รักเกิดในแผนกขนส่ง.....ตอน แซว
“ไอ้มีน อ้าปากซิ”
พี่บุ้งตะโกนบอก และมีนที่กำลังหิ้วกระติกโอเลี้ยงเดินเข้ามาก็ทำตาม อ้าทำไมวะพี่บุ้งให้กูอ้าปากทำไมวะเนี่ย แต่เอาวะ อ้าก็อ้า
มีนอ้าปากตามที่ลูกพี่บอก และเม็ดถั่วหนึ่งเม็ดก็ถูกโยนมาให้
“อ้า..........รับไม่ได้อ่ะพี่บุ้งงงงงงงงงงง อีกทีดิ๊ อีกที ไหนลองอีกที”
ยกนิ้วขึ้นให้สัญญาณว่าให้โยนมาอีกครั้ง และมีนก็ยืนรอ และคนที่ตั้งท่าจะโยนก็กะจังหวะ และโยนเม็ดถั่วในมือให้เข้าปากมีน แต่ก็ยังพลาด
“โห ไรว๊า แม่ง อุตส่าห์ตั้งใจ”
เดินบ่นเข้ามาและพี่วิเชียรที่ยืนมองอยู่ก่อนแล้วก็หัวเราะชอบใจกับสิ่งที่มีนทำ
“เหมือนให้อาหารปลาเลยว่ะพี่ เหมือนเกาหลีเป็นปลาแล้วพี่บุ้งโยนอาหารให้มันกิน”
ก็จริงอย่างที่วิเชียรพูด
“ผมเป็นคนพี่ ไม่ใช่ปลา พี่วิเชียรก็พูดส่ง”
บ่นไปงั้นเอง ไม่ได้คิดอะไรมาก สิ่งสำคัญไม่ใช่เรื่องกินถั่วที่โยนให้ แต่เป็น................เก้าอี้......ที่ไม่มีจะนั่ง แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับมีน เพราะ.........
“โอ้ยยยยยยยยยยยยย ไอ้มีน มึงนี่มาทีไรเป็นแบบนี้ตลอดเลย อะไรของมึงเนี่ย”
อ้าว ถ้าพี่ไม่อยากเจ็บขาพี่ก็ลุกให้ผมนั่งสิ พี่จะนั่งเก้าอี้ไปทำไม เป็นลูกพี่ก็ต้องเสียสละให้ลูกน้อง จะมาบ่นลูกน้องที่น่ารักอย่างผมมันเป็นไปไม่ด้ายยยยยยยยยยยยย
“มึงนั่งดี ๆ กูจะไม่ว่าเลยนะ นี่นั่งแล้วแม่งชอบขย่ม ขากูจะหัก”
พี่ก็บ่นอยู่นั่นแหละ บ่นแล้วพี่เคยทำอะไรได้มั้ย ก็ยังจะบ่นอีก ไม่เข้าใจเลยจริง ๆ
“นั่งว่าง ๆ มึงแกะถั่วมากินดิ๊”
แค่มานั่งตักแค่เนี้ยะ ใช้กูอีกแล้ว ก็ได้วะ ถั่วใช่มั้ยพี่ อ่ะ กินซะพี่ กินซะ แลกกับที่ให้ผมนั่งตัก กินซะให้พอเลยพี่บุ้ง มีนจัดการแกะถั่วลิสงต้มที่อยู่ในถุงบนเคาร์เตอร์เช็คงานที่พี่วิเชียรซื้อเข้ามากิน และก็ยื่นมือป้อนให้กับคนที่ยอมให้มีนนั่งตัก
“ป้อนดี ๆ ซิ มึงจะป้อนหรือมึงจะทิ่มตากูเนี่ยมีน”
ใครจะไปทิ่มตาพี่วะ ผมก็ป้อนดี ๆ แล้วเนี่ย พี่กินไม่ดีเอง มาโทษผมได้ไง
“มึงป้อนแค่เนี้ยะ เม็ดเดียวเนี่ยนะ แกะมาอีกซิ แค่นี้จะไปอิ่มอะไร”
"นี่พี่กะกินให้อิ่มเลยเหรอ เขาให้กินเล่น พี่กูแม่งกินจริงจังเอาอิ่มเลยว่างั้น ของพี่วิเชียรเค้า พี่ก็กินไม่เกรงใจลูกน้องเลยว่ะ”
เหรอ
“มึงกินเยอะกว่ากูอีก ได้ข่าว”
อ้าว ทำไมพููดงี้วะพี่บุ้ง
"กินเยอะกว่าอะไรล่ะ พี่แหละกินเยอะกว่าผม"
วิเชียรถึงกับส่ายหน้า เมื่อลูกพี่กับเด็กฝึกงานเถียงกันด้วยเรื่องบ้าบอไม่เป็นเรื่องเป็นราว เกาหลีมันกลับมาแล้ว และแผนกขนส่งก็กลับมามีสภาพอย่างที่เห็น หลังจากที่คนในแผนกเงียบเหงา เหี่ยวเฉามานาน ในเวลานี้ ลูกพี่กลับมายิ้ม มีความสุขเพราะมีนหายป่วยและกลับมาทำงานได้แล้ว
“รักกันจริงเนอะคู่นี้ นี่ถ้าเป็นผู้หญิงกับผู้ชายผมว่าลูกดกหัวปีท้ายปี”
เป็นคำแซวของวิเชียร ที่มีนได้ฟังแล้วก็หัวเราะชอบใจ
“พี่ คนนะพี่ ไม่ใช่มะละกอจะได้ลูกดกหัวปีท้ายปี ทำไมเขาต้องบอกว่าลูกดกหัวปีท้ายปีด้วยวะพี่บุ้ง ผมไม่เข้าใจ”
พยายามหันไปถามลูกพี่กำลังเคี้ยวถั่วอยู่ และบุ้งก็ขมวดคิ้วด้วยความสงสัยไม่ต่างกัน
“เออนั่นสิวะ กูก็ไม่รู้เหมือนกัน มึงถามวิเชียรสิ”
โดนโบ้ยให้ไปถามวิเชียร และมีนก็เลยต้องหันกลับมาถามวิเชียรด้วยความสงสัย
“รักกันแล้วมันเกี่ยวกับลูกดกยังไงพี่วิเชียร”
นี่มึงแกล้งไม่รู้หรือไม่รู้จริงๆ วะเนี่ย พอกันทั้งลูกพี่ลูกน้องพวกมึงเลยเนอะ
“อ้าวเกาหลีไม่รู้อะไร ผู้หญิงกับผู้ชายอยู่ด้วยกันรักกัน เอากันบ่อย ๆ เช้า สาย บ่าย เย็นมันก็ต้องมีลูกเป็นธรรมดา หมายความว่าเอากันเสร็จมันก็เดี๋ยวท้อง เดี๋ยวท้องอยู่นั่น เขาเลยว่าลูกดกหัวปีท้ายปี”
“อ๋ออออออออออออออออออ”
“กูเพิ่งจะรู้นะเนี่ยวิเชียร แล้วมึงกับเมียมึงลูกดกหัวปีท้ายปียังวะ”
บุ้งแซวกลับวิเชียร และวิเชียรก็อมยิ้มและส่ายหน้ากับสิ่งที่ลูกพี่พูด
“ของผมนี่เขาไม่เรียกลูกดก เขาเรียกรู้จักวางแผนครอบครัวสองคนก็พอแล้วพี่ มากกว่านี้เลี้ยงไม่ไหว”
เหรอ
บุ้งพยักหน้ารับ และมีนก็พยักหน้าตามไปด้วย
“พี่ไม่ต้องมาห่วงผมหรอก เอาเรื่องของพี่ก่อนดีกว่า.....ว่าไงเกาหลี.....”
ว่าไงอะไรวะพี่วิเชียร มีนกำลังทำหน้างง เพราะไม่เข้าใจว่าอยู่ดี ๆ พี่วิเชียรหันมาถามทำไม นี่พี่เบี่ยงเบนเป้าหมายจากพี่บุ้งมาเป็นผมตั้งแต่เมื่อไหร่วะ มีนเลิกคิ้วขึ้นสูง ปากเคี้ยวถั่วไปด้วย และมือก็ยังแกะถั่วส่งเข้าปากให้ลูกพี่ที่ให้นั่งตัก
“อะไรว่าไงของพี่วะ พี่วิเชียร”
นี่ก็มาแนวเดียวกับลูกพี่อีกคน แกล้งมึนหรือมึนจริง ๆ วะ เอาให้ชัวร์
“อ้าว ก็เกาหลีคงไม่มีปัญหาเรื่องลูกดกไม่ใช่เหรอ”
อะไรวะ ไม่มีปัญหาเรื่องลูกดก พี่วิเชียรนี่พูดอะไร งง ๆ ผมจะไปเข้าใจได้ยังไง แล้วอีกอย่างผมจะมีได้ยังไงลูก ผมยังไม่ได้แต่งงานผมก็ต้องไม่มีปัญหาเรื่องลูกเป็นธรรมดา
“ผมยังไม่มีแฟน จะเอาลูกที่ไหนมาล่ะพี่”
เคี้ยวถั่วและก็ยังทำหน้าที่ป้อนถั่วให้หัวหน้า ป้อนผิดป้อนถูกและเป็นบุ้งที่ต้องจับมือมีนเอาไว้ให้ป้อนถั่วให้ตรงปาก
“ก็ใช่ไง ถ้าเกาหลีกับพี่บุ้งเอากัน มันก็ต้องไม่มีลูกอยู่แล้ว ผู้ชายเหมือนกัน จะเอามดลูกที่ไหนมาท้อง ถูกเปล่าพี่”
ท้ายประโยคหันไปถามลูกพี่ที่ยังเคี้ยวถั่วไปเรื่อย และบุ้งก็ถึงกับนิ่งอึ้งกับสิ่งที่วิเชียรพูด ไม่ใช่แค่บุ้ง แต่มีนก็อีกคนที่กำลังอ้าปากตาค้าง ปล่อยให้เม็ดถั่วที่กำลังจะเข้าปากหล่นลงบนเคาร์เตอร์
“ไอ้วิเชียรรรรรรรรรรรรรรรรรรรร”
บุ้งพยายามลุกขึ้น และมีนที่นั่งอยู่บนตักก็ยอมลุกขึ้นตาม พี่วิเชียรหัวเราะชอบใจและวิ่งจากไปแล้ว ปล่อยให้บุ้งโมโหกระฟัดกระเฟียดอยู่คนเดียว
“มึงก็ไปหน้าแดงตามไอ้วิเชียรมันพูด พอมันเห็นว่าแซวมึงขึ้นมันก็ได้ใจตลอด ห่านี่ เผลอไม่ได้ เอาคืนกูประจำเลย”
พี่บุ้งบ่นและทำหน้าเหมือนกำลังหงุดหงิดไม่พอใจที่โดนพี่วิเชียรแกล้ง แต่มีน...........หน้าแดงเถือกไปเรียบร้อยแล้วเพราะสิ่งที่ได้ฟัง ผู้ชายกับผู้ชาย เอากันมันก็ย่อมไม่ท้องเป็นเรื่องธรรมดา แต่ว่า.........ให้ผมเอากับพี่บุ้งเนี่ยนะ พี่วิเชียรคิดได้ไง
“ไอ้นี่ก็เขินหน้าดำหน้าแดงอยู่นั่น ก็เพราะมึงเป็นแบบนี้ไง วิเชียรมันถึงได้ใจ เพราะมึงเป็นแบบนี้ พอหยอกแล้วมึงหน้าแดงมันก็เลยขยันหยอก ห่า.....คิดเข้าไปได้ ให้กูเอากับมึงเนี่ยนะ คิดได้ไงวะ แม่งก็คิดด้ายยยยยยยยยย”
คือผมไม่ได้คิดอะไรไงพี่ แล้วพี่จะย้ำให้ผมคิดอีกรอบทำเพื่อ.....
มีนมองหน้าลูกพี่และรู้สึกเหมือนทำหน้าไม่ถูก
ก้มหน้าก้มตาทำทีเป็นแกะถั่วและหยิบเปลือกถั่วเข้าปาก คราวนี้กลายเป็นบุ้งที่เห็นมีนกำลังทำบางอย่างอยู่ก็ถึงกับหัวเราะชอบใจ
“เฮ้ย นี่มึงเขินจนต้องกินเปลือกถั่วแทนเลยเหรอวะมีน ใจเย็น ๆ ก่อนก็ได้ ไม่ต้องรีบ ไม่มีใครแย่งมึงกินหรอก”
อ้าวเหรอวะ เออจริงด้วยว่ะ กูเอาเม็ดถั่วทิ้งแล้วก็กำลังจะเอาเปลือกถั่วเข้าปากจริง ๆ ด้วย
“.............อ่า......ผมก็กำลังจะเอาเปลือกมันทิ้งอยู่นี่ไง”
เหรอ แต่ที่กูเห็นคือมึงกำลังจะเอาเปลือกถั่วเข้าปากแทนเม็ดถั่วอยู่แล้วนะนั่น มีน
บุ้งถึงกับส่ายหน้าและเดินมายืนข้าง ๆ มีน หยิบกระดานลงเวลารถเข้ามาเช็คเวลาอีกครั้ง และก็เหลือบมองไปที่คนที่ก้มหน้าก้มตาแกะถั่วเข้าปาก แล้วก็เกิดรู้สึกบางอย่างขึ้นมา
มีนแม่ง...........เวลาหน้าแดง แล้วก็ทำหน้าเอ๋อ ๆ แล้วดูน่ารักไม่หยอกนี่หว่า สมแล้วที่วิเชียรมันชอบแกล้ง
แกล้งมันได้แล้วหน้ามันจะดูน่ารัก แก้มแดง ๆ แบบนี้นี่เอง
“พี่มองหน้าผมทำไมวะ”
มีนที่กำลังแกะเม็ดถั่วเข้าปากเงยหน้ามองลูกพี่ที่แอบมองอยู่ก่อนแล้ว และคนที่เพิ่งรู้สึกตัวว่าโดนจับได้ว่าแอบมอง ก็ถึงกับสะดุ้งและแกล้งทำเป็นโมโหกลบเกลื่อน
“ใครไปมองหน้ามึงตอนไหนวะ ไอ้นี่คิดมาก เป็นโรคหวาดระแวงหรือไงมึง”
ใครเป็นโรคหวาดระแวงวะ ผมไม่ได้เป็นซักหน่อย ก็พี่เล่นมองหน้าผมซะขนาดนี้ เป็นใครก็ต้องรู้ตัวกันหมดแหละวะ แต่ไม่อยากเถียงกับพี่บุ้งหรอก ชอบแถสด แถไปน้ำขุ่น ๆ เถียงมากไม่ได้ด้วย เดี๋ยวเล่นบทโมโหกลบเกลื่อนอีก
“ว่างมากนักนะมึง เอาเวลารถเข้าไปคิดซิ อยู่ว่าง ๆ หัดทำตัวให้เป็นประโยชน์หน่อย”
อะไรวะ จะใช้ก็ใช้ดี ๆ ก็ได้ ทำไมต้องเอ็ดกูตลอดเลยวะพี่บุ้งนี่
“ไหนอ่ะพี่ ตรงนี้เหรอ”
เงยหน้าขึ้นมองและเอานิ้วชี้ไปที่กระดาน และมีนก็ทำหน้ามึนงงสงสัย เอียงคอสามสิบองศาและกระพริบตาไปอีกสองที
เอ่อ............
“มึงก็ดูเอาเองสิวะ ทำอย่างกับไม่เคยทำไปได้ ของแค่นี้ต้องให้กูสอนซ้ำซาก เมื่อไหร่มึงจะหัดจำซะทีวะ”
ก็ไม่เห็นต้องบ่นก็ได้นี่หว่า ผมก็มีลืมบ้างอะไรบ้าง พี่บุ้งนี่ก็ขยันบ่นเป็นคนแก่ไปได้
“ไม่บอกก็ไม่บอกสิวะ มาด่าผมอีก พักนี้พี่เป็นอะไร เมนส์ไม่มาเหรอพี่ อารมณ์เหวี่ยง ๆ ชอบกล”
ใครไปเหวี่ยงมึงไอ้มีน ใครเขาจะไปอยากเหวี่ยง อยากโมโหมึง ถ้ามึงไม่ทำหน้าแบบนี้ ไม่ทำตาแบบนี้ ไม่ทำตัวแบบนี้
ไม่..............
คิดอะไรอยู่วะเนี่ย คิดอะไรไปกันใหญ่แล้ววะกู
บุ้งกำลังรู้สึกว่าตัวเองมีอาการแปลก ๆ แปลกมาพักใหญ่ จนต้องคว้ากระดานอีกอันเดินเข้าไปช่วยวิเชียรตรวจสอบรถที่ถูกปล่อยเข้าไปโซนด้านใน
“กูไปช่วยวิเชียรก่อน มึงอยู่ตรงนี้อย่าเสือกแดกถั่วเพลินแล้วอู้ไม่ยอมทำงานเชียวนะ ไม่งั้นกูเอามึงตายแน่ เข้าใจมั้ย”
เข้าใจแล้วแหละน่าพี่ จะฝากฝังอะไรขนาดนั้น ผมนี่ระดับไหนแล้ว เคยทำงานพลาดที่ไหนล่ะพี่
“จะไปแล้วเหรอที่รัก รีบไปรีบกลับนะ เมียคิดถึง”
มึงงงงงงงงงงง ไอ้มีน มึงยังจะเล่นอีก พักนี้กูยิ่งรู้สึกแปลก ๆ เวลาเห็นหน้ามึงอยู่ด้วย
“ลามปามนะมึง เดี๋ยวกูตบคว่ำเลย ทำงานของมึงไปเลย อย่าให้กูรู้ว่ามึงอู้ ไม่งั้นกูเอาตาย”
โห้ ขู่จังวะ จะขู่อะไรนักหนา แค่นี้ผมก็กลัวจนหัวหดแล้วพี่
“ไปเถอะจ้า บ้ายบาย ไม่ต้องห่วงเมียนะ เมียจะรออยู่ตรงนี้ไม่ไปไหน กลับมาเร็ว ๆ นะจ๊ะผัว”
ไอ้มีน...
บุ้งทำท่าจะเอากระดานฟาดหัวเด็กฝึกงานที่มันยังเล่นไม่เลิก และมีนก็รีบเอามือบังหน้าตัวเองและหัวเราะชอบใจใหญ่ ที่ได้ยั่วโมโหหัวหน้าได้
“ไม่เล่นแล้ว ไม่เล่นแล้ว พี่บุ้งนี่ล่ะก็ ทำเป็นโมโหไปได้ ทำงานครับทำงาน ไม่อู้ครับ ไม่อู้ ผมทำงานไม่อู้แล้วนี่ไง พี่รีบไปเถอะ พี่วิเชียรรอแล้วพี่ ไม่รีบไปเดี๋ยวพี่วิเชียรก็งอน หาว่าพี่เอาแต่สนใจแต่ผมคนเดียว แบบนั้นคงไม่ดีเนอะพี่บุ้ง ใช่มั้ยพี่บุ้งใช่มั้ย”
ใช่มั้ยบ้านมึงสิ ใช่มั้ยอะไรของมึง กวนตีนจริง ๆ ไอ้เด็กเหี้ยนี่
“เออ.......ใช่ก็ใช่ ทำงานไปนะมึง อย่าอู้นะมึง ไม่งั้นกูเล่นมึงแน่มีน”
ครับ ๆ ไม่อู้ครับ ทำงานอยู่นี่ไงทำงาน ทำงาน
มีนแกล้งทำเป็นก้มหน้าก้มตาคิดเวลารวมของรถที่เข้ามาในวันนี้ และบุ้งก็เดินเข้าโซนด้านในไปเรียบร้อยแล้ว และเมื่อหัวหน้างานเดินจากไปแล้ว มีนก็เงยหน้าขึ้นมองเพื่อความแน่ใจว่าลูกพี่ไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว ไม่อยากจะคิดอะไรอย่างที่พี่วิเชียรพูด แต่จะให้ไม่คิดมันก็คงเป็นไปไม่ได้ ผู้ชายกับผู้ชายเอากันไม่ท้อง
ผู้ชาย.............กับผู้ชายเอากัน.......เหมือนนายกับคุณเลขาหรือเปล่าวะ ที่ถึงรักกันชอบกันแค่ไหนแต่พอเอากันยังไงก็ไม่มีทางท้อง...........
อ่า.....
คิดทำไมวะ ไม่เกี่ยวกับกูซักหน่อย เรื่องของนายก็คือเรื่องของนาย พี่บุ้งบอกว่าห้ามยุ่งห้ามวิจารณ์ กูไม่ยุ่งไม่วิจารณ์ก็ได้วะ
แต่ว่า.................
“ผมกับพี่บุ้งเนี่ยนะ……….”
คิดเล่น ๆ อยู่ดีๆ ก็คิดขึ้นมาเล่น ๆ และมีนก็เกิดอาการร้อนผ่าวที่ใบหน้า ในเวลานี้หน้าแดงเถือกขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
“เฮ้ยยยยยยยยยยยยย”
ร้องออกมาเสียงดังลั่นและรีบสะบัดหัวไล่ความคิดแปลก ๆ ของตัวเองออกไป
“คิดอะไรอยู่วะเนี่ยกู คิดอะไร คิดอะไร คิดอะไร แม่งบ้าไปแล้วหรือไงวะมึง ห่ามีน”
TBC.