ก้าวที่สิบ
สมบัติมอตัวจริง
โปรดเตรียมใจก่อนอ่าน... วันนี้งานมีตติ้งมีสายป่านเดือนปีสองผัวเราด้วยนะคะ ใครที่จะส่งของให้น้อง ฝากมาที่แอดมินเพจได้เลยค่ะ ไอ้สายป่านเป็นคนดัง…
เขาไม่แปลกใจเลยที่จะมีเพจที่ชื่นชอบมันขนาดนี้ผุดขึ้นมาเหมือนดอกเห็ด
แต่มีเพียงเพจนี้เพจเดียว ที่คงต้องเรียกว่า ได้รับการยอมรับแบบ… ออฟฟิเชียลหรือเป็นทางการ
เพจ…
ใครใครก็เป็นเมียสายป่านได้ !!!
แล้วเขาก็เป็นหนึ่งในคนกดไลค์เสียด้วยสิ
ยอมรับก็ได้ ว่าเพจในเฟซบุ๊กอีกยี่สิบเพจที่เขาติดตาม ทั้งหมดเป็นเพจที่เกี่ยวกับไอ้สายป่านทั้งนั้น ยังไม่รวมกลุ่มลับอีกนะ
ไงล่ะ แฟนคลับตัวยง โคตรแฟนคลับ โปรดอย่าเรียกเขาว่าติ่งเลย
แอดคะ แล้วของจะถึงมือพี่เค้ามั้ย คอมเม้นแรกจงใจใช้ภาษาพูดแทนภาษาเขียนตามเทรนด์ฮิตในตอนนี้ ฮืออออออ ไอ้สายป่านคือพี่เค้าจริงๆนะ เดี๋ยวๆ นี่เขาสาวแตกไปแล้วเหรอเนี่ย ไม่นะ ความสายป่าน 291 นี้ ม่ายยยยยย
รับรอง เพราะเรามีคนส่งของเป็นคนในค่ะ ใครนั้น ไม่บอก เขาขอปิดเงียบไว้เด้อ เขาขมวดคิ้ว ติดตามเพจนี้มาก็นาน เพิ่งรู้ว่าแอดมินเพจมีเส้นสายอยู่ในคณะเขา แถมถึงขั้นเรียกว่าคนวงใน ไม่ต้องการันตีความสนิทสนมกับไอ้สายป่านนะ บอกเลยว่า…มากกกกกกกกก
แต่ เป็นใครกันล่ะ
“อิมามี่ เย็นนี้ก่อนเข้างานมีตติ้งดาวเดือน แวะรับของที่อิแอดมินเพจเห็ดอลิซสะบี๋ส่งมาให้ด้วยนะคะ ของแฟนคลับสายป่านทั้งนั้น”
แหม คงไม่ต้องไปตามหาใครคนนั้นแล้วมั้ง เพราะเธอก็นั่งอยู่ตรงข้ามเขานี่เองที่โรงหารคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์
นามนั้นคือ… เหล่านางฟ้าสถาปัตย์!!!
แต่ไม่ใช่แค่เพจนี้เพจเดียวเท่านั้นนะ ที่โพสต์สเตตัสเกี่ยวกับงานวันเกิดของสายป่าน ยังมีเพจต่างๆที่อาสาเป็นคนกลางหิ้วของ เรียกได้ว่า วันเกิดผู้ชาย สู้ตายทำงานอย่างเป็นระบบ ไม่เว้นวันหยุดราชการ
งานคณะ งานมหา’ลัย ถ้ามีความตั้งใจสักครึ่งแบบนี้ได้ก็ดีน่ะสิ!
อย่างเช่นเพจ…
เมียหลวงของสายป่าน เป็นต้น…
รับฝากของค่า รับฝากของ ใครฝากของงานมีตติ้งให้น้องสายป่านในเพจเรา มีสิทธิ์ได้ลุ้นรูปของของตัวเองลงในสตอรี่ไอจีของน้องนะคะ รับรอง เก็บไปฟินยันจบมหา’ลัยค่ะ เนี่ย ก็มันมีสิทธิพิเศษกันอย่างนี้ ล่อตาล่อใจเหลือเหล่าแม่ยกเหลือเกิน
ฮื่อออออออออ
กรี๊ดดดด จริงเหรอคะแอด อย่าโกหกเราน้า
วี๊ดๆๆๆ ในที่สุดเราก็มีโอกาสได้เข้าไปอยู่ในสตอรี่ของพี่เค้า แม้จะเป็นแค่ของที่ฝากไปให้ #เม้นกูไม่มีสติแล้ว555
รับฝากที่ไหนอ่ะคะ จะกลับหอแล่ววววว
หน้าคณะสถาปัตย์เลยจ้า ตรงม้าหินอ่อนใต้ตึกห้านะจ๊ะเด็กๆ
ไปให้ว่องค่ะ
รับทราบ
ปอลอ มาเวลานี้อาจได้เจออาหารตามากมาย “อิดอก อิกะเทยชั้นต่ำฝั่งลูกคุณหนู มันมาเหยียบถิ่นเราว่ะแม่”
เขาสะดุ้งโหยงเมื่อเจ๊มามี่ทุบโต๊ะดังปั้ง แล้วพูดด้วยเสียงมีน้ำโห
“หือ อิแอดมินเพจเมียหลวงของสายป่านนั่นอ่ะนะ มโน อิดอก ผมสักเส้นก็ยังไม่เคยแตะเถอะ กูได้จับขนหมอยสายป่านแล้วยังไม่คุยเลย” วินดี้ยืดอกภูมิใจ
“กรี๊ดดดดดด” ลลิตากรีดร้อง
“กรี๊ดอีกแม่ กรี๊ดมัน” วินดี้บอก
“เปล่า กูกรี๊ดมึง รับไม่ได้ อับอายกะเทยสกปรก พูดออกมาได้ ขนอุยก็พอย่ะ”
“ย่ะ แม่คนสุภาพเรียบร้อยดั่งผ้าพับไว้ แต่สมัครคลิปไลน์ผู้ชายแก้ผ้ายี่สิบกว่ากลุ่ม”
วินดี้แซะกลับ
“มึงเอาความจริงมาพูดทำไม อินี่”
“พอที มึงมาหารือกับกูซิ ว่างานนี้จะเอายังไง” มามี่เรียกทุกคนมาสุมหัว รวมทั้งเขาด้วยที่เข้ามาแบบงงๆ
“เอายังไง คืออะไร”
เขาถามเพราะไม่รู้จริงๆครับ
“วินดี้ อธิบายซิ”
“คืองี้นะมด พูดแล้วมันอาจจะยาว…”
แต่เธอก็พูด - -
“เป็นเวลากว่าทศวรรษในมอนี้ที่ชาวเราเผ่ากะเทย ต้องสู้รบปรบมือกันเพื่อห้ำหั่นแบ่งแยกอาณาเขตการล่าผู้ชาย”
ว้าว แค่เริ่มก็น่าตื่นเต้นแล้ว แหม ตื่นเต้นตายล่ะครับ
“ฝั่งกะเทยลูกคุณหนู ก็คือสามคณะที่ครองดินแดนตะวันตก”
โอ้โห ภาษาได้มากวินดี้
“ส่วนเรา สิบเอ็ดคณะเรียกว่าฝั่งตะวันออก แต่ถึงแม้จะมีการแบ่งแยกอาณาเขตกันอย่างชัดเจนตามเส้นขนานของตึกสูงระฟ้าคณะเศรษฐศาสตร์ แต่ว่า…”
แต่ว่า…
“แต่ว่าในทุกๆอีเว้นท์ของดาวเดือน พวกเราจะโคจรมาเจอกัน อาทิ งานมีตติ้งดาวเดือนปีสิบเย็นนี้ ไม่ว่าพวกเราจะยึดตามเส้นขนาน แต่จะมีแค่วันนี้วันเดียว ที่พวกเราสามารถล่าผู้ชายในเขตคนอื่นได้”
มันดูยิ่งใหญ่มาก
“เพราะงั้น เราเลยมีการแข่งขันกันเล็กๆน้อยๆตามประสากะเทยที่ฟินแต่งหญิง”
อย่าบอกว่ามันก็คือ…
“มันก็คือ…”
“…”
“แข่งกันว่าเหล่าเดือนจะโหวตว่าฝั่งไหนแต่งหญิงสวยที่สุดไงล่ะ”
“…”
“เอ๊ะ เดี๋ยวนะ เหมือนมันมีเหตุการณ์คุ้นๆคล้ายๆว่าเคยเกิดขึ้นว่ะ”
วินดี้ครุ่นคิด
เขาจะทำตัวเงียบที่สุดนะทุกคน เอาเป็นว่านี่เป็นเรื่องของเหล่านางฟ้า มันไม่เกี่ยวกับเขา
“จริงสิ!”
“…”
ทุกคนอย่าหันมาทางนี้ ขอร้อง
“ลูกมดของแม่ๆ”
ม่ายยยยยยยยย
“ช่วยเจ๊ๆด้วยน้า”
เขาเกลียดอิเจ๊!!!
“หืมมมมม พอพูดถึงกะเทยตะวันตก กะเทยตะวันตกก็มา มันมาอ่อยผู้ถึงถิ่นเราเลยว่ะแม่”
มามี่และพรรคพวกที่กำลังเดินมุ่งหน้าจะกลับไปยังจัตุรัสตึกสี่ จำต้องชะงัก เมื่อสายตาดันปะทะเข้ากับกะเทยกลุ่มใหญ่ แต่ละคนไม่ถือกระเป๋าแบรนด์เนมก็กำลังก้มหน้าเล่นไอโฟน X นวัตกรรมจากแอปเปิ้ลรุ่นใหม่ล่าสุดที่กำลังเป็นที่กล่าวถึงในขณะนี้ แถมราคาก็เรียกได้ว่าแพงหูฉี่ตามสไตล์คนรวยจริงๆ
กลุ่มคนเหล่านี้นี่แหละ…
แก๊งกะเทยฝั่งตะวันตกจากสามคณะลูกคุณหนู
และเป็นที่แน่ชัดว่า ทั้งสองแก๊งไม่ถูกกันมานานเกือบทศวรรษ จะเห็นได้ว่ามีเรื่องกระทบกระทั่งกันประปราย และสาเหตุมันเนื่องมาจาก การชอบผู้ชายคนเดียวกัน
ไม่สิ!
การมโนชอบผู้ชายคนเดียวกันมากกว่าเถอะ!!!
ความสุขของกะเทยทุกคนคือการได้เรียกผู้ชายแปลกหน้าที่โคตรหล่อว่า…ผัว
หรือมันไม่จริงคะ อย่ามาเถียง
“มาเหยียบถึงถิ่น หึ คงคิดว่ารอบนี้ตัวเองจะชนะ ผู้โหวตล่ะสิ”
ลลิตากอดอกพูด
“มั่น” วินดี้
“หมายถึงมัน” อุมาพรถาม
“หมายถึงเรา”
“อ้าว”
“จำไว้กะเทย ความมั่นหน้ากับเราเป็นของคู่กัน งานนี้เราชนะแน่ๆย่ะ”
วินดี้เชิดหน้าอย่างมั่นอกมั่นใจ ก่อนทั้งกลุ่มจะเดินเข้าไปเผชิญหน้ากับแก๊งกะเทยฝั่งตะวันตกแบบจังๆ
“ว้ายยยยย ดูซิใครมาคะแม่ใหญ่”
ใครคนหนึ่งในกลุ่มที่สังเกตเห็นแก๊งนางฟ้าก่อนเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่สำหรับพวกของมามี่แล้วรู้สึกว่ามันฟังดูน่าหงุดหงิดชะมัด
ยียวน กวนประสาท
“อ้าวววววว”
“…”
“ก็นึกว่าใคร แก๊งนางฟ้าติดดินนั่นเอง”
แหม มีรับมีส่งกันเสียด้วย มามี่กอดอก เชิดหน้าอย่างไม่สนใจคำว่าติดดินที่ถูกเน้นหนัก
“จำได้ว่าปีที่แล้ว ใครมั่นแล้วพลาดวะทุกคน”
วินดี้เอ่ยขึ้นลอยๆ แล้วหันไปถามความคิดเห็นของเพื่อนแบบแกล้งๆ เรียกเสียงกรี๊ดแหลมๆจากบุคคลที่ถูกเรียกว่าแม่ใหญ่
“แม่ใหญ่ใจเย็นๆก่อนค่ะแม่”
โถ ลลิตาแสยะยิ้มมองภาพประจบสอพลอของลูกทีมตรงหน้า
นี่พวกเธอกำลังดูละครเรื่องอะไรกันอยู่หรือเปล่า เอารางวัลออสการ์สาขาตอแหลการแสดงไปเล้ย…
“มึงชูคอได้แค่ปีนี้เท่าแหละ ปีที่แล้วถ้าไม่ติดว่าเดือนเกษตรชอบของแปลกนะ พวกกูชนะไปแล้ว”
แม่ใหญ่ที่พกความมั่นใจมาเป็นล้านสวนกลับแบบเชิดๆ
“เหรอจ๊ะ อิกรีน ไม่สิ อิเขียว”
อุมาพรจีบปากจีบคอ ซึ่งมามี่มองว่าเป็นโหมดพิเศษเฉพาะสำหรับกวนตีนศัตรูให้ดูน่าเตะแบบโคตรน่าเตะ
“กรี๊ด ไม่มีใครกล้าเรียกชื่อนั้นของกูมานานแล้ว”
“แล้วจะทำไม”
คนที่ผ่านไปมาเริ่มอกสั่นขวัญหาย กลัวว่าจะเกิดการทะเลาะวิวาทรุนแรงขึ้นที่นี่
แต่คนพวกนั้นเป็นคนนอก สำหรับแก๊งทั้งสองแล้ว พวกเธอรู้ดีว่าจะไม่มีทางเกินเลยไปถึงเหตุการณ์ตบตีแน่นอน
เป็นกะเทยคนเขาก็ว่าพอแล้ว สู้ไม่ทำตัวแบบกะเทยที่คนนอกเห็นว่าเป็นดีกว่า
นั่นเป็นประโยคที่แก๊งนางฟ้าจำทอดๆและปฏิบัติสืบมารุ่นแล้วรุ่นเล่า
เป็นกะเทย ต้องไม่ใช้กำลัง แต่ใช้สมองค่ะ
“หึ ใครบางคนคิดว่าปีที่แล้วชนะ ปีนี้ก็จะชนะว่ะ”
แม่ใหญ่กรีนกอดอก เบื้องหน้าแสดงออกด้วยท่าทางใจเย็นสุขุม แปลกไปจากเมื่อกี้ที่ร้องกรี๊ดดั่งโดนไฟไหม้ก้น
นั่นทำให้เหล่านางฟ้าเริ่มเสียขวัญ
จิตวิทยานี่มันใช้ได้ดีจริงๆ
“ไว้รอเจอไม้ตายของพวกกูในงานก็แล้วกัน”
“แล้วจะรอดู”
แม้จะพูดไปแบบนั้น แต่ประโยคของแม่ใหญ่กรีน ก็ได้สร้างแรงกดดันต่อเหล่านางฟ้าสถาปัตย์ได้เป็นอย่างดี
“อ๊ะ นั่น สายป่านนนนนนน”
แต่ก่อนที่อะไรจะตึงเครียดไปมากกว่านี้ เดือนคณะสถาปัตย์ที่เหมือนเป็นใบกระดาษสัญญาสงบศึกชั่วคราวก็กำลังเดินมาทางนี้พอดี
พร้อมกับใครบางคน…
“ลูกปิ๊กของแม่”
เปล่า มันไม่ใช่เสียงของมามี่ ลลิตา วินดี้ อุมาพร หรือลิลลี่
แต่เป็นของฝั่งตรงข้ามต่างหากล่ะ!!!
“โอ๊ะโอ พบคนแปรพักตร์หนึ่งอัตรา” ประโยคนี้หมายถึงปิ๊ก เป็นคนของคณะสถาปัตย์แต่ดันไปเข้าพวกกับฝั่งตะวันตก งานนี้ไม่เกิด ก็ดับยับเพราะเหล่านางฟ้ารอซ้ำอยู่แน่ๆ
วินดี้กอดอกแล้วบุ้ยใบ้ไปทางเด็กปีหนึ่งที่เดินตามสายป่านมาติดๆ
“น่ารักเสียด้วยสิ” อุมาพรพูดขึ้น
“แถมยัง…เด็กกว่า” ลิลลี่เสริม
“งานนี้สนุกแน่ๆ”
แม้จะเห็นไม้ตายของคู่แข่งก่อนงานเริ่ม…
แต่นั่นก็อย่าหวัง ว่าจะทำลายความมุ่งมั่นแห่งศักดิ์ศรีของเหล่านางฟ้าสถาปัตย์ลงได้ย่ะ
และที่สำคัญ…
มดลูกแม่ มีคู่แข่งแล้ว
❤
“โฟร์น้า ช่วยเราหน่อย มึงก็ฟินไม่ใช่เหรองานแบบนี้ อาหารตามากมายน่ารับประทานเลยนะ”
{ใครสั่งใครสอนให้มึงพูดแบบนี้ฮะ อิเจ๊นางฟ้าพวกนั้นเหรอ กูจะบ้าตาย}
“ตกลงจะมาช่วยเราแน่นะ”
{ยังไม่รับปากสักหน่อย เฮ้ย มด เดี๋ยว…}
ตู๊ด
เขาชิงวางสายก่อนเพื่อนสาวประเภทสองคนนี้จะได้พูดปฏิเสธ
เขามั่นใจว่าโฟร์ต้องมาแน่ๆ
งานมีตติ้งดาวเดือนมอที่มีผู้ชายหน้าตาดีละลานตาแบบนี้ มันเคยพลาดซะที่ไหน ยิ่งมีสิ่งล่อใจอีกอย่างให้มันคร้านจะรีบบึ่งรถมาไม่ทันเถอะ
ที่แกล้งจะปฏิเสธเนี่ย คบกับมันมาหนึ่งปี เขาพูดได้เลยว่า…
เล่นตัวทั้งน้านนนน
“แม่ใหญ่คะ เวลว่าเรายกไม่ไหวหรอกค่ะ”
ประสาทหูของเขารับรู้เสียงที่ดังอยู่ไม่ไกล ก่อนจะพบ เอ่อ…
เรียกว่าพี่ๆผู้หญิงเทียมแล้วกันแม้จะดูห่างไกลไปมากโขก็เถอะ พวกเธอสองคนกำลังด้อมๆมองๆรถบิ๊กไบค์คันใหญ่ที่จอดแน่นิ่งอยู่ แล้วเขาก็ดันความจำดีว่ามันเป็นของพี่ปืนเสียด้วยสิ
พวกเธอคงไม่ได้คิดจะขโมยหรอกนะ แบบนั้นมันน่ากลัวจริงๆนะ
หมายถึงความคิดเขาเนี่ย…
ด้วยความเป็นพลเมืองดี เพราะดูจากท่าทางลุกลี้ลุกลนบวกกับสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีของทั้งสองแล้ว เขาก็เดินตรงเข้าไปหา
หรืออาจพูดได้ว่า ตรงเข้าไปเสือกนั่นเอง
โอเค นกตัวเองแล้วห้ามนกอีกนะ
“เอ่อ มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่า”
เนี่ย มดคนดีศรีสถาปัตย์มาแล้วครับทุกคน
“ว้าย แม่ใหญ่คะ พบผู้ชายหน้าตาดีหนึ่งอัตราค่ะแม่”
คนที่ถือประเป๋าถือใบใหญ่ที่เขาพอจะเดาได้ว่าเป็นแบรนด์ดังรีบสะกิดแม่ใหญ่ของเธอให้เงยหน้ามามองเขา
“เวล เราไม่มีเวลามาล่าผู้…”
“…”
“ชายที่หน้าตาดีโคตรๆแบบนี้หรอก”
ไม่รู้ทำไมเธอชะงักไปพักหนึ่ง ก่อนจะเติมต่อท้ายประโยคให้สมบูรณ์ด้วยน้ำเสียงเคลิ้มๆ
“มีอะไรให้ช่วยมั้ย พอดีเราเห็นพวกเธอเหมือนกำลังหาอะไรอยู่”
“กรี๊ดดดดดดดด”
ทันทีที่เขาพูดประโยคจบ คนที่ชื่อเวลก็กรี๊ดเป็นเจ้าเข้า ก่อนจะหันไปเขย่าแขนแม่ใหญ่สองหงึก
“แม่ เขาเรียกเราว่าเธอ งื้อ ผู้ชาย บ้า!”
เอ่อ เขาก็ตกใจนึกว่าพูดอะไรไม่เข้าหูเสียอีกเลยกรี๊ดใส่
“พ่อคุณ หล่อแล้วยังมีน้ำใจกับกะเทยอีก ความจริงแล้วเราไม่ได้กำลังหาของหรอกค่ะ เรากำลังพยายามเอาของออกมาต่างหาก”
เธอหลีกทางให้เขาเข้าไปดู…
“พอดีเราทำเอกสารสำคัญปลิวไปติดที่ล้อรถได้ยังไงไม่ทราบค่ะ แล้วรถนี่ก็หนักเลยเอาออกมาไม่ได้ ครั้นจะยกก็ เอ่อ…”
“…”
เธอกระซิบ
“มันไม่ใช่วิถีของกะเทย เราไม่ใช่กำลังกันค่ะ”
แต่ร่างกายพวกเธอช่างดูขัดกับประโยคข้างบนนัก เอาเถอะ เขาจะเก็บเงียบไว้ในใจไม่พูดออกไปเพราะยังห่วงสวัสดิภาพของตัวเองอยู่
“งั้นเดี๋ยวเราช่วยยกให้”
เขาเข้าไปจัดท่าตัวเอง ให้ยกล้อหลังของบิ๊กไบค์ที่มีกระดาษแผ่นนั้นติดอยู่ ให้ยกขึ้นง่ายๆ จัดองศาแล้วก็…
“อ๊ะ หลุดแล้ว วี๊ดดดด ชอบคุณนะคะ”
แม่ใหญ่กระโดดโลดเต้นดีใจ ก่อนจะเข้ามากอดเขาเป็นการขอบคุณ แต่…
“อิแม่ใหญ่คะ หยุดลวนลามผู้มีพระคุณด้วยค่ะ รับไม่ได้”
เวลยืนกอดอกจิกตามองอยู่ข้างๆ
พอแม่ใหญ่ขยับตัวออกไป
พรึ่บ
เหอะๆ
เขาก็ถูกเวลกอดอย่างไม่ทันตั้งตัว
ชีวิตนี้เขาผ่านมือกะเทยมาเป็นสิบคนแล้ว ขอบคุณมากๆครับ ประชดเว้ย
แต่เขาก็ไม่ได้รังเกียจอะไร บางที นี่อาจเป็นการแสดงความรักและคำขอบคุณจากพวกเธอจริงๆก็เป็นได้ ยกเว้น…
“อิเวล มืออย่าเลื่อนต่ำค่ะ”
“จ้าแม่”
“ว่าแต่ นายชื่ออะไรอ่ะ พวกเราจะได้จำชื่อไว้ นิสัยน่ารักแบบนี้หายากยิ่ง”
“เรามด แล้ว…”
“เราชื่อกรีนจ้า แล้วก็นี่อิวาฬ”
“เวลค่ะแม่ใหญ่ เดี๋ยวเถอะ”
“ค่ะ อิเวล ยังไงก็ขอบคุณมดมากๆน้า งื้อ งานดีแบบนี้ ถ้ามีโอกาสจะปั้นให้ดังเล้ย”
เธอยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู
“อ๊ะ สายแล้วสิ ต้องรีบไปแต่งหน้าให้ลูกรัก ไว้เจอกันนะคะมด”
“โอเค”
ใครบางคนเคยพูดกับเขาว่า…
กะเทยก็เหมือนพายุฤดูร้อนที่จะผ่านเข้ามา และพัดหายไป
เขาเคยพยายามทำความเข้าใจ แล้วก็พบว่า มันเป็นประโยคสวยหรูที่ผิดถนัดเลยล่ะ
❤
“บีหนึ่งเรียกบีสอง หายใจเข้าลึกๆนะมด อย่าตื่นเต้น”
จะไม่ให้ตื่นเต้นได้ยังไงกันล่ะโฟร์ ทั้งงานมีผู้คนมากมาย เรียกได้ว่าตอนนี้ห้องกว้างใหญ่บรรจุคนเกือบครึ่งมอที่ให้การต้อนรับงานมีตติ้งดาวเดือนปีสิบอย่างครึกครื้น งานนี้เป็นงานรื่นเริงทั่วไป มีการแสดงความสามารถและเปิดตัวผู้เข้าประกวดดาวเดือนปีหนึ่ง ก่อนที่จะจัดการแข่งขันในเดือนถัดไป
เขากับโฟร์กำลังเหยียบย่างเข้ามายังสถานที่ที่เจิดจรัสเกินไป
‘แค่แต่งหน้าลูกมดของแม่ก็น่ารักขึ้นทันตา มามะ แม่จะละเลงใบหน้าให้สวยเช้งเลย’
นั่นเป็นคำพูดของวินดี้ก่อนที่อะไรต่อมิอะไรที่เรียกว่าเครื่องสำอางจะประโคมเข้ามาเต็มๆ
‘เสร็จแล้ว อ๊ะ อย่าลืมหน้ากากปิดใบหน้านะคะ มามี่เตรียมไว้ให้แล้ว เพราะปีนี้เรามาในตีม เดอะมาสก์ค่ะ’
‘เดอะแมสก์ย่ะ’
‘ค่ะ แม่อเมริกันแอคเซ่น’
‘ค่ะ แม่อังกฤษแอคเซ่น’
แล้วจากนั้นก็เป็นประโยคแขวะกันของเหล่านางฟ้าที่เขาไม่เอามาใส่ในความทรงจำจะดีกว่า
“โฟร์ กูดูดียัง กูไม่เคยมางานแบบนี้เลย”
“มึงเริ่ดแล้วเพื่อนกู”
นั่นเป็นคำปลอบโยนที่เขาไม่รู้สึกดีขึ้นสักนิดเดียว
“ดูนั่น ว่าแล้วว่างานนี้เหล่านางฟ้าสถาปัตย์คงไม่พลาดแน่ๆ จะมีการประชันความสวยของเพศที่สามในงานด้วยใช่มั้ย งื้อ อยากดูแล้ว อยากให้ถอดหน้ากากออกเร็วๆจัง”
“อย่าชะล่าใจไปค่ะ งานนี้เหมือนว่าทางฝั่งตะวันตกก็มีของดีมาโชว์นะคะ”
“อ๊ะ ตรงนั้นเหรอแก”
“ตัวเล็ก รูปร่างทรงผู้หญิงอย่างกูยังอายเว่อร์”
เอ๊ะ นั่นกรีนกับเวลนี่…
“โฟร์ๆ ชุดราตรีนั่นใครอ่ะ”
“ไหนๆ ว้ายยยย มึงไม่รู้จักอิเจ๊กรีนผู้นำสูงสุดของกะเทยฝั่งตะวันตกเหรอคะ”
อะไรนะ!
“ที่ยืนข้างๆนั่นก็อิเวล ส่วนนั่น ไม่แน่ใจ คนที่อิเจ๊กรีนส่งมาประชันมั้ง”
เพราะกรีนกับเวลไม่ได้สมหน้ากากตามตีม จึงตกเป็นจุดสังเกตได้ง่าย ส่วนอีกคนที่ยืนข้างๆแล้วสวมหน้ากากนั่น เขาไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่ลางสังหรณ์บอกเขาว่า ความงามภายใต้หน้ากากนั่น มันคืออัญมณีล้ำค่า
“สู้เว้ย”
โฟร์พูดให้กำลังใจอีกรอบ
“สู้ๆ”
เขาเองก็จะสู้…
“มด สายป่านมา”
เจ๊มามี่เดินเข้ามาหาพวกเราพร้อมกับร่างสูงที่ตามหลังมา
ไอ้สายป่าน 291
วันนี้ในชุดสูท แม่งโคตรมีออร่าเดือนคณะที่แท้จริง
“มดพร้อมนะ”
เจ๊วินดี้เข้ามาถามอีกครั้ง แต่ตาเขาไม่ได้สนใจเธอแต่เป็นร่างสูงของมันที่จ้องมองมาอยู่เช่นกัน
“มึงแต่งสูทแล้วแปลกๆนะ”
อึ้ง
“เอ๋”
“อะไรนะ”
“เดี๋ยวนะคะสายป่าน มดแต่งหญิงนะวันนี้ คนซ้าย นี่เพื่อนมด ชื่อโฟร์”
เจ๊มามี่บอก
เขากับโฟร์ลอบมองหน้ากันผ่านหน้ากาก
“นั่นสิ กูมดเว้ย”
โฟร์ที่เจ๊ๆเข้าใจว่าคือเขาพูดแก้ต่าง
“มึงไม่ใช่มด มึงโฟร์ ที่ทักไลน์กู กูจำขนาดมึงไม่ได้ แต่กูจำขนาดไอ้เตี้ยนี่ได้ เตี้ยแบบนี้ มีคนเดียวในมอ”
“ไอ้เหี้ย!”
เฮ้ย สาบานว่าเขาเผลอตามอารมณ์จริงๆ
เขาโพล่งคำว่าไอ้เหี้ยออกไปแล้ว
“มด”
เหล่าเจ๊ๆปิดปากอุทานพร้อมกัน ฮืออออออ ขอโทษษษษษษ
ก็เขาไม่อยากแต่งหญิงนี่นา
“ถอดหน้ากากออกมาคุยเดี๋ยวนี้เลย”
วินดี้พูดเสียงจริงจัง จนเขาต้องยอมทำตาม ฮือ มดขอโทษ แม่ๆลูกมดของโทษ
ก็คนมันไม่อยากแต่งหญิงนี่ ถึงจะชอบไอ้สายป่าน แต่เขาก็ยังอยากมีความแมนในศักดิ์ศรีอยู่บ้างนะเว้ย
“มดขอโทษคร้าบ”
ง้อดูหน่อยแล้วกัน
“ถอด หน้า กาก ออก มา”
วินดี้ไม่เล่นด้วย แถมยังกอดอกใช้ท่าไม้ตายพิฆาตกับเขา ด้วยการจ้องมองมาแบบทิ่มแทงทะลุหน้ากาก
อัก
เสียงกระอักเลือด
เขาจำเป็นต้องถอดหน้ากากออกมา พลางแอบหันไปมองค้อนไอ้คนที่ยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่พอใจที่ได้แกล้งเขาอย่างไอ้สายป่านคนเหี้ย
“โฟร์”
“จ้า จ้า ถอดแล้วจ้าแม่”
โฟร์เองก็ยอมถอด
“แล้วทีนี้จะทำยังไง อิโฟร์มันเคยประกวดเวทีอื่นแล้วตอนปีหนึ่ง กฎอีกข้อของเราก็คือ ไม่สามารถส่งคนซ้ำลงประกวดได้”
โฟร์ยักไหล่ พร้อมขมุบขมิบปากบอกเขาที่พออ่านได้ว่า
“กูบอกมึงแล้ว”
“เอาเถอะ งั้นเราคงต้องยอมรับความพ่ายแพ้”
มาถึงตอนนี้แล้วเขารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังทำให้เหล่านางฟ้าผิดหวังจริงๆ จากตอนแรกไม่ได้คิดอะไร ใช่สิ เขามันไม่คิดอะไร เอาแต่คิดว่าไม่อยากแต่งหญิง
งานนี้มันก็แค่ศักดิ์ศรีของเจ๊ๆไม่เกี่ยวกับเขา
เขาคิดตื้นไปจริงๆ
ความรู้สึกผิดเริ่มเกาะกุมจิตใจเขา แต่…
“นั่นมด มดนี่ มดดดดดดด”
หางตาเขามองเห็นไกลๆว่ากรีนกับเวลที่ยืนอยู่ฝั่งขวากำลังก้าวยาวๆมาทางนี้
เดี๋ยวนะ ทำไมเขารู้สึกสังหรณ์ใจว่ามันไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่
“เดี๋ยว”
วินดี้เข้ามาขวางไว้ ก่อนที่สองสาว(?)จะเข้ามาประชิดตัวเขาได้
“จะทำอะไรมิทราบ นี่หล่อนคงรู้แล้วสินะว่า มดแต่งหญิงไม่ทัน และเรากำลังจะแพ้ หล่อนจะมาซ้ำเติมใช่มั้ย”
มามี่พูดเสียงเรียบ แต่กรีนกับเวลทำหน้างง
“อะไร ใครแต่งหญิง มดเป็นผู้เข้าประกวดเหรอ”
“ใช่ย่ะ แต่ก็อย่างที่เห็น ถึงจะไม่ได้แต่งหญิง แต่เราก็สู้ กูจะพามดขึ้นประกวด”
เอาจริงดิ!
“เดี๋ยว กูไม่ได้วิ่งมาหาเรื่องพวกมึง”
“…”
“กูวิ่งมาหามด”
เอาแล้ว ความวุ่นวายกำลังจะเกิดขึ้นแล้ว
“อะไรนะ แกจะมาขัดขวางมดเหรอ ขนาดนี้แล้วยังเล่นสกปรกมากันไม่ให้มดขึ้นเวทีอีกเหรอ” อุมาพรมีน้ำโห เข้ามายืนจังก้าท้าทายกรีนกับเวล
“บ้านแกสิ อิดอก นี่มึงดูละครมากไปหรือเป็นบ้ากันแน่วะ”
“แล้วมาทำอะไร”
“มาขอบคุณ”
!!!
“เมื่อเช้ามดช่วยพวกกูเอาเอกสารที่ต้องส่งกองประกวดออกจากล้อรถ ไม่งั้นพวกกูคงไม่ได้เข้างาน เพราะรายชื่อสมาชิกมาไม่ทันถึงมือผู้จัด”
“…”
“มดเข้าประกวดเหรอ”
“เอ่อ…”
“ดี งั้นพวกเรา…”
“…”
“ขอยอมแพ้ ปีนี้พวกเธอชนะ”
“…”
“แม้จะดูเล็กน้อยแต่…”
“…”
“คนน้ำใจงามๆแบบนี้หายากนะรู้มั้ย พวกเธอนี่โชคดีจริงๆ”
มีคนบอกว่ากะเทยเหมือนพายุฤดูร้อน ที่พัดเข้ามาแล้วพัดผ่านไป
กรีนกับเวลก็จะเป็นเช่นนั้น
แต่…
หมับ!
“มด มาคุยเล่นกับพวกเรามั้ย ตรงมุมโน้นแน่ะ กรีนอยากแนะนำให้เพื่อนๆรู้จัก”
มือหนาของกรีนคว้าข้อมือเขาไว้ แล้วเตรียมตัวลากพาไปยังที่ที่เธอบอก ทว่าวินดี้กลับคว้าหมับมืออีกข้างของเขาที่ยังว่างอยู่
“ไม่ได้ย่ะ มดมดของพวกเรา เป็นของกะเทยตะวันออกย่ะ”
เหล่านางฟ้าพยักหน้า
“จะเอาใช่มั้ย” กรีน
“แย่งได้ก็มาเอา” มามี่
เกิดความชุลมุนวุ่นวายอีกครั้ง เมื่อกรีนพยายามดึงเขาไปอีกข้าง และเหล่านางฟ้าก็พยามดึงไปอีกทางเช่นเดียวกัน
ยื้อกันไปยุดกันมา
อ๊าก
แขนเขาจะขาดแล้ววววว
จนเมื่อประโยคหนึ่งดังแทรกขึ้นมาราวกับสายฟ้าแลบ
“แย่งไปไม่ได้หรอก!”
“…”
“มดเป็นสมบัติของเรา”
!!!
มึงพล่ามอะไรออกมา
ไอ้สายป่าน 291…
T B C
ก็มดน่ารักอ่ะ ใครๆก็อยากได้มดติดตัว
รวมทั้งพระเอกของเราด้วยนะเออ อุ๊บ!
เจอกันพรุ่งนี้ค่า ขอบคุณทุกการสนับสนุน.