ตอนที่ 11
หมดความอดทน
“เอ่อ…”
“…”
“คือ…”
“…”
“พะ…พวกเราลงมือกินข้าวกันดีกว่าไหมครับ”
ไม่ใช่อะไรนะ มันเป็นเวลาร่วมสิบห้านาทีแล้วที่ผม คุณจักรวาล และคุณอวกาศมานั่งจ๋องอยู่ที่โต๊ะอาหาร ตรงหน้าเรามีอาหารอร่อยๆมากมายเพื่อเป็นการต้อนรับการกลับมาของคุณอวกาศ ทว่า…บรรยากาศมันไม่ค่อยเหมาะกับการปาร์ตี้สักเท่าไหร่ เพราะผู้ชายสองคนที่นั่งประกบข้างผมอยู่ในตอนนี้เอาแต่เงียบกันน่ะสิ!
ไม่รู้มาก่อนเลยว่าพวกเขากำลังทะเลาะกันอยู่ ถ้ารู้กูคงไม่มานั่งแทรกกลางอยู่ตรงนี้ ฮึก…
“นายหิวเหรอ เอาสิ กินเลย เดี๋ยวฉันกินเป็นเพื่อน”
หัวขาวอ้าปากพูดขึ้นบ้าง แต่เขาก็พูดและตักกับข้าวใส่จานให้ผมแค่คนเดียว
“เอ่อ…”
“กินสิ หรือว่าอยากให้ฉันป้อนนนน”
ผมเหลือบมองหัวดำที่นั่งกอดอกนิ่งแต่แผ่รังสีความเย็นยะเยือกเป็นวงกว้างเสียเหลือเกิน ทำเอาขนแขนสแตนอัพหมดเลย
“มะ…ไม่เป็นไรครับ ผมกินเองได้ ขอบคุณมากเลยครับ”
“นายนี่มัน…น่ารักจริงๆเลยน้า ยิ่งเวลาทำหน้าตาอึกอักแบบนี้ก็ยิ่งน่ารักกกกก”
หมับ!
“เหวอออ!”
ผมร้องเสียงหลงด้วยตกใจที่จู่ๆก็ถูกคุณอวกาศดึงเข้าไปกอด เขาเอาแก้มมาถูไถกับหน้าผมไปมาเหมือนผมเป็นตุ๊กตาตัวหนึ่ง
อ๊ากกกกก ยังไงกูก็ผู้ชายนะโว้ย อย่ามาทำอะไรบัดสีอย่างนี้กับคนเพศเดียวกันจะได้ไหมวะ!
หมับ!
“ปล่อย”
“คะ…คุณจักรวาล”
ซีกด้านขวาถูกหัวดำกระชากเข้าหา เขาตีมือคุณอวกาศที่จับแขนผมอยู่ให้ปล่อยแล้วดึงไปกอดไว้เอง
“หมอนี่เป็นหมาน้อยของฉัน”
“อย่าทำหวงไปหน่อยเลยน่า ทีเมื่อก่อนเวลาผมอยากได้อะไร ต่อให้มันเป็นของของพี่ พี่ก็จะยกให้ทันทีไม่ใช่เหรอ”
ความฉิบหายมาเยือนแล้วไง
ผมหันซ้ายหันขวามองหน้าสองคนพี่น้องที่ปล่อยออร่าทำลายล้างแบบสุดๆออกมาจากตัว คนหนึ่งก็ตีหน้านิ่งแต่นัยน์ตาน่ากลัว ส่วนอีกคนก็ทำยิ้มแป้นทว่าดูกวนตีนมากกว่า
ใครก็ได้บอกผมที สองคนนี้ทะเลาะอะไรกันเนี่ย!!!
“นายจะบอกว่าอยากได้หมอนี่งั้นเหรอ?”
“ถ้าใช่แล้วจะยกให้ไหมล่ะ”
คุณอวกาศตวัดวงแขนมาโอบรอคอผมแล้วดึงเข้าหา หากแต่คุณจักรวาลก็ยังไม่ได้ปล่อยมือออกไป ท่าทางการยักคิ้วของคนหัวขาวมันช่างกวนบาทาจริงๆ
“นายก็รู้ว่าไม่มีอะไรบนโลกนี้ที่ฉันให้นายไม่ได้”
คุณจักรเอ่ยน้ำเสียงจริงจังก่อนจะปล่อยมือออกจากผมแล้วลุกออกจากห้องอาหารไป
ดะ…เดี๋ยวสิเฮ้ย ทำแบบนี้หมายความว่ายังไง จะบอกว่ายกผมให้คุณอวกาศแทนงั้นเหรอ! ก่อนจะตัดสินใจอะไรช่วยถามความสมัครใจของคนอื่นเขาหน่อยมันจะตายหรือไงฟะ!
“ฮะๆ เป็นแบบนี้ทุกที”
ทันทีที่หัวดำเดินพ้นประตูไป คนหัวขาวก็ปล่อยผมเป็นอิสระ เขาเอนตัวพิงไปกับพนักเก้าอี้ด้วยใบหน้าเศร้าสร้อย
“ไม่ว่าฉันจะอยากได้อะไร ต้องการอะไร ต่อให้เป็นของรักของหวงของพี่มากแค่ไหน เขาก็ยอมยกให้ฉันได้แบบไม่มีลังเล”
“นั่นก็เพราะคุณจักรวาลรักคุณมากไม่ใช่เหรอครับ”
“นายคิดงั้นเหรอ?”
“…”
“นายคิดว่าการกระทำของพี่ มันเหมือนสิ่งที่พี่น้องทำให้กันจริงๆหรือไง”
น้ำเสียงที่เอ่ยออกมาราวกับคนอัดอั้นและอยากจะร้องไห้
“ฉันไม่เข้าใจ ฉันเป็นน้องเขานะ ขัดใจฉันบ้างก็ได้ โมโหใส่ฉันบ้างก็ได้ เขาทำให้ฉันรู้สึกเหมือนฉันไม่ใช่น้องชายของเขา แต่เป็นผู้มีพระคุณหรืออะไรสักอย่างที่เขาต้องยอมเสียสละทุกอย่างให้แม้กระทั่งชีวิต ทำไมล่ะ แค่ขัดใจฉัน แค่พูดคำว่าไม่ได้กับฉันบ้างมันยากนักเหรอ”
“คุณอวกาศ…”
“ที่ฉันต้องการไม่ใช่อำนาจหรือว่าเงินทองที่พี่กำลังสร้างให้สักหน่อย ฉันต้องการครอบครัวต่างหาก ในเมื่อตอนนี้คนเดียวที่ฉันเหลืออยู่และพอจะเรียกได้ว่าครอบครัวก็มีแค่พี่ ทำไมไม่เข้าใจฉันบ้างเลย”
จะว่ายังไงดีล่ะ ผมเข้าใจสิ่งที่คุณอวกาศกำลังรู้สึกนะ เขาเองก็คงเหงาและอ้างว้างมาก ในเมื่อพี่ชายเพียงคนเดียวที่อยากจะสนิทด้วยและคอยดูแลกันเหมือนพี่น้องทั่วๆไป กลับมาทำตัวเหมือนเป็นทาสและยกเอาเขาไว้เหนือหัวแบบนี้ ไม่แปลกเลยที่เขาจะรู้สึกว่าตัวเองอยู่ตัวคนเดียว
เท่ากับว่าไอ้ที่ทำยียวนกวนประสาทไปเมื่อกี้ก็แค่ต้องการจะแกล้งคุณจักรวาลเท่านั้นเหรอ อยากจะได้ยินคำว่า ‘ไม่ได้’ จากปากพี่ชายสักครั้งเท่านั้นสินะ
“ขอโทษนะ ต้องให้นายมาคอยฟังอะไรแบบนี้จนได้”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณอวกาศเครียดหรือต้องการเพื่อนคุย ก็เรียกหาผมได้เลยนะ ผมอาจจะอยู่ที่นี่ในฐานะหมาน้อยของคุณจักรวาลก็จริง แต่ผมก็คิดว่าตัวเองเป็นคนงานของที่นี่คนหนึ่ง คุณอวกาศเป็นเจ้านาย เพราะงั้นก็เรียกใช้ผมได้ทุกเมื่อเลยครับ”
“อยู่เป็นเหมือนกันนะเรา”
มือหนาเอื้อมมาจับหัวผมแล้วโยกไปโยกมา
แปลกจัง พออยู่กับคนๆนี้แล้วผมรู้สึกเหมือนตัวเองกลายเป็นนั่งที่เอาแต่นั่งยิ้มรอให้เขาเอ็นดู
“นายตามพี่จักรวาลไปเถอะ ป่านนี้คงกังวลแย่แล้ว ท่าทางเขาหวงนายใช่ย่อย”
“ไม่มีอะไรหวานแหววอย่างที่คิดหรอกครับ ผมก็แค่หมานั่นแหละ”
ว่าพลางชี้ไปที่ปลอกคอ
มันคือเครื่องยืนยันว่าผมเป็นแค่หมาเท่านั้นจริงๆ
“อ่า…มีการแสดงความเป็นเจ้าของด้วยเหรอ”
“ก็บอกแล้วไงครับว่าเรื่องจริงมันไม่ได้หวานแหววขนาดนั้น”
“เจอของสนุกๆไว้แก้เบื่อแล้วสิ”
“คุณอวกาศ!”
หมับ!
“อย่าทำหน้ายู่แบบนั้นสิ ไม่มีอะไรหรอกน่า”
“อ๊ากก อย่าหยิกแก้มผมสิครับ ผมเจ็บนะ”
มู่หน้าใส่เขาหลังจากที่ถูกยืดแก้มทั้งสองข้างออกจนแทบจะย้วยติดพื้น เป็นพี่น้องที่ให้นิสัยต่างกันสุดขั้วเลยแฮะ
ความรู้สึกเวลาที่ได้อยู่ใกล้ๆก็ยังต่างกันอีกด้วย
สุดท้ายแล้วก็ไม่มีใครกินมื้อเย็นสักคน ผมรีบกลับมาหาคุณจักรวาลที่ห้องเพราะกลัวเขาจะเข้าใจผิดคิดว่าผมจะเปลี่ยนเจ้านายจริงๆ ความจริงคุณอวกาศก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร เวลาอยู่ใกล้ก็รู้สึกอบอุ่นปลอดภัยดี เพียงแต่ว่า…
ผมอยากอยู่กับคุณจักรวาลมากกว่า
ตะ…แต่เรื่องนี้บอกให้เขารู้ไม่ได้หรอกนะ!
แอ๊ด…
“ขะ…ขออนุญาตนะครับ”
เงียบ…
ไม่มีเสียงตอบรับจากคนข้างใน พอเดินเข้าไปก็พบร่างสูงที่นั่งเก๊กขรึมอ่านหนังสืออยู่ตรงโซฟาข้างเตียง เขาไม่เปรยตามองผมเสียด้วยซ้ำ
“คุณจักรวาล”
“…”
“คุณจักรวาลครับ”
“…”
อ้าวเฮ้ย! ไหงมาโกรธผมแบบนี้เล่า!
ความอึดอัดเข้าครอบงำทันที ผมยืนมองซ้ายมองขวาด้วยไม่รู้จะทำยังไงดี โดนโกรธแน่ๆเลย แต่มันเรื่องอะไรกันล่ะ ก็คนที่ทิ้งผมไว้แล้วทำท่าเหมือนจะยกผมให้คนอื่นง่ายๆมันคือเขาเองไม่ใช่หรือไง! คนที่ควรเป็นฝ่ายโกรธคือผมมากกว่านะ
“มาทำอะไร”
“ครับ?”
“ห้องนายอยู่ข้างๆไม่ใช่เหรอ”
“ข้าง?”
“…”
“นะ…นั่นมันห้องของคุณอวกาศไม่ใช่เหรอครับ!”
“ใช่ แล้วทำไมไม่ไปล่ะ มาห้องนี้ทำไม”
“นี่คุณ! พูดอะไรออกมาน่ะครับ ผมจะไปห้องคุณอวกาศทำไมกัน ในเมื่อผมเป็นหมาของคุณนะ!”
ช่วยบอกผมทีว่ามันเกิดอะไรขึ้น ไหงไปๆมาๆกลายเป็นผมที่ต้องมาเถียงกับเขาเรื่องนี้แทนล่ะ!
“หมาที่พอเห็นคนอื่นก็กระดิกหางใส่ไม่สนใจเจ้านายน่ะเหรอ”
กะ…กระดิกหางใส่!
กูไปทำแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ!
คุณจักรวาลยังคงนั่งอ่านหนังสือและทำเฉยชาใส่ผมต่อไป ได้…จะเล่นกันแบบนี้ใช่ไหม อย่างนี้ต้องเจอท่าไม้ตาย!
ผมวิ่งไปเปิดลิ้นชักตู้ที่ตั้งอยู่ตรงหัวเตียงแล้วหยิบเชือกจูงออกมา เอาตัวล็อกมาเกี่ยวไว้กับห่วงที่ปลอกคอของตัวเอง ส่วนปลายอีกข้างก็เอาไปผูกไว้กับขาเตียงฝั่งใกล้กับโซฟา เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย ผมก็ค่อยๆคลานสี่ขาเข้าไปหาเขา
“หงิงๆ~~”
ร้องครางเหมือนหมาที่มาอ้อนเจ้านาย คุณจักรวาลละสายตาจากหนังสือมองผมที่นั่งทับเข่าเอาหน้าซบกับหน้าตักเขาอยู่อย่างตกใจ
“ทำอะไร”
“อย่าโกรธผมเลยนะครับเจ้านาย ถ้าผมทำอะไรให้โกรธผมขอโทษนะ นะๆๆๆ”
ถูไถหน้ากับหัวเข่าของเขาพลางช้อนตามองปริบๆ
“ผมเป็นหมาน้อยของจักรวาลเท่านั้น แล้วก็จงรักภักดีกับคุณคนเดียวด้วย ผมไม่มีทางไปเป็นหมาน้อยของคนอื่นได้หรอก เชื่อผมเถอะนะ”
กูลงทุนกลายร่างเป็นหมาอ้อนมึงสุดตัวขนาดนี้ ถ้าจะทำใจแข็งโกรธกูต่อนี่ก็จะไม่ง้อแล้วนะเฟ้ย!
ว่าแต่…ผมจำเป็นต้องทำขนาดนี้เพียงเพราะหนี้สิบล้านจริงๆน่ะเหรอ?
ผมทำไปเพราะ…หนี้พวกนั้นจริงๆใช่ไหม?
“นี่นาย”
ในที่สุดก็มีเสียงตอบรับกลับมาบ้าง คุณจักรวาลก้มหน้ามาหาผม มือข้างหนึ่งเลื่อนมาจับที่ปลอกคอก่อนจะ…
กึก…
ปลดโซ่ล่ามนั้นออก
“ทำแบบนี้มันอันตรายนะ”
“อันตราย? คุณหมายถึงอะไร เหวอ!!!”
เอาอีกละ!
จะรอให้กูพูดจบก่อนก็ไม่ได้ เมื่อตอนในห้องอาหารคนน้องก็ทำกูร้องเหวอไปทีหนึ่งละ พอขึ้นมาบนห้องก็เป็นคนพี่อีก!
ที่ผมร้องเหวอก็เป็นเพราะจู่ๆคุณจักรวาลก็ฉุดผมขึ้นไปนั่งคร่อมอยู่บนตักเขา! ย้ำนะว่านั่งคร่อม! ตอนนี้ผมอยู่ในสภาพหันหน้าเข้าหันคุณจักรวาล ส่วนล่างของเราเสียดสีกันเล็กน้อยด้วยท่าที่ผมนั่งในตอนนี้มันไม่ค่อยจะโอเคเท่าไหร่เลย!
“ปะ…ปล่อยผมนะครับ นั่งท่านี้มันค่อนข้างจะ…”
“เงียบน่า”
ใกล้ไปแล้ว…
เสียงของเขาที่ตอบกลับมามันแผ่วเบาและเซ็กซี่จนหัวใจแทบจะระเบิด ลมหายใจร้อนๆที่สัมผัสได้ทำให้ผมรู้เลยว่าเราใกล้กันมาก…
“นึกว่าคืนนี้จะไม่ได้นอนกอดหมาน้อยซะแล้ว”
“อ๊ะ…”
ร่างกายถูกดึงเข้าหาด้วยอ้อมกอด ลำตัวของผมถูกบีบรัดจากวงแขนแกร่งของเขา คุณจักรวาลเกยคางลงบนบ่าของผม
เราแทบไม่มีช่องว่างระหว่างกันเลย
“คุณ…”
“ถึงได้บอกไง ว่าที่นายทำเมื่อกี้น่ะ…อันตราย”
“…”
“เพราะฉันใกล้จะหมดความอดทนแล้ว”
หมดความอดทน?
เดี๋ยวก่อนนะ อดทนเรื่องอะไรไม่ทราบ! ใครก็ได้ช่วยยืนยันกับผมที ว่าในคืนนี้ร่างกายของผมจะปลอดภัย!
บับเบิ้ลบิวชวนคุย :
มาอัพตอนที่สิบเอ็ดแล้วจ้า อุ๊ยตายว้ายกรี๊ดมากๆ ท่านจักรวาลของเรากำลังจะหมดความอดทนแล้วรึ O_o แล้วถ้าหมดความอดทนจริงๆตั้งใจจะทำอะไรกับน้องไทม์กันแน่ ดูท่าว่างานนี้คงมีศึกชิงนายกันแน่นอนเลย เพราะอวกาศเองก็เหมือนจะมีแผนสนุกๆอยู่ในใจ ช่างเป็นคู่พี่น้องที่กลืนกินกันไม่ลงจริงๆ รักใครเชียร์ใครก็ให้กำลังใจคนนั้นกันไปน้า
#เมื่อผมถูกส่งไปขัดดอก ติดแฮชแท็กนี้ในทวิตเตอร์เพื่อพูดคุยกันได้ค่า