รักเกิดในแผนกขนส่ง....ภาค โยธิน-บัวลอย ตอน เรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวต้องแยกกัน
โยธิน รวบร่างของคนที่ทำให้คิดถึงเข้ามากอดไว้ในอ้อมแขน กดปลายจมูกซุกไซร้หนัก ๆ ไปที่ซอกคอขาวและคนที่อยู่ในอ้อมแขนก็ทั้งพยายามดิ้น และพยายามจะผลักใบหน้าของโยธินออกห่างให้ได้
“ปล่อยกู ไอ้โยธิน ปล่อยยยยยยยย”
ถามจริง ๆ เถอะ คิดว่าจะปล่อยไปง่าย ๆ หรือไง ใครที่ไหนมันจะยอม มาซะขนาดนี้แล้ว มันนานเกินไปแล้วนะ ที่ไม่ได้เห็นหน้าค่าตา ใจคอจะให้แค่ฟังเสียงไปทุกวันหรือไง แค่นั้นมันพอแล้วเหรอ
โยธินก็เลยต้องทำแบบนี้
หาเรื่องรังแกคนที่ไม่ยอมให้เข้าหาแบบนี้
“อย่ามาดื้อกับผัวนะ อย่ามาดิ้น อย่ามาขัดขืนกับผัวด้วย อืออออ”
ไม่ยอมหยุด และยังระดมปลายจมูกรุกรานที่ข้างแก้มขาวที่เวลานี้ขึ้นสีแดงเรื่อ
ฮัทกำลังโมโหตัวเอง อยากหนีก็อยาก อยากทำร้ายอีกฝ่ายก็อยาก
“โธ่โว้ยยยยยยย ไอ้โยธิน เหี้ยเอ้ยยยย บอกว่าให้ปล่อยไงเล่า ปล่อยกู”
แล้วเชื่อมั้ย ด่าซะขนาดนี้แล้วพี่เชื่อมั้ยครับ น้องบัว
“บอกเท่าไหร่ก็ไม่รู้จักฟัง ถ้าขืนยังดิ้นต่อไปอีกนะ จะลากออกไปข้างนอก และจะโชว์ให้คนทั้งแผนกเห็นให้หมด ว่าพี่ทำอะไรบัวไปบ้าง”
บัว....
พี่......
พี่และบัว....
น้ำเสียงคุ้นเคย คำพูดก็คุ้นเคย ฟังให้ดี ๆ ชัด ๆ แล้วมันเหมือนมากซะจน.....
ไม่ตองเดาไม่ต้องสืบ
“พี่.........โย”
ถูกต้องนะคร้าบบบบบ ความลับแตกซะแล้วเหรอนี่ นึกว่าจะเก็บได้นานกว่านี้ซะอีก แบบนี้ก็แย่น่ะสิ แล้วจะทำยังไงต่อไปดีล่ะทีนี้ กลุ้มใจจังเลย
“ครับ น้องบัว”
ขานรับแบบไม่สะทกสะท้าน และฮัทก็ถึงกับนั่งนิ่งตัวแข็งทื่อ
พี่โย..............พี่โย ที่คุยด้วยทุกวัน พี่....โย ช็อคและอึ้ง อึ้งมากที่รู้ว่าถูกหลอกมานานสองนาน
“มึงหลอกกู ไอ้เหี้ยเอ้ยยยยยยยยยยย”
คราวนี้ยิ่งหนักกว่าเดิม ความรู้สึกโมโหมาพร้อมกับความโกรธแค้น แบบนี้มันยิ่งกว่าถูกทำร้ายให้เจ็บปวด มึงเห็นกูเป็นควายหรือไงถึงได้ทำกับกูแบบนี้ ไอ้เลวโยธิน กูจะฆ่ามึง กูจะฆ่ามึงงงงงง
“มึงหลอกกูไอ้เหี้ย ปล่อยยยยยยยย”
หลอกตอนไหนล่ะ ยังไม่เคยหลอกเลย ทำไมถึงคิดว่าพี่หลอกบัวได้ล่ะ
“ก็แล้วทำไมล่ะ พี่ชื่อโยเย ตอนเด็ก ๆ ที่บ้านก็เรียกแบบนี้ แต่ชื่อจริงของพี่คือโยธิน แล้วบัวอยากจะเรียกพี่ว่าอะไรล่ะครับ หือออออ”
ไม่ใช่แค่กอด แต่ความพยายามในการหอมแก้มของคนที่ยังช็อคจนตาค้างยังคงมีอยู่ตลอดเวลา
ทำได้อย่างใจบ้าง ไม่ได้บ้าง แต่โยธินไม่คิดจะสนใจ
ไม่ไหวแล้ว โอกาสมันไม่ใช่มาง่าย ๆ ทั้งแผนกเขาออกไปกินข้าวกลางวันกันหมด มีอยู่คนเดียวที่ไม่ยอมไป
แล้วใครมันจะยอมปล่อยโอกาสแบบนี้ล่ะ อยู่คนเดียวแบบนี้ แล้วคนทั้งแผนกก็เป็นใจให้ขนาดนี้ เรื่องอะไรจะยอมพลาด
จะให้รอคุยไปหยอดไปทุกวัน มันชักช้าเกินไปแล้ว ไหน ๆ ก็ไหน ๆ บุกเข้าหาเลยดีกว่า
วัดกันไปข้าง จะอะไรยังไงก็ช่าง วัดกันไปเลย ว่าน้องบัวจะเอายังไง จะยอมหรือไม่ยอม จะมีใจให้หรือไม่มีใจให้
ใช่ที่เราคุยกันทุกวันด้วยความสนิทสนมคุ้นเคย และพัฒนาเป็นความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นทุกวัน
แต่โยธินไม่อยากให้ความลับแตกเข้าซักวันแล้วจะพาลมองหน้ากันไม่ติด
เพราะฉะนั้น ถ้าความลับมันจะแตก ก็ให้เป็นฝีมือของตัวเองเถอะ อย่างน้อยจะได้รู้วิธีรับมือและจัดการกับปัญหาล่วงหน้า
ขืนรอให้นานไปกว่านี้ความรู้สึกดีๆ ที่น้องบัวมีให้พี่โยคนนั้นมันยิ่งฝังรากลึก
ถ้าวันหนึ่งน้องบัวเกิดรู้ความจริงขึ้นมา จะยิ่งโมโหหนักกว่าเดิม
ก็เลยเอาแบบนี้ วัดใจกันเลยแบบนี้ รู้เร็วรู้ช้าก็ต้องรู้ ก็รู้ซะตอนนี้เลย โยธินจะได้รู้ว่าจะแก้ปัญหาต่อไปยังไง
“บัวจะมองยังไงมันก็เรื่องของบัว แต่พี่จริงใจ เมื่อพี่จริงใจพี่ก็เลยมาเปิดเผยให้บัวรู้ พี่ไม่เห็นเหตุผลที่จะต้องหลอกบัว ในเมื่อบัวก็ไม่ชอบพี่อยู่แล้ว จะเกลียดเพิ่มอีกซักหน่อยก็ไม่ใช่ปัญหา.......แล้วบัวอย่าอาละวาดพี่ให้มากนักนะ นิลพัทมันอยู่ในมือพี่แล้ว จำเอาไว้ให้ดี”
มึง..............ไอ้โยธิน มึงขู่กู
“ปล่อยกูโว้ยยยยยยยยย ไอ้โยธิน ปล่อยยยยย กูจะฆ่ามึง ไอ้เลว ไอ้เลว ปล่อยกู”
บอกแล้วไงว่าอย่าอาละวาด บอกแล้วไงว่าอย่าดื้อ
“ถ้าบัวเก่งมากนัก เราก็มีอะไรกันอีกรอบที่นี่เลยแล้วกันเอามั้ย เวลาพักเหลือไม่มากด้วย อีกไม่เท่าไหร่ทั้งแผนกก็คงแห่มากันหมด พี่ไม่อายนะบอกก่อน แต่บัวจะอายหรือเปล่าพี่ก็ไม่รู้ บัวจะให้มันเป็นแบบนั้นมั้ย”
ห๊ะ มึงอย่าบ้านะ กูไม่เชื่อมึงหรอก มึงอย่ามาขู่กูซะให้ยากนะไอ้โยธิน
“เออออออออ เอาสิโว้ยยยยยยยย นึกว่ากูจะกลัวมึงเหรอ กูไม่มีทางกลัวหรอก เหี้ยยยยยยย ปล่อย อย่ามาล้วงกูนะไอ้สัด ไอ้โยธิน มึงบ้าไปแล้วหรือไง มึงอย่าบ้านะ กูไม่ยอมมึงหรอกนะโว้ยยย”
ไม่ใช่แค่พูด แต่โยธินจัดการรวบมือทั้งสองข้างของคนที่ดิ้นรนหนีเอาไว้
และนั่งซ้อนอยู่ด้านหลัง กอดรัดร่างกายของคนในอ้อมแขนเอาไว้ทั้งตัว และแม้ว่าอีกฝ่ายจะพยายามดิ้นขนาดไหน
โยธินก็ไม่ยอมปล่อย สุดท้ายก็เลยต้องลงไปนั่งอยู่บนพื้นด้วยกันทั้งสองคน แต่โยธินก็ยังไม่ยอมหยุดการกระทำที่จะรุกรานเอาแต่ใจตัวเอง
“ไอ้เหี้ย แม่งจะเอากันจริง ๆ เหรอวะนั่น”
อำนาจอ้าปากค้าง และน้องพู่ก็ตั้งหน้าตั้งตาแทะข้าวโพดอย่างเอาเป็นเอาตายในระหว่างชมหนังสดที่เหตุการณ์กำลังระทึกมาก เพราะไอ้บัวลอยกับโยธินกำลังฟัดกันนัว และไม่รู้ว่าใครจะเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ
“สวดยอดว่ะ”
ยูกิ ผู้มาร่วมลุ้นระทึกอีกคน ก็ถึงกับเกิดอาการตาค้าง ไม่นึกว่าไอ้คู่นี้มันจะรักกันดุเดือดขนาดนี้
“อาจมีคนสวดยอดกว่าก็ได้นะ”
พี่สุรชาติมองหน้ายูกิแบบยิ้ม ๆ และยูกิก็ต้องรีบเบนสายตาหลบทำเป็นสนใจอยู่กับการมองที่หน้าประตูกระจกที่มองเข้าไปเห็นข้างในได้ชัด และวิเชียรผู้กำกับรายการ ก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ชื่นชมผลงานของตัวเองที่ได้เป็นผู้กำกับให้เกิดเหตุการณ์ระทึกแบบนี้ขึ้น
“เด็ดขาดจริง ๆ เลยว่ะไอ้โยธิน”
หลังคำพูดของวิเชียร
โยธินที่กำลังกอดรัดร่างของฮัทเอาไว้แน่น ก็อมยิ้มน้อย ๆ และเงยหน้าขึ้นมองมองตรงมาที่ประตู ก่อนจะยักคิ้วส่งให้
เพื่อเป็นการบอกว่า..........ผมรู้นะว่าพวกพี่กำลังลุ้นอยู่.......
ถ้าลองปล่อยให้เข้ามาได้ขนาดนี้แล้ว
รับรองเหอะ ไม่ใช่เรื่องปกติแน่ ๆ สงสัยจะว่างกันมาก หาอะไรบ้าๆ บอ ๆ เล่นกัน โดยเฉพาะคุณวิเชียร ที่วางแผนมาเป็นอย่างดี แบบนี้คงเข้าทางไม่น้อย
นี่คงจะรอให้อารมณ์ของคนในห้องไปไกลสุดกู่แล้วก็ค่อยเข้ามาตลบหลังสินะ
ทำแบบนี้ มันยิ่งทำให้บัวลอยดิ้นไม่หลุด
และคนที่ได้เปรียบจริง ๆ ก็เป็นโยธิน ที่ไม่คิดว่าตัวเองจะต้องอับอายกับเรื่องแบบนี้
“เหี้ย รู้ตัวเร็วชิบหายเลยว่ะ แม่งเซ็งจริงๆ”
บ่นออกมาอย่างหัวเสีย และวิเชียรก็เลยต้องจำใจเดินไปที่หน้าประตูห้องพักพนักงานและผลักประตูเข้าไปหา และไปยืนหน้าบึ้งอยู่ตรงหน้าของคู่รักคู่แค้นที่กำลังทั้งฟัดทั้งจิกทึ้งกันนัวเนีย
“โอ้ยยยยยยยยยย อย่ากัดพี่นะบัว หยุดกัดเดี๋ยวนี้โอ้ยยยยย ช่วยด้วยพี่วิเชียร น้องบัวมันกัดผม ทำไมพี่เข้ามาช้าจังเลยวะ น้องบัวมันกัดผมจนแขนผมจะขาดแล้วคร้าบบบบ”
สมน้ำหน้ามึง
“มึงกัดมันให้แขนขาดเลยบัวลอย กูจะช่วยเชียร์อยู่ตรงนี้แหละ”
ไม่ช่วยแล้วแถมยังส่งเสริมด้วยซ้ำ
และฮัทที่มีคนส่งเสริมก็ยิ่งลงมือหนักกว่าเดิมเข้าไปใหญ่
“โอ้ยยยยยยยยย อย่ากัดพี่ บัว ถ้าบัวกัดพี่อีกพี่จะหอมแก้มบัว แล้วพี่จะจูบบัวด้วยแล้วพี่ก็จะปล้ำบัวด้วยนะโว้ยยย โอ้ยยยยพอแล้ว บัว พอแล้วววว”
สู้ไม่ได้ก็พยายามจะใช้ฟันทั้งกัดทั้งงับไปที่แขนของโยธินที่ยังคงกอดแน่นไม่ยอมปล่อย
“อีกสิบนาทีจะหมดเวลาพัก อยากจัดการยังไงก็จัดการเร็วเข้าบัวลอย พี่จะเป็นกำลังใจให้”
ทำไมพูดแบบนี้ล่ะ ทำไมถึงพูดแบบนี้ล่ะคุณวิเชียรครับ เปิดโอกาสให้เพื่อจะให้ผมโดนน้องบัวทำร้ายจนปางตายแบบนี้เหรอ
ร้ายกาจชะมัด
สมแล้วที่เป็นคุณวิเชียร ยืมมือน้องบัวทำร้ายผมแบบเนียน ๆ แบบนี้ไม่สงสารน้องเขยอย่างผมบ้างเลยหรือไง
“ตายห่ายังวะ”
วิโรจน์เดินเข้ามาสมทบ และไปนั่งอยู่บนโต๊ะ หยิบถั่วต้มออกมาแกะเปลือกและโยนเม็ดถั่วเข้าปาก
นั่งมองกิจกรรมของไอ้เซลหมายเลขหนึ่งกับเด็กใหม่แผนกขนส่งแล้วก็รู้สึกสนุกสนานเพลิดเพลินดีพิลึก
“มึงกัดแค่นั้น มันไม่ตายหรอกบัวลอย มึงต้องพยายามกัดหูมันให้ได้ เอาแบบไมค์ ไทสันไง กัดหูแม่งให้ขาดเลย”
ยุยงส่งเสริม
และบัวลอยก็พยายามจะทำอย่างที่ถูกยุจริง ๆ
“พี่โรจน์...ถึงพี่อ้นจะสั่งมา แต่พี่ก็ควรสงสารผมบ้าง นี่คนนะไม่ใช่กระท้อนถึงจะให้น้องบัวมันทุบให้เละ พวกพี่ช่วยห้ามน้องบัวมันหน่อยสิคร้าบบบบบบบบบ”
แล้วทำไมกูต้องห้ามด้วยวะ
วิโรจน์หันไปมองหน้าวิเชียรเหมือนเป็นคำถาม และวิเชียรก็ยักไหล่แสดงให้รู้ว่าไม่คิดจะสนใจเรื่องนี้เหมือนกัน
“ทำงานดีกว่าว่ะ ถ้าไอ้โยธินแม่งหูไม่ขาดมึงไม่ต้องรีบออกมานะบัวลอย เดี๋ยวพี่ไปนั่งรอข้างนอกก่อน”
วิโรจน์แสยะยิ้มน้อย ๆ และไม่มีความคิดเห็นกับสถานการณ์ตรงหน้า
“ไปแล้วเหรอวะโรจน์ เดี๋ยวกูฝากดูของให้แป๊บหนึ่งด้วย เดี๋ยวตามไป ดูไอ้สองตัวนี่ฟัดกันก่อน กำลังเพลินเลย”
ขาเสือกอย่างวิเชียรมีหรือจะพลาดช็อตเด็ด
ขึ้นไปนั่งอยู่บนโต๊ะและช่วยลุ้นว่าเหตุการณ์จะเป็นยังไงต่อไป
โยธินกอดร่างที่พยายามดิ้นรนหนีออกจากอ้อมแขนเอาไว้แน่น และฮัทก็พยายามทุกวิถีทางที่จะกัดโยธินให้ได้
“โอ้ยยยยยยย เป็นหมาหรือไงวะ จะงับให้ตายจริง ๆ หรือไง เดี๋ยวกูงับบ้างหรอกวะ เอาตรงต้นคอนี่เลยมั้ย รอยจะได้ชัด ๆ”
ไม่ได้ขู่ แต่โยธินทำอย่างที่พูดจริง ๆ และเมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมเลิก ไม่ยอมหยุดดิ้นโยธินก็เลยก้มลงไปทำสิ่งที่ควรทำต่อหน้าวิเชียรที่นั่งมอง ฝังปลายจมูกลงไปหนักๆ ที่ซอกคอของพนักงานใหม่แผนกขนส่ง
ฝังรอยฟันลงไปที่ซอกคอขาว ตั้งใจให้รอยนี้อยู่ไปได้อีกหลาย ๆ วัน และฮัทที่ตั้งใจจะกัดแขนโยธินให้ได้ ก็ถึงกับนิ่งอึ้ง และทำอะไรต่อไปไม่ได้ นอกจากแหกปากร้องลั่นออกมาด้วยความเจ็บ
“โอ้ยยยยยยยย เหี้ย กูเจ็บ ไอ้โยธิน ปล่อยกู”
พอทีนี้ล่ะมาร้องว่าเจ็บ ทีกัดพี่ไม่เห็นพูด กัดเอา กัดเอาทำอย่างกับพี่ไม่เจ็บอย่างนั้นแหละ
“เฮ้ย พวกมึงว่างงานกันมากนักหรือไงวะ ถึงมาทำอะไรเพ้อเจ้อบ้าบอแถวนี้ มึงนี่ยังไงโยธิน เป็นเซลหมายเลขหนึ่งของแผนกขายไม่ใช่เหรอ มึงก็เลยว่างงานมากมีเวลามาหาเรื่องเด็กแผนกกู แล้วไอ้บัวมึงเป็นอะไร พูดกับมันดี ๆ ว่าปล่อยเถอะจะไปทำงานแล้ว มันก็จบ กูอยากรู้นักว่าใครมันจะบ้าไม่ปล่อยมึงกูจะได้จัดการให้ มึงอีกคนวิเชียร สนุกนักนะ สนุกนัก อย่าให้กูต้องด่านะไอ้พวกเหี้ย”
พี่บุ้งด่ามาเต็มเหนี่ยวแล้วแหละวะ ไม่ต้องบอกว่าอย่าให้ด่าเหอะ เล่นด่ามาซะเละเทะขนาดนี้แล้ว