ต่อ“เด็กคนนั้นชื่อคริสติน” น้ำเสียงเย็นชาของดราโกพูดขัดขึ้นมาทันที “ไม่ใช่อลัน ไอรา แต่เป็นครินติน คริสติน นอร์แมน”
“เฮ้อ โอเค ฉันรู้แล้ว คริสติน เด็กคนนั้นโอเคไหม” ชายหนุ่มถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง แม้เมื่อวานสีหน้าท่าทางของคริสตินจะดูสงบ แต่ใบหน้าก็ยังซีดเผือดไร้สีเลือด เขาเลยอยากจะรู้ว่าอาการของเด็กคนนั้นเป็นยังไงบ้าง ขนาดจีนเป็นคนเข้มแข็งยังย่ำแย่ถึงขนาดนี้ แล้วเด็กคนนั้นล่ะจะเป็นอย่างไร
“เด็กคนนั้นไม่เป็นไร เขาเข้มแข็งมากกว่าที่นายคิด” ดราโกตอบ ดวงตาสีทองมองสบเข้ากับดวงตาสีมรกตของเพื่อนสนิทและพันธมิตรของแฟมิลี่นิ่งๆ
“จีนอยากจะพบเด็กคนนั้น” แดเนียลพูดขึ้นมาทันที สีหน้าหล่อเหลาของเขามีแววยุ่งยากใจ เพราะเขารู้ดีว่าถ้าเป็นเรื่องที่ดราโกไม่เห็นด้วย เขาก็จะไม่ช่วยเหลือหรือผ่อนปรนให้เลยแม้แต่น้อย แต่เขาก็ยังคิดที่จะขอร้องเพื่อให้จีนสบายใจ เพราะเขาก็ไม่สามารถทนเห็นคนที่ตัวเองรักเจ็บปวดได้เช่นกัน
“ไม่ จีนจะไม่ได้พบคริสติน” ดวงตาเย็นชาตวัดสายตามองเพื่อนทันที “ฉันจะไม่ทำอะไรเขาเพราะฉันเห็นแก่นาย แต่นายควรรู้ว่าควรจะจัดการคนของตัวเองยังไงเพื่อไม่ให้เขามาวุ่นวายกับคนของฉันอีก”
แดเนียลมองสายตาที่แข็งกร้าวแต่เย็นชาของดราโกอย่างหนักใจ ทางหนึ่งก็เพื่อน ทางหนึ่งก็คนรัก ยิ่งถ้าเด็กอลันคนนั้น ไม่ซิ คริสตินเป็นคนที่ดราโกดูแลอยู่ ถึงอยากจะเจอแค่ไหนก็คงจะยาก และถ้าเขายังดึงดันต่อไป ไม่แคล้วดอนแห่งคอลิโอเน่และเขาคงได้ทะเลาะกันใหญ่โต ดีไม่ดีคงทะเลาะกันจนทำให้อิตาลีวุ่นวายไปพักใหญ่เลยทีเดียว
“เฮ้อ โอเค ฉันจะไม่ขอให้นายพาคริสตินไปพบจีนอีก แต่นายก็รู้ว่าพวกเขาเป็นพี่น้องกัน มันตัดกันไม่ขาด” ชายหนุ่มเจ้าของดวงตาสีมรกตถอนหายใจกับเรื่องที่ไม่คาดคิดนี้ ไม่รู้ว่าจะเป็นโชคชะตาหรือฟ้าลิขิต จีนตามหาน้องมาหลายปี พอหมดหวังจู่ๆ ก็ได้พบกันซะอย่างนั้น แถมดูเหมือนฝ่ายน้องจะไม่ค่อยอยากเจอพี่ชายเท่าไหร่ด้วย “แย่ชะมัด แค่แผนการที่นายลากฉันเข้ามาเกี่ยวก็วุ่นวายอยู่แล้ว ยังมีเรื่องเจ้าหนูและจีนมาเสริมให้วุ่นเข้าไปอีก”
“มันจะไม่วุ่นวายถ้านายไม่เข้ามายุ่งกับเรื่องของคริสตินมากเกินไป ดูแลคนของนายให้ดีๆ เถอะ” ดราโกยอมลดสายตาเย็นชาลงส่วนหนึ่งเพราะสีหน้าลำบากใจของดอนแห่งอัลเบอร์โต้
“เอาเถอะ ตอนนี้ฉันยังไม่ยุ่งแน่นอน และจะพยายามดูแลจีนไม่ให้เข้ามายุ่งมากเกินไป แต่หวังว่าถ้าจบเรื่องพวกนี้นายจะเห็นแก่ฉันที่คอยช่วยเหลือ เปิดโอกาสให้พวกเขาได้ปรับความเข้าใจกันหน่อยเถอะ ฉันไม่อยากเห็นจีนร้องไห้” ร่างสูงของแดเนียลถอดถอนหายใจ ก่อนจะยกกาแฟที่วางทิ้งไว้จนเย็นชืดขึ้นมาดื่มดับกระหาย
แต่จากประโยคของแดเนียลที่เอ่ยขอร้องดราโกไว้นั้น ก็ไม่ได้รับการตอบรับใดใดจากทางชายหนุ่มอีกเช่นเคย แต่เขาหวังว่าสุดท้ายแล้วดราโกจะยินยอมให้สองพี่น้องได้พบและพูดคุยปรับความเข้าใจกันได้ในท้ายที่สุด โดยที่แดเนียลก็ไม่รู้เลยว่าการตัดสินใจนั้นขึ้นอยู่กับคริสตินแต่เพียงผู้เดียว ถ้าเทวดาตัวน้อยของเขาไม่อยากเจอ เขาก็จะทำทุกวิถีทางให้จีนไม่สามารถมาพบคริสตินได้ หรือถ้าคริสตินอยากเจอ เขาก็จะไม่ห้าม แต่เขาก็จะคอยยืนอยู่ข้างๆ ไม่ยอมให้เด็กน้อยของเขาคลาดสายตาไปไหนแน่นอน
“ดอนครับ จาคอปแจ้งมาว่าคริสตินตื่นแล้วครับ และอยากจะขอลงมาพบดอนอัลเบอร์โต้เช่นเดียวกันครับ” คาลอสเดินเข้าไปขัดจังหวะบรรยากาศคุกกรุ่นทันทีเมื่อสบโอกาส ร่างสูงของดราโกชะงักเล็กน้อย แต่ก็พยักหน้ารับรู้ ผิดกับดวงตาสีมรกตของแดเนียลที่พราวระยับขึ้นมาเล็กน้อยอย่างดีใจ เพราะอย่างน้อยถ้าได้เจอหน้าคริสติน บางทีเขาอาจจะได้เกลี้ยกล่อมเด็กคนนั้นให้ยอมรับจีนได้ง่ายดายมากขึ้น
หลังจากที่ผมตื่นนอนขึ้นมาในช่วงสายด้วยอาการอ่อนเพลียเล็กน้อยแล้ว ผมก็พบว่าร่างกายของผมนั้นเมื่อยขบและอ่อนแรงมากกว่าปกติ ยิ่งภาพที่ผมเห็นจากกระจกที่สะท้อนออกมานั้น มันแปลกจนผมต้องเอียงศีรษะครุ่นคิดพิจารณาครั้งแล้วครั้งเล่า ผมไม่รู้ว่ามันแปลกตรงไหนนะครับ แต่ผมว่าบรรยากาศรอบๆ ตัวผมมันไม่เหมือนเดิม ดูมีอารมณ์และความรู้สึกมากขึ้นหรือเปล่านะ?
หรืออาจจะเป็นเพราะร่างกายของผมปรากฏร่องรอยมากมายนี้หรือเปล่า ถึงทำให้ผมดูแตกต่างจากปกติไปมากเลยทีเดียว ผมยืนมองพิจารณารอยกลีบกุหลายสีแดงช้ำมากมายที่กระจายไปทั่วทั้งตัวด้วยใบหน้าร้อนผ่าว คำว่ามากมายที่ผมยกขึ้นมาใช้ มันมากจริงๆ นะครับ เพราะตอนนี้สีผิวของผมเปลี่ยนเป็นสีแดงเรื่อทั้งตัว ไม่ว่าจะลำคอ ตรงอก ส่วนท้อง ต้นขา แขน และแผ่นหลังของผมเช่นเดียวกัน
“เหมือนตุ๊กแกเลย” ผมพูดขึ้นมาเบาๆ หลังจากมองตัวเองและสำรวจทุกร่องรอยบนร่างกายจนครบถ้วนแล้ว ภาพของสัตว์ชนิดหนึ่งที่ผมเคยดูในสารคดีก็แวบขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
นอกจากตัวของผมที่กลายเป็นตุ๊กแกแล้ว ริมฝีปากของผมก็บวมช้ำมากกว่าปกติจนเหมือนคนโดนผึ้งต่อยตรงริมฝีปาก และดวงตาสีน้ำตาลของผมก็ดูง่วงนอนคล้ายคนที่ตื่นไม่เต็มตา อืม งั้นดวงตาของผมก็คล้ายตัวสล็อตรึเปล่านะ ดูง่วงนอนตลอดเวลาเลย ซึ่งผมในตอนนี้ก็ดูแตกต่างจากในทุกๆ วันจนผมรู้สึกไม่คุ้นเคย แม้ผมจะจัดการธุระส่วนตัวและส่วนใส่เสื้อผ้าจนเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ตาม ความรู้สึกแปลกๆ นี้ก็ยังคงอยู่ไม่หายไปไหน
สภาพของผมใครเห็นก็คงหัวเราะด้วยความขบขันแน่นอน แต่จะให้ผมหมดความมั่นใจและเก็บตัวอยู่ในห้องนอนมันก็ไม่เหมาะสม ถึงหน้าตาของผมมันจะแปลกพิกล แต่ยังไงชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไปครับ ดังนั้นผมจึงเดินออกมาจากห้องนอนและผมก็เห็นจาคอปยืนอยู่ในห้องครัวเล็กพอดี แต่กลับกลายเป็นว่าจาคอปทำให้ผมสงสัยมากขึ้นอีกเป็นเท่าตัว ว่าสภาพของผมตอนนี้มันแย่ขนาดทนมองไม่ได้เลยเหรอครับ
เพราะเมื่อผมเดินไปหาจาคอปที่ห้องครัว ผมก็เห็นสังเกตเห็นว่าจาคอปมองผมจนตาเบิกกว้าง และผิวสีแทนของจาคอปก็กำลังแดงเรื่อเหมือนผมไม่มีผิด ท่าทางของเขาที่ไม่ยอมสบตากับผมนั้นก็ผิดปกติ ไม่ยอมมองผม และไม่ยอมยิ้มให้ผมเหมือนเคย พอผมสงสัยจะเดินเข้าไปถามเขา เขาก็ทำท่าตกใจและกระโดดถอยห่างจากผมออกไปไกล
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” ผมขมวดคิ้วเอ่ยถามเขา แต่เขาก็ตอบผมว่าไม่เป็นไรด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักจนผิดปกติ แถมยังดูรนๆ ขณะที่เขารินนมให้ผมจนมือไม้สั่นและนมบางส่วนก็หกออกมานอกแก้ว ผมนั่งดื่มนมที่รับมาจากเขาและทานขนมปังอยู่เงียบๆ พลางลอบพิจารณาท่าทางจาคอปด้วยความสงสัย แต่ระหว่างที่ผมดื่นนมอยู่นั้น ก็เห็นว่าเขาแอบมองผมบ่อยๆ ดวงตาของเขาเหมือนจดจ่ออยู่ที่ลำคอและริมฝีปากของผม แต่พอผมหันไปมองเขา เขาก็จะรีบร้อนหันไปมองทางอื่นทันที
บรรยากาศแบบนี้ทำให้ผมอึดอัดและทำตัวไม่ถูก จึงได้แต่รีบร้อนทานอาหารเช้าง่ายๆ นี้ให้หมดและบอกเขาว่าผมอยากไปหาดราโกและขอพบดอนแห่งอัลเบอร์โต้เช่นกัน เมื่อผมพูดจบจาคอปก็รีบหันมามองผมอย่างรวดเร็วจนผมกลัวว่าคอของเขาจะเคล็ดซะก่อน
“จะไปพบดอนอัลเบอร์โต้เหรอครับ” จาคอปถามย้ำอีกครั้งอย่างไม่แน่ใจ และผมก็พยักหน้ายืนยันกับเขาอีกครั้งเช่นกัน “งั้นรอสักครู่นะครับ ขอผมโทรไปแจ้งดอนก่อน”
ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่หยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงและกดโทรออกทันที จากที่ผมคิด ปลายสายน่าจะเป็นคาลอสที่รับสายครับ ผมรอเพียงไม่นานทางฝั่งนั้นก็ยืนยันให้ผมเข้าไปพบดอนอัลเบอร์โต้ได้ ผมจึงได้ให้จาคอปนำทางผมไป ส่วนสาเหตุที่ทำให้ผมต้องการพูดคุยกับพวกเขาอีกครั้งก็คงเป็นเรื่องเมื่อวานที่ผมเสียมารยาทต่อหน้าเขา ผมต้องการขอโทษกับเหตุการณ์เมื่อวานที่ผมไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ แดเนียล อัลเบอร์โต้เป็นถึงดอนแห่งอัลเบอร์โต้ และเป็นเพื่อนของดราโก ดังนั้นผมจึงไปขอโทษเขาเพื่อแสดงถึงความจริงใจ
เพราะยังไงแผนการนี้ทางผมและดราโกก็เป็นฝ่ายขอความช่วยเหลือจากทางแดเนียลเอง ดังนั้นผมก็ไม่ควรทำเรื่องหรือแสดงกิริยาที่จะกระทบต่อแผนการในอนาคต หลังจากที่ผมได้นอนหลับสนิทไปทั้งคืนแล้ว สติของผมก็กลับมาแจ่มใสเหมือนเดิม เมื่อวานอารมณ์ของผมแปรปรวนมากเกินไป จนทำให้อารมณ์และเรื่องราวในอดีตนั้นเป็นฝ่ายอยู่เหนือเหตุผลที่ผมมักคำนึงถึงอยู่เสมอ
ผมยอมรับว่าผมอาจจะยังเด็กเกินไปที่จะควบคุมอารมณ์ของตนเองได้เต็มร้อย แต่ผมก็จะพยายามให้มากขึ้นเพื่อไม่ให้ดราโกเป็นห่วงผมมากเกินไป หลังจากนี้อาจจะมีเหตุการณ์ในรูปแบบนี้เกิดขึ้นอีกมากมาย ผมจะต้องเรียนรู้ที่จะจัดการอารมณ์ของตัวเองให้ได้เช่นกัน แต่สำหรับเรื่องของจีนนั้น ผมยอมรับว่าผมไม่กล้าจะคิดว่าเรื่องของพวกเราหลังจากนี้จะเป็นยังไงต่อไป แต่ผมคิดว่าผมต้องการเวลามากกว่านี้เพื่อคิดเรื่องของจีนให้รอบคอบ
ผมและจาคอปใช้เวลาไม่นานก็เดินลงมาถึงห้องพักของแดเนียล ผมเห็นคาลอสออกมายิืนรอผมอยู่หน้าห้อง คลี่ยิ้มมองผมเล็กน้อยเมื่อเห็นผมในระยะไกล แต่เมื่อผมเดินมาใกล้เรื่อยๆ รอยยิ้มที่ประดับบนใบหน้าก็จางหายไปทีละนิด จนกระทั่งผมเดินมาหยุดตรงหน้าเขาพอดี ดวงตาใต้กรอบแว่นสี่เหลี่ยมก็เบิกกว้างพร้อมกับใบหน้าขึ้นสีแดงเรื่อและรีบร้อนหลบสายตาผมเหมือนกับจาคอปไม่มีผิด
“เจ้าบ้าจาคอป!!! ทำไมนายให้คริสตินลงมาในสภาพแบบนี้วะ” คาลอสตะคอกออกมารุนแรง แต่เสียงของเขากลับเบาหวิวดังลอดไรฟัน สายตาของเจ้าตัวก็หลุกหลิกมองผม มองจาคอป และสลับกับมองประตูเหมือนกับกำลังกลัวว่าใครบางคนในห้องจะเปิดประตูออกมา
“ทำไมล่ะ? ก็แต่งตัวเหมือนเดิมไม่ใช่รึไง” ชายหนุ่มร่างสูงเอ่ยถามอย่างสงสัย ทั้งผมและจาคอปต่างมองหน้ากันและหันไปขมวดคิ้วมองคาลอสอย่างไม่เข้าใจเช่นเดียวกัน
“ผมก็ใส่เหมือนที่เคยใส่นี่ครับ” ผมพูดขึ้นมาบ้างและจาคอปก็พยักหน้าเสริมผมเช่นเดียว พอคาลอสเห็นพวกเรายังทำหน้างุนงงสงสัย เจ้าตัวก็ทำหน้าเหยเกคล้ายจะร้องไห้ มือก็ขยี้ผมจนยุ่งเหยิงไปหมด พร้อมกับเสียงถอนหายใจหนักๆ หนึ่งที
“นายไม่รู้สึกรึไงว่าวันนี้เขา...เขา...ขะ เขา” คาลอสตวัดสายตาจ้องเขม็งไปทางจาคอปอย่างรุนแรง แต่สุดท้ายก็อ้ำอึ้งไม่ยอมพูดให้จบประโยค
“ผมทำไมเหรอครับ” ผมถามขึ้นมาอย่างสงสัย แต่ชายหนุ่มกลับผงะถอยห่างและรีบร้อนเปลี่ยนเรื่องทันที
“บ้าเอ๊ย นายรีบพาคริสตินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเดี๋ยวนี้เลย หาเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว หาผ้าพันคอให้ใส่ด้วย” มือหนาของคาลอสรีบดันหลังของจาคอปแรงๆ และจับไหล่ของผมให้หมุนตัวกลับไปทางเดิมอย่างรวดเร็ว “หาหมวกมาใส่ด้วยนะ แมสปิดหน้าด้วย อย่าลืมหาแมสปิดหน้ามาใส่ด้วยนะ ไม่พอๆ หาแว่นกันแดดด้วยนะ เอาแว่นดำที่ไม่เห็นตาเลย นายเข้าใจใช่ไหม!!!”
คาลอสสั่งจาคอปอย่างรวดเร็วแต่เขาก็ไม่ลืมที่จะลดเสียงให้เบาราวกับกระซิบ สีหน้าท่าทางของชายหนุ่มก็ดูร้อนอกร้อนใจจนผมไม่เข้าใจ ทำไมต้องให้ผมปิดหน้าปิดตาขนาดนั้นกันนะ หรือหน้าผมโทรมจนดูไม่ได้กัน แต่ก็เอาเถอะครับ ในเมื่อเขาอยากให้ผมใส่ขนาดนั้น ผมไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก็ได้ ถึงแม้ว่าอากาศตอนนี้จะเป็นช่วงเข้าหน้าร้อนแล้วก็ตาม ไว้ผมเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จค่อยกลับมาถามเขาอีกทีก็แล้วกันครับ
“คริสติน?” แต่ผมกลับจาคอปยังไม่ทันได้เดินกลับไปที่ห้อง ประตูห้องของดอนแห่งอัลเบอร์โต้ก็เปิดออกพร้อมกับร่างสูงใหญ่ของดราโกที่ก้าวออกมาพร้อมกับเรียกชื่อของผม ผมจึงหมุนตัวหันกลับไปมองดราโกทันทีและเอ่ยทักทายเขาเล็กน้อย
“อรุณสวัสดิ์ครับดราโก” แต่ดูเหมือนว่าชายหนุ่มจะไม่ได้ฟังผมเลยแม้แต่น้อยครับ เพราะตอนนี้ดวงตาสีทองของร่างสูงนั้นโชนแสงวาววับจนผมตกใจ พริบตาเดียวใบหน้าของผมก็ปะทะเข้ากับแผงอกกว้างของเขาทันที และแขนแกร่งของเขาก็รีบตวัดร่างของผมเข้ามาในอ้อมกอด มือใหญ่กดศีรษะด้านหลังของผมไว้แน่นราวกับต้องการซ่อนผมเอาไว้ไม่ยอมให้ใครได้เห็น
“หลับตา!!!” เสียงของชายหนุ่มตะคอกเสียงดังลั่น ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ก็ได้ยินเสียงของจาคอปและคาลอสเอ่ยรับคำสั่งอย่างรวดเร็ว พร้อมๆ กับร่างของผมที่โดนดราโกอุ้มขึ้นมา รู้ตัวอีกทีตัวของผมก็ถูกเขากักไว้ด้วยอ้อมแขนแกร่งอยู่กลางเตียงในห้องนอนเรียบร้อยแล้วครับ
..........
ขอแบ่งเป็นสองท่อนนะคะ เพราะว่ามันไม่พอค่ะ