ตอนพิเศษ
เปิดใจหมอมิคผู้ชายผิวเข้มหน้าหล่อตาคมที่กำลังส่งยิ้มมาให้และขับรถให้ผมนั่งอยู่ตอนนี้เค้าเป็น ‘แฟน’ ของผม พวกคุณฟังไม่ผิดหรอกผมมีแฟนเป็นผู้ชาย ตัวผมเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าจะมีแฟนเพศเดียวกัน ผมไม่ใช่เกย์ถึงรูปร่างผมจะเล็กกว่ามาตรฐานชาย
ไทย และใครๆก็ว่าเป็นผู้ชายหน้าหวานแม้ผมจะปิดบังหน้าหวานๆนี้ด้วยแว่นหนาแล้วก็ตามอ่ะนะ หรือแม้ว่าเพื่อนสนิทของผมจะมีแฟนเป็นผู้ชาย แต่นั่นไม่ได้เป็นเหตุผลให้ผมชอบผู้ชายด้วยกันได้ คุณๆคงแย้งละซิว่าแล้วทำไมผมยอมเป็นแฟนกับนายนี่ได้ง่ายๆ ผมง่ายไปมั้ย?
ผม ‘หมอมิค’ หนุ่มตัวเล็กแมนทั้งแท่งรู้จัก ‘นายฟิน’ มาเกือบสามปีแล้ว เพราะฟินเป็นเพื่อนสนิทกับแฟนเพื่อนผม แต่นายนี่เพิ่งมารวบรัดเป็นแฟนกับผมเมื่อไม่นานนี้ กิตติศัพท์ความเจ้าชู้ของฟินนั้นไม่เป็นลองใคร ขนาดผมยังรู้เลยว่าคนนี้น่ะคนเจ้าชู้พวกเดียวกันยังเรียกว่า ‘ตัวพ่อ’ เลยครับ ทั้งหญิงและชายเข้าหานายนี่แล้วไม่ผิดหวังหรอกอยากได้เค้าจัดให้ เพราะด้วยหน้าตาที่หล่อเข้มแถมป๋าแกจ่ายทุกงานเป็นใครไม่ชอบล่ะครับ ข้อเสียนายฟินมีมากมายแต่พวกคุณคงสงสัยมากแล้วใช่ม้าว่าทำไมผมถึงยอมไปตามความเนียนที่ฟินเค้ารวบรัดผมให้เป็นแฟน
....................................................................................
เหตุการณ์มันเกิดขึ้นเมื่อสักสองปีก่อนตอนที่เรายังเรียนมหาวิทยาลัยกัน ตอนนั้นวินกับกัสเริ่มเป็นแฟนกันแล้ว เป็นธรรมดาที่กลุ่มผมและกลุ่มฟินต้องมาเจอกัน เที่ยวด้วยกันบางครั้งจนมาวันหนึ่งที่กัสต้องเอาของไปให้นายวินที่คณะเลยชวนผมกับมายเดียร์ไปด้วย ใครจะกล้าเดินเข้าไปคนเดียวในคณะที่มีผู้ชายเป็นส่วนใหญ่และกิตติศัพท์ความเถื่อนนั้นอยู่เป็นอันดับต้นๆล่ะครับ ยิ่งเพื่อนผม ‘กัส’ นั้นออกจะน่ารักกลัวว่าไปคนเดียวจะไม่เหลือรอดกลับมาน่ะซิ เมื่อเราสามคนไปถึงคณะนั้นกัสก็โทรหานายวินไม่ได้ไม่รู้ว่าอยู่ไหน และของที่เอามาให้ก็เห็นว่าต้องใช้เย็นนี้ด้วย ผมเลยอาสาช่วยเดินหาให้และให้กัสกับมายเดียร์ดักรอหน้าตึก ผมไม่กลัวหรอกผู้ชายคณะนี้น่ะก็ผมออกจะแมน
ผมเดินหาวินและกลุ่มเพื่อนๆลัดเลาะข้างตึก ตลอดทางก็โดนแซวแต่ผมไม่ได้สนใจในเมื่อผมเป็นผู้ชาย แม้ว่าไอ้ประโยคที่แซวจะไม่ใช่ตัวผมเลยก็ตาม
“น้องน่ารักครับมาหาใคร พี่ช่วยหาม้า ฮึๆ”
“น้องแว่นครับ เดินดีๆระวังสะดุดตกหลุม ‘หัวใจ’ พี่นะครับ ฮ่าๆๆ”
“ขอโทษครับเป็นผู้ชายหรือทอมเนี่ย ผมจะได้ทำใจก่อนจีบ ฮ่าๆๆ”
นั่นแค่ตัวอย่างครับผมก็เอาหูไปนาเอาตาคอยมองหานายวิน จนผมเดินมาหลังตึกก็เจอช็อทเด็ดเลยครับ คนกำลังจูบกันอยู่ใต้ต้นไม้ช่างไม่อายกันบ้างเลย ผมแอบหลบมุมตึกแบบตกใจกลัวคนทั้งคู่เค้าจะอายถ้ารู้ว่าผมแอบมอง เอ้ย ไม่ใช่แค่บังเอิญมาเห็นต่างหาก นั่นๆฝ่ายหญิงถอนจูบออกซะแล้ว แต่ไอ้ผู้ชายคู่กรณีคือ ‘นายฟิน’ นี่หน่า โฮ!เจ้าชู้ไม่เลือกที่เลย เหตุการณ์มันแปลกๆครับเพราะดูท่าฝ่ายหญิงอยากจะจูบต่อแต่นายฟินเหมือนไม่เต็มใจ นั่นผู้หญิงเค้าร้องไห้แล้วครับ ผมก็ไม่ใช่คนอยากรู้อยากเห็นอะไรถึงยังไงเราก็รู้จักกันผมก็เป็นห่วงตามประสาคนรู้จักอ่ะครับ ผมเลยย่องเข้าใกล้ต้นไม้ตรงหน้าและยืนตัวลีบเล็กให้ต้นไม้ช่วยบัง จนสามารถได้ยินบทสนทนาจนได้
“ ฟินคะ แยมขอโทษแยมไม่ได้ตั้งใจ ฮือๆ ฟินยกโทษให้แยมนะ ฮึกๆ ฮือออ”
“แยม ผมไม่ได้โกรธ อย่าร้องไห้”
“แต่ๆ ฮึกๆ ฟินก็ไม่ยกโทษให้แยมนี่ ฮือ เรากลับมาคบกันเหมือนเดินนะคะ”
“แยมอย่าสับสน ผมกับแยมเราไม่ได้คบกันเราแค่สนุกด้วยกันเฉยๆ ผมไม่ได้ว่าอะไรที่แยมจะไปไหนกับใครนั่นเป็นสิทธิของแยม แต่อย่ามาร้องไห้แบบนี้ อย่ามาคิดว่าผมจะโกรธผมไม่ได้โกรธ แยมมีสิทธิเลือกที่จะนอนกับใคร ผมก็เหมือน
กัน”
‘เพี้ยะ’ เสียงฝ่ามือกระทบหน้าเมื่อนายฟินพูดจบจนผมที่ยืนอยู่ยังสะดุ้งเลยคงเจ็บน่าดูนะนั่น และผู้หญิงที่ชื่อแยมหลังตบหน้าระบายความโกรธเสร็จก็ปิดหน้าวิ่งหันหลังไปแล้ว จนผมต้องหลบวูบเพราะเธอวิ่งมาทางนี้ โอ้โฮนี่มันดาวคณะศึกษานี่หน่า นายฟินนี่ไม่ธรรมดาสอยดาวซะด้วย
ผมประมวลเหตุการณ์ที่ได้เห็น แสดงว่านายฟินกับแยมมีสัมพันธ์สวาทลึกซึ้งแต่ไม่ได้คบกัน และดูท่าสาวแยมจะมีอีกหนุ่มซ่อนไว้นายฟินรู้เข้าเลยตามมาง้อด้วยจูบดูดดื่มแบบไม่กลัวใครมาเห็นแต่ผมก็ได้มาเห็นเข้า ฮึๆๆ ผมหันกลับไปมองคนโดนตบที่ตอนนี้ทรุดตัวนั่งเก้าอี้หินอ่อนใต้ต้นไม้ เหม่อมองไปอีกทางหรือว่านายนี่จะเสียใจที่พูดไปแบบนั้น ยังอยากไปคืนดีกับสาวเจ้ากันแน่ แต่ผมก็ต้องเปลี่ยนใจเพราะนายฟินก็หัวเราะเสียงดังออกมาแบบไม่มีสาเหตุ เอ๊ะหรือเพราะโดนตบจนสมองกระทบกระเทือนกันแน่ ผมไม่กล้าออกไปถามแน่ๆล่ะนะครับ ก็แหมคนตั้งใจแอบฟังขนาดนี้แล้วอยู่ๆจะเข้าไปถามว่า ‘โดนตบไปเป็นอะไรมากมั้ย’ ก็ใช่ที่ จึงยืนดูอยู่แบบนี้จนนายนั่นกลับมานั่งนิ่งเหมือนเดิม นายฟินทำท่าจะลุกผมก็เตรียมขยับหลบตาม แต่ก่อนที่นายฟินจะลุกก็มีหมาสีดำตัวหนึ่งกระดิกหางเดินเข้าไปใกล้
“อ้าว ไอ้ดำ แกหายไปไหนมาหลายวัน ติดสาวล่ะซิ” ลูบหัวหมาแถมยิ้มอีกต่างหาก
“เฮ้อออ อย่าเจ้าชู้มากล่ะแกเดี๋ยวโดนสาวๆเค้ารุมกัดเอา ฮึๆ”
“อะไร หิวเหรอวันนี้ไม่มีไก่ย่างมาให้หรอกเอาไว้วันหลัง เป็นแกมันก็ดีเหมือนกันนะเนี่ยพ่อแม่ทิ้งไปก็ไม่รู้เรื่องอยู่ตัวคนเดียวได้ไม่แคร์หมาตัวอื่น ฮึๆ มีสาวๆมาให้ฟัด สาวๆก็ไม่เรื่องมาก” มือลูบหัวหมาแต่ตาเริ่มเหม่อมองไปไกล
“เป็นชั้นก็ดีนะพ่อแม่ตายแต่ก็มีตารับมาดูแลไม่ต้องเร่ร่อนแบบแกชั้นยังมีบ้านให้กลับ มีสาวๆหนุ่มๆมาให้ฟัด แต่ละคนก็มีดีทั้งนั้น แกรู้มั้ยชั้นได้ฟัดมาหมดล่ะทั้งดาวคณะเดือนมหา’ลัยน่ะ ฮึๆ สบายๆไม่ผูกมัด เปลี่ยนรสชาดไปเรื่อยชีวิตหนุ่มโสดนี่ช่างดีซะจริง” ฟินหันมามองหน้าหมาดำที่ตอนนี้มันนั่งหมอบข้างปลายเท้าและเงยหน้าเหมือนรู้ว่าฟินคุยด้วย
“เฮ้อออ แต่บางครั้งก็เหงาว่ะ อยากมีใครสักคนที่พอดีสำหรับชั้น แต่คงยากเพราะแกรู้มั้ยไอ้ดำว่าความรักไม่มีอยู่จริงหรอก แรกเริ่มก็ว่าเป็นรักแท้ ฮึ แต่อยู่ไปก็เบื่อหน่ายความหวานจืดจาง สู้ใช้ชีวิตโสดเปลี่ยนรสชาติไปเรื่อยๆไม่ได้”
ภาพที่ผมเห็นคือนายฟินนั่งเหม่ออยู่แบบนั้นสักพักและเดินออกไปอีกทาง ส่วนผมที่ได้มารู้มาเห็นอีกด้านของนายฟินก็บรรยายความรู้สึกตัวเองไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะสมน้ำหน้าหรือจะสงสารหรือจะเข้าใจดี รู้แต่นายฟินไม่ใช่คนแบบที่ผมคิดเมื่อสักเกือบครึ่งชั่วโมงก่อนแล้ว นายฟินที่ดูเป็นหนุ่มเจ้าชู้เจ้าสำราญนั้นมีนายฟินอีกคนซ่อนอยู่นายฟินที่สับสนหว้าเหว่และไม่เชื่อเรื่องความรัก
ผมยืนอยู่แบบนั้นจนโทรศัพท์ดังขึ้น ผมใจหายวาบนี่ดีนะที่มันเพิ่งมาดังตอนนี้ไม่งั้นคนทั้งคู่ที่ผมแอบดูต้องรู้แน่ว่ามีผมแอบดู ผมมองชื่อที่ขึ้นหน้าจอเป็นกัสที่โทรมา และตามหาผมอยู่เพราะตอนนี้กัสเจอวินแล้วแต่ผมนั้นกับหายไป ผมจึงรีบเดินไปหากัสที่หน้าตึก
และหลังจากวันนั้นสายตาผมที่มองนายฟินก็เปลี่ยนไป ผมไม่ได้นึกชอบหรอกผมก็ผู้ชายนะจะไปนึกชอบได้ยังไง ก็แค่สงสัยว่านายฟินที่ผมเห็นตรงหน้านี่ที่ร่าเริงเจ้าชู้สุดๆนี่เป็นตัวจริงรึเปล่า และนายฟินอีกคนที่ดูเหมือนเด็กขี้เหงาล่ะเค้าซ้อนตัวอยู่ที่ไหนกันนะ
.......................................................................
“มิคครับเดี๋ยวฟินแวะเข้าห้องน้ำหน่อยนะ มิคเข้ามั้ย” ฟินหันมาถามผมที่นั่งเหม่อและมันเรียกสติผมให้กลับมา
“ไม่อ่ะ แต่มิคอยากกินสเลอปี้กับบิ๊กไบท์” ผมส่ายหน้าและยิ้มอ้อนไปให้หน่อยขี้คร้านนายนี่จะรีบทำให้ไม่อิดออด
นั่นไงยิ้มหวานตาเคลิ้มส่งมาให้ผมละแถมยังยื่นหน้ามาหอมแก้มผมอีกที บอกว่าขอเป็นค่าตอบแทนที่จะไปซื้อของมาให้ ผมก็ไม่อะไรแค่นี้ยอมได้ ฟินเมื่อได้หอมแก้มผมฟอดใหญ่ก็เดินลงรถไป
ถ้าพวกคุณมาถามว่าตอนนี้ผมรู้สึกยังไงกับฟินก็ขอบอกอย่างแมนๆเลยว่าก็เริ่ม ‘ชอบ’ แล้วล่ะ แต่ผมไม่ใช่เกย์นะก็แค่ชอบนายฟินคนนี้ที่บังเอิญเป็นผู้ชายและเป็นคนเดียวที่สายตาผมมันคอยวนเวียนจับภาพร่างสูงไม่ห่าง แต่ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นแค่คิดก็ ‘แหวะ’ แล้วครับ แล้วการพัฒนาความรู้สึกของผมที่มีต่อนายฟินจนมาถึงขั้นนี้มันเริ่มมาจากอะไรกันนะ
คงเริ่มเปลี่ยนทีละนิดจนผมไม่รู้ตัว เพราะตั้งแต่ผมได้รับรู้ว่าฟินมีตัวตนอีกคนซ่อนอยู่ผมก็เริ่มสังเกตพฤติกรรมฟินแบบไม่ให้รู้ตัว และผมก็แอบเห็นถึงบางแง่มุมที่ทำให้แปลกใจในเรื่องที่ฟินนั้นรักสัตว์มาก วันนึงเราไปเที่ยวกันนั่งรถที่มีนายฟินเป็นคนขับ รถคันหน้าเราชนหมาจนรถที่นั่งมาต้องเบรกกะทันหัน นายฟินคนขับที่เห็นว่าหมาที่ถูกชนนอนนิ่งอยู่ข้างถนนส่วนรถที่ชนก็ขับออกไปไม่ได้สนใจว่าหมาจะเป็นอะไรมั้ย แต่ฟินตรงเข้าไปดูและอุ้มหมาที่มีเลือดเต็มตัวแบบไม่รังเกียจเดินตรงมาที่รถเปลี่ยนให้วินที่นั่งคู่มาด้วยกันเป็นคนขับและพาไปส่งโรงพยาบาลสัตว์ทันทีแม้เมื่อถึงโรงพยาบาลหมาจะไม่รอดแล้วก็ตาม ขนาดผมยังไม่กล้าที่จะทำแบบที่ฟินทำขณะนั้นเลยครับ และนั่นมันทำเอาผมทึ่งถึงความรักสัตว์ที่ฟินมีเป็นนิสัยที่ไม่เข้ากับหน้าเอาซะเลยนะครับนั่นน่ะ
อีกเรื่องก็ไอ้นิสัยรักเพื่อนมากก็เป็นอีกสิ่งที่ผมเห็นได้ชัดจากฟิน ก็เรื่องราวของกัสกับวินที่ทำให้ทั้งคู่เลิกกันเพราะผู้หญิงคนนั้น ตอนกัสหนีไปทำงานไม่บอกวินว่าไปอยู่ที่ไหน ก็ได้นายฟินนี่แหละคอยโทรมาหาผมและมายเดียร์ที่เป็นเพื่อนสนิท
ของกัส ตามหาว่ากัสอยู่ที่ไหนแต่ผมก็รักเพื่อนไม่บอกหรอกในเมื่อกัสไม่อยากให้รู้ ฟินโทรมาหาผมและมายเดียร์ทุกวันจนผมและมายเดียร์เริ่มใจอ่อนเมื่อรู้ความจริงเรื่องวินกับยัยนั่น จึงยอมบอกไปว่ากัสอยู่ที่ไหนแต่สุดท้ายนายวินก็ไม่กล้ามาหากัสเพราะรู้ว่าตัวผิด แต่ก็ทำให้ผมรู้ว่าฟินคงยอมทำเพื่อเพื่อนสนิทได้ทุกอย่างเพื่อแบ่งเบาความทุกข์ของเพื่อน
นั่นเป็นเรื่องที่ผมรู้ว่าผู้ชายเจ้าชู้แบบฟินก็มีด้านดีๆให้เห็นกันบ้าง จนเรากลับมาเจอกันอีกครั้งเมื่อหลายเดือนที่ผ่านมา อยู่ๆฟินก็มาทำตัวใกล้ชิดผม ผมก็รู้สึกแปลกใจที่นายนี่เปลี่ยนไปแต่ก็ไม่ได้สนใจมากนักเพราะเราก็ไม่ได้อยู่ใกล้กันใช้ชีวิตคนละที่อยู่แล้ว แต่พอฟินมาขอผมคบด้วยยอมรับครับว่าตกใจมากกว่าดีใจ และสงสัยมากด้วยว่าฟินทำแบบนี้ทำไม ชอบผมเหรอเรื่อง ‘ชอบ’ ผมนี้ยอมรับว่าไม่อยากจะเชื่อ ก็ผมไม่ได้ดูดีอะไรมากออกจะเชยด้วยซ้ำแถมคนที่นายฟินเคยคบแต่ละคนไม่ธรรมดาทั้งนั้น แล้วทำไมถึงมาชอบผมล่ะ
ผมก็อดแปลกใจฟินไม่ได้นอกจากอารมณ์สงสัยและตกใจนั้นผมกลับไม่นึกรังเกียจที่มีฟินที่เป็นผู้ชายมาบอกชอบแฮะ ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นผมจะเป็นยังไงนะ หลังจากนายฟินตีเนียนรวบรัดผมเป็นแฟนโดยไม่ให้ผมปฏิเสธ เราสองคนก็ต้องห่างกันเพราะผมต้องทำงานต่างจังหวัด ระหว่างนั้นผมก็ห้ามฟินมาหาเพราะอยากแน่ใจในความรู้สึกก่อนว่าที่ยอมรับไม่เอ่ยปฏิเสธเพราะผมนั้นคิดยังไงกับฟินกันแน่ และผมต้องการผู้ช่วยคิดถึงคนนึงขึ้นมาได้คือ ‘มน’ เพื่อนสนิทในกลุ่มฟินนั่นแหละครับ ที่ผมเลือกมนเพราะเธอก็เป็นอีกคนที่ติดต่อหาผมและมายเดียร์มาตลอดตั้งแต่เรื่องวินกัส คนอื่นๆอาจไม่รู้ยิ่งกัสและกลุ่มเพื่อนฟินไม่มีใครระแคะระคายเลยครับ
ผมปรึกษามนแบบไม่อ้อมค้อมและเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง มนเงียบไปคงตัดสินใจอยู่นานว่าจะเล่าเรื่องฟินให้ผมรู้ดีมั้ย ในที่สุดมนก็ตัดสินใจเล่าชีวิตฟินให้ผมฟังทั้งหมด เน้นครับว่าทั้งหมดเรื่องครอบครัวเรื่องชีวิตส่วนตัว เมื่อรู้ผมอึ้งและเห็นใจในชีวิตวัยเด็กของฟินมากครับไม่รู้ว่าฟินตอนเด็กขนาดนั้นผ่านมันมาได้ยังไงกัน
มนรับปากจะคอยตามสอดส่องฟินในช่วงนี้ให้ผม และเธอก็ทำจริงครับโทรกลับมารายงานผมว่าฟินใช้ชีวิตเปลี่ยนไปยังไงตั้งแต่ขอโอกาสคบกับผม และมนก็ยืนยันว่าฟินเลิกนิสัยเดิมๆไปแล้วและคงจริงจังกับผมจริงๆ ผมนี่ก็ไม่อยากเชื่อว่าคนที่เจ้าชู้ตัวพ่อแบบนั้นจะเปลี่ยนได้แค่ข้ามวัน มนก็ย้ำว่าฟินไม่เคยทำแบบนี้เพื่อใครมีผมคนแรกที่นายฟินยอมให้ขนาดนี้ ผมได้ฟังข่าวจากสายสืบสาวก็แอบพอใจที่พฤติกรรมของฟินที่เปลี่ยนไปแบบนั้น
อีกพฤติกรรมที่ฟินทำสม่ำเสมอก็คือการโทรมาหาผมทุกวัน ครับผมขอเน้นว่าโทรมาได้ทุกวันจริงๆ แม้บางวันผมจะเหนื่อยจากงานที่ทำเราคุยกันไม่กี่คำผมก็สลบแล้วครับ แต่ทุกวันผมต้องได้ยินคำอวยพรก่อนนอนเสมอ ก็ด้วยประโยคนี้ ‘มิคครับ ฝันดีนะครับฝันถึงฟินด้วยนะครับ’ มันเป็นมนต์สะกดก่อนนอนที่ฟินวางยาผมรึเปล่านะ เพราะผมมักจะฝันถึงนายนั่นซะด้วยซิ โบราณว่า ‘น้ำหยดลงหินทุกวันหินยังกร่อน’ นับประสาอะไรกับใจผมครับที่เริ่มอ่อนให้นายนั่น ผมจึงคิดว่าคงต้องให้โอกาสฟินอย่างที่เจ้าตัวเค้าขอมา และเพื่อพิสูจน์ใจตัวเองด้วยครับว่าผมคิดยังไงกับฟินกันแน่เพราะใจไม่คิดรังเกียจฟินเลยครับ
ตอนนี้เวลานี้ผมเริ่มมั่นใจขึ้นมาว่าฟินนั้นชอบผมจริงๆ แต่ผมก็ยอมรับนะครับว่าใจน่ะเอนเอียงไปหาฟินบ้างแล้วล่ะ แต่ก็คงต้องขอเวลาอีกนิดให้ผมได้มั่นใจกว่านี้ที่จะบอกกับคนที่เดินมานั่งที่รถได้เต็มปากเต็มคำกว่านี้ว่า ‘มิคชอบฟิน’ เฮอะๆ อายเหมือนกันนะครับนั่น
“มิคครับตามบัญชาที่สั่งทุกอย่างเลย” ฟินยื่นแก้วน้ำปั่นสีแดงเนื้อละเอียดมาให้ผมและถุงขนมที่มีมากกว่าที่สั่งไป
“ขอบคุณคร้าบบบบ”
ผมยิ้มกว้างรับแก้วใบโตและถุงขนมมาถือไว้ ไม่ได้สนใจคนที่ซื้อมาให้ไม่รู้ตัวว่าตัวเองทำหน้าแบบไหนมีท่าทางยังไง รู้แต่มีความสุขที่จะได้กินน้ำปั่นเย็นๆกับฮอทด็อกหอมๆในมือ จนแก้มข้างขวาของผมโดนฟัดจากคนที่บอกว่า ‘รัก’ ผม จนรู้สึกว่าแก้มยุบเข้ามาเลยทีเดียว ผมหันไปจะต่อว่าคนขัดจังหวะการกิน แต่ต้องตาพร่ากับรอยยิ้มที่ส่งมา เรียกสติกลับมาได้ก็ยิ้มเจ้าเล่ห์ยักคิ้วกวนๆตอบกลับไป จะให้ฟินรู้ไม่ได้ว่าผมหลงรอยยิ้มเท่ห์ๆนี่แล้วครับเดี๋ยวจะได้ใจ จนได้ยินเสียงหัวเราะในคอจากคนหล่อเข้มข้างๆแถมยื่นมือมาขยี้หัวกันอีกแน่ะ
พวกคุณรู้มั้ยว่าคนเรานั้นดูแต่ภายนอกไม่ได้หรอกแบบฟินที่ดูเจ้าชู้สุดๆและหล่อเข้มเลือกได้แบบนี้จะรักสัตว์รักเพื่อนมากๆแถมเลิกเจ้าชู้ได้อีก ส่วนผมที่ใครๆว่า ‘น่ารัก’ (แต่ผมอยากหล่อมากกว่านะ) แต่ตัวจริงของผมไม่ใช่น่ารักอย่างเดียวผมมีดีกว่านั้นเยอะและคงไม่มีใครมาหลอกคนแบบผมได้หรอกครับ แถมคนที่คิดมาบอกชอบกันแล้วก็อย่าหวังว่าจะทิ้งกันไปก่อนถ้าผมไม่ยอม เพราะถ้าอยากเลิกก็ต้องเป็นผมที่เป็นฝ่ายบอกเลิกก่อนเท่านั้นครับ ‘นายฟินระวังตัวไว้ให้ดีเจ้าชู้ตัวพ่อต้องเจอคนน่ารักแบบนายมิค’ คนนี้จัดการนี่แหละอย่าหวังว่าจะมาใช้นิสัยเดิมๆกับผมได้เลย ฮึๆๆ
...................................................................
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ^3^
หมอมิคมาให้การณ์ตามสัญญาแล้วนะคะ ใครที่คิดว่ามิคน่ารักไม่รู้เรื่องรู้ราว
โปรดเปลี่ยนความคิดเพราะความจริงมิคเค้ามีดีกว่านั้น แอบเจ้าเล่ห์ด้วย ฮุๆๆ
นายฟินต้องเจอคนแบบนี้ล่ะค่ะถึงจะเอาอยู่ ชิมิ ^^ และรู้กันแล้วเนอะว่าทำไม
มิคยอมตามความเนียนของฟิน เพราะแอบสังเกตและสนใจฟินแบบไม่รู้ตัวนั่นเองค่ะ
พาทของมิคอาจรั่วนิดๆพอได้มั้ยคะ และคิดว่าจะพามิคมาให้การณ์อีกเมื่อโอกาสอำนวยค่ะ
ปล.+1ให้ทุกเม้นท์ของคนอ่านที่น่ารักทุกคนแล้วน้า เจอมิคฟินอีกทีวันศุกร์ค่ะ
ปล.2 แจ้งแฟนๆกัสวินพรุ่งนี้มีตอนพิเศษใส่ไข่ใส่นมมาให้อ่านค่ะ อย่าลืมไปอ่านเรื่องนู้นด้วยน้า ^^ และขอ
รวบค่ะ