ตอน 27
เสื้อขาวรีดเรียบ เนื้อผ้าแข็งเพราะใช้น้ำน้อยเกินไป กันต์เกลียดการรีดผ้า ตอนนี้ต้องทนใส่แข็งๆไปก่อน กางแสลคเข้ารูปตัวเล็กไม่ต่างกับกางเกงยีนส์ที่ใส่ทุกที
ปฐมนิเทศเช้านี้ ห้องประชุมโล่งกว้าง นิสิตเหลือน้อย การเดินทางยากลำบาก ไฟฟ้ายังไม่กลับมาใช้งานได้เป็นปกติ
โลกนี้ยังคงอันตราย
กันต์มายืนอยู่หน้าร้านสีเหลทองซีด ร้านที่ครั้งหนึ่งกันต์เคยมากินข้าว
ในฐานะที่ต่างจากตอนนี้ไปหน่อย
เด็กปีหนึ่งมาทานข้าวกลางวันที่นี่จนแน่นร้าน มันเริ่มดูมีชีวิตขึ้นอีกครั้ง
“เชิญครับ”
เสียงสดใสดังออกมาจากในร้าน
“สวัสดี”
กันต์ยิ้มกว้างให้
“คิดไงจะมากินที่นี่วะ”
“อ้าว ก็ไปชวนคนให้มากินที่นี่บ่อยๆ แต่ตัวคนชวนกลับไม่มามันตลกป่าววะ”
ซี รู้สึกเบื่อหน่าย
‘ชวนกี่ครั้งๆก็ไม่ยอมมา’
ดูท่าแล้วกันต์น่าจะต้องยืนรอสักพักกว่าจะมีโต๊ะ
“ตรงนี้ว่างแล้ว มาเลยๆ”
“เป็นไงมั่งสบายดีมั้ย”
“อื้อ ดีขึ้นมากแล้ว ขากันต์ละ”
“นานแล้วนะ หายแล้วละ”
ปิ ในชุดนิสิตขาวยืนคอยทำหน้าที่เป็นเด็กเสริฟอยู่ในร้าน สภาพงกเงิ่น แต่ก็ยังดูดีกว่าตอนแรกที่เจอกัน
มันผ่านมาเกือบครึ่งปีแล้ว
“ร้านมีตั้งเยอะ ดันไม่เลือก โดนของเหรอไง”
เสียงกะทะผัดจากหลังร้านดัง
ซีลาเก้าอี้เสียงดังก่อนนั่งลงอย่างไม่พอใจ
“อย่าบ่นได้มั้ย”
“เออ วันนี้กินไรดีละ”
“นี่ มาหลายรอบแล้วเหรอ”
“เออสิ แปลกเหรอไง”
ซี กลายเป็นนักศึกษาปี 3 เวลาไม่ว่างพอมานั่งตามติดเด็กปี 1 อย่างกันต์อีกต่อไป
กันต์ยังคงอยู่ที่ห้องนอนเดียวกับซี โซฟาหนังไม่ได้เป็นเตียงอีกต่อไป แต่เป็นบนเตียงและนอนอยู่ข้างๆซีต่างหาก
“แล้ว ซีละจะเอาอะไร”
“เรียกพี่ด้วยดิ เรารุ่นพี่นายนะ”
“อายุก็เท่ากันไม่ใช่เหรอ”
กันต์รีบพูด
“แต่เราเข้ามหาลัยก่อน”
“อายุสมองน่ะไม่ได้โตตามปีที่เรียนเล๊ย”
“ทำพูดนะ กันต์แล้วไอ้ที่วันๆเรียนเสร็จกลับห้องนอนไม่ทำอย่างอื่นเนี่ย ดูอย่างปิสิ ช่วยทำร้าน ทำมาหากิน”
“อย่าบ่น เดี๋ยวโดน”
“เออ โดนแน่ กลับไปน่ะโดนอีกแน่”
กันต์สะอึกนิดนึง
“เอ่อ จะสั่งอะไรดีครับ”
ปิ รู้สึกต้องเข้ามาห้ามศึกในครอบครัวนี้
“งั้นเหมือนเดิมนะ แล้วซีละ”
“เอาเหมือนมันละกัน ดูแล้วอะไรก็คงไม่อร่อย”
เสียงเคาะกะทะ ดังรัว
กันต์รู้สึกเบื่อจะพูด
“งั้นรอแป๊บนะ”
ปิ เดินหายเข้าไปที่เค้าเตอร์ ด้านหลังเป็นครัว เสียงพ่อครัวกำลังเคาะกะทะ ดังก๊องแก๊ง
กันต์รู้สึกเสียววาบ
“มีดีไรนักหนานะ ต้องพามากินถึงนี่”
“ก็ถามนี่ว่าอยากกินอะไร ก็มาละไง”
ทั้งสองรอจนคนหมดร้านถึงจะได้กิน
“ได้แล้วครับ”
จานข้าวสองจานร่อนลงมาอยู่บนโต๊ะ
“แล้วพี่ฟ้าละ”
“ยังไปถามถึงมันอีก”
ผ่านมาตั้งครึ่งปีแล้ว ซียังคงไม่ชอบหน้าฟ้าเหมือนเดิม
“มีธุระอะไรครับ คุณลูกค้า”
เสียงพี่ฟ้าดังลอดมาจากช่องเค้าเตอร์
พี่ฟ้าดูคล้ำลงนิดหน่อย ผิวชุ่มเหงื่อเป็นมัน กางเกงขาสั้นตัวเดียวบนตัวผอมๆสูงๆของพี่ ดูมีเสน่ห์ ผ้ากันเปื้อนสีฟ้าอ่อนเลอะคราบอาหารปิดบังท่อนบนเอาไว้
กันต์กลืนน้ำลาย
“นี่ ทำอาหารมึงใส่ชุดยังงี้เหรอ”
“ร้านกู จะทำไม”
“อี๋ ใครจะกินลง”
ซี ก้มลงมองจานข้าว
“นี่ ทำไมจานกูมันได้น้อยกว่าของไอ้กันต์ตั้งครึ่งวะ”
“อ้าว มึงจะแดกไรเยอะแยะลงพุง”
“มีพุงก็ยังหุ่นน่ากินกว่ามึงละ”
ตะหลิวในมือพี่ฟ้าสั่น
“อ้อ เสียงเคาะเมื่อกี้มึงเหรอ ถามหน่อยดิ ทำไงให้กันต์มาร้านได้วะ”
“เค้าจะมาไม่มามันเรื่องของเค้า ทำไมหวงเมียมากเหรอ”
ซีหน้าแดงขึ้นนิดหน่อย
“ทำไม แฟนกูมีดีไง ไม่งั้นใครบางคนคงไม่พยายามเข้ามาจีบหรอก ลีลาก็เด็ด”
“ซี”
กันต์สะกิดขา
“พูดเองเออเอง รู้ได้ไงว่าปิไม่เด็ด”
“พี่ฟ้า”
คราวนี้ปิตะโกน
“กันต์เด็ดกว่า ไม่งั้นมึงไม่ติดใจหรอก”
“นี่ซี กูยังไม่ได้มีอะไรกับพี่เค้านะ”
“มึงเห็นปิเป็นยังงี้น่ะ แต่ไม่เบานะเว้ย”
ปิ ถอนหายใจ
“ไม กันต์มึงมีดีตรงไหน แฟนหื่นๆอย่างมึง ทนคบได้ไม่นานหรอก”
“แฟนหื่น ก็ดีกว่าแฟนไม่มีปัญญาทำการบ้าน ปิ ดูเก็บกดนะ สงสัยอดอยาก”
“ระ เราเปล่านะ พี่ฟ้าก็ทำบ่อยออก”
“ไอ้ปิ ไม่ต้องตอบ”
ฟ้ารีบตะโกนห้าม
ซีหัวเราะชอบใจ
“กันต์ชอบคนเซ็กจัดอย่างมันเหรอ”
“พี่ฟ้ารู้ได้ไงอะ บางทีกันต์ก็เหนื่อยอะ”
“กันต์”
คราวนี้ซีโวยบ้าง
“นี่พอได้รึยัง”
“ยัง”
สองคนแทบจะพูดพร้อมกัน
ซีเอื้อมมือไปทุบเข้ากับท้องฟ้า
แน่นอนว่าอีกฝ่ายย่อมไม่นิ่งเฉย เหวี่ยงตะหลิวตีหัวซีกลับไปเหมือนกัน เด็กน้อยสองคนแลกเปลี่ยนหมัดกันหน้าบ้าน
“กันต์นี่อยู่ด้วยทำทุกวันก็ไม่เบื่อเลย ไม่เหมือนเด็กแว่นหน้าจืดหรอก”
“แว่นๆ น่ะมีเสน่ห์นะเว้ย เวลาทำนะ หน้าตายั่วอารมณ์มากเลย”
“มาพิสูจน์กันเลยดีกว่า มาเดี๋ยวกูจัดกันต์ให้...”
ซีเอามือคว้าหมับ บีบก้นกัน
“ไม่ยอมง่ายๆหรอก”
ฟ้าหันไปหาปิ
กันต์สักเกตเห็น ปิก้มหน้า มือถืออะไรสักอย่าง
เฮ้อ
เสียงปิถอนหายใจ
ซ่า
“พี่ฟ้า ปิจะไปล้างจาน ไปเปลี่ยนเสื้อเถอะ”
น้ำเสียงเย็นชา พอๆกับน้ำเย็นๆที่สาดใส่หน้า
“ครับ”
พี่ฟ้าวางผ้ากันเปื้อนลง โชว์หุ่นขาวที่ตอนนี้แขนดูล่ำขึ้น ใบหน้าดูสงบนิ่งเหมือนคนโดนแม่ด่ามา
กันต์รู้สึกว่าปิเองก็เอาเรื่องแฮะ
“ฮ่าๆ กลัวเมีย”
“ซี เราว่า บางทีเราไม่ควรจะทำอะไรกันสักพักเนอะ มันบ่อยอย่างที่ซีพูดจริงด้วย”
“เดี่ยวดิกันต์”
“สักสองสามเดือนน่าจะดี ทนๆหน่อยเนอะ”
“ไม่เอา เราไม่ยอมนะเราจะ...”
“จะยืดเวลาเหรอ”
“เอ่อ ไม่ครับ สองเดือนก็ได้ครับ”
ซีนั่งหน้าจ๋อย
กระเพราะหมูกรอบไข่ดาวขึ้นอืดแล้วตอนนี้ ข้าวบนจานกันต์มากกว่าซีเท่านึง คงเพราะพี่ฟ้ารู้ว่าเป็นกันต์มา เสียงเคาะกะทะเมื่อกี้นี่ คงกำลังหงุดหงิดสินะ
“อร่อยมั้ย”
ซีทำหน้าตาไม่เชื่อ
“พี่เค้าเอาสูตรที่พ่อเค้าทิ้งไว้ให้มาทำต่อ”
“ก็ดี”
กันต์แบ่งข้าวบนจานให้ซี มันเยอะเกินกว่าจะกินคนเดียวหมด
ฟ้าเดินลงมาจากชั้นสอง ใส่เสื้อกล้าม นั่งหลังพิงกำแพงดูเหนื่อย
ซีกินอิ่มนั่งเอนหลังพิงกำแพงอีกด้าน สองคนนี้ก็ยังคงไม่ถูกกันไม่ว่าจะนานแค่ไหน กันต์ได้แต่หวังว่ามันจะไม่เป็นต่อไปนาน
ปิ มุดออกมาจากหลังร้าน ค่อยๆยกจานเข้าไปเก็บ สภาพดูแข็งแรงขึ้นมาก
กันต์ช่วยปิยกจานเข้าไปในครัว
พวกคนในร้านหายไปเข้าเรียนหมด ปล่อยให้พวกเรา 4 คนนั่งเดียวเงียบอยู่ในร้าน
ผ่านไป 6 เดือนจากวันนั้น ข่าวออกทุกช่อง แต่ทางตำรวจไม่สามารถตามจับคนร้ายได้
คนร้าย...
มันไม่มีไม่ใช่เหรอ สองคนนั้นทำตัวเอง อย่างนี้ถือว่าไม่เป็นการฆาตกรรมได้มั้ยนะ ถึงเรื่องอื่นๆพวกเราจะเห็นไม่ตรงกัน สำหรับเรื่องนี้เราเห็นพ้องกันว่าควรจะเก็บเงียบเอาไว้
ความลับสีดำที่ทาโลกอันมืดมิดนี้ให้ดำเข้าไปอีก
“พี่ฟ้า พักหน่อยมั้ย”
โค้กเย็นในแก้วสีฟ้าอ่อน วางกระแทกลงตรงหน้า
“ยังโกรธเหรอ”
“เปล่า พี่นั่งพักเหอะ”
ปินั่งลงข้างๆ
กันต์รู้สึกดีที่พี่ฟ้ากลับมาเปิดร้านอีกครั้ง ถึงจะไม่เคยถามว่ามันเป็นความฝันของเค้าหรือเปล่า ในเวลานี้มันคงไม่สำคัญเท่า เค้ากำลังสานต่อความฝันของพ่อ
ปิเป็นเด็กปี 1 เต็มตัว กำลังเริ่มต้นใหม่กับรูปแบบมหาลัย ถึงจะช้าไปกว่าคนอื่น
พี่ฟ้าก็คงจะยังปกป้องปิต่อไป ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง
“กันต์กลับเหอะ พวกเค้าจะได้พักผ่อน”
“อือ”
ก่อนออกจากร้าน ซี ชูนิ้วกลางให้โดยไปหันไปมอง
“ไว้จะมากินอีกนะ ไอ้พวกบ้า”
กันต์ได้แต่ถอนหายใจ
ถ้าจะไม่ญาติดีกันในเร็วๆนี้แน่
“เออ ไปดีมาดีมึง”
ฟ้าตะโกนไล่หลัง
เรื่องของขี้ยาสองคนนั้นที่ตกจากดาดฟ้า เป็นข่าวครึกโครมอยู่สองวัน สภาพตึกน่ากลัว กล้องถ่ายไปตามจุดต่างๆ โชคดีที่ พวกแก๊งเด็กแว๊นซืนั่นทำลายหลักฐานให้จนหมด
กลายเป็นว่าตำรวจไปเพ่งเล็งว่าเป็นฝีมือของพวกนั้นแทน
จะว่าไป ก็ไม่ใช่ฝีมือของพวกเรานี่นะ... ถึงจะไม่ใช่โดยตรงก็เหอะ
“กันต์”
ซีเอามือมาโอบเอวเบาๆก่อนจะเกี่ยวร่วงลงไปผ่านร่องก้น
“หยุดเลย บอกแล้วไงว่าห้าม”
“ไม่ได้”
กันต์หวังว่าแม่ที่อยู่เมืองนอกตอนนี้จะสบายดี
ชีวิตกันต์เริ่มเคลื่อนที่อีกครั้ง มันจะออกไปได้ถึงไหนก็ไม่รู้