.........
สายมากแล้วเมื่อเนติตื่นขึ้นมาจากความฝันแสนหวานอีกครั้ง สิ่งแรกที่สัมผัสได้คืออาการปวดรุมตามตัวและหัวหนักอึ้ง แต่ร่างกายยังอิ่มเอมเสียวซ่านทุกครั้งที่ขยับตัว ยังไม่ทันลุกจากเตียงประตูก็ถูกไขเข้ามา
“ตื่นแล้วเหรอครับ?”
“น้าดอน...ป่านนี้แล้วยังไม่ไปส่งคุณกฤษอีกเหรอครับ?”
“วันนี้นายไม่ได้ไปทำงานครับ...คุณเนยังมีไข้อยู่นะครับ แผลอักเสบด้วย อย่าเพิ่งลุกนะครับ”
“คุณกฤษอยู่บ้านแล้วน้าดอนมาดูแลผมทำไมครับ...เดี๋ยวก็เป็นเรื่อง”
“วันนี้คงไม่ได้มาออกฤทธิ์ออกเดชกับใครหรอกครับ...ทนายผจญมาหาตั้งแต่เช้า หอบเอกสารมาเป็นตั้ง”
“แล้วที่บริษัท...”
“คุณอโนทัยก็เอาเอกสารมาให้แล้วครับ ตอนนี้อยู่ในห้องทำงาน เห็นนายสั่งให้แม่ผิวเตรียมอาหารไว้ทั้งมื้อเที่ยงมื้อเย็นเลยครับ...ทานข้าวต้มสักนิดนะครับ จะได้ทานยา”
อโนทัยที่นายดอนพูดถึงคือหัวหน้าฝ่ายบริหารของกฤษณะ และอีกด้านคือมือเก็บกวาดทุกอย่างไม่ให้ใครดมกลิ่นมาถึงกฤษณะได้
ธุรกิจในโลกมืดสร้างผลกำไรที่มหาศาลกว่าด้านสว่างแน่นอน และกฤษณะก็ทำมันทุกอย่างยกเว้นค้ายาเสพติด ไม่ใช่ความมีคุณธรรม แต่สิ่งนี้มักสร้างปัญหามหาศาลพอๆกับรายได้ กฤษณะจึงไม่คิดจะแตะมันซึ่งก็ทำให้เขายืนอยู่ในโลกมืดได้อย่างยิ่งใหญ่ ในฐานะคนกลางที่คอยไกล่เกลี่ยยามกลุ่มต่างๆมีปัญหากัน แม้ว่าจะต้องจ่ายบ้าง แต่ก็เพิ่มอิทธิพลให้กฤษณะมากขึ้น และมีศัตรูน้อยอย่างไม่น่าเชื่อ
“ขอบคุณครับ ผมเลยเป็นภาระให้น้าดอนไปแล้ว”
“ขืนผมไม่ดูแลปล่อยให้คุณเนเป็นหนักกว่านี้นายคงเอาตาย”
“นายต้องการให้ผมตายอยู่แล้ว จะมาโกรธน้าดอนทำไม” เนติพูดเสียงเรียบ แต่คนฟังกลับไม่สบายใจ
“ทำไมพูดอย่างนั้นละครับ นายห่วงคุณเนมากนะครับ”
“...ผมไม่อยากหวังอะไรแล้วครับน้าดอน ตราบใดที่ยังพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของผมไม่ได้ นายคงไม่ยอมอภัยให้”
“แต่ทุกคนในบ้านก็เป็นพยานได้ว่าคุณผู้หญิงวางยาทุกคน คุณเนเองก็โดนด้วย”
“น้าดอน...ความจริงแล้วผมตามคุณรุจีราไปทันที่สนามบิน แต่ผมก็ไม่กล้าขัดขวางเธอ”
“เรื่องนั้นสายชลมันบอกนายแล้ว นายยังถามว่าถ้าเห็นขนาดนั้นทำไมมันไม่ขัดขวางไว้เสียเอง...จริงๆมันเองก็เจตนาจะปล่อยคุณผู้หญิงไป เพื่อให้คุณเนมีความผิดนั่นแหละครับ”
“อย่าไปโทษใครเลยครับน้าดอน ถึงยังไงเรื่องนี้ผมก็ผิดเต็มๆ ปัดความรับผิดชอบไปให้ใครไม่ได้หรอกครับ ทั้งที่ปล่อยให้คุณรุจีรากับน้องนราอยู่ด้วยกัน ทั้งเรื่องที่ปล่อยให้คุณรุจีราส่งเมล์หาเพื่อนที่ต่างประเทศ รวมถึงการที่ไม่ได้ขัดขวางเธอที่สนามบิน...ทั้งหมดเป็นความผิดผม...แค่นายให้ผมเป็นสัตว์เลี้ยงก็ถือว่ากรุณามากแล้ว ความจริงถึงนายฆ่าผมก็เป็นเรื่องสมควร เพราะผมทำให้นายต้องเสียน้องนราไป”
“อย่าเพิ่งไปคิดอะไรมากเลยครับ รักษาตัวให้หายก่อน ส่วนเรื่องอื่นค่อยว่ากันอีกที”
.…………………
“ใส่ซะ” ปลอกคอสำหรับสุนัขถูกโยนลงมาที่พื้น แต่มันแตกต่างจากปลอกคอสุนัขทั่วไปตรงที่มีตัวล็อคแบบที่ต้องใช้กุญแจไขออก เนติหยิบปลอกคอมาใส่และกดล็อคเรียบร้อย แม้จะมีห่วงสำหรับใส่สายจูงแต่ตอนนี้มันว่างเปล่า
กฤษณะเดินนำไปยังตึกใหญ่โดยไม่ได้เหลียวมามองข้างหลัง เพราะแน่ใจว่าอย่างไรเสียเนติก็ต้องตามไปจนได้
ชายหนุ่มค่อยๆเขยกไปช้าๆ อาศัยไม้เท้าที่ดอนหามาไว้ให้ประคองตัวตามหลังร่างสูงใหญ่ไป ท่ามกลางสายของคนทั้งบ้าน ซึ่งส่วนใหญ่เต็มไปด้วยความเห็นใจ แต่กลับมีคนกลุ่มหนึ่งที่มองตามไปอย่างเยาะหยันแกมสะใจ
เหมือนแกล้งกันเมื่อกฤษณะเดินนำขึ้นไปชั้น3แทนที่จะขึ้นลิฟต์ กว่าที่เนติจะตามขึ้นไปถึงเหงื่อก็ไหลท่วมตัว บาดแผลบริเวณต้นขามีเลือดไหลซึมออกมาเปื้อนผ้าพันแผล
“ต่อไปนี้ย้ายมาอยู่ห้องนี้”
“ครับ” เนติชะงักเพียงนิดเดียว แต่ก็รับปาก...สัตว์เลี้ยงอย่างเขาถูกสั่งให้ขึ้นมานอนห้องเดียวกับนาย...
“ห้ามไอ้ดอนมาหาเธออีก บนนี้นอกจากแม่ผิวแล้วห้ามใครเข้ามา ถ้าฉันเห็นใครบนนี้จะถือว่าเธอเรียกขึ้นมา”
“ครับ”
สั่งเพียงแค่นั้นกฤษณะก็ทำท่าจะผละจากไปแต่เนติปราดเข้าไปขวางไว้
“จะไม่ฉลองปลอกคออันใหม่หน่อยเหรอครับ?” เนติถามพลางลูบมือไปบนปลอกคอช้าๆ
“อยากเป็นสัตว์เลี้ยงมากนักหรือไง? ” กฤษณะถามเสียงเรียบทั้งที่ดวงตากวาดตามปลายนิ้วเรียวอย่างเผลอตัว
“ก็...แค่อยากลอง...เจ้านายไม่อยากลองเหรอครับ?” เนติกระซิบตอบอย่างยั่วเย้า การที่ไม่ได้ติดตามกฤษณะไปทุกหนทุกแห่งเหมือนเคย สร้างความหวั่นไหวให้เขาไม่น้อย และเขากำลังเรียกความมั่นใจคืนมาให้ตัวเอง
สีหน้าเย็นชาแต่แววตาที่ไหววูบด้วยความตื่นเต้นของกฤษณะทำให้เนติยิ่งได้ใจ ชายหนุ่มปลดกระดุมเสื้อช้าๆแต่กฤษณะกลับกระชากออกเสียเอง
“เป็นสัตว์น่ะไม่ต้องใส่เสื้อผ้าหรอก...แล้วก็…” กฤษณะเหลือบไปมองรอบๆก่อนจะหยุดที่ประตูห้องทำงาน
“ไปห้องโน้นดีกว่า มีอะไรให้เล่นเยอะดี”
เนติเหนี่ยวใบหน้าคมให้ก้มลงมาแลกจูบขณะที่ประคองกันไปยังห้องทำงาน เมื่อเข้าไปกฤษณะก็ทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่แล้วหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้ากับเนติ
“เล่นกับตัวเองก่อน” กฤษณะสั่งสั้นๆแล้วกอดอกมองนิ่งๆ เนติเลียปากอย่างตื่นเต้นก่อนจะลูบไล้ยอดอกของตัวเองอย่างยั่วยวน เพียงแค่บีบคลึงยอดอกที่ไวต่อสัมผัส ท่อนเนื้อนุ่มนิ่มเบื้องล่างก็ค่อยๆเหยียดกายชูชันขึ้นช้าๆ แต่เนติไม่ได้หยุดแค่นั้น ชายหนุ่มหันหลังโก้งโค้งให้กฤษณะดูขณะที่แหย่นิ้วเข้าไปในซอกหลืบสีแดงช้าๆจนสุดนิ้วแล้วกวาดวนไปมา
“อา...ผมอยากได้นิ้วคุณกฤษมากกว่า...ทำให้ผมหน่อย” เนติเหลียวกลับมามองกฤษณะด้วยสายตาวิงวอนปนยั่ว ขณะที่นิ้วก็ยังส่ายวนเข้าออกไม่หยุด
กฤษณะยิ้มเย็นๆแล้วกระดิกนิ้วเรียก
เนติก็เดินเข้าไปหาทันทีแต่แทนที่จะได้นั่งตักของกฤษณะเหมือนทุกครั้ง ชายหนุ่มกลับถูกสั่งให้ขึ้นไปนั่งบนโต๊ะแล้ววางเท้าลงบนที่พักแขนคล่อมตัวกฤษณะไว้
นิ้วยาวแตะบนส่วนยอดที่ปริ่มน้ำเบาๆแล้วลากลงมาจนถึงถุงนิ่ม เนติเลียปากและจ้องมองดวงตาคมไม่หลบเมื่อนิ้วยาวไปหยุดที่จีบพับซ้อนแน่นหนาสีแดงสดนั่น กฤษณะหยุดนิ้วมองหน้าเนติแล้วเริ่ดคิ้ว
“อยากให้ฉันแหย่นิ้วเข้าไป?”
“ทั้งนิ้ว...ทั้งตัวคุณกฤษ” เนติกระซิบตอบด้วยน้ำเสียงสั่นพร่าอย่างคาดหวัง
“แล้วถ้าเป็นอย่างอื่นละ...ถ้าฉันบอกว่าอยากลองแบบซาดิสม์ดูล่ะ”
เนติลอบกลืนน้ำลายเมื่อเห็นกฤษณะหยิบปากกาที่ใช้เซ็นงานขึ้นมา ขาเรียวถูกยกขึ้นไปวางบนโต๊ะ เปิดเผยช่องทางแคบแก่สายตากฤษณะ
ชายหนุ่มชะโงกมองจนใกล้แล้วแลบลิ้นเลียทั่วจีบพับแน่น เนติถึงกับซี๊ดปากอย่างเสียวซ่าน แต่แล้วจู่ๆวัตถุที่แข็งและเย็นเฉียบก็สอดเข้ามาขณะที่ลิ้นอุ่นผละออก
“อย่าเกร็งสิ...ปากกาอันนิดเดียวเอง...นั่นแหละ...ดี” กฤษณะชมยิ้มๆขณะใส่ปากกาด้ามที่สองเข้าไปแล้วขยับเลื่อนเข้าออก ความรู้สึกที่มีวัตถุเย็นๆสอดเข้าออกแปลกๆจนเนติต้องนิ่วหน้า แต่ก็ไม่ได้ขัดขืน เขาชอบความรู้สึกที่ได้ถูกสายตาคมกริบนี้จับจ้องมากกว่า
“อืมข้างบนยังว่างนี่...” พูดจบคลิบหนีบกระดาษอันเล็กๆก็ถูกหนีบติดที่ยอดอกทั้งสองข้าง
เนติกัดปากแน่นแต่ไม่ร้องออกมา เพราะความเจ็บที่ถูกคลิปหนีบกับลิ้นร้อนที่ตวัดไล้เลียรอบๆป้านนมสร้างความซ่านสยิวจนเขาแทบแยกไม่ออกว่ารู้สึกอย่างไรมากกว่า เบื้องหน้าของเนติเริ่มชุ่มฉ่ำจนไหลเยิ้มออกมาทีละน้อย แต่จู่ๆกฤษณะก็ผละออกห่างและลุกไปหยิบของบางอย่างจากหน้าโทรทัศน์
“ปากกามันคงเย็นไป ไม่ดีต่อสุขภาพ อันนี้ดีกว่านะ”
ไม่ทันปฎิเสธรีโมทคอนโทรก็ถูกกดเข้ามาในทางแคบร้อนแทนที่ปากกาที่ถูกดึงออกไปอย่างรวดเร็ว แต่การสอดใส่กระทันทำให้เข้าไม่ได้
กฤษณะเปิดลิ้นชักหยิบเจลหล่อลื่นออกชโลมรีโมทจนชุ่มและทาควานเข้าไปในทางแคบ ก่อนจะลองยัดรีโมทอันนั้นเข้าไปใหม่
ปุ่มเล็กๆบนรีโมทยามครูดผ่านผนังนิ่มให้ความรู้สึกที่แปลกประหลาดจนเนติถึงกับหลุดเสียงครางออกมา
มือขาวจิกทึ้งบนไหล่กว้างเพื่อระบายความเจ็บ แต่ยิ่งกฤษณะดันเข้าออกมากขึ้นเท่าไหร่ ความเจ็บก็ค่อยๆลดลงเพราะถูกแทนที่ด้วยความเสียวซ่านจนสะโพกขาวไม่อาจวางอยู่นิ่งๆได้อีกต่อไป
“คุณกฤษ...อา...คุณกฤษ...ไม่ไหวแล้ว...อ๊า” เนติร้องเสียงหลงเมื่อกฤษณะแกล้งงับคลิบบนยอกอกแล้วดึงเบาๆขณะที่มือก็หมุนรีโมทควานคว้านข้างใน ทั้งเจ็บและเสียวจนเนติเผลอขยับสะโพกรับเร่า
“ไม่...ไม่เอาแล้ว...ขอ...ขอของคุณกฤษ นะครับ...ได้โปรด...”เนติร่ำร้องพลางจิกมือไปบนบ่าแข็งแน่น อารมณ์ที่ถูกเร้าจนสูงลิ่บแต่ไม่อาจไปถึงฝั่งได้ มีเพียงตัวกฤษณะเท่านั้นที่จะทำให้เขาถึงที่สุด
กฤษณะหัวเราะเบาๆ ขณะโยนรีโมททิ้ง และทันทีที่เลื่อนซิบลง ส่วนโป่งนูนจนแทบดันทะลุเนื้อผ้าก็บ่งบอกว่ากฤษณะเองก็ต้องการเข้าไปในร่างบางแค่ไหน
เนติรูดกางกางในสีขาวของกฤษณะลงอย่างร้อนรน เกี่ยวขารอบเอวแข็งแน่นขณะที่ท่อนเนื้อกำยำแหวกช่อง ทางฉ่ำเยิ้มพรวดเข้าไป ได้ยินเสียงเสียดสีถนัดหู
“อ๊า...คุณกฤษ...” เพียงแค่กฤษณะเข้าไปเนติก็ถึงฝั่งแล้ว ร่างบางแอ่นเข้าเบียดกับร่างหนาแน่น ขณะที่ส่วนอ่อนไหวฉีดพุ่งหยาดรักจนเปรอะหน้าท้องแกร่ง สะโพกขาวบดวนจนเหมือนจะขยี้ท่อนลำแข็งแรงให้แหลก
“คุณกฤษ...รักผมสิ...รักผมแรงๆ ผมต้องการคุณ” เนติร่ำร้องแทบเป็นสะอื้นทั้งๆที่เพิ่งถึงจุดสุดยอด แต่เขากลับปรารถนากฤษณะยิ่งกว่าเดิม
สะโพกแกร่งถอนออกจนเกือบหลุดแล้วดันพรวดเข้าไปใหม่ ทั้งหนักหน่วงและรุนแรง แต่สะโพกขาวก็ร่อนรับอย่างทะยานอยาก เสียงเสียดสีของเนื้อดังบาดหูกลับช่วยเร่งเร้าอารมณ์ของคนทั้งสอง
เนติหยัดทรวงอกที่ถูกคลิปหนีบประดับอยู่บนยอดเข้าหาริมฝีปากของกฤษณะ
“กัดผมสิ...กินผม...ผมอยากเห็นรอยของคุณกฤษ” เนติกระซิบสั่งแล้วดึงคลิปหนีบกระดาษโยนทิ้งไป กฤษณะไล้ลิ้นไปบนยอดทรวงช้ำเหมือนจะปลอบประโลม ยอดอกแดงจัดชูชันด้วยอารมณ์ปรารถนาท้าทายสายตาอีกครั้ง
กฤษณะกัดทั้งป้านนมเต็มคำ ขณะที่ลิ้นก็ตวัดเลียปลายยอดที่อยู่ในปาก สร้างทั้งความทรมานและเสียวแสยงจนเนติร้องลั่น ช่องทางแคบเบื้องล่างบีบรัดแรงขึ้นไปอีก ขาเรียวรัดเอวแข็งแน่นกว่าเดิมยามกฤษณะเลื่อนสะโพกขาวหมิ่นขอบโต๊ะเพื่อให้เคลื่อนไหวได้ถนัดกว่าเดิม
แรงเสียดสีส่งผลให้หูของเนติอื้ออึงไปหมด ชายหนุ่มร่ำร้องแต่ชื่อของกฤษณะ ขณะที่สะโพกก็ขยับรับทุกแรงกระทั้นอย่างตั้งใจ ท่อนเนื้อแกร่งร้อนเสียดสีจุดกระสันซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนความความเสียวซ่านเหมือนจะแล่นไปตามแขนขาให้แทบเป็นตะคริว
“คุณกฤษ...อ๊า...อื้มมม” เนติกัดไหล่แข็งเต็มแรงเมื่อเขากำลังจะแตะขอบสวรรค์ กฤษณะเองก็ใกล้จะไปถึงจุดหมาย ชายหนุ่มกระชากสะโพกขาวลงจากโต๊ะ น้ำหนักตัวของเนติทำให้ท่อนเนื้อแกร่งเหมือนแทรกเข้าไปจนมิดยิ่งกว่าเดิม
สองร่างขยับเร้าเข้าหากันสุดแรงก่อนจะครางลั่น ต่างฉีดพ่นหยาดรักล้นปรี่จนหยาดพรูลงบนพรม แล้วกฤษณะก็ทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ทำงานอย่างอ่อนแรง โดยมีร่างบางที่ยังติดเป็นเนื้อเดียวอ่อนระทวยอยู่บนอก
…………………..
แล้วเจอกันคะ ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนท์นะคะ