‘รอกูแปบ’ พอมันตะโกนบอกชื่อเขาที่มันเป็นคนตั้งให้คนทั้งร้านรับรู้แล้ว มันก็หายหน้าไป ทิ้งจอมขวัญเอาไว้กับสายตาลูกค้าในร้านที่พากันยิ้มขำกับชื่อ ‘กิฟฟุ’ …ไอ้บ้าเอ๊ย!! ทำเรื่องน่าอายให้เขาตลอด!!!...
“ที่ร้านไม่ให้นั่งกับลูกค้า เลยต้องไปถอดชุดออกก่อน” มันกลับมาอีกครั้งในชุดธรรมดาอันได้แก่เสื้อยืดกางเกงยีนส์
มันโตขึ้นสมกับที่ไม่ได้เจอกันสิบกว่าปี หน้าตามันเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่รอยยิ้มตาแทบมิดของมันยังเหมือนเดิม
“น้องแก้ว ไปบอกพ่อครัวว่าโต๊ะเจ็ดนี่ขอกับข้าวแบบเร่งด่วน ถ้าถามว่าทำไม บอกว่า ‘เส้นพี่ถ้วยฟู’ นะจ๊ะ” แล้วมันก็หันไปสั่งกับพนักงานสาว อย่างที่ทำเอาจอมขวัญต้องรีบห้าม
“เฮ้ย ไม่ต้อง กู…เอ่อ…เราไม่รีบ รอคนอยู่น่ะ”
“อ้อ…งั้นน้องแก้วไปบอกใหม่ ยังไม่ต้องทำกับข้าวของโต๊ะเจ็ด ไว้จะปิดครัวค่อยทำก็ได้” จอมขวัญมองไอ้คนยิ้มตามิดแล้วได้แต่ส่ายศีรษะไปมา
…มันยังกวนประสาทไม่เปลี่ยน…
พนักงานสาวจากไปแล้ว คนชื่อประหลาดว่า ถ้วยฟู ก็เลยอัญเชิญตัวเองนั่งร่วมโต๊ะกับเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันนาน
“เป็นไงวะ สบายดีเปล่า เห็นเพื่อนมึงบอกว่ามึงไปเรียนเมืองนอก” น่าแปลก…ทั้งๆที่จอมขวัญยั้งปากไม่ขึ้นมึงขึ้นกู เพราะเห็นว่าจากกันไปนาน แต่อีกฝ่ายกลับเรียกเขาอย่างสนิทปาก และดูเหมือนมันจะสนิทใจที่จะเรียกแบบนี้เสียด้วย
…มันยังเหมือนเดิม…ยังเป็นคนเข้าถึงง่าย สบายๆ รอยยิ้มมากมายบนหน้ามันยังเผื่อแผ่ทุกคนรอบข้าง…
“อือ”
“ตอนจะไปก็ไม่บอก กูโกรธมึงเป็นวันๆเลย ถ้าบอกกันสักคำ กูจะได้ไปยืนส่งมึงที่สนามบินบ้าง เท่ห์จะตายมีเพื่อนไปเรียนเมืองนอก แล้วนี่มึงไปเรียนต่อที่ไหนมา? ดาวอังคาร?”
“ดาวอังคารพ่อมึงสิ!”
ไอ้ถ้วยฟูหัวเราะเอิ้กอ้ากดูมันสมใจที่กวนประสาทเขาได้
“แล้วกลับมานานยัง? ไม่คิดจะติดต่อกูเลยรึไงวะ นี่ถ้าไม่เจอกันวันนี้ กูคิดว่ามึงไปเที่ยวดาวเสาร์ต่อแล้วนะเนี่ย”
“กูไม่รู้จะติดต่อมึงยังไง”
“เออ จริงว่ะ มึงไปนู่นก็คงไม่ได้เอาเบอร์กูไปด้วย แล้วนี่ก็ทำเบอร์กูหายไปแล้วล่ะสิ แต่เบอร์เก่ากูก็เปลี่ยนไปนานแล้ว แล้วมึงจะไปอีกเปล่า เอาเบอร์กูไปเตรียมไว้เลย ถ้าจะไปอีกรบกวนบอกกูคนแรก กูต้องหาผ้าเช็ดหน้าลูกไม้ไปยืนซับน้ำตาส่งมึงที่สนามบิน” แล้วมันก็พล่ามพร้อมกับหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา จอมขวัญมองท่าทางกวนๆของเพื่อนเก่ารายนี้แล้วได้แต่ยิ้มบาง
…กาลเวลาทำอะไรมันไม่ได้จริงๆ สิบกว่าปีที่ไม่ได้เจอกัน มันไม่ได้ลดความเป็น ‘ถ้วยฟู’ ลงเลย…ยังบ้าๆบอๆ ยังกวนประสาท ยังทำอะไรเอาแต่ใจไม่เปลี่ยน…และมันก็ยัง…เป็นคนที่เขาแพ้ทางไม่เปลี่ยนจริงๆ…
“เอ้า! บอกเบอร์กูได้รึยัง น้องกิฟฟุ จะให้กูรอจนแบทหมดก่อนมั้ย?” จอมขวัญได้แต่หัวเราะ
“มึงนี่ยังกวนตีนเหมือนเดิม”
“แต่มึงไม่เหมือนเดิมนะ กิฟฟุ…มึง…ดูมีความสุขว่ะ” จอมขวัญนิ่งไป เขามองเพื่อนเก่าที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามอย่างคาดไม่ถึงเพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะพูดราวกับรู้จักตัวตนของเขาขนาดนี้
“…แสดงว่ามีเมียแล้วอ่ะดิ” ถ้วยฟูทำหน้าตาล้อเลียนเปิดเผย
“เฮ้ย! ไม่มีเว้ย!”
“อ้าว แล้ว…คนที่มึงรอนี่ล่ะใคร? ลูกของน้าของเพื่อนของพี่ของพ่อของเด็กข้างบ้านเหรอวะ?” จอมขวัญเงียบกริบ เขามองเห็นแววเจ้าเล่ห์เหลือร้ายในดวงตาระยิบระยับของไอ้คนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม รู้ทันทีว่าเขาแพ้ทางมันอีกรอบ
“แล้ว…มึงไม่มีรึไง ทำมาเป็นคาดคั้นกู” เขาเฉไฉไปที่เรื่องของมันแทน
“มีดิ ถ้ามึงเจอแล้วจะตกใจ หล่ออย่างงี้!” ไอ้ถ้วยฟูยกนิ้วโป้งขึ้นมาข้างนึง “รวยอย่างงี้!!” มันยกนิ้วโป้งขึ้นมาอีกข้าง “และที่สำคัญ รักกูบูชากูเป็นที่สุด!” แล้วมันก็ทำหน้าเคลิ้ม แต่คนฟังกลับสติหลุดไปตั้งแต่ประโยคแรกในการพรรณนาแล้ว
“หล่อ?!” …หรือไอ้ถ้วยฟูมีแฟนเป็นทอมวะ?!...
“เออ หล่อโคตรๆ! สาวๆน้ำตาตกกันครึ่งเมืองเลยมึง ตอนเขามาอ้อนวอนขอให้กูเป็นแฟน” …ถึงขั้นอ้อนวอนกันเลยทีเดียว!!... จอมขวัญไม่รู้ว่าเพื่อนโม้หรือไม่ แต่ติดใจอยู่ที่ประเด็นเดียวคือ ‘แฟนมันหล่อ’…นี่หมายความว่า…
“ฟ…แฟนมึง…แฟนมึงเป็นทอมเหรอ?”
“เฮ้ย! ทอมแล้วจะมารักกูบูชากูได้ยังไง? แฟนกูเป็นผู้ชาย”
“ผู้ชาย!!!!”
“อืม….ไม่ต้องทำหน้าตกใจหน่า กูแค่มีแฟนหนุ่มคนเดียวเอง ส่วนกิ๊กก็มีแต่สาวๆทั้งนั้นแหละ” แล้วไอ้คนมีแฟนหนุ่มแค่คนเดียวก็หัวเราะเหมือนสุขใจกับชีวิตตัวเองเสียเหลือเกิน
“แล้ว…มึง…เปิดเผยอย่างงี้เล้ย? มึง…เอ่อ…ไม่กลัว…” จอมขวัญถามตะกุกตะกัก แต่คนไม่เคยกลัวอะไรในโลกกลับยักไหล่ไม่แคร์
“เฮ้ย! น้องกิฟฟุ! นี่กูจะสอนไว้เลยนะ มึงอย่ากลัวใครมากกว่ากลัวเมีย! คนกลัวเมียเจริญทุกคน เชื่อกู!!”
“หมาย…หมายความว่า…มึง…เอ่อ…มึงเป็น…เอ่อ…คือ…ผู้ชายคนนั้นของมึง เป็นเมียมึงเหรอ” จอมขวัญถาม เขาเหมือนจะเห็นถ้วยฟูชะงักไปนิดนึง ก่อนที่มันจะยืดหน้าคอตั้งตรงแล้วตบอกตัวเองดังปั้กๆ!
“แน่น้อน!!”
…ไอ้ถ้วยฟูมีเมียเป็นผู้ชาย…อ่า…คราวนี้จอมขวัญเลยได้แต่เงียบ เพราะถ้าเกิดหลุดปากออกไปว่าเขาก็มีแฟนเป็นผู้ชายเหมือนกัน แต่สถานะของเขาดันเป็น…เอ่อ…เป็นเมีย…เขาจะต้องถูกมันล้อไปตลอดชีวิตแน่ๆ…
“คุณถ้วยฟูคะ” ยังไม่ทันที่เพื่อนเก่าเพื่อนแก่จะได้คุยกันมากกว่านั้น เด็กเสิร์ฟสาวก็วิ่งเข้ามาหาที่โต๊ะ
“คุณธันบอกว่าใกล้จะถึงแล้วค่ะ” ถ้วยฟูแค่พยักหน้ารับรู้ จอมขวัญจ้องหน้าเพื่อนรัก ก่อนจะเอ่ยปากถาม
“ธัน…เอ่อ…คนนี้เมียมึงใช่มั้ย”
“อ่า…ใช่! เมียกูเอง…เอ่อ…แต่…แต่มึงอย่าเอาไปพูดที่ไหนล่ะ คือ…อ่า…เขาเป็นเมียกูทุกเวลา ยกเว้น…เวลาบนเตียง…”
“ฮะ?...หมายความว่าไงวะ”
“ก็…ก็…ก็…ก็เวลาปกติกูเป็นผัว แต่เวลาบนเตียงก็สลับให้กูเป็นเมียแทน ชีวิตคู่จะได้ซาบซ่านไงมึง” แล้วถ้วยฟูก็พยายามโม้แหลกลาญว่าเวลานอกเตียงนั้นตัวเป็น ‘สามี’ แต่เพียงผู้เดียว แต่จอมขวัญเหมือนจะเห็นความจริงข้างหลังมันแล้ว ที่พยายามพูดมาตั้งนานนี่เพื่อให้ดูดีและมีความเหนือเท่านั้นเอง ไอ้ถ้วยฟูนะไอ้ถ้วยฟู!
“ตอนนี้กูกำลังรอเวลาเหมาะๆอยู่ แล้ววันหนึ่งกูจะเป็นผัวทุกเวลา!” จอมขวัญล่ะหน่ายกับไอ้เพื่อนเก่ารายนี้เสียจริง ยังมีหน้ามาทำเป็นมุ่งมั่น! ไอ้เวรเอ๊ย!! กูไม่เชื่อมึงแล้ว!
“ว่าแต่มึงเหอะ สรุปแล้วว่าไง จะบอกกูได้รึยังว่าแฟนมึงเป็นใคร ชื่ออะไร ทำมาหากินอะไร” มันซักซะยิ่งกว่าลุงกับป้าเขาเสียอีก
จอมขวัญอึกอักพูดไม่ออก ถ้าหากคนรักของเขาเป็นผู้หญิงธรรมดา ก็คงจะพูดง่ายกว่านี้…เสียแต่ว่า…
“กิฟฟุ…กูรู้ว่ามึงเคยสงสัยว่าทำไมคนอย่างกูถึงดูมีความสุขมากกว่ามนุษย์ชาวโลกคนอื่นๆ มึงอยากรู้มั้ยว่าเพราะอะไร เพราะว่ากูยอมรับความสุขนั้นอย่างเต็มใจ ไม่ว่ามันจะมาในรูปแบบไหน จะมาแค่เล็กน้อยแค่ไหน แต่ในเมื่อมันเป็นความสุข กูก็พร้อมจะรับมันเข้ามาในชีวิต และพร้อมจะบอกให้คนรอบข้างได้รับรู้ เรื่องที่กูมีแฟนเป็นผู้ชายก็เหมือนกัน กูมีความสุขที่ได้รักกับคนคนนี้ กูมีความสุขที่ได้อยู่กับคนคนนี้ จริงอยู่ บางครั้งก็บอกใครไม่ได้ว่าไอ้คนที่ยืนหล่ออยู่ข้างๆกูเป็นแฟนกูเอง แต่กูก็พยายามทำให้เขารับรู้ว่ากูมีความสุขที่ได้รักเขา ได้อยู่กับเขา…”
“เคยมีคนสงสัยมั้ย”
“มีดิวะ เยอะแยะออก…แต่ก็แค่สงสัยนี่ ไม่มีใครเดินเข้ามาถามตรงๆหรอก คนพวกนี้สนุกกับการมีข่าวลือเอาไว้เล่ามากกว่าอยากจะรู้ว่าข่าวลือที่ได้ยินมาเป็นความจริงรึเปล่า…เพราะงั้นกูก็เลยไม่รู้จะกังวลไปทำไม วันนี้เรื่องของกูกับแฟนกูอาจจะเป็นประเด็น แต่วันพรุ่งนี้มะรืนนี้มันก็มีเรื่องอื่นอีกเยอะแยะให้คนพูดกัน ถ้ามัวแต่กังวลก็เสียเวลาเปล่าๆ เอาเวลาไปมีความสุขลันล้าขึ้นสวรรค์กับแฟนดีกว่า”
…มันยังคงเป็นถ้วยฟูที่ยอมรับเรื่องราวในชีวิตได้อย่างมีความสุข…เป็นคนที่น่าอิจฉาจริงๆ…
“อ้าว กลายเป็นว่ากูพูดคนเดียว แล้วไง…เรื่องแฟนมึงอ่ะ บอกกูได้รึยังว่าเป็นยังไง”
“ก็…ดี”
“ดีคืออะไร? เขารักมึงมากกกกกก?”
“ก็…ไม่รู้…กูไม่เคยถาม”
“เฮ้ย! มึงเริ่มถามได้แล้ว จะรอถามตอนอายุ 90 รึไง”
“แล้วมึงเคยถามเหรอ” ถ้วยฟูยืดไหล่อย่างเต็มภาคภูมิ
“ไม่เคย…แต่กูมั่นใจว่าเขารักกูมากกกกกก” มั่นใจกับหลงตัวเอง จอมขวัญคิดว่าเพื่อนคนนี้เป็นอย่างหลังมากกว่า
“…ถ้ามึงมั่นใจแบบที่กูมั่นใจล่ะก็ ไม่ต้องถามก็ได้ แต่หน้าอย่างมึง…กูว่าคืนนี้กลับไปมีออเซาะเข้าไปถามแน่น้อนนนน…” แล้วถ้วยฟูก็ยิ้มกวนอย่างที่จอมขวัญนึกอยากจะกระโดดเตะมันสักที
“ของขวัญ…” เสียงเรียกดังขึ้น ทำเอาเจ้าของชื่ออย่างจอมขวัญต้องหันไปมอง เขานิ่งไปเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าคนที่นัดเอาไว้มาแล้ว
…แล้ว…เขา…จะแนะนำให้ถ้วยฟูรู้จักยังไงดี…
“อ่า…สวัสดีครับ ผมเป็นเพื่อนกิฟฟุ” ยังไม่ทันที่จอมขวัญจะได้แนะนำ ถ้วยฟูก็ลุกขึ้นยืนจัดการแนะนำตัวเองเสร็จสรรพ แถมเรียกเขาว่ากิฟฟุอีกต่างหาก…เลิกเรียกไอ้ชื่อบ้านี่ได้มั้ยเนี่ย
“พี่โต…นี่ถ้วยฟู” จอมขวัญเลยต้องลุกจากเก้าอี้แล้วเปิดปากแนะนำให้ร่างสูงรู้จักกับเพื่อนเขา ก่อนจะหันมาทางถ้วยฟูที่ทำเป็นยิ้มการค้า แต่เขาเห็นรอยวิบๆในดวงตามัน
…มันต้องรู้แล้วแน่ๆว่าอะไรเป็นอะไร…
“กิฟฟุ แนะนำพี่โตของมึงให้กูรู้จักหน่อยสิ” แล้วมันก็เข้ามากระแซะไหล่เขา
“นี่พี่โต…” จอมขวัญตัดปัญหาการกระแซะอันน่ารำคาญของมันด้วยการผายมือไปทางร่างสูงที่ยืนอยู่ใกล้ๆ
“แล้ว…สถานะล่ะ? อ๋ออออออ…ลูกของน้าของเพื่อนของพี่ของพ่อของเด็กข้างบ้านใช่มั้ย?” ไอ้ถ้วยฟูถามแค่ปาก แต่ตามันวิบวับเหมือนรู้เช่นเห็นชาติและเข้าใจอยู่แล้วว่าคำตอบจะออกมาในรูปแบบไหน
“เขา…เป็นแฟนกู…” จอมขวัญเอ่ยปาก
“ก็แค่นี้…” ถ้วยฟูยิ้มกว้างเหมือนถูกใจ ก่อนจะหันไปยิ้มให้ ‘แฟนเพื่อน’
“ถ้ายังไงตามสบายนะครับ” เขาหันกลับมาทางจอมขวัญอีกครั้ง “มื้อนี้กูเลี้ยงนะ กิฟฟุ แต่ถ้าสะเล่อสั่งเกินห้าพัน กูคิดดอกเบี้ยส่วนที่เกิน 10 เท่าแล้วมึงต้องจ่ายเอง! อิอิ” แล้วพอเหลือแค่จอมขวัญและอธิปแล้ว ร่างสูงก็หันมาทางคนข้างกาย
“ของขวัญ ทำไมถึงบอกเพื่อนว่าพี่เป็น…” อธิปไม่ได้กังวลเรื่องตัวเอง แต่เพราะเขารู้ว่าความสัมพันธ์ของเขาและจอมขวัญนั้น เป็นเรื่องที่ตัวจอมขวัญเองต่างหากที่ไม่เคยอยากจะพูดถึง การมีคนรักเป็นผู้ชายทั้งๆที่ตัวเองก็เป็นผู้ชายนั้นทำใจได้ยาก แม้จะรักมากเพียงใดก็ตาม และเพราะแบบนั้นอธิปจึงไม่เคยเรียกร้องขอให้อีกฝ่ายระบุสถานะเขาเลยสักครั้ง ไม่ว่าใครจะถามอะไรหรือสนิทสนมกับพวกเขามากแค่ไหน ความสัมพันธ์ที่บอกออกไปมีเพียง ‘เป็นพี่น้อง’ และร้ายสุดถึงขั้น ‘เป็นแค่คนรู้จัก’
“ก็…ขวัญแค่อยากอวด ว่าตอนนี้กับในอดีต ขวัญไม่เหมือนเดิมแล้ว” จอมขวัญมองตามแผ่นหลังของเพื่อน “…ขวัญมีความสุขแล้ว” ร่างโปร่งเหลือบตามามองคนข้างกายแล้วยิ้มให้
…จากนี้ไป เขาจะมีความสุขให้ได้ทุกวัน แม้ว่าความสุขนั้นจะเล็กน้อยเพียงใด เขาก็ยินดีรับมันเข้ามาในชีวิต…เขาอาจจะไม่ยิ้มแย้มได้ทุกวันเหมือนที่ถ้วยฟูทำ แต่เขาสัญญา…เขาจะสร้างความทรงจำดีๆเผื่อวันหนึ่งข้างหน้า มีใครที่ต้องจากเขาไป เขาจะได้มีความทรงจำที่แสนสวยงามเอาไว้นึกถึง…
…ไม่ใช่ทุกคนในโลกที่จะมีความทรงจำดีๆกับคนที่อยู่ด้วยกัน…และคนที่มี…คือคนที่โชคดีแล้ว…
“ขอบคุณนะครับพี่โต ขอบคุณที่ทำให้ผมเป็นคนโชคดี”
ค่ำนี้ ในสวนอาหารที่มีไฟสีส้มอมเหลืองทอนวลเป็นประกาย ที่โต๊ะอาหารบนชะเลียงเหนือบ่อน้ำมีชายหนุ่มสองคนนั่งรับประทานอาหารด้วยกัน พูดคุยกัน หัวเราะกัน ส่งยิ้มให้กัน…
…ความสุขวันนี้ จะกลายเป็นความทรงจำที่ดีในวันข้างหน้า…ความทรงจำ…ของพวกเขาทั้งสองคน…
…อธิปและจอมขวัญ…
………………………………………….
ส่วนปวิน…
หลังจากแอบดูเพื่อนเก่าเพื่อนแก่มีแฟนมานั่งดินเนอร์ใต้แสงหลอดไฟกับหมู่มวลยากันยุงทั้งหลาย ก็หมายจะจิ้มโทรศัพท์หาสวีทฮาร์ทของตัวเองบ้าง รีบเรียกให้มันมา รีบบอกให้มันพาไปดินเนอร์ เอาแบบให้หรูระยับกลับไปนอนเคลิ้มสักสิบตลบ!
“จะไปไหน” ระหว่างที่เดินกดมือถืออยู่นั้น แขนข้างหนึ่งก็ถูกคว้าเอาไว้ ถ้วยฟูหันมองก่อนจะตาโตแล้วกลายเป็นตื้นตัน! …นี่ล่ะ! นี่ล่ะที่เขาเรียกว่าเนื้อคู่! คิดถึงปุ๊บ โผล่มาปั๊บ!!!...
“มาย ธัน…พาไปกินข้าวหน่อย!” ศัพท์ใหม่ล่าสุดในคลังแสงสำหรับเรียกสุดที่รักคือ ‘มาย ธัน’ หมายถึง ‘ธันของกู(คนเดียว)’ เป็นการชี้เฉพาะเจาะจงว่าห้าม ‘ธัน’ ไปเป็นของคนอื่นเด็ดขาด ไม่งั้นบ้านแตกอย่าหาว่าถ้วยฟูไม่เตือน
ร่างสูงทำหน้างง
“กินข้าว? ก็…” ธันวากำลังจะเอ่ยปากบอกว่าที่นี่ก็ร้านอาหาร แล้วจะให้พาไปกินที่ไหน
“ไม่ๆ หมายถึงพาไปดินเนอร์หน่อย” ใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังงงงันกลายเป็นหัวเราะเบาๆ
“เป็นอะไร อยู่ดีๆมาขอให้พาไปดินเนอร์”
“ก็เพื่อนเก่าแม่งพาแฟนมาสวีทเย้ยในร้านเนี่ย เห็นแล้วอยากให้แฟนพาไปสวีทบ้างอะไรบ้าง”
คราวนี้จากเสียงหัวเราะเบาๆของธันวา กลายเป็นหัวเราะร่วน
“อยากกินอะไรล่ะ” เขาเคยขัดใจมันได้ที่ไหน ปกติก็หลงมันจะแย่อยู่แล้ว พอมาเจอมันยิ้มตามิดทำหน้าตลก ยิ่งอยากเอาใจมันเข้าไปใหญ่
“กินอะไรก็ได้ แต่เอาแบบโรแมนซ์กระแทกใจอ่ะ”
“กินข้าวเสร็จแล้ว ดูหนังด้วยมั้ย เห็นบ่นอยากดู” เขาเห็นมันบ่นๆว่าอยากดูหนังเข้าใหม่ตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เผื่อถ้ามันยังเหลืออารมณ์อยากดู เขาจะได้พามันแวะกินข้าวที่ห้างสรรพสินค้าเสียเลย
“อื้ม!” ถ้วยฟูยิ้มรับ แหม…มีแฟนประเสริฐที่ทั้งรักทั้งห่วงใยแถมยังใส่ใจทุกรายละเอียดนี่มันดีอย่างงี้เอ๊ง!!
“อ๊ะ! สวัสดีค่ะ คุณธัน” น้องแต้วเด็กเสิร์ฟเดินผ่านมาพอดี เลยรีบยกมือไหว้อย่างคุ้นเคย ธันวายกมือรับไหว้พร้อมด้วยรอยยิ้มบาง
“คุณถ้วยฟูจะเข้าครัวอีกมั้ยคะ”
“ไม่ล่ะ ไปบอกพี่เดียวด้วยว่ายกครัวให้ไปเลยวันนี้ พี่ถ้วยฟูจะไปดินเนอร์กับสามีแล้ว”
“อ้าว ไหนเมื่อกี้ยังบอกว่าวันนี้เป็นวันประกาศอิสรภาพไงคะ”
เท่านั้นล่ะ ไอ้คนประกาศอิสรภาพถึงกับตาโต ถลึงตาใส่เด็กเสิร์ฟสาวเป็นเชิงให้หยุดพูด
“เขาประกาศดิสรภาพบ่อยเหรอ” เสียงทุ้มเรียบดังขึ้น ทำเอาตาที่กำลังถลึงดุของถ้วยฟูรีบหดลงมาเป็นตาตี่เหมือนเดิม ก่อนจะรีบหันมายิ้มแย้มให้เจ้าของเสียง ‘มาย ธัน’ สุดเลิฟ ที่ตอนนี้เริ่มจะตีหน้ายักษ์ไปซะแล้ว
…ไม่นะ! อย่าทำหน้าอย่างนั้น เดี๋ยวกูอดดินเนอร์และดูหนัง!!!...
“บ่อยค่ะ คุณธัน แทบทุกครั้งที่มีลูกค้าสาวๆสวยๆเข้าร้านเลยค่ะ”
…พูดทำไม! พูดทำม้ายยยยยย!!!... ไอ้เรื่องอย่างนี้ไม่ต้องพูดก็ได้!!!...
ถ้วยฟูแทบจะยิ้มไม่ออก แต่ก็พยายามใช้วาทศิลป์ให้เป็นประโยชน์ “แค่…แค่เอนเตอร์เทนลูกค้าน่ะ ไม่ได้มีเจตนาอย่างอื่นจริงๆนะ”
“เหรอ งั้นกลับไปเอนเตอร์เทนให้พี่ดูที่บ้านก็แล้วกัน!” แล้วมือของธันวาก็คว้าหมับเข้าที่แขนขาว ก่อนจะดึงปลิวไปตามแรงเดินของเขา
“แล้ว…แล้วดินเนอร์กับดูหนังล่ะ…” ไอ้คนถูกลากซะปลิวยังใจกล้าถาม แต่ธันวาไม่ตอบ นอกจากยัดมันเข้ารถ แล้วขับฉิวออกจากลานจอด
…กลับไปเคลียร์เรื่องวันประกาศอิสรภาพให้ได้ซะก่อนเถอะ ไอ้แสบ!!!...
FIN
วิ่งมาลงงงงงงง…อิอิ (ตอนแรกคิดว่าจะไม่ได้ลงแล้ว เพราะพิมพ์ตอนนี้ไม่เสร็จสักที แต่ขี้เกียจอ่านหนังสือ เลยใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ด้วยการพิมพ์จนเสร็จซะเลย แหะๆ)
สำหรับคำถามที่ว่า ‘เพื่อนเก่าลูกชายเจ้าของร้านอาหารของจอมขวัญคือใคร’ สเปฯอันนี้คือคำตอบนะคะ
ส่วนทรงพล…เขายังคงเป็นบุรุษลึกลับต่อปายยยยยยย ฮ่าฮ่า
สำหรับพาร์ทนี้ ขอบคุณ “ลูกชายเจ้าของร้านอาหาร & สามี” จากเรื่องนู้นนนนนน ที่มาวิ่งอยู่ในเรื่องนี้
อยากไปอ่านหนังสือต่อ แต่ขี้เกียจจังเลยอ่า ทำยังไงดี มันจะสอบผ่านมั้ยเนี่ย ค่าสอบก็ไม่ใช่น้อยๆ ฮือออออ
ขอบคุณพื้นที่บอร์ด คนอ่าน คนติดตาม คนเม้นท์ และทุกกำลังใจนะคะ
เจอกันตอนหน้า อาทิตย์หน้าเด้อ