คุณแม่รับจ้าง [MPREG] (อ่านภาค2 ในลิงค์ หน้า20)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: คุณแม่รับจ้าง [MPREG] (อ่านภาค2 ในลิงค์ หน้า20)  (อ่าน 169894 ครั้ง)

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44
 :mew1:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
รอตอนต่อไป~

ออฟไลน์ zaturday

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
เราไม่รู้จะเข้าข้างใคร แต่เท่าที่อ่านมาตั้งแต่ต้นจนจบ เราเข้าข้างอิฐ

อิฐ เป็นผู้ชายที่ดี รักแฟน รักแม่ ในเมื่อแม่กับแฟนไม่ถูกกันอิฐก็พยายามทำทุกทางเพื่อให้ไม่ทะเลาะกับแม่ และเลิกกับแฟน แม่แค่อยากได้หลาน(ในความคิดของอิฐ) อิฐเลยต้องทำลูก แต่ในเมื่อแฟนไม่ยอมก็ต้องหาคนอื่น ในระหว่างที่รักบีท อิฐก็ดูแลแม็กอย่างดี ในฐานะนายจ้างและพ่อของลูก

แม็ก เป็นตัวละครที่มีปมเยอะ ชีวิตผ่านมรสมมากมาย แม่ตาย พ่อมีเมียใหม่ ครอบครัวใหม่ อยู่มหาลัยก็ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นแฟนกับกัส จนทำให้ไม่มีแฟน กัสเกิดมามีทุกอย่าง แต่เป็นเพื่อนสนิทกับแม็กที่ขาดทุกอย่าง แม็กจะรู้สึกเปรียบเทียบมเกิดความอิจฉาอยากมีอยากได้ก็ไม่แปลก ยิ่งคนไม่เคยมีแฟน มาถูกดูแลเหมือนแฟนจากอิฐ จะไม่หวั่นไหวก็แปลกละ ด้วยความไม่มีและอยากมี ทำให้ช่วงหนึ่งของความคิดที่แม็กอยากทำให้บีทเลิกกับอิฐ สงสารและเข้าใจแม็ก แต่ไม่ได้สนับสนุนให้อิฐเลิกกับบีทเพราะแม็ก ถ้ามองในมุมของสังคม แม็กคือเมียน้อย จะดีจะเลว รักผัวเขา และอยากได้ผัวเขาก็เมียน้อย

บีท ไม่ได้อยากให้บีทเป็นนายเอก แต่บีทคือคนที่มาก่อนรักกับอิฐมาสามปี บีทไม่ได้ผิดอะไรที่จะทำตัวร้าย เพราะบีทมาก่อน เห็นคืนอื่นจะมาแย่งผัวตัวเอง ใครจะไปทำได้ เราเข้าใจบีทเรื่องที่ไม่อยากมีลูก และไม่ได้อยากให้ใครมาเป็นลูกของอิฐ

แม่ นี่ก็น่าสงสารอีกคน นางเป็นหญิงแก่ที่สามีตาย ลูกชายบ้างาน แถมมีแฟนเป็นผู้ชาย ลูกสะใภ้ดันทำตัวไม่ผ่านมาตรฐานแก คือเข้ากับแม่ผัวไม่ได้ พอมาสนิทกับแม็กก็รักเอ็นดูแม็ก ถ้ามีฉากที่เฉลยให้แม่รู้ ว่าแม็กเป็นแค่เมียรับจ้างอุ้มท้อง แม่คงจะเสียใจมาก

สุดท้าย เราเข้ามาเห็นเรื่องนี้ แต่เห็นว่าเป็นภาคต่อของอีกเรื่องนึง เราเลยตามไปอ่าน ก็สนุกใสๆดี แต่ไม่ถูกจริตเราเท่าไหร่ เลยข้ามมาอ่านเรื่องนี้เลย และเรื่องนี้คือใช่ ดราม่า มีปมอย่างนี้แหล่ะ เอาใจเราไปเลย เสียน้ำตาให้เรื่องนี้อยู่เนืองๆ อ่านไปปวดใจไป เราเดาตอนจบของเรื่องนี้ไม่ออกเลย ว่าคนเขียนจะแก้ปมยังไง จบดราม่า หรือแฮปปี้เอน

ออฟไลน์ ๛ナーリバス๛

  • ~~~๛NaaribuS๛~~~ ~ [TBL-081-588]
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +898/-26
    • NaaribuSS
-26-

   -แม็กม่า-

   
   ล่วงเข้าวันที่สอง หมอก็ยังไม่อนุญาตให้แม่คุณอิฐกลับบ้านเพราะความดันยังไม่ปกติ ทำให้ท่านต้องอยู่โรงพยาบาลอีกหนึ่งคืน ผมอาสานอนเฝ้าท่านแทนป้าฟองที่เป็นไข้หวัดกะทันหัน ดังนั้นวันที่สามจึงได้เจอคุณอิฐซึ่งรีบมาโรงพยาบาลแต่เช้า 

   “อ้าว มาแล้วเหรอตาอิฐ”

   “ครับ แม่เป็นไงบ้างครับ ดีขึ้นไหม?” เขาถามเมื่อเดินมายืนข้างเตียง ส่วนผมนั่งเอนหลังอยู่ที่โซฟาริมห้อง

   “ก็เป็นอย่างที่เห็นนี่แหละ ดีหรือไม่ดีล่ะ?” ผมลอบยิ้มคนเดียวเงียบๆ

   “ผมว่ายังไม่ดีนะ หน้ายังซีดอยู่เลย บอกหมอขอนอนต่ออีกแล้วกันนะครับ” คุณอิฐตอบกลับ เหมือนตั้งใจจะแกล้งแม่เขาคืน

   “โอ๊ย... ไม่อยู่แล้ว! ก็ดีเท่าที่อายุจะอำนวยนั่นแหละ แก่ปูนนี้แล้วจะให้แข็งแรงเหมือนอายุสิบหกคงไม่ได้หรอก” ผมอดหัวเราะไม่ได้เมื่อฟังคำตอบของท่าน ท่านจึงหันมาหา

   “อ้อ.. อิฐ พาน้องไปหาอะไรกินก่อนไป เจ็ดโมงกว่าแล้วน่าจะหิว” จู่ๆ ท่านก็บอกพลางพยักพเยิดมาทางผม

   ผมเงยหน้าจากที่เผลอยิ้มหันไปมองหน้าคุณอิฐที่หันมามองพอดีอย่างเขินๆ

   “เอ่อ... ไม่เป็นไรครับ ผมไปคนเดียวก็ได้ ให้คุณอิฐอยู่นี่เถอะ”

   “ไม่เป็นไร แม่อยู่คนเดียวได้ มีอะไรเดี๋ยวก็กดออดเรียกพยาบาลเองแหละ ไปกันเถอะ” ท่านบอกแล้วยิ้มอย่างเอ็นดู

   “ไปด้วยกันเถอะแม็ก” คุณอิฐชักชวนแล้วเดินมาหาเอื้อมือมาดึงข้อมือผมทำให้ผมจำต้องลุกขึ้นอย่างเสียไม่ได้

   “งั้นผมจะรีบกลับมานะครับแม่” เขาหันไปบอกแม่เขาในระหว่างเอาแต่สนใจข้อมือตัวเองที่อีกฝ่ายสัมผัสอยู่

   “ไม่ต้องรีบก็ได้ กว่าหมอจะมาก็เก้าโมงนู่นแหละ” 


   ผมกับคุณอิฐเดินไปหาอะไรกินหน้าโรงพยาบาลกัน เขาถามอาการแม่เขาอยู่สักพักแล้วก็เงียบไป ผมก็ไม่ได้พูดอะไรต่อเพราะไม่ค่อยชอบชวนใครคุยอยู่แล้ว ในที่สุดเขาเอ่ยลอยๆ

   “ขอบใจนะแม็ก ที่ช่วยดูแลคุณแม่น่ะ” ผมชะงักแล้วมองหน้าเขา ยิ้มบางๆ

   “ไม่ต้องขอบใจหรอกครับ แม่คุณก็เหมือนแม่ผมนั่นแหละครับ” คำพูดของผมทำให้คุณอิฐหันมามองด้วยสายตาชนิดหนึ่ง ผมคิดว่าเขาคงสงสัยว่าผมพูดเพื่อเอาใจเขาหรือเปล่า ผมจึงรีบขยายความต่อ “เอ่อ... ท่านทำให้ผมคิดถึงแม่ที่เสียไปแล้วน่ะ ถ้าตอนนี้ท่านยังมีชีวิตอยู่ ผมคงดูแลท่านแบบนี้เหมือนกัน”

   “แต่เธอก็ยังเหมือนพ่ออีกคนนี่” ผมแปลกใจเหมือนกันนะที่เขาจำได้...

   “ครับ แต่ผมน่าจะเคยบอกคุณแล้วว่าผมเข้ากับแม่เลี้ยงไม่ได้ ต่างฝ่ายก็ไม่มีใครยอม สุดท้ายแล้วก็เลยอยู่ด้วยกันไม่ได้ ทั้งๆ ที่ผมเหลือพ่ออยู่แค่คนเดียวแท้ๆ แต่ผมก็เลือกที่จะออกมา เพราะผมคิดว่าถ้าผมไม่อยู่ทะเลาะกับแม่เลี้ยงอาจจะทำให้พ่อสบายใจกว่าก็ได้” ผมอธิบาย ทั้งที่แค่อยากเล่าเฉยๆ แต่ทำไมกลายเป็นเล่าเรื่องเศร้าไปซะอีกแล้ว

   “พ่อเธออาจจะไม่ได้คิดอย่างงั้นก็ได้นะ”

   “ก็จริงครับ ไม่มีพ่อแม่คนไหนไม่รักลูกหรอก แต่คับที่อยู่ได้ คับใจมันอยู่ยากนะครับ ตอนเป็นเด็กยังไงต้องทน แต่พอโตมาก็ไม่รู้จะทนไปทำไม” ผมพูดพลางเอาช้อนเขี่ยข้าวเหม่อๆ

   “นี่เธอไม่ได้กลับบ้านมานานแค่ไหนแล้ว...”

   “ก่อนจะฝังตัวอ่อนผมก็เพิ่งกลับไปครับ หลังจากนั้นมีโทรไปหาน้องชายบ้าง ก็เห็นว่าไม่มีผมก็สุขสบายกันดี”

   “เธอน้อยใจพ่อเหรอ?” ผมอึดอัดกับคำถามตรงไปตรงมานั่นเล็กน้อย

   “นิดหน่อยครับ แต่ไม่ใช่ไม่รักไม่ห่วงหรอกนะ ทุกวันนี้ก็โอนเงินไปเรื่อยๆ ผมคงไม่ได้กลับไปจนกว่าจะคลอดมั้งครับ อย่างพ่อผมน่ะดีหน่อยตรงที่ทั้งแข็งแรงและมีคนดูแล ไม่เหมือนแม่คุณน่ะเหลือคุณอยู่แค่คนเดียว แล้วยัง...”

   “ยังอะไร... เธอกำลังหาว่าฉันไม่ดูแลแม่เหรอ” เขาถามเสียงดุ  ผมถอนใจพอเดาไดว่าเขาคงจะเถียงว่างานยุ่งหรือมีเหตุสุดวิสัยทำให้มาเยี่ยมท่านทันทีไม่ได้ รู้ล่วงหน้าแล้วก็ไม่อยากจะหาเรื่อง...

   “เปล่า ผมแค่คิดว่าแม่คุณคงจะเหงาเฉยๆ อีกอย่างต่อให้ทั้งบ้านจะมีคนรับใช้อยู่เยอะแยะแต่จะมีใครดูแลท่านได้ดีกว่าลูกแท้ๆ” ผมตอบเลี่ยงๆ

   “ไม่จริงหรอก แม่บ่นว่าเธอดูแลแม่ได้ดีกว่าฉันที่เป็นลูกซะอีก แม่เลยพยายามบอกให้ฉันพาเธอกลับบ้านไปให้ได้” เรื่องนั้นผมไม่แปลกใจหรอกนะ ท่านออกจะแสดงออกชัดเจนมากขนาดนั้นว่าชอบผมมากกว่า...

   “แต่คุณคงไม่อยากให้ผมกลับไปใช่ไหม?”

   “ทำไมจะไม่ล่ะ? ” เขาถามกลับพลางทำหน้าประหลาดใจ

   “ก็ยิ่งท่านรักผมมากเท่าไร ก็ยิ่งไม่ดีต่อคุณบีทนี่” ผมตอบตามความจริง

   “จะมีเธอหรือไม่ สองคนนั้นน่ะคงไม่มีทางเข้ากันได้อยู่แล้วล่ะ” ผมเห็นด้วยเพราะไม่มีใครยอมลง มันถึงเป็นอย่างงี้ คงเป็นไม้เบื่อไม้เมากันไปอีกนาน เว้นแต่คนกลางจะทำอะไรสักอย่างให้ดีขึ้น...

   “จะเข้ากันได้หรือเปล่าผมว่าอยู่ที่คุณต่างหาก คุณเคยฟังนิทานเรื่องนึงไหม ที่แม่ผัวกับลูกสะใภ้ทะเลาะกันบ่อยๆ น่ะ”

   “เรื่องไหนเหรอ?”

   “เรื่องที่ว่ามีแม่ผัวกับลูกสะใภ้คู่หนึ่งด่ากัน ทะเลาะกันทุกวัน คนเป็นลูกก็เลยนั่งลับขวานเงียบๆ คนเดียว”

   “ไม่อ่ะ” เขาส่ายหน้าแล้วถามต่อ “ เป็นไงต่อเหรอ?”

   “ลูกชายนั่งลับขวานนานเป็นวัน แม่ผัวกับลูกสะใภ้ก็เลยเลิกทะเลาะกันเพราะสงสัยว่าลับขวานทำไม พอแม่มาถามลูกก็ตอบว่าก็นังเมียน่ะสิ เอาแต่ด่าแม่อยู่นั่นแหละเดี๋ยวต่อไปถ้ามันด่าแม่อีกนะจะเอาขวานฆ่าเมียซะเลย พอเมียมาถามว่าลับขวานทำไม ผัวก็ตอบว่าก็แม่น่ะสิเอาแต่ด่าเมียอยู่ได้ ถ้าแม่ด่าเมียอีกนะจะเอาขวานฟันแม่ซะเลย หลังจากนั้นผู้หญิงสองคนก็พยายามทำดีต่อกัน พูดดีทำดีต่อกัน ผ่านไปไม่กี่วัน ลูกก็ไปบอกแม่ว่าวันนี้จะฆ่าเมียแล้วนะ พอแม่ฟังก็ตกใจปรามลูกว่าใจเย็นๆ ก่อนอย่าไปทำอะไรมันเลย เดี๋ยวนี้เมียลูกก็ดีกับแม่แล้วนะ จากนั้นเขาไปบอกเมียว่าวันนี้จะฆ่าแม่แล้วนะ เมียก็ตกใจห้ามปรามบอกว่าอย่าทำแม่เลยเดี๋ยวนี้แม่ก็ดีกับฉันแล้วนะ หลังจากนั้นครอบครัวนี้ก็อยู่กันอย่างสงบสุข ไม่ทะเลาะกันอีกเลย” ที่จริงผมก็จำเนื้อเรื่องเต็มๆ ไม่ได้แล้วล่ะ แต่คงพอเล่าได้คร่าวๆ ได้ประมาณนี้

   “หึหึ ต้องให้ฉันไปนั่งลับขวาน หรือขัดปืนเหรอไง เขาสองคนถึงจะดีกันได้ โลกความจริงก็ไม่ได้ง่ายเหมือนในนิทานหรอก” เสียงหัวเราะแรกเริ่มกลับกลายเป็นเสียงถอนหายใจ

   “ไม่ง่ายแต่ก็ไม่ยาก ผมยังทำได้เลย คุณรู้ไหมทำไมแม่คุณถึงชอบผม” อันที่จริงผมควรจะถามเขาว่า เขารู้ไหมว่าทำไมแม่เขาไม่ชอบคุณบีทต่างหาก

   “ก็เธอท้องอยู่ แล้วก็เอาใจแม่เก่ง ไม่ใช่เหรอ?” ประโยคแรกค่อนข้างแทงใจดำ แต่ถ้าเป็นเหตุผลนั้นจริงคุณบีทก็เป็นคนทิ้งโอกาสนั้นไปเองตั้งแต่แรกจะโทษใครก็คงไม่ได้หรอก

   “เปล่า เพราะคุณไม่ได้รักผมต่างหาก” ผมส่ายหน้าแล้วตอบตามความเห็นของตัวเอง

   “ฉันไม่เข้าใจ” เขาว่าพลางย่นคิ้ว

   “ตั้งแต่วันแรกที่ผมมาที่บ้านคุณตลอดจนผมจากไป สิ่งที่คุณมีให้คือหน้าที่ คุณรักแม่มากกว่าผม  ท่านเลยไม่รู้สึกว่าถูกแย่งชิงความรัก ท่านไม่อิจฉา ไม่หมั่นไส้ มีแต่สงสาร เห็นใจ เอ็นดู ผมไม่เหมือนคุณบีทที่ได้รับความรักมากจนบางครั้งก็หลงลืมคนที่บ้าน ตราบใดที่คุณยังแสดงออกว่ารักเขามากกว่าแม่คุณล่ะก็ท่านจะไม่มีวันยอมรับคุณบีทแน่ ผมบอกได้แค่นี้แหละ”

   “แล้วเธอจะให้ฉันทำยังไง ถึงจะเปลี่ยนแปลงไปตอนนี้ก็คงไม่ทันแล้วล่ะ”

   “ก็เลยปล่อยไปแบบนี้? โดยไม่ทำอะไรเลย คุณเคยคิดบ้างไหม ถ้าคุณบีทเข้ากับแม่คุณไม่ได้ ต่อไปเขาจะเข้ากับลูกคุณได้เหรอครับ?”

   “แม็ก!!” เขาเรียกชื่อทำเสียงเหมือนผมกำลังพูดอะไรไม่สมควรอยู่ แล้วทำให้เขาไม่พอใจ ทั้งที่มันคือเรื่องจริงทั้งนั้น

   “ขอโทษครับ คุณอาจจะคิดว่าผมอคติเกินไป แต่ผมแค่อยากให้คุณลองคิดดูว่าที่พวกเขาสองคนไม่ชอบกันอาจจะมีสาเหตุมาจากคุณ และการแก้ปัญหาของคุณมันก็ผิดจุดมาตั้งแต่แรก แทนที่คุณจะหาวิธีทำให้แม่คุณยอมรับคุณบีท คุณกลับลากผมมาเป็นหอกข้างแคร่ นอกจากไม่ได้ช่วยอะไร ลงท้ายแล้วคนที่ต้องเจ็บปวดอาจจะไม่ได้มีแค่เรา อาจจะรวมไปถึงเด็กที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อีกคน” จนแล้วจนรอดแม่กาอย่างผมก็อดเป็นห่วงลูกนกกาเหว่าไม่ได้เลย

   “เธอพยายามจะสั่งสอนฉันอยู่ใช่ไหม?”

   “ที่พูดน่ะ ผมก็แค่กลัวว่าสักวันเด็กคนนั้นจะมีชะตากรรมไม่ต่างไปจากผมต่างหาก” เก็บกด มีปัญหา คิดว่าพ่อไม่รัก

   “แล้วไงต่อ วิธีแก้ที่ดีที่สุดตอนนี้คืออะไร เลิกกับบีทแล้วมาคบกับเธอหรือไง” ผมหันขวับไปจ้องเขาเขม็งเพราะไม่พอใจกับคำพูดประชดนั่น ถ้าเขาไม่รู้ว่าผมชอบเขาก็คงไม่เท่าไรหรอกแต่เขาก็พูดทั้งที่รู้ ทั้งๆ ที่เคยบอกผมมาแล้วครั้งหนึ่งว่าไม่ได้คิดอะไร มันทำให้ผมเจ็บแล้วพาลโกรธเขาด้วย...

   “ผมคงไม่พูดอย่างนั้นหรอกครับ เพราะผมรู้ว่าคุณทำไม่ได้” ผมตอบด้วยเสียงแข็ง ไม่ปิดบังเลยว่ากำลังไม่พอใจกับคำพูดนั้น ทำให้คนฟังจับสังเกตได้ในทันที

   “เอ่อ แม็ก...ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจ...”

   “ไม่ต้องหรอกครับ ผมผิดเองแหละที่เข้าไปยุ่ง ลืมไปว่าปัญหาครอบครัวมีแค่คนในครอบครัวเท่านั้นแหละที่จะแก้ได้ คนนอกอย่างผมถึงสอดไปก็เท่านั้นแหละ”

   
   แม่คุณอิฐได้กลับบ้านในวันนั้นเอง ผมก็ตามกลับไปส่งท่านด้วย ท่านพยายามบังคับให้ผมกลับมาอยู่ที่บ้านท่านตามเดิมและค่อนข้างพาลคุณอิฐที่ไม่ยอมช่วยพูดอะไรเลย แต่เมื่อผมดึงดันว่าจะกลับให้ได้ แม่คุณอิฐไม่ยอมให้ใครไปส่ง ผมจึงต้องอยู่บ้านคุณอิฐจนตกบ่าย รอจนแม่คุณอิฐออกขอตัวไปงีบ ผมจึงเดินออกไปนั่งรับลมที่ศาลาในสวน

   ผมทำหน้านิ่ง เบือนหน้าหนีเมื่อลูกชายเจ้าของบ้านบังเอิญเดินเข้ามาพอดี

   “นั่งด้วยคนนะ” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเกรงใจแล้วนั่งข้างตัวโดยที่ผมยังไม่อนุญาต ในใจอดค่อนขอดไม่ได้ บ้านก็บ้านตัวเอง จะนั่ง จะนอน ยืน เดินที่ไหน จำเป็นต้องขอคนอื่นด้วยหรือไงล่ะ!

   “นี่เธอยังไม่หายโกรธอีกเหรอ?” คำถามนั้นทำให้ผมเบะปาก

   บางทีผมก็โกรธตัวเองมากกว่าที่เป็นฝ่ายยอมให้เขาทำร้ายซะเอง ผมเจ็บปวดกับทุกคำพูด ทุกการกระทำของเขาเพราะผมมองว่าเขาเป็นคนสำคัญ ในขณะที่อีกฝ่ายอาจจะคิดตรงกันข้ามกัน

   “ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เธอเสียใจหรอกนะ แต่ฉันแค่ไม่เห็นด้วยกับความคิดเธอแค่นั้นเองก็เลยพลั้งปากไป... ถ้าปัญหาในครอบครัวฉันมันแก้ไขได้ง่ายๆ มันคงไม่ลากยาวมาถึงขนาดนี้หรอก”

   “งั้นก็ช่างมันเถอะครับ ถ้าคุณคิดว่าแก้ไม่ได้ แล้วไม่อยากทำอะไร ก็ปล่อยให้มันคาราคาซังแบบนี้ต่อไปเถอะ ผมคงทำให้แค่มองดูในฐานะคนนอกที่ไม่มีสิทธิ์จะออกเสียงวิพากษ์วิจารณ์อะไรแล้วรอให้สิ่งคาดไว้ว่าจะเกิดมันเกิดขึ้นจริง”

   ใช่... มันต้องเกิดขึ้นแน่ๆ ในเมื่อคุณบีทไม่ชอบเด็ก แล้วก็ไม่สนใจแม่คุณอิฐด้วย

   “แม็ก...” ผมชักเริ่มรำคาญคุณอิฐที่เซ้าซี้มากเกินไป พูดไปก็ไม่ฟังแล้วจะพูดจะถามอะไรทำไมอีก!

   “พอแล้วครับ ผมไม่พูดแล้วก็ได้ ปล่อยผมไว้งี้เถอะ”

   “ไม่เอา... ฉันอยากให้เธอหายโกรธก่อน”

   “ผมไม่ได้โกรธนี่ครับ” ผมโกหกไปเพราะรำคาญ ไม่อยากให้เขามากวนใจ

   “งั้นก็อย่าทำหน้าแบบนี้สิ...”

   “หน้าผมมันก็เป็นแบบนี้แหละ อย่าสนใจเลย” ผมเถียง บางทีผมก็ไม่เข้าใจคุณอิฐนะ แค่ปล่อยผมทิ้งเอาไว้เฉยๆ มันจะลำบากยากเย็นอะไรนักหนา

   ไม่ได้รักผมนี่ แล้วจะมาทำเหมือนสนใจทำไม จะมาง้องอนกันทำไม ไม่จำเป็นเลย

   ไม่ได้ขอร้อง ไม่เคยต้องการให้มาสนใจอะไรหรอก...

   “ถ้าไม่อยากให้ฉันสนใจก็จงอย่าเรียกร้องความสนใจสิ”

   “คุณอิฐ!!” ผมหันไปมองเขาตาเขียว ข้อหาที่ปรักปรำว่าผมเรียกร้องความสนใจ “ผมทำแบบนั้นตอนไหนกัน...”

   “อย่ายิ้มให้ฉันด้วยรอยยิ้มเศร้าๆ  อย่าพยายามกลั้นน้ำตา อย่าร้องไห้ อย่ามองตาฉันด้วยแววตาของคนที่รักอยู่ ถ้าทำได้ ฉันจะเลิกสนใจเธอ” ผมเถียงอะไรไม่ออก เพราะผมอาจจะแบบนั้นจริงๆ ก็ได้ แต่มันก็เป็นไปเองทั้งนั้น ผมห้ามตัวเองไม่ได้นี่!

   “ถ้าคุณอึดอัดกับความรู้สึกของผม ไล่ผมไปซะเลยจะง่ายกว่า” ผมหันไปบอกเขาด้วยแววตาเจ็บช้ำ

    วิธีแก้ปัญหาที่ง่ายที่สุดคือยอมให้ผมกับลูกไป ทุกอย่างก็จะจบ ผมจะได้ไม่ต้องมาเป็นห่วงเป็นใยว่าเขาจะอยู่ยังไง เข้ากับคุณบีทได้ไหม จะได้ไม่ต้องทรมานใจอยู่แบบนี้ด้วย

   “ไม่หรอก... การจะยอมให้เธอไปมันเป็นเรื่องยากที่สุดสำหรับฉันต่างหาก” น้ำเสียงอาลัยอาวรณ์ทำให้ผมเพ่งมองเขาอย่างค้นคว้า แต่ผมก็รู้อยู่แก่ใจว่า ถ้าผมยังมีลูกของเขาอยู่ เขาคงไม่ยอมปล่อยผมไปง่ายๆ หรอก

   เพราะลูกเท่านั้นแหละ อย่าสำคัญตัวผิดไปเลย

   ความรู้สึกพวกนั้นทำให้ผมร้องไห้อีกจนได้ ทั้งๆ เขาก็เพิ่งจะห้ามไปเมื่อกี้นี่เอง...

   คุณอิฐยื่นมือมาเช็ดน้ำตาให้ผมแผ่วเบา แต่ไม่ได้ทำให้เสียงสะอื้นของผมหยุดลงหรือน้ำตาพวกนั้นแห้งหายมีแต่ทะลักทะลายเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ จนในที่สุดเขาทนไม่ไหวขยับตัวเข้ามาใกล้แล้วรั้งไหล่ผมเข้าไปหาบังคับกดศีรษะผมให้ซบลงที่ซอกไหล่ของเขานั่นแหละผมถึงชะงัก...

   “ได้โปรด อย่าร้องไห้เพราะฉันอีกเลยนะ”




++++++++++

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :hao5:    เหนื่อยแทน

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
แสดงหรา

ออฟไลน์ ekuto

  • ถ้าวันไหนไม่เข้ามาในเล้า วันนั้นเหมือนชีวิตขาดบางอย่าง
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 605
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +52/-5
...คุณอิฐแม่ง เหมือนให้ความหวังตลอด

ออฟไลน์ FaiiFay_Elle

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
อ่านแล้วเหนื่อยแทนแม็ก ขอให้แม็กตัดใจจากอิญได้เร็วๆเถอะ
สงสารน้องน้อยที่จะเกิด จิตใจคุณแม่แปรปรวน ส่งผลต่อน้องแน่ๆ  :ling1:

ออฟไลน์ Jessiebier

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 357
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
เหนื่อยใจ ถ้าแมกยังอยู่ใกล้ๆคุณอิฐนี่คงจะเจ็บใจอยู่ๆ คุณอิฐนี่น่ากลัว มานิ่งๆ :ling1:
#ปล.เรากลับมาอยู่ทีมแมกแล้วนะ หลังจากตอนก่อนๆแอบไม่ชอบนาง ปันใจให้บีทไปแล้ว แต่ตอนนี้แมกม่าเต็มๆ

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
อ่านแล้วเหนื่อยใจ พอแม็กจะตัดใจ อีตาอิฐก็มาอยู่ใกล้มาทำดีด้วย แล้วชาติไหนแม๊กจะตัดใจได้  :m31:

แม๊กบอกวิธีแก้ปัญหาให้ แทนที่จะลองคิดตาม ยังจะอคติใส่ กินหญ้าเป็นอาหารหลักใช่ไหม  :katai1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: คุณแม่รับจ้าง [MPREG] ตอนที่ [-26-] [11/05/59]
« ตอบ #339 เมื่อ: 11-05-2016 20:43:59 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
คุณอิฐทำเพราะสงสารรึป่าว ถ้าอย่างนั้นปล่อยแมกไปเถอะ
คุณอิฐคิดแต่อยากเอาใจแม่ด้วยการมีหลานให้ แม่จะได้ไม่ขัดขวางตัวเองกับบีท
แต่จริงอย่างที่แมกว่าล่ะ ถ้าบีทไม่รักเด็ก เด็กก็น่าสงสาร

ออฟไลน์ orangesmooty

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
อิคุณอิฐก็แสดงตัวเป็นสุภาพบุรุษผิดเวลานะ
แบบนี้มันซ้ำเติมกันต่อหน้า แล้วยังเหยียบให้จมดินอีกต่างหากล่ะ
แรกๆเราว่า อิคุณอิฐนี่มั่นคงดีนะ ถึงจะสมองน้อยเห็นแก่ตัวเพราะเอาแต่ปกป้องตัวเองอย่างเดียวไปหน่อยก็เถอะ(ไม่ยอมให้บอกซูกัส)
แต่แล้ว มองไปมองมา ก็ไม่ใช่คนดีรักเมียอะไรขนาดนั้นหรอก เพราะสุดท้ายก็หวงก้างมากกว่าซะงั้น
พอเขาจะไปก็ยื้อไว้ จ้างมาอุ้มท้องดูแลห่างๆ แบบห่างโคตรๆ ก็พอแล้ว
เพื่อนฝูงเขามีไม่เยอะแต่ตั้งใจดูแลกันนี่เต็มเปี่ยม ไม่ต้องพึ่งคนปลอมๆ ที่มาทีไรก็มีแต่ทำให้วุ่นวายแบบคุณหรอก
ถ้าบีททำอะไรขึ้นมาก็ไม่ใช่ความผิดแม็กหรอกเพราะอิคุณอิฐนี่ทำตัวโลเลสร้างปัญหาซะมากกว่า
แถมถ้าเกิดเรื่องสงสัยจะด่าแม็กก่อนแล้วค่อยถามสาเหตุทีหลัง
แม็กก็ดูใจนิ่งพอในระดับนึงแล้วนะ ควรจะบอกกัสจะได้หลุดพ้นจากความสงสารเลยให้ความหวังลมๆแล้งๆของ พระเอกผู้แสนดีสักที


ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
เมื่อไหร่จะคลอดซะทีนะ.

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
เฮ้อ~

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
อะไรของอิฐเนี่ย เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ผีเข้าหรอ

มันก็จริงอย่างที่แม็กพูดนะ อิฐแก้ปัญหาผิดวิธีจริงๆ
แม่กับแฟนไม่ถูกกัน อิฐที่เป็นคนกลาง แทนที่จะพยายามช่วยสานสัมพันธ์ ปรับความเข้าใจของทั้งสองให้ดีขึ้นแต่ก็ไม่ทำ ตามใจบีท และก็ไม่ค่อยมาหาแม่ นั่นก็ยิ่งทำให้แม่อคติกับบีทอย่างที่เป็นในตอนนี้ บีทเองก็ไม่พยายามเข้าหาแม่แฟนเหมือนกัน อาจจะเป็นที่ภาระการงานที่ต้องเดินทางไปตปท.บ่อยด้วย เลยไม่สนใจในจุดนี้
และอย่างที่แม่อยากมีหลาน อิฐก็หันมาใช้วิธีนี้ วู่วาม ไม่ปรึกษากับบีทก่อน แถมยังดึงแม็กให้เข้ามาเกี่ยวอีก เรื่องมันเลยวุ่นวายกันไปใหญ่

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
รู้สึกว่าบทนี้แม็กม่าพูดได้ดีแฮะ ดีมากเลยล่ะ เสียดายที่คุณอิฐคิดไม่ได้

ออฟไลน์ haemin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 318
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
เบื่ออีอิฐ เอาสักทางเซรง

ออฟไลน์ alien.aiiwz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ให้คลอดๆ แล้วก็หนีไปเลยเหอะแม็ก
เรารำคาญอิอิฐล่ะ
 :z6: :z6:

ออฟไลน์ Pe_no

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 375
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เพลีย :mew2:

ออฟไลน์ cheyp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1536
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-0
ชอบความคิดแม๊กตอนนี้นะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: คุณแม่รับจ้าง [MPREG] ตอนที่ [-26-] [11/05/59]
« ตอบ #349 เมื่อ: 12-05-2016 08:36:42 »





ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
เหนื่อยใจแทน

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
เป็นผู้ชายห่วย เลว โง่

เมื่อไหร่อิฐจะเลิกเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง อะไรก็ต้องตัวเองก่อน ไม่สนใจความคิดคนอื่นเลย ทั้งแม่ บีท แม๊กม่า

ที่คบบีทได้นี่ไม่น่าใช่รักแล้ว น่าจะแค่สะดวกไม่เกาะแกะ มาหวานแว๊บๆ ก็ต่างคนต่างทำงาน

โอ๊ยยย คือ ห่วยมากอ่ะ

ออฟไลน์ ๛ナーリバス๛

  • ~~~๛NaaribuS๛~~~ ~ [TBL-081-588]
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +898/-26
    • NaaribuSS
-27-

   -แม็กม่า-

   
   ปากเดียวกันกับที่เคยบอกว่าไม่คิดอะไร ตัดเยื่อขาดใยไม่มีอะไรให้หวัง มาตอนนี้กลับเอ่ยคำขอร้องด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด มันทำให้ผมสับสน รวมถึงอ้อมกอดนี้ด้วย มันคืออะไร... ความสงสารงั้นเหรอ?

   เขาแค่สงสาร สมเพชเวทนากับความรักที่ไม่ได้รับการตอบสนองซ้ำแล้วซ้ำอีกของผมใช่ไหม? หรือแค่รู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุให้ผมเสียใจไม่รู้กี่ครั้งกี่หน แค่อยากปลอบโยนหัวใจอันบอบช้ำของผม เพื่อไม่ให้ความเศร้าที่เกาะกินใจของคนเป็นแม่มันถ่ายทอดไปยังลูกของเขาหรือเปล่า

   หรือมีบ้างสักเสี้ยววินาทีหนึ่งที่เขาจะไขว้เขวแอบมีใจให้ผมบ้างสักนิดหนึ่ง         

   ความอบอุ่นของอ้อมแขนนั้นที่วาดมากอด อุ้งมือใหญ่ที่กดผมไว้กับบ่ากว้างทำให้ผมพยายามหักห้ามความรู้สึกหวั่นไหวอย่างสุดกำลัง

   แค่หวัง... ก็ยังไม่กล้า...

   ผมสูดน้ำมูกขืนตัวออกจากอ้อมกอดนั้น กลิ่นหอมประจำตัวเขายังติดจมูกไม่รู้จาง...

   “เอ่อ... ผมอยากกลับบ้าน” ผมเอ่ยระหว่างใช้หลังมือปาดน้ำตา ยังสะอื้นฮึกๆ อยู่เล็กน้อย

   “แม่ไม่ให้ฉันไปส่งเธอ ไม่ได้ยินเหรอไง?” คำตอบนั่นทำให้เผลอค้อน...

   “แล้วคุณก็เชื่อหรือไง เพิ่งจะมาว่าง่ายเอาตอนนี้?”

   “ทำไมล่ะ บ้านฉันมันร้อนมากหรือไง ถึงต้องรีบกลับ” เขาถามเอนหลังพิงพนักแล้วพาดแขนยาวไปตามขอบเก้าอี้ด้านหลังผม ดูไม่อนาทรร้อนใจกับคนขี้แยอย่างผมเลย ทั้งๆ ที่เขาน่าจะรู้ว่าผมไม่อยากอยู่ใกล้เขาถึงอยากกลับ

   “ใจคอคุณจะไม่ไปส่งผมจริงๆ ใช่ไหม ผมจะได้นั่งแท็กซี่กลับเอง” ผมถามซ้ำ แต่อีกฝ่ายยังหลับตานิ่งอยู่ผมจึงลุกขึ้นยืนอย่างโมโห เขายื่นมือคว้าแขนผมไว้ ผมหันกลับไปมองด้วยหน้าบึ้งตึง

   “เดี๋ยวสิ อยู่กินข้าวเย็นกับแม่ก่อน แล้วเดี๋ยวจะไปส่ง” เขาบอกเรียบๆ น้ำเสียงนุ่มนวลแล้วดึงมือผมให้นั่งลงข้างๆ เขาตามเดิม

   พอผมเงียบ ไม่นานคนข้างกายก็หลับตาลงอีกเอียงหัวมาพิงไหล่ผม น้ำหนักที่ไหล่ทำให้ผมขยับตัวไม่ได้เลย

   “รู้ไหมแม็ก...” เขาพูดขึ้นทั้งๆ ที่หลับตา ผมหันไปมองอย่างงุนงง “เกือบยี่สิบปีแล้วที่ฉันหมดหวังเรื่องที่จะมีลูก... ตั้งแต่ที่ฉันรู้ตัวว่าชอบผู้ชาย ฉันไม่เคยคิดมาก่อนว่าฉันจะได้รู้จักกับหมอ และเขาจะทำในสิ่งที่ไม่มีใครสามารถทำได้  ไม่ใช่แค่แม่หรอกที่อยากมีหลาน ตัวฉันเองก็อยากมีลูก ฉันอยากเห็นเด็กวิ่งเล่นในสวน ให้เขาขี่คอพาเดินเล่น อยากป้อนข้าว พาเขาเข้านอน สอนตั้งไข่ ฉันไม่คิดเลยว่าสุดท้ายความเอาแต่ใจพวกนั้น จะทำให้มีคนเจ็บปวดมากมายขนาดนี้” 

   นั่นสิ ทั้ง เขา ผม คุณบีท และอาจจะรวมไปถึง...

   “ขอโทษ... ให้ฉันพูดเถอะ ถึงฉันจะรู้ว่าต่อให้พูดเป็นพันครั้งก็ยังไม่พอก็ตาม”

   ถึงคำขอโทษคำเดียวจะไม่สามารถทดแทนความเจ็บปวดในหัวใจของผมได้ แต่แค่คนข้างกายเอ่ยมันออกมาผมก็ยินดีรับฟังและไม่เหลือเหตุผลที่จะเก็บความขุ่นข้องหมองใจพวกนั้นไว้แล้ว...

   ผมไม่แปลกใจเลยที่สุดท้ายแล้วมันก็เป็นแบบนี้ เพราะรักใช่ไหม ถึงยอมให้อภัยได้ง่ายๆ


   กว่าคุณอิฐจะไปส่งผมได้ก็หลังจากที่เราทานมื้อเย็นร่วมกันเรียบร้อยแล้ว ทำให้ผมอดนึกถึงตอนที่อยู่บ้านนี้ไม่ได้ น้อยครั้งที่จะได้ทานข้าวเย็นพร้อมเขา ขากลับ ผมหลับตาลงพิงพนักที่นั่งขณะที่เขาขับรถกลับไปส่งผมที่บ้านซูกัส หลับๆ ตื่นๆ ไปตลอดทางจนกระทั่งมาถึงที่หมาย ผมสะลึมสะลือแล้วมองไปรอบๆ แล้วจึงขยับตัวปลดเข็มขัดนิรภัย

   “อ้อ.. อาทิตย์หน้าจะถึงวันเกิดผมแล้วนะครับ” ผมหันมาบอกเขาก่อนจะเปิดประตูรถ ทีแรกว่าจะไม่บอก แต่ก็เปลี่ยนใจซะได้...

   “เหรอ วันไหนนะ?” เขาถามด้วยน้ำเสียงสนใจ

   “วันที่ 19”

   “บังเอิญจัง ตรงกับวันก่อตั้งบริษัทพอดีเลย ว่าแต่เธออยากได้อะไรล่ะ?” บางทีผมก็หมั่นไส้เขา คิดว่าตัวเองเป็นเสี่ยหรือไง ผมถึงต้องคอยมาขอของอะไรแบบนั้น

   “ไม่อยากได้อะไรหรอกครับ แค่บอกเฉยๆ เพราะถ้าคุณจำวันเกิดผมไม่ได้ล่ะก็ คงโดนซูกัสเล่นงานแย่เลย” แค่คิดก็ปวดหัวแทนแล้ว

   “นั่นสิ ขอบใจนะ” เขาขอบคุณพร้อมรอยยิ้มทั้งปากและตา เป็นรอยยิ้มที่ทำให้ผมใจเต้นแรงจนรีบหลบสายตาทันที “ไหนๆ ก็เกิดวันเดียวกันแล้ว งั้นก็มาฉลองพร้อมกันเลยดีไหม?”

   “จะดีเหรอครับ” ผมหันไปถามอย่างไม่แน่ใจ ที่จริงแล้วผมไม่ชอบไปเที่ยวออกงานอะไรพวกนี้หรอก

   “ดีสิ จะว่าไปตอนนี้ เธอก็เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นรายใหญ่เลยนะ” ผมแอบค้อนที่อีกฝ่ายเอ่ยแซวแบบไม่จริงจัง จะว่าไปแล้วหลังจากที่ผมบอกว่าจะโอนหุ้นคืนไป เขาก็ไม่เห็นส่งเอกสารใดๆ มาให้เซ็นเลย แล้วก็ไม่ได้ทวงถามอะไรมาด้วย

   “เอ่อ... แล้วงานนี้มีใครไปบ้างเหรอครับ”

   “อืม... ก็พนักงานระดับผู้จัดการขึ้นไปน่ะ”

   “แล้วคุณบีทไม่มาด้วยเหรอครับ” ผมถามเสียงอ่อย ถึงจะรู้ว่าเขาชวนด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่ถ้าคุณบีทรู้คงไม่คิดแบบนั้นแน่...

   “ที่จริงฉันก็ชวนเขาทุกปีนะแต่ไม่เห็นมาสักปี ปีนี้ก็คงไม่มามั้ง ทำไมเหรอ?”

   “ก็ถ้าคุณบีทไปด้วยแล้วรู้ว่าคุณมารับผม เขาคงจะไม่พอใจเท่าไร แค่เรื่องที่เชียงรายก็โกรธมากแล้ว” ผมบอกเสียงเครียด...

   “เชียงราย เธอบอกเขาเหรอ?” เขาถามเสียงสูง พลอยทำให้ผมแปลกใจไปด้วยที่เขาไม่รู้...

   “เปล่านะครับ ผมไม่ได้บอก แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ารู้ได้ยังไง แต่เห็นโวยวายอยู่ตอนผมโทรไปบอกเรื่องแม่คุณ นี่เขาไม่ถามอะไรคุณเลยเหรอ?”

   “ไม่นะ ก็เห็นเหมือนเดิมเอง” คำตอบของเขาทำให้ผมแปลกใจทั้งเรื่องที่คุณบีทรู้ได้ยังไง และเรื่องที่เขาไม่โวยวายด้วย

   “บางทีฉันก็คิดนะว่าบีทกับเธอนิสัยคล้ายกัน”

   “ยังไงเหรอครับ?” ผมหยุดคิดเรื่องคุณบีทชั่วคราวแล้วหันไปถาม

   “ก็เป็นพวกเก็บกด ไม่ค่อยแสดงอารมณ์ อ่านยากเหมือนกัน... คนแบบนี้น่ากลัวตรงที่เก็บมากเกินไป พอไม่ไหวก็ระเบิด
ออกมาทีเดียวเลย” ผมเบะปาก พลางหรี่ตาใส่

   นี่ลุงจะชมหรือด่ากันแน่เนี่ย!

   “ที่จริงแล้วผมอ่านไม่ยากนะ ถึงไม่พูดผมก็สื่อสารผ่านดวงตา ที่คุณไม่รู้เพราะคุณไม่พยายามจะอ่านมันเองมากกว่า” ผมบอกด้วยเสียงคล้ายประชด 

   “หึ ถ้าเธอคิดว่าดวงตาสามารถบอกทุกอย่างได้จริง... ถ้างั้นเธออ่านสายตาของฉันออกหรือเปล่าล่ะ? ว่าคิดอะไรอยู่”  เขาถามพลางยื่นหน้ามาใกล้แล้วจ้องหน้าผม

   ผมหันไปมองเขาอย่างลังเล อ่านออกไหมผมไม่แน่ใจ รู้แต่ว่าแค่ผมตั้งใจจะสบตาเขาก็ทำให้ใจผมเต้นแรงมากแล้วจนต้องรีบหลบสายตาไปก่อนจะทันเห็นอะไร วินาทีต่อมาเขาก็ขยับตัวหันไปนั่งตัวตรง

   “ไม่แน่นะ ไม่รู้อะไรเลยก็อาจจะดีกว่าก็ได้”

++++++++++
   

   วันนี้วันเกิดของผม... ซูกัสอวยพรวันเกิดและให้ของขวัญแต่เช้าบอกจะฉลองให้ในตอนเย็นแต่ผมปฏิเสธเพราะมีนัดกับคุณอิฐแล้วทำให้เขาบ่นบ้างเล็กน้อย แต่แล้วก็เปลี่ยนเป็นชมคุณอิฐที่อย่างน้อยก็ยังอุตส่าห์จำวันสำคัญของผมได้บ้าง! ตกเย็นคุณอิฐก็แวะมารับผมที่บ้านซูกัส เพื่อนรักเอ่ยฝากฝังรวมทั้งพูดแซะเขาไปหลายอย่างจนผมรำคาญแทนต้องรีบไล่ซูกัสให้เข้าบ้าน

   เรามาถึงสถานที่จัดงานตอนหัวค่ำ ไม่ใช่ที่บริษัทแต่เป็นโรงแรมแห่งหนึ่ง

   “อย่าเพิ่งไปแม็ก ฉันมีอะไรจะให้” คุณอิฐบอกเมื่อผมขยับตัวปลดเซพตี้เบลต์ออกเตรียมจะเปิดประตูรถ ผมหันไปมองเขายังที่นั่งคนขับอย่างแปลกใจ

   “สุขสันต์วันเกิด” เขาบอกด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้มน่าฟังแล้วยื่นของขวัญกล่องเล็กๆ มาให้

   “นี่อะไรเหรอครับ?” ผมถามอย่างตื่นเต้นเมื่อรับกล่องนั้นมาไว้ในมือ

   “แกะสิ” เขาสั่งแทนคำตอบทำให้ผมบรรจงแกะของขวัญออก พบว่าเป็นขวดน้ำหอม

   “ขอบคุณนะครับ” ผมเงยหน้าขึ้นยิ้มขอบคุณ เขายิ้มตอบแล้วดึงขวดน้ำหอมจากกล่องขึ้นมาแล้วโน้มตัวเข้ามาฉีดน้ำหอมหลังใบหู ผมรู้สึกแปลกๆ หัวใจสั่นไหวเพราะเขาขยับมาใกล้เหลือเกิน ได้แต่นั่งนิ่งเหมือนตุ๊กตาเมื่อเขาจับแขนผมหงายขึ้นแล้วฉีดน้ำหอมที่จุดวัดชีพจรตรงข้อมือให้ด้วย ผมสูดลมหายใจเข้าลึกกลิ่นน้ำหอมฟุ้งลอยเข้าจมูก

   “เรียบร้อย... เก็บน้ำหอมไว้ในรถแล้วกันนะ” เขาว่าแล้วเก็บน้ำหอมใส่กล่องตามเดิมแล้ววางไว้ในรถ ก่อนจะขยับไปเปิดประตูฝั่งตัวเอง

   “ไปเถอะแม็ก” เขาบอกเมื่ออ้อมมาเปิดประตูรถให้

   “ครับ...” ผมตอบรับเหม่อๆ แล้วลุกตามไป  รู้สึกแปลกๆ ยังไงก็ไม่รู้ เพราะน้ำหอมที่ติดกายตัวเองเป็นกลิ่นเดียวกันกับเขา มันอวลตลบรอบกายราวถูกกับกำลังถูกเขากอดไว้...

   
   งานเลี้ยงจัดบริเวณชั้นล่างใกล้สระว่ายน้ำของโรงแรม คุณอิฐปล่อยผมนั่งลงที่เก้าอี้คนเดียวระหว่างที่เขาเดินเตร็ดเตร่ทักทายแขกเหรื่อจนกระทั่งพี่ยุทธเข้ามานั่งกับผม อันที่จริงพี่ยุทธโทรไปชวนผมมางานนี้ด้วยเหมือนกัน แต่ผมบอกไปตามตรงว่าคุณอิฐชวนผมแล้ว เขาจึงไม่ได้ว่าอะไรนอกจากบอกว่างั้นค่อยเจอกันที่งาน

   “ค็อกเทลไหม?” เขาถามยื่นแก้วหนึ่งในมือให้

   “ไม่ครับ ขอบคุณ” ผมตอบโดยไม่ต้องคิด เขาหน้าเสียเล็กน้อยที่ต้องชักแก้วกลับไป แต่ก็นั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆ

   “ไหนว่าจะตัดใจแล้วไง แล้วทำไมยังมาด้วยกันอีกล่ะ?” พี่ยุทธถามขึ้น ทำให้ผมอึกอักเล็กน้อย

   “ยังไงก็ยังเป็นคนรู้จักกันอยู่ดีนี่ครับ”

   “เออ... พี่แนะนำพวกหุ้นส่วนอื่นๆ ในบริษัทให้รู้จักไหม”

   “ไม่ดีกว่าครับ ผมอยากนั่งเฉยๆ มากกว่า” ตอบโดยไม่ต้องคิดอีกตามเคย ทำไมผมต้องรู้จักใครต่อใครให้มากความทั้งๆ ที่ผมไม่ได้สนใจผลประโยชน์อะไรที่นี่สักหน่อย ที่ผมมาก็เพราะถูกชวนเท่านั้นแหละ

   “อืม... หิวไหม เดี๋ยวพี่ตักอะไรมาให้แล้วกันนะ” พี่ยุทธก็ช่างเอาอกเอาใจดีนะ

   “เอ่อ ก็ได้ครับ” ผมตอบรับตามมารยาท แล้วรอให้เขาลุกเดินไปทางโต๊ะที่วางอาหารบุฟเฟ่ต์

   ผมเลิกใส่ใจพี่ยุทธแล้วมองหาคุณอิฐแทน เขาเดินมาทางนี้พร้อมกับน้าสาวของเขา

   “สวัสดีครับ” ผมรีบยกมือไหว้น้าเพทาย น้องสาวแม่คุณอิฐ ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการฝ่ายบริหาร ผมได้เจอท่านมาแล้วสองสามครั้ง ทั้งตอนที่มาประชุมที่บริษัทและตอนที่ท่านไปเยี่ยมแม่คุณอิฐที่โรงพยาบาล เราทักทายและพูดคุยกันตามมารยาทสักพักในขณะที่คุณอิฐเดินหายไปอีก ก่อนจะกลับมาพร้อมน้ำส้มและขนมขบเคี้ยว

   “น้าไปทางนู้นก่อนนะ ดูแลเมียดีๆ นะตาอิฐ เผื่อวันไหนโดนพี่ทิพย์ตัดออกจากกองมรดกจะได้ไม่ลำบาก” ท่านพูดติดตลก

   “นั่นสิครับ ผมก็กลัวๆ อยู่” คุณอิฐรับมุกแล้วหัวเราะ 

   น้าคุณอิฐเดินออกไปไม่นาน คุณแผ่นฟ้าลูกชายคุณเขตแดนก็เดินมาทักทายเรา

   “สวัสดีครับคุณธมล หุ้นส่วนรายใหญ่ของเรา เสียดายไม่รับตำแหน่งกรรมการไม่งั้นคงได้เจอกันบ่อยๆ”

   ผมกลืนน้ำลาย ไม่รู้จะตอบกลับไปยังไงดี ความคิดที่ว่าผู้ชายในเครืออิทธิฤทธิ์มีแต่พวกนิสัยประหลาดย้อนกลับมาอีกตามเคย

   “ไหนนายเคยบอกว่าผู้ชายที่ชอบผู้ชายด้วยกันเป็นพวกวิปริตไง แล้วอยู่ดีๆ ทำไมเกิดเปลี่ยนใจซะล่ะ” คุณอิฐถามเสียงเข้มคล้ายโมโหโกรธเคืองกันมาแต่ชาติปางไหน

   “ขอยกเว้นผู้ชายหน้าตาน่ารักๆ ที่มีหุ้นหลักมากที่สุดในบริษัทได้ไหม?” ดวงตาหวานเยิ้มนั่นทำให้รู้สึกว่าสมแล้วล่ะที่สองคนนี้เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน เสียดายที่มากัดกันเพราะผลประโยชน์แบบนี้ ไม่งั้นคงกอดคอกันจีบหนุ่มจีบสาวได้สบาย

   “ขอโทษด้วยนะครับคุณแผ่นฟ้า ผมว่าปันผลที่ได้ก็เยอะมากพอแล้ว ผมคงไม่คิดขายหุ้นให้คุณหรอกครับ”

   ผมบอกเขาหน้ายิ้ม ถึงแม้เราจะยังไม่ได้คุยอะไรกันเป็นการส่วนตัวมาก่อน แต่ผมก็รู้ว่าเขาสองคนพ่อลูกพยายามติดต่อผมผ่านพี่ยุทธเพื่อซื้อหุ้น ผมไม่แน่ใจว่าเขาไม่อยากให้คุณอิฐรู้เรื่องนี้หรือเปล่า คำพูดของผมจึงทำให้เขาหน้าเจื่อนเล็กน้อย

   “โอเคครับ งั้นผมขอตัวก่อนดีกว่า” เขาเอ่ยลาผมก่อนจะเดินไปยืนข้างคุณอิฐแล้วกระซิบบางอย่างแล้วจึงเดินแยกออกไป ผมมองหน้าคุณอิฐที่คิ้วขมวดเล็กน้อยทันทีที่เขาพูดจบจึงเอ่ยถามว่า

   “เขาว่าอะไรเหรอครับ?”

   “เขาเตือน... ให้จับเธอไว้ดีๆ ไม่อย่างงั้นจะต้องเสียใจ”

   คำพูดนั้นทำให้ผมใจคอไม่ดีขึ้นมาเลย ถึงไม่รู้ว่าอีกฝ่ายหมายถึงอะไรก็เถอะ

   “อย่าทำหน้าเครียดสิ เขาคงคิดว่าถ้าวันไหนเธอหมดรักในตัวฉัน เธอคงจะขายหุ้นให้เขาเท่านั้นแหละ”

   ผมไม่แปลกใจหรอกถ้าเขาจะคิดอย่างนั้น ถ้าหากพี่ยุทธพยายามจะแนะนำผมให้สองพ่อลูกรู้จักแบบนี้ บางทีพี่ยุทธอาจจะขายผมแล้วก็ได้

   “แล้วคุณคิดว่าผมจะทำแบบนั้นไหมครับ?” ผมถามอย่างกังวล จนแล้วจนรอดผมก็ยังแคร์เขามากอยู่ดี

   “ไม่รู้สิ แต่ตอนนี้ฉันเชื่อใจเธอนะว่าเธอจะไม่หักหลังฉัน”

   ผมไม่รู้หรอกว่าเขาจะคิดแบบนั้นจริงหรือเปล่า แต่คำพูดพวกนั้นมันก็ซื้อใจผมได้แล้ว



   เกือบสองทุ่ม หลังจากนั่งชมการแสดงบนเวทีจนเบื่อผมขอตัวไปห้องน้ำคนเดียว พอกลับมาก็เห็นคุณอิฐขึ้นไปพูดและจับรางวัลบนเวทีแล้ว ผมเลยเดินเอื่อยมานั่งชิลที่เก้าอี้ริมสระว่ายน้ำระหว่างรอให้พิธีการเสร็จสิ้น จู่ๆ ก็มีเท้าคู่หนึ่งมาหยุดยืนนิ่งข้างๆ จนผมต้องแหงนคอขึ้นมองหน้าแล้วก็พบว่าเป็นคนที่ไม่น่าจะมาซะได้

   “เป็นไง... แย่งผัวชาวบ้านเค้า มีความสุขมากไหม?” ผมกลืนน้ำลายหน้าเครียดเมื่อเจอคุณบีทยืนปั้นหน้ายักษ์ใส่ พร้อมคำพูดเสียดสีรุนแรงจนผมกำมือแน่น

   “ตบมือข้างเดียวมันไม่ดังหรอกครับ คุณน่าจะเชื่อใจคุณอิฐหน่อยนะว่าเขาไม่ได้นอกใจคุณน่ะ”

   “หึ! น้ำหอมกลิ่นฟุ้งยังกะอาบขนาดนี้ ยังมีหน้ามาปฏิเสธเหรอว่าไม่มีอะไร” เขายิ้มเหยียด แววตาทั้งเจ็บทั้งแค้น ผมค่อนข้างตกใจเมื่ออีกฝ่ายเข้าใจผิดไปแบบนั้น

   “มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะ!” ผมรีบเถียงแต่อีกฝ่ายเหมือนไม่อยากจะฟัง

   “อ้าว... บีท มาได้ยังไง?” คำอธิบายของผมถูกขัดด้วยเสียงทักทายจากคุณอิฐที่เพิ่งเดินมาสมทบ

   ในขณะที่เราสองคนเถียงกันหน้าเครียดเมื่อครู่ ครั้นตัวต้นเหตุเดินมา ต่างคนก็ต่างพยายามปั้นหน้าใส่กันทันที

   “ก็คุณชวนผมเองไม่ใช่เหรอ? ปีก่อนๆ ไม่เคยมา ปีนี้เลยอยากมาดูหน่อย ไม่ได้เหรอครับ” คุณบีทยิ้มอย่างเสแสร้ง ส่วนผมกดอารมณ์ให้นิ่ง แล้วฟังคนทั้งคู่โต้ตอบกันเงียบๆ

   “เปล่า มาได้” คุณอิฐตอบแบบถนอมน้ำใจแม้ว่าใบหน้าจะเฝื่อนไปบ้างก็ตาม มีแอบเหลือบตามามองผมนิดหนึ่งเหมือนกัน
แต่ก็เท่านั้นแหละมันไม่ได้ช่วยอะไรหรอก!

   “ผมหิวจัง หาอะไรให้ทานหน่อยสิอิฐ” คุณบีทหันไปอ้อน “เผื่อคนท้องด้วยก็ดีนะ เดี๋ยวเด็กจะโมโหหิว”

   “อืม..” คุณอิฐครางรับคำในลำคอเบาๆ ก่อนจะหันมามองผมแวบหนึ่งด้วยสายตาเหมือนเป็นห่วง แต่ก็ต้องยอมเดินไปทางโต๊ะที่จัดอาหารอย่างเลี่ยงไม่ได้

   อย่าห่วงผมเลยครับ ถ้าคุณไป ผมคงโดนด่าต่อเท่านั้นแหละ

   “คุณนี่น่านับถือจังเลยนะครับ ถึงขนาดนี้แล้วยังปั้นหน้ายิ้มหวานใส่คุณอิฐได้อีก” ผมบอกอย่างตรงไปตรงมา บางทีก็อดทึ่งไม่ได้เหมือนกันที่เขาเก็บอารมณ์เก่งขนาดนี้

   “ก็ถ้าฉันทะเลาะกับเขา มันก็เข้าทางเธอน่ะสิ” เขายิ้มร้าย ส่วนผมยิ้มรับ

   จริง! เพราะแบบนี้สินะเขาถึงทนเงียบมาตลอด เพราะเขารู้ว่าคนที่จะชนะคือคนที่อดทนและสร้างปัญหาให้น้อยที่สุด ต้องซ่อนความร้ายกาจไม่ให้ผู้ชายเห็น ต่อหน้าก็แสนดีแล้วค่อยมาจัดการผมเอาทีหลัง เขาฉลาดกว่าผมมากจริงๆ

   “คุณอิฐนี่น่าสงสารนะครับ มีเมียแต่ละคน ตอแหลเหมือนกันหมด” ผมเอ่ยลอยๆ พร้อมยิ้มเยาะ

   “แต่คนที่เขาไม่ยอมรับว่าเป็นเมีย แล้วมโนไปเองคนเดียวว่าเป็น มันไม่น่าสมเพชกว่าเหรอ?” ผมหุบยิ้มเปลี่ยนเป็นเค้นสายตามองเขาอย่างเคืองใจ แต่ไม่วายกวนโทสะเขาต่อ...

   “อ้าว ยังเหรอครับ?  ก็เห็นคุณโวยวายว่าผมเอาผัวคุณไปกก ผมก็เลยหลงเข้าใจว่าเป็นแล้วซะอีก” ผมลอยหน้าลอยตาตอบ สะใจนิดๆ ที่เห็นเขากำมือแน่น มองกลับมาด้วยแววตาวาวโรจน์ไม่แพ้กัน

   “ทะเยอทะยาน อยากได้ในสิ่งที่ไม่ใช่ของตัวเอง คิดว่าคนอย่างแกกับแผนตื้นๆ มันจะทำอะไรได้ ลงท้ายก็เป็นได้แค่ของเล่น”

   “ถึงผมจะเป็นของเล่นก็มีค่ามากกว่าของจริงอย่างคุณ ผมมีหุ้นในบริษัท แม่คุณอิฐก็รักผม แถมมีลูกเขาอีกคนในท้องด้วย แล้วคุณล่ะมีอะไร แค่ตัวกับหัวใจจะสู้ผมได้เหรอครับ?” ผมยิ้มเยาะ หมุนตัวเดินหนีหลังจากทิ้งระเบิดลูกย่อมใส่เขา

   วินาทีนั้นผมรู้สึกสะใจที่ทำให้เขาเจ็บปวดได้บ้าง ทั้งที่ความจริงผมต่างหากที่เจ็บปวดกว่า เพราะสิ่งที่ผมมีทั้งหมดนั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการเลย ถ้าหากผมเลือกได้ ผมอยากได้ความรัก ผมอยากได้ทั้งหัวใจของคุณอิฐมากกว่า แต่... 

   “คนอย่างแก ไม่สมควรจะมีอะไรทั้งนั้นแหละ” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงอาฆาตแค้นทิ้งท้ายก่อนที่ร่างของผมจะถูกผลักอย่างแรงจนถลาตกสระน้ำข้างๆ ดังตูม!

   ร่างผมจมดิ่งลงเบื้องล่างทันที พยายามตะเกียกตะกายขึ้นมาพ้นผิวน้ำ แต่ก็ได้แต่เอามือตีน้ำพัลวันอย่างตกใจกลัวไม่สามารถทำอะไรมากกว่านั้นได้...  เพราะผมว่ายน้ำไม่เป็น!


   
++++++++++


*อาจจะมีคนงงว่าทำไมน้ำหอมที่ลุงซื้อถึงกลิ่นเดียวกับตัวเอง
คงเพราะลุงแกหวงแม็กกะจะกันท่าพี่ยุทธ แต่ลุงแกไม่คิดว่าเมียแกจะโผล่มา เลยงานเข้าแม็กเต็มๆ  :z3:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
มันต้องพยายามฆ่ากันเลยไหม

ความหึงหวงนี่มันช่างร้ายกาจ
น้ำหอมสิ้นคิดจริงๆตาอิฐ เมียไม่คิดสิแปลกกลิ่นเดียวกันขนาดนี้

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
คนที่คุมอารมณ์ไม่อยู่มักตะแพ้นะบีท
งานนี้คุณอิฐยังจะเข้าข้างบีทอยู่รึป่าว

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
บีทมันโรคจิต :mew5:

ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1874
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
อิฐก็คงจะบอกว่าเป็นอุบัติเหตุอีกนั้นแหละ เกลียดดดด

ออฟไลน์ FaiiFay_Elle

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ถ้าครั้งนี้อิฐยังเข้าข้างบีท เราจะโกรธจริงๆแล้วนะ  :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13
จะเข้าข้างใครดี#ร้ายพอกัน

ออฟไลน์ haemin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 318
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
ตบบีท  ไปจิกหัวอิฐมาช่วยเมีย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด