ตอนที่ 31 ครึ่งหลัง
UP
“เป็นห่วงเหรอครับน้องจอม”
“พี่เงิน...จะทำยังไงดี ถ้าพี่รามเป็นอะไรขึ้นมาจอมจะกล้าบอกคุณลุงคุณป้ายังไง แล้วถ้าพี่อินเป็นอะไรไป จอมจะบอกกับทางครอบครัวพี่เขาได้ยังไง จอมกลัวครับพี่เงิน จอมกลัว” เสียงของเจ้าจอมสั่นจนหมอเงินรู้สึกได้ถึงความหวดกลัวเลยคว้าร่างเล็กมากอดปลอบเอาไว้
“มันต้องไม่มีอะไร คุณรามกับอินต้องปลอดภัย”
“แล้วจักรจะปลอดภัยไหม”
“จักรเก่งจะตายไป ไม่มีทางเป็นอะไรหรอก ขรรค์ก็ด้วย”
“แต่ว่า...”
“ชู่!! ไม่เอาครับน้องจอม ไม่คิดเรื่อง แล้วมานั่งให้กำลังใจขรรค์กับจักรดีกว่านะครับ” หมอเงินห้ามปรามไม่ให้เจ้าจอมพูดในสิ่งที่ไม่ดีออกมา แล้วพากันนั่งรออยู่บนโซฟาตัวยาว
เจ้าจอมเก่งมากที่ไม่ร้องไห้ออกมาแม้ว่าเสียงและตาจะดูแดงๆ มากแค่ไหนก็ตาม ถือว่าเป็นคนที่เข้มแข็งคนหนึ่งจนเงินได้แต่นึกทึ่ง ถ้าถามว่าเขาเป็นห่วงคนรักไหม หมอเงินก็เป็นห่วง แต่เขาเข้าใจว่าขรรค์ไม่ได้มีแค่เงินในชีวิตคนเดียว ขรรค์มีเจ้านายที่ทำให้ขรรค์มีทุกวันนี้อย่างรามินทร์ หากเจ้านายตกอยู่ในอันตราย ต่อให้ตายแทนได้ ขรรค์ก็จะทำเพื่อตอบแทนพระคุณอย่างไม่คิดลังเล
ขรรค์ตายแทนรามินทร์ได้เพราะความจงรักภักดี
และตายแทนเงินได้เพราะความรักสุดหัวใจ...
“นายต้องปลอดภัยนะจักร นายต้องไม่เป็นอะไร” เจ้าจอมได้แต่ภาวนาเบาๆ ดวงตาก็เหม่อมองไปยังด้านนอกที่ฝนก็ตกหนักเพิ่มขึ้นทุกทีๆ ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดอย่างกังวล
ส่วนหมอเงินก็มองเจ้าจอมอยู่อีกด้านหนึ่งด้วยความเป็นห่วงเช่นกัน เขาเข้าใจว่าเจ้าจอมรู้สึกยังไงเพราะตอนนี้เขาก็รู้สึกไม่ต่างกัน เจ้าจอมเป็นห่วงจักร เขาก็เป็นห่วงขรรค์เหมือนกัน
สิ่งที่เราสองคนทำได้ตอนนี้ก็คือการนั่งภาวนา ขอให้ทั้งจักรและขรรค์ไม่บาดเจ็บหรือมีอันตรายเกิดขึ้นก็พอแล้ว
“ทำไมถึงได้พากันหายไปนะ”
“เจ้าจอมว่าไงนะครับ”
“จอมแค่ไม่เข้าใจว่าทำไมพี่รามกับพี่อินถึงไปทำอะไรที่นั่นทั้งๆ พี่รามก็รู้ว่าตรงนั้นมันเป็นทางไหลของน้ำ ไม่น่าจะพาพี่อินไป” เจ้าจอมสงสัย
“นั่นสินะ พี่ก็สงสัยเหมือนกัน”
“หรือว่าจะทะเลาะกันครับ”
