【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ ราชันพันธนาการ ♰ ตำนานเทพีจันทร์ แจ้งข่าวหน้า 35
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ ราชันพันธนาการ ♰ ตำนานเทพีจันทร์ แจ้งข่าวหน้า 35  (อ่าน 233873 ครั้ง)

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
น้องไม่ไหวล้าวววจิมๆ

ออฟไลน์ ILLREI

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-0
    • ILLREI
บทที่ 26 : เงาอาดูร (1)

เจย์ทำตัวสงบเสงี่ยมเรียบร้อยในห้องรับรอง บางครั้งก็เล่นเกมสบตากับอัศวินสตรีที่ได้รับหน้าที่ให้เฝ้าเขาในแต่ละกะ อย่างกะนี้เป็นสตรีผมสีเขียวดุจใบไม้แรกผลิ พูดตามตรงว่าเจย์หายใจหายคอสะดวกขึ้นเพราะได้นางมาเปลี่ยนกะจากสตรีผมดำ รายนั้นจ้องเขาเขม็งแทบไม่กะพริบตา จนนึกว่าอยู่กับรูปปั้นเสียแล้ว

เวเรด้ากำลังพิจารณาตุ้มหูของตนอย่างใจลอย อัญมณีสีฟ้านี้ได้รับมาจากท่านหญิงเอริแอดเน่ เวลานี้จามิลลาเป็นตายร้ายดีอย่างไรไม่มีใครทราบ แต่นางสวมตุ้มหูของท่านหญิงเช่นกัน หากจะมีใครสักคนใช้เวทมนตร์ระบุตำแหน่งของจามิลลาได้ ก็ต้องเป็นจอมเวทผู้ประดิษฐ์ตุ้มหูเวทมนตร์คู่นั้น

เจย์กระแอมเบาๆ ครั้งแรกนางไม่ได้ยิน เขาจึงกระแอมดังขึ้นเหมือนไอโขลกๆ พอเรียกความสนใจจากผู้คุมได้ โจรหนุ่มก็เอ่ยว่า

“จริงๆ แล้วข้าค่อนข้างรีบ” เจย์เผยยิ้มให้นางอย่างเป็นมิตร

เวเรด้ามองบุรุษที่ท่านหญิงเอริแอดเน่ให้ความไว้ใจ ที่จริงนางเป็นคนมีนิสัยเป็นมิตร เข้าถึงง่าย และน่าคบหากว่านี้ ทว่าหลังเกิดเรื่องกับท่านหญิงในคืนวิวาห์กับราชาเฟรธูริน นางลงโทษตัวเองอย่างจริงจังและเข้มงวดจนกลายเป็นจามิลลาอีกคน

“ข้าเป็นห่วง...โรสเวน” เจย์พูดคำว่าโรสเวนอย่างระมัดระวัง เนื่องเพราะเขาเรียนรู้ว่าสถานการณ์ซึ่งมี ‘ท่านหญิงเอริแอดเน่สองคน’ ไม่ใช่แค่อันตรายธรรมดา แต่อันตรายอย่างยิ่ง

เวเรด้ายังไม่ทันตอบอะไร ตุ้มหูในมือนางก็ร่วงหลุดจากนิ้ว ตัวอัญมณีมีรอยร้าวอยู่แล้วจากการต่อสู้กับหน่วยกาลาฮานที่เมืองโรสมินาส ทว่าเวเรด้าไม่คิดว่ามันจะแตกออกแค่ตกลงบนพื้นห้อง

อัญมณีรูปหยดน้ำสีฟ้าที่แตกเป็นสองเสี่ยงทำให้เวเรด้าสังหรณ์ร้าย

ปึง! ประตูถูกเปิดออก ท่านหญิงเอริแอดเน่ที่เจย์มาพบเป็นคนเปิดอย่างรีบร้อนด้วยตัวเองนาง สีหน้าของนางเคร่งเครียด “เรามีข่าวไม่สู้ดี” นางบอกเวเรด้าและหันมองเจย์

ก่อนหน้านี้ที่เจย์ถามนางว่า

 

“ข้าเคยบังอาจตั้งชื่อให้ท่าน ชื่อนั้นคืออะไร”

 

นางตอบกลับอย่างสงบนิ่ง

 

“เรื่องนั้นข้าไม่ทราบดอก คนที่ส่งท่านมา คนที่ท่านอ้างว่าตั้งชื่อให้ ข้ากับนางเป็นคนละคน”

 

เจย์ผุดลุกขึ้น ใจเต้นถี่รัวกับคำว่า ‘ข่าวไม่สู้ดี’ จะมีข่าวอะไรที่นางยอมเปิดเผยต่อหน้าคนแปลกหน้าเช่นเขา หากไม่ใช่ข่าวที่เขาเกี่ยวข้องด้วย...เวลานี้เขาไพล่นึกถึงไนติงเกล

“ข่าวอะไรขอรับ” เจย์ถามอย่างร้อนใจเมื่อนางไม่เอ่ยเสียที

“ราชามงกุฎดำ” ท่านหญิงเอริแอดเน่คนนี้เอ่ย ในยามที่นางเอ่ยชื่อนั้น สีหน้าของนางไม่เหมือนไนติงเกลของเจย์ ไม่มีแววร้าวลึกในดวงตา แต่เป็นการเอ่ยถึงสิ่งที่มาพร้อมกับคำสัญญาแห่งการลงทัณฑ์และไม่อาจให้อภัยอย่างเย็นชา

เวเรด้าพุ่งมา ใช้แขนกระแทกคอเจย์ ตรึงเขาเข้ากับกำแพง “พูดมา!” นางตะคอก ดุดัน “เจ้าจะเล่ามาทั้งหมด หรือให้ข้ารีดเจ้าอย่างทรมานที่สุด ก่อนที่เจ้าจะเล่ามาทั้งหมดเช่นกัน!”

เจย์ยกมือขึ้นเป็นเชิงยอมและให้นางใจเย็นๆ เขาละสายตาจากสตรีผู้โกรธเกรี้ยวตรงหน้าและหันไปทางสตรีในชุดสีแดงสดผู้เยือกเย็นกว่า

“โรสเวนปลุกชีพให้กษัตริย์เอลฟ์ผู้หนึ่ง นางเรียกท่านว่า ‘ริวอร์นอร์’ ”

เมื่อได้ฟัง เวเรด้าถึงกับทรุดตัวลง สองมือยันตัวเองอยู่บนพื้น นัยน์ตาสีเขียวอ่อนเบิกกว้าง ไม่จับภาพใดๆ “ท่านหญิง...” นางพึมพำ

สีหน้าของสตรีชุดแดงแข็งเหมือนหินอ่อน

จากปฏิกิริยาของเวเรด้า เจย์เริ่มเข้าใจอะไรบางอย่างที่สำคัญมาก เช่น...ไนติงเกลเป็นท่านหญิงเอริแอดเน่ตัวจริง ไม่ใช่นางเอลฟ์ที่อยู่ตรงหน้า

“ไม่ใช่” นางเอลฟ์ในชุดแดงกล่าว สองมือกุมเข้าหากันอย่างแน่นหนา คล้ายนางกำลังปลุกปลอบใจตนเอง

“ข้ามีคำแนะนำ ท่านหญิงเอริแอดเน่” เจย์เลิกใช้คำศัพท์รุงรังในเวลาที่ร้อนใจอย่างถึงที่สุด “นี่ไม่ใช่เวลาปฏิเสธความจริง ข้าเห็นมากับตา และถ้ามันสำคัญมากขนาดทำให้นักรบเข่าอ่อนได้ ข้าว่าต้องรีบทำอะไรสักอย่างแล้ว”

“ไม่ใช่” นางทวนคำ มอบรอยยิ้มเปราะบางให้เจย์ สีหน้าคล้ายไนติงเกลตอนที่จุมพิตหน้าผากของเขา พวกนางเหมือนกันจริงๆ เพียงแต่คราวนี้เอริแอดเน่ ‘คนนี้’ มีน้ำตาคลอ “ท่านไม่เข้าใจหรือ ข้ากำลังบอกว่านางไม่ใช่โรสเวน ‘ข้า’ คือโรสเวน”

“ชี่!” เจย์แทบกระโจนไปอุดปากนาง “มารดาเจ้าไม่เคยบอกหรือว่ามีหูมีตาอยู่ทุกที่ อย่าร้องไห้ ฮึบไว้ก่อนแล้วทำอะไรสักอย่าง ข้าจะรีบกลับไปดูนาง นั่นคือสิ่งที่ข้าทำได้”

น้ำตาร้อนๆ ของนางเอลฟ์ที่เพิ่งยอมรับว่าตนเองคือ ‘โรสเวน’ ไหลออกมา ทว่าเป็นเวเรด้าที่เอ่ยสิ่งที่อยู่ในใจของนาง

“ท่านหญิงเคยสาบานว่าจะไม่อยู่ร่วมโลกกับคิงริวอร์นอร์ หากเขากลับมา แปลว่านางคิดละทิ้งชีวิตจริง”

---------------------------------------

ณ โรงเตี๊ยมเล็กๆ แต่หรูหราแห่งหนึ่ง ชานเมืองทิลบ็อต ใกล้หุบผาพฤกษาทองคำ

ริวอร์นอร์มีสีหน้าเคร่งเครียด นัยน์ตาสีดำนั้นดุดันจนสามารถฆ่าคนได้เพียงจ้องมอง เขาคาดการณ์ว่า พอรถม้าเข้ามายังเขตเมืองแล้ว เหล่าอัศวินคนสนิทของเอริแอดเน่จะทราบเรื่องและรุดมาตรวจสอบด้วยตัวเองทันที แต่เวลาผ่านไปจนถึงกลางคืนยังไม่มีความเคลื่อนไหว ทำให้ทราบว่าเอริแอดเน่ไม่ได้ติดต่อบริวารของนาง เขาจึงส่งทหารผู้จงรักภักดีไปสืบสถานการณ์ในเมืองหลวงซิลเซเลียนแทน พบว่าที่อิซิลดาร์กลับมีท่านหญิงเอริแอดเน่อีกคนหนึ่ง

ช่างลึกลับซับซ้อนสมเป็นแผ่นดินแห่งอสรพิษสตรีเสียจริง

เวลานี้ ริวอร์นอร์รอฟังอาการของเอริแอดเน่ตรงระเบียงห้องของโรงเตี๊ยม อดีตราชาเอลฟ์บีบราวไม้จนแทบแตกคามือ หมอ...หรือควรเรียกว่า ‘แม่มด’ สั่งห้ามไม่ให้เขาขัดการรักษาของนาง โดยให้เขารออยู่ด้านนอก--อยู่ตรงระเบียงนี้ ส่วนนางอยู่กับเอริแอดเน่เพียงลำพังด้านใน ประตูและหน้าต่างถูกหับปิดทุกบาน มีแค่กลิ่นฟืนผสมกลิ่นสมุนไพรฉุนจัด และเสียงร่ายเวทแปลกประหลาดลอดออกมาเท่านั้น

กล่าวถึงแม่มด ริวอร์นอร์สั่งให้ทหารคนสนิทเรียกนางมาตั้งแต่อยู่บนรถม้า ถึงขั้นกล้าฝากคำไปขู่นางว่า

 

“หากราชินีของเราหมดลมหายใจก่อนเจ้ามาถึง เราจะทำให้แน่ใจว่าลมหายใจสุดท้ายของนางเป็นลมหายใจสุดท้ายของเจ้าเช่นกัน”

 

โดยปกติไม่มีใครกล้าขู่แม่มด มีแต่คนโง่และคนเสียสติเท่านั้นละที่จะทำ ริวอร์นอร์ไม่ใช่ทั้งสองกรณี เขามีสายสัมพันธ์อันดีกับนาง และ...ความจริงแล้วนางก็ชอบให้เขาขู่

 

ย้อนไปก่อนหน้านี้ หลังได้รับสารจากทหารของริวอร์นอร์ แม่มดก็รุดมาด้วยความเร็วยิ่งกว่าพายุ นางขึ้นรถม้าระหว่างทางถึงเมือง ปิดปากตัวเองเมื่อพบว่าราชามงกุฎดำกลับมาแล้ว มือแบบบางของนางกอบใบหน้าแข็งกร้าวดุดันของเขาไว้ ใจของนางสั่นระรัวเมื่อราชาของนางไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้ เขาสลบไสลทั้งเลือดกบปาก ไม่พอ...รอบลำคอยังมีอนุสรณ์แห่งความตายพาดอยู่ด้วย แม่มดหันขวับไปยังตัวการที่แทบไร้ลมหายใจอยู่ข้างๆ ใจหนึ่งอยากให้มันตาย แต่อีกใจหนึ่งก็บูชามันเหลือเกิน

ท่านหญิงเอริแอดเน่...ท่านหญิงใจแกร่ง ตัวแทนของสตรีแห่งอิซิลดาร์ นางผู้นำความรุ่งโรจน์มาสู่แผ่นดินเกิดด้วยการนำชัยเหนือสงครามสองร้อยปีกับจอมทัพทมิฬ

แต่ท่านหญิงก็ตัดคอผู้ชายของข้า…

นางแม่มดถอนใจหนักๆ ก่อนละมือจากราชามงกุฎดำมายังท่านหญิงโฉมงาม นางใช้สองมือกุมบริเวณขมับของท่านหญิง แล้วโน้มหน้าผากจรดหน้าผาก นางเริ่มบริกรรมคาถาด้วยภาษาของพวกนอกรีต ซึ่งผสมปนเปด้วยภาษาเอลฟ์และดาร์กเอลฟ์ มาจากภาษาเก่าแก่ของพวกเอลฟ์ทางใต้บ้าง ทางตะวันออกบ้าง และทางแดนทมิฬ คาถานั้นใช้กักวิญญาณให้อยู่กับร่าง เป็นการยื้อวิญญาณกับบิดาแห่งความตาย อันที่จริงต้องเชือดเอลฟ์ มนุษย์ หรือดาร์กเอลฟ์ในการต่อรองกับบิดาท่านด้วย แต่นางขอผัดผ่อนไปก่อน

จนกว่าจะถึงเมืองนะเจ้าคะ นางแม่มดพึมพำในใจ

และเมื่อถึงชานเมืองทิลบ็อต นางสั่งให้ทหารของริวอร์นอร์ตรงไปยังโรงเตี๊ยมสำหรับชนชั้นสูงที่ไว้ใจกันแห่งหนึ่ง แม่มดยิ้มร่าให้เจ้าของโรงเตี๊ยมขณะวางไข่มุกน้ำงามให้มันเป็นค่าปิดปาก จากนั้นก็ออกคำสั่งให้ทหารคนสนิทของราชามงกุฏดำอุ้มท่านหญิงเอริแอดเน่ขึ้นไปชั้นบน โดยไม่ลืมใช้ผ้าคลุมหน้าผืนบางปิดบังใบหน้างดงามและลำคอท่วมเลือดนั้น

นางแม่มดก้าวตามขึ้นไปแล้วออกคำสั่งอีกว่า

 

“พอเจ้าพาราชาของข้ามาพักผ่อนแล้ว จงไปหาเอลฟ์ มนุษย์ หรือดาร์กเอลฟ์มาให้ข้าเจ็ดคน มัดพวกมันไว้ในที่ลับเพื่อรอข้าไปทำพิธี...อย่าลืมว่าเจ็ดคน เลขเจ็ดนี้กำลังดีสำหรับการบูชายัญเพื่อกักวิญญาณ อย่ามากกว่านั้นหรือน้อยกว่านั้น ห้ามเด็กเกินไปหรือชราเกินไป และอย่าช้า ไป…รีบไป”

 

แม่มดจัดเตรียมสถานที่ จุดไฟเผากระดูกสัตว์เล็กและกำยาน นางจัดวางร่างของท่านหญิงกลางห้อง ส่วนราชามงกุฎดำนอนอยู่บนโซฟากำมะหยี่และยังไม่ได้สติ แม่มดระบายลมหายใจยาวขณะตั้งสมาธิ นางขัดสมาธิบนพื้นห้องด้านที่วางศีรษะท่านหญิง ก่อนจะโน้มหน้าผากแนบหน้าผาก ร่ายมนตราขอความเมตตาจากพระบิดาแห่งความตาย

