ตอนที่ 7
ผมตื่นขึ้นมาอีกทีก็ตอนได้ยินเสียงกรอบแกรบใกล้ๆ หู
อย่าบอกนะว่าโจรแม่งเข้าอีกแล้ว !
จากง่วงๆ กลายเป็นตื่นเต็มตา
ผมไม่ใกล้ลุกพรวดเปิดเผยว่าตัวเองตื่นแล้วจึงพยายามสังเกตร่างที่ตะคุ่มลางๆ อยู่ตรงมุมเตียงอีกข้างนึง
เพลิงล่ะ ?
เพลิงหายไปไหน
อย่าบอกว่าโดนมันตบหัวสลบในห้องไปแล้ว
ยิ่งคิดผมก็ยิ่งกังวล
รู้สึกหายใจลำบาก เหงื่อเย็นหยดซึม
เอายังไงดี
“ ตื่นแล้วก็บอกผมสิ ผมจะได้นอนบ้าง ”
เสียงคุ้นเคยดังมาจากเงาตะคุ่ม
จากนอนเกร็งกลายเป็นนอนเซ็งแทน
ไอ้น้องเพลิง
“ ทำอะไรตรงนั้น ตกใจหมด ”
ไอ้ผมก็วิตกไปต่างๆ นานาสิ
เฮ้อ
“ ก็ซ่อนอาหารไงพี่ ไว้ที่เดิมถ้ามันมาอีกก็หายหมดกันพอดี ”
ไม่ว่าเปล่าเปิดไฟฉายส่องให้ผมเห็นว่าเพลิงซ่อนไว้หลังตู้ข้างเตียง
“ ผมซ่อนไว้ที่อื่นด้วยแต่พี่ไม่ต้องไปหาหรอก อยากกินอะไรก็บอกผมเดี๋ยวผมเอาให้เอง ”
ผมยังคิดไม่ถึงเรื่องซ่อนอาหารด้วยซ้ำ
แค่กำจัดภาพบ้าๆ นั้นออกจากหัวได้ก็ดีแค่ไหนแล้ว
ขนาดแค่คิดภาพยังได้กลิ่นคาวเลือดติดจมูกอยู่เลย
ผมยันตัวมานั่งดีๆ
“ ซ่อนเสร็จรึยัง ? เดี๋ยวพี่ช่วย ”
แสงสว่างเพียงหนึ่งเดียวถูกปิด
“ เสร็จแล้วพี่ ตื่นมาตอนผมทำเสร็จแล้ว ช่วยได้เยอะจริงๆ ”
ผมหัวเราะในน้ำเสียงประชดของมัน
“ ไปนอนไป เดี๋ยวพี่เฝ้าต่อเอง ”
“ ไม่บอกก็นอนอยู่แล้ว ง่วงจะตาย ”
เตียงยวบลงจนผมรู้สึกได้ก่อนจะมีมือหนามาดึงมือผมไปจับ
ซึ่งผมก็ไม่ได้ว่าอะไร
มันเจอเหตุการณ์เดียวกับผมเมื่อกี้คงจะช็อคพอๆ กับผมนั่นแหละ
ผมลูบหัวมันเบาๆ แล้วถอนหายใจยาว
ไม่ว่ามองไปทางไหนก็มองไม่เห็นอะไรสักอย่าง
นอกจากเสียงพูดคุยกันก็ไม่มีเสียงอะไรอีก
ถ้าเกิดผมอยู่คนเดียวคงจะเป็นบ้าไปแล้ว
สัตว์เขาให้เอาเข้าไปด้วยน่าจะใช้ประคองสติของคนเล่น
ดีที่ผมได้เพลิงมันเป็นสัตว์เลี้ยง ไม่อย่างนั้นอาจจะต้องเลี้ยงสัตว์อันตรายอย่างงู
ผมไม่รู้อะไรที่ดลใจให้เขาเลือกงู
อาจจะมีทิฐิบางอย่างค้ำคอหรืออะไรสักอย่างที่ทำแล้วดูเท่
ของพวกนี้ไร้ประโยชน์ไปเลย
เมื่อมันทำให้เขาตาย
แต่พูดถึงที่เพลิงกับผมได้มาอยู่ด้วยกัน
มันก็แปลกๆ นะ
ทำไมคิงถึงได้อยู่ด้วยกันในห้องหรูๆ
อาหารเยอะ แอร์เย็นฉ่ำ
มันต้องมีอะไรที่ผมกับเพลิงต้องเจอหนักหน่วงเป็นการทดแทนความสะดวกสบายนี่แน่
แต่คิดมากไปก็ปวดหัว
สู้ผมทำใจให้ว่างแล้วเล่นเกมไปกับเขาดีกว่า
เกมอันตรายที่แลกกับหนี้หลายล้าน
ครืดดด
เสียงคล้ายอะไรขูดกำแพงดังเสียดหู
ซึ่งเสียงของมันไม่ได้ดังเลย แต่ห้องที่เงียบขนาดนี้ทำให้เสียงนั้นดังก้องในหูผม
ครืดดด
ผมเผลอกำมือคนที่หลับไปแล้วแน่น
ผมยอมรับว่าตัวเองตอนนี้กำลังกลัว..
กลัวมากด้วย
เสียงขูดมันเหมือนดังมาจากหลังกำแพงเพราะเสียงมันอึงๆ
แล้วใครขูดล่ะ ?
ขูดทำไม
เสียงขูดยังคงดังต่อเนื่องไปสักพัก
ผมนั่งตัวแข็งไม่กล้าขยับตัว
ถ้าประตูมันเปิดแล้วคนที่ขูดเขาเข้ามาในห้องล่ะ
ในหัวตอนนี้เลิกจินตนาการภาพสยดสยองของตัวเองที่อาจจะเป็นไปได้
กระซวกไส้ กรีดตัว ปาดคอ
ทำไมคิดอันไหนก็น่ากลัวหมดเลยวะ
มึงบ้าไปแล้วไอ้ทิวเอ้ยยย
ผมเริ่มจะสติแตก
โชคดีที่เสียงขูดหยุดไปก่อน
ไม่งั้นผมคงได้ปลุกเพลิงมานั่งเป็นเพื่อนกัน
ช่วยไม่ได้ก็คนมันกลัวนี่หว่า
ขนาดดูหนังผีผมยังต้องคลุมโปงดูเลย
นับประสาอะไรกับเรื่องน่ากลัวแบบนี้
ตอนนี้ก็ได้แต่ภาวนาให้เพลิงหลับจนอิ่มไวๆ ครับ
“ พี่อันตื่น ”
“ อือออ ”
ผมครางในลำคอดึงผ้าห่มมาคลุมโปง
อย่ามารบกวนเวลานอนที่มีอยู่น้อยนิดของนายอันทิวนะ
“ นับหนึ่งถึงสามนะครับ ”
ใครมานับเลขตอนนี้
ไร้สาระมาก
ไปนอนไป
ผมไม่สนใจทำหูทวนลม
ลืมไปหมดว่าตัวเองทำอะไรอยู่ในหัวสะกดได้แค่คำว่าง่วง
“ นิ่งก็ช่วยไม่ได้แล้วนะครับ ”
สิ้นประโยคผ้าห่มผมถูกกระชากออกทันที
แอร์หนาวๆ กระตุ้นให้ผมลุกขึ้นมาแย่งผ้าห่มคืน
“ หนาว เอาห่มคืนมาได้แล้ว ”
“ ลืมล่ะสิ ว่าตัวเองต้องทำอะไร ”
คนแย่งผ้าห่มผมไปพูดพร้อมหัวเราะเบาๆ
“ นอนไง ”
“ นอนอะไรล่ะ เพิ่งรู้ว่าพี่แม่งเหมือนเด็กเลยว่ะ ”
หัวของผมโดนขยี้เบาๆ
“ บอกให้นั่งเฝ้าว่าจะมีขโมยไหมก็ไม่เฝ้า ชิงหลับอีกรอบ ”
ขโมย ?
เฝ้า ?
เออใช่ !!
“ เฮ้ย โทษๆ พี่เผลอหลับไป ”
ผมหัวเราะแห้งๆ
ก็ห้องมันเงียบมากหลังจากเสียงขูดกำแพง
นั่งไปนั่งมาหลับตอนไหนไม่รู้
“ แล้วหายง่วงยัง ? ”
“ หายแล้วๆ ”
ตอนนี้เหมือนสมองพร้อมทำงานเต็มที่
พักผ่อนเยอะเกิน
“ แล้วเพลิงล่ะ ”
“ หายแล้ว หาไรกินกันเหอะพี่ ”
สัมผัสบนหัวหายไป
“ กินข้าวลงหรือเปล่า ? หิวไหม ”
จะถามแบบนี้ก็ไม่แปลก
ใครเจอแบบนั้นก็กินอะไรไม่ลงทั้งนั้นแหละ
แต่ตอนนี้ผมพอทำใจได้แล้ว
“ กินๆ หิวแล้วเนี่ย ”
นอกจากขนมปังน้ำตาลที่ใช้รองท้องก็ไม่มีอะไรอยู่ในกระเพราะอีก
“ งั้นเดี๋ยวผมเอาให้แล้วกัน ”
ผมได้ยินเสียงเพลิงเดินแต่ไม่รู้เดินไปไหน
สักที่ในห้องนั่นแหละ
“ อย่าเพิ่งเข้าห้องน้ำนะ พี่เข้าก่อน ”
ตื่นมาก็ทำงานทันที กระเพาะปัสสาวะผม
“ ให้ผมช่วยถอดกางเกงไหม ? ”
เพลิงถามผมแกล้งๆ
“ ไม่ต้อง ”
ผมหัวเราะตอบ
ชอบเล่นเรื่องนี้จริงๆ
คิดอะไรกับผมหรือเปล่าเนี่ย ?
ผมคิดเรื่องนี้พลางคลำทางไปห้องน้ำ
แผนผังห้องที่จำได้ลางๆ ปรากฏในหัว
และมันก็ใช้นำทางได้ดีพาผมมาถึงห้องน้ำได้โดยเกือบจะสวัสดิภาพ
เว้นแต่..
“ โอ๊ย ! ”
“ เฮ้ย พี่เป็นอะไร !? ”
ผมหลุดอุทานออกไปได้ไม่ถึงสิบวินาทีก็รู้สึกถึงมือที่จับแขนทั้งสองข้าง
“ นิ้วก้อยชนขอบประตู ”
อย่านะ
อย่าหัวเราะนะ
กูไม่อนุญาต
“ พี่แม่งเซ่อว่ะ ฮ่าๆๆ ”
เพลิงหัวเราะดังลั่น
“ ร้องยังกับโดนงูกัด ”
“ ใครๆ เขาก็เคยเป็นแบบพี่ป่ะวะ ”
ผมเถียงข้างๆ คูๆ
“ จะเข้าห้องน้ำนี่พี่ เข้าดิ หึๆ ”
ผมถูกผลักเข้าห้องน้ำและปิดประตูดังปัง
“ เดี๋ยวผมหาขนมปังหมูหยองปลอบใจนะพี่ ”
โดนเด็กล้อแม่งนรกแตกจริงๆ
ผมเริ่มเซ็งในขณะที่ทำธุระส่วนตัว
คิดไปคิดมาก็ไม่เข้าใจตัวเอง
เดินยังไงให้นิ้วไปชนวะ
เฮ้อ
กึก กึก
เสียงกลไกของประตูดังลั่นเหมือนกับเสียงเมื่อวาน
ผมสะดุ้งโหยงรีบๆ ทำให้เสร็จ
แล้วมาหยุดยืนข้างเพลิงที่ยืนอยู่หน้ากำแพงที่มีเสียงที่ว่า
----------
หนีไปนอนก่อน
เรื่องนี้ตายจริงไม่ใช้สแตนด์อินค่ะ 55555