“ไม่จริงน่า...ทะเลาะจนเล่นกันถึงตายเลยนี่นะ” หมอเงินไม่อยากจะเชื่อเท่าไหร่ เพราะถึงว่าจะรู้ว่ารามินทร์ทำอะไรไว้กับอินทัชบ้างแต่ก็ไม่คิดว่าจะเล่นถึงชีวิตแบบนี้
เพราะถ้ารามินทร์จะเอาถึงชีวิต คงไม่ปล่อยให้อินทัชอยู่จนถึงทุกวันนี้หรอก
“จอมก็ไม่เชื่อเหมือนกันว่าพี่รามจะทำแบบนั้น” ใบหน้าของเจ้าจอมดูเศร้าๆ
“พี่ว่ามันเป็นอุบัติเหตุนะ”
“ครับ”
“อย่าเพิ่งไปคิดอะไรเลยครับน้องจอม เรามาภาวนาให้คุณรามกับอินปลอดภัยกันเถอะ” หมอเงินชวนร่างเล็กกว่าด้วยใบหน้าที่ดูอบอุ่น
เจ้าจอมพยักหน้ารับน้อยๆ
พอตกเย็นเหล่าคนงานที่ออกตามหารามินทร์กลับอินทัชก็กลับมาด้วยสภาพที่เปียกปอนและใบหน้าหน้าที่ดูเหนื่อยล้าอิดโรยกันทุกคน เจ้าจอมได้ให้คนครัวทำอาหารไว้ชุดใหญ่เพื่อเสริมสร้างพลังให้กับเหล่าคนงานที่ต้องลงแรงและเสี่ยงอันตราย
แม้ว่าจะผิดหวังที่ยังไม่เจอรามินทร์กับอินทัชก็ตาม...
“ฉันว่าพรุ่งนี้น้ำก็คงลดเป็นปกติแล้วล่ะ จะได้ลงไปหาที่น้ำตกใหญ่ด้านล่าง” ขรรค์พูดกับจักรโดยมีเจ้าจอมกับหมอเงินร่วมโต๊ะอาหารด้วย
“กูว่ามีความเป็นไปได้เก้าสิบเปอร์เซ็นที่คุณรามกับไอ้อินจะอยู่ที่น้ำตกด้านล่าง เพราะทิศทางน้ำไหลไปทางนั้น” จักรสันนิษฐาน
“และถ้าตกแบบโชคดีหน่อยก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรเพราะด้านล่างน้ำก็ลึกและกว้างพอสมควร มันถึงรองรับน้ำได้เยอะโดยไม่ไหลลงไปให้คนที่อยู่ล่างไปอีกเดือดร้อนเลย”
“แต่โขดหินเยอะมากนะเว้ยขรรค์”
“แต่ก็น่าจะตกพร้อมกับน้ำที่ไหลเยอะแบบนั้นฉันว่ามีโอกาสรอดสูง”
“เออ...ก็จริงอย่างที่มึงพูดว่ะขรรค์ งั้นพรุ่งนี้เช้าเราจะเริ่มออกตามหาเลย พรุ่งนี้หมอเงินช่วยเตรียมทีมแพทย์ให้หน่อยได้ไหมครับ” จักรหันไปถามหมอเงินที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับคนรักของตน โดยที่เจ้าจอมนั่งตรงข้ามกับจักร
“ได้ครับ เดี๋ยวผมจะแจ้งทางโรงพยาบาลให้ ยังไงคุณรามก็เป็นผู้สนับสนุนโรงพยาบาลมาตลอดอยู่แล้ว คงไม่มีปัญหาอะไรครับ”
“งั้นดีเลยนะเงิน ฝากด้วยนะ”
“อื้อ...เงินช่วยอะไรได้ก็ดีใจแล้ว” ร่างโปร่งส่งยิ้มให้คนรัก ซึ่งขรรค์ก็ยิ้มตอบกลับเล็กน้อย
เจ้าจอมนั่งเงียบฟังทั้งสามคุยกันอย่างนึกน้อยใจที่ตัวเองช่วยอะไรใครไม่ได้เลย ได้แต่นั่งรอฟังข่าวอยู่ที่นี่ยังไม่พอก็ต้องมานั่งฟังจักรกับขรรค์คุยกันอยู่สองคนอีก ไหนจะหมอเงินที่ก็ได้เข้าสู่การสนทนาด้วย เจ้าจอมเลยรู้สึกว่าตัวเองถูกกีดกันออกจากวง และนั่นทำให้เจ้าจอมถึงกับไม่อาจทนได้ต่อไป
“ขอตัวนะครับ”
ร่างเล็กลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกจากที่นี่ไปทันที ซึ่งทั้งสามคนก็มองตามด้วยความแปลกใจ หันมองกันราวกับต้องการจะถามว่า...เจ้าจอมเป็นอะไร
“กูขอตัวไปดูคุณจอมก่อนนะ”
“อือๆ เจอกันพรุ่งนี้นะพี่จักร”
“เออๆ”
“ฝันดีนะครับ”
“ขอบคุณครับหมอ ฝันดีเช่นกัน”
ไม่รอช้า ร่างสูงของจักรก็ออกวิ่งตามเจ้าจอมไป ซึ่งพอมองเห็นแผ่นหลังเล็กๆ ที่เดินมุ่งหน้าไปยังบ้านพักของเจ้าตัวก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
สองเท้าแกร่งก้าวตามร่างบอบบางไปเรื่อยๆ โดยที่เจ้าจอมไม่รู้สึกเลยว่ามีคนตามอยู่ จนกระทั่งเดินไปจนถึงบ้านของเจ้าจอมนั่นแหละ จักรก็วิ่งไปหาเพราะกลัวว่าร่างบางจะเข้าไปก่อนโดยที่เราจะไม่มีโอกาสได้คุยกันอีก
“คุณจอมครับ”
“นาย!” เจ้าจอมตกใจ เพราะไม่คิดว่าจักรจะตามมา แต่พอตั้งสติได้ ก็ตีหน้าเรียบนิ่งเหมือนเดิม
“ผมอยากคุยกับคุณจอม คุณจอมยังโกรธผมอยู่ไหมครับ”
“โกรธ...”
“ผมขอโทษ” ร่างสูงเอ่ยเสียงอ่อย กำหมัดแน่นเมื่อคิดถึงสิ่งที่แก้วทำในวันนั้น
จะโทษแก้วอย่างเดียวก็ไม่ได้ ถ้าจะโทษก็โทษที่ความใจดีและเชื่อคนง่ายของตัวเองดีกว่า
“เฮ้อ...นายรู้ไหมว่าสิ่งที่ฉันไม่ชอบในตัวนายมากที่สุดคืออะไร” เจ้าจอมถอนหายใจอย่างหน่ายใจก่อนจะถามคำถามจักรออกไป
“ความโง่ของผม”
“ไม่ใช่!!” ร่างเล็กตอบเสียงดัง ใบหน้าฉายชัดถึงความหงุดหงิด “นายกำลังดูถูกฉันนะจักร...และนายก็ดูถูกตัวเองด้วย ถ้านายบอกว่านายโง่ ฉันก็โง่ ทุกคนมีความโง่และความฉลาดอยู่ในตัวเองกันหมดนั่นแหละ เราอาจจะรู้บางเรื่องแต่จะให้รู้ทุกเรื่องบนโลกใบนี้ก็ไม่ใช่”
“ขอโทษครับ”
“ฉันเคยบอกแล้วใช่ไหมว่าฉันเป็นคนเห็นแก่ตัว ถ้าจะใจดีก็ใจดีแค่กับฉัน ห้ามยุ่งกับคนอื่นยกเว้นเรื่องงาน แต่นายทำไม่ได้ นายสัญญากับฉันว่ายังไง ไม่นานนายก็ทำให้ฉันผิดหวัง แล้วผู้หญิงที่ชื่อแก้วเนี่ย ฉันรู้จักธาตุแท้มานานแล้ว เพียงแต่ถ้าพูดออกไป นายก็จะไม่เชื่อฉันอยู่ดี”
ร่างสูงยืนนิ่ง ฟังสิ่งที่เจ้าจอมพูดอย่างตั้งใจ
“ถ้าวันนั้นฉันไม่เข้าไป จะเกิดอะไรขึ้น นายก็คงจะนอนกับเจ้าหล่อนสินะ เฮอะ!” ยิ่งเจ้าจอมพูดเท่าไหร่ ตัวเองก็ยิ่งรู้สึกไม่ดีตามไปด้วย
เพราะตลอดหลายวันนี้ เจ้าจอมก็เอาแต่คิดไปซ้ำๆ ว่าวันนั้นเขาไม่เข้าไป ไม่ไปเห็น ไม่ไปได้ยิน อะไรจะเกิดขึ้น เพราะเจ้าจอมรู้ว่าจักรก็ไม่ใช่พระอิฐพระปูน เจอผู้หญิงยั่วยวนขนาดนั้นไม่นานก็ต้องตกหลุมพรางแน่ๆ
“ไม่ครับ!! ไม่รู้ว่าพูดไปคุณจอมจะเชื่อหรือเปล่า แต่ว่าผมไม่มีทางนอนกับแก้วเด็ดขาด แค่สิ่งที่เธอโกหกผมมันก็ทำให้ผมรังเกียจมากพอแล้วครับ” จักรตอบด้วยใบหน้าและน้ำเสียงที่จริงจัง
ดวงตาของเจ้าจอมมองสบกับดวงตาดุของจักรเพราะต้องการจะมองหาคำตอบจากดวงตาว่าคนๆ นี้จะโกหกเขาไหม แม้จะรู้ว่าจักรไม่เคยโกหกตัวเอง แต่ก็ไม่มั่นใจอยู่ดี
“ผมรักคุณจอม...ผมขอโทษที่ทำให้ผิดหวัง แต่วันนั้นผมไม่ได้แม้ที่จะมีความรู้สึกคล้อยตามแก้วแม้แต่นิดเดียว ผมสา...”
“พอแล้ว! ไม่ต้องพูดแล้ว” เจ้าจอมเอ่ยขัดเมื่อร่างสูงกำลังจะพูดคำว่าสาบานออกมา
“ผมอยากให้คุณจอมเชื่อและให้อภัยผม”
“เข้ามาข้างในก่อน” ร่างบางชวนจักรเข้าไปในตัวบ้าน ซึ่งเจ้าของบ้านก็ได้เข้าไปก่อนแล้ว ส่วนจักเองก็ยืนทำหน้าลังเลอยู่นิดหนึ่งก่อนจะถอดรองเท้าแล้วเดินตามเจ้าจอมไป ซึ่งก็ไม่ลืมที่จะปิดประตู
“ไปอาบน้ำ ชุดของพี่รามก็ยังมีอยู่ วันนี้ก็นอนที่นี่แล้วกัน มันใกล้กับที่ที่ต้องไปหาพี่รามกับพี่อินมากกว่า”
“ครับ...ขอบคุณครับคุณจอม”
ได้โอกาสมาแล้วก็ต้องรีบคว้า ถึงแม้จะไม่ได้ยินคำว่าให้อภัยจากปากของเจ้าจอมก็ตามที แต่เขาก็ต้องทำทุกอย่างไม่ให้เจ้าจอมไม่พอใจอี
เจ้าจอมถอนหายเมื่อเห็นว่าจักรเดินเข้าไปในห้องนอนเขาเพื่ออาบน้ำตามคำสั่ง ส่วนตัวเจ้าจอมเองก็เดินตามเข้าไปในห้องเช่นกัน หากแต่นั่งรอร่างสูงอยู่ที่ปลายเตียงของตน
“เฮ้อ...”
จริงๆ แล้วก็ไม่ได้โกรธมากหรอก แค่วางฟอร์มไปก็แค่นั้น แต่ที่คิดว่าวันนั้นจักรกับแก้วต้องมีอะไรกันถ้าเขาไม่ได้ไปนั่นน่ะ เขาคิดจริงๆ แต่ไม่ได้ฟุ้งซ่านขนาดนั้น ยังไงมันก็เป็นแค่ความคิด
ยิ่งได้ยินคำย้ำเตือนจากจักรก็ยิ่งมั่นใจขึ้น ความขุ่นข้องหมองใจก็พลันหายไปเมื่อได้เห็นสีหน้าจริงจังของร่างสูงเมื่อกี้นี้
แต่ทุกอย่างมันก็วางใจไม่ได้...ถ้าหากว่าจักรยังไม่ได้เป็นของเขาอย่างแท้จริง
“ขึ้นมานอนบนเตียง ข้างๆ กับฉัน”
“แต่ว่า...”
“อย่าขัดคำสั่ง บอกให้ขึ้นมานอนก็ขึ้นมา อย่าให้ต้องพูดมากจะได้ไหม”
“มันไม่เหมาะนะครับคุณจอม”
“ไม่เหมาะยังไง”
“คุณจอมเป็นเจ้านาย เอ่อ...แล้วถ้าหากผมล่วงเกินไป มันก็จะแย่เอานะครับ”
เป็นเวลาหลายนาทีที่กำลังเถียงกันเรื่องที่นอน จักรทำท่าจะนอนพื้นท่าเดียว แต่เจ้าจอมต้องการให้ขึ้นมานอนข้างๆ กัน คนที่ขี้เกรงใจและเจียมตัวเองอยู่เสมอก็ไม่กล้าน่ะสิ ปฏิเสธเสียจนเจ้าจอมหงุดหงิด
“อย่าให้ฉันต้องโกรธ” เอ่ยเสียงข่มขู่
“โถ่...คุณจอมครับ”
“นายจักร! ฉันบอกให้ขึ้นมา!!” เพิ่งระดับเสียงเข้าไปอีก เล่นทำเอาคนคนตัวใหญ่เหงื่อแตกด้วยความประหม่า คิ้วเข้มขมวดแน่นเพราะกำลังคิดหนักว่าจะเอาเช่นไรดี
“ผม...”
“ถ้านายกล้าปฏิเสธฉันอีก โอกาสที่ได้ทั้งหมดฉันจะไม่ให้มันแล้วนะ!” พอขู่เรื่องนี้จักรก็เดินมานั่งที่เตียงก่อนจะนอนลงไปอย่างว่าง่าย
“ผมยอมแล้ว”
“ดี...ยอมแบบนี้ตั้งแต่แรกก็สิ้นเรื่อง แล้วนั่น ไม่ต้องนอนริมขอบเตียงขนาดนั้นก็ได้ ขยับเข้ามาอีกสิ เดี๋ยวก็นอนตกเตียงหรอก” เจ้าจอมสังเกตเห็นคนตัวใหญ่นอนซะริมขอบเตียงเลยออกคำสั่งอีก
“ผมนอนแบบนี้ได้ครับ สบายมาก”
“เร็ว!!”
“ครับๆ” ร่างสูงขยับเข้ามาอีกนิดหน่อยเพื่อไม่ให้ร่างเล็กโมโห
เจ้าจอมส่ายหน้าไปมา ก่อนจะเอื้อมมือไปปิดไฟที่หัวเตียงแล้วทิ้งตัวนอนที่นอนของตนทันที ร่างกายของทั้งสองคนสัมผัสกันอย่างช่วยไม่ได้ จนเกิดความรู้สึกว่ามีกระแสไฟฟ้าจากตัวของคนตรงข้าม
“นี่...ไม่ต้องนอนเกร็งขนาดนั้นก็ได้ ฉันไม่ว่า”
“ผมกลัวคุณจอมนอนไม่สบาย”
“ฉันสบาย ตัวฉันเล็กกว่านายเยอะเลยนายจักร เพราะฉะนั้นผ่อนคลายแล้วนอนหลับไปซะ พรุ่งนี้ต้องตื่นไปหาพี่รามกับพี่อินแต่เช้านี่”
“ครับ”
“นอนไปเถอะ”
“ผมนอนไม่หลับครับ” ร่างสูงสารภาพผ่านความมืด
“ทำไม?”
“ผมตื่นเต้น ประหม่าไปหมดแล้ว การที่ได้นอนข้างๆ กับคุณจอมมันเป็นอะไรที่เกินฝันเอามากๆ แค่ตอนนั้นได้นอนเฝ้าคุณจอมอยู่ด้านล่างก็ถือว่าโชคดีแล้ว แต่นี่ได้นอนข้างๆ แบบนี้ ผมรู้สึก...มีความสุขมากครับ” จักรสารภาพออกมาด้วยน้ำเสียงที่สุดแสนจะอ่อนโยน เรียกรอยยิ้มหวานผ่านความมืดมิดทันที
ที่เขาชอบก็ตรงที่เป็นคนซื่อตรงต่อจิตใจของจักรนี่แหละ
คิดอะไรก็พูดออกมาอย่างนั้น...
“อย่ามาเวอร์ ยกย่องฉันซะเป็นของสูงส่งมากเลยเนอะ ฉันก็แค่คนธรรมดา เป็นเจ้าจอมคนธรรมดาเท่านั้น ไม่ได้สูงไปกว่าใคร และไม่ได้ไกลขนาดที่นายจะจับต้องไม่ได้”
“คุณจอมเป็นเหมือนดอกฟ้าที่หมาวัดอย่างผมอยากเอื้อมเด็ดมาไว้กับกาย แต่ก็กลัวว่าดอกฟ้านั้นจะเฉาตายเอาสักวัน”
“เปรียบได้เชยมาก” เจ้าจอมหัวเราะ เร่งจังหวะการเต้นของหัวใจกันและกันมากยิ่งขึ้น
“ผมอยากจะเด็ดดอกฟ้ามา แต่ว่าถ้าดอกไม้ไร้ต้นไม้ มันก็จะอยู่ได้ไม่นาน”
เจ้าจอมยิ้มกว้างอย่างมีความสุข หันข้างไปหาร่างสูงที่นอนหงายมองไปยังเพดานของห้อง พาดแขนเรียวกอดที่เอวสอบของจักร ทำเอาร่างกายใหญ่แข็งทื่อไปเลยด้วยความตกใจ
คุณจอมกอดมึง...ไอ้จักร! คุณจอมกอดมึง
“จะเด็ดดอกฟ้าทำไม ก็ในเมื่อตอนนี้ ทั้งต้นมาอยู่ข้างนายแล้ว”
“คุณจอม...หมายความว่าไงครับ”
“ก็ไม่ได้หมายความอะไรลึกซึ้งมาก”
“ผมไม่เข้าใจ”
“ฝากดูแลต้นไม้อย่างฉันให้ดีที่สุดด้วยก็แล้วกัน”
“ไอ้จักรไม่เข้าใจเท่าไหร่ แต่ผมจะดูแลคุณจอมด้วยชีวิตเลยครับ” เสียงที่แสนหนักแน่นทำเอาหัวใจของเจ้าจอมรู้สึกอบอุ่นเหลือเกิน
ไม่รู้ว่าที่เจ้าจอมพูดหมายความว่ายังไง ให้เขาดูแลในฐานะไหน แต่ว่ามันก็เป็นหน้าที่ที่เขาอยากทำและจะทำด้วยความตั้งใจตลอดไปด้วย...
100%
เจอกันตอนหน้าค่ะ (ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว แหะๆ) แต่อย่าลืมเม้นท์นะตัวเอง ^^