รักเกิดในแผนกขนส่ง ภาคพิเศษ อำนาจ & พู่ .....ตอน ไม่แน่จริง
จะให้ทำอะไรล่ะ
กินข้าวเสร็จ ช่วยกันปิดร้าน และพี่แก๊ปก็ให้ผ้าขนหนูกับเสื้อผ้าเพื่อไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่หลังร้าน
อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ ตากผ้าขนหนูเรียบร้อย และพู่ก็เปิดมุ้งแล้วคลานเข้ามา
พี่แก๊ปมันขยับตัวและลุกขึ้นนั่ง เพื่อจะถอยห่างออกไปอีกเล็กน้อยเพื่อเป็นการแบ่งพื้นที่ให้พู่เข้ามานอนด้วย
“จะนอนข้างนอกหรือข้างใน”
นอนข้างนอกหรือข้างในเหรอวะ
“พู่นอนข้างในแล้วกัน เดี๋ยวนอนข้างนอกเอง”
เออ ก็ได้ ไม่มีปัญหา จัดไป
เปลี่ยนที่นอนกันเรียบร้อย และ พู่ก็เข้าไปนอนด้านในเรียบร้อย
“นอนมุ้งนี่มันได้บรรยากาศดีเหมือนกันนะพี่แก๊ป” ได้บรรยากาศอะไรวะ
“ชอบเหรอ ถ้าชอบก็มาค้างบ่อย ๆ สิ”
พูดไปแบบไม่ทันคิดอะไร แต่พู่ถึงกับอมยิ้มเพราะแปลความหมายของคำพูดนั้นไปเรียบร้อย
และแก๊ปที่ไม่ได้รู้เรื่องด้วยก็หันมามองคนที่ค่อย ๆ เอนตัวลงไปนอนอีกครั้ง
“โดนพัดลมป่าว”
พัดลมเหรอ
“ได้อยู่พี่แก๊ป”
ตอบกลับไปแล้ว และแก๊ปก็พยักหน้ารับ ก่อนจะเปิดมุ้งขึ้นและลงจากเตียงไปปิดไฟ และกลับเข้ามาในมุ้งอีกครั้ง มาล้มตัวนอนข้าง ๆ กับพู่
“......................”
ปกติก็อาจจะมีหยอกกันบ้าง ด่ากันบ้าง แต่พอต้องมาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้จริง ๆ ทำไมไม่รู้จะพูดอะไรกันเลยวะ
“ปกติตื่นกี่โมงวะพู่”
ตื่นกี่โมงเหรอ
“หกโมง แต่ไม่เคยตื่นหกโมงจริงหรอก โน่นเลย จนกว่าแม่จะมาเรียก”
มิน่าล่ะ มึงถึงได้มีสภาพเหมือนคนเพิ่งตื่นนอนมาทำงานทุกวัน ดีนะที่มึงเก่งแล้วก็ตั้งใจทำงาน ข้อเสียตรงที่มึงชอบทำหน้าเบลอ ๆ ตอนเริ่มทำงานเลยไม่เป็นที่ครหา
“เออ มึงก็เก่งเนอะ นี่ไม่มีใครรู้เลยนะเนี่ยว่ามึงก็เหลวไหลเหมือนกัน กูนึกว่ามึงตื่นตั้งแต่ตีสี่มาฝึกวิทยายุทธ ตอนเช็คของกับขึ้นของมึงแม่งเป๊ะสุด ๆ ที่แท้เพราะนอนมาเยอะแล้วนี่เอง เดี๋ยววันหลังกูเอามั่งดีกว่า เผื่อจะทำงานได้เร็วๆ อย่างมึงบ้าง”
ไม่ใช่แระพี่แก๊ป
“ชมหรือด่าวะ”
ชมสิ มึงเก่งนะพู่ มองรู้เลยว่ามึงเป็นคนหัวดี ผิดกับกูที่ทำอะไรช้า บางทีเขาสั่งอะไรมา กูยัง งง ๆ อยู่เลย ไอ้พู่แม่งเข้าใจไปเรียบร้อยแล้ว นี่ดีที่อยู่มานาน มันเลยทำได้คล่องหน่อย ถ้าเป็นแรกๆ นี่ไม่ต้องคุยเลยล่ะ
“มึงเก่ง กูก็ชม อันนี้พูดจริงๆ พู่ มึงเก่งจริง ๆ ว่ะ”
เหรอ
“โกรธป่ะ”
อะไรวะ จะให้กูโกรธเพราะมึงเก่งเหรอ มันใช่เรื่องที่ไหนล่ะพู่
“โกรธไมวะ”
เอ่ยถามและพู่ก็พลิกกายนอนตะแคงข้าง มองหน้าของแก๊ปที่นอนยืดแขนออกไปจนสุดและวางมือไว้เหนือหัว
“โกรธที่ผมเป็นแบบนี้”
คิดมากไปแล้ว เมื่อก่อนอาจจะมีไม่พอใจบ้างนะพู่ แต่ตอนนี้ไม่แล้วล่ะ มึงก็มีส่วนดีในแบบของมึง กูก็พอจะมีอะไรดีอยู่บ้างแหละน่า มึงก็มีข้อด้อย กูก็มี จะเป็นอะไรยังไงก็เอาเถอะ สุดท้ายมันโอเคกันทั้งคู่ก็พอแล้ว
“มึงก็บ้า คิดไปได้ เลิกคิดเหอะ นอนดีกว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า”
ชวนให้นอน และพู่ก็ทำตาม ไม่พูดอะไรต่อ บอกให้นอน ก็นอน
“ไอ้พู่”
อะไรพี่แก๊ป
“นอนอะไรของมึงเนี่ย ถอยไปหน่อยไม่ได้หรือไงวะ”
ทำไมวะ
“ไม่”
ตอบปฏิเสธไปเรียบร้อย และพู่ก็จงใจวางมือไว้บนตัวของแก๊ปก็เริ่มกอดเอวของแก๊ปแน่นขึ้น
แล้วไงวะ กูจะทำแบบนี้ มึงจะทำอะไรกูได้วะพี่แก๊ป
“กูหื่นนะไอ้เหี้ย มึงยั่วกูใช่มั้ยเนี่ยะ”
เออ
“ก็ไม่โง่นี่หว่า” ยอมรับไปแบบตรง ๆ และกลายเป็นแก๊ปที่นอนตัวแข็งทื่อตาค้าง จะเอามือของพู่ออก แต่ก็ไม่กล้า
ห่าพู่ เล่นกูแล้วไง มึงเอาจริงเหรอวะเนี่ย ที่บอกว่าจะขึ้นกูเนี่ย มึงเอาจริงใช่มั้ย
“ไอ้พู่ ปล่อยดิ๊ แม่กูอยู่บ้านในนะเฮ้ย”
ก็รู้ไง แล้วผมไปทำอะไรพี่ยังวะ
“กอดเฉย ๆ น่า กลัวไรวะพี่แก๊ป กูไม่ข่มขืนมึงหรอก นอน ๆ ซักทีดิวะ แม่งยุกยิกอยู่ได้ เดี๋ยวกูปล้ำแม่งเลย”
ไอ้พู่..........
“...........................”
แล้วมันก็แค่กอดจริง ๆ พราะเมื่อผ่านไปได้ไม่ถึงห้านาที แก๊ปก็ได้รู้ ไอ้พู่หลับไปเรียบร้อยแล้ว นี่มึงไม่สลดเลยหรือไงวะ
มึงควรกลัวโดนกูปล้ำเปล่าวะ แต่นี่แม่งเสือกมานอนกอดกูเฉยเลย ทั้งยั่วทั้งอ่อยเลยนะไอ้เหี้ยนี่
เรื่องความอดทนกูก็มีอยู่หรอกนะ แต่บางทีความอดทนของคนเรามันก็มีขีดจำกัดอยู่เหมือนกัน
ลดมือลงจากหัว และค่อย ๆ ลดแขนลงมากอดคนที่มานอนเบียด
กอดและก้มหน้าลงมามองคนที่เพิ่งจะนอนหลับไปได้ไม่นาน
มองแล้วก็ยิ้ม
ได้แต่ยิ้มเพราะขำกับสิ่งที่อีกฝ่ายทำ ถ้าสถานที่มันอำนวยกว่านี้ มึงอย่านึกว่าอ่อยกูขนาดนี้แล้วมึงจะรอด
แต่นี่เพราะสถานที่มันไม่เอื้อ มึงก็เลยยังรอดอยู่ มึงน่าจะดีใจนะพู่ ที่กูยังไม่ขย้ำมึงซะตั้งแต่ตอนนี้ อย่างน้อยก็ยังพอการันตีได้ว่า พรุ่งนี้มึงจะยังมีแรงไปทำงานได้อยู่
แก๊ปกำลังยิ้ม และครุ่นคิดอะไรไปเรื่อย แต่ความคิดนั้นก็อยู่ได้ไม่นาน เมื่อคนในอ้อมแขนเริ่มขยับตัวซุกเข้ามาที่อก เบียดกายเข้ามาหาอีกนิด จนได้กลิ่นกายของอีกฝ่าย
พู่แม่งหอมจังเลยวะ ตัวแม่งมีกลิ่นหอม ๆ กลิ่นเดียวกับกูเลยนี่หว่า
มันก็น่าจะใช่อยู่หรอก ก็อาบน้ำแล้วใช่สบู่แบบเดียวกันนี่จะให้กลิ่นมันต่างไปจากนี้ได้ยังไง
แรก ๆ ยังไม่ได้คิดอะไร แต่เมื่อพู่เบียดกายเข้ามาหาแค่นั้น คนที่ไม่ได้คิดอะไรก็ชักจะต้องคิด นอนตัวแข็งทื่อตาค้างและไม่รู้ว่าจะจัดการกับอารมณ์ของตัวเองที่เริ่มไม่ปกติได้ยังไง
ไอ้พู่ มึงจะเบียดทำห่าอะไรนักหนาวะ ของกูจะขึ้นแล้วเนี่ย
“อือออ”
ไม่ใช่แค่เบียด แต่มันยังร้องครางเสียงเบาในลำคอ เหมือนกำลังหลับสบาย
มึงสบายแต่กูไม่สบายอย่างมึงนะไอ้พู่ กูไม่ได้สบายเลย ตอนแรกแค่คิดจะกอด แต่ในเวลานี้มือของแก๊ปลูบไล้เบา ๆ ที่ไหล่ของพู่แล้ว
เนื้อแม่งอย่างแน่นเลยวะจับแบบนี้รู้เลยว่าไอ้พู่เนื้อแน่นใช้ได้ แล้วยัง..........
ไม่ใช่แค่ไหล่แต่เริ่มลากมือลงไปที่แผ่นหลัง แตะสัมผัสแผ่วเบาและเริ่มไล้เรื่อยลงไปถึงสะโพก
ไอ้แก๊ป............สถานที่ไม่เอื้ออำนวย มึงอย่าทำเป็นเล่นไป แบบนี้มันเสี่ยงมากเลยนะเว้ย
ถ้าคิดจะทำ ต้องไม่ให้มีร่องรอยอะไรหลงเหลือเลยนะ แม่ง แต่กูไม่ไหวแล้ว เอายังไงดีวะ เอายังไงดี.............
แม่งจะทนไม่ไหวอยู่แล้วนะโว้ยยยย
“พู่”
เรียกให้คนที่หลับไปก่อนรู้สึกตัว และพู่ที่หลับไปแล้วก็ขานรับและยกมือขึ้นขยี้ตาเมื่อถูกปลุกให้ตื่นหลังจากเพิ่งเคลิ้มหลับไป
“อือ”
ไม่ต้องมาอือเลยนะมึง เพราะมึงเลย กูถึงได้เป็นแบบนี้ ไอ้พู่ กูไม่ไหวแล้วเนี่ย เพราะมึงเลย เพราะมึงมาเบียดกูเลย
“มึงทับแขนกู”
อ้าวเหรอ เออ ทับแขนเหรอวะ
เกิดอาการงง และพู่ก็ค่อย ๆ ขยับตัวเตรียมลุกขึ้นเพื่อจะได้ขยับไปนอนอีกทาง สภาพมึน ๆ เบลอ ๆ แบบนั้นมันน่ามองที่สุด
แม้จะไม่สามารถมองเห็นได้ชัด ๆ แต่มันก็ทำให้คนมองรู้สึกอยากมองให้มากขึ้น
อยากมองให้มากกว่านี้
อยากมองให้ชัด ๆ อยากเห็นให้ชัด ๆ ก็เลยตัดสินใจโน้มคอของพู่ให้ลงมาหา
“อะไร....พี่แก๊ป.......อือ”
พู่ล้มลงมาและร่างกายก็ทาบทับอยู่เหนือร่างของคนที่ดึง
ต้นคอถูกตรึงเอาไว้ และริมฝีปากก็ถูกฉกฉวยลมหายใจไปเรียบร้อย หายใจแทบไม่ทันและรู้สึกได้ถึงริมฝีปากที่ประกบแนบเข้าหาคลึงเคล้า คลอเคลียอยู่กับริมฝีปากของพู่ไม่ห่าง ปลายลิ้นที่สอดเข้ามาเกี่ยวกะหวัดรัด ดูดดุนปลายลิ้นของพู่ที่เอาแต่ถอยหนี รุกไล่จนพู่ต้องแหงนเงยใบหน้าขึ้นเพื่อรับอากาศหายใจ และแก๊ปก็ยอมปล่อยให้พู่เป็นอิสระ เมื่อจูบจนพอใจ
“อื้ออออ”
ถึงกับทรุด ใบหน้าแนบอยู่ที่อกของแก๊ปเรียบร้อย และพู่ก็เกิดอาการตาลอยคว้าง
กำลังเคลิ้มหลับ แต่ก็ตื่นเต็มตา ตื่นขึ้นมาเต็ม ๆ ตาก็เพราะว่าถูกปลุกให้ตื่น
และคนปลุกให้ตื่นก็เริ่มล้วงมือเข้าไปในเสื้อของพู่ ลูบไล้เล่นที่แผ่นหลังเนียน ลูบไล้เรื่อยและค่อย ๆ เลื่อนฝ่ามือลงไปที่สะโพกบีบเค้นที่สะโพกแน่น จากแผ่วเบาและในเวลานี้ก็เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ
และพู่ก็รู้ว่าอีกฝ่ายคงมีอารมณ์ไม่น้อย เพราะบางอย่างของร่างกายได้แนบชิดกัน กำลังตื่นตัวขึ้นมาอย่างช้า ๆ
เริ่มตุงขึ้นมาและเสียดสีอยู่ที่หว่างขาของพู่
“ไม่ไหวจริง ๆ ว่ะพู่”
ไม่ไหวห่าอะไรวะ ไหนทำเป็นเฉย ไม่อะไรกูไม่ใช่เหรอแล้วทำไมอยู่ดี ๆ ถึงได้...........
อยากจะถาม แต่การที่ถูกกดสะโพกให้จุดกึ่งกลางของร่างกายเบียดเสียดกันมากขึ้น มันทำให้พู่เริ่มหน้าแดง เมื่อรู้ว่าร่างกายตัวเองกำลังโหยหาและต้องการไม่ต่างกัน
“แข็งเร็วจริงวะพู่มึงอ่ะ”
แล้วมึงให้กูทำไง มึงเล่นแอ่นเอวใส่กูซะขนาดนี้ ของมึงก็ไม่ใช่ธรรมดาเหมือนกันแหละวะพี่แก๊ป
“ทำไงได้ ผมก็รู้จักเงี่ยนเหมือนกันนี่หว่า” ถ้ามึงจะตอบกูแบบนี้นะพู่
“แต่ทำสุดไม่ได้นะพู่ เดี๋ยวพรุ่งนี้มึงไม่มีปัญญาลุกขึ้นไปทำงานแน่ ๆ”
เออเหอะ จะลุกได้ไม่ได้ก็ช่างแม่งเหอะ กูว่ากูชักไม่ไหวแล้วเหมือนกันว่ะพี่แก๊ป
“ได้แค่ไหนเอาแค่นั้นนะพี่แก๊ป ไม่ไหวแล้วว่ะ”
บอกออกไปเสียงเบา และนึกอายที่บอกความต้องการของตัวเองออกไปได้ขนาดนั้น
“ถอดกางเกงมั้ย จะได้ทำพร้อมๆ กัน”
มึงอยากทำอะไรกู มึงก็ทำเห้ออออออออ จนป่านนี้แล้ว มึงจะบอกให้กูพลิกคว่ำพลิกหงายกูก็ยอมหมดแล้ว ไม่ต้องแค่ถอดกางเกงหรอก กูถอดได้หมดเลยเนี่ยแหละ
“เดี๋ยวถอดเอง”
พู่ค่อยๆ ผุดลุกขึ้นนั่ง จัดการถอดเสื้อที่สวมอยู่ออกและค่อย ๆ ดึงกางเกงที่สวมอยู่ไปให้พ้นตัว
ร่างกายเปลือยเปล่าเผยให้เห็นต่อหน้า และแก๊ปก็ได้แต่นั่งนิ่ง กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก
มืดขนาดนี้ กูยังรู้ว่าไอ้พู่แม่งขาวจริง ๆ อย่างที่มันว่า ขาวขนาดนี้ ถ้าเกิดเปิดไฟคงได้เห็นชัด ๆ ยิ่งกว่านี้
“พี่แก๊ป แล้วทำไมมึงไม่ถอด มึงจะให้กูถอดคนเดียวเนี่ยนะ มึงบ้าป่ะเนี่ย”
ใช่ กูคงบ้าไปแล้วที่ให้มึงถอดคนเดียว งั้นกูถอดบ้างก็ได้
จัดการถอดทั้งเสื้อและกางเกงของตัวเองออก และวางเสื้อผ้าไว้บนฟูกนอน
และรั้งข้อมือของพู่ให้ลุกขึ้นมานั่งซ้อนอยู่เหนือร่าง
“มึงบอกว่าจะขึ้นให้เองนะ ทำให้ได้อย่างที่ปากพูดนะพู่”
ห๊ะ อะไรนะ กูพูดเอาไว้ก็จริงนะพี่แก๊ป แต่ไม่ได้หมายความว่าจะทำได้ตามที่พูด กูก็พูดข่มมึงไปงั้น ๆ กูไม่เคยคิดที่จะทำจริง ๆ เลยซักที
“.............พูดจริงเหรอพี่แก๊ป”
เออพูดจริง ไม่ไหวแล้วเนี่ย
“อย่าบอกนะว่ามึงทำไม่เป็น”
ใช่ กูทำไม่เป็น แต่จะให้พูดได้ยังไง ขืนบอกไปก็เสียฟอร์มตายห่าสิวะ อุตส่าห์ข่มไอ้พี่แก๊ปไปได้ซะขนาดนี้แล้ว
เกิดมากลับลำทีหลังเสียหายแย่
ขนาดพยายามใจกล้าหน้าด้าน ไม่ให้มือสั่นตอนที่ถอดเสื้อผ้าต่อหน้าพี่แก๊ปได้นี่ก็ยากแล้ว แล้วยังจะให้กูขึ้นให้มึงอีก
กูพูดได้ แต่กูทำไม่เป็นโว้ยยยยยยยยยย ไอ้ห่าพี่แก๊ป
“ไอ้พู่”
ไม่ได้ตอบ แต่พู่กำลังมีสีหน้าลำบากใจ และกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก
พยายามระงับใจบอกตัวเองว่าไม่ให้กลัว บอกตัวเองว่าอย่าสั่นและหลับตาแน่น ตอนที่ค่อย ๆ โอบแขนทั้งสองข้างที่รอบคอของแก๊ป และค่อยๆ โน้มใบหน้าเข้าหา
จูบกันไม่มีปัญหา กูทำได้อยู่แล้วเพราะเคยมีประสบการณ์อยู่บ้าง แค่ทำให้มันเหมือนชำนาญก็พอแล้ว ไอ้พี่แก๊ปไม่น่าจะจับได้ว่ากูไม่ค่อยถนัดเรื่องพวกนี้มากนัก แต่นี่มันจะให้กูขึ้นให้ แค่นี้กูก็จะตายอยู่แล้ว
เสือกมาพูดแบบนี้อีกเหรอวะ ไอ้ห่าพี่แก๊ปโว้ยยยยยยยยยยย
พู่ไม่ได้พูด
แต่แก๊ปเริ่มขมวดคิ้วมุ่น เมื่อจับสังเกตอาการของคนที่มันปากดีบอกว่าถ้าไม่ยอมมัน มันจะขึ้นให้
แล้วทำไม..........ตัวมึงถึงได้สั่นขนาดนี้ล่ะพู่ ทำไมมึงถึงสั่นได้ขนาดนี้.......
ตอนแรกกูไม่คิดจะทำอะไรให้มันสุดหรอกนะ แต่มึงไม่รู้ตัวหรอกว่าทำอะไรลงไปบ้าง
นี่มันยิ่งกว่ายั่วกูอีกนะพู่ ทำแบบนี้มันยิ่งกว่ายั่วอีก มึงรู้เอาไว้ซะด้วย
และถ้าพรุ่งนี้มีความจำเป็นต้องลางาน กูก็ไม่คิดจะลังเลที่จะลาเลยด้วย ไม่ปล่อยแม่งหรอกวะมาซะขนาดนี้แล้ว..........
ที่บอกไว้ว่าคืนนี้มึงเสร็จกูแน่ มึงได้เสร็จกูจริงๆ แน่ไอ้พู่ ไม่ต้องกลัว..........
“ถ้ามึงไม่ขึ้น กูจะเอามึงแล้วนะพู่ กูไม่ปล่อยมึงหรอกนะ มึงทำใจเอาไว้ได้เลย”
เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยย
ตอนแรกกูก็นึกว่าตัวเองจะไม่กลัวนะ แต่พอพี่แก๊ปแม่งจะทำจริง ทำไมมันนึกกลัวขึ้นมาวะ นึกกลัวขึ้นมาสารพัด จากคำบอกเล่าของพวกพี่วิเชียร พี่อ้น ที่เคยเล่าให้ฟังว่าแม่งจะเจ็บมากจนแทบตายห่า
แล้วนี่กูทำอะไรอยู่วะเนี่ย กูกำลังทำอะไรอยู่ คิดดีแล้วใช่มั้ย คิดดีแล้วใช่...........มั้ยวะ
“อึก...พี่.........พี่แก๊ป ที่กูพูด กูแค่อยากข่มมึงเฉย ๆ ไม่ทำถึงที่สุดได้มั้ย กูกลัว ฮืออออออออออ”
เกิดอาการหลอนขึ้นมากะทันหัน และแก๊ปที่อารมณ์เริ่มไปแล้วกว่าครึ่งในเวลานี้กำลังอ้าปากกว้าง ตาค้าง
เมื่ออยู่ดี ๆ คนที่นั่งคร่อมอยู่เหนือร่างด้วยสภาพเปลือยเปล่าไม่ต่างกัน สารภาพความจริงบางอย่างออกมาให้ได้ฟัง
ไอ้พู่ อะไรของมึงเนี่ยะ อะไรของมึงวะ
มึงท้ากูเองนะ มึงบังคับกูเองนะ แล้วพอเอาเข้าจริง ทำไมเสือกเป็นแบบนี้ไปได้วะ
แม่ง...............ไอ้พู่.............ไอ้พู่ ไอ้พู่ ไอ้ห่าพู่ กูอยากจะบ้าตายกับมึงจริง ๆ
ไอ้พู่เอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยย
กูบอกมึงเอาไว้เลยนะพู่ กูบอกมึงเอาไว้ได้เลยตรงนี้ บอกมึงเลยตรง ๆ
“พู่.....มึงรู้ตัวมั้ยเนี่ย ว่าตอนนี้มึงโคตรน่ารักเลยว่ะ ......กูจะคลั่งก็เพราะมึงทำแบบนี้แหละ.....แม่งเอ้ย ทำไม่เป็นแล้วทำไมเสือกมายั่วกู กูเป็นไปได้ขนาดนี้ก็เพราะมึงนะพู่ แล้วอยู่ ๆ จะให้กูหยุด แล้วกูจะทนไหวได้ไงล่ะโว้ยยยยยยยย”
TBC.