บทที่ 6 Evidence
[/b]
"อือออออย่ากวน" ผมครางเสียงแผ่วพร้อมมุดผ้าห่มหลบมือสากๆ ที่ระรานแก้มผม เตียงแม่งนุ้มนุ่ม หลับสบายสุดๆ
"เร กูจะนอน" ยื้อยุดฉุดกระชากผ้าห่มจนท้ายที่สุดก็แพ้มัน จึงได้แต่พลิกตัวหันหลังให้ มีหรือมันจะรามือเพราะไอ้ลมหายใจอุ่นๆ ที่เป่ารดข้างแก้มทำเอาผมตื่นเต็มตา หน้าเหน้อนี่แดงไปหมด
"
เชี่ย!!! โอ๊ะ" คนจะหลับจะนอนกวนอยู่ได้ ผมลุกพรวดมาอาละวาดมัน แต่ถึงกับร้องลั่นเมื่อเจ็บร้าวไปทั้งก้นลามยันหลัง อ๊ะๆ อย่าเพิ่งเข้าใจผิด และเดาเรื่องเมื่อคืนไปแบบนั้น ไอ้มีนผู้นี้หาได้เสียซิงตูดให้ใครไม่ แต่ที่เจ็บจะเป็นจะตายเพราะผมนอนตกเตียงเมื่อคืน เดือดร้อนไอ้เรลากผมกลับขึ้นไปนอน ผมเป็นคนนอนดิ้นเผลอละเมอถีบมันไปหลายดอกสุดท้ายเลยโดนมันรวบกอดไว้เป็นหมอนข้างไม่ให้กระดุกกระดิก สมน้ำหน้ามันเสือกบังคับให้ผมค้างด้วยเอง แต่ถ้าถามว่าทำไมผมยอมนอนค้างกลับมันละก็เอิ่ม...เอ่อ...คือ...เอาเป็นว่าเดี๋ยวเล่าเหตุการณ์เมื่อคืนให้ฟังแล้วกันเผื่อจะเข้าใจ
10 ชั่วโมงที่แล้ว สมองผมกำลังประมวลผลผิดๆ ถูกๆ เมื่อไอ้เรมันออกปากจะลบรอยจูบให้ คือ...คิดไม่ออกไงว่ามันจะใช้วิธีไหน แต่จำต้องผวาเมื่อจู่มันดึงผมไปนั่งบนตักแล้วโอบเอวไว้หลวมๆ กูควรขัดขืนใช่ไหม หรืออยู่นิ่งๆ หรืออะไร โว้ยยยยย! รวนไปหมดแล้วครับ ดวงตาสีน้ำเงินสงบนิ่งบวกกับรอยยิ้มบางๆ เชี่ย...หล่อวะ เหอๆ เป็นบ้าอะไรผม ไปชมผู้ชาย โดนเพื่อนบิ้วมากจนเบี่ยงเบนไปแล้วหรอเรา
ตึก...ตัก...ตึก...ตัก รับรู้ถึงหัวใจที่เต้นไวขึ้น มันต่างกับตอนไอ้เรนจู่โจม ความรู้สึกในตอนนั้นคือผมตระหนกและอยากถีบมันไปไกลๆ ทีกับคนตรงหน้ามันไม่ใช่ ยอมรับว่าตกใจเหมือนกันแต่กลับทำไม่ได้แม้แต่หลบตา ราวกลับโดนมันตรึงไว้ตรงนั้น...มันชอบผมจริงหรอวะ...ถ้าจริง บอกไอ้มีนทีซิว่าควรทำตัวยังไง ทั้งชีวิตไม่เคยมีผู้ชายมาชอบเลยนะเว้ย
"เรนทำอะไรมึงบ้าง" มันถามขึ้น เอิ่มผมต้องอธิบายหมดเลยหรอ ถึงน้องมีนจะเรื้อนจะเกรียนแค่ไหนน้องมีนก็มียางอายนะเว้ย ใครมันจะไปนั่งเล่าเหตุการณ์ตอนโดนผู้ชายกดได้วะ "ว่าไง"
เฮือก! ผมละแพ้สายตาดุๆ ของมันจริงๆ
"มันดึงกูเข้าไปกอด" ผมสะดุ้งเมื่อไอ้เรรวบกอดผมแน่นขึ้นจนกลายเป็นนั่งคร่อมตักมัน สถานการณ์ล่อแหลมชะมัด
"แล้ว... มันก็ จ...จูบ" จุ๊บ!
ฉ่าาาาาาา...หน้าผมร้อนเมื่อจู่ๆ มันก็จูบปากผมเบาๆ
ช๊อคสิ!!! ไอ้มีนช๊อค ผมพยายามผลักมันออกมึงแรงเยอะหรือกูไม่มีแรงวะ
"ปล่อยเว้ยยย!!! อย่ามาเล่นเหมือนน้องมึง กูไม่เล่าแล้ว กู อื้อ" ยังไม่ทันแหกปากก็โดนมันจับปิดปากด้วยปากไปเสียแล้ว จูบของมันเยือกเย็นเหมือนบุคลิก เชื่องช้าแต่มั่นคง ทำเอาผมที่ขัดขืนในทีแรกถึงกับคล้อยตาม เพราะริมฝีผมตอนนี้มันโดนละเลียดชิม ขบเม้ม บดเบียดชวนให้เคลิบเคลิ้มจนลิ้นร้อนแทรกเข้ามาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้
"อืม..." เหมือนโดนสูบพลังงานไปจากร่างจนแทบทรงตัวไม่อยู่...แล้วผมจะเอาแขนคล้องคอมันเพื่อ! พยายามตั้งสติบอกตัวเองว่ามันไม่ปกติที่ต้องมาจูบกับผู้ชาย แต่ไอ้ลิ้นชื้นๆ ที่ไล่ต้อน เกี่ยวกระหวัดหยอกล้อในเรียวปาก ทำเอาสติกระเจิดกระเจิง รู้ตัวอีกทีเมื่อไอ้เรมันยอมถอยให้ผมได้พักโกยอากาศเข้าปอดก่อนจะได้ขาดใจตาย ไม่ใช่ว่าไม่เคยจูบใคร แต่ไอ้ท่อนไม้นี่มันจูบเก่งเกินไป เล่าต่อแล้วมันทำตามหมดผมคงแย่แน่
"ไม่ต้องเล่า...เดี๋ยวเดาเอง"
เชี่ย!!!! มึงอ่านความคิดกูได้หรือไง
ผมว่าไอ้เรมันจินตนาการล้ำเลิศไป รู้แล้วว่าเรียนศิลปะแต่ไอ้ที่มึงเดามันเกินกว่าที่น้องมึงทำเปล่าวะ
"อ๊ะ อย่ากัดกู" แง...น้องมีนน้ำตาจะไหล ลบรอยบ้านมึงสิครับ แม่งกัดซ้ำด้วย แล้วมึงจะทำเพิ่มทำม้ายยยยย "อา...เสื้อ...อย่า อือ" ใครคราง ผมเปล่านะ แล้วไอ้ที่นอนราบบนโซฟาเนี่ยผมเมื่อยหรอก...ว่าแต่เฮ้ย! กระดุมถูกปลดจนหมดตั้งแต่เมื่อไร? ใบหน้าคมซุกไซ้ซอกคอชวนให้จั๊กจี้ ริมฝีปากร้อนๆ ทำเอาสะท้านในทุกสัมผัสที่มันกดจูบลงมานำพาให้ลมหายใจติดขัดยิ่งขึ้นเมื่อมันไล้ต่ำลงเรื่อยๆ พร้อมกับมือกร้านที่ลูบไล้ไปตามตัว ความรู้สึกแปลกๆ เริ่มถาโถมจนทั้งร่างสั่นอย่างคุมไม่อยู่ ทั้งอารมณ์อย่างว่า ทั้งสับสน ทั้งกังวล มันไม่ได้รู้สึกดีแต่ก็ไม่ได้เกลียด...ไม่ พอแล้ว ไม่ใช่ตอนนี้
"เร...พอแล้ว หยุด...ขอร้อง...หยุดสิวะ" ผมร้องเสียงดัง ไอ้เรมันยอมหยุดแต่ไม่วายมองผมอย่างงุนงง ผมหลบตามันหอบฮัก พยายามข่มใจตัวเองให้เต้นช้าลงแล้วตั้งสติ "มึง...ชอบกูจริงๆ หรอ" มันไม่ตอบ แต่กลับพลิกผมให้ขึ้นมานอนบนตัวมันพร้อมกดหัวให้ซบลงบนอกแล้วลูบเบาๆ จนเริ่มสงบ
"มึงก็เป็นแบบเนี่ย ให้กูเดาเองตลอด" แม่งชอบเงียบใส่ คิดแล้วโมโหเผลอทุบอกมันดังอั๊ก
"กูยังไม่รู้วะ ไม่ค่อยอยากจะเชื่อที่ไอ้เรนบอกเท่าไหร่ มึงอาจจะเล่นๆ เหมือนที่ทำกับพี่ลูกแก้ว" ผมไม่ได้โง่หรอกว่าสองคนนั้นเขาหายไปไหนกัน " หรือถ้ามึงชอบกูจริง กูควรตอบรับความรู้สึกมึงยังไง เพราะมึงก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน ตอนนี้กูรู้สึกแบบไหนก็ยังอยากหาคำตอบให้ตัวเองอยู่ มึงเข้าใจกูใช่ไหม"
"อืม" มันกอดผมแน่นขึ้น อุ่นดีจัง เอาเป็นว่าผมจะลองเปิดใจกับมันดูแล้วกัน แต่แบบ...จะอยู่แบบนี้อีกนานไหม เดี๋ยวแม่งคึกอีกผมจะซวยเอานะ
"เอ่อ...จะกลับแล้ว ปล่อยเถอะ"
"นอนนี่แหละ" มันบอก ผมว่ามันแอบพูดเยอะกว่าปกตินะ "คิดถึง อยากกอด" โดนไปอีกดอก แหงสิไม่เจอกันตั้งสามสี่วัน ว่าแต่...มึงใช่ไอ้เรที่กูรู้จักเปล่าวะ เฮ้อ...แล้วผมจะไปไหนได้ เรื่องราวทั้งหมดก็เป็นตามนั้นแหละครับ...เห็นไหมว่าไม่มีอะไรเลย อิอิ
หลังจากโดนไอ้เรกวนจนไม่สามารถนอนต่อได้ผมจึงยอมลากสารร่างมาอาบน้ำตอนเกือบเที่ยง ชอบอ่างอาบน้ำห้องมันชะมัด ได้หลับตาแช่น้ำแล้วฟิน บ้านผมอยู่ริมโขงตอนเด็กๆ ว่ายเล่นประจำ ผมชอบเล่นน้ำแต่เด็กแล้วครับ ย่าบอกเหมาะกับชื่อผมไงเพราะ มีนแปลว่าปลา แต่พอย้ายมาอยู่ในเมืองก็เลยห่างหาย แต่ก็มีไปว่ายที่สระบ้างนานๆ ที
"
แว๊กกกกกกกก มึงเข้ามาได้ไง" ลืมตาทีแทบกรี๊ดดด!? เมื่อไอ้คนที่ควรรออยู่ข้างนอกมันยืนหน้าสลอนพร้อมผ้าขนหนูในมือ คือ...ผมว่าผมล๊อคประตูแล้วนะ เชี่ยๆ จ้องเพื่อ!? กูอายเป็นนะ...แหนะยังจะมายิ้มมุมปาก
"เอาผ้ามาเลย" คว้าผ้ามาห่อตัวลวกๆ พลางดันมันออกไปจากห้องน้ำ ปากมันไม่พูดแต่สายตามันเนี่ย เทะโลมผมได้ตลอด แม่งหน้ากลัวกว่าโดนแซวอีก
...รอพี่หน่อยได้ไหม จะรีบหาตังให้ใช้ จะไปผ่อนรถ ตู้เย็น รถไฟ เครื่องบินให้เธอ...
เสียงโทรศัพท์กรีดร้องขณะที่ผมกำลังรื้อตู้เสื้อผ้าไอ้เรเพื่อหาอะไรใส่ ได้เสื้อยืดสีน้ำเงินตัวโคร่งกับกางเกงนักเรียนขาสั้นสีเดียวกันที่คิดว่ามันน่าจะไม่ใส่นานแล้วและมันก็ดูหลวมน้อยสุดด้วย
"ว่าจังใด๋ครับ" ผมกดรับพร้อมกรอกเสียงทักทาย
"อยู่ไหนยะ พวกกูมาหาที่ห้องเงียบสนิท" เสียงแม่คนที่สองดังเจื้อยแจ้วจากปลายสาย
"อยู่คอนโดไอ้เร"
"อ๋อ แล้วมันเป็นไงมั่ง ทำไมไม่มาเรียนวะ" อีเจ๊ถาม
"ก็สบายดี เอ่อ มันไป..." ผมหันไปมองหน้ามันอย่างขอความเห็นแล้วพี่แกก็ชี้ไปที่รูปทะเลบนหนังสือหัวเตียง "ไปทะเลกับที่บ้านมา" ตอแหลตามน้ำไป "แล้วเจ๊มาหาน้องมีนมีอะไรครับ คิดถึงเค้าหรอ"
"บ้านแกสิ จะชวนไปเดินเซ็น(ทรัล) อยากกินยากินิกุ" จะว่าไปตั้งแต่เปิดเทอมมายังไม่ได้ไปกินเลยนี่หว่า "งั้นไปเจอที่ห้างแล้วกัน อย่าลืมชวนสุดหล่อกูมาด้วยนะ"
"ครับเจ๊ ห่วงมันจังนะ ขอเป็นผัวเลยสิ" ผมแซว
"ไม่ละ อยากได้เป็นลูกเขยมากกว่า ไวๆ นะ จะเที่ยงแล้ว หิว! (มาช้ากูเหยียบ)" เสียงแก๊งสามช่าแทรกเข้ามา คงอยู่กันครบองค์ประชุม ผมวางสายจากเจ๊ดาสุดที่รักหันมาฟาดมือไอ้เรที่กอดเอวผมไว้หลวมๆ พี่กับน้องติดสกินชิพพอกัน
"มึงไปไหม" มันพยักหน้า "ชวนน้องมึงด้วย" ไอ้เรคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาไลน์หาน้องมันก่อนที่เราจะพากันโดยสารเจ้ากระทิงดุของไอ้เรไปยังจุดหมาย ไปถึงหน้าห้างพวกมันนั่งรอกันอยู่ตรงบันไดทางเข้า ไอ้เรนมาถึงก่อนพวกผมอีกแต่นั่นไม่น่าสนใจเท่ากับแก๊งนางฟ้า(พวกพี่ลูกแก้ว)ที่นั่งเมาท์มอยกันอย่างออกรสกับพวกไอ้กรดูสนุกสนานดีแถมยังดูสนอกสนใจแฝดน้องอย่างเต็มที่ เว้นเจ๊ดาไว้คนหนึ่งเพราะตอนนี้ดูจะหมั่นไส้คนสวยกว่าเต็มทน
"กว่าจะมาได้ พวกกูไส้แทบขาด" เจ๊ดาเหวี่ยง อารมณ์โมโหหิว
"แหมเจ๊ กว่าจะตื่นตั้งสิบเอ็ดโมง ใจคอจะไม่ให้อาบน้ำเลยหรือไง" ผมบอกพร้อมบีบๆ นวดๆ ไหล่เพื่อนสาวให้อารมณ์เย็นลง "ว่าแต่ พวกพี่ลูกแก้วมาด้วยได้ไงครับ"
"พี่ก็มาเดินช๊อปกันตามประสาแหละค่ะ เผอิญเจอเรน คิดว่าเป็นเรเลยเข้าไปทัก เลยรู้ว่าพวกเราจะนัดมาทานข้าวกันเลยขอแจมด้วย" พี่ลูกแก้วเล่าพร้อมยิ้มสวย ตอบผมแต่ตานี่มองไอ้เรเชียวนะ เหตุผลที่แก๊งนางฟ้าเสนอตัวร่วมแจมคงไม่พ้นอยากเจอคนที่ยืนข้างผมนี่แหละ แถมมีไอ้แฝดน้องบวกเข้าไปเพื่อนๆ พวกพี่เขาคงอยากทำความรู้จักจนตัวสั่น
"ไปกันเถอะ กูหิวจนจะเป็นลมอยู่แล้ว" ไอ้ก้องโวยวายเราทั้งหมดจึงรีบเคลื่อนทัพ
"ไปกันเถอะจ๊ะเร ไม่ได้เจอกันตั้งหลายวัน" ดาวปีสองว่าพร้อมแทรกกลางมาคล้องแขนเรแล้วเดินนำไป..
.เหอะ! หน้าตาก็สวยไม่คิดว่าเป็นฝ่ายเข้าหาผู้ชายขนาดนี้ แล้วผมจะไปแขวะเขาทำไม?
เดินวนรอบห้างสุดท้ายจึงพากันมาตั้งทัพที่ร้าน Aka เพราะร้านอื่นเต็มหมด ครั้นจะให้ยืนรอเจ๊ดามันคงโมโหหิวจนกลายร่างขย้ำคอผมแน่ๆ ร้านนี้ใช่ว่าคนจะน้อย แต่ยังพอมีที่ว่างนั่นก็เพราะราคาที่สูงกว่าร้านอื่นหน่อยแต่เอาเถอะนานๆ กินที คิดซะว่าซื้อความสุข พวกเราได้โต๊ะใหญ่กลางร้าน แฝดนรกประจำการมุมขวาสุดตรงข้ามกัน ฝั่งไอ้เรถัดจากมันเป็นแก๊งนางฟ้า โดยที่แม่ดาวอักษรนั่งชิดจนแทบจะสิงมันอยู่แล้วครับ ส่วนผมนั่งถัดจากไอ้เรนข้างๆกันเป็นขุนแม่ที่รัก ภูผา ก้องและไอ้เตี้ยกร แต่ละคนคงหิวจัดเล่นสั่งกันรัวยิ๊ก จนเด็กเสิร์ฟกดบันทึกเมนูแทบไม่ทัน ไม่ช้าไม่นานเสบียงก็ถูกลำเลียงมาวางจนแน่นโต๊ะ ก่อนที่ต่างคนต่างลงมือย่างสิ่งที่ตัวเองอยากกิน
"เชี่ย! ก้อง กุ้งตัวนั้นของกู" ภูผาโวยเมื่อกุ้งลายเสือตัวโตลอยเข้าปากเพื่อนไปแล้ว "ตัวนั้นก็ด้วย หยุดเฮ้ย" และแล้วการประลองยุทธ์ด้วยกระบี่ไม้คีบได้ก็เริ่มขึ้น แต่จอมยุทธ์ทั้งสองหาได้มีผู้ชนะไม่ เมื่อนางพญามารดาหลาได้ซิวกุ้งตัวที่สองนั่นเข้าปากไปเป็นการเรียบร้อย
"
อีเจ๊!!!"
"ย่างใหม่สิยะ!!! ตีกันจะได้กินไหมค่ะ ใช่ไหมจ๊ะเรน"
"ช่ายยยยย!!! ครับคนสวย" เจ๊พูดถูก...ย่างเลยตัวต่อไปผมเล็งอยู่ อิอิ
"เรนนี่น่ารักจัง ดูเฟรนรี่ดี คนละเรื่องกับพี่เลยเนอะ แต่ก็มีเสน่ห์คนละแบบ"
"แหมชมซะผมเขินเลยนี่ ถ้าน่ารักไม่ลองทำความรู้จักละครับ ผมยังว่างนะเออ" ปากมันบอกเขิน แต่เล่นขยิบตาให้เพื่อนพี่ลูกแก้วจนสามสาวฟินตายกันเป็นแถบ ส่วนไอ้กรที่ถูกเมินตอนนี้หูเริ่มดำเพราะมันเล่นดูแลเทคแคร์เพื่อนพี่ลูกแก้วอย่างเต็มที่ กับหญิงละดี๊ดีแต่กับเพื่อนนะ...เฮ้อ!
"เรกินนี่ไหมจ้ะ" เสียงหวานออดอ้อนพร้อมเอาเนื้อชิ้นโตจ่อปาก ตามปกติผมต้องอิจฉามันแน่ๆ แต่ตอนนี้กลับหมั่นไส้อย่างบอกไม่ถูก ป้อนกันเข้าไป ไอ้นี่ก็กินง่ายเกิน เขาเอาอะไรให้ก็แดกหมด ยัดๆ ให้ติดคอตายไปเลยนะ...แล้วผมจะเหวี่ยงมันทำไมวะ? มันก็นิ่งเฉยเป็นปกติอยู่แล้วนี่หว่า แต่แบบเฮ้อ...ปฏิเสธนะ มึงรู้จักไหม?
"โอ๊ะ ปากเลอะแล้ว มาๆ ลูกแก้วเช็ดให้" อืมมมมม ครับ บริการดีอย่างกับศรีภรรยา ไอ้เรมันยิ้มขอบคุณอีกฝ่ายแต่ทำไมผมถึงรู้สึกหน่วงๆ ก็ไม่รู้ เฮ้อเซง!...มองไปก็เลอะสายตา ดูสิตอนนี้แม่งไม่เห็นจะทำอะไรที่ดูเหมือนว่าชอบผมเลยซักนิด นัวกับพี่ลูกแก้วจนลืมผมแล้วมั้ง ไอ้ที่กอด จูบ ลูบ คลำกูเมื่อวาน ตกลงมึงจะเอาไง ล้อเล่นใช่ไหม แม่งรวมหัวอำผมชัวร์ ไอ้น้องหลอกว่าพี่มันชอบผม ส่วนพี่มันก็เล่นตามน้ำไปแน่ๆ สนุกใช่ไหมเปลืองเนื้อเปลืองตัวกูเนี่ย...เซงชิบ ไอ้สองตัวนี่แม่งน่าตบชะมัด ว่าไหมมึง...หันมาส่งสายตาขอความเห็นกับศพปลาหมึกในถ้วย
"มีน มึงไม่กินหรอวะ"
"อ๊ะ...เออวะ กินสิ เดี๋ยวกู รอย่างไง แหะๆ" ผมคงนั่งปรึกษากับปลาหมึกในถ้วยนานเกินไปไอ้เรนถึงหันมาสะกิด แล้วผมก็ก้มลงเขี่ยหนวดหดๆ นั่นต่อ เริ่มอิ่มแล้วอะ
"มึงเป็นไรวะดูเงียบๆ" เจ๊ดาเริ่มหันมาสนใจ เงียบหรอ บางทีผมอาจจะคิดเรื่องไอ้เรมากไป พอเถอะไอ้มีน... มันจะทำอะไรก็ช่างหัวมันเถอะ แม้แต่หน้ายังไม่อยากมอง มึงก็ด้วยไอ้เรนเพราะพวกมึงหน้าเหมือนกันไง
"ไม่มีอะไรหรอกเจ๊" ผมบอกปัด
"เหอๆ ผีเข้าหรอค่ะน้อง ปกติเห็นพูดมากจะตาย" เพื่อนพี่ลูกแก้วเจ้าเก่าเจ้าเดิมเลยครับ ชื่อน้ำหวานแต่ปากไม่หวานเอาซะเลย ปกติผมคงดิ้นเร่าๆ หาเรื่องแถ แต่วันนี้ไม่มีอารมณ์นอกจากยิ้มกวนๆ ตอบ
"แต่กูว่ามี" ไอ้แฝดน้องแย้ง "แล้วพอจะรู้ด้วยว่าอะไร"
"อะไรหรอวะ/อะไรละยะ" ต่อมอยากรู้ของเดอะแก๊งเริ่มทำงาน
"ไอ้พี่เร" มันเรียกพี่มันที่นั่งตรงข้าม "อย่าให้ต้องออกปากว่าอะไรควรไม่ควร เล่นพอประมาณเถอะ" แล้วมันก็จ้องหน้ากันซักพักเหมือนคุยอะไรบางอย่างกันในใจ ดวงตาสีน้ำเงินเป็นประกายก่อนที่ไอ้เรจะหัวเราะหึๆ เหมือนคิดอะไรบางอย่างออก สังหรใจว่าภัยจะถึงตัว แล้วจู่ๆ ไอ้สองพี่น้องลุกขึ้นสลับที่นั่งกัน ทำเอางงกันทั้งโต๊ะโดยเฉพาะผมที่ถึงกับเหวอทันทีที่ไอ้เรนั่งลงข้างๆ เพราะมันเล่นเอาแขนโอบเอวผมไว้แน่น
"อะไรของมึง" ผมถามด้วยความงุนงง แต่มันไม่ตอบกลับเอามืออีกข้างมาจิ้มแก้มผมแล้วยิ้ม "สัด...ถามก็ตอบ อย่ามากวนตีน" ผมเริ่มอารมณ์เสียขึ้นมาจริงๆ แล้วสิ
"เหอๆ แฟนมึงโกรธแล้วเร ง้อสิวะ" และแล้วไอ้เรนก็ทิ้งระเบิดลงกลางโต๊ะ
"
ฮะ! แฟน!!!!!!" แล้วทุกคนก็ร้องออกมาลั่นโต๊ะจนคนทั้งร้านมอง จากโมโหกูเริ่มจะอายแล้วไหมละ
"กะ...กูไปตกลงเป็นแฟนพี่มึงตั้งแต่เมื่อไหร่"
"อ้าวแล้วที่กูอุส่าหนีไปนอนที่อื่นให้มึงอยู่กันสองต่อสองเนี่ย ยังไม่ได้...เอ้ย!...เคลียกันอีกหรอ" สองต่อสอง มึงจงใจเอากูใส่พานถวายพี่มึงหรอวะไอ้เพื่อนเลวววว
"เคลียอะไรละพี่มึงเป็นใบ้ไม่รู้หรอ" ผมเถียงเสียงแผ่ว อยากจะแทรกแผ่นดินหลบทุกสายตาในตอนนี้ ปากมันเกือบใบ้แต่จูบโคตรเก่งเลย...
เฮ้ย!!! หลงประเด็น "สรุปยังไง เป็นหรือไม่เป็น แฟนกันอะ" เจ๊ดาคาดคั้น
"ตอนนี้ยัง แต่เร็วๆ นี้ผมว่าไม่รอด" ไอ้เรนตอบอย่างมั่นอกมั่นใจ "จริงไหมครับพี่สะใภ้" ฮึ่ยยยย!!! ผมได้แต่ยกนิ้วกลางใส่ไอ้ตัวชงอย่างเดือดดาล
"กูว่าแล้ววววว กูเอาห้าบาทพอสินสอด จ่ายมาไอ้ลูกเขย" แม่คนที่สองผมยิ้มกว้าง ก่อนแบมือมาตรงหน้าไอ้เร แล้วมันก็บ้าจี้ควักเหรียญห้ามาจ่ายด้วยเอาสิ แล้วไอ้พวกที่เหลือจะเฮทำไมวะ
"คือ...พี่งงไปหมดแล้ว" พี่ลูกแก้วที่เงียบอยู่นานเอ่ยถาม
"ก็ไม่มีอะไรครับ แค่พี่ผมชอบไอ้มีน กำลังดูๆ กันอยู่ พี่คนสวยก็ตัดใจซะเนอะ หรือถ้าหาคนดามใจ ผมยินดีนะ" ไอ้เรนเสนอตัว ไม่รู้พี่ลูกแก้วเข้าใจที่มันพูดไหม แต่สีหน้าเธอดูไม่ดีเอาซะเลย
"แล้วที่ผ่านมาคืออะไรละ" เธอยังคงทักท้วง
"ก็ไม่อะไรนี่ครับ ผมก็เห็นพี่เป็นฝ่ายเข้าหาไอ้เรเองตลอด มันก็ไม่ได้บอกนิว่าสนใจ พี่แค่ทึกทักไปเองไม่ใช่หรอ ปกติก็เห็นเก็บแต้มอยู่แล้วนิ สนใจเอาผมไปเพิ่มแต้มไหมครับ เก่งไม่แพ้พี่เลยนะ" ไอ้แฝดน้องพูดได้...
แรง!!!! "นี่เธอ" เอาแล้วๆ นางฟ้าเริ่มกลายเป็นซาตาน "ถ้าไอ้แว่นนั่นมันดีนักก็ตามสบายเถอะ" ว่าแล้วเธอก็คว้ากระเป๋าลุกจากโต๊ะ เดินออกไปเลย เพื่อนพี่ลูกแก้วอีกสามคนดูลังเลแต่ก็ยอมลุกตามออกไปติดๆ
"อ่าว แล้วใครจะจ่ายค่าข้าวส่วนของพวกนั้นวะ" ไอ้กรบ่น
"น่า...กูรับผิดชอบเอง ไม่สิ พี่เร มื้อนี้มึงเลี้ยงเลย มึงตัวต้นเหตุนะ" และแล้วมันก็โยนให้พี่ ซึ่งเจ้าตัวก็พยักหน้ารับอย่างเต็มใจ กูละเบื่อคนรวย เอาละสถานการณ์กลับมาสงบและทุกคนก็ลงมือทานต่อ
"หึงหรอ" ยกเว้นผมที่ต้องหยุดมือเพราะคำพูดไอ้เร
"ใครหึงมึง...หลงตัวเอง" แล้วหน้ากูเนี่ยจะแดงทำซากอะไร
"ขอโทษ" ผมย่นคอหนีเมื่อมันกระซิบข้างหู ให้ตายสิตอนนี้ไม่กล้าแม้แต่จะสบตามันด้วยซ้ำ แล้วยิ่งรอยยิ้มกว้างๆ นั่นเล่นซะทำอะไรไม่ถูกเลย
"อ๊ะ ขอบคุณ" กุ้งตัวโตที่ถูกแกะเปลือกแล้วถูกคีบมาใส่ถ้วยผม ด้วยฝีมือไอ้ท่อนไม้ที่ชื่อเร ก่อนจะตามด้วยของกินอื่นๆ ที่ทยอยมาลงจอดในถ้วย ทั้งอันที่มันให้เอง ทั้งอันที่ผมอยากกินแล้วชี้บอกมันหยิบมาให้ มันเอาใจผมเวอร์ซะจนโดนคนอื่นแซวไปหลายดอก นี่คงเป็นวิธีการง้อของมันสินะ ผมจะพยายามเข้าใจแล้วกันเพราะมันไม่ค่อยปกติแบบคนอื่น มื้ออาหารผ่านไปแบบที่ผมเขินแทบดิ้นกับการเอาอกเอาใจของไอ้เร แบบนี้ค่อยน่ารับพิจารณาหน่อยว่าไหมครับ
ตอนเย็นไอ้เรมาส่งผมที่หอตอนแรกมันก็ว่าจะค้างด้วย แต่เมื่อผมท้วงเรื่องที่มันนัดอาวันอาทิตย์มันจึงยอมล่าถอยแต่โดยดี ไม่ไหวครับอยู่ใกล้มันแล้วใจเต้นจนแทบวาย ผมขอเว้นระยะพักเหนื่อยหัวใจซักหน่อยก็แล้วกัน
Talk Talk
[/b]
-อัพแล้วค่ะ ช้าไปนิด วันอาทิตย์หยุดงานตื่นมาปั่นบนนี้แต่เช้าเลยนะเนี่ยเพื่อท่านผู้อ่านสุดที่รัก
-ชื่อเรื่องมีการเปลี่ยนแปลงโดยเพิ่มภาษาไทยเข้าไป เพราะมีผู้อ่านที่รักคนนึงแนะนำมาค่ะ แล้วเราก็คิดว่าแบบนั้นเช่นกัน ขอบคุณมากนะค่ะ
-ขอให้สนุกนะค่ะ อีก ไม่เกินสามบทจะเข้าโหมดแฟนตาซีแล้วนะจ้ะ หมดเวลาของรักใสๆ แล้วละ