ระหว่างทำพิธี นางเห็นภาพสุดท้ายของเอริแอดเน่ ทั้งรู้สึกอย่างที่ท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์รู้สึก แม่มดกระตุกเฮือกเมื่อลำคอร้อนและเจ็บเกินบรรยาย

นั่นคือความรู้สึกในสำนึกสุดท้ายของสตรีตรงหน้า…

นางแม่มดเห็นภาพชัดเจนและรู้สึกชัดแจ้ง นางเห็นบาดแผลบนลำคอของท่านหญิงเอริแอดเน่เป็นเส้นกรีดคมกริบอันไร้ความลังเล ทว่าคมมีดนำความเจ็บปวดมาสู่ท่านหญิงมหาศาล ร่างเล็กบางกระตุก ความเจ็บทำให้ทุกส่วนในร่างกายต่อต้านการกระทำของเจ้าของร่าง เลือดตรงลำคอทะลักออกมาอย่างรวดเร็วจนทำให้ร่างกายช็อก

ราชามงกุฎดำฟื้นในตอนที่เอริแอดเน่กระตุกอย่างรุนแรงบนพื้น ทั้งยังเห็นแม่มดตาเหลือกลอยและกระตุกอย่างรุนแรงเช่นกัน ภาพนั้นทำให้ริวอร์นอร์คำรามเสียงต่ำ เขาจะเข้าไปช่วยเหลือทว่านางแม่มดลืมตาฉับ! ร้องสั่งให้ออกไปรอด้านนอก

ริวอร์นอร์นึกอยากตบปากนางที่กล้าดี แต่เวลานี้เขาจำต้องพึ่งนาง ราชามงกุฏดำออกมารอที่นอกระเบียง รอ...และรอ จนพระจันทร์ขึ้นสูงก็ยังไม่มีข่าวดี

 

ราชามงกุฎดำแตะริมฝีปากตัวเอง รสเลือดของเอริแอดเน่ยังค้างอยู่บนริมฝีปาก หลังนางเชือดคอตัวเองและหมดสติ คำสั่งเวทก็สิ้นผล เขาวางริมฝีปากกับรอยแผลบนลำคอของนาง เวทในการสงครามนั้นมีทั้งใช้ทำลายศัตรูและรักษาบาดแผลในเบื้องต้น เขาร่ายมนตราที่ทำให้เลือดแข็งตัวปิดบาดแผลของนาง จากนั้นก็รักษาตัวเอง ก่อนจะอุ้มนางขึ้นรถม้า สั่งให้ทหารขับรถม้าไปยังชานเมืองใกล้ที่สุดและเรียกนางแม่มดมาพร้อมกัน

เจ้ายังหนีจากเราไปไม่ได้ เอริแอดเน่…

ริวอร์นอร์ทุบราวระเบียงโดยแรง เสียงร่ายคาถายังคงดังยาวนานต่อเนื่อง...และไม่ทราบว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อใด



—————————————————————————

A/N ก็ดูเป็นห่วงเป็นใยนะคะ แต่ชอบมาห่วงตอนเขาไม่เห็น จะมีประโยชน์ไหม แงๆ /แล้วแม่มดนั่นคือผู้หญิงคนที่เท่าไหร่ แงๆๆ


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/

♰ Twitter : @VinzeSchwarz

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
บร๊ะ! ผู้ชายของข้า

เออเนอะ ก็สมน้ำสมเนื้อกันดี

ออฟไลน์ ILLREI

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-0
    • ILLREI
บร๊ะ! ผู้ชายของข้า

เออเนอะ ก็สมน้ำสมเนื้อกันดี
"เขาเป็นผู้ชายของผู้หญิงทั่วดินแดนเลยละมั้ง!" เจ้าปลาจิ๋วเอรี่ฟ้อง

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ ILLREI

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-0
    • ILLREI
บทที่ 26 : เงาอาดูร (2)

เจย์ถูกพามายังส่วนในของราชวัง เขาเพิ่งได้เห็นว่าราชวังแห่งนี้ล้อมรอบด้วยอาคารหอคอยสี่ด้าน ดูแข็งแกร่ง เป็นด่านปกป้องราชวังอย่างมั่นคง ทว่ามองอีกทีก็ดูคล้ายกำแพงหรือกรงขังด้วยเช่นกัน

“นั่นคือตัวแทนแห่งความจงรักภักดีและการแก่งแย่งช่วงชิงกันระหว่างอิซิลดาร์ตระกูลหลักและอิซิลดาร์ตระกูลรอง ผู้ที่พ่ายแพ้จะต้องมอบความภักดีแก่ ‘ราชินี’ หาไม่แล้วนั่นจะเป็นสถานที่แห่งสุดท้ายในชีวิตของพวกนาง”

สตรีที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนเอริแอดเน่เอ่ย นางคือผู้แสดงตัวเป็นเอริแอดเน่แห่งอิซิลดาร์ โดยมีองครักษ์ผู้ภักดีของเอริแอดเน่ตัวจริงติดตามรับใช้และรับรองว่านางคือผู้ปกครองแคว้นอิซิลดาร์อันเกรียงไกร

เจย์เดินอยู่ตรงกลาง มีเวเรด้าตามหลัง โรสเวนนำอยู่ข้างหน้า ถือตะเกียงด้วยตนเอง แสงตะเกียงสลัวริบหรี่อย่างน่าใจหาย เป็นจุดแสงเล็กจ้อยในบรรยากาศยามกลางคืนที่ท้องฟ้ากลายเป็นสีม่วงเข้มและดำ

“เรามาที่นี่กันทำไมรึ” เจย์ถามอย่างอดไม่ได้

“ก่อนท่านมา เราตามหาและติดตามข่าวที่อาจเกี่ยวข้องกับ ‘นาง’ เป็นอย่างลับ จากทุกๆ ที่ที่ทำได้ หลังท่านมา เราเปลี่ยนไปค้นหาพื้นที่ในรัศมีสามวันที่ท่านใช้เดินทางมาหมู่บ้านกุหลาบหิน...”

เจย์นึกได้ว่านักบวชสตรีเคยถามเขาว่าใช้เวลาเดินทางมายังวิหารนานหรือไม่

“เมื่อตอนค่ำ สายสืบของเรา หน่วยอสรพิษส่งข่าวมาอย่างรีบร้อนว่า พบเห็นบุรุษที่มีลักษณะคล้ายราชามงกุฎดำพร้อมผู้ติดตามเข้ามาในเขตอิซิลดาร์ตะวันตก แต่การติดต่อหลังจากนั้นขาดหายไป...อสรพิษอาจโดนเก็บไปแล้ว ข้าส่งคนออกไปอีก แต่เรายังไม่ทราบที่อยู่ปัจจุบันของคนกลุ่มนี้แน่ชัด”

ทางที่นางนำไปคืออาคารหอคอยทิศตะวันออก เป็นหอคอยที่สร้างจากหินอ่อนสีชมพูเหมือนวิหารบูชามารดานทีในหมู่บ้านกุหลาบหิน “นี่คือหอคอยที่ท่านหญิงมอบให้ข้า คุกใต้ดินของที่นี่มีทหารคนสนิทของคิงริวอร์นอร์ถูกขังอยู่ แต่นั่นเป็นความลับ”

เรื่องราวทั้งหมดโถมถั่งใส่เจย์รวดเร็วเกินไป เขาส่ายศีรษะน้อยๆ ขณะถอนใจ “ข้ามีคำถามเต็มไปหมด...คืออย่างนี้ ข้าไม่รู้ที่มาที่ไปของอะไรๆ สักนิด ท่านหญิงเอริแอดเน่เกลียดชังพระราชาเอลฟ์ขนาดไม่อยากหายใจร่วมโลก ส่วนพวกเจ้าก็เป็นเดือดเป็นแค้นพอพระองค์ฟื้นขึ้นมา ไม่นับว่าท่านหญิงเอริแอดเน่มีสองคน พูดตรงๆ ข้าสับสน แต่ก็ไม่แน่ใจว่าตัวข้าเองอยากรู้แค่ไหน”

“แล้วข้าจะเล่าให้ฟัง” โรสเวนตอบ ครู่ใหญ่ ทั้งหมดก็เดินมาถึงหน้าหอคอยซึ่งมีทหารยามสองนางเฝ้าประตูทางเข้าออก พวกนางทำความเคารพอย่างนอบน้อมโดยเรียกโรสเวนว่า ‘ท่านหญิง’

นั่นแปลว่าพวกนางไม่รู้ฐานะแท้จริงของโรสเวน

ทั้งสามเข้ามาด้านใน ภายในอาคารหอคอยนี้ร้างไร้ผู้คน ห้องหับต่างๆ ถูกปิดประตูตาย เป็นเขตหวงห้ามที่ห้ามใครเข้าออกนอกจากคนของท่านหญิงเอริแอดเน่

หลังเดินผ่านระเบียงและโถงซับซ้อน โรสเวนนำทั้งหมดมาหยุดหน้าประตูไม้บานหนาหนัก นางร่ายมนตร์ปลดผนึก เวเรด้าใช้กุญแจไข เมื่อปลดล็อกสองชั้น ประตูก็เปิดออก เผยบันไดหินทอดยาวลงไปด้านล่าง

“ชายที่ถูกขังอยู่ด้านล่างนี้เป็นคนรักของจามิลลา...นางเป็นครอบครัวที่สำคัญอีกคนหนึ่ง” โรสเวนเล่าขณะลงบันได “ตอนที่ราชามงกุฎดำสิ้นพระชนม์ หากไม่นับทหารที่หนีรอดไปได้ คนรักของจามิลลาเป็นองครักษ์ของอดีตราชาเพียงคนเดียวที่ได้รับการละเว้นโทษตายเพราะคำขอร้องของจามิลลา”

“การรอดตายของมันผู้นี้เป็นความลับ ราชาซิกฟรีดจะทราบไม่ได้ ปกติจามิลลาจะกลับมาที่นี่ทุกเดือน นางเป็นผู้รับผิดชอบดูแลมันด้วยตัวเอง โดยทิ้งอาหารและน้ำพอให้มันประทังชีวิตได้จนถึงครั้งต่อไปที่นางกลับมา ทว่านางไม่ได้กลับมาเกือบสองเดือนแล้ว ครั้งล่าสุดข้าจึงเป็นคนนำเสบียงมาให้มัน” เวเรด้าเสริม นางไม่เชื่อว่าจามิลลาตายไปแล้ว องครักษ์ทุกคนสวมตุ้มหูที่ช่วยคุ้มครองจากเวทมหานทีของท่านเอริแอดเน่ นางจึงรับหน้าที่ช่วยยืดชีวิตนักโทษซึ่งเป็นคนรักของเพื่อน

อากาศใต้ดินหนาวจนโจรหนุ่มต้องกระชับเสื้อคลุม ทั้งยังชื้น มืด และหดหู่ เขานึกไม่ออกเลยว่าจะมีใครสามารถคงสติได้ภายใน ‘คุก’ แบบนี้

สุดบันไดเป็นโถงทางเดินอันมีสองข้างทางเป็นห้องขังติดลูกกรงเหล็ก เชิงด้านนอกลูกกรงมีน้ำตาเทียนจับตัวแข็งย้อยแห้งกรัง บ่งบอกว่าไม่มีการใช้งานห้องขังเหล่านี้มาเป็นเวลานาน ที่ปลายโถงมีห้องขังซึ่งต่างออกไปจากห้องขังอื่น กล่าวคือมีการก่อกำแพงอิฐ ประตูเป็นไม้มีช่องสี่เหลี่ยมติดซี่กรง ส่วนล่างของประตูมีช่องติดบานเหล็กลงกลอนสำหรับส่งอาหารและของใช้ที่จำเป็น

มีแสงเรืองรองลอดผ่านช่องติดซี่กรงบนบานประตู แสงนั้นเกิดจากพรรณไม้เรืองแสง ทำให้คนที่อยู่ในห้องยังได้รับแสงสว่าง

“ข้าจะเข้าไปคนเดียว” เวเรด้าลดเสียง นางรับตะเกียงจากโรสเวน

“ไปหมดนี่ละ จะได้รู้เรื่องพร้อมกันทีเดียว” เจย์ค้าน “รอเจ้าซักแล้วออกมาบอกมันเสียเวลา ตอนนี้แค่วินาทีเดียวก็เสียไม่ได้แล้ว”

โรสเวนแตะแขนเจย์แล้วพาไปยังห้องขังที่อยู่ติดกับห้องขังด้านในสุด “เราดูจากห้องข้างๆ นี้ได้” นางบอก

เจย์เลยตามนางไป เขาคิดว่าตนเองอดทนได้ดีทีเดียว มองจากภายนอกเขาดูเยือกเย็นกว่าภายในมาก ถึงแม้ว่าจะเคาะนิ้วถี่ๆ กับขา ซึ่งเป็นนิสัยติดตัวที่เลิกไม่ได้สักที

มีเสียงประตูไม้เปิดและปิด เวเรด้าเข้าไปด้านในห้องขังแล้ว ส่วนโรสเวนพาเจย์มายังกำแพงด้านหนึ่ง นางดึงก้อนอิฐออกสองก้อน จึงเห็นว่ามีช่องที่สร้างเพื่อใช้จับตาดูคนด้านในจากภายนอก

จุดที่เจย์และโรสเวนอยู่สูงกว่าพื้นห้องขัง เขาเห็นเวเรด้าถือตะเกียงเดินลงบันไดไปอีก ตรงเข้าไปหาเงาตะคุ่มที่อยู่กลางห้อง แสงจากตะเกียงส่องให้เห็นร่างนั้นชัดขึ้น มันเป็นบุรุษร่างกำยำ แขนขาถูกล่ามด้วยโซ่ตรวนที่มีความยาวพอสมควร

“โธรอส” เวเรด้าเรียก นางย่อมรู้จักคนรักของจามิลลา เพราะเคยต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันมาในสงครามกับเผ่าทมิฬ...อันที่จริง องครักษ์ของราชาริวอร์นอร์สนิทสนมคุ้นเคยกับพวกนางในสงครามครั้งนั้น...เหมือนที่ท่านหญิงสนิทสนมกับท่านริวอร์นอร์

ครั้งล่าสุดที่มา เวเรด้าแค่ส่งน้ำและอาหารผ่านช่องประตู มิได้เข้ามาด้านในห้อง และห้องนี้ก็ไม่เคยมีใครเข้ามานอกจากจามิลลา การปรากฏตัวของนางจึงเป็นสัญญาณบางอย่าง

โธรอสนั่งขัดสมาธิอย่างสงบ ท่อนแขนแกร่งพาดบนหัวเข่า ผมยาวเลยบั้นเอวตกคลุมใบหน้าจึงไม่เห็นว่าชายหนุ่มมีปฏิกิริยาอย่างไร

“จามิลลาไม่กลับมาแล้ว” เวเรด้าวางตะเกียง นางพอทราบว่าครั้งสุดท้ายที่จามิลลามาที่นี่ นางมาลาชายตรงหน้า หรืออย่างน้อยก็มาบอกว่าอาจไม่ได้กลับมาอีก

“เอ่ยธุระของเจ้ามา” เสียงแหบและดุลอดจากริมฝีปากแห้งแตก เมื่อทหารเดนตายผู้นี้ยอมเงยหน้ามองเวเรด้า เจย์ถึงได้เห็นบุรุษที่มีประกายตาน่ากลัวที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็น มันเป็นประกายตาที่เด็ดขาด ไร้ความกลัว และไม่ยอมจำนน

เวเรด้าไม่เปลี่ยนสีหน้าแม้โดนจ้องกดดัน “นางได้รับสัญญาจากท่านหญิง หากวันใดนางไม่อยู่แล้ว เจ้าจะเป็นอิสระ...วันนี้ข้ามาปล่อยเจ้า”

โรสเวนพยักหน้าให้เจย์เป็นการยืนยันว่าสัญญานั้นเป็นเรื่องจริง

“เรื่องที่เจ้าไม่ทราบ เวเรด้าแห่งอิซิลดาร์...นั่นคือข้าได้รับโอกาสให้ออกไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่ข้าไม่ทำ”

โรสเวนขมวดคิ้ว คิดตามคำบอกนั้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่เวเรด้าคุกเข่าตรงหน้าโธรอส “ข้ารับปากจามิลลาว่าจะเป็นธุระเรื่องของเจ้า”

“ข้าหักดาบของตัวเองเพื่อที่จะได้อยู่กับนางเช่นสามัญชน” โธรอสหลุบสายตาลงเพียงเล็กน้อย คล้ายถูกภวังค์แห่งคำสัญญาในอดีตดึงไป “ข้าพอแล้วกับสงคราม แต่นางยังจับดาบและตาย...เช่นนั้นหรือ”

“ใช่...นางไม่อยู่แล้ว นางต่อสู้อย่างสมศักดิ์ศรีในฐานะอัศวิน” เวเรด้าใจหาย แม้นางพูดเองก็ยังรู้สึกเหมือนไม่จริง ฝ่ามือเล็กที่มีแรงง้างศรคันใหญ่โตวางบนตรวนข้อมือของโธรอส นางเอ่ยเวทปลดผนึก ทำให้ตรวนทั้งสี่หลุดออก “ข้าไม่ได้มาช่วยเหลือเจ้า แต่มาทำให้ความตั้งใจของจามิลลาเป็นจริง”

แสงจันทร์พ้นเมฆ ลำแสงนวลส่องผ่านลงมาจากปล่องหอคอยด้านบน ทำให้ห้องขังสว่างขึ้น มองเห็นโลกภายนอกที่อยู่สูงขึ้นไป มันคือคำสัญญาแห่งอิสระ จากนี้ไปชายผู้ถูกขังจะไม่ต้องเงยหน้ามองท้องฟ้าอีก

“หมดธุระของเจ้าแล้วหรือ” โธรอสยกสองมือขึ้นดู มันเบาอย่างประหลาดเมื่อไม่มีตรวน

“ไม่ เจ้าเดินออกไปเฉยๆ ไม่ได้หรอก ข้าจะนำทางเจ้าจนพ้นเขตอิซิลดาร์” เวเรด้ามองหาเสื้อผ้าที่จามิลลาน่าจะทิ้งไว้ให้ผู้ชายของนาง นางหยิบเสื้อคลุมส่งให้อีกฝ่าย

“ทำไมเพิ่งมาปล่อยข้า”

“ถ้าไม่ปล่อยตอนนี้ เกรงว่าต่อไปจะไม่มีโอกาสอีก”

“ทำไมจึงไม่มาก่อนหน้านี้” โธรอสคล้ายหยั่งเชิง ดวงตาของทหารหนุ่มคมดุจปลายธนู “จามิลลาหายไปสองเดือนแล้วมิใช่หรือ”

เวเรด้าหรี่ตา “ช่างนับเวลาจริงๆ เจ้าคิดว่าข้าไม่อยากรอนางนานกว่านี้หรือ สองเดือนแล้ว ได้เวลายอมรับความจริง ทั้งเจ้าและข้า และเจ้าเป็นใคร นักโทษแผ่นดินใช่หรือไม่ คิดว่าข้าอยากปล่อยเจ้าเฉยๆ วันไหนก็ทำได้หรือ”

โธรอสพิจารณาคำพูดของนาง ท่าทีของนาง...และแววตาของนาง พบว่าไม่มีอะไรน่าสงสัย

อาจแค่ยังไม่มีกระมัง

หลังรอให้โธรอสขยับตัวคลายกล้ามเนื้อและลุกเดินได้สะดวก เวเรด้าก็ถือตะเกียงนำเขาออกมา “ห้ามทำอันตรายแก่คนของอิซิลดาร์ หาไม่ ข้าก็ช่วยอะไรเจ้าไม่ได้” นางกำชับ

โรสเวนดันเจย์ติดกำแพง เอามือปิดปากเขาพร้อมส่งสายตาให้เงียบไว้ รอจนเวเรด้าและโธรอสเดินขึ้นบันไดจึงดึงมือเจย์ให้เดินตาม “เขาจะต้องกลับไปหาพรรคพวก คนของคิงริวอร์นอร์ เราจะตามไป นั่นอาจทำให้เราเข้าใกล้เบาะแสที่อสรพิษเหลือทิ้งไว้ได้มากที่สุด”

นางหมายถึง...นางก็จะตามไป โดยไม่สนใจฐานะที่ควรปิดบังของตน

“ข้า…” เจย์รู้สึกวูบวาบอย่างประหลาด ขนอ่อนบริเวณต้นคอลุกชันจนเขาตบหลังคอตัวเองให้มันหยุด

“ท่านต้องการช่วยนางใช่หรือไม่” โรสเวนบีบมือเขา “ถ้านางคิดทิ้งชีวิตจริง ตอนนี้เราต้องการคนที่จะช่วยหยุดนาง นางมอบความไว้ใจให้แก่ท่าน ข้าจึงพาท่านไป”

“ไอ้ไปน่ะไป แต่…” เจย์ขยับใบหน้ามาใกล้โรสเวนอีกนิด “ข้าคิดว่าเขารู้”

ลูกครึ่งเอลฟ์เห็นว่า ระหว่างตามเวเรด้าไป โธรอสหันมาทางกำแพงที่โรสเวนกับเขาลอบมองอยู่ เพียงแวบเดียว...ไม่สลักสำคัญด้วยซ้ำ แต่ก็เป็นแวบเดียวที่น่าอึดอัด

โรสเวนมีสีหน้าเหมือนยามที่นางนั่งบัลลังก์นางกษัตริย์ผู้ปกครองแคว้น เป็นสีหน้าที่แสดงออกมาอย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องปั้นแต่ง ทั้งห้าวหาญและเด็ดขาด

“ไม่เป็นไร ต่อให้โธรอสรู้หรือมีอันตรายใด เพื่อนางแล้ว ข้าพร้อมกระโจนเข้าไป”

เจย์มองนางตาค้าง ก่อนกะพริบตาปริบๆ แล้วเอ่ยว่า “ไนติง...อ่า เอริแอดเน่… ‘ท่านหญิงเอริแอดเน่’ ควรทราบว่ามีคนรักนางมากขนาดนี้นะนี่…”

เจ้าพังทลายเพราะไม่ยอมรับความรักที่สมควรได้รับใช่หรือไม่...เจ้านกน้อยอิซิลดาร์



—————————————————————————

A/N เจย์นี่ดูพึ่งพาได้และน่าจะเป็นสามีที่ดีได้นะคะ U_U

ป.ล. โธรอสxจามิลลา เป็นอีกคู่ที่เราชอบ สมัยนี้เราต้องกักขังหน่วงเหนี่ยวสามีไว้ค่ะ แค็กๆ อ่านเรื่องของคู่นี้เต็มๆ ได้ในภาค Ugly Queen นะคะ



ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/

♰ Twitter : @VinzeSchwarz

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
องครักษ์ของราชาริวอร์นอร์สนิทสนมคุ้นเคยกับพวกนางในสงครามครั้งนั้น...เหมือนที่ท่านหญิงสนิทสนมกับท่านริวอร์นอร์

บริวารเอรีแอดเน่ ได้รับความเสมอภาคเหมือนนายดีนะ
ริวอร์นอร์ เอรีแอดเน่  :กอด1:
โธรอส จามิลลา  :กอด1:

โธรอส ประสาทไว เจย์ ก็เหมือนกัน
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ILLREI

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-0
    • ILLREI
องครักษ์ของราชาริวอร์นอร์สนิทสนมคุ้นเคยกับพวกนางในสงครามครั้งนั้น...เหมือนที่ท่านหญิงสนิทสนมกับท่านริวอร์นอร์

บริวารเอรีแอดเน่ ได้รับความเสมอภาคเหมือนนายดีนะ
ริวอร์นอร์ เอรีแอดเน่  :กอด1:
โธรอส จามิลลา  :กอด1:

โธรอส ประสาทไว เจย์ ก็เหมือนกัน
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
จำเลยรักภาคสาวขังหนุ่มค่ะ แค่กๆ

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
เจ้าไนติงเกลเอย ค่ำนี้เจ้าจะนอนหนใด

ห๊ะ! นี่ยังไม่อัปลักษณ์อีกเร๊อะ!
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-06-2017 19:54:03 โดย alternative »

ออฟไลน์ ILLREI

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-0
    • ILLREI
เจ้าไนติงเกลเอย ค่ำนี้เจ้าจะนอนหนใด

ห๊ะ! นี่ยังไม่อัปลักษณ์อีกเร๊อะ!
เราชอบพวกนกที่อยู่ในนิทานเด็ก (แต่สยองขวัญนะคะ)
อย่างนกในเรื่องจูนิเปอร์ tree ก็ดีค่ะ >.<

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ILLREI

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-0
    • ILLREI
บทที่ 26 : เงาอาดูร (3)

ใกล้รุ่งสาง โรงเตี๊ยมชานเมืองใกล้หุบผาพฤกษาทองคำ

เอริแอดเน่ลืมตา ก่อนหน้านี้นางไม่ฝันอะไร ทว่าจู่ๆ ความว่างเปล่าที่สงบเงียบก็หายไป ผลักให้นางรู้สึกตัว นางจะขยับตัวแต่เจ็บที่ลำคอจนต้องนิ่ง รู้สึกว่าเสื้อผ้าที่สวมชุ่มโชกด้วยเหงื่อ และสิ่งที่เห็นเป็นอย่างแรกคือริวอร์นอร์กำลังใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดใบหน้าให้นางอยู่ คิ้วเข้มสีดำขมวดเข้าหากัน ริมฝีปากขึงตึง ไม่มีรอยยิ้มใดๆ มอบให้แก่นาง ไม่ว่าจะเป็นยิ้มเยาะหรือยิ้มหยอก ไม่มีเลย...ซึ่งยามที่เขาเป็นเช่นนี้ ก็ดูคล้ายพระเชษฐาเฟรธูรินผู้เอาจริงเอาจังเหลือเกิน

เอริแอดเน่คอแห้งผาก สำนึกของนางย้อนกลับไปยังเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ที่นางเปิดเผยความในใจซี่งตนหวาดกลัวที่สุดออกมา และตัดสินใจปลิดชีวิตตนเอง

นางอ้าปาก ทว่าไม่สามารถเปล่งเสียงเพราะเจ็บที่คออย่างมาก นางจึงขยับปากโดยไร้เสียง

‘ทำไม’

ริวอร์นอร์ไม่ตอบคำถาม เขาวางผ้าสะอาดไว้ตรงขอบชามกระเบื้อง แล้วผละไปรินน้ำให้เอริแอดเน่ เขาประคองนางขึ้นนั่ง ไม่น่าเชื่อว่ามือที่ปลิดชีพคนมานับไม่ถ้วนจะนุ่มนวลได้ถึงเพียงนี้

เอริแอดเน่สังเกตความเปลี่ยนแปลงอย่างหนึ่งกับริวอร์นอร์ นั่นคือบริเวณรอยแผลเป็นรอบคอมีรอยสลักอักขระของพวกแม่มดนอกรีตอยู่ รอยสลักนั้นเป็นสีทองซึ่งได้จากยางของเซลันดีนผสมกับผงทองคำบริสุทธิ์ จอมเวทสงครามอย่างนางเห็นแล้วก็มองออกว่าเป็นเวทซึ่งใช้สกัด แทรกแซง หรือบิดเบือนความสัมพันธ์ระหว่างวรรณะเวทของนางกับเขา เนื่องเพราะรอยสลักนั้นอยู่บริเวณบาดแผลที่ส่งให้เขาถึงแก่ความตายและกลับมาจากความตาย เป็นบาดแผลที่นางสั่งให้คนอื่นบั่นและกลับมาประสานมันด้วยตนเอง

เอริแอดเน่ไม่ยอมเปิดปาก แต่กำหมัด ทุบมือกับเตียง นอกจากไม่ได้ความตายที่นางออกคำสั่งเด็ดขาดแล้ว ริวอร์นอร์ยังสามารถหาวิธีแทรกแซงวรรณะเวทของนาง

แต่นางไม่เชื่อว่าอักขระเวทพวกนั้นจะช่วยเขาได้ตลอดไป

เมื่อนางไม่เปิดปากรับน้ำ ริวอร์นอร์จึงใช้นิ้วจุ่มน้ำก่อนไล้บนปากของนางเพื่อกระตุ้นความกระหาย

เอริแอดเน่หลับตาแน่น ต่อสู้กับความชุ่มฉ่ำบนริมฝีปาก

“ ‘เงา’ ของเจ้าน่าจะตามรอยมาถึงที่นี่ในไม่ช้า”

นางลืมตาเมื่อได้ยินประโยคนั้น เล็บคมจิกแขนเขาอย่างแรงเท่ากำลังที่มี

ริวอร์นอร์เอื้อมไปยังโต๊ะข้างเตียงที่วางสารพัดตลับยาอยู่ เขาป้ายตัวยาหนึ่งจากตลับทองคำขนาดเล็ก ก่อนจะกดนิ้วบนริมฝีปากของเอริแอดเน่แรงขึ้น เมื่อแทรกนิ้วเข้าไประหว่างริมฝีปากอิ่มของนางได้ ริวอร์นอร์ก็ไล้นิ้วไปตามไรฟันและกระพุ้งแก้มอย่างถือสิทธิ์

เอริแอดเน่ฝืนปิดปากไม่ไหว นางเจ็บร้าวไปทั้งคอ นิ้วที่ป้ายยามีรสสดชื่นของน้ำผสมกับรสขมเย็นซ่านของยา

นางยื้อแขนอีกฝ่ายเมื่อถูกกวาดยาบนลิ้นซ้ำๆ จนต้องขยับลิ้นหนีนิ้วเพราะหายใจลำบาก ความนุ่มของลิ้นแตะท้องนิ้วผู้บังคับป้อนยา นางข่วนและจิก สายตาโกรธเคืองแต่ก็อ่อนแรง

ฝืนได้ครู่ใหญ่ เอริแอดเน่ก็กัดนิ้วของริวอร์นอร์เป็นการต่อต้าน ทว่าบาดแผลที่คอทำให้นางออกแรงได้ไม่ถนัด แรงของนางตอนนี้มีเท่าลูกแมวตัวหนึ่ง

ริวอร์นอร์ให้นางขบกัดตามชอบใจ แล้วกระซิบเสียงต่ำว่า “อย่าทำให้ข้าอยากทำเรื่องชั่วช้ากับร่างกายของเจ้าเลย” พูดจบ แขนข้างหนึ่งรัดเอวแบบบางของนางไม่ให้ขยับหนีแม้เพียงน้อย เขาดึงนิ้วกลับ คว้าจอกน้ำมาชิดริมฝีปากนางอีก บังคับให้ดื่มน้ำ

เขาเห็นสีหน้านางแปลกไป มันลดความแข็งกร้าวลงเป็นลังเล ไม่มั่นใจ ใบหูแหลมยาวชี้ตั้งอย่างเวลานางไม่สบอารมณ์ ในที่สุดนางก็เปิดปาก ยอมดื่มน้ำแต่โดยดี

“เด็กดี…” ราชามงกุฎดำเอ่ยชมเหมือนเอริแอดเน่เป็นเด็กหญิงตัวน้อย

เอริแอดเน่โกรธขึ้งต่อคำเรียก นางกุมลำคอเขา บีบมือลงไป แต่ก็เหมือนเดิม...แรงนางมีแค่พอทำให้กายบุรุษถูกสะกิดเท่านั้น

“เราจะไว้ชีวิตอัศวินของเจ้าก็ต่อเมื่อเจ้ายังมีลมหายใจ” ริวอร์นอร์หยิบตลับยาอีกตัวหนึ่งมาชูต่อหน้าเอริแอดเน่ “ขี้ผึ้ง เป็นเด็กดีแล้วเราจะนุ่มนวลกับแผลของเจ้า”

เอริแอดเน่สูดหายใจลึก นางไม่อยากยอมแพ้เช่นนี้ ไม่ให้เขากุมจุดอ่อนของนางและเป็นฝ่ายเหนือกว่า

หากใช้กำลังไม่ได้แล้วละก็...นางก็ควรยืมวิธีของริวอร์นอร์

ใช้ความอ่อนโยน

นางละมือที่พยายามบีบคอเขา เปลี่ยนไปไล้และวางบนหลังคออย่างขออภัย หัวใจของนางเต้นแรงเมื่อตนเป็นฝ่ายแนบร่างเข้าหาเขา พิงศีรษะกับไหล่กว้าง สูดกลิ่นเหงื่อซึ่งผสมกับกลิ่นกายบุรุษของเขา

เอริแอดเน่รู้สึกประดักประเดิก ทั้งที่มารยาหญิงแค่นี้เป็นสิ่งที่สตรีอิซิลดาร์ล้วนเจนจัดเชี่ยวชาญกันทุกคน ในเมื่อเขาแสดงออกว่าห่วงใย ก็มาดูกันว่าใครจะเสแสร้งได้เก่งกว่าและมีชัย

ในห้องร้อนเกินไป เมื่อไฟคิดเล่นกับไฟ

ริวอร์นอร์ระบายลมหายใจหนัก เขาป้ายขี้ผึ้งบนรอยแผลบริเวณลำคอของสตรีมากเล่ห์ สัมผัสนั้นนุ่มนวลเมื่อนางไม่พยศ

นางสั่นน้อยๆ เมื่อแผลเย็บที่คอถูกสัมผัส นางกำมือ โอบรอบคอเขาแน่นอีก กับริวอร์นอร์ นางไม่เคยเข้าใจเขา แต่ถ้าจะถามหาสิ่งที่นางรู้ว่าเขาจะไม่ปฏิเสธ ก็มีอยู่สองสามเรื่อง

แต่เวลานี้อาจปฏิเสธก็ได้

เอริแอดเน่แนบแก้มของนางกับแก้มของริวอร์นอร์ สัมผัสนั้นเป็นไปอย่างเป็นธรรมชาติ นางขยับใบหน้าให้ใบหูของเขาและนางบดเบียดกันอย่างเชื่องช้า นางครางในคอแผ่วเบา เจ็บที่คอ แต่รู้สึกหวานในอก

ริวอร์นอร์ครางเสียงต่ำ แววตาแฝงไปด้วยอารมณ์หลากหลาย ทั้งหงุดหงิด ทั้งโกรธ ทั้งไม่เข้าใจและรักใคร่ผสมกับความเกลียดแค้นชิงชัง

ใจเขาและนางเกลียดกันได้ แต่ร่างกายมักแสดงออกอย่างที่มันคุ้นเคย ใบหูของนางร้อนและไวสัมผัส นั่นทำให้นางกอดเขาไว้ทั้งตัว รู้สึกทรมาน

ริวอร์นอร์พลิกร่างขึ้นทาบทับนางขณะบดจูบ ใช้อารมณ์ลึกลับและสัญชาตญาณนำเหตุผลทั้งหมด ไฟไม่อาจทำให้เขาร้อนได้ น้ำแข็งก็ไม่สามารถทำให้เขาหนาวเหน็บได้เช่นกัน

แต่นาง…

นางทำได้เสมอมา

ถ้าร่างกายไม่รู้สึกร้อนหนาวแล้ว อารมณ์ที่ปะทุอยู่นี้คืออะไร...ราชาเอลฟ์ผู้คืนชีวิตมาจะทราบหรือไม่

เอริแอดเน่จิกต้นแขนอีกฝ่ายเพราะความเจ็บ นางอยากตำหนิที่เขาบดจูบโดยไม่คิดถึงบาดแผลที่คอของนาง ทว่าร่างกายของนางแอ่นขึ้นรับเขา หน้าท้องแบนราบอ่อนนุ่มแนบกับกล้ามท้องอันแน่นขนัด แข็งแกร่ง

เอริแอดเน่ตาพร่า ไม่เข้าใจว่าทำไมตนจึงหวั่นไหวกับบุรุษผู้นี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก...ทั้งที่น่าจะเจ็บแล้วจำ นางถูกกรีดร่างและทิ้งให้ตายเพราะเขา ต่อให้จิตใจของนางเข้มแข็งแค่ไหน มันก็อ่อนล้าได้เช่นกัน และยิ่งอ่อนลงเมื่อความอ่อนโยนของริวอร์นอร์ทำให้ใจเพริดไป

หากจะมีสิ่งที่เรียกว่าการร่วมรัก ย่อมมิใช่ช่วงเวลาที่นางร่วมเตียงกับซิกฟรีด...แต่เป็นช่วงเวลาที่ชายตรงหน้ามอบให้

เอริแอดเน่รู้สึกอยากร้องไห้

ริวอร์นอร์ประทับริมฝีปากกับเปลือกตาของนางขณะลูบมือจากน่องขึ้นไปถึงขาอ่อน แต่ละสัมผัสในเวลานี้ช่างหนักและเอาแต่ใจ ถึงอย่างนั้นก็ยังทะนุถนอมอยู่ในที เขาลดใบหน้าลงไปยังทรวงอกของนาง สัมผัสเนินเนื้อผ่านเสื้อผ้า ขบเม้มยอดถันเต่งตึง นางรู้สึกได้ว่าเขากระหาย และมันก็สายเกินไปที่จะหยุด

กระดุมถูกปลดออก เสื้อผ้าของทั้งสองหลุดจากตัว เขาแนบแก้มกับทรวงอกอิ่มพร้อมบีบเคล้น ดูดและดึงจนร่างของนางผวาขึ้น หัวใจซึ่งเต้นอย่างบ้าคลั่งทำให้เลือดในกายวิ่งพล่านไปทั่ว เขาช้อนข้อพับขานางแล้วยกขึ้นเพื่อบดเบียดความเป็นชายอันแข็งขึงเพราะนางลงไป ก่อนจะกดและดันลงอย่างเชื่องช้า เรียกเสียงหวีดจากนางสั้นๆ

เอริแอดเน่สับสน บทรักบนเตียงที่นางเป็นคนเริ่มได้เขาสานต่ออย่างเร่าร้อนเกินจะคาด

การสอดใส่ของริวอร์นอร์ไม่รั้งรอแม้นางแสดงออกว่าเจ็บ นางขยับปากเรียกชื่อเขาช้าๆ อย่างห้ามตัวเองไม่ได้ คิดในใจว่าริวอร์นอร์เป็นแบบนี้เสมอ เขามักทำให้มันเริ่มด้วยความเจ็บ ไม่เล้าโลม แต่หาใช่เพราะเขาไม่มีชั้นเชิงทางเพศรส

เขาแค่มีรสนิยมบนเตียงเป็นฝ่ายควบคุมอย่างดิบเถื่อนและนุ่มนวลไปพร้อมกัน

นางรู้สึกแปลกที่จนถึงตอนนี้ตัวนางเองก็ยังไม่ชิงชังรังเกียจบทรักของเขา กลับกัน นางกลับรู้สึกไว้ใจ...ซึ่งนั่นไม่ควรเกิดขึ้น

ปากแนบปาก อกแนบอก ทุกส่วนสัดในร่างกายแนบชิดกันจนไม่มีพื้นที่ให้อากาศแทรก อบอุ่นและถูกโอบอุ้ม เขาพานางไปจนสุดปากเหว ฉุดนางให้กระโจนตามกัน แต่ระหว่างที่กำลังดิ่งจนลึกสุดลึก นางก็ถูกเขากระชากให้พุ่งขึ้นสูงกระทั่งเห็นแสงระยับหลังเปลือกตา เขากอดนางอย่างแนบแน่นในชั่วขณะนั้น เหมือนเขาและนางมีแค่กันและกัน ก่อนจุมพิตแลกลมหายใจอย่างลึกซึ้ง

มันไม่ควรเป็นเช่นนี้...ใช่หรือไม่

เจ็บ เอริแอดเน่คิด แต่ระลอกแห่งความสุขซาบซ่านพร้อมความเจ็บปวดนั้น นางยอมมองตาริวอร์นอร์ กอบหน้าเขา จ้องเข้าไปในดวงตาสีดำคู่นั้น

‘ข้า’ นางขยับปาก ‘เรา...’ นางเม้มปาก จากนั้นก็เอ่ยทีละคำอย่างหม่นหมองและเดียวดาย ‘สาย...เกิน...ไป’

“ชี่…” ริวอร์นอร์คลึงหน้าผากของตนกับหน้าผากของนาง “อย่าเพิ่งพูดอะไร”

‘ข้าเรียกเจ้า’ ตอนนั้น ในสติสุดท้ายของค่ำคืนอันโหดเหี้ยมที่สุดในชีวิตของนาง...นางเรียกหาเขา แต่ทว่า… ‘เจ้าไม่มา’

นางสะอื้น

“เอริแอดเน่…” ริวอร์นอร์เชยคางนาง “มีบางสิ่งที่เจ้าต้องทราบ...บางสิ่งที่เจ้าจะไม่เชื่อ”

นางบีบมือเขาเป็นการอนุญาตให้บอก

“ขอบใจที่ในที่สุดเจ้าก็ยอมฟัง”



—————————————————————————

A/N แผลที่ใครคนหนึ่งทำไว้ ก็ต้องให้ใครคนนั้นรักษานะคะ ;w;

แถม ความคืบหน้าของภาพปกค่ะ สวยมากๆๆ เลย โคลด์ เป็นพระเอกเถอะ! ฮือๆๆ /ผิด น้อง Enfer จัดเต็มจริงๆ ค่ะ



นิยายเรื่องนี้จะเปิดให้จองประมาณวันที่ 1 ก.ค. 60 ประกาศโปรโมชั่นพิเศษรอบจองหลังลงจบเรื่องค่า
(คาดว่าลงจบภายในอาทิตย์สุดท้ายของเดือนมิถุนายน)


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/

♰ Twitter : @ILLREIwriter
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-06-2017 13:37:01 โดย ILLREI »

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ภาพวาดสวยมาก
ทั้งส่วนสัด ลายเส้น แสงเงา  :mew1: :mew1: :mew1:

เอริแอดเน่ ริวอร์นอร์ ยังไงกัน ฮึ  :katai1:
เคมีตรงกันสินะ กอดนิด ยั่วเย้าหน่อย
ขึ้นเลย ขึ้นแล้วต้องลง เฮ่ยยย.......
เอริแอดเน่เลยเจ็บ แต่คงไม่เจ็บอย่างเดียวหรอกเนาะ
ก็ริวอร์นอร์ เขามีชั้นเชิง /รู้ดีอีกและ
ก็นางสนม กำนัลมากมายก่ายกอง ไหนจะแม่มดอีก
ริวอร์นอร์เก่งทั้งรบ ทั้งรัก
แม้แต่แม่มดยังติดใจ หลงใหล เป็นเด็กริวอร์นอร์ :z3: :z3: :z3:
เอริแอดเน่จะพอใจบทรักของริวร์นอร์ ก็น่าอยู่หรอก  :hao5: :heaven  :heaven
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
บางอย่างที่บิดเบือนไม่ได้ ลบไปจากใจไม่ได้ คือ สอนคนนี้รักกัน
แม้จะซับซ้อน บิดเบี้ยว และทรยศผู้อื่นและคนรัก แต่มันก็คือรัก

ออฟไลน์ ILLREI

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-0
    • ILLREI
บทที่ 26 : เงาอาดูร (4)


โธรอสอยู่ระหว่างการตัดสินใจครั้งสำคัญ

เขาบอกเวเรด้าว่าตนหักดาบและหันหลังให้สงครามแล้ว--นั่นจริง แต่พอทราบว่าราชามงกุฏดำกลับมา ใจที่ภักดีก็ปีติ มันสั่งให้เขากลับไปรับใช้พระองค์เดี๋ยวนั้น

ก่อนหน้าไม่นาน ตราเวทล่องหนบริเวณข้อมือขวาของเขาผุดขึ้นมาเป็นระยะ ตราเวทนี้ราชาริวอร์นอร์เป็นผู้มอบให้แก่เขาและทหารใกล้ชิด พระองค์ใช้มันเรียกเขาได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน และเขาจะตามหาพระองค์พบอย่างแน่นอน

ตราเวทเป็นรูปม้าดำซึ่งมีเขาเดี่ยวกลางหน้าผาก หรือที่เรียกกันว่ายูนิคอร์นทมิฬ มันเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์แห่งเงามืด คู่กับยูนิคอร์นแห่งแสง ทั้งสง่างาม ดุร้าย และน่าเกรงขาม มันจะบอกเขาว่าควรไปยังทิศใด

โธรอสนิ่งไปครู่ใหญ่ เขาจ้องตราเวทซึ่งผุดขึ้นมาอีกครั้ง ทั้งยังดันผิวจนนูนขึ้นอย่างน่ากลัว ราชามงกุฏดำกำลังเรียกทหารของพระองค์

ในที่สุด โธรอสก็ตัดสินใจเด็ดขาด เขาก้าวไปทางทิศตะวันตกอย่างมั่นคง

เวเรด้าลอบสังเกตโธรอส นางคุ้นเคยกับเขามากกว่าซอนย่า จึงได้รับงานนี้ แต่เหตุผลสำคัญที่ท่านโรสเวนเลือกนาง ก็เพราะนางคือเวเรด้า

พวกนางเหล่าอัศวินแห่งอิซิลดาร์ พร้อมทำตามคำสัตย์สาบาน จงรักภักดีและพลีชีพให้นายโดยไม่เสียดายชีวิต แต่นางกับจามิลลากลับมีนิสัยต่างกัน เห็นภายนอกนางเงียบขรึมเป็นจามิลลาคนที่สอง แต่ที่จริงนางไม่ใช่คนเงียบขรึม นางมิได้เด็ดขาดเช่นจามิลลาที่สามารถคุมขังคนรักของตนเพื่อแลกกับชีวิตเขา

ความเงียบขรึมและดุดันของเวเรด้ามาจากการลงโทษตัวเอง หลังเกิดเรื่องคืนวันวิวาห์สีเลือด นางไม่สามารถสนุกสนานได้อีก นางรู้สึกเศร้าและไร้ค่า เพลงที่มักจะฮัมเวลาอารมณ์ดีก็กลายเป็นทำนองปร่าแปร่ง นางรู้สึกผิดทุกครั้งที่อยากฮัมเพลงนั้น เพราะนางไม่ควรมีความสุขหลังไร้ความสามารถจนทำให้เจ้านายเผชิญทุกข์สาหัส

ความใจอ่อนของนางส่วนนี้เองที่ถูกนำมาใช้ในแผนการตามรอย เพราะนางยินดีปล่อยโธรอสจากใจจริง

ส่วนสาเหตุที่ทำให้นางยินดีปล่อยตัวเขานั้น...

 

“เวเรด้าชอบโธรอส” โรสเวนเอ่ยกับเจย์ นางสวมเสื้อคลุมสีดำ ใช้ฮู้ดปิดบังหน้าตา การสะกดรอยตามห่างๆ นั้นเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะกับสตรีสูงศักดิ์ซึ่งมีใบหน้าเหมือนท่านหญิงเอริแอดเน่ แต่นางคล่องแคล่วกว่าที่เขาคาด

“นางชอบคนหน้าโหดหรือ” เจย์ว่า “ขอโทษ ข้าไม่ควรเล่นตลกอะไรตอนนี้ แต่เวลาเครียดจัดข้ามักทำตัวตลกประชดชีวิตทุกที”

“โธรอสไม่ทราบหรอก แต่เขามีประสาทเฉียบคม เขาจะรับรู้ว่านางอยากให้เขาเป็นอิสระจริง ซึ่งนั่นจะสร้างความวางใจระดับหนึ่ง” โรสเวนเอ่ยอย่างคิดคำนวณมาแล้ว จากนั้นก็ยิ้มให้เจย์ “ข้าชอบบุรุษที่มีอารมณ์ขัน ท่านเป็นแบบนี้ดีแล้ว”

ลูกครึ่งเอลฟ์ยิ้มแห้งๆ โรสเวนหน้าตาเหมือนเอริแอดเน่ ท่าทางหรือบรรยากาศเวลาสวมรอยเป็นท่านหญิงก็เหมือน แต่พอนางผ่อนคลาย เป็นตัวของตัวเอง ก็ดูต่างจากเอริแอดเน่ลิบลับ

โรสเวนระบายลมหายใจแล้วเอ่ยอย่างนุ่มนวล “จากนี้ข้าอาจไม่มีชีวิตกลับไปอีก อารมณ์ขันเล็กน้อยช่วยชูใจได้”

นางไม่ได้แสดงความหวาดกลัวหรือร้อนใจ แต่มุ่งมั่นแน่วแน่ในสิ่งที่ตนจะทำ

“ถ้าอย่างเจ้าไม่รอด ข้าก็ไม่เหลือ” สีหน้าเจย์จริงจังแต่ไม่มีความกลัว “รู้มั้ยข้ารอดมาได้นานขนาดนี้เพราะรู้จักเวทดีๆ บทหนึ่ง”

“เวท?”

“ ‘ต้องรอด’ ” เจย์ตีหน้าขรึมใส่โรสเวน “มีแค่สองคำ ไหนลองท่องให้ข้าฟังหน่อย”

“ท่านจะรอด” นางเอ่ยรับรองและเติมกำลังใจ “ข้าไม่หวังให้ท่านเสี่ยงชีวิต ท่านจะเป็นไพ่ตายของเรา ฝ่ายนั้นคงไม่คิดหรอกว่าเราจะมีกำลังเสริมอย่างท่าน”

เจย์โบกมือ “ไม่ใช่แค่ข้า เจ้าด้วย ท่องให้ฟังหน่อยเถิดนะ”

“ท่านอ่อนโยนมาก แม้กับคนที่เพิ่งรู้จักกัน เราไม่ได้เห็นสิ่งนั้นมานานแล้ว และปกติจะเรียกมันว่าความโง่งม แต่ข้าพอเข้าใจแล้วว่าเหตุใดนางจึงเปิดใจให้ท่าน”

แต่ข้าเล่นพวกโจรเสียยับเลยนะ เจย์คิด

“ท่านเป็นสุภาพบุรุษ” โรสเวนยิ้มอ่อนใจให้เจย์...และเอ่ยสิ่งที่เขารอฟัง “ต้องรอด”

 

โธรอสมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตก โดยใช้ม้าที่เวเรด้าเป็นผู้เตรียมให้ ณ จุดผูกม้าที่เตรียมไว้นอกเมืองหลวง โรสเวนเองก็มีม้าให้ตนและเจย์เช่นกัน

ผู้เป็นอิสระและผู้สะกดรอยตามควบม้าห่างกัน แต่โรสเวนสามารถติดตามเวเรด้าได้ด้วยตุ้มหูเวทที่พวกนางใช้ร่วมกัน

เมฆขาว ท้องฟ้าสีคราม พระอาทิตย์สาดแสงกล้า เวลาสาย เที่ยง และบ่ายมาเยือน โรสเวนตระหนักว่าหากราชามงกุฎดำฟื้นคืนชีพขึ้นมาจริง เอริแอดเน่จะอยู่ในสภาพเปราะบางที่สุด...เพราะนางเปราะบางหากเป็นเรื่องของบุรุษผู้นี้มาแต่ไหนแต่ไร

สิ่งที่นางต้องทำ...คือหวังว่าเอริแอดเน่จะยังมีชีวิตอยู่ และไม่เลือกทางที่ผิดพลาดอันพ่ายแพ้ให้แก่ริวอร์นอร์เป็นครั้งที่สอง

------------------------------

“ข้ามีนามว่าแมรี่โกลด์เจ้าค่ะ เรียกสั้นๆ ว่าเอ็มก็ได้นะเจ้าคะเจ้าขา” แม่มดนั่งพับเพียบเรียบร้อยอยู่บนพื้นตรงหน้าเอริแอดเน่ นางเพิ่งกลับมาจากพิธีบูชายัญเลือด คนเจ็ดคนถูกส่งไปหาบิดาแห่งความตายเพื่อแลกกับการกักวิญญาณของเอริแอดเน่ให้อยู่ในร่างซึ่งใกล้หมดลม

เอริแอดเน่อ่อนเพลียเพราะเสียเลือดมาก นางหลับไปตั้งแต่รุ่งสาง จนคล้อยบ่ายก็คงไม่รู้สึกตัวหากสตรีตรงหน้าไม่มาปลุก

“อาหารเจ้าค่ะ” นางแม่มดยิ้มกว้าง ท่านหญิงเป็นต้นแบบที่นางบูชา แม้จะฆ่าท่านริวอร์นอร์ แต่คิดอีกแง่...การได้ฆ่าชายคนรักก็โรแมนติกดีไม่หยอก

เอริแอดเน่มองสตรีแปลกหน้าแล้วปรายตามองสำรับอาหาร นางรู้สึกว่าลำคอเจ็บน้อยลงจนสามารถออกเสียงได้...อาจด้วยเวทรักษาของนางผู้นี้ “เจ้าเองหรือ…” นางกล่าวแค่นั้นด้วยเสียงพร่า แทนเรื่องที่นางอาจทราบแล้วทั้งหมด

‘เจ้าเองหรือที่ทำให้ข้าไม่ตาย’

‘เจ้าเองหรือที่สลักอักขระเปลี่ยนแปลงวรรณะเวทของข้า’

‘เจ้าเองหรือ ผู้หญิงของริวอร์นอร์อีกคน’

ขึ้นต้นแค่ ‘เจ้าเองหรือ’ ความเป็นไปได้ช่างมากมายจริงๆ

“เจ้าค่ะ ข้าเองเจ้าค่ะ” แม่มดรับแม้จะไม่ทราบว่าท่านหญิงหมายถึงอะไร นางกระเถิบเข้าไปใกล้อีกหน่อย ใบหน้าของนางช่างงามร้ายแบบสตรีอิซิลดาร์ขนานแท้ ตรงหน้าผากไล่มาถึงขมับมีรอยสักแบบนูนแต้มสีทอง ผมสีเข้มถักเข้ากับดอกไม้หอม

นางแต่งหน้า ทำผม สวมชุดอย่างแม่มดเต็มรูปแบบมาเพื่อไอดอลโดยแท้

“ป้อน” เอริแอดเน่ปล่อยผ้าที่ปิดบังหน้าอก นางยังอยู่ในสภาพเปล่าเปลือย นางยื่นตัวมา ใช้แขนเพรียวยันกับเตียง เส้นผมสีทองยาวพลิ้วระทรวงอกเต่งตึงซึ่งทิ้งตัวตามแรงโน้มถ่วงอย่างนุ่มนวล นัยน์ตาสีหินแก้วประกายรุ้งช้อนมองอย่างเฉียบคมและทำให้ผู้มองใจสั่น

“โอ๊ย ใจเต้นเจ้าค่ะ” แมรี่โกลด์หรือเอ็มเอามือทาบอก ท่านหญิงสวยเหลือเกิน สวยจับจิตจับใจ นางตักข้าวโอ๊ตต้มปรุงด้วยเกลือเล็กน้อยป้อนให้ท่านหญิง “รับประทานสิ่งนี้ไปก่อนนะเจ้าคะ พอร่างกายฟื้น ข้าจะจัดสำรับเต็มรูปแบบให้”

“ยินดีที่ทราบว่าสตรีอิซิลดาร์ยังทำให้เจ้าใจเต้นได้ไม่แพ้บุรษ” เอริแอดเน่เอ่ยแล้วแตะปากกับช้อน หากริวอร์นอร์ใช้เสน่ห์มัดใจนางผู้นี้ นางก็ทำได้เช่นกัน ส่วนอาหารมีพิษหรือยาสั่งหรือไม่ นางไม่กังวล ร่างกายของนางทนทานต่อเวทมนตร์ และริวอร์นอร์ก็ยังไม่ให้นางตาย

“แหม...บุรุษนี่ของเล่นทิ้งได้ขว้างได้เจ้าค่ะ”

“หรือ” คนถามยิ้มไปถึงดวงตา

“โอ๊ย ใจจะหลุดออกมานอกอกแล้วเจ้าค่ะ” เอ็มหน้าแดงไปถึงหู นางยกมือสองข้างกุมอก ก่อนบอกความในใจว่าท่านหญิงเป็นสตรีและแม่มดต้นแบบของนาง นางเอ่ยพร้อมประกายตาวิบวับ

เอริแอดเน่นั่งอวดร่างเปลือยอยู่บนเตียง นางยิ้มพอใจนิดๆ และเอ่ยรับอย่างสนใจฟัง “งั้นหรือ เพราะชอบข้า เจ้าจึงอยากลิ้มรสผู้ชายที่ข้าเคยลิ้มรส...”

เอ็มยิ้มเจื่อน “กินอีกนิดนะเจ้าคะ” ...และเปลี่ยนเรื่องหน้าตาเฉย

“อืม” สตรีผู้มีเสน่ห์เปี่ยมล้นแม้กับสตรีด้วยกันรับ อิซิลดาร์เป็นบ้านของนาง เหตุใดนางจะไม่รู้ว่าสตรีอิซิลดาร์ชอบอะไร หลงใหลสิ่งไหน นางจึงไม่รีบร้อนและกินอาหารเพื่อเอากำลังกายกลับคืนมา

เมื่อกินหมดนางก็ถามว่า “ริวอร์นอร์ล่ะ”

“ไม่ทราบเจ้าค่ะ ท่านราชาไม่ได้แจ้งไว้” เอ็มเป่าข้าวโอ๊ตต้มให้ท่านหญิงอีกคำ

“เขาไม่อยู่หรือ” คำถามนี้อันตราย

“อยู่เจ้าค่ะ แต่ไม่ทราบว่าทำอะไร” นางแม่มดรู้จักเล่นลิ้นเสียด้วย

“หรือ” เมื่อกินจนหมดถ้วย เอริแอดเน่ก็เอ่ยว่า “ข้าอยากอาบน้ำ เจ้าช่วยข้าอาบได้หรือไม่”

“ท่านราชาจะอาบให้เจ้าค่ะ” เอ็มยิ้มไปถึงดวงตา

“ข้าไม่อยากรอเขา” นางยิ้มล่อลวงและล้วงความจริง

“ไม่อยากรอเรา หรือไม่อยากรอที่จะหนี” ริวอร์นอร์เข้ามาในห้อง เขาเพิ่งคุยกับทหารที่เพิ่งเดินทางมาถึงในห้องข้างๆ ...ใช่ อย่างที่แม่มดว่า เขาอยู่ แต่ไม่ได้บอกนางว่าทำอะไร

เอริแอดเน่ไม่แสดงออกว่าผิดหวัง แม้นางอยากให้ริวอร์นอร์ไม่อยู่ และใช้โอกาสนี้ล่อลวงแม่มด หรือให้ดีกว่านั้นคือได้ติดต่อกับ ‘โรสเวน’

กลับกัน นางเอนตัวอย่างไม่สะทกสะท้านและบอกแมรี่โกลด์ว่า “ไว้คราวหน้าก็แล้วกัน”

“โธรอสกำลังเดินทางมาพร้อมคนของเจ้า” ริวอร์นอร์โบกมือให้นางแม่มดออกไป นางหมอบทำความเคารพกษัตริย์ทั้งสองแบบหน้าผากแนบพื้น ก่อนจะออกไปตามคำสั่ง

เอริแอดเน่รอจนนางแม่มดออกไปจึงเอ่ยโดยไม่มองริวอร์นอร์ว่า “เจ้าจะอาบน้ำให้ข้าจริงหรือ ถ้าไม่ ข้าจะอาบตามลำพัง เพราะข้าต้องการอาบน้ำจริงๆ”

“เช็ดตัว”

“ที่นี่ต้องมีอ่างอาบน้ำ” ให้นางได้เดินออกจากห้อง ออกไปข้างนอก

“ไม่มีสำหรับเจ้า”

“ข้าต้องการอ่างอาบน้ำ ข้าไม่อาบน้ำในห้องนี้” เอริแอดเน่ยืนยัน

ริวอร์นอร์ก็ยืนยันคำพูดของตนด้วยการจับนางเช็ดตัว เขาพลิกนางไปมา ลูบผ้าชุบน้ำซึ่งแช่ดอกไม้หอมไปทั่วผิวเนียนละเอียด เขาไม่ใช่ผู้ชายช่างเอาใจ (แม้จะทำได้) สัมผัสก็นุ่มนวลบ้าง รุนแรงบ้าง โดยเฉพาะเวลาที่นางฮึดฮัดขัดขืน

“เจ้า!” เอริแอดเน่ดันหน้าเขา “ข้าไม่ใช่ม้าให้เจ้าล้างขนนะ ริวอร์นอร์ ข้าจะอาบเอง”

“อยู่นิ่งๆ อย่าข่วน!” ริวอร์นอร์ดุ เขาเช็ดตัวให้นางเสร็จก็ทาน้ำมันบำรุงผิว แมรี่โกลด์เตรียมทุกอย่างให้ กลิ่นน้ำมันหอมรื่นช่วยให้ผ่อนคลาย

“เอามือของเจ้าออกไป” นางเบี่ยงตัวเมื่อมือใหญ่ลูบหนักๆ จนผิวเนื้อนุ่มนิ่มเป็นรอยแดง

“เราให้คนเตรียมชุดแบบอิซิลดาร์ไว้ สีแดงปักทับทิม”

ริวอร์นอร์กำลังเอาใจนางใช่หรือไม่

เอริแอดเน่สะดุ้งจนใบหูสั่นระริกเมื่อมือลูบเข้ามาแตะส่วนเร้นลับเพื่อทำให้นางเงียบ “อือ…”

ริวอร์นอร์หัวเราะในคอ “เตรียมตัวต้อนรับคนของเจ้าเถิด” เขาว่า “คงมาถึงในไม่ช้ากระมัง”

ผู้ฟังจิกมืออีกฝ่ายอย่างแค้นเคืองเป็นคำตอบ

ก่อนหน้านี้ เขาอาจบอกอะไรบางอย่างที่ไม่เคยปริปากบอกแก่นางก็จริง แต่ใช่ว่านางจะเชื่อ ‘อะไรบางอย่าง’ นั้นอย่างง่ายดายและโง่งม ที่นางยังเล่นตามเกมของเขาเพราะเขากำจุดอ่อนของนางไว้ ทั้งใช้องครักษ์ของนางมาข่มขู่ บอกเป็นนัยว่าทราบเรื่อง ‘โรสเวน’ และหาทางเบี่ยงเบนวรรณะเวทให้เขาไม่ต้องฟังคำสั่งของนาง

อย่างเมื่อสักครู่ นางใช้วรรณะเวทในการถกเถียงเพื่อออกจากห้อง แต่ไม่เป็นผล

หากมีเวลามากกว่านี้ เอริแอดเน่สามารถหาวิธีลบล้างอักขระเวทที่แทรกแซงเวทของนางได้

แต่เวลาเป็นสิ่งที่นางไม่มี


—————————————————————————

A/N เอริแอดเน่กับริวอร์นอร์ เวลากัดกันน่ารักดีนะคะ


ใส่ฟิลเตอร์ จิ้นภาพสมัยเด็ก...

"ข้าไม่ใช่ม้าให้เจ้าล้างขนนะ!" เอรี่จิ๋วโวยวายๆ แก้มแดงๆ กลมๆ

ริวอร์นอร์จิ๋วเหยียดรอยยิ้ม ชอบแกล้งท่านหญิงแก้มกลม



ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/

♰ Twitter : @ILLREIwriter

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ ILLREI

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-0
    • ILLREI
ภาพวาดสวยมาก
ทั้งส่วนสัด ลายเส้น แสงเงา  :mew1: :mew1: :mew1:

เอริแอดเน่ ริวอร์นอร์ ยังไงกัน ฮึ  :katai1:
เคมีตรงกันสินะ กอดนิด ยั่วเย้าหน่อย
ขึ้นเลย ขึ้นแล้วต้องลง เฮ่ยยย.......
เอริแอดเน่เลยเจ็บ แต่คงไม่เจ็บอย่างเดียวหรอกเนาะ
ก็ริวอร์นอร์ เขามีชั้นเชิง /รู้ดีอีกและ
ก็นางสนม กำนัลมากมายก่ายกอง ไหนจะแม่มดอีก
ริวอร์นอร์เก่งทั้งรบ ทั้งรัก
แม้แต่แม่มดยังติดใจ หลงใหล เป็นเด็กริวอร์นอร์ :z3: :z3: :z3:
เอริแอดเน่จะพอใจบทรักของริวร์นอร์ ก็น่าอยู่หรอก  :hao5: :heaven  :heaven
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
ดีใจที่ชอบปกนะคะ น้องนักวาดตั้งใจสุดๆ นักเขียนก็มีไฟเลยค่ะ!
เอรี่กับริวอร์นอร์ต้องเพลง ก็ถ่านไฟเก่ามันร้อนรอวันรื้อฟื้น แค่กๆๆ /บอกอายุ แงงง
แต่เรื่องกิ๊กเยอะนี่น่าเคืองจริงค่ะ

:pig4:
:mew1: :mew1:

บางอย่างที่บิดเบือนไม่ได้ ลบไปจากใจไม่ได้ คือ สอนคนนี้รักกัน
แม้จะซับซ้อน บิดเบี้ยว และทรยศผู้อื่นและคนรัก แต่มันก็คือรัก
ชอบคอมเมนต์ของคุณ Alternative มากเลยค่ะ
แบบว่า สรุปประเด็นเรื่องตรงใจจังๆ หลายครั้ง และยังสรุปได้อย่างงดงาม /จับหัวใจ แงงง  :mew6:

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
ตาพร่าตามเอ็ม
โอย....เสน่ห์วิบวับล่อใจมาก

เอรี่แพ้ทางริวอร์นอร์ตลอด ขนาดกัดกันเล็ก ๆ ยังไม่พ้นถูกถูตัวอย่างกับอาบน้ำม้า ฮ่า ๆ ๆ ๆ

เจย์เต๊าะโรสเวนหรือ? นางดูน่ารัก เต๊าะเผื่อเราด้วย

ปล. ดีใจที่ชอบความคิดเห็นค่ะ เราหลงรักนิยายเรื่องนี้จริง ๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-06-2017 21:52:07 โดย alternative »

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
น้องยอมใจแต่ละคนจิงๆ

ออฟไลน์ ILLREI

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-0
    • ILLREI
บทที่ 26 : เงาอาดูร (5)

เวเรด้าหายเข้าไปในเมืองกับโธรอสเป็นเวลานานกว่าที่โรสเวนคาด ตุ้มหูที่นางมอบให้เวเรด้าไม่สามารถใช้สื่อสาร ทำได้แค่ระบุตำแหน่ง นอกจากนี้ภายในเมืองเล็กๆ แห่งนี้ยังเงียบเชียบผิดปกติ แค่เพียงคล้อยบ่าย ผู้คนก็บางตา หน้าต่างประตูร้านค้าและบ้านเรือนหับปิดทุกบาน หากเป็นนักเวทจะรู้สึกถึงไอเวทระคายผิวเหมือนกระแสไฟฟ้าอย่างอ่อนลอยทั่วบรรยากาศ

“เราอาจได้พบคนที่ตามหาเร็วกว่าที่คาด” นางบอก ความเคร่งเครียดในน้ำเสียงเจือความกังวล

เจย์ว่าตามโรสเวน นางจะขยับไปทางไหน จะหยุดเมื่อไหร่ เขาทำตามทั้งนั้นเพื่อไม่ให้เสียเรื่อง

“ข้าเคยได้ยินว่าราชาริวอร์นอร์เอาชนะจอมทัพทมิฬได้” โจรหนุ่มกระซิบ

“ด้วยความช่วยเหลือของเอริแอดเน่” โรสเวนเรียกชื่อนางอย่างคนที่สนิทสนมกัน ไม่มีตำแหน่งพาดหน้า นางเป็นเหมือนเอริแอดเน่อีกคนหนึ่ง แต่แสดงออกอย่างคนในครอบครัว...เหมือนเป็นพี่น้องกัน

จู่ๆ นางยกแขนกันเจย์ ทั้งที่รอบด้านไม่มีอะไร “เราต้องแยกกัน”

โจรหนุ่มพยักหน้า เขาคลำยาสารพัดในกระเป๋าคาดสะโพกและพบว่ายังพอมีเหลือ จากนั้นก็วางมือบนดาบสั้นซึ่งคาดอยู่ที่เอวเพื่อความอุ่นใจ

โรสเวนแกะตุ้มหูของนางมอบให้เจย์ “ตราเวทบนหน้าผากของท่านเป็นเวทที่ใช้ลงทัณฑ์ แต่เป็นเวทพิทักษ์ด้วยเช่นกัน มันจะช่วยคุ้มครองท่าน ส่วนตุ้มหูของข้ามีเวทมนตร์บรรจุอยู่ หากเจอศัตรูที่สู้ไม่ไหวก็บีบมันให้แตก”

“เจ้ามีแผนมั้ย บอกข้าที” เจย์ภาวนาขออย่าให้นางด้นสดแบบที่เขาคิดไว้เลย

นางชี้ไปทางขวาของบริเวณหลังอาคารที่ใช้หลบซ่อนตัวอยู่ ตรงนั้นมีตรอกเล็กๆ ระหว่างอาคารไม้ ดูสลับซับซ้อน “ร่องรอยของเวเรด้าหายไปทางนี้” จากนั้นก็ชี้ป้ายบอกทางตรงมุมถนน “นั่นป้ายของโรงเตี๊ยม ปกติถนนสายที่มีโรงเตี๊ยมควรคึกคัก แต่แถวนี้ร้างยิ่งกว่าสุสาน น่าจะมีอะไรไม่ชอบมาพากล คุ้มที่จะลองไปสำรวจดู แต่ตอนนี้เราถูกล้อมอยู่ ข้ารู้สึกถึงไอสังหาร ข้าจะเดินออกไปตรงๆ เพื่อดึงความสนใจของพวกมัน ส่วนท่านไปทางลัด”

พูดจบนางก็เดินออกไปยังถนนโล่งว่างอย่างไม่ยอมเสียเวลาอีก ก้าวไปได้ราวสิบเมตร ร่างสูงใหญ่ในเสื้อคลุมสีดำก็เดินเข้ามาหานาง โรสเวนสะบัดมือ ดาบเวทสีฟ้าอ่อนแบบเดียวกับของเอริแอดเน่ปรากฏในมือนาง นางชี้ปลายดาบเวทไปยังคนผู้นั้น สายลมรุนแรงผลักมันกระแทกผนังอาคารทันที

จนถึงเวลานี้ ถนนในเมืองก็ยังร้างไร้ผู้คน คล้ายฉากที่ถูกจัดมาให้นางติดกับดัก

จุดนัดพบล่ะ ถ้าเจอไนติงเกลแล้วให้ข้าหิ้วหนีไปทางไหนล่ะ เจย์คิดแต่ไม่ทันได้พูดออกไป เพราะนางถูกดักหน้าและเดี๋ยวคงยุ่งจนไม่มีเวลาหันบอกเขา (คิดถึงตรงนี้เจย์ก็อยากเคาะหัวตัวเอง ไม่ใช่เวลาตลกเลย!) เขาจึงทำตามที่นางบอกไว้ ไปทางลัด...ไปทางลัด จากนั้นเข้าโรงเตี๊ยมและข้าก็มั่วเองเลยนะ มารดาขอรับ ข้าจะเก็บเงินเก็บทองไปเรียนเวทแล้วขอรับ

เจย์ฝีเท้าเร็ว เขาลัดเลาะไปตามตรอก ไม่นานคงถึงโรงเตี๊ยม

ทว่า

มารดาขอรับ...

เอลฟ์จะตัวสูงใหญ่เหมือนยักษ์ได้ขนาดนี้เลยหรือขอรับ


ตรงหน้าเจย์คือทหารเดนตายอีกนายของริวอร์นอร์ รูปร่างกำยำและสูงประมาณสองเมตร ในมือถือตุ้มเหล็กหนาม เป็นคู่ต่อสู้ที่เจย์รู้ตัวดีว่าเอาชนะไม่ได้เลย

แต่เขาเป็นโจร

โจรย่อมไม่สู้อย่างอัศวิน

โจรนั้นขโมยของแล้วหนีเป็นอาชีพ

เจย์สะบัดขาไปมาขณะเป่าลมออกจากปาก

ไนติงเกล...ข้าพร้อมขโมยเจ้าและโกยอ้าวแล้ว

ไม่ทันที่ทหารร่างยักษ์จะจู่โจมโจรลูกครึ่ง มันก็ถูกขัดขวางด้วยลูกเตะ ผู้ที่เตะมันเป็นนางเอลฟ์รูปร่างปราดเปรียว ใบหน้างามคมมีเลือดไหลข้างขมับ ปกตินางใช้ธนูเป็นอาวุธ แต่ธนูที่พกติดกายเป็นประจำของนางหายไป

นางดีดตัวออก ย่อตัวยันพื้นในท่าล่าเหยื่อ ยกยิ้มเสมือนได้พบสหายสนิท “วันนี้เป็นวันรวมซากทัพหรือ ข้าละจำพวกเจ้าได้ทั้งที่ไม่อยากจำเลยจริงๆ”

“ไม่พบกันนานเลย...เวร่า” ทหารผู้นั้นเรียกนาง เขาเป็นคนที่ชอบเรียกชื่อนางเพี้ยนๆ เสมอ แถมยังชอบแข่งยิงธนูกับนางเวลาพักรบ

ควิลดอร์...

“เวเรด้า” นางแก้ชื่อตัวเองให้อีกฝ่ายเรียกให้ถูกแล้วดีดตัว ชักมีดสั้นคู่ที่เอวแทงใส่บริเวณลำคอ

ควิลดอร์ตั้งรับ เขาใช้เกราะแขนกันแล้วดันนางออกไป

เจย์เห็นเวเรด้าสวยขึ้นสิบเท่าเวลานางสู้ เขาร้องบอกว่า “ฝากด้วยนะ” ก่อนจะออกวิ่งไปทางโรงเตี๊ยม พริบตาเดียวก็หายไปจากสายตาทางมุมตรอก

“ข้าไม่เคยเห็นบุรุษฝากสตรีให้รับดาบแทนมาก่อน” ควิลดอร์ให้ความเห็น

“ข้าก็ไม่เคยเห็นบุรุษที่ใช้ให้บุรุษคนอื่นไปข่มขืนและฆ่าสตรีที่เขาเอ่ยปากว่ารักมากเช่นกัน”

โอ...เวเรด้าตัวจริงปากกล้าเช่นนี้ละ

“เจ้าพูดเรื่องอะไร” ควิลดอร์เอียงศีรษะเล็กน้อย

“นายของเจ้า ทำ!” นางหมุนตัวเตะ

“อา…” ทหารร่างยักษ์แทบไม่สะเทือน และเช่นเคย...เขาเพียงตั้งรับและดันนางออกไป

“เรื่องที่เจ้าว่า ไม่จริงเลย”

“คนมีปาก ปากจะพูดอะไรก็ได้ สิ่งที่เกิดขึ้นต่างหากที่เที่ยงตรง”

“ข้าไม่ได้รับอนุญาตให้พูด แต่หากวันใดข้าพูดได้ ข้าจะแสดงหลักฐานให้เจ้าชม”

“คิงเฟรธูรินสิ้นแล้ว ท่านหญิงของข้าก็…!” เวเรด้ากัดปาก นางเหมือนได้พบที่ระบายอารมณ์ ท่วงทำนองของเพลงที่มักฮัมกระหึ่มอยู่ในหู สิ่งที่เกิดขึ้นมิได้ทำลายแค่นายของนาง แต่ทำลายตัวนาง เพื่อนของนาง และมิตรภาพทั้งหมดที่เคยเกิดขึ้นกับบุรุษเหล่านี้ทุกคน

ควิลดอร์ให้เวเรด้าเข้ามาเต็มที่ เขายินดีเป็นที่ระบายอารมณ์ให้นาง อย่างไรเสีย...ราชามงกุฏดำไม่ได้สั่งให้จับตาย

เขามองนางที่เคยซ้อมรบด้วยกัน เคยร้องเพลงด้วยกัน นางเป็นผู้หญิงที่น่ารัก มีชีวิตชีวา แต่บัดนี้ไม่เหลือแม้เพียงร่องรอย

 

ห้า...หก โรสเวนนับคนที่พุ่งเข้ามาและถูกนางซัดออกไปด้วยเวทลม มีมากจริง ด้วยฐานะของผู้ครองแคว้นของ ‘ท่านหญิงเอริแอดเน่’ ที่นางสวมตัวตนอยู่ นางจะนำกำลังทหารมาด้วยก็ได้ ทว่านางตัดสินใจมากับเวเรด้าและเจย์เพียงสามคน ให้ซอนย่าควบคุมสถานการณ์และรับมือเหล่าเอลเดอร์อยู่ที่ราชวัง

โรสเวนใช้กำลังคนเพียงเท่านี้เพราะต้องการความรวดเร็วและเกรงจะเสี่ยงต่อการเปิดเผยว่ามีท่านหญิงเอริแอดเน่สองคนต่อหน้าทหารทั้งกอง

และข้าต้องสังหารทหารเหล่านั้นทั้งหมด

ความลับและความมั่นคงในราชบัลลังก์ของเอริแอดเน่คือการมีอยู่ของโรสเวน คนที่รู้ตัวตนของนางมีน้อยเท่าน้อย ตอนนี้ก็เหลือเพียงเอริแอดเน่ นาง จามิลลา เวเรด้า ซอนย่า และผู้สรรหาควบคุมดูแล ‘ตัวแทนเงา’

ตัวแทนเงาเป็นไพ่ตายของราชวงศ์ที่ไม่ควรมีตัวตน มีอยู่เพื่อค้ำจุนบัลลังก์แห่งอิซิลดาร์ มีเพื่อออกหน้ายามกษัตรีไม่สามารถออกว่าราชการหรือออกศึก และเพื่อตายแทนกัน

เหตุการณ์ในเมืองโรสมินาสที่เอริแอดเน่หายสาบสูญไปบังคับให้โรสเวนเคลื่อนไหว ผู้ที่ส่งสารไปถามหาเอริแอดเน่กับราชาซิกฟรีดก็คือนาง เมื่อซอนย่าปรากฏตัวพร้อมเชลยจากรูเมเรียร์ นางจึงทราบเรื่องที่เกิดขึ้นจากซอนย่า และตัดสินใจออกมาหน้าฉากเพื่อควบคุมสถานการณ์

เอริแอดเน่แห่งอิซิลดาร์ไม่ได้อยู่ที่รูเมเรียร์ และจะหายตัวต่อไปไม่ได้เมื่ออัศวินของนางกลับมา หาไม่แล้วนั่นจะกลายเป็นจุดอ่อนให้เอลเดอร์จากสายตระกูลรองแทรกแซง

อันที่จริง ก่อนเกิดเหตุที่เมืองโรสมินาส โรสเวนได้รับข่าวจากจามิลลาว่าเอริแอดเน่แปลกไป จามิลลารู้ว่านางเป็นคนเดียวที่เอริแอดเน่จะฟัง จึงคิดอยากให้เอริแอดเน่รีบกลับอิซิลดาร์ ทว่าทำไม่สำเร็จ

เอริแอดเน่และโรสเวนอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก คนหนึ่งเป็นนาย อีกคนเป็นบ่าว คนหนึ่งเป็นแสง อีกคนเป็นเงา คนหนึ่งมีชีวิต และอีกคนไม่มีชีวิตเป็นของตนเอง

โรสเวนใช้ชีวิตใต้เงาของเอริแอดเน่ นางต้องเหมือน ต้องชอบ ต้องชัง ต้องรู้สึก และต้องแสดงออกให้ได้อย่างเอริแอดเน่ผู้เป็นต้นแบบ การอุทิศตนนี้ได้สร้างสายสัมพันธ์อันแข็งแกร่งและลึกซึ้งระหว่างพวกนาง พวกนางรู้เรื่องของกันและกันในทุกรายละเอียด กระทั่งขั้นตอนการร่วมเตียงกับชายคนรัก

โรสเวนคือกระจกของเอริแอดเน่ซึ่งมีหน้าที่คอยตักเตือนให้นางเข้าใจตัวเองยิ่งกว่าใครทั้งหมด

ศัตรูซึ่งถูกเวทลมซัดไปกลับมาอีก บางรายถูกซัดกระแทกผนังตึกอย่างแรงจนไม่ควรลุกได้ บางรายถูกซัดไปไกลหลายเมตรแบบที่ต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะกลับมายังจุดเดิม ทว่าพริบตาเดียว พวกมันก็ลุกขึ้นแล้ว ‘พุ่ง’ เข้าประชิดตัวโรสเวน

คำว่าพุ่งในที่นี้ไม่ใช่พุ่งในความเร็วของมนุษย์ แต่พวกมันพุ่งเข้ามาเร็วยิ่งกว่าลูกธนู และไม่ได้พุ่งมาในทิศเดียวกัน แต่โอบล้อมนางจากทุกทาง

พวกมันเป็นสิ่งประดิษฐ์ของแม่มดนอกรีตนามแมรี่โกลด์

สตรีจอมเวทยกดาบเวทขึ้น ป้องแขนไว้ด้านหน้า สายลมพัดจากคมดาบเป็นริ้วสีเงิน ตัดร่างอมนุษย์เหล่านั้นอย่างไม่ปรานี เศษร่างกายของอมนุษย์ร่วงตุบๆ ลงพื้นโดยสีหน้าของผู้ร่ายเวทไม่เปลี่ยน

ถ้าเจย์มาเห็นภาพนี้ อาจไม่พูดว่าโรสเวนต่างจากเอริแอดเน่

โรสเวนสาวเท้าไวยิ่งขึ้น หากมีอมนุษย์ตนใดลุกขึ้นมาอีก นางเพียงสะบัดดาบ ใช้สายลมบั่นคอมันอย่างไม่ลังเล นางเห็นโรงเตี๊ยมอยู่เบื้องหน้า มันวังเวง ดูไม่เหมือนที่อยู่ของสิ่งมีชีวิต

“ยินดีต้อนรับ ‘เงา’ ” เสียงดังมาจากด้านบน เมื่อโรสเวนเงยหน้ามองตามเสียงก็พบสตรีนางหนึ่งยืนอยู่บนหลังคาด้านซ้ายมือของนาง

สตรีผู้นั้นสวมชุดอย่างแม่มดอิซิลดาร์ เนื้อผ้าสีเหลืองอ่อนดุจแสงจันทร์ยาวกรอมเท้า มันบางเบาและพลิ้วไหวจนทำให้นางคล้ายเงาของสายน้ำที่จับต้องไม่ได้

“ข้าคือ เอริแอดเน่แห่งอิซิลดาร์” โรสเวนยกดาบเวท สายลมพัดแรงจนเสื้อคลุมของนางถูกตีสะบัดไปด้านหลัง ฮู้ดที่ใช้คลุมศีรษะร่วงหล่น เผยใบหน้างามคมที่ขึงตาอย่างกราดเกรี้ยวดุดัน



—————————————————————————

A/N ช่วงนี้เป็นเรื่องของสาวๆ และเจย์ ดีใจที่หลายคนบอกว่าชอบเจย์นะคะ

เวลาเขาออกมาเราก็คิดว่าน่ารัก นิสัยประมาณนี้ ถึงเปิดใจสาวๆ อิซิลดาร์ได้ (อาจรวมหนุ่มๆ ด้วย)

แปะรูปหล่อๆ (เก๊กอยู่) ของเจย์บ้าง






ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/

♰ Twitter : @ILLREIwriter
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-06-2017 15:17:37 โดย ILLREI »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ILLREI

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-0
    • ILLREI
ตาพร่าตามเอ็ม
โอย....เสน่ห์วิบวับล่อใจมาก

เอรี่แพ้ทางริวอร์นอร์ตลอด ขนาดกัดกันเล็ก ๆ ยังไม่พ้นถูกถูตัวอย่างกับอาบน้ำม้า ฮ่า ๆ ๆ ๆ

เจย์เต๊าะโรสเวนหรือ? นางดูน่ารัก เต๊าะเผื่อเราด้วย

ปล. ดีใจที่ชอบความคิดเห็นค่ะ เราหลงรักนิยายเรื่องนี้จริง ๆ
รัก แง คนอ่านทำให้เรามีแรงเขียนนี่แหละค่ะ -3-
สมัยเด็กเอรี่ริวอร์นอร์ภาค ugly queen ก็สนุกนะคะ เชียร์ๆ แต่ภาคนั้นจะไม่ได้ลงเล้า
ถ้าสนใจ ติดตามได้ทางหน้าเพจของเราอะค่ะ (หลังจากจบภาคนี้ เรามีนิยายวายใหม่คั่น 1 เรื่องค่ะ)
ส่วนเจย์ คุณ foulsoul เขาก็ว่าชอบโรสเวน แต่ไม่รู้ตัวเจย์อะ ชอบใคร

น้องยอมใจแต่ละคนจิงๆ
ยอมแล้วรักไหมคะ ปิ๊งๆๆ  :katai2-1:

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
บางคนต้องยอมเสียสละเพื่อสิ่งที่สำคัญกว่าตนเอง

โรสเวน เอรี่ ซิกฟรีด มาลแกธ เฟรธูรินเป็นเช่นนั้น

ภาระหน้าที่ต่อประชาชนที่ตนปกครอง คุ้มครอง แลกมาด้วยหัวใจและชีวิต
ช่างน่านับถือ

จะติดตามไปอ่านควีนผู้ซับซ้อนนะคะ


ออฟไลน์ ILLREI

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-0
    • ILLREI
บางคนต้องยอมเสียสละเพื่อสิ่งที่สำคัญกว่าตนเอง

โรสเวน เอรี่ ซิกฟรีด มาลแกธ เฟรธูรินเป็นเช่นนั้น

ภาระหน้าที่ต่อประชาชนที่ตนปกครอง คุ้มครอง แลกมาด้วยหัวใจและชีวิต
ช่างน่านับถือ

จะติดตามไปอ่านควีนผู้ซับซ้อนนะคะ
ตัวละครฝั่งเอลฟ์ทั้งนั้นเลย ถ้าสังเกต ตัวละครฝั่งดาร์กเอลฟ์จะมีวิธีปกครองต่างออกไปนะคะ
/ชี้ไปทางโคลด์ มึนๆ ถ้าฝั่งดาร์กเอลฟ์จอมทัพทมิฬมีบทมากกว่านี้เมื่อไรจะเห็นความต่างค่า
ป.ล. จอมทัพฯ มีบทใน Ugly Queen ด้วยค่ะ

ออฟไลน์ ILLREI

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-0
    • ILLREI
บทที่ 26 : เงาอาดูร (6)

“ท่านราชาให้ข้ามาเชิญเจ้าน่ะ” แมรี่โกลด์ย่อตัวลงนั่งยอง มือซึ่งมีเล็บคมแหลมเกาะหลังคา

ดวงตาของโรสเวนเรืองด้วยแสงเวท นางหงายฝ่ามือแล้วกำ สายลมหยุดนิ่ง ความเคลื่อนไหวในอากาศหยุดชะงัก รวมถึงอากาศที่ใช้หายใจรอบตัวนางแม่มด

“ข้ารู้ว่าเจ้าใช้ลม” แม่มดไต่หลังคาเหมือนแมงมุมแม่ม่ายดำ แม้นางจะงดงามแต่ดูวิปริต “ข้าเลยเตรียมตัวรับมือไว้”

อากาศรอบด้านหายไปจริงๆ ทว่าอากาศรอบปลายจมูกของแมรี่โกลด์ยังอยู่ นางเอ่ยกับผู้ที่มีรูปโฉมเหมือนกับต้นแบบสตรีใจแกร่งที่นางบูชาว่า

“ท่านราชารออยู่ ท่านหญิงก็รออยู่ เราต้องการพูดคุยปรึกษาหารือ”

โรสเวนไม่ตอบ ฝ่ามือแบบบางกำแน่นขึ้นอย่างน่ากลัว ส่งกระแสลมเวทรุนแรงเพื่อบดขยี้สตรีบนหลังคา โดยไม่นับเรื่องราชามงกุฎดำ นางมีหน้าที่ปกป้องความลับของ ‘เงา’

ศัตรูผู้ใดรู้ ย่อมไม่เหลือชีวิต

“แง” แมรี่โกลด์ทำมือคล้ายดันอากาศออกไป “ใจร้ายจัง แต่ข้าตายไม่ได้ ปีศาจไม่อนุญาต เอ้า! โรงเตี๊ยมอยู่ทางด้านโน้น ท่านราชาอยากพบเจ้า ส่วนคนอื่นที่มากับเจ้าก็แล้วแต่พระบิดาแห่งความตาย”

“เจ้าต้องตายต่างหาก” เสียงไพเราะนั้นบอกอย่างตัดสินชะตาของแม่มดตรงหน้า

“ข้าบอกแล้วว่าข้าตายไม่ได้” แมรี่โกลด์ทำหน้าหงอย นางไต่หลังคาไปมาพร้อมดันคุกอากาศออกไปด้วย

“ปีศาจหรือจะร้ายกาจกว่าข้า” โรสเวนสะบัดดาบเวท บริเวณที่นางแม่มดเกาะอยู่ร่วงพัง ทำให้นางตกลงกระแทกพื้นดังโครมใหญ่

โรสเวนก้าวเข้าไปไม่เร็วไม่ช้า นางยกดาบเวทขึ้น แทงลงกลางหัวใจร่างที่นอนอยู่

แมรี่โกลด์สะดุ้งเฮือก นางบอกว่านางตายไม่ได้ทว่ายังรู้สึกเจ็บรู้สึกปวด “อะ” นางกำใบดาบไม่ให้มันแทงลึกไปกว่านี้ ทว่าอีกฝ่ายบิดข้อมือกดใบดาบลงอย่างมีแรงกำลังมากกว่าที่เห็น

แม่มดจ้องมองโรสเวน ท่านราชาแกล้งส่งให้ข้ามาตายแท้ๆ

เอ๊ะ หรือให้รางวัลกันนะ


แมรี่โกลด์รู้ว่าถ้าโรสเวนถอนดาบ ชีวิตที่ 77 ของนางดับสูญทันทีแน่ แต่นางต้องพูดบางอย่างในเวลานี้ จึงใช้กำลังยึดดาบไว้แน่น

“เจ้าสวย...แถมยังเท่แบบท่าน...หญิง” แม่มดพูดไปแล้วก็โล่งใจ นางชอบสตรีสวยๆ ยิ่งสวยและดุยิ่งหลงรัก เมื่อบอกความในใจเสร็จนางก็นอนแผ่ อ้าแขน เตรียมรับความเจ็บปวดระลอกใหญ่ “...รอ...พบกันใหม่ ท่านราชารอเจ้าอยู่”

โรสเวนใช้สายลมจากดาบขยี้หัวใจของนางแม่มด เมื่อเห็นอีกฝ่ายกระตุกและร่วงลง เลือดสดๆ ทะลักออกมาจากรอยแผลบนอก จึงค่อยถอนดาบออก

นางแม่มดยิ้ม เป็นรอยยิ้มซึ่งมีแต่คนวิปลาสเท่านั้นที่จะยิ้มได้ในช่วงเวลาแบบนี้ นางหายใจขัด เจ็บ...แต่ยอดเยี่ยม

ความตายช่างยอดเยี่ยม

ดวงตาของนางเบิกค้าง นางกระตุกอีกครั้งและสิ้นลมตรงนั้นเอง

โรสเวนยืนเงียบอยู่ที่เดิมครู่หนึ่ง ก่อนออกเดินไปทางโรงเตี๊ยม

เอริแอดเน่ เจ้าปลุกชีพเขาขึ้นมาจริงหรือ เจ้าทำอะไรลงไป อยากเห็นราชาซิกฟรีดถูกพี่ชายตัวเองบั่นคอหรืออย่างไร!

-------------------------------------------

ริวอร์นอร์สวมชุดอย่างเอลฟ์ชั้นสูง คอปกตั้งปิดบังรอยแผล เขานั่งอยู่ในห้องรับรองของโรงเตี๊ยม โดยมีท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์นั่งบนโซฟาเดี่ยวข้างๆ และมีโธรอสยืนอารักขาอยู่ไม่ไกล

นั่งอยู่ในความเงียบสักพัก ราชามงกุฏดำว่า “เงาของเจ้าเหมือนเจ้าแค่ไหนหรือ”

“ถ้าข้าแทงอกซ้ายของเจ้า นางจะแทงอกขวาอย่างไม่ลังเล” เอริแอดเน่สวมชุดสีแดงเพลิง หน้าตาเครียดขึ้ง โธรอสอยู่ที่นี่ แล้วคนของนางเล่า...

“อืม…” ริวอร์นอร์ยิ้ม “เรายังสงสัยว่าเจ้าปลุกเราทำไม บอกเราให้ชัดเจนเถิด”

“ใครปล่อยเจ้าออกมา จามิลลาหรือ” เอริแอดเน่เมินริวอร์นอร์และหันไปถามโธรอส ทว่าในใจนางสังหรณ์ร้ายกว่านั้น...จามิลลาไม่มีทางปล่อยโธรอสด้วยอารมณ์ชั่ววูบ

ริวอร์นอร์ไม่ถือสา เขาพยักหน้าให้โธรอสตอบคำถามนางได้

“เวเรด้าขอรับ”

“แล้วนางอยู่ที่ไหน” คำถามนี้มีนัยสำคัญ ในเมื่อริวอร์นอร์เคยบอกว่าคนของนางกำลังเดินทางมาพร้อมโธรอส เป็นไปได้มากว่าเวเรด้าปล่อยโธรอสเพราะระแคะระคายเรื่องราชามงกุฎดำและวางแผนตามรอยมา...แม้รู้ว่าอาจถูกตลบหลังก็ตาม

โรสเวน...เวเรด้า เอริแอดเน่ไล่รายชื่อของคนที่อาจอยู่ที่นี่ในใจ

“เราให้คนไปต้อนรับ แต่พวกนางไม่ยอมมาดีๆ” ริวอร์นอร์เอ่ย “เราอยากรู้ว่าเจ้ามีเป้าหมายอะไรถึงปลุกเรา หากน่าสนใจ เราจะร่วมมือด้วย”

น่าสนใจ...สำหรับริวอร์นอร์ จะมีอะไรน่าสนใจไปกว่าการได้พบน้องชายอีกครั้ง และได้อบรมสั่งสอนกันอีกหน่อย

เอริแอดเน่รู้สึกตัวเย็นเฉียบ นางไม่คิดดึงโรสเวนและองครักษ์ที่สนิทสนมกันมาร่วมแผนการฆ่าตัวตาย จึงได้จัดการทั้งหมดด้วยตนเอง

แผนของนางคืออะไรงั้นหรือ...น่าสมเพชที่จะบอกว่าอยากตายไปให้พ้นๆ แล้วช่างเรื่องที่เหลือใช่หรือไม่ ใช่...นางคิดเช่นนั้นจริง ในเมื่อมารดานทีนำนางไปยังที่ฝังศพของริวอร์นอร์ ก็เท่ากับนางยังตายไม่ได้หากไม่คืนชีวิตให้ราชามงกุฎดำ--นักรบคนสำคัญที่แม้เลวทรามเพียงใดก็มีกำลังปกป้องแผ่นดินเอลฟ์จากจอมทัพทมิฬ

มารดานทีเป็นพยานว่านางพยายามแค่ไหนในการใช้เวทมนตร์นอกรีตเพื่อคืนชีพให้ท่านเฟรธูริน

...และอาจเพื่อให้นางได้ละทิฐิเมื่อเห็นว่าเป็นวาระสุดท้ายของชีวิต...กล้าถามคำถามที่ตนคาใจ

 

“เราอาจต่ำทราม เอริแอดเน่ แต่ไม่ทรามถึงขั้นย่ำยีศักดิ์ศรีของสตรี นั่นไม่ใช่วิถีของเรา เราทราบเรื่องเมื่อสายเกินไป จำได้หรือไม่...ในวันที่เจ้าไปเยี่ยมพระศพของเฟรธูริน ที่เรือลำนั้น เราเอ่ยกับเจ้าว่า ‘ยามเราโกรธแค้น เราจะทำให้มันผู้นั้นตายทั้งเป็น’ ไม่ใช่เจ้า...ราชินีของเรา แต่เป็นดาร์กเอลฟ์ที่บังอาจแตะต้องเจ้า เราสั่งให้เอ็ดราฮิมล่าพวกมันและจับขังไว้ ให้น้ำ...ให้อาหาร ให้มันทนยามถูกแล่เนื้อทีละชิ้นทุกวัน”

 

บนเตียง ในอ้อมแขนของเขา ริวอร์นอร์กระซิบบอกนางเช่นนั้น และทำให้นางสับสนใจ นางฟังแล้วแตะต้นแขนร้อนผ่าวของเขา เกาะมันไว้เหมือนเป็นหลักยึด

ไม่ได้! ง่ายดายแค่นี้เองหรือ แค่เขาพูดสิ่งที่ข้าอยากฟัง ข้าถึงจะโง่ยอมเชื่อว่ามันเป็นความจริง และนั่นก็ไม่เปลี่ยนเรื่องที่เขาฆ่าท่านเฟรธูริน!

“ข้าไม่ได้อยากปลุกชีพเจ้า นั่นเป็นพระประสงค์ของมารดานที” เอริแอดเน่เลือกตอบความจริงเพียงส่วนเดียว

ที่จริง ถ้านางเป็นตัวของตัวเอง ไม่ตกอยู่ในสภาพอ่อนแอและสิ้นหวังจากการสูญเสียซิกฟรีดผู้รักและเชื่อฟังตนมาตลอด นางอาจคิดปลุกชีพริวอร์นอร์มาทำลายซิกฟรีดที่ทรยศต่อความไว้ใจของนาง แต่เวลานั้นนางไม่รู้สึกถึงไฟแค้นใดๆ ต่อซิกฟรีดเหมือนที่มีต่อริวอร์นอร์ ไม่มีแรงผลักดันถึงขนาดอยากล้มบัลลังก์ของ ‘ราชาแห่งรูเมเรียร์’ เป็นครั้งที่สอง

“มารดาผู้บริสุทธิ์” อดีตราชาเอลฟ์รำพึง “หากเป็นเช่นนั้นจริงก็อาจเกี่ยวข้องกับรูเมเรียร์”

“ข้าจะต้อนรับเจ้าสู่บ้านของข้า ริวอร์นอร์ เพื่อเห็นแก่พระประสงค์ของมารดานที” เอริแอดเน่ไม่มีทางเลือกอื่น นางปล่อยเขากลับรูเมเรียร์ไม่ได้ ความตายของซิกฟรีดไม่ใช่สิ่งที่นางอยากเห็น...ในตอนที่นางยังมีชีวิตอยู่

“หากเจ้าบริสุทธิ์ใจ เราก็จะแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าเราไม่คิดทำร้ายอัศวินของเจ้า” ริวอร์นอร์วางมือบนหลังมือของเอริแอดเน่ “เราเชื่อคำพูดของท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์ได้หรือไม่”

ท่านหญิงที่เคยฆ่าเรามาแล้วครั้งหนึ่ง...

น้ำหนักที่วางบนหลังมือเปรียบได้กับการหยั่งความเชื่อใจและการกล่าวโทษ เอริแอดเน่ยอมรับมันอย่างมีศักดิ์ศรี “ถ้าเจ้าอยากได้คำยืนยันที่ข้าสาบานต่อมารดานภาและมารดานทีได้สักเรื่องหนึ่งละก็...ข้าสาบานว่าข้าจะไม่กลับไปหาซิกฟรีด และไม่คิดเป็นราชินีของเขา” นางกระตุกรอยยิ้มอย่างนางงูพิษ “ข้าบอกเจ้าว่าอย่างไร ‘ซิกฟรีดให้ข้าเป็นราชินี แต่เขารักดาร์กเอลฟ์’ ...บุรุษ...ดาร์กเอลฟ์”

ริวอร์นอร์หรี่ตา “บุรุษดาร์กเอลฟ์?” มีรอยไม่พอใจปนสมเพชอยู่ในน้ำเสียง

จนถึงตอนนี้ เอริแอดเน่ยังไม่สนิทใจให้บุรุษแตะตัวนาง และบางครั้ง เมื่อรู้สึกเครียดถึงขีดสุด นางจะเห็นบุรุษที่บังเอิญเข้ามาอยู่ในสายตาไม่มีใบหน้า ใบหน้าของบุรุษเหล่านั้นจะเป็นภาพเลือนๆ...เหมือนดาร์กเอลฟ์ที่เคยทำร้ายนาง

“ก็เขารักของเขา” นางเข่นเขี้ยวอย่างมีโทสะ

“ชื่อและลักษณะของมันเป็นอย่างไร”

“ข้าไม่ใช่คนส่งสารของเจ้า ไปสืบหาเอาเองเถอะ”

“ช่างปากร้าย” ริวอร์นอร์ไม่โต้กลับไปมากกว่านี้ เขากางมือขวาออกแล้วร่ายเวท เกิดตราเวทรูปม้าทมิฬผุดขึ้นมา “ทหารของเรา…” เสียงนั้นจะก้องในหัวของทหารที่ราชามงกุฏดำต้องการเรียกใช้ “จงปล่อยให้สตรีจากอิซิลดาร์ทุกนางมาหาเรา...โดยไร้รอยขีดข่วน”

พูดจบ ริวอร์นอร์กำมือเป็นการผูกตราเวทกับทหารผู้นั้น บังคับให้ทำตามคำสั่งจนกว่าจะลุล่วง หาไม่แล้ว ตราเวทจะทำลายอวัยวะส่วนที่มันฝังอยู่ เช่น โธรอสจะเสียแขนขวาที่เขาสาบานว่าจะจับดาบเพื่อราชาของตน

นี่เป็นการแสดงความจริงใจของราชาริวอร์นอร์ อาห์นดีร์ รูเมเรียร์

 

ระหว่างที่กษัตริย์และกษัตรีพูดคุยกันอยู่ มีหนูลอบเข้ามายังโรงเตี๊ยมแล้ว เจย์คิดว่าสายเลือดของเอลฟ์ในร่างช่างไร้ประโยชน์ เขาเคยไปทดสอบเวท ผลที่ได้คือศูนย์หรือแปลง่ายๆ ว่าไร้พรสวรรค์โดยสิ้นเชิง ทว่าสิ่งที่เจย์ไม่รู้คือ...การที่ไม่มีพลังเวทนั่นแหละเป็นพรสวรรค์ เขาสามารถลบตัวตนของตัวเองได้อย่างหมดจด พลังเวทแฝงอยู่ในกายอย่างแนบเนียนเสียจนการทดสอบแบบธรรมดาไม่สามารถจับได้ เพราะเหตุนั้นเอง...โจรหนุ่มจึงใช้ทักษะย่องเบารวมกับพรสวรรค์ที่เขาไม่เคยรู้ เข้ามายังโรงเตี๊ยมโดยไม่มีใครจับได้

อ้อ ก็มีไปเจอะกับพนักงานโรงเตี๊ยมบ้าง แต่ไม่เป็นปัญหาเพราะเจย์มียาสารพัดสารพัน และหนึ่งในนั้นคือยาสลบ…

เอายาอุดปากแล้วลากไปเก็บเลยจ้ะ

ถึงโจรหนุ่มจะมีพรสวรรค์ในการลบตัวตน ทว่ายังมีคนหนึ่งจับสัมผัสของเขาได้ นางรู้ว่าเขาเข้ามาใกล้ด้วยตราเวทบนหน้าผากซึ่งนางเป็นผู้ประทับไว้เอง

เอริแอดเน่เงียบไป แล้วเอ่ยว่า “ข้าจะออกไปพบคนของข้า”

“ให้พวกนางเข้ามา” ริวอร์นอร์ยืนยัน “พูดคุยกันที่นี่จะเป็นไร”

“พวกนางอาจทำตัวเองเป็นอันตรายได้ ตราบใดที่ยังไม่ได้เห็นหน้าข้า” เอริแอดเน่ลุกขึ้น เดินไปทางโธรอส มองให้อีกฝ่ายหลีกทาง

ริวอร์นอร์ลุกขึ้นแล้วเดินเข้ามาเคียงนาง เขาวางมือบนแผ่นหลังแบบบาง “ให้เราได้ต้อนรับอย่างเจ้าบ้านเถิด” พูดจบ ริวอร์นอร์ก็พยักหน้าให้โธรอสถอยไป ทหารหนุ่มน้อมศีรษะ จากนั้นตามอารักขาอยู่เบื้องหลัง

เอริแอดเน่อยากเถียงว่า ‘อิซิลดาร์เป็นบ้านของข้า ไม่ใช่ของเจ้า’ แต่นางเสียเปรียบ จึงแค่เดินนำลงไปอย่างนิ่งเฉย โดยมีริวอร์นอร์โอบประคองเอวนางอย่างถือสิทธิ์

นั่นทำให้เจย์ที่หาทางซอกแซกมาจนถึงห้องรับรองได้ถึงกับสบถในใจ แม้ยังไม่ได้จังหวะฉกตัว แต่กว่าจะเข้ามาใกล้ขนาดนี้ได้เขาก็ใจหล่นไปหลายวูบ นึกขอบคุณบิดาแห่งโจรทั้งปวงที่อวยพรเขา ทำให้เขาลอดจากสายตาดุคมของทหารชื่อโธรอส และที่สำคัญ โจรกระจอกอย่างเขาดันลอดจากหูตาของกษัตริย์เอลฟ์ได้อย่างไรก็ไม่ทราบ

ต้องเป็นพระบิดาแน่ๆ พระบิดาเจ้าข้า รอดไปได้ข้าจะบูชาท่านด้วยสินแร่หนึ่งแท่ง...อ่า สองแท่งก็ได้ขอรับ

เอริแอดเน่อึดอัดกับมือที่วางบนเอว ปกติริวอร์นอร์ไม่แสดงออกอย่างโจ่งแจ้ง แม้ตอนที่นางเป็นคู่หมั้นของเขา แค่จับมือถือแขนกันยังไม่ทำเลยด้วยซ้ำ “เจ้ามีแผนอะไรอีก” นางไม่เชื่อว่าเขาพิศวาสนางถึงขนาดนั้น ที่แสดงออกอย่างสนิทสนม ต้องมีจุดประสงค์

“ไม่มีอะไรมากไปกว่าแสดงให้พวกนางเห็นว่าเจ้าอยู่กับเรา...และปลอดภัยดี” ริวอร์นอร์มองเอริแอดเน่ด้วยสายตานุ่มนวลจนน่าขนลุก

“บิดามารดาลงโทษข้าเถิด” นางสบถ เกลียดที่จู่ๆ โลกก็พลิกกลับ เขาเป็นฝ่ายกุมอำนาจเหนือนางได้อย่างไร

ลงไปชั้นล่าง ทหารที่ขับรถม้าให้ริวอร์นอร์นามโอริม และทหารเอลฟ์ร่างยักษ์นามควิลดอร์ยืนเหมือนกำแพงเหล็ก ควิลดอร์อุ้มเวเรด้า ตาของนางปิดอย่างทรมาน ร่างกายสั่นเทา



—————————————————————————

A/N ตอนนี้เฉลยหลายเรื่องเลยค่ะ ความในใจที่ซับซ้อนก็คลี่ออกมาทีละชั้น

เรารู้สึกว่าความรักที่เอริแอดเน่มีให้ซิกฟรีดก็คือเอ็นดูและตามใจ ต่างกับริวอร์นอร์ที่เป็นรุ่นเดียวกัน

และ...ตอนนี้ริวอร์นอร์ก็รู้เรื่องน้องชายรักดาร์กเอลฟ์แล้ว /งืมๆๆๆ โคลด์ แงงงงง


ป.ล. แอบชอบตอนโรสเวนว่า 'ปีศาจหรือจะร้ายกาจกว่าข้า' /เท่ แงงงง


อวดหน้าโคลด์หยุยๆ อิอิ! วาดโดย Oiru © I L L R E I 2017



ภาพนี้เป็นของพิเศษสำหรับงาน Y Book Fair วันที่ 1 ก.ค. 60 นี้ค่ะ

(ใครที่ไม่รู้จัก งานนี้เป็นงานรวมหนังสือแนว Y เหมือนงานสัปดาห์หนังสือของสายวายค่ะ

สนใจงานกด google search ด้วยชื่องานได้เลยค่ะ เพจหลักของงานอยู่ใน Facebook)

รายละเอียดของพิเศษจะมาเร็วๆ นี้ คอยติดตามเพจ ILLREI ไว้นะคะ!



ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/

♰ Twitter : @ILLREIwriter

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
เดาใจกันไม่ถูกจิงๆ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ แม่มดน้อย

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 231
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
 ก็เขารักของเขา กิๆ :L2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-06-2017 13:15:34 โดย แม่มดน้อย »

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
ถ้าเช่นนั้นใครคือคนที่สั่งให้ทำลายเอรี่? หรือเป็นจอมทัพทมิฬ?

คิด ๆ ไปริวอร์นอร์ไม่น่าจะทำ เพราะเขารักของเขามากจริง ๆ แม้จะถูกทรยศก็ตาม

เอรี่ไม่รักซิกฟรีดฉันชู้สาว นางจึงไม่เคืองแค้น ไม่ผิดหวังจากรัก แต่นางผิดหวังที่น้องชายที่รักกลับไปรักดาร์กเอลฟ์ที่นางชิงชัง

ส่วนความรักกับริวอร์นอร์นั้นร้อนรุ่มด้วยอารมณ์และแผดเผานางเสมอ

อยากฟัดโคลด์หน้ายู่ วรั๊ย! 



ออฟไลน์ lostboy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1

ออฟไลน์ Kamidere

  • บรรยายมันออกมา ทุกสิ่งที่อยู่ในใจ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 273
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-2
พอจะแยกความรู้สึกของเอรี่จากสามพี่น้องเอลฟ์ได้ละ

เฟรรูธริน - น่าจะรักแบบบริสุทธิ์ใจ แบบรักแรก ศรัทธา ยกย่อง เป็นที่ยึดเหนี่ยวใจ อะไรทำนองนั้น

ริวอร์นอร์ - รักที่เปี่ยมอารมณ์หนุ่มสาวอย่างเข้มข้น ทั้งแค้นทั้งรัก เป็นรักที่ลึก หวั่นไหวรุนแรง

ซิก - รักอย่างน้องชายที่เชื่อฟัง คอยดูแล

แต่คิดว่าทั้งหมดนี่ เอรี่รู้สึกกับริวอร์นอร์มากที่สุด ศรัทธาเฟรรูธรินมากที่สุด เอ็นดูซิกฟรีดที่สุด


ส่วนตัวแอบกรี๊ดราชามงกุฎดำ โอยยย เพ่ช่างเท่กร๊าวใจอะไรขนาดนี้!~

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด