บทที่ 14
“มาโตอาคา อืม ม.ต.อ.ค เฮ้ย หรือว่าน้องเขาคงอยากบอกแกว่า มึงเตี้ยอ้ายควาย มั๊งเกลือ” ไอ้บูมกระซิบไอ้เกลือ แต่ผมได้ยินก็ขำจนเจ็บท้องไปหมด ก็คิดได้นะไอ้บูมเอ้ย
“เตี้ยพ่องงง..ดิ เขาพูดว่า โต สระโอไหมแก ไม่ใช้สระเอี้ย” ไอ้เกลือหันไปด่าไอ้บูม
“มาโตอาคา หมายถึง สวัสดี เป็นภาษาพื้นเมืองของบ้านทัสเองครับ” เจ้าตัวเฉลยพวกผมเลยถึงบางอ้อ ว่าแต่ไอ้บ้านน้องเขานี่มันใกล้ดาวนาเม็กไหมวะ ภาษาของน้องเขาออกจะไกลเกินสมองผมจะหยั่งถึง
“สรุปว่า แกเป็นยังไงบ้างนาว” ไอ้จอมหันมาถามผมอีกรอบ
“ก็เกือบเสียเอกราช แต่ด้วยความสามารถของฉันฉันเลยรอด” ผมบอกกับไอ้จอม
“ความสามารถอะไรมิทราบ” ไอ้โหดมันย้อนถามผม
“ก็สามารถส่งกระแสจิตให้หมาบางตัวให้รีบมาช่วยไง”
“ถุยยยยยย” ไอ้เกลือกับไอ้บูมกลับมาสมานฉันท์กันทันทีที่ผมพูดจบ
“พี่มีพลังจิตด้วยเหรอ” น้องทัสทำหน้าสนใจ ขยับเข้ามาถามผมใกล้ๆ ผมชักอยากจะรู้ขั้นสุดแล้วนะว่าไอ้จอมมันไปพาน้องคนนี้มาจากไหน กิริยาท่าทางหรือสำเนียงการพูด ดูซื่อๆใสๆแบบไม่มีจริตคนกรุงเลยสักนิดเดียว นี่ถ้าบอกเป็นชาวเขาสักเผ่าผมก็เชื่อนะ
“ไม่มี พี่พูดเล่น แหะๆๆ” ผมไม่คิดว่าน้องเขาจะเชื่อคำพูดประชดของผมนี่นา จะว่าไป ผมสังเกตเห็นน้องเขาดูจะสนใจทุกอย่างรอบตัว เหมือนกับว่ากำลังจดจำทุกอย่างรอบๆตัว
“ได้ยินเสียงรถ สงสัยบิวมาแล้ว” ไอ้โหดมันบอกก่อนจะเดินไปที่ประตูบ้าน ไอ้บิวกลับมาแล้วจริงๆ พอมันเดินเข้ามาไอ้จอมก็เดินไปกอดมันเลยครับ มันมีสีหน้าตกใจนิดหน่อยก่อนจะยิ้มออกมาพร้อมกับน้ำตา
“เราไม่เป็นอะไรแล้ว” มันบอก ไอ้เกลือกับไอ้บูมก็ลุกขึ้นเดินไปโอบไอ้จอมเอาไว้อีกที ผมเห็นแล้วน้ำตาจะร่วง ลุกขึ้นเดินไปกอดพวกมันอีกทีเหมือนกัน
นึกภาพตามนะครับ ผู้ชายสี่ห้าคนยืนกอดกันกลมโลกคงดูสวยงามราวกับภาพวาดของเซอร์ไอแซคนิวตัน ว่าแต่เซอรืไอแซคนิวตันนี่เขาเป็นจิตรกรใช่ไหม อ้าว ไม่ใช่เหรอครับ
“จริงๆเราอยากกอดบิวนานกว่านี้นะ แต่ถ้าเราต้องกอดผ่านไอ้เกลือ เราทำใจลำบากจริงๆ” ไอ้บูมคลายอ้อมกอดออกแล้วบ่นขึ้นมา ไอ้เกลือหันมาตบหัวมันเบาๆ ไอ้บิวเลยหลุดหัวเราะทั้งน้ำตา
“ฉันดีใจที่มีพวกแกนะ” ไอ้บิวยกมือขึ้นเช็ดน้ำตา พวกผมเลยพามันกลับมานั่งที่โซฟาอีก ส่วนไอ้จอม พอมันเห็นสภาพไอ้บิวแล้วกัดกราม กำมือแน่น ท่าทางจะโกรธจัดจริงๆ จอมมันเป็นคนรักเพื่อนสุดๆอยู่แล้วด้วย
“พี่ขอตัวไปทำธุระต่อก่อนนะครับ” พี่ชัชบอกกับผม พวกผมยกมือไหว้พี่ชัชก่อนพี่เขาจะเดินออกไป คราวนี้เป็นไอ้บิวที่มองน้องไททัสด้วยความสนใจ น้องเขาตัวบางๆเหมือนไอ้บิวเลย แต่สูงกว่านิดหน่อย
“ทัส นี่พี่บิว บิว นี่น้องทัส เขาจะมาอยู่กับเราที่บ้าน แต่อย่าเพิ่งถาม เราอยากรู้เรื่องบิวก่อน” ไอ้จอมแนะนำน้องทัสเสร็จก็ถามไอ้บิวต่อ
“ถ้าบิวยังไม่อยากพูดก็ไม่เป็นไรนะ” ผมบอกมัน เข้าใจว่าบางทีมันอาจจะอยากลืม
“เราโอเค” บิวตอบ
“เดี๋ยวพี่พาน้องทัสไปซื้ออะไรมาให้พวกเรากินดีกว่า” ไอ้โหดบอกกับพวกผม มันคงอยากให้พวกผมคุยกันตามประสาเพื่อน น้องทัสลุกขึ้นเมื่อไอ้โหดมันพูดจบ แต่น้องเขาเดินมายืนตรงหน้าไอ้บิว ก่อนจะเอื้อมมือมาเช็ดน้ำตาที่เปื้อนอยู่ที่แก้มของไอ้บิว
“นี ตู กา โค....ทัสว่าใบหน้าของพี่ไม่เหมาะกับน้ำตาหรอกนะ” พูดจบน้องเขาก็เดินนำไอ้โหดออกไป ทิ้งให้พวกผมก็อึ้งกิมกี่กันไปหมด ออร่าความอ่อนโยนใสซื่อของน้องเขาโคตรจะเปล่งประกายดังพลังจันทราของเซเลอร์มูนเลยครับ แต่ไอ้ นี ตู กา โค มันคืออะไรอี๊ก
“น้องเขาคงอยากบอกแกว่า นีตูกาโค น.ต.ก.ค. แปลไทยได้ว่า น้ำตาแกเค็มว่ะบิว โอ๋ๆ อย่าร้องเลยนะ” ไอ้บูมทำหน้าเหมือนคนที่เชี่ยวชาญด้านภาษาที่สามช่วยแปลด้วยสีหน้าที่จริงจัง
“ไอ้บูม ฉันว่านะแกเอาดีทางบอลน่ะดีแล้ว ถ้าแกเป็นล่าม ชีวิตคนที่จ้างแกไปแปลให้คงพัง” ผมด่ามัน จะไม่ทนกับมันแล้ว มันแปลอะไรของมัน ขำจนท้องผมปวดไปหมดแล้ว
“แกพร้อมเล่าแน่นะ” ไอ้จอมถามย้ำไอ้บิว ทำไมดูไอ้จอมมันจริงจังกับไอ้บิวจังวะ นี่ผมพลาดอะไรไปรึเปล่า
“ฉันเจอกับพี่เขาตอนที่ไปช่วยพ่อทำรายอาหาร พี่เขามาทำเพลงประกอบรายการให้พ่อ ตอนนั้นฉันกำลังจะจบมอหก แรกๆพี่เขาก็มาชวนคุยธรรมดา พอเริ่มสนิทกันพี่เขาก็มารับไปกินข้าว ดูหนัง เขาเข้าทางพ่อ ฉันเห็นเขาเป็นคนอบอุ่นดี ก็เลยยอมคบกับเขาเรื่อยมา จนฉันเข้ามหาลัย เขาถึงได้เริ่มขอมีอะไรกับฉัน แต่ฉันไม่ยอม” ไอ้บิวมันเริ่มเล่า ก่อนจะหยุดนิดหนึ่ง
“มันทำร้ายแกเลยเหรอ” ไอ้เกลือถาม
“ยัง ฉันปฏิเสธ เขาก็ยอมนะ ยังไม่ทำอะไรก็แค่จูบกันบ้าง พอได้อยู่ใกล้ฉันบ่อยๆเข้า เขาก็เริ่มแสดงความต้องการอย่างชัดเจน ฉันก็ปฏิเสธตลอดเขาก็ยังอดทนให้ฉันเห็น ฉันก็เริ่มสงสารเขา ก็เลย..เลยช่วยเขาบ้าง แต่ฉันไม่ได้ให้ลึกซึ้งแบบนั้นนะ” ไอ้บิวบอก น้ำเสียงมันเริ่มสั่นๆ
“เล่าไหวไหมวะ” ไอ้จอมถามไอ้บิว มันพยักหน้า
“พอฉันเริ่มช่วยเขา เขาก็เริ่มเรียกร้องมากขึ้น คราวนี้พอฉันไม่ยอมเขาก็เริ่มใช้ความรุนแรง” น้ำตาไอ้บิวมันเริ่มคลอแล้ว
“แกไม่ต้องเล่าก็ได้นะบิว” ผมบอกมัน สงสารมันครับที่ต้องนึกถึงแต่มันส่ายหน้าแล้วเล่าต่อ
“พอเขาสงบสติได้ เขาก็จะร้องไห้ขอโทษฉันทุกครั้ง เขาเล่าให้ฉันฟังว่าเขาควบคุมตัวเองไม่ได้ เขาเคยไปหาจิตแพทย์ที่เมืองนอกเพราะไม่กล้าไปหาหมอในเมืองไทย เขากลัวเป็นข่าว ฉันก็อดสงสารเขาไม่ได้ ที่ฉันยอมเพราะคิดว่าเขาป่วย ฉันคิดว่าเขาต้องการกำลังใจ แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เขาควบคุมตัวเองไม่ได้ ฉันก็เกือบจะโดนแล้วล่ะ แต่พี่เวกมาช่วยฉันทัน จากนั้นฉันก็ไม่ยอมไปเจอกับเขาตามลำพัง จนเขามาบอกกับฉันว่าเขาชอบแก เขาอยากเลิกกับฉัน” ไอ้บิวมันหันมาพูดกับผม ผมบอกไม่ถูกว่ารู้สึกยังไง เสียใจที่ทำร้ายใจเพื่อนแต่อีกใจก็ดีใจที่ผมเป็นสาเหตุให้ไอ้บิวมันหลุดพ้น
“ถือว่าเป็นโชคดีของแกทั้งสองคน จากนี้ไปแกไม่ต้องเจ็บอีกแล้วบิว ส่วนไอ้นาว แกรู้แล้วใช่ไหม ว่าใครเป็นเจ้าชายตัวจริงของแก” ไอ้เกลือมันบอก ผมกับไอ้บิวพยักหน้าพร้อมกัน
“ฉันขอโทษนะที่ไม่ได้บอกแกฉันคิดว่าแกชอบพี่เขาจริงๆก็จะยอมเลิกกับพี่เขาให้ อีกใจก็ห่วงว่าแกต้องมาเจอแบบฉันก็ไม่อยากให้แกรักเขา” ไอ้บิวเอื้อมมือมาแตะมือผม
“ช่างมันเถอะ มันจบลงด้วยดีแล้ว แต่จากนี้ไป เรามาสัญญากันนะ มีอะไรต้องไม่ปิดกัน เราจะไม่มีความลับกัน เราจะปรึกษาและระบายให้กันฟังทุกเรื่อง โอเคนะพวกแก”ผมยื่นมือไปข้างหน้า
“โอเค แกซั่มกับพี่ธีมก็ต้องเล่าให้ฉันฟังด้วยนะ ฉันอยากรู้ถึงประสบการณ์ของชายเหนือชาย” ไอ้บูมบอกพร้อมกับยื่นมือมาวางบนมือผม ผมชักมือหนีแล้วยกขึ้นมาตบหัวมันแทนไอ้พวกที่เหลือยื่นมามาทับๆกันแทนคำสัญญา
“ฉันมีอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องบอก” ไอ้บิวมันเอ่ยขึ้นมาเบาๆ พวกผมหันไปมองมันมันยังมีอะไรอีก อย่าบอกนะว่ามันท้อง
“หลังจากถ่ายแบบให้พี่ปอนเสร็จ ฉันต้องย้ายไปอยู่ที่บัณตรา” พอไอ้บิวบอกจบผมก็นั่งทวนสถานที่ที่มันบอก ชื่อคุ้นๆติดหูแต่นึกไม่ออกว่าที่ไหน
“อ๋อ ประเทศที่ไอ้มีนมันเล่าให้ฟัง ที่เจ้าชายเขาจะมางานการกุศลของคุณเมใช่ไหม” ผมนึกออกปุ๊ปก็รีบถามไอ้บิว
“อืม” ไอ้บิวตอบสั้นๆ
“แกจะไปทำไม” เสียงไอ้จอมดูเครียดๆ ชักยังไงละนะ ดูมันจะห่วงไอ้บิวจนออกนอกหน้า คือผมมันเป็นประเภทอยากรู้อะไรแล้วต้องรู้
“ฉันไปแทนพ่อ ส่วนรายละเอียดเอาไว้ฉันค่อยเล่าได้ไหม” ไอ้บิวบอก มันคงเพลียๆ ตามันยังแดงๆ อยู่เลย ผ่านการร้องไห้มาเยอะ จังหวะนั้นไอ้โหดมันก็กลับมาพร้อมกับน้องทัสที่ถือถุงผ้ามาเต็มไม้เต็มมือ
“น้องเขาไม่ให้ใช้ถุงพลาสติก เขาพกถุงผ้าไปด้วย” ไอ้ธีมรีบอธิบาย ไอ้เกลือรีบเดินเข้าไปช่วยรับของจากน้องเขา
“ดีครับ รู้จักยืดอกพกถุง พี่บูมขอชื่นชม” ไอ้บูมก็วิ่งมาช่วยไอ้เกลือถือของอีกที ก่อนจะแซวน้องทัส
“งั้นทัสยกถุงให้พี่ใบหนึ่ง เดี๋ยวทัสตัดเอาใหม่ได้ ช่วยกันทำให้โลกน่าอยู่” น้องทัสยิ้มหวานให้ไอ้บูมก่อนจะเดินตามไอ้เกลือเข้าไปในครัว ไอ้บูมมองถุงผ้าแล้วทำหน้าทึ่งๆเมื่อได้รู้ว่าน้องทัสตัดเย็บถุงผ้านี้เอง
“งั้นเดี๋ยวบิวขอไปดูพวกมันก่อนครัวบิวจะพัง ขอบคุณพี่ธีมนะครับสำหรับทุกเรื่อง” ไอ้บิวยกมือไหว้ไอ้โหด มันยกมือขึ้นลูบผมไอ้บิวเบาๆ โคตรดูอบอุ่น แฟนใครวะ คิกๆ ส่วนไอ้จอมก็เดินตามไอ้บิวเข้าครัวไปติดๆ ตอนนี้ ห้องรับแขกเลยเหลือแต่ผมกับไอ้โหดสองคน
“ยังเจ็บอยู่ไหม” มันถาม
“เจ็บ แต่ทนได้” ผมบอกตามจริง
“แวะหาหมอหน่อยดีกว่า กลัวข้างในจะช้ำ” มันเดินมานั่งข้างๆผม
“นาวไม่มีมดลูก ไม่ต้องห่วง” ผมทำปากดีแก้เขิน ก็สายตามันที่จ้องมา มันทำให้ผมทำตัวไม่ถูก
“ทำตัวให้เหมือนเดิมก็ได้ สำหรับเราไม่มีอะไรที่เปลี่ยนไป มีแค่ความรู้สึกที่มากขึ้นเท่านั้นเอง” มันบอกกับผม
“ถ้าพี่ไม่กวนตีนนาว นาวก็จะพูดดีกับพี่ แต่ถ้าพี่กวนตีนนาวนาวก็กวนตีนพี่กลับ” ผมตอบมัน มันหัวเราะ
“หึหึหึ เกรียนดี”
“แล้ว...แล้วพี่จะกลับมาเป็นผู้จัดการให้นาวเหมือนเดิมรึเปล่า” ผมถามมัน
“ใครจะทนรับใช้นาวได้เท่าพี่”
“นาวก็ว่างั้นแหละ หมาจะเปลี่ยนเจ้าของได้ไง” ผมตอบ มันเอามือมาโยกหัวผม
“ว่าแล้วว่าดีได้ไม่นาน ฮ่าๆ” มันหัวเราะชอบใจ ไอ้โหดมันท่าจะโรคจิต ชอบให้ผมด่า ได้ ฉันจะจัดให้แกเป็นโปรฟรีด่าตลอดชีวิตเลย
“ไม่ต้องบอกเรื่องเรากับคุณเมนะ” ผมบอกมัน มันมองหน้าผมนิ่งๆก่อนจะพยักหน้า
“อืม พี่ไม่บอก แต่ถ้าเขารู้เองก็ช่วยไม่ได้นะ”
“ถ้าพี่ไม่พูดเขาจะรู้ได้ไง”
“ก็พี่จะย้ายไปนอนห้องนาว”
“ห๊ะ..ไม่เอา เพิ่งจะจีบก็จะมาขอนอนด้วยแล้ว” ผมรีบโวยวายมัน
“พี่จีบนาวมาหลายปีแล้วนะ ถ้านาวไม่โง่นานขนาดนี้ก็เป็นแฟนพี่ไปนานแล้วไหม”
“จีบแบบพี่ใครจะไปรู้ ทำเป็นเกลียดเกย์งี้”
“ก็พี่ไม่ได้ชอบเกย์พี่แค่รักนาว” อุ่ยๆๆๆมันตอบแบบนี้แล้วผมจะพูดอะไรต่อได้ครับ อย่าให้ผมเขินบ่อย สมองผมมันรวน
“จูบเลย จูบเลย จูบเลย” เสียงไอ้บูมลอยมาแต่ไกล ผมหันไปชี้หน้ามัน ขมุบขมิบปากด่า อย่ามายุ ผมกลัวเคลิ้ม
“กินข้าวกัน” ไอ้บิวเรียก ผมกับไอ้โหดเลยเดินไปนั่งที่โต๊ะกินข้าว
พวกผมกินกันไปคุยกันไป ใช้เวลาหมดไปหนึ่งวันแบบยังไม่จุใจเลย แต่ชีวิตต้องดำเนินต่อไป ไอ้บิวขอบคุณพวกผมที่ยอมเสียงานมาอยู่เป็นเพื่อนมัน ผมย้ำถามมันอีกครั้งว่าอยู่คนเดียวได้แน่รึเปล่า มันเลยบอกว่าจะไปค้างกับพ่อสักอาทิตย์ พวกผมเลยเบาใจ ไอ้จอมก็ดูจะออกอาการเป็นห่วงไอ้บิวมากกว่าปกติ จากที่คิดว่ามันจะอิ๊อ๊ะกับไอ้ยีน ผมต้องเปลี่ยนความคิดเสียแล้วว่ามันจะเลือกเดินทางไหนกันแน่
พอแยกย้ายกันออกมาจากบ้านไอ้บิว ไอ้โหดมันก็พาผมไปหาหมอที่คลินิกของเพื่อนมันก่อนกลับบ้าน มันบอกว่าไม่อยากพาไปโรงพยาบาล คนเยอะไป พอกลับมาถึงบ้านก็เจอแต่ธารที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องรับแขก ธารมองพี่ชายของตัวเองก่อนจะสลับมามองหน้าผม ผมว่าผมเห็นธารยกยิ้มนิดๆก่อนจะก้มหน้าไปสนใจหนังสือในมือต่อ ป้าสายหยุดมาถามผมว่าจะกินบัวลอยไหม ผมเลยบอกว่าจะขึ้นไปอาบน้ำก่อนแล้วจะลงมากิน ป้าสายหยุดยิ้มดีใจเมื่อไอ้โหดบอกจะกินฝีมือของป้าสายหยุดด้วย ก็ปกติมันไม่กินของหวานนี่เนอะ
“ชีวิตพี่มีนาวแล้วยังต้องการความหวานอีกเหรอ” ผมแอบกระซิบถามตอนที่เดินขึ้นบันไดมาพร้อมกับมัน
“มาก” มันตอบ อ้าว ตอบงี้เดี๋ยวต่อยเลย ผมหยุดเดิน หน้าหงิกใส่มัน มันหัวเราะแล้วคว้าข้อมือผมให้เดินต่อ ห้องมันอยู่ชั้นสอง ของผมต้องเดินขึ้นไปอีก เป็นห้องใต้หลังขา เล่นยกระดับขึ้นมาประมาณครึ่งชั้น เห็นไหม ผมกับมัน มันคนละระดับ
“ขอบใจที่มาส่งนะ กลับห้องพี่ไปได้แล้ว” ผมไล่มันเมื่อมันจูงมือผมมาถึงห้องของผม
“พี่บอกว่าขาดความหวาน ไม่เข้าใจรึไง” มันปิดประตูพร้อมกับล็อกห้อง ผมหน้าตื่นเลยสิ ฉันยังไม่พร้อมนะ ขอศึกษาขั้นตอนการเสียเอกราชนิดหนึ่งก่อนเหอะแก
“ไม่เอา อย่ามาทำเหมือนพี่นภดิวะ” ผมรีบบอกมัน ผมหมายถึง อย่ามารุกเร็วจนผมทำตัวไม่ถูก แต่ไม่รู้ว่ามันจะแปลประโยคของผมว่าอะไร เพราะมันชะงักไปเลย ไอ้รอยยิ้มบนใบหน้าเมื่อครู่ลาไปพักร้อนแล้วรึไง ตอนนี้ถึงได้หน้าบูดเป็นตูดม้าลายแทน
“อย่าอาบน้ำนานละ เผื่อมีไข้” มันบอกก่อนจะวางถุงยาลงที่เตียงของผมแล้วเดินไปที่ประตู
“โกรธนาวเหรอ” ผมรีบถามมัน
“เปล่า แต่พี่ไม่เหมือนไอ้เชี้ยนั่น เมื่อกี้พี่ล้อเล่น พี่แค่จะอยู่ทายาให้นาว” มันบอกแล้วเดินออกจากประตูไปเลย
ผมก็จ๋อยสิครับ ก็ใครใช้ให้มันทำตาวิบๆวับๆใส่ผมตลอด แถมยังชอบพูดให้ผมคิดลึก มันก็น่าจะรู้ว่าผมขี้มโน อีกอย่าง ผมไม่เคยเรื่องแบบนั้น กลัวใบหน้าที่หล่อเหลาและท่าทางละมุนละไมของผมมันจะไปยั่วไอ้โหดจนอดใจไม่ไหวขึ้นมา ผมต้องถ่างขาไปเดินแบบให้คุณเมก็แย่กันพอดี
‘พี่ไม่เข้าใจดาวเลย ไม่เข้าใจดาวววว’
ผมอาบน้ำเสร็จก็หยิบถุงยากับไดร์เป่าผมเดินไปหาไอ้โหดมันที่ห้อง ผมเป็นคนรักสงบ จิตใจงาม ไม่อยากทำให้ใครมาขุ่นข้องหมองใจเพราะตัวผม ผมไม่ได้มาง้อมันนะบอกเอาไว้ก่อน ผมเคาะประตูสองสามทีจนมันเดินมาเปิดให้
“จะยืนอีกนานไหม” มันถามเมื่อเห็นว่าผมยังไม่เดินเข้าไปสักที เดี๋ยวนะ ใครใช้ให้มันถอดเสื้อเหลือแต่บ็อกเซอร์แบบนี้ มันรู้จักละอายใจบ้างไหม แขกมาถึงห้องไม่รู้จักแต่งตัวให้มันมิดชิด แล้วคิดว่าแขกอย่างฉันจะมองอะไรของแกไหม ก็ต้องมองอะดิ ฮ่าๆๆ
“พี่ธีม..ทายาให้หน่อย” ผมบอก มันดึงมือผมให้เดินเข้ามาในห้องแล้วปิดประตู
“อย่ามองเยอะ เดี๋ยวมักลุกมาสู้นะ” มันบอกผมเพราะผมมัวแต่เพ็งไปที่อะไรบางอย่างที่มันล่อสายตา พอได้ยินมันพูดผมเลยต้องรีบเงยหน้าขึ้นมามองหน้ามันแทน
แม่มมมม เจือกเห็นอีกว่าผมแอบมองลูกมัน ผมไม่ได้ทะลึ่งนะ อย่าคิดแบบนั้นเชียว ก็ ก็ ก็แค่คิดว่าทำไมถึงได้อลังการงานสร้างแบบนั้นวะ สรุปพ่อมันเป็นคนชาติไหน ผมว่าผมเปลี่ยนใจไม่เป็นแฟนมันทันไหมวะ ฉันกลัว...
“เป่าผมให้นาวด้วยนะ” ผมสั่งมัน มันจับผมนั่งลงบนเตียง แล้วเลิกเสื้อผมขึ้นแบบไม่ให้ผมได้ตั้งหลัก พอร่างกายสัมผัสความเย็นจากเครื่องปรับอากาศขนก็ลุกดิครับ
“กินยารึยัง” ปากมันถาม มือก็เอายามาทาที่ท้องผมให้ด้วย มือมันเบาจังชีวิตดีดี๊ มีคนดูแล ฮ่าๆ
“กินแล้ว แก้ปวดกับแก้อักเสบ” ผมบอกมัน
“หันหลัง” มันทายาเสร็จก็เอาเสื้อผมลงแล้วสั่งผม ผมหันหลังให้มัน มันเอาไดร์เป่าผมไปเสียบปลั๊กตรงหัวเตียง ก่อนจะเป่าผมให้ผม
“โอ้ย ร้อนหู แกล้งนาวเหรอ” ผมยกมือขึ้นลูบที่หู
“หึหึ ไม่ได้แกล้ง โทษที” มันบอก แต่เสียงหัวเราะแกมันดูสะใจนะไอ้เมือกปลา มันนั่งเป่าผมให้ผมจนแห้งแล้วถึงเอาไดร์ไปวางไว้ที่โต๊ะ
“พรุ่งนี้มีงานอะไรบ้าง” ผมถาม
“พี่แคนเซิลหมดเลย ท้องนาวเขียวช้ำขนาดนี้ คืนนี้ไข้ขึ้นแน่” มันบอก
“แล้ว...แล้วจะมีคนเฝ้าไข้นาวรึเปล่า” ผมถามมันเบาๆ เขินโว้ยได้ยินเสียงน้ำมันเดือดไหม ผมกำลังทอดสะพาน เกรียมกำลังน่า
กินเชียว ฮ่าๆ
“เดี๋ยวให้ป้าสายหยุดมานอนเป็นเพื่อนก็ได้” มันตอบ ผมนี่ลุกขึ้นยืนเลย นี่มาง้อแล้วนะ เออยอมรับก็ได้ว่าง้อ ถ้าอยากงอนก็เชิญ ผมไปละ แต่ยังไม่ทันไปมันก็ดึงมือผมให้นั่งลงข้างหน้ามันเหมือนเดิมแล้วสวมกอดรอบเอวผมเอาไว้ เกยคางที่ไหล่ของผมก่อนจะเอียงหน้ามาหอมแก้มผมเบาๆ
“พี่ไม่อยากให้นาวกลัวพี่พี่ไม่อยากเหมือนไอ้นภ”
“นาว..ขอโทษ นาวไม่ได้ตั้งใจจะหมายความแบบนั้น นาวแค่...แค่เขินที่พี่มาทำโรแมนติกใส่” ผมยอมขอโทษมัน มันหอมแก้มผมอีกหลายครั้งเลย ได้ทีเลยนะไอ้หมาธีมผมยอมเพราะไม่อยากให้มันงอนหรอกนะ ไม่ได้เต็มใจอะไรหรอก
“พี่ยอมรับนะว่าอยากได้นาวจะแย่” มันบอก นั่นปะไร! ผมว่าแล้วว่าเสน่ห์ของผมมันยากเกินห้ามใจ
“คือ...แต่..” ผมยังไม่พร้อมจริงๆนะ แต่ไม่กล้าพูด กลัวมันจะคิดว่าผมรังเกียจ
“ไม่ต้องห่วง พี่ไม่ทำอะไรหรอกถ้านาวไม่พร้อม รอมาได้ตั้งนานแล้วนะ แต่ไอ้กอดๆ จูบๆ มันก็ต้องมีมั่ง นาวจะมาห้ามทุกอย่างไม่ได้หรอก พี่รักของพี่นาวไม่มีสิทธิ์มาห้าม เข้าใจปะนาว” มันบอก
“...........................” ผมกำลังประมวลผลข้อมูลที่ไอ้โหดมันกำลังยัดเยียดใส่หัวผม เดี๋ยวนะ นี่ผมไม่มีสิทธิ์ห้ามมันให้มาปู้ยี้ปู้ยำตัวผมใช่ไหม ผมขอไปเรียนกฎหมายแป๊ปนะ ผมว่า..มันไม่ใช่นะ
“แต่ถ้านาวไม่อยากให้พี่แตะต้องตัวนาวพี่ไม่ทำก็ได้” มันกำลังจะคลายอ้อมกอดออก นี่มันเป็นญาติกับพี่ป้างปะวะ โคตรใจน้อยเลย
“นาวพูดสักคำยังว่าไม่ให้จูบไม่ให้กอดหรือห้ามโดนตัว อิตอนมาจุ๊บๆนมนาวนาวยังไม่ได้ห้ามเลย” ด้วยความที่กลัวมันน้อยใจก็เลยพล่ามออกไป แต่เฮ้ยยย ผมพลาดอีกแล้ว ปากมันชอบไปไวกว่าความคิดทุกทีเวลาที่มันใช้มุขน้อยใจแบบนี้ผมเสียเปรียบทุกที แง พ่อจ๋าแม่จ๋า ไอ้โหดมันดึงผมไปนอนราบกับที่นอนและค่อมตัวผมแล้ว ผมพลาดไปแล้ว
“พี่รักนาวนะพี่ไม่ฟันนาวแล้วทิ้งหรอก รับรอง” แล้วมันก้มลงมาจูบผม ดูดดื่มจนลูกผู้ชายอย่างผมจะกลายเป็นลูกผู้หญิงแล้ว
นาว แกควรจะยกมือขึ้นมาทุบไหล่มัน!! ดีดดิ้น!! น้ำตาคลอ!! ขัดขืน!! สมองซีกซ้ายบอกบทผม
นาว แกยกมือขึ้นมาโอบรอบคอมัน ตอบรับจูบมัน ให้มันอึ้งว่าแกก็มีดี น้ำตงน้ำตาเก็บไปเลย แกไม่ใช่สาวน้อยวัยใสนะ ที่จะมาทำไม่ประสีประสาอะไร สมองซีกขวารีบแย้งทันที
แล้วคิดว่าผมควรเชื่อสมองซีกไหน!!
แหะๆๆ พอดีผมถนัดขวาอะครับ ...
“นาว” มันผละริมฝีปากออกมาเรียกชื่อผมก่อนจะกดจูบลงไปใหม่ มันคิดว่าคนอย่างผมจะจูบไม่เป็นละซี๊ ผมไม่ได้มีดีแค่หน้าตานะ รู้ยัง
“เดี๋ยวๆ” ผมพยายามดันมันออกเมื่อเห็นว่าลูกชายของมันมาทิ่มๆโดนตัวผม มันยอมละริมฝีปากออกแล้วพลิกตัวมานอนหงายข้างๆผม มันหลับตาเม้มริมฝีปากเหมือนคนกำลังอดกลั้นสุดๆ ผมแอบเหลือบตาลงดูธีมน้อยยที่ตอนนี้ไม่น้อยเลยสักนิด!
บร๊ะเจ้าช่วยยย!!!! โปรดจงฟังคำอ้อนวอนของลูกช้างด้วย
ธีมน้อยเอ้ย จงสงบ จงเสงี่ยม จงหลับใหล จงคืนสู่สามัญ ผมรีบสะกดจิตลูกชายของมันก่อนที่จะโดนมันยกทัพมาตีค่ายพรหมจรรย์ เอ้ย ค่ายบางระจันของผม
“นาวลงไปรอข้างล่างก่อน เดี๋ยวพี่ตามไป” มันบอก ผมพยักหน้าแล้วรีบลุกไปก่อนมันจะเปลี่ยนใจ ก่อนจะไปก็วิ่งกลับมาหอมแก้มมันอีกทีแล้วโกยตีนหมาลงข้างล่างไปเลยครับ ได้ยินเสียงแว่วๆของมันก่อนจะออกจากห้องของมันว่า
“เรานี่มันจริงๆ เลย มายั่วแบบนี้ คราวหน้าจะไม่ทนแล้วนะ หึหึ”
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