ขอโทษที่หายหัวไปนะครับ มีธุระปะปังกะทันหันนิดหน่อย
ต่อเลยนะครับ
KOUSOKU 18
ร่างสูงกลับเข้ามาถึงห้องของคัตซึฮิโกะเมื่อตอนใกล้สาง เขาพยายามเคลื่อนไหวอย่างแผ่วเบาเพื่อไม่ให้รบกวนคนที่นอนอยู่ แต่คนนอนไวอย่างคัตซึฮิโกะก็รู้สึกตัวตื่นจนได้
“กลับมาแล้วเหรอ?” เจ้าของห้องถามขึ้นก่อนที่แสงโคมไฟบนโต๊ะหนังสือจะสว่างจ้า
“อืม” เซย์ริวตอบสั้น ๆ พลางถอดเสื้อยืดที่ชื้นเหงื่อออกแล้วควักเงินจำนวนหนึ่งวางบนโต๊ะ
คัตซึฮิโกะมองเงินพวกนั้นแล้วถอนใจนิด ๆ
“ไปจี้เขามาอีกแล้วเหรอ?”
“จะบอกให้ฉันเลิกหรือไง?” ผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ถูกหยิบมาพันรอบเอวก่อนที่ชายหนุ่มจะถอดกางเกงตัวเองออก
“ก็เปล่าหรอก แต่ถ้าไม่มีเงินก็น่าจะบอกผมก็ได้” ร่างเพรียวยันกายลุกขึ้นนั่ง
“เงินแกมีพอใช้หรือไงล่ะ แค่จะกินยังอด ๆ อยาก ๆ แกน่ะ เก็บเงินไปให้หมอมาสะเถอะ ฉันหากินของฉันเองได้” เสียงนั้นสั้นห้วนแต่มีแววหยิ่งทะนงอยู่ในตัว
“อืม...แล้วบาดเจ็บมาอีกหรือเปล่า?”
“ถ้าวันไหนเจ็บฉันจะไปหาหมอเอง แกน่ะนอนไปเถอะ อีกนานกว่าจะนาฬิกาแกจะปลุก” เซย์ริวบอกเป็นคำสุดท้ายก่อนที่จะเข้าห้องน้ำไปชำระร่างกาย
คัตซึฮิโกะเอนตัวกลับลงนอนโดยหันหน้าเข้าผนังเพราะแสงไฟบนโต๊ะยังส่องสว่างแยงตา...ถูกแล้ว เซย์ริวจะไปปล้นฆ่าใครก็เป็นเรื่องของเซย์ริว ไม่เกี่ยวกับเขา ตอนนี้เขาคิดแค่ว่าทำอย่างไรจะอยู่รอดและหาเงินไปใช้หนี้หมอมาซาฮิเดะให้หมดได้ก็พอ ชายหนุ่มหลับตาลงพลางนอนฟังเสียงน้ำไหลไปเรื่อย ๆ รู้สึกตัวอีกทีก็เมื่อที่นอนอีกด้านยุบยวบลงและมีไออุ่นเข้ามาแนบชิดทางด้านหลัง ในฤดูร้อนเช่นนี้บางทีเขาก็อยากถีบเซย์ริวให้ตกเตียงเพราะความอบอ้าว แต่เมื่อไม่มีทางแก้ไขให้อะไรมันดีขึ้น เขาก็อดทนมาจนเริ่มจะชินด้วยกันทั้งคู่แล้ว คัตซึฮิโกะขยับตัวไปชิดผนังห้องซึ่งเย็นกว่าอากาศในห้องนิดหน่อยแล้วผล็อยหลับไป
ร่างเพรียวลุกจากเตียงมาอาบน้ำแต่งตัวเตรียมจะไปทำงานหลังจากที่นาฬิกาปลุกไม่นานนัก ในขณะที่คนร่วมห้องของเขายังเหยียดยาวอยู่บนเตียง เงินที่วางอยู่บนโต๊ะจำนวนค่อนข้างมากทีเดียว เผลอ ๆ อาจจะมากกว่าเงินเดือนของเขาเสียด้วยซ้ำ เซย์ริวคงไปตกเหยื่อตัวใหญ่มาอีกแล้ว...แต่ดูเหมือนว่าช่วงนี้เซย์ริวจะหาเงินบ่อยเกินความจำเป็น แค่ลำพังหาอยู่หากินกันไปทุกวันนี้พวกเขาก็ประหยัดกันพอ เรื่องเงินแทบไม่ได้เดือดร้อนอะไรเลย แล้วทำไมเซย์ริวต้องออกไปล่าเหยื่อเป็นประจำแบบนี้ด้วยนะ…ชายหนุ่มได้แต่คิดเช่นนั้นแล้วออกจากบ้านไป
คัตซึฮิโกะทำงานไปเรื่อย ๆ อย่างสบายอกสบายใจ วันนี้มีคนมาสั่งช่อดอกไม้ค่อนข้างมาก ฝีมือการจัดช่อดอกไม้ของเขาดีขึ้นเรื่อย ๆ จนคุณป้าออกปากชม แต่ในขณะเดียวกันไม่ได้ละเลยที่จะดูแลต้นไม้ในกระถาง เดี๋ยวนี้คนที่นิยมซื้อต้นไม้ทั้งกระถางไปให้กันเป็นของขวัญก็มีไม่น้อย
“ซาโนะคุง วันนี้ป้าจะปิดร้านเร็วหน่อยนะ” คุณป้าบอกเมื่อตอนบ่ายแก่ ๆ
“มีธุระเหรอครับ?”
“ใช่ หมอเขานัดไปตรวจหูน่ะ มันชักจะเริ่มตึง ๆ แล้ว” คุณป้าพูดอย่างไม่เดือดร้อนอะไรนัก มันเป็นเรื่องธรรมดาของคนอายุไม่น้อยแล้วอย่างเธอที่ร่างกายจะเสื่อมโทรมลงบ้าง
“ครับ งั้นก็เริ่มเก็บต้นไม้เลยแล้วกันนะครับ” คัตซึฮิโกะรับทราบแล้วก็ทยอยเก็บกระถางต้นไม้ที่วางอยู่นอกร้านเข้ามาด้านใน
งานทั้งหมดเสร็จตั้งแต่ตะวันยังไม่ตกดิน คัตซึฮิโกะจึงตัดสินใจโทรไปหานัตสึเพื่อจะบอกว่าวันนี้เขาว่างพอจะไปกินมื้อเย็นด้วยที่บ้าน เสียงจากอีกฟากของโทรศัพท์ร่าเริงจนคัตซึฮิโกะนึกขำ...นัตสึเหมือนลูกหมาแบบที่เซย์ริวเคยว่าไว้จริง ๆ ด้วย
“อย่าลืมนะ นายต้องเป็นคนทำให้ฉันกินด้วย ห้ามให้คุณแม่ทำให้เด็ดขาดเลยนะ” คัตซึฮิโกะย้ำสัญญาเมื่อวาน
“ทำน่า พี่ไม่ต้องห่วงหรอก เดี๋ยวจะโชว์ฝีมือเต็มที่เลย”
“อืม ดี งั้นไว้หกโมงเจอกันที่บ้านนายนะ”
“โห...อีกตั้งชั่วโมงกว่า ทำไมพี่ไม่มานั่งเล่นที่บ้านก่อนเลยล่ะ คุณแม่ก็อยู่เนี่ย”
คัตซึฮิโกะไม่อยากจะบอกว่าเพราะคุณแม่อยู่นั่นแหละ ถึงได้ไม่อยากไปรอที่บ้าน เพราะเขารู้ดีว่านัตสึคงไปขอให้คุณแม่หาทางคุยกับเขาเพื่อหว่านล้อมให้เขาไปอยู่ด้วยกันเสียที่บ้าน บ้านของนัตสึเห็นเขาเป็นลูกชายคนหนึ่งมานานแล้ว เพียงแต่ตัวเขาเองที่เป็นคนเว้นระยะห่างเอาไว้...นั่นเป็นครอบครัวของนัตสึ ไม่ใช่ครอบครัวของเขา...
“ฉันว่าจะไปหาซื้ออะไรหน่อยน่ะ ไว้เจอกันตอนหกโมงแหละ ระหว่างนี้นายก็ทำกับข้าวรอให้ดี ๆ ก็แล้วกัน ไม่อร่อยจะประจานด้วย” คัตซึฮิโกะตัดบท
“ก้อด้าย...รีบ ๆ มานะพี่นะ” นัตสึยังไม่วายทำเสียงงอแง
“อื้ม แล้วจะรีบไป” ชายหนุ่มบอกก่อนวางสายโทรศัพท์
คัตซึฮิโกะเตร็ดเตร่ฆ่าเวลาอยู่แถว ๆ บ้านนัตสึ ที่นี่มีสวนสาธารณะอยู่ใกล้ ๆ ต้นไม้เขียว ๆ ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกผ่อนคลายดีทีเดียว เขาเพิ่งรู้ตัวตอนที่ไปขายต้นไม้นี่เองว่าสิ่งเหล่านี้มันทำให้ชีวิตสดชื่นขึ้นมากแค่ไหน
ร่างเพรียวนั่งชมนกชมไม้จนเกือบจะงีบหลับ ถ้าไม่บังเอิญนึกขึ้นมาได้ว่าถึงเวลานัดแล้ว เขาลุกจากม้านั่งยาวอย่างขี้เกียจ ๆ แล้วเดินลากเท้าไปยังบ้านของนัตสึ นิ้วเรียวกดกริ่งหน้าบ้านแล้วรอเพียงไม่นานใบหน้าคุ้น ๆ ก็โผล่มาเปิดประตูให้
“อ๊ะ มาแล้ว ๆ ”
“หวัดดี นัตสึ”
“หวัดดี คัตจัง เข้ามาเร็ว ฉันตั้งกระทะไว้บนเตา เดี๋ยวไหม้” นัตสึเร่ง
คัตซึฮิโกะกลั้นยิ้มนิด ๆ เขารู้ว่านัตสึไม่เคยถนัดเรื่องงานครัวเลย เพราะเขาเป็นคนทำให้กินมาตลอด ชายหนุ่มถอดรองเท้าแล้วก้าวเข้าบ้าน
“รบกวนหน่อยนะ...แล้วคุณแม่ล่ะ?”
“แม่นั่งลุ้นอยู่ในครัวแน่ะ เข้าไปคุยกับแม่สิ”
“อื้ม” คัตซึฮิโกะตอบรับสั้น ๆ แล้วเดินตามนัตสึเข้าไปในครัว
หญิงวัยกลางคนที่นั่งอยู่ในครัวมีสีหน้าดีใจมากเมื่อเห็นหน้าคัตซึฮิโกะ เธอไม่ได้พบกับพี่ชายสุดที่รักของลูกชายเธอมาตั้งแต่หลังไปเที่ยวด้วยกันตอนปีใหม่ นี่ก็ผ่านมากว่าครึ่งปีแล้ว ดังนั้นเธอจึงรีบกุลีกุจอออกมาต้อนรับ
“คัตซึฮิโกะ ไม่เจอตั้งนานแน่ะ แม่คิดถึงแทบแย่”
“ผมก็คิดถึงครับ แต่พอดีเปลี่ยนงานเลยยุ่ง ๆ นิดหน่อย หาเวลามาหาไม่ได้เลย” คัตซึฮิโกะบอก เขาเองก็ชอบแม่ของนัตสึไม่น้อย
“มา งั้นมาคุยกับแม่ก่อน ปล่อยเจ้าดื้อนั่นมันทำข้าวไป แม่จะช่วยมันก็ไม่ยอม” คุณแม่แอบค่อน
“ก็ผมสัญญากับคัตจังแล้วนี่ว่าจะเป็นคนทำน่ะ” เจ้าหนุ่มหัวทองแย้ง
“งั้นทำดี ๆ อย่าให้พี่เขาท้องเสียล่ะ”
“เอ๊...แม่ก็ เชื่อใจกันบ้างสิครับ” นัตสึหันมาทำแก้มป่องใส่แม่ แล้วก็หันกลับไปซ่อนยิ้ม...เมื่อกี้พี่ชายของเขาหัวเราะ...เช่นเดียวกับที่เคยทำเสมอ นัตสึรู้สึกราวกับได้คัตซึฮิโกะคนเดิมคืนมา
แม่เลิกสนใจพ่อครัวจะเป็นแล้วหันไปคุยกับคนที่เป็นเหมือนลูกคนโต
“เห็นนัตสึบอกว่าเราเปลี่ยนงานเหรอ?” คุณแม่ถามอย่างไม่ต้องการคำตอบ “แล้วงานขายต้นไม้มันพอกินพอใช้เหรอลูก ค่าแมนชั่นเราก็ต้องจ่ายนี่นา”
คัตซึฮิโกะยิ้มเล็กน้อย อีกเดี๋ยวคุณแม่ต้องเข้าเรื่องชวนเขามาอยู่บ้านแน่ ๆ
“ทำไมไม่มาอยู่เสียด้วยกันที่บ้านล่ะ?” นั่นไง เริ่มแล้ว... “ห้องว่างก็มีให้อยู่นะ นัตสึจะได้มีเพื่อนด้วย”
“ผมชินกับการอยู่คนเดียวแล้วครับ” คัตซึฮิโกะว่า เขาออกจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้ามาอยู่ตามลำพังเกือบ 7 ปีแล้ว
‘…อยู่คนเดียวหรืออยู่กับมันกันแน่…’ นัตสึคิด
“และที่สำคัญ นัตสึเขาก็ไม่ได้เหงานี่ครับ แฟนก็มีแล้ว” คัตซึฮิโกะทิ้งระเบิดแหย่น้องชาย ซึ่งก็ได้ผล
“มีแฟนก็เหงาได้นะ พี่” นัตสึหันมาแย้งทันควัน
“เดี๋ยวปลาไหม้นะ” คัตซึฮิโกะชี้เตาย่างที่นัตสึย่างปลาค้างอยู่ “แน่ใจนะว่าเหงา ขี้คร้านได้แฟนแล้วจะลืมพี่”
“ใครจะไปลืมล่ะ” เด็กหนุ่มบ่นอุบอิบแล้วหันไปย่างปลาต่อ
“แต่แม่ว่าแมนชั่นเรามันน่ากลัวนะ เดี๋ยวเกิดอะไรขึ้นมาจะทำยังไง” คุณแม่พยายามดึงกลับเข้าเรื่อง
“ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมก็อยู่ที่นั่นนานแล้ว ไม่เห็นเป็นไรเลย”
‘…แล้วที่มันมาถึงห้องนั่นยังว่าไม่มีอะไรอีกเรอะ…’ นัตสึเข่นเขี้ยวอยู่ในใจ
คุณแม่พยายามพูดกับคัตซึฮิโกะอยู่นาน แต่ชายหนุ่มยืนยันจะอยู่ที่เดิมท่าเดียว จนในที่สุดเธอก็อ่อนใจ หันไปลอบยักไหล่ให้เจ้าลูกชายเป็นเชิงว่า...แม่พยายามเต็มที่แล้วนะ...
คัตซึฮิโกะแอบเห็นนัตสึทำหน้ามุ่ยแวบหนึ่ง ก่อนจะหันมาพูดกับเขาว่า
“งั้นคืนนี้ค้างที่นี่นะ คัตจัง”
“ขอคิดดูก่อนแล้วกันนะ” คัตซึฮิโกะแบ่งรับแบ่งสู้
พอดีที่คุณพ่อกลับจากทำงาน เรื่องนี้จึงยุติลงชั่วคราวเมื่อเริ่มมื้อเย็น ฝีมือนัตสึอร่อยใช้ได้ทีเดียว เสียแต่ว่าเจ้าพ่อครัวจะเป็นคอยแต่จะเร้าหรือให้คัตซึฮิโกะนอนค้างที่บ้านไม่หยุด ในที่สุด คัตซึฮิโกะก็ใจอ่อน
“โอเค ค้างก็ได้ แต่ถ้าชวนคุยจนดึกแล้วฉันไปทำงานสาย ฉันเล่นงานนายแน่”
“โหย รับรองจะปลุกแต่เช้าเลยพี่” นัตสึดูร่าเริงจนออกนอกหน้า
คัตซึฮิโกะเพียงแค่ยิ้ม ๆ ตอบพลางคิดว่าปล่อยเซย์ริวไว้คนเดียวสักคืนคงไม่อดตาย นอนค้างเอาใจเจ้าน้องชายยอดดื้อนี่สักหน่อยก็ดี เปลี่ยนบรรยากาศบ้างก็น่าสนุกดี ช่วงนี้ชีวิตของเขาเรียบง่ายจนน่าแปลกใจ