เพื่อนร่วมงานแบบที่ 34
น่ารัก น่ามอง มีอะไรอีกที่พอจะใช้เป็นคำนิยามให้กับสิ่งที่เบลเห็นตอนนี้ได้
ฝ่ามือที่คอยจะผลักไส้ไม่ให้สอดแทรกร่างกายเข้าหา สีหน้าและท่าทางที่แสดงออกอย่างชัดเจน ทำให้เบลที่ทำได้แค่บอกให้ตัวเองใจเย็น ๆ ต้องถอนหายใจยาว
“อึก อือ”
“ได้มั้ย”
ชยาส่ายหน้าแต่เบลก็จูบซ้ำ ๆ ที่ริมฝีปากที่ขบแน่นเพื่อให้รู้ว่ายังไงก็ทำสิ่งที่ควรทำด้วยกันได้ ฝ่ามือรูดรั้งที่ความแข็งขืนที่จุดกึ่งกลางร่างกายของชยาเพื่อช่วยปลุกเร้าอารมณ์ให้ ไม่อยากให้เจ็บ ไม่อยากให้กลัวจนไม่กล้าจะทำอะไรด้วยกันอีก
“เชื่อใจผมมั้ย”
เชื่อ ไม่ว่ายังไงก็เชื่อ
พยักหน้ารับและชยาก็ขบริมฝีปากแน่นขึ้น ตอนที่ส่วนนั้นกดแทรกเข้ามาในร่างกายอีกครั้ง
“อึก อืออออ”
ฝ่ามือกำแน่นที่ผ้าปูที่นอน ร่างกายเหยียดเกร็งและรู้สึกถึงสิ่งที่สอดแทรกเข้ามาจนหมดหลังจากใช้ความพยายามด้วยกันอยู่นาน
“เข้าไปได้แล้วเห็นมั้ย”
เบลผ่อนลมหายใจออก ก่อนจะค่อย ๆ ขยับร่างกายอย่างเชื่องช้าเพื่อให้เกิดความเคยชิน และทิ้งกายลงทาบทับอยู่เหนือร่างของชยา จูบที่ริมฝีปากร้อนที่ขบเข้าหากันแน่น และชยาก็ยอมเปิดปากรับเมื่อปลายลิ้นร้อนสอดเข้ามาในโพรงปากและเกี่ยวกระหวัดรัดพัวพันจนทำให้หายใจแทบไม่ทัน
“อือ อึก อือ”
ร่างกายแสดงความรู้สึกออกมาทั้งหมด ส่วนที่เคยอ่อนแรงตื่นตัวขึ้นอย่างเต็มที่เมื่อถูกฝ่ามือร้อนรูดรั้งให้
“รู้สึกเหมือนกันแล้วนะ”
ชยาไม่รู้ว่าแบบไหนเรียกว่าเหมือนกัน รู้แค่ว่าตอนนี้เหมือนกำลังลอยไปลอยมาอยู่ในอากาศ ตอนที่ความแข็งขืนใหญ่โตเริ่มขยับเข้าออกที่ช่องทางด้านหลังที่บีบรัดแน่นเร็วขึ้น หน้าคงแดงมาก และรู้สึกถึงความร้อนที่วิ่งวนไปมาทั่วร่างกาย
“ผมจะทำแรงขึ้นอีกนิดนะ”
กระซิบบอกเสียงพร่าที่ข้างหูของคนที่ร่างกายเคลื่อนไหวไปตามจังหวะการสอดแทรก และชยาก็พยักหน้ารับอย่างช้า ๆ
เสียงครางแผ่วในลำคอที่ได้ยินทุกครั้งที่ขยับกายเข้าออกยิ่งทำให้เบลมีความสุข ปลายลิ้นที่กระหวัดพัวพันเข้าหากันตอนที่ร่างกายเป็นหนึ่งเดียวกันยิ่งเพิ่มความรู้สึกให้มากขึ้น และชยาก็ยอมรับความรู้สึกร้อนแรงที่เบลมอบให้เอาไว้ทั้งหมด
ดวงตาสองคู่สบกันนิ่ง และเบลก็โน้มใบหน้าลงมาจูบซ้ำที่ริมฝีปากร้อนแผ่วเบา เคล้าเคลียไม่ห่าง และช่วยรูดรั้งความต้องการให้ชยาเร็วขึ้นพร้อมกับขยับเคลื่อนไหวร่างกายของตัวเองไปด้วย
ฝ่ามือจิกทึ้งลงไปที่ผ้าปูที่นอนทุกครั้งที่ถูกแทรกกายเข้าหา ต่างฝ่ายต่างตอบรับความรู้สึกของกันและกัน เสียงร้องครางแผ่วด้วยความสุขสมของคนสองคนที่มีความรู้สึกรักใคร่ต่อกัน ยิ่งทำให้อยากจะเป็นของกันและกันมากขึ้น
มีความสุขจนเหมือนความรู้สึกที่อัดแน่นอยู่ภายในกำลังจะล้นออกมา เรียวขาขาวถูกยกขึ้นเพื่อให้การสอดแทรกลึกล้ำมากขึ้น
รสชาติหวาน ๆ จากริมฝีปากที่พัวพันเข้าหากันไม่ห่างยิ่งทำให้แทบจะทนไม่ไหว ใบหน้าเนียนขาวแหงนเงยขึ้นและสะบัดไปมาทุกครั้งที่ท่อนเอ็นร้อนกระแทกเข้ามา
“อาส์ อึก อาส์ อือ”
เป็นนานที่ร่างกายหลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกัน และเบลก็รู้ว่าอารมณ์ความรู้สึกทั้งหมดในร่างกายที่กักเก็บเอาไว้กำลังไหลเวียนกันลงมาอยู่ในท่อนเอ็นร้อนที่อยู่ในร่างกายของชยา
“คุณหนูครับ ดีมั้ย”
ไม่รู้ว่าควรตอบว่ายังไง สิ่งที่ทำได้คือรั้งต้นคอของเบลลงมาหาและกอดเอาไว้แน่น และเบลก็ขยับสะโพกให้เร็วขึ้น เมื่อรู้สึกถึงลมหายใจที่หอบถี่กระชั้นเร็วขึ้นของคนที่อยู่ใต้ร่าง
ผิวเนื้อเนียนขาวขึ้นรอยแดงช้ำเต็มไปหมดและเบลก็อยากให้ร่องรอยที่ทำเอาไว้คงอยู่แบบนั้นตลอดไป
“เบล ไม่ไหวแล้ว ฮืออ”
เรียวแขนขาวกอดรัดรอบคอของเบลเอาไว้แน่นและเบลก็ขยับร่างกายให้เร็วขึ้น เมื่อใกล้จะถึงจุดหมายเต็มที
“อาส์ คุณหนูครับ ไม่ไหวแล้วเหมือนกัน”
กระซิบบอกเสียงแหบพร่าและชยาก็แหงนเงยใบหน้าขึ้น เมื่อความร้อนในร่างกายทั้งหมดไหลเวียนมาอยู่ในจุดเดียวกัน ความรู้สึกมากมายที่อัดแน่นอยู่ในร่างกายหลั่งทะลักออกมาเมื่อถึงจุดสิ้นสุดของอารมณ์
ร่างกายเหยียดเกร็งและเบลก็หยัดกายขึ้น ขยับสะโพกถี่รัวเข้าไปในช่องทางที่เต้นตุบและบีบรัดแน่น ก่อนจะถอนร่างกายออกและขยับฝ่ามืออีกสองสามครั้งเพื่อรูดรั้งร่างกายของตัวเองจนปลดปล่อยออกมาจนหมดสิ้น
“อึก อือ”
ทุกหยาดหยดที่หลั่งออกมาหยดลงเปรอะเปื้อนไปที่หน้าท้องเนียนขาวของคนที่นอนไร้เรี่ยวแรงและเบลก็ทรุดกายลงทาบทับอยู่เหนือร่างของชยาที่ยังหอบหายใจหนักและหรี่ปรือตามองอยู่บนเตียง
“เบล”
“อือ”
“ดีมั้ย”
ดีมาก ดีอย่างไม่น่าเชื่อ และทำให้มีความสุขมาก คุณหนูน่ารักมากจนอยากจะรักคุณหนูให้มาก ๆ อีกหลาย ๆ ครั้ง
“ทำไมถึงหาเรื่องให้ตัวเองขนาดนี้ล่ะคุณหนู”
เอ่ยถามและเบลก็เกลี่ยปลายนิ้วไปที่ข้างแก้มของชยาเบา ๆ และส่งยิ้มให้
“ไม่ได้อยากหาเรื่องให้ตัวเองเลยนะ”
“จะไม่หาเรื่องได้ยังไง พูดแบบนี้ มันจะทำให้คุณหนูกลับบ้านดึกกว่าเดิมนะ”
บางทีมันอาจเป็นแบบนั้นก็ได้
ชยาไม่รู้ว่าจะพูดอะไรได้อีกนอกจากซุกหน้าลงที่แผ่นอกกว้างของคนที่รั้งเข้าไปกอดและกดปลายจมูกลงที่กลางกระหม่อมของชยาเบา ๆ
“ผมไม่ได้รุนแรงและไม่ได้ทำให้ร่างกายของคุณหนูแตกหักเสียหายตรงไหนใช่มั้ย”
เอ่ยถามด้วยความกังวลใจ และชยาก็หัวเราะเสียงเบา
“คิดว่าไม่น่าจะมีอะไร นอกจากทำให้หายใจไม่ทันและหมดแรง”
+++
วันหยุดที่ได้มีโอกาสอยู่ด้วยกัน ทำให้เบลมีความสุขเพิ่มมากขึ้นหลายเท่าเมื่อเราได้ใช้เวลาด้วยกัน แค่เห็นหน้าชยาก็ทำให้ยิ้มได้ยิ่งมองก็ยิ่งเหมือนว่าจะหลงใหลชยามากขึ้นทุกวัน
“โหยหาความรักความเมตตา”
มีเพลงหนึ่งที่เบลคิดว่าเหมาะสมกับชยา มองหน้าอีกฝ่ายแล้วก็ได้แต่ยิ้มและส่ายหน้าด้วยความขำ เขย่าแก้วกาแฟไปมาและเริ่มร้องเพลงที่อยู่ในหัวให้เด็กหิวโหยที่อยู่ตรงหน้าฟัง
ชยาเงยหน้าขึ้นมองและเลิกคิ้วขึ้นสูงด้วยความสงสัย ไม่รู้ว่าเบลร้องเพลงอะไรก็เลยต้องเอ่ยถามทั้งที่ยังเคี้ยวโดนัทอยู่ในปาก
“เพลงอะไรเหรอ”
“ไม่บอก”
ตอบไปแบบนั้นและมองหน้าของคนที่อยู่ตรงหน้าแบบยิ้ม ๆ ชยาหยิบโดนัทขึ้นกัดอีกคำและไม่สนใจคนที่มองอีกและเบลก็เอนหลังพิงกับพนักเก้าอี้ กอดอกและยังไม่ละสายตาไปจากคนที่กินโดนัทอย่างมีความสุข
ดูเหมือนจะชอบขนมและของหวานมากเป็นพิเศษ เพราะทุกครั้งที่มีเรื่องให้ไม่เข้าใจกัน แค่ชวนมากินขนมชยาก็จะหายโกรธทันที
“ปากเลอะหมดแล้ว”
บอกออกไปแบบนั้นและชยาก็รีบหยิบกระดาษทิชชู่ขึ้นเช็ดที่ริมฝีปากตัวเองและรีบผละออกห่างทันทีไม่ให้เบลทำอะไรได้ เพราะรู้อยู่ก่อนแล้วว่าอีกฝ่ายพูดแบบนี้เพราะอะไร
“อย่ามาหาเรื่องเช็ดปากให้นะ”
แย่จริงวะแบบนี้
เซ็งเลย เบื่อจริง ๆ คุณหนูรู้ทัน บางทีก็อยากทำอะไรกุ๊กกิ๊กหวานแหววบ้าง ทำไมถึงได้หวงตัวขนาดนี้ล่ะคุณหนู
จากที่ยิ้ม ๆ อยู่ ตอนนี้เบลเริ่มหน้าบึ้งแล้ว และชยาก็เป็นฝ่ายยิ้มออกมาเมื่อเห็นคนตรงหน้าทำหน้ายุ่งเพราะมีคนรู้ทันความคิด
เบลเขย่าแก้วกาแฟในมือไปมาและวางเอาไว้บนโต๊ะ หงุดหงิดกับความรู้ทันของคุณหนูยังไม่พอ ยังต้องหงุดหงิดเพราะรอยยิ้มของคุณหนูอีก
“นี่คุณหนู กินไปเงียบ ๆ เลยไป”
โดนว่าแบบนั้นและชยาก็อมยิ้มเล็ก ๆ ที่มุมปาก ไม่ได้อย่างใจแล้วก็มาโมโหใส่กันแบบนี้หมายความว่ายังไง
“นี่เบล ผมไม่ใช่คุณหนู เลิกเรียกผมว่าคุณหนูได้แล้ว”
“ทำไม อยากเรียกมีอะไรมั้ย คุณหนู คุณหนู คุณหนู”
ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ ทะเลาะกันด้วยเรื่องไร้สาระที่สุด และชยาที่กินโดนัทจนหมดชิ้นแล้วก็หยิบแก้วของเบลขึ้นมาและดูดกาแฟในแก้วจนหมด
“เฮ้ย!”
เขย่าแก้วให้ดูว่ากาแฟในแก้วของเบลหมดแล้ว และเบลก็ยกมือขึ้นขยำที่เส้นผมของตัวเองด้วยความหงุดหงิดใจ
“โว้ยยยยยยย”
ก็เท่านั้น ทำได้แค่นั้น โวยวายได้แค่นั้นเพราะเมื่อคุณหนูที่อยู่ตรงหน้ายกมือประสานกันและส่งยิ้มหวานมาให้ เบลก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากต้องถอนหายใจยาวด้วยความกลุ้มใจ
“เผลอกินกาแฟของเบลหมดแล้วล่ะ ขอโทษนะครับ”
นั่นไม่เรียกว่าเผลอกิน เขาเรียกว่าจงใจ แต่จะมีประโยชน์อะไรเพราะคุณหนูดูเหมือนจะไม่แคร์เลยว่ากินกาแฟของเบลจนหมดแล้ว
“ซื้อกลับบ้านด้วยได้มั้ย แต่ชยาไม่มีตังค์แล้ว”
เออ เอาสิ เอาซะให้พอ
“แม่งจะไม่เหลือตังค์กินข้าวอยู่แล้ว โธ่โว้ย”
แล้วจะไปทำอะไรได้ ถ้าคุณหนูโหยหาความรักความเมตตาขนาดนี้ คนอย่างเบลจะไปทำอะไรได้นอกจากต้องยอมควักกระเป๋าจ่ายค่าขนมแล้วยังต้องซื้อให้คุณหนูหิ้วกลับบ้านอีก
“ไม่ได้หรอกเหรอ”
นั่น...
เอาสิ เอาอีก ได้อีก อย่าพอแค่นี้นะคุณหนูชยา ทำตาละห้อยแบบนั้น ทำหน้าเศร้าแบบนั้นแล้วใครมันจะไปกล้าขัดใจ
“กี่ชิ้น”
“สาม เอ่อ สี่ หรือว่า ห้าดี”
เกินไปแล้ว แบบนี้มันจะมากเกินไปแล้ว ไม่เห็นใจกันบ้างเลยหรือไง
“ไม่!”
ปฏิเสธไปเสียงดังฟังชัด และชยาก็ทำหน้าเศร้าตอนที่ถูกปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย
“ไม่ได้หรอกเหรอ”
ก็ไม่ได้น่ะสิ พอกันทีกับสายตาแบบนี้ แล้วนั่น ยังอีก ยังจะทำหน้าแบบนั้นอีก นั่นไง เอาเซ่ คุณหนู เอาอย่างที่คุณหนูสบายใจ
“แค่ห้าชิ้นแค่นั้นนะ”
สุดท้ายก็เหมือนเดิม ขัดใจได้เหรอถ้าคุณหนูต้องการ
“ก็ด้ะ”
แบบนี้ตลอด ก็แพ้ให้ตลอด เอาที่คุณหนูพอใจเลยครับ
“ไป ลุก งั้นเหมาหมดร้านนั่นแหละดีมั้ย เอาให้ไม่ต้องเหลือเงินกินข้าวกันแล้ว จะได้สบายใจดีมั้ย จะเอากี่ชิ้น เลือก อยากได้กี่ชิ้นซื้อให้หมด ยอม”
“เบล”
เรียกคนที่พาไปเลือกขนมและเบลก็หันมามองหน้าของชยาด้วยสีหน้าจริงจัง
“อย่าบอกนะว่าจะเอาจริง ๆ”
ใครจะไปทำแบบนั้นล่ะ
“เบล”
เรียกอีกครั้งและเบลก็หันมามองคนเรียกด้วยความสงสัย
“เปลี่ยนใจจะเอาหมดร้านจริง ๆ ไม่ได้นะ”
ไม่ได้จะทำแบบนั้นหรอกนะ
“เบล”
“ว่า…”
ชยาเดินเข้ามาใกล้อีกนิด และกระซิบที่ข้างหูเสียงเบาพอให้ได้ยินกันสองคน
“ซื้อแล้วรีบกลับกันเถอะ ชยาอยากไปกินโดนัทที่ห้องเบล”
TBC.