รักเอย : จริงหรือที่ว่าหวาน ? หรือทรมานใจคน
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รักเอย : จริงหรือที่ว่าหวาน ? หรือทรมานใจคน  (อ่าน 242608 ครั้ง)

RAJCHABUT

  • บุคคลทั่วไป


โอ๊ตไม่กลับบ้านมาสองคืนแร่ะ . . .

. . . คนเขียนขอไปตามโอ๊ตก่อนนะครับ

อิอิอิอิ

แปลว่า . . . ยังไม่ได้มาต่ออ่ะ  ไม่มีสต๊อคตามเคย 


 :-[


Kirimanjaro

  • บุคคลทั่วไป
อ่านะ  หึหึ


พี่เขียนเรื่องนายพันกะนายอิสต่อได้มะ  อยากอ่าน ๆ    :impress2:

RAJCHABUT

  • บุคคลทั่วไป
อ่านะ  หึหึ


พี่เขียนเรื่องนายพันกะนายอิสต่อได้มะ  อยากอ่าน ๆ    :impress2:


^

^

^

หื่นได้อีกคนเรา

เสน่ห์ของเรื่องสั้นคือการจบแบบให้คนอ่านคิดเอาเอง

ยกให้คุณน้องเอาพล็อตไปเสริมเติมแต่งได้ตามสบาย  พี่เขียนแนวเรทแบบที่น้องเป็นไม่ไหวอ่ะ


 :-[   :-[    :-[




BEta-K

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] รักเอย : จ$
«ตอบ #573 เมื่อ04-05-2009 20:39:39 »

อ่านะ  หึหึ


พี่เขียนเรื่องนายพันกะนายอิสต่อได้มะ  อยากอ่าน ๆ    :impress2:


^

^

^

หื่นได้อีกคนเรา

เสน่ห์ของเรื่องสั้นคือการจบแบบให้คนอ่านคิดเอาเอง

ยกให้คุณน้องเอาพล็อตไปเสริมเติมแต่งได้ตามสบาย  พี่เขียนแนวเรทแบบที่น้องเป็นไม่ไหวอ่ะ


 :-[   :-[    :-[





จริงเร้ออออออออ  o18

ว่าแต่มาทั้งที ไหนอ่ะ ตอนใหม่  ทวงๆๆๆๆ

civava14

  • บุคคลทั่วไป
กรรมเวร นิยายนี้ตกไปอยู่หน้าสองได้งัยอ่า

เอ้า ดันอีกรอบ ให้อยู่หน้าหนึ่ง

(ถึงว่า หาตั้งนาน หาไม่เจอ)  หรือว่าคนเขียนชิ่งหว่า

 :z3:

ออฟไลน์ badcow

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-10
กลับมาอีกที น่าจะมีตอน เจ้าโอ๊ต กะ เพื่อน ออฟ ด้วยก็ดีนะ 555
.
ยังรอตอนของ พ่อ กะ อา ต่อไป  :t3:

ranaways

  • บุคคลทั่วไป
ทรมาน ใจ คนรอ เจงงงงงงงงๆๆๆๆๆ

RAJCHABUT

  • บุคคลทั่วไป

ไม่ได้เขียนเลยอะ . ..

เอาเรื่องสั้นมาฝากดีก่า




บาปไหม?


   ตื้ด . . . ตื้ด

   เสียงของโทรศัพท์บอกมีข้อความสั้น ๆ  เข้ามา  ผมหยิบเอาเจ้าปัจจัยที่ ๕  ในยุคปัจจุบันมาดู  หน้าจอไฟกระพริบถี่ ๆ 



   “สิริอายุ  จะ วัณโณ จะ โภคังวุฑฒิ จะยะสะวา   สุขสันต์วันสงกรานต์ . . . พระเค”

   คิ้วผมมันขมวดเข้าหากันโดยอัตโนมัติ . . . 

   . . . ก่อนที่ค่อย ๆ  คลายออกจากกัน  แล้วกลายเป็นรอยยิ้ม  รอยยิ้มที่เปื้อนไปด้วยน้ำตา  ผมแหงนหน้ามองฟ้า  ราวกับว่าจะเก็บเอาน้ำตานั้นให้กลับเข้าไปข้างใน

   แล้วผมก็ยิ้มเหมือนคนบ้า . . .

   ใช่ . . .

    ผมคงบ้าไปแล้วแน่ ๆ    เพราะไอ้ข้อความสั้นที่ส่งมามันมีความหมายต่อผมมากที่สุดแล้ว




   ปีที่ผ่านมา . . .

   สมุยคลาคล่ำไปด้วยผู้คน  หน้าร้อนแบบนี้  มีผู้คนมากหน้าหลายตาที่อยากมาทอดร่างให้ สายลม แสงแดด   ใต้ทิวมะพร้าวของสมุยโลมเลีย  ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น  แทบทุกปี  ผมจะไปสมุย . . .


   เคยมีคนถาม . . .

   ชอบที่เที่ยวที่ไหนมากที่สุด?

   “สมุย”

   ทำไมว่ะ?

   “เคยไปเสียตัวครั้งแรกที่นั่น”

   เอากับกรูดิ๊ . . .

   . . . ตอบคำถามเพื่อนเสร็จอมยิ้มแบบมีเลศนัยเสียด้วย  มิวายชะม้ายชายตาหาคนถาม  นัยว่าสื่อความหมายอะไรบางอย่าง  เหอะ ๆ ๆ   ไอ้คนถามก็ใบ้แดกสิครับ

   เสียตัวครั้งแรก . . .

   . . . เหอะ ๆ ๆ ตั้งแต่ จบ ม.๓ โน่น  กับน้องชะนีอ่ะ  ตอนนั้นยังไม่กินกล้วยอ่ะครับ  เพิ่งมาค้นพบสัจธรรมเอาเมื่อตอนเข้ามาเรียนที่ กทม. นี่แหละ

   แบบว่าสังคมมันล่อลวงอ่ะ . . .

   สาส . . . สสสสสสสสสสสสสสส  โทษคนอื่นซะงั้น

   โม้มาตั้งนาน  ยังไม่แนะนำตัวกันเลย . . .

   ผมชื่อ . . . โดม

   . . . ไม่ใช่โดม  ปกรณ์ ลัมนะครับ  เพราะผมคงไม่หน้าตาดีขนาดนั้น

   ก็แม่ผมนะดิ๊ . . .

   มาคลอดผมในวันที่ละครดังของช่องสามอวสาน แม่เล่าให้ฟังแค่ว่า  เจ็บท้องแต่ทนดูจนจบ . . . ดอกฟ้ากับโดมผู้จองหอง

   นัยว่าแม่กำลังคิดว่าเป็นนางเอกช่องสามมั้ง  เลยตั้งชื่อผมว่า . . .

   . . . โดม

   ผมเป็นลูกครึ่งนะครับ . . .

   . . . ครึ่ง นครศรีธรรมราชบ้านแม่  กับ ครึ่งสมุย  บ้านพ่อ  อิอิอิ  ทีนี้ไม่แปลกใจนะครับที่ผมชอบสมุย

   พ่อผมมันลูกรักของปู่กับย่า  เลยได้ที่ดินบนเขา ร่วมร้อยไร่ มีสวนทุเรียนที่ส่งออกฮ่องกง  กับสวน ลางสาด ที่ใหญ่ที่สุดบนเกาะสมุยครับ   

   จริง ๆ  นะครับ . . .

   . . . ทุเรียนสมุยอร่อยขนาดที่นักธุรกิจฮ่องกงบินมาจองตั้งแต่ลูกยังละอ่อน เรื่องความอร่อยไม่แพ้ทุเรียนนนท์หรอก  คนไทยต่อให้มีตังค์ยังหากินแทบไม่ได้  ทุเรียนเหี้ยไรลูกเป็นพัน

   ส่วนลางสาด . . . 

   . . . ก็ไม้ตระกูลเดียวกับลองกองครับ

   แต่ขอโทษ . . .

   . . . ลางสาดอุตรดิตถ์ที่แน่ ๆ  ชิดซ้ายตกเขาไปเลยเมื่อเจอลางสาดสมุย  ส่วนลองกองตันหยงมัสที่ว่าแน่  เอาไปปลูกบนสันกาลาคีรีเหอะ  ลางสาดสมุยกินเรียบ  ราคามันหรือ  หน้าสวนอย่างต่ำเกรดเอ  ห้าสิบบาทขึ้น  หอมหวานไม่มียางแบบลางสาดบนฝั่งหรอก

   ปู่เลยยกสวนให้พ่อ . . .

   . . . คนที่ได้ปริญญาโทเมืองนอกคนแรกของเกาะสมุย  พ่อผมเองครับ  เพราะปู่บอกนี่คือหน้าตาของตระกูล

   แต่อาผมดิ . . . 

   . . . ไม่เป็นโล้เป็นพาย  เมาตลอด  ปู่เลยยกที่ริมทะเลให้เกือบสามสิบไร่  นัยว่าหมั่นใส้ลูกที่ไม่เอาถ่าน

   แต่ . . . มันกลับตาลปัตรครับผม

   สมุย . . . ดันเจริญเอ้าเจริญเอา  นักท่องเที่ยวแห่แหนเข้ามามิขาดสาย  ไอ้ลูกที่ปู่ไม่รักเลยรวยเอ้า  รวยเอา 

   อ้าว!   

   ที่ริมหาดที่ปลูกผลหมากรากไม้ไม่ได้  แต่มีค่าดุจทองคำ  ก็รีสอร์ทเอย  โรงแรมเอย  เทียวไล้เทียวขื่อหาอาผมไม่เว้นแต่ละวัน  ไอ้อาของผม  ถึงจะเลว  แต่แกบอก

   “ไม่ขายโว้ย ปู่ ย่า  สร้างไว้  อดให้ตายก็ไม่ขาย”

   นั่น  เอากับแกดิ . . .

   . . . เออ  ไม่ขายก็ดี  เพราะยังไงเสีย  ไอ้ที่ริมทะเลสามสิบไร่ก็ต้องตกเป็นของผม  ทำไมหรือครับ  อาแกไม่มีลูก  เลยขอผมมาเป็นลูกบุญธรรม  พ่อผมใจดีเพราะเห็นแก่ที่ดินสามสิบไร่ริมทะเล ยกให้อาเฉยเลย

   เวรแร่ะตรู . . .

   . . . นินทาบุพการีบาปมะเนี่ย

   ผมเจอกับมันที่นี่ . . .

   . . . เกาะสวาทหาดสวรรค์

   ผู้ชายผิวขาว  ที่ยิ้มเก่ง  มานอนเล่นที่รีสอร์ทสองสามวันแล้ว  ผมได้แต่มองเงียบ ๆ  ก็แปลกไงครับ  คนไทยที่ไหนว่ะเที่ยวคนเดียว . .

   โดยเนื้อแท้ . . .

   . . . พี่ไทยชอบเที่ยวเป็นกลุ่ม และขอโน่นขอนี่  ประเภทลูกอีช่างขอ  ส่งเสียเอะอะโวยวาย ตะโกนคุยกันลั่น  แบบนี้ละครับที่ผู้ประกอบการริมทะเลไม่ค่อยต้อนรับ  ก็คนไทยพักที่ไหนไม่เกินสามวัน 

   แต่ฝรั่งนะชอบอยู่เงียบ ๆ  มาทีค้างเป็นสิบวัน . . . 

   . . . พี่ไทยลงทะเล  ขึ้นมาอาบน้ำเพราะกลัวเหนียว  ห่าเหวไรสารพัด  เกาะนะครับไม่ใช่เมืองหลวง  น้ำจืดทรัพยากรที่หายาก  พี่ไทยอาบวันห้าหกรอบ  เปลืองทรัพยากรน้ำ  ไม่ช่วยกันลดภาวะโลกร้อนเลยใช้ทรัพยากรเปลืองงงงงงง

   แล้วคนไทยนะ  ลูกอีช่างขอ . . .

   . . . ขอมะนาว 

   ขอพริกน้ำปลา . . . 

   . . . ข้าวผัดไม่ใส่คะน้า  ไม่เอาหอมใหญ่  ขอไข่สุก ๆ  กลัวไข้หวัดนก  แมร่ง!  ไม่ขอแดกฟรีเลยว่ะ   โอ้ยสารพัดช่างเลือก  แถมพอนั่งที่โต๊ะปั๊บ

   “เร็ว ๆ  นะน้องหิว”

   อ้าว!    

   อีกกรวยยยยยยยยยยยยยย 

   รู้ว่าหิว  แล้วทำไมไม่มาตั้งแต่เนิ่น ๆ  เห็นมั้ยคนเต็มร้าน  แล้วอาหารกรูที่ร้านก็ทำสด ๆ  นะ  ไม่ใช่ร้านข้าวแกงที่มรึงจะชี้นิ้วแล้วตักราดเดินเอามานั่งโช้ยกันได้เลย

   แถม . . .

   . . . มาสิบคน 

   แม่งสั่งข้าวราดสิบอย่าง  กะเพราะกุ้งไม่เอาหอม  กะเพรากุ้งเผ็ด ๆ  ไม่ใส่น้ำตาล  กะเพรากุ้งไม่ใส่พริก  โอ้ย  แมร่งสารพัดที่จะสรรหา  มรึงจะแดรกเหมือน ๆ  กันไม่ได้เหรอ  กรูจะได้ทำทีเดียว  แถมจะแดกพร้อมกันทั้งสิบจาน  กรูมีแม่ครัวสองคน  ทำไมทันโว้ยขออัญเชิญไปแดกร้านอื่นนะ  กูแถมน้ำดื่มคริสตัลให้สองขวดรีบออกจากร้านกรูเหอะ

   จึงมิใช่เรื่องแปลกที่เวลาคนไทยไปเที่ยวแหล่งที่ฝรั่งเที่ยวเยอะ ๆ  แล้วมักจะโดนสายตาที่ไม่ค่อยอยากต้อนรับจากเจ้าของกิจการ

   ตราบใดที่คนไทยยังไม่เลิกมีพฤติกรรมที่เร่ง  เหมือนที่รีสอร์ทผม . . . ไม่ต้อนรับคนไทย

   เพราะ . . .

   . . . พนักงานบ้านผมน้อย  กลัวต้อนรับไม่ทั่วถึง  ใครอ่านเรื่องนี้  ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเที่ยวเกาะนะครับ  หากไม่อยากโดนเขาแช่งตามหลัง  อิอิอิ

   อันนี้เอาชีวิตจริงมาใส่นิดหน่อยอ่ะ . . .

   ผมได้แต่มอง . . .

   . . . คนที่มาพักอยู่เงียบ ๆ   

   ไม่กล้าทัก  ไม่กล้าคุย  แปลกมาก ไม่รู้ทำไม  อาจเพราะที่นี่บ้านผม  การที่จะทำอะไรลงไป ย่อมเป็นที่จับจ้องของคนที่บ้าน  ผมไม่อยากตอบคำถาม  พอ ๆ  กับที่ผมไม่พร้อมที่จะให้ใครรู้ว่าผมเป็น . . . เกย์

   ฟ้าเริ่มมืด . . .

   . . . ทะเลมีเพียงเสียงคลื่นซัดเข้าหาหาด  ยามพระจันทร์โผล่มาเยี่ยมท้องฟ้า  ท้องทะเลต้องแสงจันทร์นวล  มันสวยมากสำหรับคนที่หลงรักท้องทะเลแบบผม  แล้วยิ่งดึก  มันยิ่งสวย  ผมชอบเดินเล่นริมทะเลยามดึก  ยามที่ผู้คนต่างไม่มาเยี่ยมกรายหาดทรายอีกแล้ว  วันนี้ผู้คนคงไปสนุกกันที่เฉวง  เพราะวันนี้ . . . สงกรานต์

   “ทำไมหรือแก้ว  เคไม่ดีตรงไหน  เคทำอะไรผิด  แก้วถึงใจร้ายกับเค  แก้วใจร้ายกับเคได้อย่างไรล่ะแก้ว  . . .”  เสียงคนที่นั่งริมหาดคุยโทรศัพท์ดังชัด

   ชัดมากสัญญาณโทรศัพท์ขายชาติของอดีตผู้นำ  ที่ปัจจุบันเป็น นช.  ชัดแจ๋วครับพี่น้องที่สมุย . . .

   “แต่เครักแก้ว  เคจะอยู่ได้อย่างไรถ้าไม่มีแก้ว”  เสียงนั้นคล้ายคนสะอื้น 

   ผมได้แต่ยืนนิ่ง ๆ  ไม่กล้าแม้ที่จะขยับตัว  ด้วยรู้ตัวเองดี  ตอนนี้ผมเดินเข้ามาในโลกส่วนตัวของเขามากไปแล้วกระมัง  บางทีเขาอาจจะอยากอยู่คนเดียว  ผมจะทำยังไงดี  จะเดินไป  หรือจะถอย

   “โธ่โว้ย  ไม่อยากอยู่บนโลกแล้วโว้ย”  เสียงนั้นตะโกนลั่นก่อนอะไรบ้างอย่างจะปลิวจากมือไปตกในทะเล

   ผมได้แต่อ้าปากค้าง . . .

   ภาพในเงาจันทร์ผมมองเห็นร่างนั้นยกขวดเล็ก ๆ  มาเข้าปาก  รวดเดียวหมดขวด  ขวดสีเขียวมรกต . . .

   โล่งอก . . .   

   . . . นึกว่ายาตาย  มาตายในรีสอร์ทซวยแหง ๆ

   “แก้ว    เครักแก้วได้ยินมั้ย”  เสียงนั้นตะโกนลั่นชายหาด  ก่อนที่เจ้าตัวจะลุกขึ้น  แล้ววิ่งไปลงทะเลอย่างรวดเร็ว

   บ้าไปแล้วมรึง . . .

   . . . ผมเดินไปที่ที่มันนั่งเมื่อครู่

   ขวดเปล่านับสิบขวด . . .

   . . . วางอยู่ระเกะระกะไปหมด  ผมก้มมองขวดสีเขียวสะท้อนแสงจันทร์พลาง  มองร่างที่ว่ายออกไปเรื่อย ๆ

   ทุ่นกลม ๆ  ลอยอยู่ห่าง ๆ  ไม่ไกลจากร่างที่ว่ายอยู่ . . . 

   เร็วเท่าความคิด  ผมถอดเสื้อ  ก่อนวิ่งลงทะเลไปอย่างรวดเร็ว  ร่างผมพุ่งลงใต้ผิวน้ำ  ก่อนที่จะใช้มือแหวกกระแสน้ำ  สองขาตีน้ำเพื่อให้ร่างพุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว  ผมโผล่มามอง  ร่างที่ผมเห็นกำลังตะเกียกตะกาย  คล้ายคนขอความช่วยเหลือ

   สองมือปล่อยสโตรกสม่ำเสมอ . . . 

   . . . คนทะเลแบบผม  ว่ายน้ำแข็ง  แต่การจะเอาอีกร่างที่ไม่รู้สติกลับเข้าฝั่งด้วยนี่สิ  ถ้าจะลำบาก  ตัวมันเล็กเสียที่ไหน  ผมว่ายไปที่ร่างนั่น  คนที่ดื่มมากนอกจากจะไม่ควรขับแล้ว  ยังไม่เหมาะกับการเล่นน้ำทะเลยามวิกาลด้วยขอบอก

   ผมใช้ความพยามยามอย่างมากที่จะเอาร่างนั้กลับเข้าหาฝั่ง  ด้วยกลัวว่ามันจะรัดผมแล้วพาลจมน้ำตายทั้งคู่  ยังไม่อยากเป็นข่าว . . .

   . . .  ลูกชายเจ้าของรีสอร์ท  กระโดดน้ำตายพร้อมแฟนหนุ่ม

   หยองมาก  พาดหัวข่าวแบบนั้น . . .

   ผมลากร่างนั้นกลับเข้าฝั่งอย่างทุลักทุเล  ก่อนที่จะนอนหมดแรงแบบหมาหอบแดด

   “เฮ้ย!    คุณ  คุณ”  ผมใช้มือสะกิด

   เวรแล้วไอ้โดมเอ้ย  ร่างนั้นไม่ไหวติงไร้เสียงตอบรับ  ผมลืมตากว้างหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งก่อนลุกขึ้นคร่อมร่างนั้นเอาไว้เอาปลายนิ้วแตะที่ปลายจมูก

   “ชิบหายแล้ว”

   ปากบอกพลางพลิกร่างนั้นนอนคว่ำ  ก่อนที่จะเอามือสอดเข้าไปใต้ท้อง  ดึงร่างนั้นให้งอขึ้นมา  ก่อนเขย่าแรง ๆ  น้ำทะเลหรือน้ำที่หมักใส่ขวดหว่า  ทะลักออกมาทางปากมากมายเหลือเกิน

   ผมจับร่างนั้นนอนหงายอีกครั้งก่อนเอามือซ้ายวางแนบอกอีกฝ่าย  เอามือขวาตะบปที่มือซ้าย  ก่อนที่จะถ่ายแรงไปที่ไหล่  กดมันแรง ๆ   ร่างนั้นกระตุกตามแรงกด

   “ไอ้เหี้ย  ฟื้นสิโว้ย  กูไม่อยากเป็นฆาตกร”  ปากผมตะโกนลั่น  มือก็ทำไปแข่งกับเวลา

   ไม่มีวีแววว่ามัมนจะตื่นมาเลย  . . . 

   . . . ไอ้ห่านี่ 

   . . . สงสัยวอนให้กูนอนคุกเสียแล้ว  ผมเอามือบีบจมูกมัน  ก่อนใช้ปากประกบที่ปากบาง ๆ  ของมัน  ก่อนเป่าลมหายใจเข้าไป  แล้วถอนปากตัวเองอกมา  สลับกับคอยปั๊มหัวใจให้มัน

   “โอ้ย!”  ผมร้องลั่น เมื่อปากที่ประกบอยู่  แต่ร่างเหมือนมีอะไรถีบ  ผมลอยไปนั่งก้นจ้ำเบ้าอยู่กับพื้นทราย  ที่น้ำทะเลซัดเข้าหาฝั่ง

   “ไอ้เหี้ยมาจูบกูทำไม” 

   ไอ้คนหน้าขาวปากดี  ค่อย ๆ  พยุงกายขึ้นนั่ง  เอามือปาดริมฝีปากตัวเอง  พลางมองมาทางผม

   ทำคุณสนองเวรแท้ ๆ

   “ไอ้สัส  มึงมันบ้า  ลองนึกเอาเองแล้วกันนะมึง ไอ้เหี้ย  หมามันยังรักชีวิต  ถ้าผู้หญิงคนเดียวทำให้มึงต้องกระโดดน้ำตาย  กูแนะนำ  ที่ท่าเรือน้ำลึกหน้าทอนดีกว่าว่ะ  กูรับรอง  ไม่มีหมาตัวไหนเสี่ยงว่ายไปช่วยมึงเข้าหาฝั่งหรอก”    ผมตะโกนใส่หน้ามัน  ก่อนใช้ตีนถีบแม่งมันไปทีนึง

   “อันนี้กูเอาคืนที่ถีบกูเมื่อกี้”  ผมเดินไปหยิบเสื้อ  ก่อนเดินหัวเสีย

   “แม่งเอ้ย  ปล่อยให้จมน้ำตายห่าเสียก็ดี  เวรชิบหาย”  ผมฉุนเป็นเหมือนกันนะ  ผมช่วยเพราะกลัวมันจมน้ำตาย  แต่ดูวิธีตอบแทนคุณของมันสิ

   ผมเดินกลับเข้าห้องด้วยความรู้สึกโมโหสุดชีวิต . . . 

   . . . แม่งคนไรว่ะ 

   หน้าตาดีอยู่หรอก  แต่ทำไมไม่รู้เลยหรือว่าควรจะพูดยังไงกับคนที่ช่วยตัวเองเอาไว้  คืนนั้นผมหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อน 

   แล้วผมก็ฝัน . . .

   ไอ้เหี้ยนี้อีกแล้ว ไอ้คนที่ผมลากมันขึ้นมาจากทะเล  มันมายิ้มอะไรให้ผมหว่า  มันยิ้มกว้างเสียด้วย  นั่นจมูกมันเข้ามาใกล้จมูกผมเสียด้วย  ดูแววตามันสิ  เหมือนพวกหื่นกามไม่มีผิด  ตายละไอ้โดม  ทำไงหว่า  มันจะจูบแล้วนะโว้ย . . .

   ผมสะบัดหน้าหนี . . .

   . . . ก่อนลืมตา

   สายตาผมเจออะไรไม่รู้ เหมือนมีผมในแววตาคู่นั้น จมูกใกล้กันแทบจะติดกันอยู่แล้ว  ไอ้คนที่มันคร่อมร่างผมเอาไว้ . . .

   “เฮ้ย!  เข้ามาได้ไงว่ะ”  ผมผลักมันออกจากร่างผม

   “โป้ก”  เสียงเหมือนอะไรกระทบกับของแข็งสักอย่าง

   “โอ้ย”  ไอ้หน้าขาวร้องก่อนเอามือกุมหัวตัวเอง  ผมผุดนั่งลงก่อนมองไปที่มัน 

   “เฮ้ยมึงเข้ามาทำไม  เข้ามาได้ไงว่ะ  หัวแตกมั้ยมึง”  ผมยังมีกะจิตกะใจห่วงมันอีก

   “ผมไปถามพี่ที่ฟร้อนด์  พี่เขาบอกอยู่ที่นี่เห็นห้องเปิดอยู่เลยมาดู  อูยหัวแตกมั้ยนี่”

   “ไหนกูดูสิ”  ผมเอามือไปเปิดดู  แค่ปูด ๆ    นิดหน่อย  แสดงว่าแรงถีบผมไม่ได้เรื่องนะเนี่ย

   “โอ้ย  เบา ๆ  ดิเจ็บนะโว้ย”  มันเอามือปัดมือผมใหญ่

   “เรื่องเมื่อคืน  ผมมาขอบคุณ  แล้วขอโทษด้วยที่ทำไรแบบนั้นไป”  มันจับมือผมเอาไว้นิ่ง

   ผมสบตามัน . . . 

   . . . สายตามันอ่อนโยนลงมามาก  ไม่เหมือนกับคนที่ผมเจอเมื่อคืน  จมูกมันโด่งเป็นสัน  เชิดเล็กน้อย  ริมฝีปากมันบางแดง  แก้มมันสีชมพูระเรื่อ  โดยรวมคือ . . .  มันหล่อมาก

   ผมอยากหยุดเวลาเอาไว้แบบนั้น  เวลาที่ได้สบตากับมัน  หัวใจผมเต้นแรง  ผมรู้ดี  ผมยิ้มเมื่อมันจ้อง

   “มองKไรว่ะ”  ผมลุกขึ้นเดินหนี

   “เอ้า  เราชื่อเค”

   “ไม่อยากรู้  ใครถามมึงว่ะ  ว่าแต่เคด่วยเหรอ . . .”  ผมหันไปมองหน้า 

   มันทำหน้าเจื่อน ๆ

   “. . . เออ   เออ  กูชื่อโดม  มึงไม่ถามแต่กูอยากบอก”  ผมยักคิ้วข้างเดียวโชว์มันซะงั้น  มันยิ้มให้กับผม

   และนั่นคือจุดเริ่มต้นสิ่งดี ๆ  ที่ผมกับเคมีให้กัน  ผมช่วยให้มันรอดตายมาจากอาการอกหักของมัน   และมันกับผมก็กลายมาเป็นคนคุ้นหน้า  มันเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกับผม  แต่ผมเรียนภาคอินเตอร์

   ผมไม่เคยอยากรู้  เรื่องราวระหว่างผมกับมันจะเป็นแบบไหน  เพราะผมไม่เคยถาม และผมไม่เคยอยากรู้  เราเล่นกันเหมือนเพื่อน  สนิทกันเร็ว . . .

   จากที่มันเช่าห้องที่รีสอร์ทผม . . .

   . . . กลายเป็นว่า  มันมาค้างที่ห้องผมแทน  ผมไม่เคยถามเรื่องที่ผ่านมาของมัน  ด้วยกลัวว่าจะไปสะกิดไอ้ความรู้สึกที่ไม่ดีของมันอีก  มันค่อนข้างจริงจังกับชีวิต ในขณะที่ผมเรื่อย ๆ  ยังไงก็ได้

   มันไม่ยอมกลับบ้านมัน   เมื่อถึงกำหนด  มันบอก  ตังค์ยังไม่ไหมด  อยู่ต่อได้มั้ย . . . 

   ไอ้สาสสสสสสสสสส . . . 

   ห้องก็ฟรี  ข้าวก็ฟรี  แค่ช่วยงานที่บ้านกรูเล็ก ๆ  น้อย ๆ  ทำไมจะอยู่ไม่ได้  อย่าว่าแต่เดือนนึงเลย  หากมึงยังทำตัวมีประโยชน์เช่นนี้  อยู่สองสามปี  บ้านกรูก็ไม่จนลงไปกว่านี้หรอก  ดีเสียอีกที่มันทำแบบนี้ . . .

   มันเข้าใจหาเรื่องมีที่อยู่ฟรีเนาะ . . .

   “ไง ไข่ย้อยเมื่อไหร่จะกลับนครว่ะ”  ผมถามมันในเย็นวันนึง  วันที่ผมพามันมานั่งมองพระอาทิตย์ตกที่ท่าเรือหน้าทอน

   ดวงอาทิตย์กลมสีส้มกำลังเล่นเงากับผืนทะเลที่เงียบ  ราบเรียบราวแผ่นกระจกแผ่นใหญ่  เรือลำน้อยค่อย ๆ  แล่นตัดผิวน้ำกลับไปยังที่หมายของตัวเอง  มัมนหันมามองผม  ในขณะที่ผมแกว่งเท้าไปมากลางอากาศ  ก็ที่ผมนั่งอยู่ตอนนี้มันปลายสะพานเทียบเรือ

   “ไรว่ะไข่ย้อย”

   “มึงเคยดูเพื่อนสนิทมะ”  ผมหันไปยิ้มกับมัน   

   ทั้ง ๆ  ที่ผมรู้ตัวเองแล้ว  ตอนนี้ผมน่ะ  รักมันเกินเพื่อนไปเสียแล้ว  ผมอยากอยู่ใกล้ ๆ มัน  อยากนั่งมองมันเงียบ ๆ

   “เคยดิ๊  หนังออกจะดัง  อย่าบอกนะว่ากูหล่อเหมือนพระเอก”  มันยิ้ม  รอยยิ้มมันหรือ  สว่างกว่าพระอาทิตย์ยามอัสดงตอนนี้เสียอีก

   “ป่าว”  เสียงผมสูงปรี๊ด  สูงพอ ๆ  กับที่มันทำหน้าประหลาดใจด้วยล่ะ

   “แล้วไงว่ะ  ทำไมเรียกกูไข่ย้อย”

   “คนมาทะเล  ไม่หนีร้อนก็หนีรัก”  ผมทำเสียงละห้อย   จำได้ดี  ฉากที่นุ้ยนั่งชิงช้าสวรรค์กับไข่ย้อยที่งานวัดริมทะเลพะงัน   จนผมลืมเรื่องของไอ้เคเสียสนิท

     มันเงียบ . . .

   . . .หัวใจผมล่ะ

   เงียบกว่ามันเสียอีก . . .

   เรานั่งนิ่ง ๆ  กันนาน  ผมไม่รู้เหมือนกัน  ทำไมผมถึงรู้สึกอึดอัดกับสิ่งที่ผมพูดไป  อาจเพราะผมไปสะกิดแผลที่มันเริ่มตกสะเก็ดของเคเข้าก็ได้  ผมได้แต่ก้มหน้าต่ำ  มองระลอกคลื่นเล็ก ๆ  ที่ลอยมากับสายน้ำไม่ได้

   “หนีรัก . . . แต่อาจเจอรักที่ดีกว่า”   มันเอื้อมมือมาตบไหล่ผมเบา ๆ    ผมหันไปหามัน  ยังไม่กล้ามองหน้ามันเต็มตาอยู่ดี

   “ไอ้ไข่ย้อยหาเรื่องอยู่ทะเล  โดยการตกดาดฟ้าเรือ  แต่มึงนี่ดิ๊  เล่นจมน้ำทั้งที่แดกเบียร์ไปเกือบลัง     เข้าใจหามุขอยู่ฟรีนะมึง”

   “แล้วมึงว่ากูได้ผลมั้ยล่ะ”

   “เออ”  ผมยิ้มกับมันอีก


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-05-2009 19:05:55 โดย ราชบุตร »

RAJCHABUT

  • บุคคลทั่วไป


   มันเลยกลายมาเป็นเพื่อนสนิทของผมจริง ๆ  เพราะหลังจากที่เรากลับกรุงเทพฯ  มันกับผมตกลงที่จะมาอยู่ห้องเดียวกัน  ผมรู้หัวใจตัวเองดี  ว่ารู้สึกอย่างไรกับมัน 

   แต่ . . .


   เคล่ะ . . . 


   มันยังคงเหมือนเดิมในวันแรกที่ผมรู้จัก  มันไม่มีท่าทีเกินเพื่อนกับผมเลย ผมได้แต่เก็บเอาความรู้สึกนั้นเอาไว้เงียบ ๆ


   ผมมีความสุขกับการตื่นนอนมาแล้วมีมันนอนอยู่ใกล้ ๆ 


   . . . ผมยินดีกับกลิ่นน้ำลายบูดของมันในทุกเช้าที่มันเอามาให้ผมดมก่อนเสมอ  แมร่งมันนะนิสัยเลว  หากมันตื่นก่อนผม  มันจะมานอนมองหน้าผม  แล้วพอผมลืมตา  มันจะเป่าลมที่ผ่านขี้ฟันทั้งคืนมาใส่หน้าผมเสมอ  แล้วมันก็จะหัวเราะมีความสุข

   ถามกรูสักคำมั้ยกรูชอบหรือเปล่า . . .


   แรก ๆ  น่ะอยากจะถีบมัน  แต่ตอนหลังกลายเป็นความเคยชิน . . .  ไม่ได้กลิ่นน้ำลายบูดมันเหมือนขาดอะไรในชีวิต  เลวมะกรู


   “เค อาทิตย์หน้ากูต้องไปซัมเมอร์คอร์สที่สิงคโปร์ว่ะ  พ่อส่งเรียนภาษา”


   “อ้าว!  งั้นปีนี้ไม่ได้ไปรีสอร์ทสิ  ว้า  เสียดาย  อยากไปทะเล”  มันทำท่าอย่างกับจะเป็นจะตาย

   “เอาน่า  กลับมาจากซัมเมอร์ก่อน  สองเดือนเอง”

   “อืม”

   “งั้นคืนนี้ไปกินเหล้ากัน  กูอยากนั่งฟังเพลงว่ะ”  ผมมองหน้ามัน

   “เอ้าดิ๊  กูก็อยากไป  แม่งสอบเสร็จมาสองวันแล้ว  อยากเจอแสงสี”

   คืนนั้น . . .

   ทั้งผมและมัน  เมากันแทบจะคลานกลับ  ผมเมามากที่สุดในชีวิต  อาจเพราะยิ่งนับวัน  ความรู้สึกที่ผมมีต่อมันมากขึ้นทุกที  แล้วมันล่ะ  มันจะรู้บ้างไหม  ว่าผมรักมันเกินกว่าเพื่อน . . .

   ผมไม่กล้าบอกมันถึงสิ่งที่มันอัดอั้นในหัวใจผม . . .

   ผมกลัว . . .

   . . . กลัวจะสูญเสียมันไป  ผมไม่กล้าเดินก้าวข้ามคำว่าเพื่อนที่มีกับมัน  มันคือส่วนเติมเต็มในชีวิตที่ผ่านมา  ผมอยากรักมันที่มันเป็นมัน  รักมมันด้วยหัวใจอยากรักแบบนี้  ไม่มีเซ็กส์กับมันก็ได้ . . .

   “ไอ้โดม”  มันเรียกผม  เมื่อเรากลับมาถึงห้อง

   “หือ . . .”  ผมง่วงมาก  ไม่อยากคุย  อยากนอน  โลกมันเหมือนหมุนเร็วแฮะ  แผ่นดินไหวหรือป่าวหว่า  ทำไมห้องมันหมุน ๆ  แบบนี้

   “มึงมาวววววววว  มั้ย”  เสียงมันอ้อเอ้

   “เดะ เดะว่ะ  ม่ายมาววววววว”  ขืนบอกว่าเมาก็ไม่ใช่คนเมาดิ๊  เมาที่ไหน  ยังจำชื่อได้  ยังกลับห้องถูก

   “กูรักมึงนะโว้ย  มึงเป็นเพื่อนกูที่กูรักมากมึงรู้มั้ย . . .”  มันตะแคงหน้ามามองผม 

   “. . . มึงหันมานี่”  มันเอื้อมมือมาหาผม  ดึงผมให้นอนตะแคงจ้องตากับมัน

   “มึงไม่บอกกูเลย  มึงรักกูมั่งป่าวว่ะ” 

   ผมยิ้มแทนคำตอบ . . .

   . . . รักสิ  รักมากด้วย  หัวใจผมบอก  แต่ทำไมไม่รู้  ปากมันหนักแบบนี้ว่ะ 

   “ห่านี่  ไม่บอกกู  ขอกูนอนกอดมึงนะคืนนี้”

   ไอ้เวร  ไม่รอคำอนุญาต  ดึงกูไปกอดแนบอกมึงซะงั้น  ผมได้แต่นอนยิ้มอย่างมีความสุขในอ้อมกอดของมัน  แค่นี้กระมังที่ผมต้องการ  การได้อยู่ในอ้อมกอดของคนที่ผมรัก

   ผมเมื่อยไปทั้งตัวเพราะมันนอนกอดผมเอาไว้ทั้งคืน  ผมมองหน้ามันมันหลับตาพริ้มขนตางอนเป็นแพ  มันหล่อสมเป็นแนวหน้าของคณะมันจริง ๆ  ผมยิ้มในอ้อมกอดมัน  จมูกผมห่างซอกคอมันแค่นิดเดียวเอง

   มันลืมตา . . .

   . . . ท่าทางมันงง ๆ

   มันรีบผละผมออกจากอ้อมกอดมัน  ท่าทางมันเหมือนกลัวอะไรสักอย่าง  ผมหันหลังให้มัน ไม่อยากมองตามมันเลย

   “ไอ้เหี้ยมานอนกอดกูเฉยเลยนะมึง”  มันเอาเท้ามาแหย่ที่ก้นผม

   “สาสสสสสสส   ใครกอดก่อนเป็นหมา”  ผมหันมามองหน้ามัน  ก่อนยักคิ้วใส่มันทีนึง

   “กูเมาขนาดนั้นเลยเหรอว่ะ”  มันเกาหัวแกรก ๆ

   “ไม่รู้โว้ย  กูไปอาบน้ำแร่ะ”

   “โดม . . . ถึงกูเมากูก็รู้นะโว้ยว่ากูทำไรไป  บางคำถาม  คนถามเขาอยากรู้นะมึง  เขาไม่ได้ถามลอย ๆ  มึงเข้าใจมั้ย”

   เสียงที่มันบอก . . . 

   ทำเอาผมไม่สามารถก้าวเท้าต่อไปได้  ผมยิ้มกับตัวเอง  แต่ไม่อยากหันไปมองหน้ามัน  ไม่รู้  ผมไม่ไกล้ากระมัง  ผมกลัว กลัวว่าคำถามของมัน  กับคำตอบของผมจะทำให้เราเจ็บปวด  ผมได้แต่ยิ้มกับตัวเอง  ก่อนที่จะปล่อยให้ความคิดของผมตัดสินว่า  . . .

   . . . มันรักผม

   ผมไม่แปล . . . รักแบบไหน?

   ผมใจหายเมื่อมาอยู่สิงคโปร์  หนทางติดต่อมันมีเพียงแค่การคุยผ่านเอ็มเอสเอ็นเท่านั้น  และก็คุยกันเกือบทุกวันจนกระทั่งเมื่อคืน . . .

   “จะบวชวันที่สิบนะ  พรุ่งนี้เย็น ๆ  โกนหัว  มะรืนนี้เข้าโบสถ์แต่เช้า  พ่ออยากให้เลยกะบวชจนกว่าจะเปิดเทอมบวชแล้วคงไม่ได้ออนเอ็มแล้วล่ะ”

   ผมใจหายวาบ . . .

   . . . มันมาบอกอะไรเอาตอนนี้  วันนี้วันที่แปด  อีกสองวัน  ผมจะทำยังไงดี  มันไม่บอกผมก่อนหน้านี้ว่ะ แล้วผมตัดสินใจ . . .

   . . .  ค่าของความรู้สึกเงินซื้อไม่ได้

   แต่ . . .

   . . . ผมจะใช้เงินที่ผมมีซื้อความรู้สึกของมัน




   บริเวณลานวัดเงียบสงบ  คนที่นั่งพนมมือเต้อยู่สงบนิ่ง  มีแขกผู้ใหญ่ไม่กี่ราย  พระรูปนั้นดูน่าเลื่อมใส  กำลังพูดอะไรอยู่กับคนที่นั่งพนมมือ  ในมือถือกรรไกรคมกริบ

   “สวัสดีครับ”  ผมพนมมือไหว้พระ  ไหว้แม่มัน  ไหว้พ่อ  ไหว้ทุก ๆ  คนที่นั่น  ก่อนหันไปมองหน้ามัน

   แววตามันมองมาที่ผม . . . 

   . . .  ผมอ่านแววตามัน  มันตื้นตันใจอยู่หรอก  ผมมองญาติ ๆ  มันไปขลิบผมมัน  ผมมันค่อย ๆ  หลุดที่ละปอย ๆ    แววตามันนิ่ง  ผมมองปอยผมที่ญาติผู้ใหญ่มันขลิบใส่ในใบบัวใบใหญ่สีเขียวสด

   “โยม  มาตัดผมสิ”  พระรูปนั้นหันมาทางผม  พลางส่งกรรไกรให้  ผมยกมือไหว้  ก่อนรับกรรไกรมา

   มันมองหน้าผม  ผมรู้สึกได้  แววตามันยิ้มได้ . . .

   แล้วทุกคนก็ตัดเสร็จ  พระรูปนั้น  ค่อย ๆ  มาโกนผมให้  ก่อนมาโกนคิ้ว  คราวนี้ใบหน้าเคเงียบสงบลงไปอีก    ก่อนที่จะอาบน้ำให้นาค  ผมก้มลงนั่งตรงหน้ามัน  ผมเอื้อมมือไปแตะที่เท้าของเคเบา ๆ  ผมหยิบผมมาปอยนึง

   “ขอนะ  ขอกูเก็บไว้สักปอย” 

   เคพยักหน้ารับแทนคำตอบ . . .   

   . . . ผมมองมันนิ่ง  แววตาผมคล้ายมีม่านน้ำบาง ๆ  ผมเอาปอยผมนั้นใส่กระดาษก่อนเก็บไว้ในกระเป๋าสตางค์  สิ่งที่มีค่าที่สุดของผมกระมัง  ผมยิ้มกับภาพที่เห็น  ญาติ ๆ  มาอาบน้ำให้มัน  มันพนมมือรับน้ำที่ญาติมันอาบให้

   “มาทำไม  เปลือง”   เคในชุดกาสา  ถามผม  แววตาสงบกว่าเคย

   “ไม่มาได้ไง  ใช่จะมีใครบวชบ่อย ๆ  ซะที่ไหน”

   “กลับวันไหน”

   “ไม่กลับแล้ว  ไม่เรียนแล้วล่ะ  ไปอยู่เกาะ”  ผมมองหน้ามัน

   “เอาดี ๆ  สิ”

   “ยังไม่รู้เลย”

   “พรุ่งนี้เข้าโบสถ์แต่เช้า  วันนี้นอนที่ห้องที่บ้านนะ  คุ้นกับแม่แล้วนี่  มาตั้งสองรอบแล้ว  เราคงนอนที่วัด”    นาคพูดกับผมเบา ๆ

   “ครับ”  ผมตอบเงียบ ๆ

   แล้วคืนนั้น  ผมก็ต้องเสียน้ำตา  เมื่อผมไปเปิดไดอารี่ของไอ้เคอ่าน  สิ่งที่มันเขียนคือ . . .

   . . . ผม

   มันบอกรักผม ผ่านตัวอักษรของมัน . . .

   . . . มันเก็บความรู้สึกทั้งหมดใส่ในสมุดเล่มเล็ก ๆ  มันกลัวเหมือนที่ผมกลัว  มันไม่อยากเสียผมไป  เหมือนที่ผมไม่อยากเสียมันไป  ทั้งมันและผม  ไม่มีใครอยากเดินผ่านเส้นบาง ๆ . .  .

   . . . เพื่อน





   ผมมองข้อความอีกครั้ง . . .

   . . . ก่อนตัดสินใจพิมพ์กลับไป


“สาธุ . . .กำลังคิดถึงอยู่พอดี  คิดถึงพระบาปมั้ยนี่ อิอิอิ”

   ผมยิ้มก่อนกดส่ง . . .

   “บาปสิ  บาปมาก  หมายถึงถ้าพระคิดถึงโยมเพื่อนนะ”  เพียงชั่วอึดใจ  พระตอบกลับมา

   “ไม่ต้องส่งมาอีกนะ  ไว้สึกค่อยเจอกัน”

   แล้วผมก็ยิ้ม . . .

   . . . ผมไม่อยากไปก่อกวนหัวใจพระ  โลกของผมกับโลกของท่านมันแตกต่างกัน  ผมเอากระเป๋าตังค์ออกมา  ก่อนที่จะเปิดหยิบเอากระดาษแผ่นเล็ก ๆ  ภายในมีปอยผม

   ผมยิ้ม . . .

   . . . ยิ้มด้วยหัวใจเปี่ยมสุข  สงกรานต์สำหรับผม  มันมีความหมายมากกว่าคนอื่น ๆ  กระมัง

   วันนี้ . . .

   ผมมีคงสุขอย่างเต็มหัวใจ  นับวันรอ รอใครบางคนกลับมา  สิ่งที่เป็นอยู่ดีที่สุดแล้วสำหรับผมในเวลานี้






                                                                                                                 จบแร่ะคร๊าบบบบบบ









สัญญา . . .

. . . คราวหน้า

มาต่อ . . . รักเอย


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-05-2009 19:04:59 โดย ราชบุตร »

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
^
^
ขออนุญาต จิ้ม

และรอคอย "รักเอย" ตาม สัญญา

จากนั้นจึงไปอ่านเรื่องสั้น หุหุ

------------------------------------------

อ่านจบแล้ว

บาปไหม?  >>> ไม่บาปเนอะ
ความรักเป็นสิ่งดี และสวยงามเสมอ
รักด้วยหัวใจ ยังไม่ถึงเวลารักด้วยร่างกาย
ทิ้งท้ายไว้ด้วยเรื่องสั้นหวานๆ เป็นนิมิตหมายอันดีว่า รักเอย ตอนหน้า จะหวานล้ำ (เหอๆๆๆ หวังไปๆ จาได้ป่าวหนอ)

บวก 1 แต้ม ขอบคุณคุณราชบุตรจ้า


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-05-2009 19:28:24 โดย namtaan »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ myxt

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
^
^
 :z13: จิ้มพี่น้ำตาลกลับไปหน้านู้น แอบไปจิ้มเค้าไว้นิ อิอิ
.....
เรื่องสั้น แอบยิ้มได้เลย มันเป็นจุดเริ่มต้นของอะไรได้เลยเนอะ
รออ่านรักเอยนะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-05-2009 20:11:05 โดย myxt »

BEta-K

  • บุคคลทั่วไป
มารอ   o18

ตกหน้า 2 แย้ว  ดันๆๆ :z2:

yaoifan

  • บุคคลทั่วไป





สัญญา . . .

. . . คราวหน้า

มาต่อ . . . รักเอย




รอน้องโอ๊ต ต่อไป จะไปค้างคืนกับน้องออฟ จะเกิดอะไรขึ้นนะ

แต่น้องโอ๊ต ของคนราชบุตร ไปไหนแล้ว ขอให้หากันเจอ นะคะ

+1 เป็นกำลังใจให้ค่ะ

ranaways

  • บุคคลทั่วไป
รอน้องโอ๊ต

พ่อโน๊ต และแม่โอห์ม


เอิ๊กกกกก


ล้อเล่นน๊า

RAJCHABUT

  • บุคคลทั่วไป

อวสานแบบนี้จะดีไหม ?

ตั้งใจแค่ ๒๐ ตอนจบอ่ะครับ

แต่

เจอ  MMS ของโอ๊ตเข้า  . . . 


ตกลงจบเลย  ในตอนนี้ดีมั้ยหว่า . . .  อิอิอิ




ตอนที่ ๒๐

   “เหม่ออีกแล้ว”   

   ไอ้พี่โน้ตมันมาสวมกอดผมเอาไว้จากด้านหลัง    ตัวมันหอมกลิ่นสบู่อ่อน ๆ    ผมยิ้มกว้างสุขในหัวใจอย่างที่สุดแล้ว  ในวงแขนของคนที่ผมรัก แต่ไม่ได้หันกลับไปมองมัน
 

   ภายในห้องเย็นด้วยเครื่องปรับอากาศ . . .   

   . . . แต่

   หัวใจผมอบอุ่นอย่างที่สุด . . . 

   เพราะคนที่สวมกอดผมอยู่จากด้านหลังคือคนที่ผมรักอย่างสุดหัวใจ  ผมได้แต่ปล่อยร่างกายอิงแอบแนบอกอุ่น  แหงนหน้ามองฟ้าผ่านกระจกหน้าต่าง  คืนนี้พระจันทร์สวยกว่าคืนเพ็ญก่อน ๆ  ที่ผมเคยมอง

   หรือ . . .

   . . . อาจเพราะว่า

   คืนนี้ . . .

   คนที่ยืนชมจันทร์อยู่กับผมคือคนที่ผมรักด้วยชีวิต  ผมบอกไม่ถูกว่ารักมากขนาดไหน  และบอกไม่ถูกว่าคนที่กอดผมรักผมมากขนาดไหนเหมือนกัน  มีเพียงสิ่งเดียวที่ผมรู้ก็คือ  ผมอยากหยุดเวลา

   เวลา . . .

   . . . ทุก ๆ  อย่างล้วนขึ้นอยู่กับเวลาแทบทั้งสิ้น 

   เวลานำพาคน ๆ  นึงมาสู่หัวใจผม  ทำให้ผมมีความสุข  และเวลาก็พรากสิ่ง ๆ  นั้นไปจากผม  เวลาหยิบยื่นความเจ็บปวด  ให้กับผม  เสมือนบททดสอบความรักที่ผมต้องใช้ความพยายามอย่างที่สุดเพื่อที่จะให้สอบผ่านบททดสอบนั้น 

   แล้ว . . .

   . . . เวลา

   ก็มอบคืนสิ่งที่ดีที่สุดให้กับผม . . .

   ต่อจากนี้ไปจวบวันสุดท้ายที่ผมจะหายใจ  ผมจะไม่มีวันยอมสูญเสียสิ่งที่ผมรักมากที่สุดไปอีกแล้ว  ผมจะไม่มีวันยอมเด็ดขาด  เพราะผมจะถนอมหัวใจดวงนี้เอาไว้ด้วยหัวใจของผมเอง  ผมจะรักษาหัวใจสองดวงเอาไว้อย่างดีที่สุด

   “ยังอยู่น่า  ไม่เคยถอด . . .” 

   ผมเอาท้ายทอยคลอเคลียที่ซอกคอพี่โน้ต  ทิ้งน้ำหนักของร่างกายทั้งหมดไปที่อกของพี่โน้ต เมื่อเจ้าตัวเอานิ้วมาเกลี่ยเล่นที่นิ้วก้อยด้านขวา

   “. . . ไม่ใช่แหวนหมั้น  ไม่ใช่แหวนแต่งงาน  แต่เป็นแหวนแทนความรักทั้งหมดที่พี่มีให้กับคนคนนึง  คนเดียวที่พี่จะรักได้ในชีวิตนี้    จำไว้นะ  อย่าลืมฉัน . . .”  ผมอียงศรีษะ เอาจมูกไปจูบที่ซอกคอพี่โน้ตเบา ๆ 

   “. . . แม้รักร่วมสวมใส่ไว้ติดกาย  เมื่อใดวายสวาทวอดจึงถอดเอย”   

   ผมมีความสุขที่ได้แหงนหน้ามองคนที่ผมรัก ในระยะห่างแค่ลมหายใจอุ่นของคนสองคน ที่ถ่ายเทลมหายใจของคนสองคน  รดมาที่จมูกของกันและกัน

   อุ่นไอรักที่ผมสัมผัสได้ . . .

   . . . แววตาที่มองผมอ่อนโยนอย่างที่สุด

   “จำได้ด้วย”

   เจ้าตัวก้มลงจูบที่เปลือกตาผมอย่างเผ่วเบา  ถนอมเอาไว้เหมือนวันก่อน  ผมหลับตาพริ้มรับรอยจุมพิตที่ห่างหายไปเกือบยี่สิบปี

   “ไม่เคยลืม . . .”  ผมยิ้มรับรอยจุมพิตนั้นด้วยความเต็มใจ

   “. . . โอห์มท่องทุกครั้งที่อ่อนแอ  นอกเหนือจากที่เคยท่องเอาไว้ทุกครั้งยามลืมตาตื่นมารับแสงแห่งตะวัน  ท่องวันละสามเวลาหลังอาหาร  และพิเศษอีกครั้ง  ก่อนที่โอห์มจะหลับตาน้ำตาเปียกหมอน”  ผมบอกในสิ่งที่เกิดขึ้นกับผมเป็นประจำในสิบแปดปีที่ผ่านมา

   “. . . เพราะมันคือความทรงจำเดียวที่อยู่กับโอห์ม  เป็นสิ่งเดียวที่โอห์มรู้ว่ามันจะอยู่กับโอห์มไปจนวันที่โอห์มหมดลมหายใจ”   

   พี่โน้ตกอดผมแน่นกว่าเดิม  แทนคำขอโทษและคำแก้ตัวใด ๆ  ทั้งหมด  อ้อมกอดที่ผมสัมผัสมันด้วยหัวใจของผมเองในเวลานี้  มันมีควสามหมายมากกว่าคำพูด  หรือ  คำแก้ตัวใด ๆ  ทั้งหมด 

   พี่โน้ตชอบบอกความรู้สึกของหัวใจตัวเองผ่านทางการกระทำ

   อาจเพราะ . . .

   . . . คำพูดอาจจะโกหกกันได้

   แต่ . . .

   การกระทำมันไม่สามารถโกหกได้   หากไม่ได้กระทำออกมาจากหัวใจจริง ๆ  แล้ว  สิ่งที่เราสัมผัสได้  หัวใจจะบอกเราได้  ว่าสิ่งที่เป็นอยู่คือการหลอกลวง  หาใช่ความจริงแท้แน่นอนไม่  ผมสัมผัสความรู้สึกแบบนั้นได้ดีที่สุด

   โดยเฉพาะ . . .

   . . . การกระทำที่มาจากพี่โน้ต

   “คนดีของพี่”  จมูกนั้นจดเอาไว้ที่หน้าผากของผม

   “เพราะมันคือยาเพียงขนานเดียวเท่านั้น  เป็นยาตัวเดียวที่รักษาความเจ็บปวดทั้งหมดที่โอห์มมี  เป็นยาวิเศษที่ทำให้โอห์มอยู่มาได้จนถึงวันนี้”   

   หัวตาผมรื้น . . . 

   . . . ผมอ่อนแออีกแล้ว  น้ำหูน้ำตามมันพาลจะไหลออกมาดื้อ ๆ   

   พี่โน้ตมันยิ้มแบบเคย . . . 

   . . . ก่อนจะจดปลายจมูกที่แก้มผมเบา ๆ    เท่านั้นแหละ ผมหันเข้ากอดพี่โน้ตเอาไว้แน่น  ราวกับกลัวว่ามันจะสูญหายไปอีก

   “หายไปไหนมา  ไม่รู้หรือโอห์มใจแทบขาด”   

   พี่โน้ตจะรู้มั้ยจะเข้าใจความรู้สึกของผมมั้ย . . .

   . . . ผมปลดปล่อยความรู้สึกกลัวที่จะต้องสูญเสียพี่โน้ตไปอีก  ผมคงทนไม่ไหว  หากต้องเสียพี่โน้ตไปอีก  ให้ผมหยุดหายใจเสียดีกว่าที่จะต้องเสียคนที่ผมรักไปอีก  ที่ผ่านมามันเพียงพอแล้วสำหรับความเจ็บปวดที่ผมได้รับ

   “ขอโทษ . . .”  พี่โน้ตเอาแก้มแนบที่หน้าผากผม  วงแขนกอดรัดผมเอาไว้แน่น

   “. . .  ขอโทษตัวเล็ก  มันมีเหตุ  มันจำเป็นที่สุด  ต่อจากนี้ไม่ไปไหนอีกแล้ว  สัญญาจะไม่ไปไกลจากตัวเล็กอีก”  มันกอดผมเอาไว้  น้ำตามันไหลเอ่อยิ่งกว่าผมเสียอีก

   ผมได้แต่กอดมันนิ่ง . . .

   พี่โน้ตมันลากผมมาที่เตียงนอน . . . 

   . . . มันกอดผมเอาไว้แน่น  ร่างกายมันเบียดอยู่กับร่างกายของผม 

   แปลกจัง! 

   สัญญชาตญาณบางอย่างมันไม่ทำงาน  ทั้ง ๆ  ที่คนที่ห่างหายกันไปนานนน่าจะมีความรู้สึกที่มากกว่าตอนนี้  แต่มันไม่มีปฏิกิริยาตอบรับ  หรือเพราะว่าที่ผ่านมา  เราสองคนต่างเดินผ่านเส้นความรัก . . .

   . . . ผ่านเซ็กส์

   ที่เหลือต่อจากนี้  เราอยู่เพื่อดูแลกันและกันอย่างนั้นหรือ ?   

   ผมบอกตัวเองไม่ได้ว่ามันคืออะไรที่เป็นอยู่ในเวลานี้  เพราะคนที่ห่างหายกันน่าจะมีความรู้สึกทางร่างกายมากกว่านี้  มันน่าจะมีแรงดึงดูดเข้าหากันเหมือน . . . คืนนั้น

   คืนแรก . . .

   . . . ที่ผมยอมด้วยความเต็มใจ

   แต่ . . .

   ไม่มี  คืนนี้ไม่มีความรู้สักแบบนั้น  แต่คืนนี้มีความสุขมากว่าคืนนั้น  เพราะในอ้อมกอดผมคืนนี้  มีคนที่ผมรัก  และรักมากกว่าคืนนั้น  แต่คืนนี้สำหรับผม  ผมสัมผัสได้ถึงความสุขมากกว่าคืนนั้น  อ้อมกอดที่โอบร่างกายผมเอาไว้  กลิ่นตัวที่ผมเคยคุ้นเคย  ทุก ๆ  อย่างที่เคยเป็นของผม  มันอยู่ใกล้ ๆ  ผมอีกครั้ง

   “ทำไมหนีไปไหนไม่บอก”  ผมเอานิ้วเกลี่ยเล่นที่หน้าอกพี่โน้ตเบา ๆ

   “รู้ทั้งหมดแล้วจะถามอีกทำไม”

   “โอห์มแค่อยากรู้ . . .”  ผมงอแงเหมือนเด็ก ๆ

   “อะไรที่ผ่านมาแล้วเราไม่สามารถที่จะไปแก้ไขมันได้นะโอห์ม  เพราะฉะนั้นอะไรก็ตามที่ผ่านมาแล้ว  เราก็ปล่อยให้ผ่านไปได้ไหม  ปล่อยให้มันผ่านไปโดยที่เราไม่เอามาคิดให้มันเจ็บปวดหัวใจของเราอีก”

   “พี่โน้ต . . .”  ผมมองแววตาคู่นั้น

   แววตาที่มองผมอย่างอ่นโยนที่สุด

   “. . . โอห์มสัญญา  หลังจากคืนนี้  โอห์มจะไม่พูดถึงเรื่องนี้อีก  แต่ว่าคืนนี้  ขอโอห์มได้พูด  ได้ถามในสิ่งที่มันค้างคาหัวใจโอห์มได้ไหม”

   “ครับ”  พี่โน้ตตอบสั้น ๆ 

   “พี่โน้ตต้องเจ็บปวดกว่าโอห์มพันเท่า  โอห์มรู้ว่าที่โอห์มเจอเทียบไม่ได้กับที่พี่เจอ”

   “โอห์มเข้มแข็งกว่าที่พี่คิด” 

   ผมยิ้ม . . .

   . . . ก่อนที่จะ ผมเอื้อมมือไปหยิบหนังสือที่หัวเตียง

   อย่าลืมฉัน . . .   

   พี่โน้ตเอามือมาจับหนังสือเล่มนั้นเอาไว้    คิ้วพี่โน้ตขมวดเข้าหากันเล็กน้อย  ก่อนเปลี่ยนมาเป็นรอยยิ้มในที่สุด  เจ้าตัวก้มลงจูบที่แก้มผมอีกรอบ

   “ยังเก็บไว้อีกหรือ”

   “ก็อ่านทุกครั้งที่คิดถึงคนให้ . .  .”  ผมยิ้มตอบ

   “. . . นอกจากแหวนก็หนังสือเล่มนี้  ที่ทำให้โอห์มเข้มแข็ง  และอยู่เพื่อรอใครบางคนที่เขาเองก็รอโอห์ม”

   “แหวะ . . .”

   “อ้าว!  ทีโอห์มพูดมั่งมาแหวะ  ที่ตัวเองหยอดได้ตลอด”   

   “มันไม่เหมือนกัน”

   “เหมือนสิ”  ผมเถียง

   “ไม่เหมือน”

   “ต้องเหมือน”

   “ไม่เหมือนแน่ ๆ  พี่รับรอง”

   “เหมือนสิ   เอ๊ะ!  ไอ้พี่โน้ตนี่”   ผมไม่รู้ตัว  ว่าสิ่งที่กำลังเถียงกันอยู่ตอนนี้  มันละม้ายเหมือนคืนวันเก่า ๆ  ที่ผมเคยมีความสุข  ความสุขที่อยู่กับผมมานาน

   เหมือนตะกอน . . .

   . . . ตะกอนที่อยู่ก้นแก้ว

   ตอนนี้มันโดนก่อกวนให้มามีความสุขอีกครั้ง  มันไม่ใช่ตะกอนที่ผมอยากตักทิ้ง  แต่มันคือตะกอนของความรัก  ตะกอนแห่งความทรงจำที่ดีที่ผมเองก็ไม่ได้สัมผัสมันมานานแล้ว  ผมยิ้ม  เมื่อพี่โน้ตอมยิ้มบาง ๆ 

   “ยิ้มทำไม”

   “ปล๊าวววววววว”  พี่โน้ตทำเสียงสูง

   “จะแกล้งอะไรโอห์มอีก”    ผมเริ่มหวาดระแวง  เพราะสายตาที่พี่โน้ตมองมามันบอกว่า  ไอ้พี่ตัวแสบมันกำลังคิดแผนอะไรในใจอีก

   “ไม่มี๊  ไม่มี”

   “เชื่อตายอ่ะ”

   “จะมีอะไรอีก  ให้ไปทั้งตัวทั้งหัวใจแบบนี้แล้ว  จะกล้ามีแผนอะไรอีกเล่า  ดีใจที่มีวันนี้  ดีใจอย่างที่สุดแล้ว  เพราะคิดว่าชีวิตนี้จะไม่ได้นอนเถียงกับตัวเล็กอีกแล้ว”

   ผมยิ้ม . . .

   . . . คำหวานที่พี่โน้ตบอกมาจะตายเอาให้ได้  กี่ปี ๆ  ไอ้พี่โน้ตตัวแสบไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลย ผมได้แต่ยิ้ม  เพราะไม่มีอะไรมีความสุขมากไปกว่าการได้ยิ้มอีกแล้ว 

   “เจอพี่แจงบ้างไหม”

   “ติดต่อกันอยู่”  พี่โน้ตยิ้ม

   หาก . . .

   . . . มือที่โอบกอดพี่โน้ตเอาไว้แน่นก่อนหน้านี้  ค่อย ๆ  คลายการโอบรัดอีกคนอย่างอัตโนมัติ  ผมรู้สึกใบหน้าตึง ๆ  อย่างบอกไม่ถูก  กับคำตอบที่พี่โน้ตบอก 

   “ยิ้มอะไร”  ผมมองหน้า  เมื่อเห็นรอยยิ้มพี่โน้ตคล้ายหยัน ๆ 

   “หึงอะไรไม่เข้าท่า”

   “ใครหึง” 

   “ใครก็ไม่รู้  พอเราบอกว่ายังติดต่อแม่เจ้าโอ๊ตอยู่  ปล่อยแขนที่กอดเราเฉยเลย  แถมสายตาที่มองก็เปลี่ยนไป  แบบนี้ไม่เรียกว่าหึงแล้วเรียกว่าอะไรไม่ทราบครับคุณตัวเล็กของพี่”  พี่โน้ตหัวเราะเบา ๆ  มีความสุขกับการจับผิดผมได้

   “อย่ามามั่ว  ไม่มีหึง”

   “ปากแข็งตามเคยนะคนเรา  มาดูสิปากแข็งจริงหรือปล่าว . . .”  ไอ้พี่โน้ตมันพูดจบก็เอาริมฝีปากมาบดขยี้ริมฝีปากผมเบา ๆ 

   ที่อุ่น ๆ  อยู่คือลมหายใจที่สัมผัสได้จากจมูกพี่โน้ต . . .

   “. . . ชื่นใจ”

   “ชอบแกล้งโอห์ม”  ผมมองหน้า  แต่หัวใจไม่อยากให้ไอ้พี่โน้ตมันถอนริมฝีปากกลับเสียด้วยซ้ำ

   “ก็ยังติดต่อกันอยู่จริง ๆ  นี่ครับ  แจงเป็นเพื่อนพี่  และที่สำคัญเป็นแม่ของคนที่พี่รักมากที่สุดในเวลานี้  เขามอบสิ่งที่ดีที่สุดให้พี่  จะให้พี่ใจดำไม่คุยกับเขาเลยหรือ”  พี่โน้ตยิ้มกว้าง

   พี่โน้ตมีเหตุผลเสมอ . . .

   “ครับ”   ผมได้แต่รับคำเบา ๆ

   “แจงบอกพี่ว่า  คนที่รักกัน  ไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกัน  สิ่งที่เหลืออยู่เพื่อเป็นอนุสรณ์ของความรัก  มันมีเพียงแค่สองอย่างเท่านั้นเอง   หากแต่ . . .”   พี่โน้ตเอามือมาเกลี่ยไรผมที่หน้าผากผมเบา ๆ

   “. . . เลือกได้แค่หนึ่ง หนึ่งเดียวเท่านั้นที่  ‘จำ’  ต้องเลือก    เดินออกไปจากชีวิตของอีกฝ่าย”  เสียงพี่โน้ตเล่ายังคงเป็นน้ำเสียงที่ปกติที่สุด

   “หรือ เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน”  มือที่เกลี่ยไรผมของผมเล่นหยุดที่แก้ม  ก่อนที่พี่โน้ตจะเชยคางผมมามองหน้าพี่โน้ตช้า ๆ 

   ผมยิ้ม . . .

   . . . พี่โน้ตยังคงใจเย็นเสมอ  เป็นคนที่มีเหตุผลมากกว่าความรู้สึก  ผมอยากเป็นแบบพี่โน้ต  อยากมีมุมแบบที่พี่โน้ตเป็น

   “ในความรัก  มันต้องเลือก  คนเราต้องเลือกเสมอนะ    การเลือกอาจจะมีทั้งดีและไม่ดี  แต่เราต้องมองให้ดี  พิจารณาให้ถ่องแท้  การที่เราจะเดินไปหยิบอะไร  อย่าสักแต่ว่าของนั้นสวย  ของนั้นงาม  สีที่สวย  สิ่งที่งามอาจเคลือบไว้ซึ่งยาพิษ   สำหรับพี่ . . .”  พี่โน้ตยิ้ม

   “. . . ไม่ว่าจะในเวลานี้  หรือก่อนหน้านี้  เป็นเวลาที่พี่รู้หัวใจตัวเองเป็นที่สุด”  พี่โน้ตจูบผมอีกครั้ง

   บางทีนี่อาจจะเป็นคำตอบของพี่โน้ต . . .

   “พอเหอะ   จูบจนโอห์มช้ำหมดแล้ว”  ผมค่อย ๆ  ผลักพี่โน้ตออกอย่างเบามือที่สุด

      “แจงเป็นเพื่อนที่ดีเสมอ   เป็นเพื่อนคนเดียวที่พี่รักได้อย่างเต็มหัวใจ  เพราะเจ้าตัวไม่เคยเรียกร้องอะไรจากพี่  พี่บอกว่าหากแจงรักพี่เหมือนที่แจงบอก  พี่ขอลูกอยู่กับพี่  เพราะลูกจะเป็นสิ่งเดียวที่จะทำให้พี่มีชีวิตอยู่บนโลกนี้ได้”    พี่โน้ตเล่า  แต่คราวนี้เสียงพี่โน้ตเริ่มสั่น

   แววตาที่มีชีวิตคล้ายหมองลงเล็กน้อย . . .

   “แจงให้พี่ เขายอมให้สิ่งที่ทำให้พี่มีชีวิตอยู่บนโลกนี้ได้  แจงบอกพี่ตั้งแต่ก่อนคลอด . . .”  พี่โน้ตหลับตาไปชั่วครู่

   “. . .   ถ้าแกมั่นใจว่าแกทำดีที่สุดแล้วแกจะเสียใจทำไมไอ้โน้ต  แกต้องไม่กลัวกับสิ่งที่ยังไม่เกิด  สิ่งที่ยังมาไม่ถึงจักกลัวไปใย  ชั้นสัญญา  ชั้นจะให้สิ่งที่ชั้นรักมากที่สุดกับแก  ไม่ว่าลูกจะเป็นหญิงหรือชายชั้นยกให้แก  ยกให้แกด้วยความเต็มใจที่สุด  ชั้นยอมแพ้หัวใจแกว่ะโน้ต . . .”  พี่โน้ตลืมตาช้า ๆ 

   ผมเอานิ้วแตะที่ใต้ตาพี่โน้ต . . .

   . . . ซับความอ่อนแอที่ออกมาจากหัวใจ

   “ในฐานะเพื่อน  ชั้นยอมรับว่ารักแกมากกว่าเพื่อน     และจะยินดีกับทุก ๆ  อย่างที่เพื่อนเลือก  เพื่อนคนนี้จะยิ้มรับทุก ๆ  อย่างที่เพื่อนได้เลือกไปแล้ว  เพราะความสุขของเพื่อนคือสิ่งที่เพื่อนคนนี้จะยิ้มอย่างเต็มหัวใจ . . .”  พี่โน้ตยิ้ม  เอามือกุมมือผมไว้แน่น

   “. . . พี่เลยบอกไง  แจงมันเป็นเพื่อนที่พี่รักอย่างเต็มหัวใจ” 

   “ครับ”

   “แจงยังบอกพี่อีกว่า . . .”  พี่โน้ตมองหน้าผม

   “. . . แต่ในฐานะแม่   แม่ที่ให้กำเนิดลูก และรู้ล่วงหน้าว่าจะไม่มีโอกกาสเลี้ยงดู  แต่ชั้นมั่นใจว่าแกจะเลี้ยงลูกได้ดีที่สุด  แกจงรู้ว่าชั้นไปจากแก  เพราะชั้นมั่นใจว่าแกจะเลี้ยงดูลูกให้เติบโตมาอย่างสวยงามที่สุด  เหมือนที่แกเคยเลี้ยงโอห์ม”  พี่โน้ตมองหน้าผม

   “พี่แจงพูดถึงผม”

   “ใช่  พี่เขาบอกแบบที่พี่พูด”

   ผมนิ่งเงียบ . . . .

   “ไอ้โน้ต   ถ้าชั้นจะขอแกเพียงเรื่องเดียว . . . พี่จำได้ดี  แจงมันจริงจัง  ตอนที่มันพูดประโยคนี้  ตอนนั้นพี่หัวใจแทบจะหยุดเต้น  กลัวไปหมด  กลัวแจงจะไม่ยอมให้ลูกกับพี่”

   “พี่แจงขออะไร”

   “แจงมันขอตั้งชื่อลูก . . .”  พี่โน้ต  ยิ้มกว้าง

   “. . . ไอ้โน้ต  ชั้นรู้ว่าหลังจากที่ลูกลืมตาดูโลก  ชั้นคงจะไปจากชีวิตแก  เหมือนที่แกเดินออกไปจากชีวิตตัวเล็กมัน  แต่ชั้นสัญญา  ชั้นจะเป็นเพื่อนแกเสมอ  ชั้นให้ลูกกับแก  เพราะแกคือเพื่อนที่ชั้นรักมากที่สุด  ชั้นไม่มีวาสนาจะทำหน้าที่แม่  ชั้นขอแค่เรื่องเดียว  ชั้นขอตั้งชื่อลูก”

   “โอ๊ต  นะเหรอ”  ผมมองหน้าพี่โน้ต

   “อืม . . .  ไม่ว่าลูกจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายชั้นจะเรียกว่า   'โอ๊ต'  . . . ส่วนชื่อจริงชั้นตั้งไว้แล้ว  ‘นนธ์ปวิช’    เพราะชื่อนี้มันจะทำให้ชั้นได้ระลึกถึงคนสองคน  คนแรกเพื่อนที่ดีที่สุดของชั้น  กับอีกคน  คนที่คนที่ชั้นรักรักเขามากที่สุด. . . ไอ้ตัวเล็ก”   

   ผมหลับตานิ่ง . . .

   . . . น้ำตาผมไหล

   ผมละอายหัวใจอย่างที่สุด  วันก่อนผมอาจจะเคยหมิ่นน้ำใจผู้หญิงที่เข้ามาใกล้ตัวพี่โน้ต  อาจเพราะว่าผมหวงพี่โน้ต   ไม่อยากให้ใครมาใกล้พี่โน้ต   แต่ครั้งนี้  ผมยอม  ผมยอมให้พี่แจงเรียกผมว่า . . . ไอ้ตัวเล็ก

   ติ้ด . . . ติ้ด

   เสียงข้อความเข้าดังมาจากโทรศัพท์จากหัวเตียง  พี่โน้ตเอื้อมมือไปหยิบมากดดู  ก่อนหัวเราะเบา ๆ 

   “ไอ้ตัวแสบ”

   “โอ๊ตหรือ” 

   “ดูเอาเอง”  พี่โน้ตยื่นโทรศัพท์มาให้ผม

   รูปถ่ายของโอ๊ต . . .

   . . . และข้อความข้างล่างรูปถ่าย  รูปในมือถือเครื่องนั้น





   . . . ปล่อยมือพ่อที่กอดอาโอห์มออกจากตัวอาโอห์มเดี๋ยวนี้นะพ่อ  โอ๊ตหวงอาโอห์ม  เดี๋ยวอาโอห์มของโอ๊ตช้ำหมดเลย . . .

   ผมยิ้มหัวเราะเบา ๆ   

   . . .  พี่โน้ตเลี้ยงลูกได้มาตรฐานเดียวกับที่เลี้ยงผมจริง ๆ  ขอบคุณสิ่งที่ดีที่สุดที่ผมได้เจอ  ขอบคุณพี่โน้ตจากหัวใจ  ขอบคุณพี่แจง  พี่สาวที่น่ารักที่สุดในวันนี้ของผม

   ขอบคุณ . . .

   ผมจะมีใครอีกไหมที่ต้องขอบคุณ ?

   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-05-2009 16:05:36 โดย ราชบุตร »

แก้ว

  • บุคคลทั่วไป
     :-[

โอ๊ต น่ารัก

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
ในความทุกข์ พี่โน๊ตก็ยังเจอสิ่งดีๆ อย่างเพื่อนที่ชื่อ พี่แจง แล้วยังมีสิ่งดีๆที่คอยเหนี่ยวรั้ง ก็คือ โอ๊ต

อ่านตอนนี้แล้ว ซาบซึ้ง กับ มิตรภาพ และความรัก ของผู้หญิงคนนึงที่จะมีได้

ออฟไลน์ kit

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-3


ขอบคุณนะคะ คุณ ราชบุตร


ออฟไลน์ «ƤȑǃǹĉΞḠ○ḺҒ™»

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 251
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0

BEta-K

  • บุคคลทั่วไป
 :pig4:  พี่ราชบุตรที่แต่งนิยายดีๆให้   :กอด1:

แล้วแต่งมาให้อ่านบ่อยๆน้า  :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ myxt

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
อ้างถึง
อวสานแบบนี้จะดีไหม ?

ตั้งใจแค่ ๒๐ ตอนจบอ่ะครับ

แต่

เจอ  MMS ของโอ๊ตเข้า  . . . 


ตกลงจบเลย  ในตอนนี้ดีมั้ยหว่า . . .  อิอิอิ
เอ่อ..... ไม่ดีมั้งค่ะ
พี่โน๊ตกะโอห์มยังหวานได้มากกว่านี้อีกน๊า  :o8:
เจ้าโอ๊ตเข้าใจขัดจังหวะพ่อเนอะ น่ารักน่าหยิกจริงๆ

nanao

  • บุคคลทั่วไป
ทุกอย่างล้วนมีที่มาและที่ไปของมันเสมอ  o13

ranaways

  • บุคคลทั่วไป
โอ๊ยยยยยยยย

น่ารักกกกกกกกกก




ออฟไลน์ Simply Blue

  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1107
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-3
นำเสนอรูปแบบของความรักได้หลากหลายและซาบซึ้งจริงๆๆๆๆ   
ขอบคุณมหาศาลสำหรับเรื่องของความรักที่ทำให้ได้คิดหลายอย่าง
ขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง

อ่านไปอมยิ้มไป มีความสุขจริงๆๆ

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586

จบแล้วหรอ?

เจ้สอง  :bye2:

RAJCHABUT

  • บุคคลทั่วไป

จบแล้วหรอ?

เจ้สอง  :bye2:

ถามว่าจบดีไหม ?

มิได้แปลว่าจบโว้ย . . .

. . .จะจบได้อย่างไร  น้องป๊อบน่ารักขนาดนั้น

เขียนถึงโอ๊ตทีไร  หน้าน้องป๊อบลอยเด่นมาทันที  แบบนี้จบไม่ลง


ปล. ท่านที่ได้อ่านเรื่องต่อจากตอนที่ ๒๐  เพราะอานิสงค์แห่งความน่ารักของน้องป๊อบล่ะครับพี่น้อง


ออฟไลน์ kit

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-3

• ท่านที่ได้อ่านเรื่องต่อจากตอนที่ ๒๐  เพราะอานิสงค์แห่งความน่ารักของน้องป๊อบล่ะครับพี่น้อง
วั้ย ค่ะ พี่ยม 5555555
ขอบคุณนะคะ คุณ ราชบุตร


tonsai_2520

  • บุคคลทั่วไป

วั้ย ค่ะ พี่ยม 5555555



ใครอ่ะ . . .

. . . พี่ยม

คนหล่อ . . .  งง


un_john2006

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ kit

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-3


ต๊าย “พี่ยม” คือ one of leading charactors จาก “เป็นต่อ” ค่ะ(channel 3)
ชอบลงท้ายประโยคว่า “พี่น้อง” อิอิ

ขอบคุณนะคะ คุณ ต้นสาย


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด