...>.<…My Valentine‘s day…>.<…
เช้าวันใหม่เริ่มต้นขึ้น ผม...นายปฏิพัทธ์ ลุกขึ้นมาจากที่นอนก่อนจะยิ้มสดใสแข่งกับดวงตะวัน จะไม่ให้อารมณ์ดีแต่เช้าได้อย่างไรในเมื่อวันนี้คือ...วันแห่งความรัก
ผมใช้ปลายนิ้วมือเกลี่ยไปตามผิวแก้มสากจากไรหนวดของคนที่ยังหลับใหลอยู่ มือใหญ่ปัดมือผมออก คิ้วหนาเข้มขมวดมุ่นบ่งบอกอารมณ์ว่ากำลังรำคาญถึงขีดสุดก่อนจะค่อยๆปรือตาขึ้นมอง ทันทีที่เห็นผมส่งยิ้มให้ก็เอ่ยถาม
“เช้านี้กินยาลืมเขย่าขวดเหรอ”
...หมดกัน วาเลนไทน์ที่แสนจะโรแมนติก...
“วันนี้วันอะไรเอ่ย?”
ผมเอ่ยถามเขาทำหน้าตางุนงงก่อนจะเอื้อมมือมาแตะหน้าผากผม
“อืม...ไข้ก็ไม่มีนี่นา วันนี้ผิดปกติแฮะ”
เมื่อหมดอารมณ์ผมจึงลุกขึ้นจากเตียง เตรียมตัวอาบน้ำแต่งตัวไปทำงาน
ป่วยการ...ที่จะให้คนซื่อๆบื้อๆทื่อๆอย่างนั้นมาเซอร์ไพร์อะไรที่หวานแหววโรแมนติกให้
“ทื่อจริงๆ”
“มีดในครัวเหรอ เดี๋ยวจะเอาไปลับให้”
ช่วยเอาตัวเองไปลับก่อนเถอะ!!! หัวจะได้แหลมๆคิดอะไรออกซะบ้าง ผมทนคบกับคนแบบนี้มาเกือบ 10 ปีได้อย่างไรกัน ให้ตายสิ!!!
เมื่อผมเดินออกมาจากห้องน้ำก็เห็นคนตัวโตยืนทำอาหารเช้าพร้อมกับฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีจนน่าหมั่นไส้ เห็นแล้วอยากจะขว้างกะหล่ำปลีไม่ก็มะเขือเทศใส่หน้าหล่อๆนั่นสักครั้ง
“เมื่อกี๊ยังยิ้มอยู่เลย ไหงอยู่ๆหน้าบูดล่ะ”
“หงุดหงิด น้ำตาลในเลือดต่ำ”
พูดไม่ทันขาดคำน้ำหวานก็ถูกเทใส่แก้วแล้วตั้งให้ต่อหน้าก่อน
“ดื่มซะนะจะได้ไม่หงุดหงิด”
มือใหญ่ลูบเรือนผมพร้อมส่งยิ้มให้อย่างเอ็นดูราวกับผมเป็นเด็กตัวน้อยๆก็ไม่ปาน
ไอ้ทื่อเอ๊ย!!! ฉันเปรียบเทียบว่าอยากให้หวานเหมือนคู่อื่นเขาบ้าง ไม่ได้อยากได้น้ำตาลจริงๆ...
อยู่ๆเสียงโทรศัพท์มือถือของคนตัวโตก็ดังขึ้น รอยยิ้มกว้างผุดขึ้นบนใบหน้าคมเข้ม นัยน์ตาสีเข้มเป็นประกายเสียจนเขานึกหมั่นไส้คนโทรมา
...ถ้ารู้ว่าเป็นชะนี พ่อจะไล่กลับไปอยู่ป่าเสียนี่...
เขาเดินไปหามุมสงบเงียบก่อนจะกระซิบกระซาบพูดคุยยิ่งทำให้ผมสงสัยเข้าไปใหญ่ อย่าบอกนะว่า...ผมกำลังจะถูกทิ้งในวันวาเลนไทน์ ไม่น๊า!!! อย่าทำร้ายกันแบบนี้
หลังจากเขาวางสายผมก็ตรงเข้าไปถามทันทีด้วยความอยากรู้
“ใคร? ทำไมต้องกระซิบกระซาบคุยกันด้วย”
“ลูกค้าน่ะ”
ผมเหล่ตามองอย่างไม่เชื่อแต่ก็ทำเป็นเฉยๆเพราะไม่อยากให้มันกลายเป็นเรื่องใหญ่ เดี๋ยวจะไม่จบแล้วจะกลายเป็นโศกนาฏกรรมรับวันแห่งความรัก
“อย่าให้รู้นะว่านอกใจ”
เขาส่ายหัวก่อนจะอมยิ้มน้อยๆพร้อมกับฮัมเพลงต่อ
“เย็นนี้เลิกงานกี่โมง”
ผมเอ่ยถามด้วยความอยากรู้ วันนี้วันวาเลนไทน์ทั้งทีผมก็อยากจะแสดงความรักที่มีต่อเขาบ้าง แม้เจ้าตัวจะซื่อบื้อไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรก็ตาม
“กลับดึกหน่อยน่ะ มีนัดกับลูกค้า”
นั่น...มีพิรุธ
“ลูกค้าผู้หญิงหรือผู้ชาย โสด มีแฟนหรือแต่งงานแล้วหรือยัง”
“กระผมจะไปทราบได้อย่างไรล่ะขอรับ ว่าเธออยู่สถานะไหน”
“เธอ ? แสดงว่าผู้หญิง”
“พัทก็รู้นี่ว่าผมไม่สนผู้หญิง เป็นลูกค้าผู้ชายก็ว่าไปอย่าง”
“อย่ามากวนโมโหนะ ฉันจริงจัง”
“ไม่เอาน่า...จะหงุดหงิดไปทำไม”
เลือดในตัวเดือดปุดๆจึงเดินเลี่ยงออกมา รู้ว่าผมขี้หึงแต่ก็ยังชอบเย้าแหย่ทุกครั้งไป คอยดูเถอะ!!! ระเบิดเวลาที่ฝังอยู่ในตัวผมระเบิดขึ้นมาเมื่อไหร่ล่ะก็...ได้เซย์กู๊ดบายกันแน่
“กินอะไรก่อนสิ”
เขาเอ่ยบอกเมื่อเห็นผมยืนใส่รองเท้าอยู่ที่หน้าประตูห้อง
“ไม่...อิ่มแล้ว”
ผมตอบประชดประชันส่งเดชก่อนจะเอื้อมมือหยิบกระเป๋า
“ตั้งใจทำงานนะ คืนนี้เจอกัน”
“ซี...วันนี้วันอะไร”
คนตัวโตหัวเราะก่อนจะส่งยิ้มกว้างจนเห็นลุกยิ้มที่ที่สองมุมแก้ม
“ถามเป็นรอบที่ 2 แล้วนะ วันนี้ก็วันจันทร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2554 ไงล่ะ มีอะไรเหรอ”
“ทื่อจริงๆให้ตายสิ”
ผมเอ่ยก่อนจะเปิดประตูออกจากห้องแล้วปิดลงดังโครมใหญ่ ถ้าเขาเป็นผู้หญิงล่ะก็...จะกรี๊ดระบายอารมณ์มันเสียเดี๋ยวนี้เลย
บอกเลิกแล้วหาคนใหม่ตอนนี้ยังทันไหมเนี่ย
ตั้งแต่เช้าจนถึงเวลาพักเที่ยง ผมต้องทนมองกุหลาบช่อโต ตุ๊กตาหมี ช็อคโกแลต ตลอดจนสีแดง สีชมพูที่อยู่รอบตัวมิหน้ำซ้ำยังคนคู่ที่เดินจับมือควงกันไปไหนมาไหนอีก แล้วก็ทอดถอนใจย้อนกลับมามองดูตัวเอง
สงสัยชาติก่อนผมลืมถวายของหวาน มีแฟน มีคู่ ถึงได้จืดชืดเสียยิ่งกว่ารสชาติของแป้งมัน
เวลาล่วงเลยมาจนถึงยามเย็น ผมไม่มีอะไรทำเป็นพิเศษก็เลยนั่งหายใจทิ้งไปเรื่อยๆก่อนโทรศัพท์มือถือจะดังขึ้นบ่งบอกว่ามีข้อวามเข้า เมื่อเปิดก็พบว่าเป็นไฟล์วีดีโอไฟล์หนึ่ง ทันทีที่กดปุ่มเล่นวีดีโอโทสะในตัวก็ปะทุขึ้นมาทันที
ผมปิดคลิปก่อนจะโทรหานักแสดงนำในคลิปนั้นแต่ปรากฏว่าติดต่อไม่ได้ ด้วยความหึงหวงที่มีอยู่เต็มเปี่ยมผลักดันให้ผมรีบไปยังร้านอาหารที่คุ้นตาทันที
...กล้ามาก จับมือถือแขนกับยัยชะนีหลงป่า ในร้านที่เคยเอ่ยปากขอคบกับผม...