(ตอนพิเศษ น.23)Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: (ตอนพิเศษ น.23)Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ  (อ่าน 220263 ครั้ง)

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
นายจะหวั่นไหวไปกับหมูก็ไม่แปลกหรอกอ๊อฟ คนเรามันห้ามใจไม่ให้ชอบใครซักคนมันก็ยากอยู่ :เฮ้อ:
แต่อย่าลืมว่าเพื่อนของนายคนนี้เค้ามีเจ้าของเป็นตัวเป็นตนแล้วก็รักกันมากด้วย :o8:
เพราะฉะนั้นการฉวยโอกาสเป็นมือที่สามตอนนี้ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนะ อยู่ข้างๆกัน คอยเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันก็พอแล้วมั้ง
อ้อมซะยืดยาว แค่อยากจะบอกนายว่าอย่าได้คิดอะไรกับหมูนะเฟ้ย หวงแทนนิธินอ่ะเข้าใจป่ะ :laugh:

ออฟไลน์ bytoey

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 865
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +197/-3
นายเอกของเรา เสน่ห์แรงจริงๆ :เฮ้อ:

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
หาคู่ให้ผู้พันอ๊อฟโดยด่วน

บวกเป็ด

ออฟไลน์ น้ำพริกแมงดา

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +272/-0
    • เข้ามาเป็นคุยกันกับ "น้ำพริกแมงดา" ใน facebook page นะคะ
วันนี้มาแล้วค่ะ คิดถึงคุณผู้อ่านมาก ๆ ค่ะ ขอบคุณนะคะที่ให้การติดตามอย่างอบอุ่นมาตลอด ขอบคุณมากค่ะ +เป็ด&+โหวต :pig4:


28



   เดือนที่สามของปีผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่ทว่าเชื่องช้าในความรู้สึกของอธิปพงศ์และนิธินที่นับวันรอคอยที่จะได้กลับมาอยู่ด้วยกัน โดยนิธินที่ไม่มีเวลาคิดเรื่องอื่นนอกจากงานหนักที่ถาโถมเข้ามาทุกวัน แต่เขาก็ยังคงหมั่นทักทายคนรักผ่านหน้า Facebook อย่างสม่ำเสมอ เขากับคนรักยังมีความรู้สึกดี ๆ ให้กันเหมือนเดิม เพียงแค่ได้เห็นหน้าคนรักและพูดคุยกันสั้น ๆ ก็ทำให้หัวใจของชายหนุ่มชุ่มชื่นขึ้นมามาก ก่อนจะกลับไปสู้งานหนักในบรรยากาศตึงเครียดอย่างเดิม
   ส่วนอธิปพงศ์ก็คอยให้กำลังใจคนรักอยู่ไม่ขาด เขาเข้าใจดีว่าช่วงนี้คนรักทุ่มเทให้กับงานที่ได้รับมอบหมายแค่ไหน ถึงแม้เขาจะว้าเหว่โดยมีความเหงาอยู่เป็นเพื่อน แต่ก็พยายามทำใจและมองทุกอย่างในด้านดีเสมอ ที่สำคัญเขายังมีงานที่รักและเพื่อนร่วมงานและลูกค้าดี ๆ ที่ร้าน รวมถึงเพื่อน ๆ ของนิธินที่ยังติดต่อกับเขาอยู่ไม่ขาด และมีเพื่อนอย่างกรวัฒน์ที่แม้ช่วงนี้จะหายหน้าไปเพราะติดงาน แต่ก็ทำให้อธิปพงศ์รู้สึกดีที่ไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่กับความเหงาอย่างที่เคยกลัว
 
   เลิกงานวันนี้อธิปพงศ์มากินข้าวที่ร้านของเขียว ลูกค้าประจำที่กลายมาเป็นเพื่อนรุ่นน้องคนสนิทของเขา หญิงสาวยังคงดูสดใสร่าเริงเหมือนเดิม ด้วยความที่เขาและเธอสนิทกันอธิปพงศ์จึงสามารถมารับประทานอาหารได้ในเวลาที่ร้านจะปิดแล้วอย่างนี้
 "ช่วงนี้พี่หมูเป็นไงมั่งคะ"
“เรื่อย ๆ หน่ะจ้ะ” อธิปพงศ์ตอบยิ้ม ๆ ถึงแม้ช่วงนี้เขากับนิธินจะไม่ได้ออนไลน์คุยกันเลย แต่การพูดคุยสั้น ๆ ในหน้า Facebook ก็ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกว่าเขายังคงใกล้ชิดกับคนรัก
“อืม ตอนนี้คอนโดของเพื่อนมาร์โค่เค้าขายไปแล้วนะคะ เขียวขอโทษที่ช่วยคุยให้ไม่ได้ เพราะเค้าก็อยากได้เงินเร็ว ๆ หน่ะค่ะ”
“ไม่เป็นไรจ้ะ” อธิปพงศ์ไม่ถือสา “พี่ก็ยังไม่แน่ใจเลยอ่ะ เพราะก็ไม่ได้คุยกับนิธินเลย”
“อ่าวเหรอคะ”
“จ้ะ เค้างานยุ่งหน่ะ ส่วนใหญ่ก็คุยกันสั้น ๆ ในหน้าเฟชบุ๊ค”
“ก็ดีแล้วหล่ะค่ะพี่หมู ยังติดต่อกันบ้าง ดีกว่าหายไปเลย”
“อืม” เขาถามรุ่นน้องต่อ “น้องเขียวเคยห่างกับแฟนนาน ๆ มั๊ย”
อธิปพงศ์พูดออกมาเหงาๆ เพราะไม่สามารถปิดบังความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองได้เมื่ออยู่กับผู้หญิงอย่างเขียว ส่วนหญิงสาวได้ยินอย่างนั้นก็หันมาตอบเพื่อนรุ่นพี่อย่างใจดี
“เคยค่ะ แต่เขียวว่าไม่น่าจะเหมือนพี่หมูกับคุณนิธินหรอก”
“ยังไงอ่ะ”
“ตอนนั้น เขียวเคยสอบปลัดอำเภอได้นะ รู้มั๊ยคะว่าเขียวได้ทำงานที่ไหน...อำเภอศรีสาคร นราธิวาสค่า”
“เหรอ..” อธิปพงศ์ตกใจเล็กน้อยและฟังต่อ
“ค่ะ อันที่จริงเขียวก็ไม่ใช่คนดีนักหรอกนะคะ เพราะก็ไม่ได้คบใครจริงจัง แต่ก็ไม่แคร์นะ มีความสุขก็พอแล้ว พอเขียวได้งานอย่างนั้น พี่หมูเชื่อมั๊ยไอ้ที่เคยคุยด้วยหายไปหมดเลย เหลืออยู่คนเดียวนี่แหล่ะ ก็คือมาร์โค่”
“อืม..”
“มีวันนึง มีชาวบ้านมาหาเขียวและบอกว่า มีฝรั่งพูดไทยไม่ค่อยรู้เรื่องอยู่ที่ในตลาด เหมือนจะมาหาคนชื่อเขียว เขียวเลยรีบขับมอเตอร์ไชค์มาดู ก็เลยเห็นมาร์โค่ยืนอยู่หน้าร้านน้ำชา”
“โห...” อธิปพงศ์ตกใจกับเรื่องราวของรุ่นน้อง “แล้วไงต่อ”
“เขียวก็วิ่งเข้าไปหาเลยสิคะ ตกใจมากว่าเค้ามาได้ยังไง   อีกอย่างตอนนั้นเรายังไม่ได้เป็นแฟนกันเลยด้วยซ้ำ เค้าบอกว่า เค้าเป็นห่วงเขียวมากๆ” หญิงสาวอมยิ้มน้อย ๆ
“ตอนนั้นเขียวน้ำตาซึมเลยนะคะ ทั้ง ๆ ที่เค้าไม่เคยไปไหนนอกจากในกรุงเทพฯแต่อุตส่าห์ดั้นด้นมาหาเพราะอยากมาดูว่าเขียวเป็นยังไง ทั้งที่ความจริงเค้าหน่ะน่าเป็นห่วงกว่าเขียวตั้งเยอะ”
“ก็จริงนะ..”
“เค้าเล่นไม่กลัวระเบิดอย่างนี้ ก็ได้ใจเขียวไปเลยค่ะ เราก็ลองคบกันดูหลังจากนั้น โดยที่เค้าอยู่กรุงเทพฯแต่เขียวยังอยู่ที่นราฯ อยู่อย่างนั้นสักปีหน่ะค่ะ จนช่วงนั้นเค้าเห็นว่ามีระเบิดบ่อย เค้าเลยขอให้เขียวลาออก มาแต่งงานกับเค้าดีกว่า”
“อืม...”
“ช่วงที่ห่างกันก็คิดถึงนะคะ แต่ก็ไม่มากเท่าไหร่ อาจจะเพราะเขียวเพิ่งจะจริงจังกับเค้ามั๊งพี่ แต่ก็กลัวนะ กลัวว่าเค้าจะเจอคนใหม่และก็เลิกกับเรา มันเป็นความกลัวมากกว่าความคิดถึงหน่ะพี่ บางทีเค้าก็ไม่รับโทรศัพท์ไม่ตอบอีเมลล์ ไม่ได้ติดต่อกันจนเขียวคิดว่าเค้าจะเลิกกับเราไปแล้ว แต่มารู้ตอนหลังว่าเค้าทำงานเก็บเงินจนไม่มีเวลาคุยกับเราต่างหาก ฮ่ะๆ”
“อย่างนี้นี่เอง...” อธิปพงศ์ยิ้มรับ
“ช่วงที่อยู่ห่างกันสำหรับเขียวมันเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนะคะ ว่าตกลงเรารักกันจริง ๆเหรอ ตอนนั้นมันยังไม่ชัวร์ว่าเราคบกันจริงจังหรือเปล่าด้วยไง มันอาจจะไม่ได้คิดถึงช่วงเวลาดี ๆ ที่มีด้วยกัน แต่มันเป็นการคบกันผ่านทางไกลที่เขียวก็ดันมาจริงจังซะด้วย แต่ก็โชคดีค่ะ ที่เวลาหนึ่งปีกับระยะทางมันทำให้เรารู้ว่าจริง ๆแล้วเรารักกัน”
“จ้ะ” เขารับคำรุ่นน้องยิ้ม ๆ เพราะรู้สึกดีที่ได้พูดคุยกับหญิงสาว
  ในตอนนี้ชายหนุ่มพอจะเข้าใจแล้วว่า ทำไมเกย์ถึงต้องมี “เพื่อนสาว” สักคนไว้เคียงข้าง คอยปรับทุกข์ พูดคุย แลกเปลี่ยนทัศนคติในหลายเรื่องที่เพื่อนผู้ชายด้วยกันไม่มีทางอ่อนไหวพอที่จะเข้าใจและยอมรับความเป็นจริงของมนุษย์ที่มีมุมโศกเศร้าและอ่อนแอ ในเมื่อความรักเปลี่ยนเขาให้เป็นคนที่มีความรู้สึกซับซ้อนและอ่อนไหวมากขึ้น การได้พูดคุยและปรับทุกข์กับผู้หญิงอย่างเขียวก็ทำให้เขามีสติและมีความสบายใจกลับมาทุกครั้ง
ความรักครั้งนี้ของเขาก็คงคล้ายกับเขียวที่เป็นการคบกันจริงจังผ่านทางไกล เมื่อได้ฟังประสบการณ์ของรุ่นน้องแล้ว ก็ทำให้ใจชื้นขึ้นมามากกับเรื่องราวความรักของตัวเอง


  กรวัฒน์ในชุดครึ่งเครื่องแบบกลับถึงคอนโดมิเนียมแถวลาดพร้าวของตัวเองในยามดึก ในมือเขาถือลังกระดาษขนาดกลางมาด้วย ชายหนุ่มเปิดประตูห้องและนั่งลงกับโซฟารับแขก ก่อนจะหยิบอัลบั้มรูปถ่ายในลังกระดาษที่วางอยู่ขึ้นมา
 เขายิ้มให้กับอัลบั้มรูปถ่ายด้วยฟิล์มพวกนี้ที่เพิ่งแวะไปเอามาจากบ้านที่ลพบุรี เมื่อเขาเปิดดูก็พบรูปถ่ายของตัวเองและอธิปพงศ์ในวัยอนุบาลจึงยิ้มขำออกมาเบา ๆ ที่ตัวเองกับเพื่อนกำลังแก้ผ้าเล่นน้ำในสระเป่าลมด้วยกัน ต่อมาเป็นรูปที่โรงเรียนอนุบาลและเป็นรูปตอนไปเที่ยวงานวันเด็ก เขานึกขำที่ตัวเองกับเพื่อนเคยไปเล่นซนในที่ต่าง ๆ มาด้วยกัน และอัลบั้มต่อมาก็เป็นรูปในตอนประถม ทำให้เขานึกถึงสมัยเด็กที่ชอบไปเตะบอลและขี่จักรยานรอบค่ายที่เขาอาศัยอยู่ ไม่ก็ไปเล่นในสวนของแม่อีกฝ่ายในวันหยุด จนมาถึงตอนมัธยมต้นที่ทั้งสองยังคงสนิทสนมกันเหมือนเดิม แต่พอขึ้นมัธยมปลายเขากับอธิปพงศ์ก็เริ่มห่างกันมากขึ้น จนเมื่อเข้าสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหารได้ตอนม.5 เขาก็ไม่ได้เจอกับอธิปพงศ์จนเพิ่งมาเจอในงานฤดูหนาวลพบุรีเมื่อปลายปีที่แล้ว
   เขาถอนหายใจและพิงกายกับโซฟานุ่ม ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เขามองเพื่อนในสายตาที่เปลี่ยนไป
กรวัฒน์ยิ้มเมื่อนึกถึงความสุขตอนที่ได้อยู่กับอธิปพงศ์ ถึงแม้อีกฝ่ายจะวางตัวปกติแต่เขาก็รู้สึกว่าเพื่อนมีเสน่ห์มากกว่าแต่ก่อน นึกแล้วชายหนุ่มก็ตลกตัวเอง ที่ตอนนี้กำลังหลงรักเพื่อนของตัวเองเข้าให้แล้ว และเป็นความรักที่ช้าไปมากเสียด้วย เพราะอีกฝ่ายก็มีความรักกับคนรักที่จริงจังมั่นคง เห็นทีว่าเขาคงต้องรีบตัดใจก่อนที่จะเสียความเป็นเพื่อน และเสียใจไปมากกว่านี้

  “เฮ้ออ..เสร็จซะที” นิธินเดินตัวปลิวออกมาจากห้องประชุมพร้อมทีมโปรแกรมเมอรเขาดีใจและโล่งใจเพราะงานหนักที่เขาและเพื่อนร่วมงานทุกคนทุ่มเทมานั้นผ่านการเห็นชอบจากผู้บริหาร ทำให้เขารู้สึกหายเหนื่อยขึ้นมาเป็นปลิดทิ้ง และก็อุ่นใจขึ้นเล็กน้อยว่าโอกาสที่จะกลับไปรับตำแหน่งใหม่ที่กรุงเทพฯนั้น พอปรากฏเค้าลางแห่งความเป็นไปได้มาบ้างแล้ว
“นิธินๆๆ” เพื่อนร่วมงานผู้ชายคนหนึ่งวิ่งมาเรียก
“วันนี้ไปฉลองกัน”
“ที่ไหนเหรอ”
“ไปแถวอาบูฮาลีไง เนี่ยพวกเราไปกันหมดเลย นายไปด้วยกันสิ”
“ได้ครับ ขอบคุณมากนะ” นิธินรับคำอย่างง่ายดาย ถึงแม้จะอยากกลับห้องไปนอนพักผ่อนและตื่นมาคุยกับคนรักยามดึก แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้เพราะถือเป็นการเสียมารยาทกับเพื่อนร่วมงาน
“ดีๆๆ งั้นเดี๋ยวไปกินข้าวด้วยกันและไปต่อเลยนะ” คนชวนตอบรับก่อนจะลากชายหนุ่มไปรวมกลุ่มกับเพื่อนร่วมงานที่เหลือ นิธินยิ้มให้ทุกคนอย่างเป็นมิตร ถึงแม้จะยังไม่สนิทกันเหมือนเพื่อนร่วมงานที่กรุงเทพฯ แต่ทุกคนก็ดูเป็นมิตรกับเขาตามประสาชาวอินเดียด้วยกัน
  เขาและเพื่อนร่วมงานมากินดื่มให้กับความเหน็ดเหนื่อยที่ผับอินเดียในโรงแรมแถวถนนอาบูฮาลี เพราะที่ดูไบนี้ไม่สามารถซื้อหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้เสรีมีเพียงเฉพาะในที่มิดชิดอย่างโรงแรมและผับเท่านั้นที่ได้รับอนุญาต ทุกคนชนแก้วฉลองให้กับความสำเร็จและเต้นรำกันอย่างสุดเหวี่ยง ยกเว้นนิธินที่แค่ดื่มพอเป็นพิธี เมื่อเห็นว่าหลายคนเริ่มเมาแล้ว เขาจึงค่อยปลีกตัวออกมาจากผับเพื่อจะกลับไปพักผ่อน นิธินทั้งง่วงทั้งอ่อนเพลียกับการใช้ร่างกายอย่างหนักมาหลายวันติดกัน เขารู้สึกขอบคุณเจ้านายที่เห็นว่างานของพวกเขาเข้าตา และขอบคุณที่พรุ่งนี้เป็นวันศุกร์*เขาจะได้หยุดเพื่อนอนให้เต็มอิ่มชดเชยเวลาที่ผ่านมา เขามองบรรยากาศของดูไบยามราตรี ที่ท้องฟ้ามืดมืดถูกแต่งแต้มด้วยแสงไฟถนนสีนวลตา และไฟจากอาคารรูปทรงทันสมัยที่แข่งกันเปล่งแสงล้อดาวบนท้องฟ้า คืนนี้อากาศกำลังดี ไม่ได้หนาวแห้งๆ เหมือนทุกคืนที่ผ่านมา นิธินมองไปรอบตัวและคิดถึงคนที่เขารัก อยากให้อธิปพงศ์มาอยู่ที่นี่ในตอนนี้ด้วยกัน เดินจับมือกันดูแสงสีและนั่งแอบอิงกันริมน้ำเหมือนคู่รักรอบๆ แต่พอนึกถึงความเป็นจริงแล้วก็ยิ้มขำกับความคิด เพราะที่นี่ไม่ได้ยอมรับเกย์เหมือนเมืองไทย แม้จะมีเกย์อยู่ไม่น้อยก็ตาม นิธินกำลังคิดต่อว่า นี่กำลังเข้าสู่เดือนที่สี่ของการห่างไกลแล้ว ชายหนุ่มถอนหายใจออกมากับเวลาที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
"เหลืออีกสามเดือนสินะกับการทำงานที่นี่"
นิธินคิดอย่างนั้น ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปบรรยากาศตัวเมืองในมุมโรแมนติก และก็อัพโหลดในเฟชบุ๊คของตัวเอง โดยไม่ลืมแท็กคนรักและพิมใต้รูปว่า
"Beautiful Dubai night, but it would be better if you stay with me"

 อธิปพงศ์กลับมาที่ห้องและอาบน้ำ ต่อด้วยบำรุงผิวและกินวิตามินก่อนนอนตามปกติ พร้อมกับเปิดคอมพิวเตอร์เพื่อออนไลน์พูดคุยกับคนรัก เมื่อเปิดดูวอลล์ของตัวเองเขาก็ยิ้มออกเมื่อเห็นว่าคนรักมาโพสไว้

“ดีใจจังโปรเจ็กต์นี้ผ่านแล้ว แต่ต้องไปฉลองกับเพื่อน ๆ เสียดายที่ไม่ได้มาคุยกับคุณ.. คิดถึงนะครับ พรุ่งนี้เจอกันในSkype นะ ^ - ^ ”

อธิปพงศ์ยิ้มกว้างดีใจที่เห็นอย่างนั้น แต่ก็ดีใจยิ่งขึ้นเมื่อได้เห็นรูปที่คนรักเพิ่งจะแบ่งบันในหน้าวอลล์ให้ เมื่ออธิปพงศ์อ่านคำบรรยายใต้รูปภาพก็สามารถรับรู้ความรู้สึกที่คนรักส่งมาให้ได้ทันที เขากดไลค์ให้รูปนั้น ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มาเปิด Whatsapp แล้วพิมไปว่า
“ที่รัก ทำอะไรอยู่”
นิธินยิ้มดีใจที่ได้รับการทักทายจากคนรัก เพราะนี่เป็นครั้งแรกในรอบสัปดาห์กว่าที่จะได้คุยตอบโต้กันสดๆ อย่างนี้
"กำลังกลับห้องหน่ะ"
"อ่าวเหรอ ตอนนี้ที่ดูไบกี่ทุ่มหน่ะ สี่ทุ่มครึ่งเองไม่ใช่เหรอ"
"ครับ แต่ผมเพลียๆ หน่ะเลยขอกลับมาก่อน"
"อ่าวเหรอ เป็นไง ปาร์ตี้สนุกมั๊ย"
"ก็ดีครับ" และนิธินก็พิมต่อมาว่า "ที่นี่ตอนกลางคืนสวยมากนะ อยากให้คุณมาอยู่ด้วยจังเลย"
"อืม สวยดีผมเห็นแล้ว...ผมก็อยากไปเดินกับคุณเหมือนกัน"
นิธินเลยลองชวนคนรักดู
"มามั๊ยล่ะ"
"พูดเป็นเล่นน่า "
"ถ้าคุณมา ผมออกค่าตั๋วให้เอามั๊ย"
อธิปพงศ์ได้ยินอย่างนั้นก็รีบค้าน
 "ไม่ได้นะครับ ตั๋วไปที่นู่นแพงจะตาย เอาเงินไปทำอย่างอื่นดีกว่า"
นิธินอมยิ้มเมื่อได้ยินอย่างนั้น "หมายถึงเอาไปใช้เรื่องบ้านใช่มั๊ย"
"อื้ม ก็ทำนองนั้น"
นิธินยิ้มกว้างดีใจเมื่อรู้ว่าคนรักเห็นความสำคัญของสิ่งเดียวกัน โดยที่พยายามเก็บหอมรอบริบสำหรับที่อยู่ถาวรอันเป็นที่พำนักในอนาคตของพวกเขา
"เอ้อ..ผมว่าคุณกลับหอแล้วค่อยออนสไกป์ดีกว่า เดี๋ยวผมรอนะ"
"ครับ ได้เลย แล้วเจอกันนะ"
คนทั้งสองยิ้มให้มือถืออย่างมีความสุข  อธิปพงศ์รู้สึกดีใจที่การรอคอยผ่านพ้นไปครึ่งทางแล้ว เขากับคนรักก็ยังมีใจตรงกันเหมือนเดิม ทว่ารู้สึกผูกพันและแนบแน่นยิ่งกว่าเก่าด้วยซ้ำ เขาเปิดรูปคนรักในมือถือแล้วอมยิ้ม ถึงแม้จะแอบค่อนขอดตัวเองเล็กน้อยว่าสุดท้ายแล้วเขาก็มาตกลงปลงใจกับผู้ชายด้วยกันตอนสามสิบ แต่เขาก็มีความสุขและโชคดีที่ได้พบเจอกับความรักอันแสนจะอบอุ่นอย่างนี้

  และอธิปพงศ์กับนิธินก็ได้รับข่าวดีเรื่องที่อยู่ใหม่ เพราะว่ามีคอนโดมิเนียมใหม่ย่านเอกมัยแห่งหนึ่งสามารถตอบโจทย์ความต้องการของพวกเขาได้ทุกอย่าง ชายหนุ่มจึงไปขอดูห้องตัวอย่างและคิดว่าที่นี่ลงตัวที่สุดแล้วเท่าที่เคยดูมาทั้งที่ตั้ง,สิ่งอำนวยความสะดวกและราคา จึงนำไปปรึกษากับคนรัก เมื่อนิธินเห็นดีด้วยทุกอย่างแล้วอธิปพงศ์จึงไปจับจองตามกำหนด และโชคดีที่ว่าเขาผ่านคุณสมบัติทางการเงินที่กำหนดไว้และสามารถจับจองได้ทันท่วงที เมื่อตกลงสัญญาและวางเงินดาวน์เรียบร้อยแล้วก็สามารถเข้าอยู่ได้ทันที อธิปพงศ์จึงไม่ลังเลที่จะย้ายเข้ามาอยู่เพื่อรอคนรักที่จะกลับมาในไม่ช้านี้ และวันนี้หลังเลิกงานอธิปพงศ์ก็กำลังขนย้ายสิ่งของไปที่อยู่ใหม่โดยมีกรวัฒน์อาสามาช่วย
 “มึงไม่ลืมอะไรแน่นะ” กรวัฒน์หันมาถามอธิปพงศ์ก่อนจะปิดท้ายรถฟอร์จูนเนอร์คันโตของเขา
“ไม่ลืม กูเช็กเรียบร้อยแล้ว”
“เออ งั้นก็ไป”
  ชายหนุ่มทั้งสองขึ้นรถโดยมีกรวัฒน์เป็นคนขับ นายทหารหนุ่มจะหันมาคุยกับเพื่อน แต่พอเห็นอธิปพงศ์กำลังคุย Whatsapp กับคนรักเลยต้องชะงักและเงียบไป
“เป็นไรวะเงียบเชียว” อธิปพงศ์ถามเพื่อน แต่ก็กำลังคุยกับนิธินอยู่เช่นกัน
“อ่าว ก็เห็นมึงกำลังคุยกับแฟน จะให้กูคุยอะไรล่ะ”
“หึหึหึ ไม่รู้ เห็นปกติมึงต้องโม้ตลอด”
“แหม่ ๆ กูก็มีกาลเทศะนะโว้ย”
“เออ ๆ ครับ ผู้พัน”
อธิปพงศ์ตอบรับโดยไม่ได้หันมามอง จึงไม่ได้เห็นสายตาของเพื่อนที่มองเขาด้วยความรู้สึกที่ไม่เหมือนแต่ก่อน แม้จะยังพูดจาเล่นหัวกันอยู่ แต่ในใจของชายหนุ่มนั้นก็ทั้งสุขและเศร้าไปพร้อม ๆ กัน กรวัฒน์รู้ดีว่าเขากำลังทำอะไร เขาไม่ได้คิดจะเปลี่ยนอธิปพงศ์ให้เป็นของเขา แต่ขอแค่ได้ช่วยเหลือและคบหากันแบบเพื่อน ก็ทำให้เขามีความสุขมากพอแล้ว
 
  อธิปพงศ์กับกรวัฒน์ถึงที่อยู่ใหม่ในไม่ช้า พวกเขาช่วยกันขนย้ายสิ่งของที่มีแค่เสื้อผ้า เครื่องนอน กับของใช้อีกเล็กน้อยมาไว้ที่ห้องใหม่ของอธิปพงศ์ กรวัฒน์ขอเดินดูทั้งห้องและมานั่งคุยกับเพื่อนที่โซฟารับแขก
“โห ห้องมึงสวยว่ะ” เขาพูดได้แค่นั้นเพราะกลืนคำว่า “วันหลังกูมาได้มั๊ย” ลงคอไปแล้ว
“อืม ใช่ นิธินก็ชอบ” อธิปพงศ์พูดยิ้ม ๆ โดยไม่ทันได้เห็นสายตาเจ็บปวดของกรวัฒน์ที่แอบซ่อนอยู่ในรอยยิ้มร่าเริง
“กูว่าดีแล้วหล่ะ ใกล้ ๆ บีทีเอส ใกล้โรงหนัง แถมไม่ไกลจากแอร์พอร์ตลิงค์อย่างนี้ เฮ้ออ คอนโดที่กูอยู่นี่กลายเป็นบ้านนอกไปเลย ฮ่ะๆๆ”
“วันหลังมึงมานอนเล่นห้องกูก็ได้” อธิปพงศ์บอกกับเพื่อน แต่กรวัฒน์ใจเต้นแรงที่ได้ยินคำพูดนั้น แต่ก็ยังฝืนยียวนตามประสา
“ไว้กูมาเมาแถวนี้นะ”
“เออ ฮ่ะๆๆ” อธิปพงศ์ยิ้มขำกับเพื่อน กรวัฒน์หัวเราะสบทบเหมือนไม่มีอะไร แต่ในใจของเขากลับระคนไปด้วยความรู้สึกเจ็บปวดยิ่งนักที่ต้องฝืนทำแบบนี้ เขาเตือนตัวเองเสมอ ไม่ว่าอย่างไรอธิปพงศ์จะต้องเป็นของนิธินคนเดียวเท่านั้น เขาไม่สามารถเข้าไปยุ่งกับความรักของเพื่อนได้ ในเมื่อเขาเป็นคนเริ่มเขาก็จะหาทางจบความรู้สึกนี้ที่ก่อตัวในใจของเขาด้วยตัวเขาเอง



โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ


ปล.*วันหยุดสุดสัปดาห์ของสหรัฐอาหรับเอมิเรส คือวันศุกร์(เพื่อให้ประชาชนไปละหมาดยุมอะฮฺตามหลักศาสนาอิสลาม) และวันเสาร์ค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-03-2012 14:25:40 โดย น้ำพริกแมงดา »

kakuro

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณคุณน้ำพริกแมงดา :L2:
หวังว่าจะไม่เกิดเรื่องไม่ดีนะคะคุณน้ำพริกแมงดาที่รัก :monkeysad:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-03-2012 14:28:45 โดย kakuro »

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
แอบรักแอบชอบไม่ว่า แต่อย่าแสดงออกมานะจ๊ะ

ออฟไลน์ Horizon

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1731
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-22
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-03-2012 15:37:23 โดย Horizon »

ออฟไลน์ shipshape

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 70
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
+1

สงสารแต่ไม่เห็นใจหรอก ห้ามมาแย่งพี่หมูนะ  :z1:
อยากให้ครบ 6 เดือนเร็วๆจัง

ออฟไลน์ choijiin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +445/-5
ถ้ารู้จักคิดได้ก็ดีนะผู้พัน
แล้วก็ทำให้ได้อย่างที่พูดด้วย
 o12
พี่หมูจะได้สบายใจไม่ต้องเสียใจอีก
เราเป็น FC พี่หมู
อย่าคิดจะทำให้พี่หมูเสียใจเชียว ไม่งั้นล่ะก็ หึหึ
 :z4:
ขอบคุณคุณน้ำพริกแมงดาค่ะ
 :pig4:

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13
ตอนนี้สงสารผู้พันหาคู่ให้ผู้หน่อยสิ
จิ้นนิธินไม่ออกเลยลองหาหนุ่มอินเดียดูในกูเกิลปรากฎว่าไม่รู้จะเลือกใครหล่อ ๆทั้งนั้นเลย o18

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
นิธิน รีบกลับมาอยู่บ้านใหม่เร็วๆ นะ

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
ตัดใจเหอะ

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
ดีใจไปกับหมูและนิธิน มีห้องหอกันแล้ว เหลือเวลาอีกสองเดือนเศษๆเอง
แต่สงสารผู้พันจังเลยเนอะ
"แอบรักพร่ำเพ้อรักเธอข้างเดียว เปล่าเปลี่ยวใจเอ๋ย
อกหมองจริงเอ่ย สุดเผยคำ เฝ้าแต่คนึง ติดตรึงใจจำ
ด้วยความชอกช้ำ เป็นเงาตามตัว ..."
น้ำพริกจ๋าหาคนปลอบใจผู้พันเร้ว

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
โศกนาฏกรรมของคนหลงรักเพื่อนอีกละ  :a5:

khalwfarng

  • บุคคลทั่วไป
เป็นนิยายที่อบอุ่นมาก...อ่านไปแล้วมีความสุข
ไม่รู้จะอธิบายยังไงให้คนเขียนเข้าใจคนอ่านคนนี้ดี
ว่าชอบนิยายเรื่องนี้ม๊ากมาก >"<
อิอิ

 :L1:

ออฟไลน์ bytoey

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 865
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +197/-3
แล้วจะผ่านมันไปได้เองนะผู้พัน :เฮ้อ:

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
แอบสงสารผู้พัน 3 พีเลยดีมั้ยคะ 5555555


พุดถึง ละหมาด วันนี้พึ่งได้รับพรมที่มีเข็มทิศสำหรับนั่งละหมาดมาจากหนุ่มแอลจีเรียด้วยค่ะ อิอิ แอบดีใจ

Mc_ma

  • บุคคลทั่วไป
ผ่านมาครึ่งทางแล้ว เป็นกำลังใจให้คุณนิธินกับคุณหมูต่อไปนะคะ อีกนิดเดียวจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันแล้ว
ทั้งๆที่คุณหมูเพิ่งคบกับผู้ชายครั้งแรกนะเนี่ย ยังจัดการทุกอย่างได้ลงตัว ทั้งการใช้ชีวิตและความรู้สึก  o13
รู้สึกเป็นปลื้มกับความรักของนิธินกับหมูมากๆ  คนที่ใช่ ในเวลาที่เหมาะนี่ ทำให้ความรักหอมหวานดีจริงๆ

ปล. แอบสงสารผู้พันด้วยง่าาาา อยากให้หาคู่ให้ผู้พันจัง จะได้ Happyกันทุกคน :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
น่าเห็นใจผู้พันจัง
รีบหาคนมาด้ามใจ
ให้ด่วน :L1:

บวกเป็ด

ออฟไลน์ Tifa

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1474
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +417/-2
แง ผู้พัน คะ มาทางนี้ดีกว่าค่ะ

เดี๋ยวหนูช่วยดูเเลหัวใจเอง แอร๊ยยย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ น้ำพริกแมงดา

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +272/-0
    • เข้ามาเป็นคุยกันกับ "น้ำพริกแมงดา" ใน facebook page นะคะ
มาแล้วค่ะ ขอบคุณมาก ๆ นะคะทุกคนน

29

  หลังจากงานใหญ่ผ่านพ้นไป นิธินก็ได้รับข่าวดีเนื่องจากผลงานที่ผ่านมาของเขาเข้าตา เขาจึงได้รับมอบหมายจากเจ้านายให้เป็นหัวหน้าทีมในชิ้นงานที่จะถึงนี้  ซึ่งก็คือบททดสอบสุดท้ายสำหรับการทำงานในสำนักงานที่ดูไบ ถ้าหากงานนี้ผ่าน เขาก็จะได้ไปรับตำแหน่งใหม่ที่สำนักงานในเมืองไทยในเดือนกรกฎาคม แต่ถ้าไม่ผ่าน เขาจะต้องทำงานต่อที่นี่หรือไม่ก็ถูกย้ายไปทำงานที่สำนักงานอื่นตามที่เจ้านายเห็นสมควร นิธินจึงทุ่มเทกายและใจให้กับงานนี้ที่สุดเพราะนี่คือการชี้ขาดอนาคตด้วยความทุ่มเทของเขาเอง
  “ที่รักครับ ช่วงนี้ผมอาจจะไม่ได้มาคุยกับคุณแบบนี้อีกนะ” นิธินบอกกับอธิปพงศ์ขณะพูดคุยกันผ่านโปรแกรมสไกป์
“อืม ครับ ผมเข้าใจ” อธิปพงศ์ตอบรับด้วยรอยยิ้ม เพราะสามเดือนที่ผ่านมาเขาก็เคยชินกับการอยู่ไกลกันแล้ว และก็มั่นใจว่าจะทุกอย่างจะผ่านพ้นไปด้วยดี อธิปพงศ์ยังให้กำลังใจคนรักอีกว่า
“ผมเชื่อว่าคุณทำได้นะครับ”
“ครับ ขอบคุณนะครับ”
“ครับ”
อธิปพงศ์ส่งยิ้มให้กำลังใจคนรัก นิธินจึงบอกความในใจของเขาให้อีกฝ่ายรับรู้
“ผมอยากกลับไปอยู่กับคุณเร็ว ๆจัง..”
“อื้มม ผมก็อยากให้คุณกลับมาเร็ว ๆ เหมือนกัน” อธิปพงศ์ยิ้ม ๆ เพราะคิดถึงอ้อมกอดอบอุ่นของคนรักเหลือเกิน
“ผมจะตั้งใจทำงานนะครับ”
“ครับ สู้ ๆ นะครับ”
นิธินยิ้มตอบรับกำลังใจที่อธิปพงศ์ส่งมาให้ พวกเขาคุยกันต่ออีกสักพักและพ่ายแพ้แก่ความง่วงนอนในเวลาต่อมา นิธินปิดคอมพิวเตอร์และล้มตัวลงนอน ชายหนุ่มดีใจที่คนรักยังคงเป็นห่วงเป็นใยและยังอดทนไม่หวั่นไหวกับความห่างไกลเช่นเดียวกับเขา แม้เขาไม่รู้ว่าอธิปพงศ์มีใครเข้ามาบ้างหรือเปล่า แต่นั่นก็ไม่สำคัญเท่ากับที่อธิปพงศ์ยังรักและหวังจะสร้างอนาคตร่วมกันกับเขา ได้เห็นแค่นี้เขาก็รู้สึกอบอุ่นใจและเป็นกำลังใจให้เขากลับไปทำงานหนักได้เป็นอย่างดี

  เขียวที่รู้ว่าเพื่อนรุ่นพี่ย้ายเข้าที่อยู่ใหม่ซึ่งก็ไม่ไกลกับครอบครัวของเธอแล้วก็แวะมาเยี่ยมพร้อมกับสามีและลูกชายวัยขวบกว่าที่กำลังน่ารักน่าชัง อธิปพงศ์พาทุกคนมานั่งที่โซฟารับแขกและพูดคุยกันอย่างสนิทสนม เขาได้เล่นกับลูกชายของเพื่อนรุ่นน้องแล้วก็รู้สึกเอ็นดูเป็นพิเศษแต่สักพักเด็กน้อยหลับปุ๋ยบนไหล่คนเป็นแม่อย่างเหนื่อยอ่อน คนเป็นพ่อเลยขอเป็นฝ่ายรับไปอุ้มไว้แทน หญิงสาวหยิบไอศกรีมที่เธอใส่กระติกเก็บความเย็นมาฝากชายหนุ่มขึ้นมา
"พี่หมูคะ เคยกินนี่รึเปล่า"
"อะไรอ่ะ"
"นี่ค่ะ...มันคือไอติมนมรสอัลมอนด์ของอินเดีย* ไม่รู้เรียกว่าอะไร แต่มันก็แปลกๆดีชิมมั๊ยคะ"
เขียวยื่นแท่งไอติมทรงกรวยสีนวลที่อยู่ในห่อพาสติกใสให้ชายหนุ่ม
"ขอบใจจ้ะ" เขารับมาแกะ ก็พบไอศครีมแท่งที่เป็นเนื้อนมผสมถั่วอัลมอนด์อย่างที่หญิงสาวบอก เมื่อลองชิมดูก็พบว่ารสชาติหอมมันถูกปากพอสมควร
"ว่าไงคะ"
"อืม ก็อร่อยดีนะ น้องเขียวไปซื้อที่ไหนมาอ่ะ"
"ร้านอินเดีย ที่พาหุรัดค่ะ"
อธิปพงศ์ยิ้มๆ
"พี่ไม่ได้พาหุรัดนานเหมือนกันแล้วนะเนี่ย "
"คิดถึงพาหุรัดหรือคิดถึงคุณนิธินกันแน่คะ"
อธิปพงศ์ยิ้มเขินเมื่อได้ยินอย่างนั้น แถมเขียวยังบอกกับชายหนุ่มอีกว่า
"พี่หมู พี่หมูรู้มั๊ยว่าอัลมอลต์มีคุณสมบัติช่วยในเรื่องเซ็กส์ด้วยนะคะ เขียวเคยอ่านเจอ ว่าในอินเดียบางรัฐเค้าให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวกินนมกับอัลมอลต์ก่อนเข้าหอ เลย"
"เหรอ..." อธิปพงศ์มองดูไอศครีมที่กินอยู่ทึ่งๆ ก่อนจะบอกพร้อมรอยยิ้มว่า
"งั้นถ้านิธินกลับมา พี่คงต้องไปซื้อติดตู้เย็นไว้แล้วแหล่ะ"
"ฮ่ะๆๆๆ" เพื่อนรุ่นน้องหัวเราะชอบใจ และดีใจที่เห็นยิ้มสดใสและลักยิ้มบนใบหน้าอธิปพงศ์ เธอถามเพื่อนรุ่นพี่ต่อว่า
"สงกรานต์นี้พี่หมูกลับบ้านรึเปล่าคะ"
"กลับจ้ะ น้องเขียวล่ะ"
"ไม่ได้กลับค่ะ แต่ไปเชงเม้งมาแล้ว ก็คือว่ากลับไปเยี่ยมบ้านมาเหมือนกัน ก็คล้าย ๆ วันสงกรานต์ของคนไทยนะ ได้ไปไหว้ ๆ ญาติที่เสียแล้วและก็เจอญาติ ๆ ทั้งตระกูล แต่มาร์โค่เค้าวางแพลนว่าจะกลับบ้านเค้าที่อิตาลีหน่ะค่ะ ก็เลยต้องไปกันหมดนี่เลย"
"อืม ก็ดีนะ"
“แล้วพี่หมูล่ะค่ะ เหลืออีกกี่เดือนกว่าคุณนิธินจะกลับมา”
“ก็ สองเดือนกว่าหน่ะ” อธิปพงศ์ยิ้ม ๆ นึกถึงว่าอีกไม่นานก็จะได้พบกันแล้ว เขาผ่านสามเดือนแห่งความคิดถึงไปได้ด้วยดีแล้ว เหลือเพียงอีกสองเดือนกว่าแค่นั้นเขาก็จะได้กลับมาอยู่ด้วยกันอย่างที่ตั้งใจ

  ด้านนิธินที่กำลังคร่ำเคร่งกับการแก้ไขและพัฒนาซอฟแวร์อยู่หน้าจอพร้อมกับเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ ที่ยังไม่มีใครลุกออกไปจากห้องแม้จะเป็นเวลาสามทุ่มกว่าแล้วก็ตาม เขาและทีมงานได้รับโจทย์ให้แก้ไขและปรับปรุงระบบปฎิบัติการพร้อมตัวโปรแกรมให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและใช้งานได้ดียิ่งขึ้น และงานชิ้นนี้เขาก็ตั้งใจทำเต็มที่เพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าเขาดีพอที่จะไปรับตำแหน่งใหม่ที่เมืองไทยได้ เขาจึงทุ่มเทกายใจกับงานนี้อย่างไม่ย่อท้อ แม้จะเหน็ดเหนื่อยเพียงใด แต่พอมองเห็นแหวนที่สวมอยู่บนมือซ้าย ก็ทำให้เขามีกำลังใจขึ้นมาทุกครั้ง
  นิธินเข้าใจและตระหนักดีว่าชีวิตโปรแกรมเมอร์อย่างเขานี้เป็นชีวิตที่ค่อนข้างน่าเบื่อสำหรับหลายคนที่เคยเข้ามาเป็นคนรัก เพราะงานที่ทำ เขาจึงไม่มีเวลาให้อย่างที่หลายคนต้องการ แต่นิธินเป็นคนที่จริงจังกับเรื่องความรักและความสัมพันธ์เป็นอย่างมาก ที่เขามีให้ก็คงจะเป็นความรักและการดูแลเอาใจใส่เพียงเท่านั้น เขาไม่แปลกใจที่อดีตคนรักทั้งหลายเลือกที่จะไปจากเขาเพราะอะไร แต่เมื่อเขาเดินทางมาสู่วัยแห่งการใช้ชีวิตอย่างจริงจังแล้ว เขาก็รู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่เจอคนที่มีเป้าหมายเดียวกันอย่างอธิปพงศ์ ที่รักและเข้าอกเข้าใจเขาเป็นอย่างดี
  และนิธินกลับถึงห้องพักในเวลาห้าทุ่ม เขาอาบน้ำและทิ้งตัวลงนอน ก่อนจะเปิดดู Facebook ของตัวเองในโทรศัพท์มือถือ ก็พบข้อความให้กำลังใจจากคนรักที่ส่งมาทุกวัน
“เป็นกำลังใจให้เสมอ สู้ ๆ นะครับ”
 เขายิ้มดีใจและกดไลค์กับข้อความนั้น พร้อมกับพิมตอบไปว่า
“กลับมาถึงห้องแล้ว วันนี้เหนื่อยจริง ๆ ขอบคุณมาก ๆ นะครับ ฝันดีครับ”
ชายหนุ่มเปิดดูรูปคนรักในโทรศัพท์แล้วก็หอมรูปนั้นเบา ๆ ก่อนจะหลับตาลงด้วยความอ่อนใจ สำหรับนิธินแล้ว ถึงแม้จะเหนื่อยยากสักแค่ไหน ขอเพียงมีคนรักที่ให้กำลังใจและมีใจที่ตรงกัน เขาก็พร้อมจะต่อสู้และทำทุกอย่างให้ชีวิตคู่ของเขานี้มีความสุขให้ได้
 
   เมื่ออธิปพงศ์มีที่อยู่ใหม่อย่างเป็นทางการแล้ว เขาจึงชวนเพื่อนร่วมงานทุกคนมาเยี่ยมชมห้องเพื่อพูดคุยและพักผ่อนกัน ตลอดเวลาพี่กุ้งยิ้มยินดีที่เห็นชีวิตของน้องชายคนนี้ก้าวหน้าอย่างเป็นรูปธรรมไปอีกขั้น แม้จะยังไม่ได้อยู่ด้วยกันกับคนรัก แต่เขาก็มั่นใจว่าชีวิตคู่ของคนทั้งสองจะยืนยาวและมั่นคงอย่างแน่นอน
"ว้ายยย ห้องพี่หมูน่าอยู่อ่า" ป๊อกกี้ที่ดูตื่นเต้นกว่าใครเพื่อน เข้ามารายงานเจ้าบ้านเมื่อเดินดูจนหมดแล้ว
"ว่างๆ หนูขอมาอยู่ด้วยได้มั๊ย"
"นังป๊อก แกจะนอนในห้องน้ำรึไง ไม่เห็นเหรอว่านี่มีแค่ห้องนอนเดียว"
"แหมคุณแม่ก็..." ป๊อกกี้นึกอะไรขึ้นได้จึงบอกว่า
"ทุกคนคะ หนูว่าเราไปดูหนังกันดีกว่า"
"ดูหนัง..เรื่องไรอ่ะพี่ป๊อก"หญิงหันมาถาม
"แม่นาคสามมิติค่ะ น่าดูออก เก๋ๆ ดูแม่นาครอบดึกอย่างนี้"
พี่กุ้งเห็นด้วยกับไอเดียนี้
"อืม ก็ดีนะพวกเราไม่ได้ไปดูหนังกันมานานแล้ว..หมูว่าไง"
"ดีครับ ผมก็อยากไปดูเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน"
"เริ่ดค่ะ งั้นพวกเราไปกันเลยดีมั๊ยคะ"
"ไปสิ"

 ทุกคนออกจากห้องพักของอธิปพงศ์และนั่งแท็กซี่ไปโรงภาพยนต์ใกล้ ๆ เมื่อซื้อตั๋วได้แล้วก็รอไม่นานจึงเข้าไปชมภาพยนต์ที่เป็นระบบสามมิติ
เมื่อหนังเริ่มฉายป๊อกกี้ก็กรีดขึ้นมาเบาๆ
"แอร๊ยๆๆ กล้ามพี่เอกฟินส์มากค่ะ"
"หึหึหึ" ทุกคนหัวเราะเบาๆ และตั้งใจดูภาพยนต์ต่อ อธิปพงศ์ที่ไม่ได้มาชมภาพยนต์ในโรงนานแล้วก็ตั้งใจรับชมมากเป็นพิเศษ เขารู้สึกอิ่มเอมใจกับความรักของพ่อมากกับแม่นาคตั้งแต่ตอนพบรักและเริ่มใช้ชีวิตด้วยกัน แต่ชายหนุ่มเริ่มรู้สึกสะเทือนอก เมื่อเรื่องราวดำเนินมาถึงคราวที่พ่อมากได้รับหมายเกณท์เพื่อออกไปเป็นทหารซึ่งก็หมายความว่าพ่อมากจำต้องลาจากแม่นาคกระทันหัน อธิปพงศ์เริ่มมีน้ำตาคลอๆ  จนกระทั่งร้องไห้หนักขึ้น เมื่อถึงคราวที่พ่อมากต้องเดินทางไปจากแม่นาคจริงๆ  ชายหนุ่มเข้าใจดีว่าตอนนั้นแม่นาคกับพ่อมากรู้สึกอย่างไร เพราะเขาเองก็มีชะตากรรมเดียวกับที่เห็นในภาพยนต์อยู่ตอนนี้ที่ต้องห่างไกลกับคนรักโดยที่ยังรักกันไม่นาน เขาร้องไห้หนักขึ้นเพราะเข้าถึงอารมณ์ของตัวละครอย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะตอนที่แม่นาคกับพ่อมากปล่อยมือออกจากกันและฉากที่แม่นาคออกไปรอคอยพ่อมากที่หน้าบ้าน มันทำให้คนดูอย่างเขาสะเทือนใจเป็นอย่างยิ่ง
  พี่กุ้งและทุกคนมองดูชายหนุ่มอย่างเห็นใจ หญิงที่นั่งข้างซ้ายจับมือชายหนุ่มแน่นเพื่อปลอบโยน ส่วนพี่กุ้งก็เข้ามาลูบหลังอย่างเป็นห่วง ส่วนป๊อกกี้ได้แต่อุทานออกมาเบา ๆ
“เฮ้ออ..น้ำตาเมียดูไบ...”
พี่กุ้งได้ยินอย่างนั้นก็เหยียบเท้าป๊อกกี้ทันที เป็นการทำโทษเนื่องจากไม่รู้จักกาลเทศะ ป๊อกกี้จ๋อยไปเล็กน้อย แต่ก็หันมาบอกกับทุกคนเพราะฉากสำคัญมาแล้ว
“ว้าย ๆ แม่นาคเจ็บท้องแล้วค่ะ”
พี่กุ้งกับหญิงหันไปดูตามที่บอก แต่ก็ยังไม่หยุดดูแลอธิปพงศ์ที่ยังคงมีอาการตกค้างอยู่ ชายหนุ่มหันไปบอกกับรุ่นน้องและรุ่นพี่ที่ห่วงใยเขา
“ผมไม่เป็นไรแล้ว ขอบคุณนะครับ ...ขอบใจนะหญิง พี่โอเคแล้วหล่ะ”
ทุกคนรับคำและดูหนังต่อ แม้หนังจะดำเนินเรื่องไปสนุกสนานและสร้างความสยองขวัญเพียงใด แต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้รู้สึกร่วมกับสิ่งนั้น นอกจากความรู้สึกทรมานจากการพลัดพราดที่หนังเรื่องนี้มอบไว้ให้แก่เขา ชายหนุ่มรู้สึกเห็นใจและสงสารแม่นาคมากขึ้นก็วันนี้เอง
  หลังจากดูหนังเสร็จเขาและเพื่อนร่วมงานก็ไปกินข้าวต้มรอบดึกก่อนจะแยกย้ายกันกลับ โดยที่ป๊อกกี้กับหญิงขอไปนอนด้วยกันเพราะยังติดตากับความน่าสะพรึงกลัวในภาพยนตร์สามมิติที่เพิ่งไปดูมาไม่หาย เมื่อเขาถึงห้องพักก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิด Facebook และพิมไปยังหน้าวอลล์ของนิธินว่า
“วันนี้เป็นยังไงมั่งครับ เหนื่อยมั๊ย เป็นกำลังใจให้นะครับ...”
 อธิปพงศ์ถอนหายใจเล็กน้อย เขาอยากจะบอกคนรักเหลือเกินว่าคิดถึงแค่ไหน แต่ก็ไม่อยากพิมลงไป เพราะคำว่าคิดถึงนี้บางครั้งมันก็ได้ทำให้คนรักสบายใจขึ้นมานัก เขาคิดว่าถ้าพิมว่าคิดถึงกันบ่อย ๆ มันจะทำให้คนรักต้องมารู้สึกโศกเศร้ากับการห่างไกลมากขึ้นไปอีก ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะพิมข้อความให้กำลังใจอย่างนี้ เพราะเขาก็รับรู้ได้ว่านิธินก็ยังคิดถึงเขาไม่ต่างกัน

  เมื่อเทศกาลสงกรานต์มาถึงอธิปพงศ์ก็เดินทางกลับไปหาครอบครัวที่ลพบุรี แม่กับยายดีใจยิ่งนักที่เห็นว่าเขากลับมาเยี่ยมที่บ้านแม้จะรู้สึกขาด ๆ หาย ๆ ที่คราวนี้นิธินไม่ได้มาด้วยก็ตาม แต่ก็เข้าใจดีว่าชายหนุ่มไปทำงานอย่างที่ลูกชายเคยบอก เขาไปทำบุญที่วัดกับแม่และยายในวันเนาซึ่งเป็นวันแรกของเทศกาล เขาไม่ได้ออกไปเล่นสาดน้ำที่ไหน นอกจากอยู่บ้านกับยายและแม่ พอตกกลางคืน เขาก็มานอนตักคุยกับแม่เหมือนตัวเป็นเด็กอีกครั้ง
 “แม่...ผมถามจริง ๆ นะ”
“อืม มีอะไรลูก”
“แม่คิดถึงพ่อบ้างมั๊ย...”
คนเป็นแม่ก้มหน้ามาถาม “ตอนไหนล่ะ”
“ตอนพ่อตายใหม่ ๆ หน่ะ”
แม่เขาถอนหายใจออกมาและยิ้ม
“ก็คิดถึงสิ..ตอนนี้แม่ก็คิดถึง”
  เธอลูบหน้าลูกชายไปด้วย “ทำไมล่ะ คิดถึงนิธินเหรอลูก”
อธิปพงศ์พยักหน้าเศร้า ๆ คนเป็นแม่เลยลูบหัวลูกปลอบใจ
“หมูเอ้ยย...ชีวิตคู่มันก็เป็นอย่างนี้แหล่ะลูก นอกจากรักแล้ว เราก็ต้องซื่อสัตย์และอดทน ถึงจะอยู่ด้วยกันได้นะลูกนะ”
“ครับ” อธิปพงศ์รับคำเบา ๆ
คนเป็นแม่พูดยิ้ม ๆ
 “แม่ดีใจนะ ที่เห็นลูกจริงจังกับใครสักคน และคนนั้นก็คือคนดีๆอย่างนิธินด้วย”
“ครับ..” อธิปพงศ์พูดต่อ “วันหลังแม่ไปหาผมที่คอนโดสิ”
“ก็อยากไป แต่ช่วงนี้ต้นไม้กำลังโตเลย แม่ทิ้งไปไม่ได้หรอกลูก”
“อืม ๆ ครับ”
 เขากับแม่คุยกันสักพักและแยกย้ายกันไปนอน เขามองเตียงเล็กที่เคยนอนเบียดด้วยกันแล้วก็คิดถึงครั้งนั้นที่คนรักเคยมาอยู่ที่นี่กับเขาด้วย อธิปพงศ์ล้มตัวนอนและพยายามไม่คิดมาก ชายหนุ่มบอกตัวเองก่อนนอนคืนนี้ว่า
“ที่รัก..อีกแค่สองเดือนกว่าเราก็จะได้เจอกันแล้วนะ...”

 นิธินที่เพิ่งกลับถึงห้องพักในเวลาห้าทุ่มกว่าตามปกติ ทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้หน้าคอมพิวเตอร์อย่างเหนื่อยอ่อน เขาเปิดดู Facebook ของตัวเองก็พบว่าคนรักยังพิมข้อความถึงเขาเหมือนเดิม
“วันนี้มาหาแม่และยายที่ลพบุรีนะ เสียดายจังที่คุณไม่ได้มาด้วย เอาไว้มาด้วยกันวันหลังนะครับ คิดถึงครับ”
เขายิ้มดีใจที่ได้รับข้อความใหม่ในวันนี้ นิธินออกจากการออนไลน์เพื่อไปในอัลบั้มรูปที่เคยถ่ายด้วยกันที่ลพบุรี ช่วงความรู้สึกหนึ่งเขาก็คิดถึงใบหน้าใส ๆ กับรูปร่างสมส่วนที่เขาเคยได้สัมผัสขึ้นมา
 ชายหนุ่มปิดมือถือและหลับตานึกถึงคนรักในช่วงเวลานั้นอันแสนเร่าร้อน เขารู้สึกตัวได้ว่าความต้องการของเขากลับมาอย่างฉับพลัน เป็นเพราะเขาเครียดกับการทำงานในช่วงนี้และร้างลาจากการสำเร็จโทษตัวเองมาหลายสัปดาห์แล้วด้วย เพียงแค่คิด ความต้องการของเขาก็ถูกจุดติดขึ้นมาอย่างง่ายดาย ชายหนุ่มจึงลุกไปที่ห้องน้ำทันที
  นิธินคิดถึงทุกอย่างของอธิปพงศ์ที่เขาเคยสัมผัส ทั้งดวงตาเว้าวอนเวลาที่เขามอบความเป็นตัวเองให้ นิ้วมือเรียวยาวกับแขนได้รูปที่เคยคล้องคอเขา ลำคอระหงและแผ่นอกได้รูปขาวเนียนที่เขาเคยซุกไซร้ทุกวันคืน และสะโพกกลมกลึงที่ปลุกอารมณ์เขาให้ลุกโชนเพียงแค่ได้เห็น
  ตอนนี้เลือดลมในตัวชายหนุ่มเต็มไปด้วยความร้อนระอุ เขาจึงจัดการกับความต้องการของตัวเอง ถึงนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทำอย่างนี้ แต่ชายหนุ่มก็ยังรู้สึกต้องการเหมือนเดิมทุกครั้ง เขานึกถึงเสียงครางอย่างสุขสมของคนรักก่อนจะปลดปล่อยความต้องการออกมา
“อื้อออ.....”
 เขาครางออกมาเพื่อปลดปล่อยอารมณ์ส่วนลึก ก่อนจะถอนหายใจที่สามารถสำเร็จความต้องการของตัวเองไปได้ ก่อนจะอาบน้ำเพื่อเข้านอนไปสู้งานในวันพรุ่งนี้



ปล.* ไอศครีมนมรสอัลมอนด์ของอินเดียที่เขียวนำมาฝากอธิปพงศ์คือ Kulfi (กุลฟี) คือ ไอศกรีมที่ทำจากนมผสมอัลมอนด์ กระวาน ถั่วพิสตาชิโอ และน้ำกุหลาบ โดยนม,อัลมอนด์และกระวาน มีสรรพคุณเป็นยาบำรุงทางเพศตามแบบฉบับอินเดียค่ะ

ออฟไลน์ choijiin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +445/-5
โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
สงสารพี่หมู
นิธินกลับมาไวๆนะ
 :monkeysad:

ออฟไลน์ Cynthia_Moonlight

  • เมื่อไหร่จะพ้นขีดอันตราย =_=+
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 180
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-1
มีหื่นนิดๆส่งท้าย 555+  :z1:


อีกสองเดือนเท่านั้น อีกนิดเดียวๆๆ


ทั้งพี่หมู ทั้งนิธิน ทั้งคนแต่ง สู้ๆนะคะ


 :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ Horizon

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1731
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-22
น้ำตาซึม  :monkeysad:
ขอบคุณสำหรับข้อมูลความรู้รอบตัว ชอบมากๆ
+1
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-03-2012 17:20:14 โดย Horizon »

ออฟไลน์ น้ำพริกแมงดา

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +272/-0
    • เข้ามาเป็นคุยกันกับ "น้ำพริกแมงดา" ใน facebook page นะคะ
เป็นนิยายที่อบอุ่นมาก...อ่านไปแล้วมีความสุข
ไม่รู้จะอธิบายยังไงให้คนเขียนเข้าใจคนอ่านคนนี้ดี
ว่าชอบนิยายเรื่องนี้ม๊ากมาก >"<
อิอิ

 :L1:

ขอบคุณมาก ๆเลยค่ะ :pig4:

แอบสงสารผู้พัน 3 พีเลยดีมั้ยคะ 5555555


พุดถึง ละหมาด วันนี้พึ่งได้รับพรมที่มีเข็มทิศสำหรับนั่งละหมาดมาจากหนุ่มแอลจีเรียด้วยค่ะ อิอิ แอบดีใจ

ยินดีด้วยค่ะที่ได้ของฝากจากแดนไกล  :3123: :L2:ว่าแต่ "3 พี" นี่คืออะไรเหรอคะ?


สำหรับคุณผู้อ่านหลายคนที่ว่า..

ตอนนี้สงสารผู้พันหาคู่ให้ผู้หน่อยสิ
จิ้นนิธินไม่ออกเลยลองหาหนุ่มอินเดียดูในกูเกิลปรากฎว่าไม่รู้จะเลือกใครหล่อ ๆทั้งนั้นเลย o18

นิธินนี่ สเป็กเลย
ฮู้ววววว มาอ่านเเล้วค่า

ชอบพระเอกมากเลย สเป๊กเลยคะ สูง เข้ม ล่ำ แอร๊ยยย

หนูอยากได้ๆ








ความจริงคนเขียนไม่อยากแปะรูปเลยนะคะ คือคิดว่า มันดูเป็นการปิดกั้นจินตนาการผู้อ่านยังก็ไม่รู้ แต่สำหรับคนเขียนแล้ว ผู้ชายอินเดียที่พอเข้าเค้านิธินได้ก็คือคนนี้เลยค่ะ John Abraham ดารา+นายแบบชาวอินเดีย คาดว่าหลายคนคงเคยดู MV Dhoom Dhoom ของทาทายังมาแล้ว จะบอกว่าเขาคนนี้คือผู้ชายที่ไปคลุกโคลนกับทาทายังค่ะ ที่เห็นว่าจอนห์เข้าเค้านิธินเพราะว่าเวลาเค้าเล่นบทผู้ชายอบอุ่นแล้วมันดู” ใช่” มากเลยค่ะ


ดูผู้ชายอินเดียไปแล้ว มาดูไอติมอินเดีย Kulfi (กุลฟี)กันดีกว่าค่ะ ก็จะมีรูปร่างหน้าตาแบบนี้ น่ากินมั๊ยคะ






ออฟไลน์ Cynthia_Moonlight

  • เมื่อไหร่จะพ้นขีดอันตราย =_=+
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 180
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-1
เฮ้ยๆๆๆๆ ไอติมแบบนี้เค้าเคยกินนะ แต่เพิ่งรู้ว่ามันเป็นไอติทแบบอินเดียนะเนี่ย อ่านในนิยายไม่เห็นภาพ พอได้เห็นภาพเลยนึกออก ฮ่าๆๆๆก็ว่าอยู่หน้าตาแปลกๆ แต่อร่อยอ่ะ อิอิ

ออฟไลน์ k00_eng^^

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 647
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-2
กลับมาเร็วๆ นะคุณนิธิน

kakuro

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณคุณน้ำพริกแมงดา :L2:
อดทนอีกนิดนะนิธินกับอธิปพงศ์
คุณสองคนเป็นตัวอย่างที่ดีของชีวิตคู่ที่ต้องห่างไกลกัน
รักและเชื่อใจกัน o13
ปล.John Abraham กับไอติมน่ากินพอกันเลย :-[
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-03-2012 17:32:20 โดย kakuro »

ออฟไลน์ shipshape

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 70
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ให้เขากลับมาอยู่ด้วยกันเร็วๆนะคะ  :กอด1:
อ่านแล้วรู้สึกอบอุ่น อยู่ไกลกันเท่าไหร่ ก็รักกันไม่เปลี่ยนเลย  :o8:

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
พิสูจน์ว่าระยะทางไม่ได้เป็นอุปสรรคของความรัก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด