“ได้สิ” ธนูหยักยิ้ม...ถอดเสื้อยืดของตัวเองออกอย่างรวดเร็ว
“ได้อะไรของมึง” ผมมองเสื้อตัวเองอย่างรังเกียจ นี่ผมใส่เสื้อตัวนี้ทั้งวันได้ยังไง โชคดีนะที่สองพยางค์แรกมันเป็นคำเล็กๆ ไม่สังเกตก็ไม่เห็นน่ะ
รันแม่งแกล้งผมชัดๆ
“กูพูดกับเสื้อ”
สัดเอ๊ย...จะไปตอบข้อความบนเสื้อทำไมกันเล่า
มันเอนตัวลงมาอยู่เหนือของผมอีกครั้ง...ก่อนจะเริ่มทำการถอดเสื้อยืดของผมออก
“จะว่าไป...กูพูดแบบนั้นกับเจ้าของเสื้อดีกว่า”
มันจูบผม...คราวนี้ทวีความเร่าร้อนมากขึ้นเพราะร่างกายเปลือยเปล่าท่อนบนของเรากำลังแนบชิดและก็สัมผัสกัน เมื่ออารมณ์ของผมถูกจุด...ผมก็เริ่มรั้งลำตัวของมันให้เข้ามาใกล้ผม ลูบไล้ไปตามร่างกายแข็งแกร่งฟิตปั๋ง รวมไปจนถึงพยายามปลดกางเกงของมันออกด้วย
“รีบใช่มั้ยเนี่ย” ธนูยิ้มขัน ก่อนจะช่วยผมด้วยการถอดกางเกงตัวเองออก
วันนี้มันใส่อันเดอร์แวร์สีขาวที่มีขอบเป็นตัวอักษรสวย ราคาแพงใช่ย่อย
“ก็...ตามเสื้อ” ผมเฉไฉ แต่คำพูดของผมทำเอาธนูต้องส่งเสียงโอดครวญอย่างน่าฟัง
“โห ไม่ให้กูหลงได้ไงวะแบบนี้”
ความเร่าร้อนนั้นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มันประกบปากผมไปด้วย จัดการถอดกางเกงของผมไปด้วย...และที่เซอร์ไพรส์ผมมากก็คือ...มันเก่งมากในการถอดอันเดอร์แวร์กับกางเกงยีนของผมลงไปในคราวเดียวกัน
แม่ง ตอนนี้ผมก็โป๊น่ะสิ...
ไม่มีเวลาให้มาเขินอาย...ธนูไม่ยอมปล่อยปากของผมให้เป็นอิสระ มันดูดกลืนเอาทุกสิ่งทุกอย่างของผมผ่านทางนั้นจนผมอ่อนระโหยโรยแรง มันไม่ยอมผ่อนแรงอะไรในการจูบผมเลยแม้แต่นิดเดียว
ผมครางแล้วครางอีก ยิ่งมันเอื้อมมือไปก่อกวนกับไอ้หนูที่เริ่มทำตัวแข็ง ผมก็ยิ่งกลั้นเสียงเอาไว้แทบจะไม่อยู่...
มันเร็ว...ในแบบที่ผมชอบ ซึ่งนั่นก็ยิ่งทำให้ผมสติขาดกระเจิง
ริมฝีปากของมันที่อยู่ติดกับปากผมทำงานเร็วประสานกับมือของมัน ผมไม่รู้ผมจะกระตุกวาบกับความรู้สึกที่ส่วนไหนของผมก่อน มันมากมายและก็รู้สึกดีจนในหัวของผมเริ่มขาวโพลน
...ผมคิดอะไรไม่ออกแล้ว
ก่อนที่ผมจะรู้ตัว ธนูมันก็ขยับไปกลางลำตัวของผม มือของมันเปลี่ยนมาจับมือของผมเอาไว้แทนก่อนจะบีบแน่นและแทรกนิ้วเข้ามาสอดประสาน
ฉิบหาย
นี่มันเรียกว่าเมคเลิฟกันชัดๆ มาจับมงจับมืออะไรกันเนี่ย...
มืออีกข้างของมันยังคงหยอกล้ออยู่กับไอ้หนูของผม มันมองหน้าผมด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหมาย...
“กูยอมแล้ว”
ยอม...ยอมอะไรวะ
“ยอมมึงทุกอย่างแล้วจริงๆ นะ”
ผมขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ แต่นั่นเป็นภาพที่ทำให้ธนูรู้สึกปรารถนาผมมากขึ้น อาจเป็นเพราะผมกำลังหน้าแดงก่ำ อีกทั้งลำตัวของผมยังชื้นเหงื่อ นั่นมันคงจะทำให้...
“ฮึก”
ผมตัวงอและคิดอะไรไม่ออกทันทีหลังจากที่โดนธนูกระทำการโอบรอบส่วนนั้นของผมผ่านทางปาก...มันปล่อยมือผมเพื่อที่จะไปควบคุมบริเวณสะโพกของผมให้ตรงกับสิ่งสัมผัสที่มันกำลังจะยื่นให้ ผมครางอย่างหลอมละลาย...ใกล้จะใจขาดกับริมฝีปาก ลิ้นที่เกี่ยวกระหวัดอย่างรู้งาน และเสียงดูดดุนที่เรียกได้ว่านำพาความเสียวซ่านสุดยอดมาให้ผม
อา...ผมใกล้จะตายแล้วจริงๆ นะ
มือของผมเริ่มคว้าไปทั่วอย่างสะเปะสะปะจนมาหยุดอยู่ที่ศีรษะที่ผมนุ่มละมุน...มันยอมให้ผมควบคุมจังหวะของมันผ่านทางการสัมผัสศีรษะกดเข้ากดออก...นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ทำให้ผมรู้สึกประทับใจมันจนแทบคลั่ง
มันมากเกินไปแล้วว่ะ...
ธนูสัมผัสส่วนนั้น ตั้งใจดูดความหวานจากปลายโคนจนเกือบจะถึงส่วนที่ลึกที่สุด ผมได้แต่ร้องครวญครางอย่างกระวนกระวาย เสียวซ่านจนเกินกว่าจะอดกลั้นไหว หลงใหลกับทุกสิ่งทกอย่างที่ธนูมันมอบให้
มันยอมให้ผมอย่างที่มันพูดจริงๆ ด้วย...
ผมจับศีรษะของมันให้ผละออก เพราะกลัวตัวเองจะไปถึงจุดนั้นก่อนมัน...มันมองหน้าผมทั้งๆ ที่ปากมันยังคงง่วนอยู่กับส่วนนั้นของผม แต่เมื่อผมส่งสัญญาณ มันก็ทำการผละออกแต่โดยดี
ของเหลวบางอย่างติดปากของมันออกมาด้วยจนมันต้องปาดออก...
“เกือบแล้ว” ผมกระซิบเสียงพร่าและหอบเบาๆ
“ไม่เสร็จไปเลยล่ะ” มันถาม
“อีกนิดดีกว่า”
ธนูดูพึงพอใจ มันขยับร่างไปจับขาของผมจนผมตัวพับเหลือเพียงครึ่ง ไอ้หนูที่พร้อมใช้งานกลับเข้ามาทำร้ายตัวผมเองด้วยการทิ่มหน้าท้องผมเล็กน้อย...ส่วนล่อแหลมของผมนั้นอยู่ด้านหน้าของธนู มันชัดและก็ดูง่ายดายจนคล้ายกับเชิญชวน...ผมไม่รู้ตัวว่าผมส่งสีหน้าอะไรออกไป แต่ก็คงเป็นสีหน้าที่ถูกใจธนูมากมายพอดู...
ดวงตาของมันดูหวานเยิ้มจนเกินสภาวะปกติ...นั่นแหละที่เรียกว่าดวงตาของธนูคนหื่น
มันจับบริเวณช่องนั้นของผมอย่างแผ่วเบาและสำรวจ...ถ่มน้ำลายของตัวเองลงกับนิ้วเพื่อที่จะใช้นิ้วนั้นสอดแทรกชอนไชเข้ามาอย่างเนิบนาบและเชื่องช้า
ผมได้แต่ส่งเสียงครางอย่างเสียววาบ...ยิ่งได้เห็นความเพอร์เฟ็กต์ทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้า ผมก็ยิ่งรู้สึกปรารถนาทุกสิ่งทุกอย่างจากชายที่อยู่ตรงหน้านี้
อยากให้มันเป็นของผมแต่เพียงคนเดียว...
รัก หลงใหล และก็หวงแหน...นี่คือทุกอย่างที่อยู่ในใจของผม
สิ่งเหล่านั้นมันบอกธนูผ่านการยอมมันทุกอย่างในแบบที่ผมไม่เคยยอมให้ใครมาก่อน...ผมไม่เคยต้องหน้าแดงหรือครวญครางกับทุกการขยับของใครขนาดนี้มาก่อน
แค่นี้ก็น่าจะเป็นคำตอบให้กับสิ่งที่ผมสงสัยนั่นแล้วล่ะมั้ง
ลำตัวท่อนบนผมแทบจะบิดเป็นเกลียวเมื่อมีอีกหลายๆ นิ้วของธนูแทรกเข้ามา มันสำรวจส่วนนั้นของผมจนผมจะใกล้บ้าคลั่ง...นึกอยากให้มันจัดการผมเร็วๆ ด้วยอวัยวะที่แท้จริงของมัน
แต่ก็นั่นแหละ...บางทีระหว่างทางมันก็สุขสมพอๆ กันปลายทาง ท่าทางธนูมันก็คงจะรู้ความจริงข้อนี้อยู่เหมือนกัน
มันหยิบเจลหล่อลื่นขึ้นมาแล้วใช้นิ้วที่เต็มไปด้วยเจลนั้นจาบจ้วงส่วนหลังของผม ค่อยๆ ทำให้ผมเคยชินกับอะไรบางอย่างที่จะเข้ามาอยู่ในตัวอย่างใจเย็น ผมได้แต่หลับตาพริ้ม บิดตัวไปมาด้วยอารมณ์ที่ยากเกินกว่าจะอธิบาย
มันเอ่อล้นจนใกล้จะระเบิด...ต้องการคนตรงหน้าจนยกมือขึ้นมาไขว่ค้าสะเปะสะปะและครวญคราง ผมมองใบหน้าธนูด้วยนัยน์ตาปรือเพราะอยากรู้ว่ามันกำลังรู้สึกอะไรอยู่
มันเพิ่งหมดความอดทน ต้านความต้องการทั้งหมดนั่นไม่ไหวอีกต่อไป
มือของมันเอื้อมไปหยิบคอนดอมที่บริเวณปลายเตียง ส่วนผมขยับขาลง...มองดูการกระทำของธนูทุกอย่างด้วยสายตาที่หวานเยิ้มพอๆ กันกับมัน จนกระทั่งมันพร้อม...มันก็มองผมราวกับต้องการรอคอยให้ผมพยักหน้าอนุญาต
ผมไม่ได้พูด...แต่ขยับเล็กน้อยเพื่อเป็นการเชิญชวน
มันยิ้มเล็กน้อยขณะที่จับขาทั้งสองข้างของผมให้แยกออก แล้วค่อยๆ โน้มตัวลงมาเพื่อให้ใบหน้าของมันกับใบหน้าของผมอยู่ใกล้ๆ กัน....ริมฝีปากมันจรดลงบนริมฝีปากของผม จากนั้นมันก็จับอวัยวะที่แข็งขืนของมันเข้าสู่ตรงกลางระหว่างลำตัวผมช้าๆ
ผมต้องคว้าลำตัวของมันมายึดแน่นเพื่ออัดอั้นความเสียวซ่าน...ความหน่วงหนักที่บริเวณกลางลำตัวนั้นมันคือสัมผัสที่ผมไม่คุ้นเคย แม้จะโหยหา...แต่ผมก็ยังไม่เคยชินกับมันอยู่ดี
ธนูค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป...มันกัดฟันมองดูสีหน้าผมระหว่างที่มันค่อยๆ ขยับสะโพกเข้ามามากขึ้น
จากส่วนปลายจนค่อยๆ ฝังลึก...ผมจิกเล็บมือที่ผ่านหลังของมันอย่างสุดจะกลั้น...เนิ่นนานทีเดียวว่าส่วนแข็งนั่นจะเข้ามาในตัวผมจนคับแน่น
ธนูพ่นลมใส่หน้าผมพร้อมกับครางในลำคอราวกับว่านี่คือสวรรค์ที่มันฝันหา ฟันของผมกระทบกันด้วยความรู้สึกเสียวซ่านจนกลายเป็นส่งเสียงลามก...มันมาจากธรรมชาติที่ผมห้ามมันไม่ได้ สิ่งที่ผมกับธนูกำลังทำมันให้ความรู้สึกเจ็บปวดที่แสนหวาน
การที่ผมตระหนักได้ว่าผมกับมันกำลังเป็นหนึ่งเดียวกัน...ยิ่งทำให้ผมรู้สึกเหมือนกับว่าล่องลอยอยู่ในสวรรค์
“แฮ่ก...ดูของมึงดิ”
ธนูจับส่วนนั้นของผมที่อยู่บริเวณหน้าท้องของเราทั้งสองคน มันแข็งปั๋งไม่แพ้กับของธนู...
“กูเอง” ผมบอกมัน มือหนึ่งจึงคว้าลำคอของมันมาจูบ ขณะที่อีกมือหนึ่งก็ให้ความสุขกับส่วนนั้นของตัวเองไปด้วย
ธนูค่อยๆ เร่งจังหวะ...สอดประสานมือทั้งสองข้างไว้ที่ใต้ศีรษะของผมก่อนจะค่อยๆ กระแทกเข้ามาหนักมากขึ้น ผมปล่อยมือจากลำคอของมัน เริ่มไขว่คว้าแผ่นหลังของคนที่อยู่เหนือร่างราวกับต้องการหาที่พึ่งอีกครั้ง...
เตียงขยับเป็นจังหวะตามร่างของชายหนุ่มอย่างเราทั้งสองคนที่สอดประสานกัน...ธนูเร่งเร้าอย่างเร่าร้อนจนผมได้แต่ครางร้องเรียกชื่อมันจนฟังไม่เป็นภาษา แต่ที่แน่ๆ...มันเต็มไปด้วยชื่อของมัน ซึ่งยิ่งผมเรียก อีกฝ่ายก็จะยิ่งได้ใจ กดส่วนนั้นเข้ามาในร่างของผมให้ลึกที่สุดโดยที่ผมแทบจะทานทนความเสียวซ่านนั้นไม่ไหว...
ในที่สุดผมก็ถึงฝั่งฝันก่อน...ธนูผ่อนแรงลง ช่วยหยิบทิชชูให้ผมมาจัดการทำความสะอาดแบบเร็วๆ ผมที่หายใจหอบมองมันด้วยสายตามึนๆ เบลอๆ ความสุขสุดยอดอย่างเต้นตุบๆ อยู่ตรงอวัยวะส่วนนั้นไม่หาย
แต่มันยังไม่จบ...
ผมผลักตัวมันออก...จับตัวมันให้ไปนั่งพิงกับเตียงแล้วค่อยๆ คร่อมเจ้าหนูของอีกฝ่ายที่ตั้งตรงชี้ฟ้าช้าๆ
“เฮ้ย เซอร์ไพรส์ว่ะ”
มือของผมแกล้งปิดปากของธนูเอาไว้ระหว่างที่พยายามนั่งในท่าที่สะดวกที่สุด...บอกตามตรงว่า...มันจุกเสียดมาก ผมต้องจิกไหล่ธนูอยู่หลายต่อหลายครั้งกว่าที่ส่วนนั้นของมันจะเข้ามาอยู่ในช่องทางทางด้านหลังของผมจนสุด
ใบหน้าของคนตรงหน้าอยู่ใต้คางของผม...มองผมอย่างหลงใหลไม่มีปิดบัง มือทั้งสองของมันจับสะโพกของผมพร้อมๆ กับบีบไปมา...รอคอยให้ผมขยับเพื่อมอบความสุขให้กับมัน
ผม...สติหลุดไปหมดแล้ว
ทั้งๆ ที่ไม่เคยทำ...แต่ผมกลับขยับขึ้นลงได้อย่างรู้จังหวะจะโคน ธนูครางออกมาราวกับมันอยู่บนสวรรค์ พร่ำบอกผมว่าถูกใจนักหนา...บางครั้งมันก็กอดรัดผมแน่น แต่ในบางครั้งมันก็ชอบวางมือไว้ที่เอวของผมสลับกับสะโพกของผม
ผมชอบที่จะมองหน้ามันตอนที่มันมีความสุขเพราะผม...ชอบฟังเสียงมันครวญคราง...ชอบนัยน์ตาเยิ้มที่มองผมอย่างหื่นกามปนหลงใหล...ทุกสิ่งทุกอย่างสร้างความสุขให้ผม พอๆ กับที่ผมสร้างความสุขให้มัน
เหมือนเราทั้งคู่กำลังล่องลอยไปอยู่ในที่เดียวกันยังไงยังงั้น...
ผมหอบเหนื่อยแต่ธนูก็ยังไม่สิ้นสุด...มันยิ้ม ฝังใบหน้าของมันไว้กับอกแกร่งของผม แอบฝังริมฝีปากบนนั้นสองสามครั้ง ก่อนจะคว้าตัวของผมให้ลงไปนอนราบกับเตียงตามเดิม เพียงแต่ศีรษะของผมไปอยู่เกือบจะสุดปลายเตียง
“ขอนะ” ธนูกระซิบ จับตัวผมให้นอนกึ่งคว่ำกึ่งตะแคง แล้วค่อยๆ นำส่วนนั้นเข้ามาในตัวของผมอีกรอบ คราวนี้การขยับของมันเพิ่มความเร่าร้อนจนถึงขีดสุด...ผมเสียวซ่านจนต้องไขว่คว้าอะไรบางอย่างเพื่อต้องการบีบมัน จนในที่สุดผมก็กลายเป็นนอนคว่ำ โก่งสะโพกให้คนที่กำลังคุกเข่าอยู่บนเตียงได้จัดการกับความสุขของผมกับมันสองคนอย่างสะดวก
เป็นความรู้สึกที่ผมไม่รู้จะอธิบายยังไง...
เหงื่อของผมไหลไปพร้อมๆ กับน้ำตาที่ปริ่มขอบ มันทั้งเจ็บทั้งหวานและวาบหวามอย่างยากที่จะเอื้อนเอ่ย อีกฝ่ายก็ไม่ปราณีให้ผมได้พักหายใจหายคอ ยิ่งผมร้องครวญครางเสียงดังราวใจจะขาด มันก็ยิ่งกระแทกอย่างหนักหน่วง
เราทั้งคู่ได้ใช้เวลาร่วมกันอย่างมีความสุขขั้นสุดยอด
ทุกการขยับจังหวะ ทุกเสียงครวญคราง กลิ่นเหงื่อของเราที่สอดผสานรวมกันเหมือนร่างกายของเรา นั่นเป็นหลักฐานแห่งความสุขของเราทั้งคู่ได้เป็นอย่างดี
จนในที่สุด...เมื่อตอนที่ผมร้องจนสุดเสียงที่สุด ธนูก็ได้ถึงสวรรค์...
มันจับตัวผมพลิกให้นอนราบ โน้มตัวมามอบจูบแสนหวานให้กับผมที่ริมฝีปาก ผมที่มีเหงื่อตกลูบหลังศีรษะของมันเบาๆ พร้อมกับหอบ
มันจุ๊บแก้มของผม จมูกของผม และก็หน้าผากของผม...แล้วมันก็ซบใบหน้าไว้ที่ข้างใบหูของผม
เสียงหอบของมันดังสะท้านอยู่ในหู...กลิ่นของการทำรักของเรายังคงตลบอบอวลไปทั่วอาณาบริเวณ
“มีอะไรจะถามมึงด้วยว่ะ” ธนูเอ่ยเสียงอู้อี้
“หือ”
“ไปนอนกับกูที่ร้านได้ป่ะ”
มันมาคุยเรื่องนี้กับผมทำไมตอนนี้....ผมยังหอบไม่หายเลย “ได้สิ”
“แดดดี้ไม่ว่าใช่มั้ย”
“กูอายุยี่สิบกว่าแล้วนะ”
มันยิ้ม...หันมามองหน้าผมจากนั้นก็มอบจูบแสนหวานให้กับผม
เฮ้อ กูก็ยอมมึงทุกอย่างเหมือนกันนั่นแหละ ธนู...
ผมไม่รู้ว่าหลังจานั้นภายในห้องนั้นมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง คือมันมากมายจนผมอธิบายไม่ไหว...สิ่งที่ผมนึกได้มีเพียงแต่ร่างกายเปลือยเปล่าสุดแข็งแกร่งของธนูที่ไม่ยอมปล่อยให้ร่างกายของผมได้อยู่ห่างๆ เลยแม้แต่วินาทีเดียว มันจึงลงเอยด้วยการที่ว่าผมกับมันมีจังหวะรักอยู่แทบทุกพื้นที่ในห้องนอน ทั้งขอบเตียง ปลายเตียง บนโซฟาเดี่ยว โซฟาคู่ หรือแม้กระทั่งบนพื้น...
เพิ่งรู้เดี๋ยวนี้นี่เองว่ามันซื้อถุงยางมาเยอะมากกกก
ผลที่เกิดขึ้นจึงพบว่าร่างกายของผมอ่อนปวกเปียกในท้ายที่สุด
เฮ้อ...มันไปอดอยากมาจากไหนกันวะ
แต่ก็ใช่ว่าผมจะปล่อยให้มันได้เปรียบผมอยู่ฝ่ายเดียว เพราะผมได้ทิ้งรอยข่วนจากเล็บของผมไว้ตามร่างกายของมัน ทั้งข้างหน้าและก็ข้างหลัง ทั้งท่อนบนและก็ท่อนล่าง...ทุกร่องรอยคือหลักฐานสำคัญว่าผมกับมันเพิ่งผ่านอะไรด้วยกันมาอย่างเร่าร้อน ซึ่งมันก็...ดี
ดีมากเลยนั่นแหละ
ก่อนที่เราจะออกมา...ผมก็ได้แต่อึ้งกับเศษกระดาษห่อถุงยางที่กระจายเกลื่อนไปทั่ว เจ้าของพวกนั้นทิ้งแต่ถุงยางใช้แล้ว แต่ไม่ทิ้งเศษกระดาษห่อ ผมถลึงตามองมันครั้งหนึ่ง มันจึงได้จัดการของพวกนั้นไม่ให้เป็นปัญหาของแม่บ้าน
อา ผมรู้สึกเพลียมากๆ เลย...
ขากลับนั้นช่างแตกต่างกับขามาเหลือเกิน...ผมไม่ได้เขินอีกต่อไปแล้ว ในหัวของผมมันมีแต่ความง่วงและก็อยากนอน ผมเดินโซซัดโซเซจนในที่สุดธนูมันก็ทนไม่ไหว จับมือผมเอาไว้แล้วก็ปล่อยให้ผมซบไปกับหลังของมันระหว่างเดินตามมันไป
ตอนที่มันขับรถกลับร้าน...ผมหลับสนิท
ตอนที่มันขับจนถึงร้าน...ผมสะลึมสะลือ สิ่งเดียวที่ผมต้องการก็คือเตียงนอนที่ไหนสักที่
รู้ตัวอีกทีหลังของผมก็ราบไปกับเตียงบนชั้นสองซึ่งเป็นของธนูแล้ว...ผมหลับตาทันทีที่หัวถึงหมอน รู้สึกได้ว่ามีศีรษะของใครบางคนพยายามขยับเข้ามาเพื่อที่จะได้นอนใกล้ๆ กัน
เตียงของธนูมันเป็นควีนไซส์ ซึ่งนั่นมันก็น่าจะเป็นปัญหาสำหรับชายหนุ่มที่สูงร้อยแปดสิบกว่าๆ อย่างผมกับมัน
แต่ไอ้บ้านี่มันแคร์ที่ไหน...
“รบ กูรักมึง” มันพูดออกมาก่อนที่จะมันจะนอน
นี่มันคิดว่าผมไม่ได้ยินเหรอออออ
แม้จะทั้งเหนื่อยทั้งเพลีย...แต่คำพูดนั้นก็ทำให้ผมเกือบตื่นเต็มตาเหมือนกัน
...ผมขี้เกียจคิดคำพูดใหม่ว่ะ ขอก็อปแม่งมาทั้งยวงเลยก็แล้วกัน
หวังว่าคนฟัง...มันจะรู้สึกดีฉิบหายเหมือนตอนที่ผมได้ฟังนะ
“ธนู กูรักมึง”
ผมหลับตาหลังจากพูดจบ...อีกฝ่ายมันคงหลับไปแล้วล่ะมั้งเพราะมันไม่ได้แสดงท่าทีอะไร แต่ในขณะที่ผมกำลังจะหลับ...ริมฝีปากของธนูก็มาฝังอยู่บนหน้าผากของผมอย่างแผ่วเบาและยาวนาน
“กูดีใจมากนะ” มันกระซิบข้างหู “มึงหลับได้แล้ว...อยากจะตื่นตอนไหนก็ตื่น”
ผมไม่มีพลังงานมากพอที่จะตอบด้วยซ้ำ...
[การ์ด]
ธนูแม่งกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่วะ
ผมมองหน้าเพื่อนทุกคนขณะทานอาหารเช้า ทุกคนรู้ดีว่าธนูมันกลับนอนอยู่ข้างบนเป็นที่เรียบร้อยเพราะเห็นรถที่มันขับออกไปกลับมาจอดที่เดิม และในระหว่างที่ผมกำลังมึนๆ งงๆ อยู่นั่นเอง ธนูผู้ที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จและก็มีกลิ่นหอมฟุ้งก็เดินลงมาจากชั้นสองด้วยความสดชื่น
เชี่ย เช้านี้พ่อเจ้าประคุณเขาอารมณ์ดีว่ะ
“ไหนล่ะข้าวเช้า” มันมองหาอาหารที่โต๊ะก่อนเป็นอันดับแรก
ไอ้โฮมตื่นตกใจมาก...เพราะมันลืมทำ “อยากกินไรล่ะจะรีบไปทำให้”
“อืม เอาอะไรก็ได้”
นอกจากจะไม่ด่าแล้วมันยังไม่เรื่องมากอีกต่างหาก เจ้าตัวทิ้งตัวลงนั่งที่หัวโต๊ะ เคาะนิ้วระหว่างรอโฮมไปทำกับข้าวมาให้ ผมกับไอ้ยุยังคงมีสีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย ส่วนไอ้ก้อง...แม่งทำสีหน้าเหมือนเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
มันรู้อะไรบางอย่าง...แต่มันไม่บอกผม
“คุยงานกันเลยดีกว่า”
เชี่ย ผมเกือบสำลักข้าวแล้ว คนอย่างไอ้ธนูจะมาคุยงานอะไรตอนนี้กัน ปกติเช้าๆ แบบนี้แม่งนั่งไถโทรศัพท์ส่องดูไอจีของรบไม่ใช่หรือไง
“วันนั้นกูขอโทษที่กูทิ้งร้านไปให้พวกมึงกับรบดูแล...เพราะงั้นต่อไปนี้กูจะเปลี่ยนเวลาไปยิมกับเวลาไปซ้อมตีกลอง” มันเป็นการเป็นงานซะจนผมขนลุก “การ์ด มึงมีอะไรมาจดไว้ป่ะ”
ได้ครับเจ้านาย...ผมรีบไปหาสมุดมาจดเวลาออกไปข้างนอกของไอ้ธนู มันเป็นกำลังสำคัญของร้าน อีกทั้งยังเป็นเพียงคนเดียวที่ต่อกรกับไอ้พี่นทีได้ ฉะนั้น...ผมคิดว่ามันคิดถูกแล้วล่ะที่มันเลือกจะอยู่ร้านตั้งเก้าสิบห้าเปอร์เซ็นต์ตลอดเวลายี่สิบสี่ชั่วโมงของมัน
นอกจากมันจะประกาศว่าจะอยู่ร้านนานขึ้นแล้ว มันยังบอกแผนการโปรโมตร้านซะละเอียดยิบเหมือนไปนอนคิดมาทั้งคืน ซึ่งแผนของมันดีมาก เรียกได้ว่าลูกค้าจากทั่วทุกสารทิศคงจะชอบเพราะมีการลดแลกแจกแถมกระหน่ำ
“บ่ายนี้คงเปิดไหวใช่มั้ย” มันมองไปรอบๆ ร้านที่ดีขึ้นกว่าเดิมเยอะเนื่องจากผมกับเพื่อนได้ทำการซ่อมเมื่อวานตลอดทั้งวัน
“ยังเหลืออีกนิดหน่อยว่ะ” ก้องชี้มือไปที่โต๊ะเก้าอี้ที่หักในบางส่วน “เดี๋ยวกูจะรีบโพสต์ในเพจ มีลูกค้ามาถามเยอะเลยว่ะว่าร้านจะเปิดอีกทีตอนไหน”
“อืม ค้อนกับตะปูอยู่ไหนล่ะ” ธนูลุกขึ้น ทำท่าจะไปซ่อมด้วยตัวเอง ผมมองตามก่อนจะรีบตักข้าวเข้าปากเพราะไม่อยากให้เจ้านายทำงาน ในขณะที่ผมมานั่งกินข้าวสบายใจเฉิบ
“ก้อง”
“...” คนถูกเรียกมัวแต่วุ่นกับการมองตามไอ้ธนู
“ไอ้เชี่ยก้อง แม่งเกิดอะไรขึ้นวะ”
ผมกับยุสงสัยซะจนตัวจะระเบิดอยู่แล้ว จากคนที่ปล่อยงานไว้กับพวกผมเกือบทั้งหมดกลายเป็นคนที่มาลงมือทำงานเองได้ยังไง นึกให้ตายยังไงก็นึกไม่ออก
หรือว่า...เพราะมันลากรบเข้าโรงแรมได้สำเร็จ
เชี่ย ผมว่าใช่แน่ๆ
แต่คำตอบของก้องนำพาความเซอร์ไพรส์มากกว่านั้นอีก
“รบค้างกับมันที่นี่ กูเห็นมันจูงมือรบขึ้นไปข้างบนตอนเช้ามืด”
เหยดดดดดด
นี่มันเกินกว่าที่ผมคาดคิดเอาไว้ไปประมาณหนึ่งล้านเลเวล นึกว่าแค่สองคนนั้นไปนอนด้วยกันที่โรงแรมแล้วมันจะจบ แต่มันกลับมีภาคต่อซะงั้น
เข้าใจแล้วว่าทำไมเพื่อนผมถึงดูดีมีความสุขนักหนา
มันคงไปเติมกำลังใจกับรบมาซะจนเต็มแทบล้นทะลักสินะ...
ในที่สุดธนูมันก็เอาใจใส่ร้านเต็มหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์สักที...คอยดูความจริงจังของมันได้เลย ถ้ามันได้ทำอะไรสักอย่างอย่างทุ่มเข้าไปเต็มร้อยล่ะก็...มันจะมีแต่สำเร็จ สำเร็จ และก็สำเร็จ!
ต้องขอบคุณรบมันด้วยนะเนี่ย...พวกผมทั้งสี่คนก็ต้องมีเงินสำหรับกินและก็ใช้เหมือนกัน
To be continued