อื้อฮือ เสี่ยแม่ยกเธอเยอะนะยะ อะไรกัน โดนไปนิด ๆ หน่อย ๆ เอง
ตอนน้องปลื้มเธอทิ้งไว้คอนโดเพื่อไปซั่มสาว จำไม่ได้เหรอ
คนนี้เพิ่งได้ ต้องเอาใจหน่อยยังไงล่ะ ... เอาน่า แบบนี้ก็ถือว่าดีแล้วระ
มีพัฒนาการ แต่อาจไม่ทันใจสำหรับผู้ต้องการความหวาน
ของอะไรที่ได้มายาก ๆ มันจะสำคัญมาก ๆ ๆ น้องปลื้มคงซาบซึ้งกับคำว่าของตายมาแล้ว
เห็นใจน้องหน่อยเถอะน่า เป็นใครก็ต้องระวังระแวงแคลงใจกันทั้งนั้นแหละ
ส่วนเกล ตอนหน้าตัดไปเลยได้ป่ะ เริ่มเยอะละ ๆ ไม่แนว ๆ
ใช่ๆๆ เห็นด้วยยยยย
คือเราก็เห็นใจเสี่ยอยู่บ้างนะ แต่ก็ไม่ได้ระคายต่อมอารมณ์สงสารอะไรเท่าที่ควรจะเป็นอ่ะ
คือยังไงล่ะ ส่วนที่น้องปลื้มใจร้าย ปล่อยให้รอไม่โทรบอก ตัดสินอีกฝ่ายผิดๆ หรืออย่างอื่นต่างๆนานามันก็ใจร้ายจริงนะ
มันเหมือนไม่ใส่ใจอีกฝ่ายเลย จนอีกคนต้องตัดพ้อออกมาอย่างนั้น นั่นก็ส่วนนึง แต่เรากลับไม่สงสารเสี่ยเท่าไหร่
ถ้านับเฉพาะหลังจากน้องเปิดโอกาสแง้มๆให้เสี่ยแล้ว ไม่นับตอนน้องหายตัวไป สิ่งที่เสี่ยเจอนี่มันยังจิ๊บจ๊อยน่ะ
แหม ก็อาจจะเพราะพอนึกๆถึงสิ่งที่เสี่ยเธอเคยกระทำระยำไว้สมัยก่อน ความสงสารมันมุดกลับหายหูดตูดชี้ไปหมดเลย กร๊ากกก
ไม่ใช่ว่าให้อภัยไม่ได้หรือแค้นฝังหุ่นขนาดนั้น แต่คนมันมีบทเรียนมันก็มีระแวงบ้างล่ะ
หรือจะเรียกว่าเป็นความรู้สึก-บุคลิกที่เปลี่ยนไปของน้องปลื้มดีหว่า
ก็นะ น้องปลื้มมันก็ไม่ได้มาอ่านเล้าเป็ด หรือมาอ่านมุมมองของเสี่ย มาอ่านมุมมองของเปรม
ที่จะทำให้รู้ในอีกด้านว่าใครคิดอะไรยังไง เจออะไรบ้าง ต้องผ่านช่วงเลวร้ายมาเหมือนที่พวกเรารู้ จนน้องมีความเชื่อมั่นได้
ถ้าลองคิดว่าเราเป็นน้อง แล้วปิดมุมมองที่เราคนอ่านได้รู้กัน มองแบบที่น้องมอง เราก็คงระวังตัวอยู่มากนะ แบบรีๆรอๆขอดูไปก่อน
แต่เอาจริงๆขนาดว่าเราอ่านในมุมมองน้องแล้ว เราก็ยังรู้สึกเหมือนอยู่ในเมฆหมอกอยู่เลย
คือบางทีก็ไม่เข้าใจว่าน้องคิดยังไงกันแน่ ทำไปเพื่ออะไร อย่างไร บลาๆ