เช้าวันรุ่งขึ้นผมไปเรียนตามปกติ พอเข้าไปนั่งในห้องเรียน เก็บกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว ไอ้ลิงก็วิ่งเข้ามาลากผมให้วิ่งออกไปนอกห้อง
“เฮ้ย ไอ้ลิง เมิงลากกรูออกมาทำไมวะเนี่ย ค่อยๆๆเดินก็ได้” ไอ้เชี่ย กรูเจ็บนะเว้ย เบาๆๆก็ได้ กรูไม่ใช่ตุ๊กตาล้มลุกนะเมิง
“ไม่ได้เว้ย เมิงออกมานี่เลย ตามกรูมานิ เมิงนี่ ดังใหญ่แล้วนะ”
“อะไรของเมิงวะ” ไอ้ลิงมันลากผมเดินตรงไปที่บอร์ดกลางของโรงเรียน
“กรูหายใจไม่ออก” ไอ้นี่ล็อคคอกรูนะแน่นเลย
“นี่ไง ดังสมใจเมิงแล้ว 5555”
“ตายห่า” ผมนึกคำอุทานไม่ออก นอกจากคำนี้คำเดียว เพราะว่าตอนนี้ที่บอร์ดมีรูปของผมอยู่ พร้อมข้อความข้างล่างว่า
“สมาชิกหมายเลข 05 ของชมรมวิทยุโทรทัศน์ แห่งโรงเรียน XXXX”
นี่ดูเผิน ๆ เหมือนประกาศจับกรูเลยนะนั่นอะ ผมมองไปรอบๆ เห็นคนอื่น ๆ มุงดูบอร์ดสลับกับมองหน้าผม พร้อม ๆ กับเสียง หนูสโนไวท์ดังขึ้นไปทั่ว ทำเอาผมหน้าแดงวูบวาบด้วยความอาย
“นี่ใครเอามาติดวะ” ผมตามไอ้ลิง พร้อมกับพยายามเอาตัวเล็ก ๆ ของผมบังบอร์ดไว้ไม่ให้คนอื่นเห็น
“คงเห็นพี่หญิงละมั้ง” ไอ้ลิงตอบผม
“งั้นเดี๋ยวกรูมานะ” พอพูดจบ ผมก็วิ่งปรู๊ดไปยังชมรมทันที แหมๆๆ อยู่กันครบทีมเลย คิดไว้แล้วว่าต้องอยู่ที่นี่
“นี่มะขาม มาก็ดีแล้ว มาเอารายชื่อคู่รักนักเรียนที่เราจะสัมภาษณ์ไป” พูดจบพี่มะขามก็โยนกระดาษปึกนึงมาให้ ในนั้นมีรายชื่อ และห้องที่อยู่ รวมแล้ว 20 คน เป็นสิบคู่พอดี
“หน้าที่ของเธอ คือไปแอบนัดเด็ก ๆ เหล่านี้ให้ไปตามนัดในวันอาทิตย์หน้า เข้าใจไหม” โอ้โห..พี่หญิงสุดยอด ไปเอารายชื่อนี่มาจากไหนเนี่ย
“มีปัญหาอะไรไหม” พี่หญิงหันมาถามผม
“ไม่มีครับ” ใครจะกล้ามีหละ หันไปหาพี่หนุ่มก็ไม่สนใจ พอหันไปหาไอ้พี่โมบาย มันก็ยกนิ้งโป้งให้ อิอิ ไม่ชอบ แต่รู้สึกดีจัง
กลางวันวันนั้น พอผมกินข้าวเสร็จก็รีบวิ่งไปยังห้องต่าง ๆ ที่พี่หญิงจดรายชื่อให้ จะให้ไอ้ลิงไปช่วย ก็โดนห้าม เพราะว่าเดี๋ยวความลับถูกเปิดเผย
ผมใช้เวลาประมาณเกือบชั่วโมงในการวิ่งไปยังห้องต่าง ๆ เพื่อนัดแนะคู่รักจนครบ
“แม่ง ทำไมพวกนี้มันกล้ากันวะ ถ้าเป็นเราคงไม่กล้าหรอก เฮ้ย อย่าว่าแต่ไม่กล้าเลย แฟนก็ยังไม่มีกะเขาสักที หลังจากวิ่งรอกไปยังห้องต่าง ๆ เสร็จแล้วก็กินเวลาเข้าเรียนไปเกือบครึ่งชั่วโมง ก็เลยตัดสินใจไม่เข้าดีกว่า คิดได้ดังนั้นเลยตัดสินใจเดินไปยังสวนสาธารณะในโรงเรียน ซึ่งเป็นสถานที่ ๆ คู่รักทั้งสิบคู่จะมาถ่ายทอดความรู้สึกกัน ดู ๆ ไปแล้วก็เป็นสถานที่เหมาะทีเดียว เพราะข้างในสวนนี้ค่อนข้างเงียบสงบ เต็มไปด้วยดอกไม้ที่ถูกประดับไว้อย่างสวยงาม ตรงกลางของสวนก็มีน้ำพุใหญ่ รายล้อมไปด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับคู่รักจะมาพลอดรักกันจริงๆๆ
“จ๊ะเอ๊”
“ตาเถร ตกๆๆๆๆๆๆๆๆ” ใครวะมาจ๊ะเอ๊ตอนนี้ หลุดอุทานอะไรออกมาก็ไม่รู้
“5555555” หันไปหาต้นเสียงก็ได้เจอกับไอ้พี่โมบายสุดหล่อมาอีกแล้ว วันนี้ไม่มีกล้องทีวีแหะ แต่ว่าในมือมันถือกล้องถ่ายรูปมาด้วย
“ขำไร” ชิส์ งอน
“ป๊าว ไม่ได้ขำ” นี่ขนาดเมิงตอบกรู ปากเมิงยังหัวเราะอยู่เลย แล้วบอกว่าไม่ได้ขำ
“งอน เป็นเด็ก ๆ ไปได้ มา เดี๋ยวถ่ายรูปให้” ว่าแล้วมันก็ยกกล้องขึ้นแนบกับตา ดูแล้วเป็นภาพที่น่ารักมากๆๆ ส่วนผมพอนึกขึ้นได้ว่าจะโดนมันถ่ายรูป ก็
รีบก้มหน้าวูบด้วยความอาย รีบยกมือขึ้นปิดกล้องพันลวัน
“เอ้า มะขาม เป็นอะไร ไม่เห็นต้องอายเลย พี่ไม่เอาไปขายหรอก”
“เปล่า ไม่ได้อาย เพียงแค่ไม่อยากถ่าย เท่านั้นเอง” ไอ้พี่โมบายเดินเข้ามาหาผม พร้อมกับเอามือขยี้หัวผมเบาๆๆ
“เรานะโตแล้วนะ ทำไมถึงยังขี้อายอยู่อีก รู้ไหม การที่เราก้มหน้าตลอดอะ มันทำให้เราพลาดอะไรดีๆๆในชีวิตไปเยอะเลยนะ รู้ไหม “
พูดจบพี่โมบายก็ค่อย ๆดึงผมนอนลงกับพื้นม้านั่งและนอนลงมาข้าง ๆ
“ดูสิ ถ้าเราเงยหน้าขึ้นนะ เราก็จะได้เห็นท้องฟ้าสวยๆๆ ดอกไม้หลาย ๆ ดอก นกบินไปมา วิเศษดีออก” ผมเพิ่งรู้นะเนี่ยว่าไอ้พี่โมบายเนี่ยมีอารมณ์ศิลปินเหมือนกันนะเนี่ย ดวงตาของพี่โมบายที่จับจ้องไปยังเบื้องบนเนี่ย ดูแล้วรู้เลยว่ากำลังมีความสุขมากๆๆ ตาโต ๆ รับกับคิ้วเข้มๆ ริมฝีปากที่ได้รูป จมูกที่โด่งเป็นสัน กับใบหน้าเรียวๆๆ ที่ผมชอบพี่โมบายเข้าแล้วหรือเนี่ย!!!
“มองหน้าพี่ทำไม หือ” อ้าว ดันรู้ตัวอีก
“แล้วพี่ไม่มีเรียนหรอคับ” มันจะรู้ไหมเนี่ยว่าตรูเปลี่ยนเรื่อง
“มี แต่อยากโดดอะ แล้วเราหละ อย่าบอกนะว่าโดดเหมือนกัน ไม่ดีนะ รู้ไหม” อี้ ว่าแต่เขา ไม่ได้ดูตัวเองเลย
“เอางี้ ไหนๆๆ เราก็โดดด้วยกันทั้งคู่แล้ว เรามาซ้อมสัมภาษณ์กันดีกว่า” พูดจบพี่โมบายก็ลุกขึ้นยืนปัดกางเกงก่อนที่จะยื่นมือมาให้ผมจับและดึงให้ลุกขึ้นยืนเหมือนกัน ผมก็สนองความหวังดีนั่นด้วยการเอื้อมมือไปจับพี่โมบายเพื่อยันตัวเองลุกขึ้น แต่ทว่า ไอ้พี่โมบาย ผู้กวนตรีน กลับปล่อยมือผม ขณะที่ผมยังค้างเติ่งอยู่กลางอากาศ ผลที่ออกมานั้นทำให้ก้นนิ่มๆๆของผมกระแทกลง จ้ำเบ้าบนพื้นหญ้าอย่างจัง
ฝากไว้ก่อนนะเมิงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
หึหึ ผมก็คงจะทำได้แค่ร้องด่าพ่อ ล่อแม่มันอยูในใจเท่านั้นหละครับ ส่วนไอ้เจ้าต้นเหตุนะหรอ ยืนหัวเราะเป็นตัวโจ๊กเกอร์อยู่นู้นนะ
“เอาหละ พร้อมหรือยัง” พอหัวเราะเสร็จแล้ว ไอ้พี่โมบายก็เปลี่ยนเป็นโหมดเครียดขึ้นมาทันที ยืนเต๊ะท่า ในมือทำท่าถือกล้อง
“พี่ทำอะไรอะ” ผมถามออกไปอย่างงง เมื่อเห็นท่าทางประหลาดๆ ของไอ้พี่โมบาย
“เอ้า พี่ก็แบกกล้องไว้ไงหละ เห็นไหม” ไหนกล้องของเมิงวะ
“ไม่เห็นอะ” กรูมีวิธีแก้แค้นเมิงแร้วววววว
“งั้นมะขามก็จินตนาการหน่อยดิ อิมเมจิ้น อะ รู้จักไหม อิมเมจิ้น”
“รู้จักดิ ทำไมจะไม่รู้จัก แล้วว่าแต่พี่จะไปซื้อซีดีเพลงอะไรที่นั่นหรอ”
“ไอ้บร้า” เสียงพี่มะขามตะโกนออกมาอย่างคนขัดใจ หุหุ กรูก็แกล้งโง่ไปยังงั้นเองนั่นแหละเมิง หุหุ