโทษนะครับ พี่ไม่น่าทำน้องปาร์คเหนื่อยเลย

น้องปาร์คไปทันเช็คชื่อไหมครับ

พี่ขอโทษจริงๆนะ

                                                               ทันครับ :  ParK

Farn :     พี่ขอโทษจริงๆนะครับ

*สติ้กเกอร์รูปหมีร้องไห้*

                                                       ไม่เป็นไรครับ :  ParK

Farn :      เอางี้ดีกว่า เดี๋ยวตอนเย็นไปรับนะ

แล้วจะทำอะไรให้กิน

อยากกินอะไรครับ?

                                                         ผัดไทครับ  :  ParK

Farn :      โอเคครับ ซ้อมร้องเพลงเสร็จกี่โมง

                                                  ห้าโมงครึ่งครับ   :  ParK

Farn :      โอเคครับ เดี๋ยวพี่ไปรอรับนะ

คิดถึงนะ

*สติ้กเกอร์รูปหมีถือหัวใจ*

อ่านแล้ว

 

แล้วผมก็หันมาตั้งใจทำแล็ปต่อ จนเสร็จก็ไปซ้อมร้องเพลงกับเพื่อนๆและรุ่นพี่ปีสองที่ตึกคณะ กว่าจะซ้อมเพลงเสร็จก็เลยเวลามาครึ่งชม.แล้ว เพราะว่ามีคนที่มาใหม่และยังร้องเพลงไม่เป็นเข้ามาด้วยทำให้คนที่ร้องเป็นต้องช่วยกันสอนอีก ผมไลน์ไปหาฟานก็ไม่ตอบ โทรไปก็ไม่รับ โทรไปกี่สายก็ไม่รับ หรือมันจะไม่ได้เอาโทรศัพท์มาด้วย ผมพยายามคิดในแง่ดีและมองไปรอบๆเพื่อหารถของมัน

แต่ผมก็หาไม่เจอ ผมเดินวนรอบตึกคณะเพื่อหารถของไอ้ฟาน แต่ผมก็ไม่เห็นเลย มือก็โทรหามัน แต่มันก็ไม่ยอมรับโทรศัพท์ซักที จนผมเริ่มรู้สึกเป็นห่วงมันขึ้นมา ในใจนึกถึงไอ้คริส

คริส ไม่ว่ามึงจะอยู่ที่ไหน รีบมาหากูเดี่ยวนี้....

แต่ไอ้คริสก็ยังเงียบ ไม่มาหาผมเหมือนทุกทีที่ผมนึกอยากจะให้มันมาหา ผมเริ่มกลัวไปทุกอย่าง ออกตัววิ่งจากตึกคณะตรงไปยังตึกแล็ป

แล้วผมก็เจอรถไอ้ฟานจอดติดเครื่องอยู่ ผมรีบวิ่งเข้าไปแล้วเปิดประตูรถ แต่มันล็อคอยู่ ผมจึงเคาะกระจกรถแทน พยายามมองเข้าไปข้างในแต่ก็มองไม่เห็น เพราะฟิล์มเป็นแบบฟิล์มปรอท ไม่สามารถมองเห็นจากภายนอกได้

แล้วไม่นานผมก็ได้ยินเสียงปลดล็อครถ ผมรีบเปิดประตูเข้าไปทันที เห็นไอ้ฟานทำหน้างัวเงียอยู่ สงสัยจะหลับในรถ ไม่รู้หรือไงว่าการจอดรถติดเครื่องยนต์ไว้แล้วหลับมันอันตราย

“พี่ทำอะไรเนี่ย หลับในรถมันอันตรายนะรู้ไหม !” ทันทีที่ผมนั่งผมก็ด่ามันทันที ฟานยกมือขึ้นขยี้ตา เหมือนเด็กน้อยพึ่งตื่นนอน เสร็จแล้วก็ดึงผมไปกอด เอาหน้าของมันซุกอกผม

“ก็พี่ง่วงนอนอ่าครับ เลยเผลอหลับไป ขอโทษนะ” ไอ้ปาร์ค ไอ้ฟานมันกำลังอ้อน มึงอย่าใจอ่อนเด็ดขาดนะ !

“แล้วโทรมาหาตั้งกี่สายทำไมไม่รับ !”

“ไม่ได้เอาโทรศัพท์มาด้วยครับ ขอโทษนะ”แล้วมันก็เอาหัวถูไปมากับอกผม โอ้ยยยย ผมแพ้ลูกอ้อนโว้ยยยย

“ครับๆ ไม่เป็นไร คราวหลังอย่าทำให้เป็นห่วงแบบนี้อีกนะ”

“เป็นห่วงพี่หรอ พี่จะทำบ่อยๆเลย ห้าวววว” แล้วฟานก็หาวใส่หน้าผม ผมหัวเราะให้กับความเด็กน้อยของฟาน ฟานผละออกไป เอามือถูหน้าตัวเอง สะบัดหัวไปมาแล้วก็

หมับ !

“เห้ย พี่ จับของผมทำไมเนี่ย !”ฟานมองตามมือตัวเองที่อยู่บนส่วนกลางลำตัวของผม ผมรีบดึงมือมันออก

“พี่นึกว่าเกียร์รถอ่าครับ โทษทียังเบลอๆอยู่  หึหึ” หึหึอีกแล้ววว ผมเกลียดเสียงหัวเราะแบบนี้ของไอ้ฟานจริงๆครับ แถมยังตีเนียนจับของผมอีก โคตรลามกเลย

 

ผมบอกให้พี่ฟานแวะเข้าหอผมเพราะผมจะกลับไปเอาเสื้อผ้าและของใช้บางส่วน พอได้แล้วก็กลับไปที่บ้านกัน ทีแรกผมจะเอาของไปไว้ที่ห้องคริส แต่ฟานไม่ยอม ให้ผมเอาของไปไว้ที่ห้องของตัวเองแทน ผมก็ยอมๆมันไป เอาเสื้อผ้าและของใช้เข้าไปไว้ในห้องฟาน

ห้องไอ้ฟานตกแต่งคล้ายๆกับห้องของคริส แตกต่างกันแค่สี ห้องไอ้คริสจะเป็นสีโทนสีน้ำเงินหรือฟ้าเข้มกับขาว แต่ห้องของไอ้ฟานเป็นสีน้ำตาล เลยดูหรูหรากว่าห้องของคริสหน่อย เอาของไว้เสร็จผมก็ไปยังห้องนั่งเล่น เปิดทีวีรอไอ้ฟานทำกับข้าว ที่ผมบอกว่าผมอยากกินผัดไท ไอ้ฟานมันก็ทำให้กินจริงๆ แต่จะอร่อยไหมตอนนี้ก็ต้องมาลุ้นกันครับ

ฟานวางจานผัดไทหอมฉุยลงตรงหน้าผม ทั้งเส้นและเครื่องต่างๆจัดวางไว้แบบโคตรจะน่ากิน ผมใช้ส้อมจิ้มเส้นขึ้นมาแล้วส่งเข้าปากตัวเองทันที

“หืมมม อร่อยมากครับพี่ฟาน”

“อร่อยก็กินเยอะๆ ” ใบหน้าคมยิ้มหล่อส่งมาให้ผม แล้วอยู่ๆผมก็นึกถึงหน้าไอ้คริสขึ้นมา

มันหายไปไหน.... นี่ก็จะวันนึงแล้ว มันไม่เคยหายไปนานขนาดนี้เลย ผมชักจะเป็นห่วงมันซะแล้วสิ

 



มึงอยู่ไหนวะไอ้คริส

 

 



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

พี่ฟานมันร้ายยยยยยยยยยยยยยย



กลับมาต่อให้แล้ววว ไม่ได้ดองนะจ๊ะะะ แต่ช่วงนี้ยุ่งมาก ช่วงเกษตรแฟร์คือไปมหาลัยแต่เช้า กลับเข้าบ้านก็ห้าทุ่มแล้ว หัวถึงหมอนก็หลับเลย หมดเกษตรแฟร์ก็มีกิจกรรมของคณะอีก

รายจ่ายอลังการงานสร้าง(คงต้องรีบปั่นต้นฉบับส่งสำนักพิมพ์หาตังค์มาใช้แล้วแหละ อิ้อิ้)



ยังไงขอบคุณทุกคอมเมนท์ที่คอยติดตามและให้กำลังใจคนแต่งตลอดๆนะครับ

ถ้าชอบอย่าลืมฝากแชร์นิยายเรื่องนี้ให้เพื่อนๆอ่านกันด้วยนะครับบบ

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7
Re: [Rewrite] •HANDSOME GHOST• ตอนที่[14] Up 6/2/60
«ตอบ #36 เมื่อ07-02-2017 00:36:19 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
Re: [Rewrite] •HANDSOME GHOST• ตอนที่[14] Up 6/2/60
«ตอบ #37 เมื่อ07-02-2017 01:18:48 »

 เวอร์ชั่นนี้สนุกจริงๆคับ 
 รออ่านนานมาก ดีใจที่ได้อ่านต่อ มาเร็วๆนะคับ

ออฟไลน์ Biwty...

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 985
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
Re: [Rewrite] •HANDSOME GHOST• ตอนที่[14] Up 6/2/60
«ตอบ #38 เมื่อ07-02-2017 11:17:22 »

 :ling1:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
Re: [Rewrite] •HANDSOME GHOST• ตอนที่[14] Up 6/2/60
«ตอบ #39 เมื่อ07-02-2017 16:36:26 »

 :L2: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [Rewrite] •HANDSOME GHOST• ตอนที่[14] Up 6/2/60
« ตอบ #39 เมื่อ: 07-02-2017 16:36:26 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ niightziiz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 94
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-0
Re: [Rewrite] •HANDSOME GHOST• ตอนที่[15] Up 16/2/60
«ตอบ #40 เมื่อ16-02-2017 18:18:32 »

•HANDSOME GHOST•

[15] - Past...


 

 

ในตอนที่ผมเจอโฬมมายืนคอยเจ้าของห้อง613คนปัจจุบัน ซึ่งก็คือปาร์ค ผมยอมรับเลยว่าความทรงจำทั้งหมดที่เกี่ยวกับเขาไหลเข้ามาในหัวผมอย่างกับน้ำป่าไหลหลาก ความจำเมื่อ7ปีที่แล้วที่ว่า



ผมกับโฬมรักกัน

 

...................................................

 

“น้องๆอยากให้ใครเป็นเดือนคณะคะ เสนอชื่อมาได้เลย” พี่ปีสองตะโกนขึ้นถามเด็กปีหนึ่งที่นั่งหน้าสลอนกันอยู่ใต้ตึกคณะ ตอนนี้กำลังเข้าใกล้การประกวดดาวเดือนมหาวิทยาลัยแล้ว แต่ละคณะจึงต้องค้นหาคนหน้าตาดีและมีความสามารถเพื่อไปประกวดแข่งกับคณะอื่นๆในมหาวิทยาลัย แต่หลังจากสิ้นเสียงของพี่ปีสองคนนั้น กลับไม่มีชื่อของใครถูกเสนอออกมาเลย ปีหนึ่งทุกคนรวมถึงผมต่างก็นั่งเงียบ ผมรีบก้มหน้าหลบทันที.... แต่ก้มหน้าไปก็เท่านั้น

“ถ้าไม่มีใครเสนอชื่อ พี่จะเลือกออกมาแล้วนะคะ” ผมก้มหน้าลงไปมากกว่าเดิม ถึงจะพอรู้จากเพื่อนๆมาบ้าง ว่าเพื่อนๆในคณะอยากให้ผมเป็นเดือนคณะ แต่ผมเป็นแค่ผู้ชายธรรมดา ไม่มีความสามารถอะไรเลย จะร้องเพลงให้ตรงทำนองยังยากเลย กีตาร์ที่เป็นเครื่องดนตรีกระจอกๆ แค่จับคอร์ดCผมยังจับไม่เป็นเลยด้วยซ้ำ

“น้องคริส ออกมาค่ะ” ผมหลับตาปี๋ แล้วยกมือสองข้างขึ้นมาลูบหน้าตัวเอง เสียงเพื่อนโห่ร้องเรียกให้ผมลุกออกไป ผมตัดสินใจลุกขึ้นยืน เสียงปรบมือจากเพื่อนๆก็ดังกระหึ่ม..... แต่ขาผมนี่สิ ทำไมมันสั่นได้ขนาดนี้วะ

ผมเดินออกไปยืนข้างๆพี่ปีสองที่ยืนอยู่ข้างหน้าเพื่อนๆของผม ผมหันหน้ามาทางเพื่อนๆปีหนึ่ง ให้ทุกคนได้มองหน้าผมแบบเต็มๆสองตา ผมบีบมือของตัวเองเข้าหากัน รู้สึกได้เลยว่ามันชุ่มไปด้วยเหงื่อ แต่มันกลับเย็นชืด

พี่ปีสองเรียกผู้ชายปีหนึ่งออกมาอีกสี่หรือห้าคน แล้วก็เรียกผู้หญิงออกมาอีกประมานสิบกว่าคนเห็นจะได้ ให้มายืนเรียงกัน แล้วเราก็ถูกพี่ปีสองที่เป็นดาวและเดือนคณะของปีที่แล้วเรียกไปคุย

 

“พี่ชื่อเชนนะครับ เป็นเดือนคณะปีที่แล้ว คำถามแรก ใครอยากเป็นดาวเดือนคณะบ้าง ?” พี่เชนพูดจบทุกคนก็เงียบไป.... ผมรู้เลยว่าไม่มีใครอยากเป็น ไม่มีใครอยากมีหน้าที่เพิ่ม แค่รับน้องกับเรียนก็แทบจะตายกันไปข้างหนึ่งอยู่แล้ว นี่ถ้าให้ต้องไปเป็นดาวเดือนคณะ ซ้อมเดินแบบ ซ้อมร้องเพลง คงอยากจะมีคนเป็นหรอก

“โอเค ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวค่อยให้เพื่อนๆเลือกกันอีกที ตอนนี้พี่จะมอบหมายให้น้องๆไปเตรียมการแสดงเพื่อแสดงให้เพื่อนๆดูในวันพุธหน้า เดี๋ยวให้น้องๆเขียนชื่อพร้อมเบอร์โทรใส่กระดาษแผ่นนี้นะครับ”แล้วพี่เชนก็ยื่นกระดาษกับปากกามาให้ผม ผมยื่นมือของตัวเองที่กำลังสั่นไปรับกระดาษแผ่นนั้นมา เขียนชื่อกับเบอร์โทรตัวเองลงไปแล้วส่งกระดาษแผ่นนั้นให้ผู้ชายที่อยู่ข้างๆผม

เอาตรงๆนี่ก็เปิดเทอมมาได้เกือบเดือนหนึ่งแล้ว แต่ผมแทบจะไม่รู้จักชื่อใครเลย ผมเป็นคนขี้อายมากๆ และไม่รู้จะเข้าหาคนอื่นยังไง ผมจึงมีเพื่อนสนิทอยู่แค่คนเดียวคือไอ้ไกรซึ่งมันนั่งอยู่ในแถวรวมกับปีหนึ่งคนอื่นๆนู่น

“โอเคครับ เจอกันพุธหน้า อย่าลืมเตรียมการแสดงมาด้วยนะครับ”พี่เชนสั่งให้พวกผมแยกย้าย พร้อมๆกับปีหนึ่งคนอื่นๆที่ซ้อมร้องเพลงกันจบและกำลังแยกย้ายกันกลับบ้านเรียบร้อยแล้ว ผมรีบวิ่งเข้าไปหาไอ้ไกรที่หันซ้ายหันขวาเพื่อมองหาผม

“เป็นไงบ้างวะไอ้คริส”ไกรถามผมทันทีที่ผมถึงตัวมัน

“พี่เขาให้กูเตรียมการแสดงหวะ”

“แล้วมึงจะทำไรวะ ร้องเพลงไหม ?”ไกรถามต่อ

“จะให้กูร้องเพลงเนี่ยนะ แค่พูดธรรมดากูยังเพี้ยนเลยไอ้ไกร”

“งั้นเอางี้ กูมีเพื่อนอยู่คนหนึ่ง อยู่ชมรมการแสดง กูว่ามันต้องช่วยมึงได้”

แล้วไอ้ไกรก็พาผมไปที่ตึกคณะศิลปศาสตร์ มันเดินเข้าห้องๆหนึ่งเป็นห้องโถงที่มีข้าวของอยู่เต็มไปหมด นักศึกษาหลายคนนั่งคุยกันอยู่บนพื้นบ้าง บนโซฟาบ้าง ไอ้ไกรหันมองรอบๆก่อนจะตะโกนเรียกใครคนหนึ่งมา

“ไอ้โฬม มานี่หน่อยดิ้”คนที่ชื่อโฬมเดินมาทางพวกผม โฬมตัวค่อนข้างสูง.... แต่ก็คงจะเตี้ยกว่าผมนิดหน่อย โฬมเป็นคนขาวๆ หน้าตาดูดีพอสมควร

“ไอ้โฬม นี่คริส เพื่อนกูที่คณะ....  ไอ้คริส นี่ไอ้โฬม เพื่อนกูตอนม.ปลาย” ไกรแนะนำผมกับใครอีกคนเสร็จสรรพ ผมส่งยิ้มให้แต่อีกคนกลับหันหน้าหนีผม....อ้าว

“ไอ้โฬม สอนการแสดงให้ไอ้คริสหน่อย พุธหน้ามันต้องแสดงคัดตัวเดือนคณะหวะ”ไกรพูดขึ้น โฬมดูมีสีหน้าไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่นัก

“กูไม่ว่างหวะ มึงให้คนอื่นช่วยมันเถอะ”

“ช่วยเพื่อนกูหน่อยนะ หาไรง่อยๆให้มันทำก็ได้ ดีดกีต้าร์เป็นไง ?”ไอ้ไกรยังหาทางกล่อมเพื่อนมัน แต่คงจะไม่สำเร็จง่ายๆเพราะโฬมทำท่าจะปฏิเสธอีกแล้ว

“เออ มึงสองคนไปตกลงกันเอาเองนะ กูไปรีบไปรับกิ๊ฟหวะ กูไปช้าเดี๋ยวแดกหัวกูอีก ไปละ โชคดีเว้ย” ไอ้ไกรพูดจบก็ปลีกตัวออกไป ทิ้งผมไว้กับเพื่อนของมันที่ชื่อโฬม

“โทษทีนะ แต่นายไปหาคนอื่นช่วยเถอะ เราสอนคนอื่นไม่เป็นหวะ” แล้วโฬมก็ทำท่าจะเดินออกไปอีกคน แต่ไอ้ไกรที่ยังเดินไปไม่ถึงไหนก็ตะโกนกลับมาก่อน

“มึงอย่า ไอ้โฬม ในชมรมกูเห็นมึงสอนรุ่นพี่ด้วยซ้ำ เอางี้ ถ้ามึงช่วยไอ้คริสกูจะกลับไปคิดเรื่องช่วยมึงจีบยัยกิ๊ฟ โอเคนะ” แล้วคราวนี้ไอ้ไกรก็เดินออกไปจริงๆ โฬมมีท่าทีลังเลนิดหน่อย แต่เขาก็ยังคงปฏิเสธผม...

“ขอโทษอีกทีหวะ นายไปหาคนอื่นเถอะ เราต้องซ้อมการแสดงของเราเหมือนกัน เพราะเราเป็นเดือนคณะหวะ”พูดจบก็เดินออกไปเลย ผมรีบเดินตามไปแล้วคว้าไหล่บางนั่นไว้

“ขอร้องหละ ช่วยเราหน่อยนะ” ผมพยายามทำหน้าเว้าวอนเขา โฬมถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ๆแล้วในที่สุดเขาก็พยักหน้าให้ผม

“แล้วนายทำไรเป็นบ้าง ?”

“ไม่เป็นเลย”

“มีดีแค่หน้าตาว่างั้น”

เอ่อ.... ไม่รู้สิ ผมไม่รู้ว่าตัวเองหน้าตาดีไหม? หรือผมอาจจะมีดีแค่หน้าตาอย่างที่โลมว่าจริงๆ แต่ทำยังไงได้หละ ถ้าผมไม่พยายามแสดงอะไรซักอย่างในวันพุธหน้าผมก็ต้องอายคนทั้งคณะแน่ๆ แค่คนตรงหน้าว่าผมว่ามีดีแค่หน้าตาแค่นี้ผมยังรู้สึกเสียศูนย์เลย แล้วถ้าผมต้องโดนคนทั้งคณะว่าจะเป็นยังไงหละ

“เอางี้ ไปห้องเราก่อนละกัน แล้วเดี๋ยวค่อยคิดกันอีกทีว่าจะแสดงอะไร”

“อะ..อืม” แล้วเราสองคนก็เดินออกจากมหาวิทยาลัยเพื่อมุ่งหน้าไปยังหอพักของโฬม

เราสองคนเดินมาจนถึงซอยหลังมหาวิทยาลัย โฬมเรียกวินมอเตอร์ไซต์หน้าปากซอยแล้วคุยกันท่าทางสนิทสนม ผมรีบนั่งวินแล้วตามโฬมไป

 

หอของโฬมเป็นหอพักที่อยู่ในสุดของซอย เป็นตึกสีขาวรูปตัวยู ดูร่มรื่นและเย็นสบายดี ผมเดินตามโฬมขึ้นไปยังห้องของเขา

613… ห้องของโฬมอยู่ชั้นบนสุด โฬมเปิดประตูเข้าไปปล่อยกระเป๋าของตัวเองวางไว้ข้างๆโต๊ะหนังสือ ถัดจากโต๊ะหนังสือมีกีตาร์โปร่งวางอยู่ ข้างๆก็มีไวโอลินอยู่ด้วย

“ร้องเพลงได้ไหม ?” พูดไปพลางเริ่มปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาของตัวเองออก

“ไม่ได้อะ” ผมส่ายหัว โฬมถอดเสื้อแล้วโยนทิ้งไว้ในตะกร้า จากนั้นก็ไปหยิบกีตาร์โปร่งขึ้นมา นั่งลงปลายเตียง นิ้วเรียวเกี่ยวลงบนเส้นลวด เกิดเป็นเสียงโน้ตไพเราะ

 

The sun is filling up the room

And I can hear you dreaming

Do you feel the way I do right now?

I wish we would just give up

Cause the best part is falling

Call it anything but love

And I will make sure to keep my distance

Say "I love you" and you're not listening

How long can we keep this up, up, up?

 

(Christina Perri ft. Jason Mraz – Distance)

 

ผมไม่รู้ตัวว่าผมจ้องเขาอยู่นานเท่าไหร่ แต่ตลอดเวลาที่เขาร้องเพลงนี้ทำให้ผมคิดว่าเขากำลัง’รักษาระยะห่าง’กับใครซักคนอยู่จริงๆ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนนั่นดูเศร้าตามความหมายของเพลง และในทันทีที่เขาเกลาโน้ตตัวสุดท้าย สายตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นปกติ

“แล้วสรุปจะให้เราทำอะไรหละ”โฬมเดินไปหยิบหนังสือเพลงที่อยู่บนโต๊ะมาสองสามเล่ม แล้ววางไว้บนเตียง ข้างๆกับกีตาร์โปร่ง

“ภาษาอังกฤษแน่นไหม ?”

“ก็พอตัว”ผมพูดจบโลมก็หยิบหนังสือเพลงสากลขึ้นมา เปิดไปเรื่อยๆ จนมาหยุดที่เพลง Crazy in love ของ beyonce

“รู้จักเพลงนี้ไหม ?”

“แต่มันเป็นเพลงเร็วไม่ใช่หรอ เราไม่ไหวหวะ”แน่นอนว่าเพลง Crazy in love เป็นเพลงจังหวะเร็วจนแทบจะแดนซ์เลยด้วยซ้ำ ผมมองไม่เห็นทางว่ามันจะเข้ากับกีตาร์ตรงไหน

“ฟังฉันเล่นแล้วกัน” โลมหยิบกีตาร์ขึ้นมาไว้บนตัก บดบังผิวขาวๆ นิ้วเรียวเกลาเป็นจังหวะช้าๆ แตกต่างกับเพลง Crazy in love ที่ผมเคยฟังผ่านหู

 

I look and stare so deep in your eyes,

I touch on you more and more every time,

When you leave I'm begging you not to go,

Call your name two or three times in a row,

Such a funny thing for me to try to explain,

How I'm feeling and my pride is the one to blame.

'Cuz I know I don't understand,

Just how your love your doing no one else can.

Got me looking so crazy right now, your love's

Got me looking so crazy right now

Got me looking so crazy right now, your touch

Got me looking so crazy right now

Got me hoping you'll page me right now, your kiss

Got me hoping you'll save me right now

Looking so crazy in love's,

Got me looking, got me looking so crazy in love.

 

ผมกระพริบตาเรียกสติตัวเองกลับมา เผลอมองเขาจนหูแทบจะไม่ได้ฟังเพลง โฬมวางกีตาร์ลงข้างตัว หยิบดินสอขึ้นมาขีดเขียนในคอร์ดเพลง แต่ไม่รู้ทำไมสายตาของผมถึงไปโฟกัสที่หน้าอกเปลือยเปล่า กับผิวขาวใสของคนตรงหน้า

“พุธหน้าใช่ไหม ที่นายจะแสดง ฉันว่างแค่ตอนเย็น นอกจากนั้นฉันเรียนกับเข้าชมรม นายจะมาหาฉันที่ชมรมก็ได้ ถ้าฉันไม่ติดสอนคนอื่นฉันจะสอนนายให้ แต่ตอนเย็นนายต้องมาที่นี่ทุกวัน”

“อืม”

“เริ่มเลยแล้วกัน ฉันจะร้องให้นายฟังทีละท่อน แล้วนายก็ร้องตาม โอเคไหม ?” ผมกำลังจะอ้าปากตอบ แต่โฬมกลับเริ่มเกลากีตาร์ไปแล้ว

“I look and stare so deep in your eyes”นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนมองสบตากับผม ราวกับกำลังมองลึกเข้ามาในดวงตาของผม ราวกับเขากำลังค้นหาว่ามีใครสะท้อนอยู่หรือไม่..... ถ้าเป็นตอนนี้คงมีแค่เขา “เอ้า ร้องสิ เอาใหม่นะ” แล้วโฬมก็เกลากีตาร์ใหม่อีกรอบ

“I look and stare….” โฬมหยุดเกลากีตาร์กลางคัน เขากลับไปดีดโน้ตตัวเริ่มต้นใหม่อีกรอบแล้วร้องประโยคเดิมให้ผมฟัง

“I look and stare so deep in your eyes”โฬมร้องจบท่อนเขาก็วนโน้ตเริ่มใหม่ เขาจ้องผมจนผมต้องหลบสายตา

“I look and stare….” โฬมหยุดดีดอีกแล้ว

“มองตาฉัน เหมือนที่ฉันมองนาย”พูดจบก็เริ่มดีดโน้ตเดิมอีกรอบ ผมมองเข้าไปในดวงตาสีน้ำตาลอ่อนคู่นั้น

“I look and stare so deep in your eyes”

“โอเค เอาใหม่อีกรอบ พยายามอย่าดัดเสียง ร้องออกมาด้วยเสียงจริงๆของนาย ถ้านายดัดเสียงนายจะปวดคอตอนที่ร้องไปนานๆ”โน้ตตัวเดิมถูกดีดใหม่อีกครั้ง

 

หลังจากวันนั้นผมก็เข้าไปหาโฬมทุกวัน... ผมพยายามจะบอกกับตัวเองว่าผมแค่ต้องการเข้าไปฝึกร้องเพลงและเล่นกีตาร์ แต่ไม่ใช่เลย หัวใจของผมมันร่ำร้องว่าให้ผมไปเจอกับโฬมให้ได้ ไปนั่งฟังเสียงเพราะๆนั่นร้องเพลง นั่งมองใบหน้าน่ารักนั่นสื่ออารมณ์ตอนร้องเพลง ตอนเอ่ยคำชมผม หรือแม้แต่ตอนที่เขาดุผม ผมกลับเห็นว่าทุกกิริยาท่าทางของโฬมมันช่างน่ามองไปเสียหมด ผมกำลังตกหลุมรักเขา รักอย่างหมดหัวใจ

 

เวลาผ่านไปจนกระทั่งถึงวันที่ผมต้องแสดงให้คนในคณะดู โฬมเองก็เนียนๆเข้ามานั่งอยู่กับไอ้ไกรด้วย เพื่อนสองสามคนที่ขึ้นแสดงต่างงัดเอาการแสดงเด็ดๆของตัวเองมาทั้งนั้น มีแค่ผมที่เป็นการร้องเพลง ดีดกีตาร์ง่อยๆ มือผมสั่นและเย็นซะจนผมกลัวตัวเอง มันเป็นเรื่องยากมากสำหรับคนขี้อายอย่างผม ผมพยายามนึกถึงคำพูดของโฬมไว้เสมอ

“มองหน้าฉันไว้ เล่นให้เหมือนกับตอนที่นายเล่นให้ฉันฟัง แค่ฉันคนเดียวที่นายต้องสนใจ คนอื่นจะเป็นยังไงชั่งมัน”

“แค่นายคนเดียว โฬม”ผมพึมพำกับตัวเองเพื่อเรียกความมั่นใจเข้ามาให้ตัวเอง แล้วเมื่อเพื่อนคนก่อนหน้าผมแสดงเสร็จ ก็ถึงตาของผม ผมกำกีตาร์ในมือแน่น มันเป็นกีตาร์ที่โฬมให้ผมยืมมา

ผมนั่งลงบนเก้าอี้ ทุกคนในคณะต่างเงียบงัน รอว่าผมจะทำอะไร ผมไม่กล้าสบตาใคร เลยได้แต่มองไปทางโฬมเพียงแค่คนเดียว

 

ผมเริ่มเกลากีตาร์แล้วร้องเพลงเดิมที่เราร้องด้วยกันมาทั้งอาทิตย์ อยู่ด้วยกันจนผมแทบจะกลายเป็นบ้าเพราะว่ารักเขา ผมรักโฬมจนตัวเองแทบจะบ้า เวลาแค่อาทิตย์เดียว แต่ทำไมผมถึงเป็นได้มากมายขนาดนี้ โฬมเป็นคนมีสเน่มาก ทั้งตอนเล่นดนตรี ทั้งตอนร้องเพลง ตอนยิ้ม ตอนหัวเราะ หรือแม้แต่ตอนกินข้าว... ผมอยู่กับเขาแค่อาทิตย์เดียวผมก็แทบจะเป็นบ้าไปแล้ว... ถ้าผมอยู่กับเขาต่อนานกว่านี้อีกซักนิด ผมคงจะเผลอทำอะไรที่มันไม่ควรทำกับเขาแน่ๆ

 

เสียงปรบมือดังขึ้นเมื่อผมร้องเพลงจบ เสี่ยงโห่ร้องราวกับว่านี่เป็นการแสดงที่ยอดเยี่ยมที่สุดแล้ว ผมยิ้มรับเสียงปรบมือต่างๆ แล้วก็เดินออกมาเพื่อรอฟังผล....

ผลก็ไม่ต่างไปจากที่ผมและไอ้ไกรคิดมากนัก คือผมได้รับการคัดเลือกเป็นเดือนคณะ เหตุผลเพราะการแสดงและภาพลักษณ์ของผมดูดีที่สุดแล้ว เพื่อนๆทุกคนก็ยอมรับผม ผมยิ้มรับอย่างเขินๆเท่านั้น

“ดีกว่าที่ฉันคิดไว้เยอะ”โฬมเดินเข้ามาบอกกับผมแบบนั้น ไอ้ไกรที่ยืนอยู่ข้างๆก็เดินมาตบไหล่ผมแรงๆสองสามที

“สุดยอดเว้ยเพื่อนกู”

“ไปหาไรกินฉลองตำแหน่งเดือนคณะหน่อยไหม”โฬมเอ่ยปากชวน ผมกับไกรพยักหน้ารับ แต่ก่อนที่พวกผมจะได้เดินออกไป พี่เชนกับคนอื่นๆก็เข้ามารั้งไว้เสียก่อน

“ปะ ไปฉลองกัน พี่เลี้ยงเอง เอาเพื่อนไปด้วยนะ”

 

เราสามคนมาหยุดอยู่ที่ร้านเหล้าแบบนั่งชิว ด้านในมีพี่ๆหลายชั้นปี ทุกคนล้วนแต่ผ่านงานประกวดดาวเดือนมาแล้วทั้งสิ้น โต๊ะนี้จึงมีแต่คนหน้าตาดีถึงดีมากนั่งเรียงรายกันอยู่ ผมเดินเข้าไปหาโต๊ะนั้น เราสามคนยกมือไหว้พี่ๆ พี่จึงเรียกให้เรานั่งลงร่วมโต๊ะด้วย ผมเลือกที่จะนั่งระหว่างไอ้ไกรกับโฬม เพราะผมแทบจะไม่รู้จักพี่คนไหนเลยนอกจากพี่เชนเดือนคณะปีที่แล้ว

“คนไหนน้องเราวะ”พี่คนหนึ่งเอ่ยถาม ดูท่าว่าจะเรียบจบไปแล้ว เพราะไม่ได้อยู่ในชุดนักศึกษาเหมือนคนอื่นๆ

“คนนี้น้องคริส เดือนคณะครับ ส่วนนี่น้องไกร เพื่อนน้องคริส แล้วอีกคนก็....”

“คนนี้โฬมครับ ศิลปะศาสตร์ปีหนึ่ง เป็นคนสอนคริสเล่นกีตาร์กับร้องเพลงครับ”เป็นไอ้ไกรที่แนะนำต่อจากพี่เชน พี่ๆหลายคนทำหน้าแปลกใจ แต่มีคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะดูแลเรื่องกองกลางการประกวดดาวเดือน

“เห้ย น้องโฬมเดือนคณะศิลปะศาสตร์ปะ ?”

“เอ่อ...ใช่ครับ”

“อ้าว แล้วแบบนี้พี่ๆที่คณะจะไม่ว่าเอาหรอ มาสอนเดือนคณะพี่แบบนี้อะ”

“พี่ๆที่คณะไม่รู้ครับ ถ้ารู้ก็น่าจะเป็นเรื่องนิดหน่อย”โฬมตอบเสียงอ่อย ผมอึ้งมากเมื่อรู้ความจริงว่าถ้าพี่ๆที่คณะของโฬมรู้ เขาอาจจะมีปัญหาได้ แต่เขาก็ยังรับสอนผม.... ผมอึ้งมากจริงๆ

“ไม่เป็นไร ถ้าข่าวหลุดออกไปจากวงนี้นะ ฉันจะตามเก็บคนที่เอาข่าวไปบอกคณะนั้น”พี่คนนึงพูดขึ้นมา ดูท่าว่าจะอาวุสโสสุด โฬมกับผมได้แต่หัวเราะแห้งๆกับคำขู่นั้น

แต่ไม่นาน เมื่อเหล้าเข้าปาก เพลงสนุก เรื่องเครียดๆก็หายไป พวกเรานั่งดื่มกันจนเมา.... ที่จริงก็คงจะมีแค่ผมที่เมาเละมาก เพราะผมแทบจะคุมสติตัวเองไม่อยู่ จำได้ภาพสุดท้ายคือโฬมดึงแก้วเหล้าออกจากมือผมไปแล้วเอาไปดื่มเอง

 

ผมลืมตาตื่นอีกทีเพราะรู้สึกเย็นไปทั้งตัว หันไปมองรอบๆตัวก็พบว่าผมอยู่ในห้องของโฬม โดยมีโฬมนั่งเช็ดตัวให้ผมอยู่

“กินเหล้าแล้วเมาเหมือนหมา” เขาพูดประโยคนั้นออกมา ผมที่ยังรู้สึกเมาอยู่ได้แต่หัวเราะแหะๆ พลิกตัวไปมาเพื่อให้โฬมเช็ดตัวให้ ถึงแม้ว่าทั้งตัวของผมจะมีแค่กางเกงในสีขาวตัวเดียว แต่ผมกลับไม่รู้สึกอายเลย อาจจะเป็นเพราะฤทธิ์เหล้า

และก็อาจจะเป็นฤทธิ์เหล้าเช่นกันที่ทำให้ผมพลิกตัวไปกอดโฬมตอนที่เขาล้มตัวลงนอนข้างๆผม

แปลก...ที่เขาไม่ขัดขืนผมเลย ผมจึงจัดการซุกไซร้ไปตามแผ่นหลังขาวเนียน กลิ่นหอมสบู่อ่อนๆทำเอาผมแทบคลั่ง โฬมหันหน้ากลับมา ผมจ้องเข้าไปในดวงตาคู่นั้น สองมือประคองใบหน้าน่ารักนั่นไว้ แล้วผมก็ประริมฝีปากลงไปบนกลีบปากได้รูปของเขา โฬมจูบตอบโดยไม่มีทีท่าขัดขืน ผมรู้สึกได้ถึงเลือดสูบฉีดไปทั่วร่างกาย ผมพลิกตัวของโฬมให้ลงมาอยู่ด้านล่าง จากนั้นผมก็ขึ้นคร่อมเขาไว้ ฉีกกระชากเสื้อผ้าทุกชิ้นที่อยู่บนตัวของเขาออก ผมจ้องมองผิวขาวเนียน จากนั้นก็จัดการเลียชิมรสชาติผิวนั่นไปทุกส่วน เสียงครางหวานหูของร่างตรงหน้าทำเอาผมแทบสิ้นสติ ผมโถมร่างกายเข้าใส่ร่างข้างใต้อย่างหนักหน่วง ลืมทุกสิ่งทุกอย่าง ลืมแม้กระทั่งว่าเราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกัน

เราเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้นเอง

 

“ออกไปจากห้องของกูได้แล้ว”ผมลืมตาขึ้นมาได้ก็แทบจะรับเสื้อผ้าของตัวเองไว้ไม่ทัน ในหัวผมมีแต่คำว่าเกิดอะไรขึ้น ผมมองร่างของโฬมก็ต้องพบกับร่องรอยสีแดงช้ำ ภาพเมื่อคืนก็ไหลเข้าหัวผมเป็นฉากๆ

ผมอ้ำอึ้ง พูดอะไรไม่ออก ไม่กล้าแม้แต่จะพูดขอโทษ หรือพูดว่าไม่ได้ตั้งใจ... เพราะทั้งหมดนั้นผมตั้งใจทำ...

“เรา...ขอโทษ...”

“ไม่ต้องขอโทษ มึงไม่ผิด ผิดที่กูใจง่ายเอง คิดซะว่า เมื่อคืนมึงเมา กูก็เมา ก็เลยเกิดอุบัติเหตุขึ้น เท่านั้นเอง กูก็ผู้ชาย มึงก็ผู้ชาย ไม่มีใครเสียหาย ลืมๆมันไปเหอะ”

ไม่ มันไม่ใช่อุบัติเหตุ ผมตั้งใจให้มันเกิดขึ้น เป็นผมเองที่ผิด เขาจะไม่เสียหายได้ยังไง ในเมื่อร่องรอยมันเห็นกันชัดขนาดนั้นแล้ว

“ไปได้แล้ว หมดหน้าที่กูแล้ว”

ผมพูดอะไรไม่ออก.... ผมทำได้เพียงแค่ค่อยๆหยิบเสื้อผ้ามาใส่ทีละตัว แล้วก็เดินออกมาจากห้องนั้น

 

“คิดหรือยังว่ารอบการแสดงจะเอาอะไรไปแสดง บอกก่อนว่าร้องเพลงดีดกีตาร์มันธรรมดามาก”พี่เชนถามผมตอนที่เรามาซ้อนกัน ผมทำอย่างอื่นไม่เป็นนอกจากร้องเพลง.... เพลงที่โฬมเป็นคนสอนผมร้อง..

“ผมอยากเล่นเปียโนครับ”

“หืม เปียโนหรอ... ก็โอเคนะ พี่น้ำเล่นเป็น เดี๋ยวให้พี่น้ำสอนให้ หรือคริสจะให้เพื่อนสอนหละ คนที่เป็นเดือนศิลปศาสตร์อะ”

“เพื่อนผม...เขา.....เขาต้องไปซ้อมการแสดงของเขาหนะครับ” ผมได้แต่บอกไปเท่านั้น พี่เชนก็ไม่ซักไซ้อะไรอีก ได้แต่พยักหน้าแล้วเรียกพี่น้ำเข้ามา โชคดีที่ห้องสโมฯคณะมีเปียโนอยู่หลังหนึ่ง ผมจึงใช้ห้องสโมฯในการซ้อมร้องเพลงและเล่นเปียโน

พี่น้ำเล่นเปียโนเก่งมาก สอนให้ผมเล่นได้แค่ภายในไม่กี่วัน พี่น้ำก็ชม บอกว่าผมมีหัวทางด้านนี้... ก็อาจจะจริงนั่นแหละ

“จะร้องเพลงนี้ให้ใครหรือเปล่าคะ”พี่น้ำถามผม ผมได้แต่ยิ้มแห้งๆส่งไปให้ ก็มีแค่คนเดียวนั่นแหละที่ผมอยากให้เขารับรู้

....ว่าผมต้องการให้เขากลับมา

ผมไปหาโฬมที่ชมรมมาก็หลายครั้ง แต่ทุกครั้งที่ไปกลับไม่เจอโฬมเลย ไปดักเจอเขาที่หน้าหอก็ไม่เคยเห็นเขากลับหอเลยซักครั้ง เรียกได้ว่า หลบหน้าผมแบบเต็มรูปแบบ

 

วันประกวดดาวเดือนมาถึง ผมมองหาโฬมตลอด เห็นเขาอยู่ไกลๆ แต่ไม่กล้าเข้าไปหา....ไม่กล้าจริงๆ

การประกวดรอบต่างๆผ่านไปด้วยดี...สำหรับผู้เข้าประกวดคนอื่นๆนะ แต่สำหรับผมถือว่าแย่มาก...เพราะผมตื่นเต้น เลยเผลอทำท่าทางตลกๆไปบ้าง จนมาถึงรอบการแสดง ผมพกความมั่นใจมาเต็มที่ เพลงที่ผมจะร้องกับเปียโนที่ผมจะเล่น ผมฝึกมันอย่างจริงจังเป็นเดือนๆ ไม่ใช่เพื่อคณะ แต่เพื่อคนๆเดียว

 

ผมค่อยๆกดนิ้วลงบนคีย์บอร์ด เรียงตัวโน้ตตามที่ผมฝึกมาอย่างดี กลั่นกลองความรู้สึกที่ผมมีให้กับคนเพียงคนเดียว ไม่สนใจเสียงรอบข้าง ต่อให้คนอื่นจะว่ายังไงผมไม่สน นับตั้งแต่วินาทีนี้ ผมมอบให้โฬมคนเดียว

If you come back to me

I’ll be all that you need

Baby, come back to me......

เสียงปรบมือดังระงม ผมแทบจะไม่สนใจเสียงนั้นเลย ผมสนใจแค่คนๆเดียว คนที่ยืนอยู่หลังเวที

The rain falls on my windows

And the coldness runs through my soul

When the rain falls, oh when the rain falls

I don’t want to be alone

 

I wish that I could photoshop on

Our bad memories

Because the flashbacks, oh the flashbacks

Won’t leave me alone

If you come back to me

I’ll be all that you need

Baby, come back to me

Let me make up for what happened in the past

 

Baby come back to me(Come back)

I’ll be everything you need(Come back)

Baby come back to me(Come back)

Boy, you’re one in a million(Come back)

Baby come back to me(Come back)

I’ll be everything you need(Come back)

Baby come back to me(Come back)

You’re one in a million

 

Come back to me

Please...

 

กลับมาหาฉันได้ไหม.....

 

เป็นไปตามคาดของผมที่ผลการประกวดผมได้แค่รางวัลรองชนะเลิศอันดับสอง หรือก็คือที่สาม แต่รางวัลไม่สำคัญอะไรเลย สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ผมได้คือ...โฬม

เขากลับมาหาผม ที่หลังเวที เขาวิ่งเข้ามากอดผม พร่ำบอกแต่ว่าเขากลับมาแล้ว จะไม่ไปไหนอีกแล้ว ผมกอดเขาไว้แน่น สัญญากับเขา ว่าต่อแต่นี้ไปจะดูแลความรักของเราสองคนให้ดีที่สุด ขอโทษที่ล่วงเกินเขา แต่ที่ทำไปเพราะผมรักเขา... ใครจะว่ามันเร็วเกินไปสำหรับความรักของเรา แต่ผมกลับมองว่า ยิ่งรู้ตัวเร็ว เราก็ไม่ต้องเสียเวลาอะไร รู้ว่ารักแล้วก็บอกไป ใครจะรู้ ว่าเวลาที่เหลืออยู่ จะพรากเราออกจากกันเมื่อไหร่

 

สัญญาว่า...ไม่ว่ายังไง จะไม่มีวันทิ้งเขาไปไหน...









++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

หายไปนานมากกกก ขออภัยจริงๆครับคนอ่าน ไม่มีข้อแก้ตัวใดๆนอกจาก ยุ่งมากมายทั้งเรียนทั้งกิจกรรม ซึ่งจะหนักไปทางด้านกิจกรรมเสียมากกว่า แต่ยังไงก็มาต่อให้แล้วนะครับ

ชอบเรื่องนี้ อย่าลืมคอมเมนท์เป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยนะครับ

และจะดีมากถ้าแชร์เรื่องนี้ให้เพื่อนๆได้อ่านกัน



ขอบคุณทุกคอมเมนท์ ทุกกำลังใจ ทุกการติดตามที่ยังมีมาตลอดไม่ทิ้งกันไปไหน

อ่านให้สนุกนะครับ ^^

 

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
Re: [Rewrite] •HANDSOME GHOST• ตอนที่[15] Up 16/2/60
«ตอบ #41 เมื่อ17-02-2017 10:06:23 »

   เพิ่มอดีตเข้าไปเข้าใจเบื้องหลังมากขึ้นเลยคับ 
   รออ่านตอนต่อไปคับ มาเร็วๆนะคับ

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7
Re: [Rewrite] •HANDSOME GHOST• ตอนที่[15] Up 16/2/60
«ตอบ #42 เมื่อ17-02-2017 10:53:07 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
Re: [Rewrite] •HANDSOME GHOST• ตอนที่[15] Up 16/2/60
«ตอบ #43 เมื่อ17-02-2017 14:34:30 »

 :hao7:  ตอนนี้สัมผัสได้ว่าเขาเคยรักกันมาก แต่น่าเศร้าที่จบด้วยความตาย 

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6
Re: [Rewrite] •HANDSOME GHOST• ตอนที่[15] Up 16/2/60
«ตอบ #44 เมื่อ18-02-2017 20:34:19 »

 o13

ออฟไลน์ niightziiz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 94
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-0
Re: [Rewrite] •HANDSOME GHOST• ตอนที่[16] Up 14/3/60
«ตอบ #45 เมื่อ14-03-2017 21:29:41 »

•HANDSOME GHOST•

[16]-ความจริง

[Kris Part]


 

 

 

หลายวันก่อน โฬมเข้ามาบอกกับน้องชายผม ว่าจะดูแลฟานแทนผม ทั้งๆที่ผมไม่อยากให้เป็นแบบนั้นเลย น้องชายผมก็คิดไปเองว่าผมคงจะสบายใจ โดยที่ไม่ถามปาร์คซักคำว่าผมคิดยังไง

ที่จริงเหตุการณ์ตอนนั้นมันอาจจะไม่เอื้ออำนวยให้ถาม แต่น้องชายผมน่าจะเก็บไปคิดก่อน ไม่ใช่ด่วนตัดสินใจ

ผมพึ่งคิดได้วันนี้ว่าการดูแลน้องอย่างใกล้ชิด มันจะทำให้น้องผมกลายเป็นคนซื่อๆ ตามคนไม่ทัน ผมกลัว กลัวว่าเขาจะถูกหลอก กลัวว่าจะมีอันตรายเกิดขึ้นกับเขา

“เมื่อไหร่มึงจะเลิกทำหน้าอมขี้แบบนี้ซักทีวะ เห็นแล้วรำคาญตาชิบหาย” ปาร์คบ่นผม เขาก็บ่นไปงั้นๆแหละครับ ผมรู้ว่าเขาแค่อยากให้ผมเลิกกังวลเรื่องน้องชาย

“ก็ฉันกลัวว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับน้องชายของฉันหนะสิ”

“น้องมึง21แล้วนะ โตจนค-ยใหญ่เท่าแขนแล้วมั้ง มันน่าจะคิดได้บ้างแหละ ไม่งั้นมันจะอยู่คนเดียวได้ยังไงตั้ง7ปี”พูดจบปาร์คก็คว้าผ้าเช็ดตัวแล้วเข้าไปในห้องน้ำไป

 

ไม่นานเขาก็ออกจากห้องน้ำมาแล้วล้มตัวนอนลงบนเตียง ปาร์คเป็นคนหลับง่ายมากครับ แค่แป้บ...

“คร็อก.....” นั่นไง แค่แป้บเดียวเขาก็หลับแล้ว  ผมดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มให้ปาร์ค ผมคิดมาหลายวันแล้ว ว่าผมอาจจะเห็นปาร์คเหมือนเพื่อนคนหนึ่งมากกว่า ผมชอบปาร์คตรงที่เขาคอยช่วยเหลือผม แต่ผมไม่ได้อยากให้เขามารักกับผมที่เป็นแค่ผีหรอกครับ มันคงจะแย่เกินไปที่จะเอาคนๆหนึ่งมาผูกพันลึกซึ้งกับวิญญาณที่ไม่มีตัวตนในโลกความจริงแบบผม

ตอนนี้ผมกำลังลังเลอยู่ ว่าผมจะไปที่บ้านดีไหม ผมอยากไปเห็น ว่าน้องชายของผมเป็นยังไงบ้าง โฬมดูแลเขาดีจริงๆหรือเปล่า

 

แต่มัวแต่กังวลไปก็คงไม่ได้อะไร ผมตัดสินใจกลับมาที่บ้านทันที ในบ้านยังคงเปิดไฟอยู่ มองเข้าไปเห็นน้องชายของผมกับโลมกำลังนั่งคุยกันอยู่ตรงโซฟา ผมรีบเข้าไปในบ้านเพื่อฟังว่าทั้งสองคนคุยอะไรกัน

“ทำไมหละครับฟาน พี่นึกว่าเราเป็นแฟนกันแล้วซะอีกนะ”โฬมพูดขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

“ผมให้พี่มาดูแลผมในฐานะพี่ชายคนหนึ่ง พี่ก็พูดไม่ใช่หรอว่าพี่จะทำแทนคริส คริสเป็นพี่ชายผมนะ”ฟานก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจังเช่นกัน

“แต่พี่...”

“ไม่มีแต่ครับ ผมมีคนที่ผมชอบอยู่แล้ว และผมก็ไม่ได้อยากคบกับพี่ด้วย ถ้าพี่อยากดูแลผม ผมให้พี่เป็นได้แค่พี่ชายเท่านั้นครับ”ฟานพูดจบ โฬมก็เงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าแล้วพูดขึ้น

“ก็ได้ครับ แค่พี่ชายก็ได้ ....แค่พี่ได้ดูแลฟาน พี่ก็พอใจแล้วครับ”

“ครับ”ฟานพูดจบแค่นั้นฟานก็เดินขึ้นห้องตัวเองไป ส่วนโฬมก็เดินเข้าไปในห้องผม

 

ผมเข้าไปในห้องน้องชาย เขาเองก็มีสีหน้ากังวลแปลกๆ เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กดเข้าโปรแกรมแชทแล้วพิมพ์ข้อความลงไป

“น้องปาร์คครับ พี่ไม่ได้คบกับพี่โฬมนะ อย่าเข้าใจพี่ผิด”

ทำไมเขาต้องพิมพ์ข้อความแบบนั้นให้ปาร์คด้วย.... หรือว่าน้องชายผมจะชอบปาร์ค ?

ฟานมีท่าทีลังเลนิดหน่อย แต่เขาก็ลบข้อความนั้นทิ้งแล้วพิมพ์ข้อความใหม่แทน

“ฝันดีนะครับน้องปาร์ค” แต่ยังไม่ทันจะกดส่ง ฟานก็ลบแล้วโยนโทรศัพท์ไว้บนเตียง คว้าผ้าเช็ดตัวแล้วเข้าห้องน้ำไป

บางทีฟานอาจจะชอบปาร์ค ไม่งั้นเขาคงไม่กังวลและลังเลที่จะส่งข้อความมากขนาดนี้

 

ผมกลับมาที่ห้องของผมเอง... ผมเห็นโฬมที่นอนฟุบลงกับเตียง ก่อนหน้านี้ฟานอาจจะตกลงให้เขามานอนที่ห้องผม เพราะบ้านหลังนี้มีแค่สองห้องนอน ส่วนโฬมเองก็คงไม่อยากขับรถกลับบ้านไกลๆ เลยค้างซะที่นี่ ผมมองเขาไปเรื่อยๆ ไหล่บางสั่นหน่อย เขาเอาหน้าซุกหมอนบนเตียงแล้วพึมพัมอะไรบางอย่าง

“ฮึก.... คริส”

“......!!” เขาเรียกชื่อผมใช่ไหม ?? ทำไมโฬมถึงเรียกชื่อผม ?? ทำไมเขาถึงพูดชื่อผมออกมา ?? ผมนั่งลงข้างเตียงแล้วมองเขาไปเรื่อยๆด้วยความสงสัย แต่โฬมก็เอาแต่ร้องไห้แล้วกอดหมอนอยู่แบบนั้นไม่พูดอะไรออกมาอีก.... แล้วในที่สุดเขาก็หลับไป

 

ความสงสัยค่อยๆก่อตัวขึ้นในหัวผม ข้อแรกคือ ฟานชอบปาร์คใช่ไหม ? อันนี้เป็นไปได้สูงว่าฟานอาจจะชอบปาร์ค ส่วนข้อที่สองคือโฬม ผมสงสัยว่าทำไมเขาถึงต้องมาดูแลฟาน แล้วทำไมเขาถึงต้องพูดชื่อผมขึ้นมาด้วย หรือว่าเวลาตลอดเจ็ดปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยลืมผมเลย ผมจำได้ว่าเมื่อก่อนเราสองคนรักกัน แต่เวลาที่เลยผ่านไปย่อมเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง

แต่โฬมจะยังเหมือนเดิมหรอ ? เขายังรักผมอยู่หรอ ? ถึงแม้ว่าผมจะตายไปแล้วหนะหรอ ??

โว้ยยยย คิดจนหัวจะแตกอยู่แล้ว

แล้วผมก็ตัดสินใจกลับมาที่หอ เก็บความสงสัยนั้นไว้ จนวันเวลาเลยผ่านไปเรื่อยๆ โฬมยังดูแลฟานอยู่ แต่โฬมก็ยังคงร้องไห้ทุกวันโดยไม่ให้ใครได้เห็น มีแค่บางวันเท่านั้นที่ผมไม่เห็นเขาร้องไห้ บางวันเขาก็ค้างที่บ้านผม แต่บางวันเขาก็กลับบ้านเขา

ผมจำได้ลางๆว่าผมเคยไปส่งโฬมที่บ้านเขาอยู่ครั้งหนึ่ง จำได้ว่าวันนั้นแม่ของเขาไม่อยู่บ้าน ผมถึงไปส่งเขาได้ แต่ผมจำไม่ได้ว่าบ้านโฬมอยู่ที่ไหน พยายามนึกยังไงก็นึกไม่ออก

ปาร์คก็เอาแต่คิดว่าผมกังวลเรื่องน้องชายของผม ความจริงมันก็มีส่วนอยู่หน่อยๆ ถ้าเป็นอย่างที่ผมคิดจริงๆว่าฟานชอบปาร์ค ผมจะทำยังไงให้น้องผมสมหวัง แต่เรื่องที่ผมกังวลมากกว่าคือ....โฬม

 

ผมคิดเรื่องต่างๆในหลายวันมานี้ ผมพอจะนึกแผนที่ให้น้องชายผมสมหวังได้แล้ว และเรื่องของโฬมเอง ผมก็เริ่มจะมีความทรงจำลางๆขึ้นมาแล้วเหมือนกัน แต่มันเป็นแค่ภาพลางๆ ผมอยากจะเห็นให้ชัดกว่านี้

 

จนมาถึงวันนี้ วันที่ผมตัดสินใจกลับมาที่ห้อง613อีกครั้ง หลังจากที่โฬมกลับบ้านของเขา และปาร์คก็ค้างกับฟานที่บ้าน

“เดี๋ยวฉันมานะ”

“จะไปไหน”

“ไปทำธุระ”

ก่อนหน้านั้นผมพยายามนึกหาเหตุผลในสิ่งที่โฬมกำลังทำอยู่ แต่ผมนึกไม่ออกจริงๆ ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องทำแบบนี้ จนกระทั่งภาพเหตุการณ์หลายๆอย่างมันไหลเข้ามาในหัวผม เหมือนกับความทรงจำส่วนที่หายไปของผมกำลังกลับคืนมา ภาพความทรงจำตอนที่ผมถูกฆ่า

 

ผมทนอยู่นิ่งๆไม่ได้จนต้องกลับมาที่ห้องนี้ ผมพยายามนึกภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้น วันที่ผมถูกฆาตกรรม ผมจำได้ว่าผมกำลังนอนอยู่กับโฬม เราทั้งคู่นอนกอดกันอยู่ และแล้วแม่ของเขาก็เข้ามาในห้อง เธอตะโกนลั่นห้อง

“พวกแกทำอะไรกัน !”

ผมกับโฬมเราต่างตกใจกันทั้งคู่ ก่อนหน้านั้นโฬมไม่ได้บอกผมว่าแม่เขารับเรื่องที่เขามีแฟนเป็นผู้ชายไม่ได้ โฬมบอกผมแค่ว่า ยังไม่ได้บอกเรื่องของเราให้ทางบ้านรู้

แต่ตอนนี้ผมว่าแม่ของเขาคงรู้แล้วแน่ๆ เธอยังคงตะโกนด่าทอเราทั้งสองคน ผมมองโฬมที่กำลังร้องไห้และไหว้แม่ของตัวเอง ขอร้องบางสิ่งบางอย่างที่ผมไม่แน่ใจว่ามันคืออะไร แต่เธอก็เงื้อมือขึ้นแล้วตบเข้าที่แก้มใสของโฬม ผมจำได้ว่าตอนนั้นผมรีบเข้าไปห้ามเธอทันที เพราะเธอคงไม่หยุดแค่ครั้งเดียวแน่ๆ แต่เธอก็ตะโกนลั่นแล้วผลักผมออกอย่างแรง

“อย่ามาแตะตัวฉัน ! ไอ้เกย์สกปรก !” ผมเซออกมาตามแรงผลักของเธอ ไม่รู้ว่าผู้หญิงตัวเล็กๆเท่านี้ทำไมถึงได้แรงเยอะขนาดนี้

“แม่ ฮือ โฬมขอโทษ” มือข้างหนึ่งของโฬม กุมใบหน้าซีกที่ถูกตบไว้ ส่วนแขนอีกข้างก็กอดเข่าแม่ตัวเอง โฬมกำลังร้องไห้อย่างหนัก เขาดูน่าสงสารมากๆในความทรงจำของผม

“แกอยากจะเป็นแบบพ่อแกหรือไง ! แกอยากจะเป็นเอดส์ตายแบบพ่อแกรึไง !” ผมถึงกับสะอึกกับคำพูดนั้นของแม่โลม เธอยังคงทุบตีร่างที่เกาะขาเธออยู่ โฬมเองก็ยังเอาแต่ปัดป้องและนั่งร้องไห้ เขาพยายามจะขยับปากบอกผมว่าให้ผมออกไป... แต่ตอนนั้นผมไม่สามารถจะไปจากโฬมได้เลยจริงๆ ผมเป็นห่วงโฬม ผมกลัวเขาจะแย่เกินไปกว่านี้

“พอเถอะครับ ตอนนี้คุณน้ากลับไปก่อนดีกว่านะครับ ผมขอโทษสำหรับ.....” แต่ไม่ทันที่ผมจะพูดจบ เธอก็ตวาดผมอีกครั้ง

“แกไม่มีสิทธิ์มาไล่ฉัน !”

“แต่คุณก็ไม่มีสิทธิ์ทำร้ายร่างกายของโฬมนะครับ ถึงเขาจะเป็นลูกของคุณ แต่การทำร้ายร่างกายผู้อื่นก็ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฏหมายนะครับ” เธอกำมือแน่น ก่อนจะผลักหัวโฬมออกจนไปกระแทกกับโครงเตียง ซึ่งเป็นเหล็ก เลือดสีแดงค่อยๆไหลออกมาจากหน้าผากของโฬม

“คุณ ! มันจะเกินไปแล้วนะครับ !” ผมเข้าไปพยายามจะเข้าไปห้ามแม่ของโฬมที่กำลังจิกหัวโลมและจะโขกกับโครงเหล็กอีกรอบ แต่โฬมก็ลุกขึ้นมาห้ามผมเสียก่อน

“คริส ฮือ อย่าทำอะไรแม่นะ”

เพี๊ย !

สิ้นเสียงของโฬมผมก็รู้สึกได้ว่ามีมือตบเข้าซีกหน้าด้านซ้ายของผม ใบหน้าครึ่งซีกผมชาเนื่องจากแรงตบ

“แม่ พอแล้ว ฮือ อย่าทำคริส” โฬมรีบเข้าไปห้ามแม่ของเขา แต่มือของเธอก็ทุบตีเราสองคนอย่างไม่ยั้งมือ เธอมีใบหน้าโกรธจัด แต่ผมไม่อาจจะตอบโต้เขาได้ ได้เพียงแต่กอดโฬมไว้ ให้โฬมได้รับบาดเจ็บน้อยที่สุด

 

จนในที่สุด แม่ของโลมก็ออกจากห้องไป ผมรีบดึงโฬมเข้ามากอดในอ้อมอก เขาปล่อยโฮร้องไห้ พร่ำพูดแต่คำขอโทษอย่างไม่ขาดปาก มือของเขาสัมผัสบนใบหน้าของผมซีกที่โดนแม่ของเขาตบ

“ไม่เป็นไรนะ ถึงแม้ว่าใครจะไม่อยู่ข้างโฬม แต่คริสจะอยู่ข้างโฬมเสมอนะ” พูดจบผมก็จูบซับน้ำตาบนใบหน้าของโฬมแต่เพียงไม่นาน ประตูห้องของเราก็ถูกเปิดอีกครั้ง โดยแม่ของโลม เธอถือท่อนเหล็กสีมันวาวไว้ในมือด้วย ไม่รู้ว่าเธอไปหามาจากไหน แต่ผมรับรู้ได้ถึงอันตรายที่กำลังจะเกิดขึ้นทันที ผมรีบกอดโฬมเข้ามาในอ้อมแขนหันหลังให้แม่ของเขาที่กำลังเงื้อมือเพื่อฟาดท่อนเหล็กลงมา

“แม่ !! อย่า !! ฮือ”

กึ้ก !

ความรู้สึกเจ็บ.......... เจ็บจนชา แล่นผ่านกะโหลกของผมไปยังกระดูกสันหลัง โฬมร้องลั่นห้ามไม่ให้แม่ของเขาทำร้ายผม แต่คนที่กำลังโกรธ ก็เหมือนไฟที่กำลังลุกไหม้ มันใช้น้ำธรรมดาดับไม่ได้ คนโกรธมันก็หยุดด้วยคำพูดธรรมดาไม่ได้เช่นกัน

 

กึ้ก ! กึ้ก ! เธอยังคงฟาดเหล็กลงมาบนหัวผมเรื่อยๆ ผมรู้สึกได้ถึงเลือดสีแดงสดที่ไหลออกมาจากหัวของผม มันหยดลงบนใบหน้าของโฬม ผมค่อยๆยกมืออันสั่นเทาขึ้นไปเช็ดมันออก อ้อมแขนทั้งสองข้างของผมยังคงกอดคนที่ผมรักไว้แน่น

แต่ตอนนี้สติผมเริ่มเลือนราง ความเจ็บปวดเล่นพล่านไปทั้งตัว ภาพตรงหน้าผมค่อยๆจางลงไป จนในที่สุดภาพทั้งหมดที่ผมเห็นก็กลายเป็นสีดำ แต่ผมยังรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดบนร่างกาย ราวกับผิวหนังถูกกรีดโดยของมีคม ผมได้ยินเสียงโฬมร้องลั่น แต่ผมไม่อาจจะเห็นภาพใดๆตอนนั้นได้...

 

แล้วความทรงจำของผมก็หมดไปเพียงเท่านั้น ผมไม่อาจจะรู้เหตุการณ์ต่อจากนั้นได้เลย ผมจะทำยังไงดี ผมอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นต่อจากนั้น มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมโฬมถึงยอมรับผิด ทำไมเขาถึงบอกตำรวจว่าเขาเป็นคนฆ่าผมและยอมติดคุกแทนแม่ของเขา

ผมพยายามนึกถึงสิ่งศักดิ์สิทธ์ที่อยู่ในหอนี้ ถ้าหากผมยังมีบุญอยู่ ผมขอให้ผมได้เห็นภาพเหตุการณ์ตอนผมตายด้วยเถิดครับ ให้ผมได้มีโอกาสแก้ไขเรื่องราวพวกนี้ด้วยเถอะครับ

“ให้ผมได้มีโอกาสแก้ไขเรื่องราวเหล่านี้ด้วยเถิดครับ ให้คนที่ทำผิดได้ชดใช้ และให้คนที่ผมรักหลุดจากข้อครหา”

แล้วผมก็กลับเข้ามาในความทรงจำของตัวเองอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันต่างกันที่ผมกำลังยืนดูเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ ภาพเหตุการณ์ทั้งหมดค่อยๆผ่านไป ผมเห็นตัวเองถูกเหล็กฟาดที่หัวอย่างแรง หลายครั้ง ผู้หญิงคนนั้นไม่หยุดฟาดผม จนผมล้มลงไปกองกับพื้น โฬมตะโกนลั่นแล้วประคองกอดร่างอันไร้สติของผมขึ้นมา เขาร้องไห้และพยายามจะห้ามแม่ของเขา แต่เขาก็ถูกเหล็กฟาดเหมือนกัน โฬมนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น ผมได้แต่ยืนดูเหตุการณ์นั้นไหลผ่านไปเรื่อยๆ ผู้หญิงคนนั้นคว้าคัทเตอร์ที่อยู่บนโต๊ะหนังสือมากรีดตามร่างกายของผม ตอนนั้นผมไม่รู้สึกอะไรแล้วจริงๆ นอกจากชา ผมมองดูเหตุการณ์ทุกอย่างผ่านไปโดยผมไม่สามารถทำอะไรได้เลย

 

และในที่สุด ผู้หญิงคนนั้นก็ยั้งมือ และเดินออกจากห้องไป โดยทิ้งท่อนเหล็กและคัทเตอร์ไว้ข้างกายของโฬม.....โฬมค่อยๆลุกขึ้นจากพื้น น้ำตาของเขาไหลออกมาไม่หยุด สองมือค่อยๆประคองร่างโชกเลือดของผมขึ้นมากอด

ร่างของโฬมที่บาดเจ็บไม่น้อยไปกว่าผมกำลังกอดผมอยู่ เสียงร้องไห้ยังดังออกมาไม่หยุด เวลาผ่านไปนานหลายชม. เลือดสีแดงไหลท่วมไปทั้งห้อง.... ตอนนั้นผมรู้ตัวแล้ว ว่าผมคงไม่มีลมหายใจไปนานแล้ว โฬมถึงไม่เรียกรถพยาบาล เขาเอาแต่กอดร่างไร้วิญญาณของผมเอาไว้อย่างนั้น

“โฬมขอโทษนะคริส ฮึก..... โฬมห้ามแม่ไม่ได้ ฮึก โฬมผิดเอง... โฬมไม่น่าจะพาคริสมาเจออะไรแบบนี้เลย ฮือ คริส....โฬมขอโทษ โฬมขอโทษ ฮือ” โฬมเอาแต่พูดขอโทษและร้องไห้เสียงสะอึกสะอื้น เขาค่อยๆหยิบคัทเตอร์ขึ้นมา จ้องมองที่ใบมีดคมกริบที่มีเลือดและเศษเนื้อของผมติดอยู่ มือข้างที่ถือคัทเตอร์ค่อยๆยกใบมีดคมนั้นขึ้นมาทาบทับที่คอตัวเอง              จากที่ผมขยับไม่ได้ผมก็พยายามดิ้นอย่างสุดแรง แล้วในที่สุดผมก็พุ่งเข้าไปปัดมือข้างที่ถือคัทเตอร์ของโฬมออก โฬมมองมือของตัวเองอย่างอึ้งๆ เขามองไปรอบๆห้อง ทำสีหน้าประหลาดใจ แต่เขามองไม่เห็นผม.... ก็น่าจะเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว... โฬมมองไม่เห็นผมแล้ว... เพราะผมเป็นแค่วิญญาณดวงหนึ่งเท่านั้นเอง

ใบหน้าของโฬมที่มีรอยเลือดแห้งติดอยู่หันไปมองมือตัวเองและมองที่คัทเตอร์ เขาร้องไห้ออกมาอย่างหนักอีกครั้งแล้วเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า หยิบผ้าผืนนึงขึ้นมา เช็ดไปทีคัทเตอร์จนทั่ว ก่อนจะใช้มือเปล่าของตัวเองจับและวางไว้ข้างๆตัวผม หยิบท่อนเหล็กท่อนนั้นมาเช็ดเหมือนกับคัทเตอร์ เช็ดจนทั่วแล้วเอามือเปล่าของตัวเองจับไปตามท่อนเหล็กที่บิดงอ และวางไว้ข้างๆผมอีกเช่นกัน

เขากำลังทำลายหลักฐานครับ เขากำลังทำลายลายนิ้วมือของแม่ของเขา ผมมองการกระทำของเขาไปเรื่อยๆ เขาพยายามเอาเลือดของผมที่อยู่บนพื้นขึ้นมาถูไปตามเสื้อผ้าของเขา แล้วเขาก็ทำสิ่งต่อมาที่ผมไม่คาดคิดว่าเขาจะทำ

“ช่วยด้วยครับ มีเหตุทำร้ายร่างกายกันในห้อง613 หอพัก..abc....ซอยหลังมหาลัย..xxx....ครับ รีบมาด่วนเลยครับ” แล้วเขาก็วางสายไป แกะซิมออกแล้วโยนทิ้งลงในชักโครก เขาเดินกลับมาที่ร่างไร้วิญญาณของผมอีกครั้ง กอดร่างของผมและเอาแต่ร้องไห้อยู่อย่างนั้น จนประตูห้องถูกเปิดออก ตำรวจรีบพุ่งเข้ามาล็อคตัวของโฬมให้ออกห่างจากร่างไร้วิญญาณของผม หน่วยกู้ภัยรีบเข้ามาดูร่างผม ทันทีที่เขาทราบว่าร่างนั้นไม่มีลมหายใจแล้ว เขาก็ส่ายหัว โดยนักข่าวรัวชัตเตอร์อยู่นอกห้อง

 

แล้วภาพต่างๆก็ค่อยๆไหลเร็วขึ้น ราวกับภาพเหตุการณ์เหล่านั้นถูกกดSkip ผมเห็นภาพศพตัวเองถูกยกออกไป เห็นภาพโฬมที่มีกุญแจข้อมือคล้องข้อมือทั้งสองข้างไว้ถูกพาตัวออกไป ใบหน้าเศร้าสร้อยนั่นยังคงติดตาผม แล้วภาพทั้งหมดก็กลายเป็นห้องโถงใหญ่ๆ ผมคิดว่าที่นี่น่าจะเป็นศาลที่ตัดสินคดีของผมกับโฬม เขาพูดประโยคที่ผมถึงกับกำมือแน่น

“ใช่ครับ ผมเป็นคนทำการฆาตกรรมคริสแต่เพียงผู้เดียว” สิ้นประโยคนั้นผมก็เห็นภาพต่างๆไหลอย่างรวดเร็วอีกครั้ง ผมเห็นภาพโฬมในชุดนักโทษสีน้ำตาลอ่อน เขาถูกนำตัวไปที่เรือนจำ ผมเห็นเขาร้องไห้ทุกวัน ผมเห็นเขาถูกรังแก .... แต่เขาก็กัดฟันสู้... เขาค่อยๆเปลี่ยนไป เขาปฏิบัติตัวดีจนพัศดีในเรือนจำไว้วางใจเขา และทำเรื่องให้เขายื่นขอการลดโทษ..... แล้วเขาก็ได้รับมันมาในปีที่7

 

ภาพทุกอย่างกลับมาเป็นห้อง613อีกครั้ง... ความจำทุกอย่างของผมไหลกลับมาเข้าสมอง  ผมจำได้แล้ว ผมจำได้ทุกเรื่องราว  และผมก็จำได้ด้วยว่าบ้านของโฬมอยู่ที่ไหน เพราะฉะนั้น ผมจะไปที่บ้านของเขาเดียวนี้ ผมจะไปดู ว่าโฬมคิดจะทำอะไรกันแน่ เขาหวังดีหรือหวังร้ายกับน้องชายผมกันแน่ แล้วคนที่ฆ่าผม... ยังอยู่ที่นั่นหรือเปล่า

การหายตัวไปมาถือว่าเป็นความสามารถอย่างหนึ่งที่วิญญาณทุกตนสามารถทำได้ เพียงแค่นึกภาพที่ที่เราอยากไป หลังจากนั้นก็ตั้งสมาธิให้มั่น หลับตาลง........

 

แล้วผมก็มาปรากฏตัวอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง ไม่ใหญ่มาก แต่รอบๆบ้านดูเหงาๆ ผมกำลังจะหายตัวเข้าไปในบ้าน.... แต่ผมเข้าไม่ได้.. เจ้าที่ของที่นี่ไม่ให้ผมเข้าไป... ผมมองไปรอบๆตัวอีกครั้งก็ต้องพบกับรถเก๋งคันสีดำสนิทที่จอดอยู่บริเวณหน้าบ้านของเขา...ผมจำได้ว่าเป็นรถของโฬม... เขายังนั่งอยู่ในรถไม่ยอมเข้าบ้าน... ทั้งๆที่มันผ่านมาหลายชั่วโมงและใกล้จะเช้าแล้ว

ผมรีบเข้าไปอยู่ในรถของเขาทันที ผมเห็นเขาหยิบรูปใบหนึ่งขึ้นมาลูบไปมา นิ้วเรียวลูบไปบนกรอบหน้าที่อยู่บนรูป... ผมจำได้ว่านั้นเป็นรูปของผม

“คริส.... ฮึก...” เขายกรูปใบนั้นขึ้นมากอด แล้วก็ร้องไห้ออกมา.... ผมเอื้อมมือไปสัมผัสใบหน้านั้น... ถึงแม้ว่าเขาอาจจะไม่รู้สึก.... บางทีผมอาจจะคิดไปเองตอนตอบคำถามปาร์ค ว่าผมไม่ได้รักโฬมแล้ว....ถึงเมื่อก่อนเราจะรักกันมาก แต่กับตอนนี้ผมไม่รู้ว่าผมควรจะรู้สึกยังไง ตอนนี้ผมเองก็เริ่มสับสน ว่าผมกำลังรักโฬมอยู่หรือเปล่า.... ผมยังไม่ลืมโฬมไปใช่ไหม ?

 

เหตุการณ์วันนี้มันบอกอะไรผมหลายๆอย่าง.... ทำไมผมถึงยังไม่ไปเกิดใหม่ ทำไมผมยังคงวนเวียนอยู่ในโลกนี้ เพราะคำพูดของผมก่อนตาย

“คริสจะอยู่ข้างๆโลมเสมอนะ”

เพราะคำพูดของผมที่ผมบอกเขาไว้แบบนั้น... วิญญาณผมถึงต้องติดอยู่ในโลกนี้

เพราะแบบนี้เองใช่ไหม ผมถึงยังรู้สึกอยู่ลึกๆว่าผมรักโฬม

“โฬมขอโทษนะคริส...ฮึก... โฬมอยากดูแลฟานแทนคริส... แต่ทุกครั้งที่โฬมมองหน้าฟาน ฮึก..โฬมก็คิดถึงแต่คริส ทำให้โฬมเผลอทำอะไรหลายๆอย่างลงไปเพราะคิดว่าฟานเป็นคริส โฬมขอโทษนะ ฮือ....”

“ตั้งแต่พรุ่งนี้ไป ฮึก...โฬมจะคิดใหม่นะ โฬมจะคิดว่าฟานเป็นน้องชายโฬมเท่านั้น และโฬมก็จะดูแลฟานแทนคริสนะ” เขาใช้นิ้วลูบไปตามรูปอีกครั้ง แล้วก็เก็บรูปผมใส่กระเป๋าเสื้อของเขา เขาหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดประโยคที่ทำให้ผมสะอึก

“อยู่ข้างๆโฬมนะคริส... ”

“โฬม” ผมมองตามโฬมที่ออกจากรถไป เขาเปิดประตูรั้วแล้วเข้าบ้านไป ผมรีบตามเขาไป และคราวนี้ผมสามารถเข้าไปในบ้านได้ อาจเป็นเพราะประโยคของเขาเมื่อกี้ คล้ายกับการเชื้อเชิญให้ผมตามเขาไปได้ และทันทีที่ผมกลับเข้ามาในบ้าน ผมก็ต้องพบกับภาพที่ทำให้ผมนิ่งอึ้ง

“แกไปไหนมา ทำไมกลับมาเอาตอนเช้าแบบนี้หะ !”เสียงตวาดดังขึ้นลั่นบ้าน โดยบุคคลที่ผมจำได้ดี......

....แม่ของเขา ....แม่ของโฬม

.....คนที่ฆ่าผม

"บ้านเพื่อน"โฬมตอบออกไปส่งๆ เขามองข้ามผู้หญิงที่ยืนอยู่กลางบ้านแล้วเข้าห้องไป

"เพื่อนที่ไหน ! แกกลับไปคบกับไอ้พวกเกย์สกปรกพวกนั้นอีกแล้วใช่ไหม หะ !!" ผมยืนมองผู้หญิงที่ยังคงพูดด่าทอโฬม เธอก่นด่าสารพัด แต่มีประโยคเดียวที่ทำให้ผมสะอึก...

 

"ฉันจะตามฆ่าให้หมดเลยคอยดู !"





+++++++++++++++++++++++++++++++++++++

หายไปนานเลยยยยยยย ขอโทษด้วยงับ ติดภารกิจหลายอย่างเลย แต่นิยายจะจบแล้วอะ ใจหายเนอะ

ยังมีใครตามนิยายของไนท์อยู่หรือเปล่าาา

ใครตามอยู่แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจให้ไนท์ด้วยนะครับ

ติดตามข่าวการจองหนังสือเร็วๆนี้นะครับ



ปล.ต้องขออภัยจริงๆที่จะต้องลงนิยายแค่อาทิตย์ละตอน

(จากตอนแรกที่บอกว่าจะลงสองวันคือวันอังคารกับวันพฤหัส)



อีกไม่กี่ตอนก็จบแล้ว



ขอบคุณทุกคอมเมนท์ทุกกำลังใจนะครับ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: [Rewrite] •HANDSOME GHOST• ตอนที่[16] Up 14/3/60
«ตอบ #46 เมื่อ14-03-2017 22:26:57 »

 :pig4:

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7
Re: [Rewrite] •HANDSOME GHOST• ตอนที่[16] Up 14/3/60
«ตอบ #47 เมื่อ14-03-2017 22:36:54 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
Re: [Rewrite] •HANDSOME GHOST• ตอนที่[16] Up 14/3/60
«ตอบ #48 เมื่อ15-03-2017 01:30:14 »

แม่โฬมเป็นโรคจิตนะเนี่ย

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
Re: [Rewrite] •HANDSOME GHOST• ตอนที่[16] Up 14/3/60
«ตอบ #49 เมื่อ15-03-2017 10:22:13 »

 :L2: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [Rewrite] •HANDSOME GHOST• ตอนที่[16] Up 14/3/60
« ตอบ #49 เมื่อ: 15-03-2017 10:22:13 »





ออฟไลน์ mintra1982

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: [Rewrite] •HANDSOME GHOST• ตอนที่[16] Up 14/3/60
«ตอบ #50 เมื่อ15-03-2017 14:27:31 »

 :m15:อ่านรวดเดียวเลย ชอบมากค่ะโฬมน่าสงสารมาก รอตอนต่อไปอยู่นะคะขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ niightziiz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 94
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-0
Re: [Rewrite] •HANDSOME GHOST• ตอนที่[17] Up 25/3/60
«ตอบ #51 เมื่อ25-03-2017 18:04:07 »

 

•HANDSOME GHOST•

[17]-อันตรายกำลังใกล้เข้ามา

 

 

 

“พวกคุณ ! ให้พี่ของคุณ ! มาขอโอกาสพวกผม ! แล้วพวกคุณ ! คิดว่าจะทำได้หรอ !!”เสียงตะโกนดังมาจากปากของไอ้พี่ฟาน วันนี้เป็นวันได้รุ่นที่มันบอกผม แต่ก็คงต้องเหนื่อยกันหน่อยเพื่อแลกกับรุ่นที่จะได้มา

ผ่านมาหลายวันแล้วที่ไอ้พี่โฬมไม่ได้มาหาพี่ฟาน ไอ้คริสเองก็หายไปด้วย ผมรู้สึกโหวงในใจแปลกๆ ที่ไม่ได้มีวิญญาณมากวนใจตัวเอง มีแต่ไอ้พี่ฟานที่คอยอ้อนผมอยู่ตลอด

ไอ้พี่ฟานทำตัวแตกต่างจากเดิมลิบลับ ตั้งแต่ที่ผมรับมันเป็นแฟน ถึงผมจะรับปากกับคริสว่าผมจะดูแลไอ้พี่ฟาน แต่จริงๆแล้วเป็นไอ้พี่ฟานมากกว่าที่ดูแลผม คอยไปรับไปส่งที่คณะ คอยทำกับข้าวให้กิน ผมก็รู้สึกดีๆกับพี่ฟานขึ้นมาบ้าง เพราะกับข้าวไอ้พี่ฟานมันอร่อยจริงๆ.....ซึ่งนี่อาจจะเป็นเหตุผลสำคัญที่ผมรู้สึกดีๆกับเขาก็ได้

“ผมจะให้โอกาสพวกคุณ ผมให้ผิดได้แค่ร้อยคน ร้องไห้จบห้าเพลง เลือกเพลงที่พวกคุณมั่นใจที่สุด....ถ้าผิดมากกว่าร้อยเชิญพวกคุณออกไปจากคณะได้ พวกผมไม่รับคุณเป็นน้อง !” อะจ้า อันนี้ไอ้ฟานก็บอกผมก่อนหน้านี้แล้ว ว่ายังไงก็ผิดเกินร้อยแน่นอน เพราะมันเป็นแบบนี้ทุกปี แล้วพอหลังจากนั้น พี่ปีสองที่เตี้ยมกับพวกปีสามไว้แล้วก็จะขอโดนทำโทษแลกกับจำนวนคนผิดที่เกินมา จนกว่าจะครบห้าเพลง เอาให้น้องเศร้ากันไปเลย อันนี้ผมแอบบอกประธานไว้แค่คนเดียว และกำชับว่าห้ามบอกเพื่อน เพราะอยากเห็นเพื่อนๆร้องไห้กัน

ปีหนึ่งหลายคนดูมีความมั่นใจมาก ว่ายังไงก็ไม่เกินร้อย แต่พอจบเพลงแรกก็มีคนร้องผิดไปห้าสิบกว่าคน.... แค่เพลงแรกก็ผิดไปแล้วห้าสิบกว่าคน อาจจะเพราะว่ามีคนใหม่ๆที่ไม่เคยเข้ารับน้องมาเพิ่มด้วย จึงทำให้จำนวนคนร้องผิดมันเยอะขนาดนี้

ผมหรอ ไม่ยกหรอก ถึงจะร้องผิดก็เถอะ เนียนๆไป

“ห้าสิบคน !! เพลงแรก พวกคุณก็ร้องผิดแล้วห้าสิบคน !! แล้วมันจะพอไหม ร้อยคนที่ผมให้ไปเนี่ย !!” ไอ้พี่ฟานยังคงตะโกนอยู่ ผมแอบเงยหน้ามองไปหามัน เห็นมันตกใจนิดหน่อย ก่อนจะส่งยิ้มมุมปากมาให้ผม

ต่อมาเพลงที่สอง คนผิดเพิ่มอีกยี่สิบกว่าคน เราเลยเหลือที่ผิดได้แค่ยี่สิบกว่าคนเท่านั้น พอจบเพลงที่สาม มันก็เกินร้อยไปแล้ว ไอ้ประธานมีท่าทีกระวนกระวายเพราะที่รับปากกับผมไว้ว่าอย่ารีบทำอะไร ปล่อยให้มันเป็นไปตามพล็อตของมันเอง

"พวกเราขอโอกาสให้น้องค่ะ"ปีสองคนหนึ่งยกมือขึ้นแล้วพูด

"พวกคุณจะทำยังไง"

"พวกเราขอโดนทำโทษแทนจำนวนคนร้องผิดที่เกินมาค่ะ"

"ก็ได้ ผมตกลง"

สิ้นเสียงของไอ้พี่ฟาน พวกเราก็ถูกสั่งให้ก้มหน้า ได้ยินเสียงปีสองที่ถูกสั่งทำโทษลุกนั่ง ปีหนึ่งหลายคนเริ่มร้องไห้เพราะสงสารรุ่นพี่ ต่างกับผมที่แอบมองนิดหน่อย ก็พอเห็นว่าปีสองบางคนไม่ได้ลุกนั่งจริง แค่นับให้เสียงดังเท่านั้นเอง

แต่แล้วก็มีปีหนึ่งคนหนึ่ง ลุกออกไปแล้วไปลุกนั่งกับพี่ปีสอง หลังจากนั้นหลายๆคนก็ลุกตามไปกอดคอพี่ปีสองแล้วลุกนั่งไปพร้อมๆกับพี่ปีสอง

 

“ลุกขึ้นมาทำไม !! ไปลุกนั่งกับพี่คุณแล้วมันทำให้พี่คุณหายเหนื่อยไหม !!”ไอ้พี่ฟานตวาดลั่น แต่เสียงก็ไม่ดังเท่าคนหลายร้อยที่กำลังนับเลขลุกนั่ง

“พอ !! .....ผมบอกให้พอ !! กลับไปนั่งที่ของพวกคุณ !!”ไอ้พี่ฟานตะโกนลั่นอีกครั้ง หลายคนมีท่าทีลังเลว่าจะไปนั่งดีไหม แต่ก็มีหลายคนที่ยังลุกนั่งกับพี่ปีสองอยู่ จึงไม่มีใครกลับไปนั่ง ผมลอบมองไอ้ฟานที่กุมขมับ เพราะมันบอกกับผมไว้ว่า พอหลังจากลุกนั่งเสร็จ มันจะให้เรากลับไปนั่งที่ แล้วให้ปีสองกับปีสามร้องเพลงประจำคณะให้ฟัง

“เจ็ดสิบแปด !! เจ็ดสิบเก้า !!” เสียงนับเลขตามจำนวนการลุกนั่งยังดังขึ้นเรื่อยๆ ....คือพวกมึง ตอนร้องผิดมันเกินร้อยมาแค่สิบกว่าคนเองนะกูจำได้ จำเป็นไหมที่พวกมึงต้องมาลุกนั่งตั้งแปดสิบเก้าสิบครั้งแบบนี้เนี่ย เพื่อใครหะ

“กลับไปนั่งที่ของพวกคุณเดี๋ยวนี้ !!” ไอ้พี่ฟานตะโกนลั่นอีกครั้ง คราวนี้เหมือนมันจะโกรธจริงๆ แค่เหมือนจะนะ ผมไม่คิดว่ามันจะโกรธจริงๆหรอก รุ่นน้องหลายคนหันไปมองหน้ากัน ก่อนที่ประธานรุ่นจะคิดได้แล้วหันไปบอกเพื่อนให้ไปนั่งที่ พี่ปีสองก็หยุดลุกนั่งและบอกให้ผมพวกกลับไปนั่งที่เช่นกัน

“ผิดมากี่ครั้งแล้ว !! พวกผมบอกคุณทำไมพวกคุณไม่ฟัง !! ยังอยากได้ผมเป็นพี่อยู่ไหม !! ยังอยากมีรุ่นอยู่ไหม !!” พี่ฟานตะโกนลั่น

“อยากมีครับ/ค่ะ !!” ปีหนึ่งเองก็ตะโกนกลับไปเสียงดัง

“ดี !! ผมจะให้โอกาสพวกคุณอีกครั้ง !! ร้องเพลงคณะให้พวกผมฟัง ห้ามผิด !! ห้ามผมเห็นว่ามีใครยกมือ !! ปีหนึ่ง หลับตา !! ”สิ้นเสียงตะโกนของไอ้ฟาน ประธานรุ่นก็สั่งร้องเพลงคณะ เพลงนี้เป็นเพลงที่พวกผมมั่นใจมาก เพราะจำง่าย และผมเป็นคนกำชับประธานรุ่นเองว่าเพลงนี้ห้ามมีคนร้องผิด

พวกเราร้องจนเกือบจบเพลง แต่แล้วปีสามหลายคนก็ตะโกนขึ้นมาว่า “มีคนผิด !! มีคนผิด !!” ปีหนึ่งต่างมีสีหน้าสลดลงในทันที เพราะไม่คิดว่าจะมีคนผิด แต่ผมรู้อยู่แล้วหละ มันไม่มีคนร้องผิดหรอก แต่พวกผมที่ถูกสั่งให้หลับตาอยู่ไม่สามารถมองหาว่ามีคนผิดจริงหรือเปล่า หลายคนเริ่มใจเสีย แต่ประธานรุ่นก็ยังคงร้องเพลงต่อตามที่ผมกำชับไว้ ปีหนึ่งหลายคนก็ยังไม่ยอมหยุดร้อง

“หยุดร้อง ผมบอกให้หยุดร้อง !! เพลงคณะผม ผมไม่ให้พวกคุณร้อง !”ปีหนึ่งยังไม่หยุดร้อง พวกเราร้องเพลงคณะเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ วนจบไปหลายรอบ จนกระทั่ง ค่อยๆมีเสียงร้องเพลงจากรอบข้างดังขึ้นเรื่อยๆ เป็นเสียงของปีสองและปีสามที่เริ่มร้องเพลงคณะตาม

ผมที่รู้อยู่แล้วว่ามันจะเป็นแบบนี้ ยังอดที่จะขนลุกไม่ได้ มันเป็นอะไรที่ซึ้งมากๆพอรุ่นพี่มาร้องเพลงกับพวกเราแบบนี้ หลายคนร้องไห้แต่ก็ยังไม่หยุดร้องเพลง จนมีเสียงมากระซิบที่ข้างหูพวกผม

“ลืมตาได้แล้ว” ไม่ใช่เสียงตะคอก แต่เป็นคำพูดที่เหมือนกับแฝงไปด้วยความสุข พวกผมลืมตาขึ้นแล้วมองไปรอบๆ เสียงเทียนสีส้มสว่างไสวไปทั่ว เทียนประทีบที่ถูกจุดวางไว้บนมือของรุ่นพี่ปีสามที่ล้อมเราอยู่ และบนพื้นเองก็เช่นกัน มันเป็นภาพที่สวยงามและสบายตามากๆ

ปีสามเริ่มร้องเพลงรับขวัญ เป็นเพลงที่ไพเราะมาก ผมอดที่จะขนลุกอีกรอบไม่ได้ มันดูขลังและมีพลังมากจริงๆ

สุดท้ายปีสามก็ประกาศให้เราได้รุ่น ปีหนึ่งต่างยิ้มภูมิใจกับความเหนื่อยที่เสียไป มันชั่งคุ้มค่ากับสิ่งที่ได้รับมาจริงๆ พอประกาศได้รุ่นเสร็จ งานเฉลยสายรหัสก็มาแทนที่ ปีสามยิ้มและหัวเราะ แตกต่างจากก่อนหน้านี้ที่เอาแต่ตะโกนลิบลับ ปีหนึ่งหลายคนพอรู้ว่าสายรหัสปีสามของตัวเองเป็นใครต่างก็ตกใจ หลายคนโผกอดรุ่นพี่ปีสองและปีสาม ส่วนพี่รหัสผม ไม่อยู่ ซิ่วไปแล้ว ลุงหรือป้ารหัสก็หาไม่เจอ ไม่ได้ติดต่อกันเลย ผมเลยได้แต่นั่งมองคนอื่นรับของขวัญและถุงขนมที่พี่ปีสองปีสามหรือสายรหัสเตรียมมาให้ ผมมองพี่ฟานที่ยิ้มแย้ม ถ่ายรูปกับน้องๆสายรหัสตัวเอง และอีกหลายคนที่ขอถ่ายรูปกับมัน... อดจะหึงไม่ได้ที่มันทำเป็นโอบไหล่สาวๆพวกนั้น พอเสร็จมันก็หันซ้ายมองขวา ราวกับมองหาใครซักคน จนหันมาเจอผมที่นั่งอยู่ริมๆ มันขมวดคิ้วก่อนจะเดินตรงมาหาผม

“สายรหัสน้องปาร์คไปไหน” พูดจบมันก็หันไปมองรอบๆ ก่อนจะตะโกนเสียงดังลั่น “สายรหัสน้องปาร์คอยู่ไหน !!”ผมรีบดึงชายเสื้อมันไว้ทันที

“สายรหัสผมไม่มาหรอก” อาจจะเป็นเพราะสายรหัสผมขาดไปหลายรุ่นแล้ว จากคำบอกเล่าของพี่ปีสอง พี่ๆบอกว่า ทีแรกพี่รหัสผมจะมาแล้ว แต่ติดเรียน เลยมาไม่ได้ สายรหัสปีก่อนๆก็ติดต่อไม่ได้ ฟานส่งมือมาให้ผม ผมจึงยื่นมือไปจับไว้ ก่อนมันจะลากผมมากลางวงของเพื่อนๆและรุ่นพี่ มันตะโกนหาสายรหัสผมอยู่นาน แต่ก็ไม่มีใครปรากฏตัวออกมา ฟานยังคงไม่ปล่อยมือผม มันจับมือผมไว้แน่นโดยไม่แคร์สายตาของใครหลายๆคน

 

แต่แล้วประธานรุ่นก็เดินเข้ามาก่อนจะยื่นถุงขนมในมือให้ผม

“แทนคำขอบคุณที่ช่วยเราไว้เยอะมากนะปาร์ค” ผมยิ้มขอบคุณแล้วรับถุงขนมมาไว้ในมือ ก่อนเพื่อนๆและรุ่นพี่หลายคนจะเดินเข้ามาแล้วยื่นขนมให้ผม ผมยิ้มขอบคุณให้ทุกคนและรับไว้

“ขอบคุณนะปาร์ค ช่วยไว้เยอะเลย ประธานบอกพวกเราหมดแล้วแหละ”เพื่อนๆยื่นขนมให้ผมก่อนจะเข้ามากอดผม ผมเองก็กอดตอบ แต่มือข้างหนึ่งของผมก็ยังไม่ถูกปล่อย....

“ยินดีด้วยนะน้องปาร์ค อันนี้พี่ให้ น้องรหัสพี่ไม่ยอมมาอะ”พี่ผู้หญิงคนหนึ่งยื่นขนมให้ผม ผมก็รับไว้และเอ่ยขอบคุณไป

“ยินดีด้วยนะครับ น้องปาร์ค พี่ให้ อันนี้พี่ซื้อให้เราโดยเฉพาะเลย”จนมาถึงคนนี้ เป็นรุ่นพี่ปีสาม น่าจะเป็นเพื่อนไอ้พี่ฟานด้วยเพราะผมเห็นพวกมันอยู่ด้วยกันบ่อยๆ สายตาของไอ้รุ่นพี่คนนี้รู้เลยว่าไม่ได้คิดแค่รุ่นพี่รุ่นน้องแน่ๆ ผมยิ้มแล้วรับกล่องของขวัญอันเล็กๆมาไว้ ก่อนจะหันไปเห็นหน้าไอ้พี่ฟานที่คิ้วขมวดมุ่น

“เห้ยไอ้คิน คนนี้ของกู อย่ามาจีบนะเว้ย” ไอ้ฟานตะโกนลั่นจนสายตารอบๆต้องหันมามองด้วยสายตาอึ้งๆ ทำเอาเพื่อนผมหลายคนที่กำลังจะยื่นขนมให้ต่างก็ชะงักค้าง

ปึ้ก ! “คนนี้ของพี่ครับ ห้ามใครจีบ” ไอ้ฟานดึงผมเข้าไปกอด พร้อมกับประกาศกร้าว

"..........."

“ฮิ้ววววว รักกันนานๆนะค้า”

“เปิดตัวผัวเมียคู่ใหม่โว้ยยยยยย ฮ่าๆ”

“เหลืองๆๆๆๆ” เหลืองพ่อง

หลายคำล้อต่างๆนาๆถูกพูดขึ้นมาจากพี่ๆปีสามปีสี่ เพื่อนกับรุ่นพี่ของไอ้พี่ฟานหนะแหละ มันก็ไม่ได้สนใจแต่อย่างใด ยังคงกอดผมเอาไว้ จนผมค่อยๆขืนตัวออก แต่ไอ้ฟานยังคงจับมือผมไว้แล้วส่งยิ้มหล่อๆมาให้ผมแทน

ทำไมมันร้อนวูบวาบบนหน้าแบบนี้วะ !!

กว่าจะเสร็จงานทั้งหมด ก็ดึกแล้ว เสียเวลาส่วนใหญ่ไปกับการถ่ายรูปของผมกับไอ้พี่ฟาน หวังว่าคงจะไม่มีใครเอาไปลงโซเชี่ยลนะ ถึงไอ้ฟานมันจะหล่อมากก็เถอะ แต่ผมเป็นแค่คนหน้าตาธรรมดาๆ กลัวจะโดนด่าซะมากกว่าถ้าเกิดว่าดังขึ้นมาอะนะ

แต่ลองด่ามาสิ พ่อจะด่ากลับให้หมดเลย

 

“พี่ฟานครับ ช่วยถือถุงขนมหน่อย” ผมหยิบถุงขนมจากท้ายรถออกมา ส่งให้พี่ฟานช่วยหิ้ว ตอนนี้อยู่ที่บ้านไอ้พี่ฟานแล้วครับ ผมมองตามถุงขนมทั้งที่ตัวเองถือไว้ และก็ที่ไอ้พี่ฟานช่วยหิ้ว ดูๆแล้ว.....ถึงจะเยอะแต่ผมว่า สองสามวันผมก็น่าจะกินหมดแล้วแหละ

ผมรีบตรงเข้าไปในห้องไอ้คริสทันทีเพื่อจะอาบน้ำ แต่ไอ้ฟานก็ไม่ยอม มันให้ไปอาบห้องมัน โดยให้ผมอาบก่อน ผมก็เข้าไปอาบ อาบจนสะอาดก็ใส่ชุดนอนออกมา เห็นไอ้ฟานเปิดคอมแล้วเลื่อนดูเฟสบุ๊ค พร้อมกับหัวเราะเบาๆ

“ฮ่าๆ ดูนี่สิ เพื่อนน้องปาร์คลงรูป แล้วเพื่อนพี่มันแชร์กัน ดังใหญ่แล้วนะเรา” ไอ้พี่ฟานกดเข้าไปดู เป็นรูปที่ผมถูกมันกอดเอาไว้ ผมเลยไล่มันไปอาบน้ำแล้วก็นั่งลงหน้าโต๊ะคอมแทน

2135ไลค์ 312คอมเมนท์ 404แชร์ อืม เยอะจริงๆอะแหละ ผมกดเข้าไปอ่านดูคอมเมนท์ปรากฏว่า หลายๆคอมเมนท์บอกว่าน่ารักบ้างหละ บอกว่าผมหน้าตาธรรมดาบ้างหละ ด่าไอ้พี่ฟานบ้างหละว่าทำไมไม่หาให้ดีกว่านี้ สร้างกระแสบ้างหละ ไอ้ผมมันก็ไม่ใช่คนที่ยอมถูกด่าเฉยๆไง เราไม่ผิดเราก็ต้องด่ากลับใช่ไหม ผมคอมเมนท์ลงไปทันที

‘สำหรับคนที่ชม ขอขอบคุณมากนะครับ ส่วนคนที่ด่า

.

.

.

.

ไม่มีปัญญาหาได้แบบนี้หละสิ อิ้อิ้

#แฟนพี่ฟานพิมพ์’

 

จบ ผมจัดการปิดคอม ลุกไปนั่งที่โซฟาแล้วเปิดทีวีดูหนัง หยิบขนมมานั่งกินไปเรื่อยๆ จนไอ้พี่ฟานออกมาจากห้องน้ำ มันยังไม่ใส่กางเกงเลยครับ มันยิ้มมุมปากแล้วหัวเราะหึหึ แต่ผมก็ไม่ได้สนใจ นั่งกินขนมต่อไป พึ่งหมดไปถุงหนึ่งถุงใหญ่ๆ ข้าวเย็นอะไรไม่ต้องกินกันแล้ว

“กินเยอะอ้วนนะ” ฟานทักแล้วนั่งลงข้างๆผม มันอยู่ในชุดนอนเรียบร้อยแล้ว ลายริลัคคุมะหนะแหละ ดูน่ารักดี

“อ้วนแล้วจะชอบผมอยู่ปะ”

“ไม่อะ ไม่ชอบแล้ว...” ฟานส่ายหน้ายิ้มๆ

“......”

“ตอนนี้รักแล้ว”

“เร็วไป้ ถามจริงเหอะ ไปชอบผมตอนไหน” ผมพูดจบไอ้ฟานก็เบียดเข้ามาใกล้ๆ

“ตอนว้ากเดี่ยว”ไอ้ฟานตอบผมยิ้มๆ

อ้อที่หาเรื่องกูแต่แรกนี่เพราะว่าชอบกูหรอ โถ่ ไอ้พี่ฟานเอ้ย มึงเข้ามาจีบตรงๆก็ได้ จำเป็นไหมต้องทำขนาดนั้นอะ

“โห รักแรกพบเลยดิ”

“ช่าย น้องปาร์คหละ ทำไมยอมเป็นแฟนพี่”ฟานพูดจบก็ดึงมือผมไปจับไว้ ผมมองมือของตัวเองที่ถูกกุมไว้

“เฮ้อ คริสขอไว้ไง มันเป็นห่วงพี่ฟาน มันกลัวว่าพี่ฟานจะโดนคนอื่นหลอก ยิ่งดูเป็นคนซื่อๆด้วย”

“แล้วน้องปาร์คไม่ชอบพี่เลยหรอ” พี่ฟานพูดด้วยสีหน้าสลด......

น่าสงสารตายแหละ ดูก็รู้ว่าแกล้งทำหน้าเศร้าไปงั้นแหละ

“ก็...ชอบ” ชอบตรงกับข้าวอร่อย มันอาจจะเป็นเหตุผลสำคัญเลยละมั้ง ที่ทำให้ผมชอบไอ้พี่ฟาน ไหนจะดูแลผมดีอย่างกับผมเป็นลูกอีก พี่ฟานยิ้มก่อนจะล้มตัวลงนอนบนตักผม เอาหน้าหล่อๆมาถูกับมือผมข้างที่มันกุมเอาไว้

ผมมองภาพตรงหน้าแล้วก็มีความสุขดี.... แต่ผมเห็นหน้าฟานแล้วก็ทำให้ผมนึกถึงไอ้คริส มันหายไปหลายวันแล้ว ไม่ยอมกลับมาซักที.....

แต่คิดถึงได้ไม่นาน มันก็มาปรากฏตัวตรงหน้าผม

“มึงหายไปไหนมาตั้งหลายวัน”ผมทักมันทันที แต่คริสไม่ตอบ มันมีสีหน้าแปลกๆไป

“คริสมาหรอน้องปาร์ค”ผมกำลังจะตอบไอ้ฟาน แต่คริสก็พูดตัดหน้าผมเสียก่อน

“ปาร์ค โฬมกำลังมาที่นี่”มันพูดด้วยน้ำเสียงรนๆ

“ดึกขนาดนี้เนี่ยนะ มันจะมาทำไม”

“แม่ของโฬม....คนที่ฆ่าฉัน กำลังตามโฬมมา ฉันพยายามเตือนโฬมแล้ว แต่โลมไม่ได้ยินเสียงฉัน ไม่แม้แต่จะรับรู้ด้วยซ้ำว่าแม่ของโฬมกำลังตามมาด้วย นายต้องอย่าให้โฬมเจอนายนะ แม่ของโฬมกำลังโมโห ถ้าแม่ของโฬมมาเห็น ว่าโฬมอยู่กับพวกนาย เขาต้องทำร้ายพวกนายแน่ๆ”คริสพูดด้วยท่าทีร้อนรน ผมไม่รู้ว่าหลายวันที่ผ่านมามันไปเจออะไรมาบ้าง มันคงจะรู้ความจริงหลายๆอย่าง มันถึงรีบมาเตือนผม

“เกิดอะไรขึ้นครับน้องปาร์ค”ฟานลุกขึ้นนั่งแล้วถามผม

“คริสบอกว่าพี่โฬมกำลังมาที่นี่ครับ แล้วแม่ของเขาก็ตามมาด้วย คริสบอกว่าอย่าให้โฬมเจอเราตอนนี้ แม่ของโฬมกำลังโมโห ถ้าแม่เจอพี่โฬมอยู่กับเรา เราอาจจะเป็นอันตรายครับ”

“เดี๋ยวพี่โทรบอกพี่โฬมให้”พูดจบฟานก็ลุกไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหาพี่โฬม แต่รอสายอยู่นานก็ไม่มีใครรับ ฟานโทรหาอีกรอบ แต่ก็ไม่มีใครรับแบบเดิม

“ไปอยู่ที่ห้องผมก่อนไหม” ผมตัดสินใจบอกไป ฟานพยักหน้า แล้วพวกเราก็เก็บของที่จำเป็น เดินออกมาจากบ้านแล้วไปยังรถของฟานที่จอดอยู่หน้าบ้าน

 

แต่ไม่ทันซะแล้ว ผมเห็นรถเก๋งสีดำจอดอยู่ข้างๆกับรถของฟาน ประตูรถถูกเปิดออกโดยไอ้พี่โฬม มันเดินมาหน้ารั้ว ยิ้มทักทายพวกผมเหมือนปกติ

 

“ดึกขนาดนี้จะออกไปไหนกันครับ”


++++++++++++++++++++++++++

โหยยยยยยยยยยยยย หายอีกแล้ว ไหนบอกจะมาลงวันอังคารวะะะะะ



คืองี้ครับ ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นการสอบมิดเทอมของมหาลัยผม ซึ่ง ผมมัวแต่อ่านหนังสืออย่างเดียวเลย พอถึงวันอังคารที่ผ่านมา ก็นึกขึ้นได้ว่าลืมอะไรวะ แต่ก็แค่นั้นจริงๆ นึกไม่ออกจริงๆ พอวันศุกร์ สอบเสร็จ ป่วยอีก โทรมไปเลย วันนี้พึ่งฟื้นไข้ นึกขึ้นได้ว่าวันนี้วันเสาร์แล้ว ตัวเองยังไม่ได้ลงนิยายเลย เลยรีบมาลงให้ ขออภัยที่มาช้ามากขนาดนี้ ขออภัยอย่างสูงงับบบ



วันอังคารหน้า...(ไม่แน่ใจว่าจะทันมั้ย) อาจจะเอาตอนพิเศษมาลงให้ก่อน เพราะอีกสองสามตอนเรื่องนี้ก็จบแล้ว



อีกเรื่องหนึ่ง คือรูปเล่ม ตอนนี้กำลังรอสัญญาจากสนพ.อยู่ครับ รายละเอียดเพิ่มเติมจะแจ้งให้ทราบอีกที ยังไงฝากติดตามกันด้วยนะครับ



ขอบคุณทุกแรงใจทุกคอมเมนท์ที่เป็นกำลังใจให้ผมได้แต่งนิยายต่อครับ

อย่าลืมเป็นกำลังใจให้ผมต่อไปด้วยนะครับ ^^
 

 

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
Re: [Rewrite] •HANDSOME GHOST• ตอนที่[17] Up 25/3/60
«ตอบ #52 เมื่อ25-03-2017 20:44:51 »

 :L2: :pig4:

ยังติดตามอ่าน ^^

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
Re: [Rewrite] •HANDSOME GHOST• ตอนที่[17] Up 25/3/60
«ตอบ #53 เมื่อ26-03-2017 00:09:19 »

  โฬมนี่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนจริงๆ ไม่มีเพื่อนคนอื่นอีกรึยังไง มาหาฟานบ่อยๆเนี่ย
  รออ่านตอนต่อไปคับ

ออฟไลน์ cinpetals

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 452
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
Re: [Rewrite] •HANDSOME GHOST• ตอนที่[17] Up 25/3/60
«ตอบ #54 เมื่อ26-03-2017 12:47:19 »

เป็นกำลังใจให้ทุกคนสงสารทุกคนเลย :sad4:

ออฟไลน์ niightziiz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 94
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-0
Re: [Rewrite] •HANDSOME GHOST• ตอนที่[18] Up 24/4/60
«ตอบ #55 เมื่อ24-04-2017 21:46:19 »

•HANDSOME GHOST•

[18]-เปลวไฟ

[Kris Part]

 

 

 

ผมอยู่ที่บ้านของโฬมหลังจากที่ไม่ได้กลับไปหาปาร์คและฟานมาหลายวันแล้ว ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ผมถึงออกห่างจากโฬมไม่ได้เลย เอาแต่คอยเฝ้าเขา คอยเดินตามเขาไปทุกที่ในบ้าน มองดูเขาทำสิ่งต่างๆอย่างเป็นปกติ

หลายครั้งที่โฬมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อที่จะโทรหาน้องชายผม แต่เขาก็กดวางก่อนที่จะต่อสายติด ผมไม่รู้ว่าเขาทำแบบนั้นทำไม และทำไปเพื่ออะไร

โฬมชอบออกไปไหนมาไหนคนเดียวเสมอ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า หรือสวนสาธารณะ ทุกครั้งที่เขาสั่งอาหาร เขามักจะสั่งมาสองจานเสมอ น้ำสองแก้ว ขนมสองอย่าง เป็นแบบนี้ตลอด เขาไม่เคยกินจานที่สองที่เขาสั่งมาเลย เขากลับวางไว้เฉยๆโดยไม่แตะต้อง เหมือนกับว่าเขาสั่งไว้ให้ใครอีกคนกิน

ผมคิดว่านั่นอาจจะเป็นผม หลายๆครั้งที่อาหารตามสั่งธรรมดาๆก็เป็นกับข้าวที่ผมชอบกิน น้ำก็เป็นรสชาติที่ผมชอบ ขนมเองก็เช่นกัน

 

โฬมออกไปข้างนอกเกือบทุกวัน วันนี้ก็เช่นเดียวกัน เขากำลังแต่งตัว และเมื่อแต่งตัวเสร็จ เขาก็หยิบกุญแจรถแล้วออกไปจากบ้าน แต่ทุกครั้งจะมีเสียงตะโกนจากผู้หญิงคนหนึ่งออกมาจากภายในบ้านเสมอ

“แกจะไปไหนอีก !”

“เที่ยว” โฬมตอบเพียงเท่านั้นก็เปิดประตูรถแล้วสตาร์ทเครื่องทันที โดยไม่มองกลับเข้าไปในบ้าน มีแค่ผมที่เข้าไปอยู่ในรถคันเดียวกับเขา แล้วมองกลับเข้าไปในบ้าน ผู้หญิงคนนั้นยกโทรศัพท์ขึ้นมาพูดอะไรบางอย่างกับใครบางคนสองสามประโยคแล้วก็กดวางสายไป ผมไม่อาจจะรู้ได้ว่าเธอคุยกับใคร หรือคุยเรื่องอะไร แต่ไม่น่าจะใช่เรื่องดีซักเท่าไหร่

ผู้หญิงคนนั้นกังวลมากไป เธอกังวลแทบจะทุกๆเรื่องที่เกี่ยวกับโฬม ผมเข้าใจว่าเธอเป็นห่วงโฬม แต่เธอแสดงออกด้วยความอ่อนโยนไม่เป็น ทุกๆครั้งเธอจะตวาดโฬม และโฬมจะรีบหนีเข้าห้องไปโดยไม่ฟังเธอก่นด่าอะไรอีก

 

โฬมขับรถมายังห้างสรรพสินค้าห้างหนึ่ง เขาเดินเข้ามาในห้าง ตรงไปร้านไก่ทอดชื่อดัง สั่งชุดจุใจมาสองชุด แล้วเขาก็นั่งกินชุดเดียวแบบทุกที ก่อนจะลุกไปแล้วไปยังโรงหนัง เขายืนดูโปรแกรมหนังอยู่นาน ก่อนจะเดินไปกดซื้อตั๋ว....สองใบ

ผมคิดว่าบางทีเขาก็ยึดติดกับผมมากไป ผมเห็นเขาทำแบบนี้มาหลายวันแล้ว ทำอะไรเผื่อไว้อีกชุดหนึ่งเสมอ ผมรู้ว่าที่บ้านเขาไม่ได้จน แต่ก็คงไม่มีเงินมากถึงขนาดจะทำแบบนี้ไปได้เรื่อยๆ มันสิ้นเปลืองเปล่าๆ.... แต่ความสบายใจของเขา...ผมจะขัดอะไรได้

โฬมเดินเที่ยวในห้างอยู่นาน เข้าไปอ่านหนังสือในร้านหนังสือบ้าง เดินดูเสื้อผ้าบ้าง ผมเห็นเขาซื้อเสื้อมาตัวหนึ่ง....ตัวค่อนข้างใหญ่กว่าตัวเขา เขาไม่ได้ลองเลยด้วยซ้ำ เดินเข้าไปบอกพนักงานว่าเอาตัวนี้ แต่เป็นอีกไซส์หนึ่ง.... ไซส์เดียวกับที่ผมใส่

 

หลังจากเดินออกมาจากห้างและตรงไปยังรถของเขา โฬมก็ขับรถออกมาจากห้างสรรพสินค้า ท้องฟ้าข้างนอกเริ่มมืดแล้ว โฬมขับรถมาเรื่อยๆ น่าจะเป็นแถวๆบ้านผม แต่โฬมไม่ได้ไปหาน้องชายผม เขาจอดข้างทางเพื่อซื้อดอกไม้ชุดหนึ่ง ก่อนเลี้ยวเข้าวัดที่อยู่ถัดไปไม่ไกล เขาจอดรถแล้วเปิดประตูออกไป ผมรีบเดินตามเขาไปทันที

โฬมเดินมาหยุดที่ป้ายหินอ่อนสีขาวป้ายหนึ่ง เขาหยิบดอกไม้เหี่ยวๆที่อยู่ข้างๆป้ายหินอ่อนออก ก่อนจะวางดอกไม้ชุดใหม่เข้าไปแทน สองมือยกขึ้นมาพนมมือไว้ ริมฝีปากของโลมค่อยๆยกยิ้ม... เป็นยิ้มที่ดูมีความสุข แต่ก็ดูเศร้าๆ

“ไม่ต้องห่วงนะคริส โฬมจะช่วยดูแลน้องฟานให้ ในฐานะพี่ชายคนหนึ่ง ถึงแม้ว่าน้องฟานอาจจะไม่ต้องการ แต่โฬมก็ยินดีจะดูแลเขาแทนคริส”

“โฬม.....” โฬมพูดจบ เขาก็ก้มกราบป้ายหินอ่อนนั่น

.......ป้ายที่มีชื่อของผมอยู่

 

โฬมลุกขึ้นแล้วหยิบดอกไม้ช่อเหี่ยวๆนั้นขึ้นมา เดินตรงไปที่ถังขยะแล้วทิ้งดอกไม้ช่อนั้นลงไป ก่อนจะเดินกลับไปที่รถแล้วขับออกมาจากวัด เขาขับตรงมาเรื่อยๆและเลี้ยวเข้าไปในหมู่บ้านของน้องชายผม โฬมจอดรถอยู่ห่างจากบ้านผมสองสามหลัง

 

โฬมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กดเบอร์ของน้องชายผม แต่ก่อนที่เขาจะกดโทรออก สายเข้าจากแม่ของเขาก็ดังขึ้นเสียก่อน

“แกไปที่นั่นทำไม ! ทำไมแกต้องไปที่นั่นทุกวัน หะ !”เสียงดังลอดออกมาตามสายจนผมได้ยิน โฬมขมวดคิ้วทันทีที่เขาได้ยินประโยคนั้นจากแม่ของเขา

“ที่ไหน ??”

“ก็บ้านไอ้เกย์นั่นไง !” โฬมขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม

“แม่รู้ได้ยังไงว่าผมมาที่นี่ แม่ตามผมมาหรอ” ทันทีที่โฬมพูดจบประโยค ปลายสายก็อึกอักไป ก่อนจะตอบเสียงเบาจนผมแทบจะไม่ได้ยิน แม้จะแนบหูไปใกล้ๆแล้วก็เถอะ โฬมพูดกับแม่ของเขาอีกสองสามประโยค เขาก็สตาร์ทรถแล้วรีบขับรถออกจากหมู่บ้านไปทันที

 

มือของโฬมที่กำพวกมาลัยรถอยู่บีบแน่นจนเห็นเส้นเลือดปูดโปน เหมือนเขากำลังระงับความโกรธอะไรซักอย่างอยู่ ผมค่อยๆเอื้อมมือตัวเองไปลูบมือสองข้างที่บีบพวกมาลัยแน่นอย่างช้าๆ ถึงแม้ผมรู้อยู่แล้วว่าโฬมไม่ได้รู้สึกอะไร แต่ไม่นานมือที่บีบแน่นเมื่อครู่ก็ค่อยๆคลายออก รถที่แล่นด้วยความเร็วก็ค่อยๆช้าลงจนอยู่ในระดับปกติ

 

โฬมกลับมาที่บ้านของเขา ทันทีที่รถจอดสนิท เขาก็ดับเครื่องแล้วเปิดประตูออกไปทันที ผมรีบตามเขาไปในบ้าน แม่ของเขายืนรออยู่แล้ว

“แม่ส่งคนตามผมทำไม !”

“ก็ถ้าฉันไม่ส่งคนตามแก ฉันจะรู้ไหมว่าแกยังไปหาไอ้เกย์สกปกรนั่นอยู่”โฬมชะงักทันที เขาจ้องผู้หญิงตรงหน้าเขา ก่อนจะเบือนหน้าหลบสายตาเชือดเฉือนของอีกฝ่าย

 

“คนที่แม่พูดถึงไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้วครับ แม่คงเข้าใจอะไรผิดไป”โฬมเดินเลี่ยงไปยังห้องของเขา แต่แล้วมือที่กำลังเปิดประตูก็ต้องชะงัก เมื่อผู้หญิงคนนั้นปารูปภาพหลายใบใส่หลังของโฬม

“ก็ฉันเห็นกับตานี่ไงหละ แกจะบอกว่ามันไม่อยู่ในโลกนี้ได้ยังไง !” โฬมค่อยๆหยิบรูปที่อยู่บนพื้นขึ้นมาดู รูปพวกนั้นเป็นรูปที่เขาคุยกับฟาน ทั้งที่มหาวิทยาลัยหรือแม้แต่ที่บ้านเองก็ด้วย โฬมเบิกตาด้วยความตกใจ แต่ก็พยายามจะเก็บอารมณ์ตกใจนั่นไว้

“แม่กังวลไปเองนะครับ แม่กำลังป่วยนะ ผมจะพาแม่ไปหาหมอ......” แต่ยังไม่ทันที่โฬมจะพูดจบ เธอก็ขัดขึ้นมาเสียก่อน

“ฉันไม่ได้ป่วย ! ฉันไม่ได้บ้า ! แกไม่ต้องเสือกพาฉันไปหาหมอ !!”โฬมถอนหายใจ แล้วรีบเดินเข้าห้องไป

เป็นแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว โฬมพยายามจะพาแม่ของเขาไปหาหมอมาหลายครั้ง แต่แม่ของเขาก็ยืนยันเสียงแข็งว่าไม่ได้ป่วย เธอเดินไปทุบประตูห้องโลมเสียงดัง

“ออกมาคุยให้รู้เรื่อง !”

“ถ้าแกไม่ออกมา ฉันจะส่งคนไปเก็บมันเดี๋ยวนี้แหละ !”สิ้นเสียงของแม่โฬม ประตูห้องของโฬมเปิดออกมาทันที

“อย่านะแม่ !”

“นี่แกเป็นห่วงมันมากใช่ไหม ! ได้ !” เธอยกโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรหาใครบางคน โฬมมองแม่ของเขาอย่าง งงๆ แต่แล้วตาของโลมก็เบิกกว้าง ทันทีที่แม่ของโลมพูดจบประโยค

“เก็บมันซะ” เธอพูดจบก็ตัดสายทิ้งแล้วฉีกยิ้มร้าย ผมเองก็อึ้งไม่แพ้กัน น้องชายของผมกำลังอยู่ในอันตราย

โฬมรีบออกจากบ้านไปที่รถทันที เสียงสตาร์ทรถดังขึ้นแล้วก็เร่งเครื่องออกไป ผมที่ยังยืนอึ้งอยู่ไม่ได้ตามโฬมไป รู้สึกเหมือนทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก ผมมองหน้าผู้หญิงตรงหน้าเธอกำลังค่อยๆเปลี่ยนสีหน้าจากยิ้มร้ายกลายเป็นค่อยๆเศร้าลง น้ำตาเม็ดใสหยดออกมาจากดวงตาแดงก่ำ เธอกำลังร้องไห้ และเธอปาดมันออก ก่อนจะเดินออกไปนอกบ้านแล้วขับรถออกไป...

แต่ผมว่าเธอแปลกๆไป ผมหยิบโทรศัพท์ของเธอที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมาดู เบอร์โทรล่าสุดเป็นเบอร์ของโฬมที่เธอโทรหาเมื่อตอนเย็น มีแต่เบอร์ของโฬมเท่านั้นที่เธอโทรไปหา...

........ไม่มีเบอร์แปลก หรือแม้แต่เบอร์ที่ไม่ได้เม็มชื่อ.......

บางทีเธออาจจะไม่ได้จ้างใครคอยตามโฬมก็ได้ แต่เป็นเธอเองที่คอยตามลูกของเธอและถ่ายรูปพวกนั้นมา

เธอกำลังตามโฬมไปที่บ้านของน้องชายผม !

ทันทีที่ผมคิดได้ ผมก็รีบหายตัวไปหาโฬมทันที แล้วผมก็มาอยู่บนรถของโฬม สีหน้าเคร่งเครียดของกับความเร็วรถมากกว่าร้อยทำให้ผมนึกห่วงโฬมขึ้นมา ผมพยายามจะห้ามเขา พยายามจะเข้าสิงเขา แต่ผมทำไม่ได้ ทำไมผมถึงสิงโลมไม่ได้

โฬมปาดแซงรถทุกคันที่อยู่บนถนน และเมื่อผมรู้ว่าผมห้ามโฬมไม่ได้ ผมจะไปบอกน้องชายผมเอง....

 

ผมกลับมาอยู่ที่บ้านของผมเห็นน้องชายตัวเองกำลังนอนหนุนตักปาร์คอยู่ ผมรีบเข้าไปบอกกับปาร์คทันที ทั้งสองคนรับรู้และพยายามจะโทรหาโฬม แต่โฬมไม่รับ อาจจะเป็นเพราะโฬมไม่ได้เอาโทรศัพท์ออกมาด้วย

สุดท้ายปาร์คจึงตัดสินใจจะพาฟานไปหลบที่ห้องของเขา พวกเรารีบออกจากบ้านทันที แต่ไม่ทันแล้ว โฬมมาถึงบ้านของผม เขาเดินลงมาจากรถแล้วทักทายราวกับว่าเป็นเรื่องปกติ

 

“ดึกดื่นขนาดนี้จะไปไหนกันครับ” ผมเห็นแววตาโล่งใจของโฬม เขาคงคิดว่าทั้งสองคนยังคงปลอดภัยอยู่ ไม่มีคนมาเก็บทั้งสองคนตามที่แม่เขาบอก

“พี่โฬม แม่พี่กำลังตามพี่มา” ปาร์คพูดขึ้น โฬมขมวดคิ้วทันที เขาส่ายหน้ายิ้มๆ

“แม่พี่อยู่ต่างประเทศครับ เขาจะมาที่นี่ได้ยังไง น้องปาร์คนี่ตลกนะครับ ฮ่าๆ”โฬมหัวเราะเสียงแห้งๆ เขาทำเหมือนกับว่าปาร์คพูดเป็นเรื่องตลก ทั้งๆที่ผมเห็นแววตากังวลออกมาอย่างชัดเจนจากสายตาคู่นั้น

“คริสบอกผมหมดแล้ว”ปาร์คพูดขึ้นอีกประโยค โฬมหน้าเสียทันที

“ไม่จริง คริสไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว” ปลายเสียงแผ่วเบา

“จำที่ผมบอกว่าผมเลี้ยงผีได้ไหมครับ นั่นแหละครับ ไอ้คริสไง แล้วหลายวันที่ผ่านมามันก็ไปอยู่กับพี่ตลอด”ปาร์คพูดขึ้นอีก โฬมยังคงส่ายหน้าไปมา พึมพำคำว่าไม่จริงซ้ำๆ

แต่แล้วก็มีรถคันหนึ่งมาจอดอยู่หน้าบ้าน เป็นรถเก๋งสีบลอนเงิน พวกเราทั้งหมดมองไปที่รถคันนั้น โฬมมีสีหน้าตกใจอย่างปิดไม่มิด แต่ปาร์คกลับตั้งสติได้ดีที่สุด

“พี่ฟานเข้าไปอยู่ในบ้านก่อนครับ ห้ามออกมาจนกว่าผมจะให้ออกมา”ปาร์คหันไปบอกกับฟาน

“แต่...” ฟานทำท่าจะปฏิเสธ

“เข้าไปครับ”ปาร์คพูดจนฟานยอมเดินเข้าไปในบ้าน

ประตูรถเก๋งสีบลอนเงินเปิดออกมา เป็นแม่ของโฬมจริงๆด้วย เธอตามโฬมมาจริงๆ โฬมมีสีหน้าตกใจอย่างเห็นได้ชัด เขารีบกระโดดข้ามรั้วเตี้ยๆเข้ามาในบ้านแล้วมายืนอยู่ข้างปาร์คแทน

“น้องปาร์ค... คริส.....ยังอยู่กับพี่จริงๆใช่ไหม”โฬมหันมาถามปาร์คด้วยน้ำเสียงเบาหวิว ปาร์คหันหน้ามามองผม ก่อนจะหันไปพยักหน้าให้โฬม ผมเห็นแววตาวูบไหวระคนดีใจของโฬม

“ไหน ! มันอยู่ไหน !”แม่ของโฬมตวาดทันทีที่เดินมาถึงหน้าบ้าน โฬมมีสีหน้ากังวลอย่างเห็นได้ชัด ฟานเองก็แอบมองอยู่จากหน้าต่างในบ้าน

“ป้าถามหาใครครับ ?”ปาร์คพูดขึ้น

“บอกฉันมาเดี๋ยวนี้ ว่าไอ้เกย์สกปรกนั่นมันอยู่ไหน !” เธอตวาดเสียงดังลั่น จนปาร์คกับโฬมเองยังตกใจ

“แม่คือ....”

“ที่นี่ไม่ใช่รายการวันนี้ที่รอคอยครับ ถ้าป้าจะตามหาคนหาย เชิญป้าไปติดต่อที่รายการนั้นเองนะครับหรือถ้าลำบากมาก ป้าก็ติดต่อมูลนิธิกระจกเงาเนอะ” ปาร์คตอกกลับ ผมเห็นเธอกำมือแน่น ก่อนที่มือคู่นั้นจะล้วงลงไปในกระเป๋าข้างตัว หยิบกระบอกสีดำขลับออกมา

พวกเรามีสีหน้าตกใจในทันที โฬมรีบเอาตัวเข้ามาบังปาร์คไว้โดยไม่คิด

“แม่อย่า !!” โฬมตะโกนห้ามแม่ของตัวเองที่เล็งปากกระบอกปืนมาทางพวกเขา

“คุณตามหาผมอยู่หรือเปล่า ?” ฟานเดินออกมาจากบ้านแล้วมายืนบังทุกคนเอาไว้ ปาร์คกุมขมับทันที ส่วนโฬมก็มีสีหน้ากังวลอย่างเห็นได้ชัด

“อ้อ แกยังอยู่จริงๆสินะ แกนี่อึดดีๆจริงๆ วันนั้นฉันทั้งทุบ ทั้งกรีด แกก็ยังรอดมาได้นะ” ฟานกำโทรศัพท์ในมือแน่น นัยน์ตาวูบไหวเล็กน้อย แต่กลับมาแข็งกร้าวเหมือนเดิม

“ผมไม่ตายง่ายๆหรอกครับ หึ” ผมขมวดคิ้วทันทีที่ฟานพูดจบ... เขากำลังแสดงว่าตัวเขาคือผม สีหน้าของผู้หญิงคนนั้นโกรธเกรี้ยวขึ้นทันที เธอกำกระบอกปืนในมือแน่นขึ้น นิ้วเรียวเล็กกำลังจะเหนี่ยวไกปืน ฟานรีบเอาตัวบังทุกคนไว้ แต่โฬมรีบพุ่งออกไปแล้วคว้ามือของแม่ของเขาไว้

โฬมพยายามแย่งปืนจากแม่ของเขา เธอก่นด่าโฬมแต่สายตายังมองมาที่ฟานอย่างเคียดแค้น

“แม่อย่าทำแบบนี้ ฮือ” โฬมร้องขอ แต่ไม่เป็นผล เมื่อเธอใช้กระบอกปืนตบเข้าที่หน้าของโฬมจนโฬมปล่อยมือออกจากมือของเธอ กระบอกปืนหันกลับมาทางฟานอีกครั้ง

“เพราะแก ! ลูกฉันถึงเป็นแบบนี้ !” เหมือนกับภาพช้าที่ค่อยๆเลื่อนไหลไป ผมเห็นนิ้วเรียวที่เหนี่ยวไกปืน เสียงดังลั่นของกระสุนที่ออกจากปลายกระบอก มันดังราวกับฟ้าผ่ามายังกลางหน้าอกของผม

 

ปั้ง !


++++++++++++++++++++++++++++++

ตอนหน้าจบแล้ววววว



ก่อนอื่นขอโทษเลยที่หายไปนานมากกกกกกกก(โคตรนาน)

ที่หายไปเพราะว่า เอ็นนิ้วหัวแม่มืออักเสบ ใส่เฝือกยาวๆเลยครึ่งเดือน พอถอดเฝือกก็ติดสงกรานต์อีก ไม่ได้เอาคอมกลับบ้าน พอเสร็จสงกรานต์ก็ยุ่งเรื่องเรียนเรื่องสอบ หลังจากนั่นก็ป่วย หลังจากป่วยก็ต้องไปงานแฟนมี้ตอีก หลังจากงานแฟนมี้ตก็ป่วยหนักกว่าเดิมอีก สรุป ป่วยเป็นภูมิแพ้อากาศ โอ้โหหหห มหกรรมคนโคตรซวย2017



ทั้งหมดนี้จึงเป็นที่มาของการหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยของไนท์ และขอกราบอภัยคนอ่านทุกคนเป็นอย่างสูง

ตอนหน้าจบแล้วนะครับ อาจจะแวะเอาตอนพิเศษมาลงให้ตอนหรือสองตอนนี่แหละ อย่าลืมติดตามข่าวเรื่องรูปเล่มกันด้วยนะครับ

ช่องทางติดต่อไนท์ twitter @Niightziiz

ฝากสกรีมในทวิตด้วยนะครับ #HsGผีหล่อ

คอมเมนท์เป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับบบบ

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
Re: [Rewrite] •HANDSOME GHOST• ตอนที่[18] Up 24/4/60
«ตอบ #56 เมื่อ25-04-2017 12:29:11 »

 :L2: :pig4:

ออฟไลน์ rmlab

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1679
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-2
Re: [Rewrite] •HANDSOME GHOST• ตอนที่[18] Up 24/4/60
«ตอบ #57 เมื่อ25-04-2017 14:53:25 »

ชอบมาก สนุกมาก

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
Re: [Rewrite] •HANDSOME GHOST• ตอนที่[18] Up 24/4/60
«ตอบ #58 เมื่อ25-04-2017 15:17:51 »

สนุกมาก และค้างมากๆ รออ่านตอนจบคับ

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
Re: [Rewrite] •HANDSOME GHOST• ตอนที่[18] Up 24/4/60
«ตอบ #59 เมื่อ25-04-2017 18:16:21 »

สนุกมากเลย รีบมาต่อตอนจบ+พิเศษ เร็วๆ นะคะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด