แหม่ หลายคนทายกันถูกเยอะนะเนี่ย
ไปอ่านกันเลยดีกว่า
__________________________________________
ตอนที่ 15
“หา!”ไอ้หมาบ้าที่จะกระโจนเข้ามาชกพี่ผมหยุดกึก ซึ่งอีกฝ่ายก็โดนผมหยุดไว้ด้วยการดึงชายเสื้อ
“พอเถอะภีม เสียงดังจนคนเค้ามองกันเต็มแล้ว”ผมว่าขำๆ
“ฮ่าๆๆๆๆ ที่แท้ก็พี่ติดน้องนี่หว่า นึกว่าอะไร”เฮียยอร์คที่ตอนนี้ยืนล้วงกระเป๋าหัวเราะอย่างเอาเป็นเอาตาย
“เงียบไปเลยไอ้ตี๋ รีบๆ เอาพี่มึงกลับไปเลยไป!”พี่ผมไล่อีกครั้ง หน้าดำหน้าแดงแบบคนอารมณ์ไม่ดีสุดๆ
“โถๆๆๆๆๆ ติดน้อง”เฮียยอร์คยังเล่นไม่เลิก
“ไอ้!...”ภีมพูดได้แค่นั้นผมก็หันไปเรียกนายยอร์ชที่กำลังทำหน้างงๆ ขึ้นมาก่อน
“ยอร์ช กลับไปก่อนนะ ภามมีเรื่องต้องคุยกับพี่ เฮียพายอร์ชกลับไปก่อนนะ”ท้ายประโยคผมหันไปบอกเฮียยอร์คที่ดูมีสติมากกว่าซึ่งเขาก็พยักหน้ายิ้มๆ ลากนายยอร์ชขึ้นรถ แต่ไม่วายหันมากวนพี่ชายผมเล่น
“เฮียกูน่ะไม่ไก่อ่อนหรอกนะเฟ้ย ละอ่อนอย่างมึงขวางเฮียกูไม่ได้หรอก ฮ่าๆๆๆๆ”หัวเราะทิ้งท้ายเรียกความโมโหจากภีมได้อีกหลายระดับก่อนจะขับรถออกไป ภีมที่ยังอารมณ์ไม่ปกติดีหันมาหาผมที่ทำได้แต่ยิ้มแหยๆ ส่งไปให้
“เรามีเรื่องต้องคุยกันยาวนะภาม”ภีมดึงผมให้เดินตามขึ้นหอแบบไม่ค่อยจะปรานี
“ยาวก็ยาว”ผมพูดได้แค่นี้ก็ไม่กล้าพูดอะไรอีกเพราะสายตาดุๆ ที่พี่ชายส่งมาให้ เฮ้อ สงสัยคืนนี้คงยาวจริงๆ
ผมนั่งรอภีมอาบน้ำอยู่บนเตียงนอน กำลังคิดว่าจะเริ่มเล่าเรื่องนายยอร์ชให้พี่ชายฟังยังไงดีถึงจะเป็นประโยชน์กับทั้งสองฝ่ายมากที่สุด ภีมเป็นพี่ชายแท้ๆ ของผมที่อายุมากกว่าสองปี เป็นนิสิตชั้นปีที่สามของคณะวิศวะมหาวิทยาลัยกลางเมืองที่ล้อมรอบไปด้วยตึกและห้างสรรพสินค้า และถึงแม้มหาวิทยาลัยของภีมจะเต็มไปด้วยนิสิตที่มีความเป็นผู้ดีและสุภาพชนมากที่สุด แต่พี่ชายคนนี้ของผมก็ดูเหมือนจะเป็นข้อยกเว้น ยังคงความเถื่อนของตัวเองไว้ได้อย่างคงเส้นคงวา และนิสัยอีกอย่างหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนหรือลดน้อยลงก็คือ...หวงน้อง ถือคติที่ว่ารักน้องยิ่งชีพ สมัยก่อนตอนเรียนมัธยมที่โรงเรียนต่างจังหวัดด้วยกันใครมาเกาะแกะผมเป็นไม่ได้ โดนตะเพิดกระเจิงกันไปหมด
ผมนั่งยิ้มกับวีรกรรมของพี่ชายสักครู่ประตูห้องน้ำก็เปิดออก ภีมที่ยังทำหน้างอนๆ เดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าของผมรื้อค้นชุดใส่เองเหมือนที่เคยทำทุกครั้งที่มานอนที่หอผม พอเช็ดผมแห้งก็มานั่งที่เตียงเอาหมอนวางบนตักแล้วนั่งพิงผนังหันหน้ามาหาผมที่นั่งอยู่หน้าคอม
“ว่ามา...”ภีมจ้องหน้าผมแล้วพูด
“อะไร?”ผมถามยิ้มๆ
“ดูท่าทางแล้วไม่น่าจะรู้จักกันธรรมดา ภามเป็นอะไรกับไอ้หล่อนั่น”คำถามตรงไปตรงมาถูกถามออกมา ภีมเป็นคนโผงผาง มีอะไรก็ชอบพูดตรงๆ แบบนี้เสมอ
“อืม ก็อย่างที่คิดนั่นแหละ”ผมว่า
“เมื่อไหร่?”
“ถ้าเริ่มคบจริงๆ ก็เมื่อวานเอง”
“งั้นก็ดี เพิ่งเริ่มคบจะได้ทำให้เลิกกันง่ายๆ หน่อย”ภีมว่าแล้วยิ้มชั่วร้าย”
“ภีม ยอร์ชเป็นคนดีจริงๆ นะ พี่ไม่ต้องห่วงเค้าหรอกน่า”ผมพอจะเอาออกว่าพี่ชายคิดอะไร
“แน่ใจได้ยังไงว่ามันจะดีจริง”ภีมแย้งหน้าเครียด
“ก็รู้จักกันมาตั้งหลายเดือนแล้ว”
“อะไร! แล้วทำไมไม่เคยเล่าให้พี่ฟังเลย”นั่นไง เริ่มโมโหแล้ว
“ก็ตอนนั้นยังไม่แน่ใจนี่”พูดจบก็เห็นพี่ชายนั่งเม้มปากงอนๆ จ้องหน้าโดยที่ไม่พูดอะไร
“ภีม...”ผมคราง ไม่รู้จะงัดไม้ไหนมาเอาใจพี่ชายขี้หวง
“ไม่รู้แหละ พี่จะขัด! พี่จะขวาง!”ภีมพูดเอาแต่ใจเหมือนเด็กๆ
“ภีมอ่ะ!”
“เชอะ!”นั่นๆ มีงอนอีก เฮ้อ...ผมถอนหายใจมองหน้าพี่ชายตัวเองแล้วเหนื่อยใจ เลยเปลี่ยนเรื่องพูดแทน
“แล้วนี่ทำไมอยู่ๆ ถึงมานี่ได้หล่ะ”
“พี่ปิดเทอมแล้ว ว่าจะมาอยู่เป็นเพื่อนภามนี่แหละ”พอเปลี่ยนเรื่องดูเหมือนว่าภีมจะมีสีหน้าที่อ่อนลง แต่ฟังน้ำเสียงแล้วยังแอบงอนอยู่
“ก็ดี เค้าก็เหงาๆ อยู่เหมือนกัน ช่วงรอสอบไม่ค่อยมีอะไรทำ หนังสือก็ไม่ต้องอ่านอะไรมาก”ผมเริ่มเอาใจ ช่วงที่รอสอบนี่ผมว่างหลายวัน จะมีก็พรุ่งนี้เรื่อยไปจนครบสี่วันที่จะต้องไปเตรียมงานสำหรับงานเลี้ยงใหญ่ประจำปีของภาคส่วนของปีหนึ่ง หลังจากนั้นก็ว่างหลายวันกว่าจะสอบ สอบวันเว้นสองวันบ้าง เว้นสามวันบ้าง หนังสือสอบก็ไม่มีให้อ่านเยอะ เพราะส่วนใหญ่เป็นงานดีไซน์ที่ต้องเก็บคะแนนโดยการทำงานอยู่แล้ว
“คิดถึงพี่หล่ะสิ”พี่ชายตัวดีเริ่มยิ้มออกแล้วกระโดดเข้ามากอดผม
“อือ คิดถึงอยู่แล้วแหละ ปล่อยก่อนภีม เค้าจะไปปิดไฟ จะได้นอน ดึกแล้ว”ภีมปล่อยให้ผมไปปิดไฟส่วนตัวเองก็ล้มตัวนอนที่เตียงของผม เวลาภีมหลบ รปภ.ขึ้นมานอนห้องผมทีไรเรามักจะนอนเตียงเดียวกันเสมอ ดูเหมือนภีมจะไม่ยอมห่างผมแม้แต่นาทีเดียวถ้าทำได้ รักน้องจริงๆ ไอ้พี่คนนี้ ผมเอนตัวลงนอนบนเตียงข้างๆ ภีมบ้าง ไอ้คนข้างๆ มันก็อยู่ไม่สุขเอาทั้งขาทั้งแขนพาดตัวผมซะเต็มที่ ผมยิ้มขำๆ ในความมืด ในที่สุดเราสองคนก็หลับไป...
วันนี้เป็นวันแรกสำหรับการเริ่มเตรียมงานเลี้ยงของภาควิชาที่จะจัดขึ้นกลางเดือนหน้า งานนี้พี่ปีสี่ทุ่มงบจำนวนมากเพื่อที่จะสร้างสรรค์งานให้ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กับที่เคยจัดทุกปี สถานที่จัดงานเลยเป็นโรงแรมหรูใจกลางเมืองย่านสุขุมวิท หลังจากที่เพื่อนที่นัดไว้มากันครบตอนสี่โมงเย็นงานก็เริ่มขึ้น ผมเองทำงานอยู่ฝ่ายที่ต้องทำถ้วยรางวัลสำหรับพี่ที่ป็อปที่สุดในงานก็มาคอยเป็นลูกมือให้แจน เจ้าแม่นิยายวายอยู่ไม่ห่าง คอยช่วยเล็กๆ น้อยๆ เท่าที่ทำได้ เพราะส่วนใหญ่เพื่อนหลายๆ คนก็ช่วยกันทำสุดฝีมืออยู่แล้ว
ทำกันไปเล่นกันไปคุยกันไปจนเกือบๆ จะสองทุ่มภีมก็เริ่มโทรตามผมเพราะเป็นห่วงตามเคย ผมนัดให้ภีมมารับหน้าตึกเรียนรวม จะได้ไม่ต้องเดินเข้ามาถึงโรงอาหารให้เสียเวลา ภีมเออๆออๆ แล้วบอกว่าจะรีบออกมาจากหอแล้วก็วางสายไป
