บทที่ 29.
มหกรรมการสอบมหาโหดได้เริ่มขึ้นแล้วครับท่าน..!! ใครหลายคนกำลังหมกมุ่นอยู่กับการเตรียมตัวอ่านหนังสือ ยิ่งเป็นนักศึกษาปีหนึ่งกับปีที่กำลังจะจบด้วยแล้วก็ยิ่งต้องขยันมากเป็นพิเศษ บางคนต้องเก็บงานส่งให้ครบเพราะเป็นปลายเทอมซึ่งอาจจะมีผลต่อเกรดที่จะออกมาด้วย..
แต่ยังมีอีกเหตุการณ์สำคัญหนึ่งสำหรับใครบางคนที่กำลังเวียนมาบรรจบอีกรอบ ใกล้เข้ามาแล้ววันที่ทำให้สูญเสียคนสำคัญไปแบบไม่มีวันหวนกลับ พร้อมกับได้พบกับใครอีกคนที่สำคัญมากๆในชีวิตตอนนี้ วายุกำลังเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า ช่วงนี้ไม่ได้เข้าบริษัทของพี่พิชเพราะวันที่ขอลาหยุดมาลุยช่วงสอบยังไม่หมด แม้ว่าวันจะเคลื่อนไปบ้างแต่ก็ต้องอาศัยวันว่างที่ยังเหลือกลับไปทำบุญครบรอบวันจากไปของแม่ที่บ้าน
นายแม่บอกว่าสั่งให้คนที่บ้านยายมาทำความสะอาดที่บ้านให้เรียบร้อยแล้ว ส่วนของที่จะเอาไปทำบุญที่วัดค่อยกลับไปจัดเตรียมกันอีกที พอบอกไปว่าเกรงใจ(เพราะเงินเก็บที่ได้มาจากทำงานพิเศษก็ยังมีเหลือ) นายแม่ก็ดุเอาว่า'ลืมไปแล้วรึไง...พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกันไปแล้ว' นั่น...พอโดนสอยด้วยมุขนั้น ไอ้ไวไวก็เถียงไม่ออกจำต้องยอมให้นายแม่จัดการให้ตามที่ต้องการ ส่วนตัวนายแม่เองจะตามลงไปในตอนเช้าของวันทำบุญเลย
ส่วนไอ้สามเกลอที่ดันร้องตามไปด้วยนัดเจอกันครึ่งทาง ให้ไอ้คุณชายเอิงขับรถไปรับ ไม่รู้ว่าจะได้อ่านหนังสือกันไหม แต่พวกมันก็ยืนยันจะตามไปให้ได้ ขืนลองไปขัดซิมันได้ทำการประหารไอ้ไวไวคนนี้แน่...
ก๊อก ก๊อก
"เสร็จรึยัง จะหอบอะไรไปนักหนา" เสียงเคาะประตูสองครั้ง ก่อนที่จะถูกเปิดเข้ามาโดยไม่รอฟังคำอนุญาต ...เฮียนะ!! ถ้าไอ้ไวไวกำลังโป๊อยู่ล่ะ...จะโดดเข้าใส่เลยเชียว แล้วคราวนี้...รับรองว่าไม่มีทางพลาด
"ผมเอาหนังสือไปอ่านด้วย เฮียรับปากว่าจะติวภาษาให้ผมแล้วนะ!!" หนังสือเรียนสองสามเล่มถูกจับยัดรวมไปด้วย อันเนื่องมาจากว่าไอ้ไวไวอ่อนด้อยภาษาอื่นนอกจากภาษาเกิดของตัวเองมากเหอะ แต่ถึงยังไงก็เป็นวิชาหลักที่ต้องเรียนด้วยยังไงก็ปล่อยวางไม่ได้เด็ดขาด
"ค่าจ้างล่ะ!!?" ดูไอ้คุณเฮียทำเป็นยืนพิงขอบประตูแล้วแสยะยิ้ม..ใครไม่เคยเห็นหน้าคนขี้งกมาทางนี้เลยครับท่าน
"หักเอาจาก 3000 ครั้งนั้นได้ไหมอ่ะ นี่ผมยอมทุ่มทุนสุดๆแล้วนะ" หนี้ครั้งเก่าที่ยังขุดเอามาใช้ได้เสมอ แล้วมันก็ได้ผลเสียด้วย...ได้ผลเป็นหน้าแข้งของไอ้คุณเฮียที่ลอยวืดปาดหน้าไปแค่เพียงเฉียดฉิว
"ถ้าอยากตายก็ลองดู!!"
"ขู่กันตลอดอ่ะ ผมล่ะยอมตายมานานละ..ถ้าได้ตายคาอกเฮียอ่ะนะ แว้ก!!! ฮ่าๆ" ไอ้คุณเฮียทำท่าจะสอยหมัดตรงมาที่พุงกะทิ แต่ช้าไปครับท่าน...ไอ้ไวไวอ่านความเคลื่อนไหวได้หมดแล้ว!!(ถ้าไม่จวนตัวล่ะก็นะ..!!)
"นี่อะไร!!?" แล้วสายตาของคนขี้งกก็ไปหยุดอยู่ที่โครงสี่เหลี่ยมที่คลุมทับด้วยผ้าสีขาววางแน่นิ่งอยู่โต๊ะเขียนหนังสือ...
งาน(จะ)เข้าไอ้ไวไวล่ะครับพี่น้อง!!!"แค่งานส่งอาจารย์น่ะ เก็บของเสร็จแล้วไปกันเลยเหอะเฮีย!!" ทำเนียนกริบ...ไอ้ไวไวต้องแกล้งทำเนียนลากข้อมือเฮียออกจากห้อง พยายามไม่สบตาเพราะกลัวว่าจะโดนรู้ทัน ...ไม่ใช่อะไร กลัวว่าโดนเห็น'ความฝัน' ของไอ้ไวไวแล้วเฮียจะเคืองเอานะซิ ไม่ได้หมกมุ่นนะ แค่คิดถึงมากไปก็แค่น้านนนนนน
"งานที่เอาไปทำที่หอไม้ใช่ไหม ยังไม่ได้เห็นเลย ขอดูหน่อยดิ" นายตุลที่ทำท่าจะเอื้อมมือไปกระตุกผ้าคลุมออก แต่ก็โดนเจ้าของภาพรั้งแขนกลับไปเสียก่อน
เจ้าของบ้านหันกลับมาหรี่ตามองไอ้หมีโย่งที่ยืนยิ้มแหยๆให้ บางครั้งก็เหมือนเด็กไม่รู้จักโตจนน่าขำ คิดอะไรอยู่ในใจก็ดันแสดงออกมาทางสีหน้าและแววตาเสียหมด(จริงๆมันมีการกระทำด้วยเหอะ) แล้ว...แบบนี้..แถวบ้านเค้าเรียกว่ามีพิรุธ ยิ่งซ่อนก็ยิ่งอยากเห็น ก็พอมองไอ้คนตัวโตๆ ที่มายืนทำหน้าทำตาปริบๆเหมือนเขินอายแล้วก็อยากจะหัวเราะ...ให้ตายเหอะ!! ส่วนนี้ของมันแหละที่มันน่ารัก..เอ๊ย!! น่าแกล้งเสียยิ่งกว่าอะไร
"อะ..เอาไว้ค่อยกลับมาดูก็ได้ ไปกันเถอะนะ เดี๋ยวไปถึงบ้านค่ำมืดนะเฮีย"
"ค่าจ้างติวหนังสือ!!?" วายุเหลือบมองคนที่กำลังยืนยักคิ้วแล้วแบมือขอ ก่อนจะเหล่ตามองภาพวาดเจ้าปัญหาอย่างปลงตก เพราะขืนให้เห็นตอนนี้มีความเป็นไปได้สองทางคือ..ไม่ติวให้(เพราะไอ้เฮียเขินจัด) กับโดนซ้อม(เพราะไอ้เฮียจะกลบเกลื่อนความเขิน..อีกแหละ) เอาไงดีฟะ!!
"ติดไว้ก่อน ผ่อนจ่ายที่หลังก็ยังทัน เฮียอย่าทำเป็นตาแก่ใจร้อนดิ!! ว้ากกกก...!! ฮ่าๆ" พูดจบไอ้ไวไวก็กระโดดหลบวงสวิงของไอ้คุณเฮียไปด้วย เกือบจะโดนฟรีคิกไปแล้วไง
"สามคนนั้นล่ะ รออยู่แถวไหนจะให้วนรถไปรับไหม..?" วายุส่ายหัวแทนคำตอบ ก่อนจะเดินเข้าไปดันหลังให้ไอ้คุณเฮียที่ยอมอ่อนข้อให้ออกไปนอกห้องอย่างเนียนๆ ..เรื่องอะไรจะให้พวกมันสามตัวไปขัดขวางเวลาที่จะได้อยู่กันสองคนตลอดๆ ขืนให้พวกมันโดยสารไปด้วยมีหวังอยู่ไม่เป็นสุขแน่
"ชายเอิงมันขับรถไปเอง ผมว่าจะให้พักที่บ้านห้องใหญ่ ส่วนไอ้หยกคงต้องไปฝากไว้ที่บ้านคุณยาย" ห้องใหญ่ที่ว่าคงจะหมายถึงห้องของแม่ษา ส่วนหญิงเดี่ยวสุดจะห้าว ยังไงก็มองดูไม่สมควรหากจะให้ไปนอนรวมกับพวกลิงทโมนสามตัว
"อืม..." เสียงรับคำสั้นๆในลำคอ ก่อนที่จะเดินนำออกไปจากบ้าน เดาเอาว่าเรื่องแค่นั้นไม่น่าทำให้ไอ้คุณเฮียหงุดหงิดหรอกมั้ง แต่ช่วงนี้ไอ้ไวไวคงต้องทำตัวดีๆแล้วก็ว่าง่ายๆไว้ก่อน
พอขับรถมาถึงสถานที่นัดพบกันครึ่งทาง ก็เห็นรถของไอ้คุณชายมันจอดรออยู่ก่อนแล้ว โดยมีไอ้หยกที่เปิดกระจกชะโงกหน้าออกมาฉีกยิ้มให้พร้อมกับโบกไม้โบกมือทักทาย แต่ก็ไม่ได้ลงไปคุยกันเพราะตรงนั้นมันข้างทาง แดดตอนเกือบจะเที่ยงวันก็ร้อนใช่เล่น ไอ้คุณเฮียขับรถไปจอดเทียบแล้วเปิดกระจกทักทายสองสามคำก่อนจะออกรถนำขบวน(แค่สองคัน)ไปยังเป้าหมาย
บ้านหลังเดิมที่ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ ถูกทำความสะอาดให้อย่างดีเยี่ยมไม่มีร่องรอยของฝุ่น พวกเศษไม้ หรือแม้จะเป็นพวกวัชพืชก็ยังเตียนโล่งดูร่มรื่นน่าอยู่เหมือนแต่ก่อนไม่มีผิด วายุเปิดประตูลงไปพร้อมกับคว้ากระเป๋าของคนขับรถติดมือลงไปด้วย
"ไวไว..เอาไว้นั่นแหละ เฮียว่าจะกลับไปนอนบ้านยาย" คนที่กำลังหอบหิ้วสัมภาระถึงกับหันมาทำหน้าเหวอ ตาลายคล้ายจะเป็นลม ต่างกับไอ้สามเกลอที่วิ่งเข้าไปสำรวจในบ้านกันอย่างสนุกสนาน(เจ้าของบ้านยืนหมดแรงอยู่นี่เว้ยเฮ้ย!!)
"ทำไมล่ะ เฮีย..งอนผมเหรอ..ใช่ไหมอ่ะ เรื่องรูปใช่รึเปล่า!!?" นายตุลเหลือบมองไอ้หมีหน้าจ๋อยตรงหน้าพร้อมกับถอนหายใจออกมายาวเหยียด ..ไอ้เรื่องตีโพยตีพายคิดเองเออเองในเรื่องไม่เป็นเรื่องนี่แหละที่มันน่าจับมามะเหงกกะโหลกซักทีสองที
"งอนบ้าอะไรเล่า ก็เดี๋ยวน้องหยกต้องไปนอนที่บ้านยายไม่ใช่รึ จะให้เพื่อนเราไปอยู่โน่นคนเดียวรึไง ไอ้นี่!!"
"เออจริงด้วย..ลืม!!" พอนึกตามคำพูดไอ้คุณเฮียขึ้นมาได้วายุก็พอจะเข้าใจ ...เฮียก็เหมือนเป็นเจ้าบ้านยาย ส่วนบ้านนี้ตัวเองก็ต้องอยู่ดูแล แม้ว่าจะห่างกันแค่รั้วเดียว เดินข้ามไปข้ามมาจนปัจจุบันรื้อทิ้งไปแล้ว ถึงยังไงก็ยังอยู่คนละบ้านอยู่ดี ...ไอ้หมีหงอยเลยซิครับงานนี้
นายตุลส่ายหน้ากับตัวเองอย่างปลงๆ ก่อนจะกลับเข้าไปนั่งในรถตามเดิม คงต้องเอาไปจอดที่บ้านยาย ขี้เกียจจะเดินไปเดินมา แล้วที่สำคัญปล่อยให้บรรดาทโมนอยู่ด้วยกันไปก่อน ไม่ได้รำคาญหรอกนะ แต่ขี้เกียจอยู่ให้พวกนั้นเกรงใจ บางครั้งเพื่อนก็มีเรื่องที่ต้องคุยกันแบบเพื่อนที่วัยเดียวกันถึงจะเข้าใจ เรื่องแบบนี้บางทีก็คงต้องทำใจล่ะนะ
"แล้วตอนเย็นอย่าลืมพาน้องหยกไปส่งที่บ้านยายด้วยล่ะ.."
"เฮีย..จะไปจริงๆเหรอ" นายตุลพยักหน้ายืนยันคำตอบเดิมอีกรอบ
"เรื่องติว เอาไว้เริ่มพรุ่งนี้แล้วกัน วันนี้ก็อ่านหนังสือเตรียมตัวกันไปก่อน เอ่อ...ตอนค่ำก็พาเพื่อนไปกินข้าวที่บ้านด้วยล่ะ แล้วค่อยกลับมานอนที่นี่" ไอ้หมีโย่งที่ยืนกอดกระเป๋าสัมภาระตัวเอง พยักหน้ารับอย่างไม่เต็มใจนัก
วายุยืนเหม่อมองรถของไอ้คุณเฮียเคลื่อนออกไปจนลับสายตา(เว่อร์มาก!! แค่เลื่อนไปจอดบ้านข้างๆ) ก่อนจะเดินก้มหน้าคอตกกลับเข้าไปในบ้านของตัวเองที่มีไอ้พวกทโมนสามตัวนั่งรออยู่ก่อนทำตัวเยี่ยงเป็นเจ้าของบ้านเสียเอง
"อ้าว..พี่ตุลล่ะ" ไอ้หยกชะโงกหน้าเข้ามาถามตอนที่เห็นเจ้าของบ้านเดินทำหน้าจ๋อยสนิทเข้ามา วายุชี้มือไปบ้านข้างๆ อย่างสุดเซ็ง หมดกันแผนการที่อุตส่าห์หวังเอาไว้(ว่าจะอ้อนให้นอนห้องเดียวกันซะหน่อย..หมดกัน!!)
"ทำหน้าเหมือนหมาถูกทิ้งเลยดูดิ!!" ดูไอ้คุณชายมันเยาะเย้ย เดี๋ยวก็สั่งอดข้าวเย็นซะหรอกไอ้นี่!!
"ตอนเย็นไปกินข้าวที่บ้านนู้น ป๋าไม้กับไอ้คุณชายเอาของไปเก็บที่ห้อง ส่วนไอ้หยกตอนเย็นไปกินข้าวแล้วก็ค้างที่บ้านโน่นเลย" ไอ้หยกหันมาทำตาวิ้งๆ แล้วยื่นหน้าเข้ามายิ้มเยาะเย้ย,
"นอนห้องเดียวกับพี่ตุลได้ป่ะ..? หึหึ" ดูมันถาม...!! ลูกผู้หญิงตัวจริงนะนั่น
"ฝันเหอะ!!" วายุหันไปผลักหัวเพื่อนออกให้พ้นสายตาอย่างหมั่นไส้จัด
"อย่านะเว้ยไอ้หยก พี่ตุลเขาจะฝันร้ายนึกว่าผีอำ ฮ่าๆ" แหม..อยากจะโดดเข้าไปกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับไอ้คุณป๋าซักทีโทษฐานที่พูดถูกใจที่สุดในสามโลก ไอ้หญิงหยกหันไปค้อนขวับ ก่อนจะทำเป็นเชิดใส่แล้วสะบัดบ๊อบให้อีกที
.
.
หลังจากที่วายุพาทั้งหมดไปกราบแม่เรียบร้อยแล้ว ทั้งหมดก็ใช้เวลาว่างในตอนบ่ายอ่านหนังสือ(เล่มที่เอามาหนุนแทนหมอนแล้วอ่านเอาในฝัน) พอถึงตอนหัวค่ำเจ้าของบ้านก็พาเพื่อนทั้งหมดไปกราบคุณยายพร้อมกับฝากขัง เอ๊ย!!ฝากฝังให้ค้างด้วยหนึ่งคืน..ดูไอ้หยกจะเรียบร้อยดูสมหญิงมากตอนที่อยู่ต่อหน้าผู้หลักผู้ใหญ่ เห็นแล้วอยากจะฝากมันไว้ซักเดือนสองเดือน เผื่อว่าความเป็นหญิงในตัวมันจะถูกปลุกขึ้นมาได้บ้าง
พอกลับมาถึงบ้านวายุก็จัดแจงเตรียมที่นอนให้เพื่อนอีกสองคน แล้วจับมันยัดเข้าห้องก่อนที่ความวุ่นวายจะบังเกิด ยังดีที่ห้องแม่มีทีวีเครื่องเก่าอยู่ด้วย ยังพอจะเปิดให้พวกมันดูโน่นนี่เบนความสนใจ ส่วนตัวเองก็มานั่งเหม่อมองดาว(ออกแนวเพ้อ)อยู่ตรงระเบียง เพราะตอนเย็นที่ไปบ้านยายไม่ได้มีโอกาสได้อยู่กันตามลำพังเลย ไอ้คุณเฮียก็ทำตัวเนียนเกิ๊นนนน จะหันมามองกันซักนิดก็ไม่มี
เสียงถอนหายใจรอบที่เท่าไหร่ก็จำไม่ได้ ก่อนที่วายุจะต้องขมวดคิ้วเข้าหากัน เมื่อเห็นแสงไฟดวงหนึ่งในความมืดลอยข้ามมาจากข้างบ้าน มันขยับขึ้นลงช้าๆเนิบนาบ และมันกำลังลอยเข้ามาใกล้ทุกขณะ วายุค่อยๆขยับตัวอย่างระมัดระวัง เพราะตรงมุมที่ตัวเองนั่งค่อนข้างมืดและลับตาคน พอเห็นเงาตะคุ่มๆนั้นเคลื่อนเข้ามาใกล้..เจ้าของบ้านที่แอบอยู่ก็ได้โอกาสกระโดดเข้าตะครุบตัว
หมับ!!
พลั่ก!!
"โอ๊ย!!"
"ทำบ้าอะไรไอ้เด็กเวร ตกใจหมด!!" ศอกครับพี่น้องเต็มท้องกันเลยทีเดียว กะจะจับโจรแต่ดันโดนซะเอง...
คุณโจรโหดตัวหอม สวมแว่น ใส่เสื้อกล้ามกางเกงเล และชอบทำหน้าโหด แค่เห็นเงาไอ้ไวไวก็จำได้แล้วเหอะ ก็แค่อยากแกล้ง..แต่ดันผิดคิวเล่นเอาจุกจนพูดไม่ออก แต่แค่คิดว่าไอ้คุณเฮียเป็นฝ่ายย่องมาหา..เจ็บแค่นี้ไอ้หมีทนด้ายยยยย
"จับโจรไง ย่องเข้าบ้านคนอื่น อูยยยยย" ไอ้หมีโย่งยังคงยืนตัวงอเอามือกุมท้องตัวเอง เห็นแล้วก็อดสงสารไม่ได้
"สมน้ำหน้า เล่นไม่รู้เรื่อง" ยังดีที่คุณโจรโหดเดินเข้ามาช่วยพยุง ทั้งที่ปากร้ายออกอย่างงั้น
"เฮียมาหาผมเหรอ...ดีใจจัง" วายุเอ่ยถาม..ไม่หวังจะได้คำตอบเพราะรู้แต่แรกอยู่แล้ว แค่เห็นอาการขยับแว่นแล้วเบือนหน้าไปอีกทาง เท่านั้นคนถามก็ยิ้มแก้มแทบปริ
“กลับดีกว่ามั้ง!!” พูดออกไปแบบนั้นแต่ก็เปล่าประโยชน์เพราะไอ้หมีมันคว้าหมับเข้าที่เอวแล้วลากเข้าบ้าน ทำเอาโจรใจกล้าสุดโหดคนเมื่อกี้หน้าร้อนผ่าวอย่างช่วยไม่ได้
“จุ๊ๆ เดี๋ยวไอ้สองคนนั่นมันรู้ตัว” วายุหันมาทำเสียงดุอย่างไม่จริงจังนัก แถมยังคงฉีกยิ้มกว้างไม่เลิก ถ้าทำได้เมื่อกี้คงได้ฟัดแก้มนุ่มให้หนำใจไปแล้ว
แต่...ราตรีนี้ยังอีกยาวไกลเหอะ ไหนๆก็จับโจรได้แล้ว ไอ้ไวไวขอสอบสวนแบบตัวต่อตัวหน่อยล่ะกันนะ...หึหึ =====================
ปวดเฮดดดดดด เบื่อวันจันทร์แง้ๆๆๆๆ
งานแยะ งานเยอะ ทำไรไม่ทัน แอบมาลงเรื่องก่อน
แปะำไว้แค่นี้ก่อนนะ ข้าพเจ้ามึนมากมาย
ขอบคุณเจเจ้ที่ตรวจการบ้านให้...
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม