•28•
ผมนอนนิ่ง เกร็งตัวหันหลังให้พี่คราม หลังจากวันนั้นผมอายจนไม่กล้าสู้หน้าพี่คราม เพราะพอมองหน้าพี่ครามทีไรภาพในวันนั้นก็ไหลย้อนออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ ภาพในหัวฉายซ้ำราวกับเครื่องฉายหนังที่ผมสั่งการไม่ได้ ขนาดโซฟาตัวนั้นผมยังไม่กล้านั่งมันอีกเลย เมื่อหนีไม่พ้น ผมจึงเลือกที่จะไม่มองหน้าพี่ครามแทน
แม้จะไม่มีอะไรเกินเลยไปมากกว่านั้น แต่ผมก็อายอยู่ดี
“หึๆ พี่ไม่ทำอะไรแล้วหน่า”
พี่ครามว่าเมื่อเห็นผมนอนหันหลังอีกครั้ง ผมไม่ตอบ มุดหน้าหนีเข้าไปในหมอนนุ่ม เหลือบไปเห็นคนตัวโตวางหนังสือในมือไว้บนหัวเตียง ก่อนคว้าผมเข้าไปกอด ผมเกร็งหนักกว่าเก่า
“บอกว่าไม่ทำอะไรแล้วไง หันมานอนกอดกันได้แล้ว”
“ไม่...ไม่เอา”
“เกลียดพี่แล้วหรอ”
“ไม่ใช่...ปาย...ปายเขิน” ผมว่าตามความจริง
คนตัวโตเงียบไปพักนึงก่อนเอ่ย “น่ารักอีกแล้ว”
ไม่อยากน่ารักแล้ว คิดก่อนตอบพี่ครามเสียงเบา “พี่ครามกอดหมอนไปเลย ปายจะกอดคุณเกรย์” ผมว่าเสียงอุบอิบ ยังคงหันหลังให้กับบทสนทนา คนตัวโตขยับเข้ามาใกล้กว่าเดิม โอบรอบตัวผมกระชับอ้อมกอด ก่อนกดจูบลงกลางกระหม่อมซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“ฮื่อ พี่คราม...”
ผมหลับตาปี๋ เกร็งกอดก่อนขนสีเทาในอ้อมแขนเสียแน่น จนคนขี้แกล้งเลิกแกล้งผมแล้ว ทำเพียงแค่โอบกอดผมไว้เบาๆ
“อยากให้ปายกอดพี่บ้างจังน้า” พี่ครามว่าด้วยน้ำเสียงขี้เล่น ผมรู้ เขาแกล้งผมอีกแล้วแน่ล่ะ ถึงอย่างนั้นก็รู้อีกว่าในน้ำเสียงนั้นแฝงไปด้วยความต้องการเช่นนั้นจริงๆ
ผมหันหน้าเหลือบไปหาพี่คราม “ไม่ทำอะไรปายนะ”
“ไม่ทำแล้วครับ” เจ้าของอ้อมกอดส่งยิ้ม ก่อนผมจะพลิกตัวไปซุกยังพื้นที่ที่คุ้นเคย
“จะเขินอะไรขนาดนี้หืม”
“เป็นใครก็ต้องเขินนั่นแหละ” ผมเถียงต่อ พี่ครามนั่นแหละหน้าหนา “ถ้า...ถ้าทำไปมากกว่านั้น คนอื่นๆ เขามองหน้ากันในที่สาธารณะได้ยังไงอ่ะ แบบ...มันจะไม่รู้สึกอายกันบ้างหรอที่...ที่ เอ่อ...เคยทำกันไปอย่างนั้นอ่ะ”
เป็นคำถามที่ติดอยู่ในหัวผมมาตลอด พี่ครามทำเพียงแค่นั้นผมยังสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวขนาดนี้ เห็นหน้าพี่ครามก็อายแทบบ้า แล้วถ้ามันมากกว่านี้ผมจะไม่เขินจนตายเลยหรอ แล้วคนอื่นๆ เขาอยู่กันได้ยังไง สงสัยจริงๆ นะ
พี่ครามหัวเราะขำก่อนเอ่ย “สำหรับพี่ พี่ว่ามันไม่ใช่เรื่องน่าอายนะ เรื่องปกติของมนุษย์ด้วยซ้ำ อยู่ที่คนจะหมกมุ่นแค่ไหน”
“ปายไม่ได้หมกมุ่น” พี่ครามขำก๊าก จนผมเอ็ดต่อ “พี่ครามนั่นแหละหมกมุ่น”
“เอาเถอะ ปายแค่ยังไม่ชิน แต่ทำบ่อยๆ เดี๋ยวก็ชินเองนะ”
“ไปทำกับแมวสิ” ผมว่า ปิดบทสนทนา ข่มตากอดอ้อมกอดอุ่นๆ ก่อนผล็อยหลับไป
อย่างที่พี่ครามพูด ผมคงยังไม่ชินกับเรื่องอย่างนั้น แต่พอเวลาผ่านไปผมเริ่มคิดถึงเรื่องเมื่อวันนั้นน้อยลง ใช้ชีวิตอยู่กับพี่ครามมากขึ้น บางวันแทบไม่ได้ทำอะไรด้วยซ้ำแต่ก็รู้สึกมีความสุขเป็นบ้า
ทุกวันกลายเป็นวันเรื่อยๆ ที่พิเศษ ...เมื่อได้อยู่กับคนที่วิเศษที่สุด
อย่างเช่นวันนี้ เป็นอีกวันที่ไม่ต้องทำอะไรมากมาย ผมปิดเทอม นอนกินเดินกินไปวันๆ แข่งกันอ้วนกับคุณเกรย์ จนคิดว่าสักวันคงได้แข่งกันกลิ้งขึ้นเตียง ส่วนพี่ครามเองก็กำลังรอบรรจุเข้าทำงาน ช่วงนี้พวกผมจึงค่อนข้างว่าง
“ปาย ดูหนังกันมั้ย”
“หืม เอาสิ”
ผมเงยหน้าขึ้นตอบพี่ครามขณะที่กำลังเกาพุงให้คุณเกรย์ พี่ครามลุกขึ้นไปหยิบแล็ปท็อปของตัวเองก่อนกดเสิร์ชหาหนัง นึกว่าจะมีแผ่น ที่ไหนได้ ดูฟรีออนไลน์นี่นา ผมรู้ว่าพี่ครามชวนดูหนังอย่างนี้ไม่ได้หมายความว่าจะพาออกไปข้างนอกแน่ๆ พี่ครามรู้เสมอว่าผมไม่ชอบที่ๆ มีคนเยอะ
จนกระทั่งพี่ครามเลือกหนังที่อยากดูได้ก็เสียบสายต่อคอมเข้ากับโทรทัศน์ เปิดดูหน้าจอใหญ่ ไม่เห็นรู้ว่าจะดูหนังผี ผมนั่งลงบนโซฟาข้างๆ พี่คราม เมื่อดูไปได้สักพักถึงรู้ว่าเป็นหนังสยองขวัญ เอาเถอะ ผมไม่ได้กลัวเรื่องพวกนี้ ไม่งั้นคงอยู่ตัวคนเดียวไม่รอด
“ดูได้มั้ยน่ะ หรือต้องให้พี่เปิดลิตเติ้ลโพนี่”
“ดูได้! พี่ครามถ้าอยากดูการ์ตูนก็เปิดดูเองเหอะ ไม่ต้องมาอ้างปาย” คนพี่หัวเราะขำอีกครั้งก่อนโอบตัวผมให้เข้ามาใกล้มากขึ้น
“กลัวป่ะ”
“ไม่กลัว พี่ครามกลัวก็ปิดสิ” ไม่ใช่มาเนียนกอดกันอย่างนี้
“พี่ไม่กลัว เคยดูภาคแรกไปแล้ว อันนี้ภาคสอง พี่กลัวว่าปายจะกลัวต่างหาก”
ผมส่ายหน้า “น่าเบื่อออก”
เอาจริงๆ คือผมไม่กลัวเรื่องพวกนี้ ไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ด้วย แค่คิดว่าหนังพวกนี้ก็แค่เล่นกับความรู้สึกและอารมณ์ของคน บีบเค้นให้กดดันตามสถานการณ์ก่อนจะเปิดจังหวะให้ผีโผล่ออกมา แล้วทุกคนก็จะตกใจ แค่นั้นเอง ผมพิงหัวลงบนไหล่พี่คราม ถึงจะไม่น่าสนใจสำหรับผม แต่ถ้าให้ดูกับพี่คราม จะอะไรก็ได้ทั้งนั้น
ความสุขเป็นเรื่องหาได้ง่ายไปเลยเมื่อได้อยู่กับพี่คราม
ผมดูภาพเคลื่อนไหวตรงหน้าที่ส่วนใหญ่เป็นภาพสลัวและมืด เสียงเพลงหลอนๆ ดังขึ้นชักจูงให้คนดูอินไปกับบรรยากาศ เสียแต่ผมเกิดง่วงนอนขึ้นมา พิงหัวลงไปไหล่กว้าง ขยับตัวให้สบายก่อนทิ้งน้ำหนักลงใส่พี่คราม สายตายังคงจับจ้องอยู่บนภาพหน้าจอ ที่เริ่มจะจับใจความไม่ค่อยได้แล้ว
เมื่อถึงจังหวะที่เหมาะสม ผีก็โผล่ขึ้นมาเต็มหน้าจอ พี่ครามสะดุ้งทำให้หัวผมขยับโยกตามแรง
“...ไหนว่าไม่กลัว”
“แค่ตกใจหรอก” คนไม่กลัวแก้ตัว ผมพิงหัวลงบนพี่ครามอีกครั้ง การที่ได้อยู่กับพี่ครามทำให้ได้เห็นมุมใหม่ๆ ของพี่ครามทำให้ผมรู้สึกตลกดี บางทีก็รู้สึกว่าคนตัวโตน่ารัก แต่ขออย่างเดียว ไม่เอาเมี้ยว
คิดถูกที่ยอมเปิดใจให้พี่คราม เลือกให้เขาเป็นคนที่ผมอยากจะรู้จักมากกว่านี้ไปเรื่อยๆ ผมไม่อยากเริ่มใหม่กับใครแล้ว อยากให้พี่ครามเป็นคนแรกและคนสุดท้ายที่ผมคิดจะอยู่ด้วย รวมไปถึงคุณเกรย์ด้วย
แมวเทากระโดดขึ้นมาบนโซฟา พร้อมนั่งลงข้างๆ ผม ผมเอื้อมมือไปเขี่ยขนนุ่มๆ ก่อนที่ภาพทุกอย่างจะเบลอ ง่วงแล้ว... พี่ครามอย่าสะดุ้งอีกนะ ผมจะได้นอน
คนตัวโตจับมือผมอีกข้างไปลูบเล่น ไล่นิ้วใหญ่ไปตามนิ้วผมทีละนิ้วๆ ก่อนกุมมันไว้
เนื้อหาหนังตรงหน้าไม่ได้ทำให้ผมสนใจได้เท่ากับสัมผัสอุ่นจากคนข้างๆ ผมขยับตัวไปจ้องหน้าด้านข้างของพี่คราม ที่ใกล้เพียงคืบ อดีตเดือนสัตตะฯขยับยิ้ม
“จ้องงี้พี่ก็เขินนะ”
ผมขยับหัวก่อนช้อนตาขึ้นมามองพี่ครามใหม่ อยากจ้องไม่รู้ทำไม พี่ครามเป็นคนมีเสน่ห์ ผมตกหลุมรักคนๆ นี้เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ ดวงตาดำขยับมามองผมก่อนรีบเคลื่อนไปมองหน้าจอตรงหน้าราวกับหนีความผิด
“ปาย...”
พี่ครามเขินแหละ
ผมยิ้ม ไถหัวเข้ากับไหล่และซอกคอพี่คราม น่ารัก ไม่ใช่ด้วยเรื่องหน้าตาแต่เรื่องนิสัย รักแทบบ้าแล้ว
“เมฆ...”
ผมขยับตัว เรียกชื่อเขาแทน ไม่จ้องพี่ครามอีกแม้ว่าอีกใจอยากจะแกล้งให้พี่ครามหน้าขึ้นสี ทว่าคนอย่างพี่คราม คาดการณ์ไม่ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าผมแกล้งเขา ยิ่งนั่งบนโซฟาเหมือนวันนั้นด้วย ไม่เสี่ยงดีกว่า
ผมยกยิ้ม ก่อนที่เปลือกตาจะค่อยๆ ปิดลง สัมผัสของขนนุ่มฟูอยู่อีกฝั่ง พวงหางสะบัดไปมาเขี่ยแขนผม ส่วนมืออีกข้างอีกคนก็กุมไว้ไม่ปล่อย ชีวิตนึงก็มีเท่านี้...ขอแค่นี้เอง...
ขอให้โลกของผมมีพี่ครามกับคุณเกรย์อยู่ด้วยกัน
ให้เป็นความรักที่พิเศษต่อไปเรื่อยๆ...
And the story goes…
Mr.Grey
-END-
⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹
จบแล้ว ทีแรกว่าจะลงวันอื่นเพราะยังไม่อยากให้มันจบ
แต่เพราะมันสั้นเลยไม่อยากให้รอนาน5555
จบแล้วค่ะ ใจหายมากเลย จากที่ตั้งใจให้เป็นเรื่องสั้นห้าตอนจบจนมาสิบตอนก็ยังไม่จบ สิบห้าตอนก็ยังหาตอนจบไม่เจอ
มาเรื่อยๆ จนถึงตอนนี้ คิดว่ามันถึงเวลาแล้วที่จะปล่อยให้พวกเขาใช้ชีวิตเองต่อไป
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามมาจนถึงตอนนี้จริงๆค่ะ
ไม่คิดว่าจะมีคนอ่านเยอะขนาดนี้ฮือออ กอดทุกคนเลยย
ทุกคอมเม้นเป็นกำลังให้เราได้มากจริงๆ
เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะความเวิ่นเว้อของตัวเองล้วนๆ เอาแมวไปหาหมอแล้วได้พล็อตซะงั้น
แถมเป็นเรื่องที่เขียนเร็วมาก แค่สองเดือนเอง จริงๆก็ยังไม่อยากให้มันจบเหมือนกัน
แต่ก็ไม่อยากยืดเยื้อกลัวมันจะกลายเป็นน่าเบื่อไม่สนุกไป
จนสุดท้ายอิพี่ก็ไม่ได้แดก5555 แต่เราก็ไม่อยากให้ไปโฟกัสเรื่องนั้นมากมายอะไรนะ
เอาจริงๆคือเขียนNCไม่เป็น555555
เป็นเรื่องที่ตั้งใจเขียนให้เป็นความรักแบบรักกันไปเรื่อยๆ บางคนอาจจะไม่พอใจในความสัมพันธ์ของพี่ครามกับปาย
อันที่จริงเราก็ชอบความสัมพันธ์แบบมีสถานะชื่อเรียกมากกว่า แต่ในเรื่องนี้ ปายเลือกที่จะไม่ใช้คำจำกัดความ
เพราะมีตัวอย่างจากพ่อแม่ที่แม้เป็นสามีภรรยาก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่หมดรักกัน
พยายามเขียนให้ตัวละครทุกตัวไม่ร้ายจนเกินไป พยายามให้ตัวละครในเรื่องนี้ไม่ถูกเกลียด แต่คงไม่ทัน555
คิดว่าแต่ละคนมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันออกไปค่ะ ทั้งนิวทั้งแจนคงไม่ได้อยากเผยด้านแย่ๆออกมา
แจนก็เป็นเพียงแค่ผู้หญิงที่ชอบพี่ครามมากๆเท่านั้น นิวเองก็เป็นแค่ผู้ชายที่ชอบปายมากเช่นกัน
เพียงแต่การแสดงออกของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
ทั้งปายทั้งพี่ครามเองก็มีบางครั้งที่แสดงนิสัยน่าหงุดหงิดออกมา
เพราะถึงยังไงก็เป็นแค่มนุษย์คนหนึ่งที่ไม่ได้เพอร์เฟ็กไปหมดทุกอย่าง
พยายามแทรกตรงนี้เข้าไปในเรื่องไม่ให้มันเรื่อยเปื่อยอย่างเดียวเสียหมด
ไม่รู้ว่าสื่อถึงคนอ่านได้มากแค่ไหน แต่แค่เข้ามาร่วมอ่าน ให้เรื่องนี้เป็นหนึ่งในความทรงจำก็ดีใจมากๆแล้วค่ะ
ยังมีตอนพิเศษให้หายคิดถึงกันนิดๆ หน่อยๆ ฝากด้วยนะคะ
ขอบคุณที่มอบพื้นที่เล็กๆในความทรงจำให้พวกเขาได้สร้างเรื่องราวในชีวิต
และขอบคุณที่ร่วมเดินทางค่ะ
,Raccool