รสจูบ.....ที่ตราตรึงกว่าทุกครั้ง
สัมผัส.....ที่อ่อนละมุน
เสียงหัวใจที่ราวกับจะเต้นไปพร้อม ๆกัน
ร่างกายที่สอดประสานกันเป็นหนึ่งเดียว.....ไม่ได้เกิดขึ้นด้วยอารมณ์ใฝ่ต่ำชั่ววูบ
มันลึกซึ้งกว่านั้นมากนัก"เรารักนาย"
วันที่ 19“กิ๊”
เด็กหนุ่มบรรจงพันแผลให้เจ้าสัตว์ร้ายในห้องใต้ดิน มันส่งเสียงหายใจดังฟืดฟาดอย่างไม่ใคร่สบอารมณ์นัก ตอนที่บาดแผลถูกราดด้วยแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ เขาลูบหัวมันอย่างอ่อนโยนพร้อมกับส่งรอยยิ้มบาง ๆให้ มันจ้องตอบกลับมาด้วยดวงตาใสแจ๋วดูออดอ้อนที่ไม่เคยเปลี่ยน นับตั้งแต่ตัวมันได้ถือกำเนิดขึ้นมา
“แผลหายเร็วเหมือนกันนี่เรา....เห็นกล้าบอกว่าโดนยิงมาไม่ใช่เหรอ”
“ลูกกกก....ต๋าววววว”
ไอ้โจ๊กครางเรียกชื่อเขา เด็กหนุ่มคลายความหวาดกลัวลงไปจากเมื่อวานนี้พอสมควร เขาตั้งใจจะผูกมิตรกับมันด้วยเนื้อสดชิ้นโต เนื้อสเต็คเกรดพรีเมี่ยมที่เขาตั้งใจซื้อมาเพราะอยากกินถูกมันงับไปจากมืออย่างช้า ๆ มันค่อย ๆเคี้ยว ราวกับพยายามจะซึมซับรสชาติ เขาเดาจากท่าทีของมันแล้ว มันคงจะไม่ค่อยถูกปากไอ้โจ๊กเท่าไรนัก
นั่นเพราะอาหารของเจ้าสัตว์ร้ายคือเนื้อที่ยังมีชีวิต เปี่ยมไปด้วยรสชาติของความกลัว
ยิ่งกลัวก็ยิ่งอร่อย ยิ่งกรีดร้องคร่ำครวญ เนื้อนั้นก็ยิ่งมีรสชาติที่พิเศษ
เหยื่อที่ตายไปแล้ว ความอร่อยจะพร่องลงไปทีละนิดๆ
แต่ก็ไม่ถึงกับแย่นักหรอก ไอ้โจ๊กฉีกยิ้งแฉ่งให้เด็กหนุ่ม ราวกับต้องการจะขอบคุณ
“หัดกินอาหารมนุษย์บ้างนะ ต้นกล้าจะได้ไม่ลำบาก ใจคอจะให้เขาไปฆ่าคนมาให้หรือไง....”
ต้นกล้า......
ลำบาก????
นั่นเพราะลูกเต๋ายังไม่รู้ ว่าอาหารของไอ้โจ๊กส่วนใหญ่นั้น ต้นกล้า
“ตั้งใจ” หามาให้แทบทั้งสิ้น แม้ว่ารายหลัง ๆมันจะเป็นผู้ลงมือสังหาร แต่เหยื่อก็ล้วนเป็นคนที่ต้นกล้าชักนำมาให้
หาใช่ความบังเอิญอย่างที่อีกฝ่ายอ้างไม่
“อ้าวเต๋าอยู่นี่เอง”
คนที่เพิ่งถูกเอ่ยถึงเมื่อครู่ปรากฏตัวอยู่ตรงหัวบันได ต้นกล้าบิดขี้เกียจพร้อมกับเปิดปากหาวหวอด เด็กหนุ่มเดินสะลึมสะลือลงมาในชุดเสื้อกล้ามยืดย้วยโชว์ผิวขาวซีด เอ่ยทักทายลูกเต๋า ไอ้โจ๊กจ้องมองเนื้อหนังของผู้เป็นนายด้วยความรู้สึกอย่างสัตว์ที่พร้อมจะสืบพันธุ์
แต่มันต้องห้ามใจเอาไว้
ห้ามใจ....ไม่ให้เผลอกระโจนเข้าใส่
ห้ามใจไม่ให้เข้าไปกอดรัด.....
สูดดมกลิ่นหอม ๆ ที่ทำให้หัวใจของมันมีความสุข
มือใหญ่พร้อมกรงเล็บแหลมดึงผ้าห่มขึ้นมาปกปิดส่วนกลางลำตัวที่กำลังแข็งขึง ความรู้สึกเขินอายเริ่มปรากฏให้เห็นชัดขึ้น นับตั้งแต่ช่วงที่มันเจริญเติบโตจนเต็มวัยสมบูรณ์ มันคว้าตุ๊กตา “โจ๊กตัวเล็ก” ขึ้นมากอดแก้เขิน ก่อนจะฉุกนึกขึ้นมาได้ว่า ตอนนี้มันดูไม่เหมือนโจ๊กตัวเล็กแล้วล่ะ
ไม่ใช่แค่ร่างกาย
แต่เป็นความรู้สึก
ความรู้สึกแบบผู้ใหญ่ในความเป็นเด็ก.....ผสมผสานปนเปกันอย่างสับสน
เพราะมันเพิ่งเป็นผู้ใหญ่ได้แค่ไม่กี่วันเท่านั้นเอง.....
และเพราะมันผ่านโลกมาน้อยเกินไป
เวลาไม่ถึงเดือนนั้น คงไม่มากพอที่จะเรียนรู้สันดานและความซับซ้อนของมนุษย์ได้หมดหรอก
“เราทำแผลให้มันน่ะ”
“ไม่กลัวแล้วหรือไง”
“ก็กล้า ๆ กลัว ๆ แต่อยากผูกมิตรด้วยน่ะ มันจะได้เชื่อง ๆไง”
พูดจบลูกเต๋าก็เขยิบตัวเข้าไปแนบชิด แขนข้างหนึ่งโอบพาดแผ่นหลังกว้างของเจ้าสัตว์ประหลาด กลิ่นหอมหวานที่แรงกว่าผู้เป็นนายนั้น ทำให้ไอ้โจ๊กรู้สึกเคอะเขิน มันหายใจติดขัด และกำลังรู้สึกสับสน หากว่ามันเป็นมนุษย์ ตอนนี้มันคงกำลังหน้าแดงลามไปถึงใบหู มันนั่งนิ่ง ก้มหน้า กอดไอ้โจ๊กตัวเล็กแน่นขึ้น ตรงโหนกเหนือตาของมันนั้นขมวดเล็กน้อย(มันไม่มีคิ้ว) ดวงตาใส ๆนั่นก็เอาแต่จ้องพิ้น
“เขินเพื่อนกูเหรอไอ้โจ๊ก....ดูทำหน้าเข้า”
“เต๋า....หอม....หอม....กิ๊”
“ใช่หอมมาก....กูดมมาทั้งคืน”
ดมมาทั้งคืน....คำพูดหยอกเย้านี้ทำเอาใครบางคนหน้าแดงขึ้นมาจริง ๆ ขณะที่คนพูดนั้นทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ไอ้โจ๊กนั้นจ้องมองมนุษย์ทั้งสองคนสลับกันอย่างสงสัย
ต้นกล้าดมกลิ่นลูกเต๋าด้วย
ต้นกล้าจะกินลูกเต๋าไหม
ลูกเต๋าไม่น่ากินหรอก....เพราะกลิ่นของลูกเต๋า....เหมือนกลิ่นของกล้าเลยกิ๊
ต้นกล้าคงไม่กินลูกเต๋าหรอก เพราะต้นกล้ารักลูกเต๋านี่นา“วันนี้โดดเรียนเหรอ”
“เราก็โดดเป็นเพื่อนกล้านั่นแหละ”
“ขอบใจสำหรับเสื้อนอนนะ.....ดีที่เราตัวเท่า ๆกัน....แม้แต่ไซส์กางเกงใน รู้มั้ย ใส่กางเกงในของนายแล้วรู้สึกเหมือนนายกำลังเอามือโอบอุ้มกล้าน้อยของเราเลย”
“ไอ้เชี่ยนี่....ทะลึ่งใหญ่แล้ว”
“เดี๋ยวนี้ด่าเหรอ”
สิ่งที่ไอ้โจ๊กสังเกตเห็นระหว่างทั้งคู่นั้น เหมือนกับสนิทแนบแน่นขึ้นกว่าเดิม ผู้เป็นนายดึงลูกเต๋าไปจากมัน กอดและหอมกันต่อหน้ามัน ก่อนจะประกบปากจูบกันอย่างดูดดื่ม
“เมื่อคืนนี้มันวิเศษจริง ๆนะเต๋า”
“อะ....อื่อ”
เมื่อคืนนี้....
วิเศษ....
มันคืออะไร ไอ้โจ๊กอยากจะเข้าใจ
ทำไมถึงพิเศษ มันจะเหมือนคืนที่ต้นกล้าอยู่กับโจ๊กไหม
ตอนที่ต้นกล้านอนกอดโจ๊ก...
โจ๊กนอนกอดต้นกล้า....
สำหรับไอ้โจ๊ก....นั่นก็ถือว่าเป็นรางวัลที่แสนพิเศษมากมายแล้ว
“นี่....ทำไมพวกเราไม่ลองหัดให้มันกินอาหารแบบมนุษย์ล่ะกล้า” ลูกเต๋าเอ่ยเรื่องนี้ขึ้นมาอีกแล้ว ไอ้โจ๊กพยายามทำความเข้าใจ กินอาหารแบบมนุษย์ ถ้าทำได้ มันก็จะได้กลายเป็นมนุษย์สินะ
ถ้าทำได้แบบนั้น ก็จะไม่ทำให้กล้าเดือดร้อน....
เพราะกล้าต้องหาอาหารให้โจ๊ก....
ถ้านั่นทำให้กล้าเดือดร้อน การกินอาหารของโจ๊กคงเป็นเรื่องไม่ดีงั้นสิ
“อยากเป็นคนกิ๊....เป็นมา....นุด......แบบกล้า.....แบบเต๋า”“ไอ้ห่า....เสือกทะลึ่งอยากจะเป็นคนซะงั้นนะ”
“ลองดูนะกล้า ถ้าคิดจะเลี้ยงมันเอาไว้ เราก็ต้องเซฟตัวเอง พวกสัตว์เลี้ยงที่ไม่มีเจ้าของ อะไรที่มันกินได้มันก็กินหมดแหละเพื่อประทังชีวิต ฝึกเสียหน่อย ถึงจะยากแต่มันก็ต้องลอง ดีกว่าปล่อยให้มันไปทำร้ายใครต่อใคร”
“นั่นสินะ”
ลูกเต๋ายิ้มอย่างให้กำลังใจทั้งนายและบ่าว ก่อนจะวิ่งผลุนผลันขึ้นไป ตอนนี้ในห้องใต้ดินเหลือเพียงเขากับมันตามลำพัง ไอ้โจ๊กส่งสายตาออดอ้อนเหมือนอย่างเคย และต้นกล้าก็เข้าไปกอดมันอย่างทุกที เด็กหนุ่มเริ่มชินกับมันในสภาพสมบูรณ์แบบนี้แล้ว ไอ้โจ๊กยังคงเป็นไอ้โจ๊กที่ขี้อ้อนเหมือนเดิม ไม่สิ รู้ภาษาขึ้นกว่าเดิม แต่รวม ๆแล้วมันก็ยังเป็นสัตว์ร้ายที่เชื่องเฉพาะกับเขาเท่านั้น แม้ว่ารูปร่างของมันจะดูน่าเกรงขามก็ตาม
อย่างน้อย ๆ มันก็ยังไม่ทำอันตรายลูกเต๋า ทั้ง ๆที่ไม่ได้มีเขาอยู่ด้วยเพื่อคอยควบคุม
“น่ารักใช่ไหม ลูกเต๋าน่ะแสนดี เขาน่ะดียิ่งกว่ากูเสียอีก”
“กล้าดี.....ดีกับโจ๊ก.....ดีที่สุด”
“หึหึ เอาเถอะ...ถ้ามึงว่าอย่างนั้น งั้นกูก็ขอฝากมึงได้ไหม ระหว่างกูกับมึง หากว่ากูมีอันเป็นไป หมายถึงตายน่ะ มึงต้องคอยปกป้องลูกเต๋า เหมือนที่ปกป้องกูนะ เข้าใจไหม”
“ไม่ตาย....กล้าไม่ตาย....โจ๊กไม่ยอมนะ....ที่รักของโจ๊ก”
“รับปากกูสิโจ๊ก ว่าจะถวายชีวิตของมึงเพื่อคนที่กูรัก มึงต้องรักลูกเต๋าเหมือนที่รักกูนะ เขาจะดีกับมึงยิ่งกว่าที่กูดี....กูเชื่ออย่างนั้น ห้ามทำร้ายเขานะรู้ไหม”
“กิ๊”
มันครางอย่างเศร้าสร้อย เมื่อเด็กหนุ่มพูดเรื่องความตายขึ้นมาเป็นครั้งที่สอง มันกับต้นกล้าจะไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอดไปอย่างที่มันฝัน ถูกของผู้เป็นนายแล้ว มนุษย์นั้นแสนอ่อนแอ และเป็นอาหาร แต่ต้นกล้าพิเศษกว่านั้น
มันพอจะเข้าใจดีเรื่องความตาย
แล้วตัวมันเองล่ะ....มันจะตายไหม
มันยอมที่จะตายเคียงข้างมนุษย์ที่มันหลงรัก ดีกว่าอยู่เป็นอมตะชั่วนิจนิรันดร์
และหากมันตายเพื่อนายที่มันรักได้
มันก็ต้องตายเพื่อคนที่นายมันรักได้เช่นเดียวกัน
เด็กหนุ่มรีบผละออกจากการโอบกอด เมื่อลูกเต๋าวิ่งลงมาพร้อมกับบางสิ่ง ไอ้โจ๊กนั้นเริ่มสังเกตเห็นว่าใบหน้าของอีกฝ่ายนั้นยิ้มแย้มอยู่เสมอ ผิดกับนายของมันที่ไม่ค่อยแสดงอารมณ์เท่าไรนัก ครั้นจะแสดงทีก็ดูล้นจนผิดปกติ
ลูกเต๋าน่ารัก....
โจ๊กจะรักลูกเต๋าอย่างที่กล้าสั่งได้ไหมนะ
ทุกเรื่องที่กล้าสั่ง มันดูง่ายไปหมด
แต่ทำไมเรื่องนี้ถึงได้ยากจัง
เพราะไอ้โจ๊กไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเลยสักนิดเดียว
“กล้า ๆ......ลองให้มันเริ่มจากอะไรง่าย ๆก่อนไหม.......ลองให้มันดื่มนี่ดู”
“นมเนี่ยนะ”
“ทำไมอ่ะ”
“นั่นต่างกับเครื่องในมากนะ ไม่ได้ใกล้เคียงเลย”
“แต่เราว่านมมันคาวนี่.....ลองดื่มสิ....อร่อยกว่าเนื้อคนนะไอ้โจ๊ก.....มึงก็ดูน่าจะเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมนะ ไม่เคยกินนมแม่หรือไง”
“เต๋า......เราว่ามันไม่น่าจะมีแม่นะ.....”
ไอ้โจ๊กรับแกลลอนนมสดพลาสเจอไรซ์จากอีกฝ่ายมาอย่างลังเล มันสูดดมกลิ่นนมสดตามสัญชาติญาณ กลิ่นพิลึก จะว่าคาวหอมเหมือนเลือดก็ไม่ใช่ มันเป็นกลิ่นคาวแปลก ๆ ที่ไม่น่ากินเอาเสียเลย
ถ้ากินไอ้น้ำนี่ โจ๊กจะเหมือนกล้าจริง ๆเหรอ
เป็นแบบมนุษย์ กินอยู่อย่างมนุษย์
ถ้าเป็นอย่างนั้น
ทุกอย่างคงง่ายกว่านี้
ต้นกล้าไม่ลำบาก
มันเองก็ไม่ต้องฆ่าใคร
ไม่ต้องทนฟังเสียงกรีดร้องของอาหาร เสียงกรีดร้องอย่างหวาดกลัว....แม้ว่านั่นจะยิ่งทำให้เนื้อมีรสชาติดีก็ตาม
เพราะหัวใจของสัตว์ร้าย ก็ยังพอมีความเมตตาหลงเหลืออยู่
ซึ่งอาจจะมีมากกว่านายของมันเสียด้วยซ้ำไป
อึก....อึก....อึก
พรวดดดดดด!!!!
“แหวะ.....กิ๊”
“ห่าโจ๊ก.....พ่นใส่พวกกูทำเชี่ยไรเนี่ย”
ต้นกล้าสบถอย่างหัวเสีย ส่วนลูกเต๋านั้นเอาแต่ขำก๊าก ไอ้โจ๊กดื่มนมเข้าไปแค่สามอึกก็พ่นออกมาเลอะเทอะไปหมด มันจ้องมนุษย์ทั้งสองตาปริบ ๆ ดูเหมือนว่ามันจะไม่ค่อยรู้ตัวเท่าไรนัก ว่ามันทำอะไรผิด แต่พอเห็นลูกเต๋าหัวเราะ มันก็หัวเราะบ้าง สุดท้ายแล้วผู้เป็นนายก็พลอยหัวเราะไปกับมันด้วย
ต้นกล้าหัวเราะ.....ต้นกล้ามีความสุข....
อึก....อึก...อึก
พรวดดดดดดดด!!!!!ไอ้โจ๊กดื่มนมเข้าไปอีกอึกใหญ่ ๆ....
ก่อนจะพ่นใส่มนุษย์ทั้งคู่อีกครั้ง
“ไอ้โจ๊กกกกก!!!! ไม่ใช่แล้ว....นี่มันเล่นแล้ว”
“กิ๊”
เอาล่ะ....ถ้าอยากจะอยู่แบบมนุษย์
ไอ้โจ๊กคงต้องพยายามให้มากกว่านี้
.
.
.
.
.
to be con
อย่าเพิ่งคิดว่าเรื่องจะสงบนะเคอะ อีก 11 วัน มีเรื่องหนัก ๆรออยู่