ผมช่วยเพื่อนๆ เก็บของในส่วนที่ไม่ใช้แล้วแล้วขอตัวกลับ นันใจดีเดินมาส่งผมหน้าตึกเรียนรวมเหมือนเคย แต่ผมก็บอกให้กลับไปช่วยเพื่อนเก็บของต่อเพราะเกรงใจ ยืนอยู่คนเดียวไม่นานก็เห็นรถคาดิลแล็คคุ้นตาเข้ามาจอดเทียบฟุตบาท นายยอร์ชเปิดประตูลงมาก่อนแล้วตามมาด้วยเฮียยอร์คคู่หูคู่ป่วน
“นี่สินะที่เค้าเรียกว่าพรหมลิขิต ขนาดภามจะกลับหอตอนไหนพี่ยังรู้เลย”นายยอร์ชหมุนตัวเดินสามตลบเข้ามาหาผมก่อนที่จะจับมือแล้วพูด
“เสี่ยวอะยอร์ช”ผมพูดขำๆ เห็นคนตัวโตเกาหัวแกรกๆ
“เสี่ยวกับภามคนเดียวแหละ แล้วชอบไหม?”ผมยิ้มแต่ไม่ตอบคำถาม แต่หันไปคุยกับเฮียร์ยอร์คแทน
“สวัสดีครับเฮีย ไม่เจอกันตั้งวันนึง คิดถึงจะแย่”
“เฮ้ยๆ อย่าหาเรื่องซวยมาให้เฮียนะภาม เฮียจะยืนอยู่ตรงนี้เฉยๆ เงียบๆ”เฮียยอร์คว่าแล้วหันหลังไปทางอื่น ผมได้ยินเสียงแง่งๆ ดังมาจากคนข้างๆ
“สนใจแต่น้องสามี แล้วสามีหล่ะไม่สนบ้างหรือไง”นายตัวดีเริ่มเรียกร้องความสนใจ
“อย่าๆ อย่ามาอ้อนตีนให้มาก ปล่อยเลยมึง”ไม่ใช่เสียงผมครับ เพราะผมยังไม่ได้ตอบอะไรออกไป สิ้นคำพูดมือที่จับผมไว้ก็เป็นอันโดนปัดหลุดออกไปแรงๆ ฝีมือใครก็น่าจะเดาออก
ไม่ทันที่นายยอร์ชจะหันไปกัดกับตัวปัญหาองครักษ์พี่ทักษ์พี่ชายก็ทำงานอย่างรู้หน้าที่
“อ้าว! แป๊ะ! คนเค้าจะสวีทหวานกันมึงไปยุ่งอะไรเนี่ย มานี่เลยมานี่”เฮียยอร์คเดินเข้ามาดึงมือภีมแล้วลากให้เดินตามออกไป
“หุบปากเลยไอ้ตี๋! เรื่องของพี่น้องคนอื่นไม่เกี่ยวโว้ย!”ภีมเริ่มเปลี่ยนเป้าหมายเล่นงานแทน ทิ้งให้ผมกับยอร์ชยืนเป็นผู้ชม
“แน่ะ! พูดไม่รู้เรื่อง ก็นั่นเค้าผัวเมียกัน เรื่องของคนในครอบครัว ห่ะนี่!”เฮียยอร์คก็ไม่ยอม ลอยหน้าลอยตาเถียง
“สาดดดดดดดดดดดดดดด พูดอย่างนี้หมายความว่าไงวะ อยากเจอกูนักใช่มั้ย แม่งๆๆๆๆๆๆ เชี่ยๆๆๆๆๆๆ แม่งๆๆๆๆ”ภีมเริ่มสติแตกแล้วครับ เอ่อ...ผมจะเข้าไปดึงพี่ชายออกมาดีมั้ย
“เอ้า! เอ้า! บ้าไปเลย รับไม่ได้หล่ะสิ ไอ้แป๊ะติดน้อง”เฮียยอร์คยืนกอดอกหัวเราะจนตาหยี มองภีมอย่างผู้ที่เหนือกว่า
“ปากดีนักมานี่เลยมึง!”
“เฮ้ย!”ภีมตะโกนตามมาด้วยเสียงอุทานของเฮียยอร์ค ภาพต่อมาที่ผมและยอร์ชเห็นคือ เฮียยอร์คถูกภีมลากไปด้วยพลังช้างสารหลายลับไปทางมุมสตูดิโอของภาคสถาปัตยกรรมภายใน
“เป้าหมายเปลี่ยนไวจัง”ยอร์ชที่ยืนงงๆ กับเหตุการณ์เมื่อครู่เอ่ยเป็นประโยคแรก
“เหอะๆ” ผมที่ไม่รู้จะพูดอะไรได้แต่หัวเราะ
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!”เสียงร้องโหยหวนของเฮียยอร์คดังมาจากมุมตึกไกลๆ ผมตกใจรีบหันไปหายอร์ช
“เฮียยอร์คจะเป็นอะไรหรือเปล่ายอร์ช”
“คิดว่ามันน่าจะเอาตัวรอดได้ พี่ชายภามไม่กล้าทำอะไรมันหรอกน่า”ยอร์ชบีบมือผมให้กำลังใจ จะให้น้องชายเป็นไม้กันหมาให้หล่ะสิ อย่าคิดว่ารู้ไม่ทันนะไอ้นี่
หลังจากเสียงร้องเมื่อครู่เงียบไปได้ไม่นานเฮียยอร์คก็วิ่งตับๆๆ ออกมาสมทบกับผมและยอร์ชที่ยืนอยู่ที่เดิมท่ามกลางความโล่งใจของเราทั้งสองคน สภาพของเฮียยอร์คก็ยังอยู่ดี เพียงแต่เสื้อผ้าที่ใส่อยู่ยับยู่ยี่แปลกๆ กับรอยแดงๆ ตามตัวที่ตอนก่อนโดนลากเข้าไปไม่มี
“กลับเหอะเฮีย วันนี้เราแพ้ ฤกษ์ไม่ดีแล้ว”เฮียยอร์คมากระตุกแขนพี่ชายรัวๆ หันไปมองภีมที่เดินยิ้มกริ่มออกมาจากมุมตึกแบบระแวงๆ ดูก็รู้แล้วว่าใครเป็นฝ่ายชนะในยกนี้ แต่ไม่รู้ว่าชนะด้วยวิธีไหน
“อะไรวะตี๋ ก็ไหนตอนแรกตกลงว่าจะมารับภามไปกินข้าวด้วยกันไง”นายยอร์ชหันไปถามน้องชายงงๆ
“แป๊ะมันก็อยู่ มันไม่ได้เจอน้องนานแล้ว ให้มันกินกันตามประสาพี่น้องบ้างก็ได้เฮีย”เฮียยอร์คเรียกภีมซะน่ารักเชียว เหอะๆ
“ยังไม่กลับอีกรึไงวะไอ้ตี๋ หรืออยากลองดีอีก”ภีมที่เดินมายืนอยู่ข้างๆ ผมถามยิ้มๆ
“เฮียยยยยยยยยยยยย...”เฮียยอร์คเกาะแขนนายยอร์คแล้วเขย่าๆ ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ ไม่ตอบคำถามของภีม นายยอร์ชหันมามองหน้าผมเป็นเชิงถามว่าจะเอายังไงดี สุดท้ายผมเลยพยักหน้าให้อีกฝ่ายไป
“งั้นพี่ไปก่อนนะครับ คนดี”นายยอร์ชว่าแล้วรีบก้มหน้าลงมาแตะที่แก้มผมเร็วๆ
“เฮ้ยๆ จะกลับก็รีบกลับไปเลยไอ้หล่อ อย่ามาทำรุ่มร่าม”ภีมเริ่มจะอาละวาดอีกแล้วครับ นายยอร์ชไม่ว่าอะไรเพียงแค่หันไปยักคิ้วกวนๆ ให้ภีมแล้วเดินตามแรงลากของเฮียยอร์คออกไป
“ไปทำอะไรมาวะตี๋ ทำไมรอยแดงเต็มเลย ตรงคอนี่ก็มี”เสียงถามของนายยอร์ชดังมาไม่ไกล
“ยุงกัดน่ะเฮีย ยุง!”เฮียยอร์คกระแทกเสียงก่อนจะตามมาด้วยเสียงหัวเราะดังลั่นของภีม
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ไปภาม ไปกินข้าวกัน”ภีมว่าก่อนจะจูงมือผมเดินออกไปหาอะไรกินนอกคณะ อะไรของเขาเนี่ยพี่ชายผม ตามอารมณ์ไม่ทันจริงๆ
To be contined
__________________________________
ทีนี้เริ่มรู้อะไรขึ้นมามั่งยังจ้ะท่านผู้อ่านทั้งหลาย...
ถ้ายังไม่รู้.... ก็.....
ต้องติดตามตอนต่อปายยย 555555
ปล. ขอบคุณสำหรับทุกเม้นจ้า