ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ ===
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ ===  (อ่าน 151804 ครั้ง)

ออฟไลน์ piggie

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 105
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ตอนแรกนึกว่าพิมพ์ตอนผิด.....แอบมีตอน11มาให้อ่านด้วย

อ่านเรื่องนี้แล้วหลงรักโชคดีจังเลยค่ะ

ทำไมรู้สึกเหมือนอ่านตรงนี้แล้วขัดๆอ่ะค่ะ

แน่นอน ลูกรักคนสุดท้อง ใครจะไม่ห่วง” ม.ท. 1 พูดกลั้วหัวเราะ ปฐพีรู้สึกแปลกใจ เขาเพิ่งได้ใกล้ชิดท่านรัฐมนตรีฯ และได้สัมผัสถึง “พลัง” บางอย่างในตัวของชายผู้นี่ พ่อของโชคดีค่อนข้างแตกต่างจากลูกชาย ท่าทางเป็น “นักเลง” พอตัว ดูเหมือนเป็นพ่อของโชคดีมากกว่าที่จะเป็นพ่อของคนขรึมๆ นิ่งๆ อย่างชยุตม์

น่าจะเป็นพ่อของชยุตม์รึป่าวค้า...

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
ติดน้ำป่าซักอาทิตย์ ทั้งคู่คงได้เรียนรู้ และเข้าใจกันและกันอีกมาก

+1 ให้พี่นายได้ครบ 1000 ไว ๆ จะได้มีเมีย  :z2:

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
เอาแล้วไง
ติดฝน
อยู่ในกระท่อม
เดี๋ยวสองคน
มองไปมองมา
สปาร์คกันแน่ๆเลย
ฮ่าๆๆๆๆ :m11:

mecon

  • บุคคลทั่วไป
เออแหะยังมีมุมน่ารักขึ้นมานิดนึงและ (นิดนึงจริงๆ โฮ๊ะๆ)
ทำกับข้าวกับปลาประทังชีวิตรอดก็เก่งมากมาย เด็กนอกต้องขอบคุณนะเนี่ย
ไม่อยากงั้นคงไม่รู้หรอกว่า ข้าวสวยกับไข่ดาวธรรมดาๆบ้านๆตลอดซู้ดยอด
แต่คุ้มใช่มะ ต้องต่อปากต่อคำต้องใช้สมองคิดว่า ถามแบบไหนถึงจะเป็นคำถามที่
ได้เรื่อง เหอะๆ แค่นี้ก็ใช้พลังไปมากโขแล้ว

“ขอบคุณครับที่อธิบายให้ฟังหลังจากเสร็จภารกิจ”
“ทำเป็นอารมณ์เสีย”
“ผมรู๊ คุณคงนั่งภาวนาอยู่ทุกวันว่าให้โครงการรีสอร์ทพังไม่เป็นท่า เพราะมันเป็นรีสอร์ททำลายธรรมชาติ”
“ไม่ต้องมาประชดหรอก”
>> หึหึ หมั่นเขี้ยวหมูปิ้งชะมัด น่า :oo1:

หมูปิ้งจะได้รางวัลนายเอกผู้เสียสละมั๊ยเนี่ย  :-[ เก่งจริงๆเด๋วนี้พัฒนาแล้นนะ มีงอนด้วย เหอะๆ

สู้ๆคะ +1ให้กับค.น่ากดของหมูปิ้ง

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
ค้างกันแค่คืนเดียว เริ่มจะรู้ใจกันแล้วสิเนี่ย
นายช่างเริ่มแปลภาษารักของหมูปิ้งออกแล้ว  :laugh:

มาร่วมด้วยช่วยกด+ อยากให้คนเขียนได้เมียซะที  55+ 


ออฟไลน์ Fujitaga

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 388
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
อ้าว รู้สึกว่า ชยุตม์จะรู้สึกแล้วซิครับเนี่ยว่า มันแปลก ๆ
เวลาที่โต้เถียงกับโชคดี ส่วนโชคดี ก็คงใกล้จะรู้สึก
แล้วด้วยมั้งครับ แต่ก็ไม่อยากยอมรับเท่าไรมั้ง

เล่นต่อให้ซะ ตอนครึ่งอย่างนี้ น่ารักจังเลยครับพี่นาย :กอด1:
ทีนึงแล้วกัน  พร้อม +1 ให้ด้วยแล้วกัน
มาต่อด้วยนะครับ กำลังสนุกเลย

ออฟไลน์ DEMON3132

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +170/-1
+1 ให้นะคะ โชคดีจะน่ารักไปถึงไหน ถึงจะดุแต่ก็น่ารักจ้า
เขียนจนนึกภาพออกเลยสำหรับคุณหนูชยุตม์ ลูกชายคนเล็กของคุณหญิง มท.1
ประชดกันไปประชดกันมา น่ารักดี แต่เมื่อไรจะรักกันแบบหวาน ๆ ล่ะ
แต่ติดน้ำป่าอยู่ด้วยกันตอนนี้ ก็ทำให้เริ่มจะเห็นมุมมองของแต่ละคนที่
คนอื่นไม่มีทางได้เห็น และแถมเริ่มมีความรู้สึกแปลก ๆ ให้กันอีก
คงได้ลุ้นกันอีกไม่กี่ตอนละนะ
มาต่อไว ๆ นะคะ ....... :z3:

ออฟไลน์ nin@

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
เพิ่งเข้ามาอ่าน  สนุกดี...อ่านของคุณมาหลายเรื่องแล้ว  ชอบทุกเรื่อง  o13
รีบๆมาต่อไวๆนะ 

ปล.ไม่เคยโพสต์มาก่อน  ยังไม่รู้ว่าเค้าให้คะแนนกันตรงไหน ช่วยแนะนำด้วยฮับ

McDeliVery

  • บุคคลทั่วไป
สมัครสมาชิกเพื่อการณ์นี้โดยเฉพาะ  อิอิ


ป่อล้อ  คนน่านเหมือนกันคับ เหอๆ :z1:

Cn-Nt

  • บุคคลทั่วไป
หมูปิ้งแอบน่ารักนะเนี่ย.....



 :3125:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ● MaYa~Boy ●

  • ฉันมันคนขี้อิจฉา
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-2
มาอ่านจนทันจนได้

ยิ่งอ่านยิ่งลุ้นเลย

yaoifan

  • บุคคลทั่วไป
สงสารชยุตม์ สงสัยจะเริ่มติดไข้หวัดใหญ่ สายพันธ์หมูปิ้ง ซะแล้ว

เริ่มมองด้วย ความคิดแปลกๆ แล้ว

ชอบมาก สำหรับ "คู่กัด" หรือ "คู่รัก" คู่นี้ สถาปนิก กับ พ่อค้าเหล็ก

คู่ปฐพี่ กับ จักรินทร์ ก็เหมาะสมกันดี ตำรวจ กับ สจ๊วต

ว่าแต่ คนแต่ง จะคู่กับใครดี น่าจะเป็นแบบ กลัว ม สระเอีย 5555 :z2:

+1 ให้ถึง ๑๐๐๐ เร็วๆ  :z13: o13

TinaJunior

  • บุคคลทั่วไป

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
ค่อ  :pig4:

...นี่คงคิดจะให้เขาถามละสิ คงคิดว่าเขาอยากจะรู้มากว่า คนเมืองน่านก็น่ารัก แต่ว่า...แต่ว่าอะไร...
...แล้วแต่ว่าอะไรล่ะ...
...คงแต่ว่า “...คุณไม่น่ารักกับผมเลย ทำไมถึงเกลียดผม ไม่ชอบหน้าผมนัก...” จะมาพูดน้อยใจกับเขาแบบนี้ใช่ไหม...
...บ้าจริงๆ อยากต่อยปากแดงๆ ของชยุตม์นัก แล้วนี่ทำอมยิ้มอยู่ได้ ขำอะไรนักหนา ติดน้ำป่าอยู่บนดอยยังไม่รู้สึกทุกข์ร้อนอะไรอีก...

“โชคดี ซ่งจะขาดใจตายอยู่แล้ว” ทรงศักดิ์โอดครวญเสียงเบาอยู่คนเดียว เขากับพงษ์ระดมตามหาโชคดีทั้งวัน จนกระทั่งเย็นก็ไม่มีวี่แววว่าจะพบ กำนันผู้ใหญ่บ้านหลายตำบลที่เขาขอความช่วยเหลือก็ไม่มีใครรายงานเข้ามาสักคน
“โชคดีอยู่กับชยุตม์มาสองคืนแล้ว จะเป็นยังไงบ้าง อย่าให้มีอะไรเกิดขึ้นอย่างที่ซ่งกำลังคิดนะ อย่านะ อย่า อย่าเด็ดขาด ถ้าเป็นแบบนั้น ซ่งคงต้องขาดใจตาย”
“คุณซ่ง” เสียงพงษ์ตะโกนเรียก ทรงศักดิ์หันขวับไปมอง เห็นผู้ช่วยร่างใหญ่ของโชคดีวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาหา
“เจอแล้วครับ”
“หา เจอโชคดีแล้วหรือ ที่ไหนๆ บอกผมเร็วเข้า” ซ่งกระโดดลงจากท้ายรถกระบะที่นั่งอยู่ รีบตรงไปหาพงษ์ รอฟังคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ
“เปล่าครับ เจอรถของคุณโชคดี ไม่ได้เจอตัว”
“หมายความว่า...” ทรงศักดิ์แทบช๊อค
“เขาบอกว่าล้อหลังรถยางแบน ผมเชื่อว่ารถเสีย คุณโชคดีกับนายช่างต้องทิ้งรถไว้ ทีนี้น้ำท่วมคงพัดพารถให้ลอยไปจากที่เดิม ถ้าเราพบรถที่ปางตอง แสดงว่าคุณโชคดีต้องติดอยู่ที่ไหนเหนือปางตอง เราต้องย้อนกลับขึ้นไปหาตามเส้นทางการไหลของน้ำ”
“คุณพงษ์คิดว่าหมูปิ้งยัง...”
“ยังไม่เป็นอะไรหรอกครับ” พงษ์แสดงท่าทางมั่นใจ “ผมเชื่อว่าคุณโชคดีไม่เป็นอะไร พระย่อมคุ้มครองคนดี”
ทรงศักดิ์ยิ้มกว้าง เตือนให้พงษ์โทรศัพท์ไปบอกข่าวคุณเตือนใจ พงษ์บอกว่าแจ้งข่าวให้ทางโน้นทราบเรียบร้อยแล้วและผู้กองปฐพีกับคนของท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยกำลังตามมาสมทบ
“หมายความว่าไงคนของรัฐมนตรี” ทรงศักดิ์ถาม
“คุณชยุตม์เป็นลูกชายของท่านฯ ครับ” พงษ์ตอบ
“อะไรนะ” ทรงศักดิ์อุทาน
...ชยุตม์เป็นลูกคนใหญ่คนโตขนาดนี้เชียวหรือ ลูกชายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พี่ชายของเจ้าของรีสอร์ที่เจ้าตัวกำลังต่อต้านนั่นหรือ...
...มองเห็นทางชนะแล้ว...
ทรงศักดิ์กระหยิ่มยิ้มย่อง ด้วยมั่นใจว่าโชคดีคงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟหากรู้ว่าชยุตม์เป็นใคร ไม่มีชยุตม์เสียคน คู่แข่งก็หายไป เหลือเขาคนเดียวให้โชคดีตัดสินใจ หากเขาตามหาโชคดีเจอและช่วยเอาไว้ได้ เขาก็จะได้คะแนนเพิ่ม โชคดีจะได้หันมามองเขาเสียที

"เฮ้อ" โชคดีถอนหายใจแรงๆ จนชยุตม์หันไปมอง
"เป็นอะไรหรือครับ" ชายหนุ่มอดถามไม่ได้ ทั้งๆ ที่พอจะรู้คำตอบอยู่แล้ว แต่เขาก็ยังอยากจะได้ยินเพื่อความแน่ใจ
"ทำไมผมจะต้องมาติดอยู่บนเขากับคุณด้วยนะ" โชคดีพูดหน้าตาเฉย ตรงไปตรงมาจนชยุตม์สะดุ้ง
วิศวกรหนุ่มอึ้งไปชั่วครู่ ไม่นึกว่าตัวเองจะกลายมาเป็นบุคคลน่ารังเกียจไปเสียได้ "ทำไมล่ะ ติดอยู่กับผมมันเลยร้ายมากนักหรือไง"
"เปล่า" โชคดียักไหล่ หันไปมองทิวเขาสลับซับซ้อนไกลสุดลูกหาลูกตาผ่านม่านสายฝนที่ตกปรอยๆ ไม่ยอมหยุดเกือบสองวันเต็ม
ชยุตม์ไม่เข้าใจโชคดี ชายหนุ่มมีบุคลิกที่ซับซ้อนมากจนเขาอ่านไม่ออก ดูไปเหมือนจะเกลียดเขา ขณะที่บางครั้งก็รู้สึกเหมือนเป็นมิตร บางครั้งตรงไปตรงมา โผงผางจนเขาตกใจ หากบางคราวดูอ้อมค้อม ลึกลับ ปิดบังอย่างไรก็ไม่รู้
"ขอบคุณสำหรับคำตอบที่ทำให้ผมสบายใจมาก" ชยุตม์อดประชดไม่ได้ อยู่กับโชคดีนาน เขาเริ่มเรียนรู้ที่จะใช้วาจากระทบกระเทียบเป็นแล้ว
หลังจากจงใจพูดให้ชยุตม์งง โชคดีปล่อยให้ความคิดของตัวเองล่องลอยไปไกลแสนไกล เขารู้ว่านี่เป็นวิธีเดียวที่จะซ่อนตัวอยู่หลังกำแพงที่ก่อขึ้นมาขวางกั้นตัวเองเอาไว้ การได้อยู่ใกล้ชิดกับชยุตม์ทำให้เขาเห็นด้านดีของชายหนุ่มมากขึ้น ความขาวสะอาดค่อยๆ ไล่สีดำที่เขาระบายภาพของวิศวกรหนุ่มเอาไว้ จากเมื่อเดือนที่แล้วที่ชยุตม์ในภาพความคิดของเขาเป็นสีเทาเข้ม ตอนนี้เริ่มเป็นสีเทาจาง และเขาก็กลัวว่าอีกไม่นานก็จะกลายเป็นสีขาว และท้ายที่สุดอาจเป็นสีชมพู เมื่อนั้นก็จะถึงเวลาที่ต้องจากกัน และทุกอย่างก็จะกลับกลายเป็นสีหม่นมัว บางที่อาจจะกลายเป็นสีดำสนิท
...มืดสนิทจนโลกทั้งโลกของเขาไร้ซึ่งแสงสว่าง...
...สู้อย่าดีกันเลยอาจจะดีกว่า สร้างภาพชยุตม์ให้น่าชังเข้าไว้ จะได้ไม่ตกหลุมรักเขา...
...รัก...ทรมานมากนัก เขาเคยเจอมาแล้ว ทั้งของตัวเองและเห็นจากคนใกล้ตัว...
...ที่ไหนมีรัก ที่นั่นมีทุกข์ ยังจำคำพูดนี้ได้เสมอ...
...เพราะฉะนั้น ห้ามรัก ห้ามเด็ดขาด...

ชยุตม์ยกข้อมือขึ้นมามองนาฬิกาที่บ่งบอกเวลาว่าใกล้ค่ำแล้ว ฝนที่ตกปรอยๆ ตลอดวันและฟ้ามืดครึ้มที่ปกคลุมขุนเขาแห่งนี้ทำให้เขารู้สึกว่าวันทั้งวันเป็นเหมือนเวลาใกล้ค่ำเพียงเวลาเดียว
ท้องเริ่มหิว อากาศเริ่มหนาว ชยุตม์จึงก่อไฟเพื่อให้แสงสว่างและความอบอุ่น หลังจากนั้นจะได้ทำอาหารเย็น เขาใช้เวลาไม่นานก็ก่อไฟเสร็จ แล้วจึงเดินไปหาโชคดีที่ยังคงนั่งอยู่บนแคร่ กอดเข่ามองออกไปเบื้องหน้า
ชายหนุ่มนั่งนิ่งอยู่กว่าชั่วโมงแล้ว เหมือนจมอยู่ในทะเลความคิดของตัวเองจนเขารู้สึกแปลกใจ คนที่เคยคล่องแคล่ว ปราดเปรียว เติมไปด้วยพลัง ไม่เคยหยุดนิ่ง ตอนนี้นั่งนิ่งเป็นรูปปั้น ทำเหมือนตัวเองอยู่คนเดียวบนโลก
"คุณโชคดีครับ เราจะทานอะไรกันดี" ชยุตม์ถามเบาๆ
โชคดียังนิ่งอยู่ ทำเหมือนไม่ได้ยินที่เขาถาม "ผมรู้ว่าตัวเองถามคำถามซื่อบื้ออีกแล้ว แต่อย่าเพิ่งถอนหายใจแรงๆ นะ เพราะพรุ่งนี้เช้าผมก็คงจะถามคุณอีก"
แม้ชยุตม์จะดักทาง โชคดีก็ยังถอนหายใจแรงๆ ราวกับระอาชายหนุ่มชาวกรุงคนนี้นัก "นี่คุณไม่เคยทำกับข้าวอะไรกินเลยบ้างหรือนี่" โชคดีหันหน้ามามองนายช่างใหญ่อย่างไม่เชื่อสายตา
...วิศวกรดูแลการก่อสร้างรีสอร์ท ไม่รู้อะไรสักนิดเรื่องการเอาชีวิตรอดในป่า "ถ้าไม่มีคนอื่นคุณคงอดตาย"
ชยุตม์ไม่ตอบโต้ ยังทำหน้านิ่ง มองโชคดีตาปริบๆ ปล่อยให้ชายหนุ่มบ่นจนพอใจ นั่นยิ่งทำให้โชคดีอารมณ์คุกรุ่น เพราะอีกฝ่ายไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับ
...เขาไม่เข้าใจว่าทำไมชยุตม์ทำอะไรไม่เป็น แม้แต่เจียวไข่ เขายังไม่ได้ทดสอบเรื่องให้ชยุตม์ทำไข่ต้ม กลัวว่าสมมุติฐานที่ตั้งไว้ในใจจะกลายเป็นความจริง กลัวว่าหากเป็นเช่นนั้นจริงๆ เขาจะทนไม่ได้ วิ่งไปกระโจนลงสายน้ำป่าเชี่ยวกรากที่กำลังถั่งโถมไหลท่วมป่าอยู่ในขณะนี้...
"แล้วมือนี้จะรับอะไรดีครับ" ...คุณหนู... โชคดีพูดต่อในใจ ยันกายลุกขึ้น เดินอย่างเซ็งๆ ไปยืนมองกองไฟ
...อย่างน้อยก็ก่อไฟเป็น...
โชคดีมองอุปกรณ์ทำกับข้าวที่ชยุตม์ขนมาวางไว้ข้างๆ กองไฟ มีทุกอย่าง ทั้งถ้วย จาน ทัพพี หม้อ กระทะ กาต้มน้ำ มีด และเขียง ทั้งๆ ที่อาหารมีเพียงไข่ไก่ไม่กี่ฟอง
...ท่าทางจะหิวจัด...โชคดีส่ายหน้า
"อะไรผมก็ทานได้"...ถ้าทานกับคุณ...ถ้าคุณทำให้ผมทาน...ชยุตม์เติมประโยคในใจ
...เลือกได้เสียเมื่อไหร่ เสนอความเห็นเข้าหน่อยก็โดนว่า แล้วยังจะมาถามอีกว่าเขาอยากทานอะไร...
"งั้นก็กินไข่เจียวเหมือนเดิมก็แล้วกันนะ พอไข่เจียวหมดถาดแล้ว เราก็ค่อยหากินผักกินหญ้าแถวนี้"
"ไข่เจียวอีกแล้วเหรอ" ชยุตม์เผลอประท้วง ติดน้ำป่ามาสองวันนี้เขาทานไข่มาหลายมื้อแล้ว
ได้เรื่อง โชคดีหันขวับ ทำเสียงเข้ม "ถ้าไม่กินไข่เจียว แล้วคุณจะกินอะไร...ไข่ต้มหรือไง"
ชยุตม์ไม่พูดเพราะไม่รู้จะเอื้อนเอ่ยสิ่งใดอีก เขาเดินอ้อมไปอีกทาง หยิบไข่ออกมาวางสี่ฟอง
"สองฟองก็พอ...ประหยัด นี่ไม่รู้ว่าจะติดน้ำป่าไปอีกกี่วัน" โชคดีหยิบไข่สองฟองกลับคืน
ชยุตม์เงยหน้าขึ้น ประท้วงด้วยสายตา ราวกับจะบอกว่า ไม่ไหวแล้วนะ ทานข้าวไม่เคยจะอิ่ม มื้อนี้ขอพิเศษด้วยเถอะ...
โชคดีรู้สึกหมั่นใส้ขึ้นมาทันใด
...ลูกคนรวย ขนาดติดน้ำป่าอยู่บนภูเขายังไม่รู้จักอด สงสัยที่บ้านกินทิ้งกินขว้างเสียจนชิน ถึงเวลา คนรับใช้ก็คงจัดเตรียมสำรับกับข้าววางไว้บนโต๊ะ นั่งทานจนอิ่ม แล้วก็ลุกเดินหนีไป พอจะทำไข่เจียวให้กินก็โวยวาย...
...เอาล่ะ เมื่อสักครู่ที่คิดไว้ว่าไม่อยากจะรู้ว่าชยุตม์ต้มไข่เป็นเหรือเปล่า ตอนนี้ขอเปลี่ยนใจ เวลามีเหลือตั้งเยอะ ไม่มีอะไรทำ ขอทดสอบดูเสียหน่อยเถอะ...
ว่าแล้วชายหนุ่มก็ลุกขึ้น เดินกลับไปนั่งที่แคร่ ปล่อยให้ชยุตม์เงยหน้าขึ้นมามองตามอย่างงงๆ
"ผมทำอะไรผิดหรือคุณโชคดี ทีนี้อะไรอีกล่ะ" ชยุตม์ทำหน้าผะอืดผะอม หากเขาเป็นสาวน้อยก็คงน้ำตาซึมไปแล้ว...
...โชคดีเริ่มสนุก ได้เล่นสงครามประสาทกับชยุตม์...
"ถ้าไม่อยากกินไข่เจียว คุณก็ต้มไข่กินเองก็แล้วกัน ผมทำกับข้าวให้กินมาหลายมื้อแล้ว คุณก็คงเบื่อฝีมือผม"
คราวนี้เป็นชยุตม์ที่ถอนหายใจแรงๆ หันซ้ายหันขวาอย่างไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี เขาหมดแรงที่จะต่อล้อต่อเถียงกับโชคดีแล้ว ตอนนี้หิวข้าวเป็นที่สุด อยู่เฉยๆ โชคดีก็เปลี่ยนใจไม่ยอมทำกับข้าว...
...เอาวะ...ต้มไข่จะยากแค่ไหนเชียว แค่เอาน้ำใส่ เอาไข่ลง แล้วรอให้สุก...
...เอ...แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าเมื่อไหร่ไข่ถึงจะสุก...
ขณะที่วิศวกรหนุ่มผู้เคยสร้างแต่ตึกขนาดใหญ่กำลังก้มหน้าก้มตาพยายามต้มไข่อยู่นั่น พ่อครัวตัวดีก็อดเดินเข้ามาดูไม่ได้ ก่อนจะโวยวายว่า "บอกแล้วไง แค่สองฟอง"
ชยุตม์ชะงัก มือที่กำลังหย่อนไข่ฟองที่สามลงหม้อที่มีน้ำเต็มหดกลับ
"คุณโชคดีครับ ขอมื้อนี้ซักมื้อเถอะ ผมหิวมาก กลางวันผมก็ทานไม่อิ่ม" ชยุตม์ทำเสียงอ่อนระโหยโรยแรง มือกำไข่ฟองที่สามในมือแน่น ไม่ยอมวาง เหมือนตั้งใจจะปกป้องเต็มที่ราวกับเป็นสิ่งที่ประเมินค่ามิได้ และจะไม่ยอมให้โชคดีมาแย่งไปเด็ดขาด
โชคดีอ่อนใจ ไม่ต้องรอให้ชยุตม์ต้นไข่จนเสร็จเขาก็รู้ว่าท่าทางสมมุติฐานของเขาจะเป็นจริง
...ชยุตม์ทำไข่ต้มไม่เป็น!...
"ใส่น้ำจะทำต้มย้ำกุ้งฉลองติดเกาะหรือไง ไข่แค่สามฟอง เปลืองน้ำ แล้วเมื่อไหร่จะได้กินครับคุณวิศวกร" โชคดีบ่น คราวนี้อดไม่ได้จริงๆ
ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ชยุตม์รู้สึกอยากจะเอื้อมมือไปบีบคอของโชคดี ทั้งที่เขารู้สึกว่าชายหนุ่มเป็นคนที่สร้างสีสันสารพัดสีให้ชีวิตเขา ทำให้ชีวิตที่เคยราบเรียบของเขามีหลากหลายรสชาติ แต่ตอนนี้ อยากจะบีบคอโชคดีจริงๆ
เกือบสองเดือนที่จากกรุงเทพฯ มาอยู่ที่น่าน เขารู้สึกเหมือนกับได้ใช้ชีวิตเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เท่ากับที่ได้เรียนรู้มาถึงสองปี
"คุณไปนั่งคอยที่แคร่ดีกว่า เดี๋ยวไข่ไม่สุก" โขคดีไล่ ชยุตม์ไม่อุทธรณ์ หันหลังกลับเดินไปที่แคร่โดยง่ายตามที่ถูกสั่ง ทั้งที่ใจอยากจะทักท้วงว่า สิ่งที่โชคดีพูดนั้นไม่เห็นจะเข้าใจสักนิด

ชยุตน์เอนตัวนอนลงบนแคร่เพื่อรออาหารเย็นมื้อพิเศษ สายตาเหม่อมองออกไปนอกชายคาของกระท่อมเล็กๆ บนเนินเขาที่เขาอยู่ร่วมกันโชคดีมาได้สองวันแล้ว เวลาผ่านไปนานเท่าใดไม่รู้ได้ เพราะไม่นานหลังจากเอนตัวลงนอนเล่น ชยุตม์ก็หลับไหลไม่รู้เรื่องราว ตื่นขึ้นมาอีกทีเพราะได้กลิ่นอาหารหอมกรุ่นโชยมาแตะจมูก
...ไข่ต้มเสร็จแล้วหรือ ไข่ต้มทำไมหอมอย่างนี้...
วิศวกรหนุ่มผู้หิวโหยรีบผลุดลุกนั่ง มองไปยังชายหนุ่มที่ตกระกำลำบากด้วยกันกำลังนั่งทานข้าวอยู่อย่างอร่อย
ชยุตม์ฉุนที่โดนแกล้ง โชคดีรู้ว่าเขาหิวข้าวมาก ทำอาหารเสร็จแล้วแต่ไม่ยอมปลุกให้ลุกขึ้นมากิน
ในมือของชายหนุ่มเป็นจานข้าวผัดน่าอร่อย กลิ่นหอมฉุย
คาดว่าโชคดีน่าจะรู้ตัวแล้วว่าเขาเดินเข้ามาใกล้แล้ว หากชายหนุ่มเพิ่งจะเงยหน้าขึ้น เลิกคิ้ว ทำเสมือนว่าเพิ่งจะรับรู้ว่าเขามาหยุดยืนตรงหน้า
"อ้าว ตื่นแล้วหรือครับ" โชคดีทำหน้าเฉย แล้วก้มหน้าทานข้าวผัดต่อ ชยุตม์ไม่ตอบ นั่งลงเงียบๆ ตรงข้ามคนใจร้าย หยิบจานและช้อนตักข้าวผัดในกระทะ เหลือบตาไปมองเห็นไข่เหลืออยู่ในถาดหวายที่วางอยู่ใกล้ๆ กับหม้อและกาน้ำ
...ยังไงๆ โชคดีก็ชนะ นับจำนวนไข่ที่เหลือ หักลบกันแล้วมีไข่ประกอบอาหารมื้อนี้เพียงสองฟองอย่างที่โชคดี 'สั่ง' ในตอนแรก...
"อร่อยไหมครับ" โชคดีถาม แต่วิศวกรหนุ่มยังคงทานข้าวต่อเงียบๆ "ถ้าไม่อร่อย พรุ่งนี้เช้าจะทำโจ๊กไข่ให้ทาน จะได้กินคล่อง อาหารนิ่มๆ ลื่นๆ จะได้ไม่ติดคอ"
ชยุตม์มองชายหนุ่มด้วยหางตา รู้ว่าโชคดีจงใจกระทบกระเทียบและยั่วโมโหเขา
"แต่ถ้าคุณอยากกินเนื้อ เราก็คงต้องออกไปยิงนกตกปลา" โชคดียกน้ำขึ้นดื่ม ก่อนจะตักข้าวเข้าปากแล้วพูดต่อทั้งๆ ที่กำลังเคี้ยวอยู่ "ไม่รู้ว่าคุณทำเป็นหรือเปล่า"
"ผมขอทานไข่ดีกว่า อร่อยดี" ชยุตม์พูดเสียงเบา ใบหน้านิ่งเรียบ "เมนูไข่ที่อร่อยที่สุดในโลก เท่าที่ผมเคยทานมา"
...ชยุตม์หมายความอย่างนั้นจริงๆ ไม่ได้คิดจะประชดแต่อย่างใด เวลาที่หิวจนท้องกิ่ว อาหารง่ายๆ แบบนี้อร่อยมาก ไม่เคยนึกเลยว่าเพียงไข่เจียว ไข่น้ำ หรือไข่ตุ๋น จะอร่อยขนาดนี้ เพียงแต่ว่าทานติดต่อกันหกมื้ออาจทำให้เขารู้สึกผะอือผะอมไปสักนิด
มือของโชคดีที่ยกช้อนตักข้าวเข้าปากชะงัก เข้าใจว่าชยุตม์ประชด "คงสู้อาหารฝรั่งในร้านหรูๆ ในกรุงเทพฯ ไม่ได้หรอก เชฟมือหนึ่งจากต่างประเทศ มื้อละพันสองพัน"
"สี่ห้าพันครับ ถ้าหรูและเชฟจากต่างประเทศ ทานสองคนต้องสี่ห้าพัน" ชยุตม์แก้ให้ถูก "แต่ทานกับคุณ ไม่ต้องเสียเงินซักบาทเดียว อร่อยพอๆ กัน" วิศกรหนุ่มพูดเนิบๆ แล้วหันหน้ามามองเชฟบ้านป่าที่ทันใดก็หันหน้าหนีไปมองสายฝนที่กำลังโปรยปราย ละอองฝนบางเบาพัดปลิวเข้ามาใต้ชายหน้าหน้ากระท่อม จับอยู่ที่ใบหน้าของชายหนุ่มหน้าคม
ชยุตม์มองคนข้างๆ นิ่งอยู่ชั่วครู่ ในใจอยากวางจานลง แล้วเอื้อมมือไปเช็ดหน้าให้โชคดี เมื่ออาหารตกถึงท้อง ความหิวเริ่มจาง อารมณ์ก็สดชื่นขึ้น
"กินเสร็จ คุณล้างจานนะ" โชคดีสั่ง "ล้างให้สะอาดๆ"
"ครับ" วิศวกรรับคำสั้นๆ "สะอาดแน่ น้ำอุดมสมบูรณ์แบบนี้ เวลาก็มีเยอะ ผมจะล้างแล้วล้างอีก ถูแล้วถูอีกจนสีเคลือบจานถลอกเลยทีเดียว"
โชคดีเบือนหน้าออกไปด้านข้าง ซ่อนใบหน้าที่มีรอยยิ้มบางๆ อดขันไม่ได้กับมุขตลกของชยุตม์
...เป็นเขา ก็คงจะพูดอะไรทำนองนี้ เวลามีเยอะเหลือเกิน นั่งๆ นอนๆ อยู่เฉยๆ มากว่าสองวันแล้ว รู้อย่างนี้ขนหนังสือมาอ่านด้วยเสียก็ดี...
****************end of chapter 11*************

ออฟไลน์ สมุนไพร

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1581
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-3
เมื่อไหร่จะได้เห็นกระท่อมสั่นน้อออ :laugh:

สองคนนี้ทะเลาะกันมันดี o13

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
 :m1:ดีที่มีไข่อยู่นะ ไม่งั้นละก็ตีกันตายไม๊คู่นี้ ทะเลาะกันเรื่องไข่ก็ยังดีนะ
เพี้ยงอยู่ด้วยกันนานๆ ไม่ตกหลุมรักกัน ก็เอาไม้ตีหัวกันแน่ๆ แต่ละคนกวนประสาทใช่ย่อย :laugh:

ออฟไลน์ Fujitaga

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 388
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
นั้นแหน่.... โชคดีรู้สึกกำลังต่อสู้กับตัวเองมากไปป่าวเนี่ย
เหนื่อยบ้างก็ดีนะครับ  :laugh:
แต่ชยุตม์ ตึกร้อยล้านก็สร้างมาแล้ว ไงต้มไข่ยังมีปัญหานะเนี่ย
เหนื่อยแทนนะครับเนี่ย

mecon

  • บุคคลทั่วไป
เฮ้อออออออ ประชดกันเข้าไปประชดได้ประชดดี
หนุ่มเมืองกรุงก็นะความอดทนสูงมากๆหิวจนตาลาย
แถมยังมีคนมาพูดจากวนประสาทก็ต้องทนไปนะ
ออกแนวโดนหมูปิ้งรังแกด้วยคำพูด แต่ยังมีข้าว
ให้กินก็โออยู่ชิมิ
ส่วนหมูปิ้ง โดนรุกแบบโจ่งแจ้งก็ยังคงทนทำสีหน้านิ่งๆได้
หึหึ อย่าพลาดมาล่ะกัน จะให้ชยุตม์จับปล้ำซะให้เข็ด

+1 สำหรับเชฟปากร้ายใจดี

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9

ออฟไลน์ DEMON3132

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +170/-1
งานเข้านายช่างชยุตม์ เจ้าซ่งต้องเป็นกาคาบข่าวไปบอกโชคดีแน่นอนว่า
นายช่างของเราเป็นลูก ม.ท.1 ตายแน่ ๆ งานนี้ อะไร ๆ ยังไม่ทันจะดีราบรื่น
เจองานใหม่ งานช้างเข้ามาอีก ไม่อยากคิด เครียด ..... :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ● MaYa~Boy ●

  • ฉันมันคนขี้อิจฉา
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-2
แล้วเมื่อไหร่จะได้รักกันอ่ะ

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
ที่หมูปิ้งทำร้ายๆ ใส่ชยุตม์บ่อยๆ ที่แท้ก็กลัวจะเผลอใจรักนิเอง

มาจิ้ม+ ช่วยคนแต่งสะสมคะแนนค่ะ

ออฟไลน์ naja

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
ตามมาอ่าน สนุกเหลือหลาย เมื่อไหร่หมูปิ้งจะหมดฤทธิ์นะเนี่ยย

yaoifan

  • บุคคลทั่วไป
ติดใจเรื่องนี้งอมแงม จนไม่อยากไปอ่านเรื่องคดีรัก แล้วซิ ทำไงดี

กลัวคนแต่งน้อยใจ

+1 แทนคำขอบคุณ และขอให้ได้ ม สระเอีย เร็วๆ แล้วกัน

ปล. กลัวจริงๆ ยิ่งอ่านยิ่งเห็นภาพหมูปิ้ง คือคุณ Katawoot แล้วล่ะ

TinaJunior

  • บุคคลทั่วไป

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
ติดใจเรื่องนี้งอมแงม จนไม่อยากไปอ่านเรื่องคดีรัก แล้วซิ ทำไงดี กลัวคนแต่งน้อยใจ +1 แทนคำขอบคุณ และขอให้ได้ ม สระเอีย เร็วๆ แล้วกัน ปล. กลัวจริงๆ ยิ่งอ่านยิ่งเห็นภาพหมูปิ้ง คือคุณ Katawoot แล้วล่ะ

 :z1:  :-[  :o8:  :pigha2:  :m20:  :m20:  :m20:  :m20:  :m20:  :m20:  :m20:   :pigha2:  :pigha2:  :pigha2:  :pigha2:  :pigha2:  :pigha2:
ไม่มีอะไรจะพูด  :z1:  :z1:

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
บทที่ 12

เมื่อดูรถที่เจ้าหน้าที่ช่วยกันลากขึ้นมาจากน้ำแล้วปฐพีค่อนข้างมั่นใจว่าโชคดีกับชยุตม์คงไม่เป็นอะไร เขาหันไปปลอบทรงศักดิ์ที่ยืนพร่ำรำพันอยู่ข้างๆ บอกให้ชายหนุ่มใจเย็นๆ
“ผู้กองรู้ได้ยังไงว่าหมูปิ้งไม่เป็นอะไร” ทรงศักดิ์ทำตาแดงๆ เหมือนจะร้องให้
“รถอยู่เกียร์ว่าง ดึงเบรกมือ ล้อหลังยากแตก ผมคิดว่าโชคดีทิ้งรถ” ปฐพีอธิบายสั้นๆ ทรงศักดิ์ยังมีสีหน้าไม่เข้าใจ แต่นายตำรวจหนุ่มไม่อธิบายต่อ หันไปคุยกับพงษ์ แล้วโทรศัพท์ไปรายงานคุณเตือนใจกับคุณพ่อของชยุตม์
“น้าพงษ์ คืนนี้เราลุยค้นหากันต่อนะครับ โชคดีหายไปสองคืนแล้ว ป่านนี้คงหิวจนตาลาย” ทรงศักดิ์หันไปคุยกับผู้ช่วยคนสนิทของโชคดี
“ผมว่าอย่าเลยครับ ไม่สะดวก รอจนพรุ่งนี้เช้าดีกว่า”
“แล้วโชคดีจะทำยังไงล่ะ”
“คุณโชคดีคงหาอะไรกินประทังชีวิตได้ครับ แค่สามวันเอง” พงษ์ตอบ แล้วเบือนหน้าไปยิ้มขันๆ เมื่อเห็นท่าทางห่วงใยเกินเหตุของทรงศักดิ์
“โอ๊ย จะบ้าตาย ทำไมเป็นแบบนี้” ทรงศักดิ์บ่น “หมูปิ้ง จะกินจะนอนยังไง ซ่งเป็นห่วงเหลือเกิน”
ทรงศักดิ์ถอนหายใจแรงๆ ปากก็ยังบ่นพึมพำอยู่คนเดียว เขารู้สึกห่วงโชคดีจนอยากจะกระโจนขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้วสั่งให้พระอาทิตย์ยือเวลาส่องแสงให้นานขึ้นเป็นพิเศษ ไล่ความมืดออกไปให้สิ้นเพื่อจะได้ไม่ต้องหยุดตามหาโชคดี
...เป็นห่วงโชคดีของเขาเหลือเกิน ทั้งห่วงทั้งหวง หากโชคดีหายไปคนเดียวเขาก็คงไม่ร้อนใจขนาดนี้ แต่นี่ หายไปกับชยุตม์ คนที่เขามั่นใจว่ากำลังเริ่มชอบพอโชคดีเข้าให้แล้ว...
...ไปตกระกำลำบากด้วยกัน ก็อาจเห็นใจกัน ในละครทีวี คู่ไหนคู่นั้น ลองได้ไปติดฝนในกระท่อมด้วยกันเป็นรักกันทุกคู่...
...โอ๊ย หึงจริงๆ ให้ตายสิ...

โชคดีหันหน้าเข้าผนัง พยายามไม่มองชยุตม์ที่ยืนเช็ดตัวอยู่อย่างช้าๆ ฝ่ายนั้นทำเหมือนจงใจเปิดเผยเนื้อตัว ตั้งแต่อาบน้ำเสร็จ ชยุตม์ก็เดินไปเดินมาในห้อง ยังไม่ยอมแต่งตัวเสียที ผ้าเช็ดตัวผืนเล็กที่พันกายท่อนล่างอยู่ทำท่าจะหลุดเสียให้ได้
“คุณโชคดีครับ มีแป้งหรือเปล่า ผมคันไปทั้งตัวอยู่แล้ว” ชยุตม์แกล้งถาม ทั้งๆ ที่รู้ว่าไม่มีแป้งฝุ่น โชคดีหลบตาเขาตั้งนานแล้ว
...ทำเป็นเขิน จะอายอะไรกันเชียว แค่เห็นผู้ชายเกลือบเปลือยก็ทำหน้าแดง นิ่งเงียบเหมือนหุ่น...
...เอ๊ะ นี่หรืออาจจะเป็นจุดอ่อนของโชคดี ลองทำเป็นผ้าเช็ดตัวหลุดดีไหมเนี่ย...
“มีเงินก็ไปซื้อเซเว่นอีเลฟเว่นสิ ลุยน้ำป่าไปคืนนึงก็คงถึง” โชคดีตอบเสียงห้วน
“ผมคันไปทั้งตัวแล้ว ข้างหลังคงเป็นผื่นแดงไปหมด ช่วยดูให้หน่อยสิครับ” ชยุตม์นึกสนุก เดินเข้ามาใกล้
“อดทนบ้างสินายช่าง” โชคดียังไม่สนใจ ก้มหน้าหยิบสิ่งของรอบกายวางให้เข้าที่ ทำเหมือนกำลังยุ่ง
“โดนอะไรกัดก็ไม่รู้ โอย” ชยุตม์บ่นพึมพำ “คืนนี้คงนอนไม่หลับแน่ๆ เลย”
...ก็เห็นหลับทุกที นอนกลางวันก็หลับ นอนกลางคืนก็หลับ คนอะไร เกิดมากินกับนอนแท้ๆ เชียว...
“เสื้อมันไม่สะอาดก็คันเป็นธรรมดา ตอนนี้เสื้อแห้งแล้วไม่ใช่หรือ พอใส่เสื้อตัวเองก็คงสบายขึ้น”
“กางเกงยังหมาดๆ อยู่เลยครับ” ชยุตม์พูดเสียงเซ็งๆ “สงสัยคืนนี้ต้องถอดกางเกงนอน”
“จะบ้าหรือ เปลือยกายนอนได้ยังไง” โชคดีโวยวาย หันขวับมามองชยุตม์ที่ยืนอยู่ใกล้ๆ อวดแผงอกกว้างแกร่ง หน้าท้องแบนเรียบ กายท่อนล่างพันผ้าเช็ดตัวไว้หลวมๆ
“ใครบอก ผมจะนุ่งผ้าเช็ดตัวนอน”ชยุตม์ยิ้มพราวระยับ รู้สึกขำที่โชคดีรีบหันหน้าหนี
“ผ้าเช็ดตัวก็หลุดลุ่ยพอดี” โชคดีเตือนเสียงเบา
“หลุดก็คว้ามานุ่งใหม่ได้” ชยุตม์พูดเสียงนุ่ม “ผมใส่เสื้อผ้าไม่ได้หรอก คันยิบๆ ไปทั้งตัวแบบนี้ ทรมานที่สุดเลยรู้ไหม เกาก็ไม่ถึง คุณช่วยเกาหลังให้ผมหน่อยสิ”
“เกาเองสิ”
“บอกแล้วไงว่าเกาไม่ถึง แขนผมไม่ยาวขนาดนั้น ช่วยเกาให้หน่อยก็ไม่ได้ เกลียดกันนักหนาขนาดช่วยอะไรกันไม่ได้เลยหรือ” ชยุตม์ทำเสียงน้อยใจ
“น้อยๆ หน่อยนะคุณชยุตม์” โชคดีเสียงเข้ม “แล้วเลิกร่ำไรเรื่องเกลียดหน้ากันได้แล้ว ใครไปเกลียดอะไรคุณ”
“อ้าว ผมนึกว่าคุณเกลียดผมไม่ใช่หรือ” ชยุตม์โน้มตัวลงมาใกล้ “ถ้าไม่ได้เกลียด งั้นคุณก็...”
ใบหน้าของชยุตม์อยู่ใกล้เพียงไม่กี่คืบ กลิ่นสบู่จางๆ หอมกรุ่น ลมหายใจอุ่นๆ กระทบแก้ม โชคดีรู้สึกใบหน้าร้อนผ่าว ตอนนี้แน่ใจแล้วว่าชยุตม์กำลังแกล้งล้อเลียนเขา
...ใจเต้นตึกตัก ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลย...
“หันหลังมา” โชคดีหันหน้าไปบอกชยุตม์เบาๆ ใบหน้าเรียบนิ่ง พยายามสบตาชยุตม์อย่างไม่สะทกสะท้าน ดังจะบอกให้วิศวกรหนุ่มรู้ว่า...เห็นไหมล่ะ ผมไม่ได้รู้สึกหวั่นไหวกับเสน่ห์ของคุณเลย ไม่ต้องมาแกล้งทำยั่วยวนกันหรอก...
ชยุตม์ยืดตัวขึ้น หันหลังให้โชคดีช้าๆ
...แผ่นหลังของชยุตม์กว้างมาก ผิวใต้ร่มผ้าขาวเนียน แต่กลางแผ่นหลังเป็นผื่นแดง มองลงมาเบื้องล่าง เห็นต้นขากำยำล่ำสั่น ปลีน่องแน่น ไรขนลู่ไปกับผิวเนื้อเพราะขายังเปียกอยู่...
...คันนักใช่ไหม มาสิ จะช่วยเกา...
“โอ๊ยย....” ชยุตม์ร้องเสียงดัง เมื่อคนที่เขาขอให้ช่วยเกาหลังลงมือเกาอย่างเต็มแรง
“ร้องทำไม” โชคดีถามเสียงห้วน
“เจ็บ”
“แล้วทำไมไม่เกาเอง”
“ไม่เอาแล้ว ผมเกาเองก็ได้” ชยุตม์ขยับตัวออกห่าง แต่ไม่ทันมือของโชคดีที่ “ช่วย” เกาอีกครั้ง
“คุณหมูปิ้ง จะฆ่ากันหรือไง”
“ใครบอกให้เรียกชื่อเล่นผม” โชคดีคำราม ลุกขึ้นจะเอาเรื่อง ชยุตม์ผละออกไปยืนอยู่กลางห้อง หันหน้ามาตั้งหลัก เผชิญหน้ากับโชคดีที่ทำท่าเหมือนจะกระโดดเข้าจัดการเขา
“อย่านะครับ เดี๋ยวผ้าเช็ดตัวหลุด ผมไม่อยากโป๊” ชยุตม์ห้าม แต่ในใจไม่ได้รู้สึนหวั่นวิตกอย่างที่พูดเลยแม้แต่น้อย
...ดีสิ เปลือยกายซะเลย จะได้ลองนัวเนียกันซักหน่อย เบื่อมาสองวันสองคืนเต็มๆ แล้ว มีอะไรสนุกๆ ทำซะบ้างก็ดี...
“แล้วเมื่อไหร่จะใส่เสื้อผ้าซะที คุณนี่เล่นเป็นเด็ก” โชคดีกระชากเสียง “แล้วห้ามเรียกชื่อเล่นผมเด็ดขาด ชื่อนี้เฉพาะคนสนิทกันเท่านั้น”
“ใครล่ะครับ ใครเรียกคุณว่าหมูปิ้งได้บ้าง ใครที่สนิทกันขนาดนั้น คุณซ่ง หรือผู้กองปฐพี” ชยุตม์ถามด้วยใบหน้านิ่งๆ จงใจ “สะกิด” ต่อมโมโหของโชคดี
...กระโจนเข้ามาเลยสิโชคดี มาประชิดตัวผมเลย มาลองสัมผัสอกกำยำของผมดูบ้าง ผมจะแกล้งถอยหลังล้มลงกับพื้น แล้วดึงตัวคุณลงมาด้วย...
“ใครก็ช่าง ไม่ใช่คุณก็แล้วกัน” โชคดีตอบเสียงห้วน แล้วเดินไปที่ประตู เปิดประตูออกไปนอกห้อง ทิ้งให้ชยุตม์ยืนอยู่กลางห้องด้วยความผิดหวัง
...ผิดหวังที่โชคดีตัดเยื่อใยต่อเขา ซึ่งตอนนี้เขาค่อนข้างมั่นใจแล้วว่าโชคดีคงพอจะมองออกว่าเขาเริ่มชอบตัวเองเข้าให้แล้ว
...ผิดหวังที่ชายหนุ่มไม่กระโจนเข้ามาทำร้ายเขา เพื่อจะได้แกล้งทำเป็นป้องกันตัวแบบถึงเนื้อถึงตัว
...เขาชอบโชคดีเข้าไปแล้วจริงๆ หรือเนี่ย ต่อนี้ไปจะทำยังไงดีล่ะ เรื่องมันคงต้องยุ่งกว่านี้แน่เลย...

เช้าวันใหม่สดชื่นเช่นเคยเพราะฝนตกหลอดทั้งคืน ส่วนโชคดีก็ตื่นตั้งแต่เช้าและหายหน้าไปอีกเหมือนเช่นทุกเช้า ชยุตม์เดินออกมาบิดขี้เกียจอยู่หน้าประตู มองซ้ายมองขวาชื่นชมธรรมชาติ
...ธรรมชาติดูน่ากลัวในบางครั้ง แต่เมื่อพายุสงบ ก็ช่างสวยงามเหลือเกิน...
วิศกรหนุ่มผู้คุ้นเคยแต่การอยู่ในเมืองใหญ่เดินสูดอากาศหน้าศูนย์วิจัยพันธ์พืชที่เขากับโชคดีใช้เป็นที่หลบฝนและหลับนอนมาเป็นเวลาสามคืนแล้ว รู้สึกผ่อนคลายอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน คืนที่ผ่านมา เขานอนหลับอย่างมีความสุข หลังจากได้หยอกล้อโชคดีอีกรอบหนึ่งก่อนนอน
โชคดีหายออกไปยืนอยู่หน้า “กระท่อมเชิงดอย” อยู่เป็นนานสองนาน เขาสวมเสื้อผ้าแล้วเดินออกไปคุยด้วย แต่โชคดีไม่ยอมพูดจา เขาจึงกลายเป็นฝ่ายพูดอยู่คนเดียว เล่าเรื่องการสร้างตึกสูงในเมืองต่างๆ ทั่วโลกที่เขาได้ไปอยู่มา ลงท้ายด้วยการพูดถึงรีสอร์ท The Riverbend ที่โชคดีเกลียดนักหนา
“ช่างคุณ จะสร้างอะไรก็สร้าง ผมจะเลิกสนใจแล้ว คนจะรักธรรมชาติหรือไม่รัก มันบังคับกันไม่ได้หรอก ของแบบนี้มันฝังอยู่ในสายเลือดมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว ผมคงคิดผิด ที่ไปเย้วๆ ต่อต้านรีสอร์ทของคุณ ถ้าคุณรักธรรมชาติจริงๆ คุณก็คงไม่ให้เกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ แต่ถึงแม้เราจะต่อต้านและหยุดยั้งคุณไว้ได้ หากพวกคุณยังดันทุรัง ก็ต้องแอบทำ ฝืนทำจนได้ เสียงเล็กๆ ของคนเมืองที่ห่วงใยถิ่นที่อยู่ของตน ไหนเลยจะสู้พลังเงินหนาๆ ของนายทุนได้” ในที่สุดโชคดีก็พูดขึ้นเสียยืดยาว ต่างจากทุกครั้งที่พูดกับชยุตม์สั้นๆ ห้วนๆ เมื่อพูดเสร็จ ก็หันกลับเดินไปที่ประตู
“ไม่ใช่รีสอร์ทของผม” ชยุตม์พูดเสียงเบา “แต่ถึงไม่ใช่ ผมก็จะสร้างให้ดีที่สุด คุณเป็นคนฉลาด จนป่านนี้ คุณน่าจะพอมองออกว่าผมเป็นคนยังไง”
“ถ้าไม่ดี ชาตินี้ไม่ต้องมาคุยกันอีก” โชคดีขู่เสียงเบา แล้วเปิดประตูเข้านอน
...นี่เป็นการตกลงกันแบบแปลกๆ ระหว่างเขากับโชคดีหรืออย่างไร เป็นการเจรจาสงบศึกการต่อต้านการสร้างรีสอร์ทในสไตล์ของโชคดีกระนั้นหรือ แต่เขารู้ว่า โชคดีอ่อนลงให้เขาเยอะ แม้จะขู่เอาไว้ แต่เขาก็รู้สึกได้ว่าโชคดีประนีประนอมมากขึ้นกว่าเดิม...
...ดูๆ ไป โชคดีก็ไม่ได้ร้ายเท่าไหร่หรอก หากลดความใจร้อนและคำพูดเจ็บๆ แสบๆ ลงเสียหน่อย โชคดีก็ดูน่ารักได้เหมือนกัน...
...อืม...แม้จะร้ายๆ แบบนี้ เขาก็ยังคิดว่าโชคดีน่ารักอยู่ไม่น้อย...
...แต่ว่า เดินหน้าบึ้งมาโน่นแล้ว ทำไมล่ะทีนี้...

“เราต้องไปแล้ว น้ำเริ่มลด บางทีอาจจะหาทางกลับได้” โชคดีพูดสั้นๆ เมื่อเดินเข้ามาใกล้ “คุณไปก่อไฟนะ ผมจะทำอาหารเอาไว้เป็นเสบียงตอนเดินทาง”
“เราไม่รออยู่ที่นี่ให้คนมาช่วยหรือครับ หรือไม่ก็รออีกซักวันให้น้ำมันลดลงมากกว่านี้ จะได้แน่ใจว่าเราจะไปได้ตลอดรอดฝั่ง”
...พ่อเขาคงรู้แล้วล่ะว่าเขาหายไป แล้วตอนนี้ก็คงระดมคนออกตามหากันอยู่ ผู้กองปฐพีก็คงไม่อยู่เฉยๆ ลูกน้องโชคดีก็เยอะ ไม่นานก็คงได้รับการช่วยเหลือ...
...อยากจะอยู่กับโชคดีสองต่อสองใน “กระท่อมปลายดอย” ต่ออีกซักคืน...
“อาหารจะหมดแล้ว”
“เหลือปลากระป๋องอีกตั้งสองกระป๋อง ไข่อีกสองฟอง ทำข้าวต้มทานกันทุกมื้อก็ได้ ผมจะทานน้อยลง ถือว่าเป็นการลดน้ำหนักไปในตัว” ชยุตม์พูดยิ้มๆ
“ผมไม่อยากลดน้ำหนักกับคุณหรอก” โชคดีเบ้ปาก แล้วเดินตรงไปที่อาคารศูนย์ฯ
“อยู่นี่ก็สบายดีเหมือนกันนะ ถือว่าเป็นการพักผ่อน”
โชคดีหันมามองชยุตม์ราวเป็นตัวประหลาด หรี่ตาลงช้าๆ แล้วพูดเสียงเรียบว่า “เสียเวลาทำมาหากิน ผมจะกลับไปขายเหล็ก ไม่ได้มาพักผ่อนที่รีสอร์ทบนดอยนะ”
“ไม่อยากอยู่ต่อกับผมงั้นสิ” ชยุตม์พูดยิ้มๆ
...กลัวโดนปล้ำหรือไง สงสัยเมื่อคืนที่ผ่านมาทำให้โชคดีขวัญเสีย...
โชคดีกระพริบตาช้าๆ เบือนหน้าหนี แล้วถอนหายใจแรงๆ ก่อนจะเดินหนีชยุตม์ไปเตรียมก่อไฟ
วิศวกรหนุ่มหัวเราะเบาๆ รู้สึกขันที่เห็นโชคดีค้อน แล้วเดินตามชายหนุ่มไปแย่งก่อไฟ โชคดีไม่ขัด ผละไปหยิบกระทะกับไข่ที่เหลือมาทำอาหาร แบ่งส่วนหนึ่งใว้เพื่อเป็นเสบียง และส่วนที่เหลือก็ตักแบ่งเป็นสองจาน จานหนึ่งยื่นให้ชยุตม์ อีกจานหนึ่งถือไปนั่งทานเงียบๆ ที่ขอนไม้หน้ากระท่อม
“นั่งทานด้วยสิครับ” ชยุตม์ตามมา “ทำไมชอบเดินหนีกันนักนะ”
“ผมอยากกินคนเดียว”
“แต่ผมไม่อยากทานคนเดียว” ชยุตม์พูดเสียงนุ่ม “ทานด้วยกัน อร่อยกว่าเป็นไหนๆ”
...อย่ามาจีบกันแบบนี้นะ ชยุตม์นี่เป็นอะไร ยิ่งนานไปยิ่งทำอะไรแปลกๆ...
ชยุตม์ตักข้าวใส่ปาก ทอดสายตามองใบหน้าคมเข้มของชายหนุ่มที่นั่งขมวดคิ้วทานอาหารช้าๆ อยู่ตรงหน้า
...จะจีบแล้วนะคุณหมูปิ้ง ระวังตัวให้ดี...

คุณเตือนใจเดินทางมากับร้อยตำรวจเอกปฐพี วันนี้เธอขอมาตามหาลูกชายสุดที่รักด้วยคน มิไยที่นายตำรวจหนุ่มจะห้ามไว้ แต่คุณเตือนใจก็ไม่ยอม
ทีมค้นหามีสองกลุ่ม ทีมแรกนำโดยปฐพีและพงษ์ มีทรงศักดิ์คอยช่วยเหลืออย่างแข็งขัน อีกทีมหนึ่ง รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยเป็นคนนำเอง มีลูกชายคนรองตามมาช่วย
รถแลนด์ครูซเซอร์สีดำสนิทเพิ่งเข้าจอดใต้ต้นไม้ใหญ่หลังจากไปรับคุณหญิงเพียงฤดี ภรรยารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และชยานนท์ ลูกชายคนรอง สถาปนิกผู้มีชื่อเสียงคนหนึ่งของประเทศไทย ปฐพีหันไปยิ้มให้คุณพ่อของเขาที่ลงจากรถ เดินนำภรรยาท่านรัฐมนตรีฯ กับลูกชายมาที่จุดที่จอดเรือท้องแบน ท่านรัฐมนตรีอยู่ในเรือแล้ว กำลังพร้อมจะออกเรือ แต่ก็ต้องกลับขึ้นมาบนบกอีกครั้ง พลางบ่นอุบอิบว่าคุณหญิงจะมาด้วยทำไมก็ไม่รู้
“ก็ดิฉันเป็นห่วงลูก” คุณหญิงเพียงฤดีให้เหตุผล “วันนี้ต้องเจอลูกนะคะท่าน ถ้าไม่เจอ ดิฉันก็ยังไม่กลับกรุงเทพฯ”
“เจออยู่แล้วน่า คุณหญิงคอยอยู่ที่นี่ ได้ข่าวยังไงจะรีบโทรไปบอก” ม.ท. 1 ตอบ
“ดิฉันขอไปด้วยนะคะท่าน”
“ไม่ได้หรอก มันอันตราย อย่าให้ผมต้องเป็นห่วงไปอีกคน คุณเตือนใจแม่ของคุณโชคดียังรออยู่ที่นี่เหมือนกันเลย” ท่านรัฐมนตรีตอบ แล้วหันซ้ายหันขวา มองหาคุณเตือนใจ ด้วยหวังว่าจะให้เป็นเพื่อนภรรยา ชวนกันรออยู่ที่บนฝั่ง
“คุณเตือนใจอยู่ในเรือแล้วครับท่าน” ปฐพีพูดเสียงเบา หันหน้าไปยังเรือของพงษ์ที่กำลังเตรียมพร้อม
“อ้าว” ม.ท. 1 ทำหน้าเหรอหรา
“ดิฉันเป็นห่วงลูก นนท์ บอกพ่อสิลูก ว่าแม่ฝันถึงน้องยังไง ถ้าแม่ไปด้วย พ่อต้องโชคดีหายุตม์เจอ” คุณหญิงเพียงฤดีหันไปสะกิดลูกชาย
ชยานนท์สะดุ้งเพราะไม่ได้ฟังที่ผู้ใหญ่คุยกัน สายตาเขากำลังแอบมองใครบางคนที่กำลังยืนอยู่ข้างๆ บิดาของเขา สายตาพึงใจของชยานนท์ปิดบิดาไม่ได้ ผู้เป็นพ่อหันมามองลูกชายแล้วลอบถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะพูดว่า
“นนท์ บอกแม่เขาไปสิลูกว่า ให้ผู้ชายเขาไปทำงานกันเถอะ ผู้หญิงไปนั่งคอยสบายๆ ไม่ต้องมาลำบากหรอก ผู้กองครับ ไปกันหรือยัง เดี๋ยวจะช้า” ม.ท. 1 ตัดบท
“คุณแม่ครับ เชื่อคุณพ่อเถอะ รออยู่นี่ ผมรู้ว่าคุณแม่ห่วงยุตม์ แต่ว่าเราต้องหาน้องเจอแน่ ถ้าคุณแม่ไปด้วย คุณพ่อก็จะต้องห่วงเพิ่มอีกคน ยิ่งค้นหาได้ช้า”
“อ้าวออกเรือ” ท่านรัฐมนตรีฯ ใจร้อน
“คุณพ่อครับ รอด้วยสิ” ชยานนท์หันไปร้องเรียกบิดา เมื่อเห็นว่าเรือลำที่เขา “หมายตา” เอาไว้กำลังจะเคลื่อนออกจากฝั่ง
“แกไปลำโน้น” ท่านรัฐมนตรีฯ พูดสั้นๆ แล้วหันมาโบกมือให้ภรรยาที่จำต้องถอยไปยืนอยู่กับคนขับรถ
ชยานนท์ถอนหายใจ รู้สึกเสียดายที่พลาดจะได้ลงเรือลำเดียวกันกับพ่อซึ่งมี “คนที่เขาถูกใจ” ยืนอยู่บนนั้น สถาปนิกหนุ่มจึงต้องเดินไปลงเรืออีกลำที่มีหนุ่มหน้าตี๋คนหนึ่งยืนหน้ามุ่ยอยู่อย่างอึดอัด ทันทีที่ก้าวลงเรือ หนุ่มน้อยหน้าอ่อนก็สั่งให้ออกเรือทันทีด้วยความใจร้อน
“ไปกันได้แล้ว ตามแผน ทำเวลากันหน่อย” ท่านรัฐมนตรีฯ ผู้นำทีมตะโกนสั่งงาน ก่อนจะอุทานเสียงลั่นว่า “อ้าวเฮ้ย นักข่าวมากันได้ไง”
รถสามคันมีโลโก้ของสถานีโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์กำลังวิ่งเข้ามาจอด ท่านรัฐมนตรีบ่นอุบก่อนจะหันไปสั่งให้เรือรีบเร่งความเร็วออกไป

“คราวนี้ได้ดังกันทั่วประเทศล่ะ” คุณเตือนใจบ่น อดนึกภาพใบหน้าของลูกชายไม่ได้ว่า หากโชคดีรู้เรื่องเข้า คงโกรธจนแทบจะพ่นไฟได้
...หากหมูปิ้งรู้ว่าชยุตม์เป็นลูกชายของท่านรัฐมนตรีฯ นายช่างจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้...
...ขบวนค้นหาแม้จะพยายามให้เล็กที่สุดแล้ว แต่ก็ถือว่ามีคนจำนวนไม่ใช่น้อย และที่สำคัญ นักข่าวโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ก็มารอทำข่าว คุณหญิงของท่านรัฐมตรีก็มาด้วย...
...คุณหญิงท่านรัฐมนตรีฯ คนนี้เองหรือ!
...พักหลังๆ มาเธอมัวแต่ยุ่งกับงาน จนไม่ได้สนใจดูข่าวโทรทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยคนใหม่มีภรรยาชื่ออะไรเธอก็ไม่ก็ไม่รู้ แต่ตอนนี้ เธอได้เห็นตัวจริงแล้ว คุณหญิงฯ ยืนสง่าอยู่บนฝั่ง มองมายังขบวนเรือที่กำลังแล่นออกไปยังผืนน้ำที่กำลังท่วมเป็นบริเวณกว้าง...
...เพียงฤดี...เพียงฤดีจริงๆ ด้วย....
...ทำไมเธอไม่เคยสงสัยเลยนะว่าชยุตม์มีเค้าหน้าเหมือนใคร...
เตือนใจกำขอบเรือแน่นจนรู้สึกเกร็ง ตามองคุณหญิงของท่านรัฐมนตรีฯ จนลับตา โชคดีที่หมวกใบใหญ่ปกปิดใบหน้าเธอเอาไว้ ทำให้เธอรู้สึกโล่งใจขึ้นมาบ้างว่าผู้หญิงคนที่ยืนอยู่บนฝั่งคงจำเธอไม่ได้...
...โลกกลมจริงๆ กลมจนเธออยากให้โลกกลายเป็นเหลี่ยมหลายๆ เหลี่ยม...

เด๊ยะมีต่อ ตอนนี้หิวข้าวจนหูอื้อแล้ว  :bye2:

ออฟไลน์ โน๊อา

  • อยู่เป็นคู่ เช่น ฉันคู่เธอ
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1419
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +99/-1
คิคิ วันนี้ได้  :z13: พี่นาย

เจอะพี่นายทานข้าวทีไร หายไป สองสามวันทุกทีเลย

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
มาต่อบทที่ 12 ให้แล้วนะครับ (ไม่ได้หายไปหลังทานข้าวซะหน่อย  :m19:


“พักซักหน่อยไหมนายช่าง”
โชคดีหยุดเดิน หันไปถามชยุตม์ที่เดินตามมาห่างๆ แต่ก็แปลกใจที่เห็นชยุตม์ท่าทางไม่รีบร้อน เขานึกว่าชยุตม์จะเหนื่อยจนลิ้นห้อย ที่ไหนได้ ทำเหมือนเดินชมนกชมไม้ยังไงยังงั้น
“ถ้าคุณเหนื่อยก็หยุดพักบ้างก็ได้ครับ”
“ผมไม่เหนื่อยหรอก ห่วงแต่คุณนั่นล่ะ” โชคดีกระแทกเสียง รู้สึกฉุนกึกที่โดนชยุตม์กวนอารมณ์
“อ้าว ห่วงผมหรอกหรือ” ชยุตม์ยิ้ม เดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าโชคดี “พักก็ได้ นั่งชมวิวกันให้สบายใจแล้วค่อยไปต่อ แต่ว่าผมชักหิวข้าวแล้วนะ ทานข้าวกันเลยดีไหม”
“เพิ่งเที่ยงเอง” โชคดีทำปากยื่น ราวจะตำหนิชยุตม์ว่า...รีบหิวไปทำไม
“เที่ยงก็เวลาทานข้าวกันไม่ใช่หรือครับ”
...แปลกคนจริงๆ พอแดดออก โชคดีก็เริ่มจะกลายมาเป็นคนอารมณ์ร้อนอีกแล้ว ตอนที่ฝนปรอย ไม่เห็นจะร้ายแบบนี้ อยู่ที่กระท่อมปลายดอยก็ดูอ่อนโยนขึ้นมาบ้าง ตอนนี้พอลงที่ลุ่ม ชักจะกลับมาเป็นโชคดีคนเดิมซะแล้ว...
“ทำไมหรือครับ มีปัญหาอะไร” โชคดีถามเสียงแข็ง
...ทำหน้ายิ้มๆ อยู่ได้ เป็นอะไรก็ไม่รู้ สงสัยเมาแดด...
โชคดีขมวดคิ้วมองหน้าคนที่เอาแต่อมยิ้มทำเป็นอารมณ์ดี บางทีเขาก็ไม่เข้าใจชยุตม์เหมือนกัน โดนเขาว่า โดนเขาโขกสับ ชยุตม์ก็ยังทำหน้านิ่งๆ สลับกับหน้ายิ้มๆ อยู่ได้ ทำเหมือนไม่รู้สึกอะไรเลย
...หรือว่าชอบโดนดุ...
“ผมน่ะไม่เคยมีปัญหาหรอก”
“อ้อ คุณว่าผมมีปัญหา” โชดดีขึ้นเสียง
“อ้าว พาล” ชยุตม์ส่ายหน้า “ผมไปว่าคุณตอนไหนล่ะ”
“คุณว่าทางอ้อม”
“ไม่ได้ว่า”
“เมื่อกี้ไง” โชคดีไม่ยอม จะเอาเรื่องให้ได้
“เมื่อกี้ไหน” ชยุตม์ทำหน้าเหรอหรา
“ก็เมื่อกี้คุณบอกว่าไม่เคยมีปัญหา”
“ก็จริงนี่ครับ” วิศวกรหนุ่มพยักหน้า
“การที่คุณบอกว่าตัวเองไม่เคยมีปัญหา มันเป็นการว่าผมทางอ้อมว่าผมชอบมีปัญหา”
“คุณกล่าวหาผมอีกแล้ว” ชยุตม์เริ่มเสียงดัง
“แล้วนี้ว่าผมชอบใส่ความคุณงั้นสิ”
ชยุตม์ส่ายหน้า ไม่เข้าใจว่าทำไมอยู่ดีๆ โชคดีก็เกิดอาการขึ้นมา “ผมไปว่าคุณที่ไหน”
“คุณพูดว่า กล่าวหาผมอีกแล้ว มันก็หมายความว่า คุณคิดว่าผมกล่าวหาคุณอยู่เป็นประจำ”
“ไม่เคยครับ” ชยุตม์โบกมือปฏิเสธ “คุณไม่เคยกล่าวหาผมเลย พอใจหรือยัง”
“ไม่ต้องมาประชด” โชคดีหรี่ตา ท่าทางเอาเรื่อง
“โมโหหิวนะเนี่ย บอกแล้วว่าถึงเวลาทานข้าวก็ไม่เชื่อ” ชยุตม์สรุป รู้สึกทั้งฉุนทั้งขัน ตอนนี้เขาเริ่มจะจับทางโชคดีได้แล้ว
...ชายหนุ่มมักจะหาเรื่องเขาเวลาเขิน...
...เพื่อปกปิดอะไรหรือ...
...ปกปิดความรู้สึกที่ว่าตัวเองก็เริ่มชอบเขาเหมือนกันแล้วสิท่า...
คิดได้ดังนี้ชยุตม์ก็อดอมยิ้มไม่ได้ แต่นัยน์ตาเขาคงวิบวับน่าหมั่นใส้ในสายตาของโชคดีกระมัง ชายหนุ่มเลยยื่นมือมาผลักเขาแรงๆ จนตกน้ำ
ตูม!!
“เฮ้ยย” ชยุตม์ร้องลั่นด้วยความตกใจ พร้อมกับเสียงร้องของโชคดีที่ร้องดังไม่แพ้กัน
...อย่าคิดว่าเขาจะลงคนเดียว บอกแล้วไง ถ้าจะทำร้ายเขาก็ต้องนัวเนียกันหน่อยแบบถึงเนื้อถึงตัว...
“โอ๊ย” ชยุตม์ร้องเบาๆ ด้วยไม่รู้ว่ามือหรือศอก หรือส่วนไหนของโชคดีที่กระแทกเข้าท้องของเขา แต่เขาไม่ยอมหรอก ลองทำกันแบบนี้ก็ต้องมีกอดรัดกันบ้างล่ะ
ชยุตม์ตะกุยตะกายประหนึ่งว่าหาที่จับเพื่อช่วยพยุงตัวเพราะกลัวจมน้ำ โชคดที่ช้างๆ มีต้นไม้เล็กๆ ที่ขึ้นริมตลิ่ง และสายน้ำไม่ไหล่เชี่ยวจนเกินไป น้ำไม่ลึกมาก เท้าของเขาเหยียบถึงพื้น แต่กระนั้นก็ปริ่มคอ
โชคดีผลักให้เขาออกห่าง แต่ชยุตม์พยายามกอดรัดชายหนุ่มเอาไว้ มือป่ายปะไปทั่ว ทำทีเป็นว่ากำลังจะจมน้ำ
“หมูปิ้ง ผมว่ายน้ำไม่เป็น” ชยุตม์ทำเสียงหอบ โชคดีชะงักชั่วครู่ แต่ครั้นหันมามองตาชยุตม์ ชายหนุ่มก็รู้ได้ทันทีว่าคนที่ทำท่าจะจมน้ำนั้นแกล้งทำ
“งั้นจมไปเลย” โชคดีออกแรงผลักอย่างแรง ชยุตม์เสียหลักเพราะเหยียบขอนไม้ลื่นๆ ใต้น้ำ มือวิศวกรหนุ่มจึงหลุดจากกิ่งไม้แล้วลอยออกห่างจากฝั่ง โชคดีหันขวับไปมอง แล้วรีบโผออกมาคว้ามือของชยุตม์เอาไว้ ทำให้ทั้งสองหนุ่มลอยออกไปไกลจากฝั่งมากกว่าเดิม
“โชคดี ระวังนะ” ชยุตม์ร้องเตือน มือพยายามไขว่คว้าหาหลักยืด ตามองไปยังพุ่มไม้ที่อยู่โค้งน้ำเบื้องหน้า มือแข็งแรงของเขายังจับแขนโชคดีเอาไว้มั่น
“ดูโน่น กอไม้ตรงโน้น คว้าให้ได้” โชคดีตะโกน พยักเพยิดให้ชยุตม์มองตาม กระแสน้ำเชี่ยวกรากมากขึ้นกว่าเดิม ชยุตม์พยายามตีเท้าให้แรงมากขึ้น ยื่นแขนออกไปจนสุด แล้วคว้ากิ่งไม้เอาไว้ได้ โชคดีถูกน้ำพัดออกห่าง แต่ชายหนุ่มก็กระเสือกตัวเข้าหาเขาและกอดเอวเขาไว้ได้
“เป็นไงล่ะ สนุกไหม” โชคดีหอบแฮกๆ ถลึงตามองชยุตม์ ดันตัวขึ้นมาคว้ากิ่งไม้
“สนุกครับ” ชยุตม์ยิ้ม “ตี่นเต้นและสนุกที่สุด”
ชายหนุ่มทั้งสองหายใจแรง มองหน้ากันนิ่งชั่วครู่ ลืมไปว่าลำตัวกำลังแนบชิด และขากำลังเกี่ยวกันอยู่
...น้ำเย็น แต่ทำไมอุ่นเหลือเกิน หัวใจเต้นแรงราวกับจะทะลุดันออกมาจากอก...
ชยุตม์นิ่ง มองตาคมกริบของโชคดีด้วยความคิดคำนึง เขาดูไม่ผิด นัยน์ตาของโชคดีส่องประกายพึงพอใจ
...โชคดีก็ชอบเขาเหมือนกัน!...
...หมูปิ้งไม่ได้เกลียดเขาเลย ที่เคยพูดเคยสงสัยว่า ทำไมไม่ชอบหน้าเขาอะไรนักหนา ต่อจากนี้ไปไม่ต้องถามแล้ว...
ทว่า ช่วงเวลาเช่นนี้อยู่ได้ไม่นาน โชคดีรู้สึกตัวแล้ว และแกล้งเหยียบเท้าชยุตม์ และเตะหน้าแข้งเข้าไปหนึ่งที
“โอ๊ยเจ็บ” ชยุตม์ร้อง รู้สึกเจ็บจริงๆ
“เจ็บเป็นเหมือนกันหรือ แล้วขึ้นฝั่งได้หรือยัง” โชคดีกระชากเสียง
“เจ็บสิ ผมเป็นคนนะ มีความรู้สึก” ชยุตม์ตอบ
“อยากได้ความรู้สึกอีกซักหน่อยไหมคุณนายช่างชยุตม์ คราวนี้จะเอาให้รู้สึกจนลืมไม่ลง”
“อย่านะ” ชยุตม์รีบห้าม ด้วยรู้ว่าโชคดีคิดอะไรอยู่ “อย่าใจร้ายขนาดนั้น”
คนใจร้ายไม่ตอบ ขยับตัวออกห่างวิศวกรหนุ่มแล้วดึงตัวเองให้เข้าใกล้ฝั่ง ชยุตม์หันตัวตาม แล้วขยับตัวช้าๆ ยังไม่ยอมหยุดพูด
"โชคดี คุณจะจงเกลียดจงชังผมไปถึงไหน" ชยุตม์เค้นเสียงถามคนที่ทำหน้าบึ้งอยู่ใกล้ๆ
"ไม่ได้เกลียด ใครบอกว่าเกลียด" โชคดีตอบหน้านิ่งๆ มือคอยผลักเศษไม้ที่ลอยมากับน้ำเชี่ยวกราก
"ไม่ได้เกลียดแล้วรักหรือไง แกล้งผมอยู่ได้ไม่เบื่อ" ชยุตม์ตัดพ้อ
"ใครว่าแกล้ง" โชคดีปฏิเสธ
"แล้วที่ต้องลอยคลอเกาะกิ่งไม้อยู่อยู่กลางน้ำนี่เรียกว่าอะไร" ชยุตม์เสียงเข้ม จ้องตาโชคดีเขม็ง
"ใครว่าลอยคลอ แค่ยืนต่างหาก  ทำเป็นบ่น" โชคดีเบ้ปาก แล้วหันหน้าไปมองทางอื่น
"อยากจะหักคอคุณนัก" ชยุตม์พึมพำ
"ก็เอาสิ" โชคดีพูดเสียงเบา ตามองไปยังพุ่มไม้  พลางขยับเท้าช้าๆ "แต่ระวังเท้าผมหน่อยก็แล้วกัน เคยโดนม้าถีบไหมนายช่าง"
"ผมไม่ใช่นายช่าง ผมเป็นวิศวกร คุณรู้ไหมว่าผมจบจากที่ไหนและทำงานโครงการอะไรมาบ้าง ได้รางวัลมากี่สถาบัน" ชยุตม์ชักจะเหลือทน
"มหาลัยเมืองนอกมั๊ง ท่าทางคุณบอก ส่วนสร้างอะไรมาบ้าง ถ้าให้ผมเดาน่าจะเป็นบ้านเอื้ออาทรแถวชานกรุง รางวัลก็คงได้จากสถาบันผลิตปูนซีเมนต์แห่งประเทศไทย" โชคดีประชด แล้วตามด้วยเสียงหัวเราะเบาๆ ในลำคอ
"ร้ายจริงๆ ระวังตัวไว้เถอะ" ชยุตม์เสียงเข้ม กัดฟันกรอดๆ
โชคดีหันหน้ามามองคนที่กำลังตามมาข้างหลัง มือขวายึดกิ่งไม้ไว้แน่น มือซ้ายแหวกเศษวัชพืชที่ลอยมากับน้ำ
"คุณวิศวกรชยุตม์ครับ คนที่นี่เขาเรียกวิศวกรว่านายช่างกันทั้งนั้น ถ้าคุณไม่ชอบ ผมจะไม่เรียกอีกก็ได้ ไม่เรียกเลยก็ไม่เห็นจะลำบากผมที่ไหน"
"ผมอยากให้เรียกอย่างอื่น" ชยุตม์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ รู้สึกแปลกๆ เมื่อเห็นโชคดีทำหน้านิ่งเรียบ น้ำเสียงเย็นๆ ทำท่าเหมือนจะงอน
"เรียกอะไร" โชคดีถาม แต่เริ่มหลบตาทั้งที่ใบหน้ายังมองตรงมาที่ชยุตม์ หากตาดุคู่นั้นกรอกไปมาซ้ายขวาอย่างพยายายามจะหลีกเลี่ยงการสบตากับอีกฝ่าย แต่คนที่ร้ายเหลือทนพยายามบังคับไม่ให้หน้าหันไปทางอื่นเพราะกลัวถูกหาว่าไม่สู้หน้าคน
"คุณรู้ไหมว่าผมอยากให้คุณเรียกผมว่ายังไง" ชยุตม์ขยับเข้ามาใกล้ เสียงเบามากกว่าเดิม
"ไม่บอกจะไปรู้ได้ยังไง"
"เรียกว่า..." ชยุตม์อมยิ้ม ตากรุ้มกริ่ม
...โชดดีอายเป็นด้วยแฮะ...
ชยุตม์หายใจแรงเมื่อยื่นหน้าเข้ามาใกล้คนหน้าดุมากกว่าเดิม โชคดีจ้องตาเขานิ่งเช่นกันราวถูกสะกดจิต แต่ก็เพียงชั่วไม่กี่อึดใจ คนที่ร้ายนักก็ขยับตัว แล้วชยุตม์ก็ต้องร้องลั่นป่า เสียงดังแข่งกับเสียงน้ำหลากที่ไหล่เชี่ยวในแม่น้ำน่าน
"ขอโทษ" โชคดีพูดเสียงเบา แล้วเร่งความเร็วดึงตัวเข้าหาฝั่ง
ชยุตม์ย่อตัวลงจนน้ำปริ่มคอ เพราะเจ็บที่โดนอีกฝ่ายทำร้ายแบบไม่ได้ตั้งตัว หากสายตาที่มองตามหลังของโชคดีนั้นพราวระยับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อชายหนุ่มพยายามปีนขึ้นไปบนฝั่ง
...ซ่อนรูปไม่เบาแฮะ เห็นตัวเพรียว ไม่น่าเชื่อว่า...
"อ้าวจะแช่น้ำอยู่อย่างนั้นหรือนายช่าง" โชคดีกระแทกเสียง "เร็วๆ เข้าสิ"
"ผมยังเจ็บอยู่" ชยุตม์ทำหน้ากึ่งบึ้งกึ่งขำ
"มาเจ็บต่อบนบก" โชคดีหันหลังให้ แล้วถอดเสื้อเชิ้ทออกมาบิด เผยให้เห็นกล้ามพองามภายใต้เสื้อยืดที่เปียกลู่ติดลำตัว
ชยุตม์มองอย่างเพลิดเพลิน ไม่ได้คิดอยากจะขึ้นไปบนฝั่งแม้แต่นิด ตอนนี้เขากำลังมองชายหนุ่มที่เขาพึงใจมาตลอด
...แค่พึงใจหรือ...
ชยุตม์ยามตัวเอง
...หรือชอบใจ ถูกใจ ชอบ หรือถึงขนาดรัก...
...รักโชคดีนี่นะ แล้วจักริณทร์ล่ะ เขาจะเอาจักริณทร์ไปไว้ไหน...
ชยุตม์ถอนหายใจ ตอนนี้ความรู้สึกของเขาเริ่มสับสัน ในหัวใจก็เริ่มสับสน ชีวิตที่เคยราบเรียบมาตลอดตั้งแต่ก่อนมาเจอโชคดีแล้วเจอแต่ความวุ่นวาย เขาเริ่มจะปรับตัวได้แล้ว
แต่ความรู้สึกใหม่ๆ ที่กำลังเกิดขึ้นในใจนี่สิ ทำไมเขารู้สึกแปลกๆ แบบนี้...

คุณเตือนใจนิ่งเงียบไปจนปฐพีรู้สึกแปลกๆ ขณะที่กำลังพักทานอาหารกลางวัน นายตำรวจหนุ่มจึงเดินเข้าไปหา
“เหนื่อยหรือครับ” ปฐพีถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย
คุณเตือนใจพยักหน้า แต่ปฐพีไม่เชื่อ เขารู้ว่าคุณเตือนใจเป็นคนเข้มแข็งและแข็งแรง แค่นั่งเรือมาแค่นี้ไม่ทำให้เหนื่อยจนท่าทางเปลี่ยนไปขนาดนี้หรอก
“โชคดีต้องไม่เป็นอะไรครับ ผมมั่นใจว่าโชคดีต้องไม่เป็นอะไร ไม่ต้องห่วง” ปฐพีปลอบ
คุณเตือนใจนิ่งไปครู่ใหญ่ แล้วเงยหน้าขึ้นมองนายตำรวหนุ่มที่เธอเอ็นดู “ผู้กองจำที่แม่เคยพูดได้ไหมว่า จะทำอะไรก็รีบทำเข้า”
“จำได้ครับ แต่หมายความว่า...”
“ถ้ารักหมูปิ้งก็รีบบอกรักมันซะ เอาให้แน่นอน จริงจังไปเลย อย่ารีรออะไรอีก” คุณเตือนใจพูดเสียงหนักแน่น
ปฐพีนิ่ง ไม่ตอบว่าอะไร ในใจพยายามคิดหาเหตุผลว่าเหตุใดคุณแม่ของโชคดีจึงมีท่าทีเช่นนี้ คุณเตือนใจดูครุ่นคิดคำนึงจนเอาอยากจะถามให้มากกว่านี้
“มีอะไรบอกผมได้ไหมครับ ทำไมจู่ๆ มาให้ผม...”
“ผู้กองก็ไปมาหาสู่ สนิทกับครอบครัวของเรามานาน แม่มองออกว่าผู้กองชอบโชคดี และโชคดีก็คงไม่ได้เกลียดผู้กอง หากจะตกลงปลงใจรักกันก็ไม่น่าจะมีปัญหา แม่รู้ ความรักแบบนี้มันแปลกกว่าความรักหญิงชายทั่วไป แม่ได้บอกว่าชีวิตรักจะต้องเป็นเหมือนคนทั่วๆ ไป แต่การมีคนที่เรารักและให้กำลังใจกันและกัน คอยดูแลกันแบบพิเศษก็เป็นสิ่งที่ดีไม่ใช่หรือ หากผู้กองกับโชคดีเปิดเผยต่อกันและตกลงใจรักกัน ชีวิตก็น่าจะมีความหมายมากกว่าที่เป็นอยู่”
...คุณเตือนใจกำลังบอกให้เขาไปสู่ขอโชคดีหรืออย่างไร...
...รัก...
...รักแล้วหรือ...
...ตอนนี้เลยหรือ...

โชคดีทรุดตัวลงนั่งอย่างอ่อนแรง หันไปมองชยุตม์ที่เดินโผเผตามมาทิ้งตัวลงนอนแผ่ข้างๆ เขาก็อดฉุนไม่ได้
“นี่ถ้าคุณไม่เล่นอะไรบ้าๆ เราก็คงได้กินข้าวไปแล้ว”
ชยุตม์นิ่งเงียบอยู่ครู่ใหญ่แล้วพูดขึ้นเสียงเบาๆ เพราะไม่มีแรง “คุณเป็นคนผลักผมตกน้ำนะ”
“แล้วคุณดึงผมลงไปด้วยทำไม กับข้าวเลยลอยหายไปกับน้ำหมด” โชคดีเสียงเข้มขึ้น แต่เป็นเสียงเข้มแบบอ่อนแรง
“อ๋อ คุณโทษผมอีกล่ะสิ คราวนี้ผมขอว่าคุณหน่อยว่ากำลังหาเรื่องผม” ชยุตม์ยังเสียงหอบไม่หาย
“พูดไม่เข้าหูทำไมล่ะ”
“แล้วจะให้พูดแบบไหนจะได้เข้าหู”
“อย่าพูดอะไรซะเลยจะดีกว่า” โชคดีเอ็ด หันไปมองคนที่นอนหายใจรวยรินปานกำลังจะสิ้นลม
“ถ้าอยู่ที่กระท่อมปลายดอยต่อ ป่านนี้เราคงอาบน้ำ ทำอาหารจะรับประทานกันอย่างอร่อย”
“ผมทำ คุณไม่ได้ทำ” โชคดีแย้ง “ล้างจานไม่สะอาดอีกต่างหาก”
“มันไม่มีฝอยขัดหม้อนะโชคดี”
“ไหนบอกว่าจะขัดให้จานสีถลอกยังไงล่ะ” โชคดีถอนหายใจ
“คุณก็รู้ว่าผมล้างจานไม่เป็น ยังจะให้ผมล้างอีก”
“อ๋อ ผมต้องทำกับข้าว ล้างจ้าน กวาดบ้านถูบ้าน ซักเสื้อผ้าให้ด้วยใช่ไหม” โชคดีขึ้นเสียง ตอนนี้ชักจะลืมความเหนื่อยล้า
“ผมก่อไฟนะ อย่างน้อยผมก็มีประโยชน์ ซ่อมแซมบ้านก็ได้ จะสร้างให้ทั้งหลังยังได้เลย”
“สร้างเรือซักลำก่อนเถอะ” โชคดีพูดเสร็จก็นอนแผ่หราลงข้างๆ ชยุตม์ มือลูบท้องด้วยความหิว ตาเหม่อขึ้นไปบนท้องฟ้าที่เริ่มเป็นสีทอง บ่งบอกว่าอีกไม่นานก็จะมืด
“พระอาทิตย์ตกดินสวยจริงๆ” ชยุตม์พึมพำ
...บ้าจริงๆ จะตายอยู่แล้วยังมีหน้ามาชื่นชมอาทิตย์อัสดงอีก...
“ตกน้ำต่างหาก ยอมรับซะเถอะ ว่าเราติดเกาะ ไปไหนไม่ได้”
“คุณกำลังบอกว่าให้ยอมรับชะตากรรม นอนตายอยู่ตรงนี้งั้นหรือ” ชยุตม์เอียงหน้ามามองเสี้ยวหน้าด้านข้างของชายหนุ่มที่กำลังนอนใกล้ชิดกับเขา จนไหล่แทบจะชนกัน
...อยากพลิกตัวนอนกอดโชคดีจังเลย เหนื่อยล้าขนาดนี้จะมีแรงผลักเราหรือเปล่านะ...
ชยุตม์คิด แต่ก็ตัดสินใจว่าไม่ทำดีกว่า ขอนอนจับมือโชคดีก็พอแล้ว
“ถอยไป” โชคดีตวาด เมื่อรู้สึกตัวว่านิ้วของชยุตม์ขยับมาแตะมือเขา
“เงียบเถอะน่า กำลังฟังเสียงนกร้อง” ชยุตม์หัวเราะหึๆ
“คุณนี่จริงๆ เลย” โชคดีขยับตัว “อย่าตามมานะ”
“ยังมีแรงหนีอีก”
“คุณนายช่างชยุตม์ ขอทีเถอะ หยุดพูดได้ไหม ขออยู่เงียบซักพัก” โชคดีสั่งเสียงแผ่ว
ชยุตม์ยอมทำตามที่โชคดีสั่ง เพราะเขาเองก็หมดแรงเช่นกัน สองหนุ่มนอนพักจนเริ่มจะเคลิ้มหลับ แต่ไม่นาน หูก็ได้ยินเสียงแว่วๆ
...เหมือนเสียงเรือ และเสียงคนตะโกนเรียกชื่อ...
โชคดีดีดตัวลุกขึ้นนั่ง ตาเพ่งมองออกไปยังผืนน้ำเบื้องหน้า รู้สึกเหมือนจะมองเห็นอะไรบางอย่างใกลๆ ครั้นหันไปมองชยุตม์ก็เห็นฝ่ายนั้นหลับไปเสียแล้ว อกสะท้อนขึ้นลงเป็นจังหวะ ท่านอนท่าเดิม เหยียดตรงนิ่งเป็นหุ่น
ใบหน้าที่คมเข้มอยู่แล้วของชยุตม์ยิ่งคมเข้มขึ้นเพราะไม่ได้โกนหนวดเครามากว่าสี่วัน แต่ยามหลับ ใบหน้านั้นดูอ่อนเยาว์ เหมือนหนุ่มน้อยที่เพิ่งเรียนจบ แทนที่จะเป็นวิศวกรฝีมือดีมีผลงานเห็นตึกสูงอยู่ทั่วทุกมุมโลกอย่างที่เจ้าตัวอวดนักอวดหนา
...ดูๆ ไป ชยุตม์ก็เป็นคนน่าคบ แม้จะทำอะไรขวางหูขวางตาบ้าง แต่ชยุตม์ก็ดูเป็นคนอดทน มองโลกในแง่ดี มีความมุ่งมั่น และหากชยุตม์รักษาสัญญาที่จะสร้างรีสอร์ทออกมาให้ดีที่สุด ไม่ทำลายธรรมชาติ บางทีเขาอาจจะ...
“โชคดี”
“คุณชยุตม์”
“หมูปิ้ง”
“ยุตม์”
เสียงหลายเสียงดังขึ้น โชคดีหันขวับ ลุกขึ้นทันใดเมื่อสังเกตเห็นว่ามีเรือกำลังลอยลำอยู่ห่างออกไป รู้สึกดีใจเป็นล้นพ้น ชายหนุ่มเดินไปริมน้ำ โบกไม้โบกมือ แล้วเคลื่อนไหวไปมา ให้คนที่อยู่ในเรือสังเกตเห็น
พระอาทิตย์ทอแสงสีทองกระทบผิวน้ำเป็นประกายระยิบระยับ เสียงนกการ้องประสานกันเพราะกำลังพากันกลับรัง ลมพัดเอื่อยๆ กระทบใบหน้าทำให้รู้สึกสดชื่น โชคดีหันไปมองชยุตม์ที่นอนหลับไม่รู้เรื่อง ใจหนึ่งอยากวิ่งไปปลุก แต่ใจหนึ่งก็อยากปล่อยให้หลับต่อ จนกว่าเรือจะมาถึง แล้วเขาก็จะเดินไปหาวิศวกรหนุ่มแล้วดึงให้ลุกขึ้น เพื่อจะทำท่าข่มแล้วบอกว่า “เห็นไหมล่ะ เขาแข็งแรงกว่า เหนื่อยแสนเหนื่อยยังไม่หมดแรงพับไปเหมือนตัวเอง ลุกขึ้นมาได้แล้ว กลับบ้านกัน...”
เขาจะหัวเราะเยาะๆ แล้วบอกชยุตม์อีกว่า “ถ้ายังอยู่ที่กระท่อมปลายดอย ก็คงอดตายอยู่บนนั้น เชื่อโชคดี ยังไงก็ต้องรอด”
...ว่าแต่ว่าใครกันมาช่วยเขา เมื่อกี้ได้ยินเสียงเรียกหมูปิ้ง ถ้าไม่ใช่แม่ก็คงเป็นผู้กองปฐพี ไม่ก็ซ่ง ใครเล่าจะกล้าเรียกชื่อเล่นเขา...
...ชยุตม์นี่ไง กล้าขึ้นมากแล้วนี่ เรียกชื่อเล่นเขาได้หน้าตาเฉย ไม่มีท่าทีจะกลัวแม้แต่นิด...
...แล้วทำไมมากันเยอะนัก เรือก็หลายลำ...
“โชคดี”
“แม่ ผู้กอง” โชคดีตะโกนกลับ พลางหันไปมองชยุตม์ที่กำลังงัวเงีย ยันตัวขึ้นนั่ง
...แล้วใครกัน หน้าตาคล้ายๆ ชยุตม์ตั้งสองคน...
โชคดีขมวดคิ้ว พลางยกมือขึ้นโบกให้แม่ของเขากับผู้กองปฐพีและคนที่อยู่บนเรือซึ่งกำลังใกล้เข้ามามากจนเห็นหน้าทุกคนที่อยู่บนเรือได้ชัด
ซ่งทำหน้าลิงโลดดีใจอย่างสุดซึ้ง ราวกันตามหาเขาเป็นปีๆ ผู้กองปฐพีส่งยิ้มอบอุ่นมาให้ แม่ของเขาทำเหมือนจะร้องให้ น้าพงษ์ยิ้มกว้างเหมือนโล่งใจ ชายหนุ่มหน้าตาดียิ้มบ้างๆ เหมือนชยุตม์มากจนแทบจะเรียกได้ว่าเป็นพี่กับน้องกัน แล้วผู้ชายวัยกลางคนร่างสูงที่ยืนเด่นอยู่หัวเรือลำที่อยู่ขวาสุดนั่นก็คุ้นตาเขามาก
...นั่นรัฐมตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยนี่น่า...
โชคดีหันหน้าไปมองชยุตม์ที่นั่งอยู่ข้างหลังกำลังยกมือขึ้นลูบหน้าตา แล้วหันไปมองท่านรัฐมนตรีฯ และชายหนุ่มหน้าตาดีที่ยืนอยู่ข้างๆ ซ่ง สลับกันไปมา
เรือลำของผู้กองปฐพีถึงก่อน โชคดีหันไปมองชยุตม์ที่กำลังลุกขึ้นช้าๆ ใบหน้าคมเข้มเรียบนิ่ง แทนที่จะกระโดดโลดเต้นดีใจเหมือนเขาตอนแรกที่มองเห็นว่ามีคนมาช่วย
...เจ็บใจนัก ชยุตม์นะชยุตม์...
โชคดีหันหลัง เดินไปหาชยุตม์ช้าๆ หูแว่วเสียงของปฐพีเรียกชื่อเขาแล้วร้องห้าม ตามมาด้วยเสียงตูมเหมือนกระโดดลงน้ำ
...เจ็บใจจริง...
ชยุตม์กลืนน้ำลาย ตั้งท่ารอให้โชคดีเดินเข้ามาใกล้ แต่ครั้นโชคดีใกล้จะถึงตัวเขา มือแข็งแรงของผู้กองปฐพีก็คว้าตัวชายหนุ่มเอาไว้ได้
...ตอนนี้ไม่ได้ยินอะไรแล้ว รู้แต่ว่ารู้สึกหูอื้อ เสียงคนพูดดังระเบ็งเซ็งแซ่ไปหมด ระคนเสียงลมดังอื้ออึง เมื่อกี้ยังลมเอื่อยๆ แต่ตอนนี้ลมแรงจนหูอื้อไปหมด...
...ดีใจที่มีคนมาช่วยชีวิต แต่เจ็บใจที่เห็นหน้านิ่งๆ ของชยุตม์....
...หายไปไหนแล้ว...
...อย่าให้เจออีกนะ...
...หรือไม่ก็ไม่ต้องมาเจอกันอีกเลย...
*******12*******

สุขสันต์วันหยุดสุดสัปดาห์ทุกๆ คนนะครับ

ออฟไลน์ naja

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
ค้างคับ เข้าใจมั๊ยว่ามันค้าง!!

ว่าแต่ว่าแม่ของหมูปิ้ง มีไรกะแม่ชยุตอ่าา

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด