คู่มือในการเลี้ยงดูผีข้อที่ ๓ : ถึงเป็นผีแต่ก็ต้องการความเอาใจใส่นะ!
"พี่กลอน เพื่อนที่กำลังทำอะไรอ่ะ?" ไอ้กล้าหนึ่งในบรรดาเด็กวัดที่ผมจ้างมาเก็บผลไม้ในสวนชี้นิ้วบอกด้วยสีหน้าแหยๆ
ชิบหาย...หาเรื่องให้กูอีกแล้วไหมล่ะไอ้เพื่อนเวร!
"มันบ้าไม่ต้องไปสนใจมันหรอก"
ถึงจะบอกไปแบบนั้นสีหน้าแต่ละคนก็ใช่ว่าจะดีขึ้น ไอ้กลอนเลยก้าวฉับๆไปหาตัวต้นเหตุที่กำลังจุดธูปหนึ่งดอกยกไหว้ท่วมหัวอยู่หน้าดงกล้วยตานี บนพื้นมีกล่องไก่ทอด พิซซ่า โดนัท สารพัดของคาวหวานแบรนด์ดังวางอยู่บนใบตอง
อุแม่เจ้า...กระทั่งกาแฟ xxx ก็มี!
"มึงลงทุนสัด" ผมเอ่ยอย่างเสียดายบรรดาของกินทั้งหลายแหล่ กับเพื่อนในไส้อย่างผมไอ้หมาตินยังไม่เห็นจะลงทุนเลี้ยงขนาดนี้เลย!
เห็นได้ชัดว่าบรรดานางตานีชอบของเซ่นไหว้ที่ไอ้ตินหามาบำเรอสุดๆดีที่พวกเด็กๆเก็บผลไม้อยู่ค่อนข้างห่าง เลยไม่ได้ยินเสียงวี๊ดว๊ายแย่งอาหารของบรรดาเจ้าหล่อนเหมือนที่ผมกับไอ้ตินได้ยิน แค่ภาพที่มันเอาของมาไหว้ดงกล้วยก็ทำให้เด็กเอาไปเล่ากันทั่ววัดล่ะ (ถึงทุกวันนี้ชาวบ้านจะลือเรื่องผีในสวนผมไปสุดกู่จนแก้อะไรไม่ได้แล้วก็ตาม)
ไอ้ตินส่งยิ้มเพลียให้ผม ตอนนี้มันกลายเป็นลูกไล่ของแม่ผีน้ำว้าไปเรียบร้อยแล้ว อาการตาขาวจึงเริ่มน้อยลงสวนทางกับยอดเงินในกระเป๋าที่ลดลงฮวบฮาบตามบรรดาของกินที่ผีสาวแอ๊บเด็กรีเควสมา
"โอ๊ย เงินกูจะหมดแล้วว่ะ!" ไอ้ตินโอดครวญทิ้งร่างลงบนเปลใต้ถุนบ้านอย่างหมดแรง
"มึงก็ใจแข็งหน่อยสิวะ"
"มึงก็พูดได้สิ ไม่โดนเหมือนกูนี่หว่า"
มันถลึงตาใส่ผมอย่างโมโห เนื่องด้วยไอ้กลอนมีพี่ภพคุ้มกะลาหัว นางตานีทั้งหลายเลยไม่โผล่หน้าเข้ามาวอแว หวยจึงไปออกที่ไอ้ตินต้องโดนบรรดาผีสาวใช้ความกลัวผีของมันเป็นเครื่องมือ ทั้งหลอกหลอน ข่มขู่ แกมออดอ้อนให้สรรหาของกินที่พวกเจ้าหล่อนต้องการมาเซ่นไหว้เกือบทุกวัน
"ทีพี่ภพยังไม่เห็นต้องเซ่นไหว้แบบนี้เลย"
"ปกติพี่ภพมันก็มีพลังเยอะกว่าอยู่แล้ว จะมีหรือไม่มีของเซ่นพี่แกก็อยู่ได้" ผมที่เคยออกปากถามเรื่องนี้มาก่อนแล้วอธิบายไขความกระจ่างแก่ไอ้เพื่อนเลิฟ "แถมมันถือว่าเป็นเจ้าเรือนคนละครึ่งกับกูมีสิทธิ์เหมือนเจ้าของคนหนึ่งถ้ามันคิดจะกินจริงๆก็ไม่ต้องรอให้ใครจุดธูปเซ่นให้แต่ทำเองกินเองได้เลย"
"แม่ง- -มึงทำบุญด้วยอะไรวะถึงได้ผัวดีขนาดนี้"
ผมยิ้มกวนให้มันก่อนเดินกลับไปทำงานต่อ ปล่อยให้ไอ้ตินโวยวายระบายอารมณ์ไปตามสบาย....ใครบอกให้มันใจอ่อนกับพวกผีสาวๆพวกนั้นนักนี่ ปากบอกว่ากลัวแต่ตานี่เยิ้มเชียวเวลาที่นางตานีสวยๆหมุนเวียนมาอ้อน
ไอ้กลอนล่ะโคตรอิจฉา เอ๊ย! หมั่นไส้....
"ว่าไงน้ำว้าอร่อยไหม?" ผมที่เดินย้อนกลับทางเดิมเจอแม่ผีแอ๊บเด็กนั่งกัดโดนัทเลยเอ่ยทักเสียหน่อย
"อื้อ อยากกินมานานแล้ว ปกติเจอแต่หมูหัน ไก่ต้ม ไข่ต้มกับน้ำแดงจนเบื่อแล้ว" เจ้าหล่อนตอบหน้าชื่นตาบาน "พี่ภพโชคดีได้กินกับนายอยู่บนเรือน พวกฉันสิถ้าไม่มีงานใหญ่ๆที่เขาเชิญก็ต้องไปรอแย่งกับสัมภเวสีอื่นตอนวันพระ"
สรุปว่าไอ้กลอนเองที่เลี้ยงผีแบบอดๆอยากๆสินะ....
"เดี๋ยว- -จำได้ว่าเมื่อก่อนแม่ฉันมักจะแบ่งของกินใส่ถาดวางไว้บนบ้านนกกลางสวนนั่นคือให้พวกเธอหรอกเหรอ?"
"เขาเรียกศาลย่ะ ใช่บ้านนกที่ไหนกัน!" น้ำว้าตวาดแว้ดจนไอ้กลอนหัวหด...ก็เห็นนกมาจิกกินอยู่เรื่อยๆใครจะนึกว่าคุณนายอังกาบเอาไปเซ่นผี
"เอาเถอะต่อไปฉันจะแบ่งของกินมาให้พวกเธอเหมือนที่แม่ทำล่ะกัน แต่ของแพงๆอย่างโดนัทนี่คงมีไม่บ่อยนะ แล้วก็เลิกไปขู่เอาของกินจากไอ้ตินได้แล้วมันจะหมดตัวอยู่แล้วเนี่ย"
"ชิ! ก็ได้แต่ถ้านานๆทีก็หาของหรูมาให้หน่อยก็ดีนะ"
ผมพยักหน้ารับยอมถอยให้เจ้าหล่อนก้าวหนึ่ง พอแม่ผีแอ๊บเด็กหันกลับไปกัดโดนัทไอ้กลอนก็ฉุกคิดอะไรขึ้นมาได้
"แล้วพี่ภพเคยกินของพวกนี้ป่ะ? น่าจะเคยสินะก็ออกนอกเขตไปไหนได้ไกลกว่าพวกเธอนี่นะ"
น้ำว้าหยุดคิดนิดนึงก่อนส่ายหน้าปฏิเสธ
"ไม่เคยนะ ปกติพี่ภพก็ไม่ต้องมาเสพกินของเซ่นเหมือนพวกฉันอยู่แล้ว มีบ้างที่ต้องไปร่วมพิธีกรรมใหญ่ๆที่เชื้อเชิญรุกขเทวดาเยอะแยะเลยต้องกินนิดๆหน่อยๆ แต่ในพิธีแบบนั้นก็จัดของตามตำราโบราณมีแต่ของเดิมๆทั้งนั้นแหละ"
โถเอ๋ย ถังเอ๋ย....ผัวไอ้กลอนช่างน่าสงสาร!
++++++++++++++++++
"ไปห้าง?"
"อืม ของแห้งกับเครื่องปรุงหลายอย่างจะหมดแล้วใช่ไหมล่ะ แล้วกลอนจะซื้อไปถวายวัดด้วยส่วนนึง- -ก็เยอะน่าดูอ่ะ เพราะงั้นไปซื้อห้างมันสะดวกกว่า"
จริงๆแล้วพวกของแห้งที่ซื้อถวายวัดผมสั่งซื้อจากร้านเจ้าประจำในตลาดสดให้ไปส่งที่วัดโดยตรงเป็นประจำทุกสิ้นเดือนอยู่แล้ว แต่จะให้บอกว่าพาผัวเที่ยวมันก็กระดากปากเลยต้องมุสาไอ้พี่ภพมันเสียหน่อย
เออ....กูต้องพยายามรักษาศีลนี่หว่า เอาเถอะวันนี้ไม่ใช่วันพระวันโกนหยวนๆได้เนอะ!
ดังนั้นชั่วโมงครึ่งถัดมาผมกับพี่ภพก็มายืนเด่นหราที่ห้างดังในตัวเมือง ขอบอกว่าไอ้กลอนลงทุนถ่อมาถึงใจกลางเมืองเพื่อมันโดยเฉพาะ ปกติแล้วผมไม่อยากจะเหียบห้างหรูๆสักเท่าไหร่ จำเป็นจริงๆก็โน่นบิ๊กซีโลตัส....เดินแล้วไม่หลงด้วย
"เพิ่งสิบเอ็ดโมงเองดูหนังสักรอบก่อนแล้วค่อยมาหาอะไรกินเนอะ ส่วนของ เอาไว้ซื้อทีหลัง"
พอไอ้กลอนบอกแพลนของวันนี้ไอ้พี่ภพก็ยิ้มกว้างจนเห็นเขี้ยว ตาเป็นประกายวาววับ...มีผัวฉลาดเกินไปก็ไม่ดีครับ พูดแค่นี้มันก็รู้ทันแล้วว่าผมชวนมันมาห้างทำไม
"มองอะไรวะ!?" ผมถลึงตาใส่มันแก้เขิน แต่ลืมไปว่าไอ้พี่ภพมันด้าน ผมยิ่งเขินมันยิ่งชอบ
"มองคนน่ารัก"
"........"
ไปต่อไม่เป็นเลยกู.....
เพราะเขินจนมองหน้ามันไม่ไหวผมเลยเดินหนีไปซื้อตั๋วหนังโดยเลือกหนังแอ็คชั่นภาคต่อฟอร์มยักษ์ที่กำลังเข้าโรง ตอนแรกกะจะให้มันเป็นคนเลือกหนังแต่ตอนนี้เปลี่ยนใจล่ะผมเลือกเองนี่แหละ...แก้อารมณ์เสีย!
ขณะที่กำลังรอหนังฉายไอ้กลอนเพิ่งจะสังเกตเห็นว่ามีคนแอบมองพี่ภพอยู่หลายคน ส่วนใหญ่ก็เป็นสาวๆนั่นแหละ ก็อย่างที่เคยบอก...พี่ภพมันหล่อคม บวกกับผิวที่ไม่คล้ำไม่ขาวมากเกินไป และรูปร่างที่สูงใหญ่เต็มไปด้วยมัดกล้าม ทุกอย่างที่ว่ามาทำให้มันเด่นสะดุดตาเป็นพิเศษ
เห็นแล้วหงุดหงิดชะมัด.....
"เอาป๊อปคอร์นกับน้ำไหม?"
โดยไม่รู้ตัวผมก็จูงมือมันมาที่เคาน์เตอร์ ซ้ำยังทำเนียนไม่ยอมปล่อยมือมันออก มองจากหางตาผู้หญิงหลายคนหน้าเหวอและอีกหลายๆคนทำท่าอยากจะกรี๊ด ความรู้สึกหงุดหงิดในอกเลยจางไปนิดหนึ่ง
"ชุดเดียวพอ พี่แค่อยากชิมเฉยๆ"
ตายห่า....ลืมไปสนิทว่าถ้าสัมผัสตัวกันแบบนี้ไอ้พี่ภพมันจะอ่านใจผมได้แบบอัตโนมัติ! มิหนำซ้ำยังให้ความร่วมมือด้วยการก้มลงมาพูดชิดติดข้างหู แถมด้วยนัยน์ตาวิบวับเพิ่มออร่าจนน้องพนักงานหน้าแดง โชคดีที่หนังใกล้ฉายแล้วผมเลยรีบสั่งแล้วพามันเดินหนีออกมาอย่างว่องไว
เชี่ย- -โคตรอายชิบหาย!
ดีที่ว่าหนังสนุกและมันมาก ไอ้กลอนเลยเพลินจนลืมและเดินออกจากโรงหนังมาด้วยอารมณ์แฮปปี้ดี๊ด๊า หลังจากถามไถ่พี่ภพว่าอยากจะกินอะไรเป็นมื้อกลางวัน เราก็มานั่งในร้านอาหารญี่ปุ่นเจ้าดังด้วยการเลือกของไอ้กลอน (อีกแล้ว)...ก็ไอ้พี่ภพมันไม่เคยกินสักอย่างนี่เลยเลือกไม่ถูกครับ จะเดินชิลเลือกร้านก็ไม่ไหวตอนนี้ปาเข้าบ่ายโมงกว่าล่ะ ผมหิวจนตาลายแล้ว....เอาเถอะ หลังจากนี้ค่อยพามันออกมาเปิดหูเปิดตาบ่อยๆเอาละกัน
ดูเหมือนว่าพี่ภพมันจะชอบอาหารญี่ปุ่นมากกว่าที่คิด เพราะแอบเห็นว่าหลังจากชิมคำแรกมันก็พยักหน้าตาวาวแล้วก็ซัดแหลก...จริงๆแล้วมันก็แค่หยิบเอาแค่เงาอาหารออกมากินอ่ะนะ แต่วันนี้ออกมาข้างนอกมันเลยแอบใช้พลังทำให้ของจริงสลายไปด้วยจะได้ไม่ผิดสังเกต แต่ถ้าอยู่ที่บ้านก็คือเททำปุ๋ยหมัก...ก็อาหารที่มันกินไปแล้วทุกอย่างรสชาติจะหายกลายเป็นของจืดชืดหมดครับ ไอ้กลอนรับประกันด้วยตัวเองเพราะเคยลองชิมมาแล้ว
"หืม?" ไอ้พี่ภพทำหน้าเหรอหราเมื่อผมพามันมาที่ร้านเสื้อผ้าเป็นจุดหมายต่อมา
"ทำหน้างงอะไร ทุกวันนี้พี่ใส่เสื้อเก่าพ่อกลอนทั้งนั้น เปื่อยจนจะขาดหมดล่ะ!"
"มันก็ยังใช้ได้อยู่นี่"
"ไม่ต้องพูดมาก พี่ครับ- -ช่วยเลือกเสื้อผ้าหลายๆแบบให้มันที เน้นชุดลำลองเยอะหน่อยนะครับ มันทำงานอยู่กับบ้าน" ผมไม่เสียเวลาเกลี้ยกล่อมมันมากหรอกครับ แต่มัดมือชกด้วยการหันไปสั่งพนักงานเองเลย พอมันถูกลากเข้าห้องลองเสื้อผมก็แอบไปรับของที่สั่งทำเมื่อหลายวันก่อนที่ร้านอื่นในห้าง หลังจากนั้นก็แวะซื้อกาแฟเป็นของบังหน้ามานั่งรอมันในร้าน
ต้องเสียเวลาสิงอยู่ที่นี่นานหน่อยครับ เพราะผมตั้งใจซื้อให้มันใหม่ยกตู้ ก็อย่างที่พูดเมื่อกี้...ปกติพี่ภพมันใส่ชุดเก่าของพ่อผม ถ้าเป็นชุดทำสวนมันก็ไม่เท่าไหร่เพราะท่านพ่อราชชอบใส่เสื้อกางเกงหลวมๆโคร่งๆหน่อย เฮียแกว่าเวลาทำงานขยับตัวง่ายไม่อึดอัดดี ซึ่งพี่ภพที่ตัวใหญ่กว่าก็ใส่ได้พอดี (ความจริงคือแอบคับในบางจุด)
ส่วนตอนอยู่บ้านเฮียราชแกก็ดันชอบใส่กางเกงเลกับเสื้อกล้ามอีก มันเป็นชุดที่ผู้ชายไซส์ไหนก็ใส่ได้ ไอ้กลอนเลยไม่เคยเฉลียวใจเรื่องเสื้อผ้าของผัวจนมันใส่ชุดที่ลงสวนมาเดินห้าง ถึงมันจะสะอาดเอี่ยมอ่องหมดจดด้วยฝีมือการซักของไอ้พี่ภพเอง แต่ชุดทำสวนก็คือชุดทำสวนอ่ะ...มันออกแบบมาเพื่อใส่ทำงานในสวนในไร่พร้อมเลอะ ให้มาใส่เดินเที่ยวแบบนี้มันก็- -
เอาเป็นว่าโชคดีที่หนังหน้าพี่ภพมันช่วยได้เยอะ!
+++++++++++++++++++++
เหวี่ยงครับ.....ไอ้กลอนกำลังอยู่ในภาวะเหวี่ยง
สาเหตุก็มาจากพี่ภพเจ้าเก่าเจ้าเดิมนั่นแหละ ผมลืมคิดไปเลยว่าขนาดมันใส่ชุดทำสวนเก่าๆเชยๆสาวน้อยสาวใหญ่ยังแอบกรี๊ดกร๊าด ยิ่งมันเปลี่ยนมาใส่ชุดที่ซื้อใหม่ออร่าความหล่อเลยพุ่งสูง จากที่่แค่แอบมองก็กลายเป็นมองแบบเปิดเผยจนเหลียวหลัง
แถมยังมีพวกหน้าด้า- -พวกใจกล้าหลายคนที่เดินเข้ามาขอเบอร์ด้วย!
"หงุดหงิดอะไรจ๊ะ?"
ผมมองไอ้พี่ภพตาขวาง พอรู้ว่าไอ้กลอนหึง เอ๊ย! หงุดหงิดมันก็ยิ้มกริ่มอารมณ์ดีหน้าบานเป็นกระด้ง ประเด็นคือยิ่งมันยิ้มความหล่อยิ่งเลเวลอัพไงครับ นี่ถ้าลากมันไปแดกได้สาวๆแถวนี้รวมถึงเหล่าเก้งกวางคงลากมันไปนานแล้ว
"ยังไงพี่ก็มองน้องกลอนคนเดียวนะจ๊ะ"
"ไม่ต้องมาพูดเลย" ถึงจะว่าไปแบบนั้นแต่ไอ้กลอนก็อ่อนยวบไปเป็นครึ่งล่ะ ก็ไอ้พี่ภพมันทำจริงไม่ได้สักแต่พูดหวานหูเอาใจไปงั้นๆ
ผมถึงไม่เคยใจแข็งกับมันได้นานเลยสักครั้งไงล่ะ เฮ้อออ~~~
"ไหนว่าซื้อถวายวัดด้วยไง ทำไมมีของน้อยจัง" มันเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าพวกเครื่องปรุงกับของแห้งในรถเข็นมีน้อยกว่าที่คิด และไอ้กลอนก็ตอบตามจริงไปด้วยความเผลอ
"ของที่วัดสั่งเถ้าแก่ฮงไว้แล้ว เดี๋ยวเขาเอาไปส่งที่วัดให้เองซื้อแต่ของเราก็พอ"
"แล้วทำไมบอกพี่ว่าจะมาซื้อของถวายวัด?"
".....ก็ซื้อชาให้หลวงปู่ไง! ท่านชอบยี่ห้อนี้ร้านเถ้าแก่ฮงมันไม่มีขาย!"
กลอนกราบขอขมาหลวงปู่ด้วยครับ.... (T_T)
"เลิกแกล้งกลอนได้แล้ว ไม่งั้นกลอนหนีกลับจริงๆด้วย"
ผมหมดปัญญากับมันแล้วครับ สุดท้ายเลยพูดขอมันไปตรงๆนี่แหละไม่งั้นมันก็หาช่องพูดหยอกผมให้อายไม่เลิกรา ไอ้พี่ภพหัวเราะก่อนหอมแก้มผมแรงๆแบบไม่แคร์เวิร์ล ทำให้มีเสียงกรี๊ดหลุดจากเหล่าสโตรกเกอร์ให้ได้ยินเบาๆ
ถึงจะบอกว่ามีแต่ของที่บ้านแต่พอเอาของมาเก็บที่กระบะหลังรถก็พบว่าของทุกอย่างกินเนื้อที่กระบะไปเยอะพอดูครับ แคปหลังที่นั่งเองก็อัดแน่นไปด้วยถุงใส่เสื้อผ้า รองเท้า และเข็มขัดของไอ้พี่ภพ เรียกว่าวันนี้ไอ้กลอนช้อปกระจายอย่างมันมือทีเดียว พอมาถึงบ้านผมก็ต้องเลิกคิ้วแปลกใจที่บ้านปิดไฟมืดไร้วี่แววของไอ้ติน
'ไอ้ตินอยู่กับกู'
กระดาษโน้ตที่วางแปะอยู่บนโต๊ะกินข้าวเฉลยให้รู้ว่าไอ้เพื่อนเลิฟของพี่กลอนถูกอุ้มไปเรียบร้อยแล้ว....ถือว่าไอ้โรมอดทนได้นานพอควร ผมล่ะนึกว่ามันจะบุกบ้านสวนตั้งแต่อาทิตย์แรกซะแล้ว
"อุตส่าห์ซื้อไก่ย่างเจ้าโปรดของมันมา อดกินซะงั้น" ไอ้กลอนอดบ่นไม่ได้เมื่อความหวังดีกลายเป็นหมัน
"กลอนจะกินข้าวหรืออาบน้ำก่อน?"
"กินก่อนดีกว่า เออ- -พี่ภพแบ่งใส่สำหรับเล็กด้วยนะเดี๋ยวกลอนจะยกไปให้พวกพี่ๆตานี"
ไอ้กลอนยังไม่ลืมว่ารับปากเรื่องข้าวปลาอาหารกับแม่ผีแอ๊บเด็กไว้ เรื่องนี้ไม่กล้าลืมครับยังไม่อยากหาเหาใส่หัว พี่ภพยิ้มดีใจทันที
"ขอบใจนะกลอน"
"พี่เองก็น่าจะบอกกลอน ไม่งั้นคงแบ่งไปให้ตั้งนานล่ะ" ผมออกปากบ่น เรื่องที่ควรบอกนี่ไม่เคยจะอ้าปากบอกเล๊ยยย!
"พี่ไม่อยากรบกวนกลอนนี่จ๊ะ"
"ไม่ต้องมาอ้อนกลบเกลื่อน จัดโต๊ะรอเลยเดี๋ยวกลอนมา"
ผมยกถาดใส่ข้าวปลาอาหารมาที่ดงกล้วยก่อนจุดธูปเรียกนางตานีทั้งหลายให้มารับเครื่องเซ่น สักพักก็ได้ยินเสียงวี๊ดว๊ายแว่วมาจากในดงกล้วย เพราะวันนี้ผมซื้อขนมเค้กหลากหลายรสชาติมาด้วย ฟังจากเสียงพวกเจ้าหล่อนแล้วคงชอบกันน่าดู
ผู้หญิงกับเค้กนี่เป็นของคู่กันจริงๆ....ถึงจะเป็นผีก็ยังชอบ
พอเดินมาถึงบ้านที่เปิดไฟสว่างมีไอ้พี่ภพเดินไปเดินมา มีกลิ่นอาหารหอมๆลอยมาตามลม สองเท้าผมก็ชะงักวูบ....ในใจรู้สึกเต็มตื้นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เพิ่งจะรู้ตัวว่าที่ผ่านมานั้นตัวเอง 'เหงา' มากแค่ไหน
แต่วันนี้บ้านไม่มืด....ไม่ได้มีแต่เสียงทีวีที่ดังเป็นเพื่อน มันทำให้ผมรู้สึกว่าบ้านเป็นบ้านมากกว่าที่เคย
ไม่จำเป็นต้องโทรไปป่วนพวกเพื่อนตอนดึกๆ ไม่ต้องออกเที่ยวหาเพื่อนยามค่ำคืน.....แต่กลับรู้สึกมีความสุขกว่าเดิม
"กลอน?" พี่ภพมันเรียกอย่างประหลาดใจเมื่อผมเดินเข้าไปกอดมันแน่นแต่ผ่านไปสักพักแววตามันก็ฉายแววเข้าใจและก็กอดผมตอบ
"พี่อยู่กับกลอนเสมอ"
ผ่านไปสักพักพอสติคืนร่างไอ้กลอนก็หน้าแดงรีบผละออกจากตัวมันทันที
"เอ่อ กินข้าวกันก่อนเถอะ"
"เดี๋ยว" ไอ้พี่ภพมันรั้งข้อมือข้างซ้ายผมไว้ก่อนยกขึ้นสูง
ชะ- - เชี่ยแล้ว
บนข้อมือผมมีสร้อยข้อมือเพิ่มขึ้นมาเส้นหนึ่ง เป็นลายโซ่เรียบๆดูทนทานแข็งแรงจุดเด่นอยู่ที่กระบอกพลาสติกแข็งสีใสอย่างหนาพาดตามแนวนอน ปิดจุกทั้งสองด้านด้วยเงินแท้เชื่อมต่อกับตัวสร้อย ส่วนด้านในกระบอกพลาสติกก็มี- -
"รากกล้วยจากต้นของพี่?"
ผมก้มหน้างุดด้วยความอายก่อนรีบแก้ตัว
"ปะ- -แปลกตรงไหน พี่ยังมีแหวนของกลอนเลย"
จริงไหมล่ะครับ....ทีมันยังใส่แหวนของผมไว้ตลอด ถึงรากกล้วยอันเดิมจะถูกเผาไปแล้วแต่ต้นมันยังอยู่นี่ ผมก็เลยไปขุดอันใหม่มาแทนอันเดิมก็เท่านั้นเอง ส่วนที่เอามาทำเป็นสร้อยข้อมือก็เพื่อความแฟร์ไงครับ!
พี่ภพมันใส่แหวนติดตัว....ไอ้กลอนเป็นก็ต้องพกรากกล้วยเหมือนกันสิครับ ลูกผู้ชายตัวจริงเขาก็ทำอย่างนี้กันทั้งนั้น!
"กลอน" พี่ภพมันเรียกผมตาเชื่อม "รู้ไหมว่ากลอนน่ารักขึ้นทุกวันเลย"
พูดจบมันก็ก้มลงมาจูบผม....เป็นจูบเบาๆนุ่มนวลชวนเคลิบเคลิ้ม ต่างจากจูบที่ผ่านๆมา ที่ค่อนข้างรุนแรงตามอารมณ์หื่นของมัน
แต่จูบคราวนี้ผมรู้สึกได้แต่อารมณ์รัก......
....................
...............
.............
ปล. ข้าวเย็นมื้อนั้นถูกทิ้งไว้ให้บูดไม่มีใครได้แดกครับ
ปล.2 ยังไม่ครบสองอาทิตย์ที่สั่งห้ามเลยสัด! ไอ้ผีหื่นเจ้าเล่ห์!!!!
++++++++++++++
กราบขออภัยทุกคนค่ะที่มาช้า.....ตอนนี้แต่งแล้วแก้บ่อยมาก จะให้น้องกลอนคนรั่วเข้าโหมดโรแมนติกนี่มันยากมากกกกกก (กัดผ้าเช็ดหน้าร้องไห้) อันที่จริงเกรย์ก็ไม่ได้แต่งนิยายเก่งอะไรมากมายด้วยแหละค่ะ ดังนั้นกว่าจะได้ตอนนี้ออกมาเลยต้องเข็นกันน่าดู
ส่วนแฟนคลับพี่ตานีก็อย่าเพิ่งโมโหที่น้องไม่ใส่ใจผัวเล๊ยยยย!!! ผัวไม่มีเสื้อผ้าใส่ยังไม่รู้ อยู่บ้านเดียวกันหรือเปล่าเนี่ย!?
คือน้องเป็นผู้ชายที่ไร้ความละเอียดอ่อนค่ะ แถมอยู่คนเดียวมานานไม่สังเกตเห็นเรื่องที่ตัวเองไม่สนใจหรอกค่ะ (แต่พอรู้ก็รีบแก้ไขนะเออ) ....จริงๆกระทั่งตัวเองน้องก็ไม่ค่อยสนใจนะ ไม่งั้นคุณภาพชีวิตคงไม่ย่ำแย่ถึงขั้นสามารถทำบ้านคนให้เป็นรังหนูได้แน่....
สำหรับตอนนี้คงได้เห็นน้องกลอนอีกมุมหนึ่งกันเนอะ ถึงจะรั่วๆบื้อๆไปบ้างน้องก็น่ารักในแบบฉบับของน้องเอง ส่วนพี่ตานี- -รายนี้ก็ยังคงรักษาความหื่นได้คงเส้นคงวา!
ปล.จากคนแต่ง : ไม่คิดจะให้น้องกินข้าวก่อนสักนิดเหรอจ๊ะพี่ตานี?