- ดื่มครั้งที่ 4 -
วันนี้เป็นเช้าวันเสาร์ที่มีอากาศไม่ค่อยน่าอภิรมย์เท่าไหร่เนื่องจากท้องฟ้ามืดครึ้มและมีสายฝนกระหน่ำลงมาไม่ขาดสาย ไม่พอยังมีเสียงฟ้าร้องและแสงฟ้าผ่าลงมาเป็นระยะ แต่ไม่มีอะไรดีกว่าอากาศยามฝนตกเพราะมันเย็นจนไม่ต้องใช้เครื่องปรับอากาศให้กินค่าไฟ
ผมนอนขดอยู่ใต้ผ้าห่มอย่างสบายใจแม้ตอนนี้เวลาจะเลยช่วงเก้าโมงเช้ามาแล้วก็ตาม แต่นอนอยู่ไม่นานนักเสียงโทรศัพท์ก็ดังเป็นเสียงแจ้งเตือนข้อความ ผมสอดมือออกจากผ้าห่มเพื่อหยิบมันที่ตั้งอยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียงขึ้นมาดู
หน้าจอสี่เหลี่ยมสว่างวาบปรากฏเป็นข้อความแจ้งเตือนเพิ่มเพื่อนใหม่ มือเรียวเลื่อนปลดล็อกแล้วจิ้มแอพพลิเคชั่นไลน์ทันที บุคคลดังกล่าวแอดเฟรนด์ผมผ่านเบอร์โทรศัพท์ หัวคิ้วขมวดเข้ากันยุ่งเมื่อรูปโปรไฟล์ของเขาไม่ขึ้นโชว์รูปใดๆ แถมชื่อไลน์ยังมีแค่ตัวย่อที่ผมไม่เข้าใจ เห็นแบบนั้นผมเลยตัดสินใจแคปเจอร์หน้าจอแล้วส่งให้เพื่อนสนิทในไลน์กรุ๊ป มันอาจจะรู้ว่าคนๆนี้เป็นใคร เพราะปกติผมก็ไม่ได้แจกไลน์ในใครพร่ำเพรื่ออยู่แล้ว รอไม่นานนักไอ้ออยสาวสวยประจำกลุ่มก็ตอบมา
♡ น้องอิงออย ♡
- ใครแอดมึงมาวะคิส ดูน่ากลัวว่ะ รูปโปรก็ไม่มี 09:38
× คิสสึ ×
- ถ้ารู้จะถามพวกมึงทำไม -_- 09:39
♡ น้องอิงออย ♡
- งั้นรอไอ้ภีมตอบละกัน กูไปนอนต่อละ อิอิ 09:39
× คิสสึ ×
- มึงเพลาๆการนอนมั่งเหอะ นอนแดกบ้านแดกเมืองตลอดผู้หญิงบ้าไรวะ 09:39
♡ น้องอิงออย ♡
- กูโสดอ่ะ ไม่ต้องตื่นมาคุยกับใครแบบพวกมึงนี่ ชิ! 09:40
× คิสสึ ×
- เดี๋ยวๆ กูก็โสดไหม มีไอ้ภีมคนเดียวที่ไม่โสด มึงอย่ามั่ว 09:40
♡ น้องอิงออย ♡
- เดี๋ยวมึงก็ไม่โสดละ!!! กูไปนอนดีกว่า บาย 09:41
× คิสสึ ×
- เอ้า ไอ้นี่ กลับมาเคลียร์ก่อนเส้ กูจะไม่โสดได้ยังไง ! 09:41
ผมทิ้งโทรศัพท์ลงข้างตัวทั้งๆที่ยังงงกับข้อความที่ไอ้ออยส่งมา อีกไม่นานผมจะไม่โสดได้ยังไงกันในเมื่อผมก็ไม่ได้ไปจีบใคร แล้วที่สำคัญกว่านั้นคือไม่มีใครมาจีบผมด้วย ผมปล่อยให้ความสงสัยตกตะกอนอยู่แบบนั้นแล้วลุกขึ้นไปอาบน้ำเพราะมีงานที่ต้องเคลียร์ต่อถึงแม้อากาศจะน่านอนแค่ไหนก็เถอะ แล้วตอนบ่ายผมมีภารกิจออกไปกินกาแฟนั่นด้วยน้า
ผมเดินออกมาจากห้องน้ำแล้วนั่งลงบนเตียงด้วยสภาพที่ใส่เสื้อยืดสีขาวกับกางเกงบ็อกเซอร์สีแดงตัวเก่ง ผ้าเช็ดตัวคลุมอยู่บนเส้นผมที่ยังไม่ได้ผ่านการเช็ด มือเรียวเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็คเผื่อจะมีใครโทรมา ซึ่งมันก็มีจริงๆไม่ใช่โทรศัพท์แต่เป็นข้อความไลน์จากภีม ผมรีบกดเข้าไปดูแล้วก็ต้องอึ้งกับคำตอบที่ได้รับ
# ชายภีม
- ไลน์พี่จีบ เขาขอเบอร์มึงไปบอกว่ามีธุระจะคุยด้วย 10:20
ผมเบิกตากว้างอ่านข้อความของไอ้ภีมซ้ำไปซ้ำมาว่าตัวเองไม่ได้ตาฝาด ผมแทบกีดร้องด้วยความดีใจที่อยู่ๆมายไอดอลก็เข้าหาเองโดยที่ผมไม่ต้องไปตามสืบเสาะหาข้อมูลเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์พี่จีบเหมือนแฟนคลับคนอื่นๆ ตอนนี้รู้สึกได้ว่าแก้มจะแตกอยู่แล้วเพราะยิ้มด้วยความดีใจ ถ้าไม่เกรงใจคนข้างห้องคงว๊ากเสียงดังลั่นไปแล้ว โอยๆๆ ว่าแล้วก็ลงไปดิ้นบนที่นอนโดยไม่สนใจเลยว่าผมยังไม่แห้ง และผลของการดีใจไม่ดูตาม้าตาเรือทำให้มือเผลอกดไปโดนหน้าจอโทรศัพท์
× คิสสึ ×
- ฟหผหกหแก 10:35
- เชี่ย โทษๆ มือไปโดนหน้าจอ 10:36
- พี่มันมีธุระอะไรกับกูวะ? 10:36
# ชายภีม
- ตอแหลได้อีก ดีใจจนพิมพ์ไม่ถูกก็บอกมา 10:37
- ไม่รู้ดิ พี่จีบไม่ได้บอก กูว่าคงอ้างไปงั้นอ่ะ ที่จริงจะจีบมึง 10:37
"เชี่ย..."
ผมสบถออกมาแต่หัวใจกับเต้นรัวเพราะข้อความของไอ้ภีม พี่มันเนี่ยนะจะจีบผมมโนได้อีกเพื่อนกู เทวดากับหมาวัดชัดๆ ผมอ่ะหมา พี่จีบอ่ะเทวดา แล้วไอ้ที่ว่าผมตอแหลนั่นล่ะ.. อยากตบกบาลมันนัก!
× คิสสึ ×
- กูไม่ได้ตอแหลเว้ย สัดด ถ้าเจอจะโบกหัวให้ 10:39
- อีกแล้วนะเชี่ยภีม พี่จีบไม่ได้จีบกูเว้ย ! 10:39
มือไม้สั่นไปหมดไม่รู้ว่าตัวเองโมโหหรือยังตื่นเต้นกับข้อความของไอ้ภีม มันเอาอะไรมาพูดว่าคนอย่างพี่จีบจะมาจีบผู้ชายอย่างผม ต่างคนต่างก็เป็นผู้ชายชอบผู้หญิงมาเหมือนกันตลอด ยิ่งเป็นคนอัธยาศัยดีแบบพี่จีบด้วยแล้วคงมีคนเข้าหานับไม่ถ้วน แต่คิดไปคิดมาไอ้ภีมมันก็รู้จักพี่จีบดีกว่าผม.. หรือว่าไอ้พี่จีบเป็นไบวะ! คิดได้แบบนั้นผมก็รัวนิ้วลงบนหน้าจอแล้วส่งข้อความไลน์หาไอ้ภีมอีกรอบโดยที่มันยังไม่ได้อ่านข้อความเก่า
× คิสสึ ×
- ไอ้ภีม.. ที่มึงพูดๆว่าพี่มันจะจีบกูเนี่ย พี่มันเป็นไบเหรอวะ? 10:41
ผมส่งข้อความออกไปแล้วจ้องจอสี่เหลี่ยมไม่วางตา มันทั้งลุ้น กลัว ตื่นเต้น ถ้าเจอคำตอบว่าพี่มันเป็นไบแล้วผมจะรู้สึกยังไงวะไม่อยากจะคิดสภาพเลย ผมสะบัดหัวไล่ความคิดบ้าๆนั่นออกไปก่อนจะพบว่ามีคนอ่านข้อความแล้วหนึ่งคนซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นไอ้ภีม แต่ผิดว่ะ..
♡ น้องอิงออย ♡
- โอ้ยๆๆๆ กรี๊ดดด อะไรนะ พ่อคนหล่อของกูขอเบอร์ไอ้จูบเหรอ อิจฉา!! 10:45
♡ น้องอิงออย ♡
- เชี่ยยย จีบเหรอ จริงอ่ะ จริงอ่ะไอ้ภีมมมมมม โอ้ยๆๆๆ คนหล่อของกูเป็นเกย์เหรอวะ ฮือๆๆ แล้วผู้หญิงอย่างกูยังจำเป็นอยู่ไหม 10:46
ผมเบะปากใส่ข้อความของน้องอิงออย มันเป็นบ้าอะไรของมันเนี่ย ร้อยวันพันปีไม่เคยจะกรี๊ดพี่จีบใส่พวกผมสักครั้ง แล้วนี่อะไรครับ มีอิจฉากันด้วย.. แล้วมันเอาส่วนไหนคิดว่าพี่จีบมันเป็นเกย์ ตลกแล้วครับ ความคิดมันล้ำกว่าผมมากโขเลยไง
× คิสสึ ×
- ไอ้ออย ตั้งสติหน่อยคุณเพื่อน พี่จีบเขามีธุระกับกูเฟ้ย 10:47
♡ น้องอิงออย ♡
- กูไม่มีสติ! ก็ไอ้ภีมมันบอกพี่จีบจะจีบมึงอ่ะ กูเชื่อไอ้ภีม พวกผีเห็นผี 10:47
ผมสตั้นไปกับข้อความของน้องอิงออย ผีเห็นผีอย่างนั้นเหรอ ไม่ใช่หรอกน่า พี่จีบมันเป็นคนอัธยาศัยดีเข้ากับคนอื่นได้ง่ายนะ จากที่ผมสังเกตและได้พูดคุยกับมันจริงๆมาสองสัปดาห์ แต่ถ้าลองคิดเล่นๆว่ามันมาจีบผมจริงๆนี่แอบขนลุกนะ เพราะผมแมนๆเตะบอลไง หุ่นผู้หญิงน่ามองกว่าหุ่นผู้ชายเสมอล่ะน่า ผมนั่งขำกับความคิดของไอ้ออยก่อนจะพิมพ์ตอบมันกลับไป
×คิสสึ ×
- มั่วทั้งคู่อ่ะ พี่มันแค่อัธยาศัยดี 10:48
# ชายภีม
- พี่จีบเป็นผู้ชายว่ะ แล้วมึงดูผู้ชายอย่างกูดิ มีแฟนเป็นตัวอะไร -_- 10:48
♡ น้องอิงออย ♡
- ไอ้ภีมพูดถูกใจจจ มาให้น้องออยหอมแก้มที จุ๊บๆๆ 10:48
× คิสสึ ×
- เชี่ย... พี่ดีพเป็นคนนะเว้ย อย่าเรียกมันเป็นตัวดิ 10:48
# ชายภีม
- ออย.. กูกลัวมึงมาก 10:49
- มึงหลงประเด็นไหมไอ้คิส ฟาย ไม่คุยกับมึงละ 10:49
ผมขมวดคิ้วแล้ววางโทรศัพท์ไว้ที่เดิม ผมผิดตรงไหนวะก็ไอ้พี่ดีพมันเป็นคนนี่จะใช้คำว่าตัวกับมันได้ยังไง แล้วผมไม่คิดว่าผู้ชายอย่างพี่จีบจะแปลงร่างได้เหมือนไอ้ภีมกับพี่ดีพหรอก ผมหัวเราะแล้วไม่สนใจเรื่องพี่จีบอีก มือเรียวจับผ้าเช็ดตัวขยี้ผมตัวเองไปมา เสื้อยืดสีขาวที่ใส่อยู่เปียกเป็นจุดๆเพราะทิ้งให้น้ำบนผมหยดใส่ จากที่หนาวอยู่แล้วยิ่งหนาวเข้าไปอีก
หลังจากนั้นผมก็เดินไปหาอะไรกินและมานั่งทำงานค้างที่ต้องส่งวันจันทร์ไปเรื่อยจนถึงเวลาเที่ยงตรง มือเรียวควานหาโทรศัพท์ที่ตั้งไว้ข้างๆกันขึ้นมาเช็คแล้วเจอเข้ากับข้อความแจ้งเตือนไลน์อีกแล้ว.. แต่คราวนี้คนที่แอดเฟรนด์มาเมื่อเช้าเขาทักมาหาผม รูปโปรไฟล์เปลี่ยนเป็นรูปแก้วกาแฟเอสเพรสโซ่ขนาดหนึ่งชอต ชื่อไลน์จากตัวย่อที่ผมไม่เข้าใจเปลี่ยนมาเป็นชื่อ 'อัศวิน'
อัศวิน
-ไม่คิดจะรับแอดกูจริงๆเหรอวะ? 12:00
× คิสสึ ×
- โทษทีครับคุณอัศวิน เมื่อเช้าผมเบลอๆอ่ะ 12:01
อัศวิน
- รีบๆรับเลย อย่าเล่นตัว 12:01
× คิสสึ ×
- โอ้ย ไอ้พี่จีบแม่ง ใครเขาเล่นตัวกันเล่า! 12:01
เบะปากมองบนให้กับข้อความของพี่จีบเสร็จก็รีบเลื่อนนิ้วไปกดรับแอดเฟรนด์มันทันที คนบ้าอะไรแม้กระทั่งในไลน์ยังขยันกวนตีนกันขนาดนี้
× คิสสึ ×
- รับแล้วนะพี่ 12:01
- แล้วนี่ว่างเหรอ? 12:01
อัศวิน
- อือ ว่างอยู่ วันนี้มึงไม่มาที่ร้านเหรอวะ? 12:02
× คิสสึ ×
- ที่จริงกะว่าจะไปตอนบ่ายแต่ฝนยังตกอยู่เลยว่ะ 12:02
ผมตอบพี่จีบก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองฝนฟ้าอากาศผ่านทางกระจกบานใสตรงระเบียงห้อง สายฝนยังเทลงมาไม่ขาดสาย ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตกเลยด้วยซ้ำ อยากไปหาพี่จีบ เอ้ย อยากไปกินกาแฟใจจะขาด
อัศวิน
- ให้กูไปรับที่หอป่ะ? 12:03
× คิสสึ ×
- เห้ยยย จะมารับทำไม 12:03
ผมตอบกลับไปอย่างรวดเร็วทั้งๆที่ใจเต้นรัวเร็ว มือที่ใช้พิมพ์ข้อความก็ยังสั่นกึกๆอยู่ จะมารับผมที่หอมันหมายความว่ายังไงวะ ผมไม่ไปที่ร้านแค่วันเดียวมันเป็นปัญหาใหญ่ระดับชาติเลยหรือยังไง.. หรือสิ่งที่ไอ้ภีมพูดจะเป็นความจริง??
อัศวิน
- กูมีธุระกับมึงเนี่ย คุยผ่านไลน์ไม่สะดวกไง เจอหน้ากันคุยง่ายกว่า 12:04
ข้อความที่ตอบกลับกันมาไม่ได้ทำให้ใจผมสงบลงเลยแม่แต่น้อย มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกแปลกขึ้นในอกอย่างช่วยไม่ได้ เจอหน้ากันคุยง่ายกว่า.. คำนี้โคตรทำให้ผมคิดไปไกลเลยเถอะ ถ้าไอ้ภีมไม่พูดอะไรทำนองนั้นผมจะไม่คิดอะไรเลย แต่ดูเหมือนว่าผมจะตบตีกับความคิดตัวเองมากเกินไปจนอีกฝ่ายทนรอคำตอบไม่ได้เลยส่งข้อความมาอีกรอบ
อัศวิน
- ว่ายังไงมึง เดี๋ยวบ่ายโมงครึ่งกูต้องไปช่วยไอ้ไลค์ชงกาแฟต่อนะ 12:07
× คิสสึ ×
- คุยวันอื่นก็ได้มั้ง ลำบากพี่เปล่าๆ 12:07
อัศวิน
- กูจะคุยกับมึงวันนี้! 12:07
ยิ่งพี่มันย้ำคำผมยิ่งสติแตก ทำไมไม่เกริ่นธุระมึงมาก่อนวะพี่จีบ หัวข้อ ชื่อเรื่องอะไรทำนองเนี่ย นี่บอกแค่มีธุระๆ โอ้ย ทำให้กูคิดไม่ตกแล้วเนี่ย หัวใจเวรนี่จะเต้นทำไมวะ หอยโข่งจริงๆเลยไอ้คิส เอาไงเอากันวะ คนอย่างไอ้คิสสู้ไม่ถอยอยู่แล้ว
× คิสสึ ×
- โอเคๆ มารับได้เลย 12:08
และแล้วตอนนี้ผมก็ผ่าฝนจากใต้หอขึ้นมานั่งกอดตัวเองบนรถของไอ้พี่จีบเรียบร้อยแล้ว... เสื้อยืดสีขาวของผมเปียกชุ่มจนหาพื้นที่แห้งของมันไม่เจอ แอร์เย็นๆปะทะเข้าหาตัวจนอยากจะหนีลงจากรถเลยทีเดียว
"ลูกหมาตกน้ำหรือไงวะ?"
พี่จีบหันมามองผมแล้วหัวเราะเอิ้กอ้ากพร้อมกับส่งมือมาขยี้หัวผมเบาๆ แล้วเบ้ปากใส่กันเมื่อน้ำกระเซ็นเข้าหน้าหล่อๆของตัวเอง ผมก็ไม่เข้าใจว่าพี่จีบจะเอามือมาขยี้หัวผมทำซากอ้อยอะไร รถเปียกหมดแล้วพี่!
"ตากฝนมานี่หว่าพี่"
ผมสะบัดหัวออกจากมือไอ้พี่จีบ มันก็ไม่ได้ว่าอะไรแถมยังยิ้มออกมาอีก
"มึงรีบวิ่งมาเอง กูว่าจะเอาร่มลงไปรับมึง"
พี่จีบชี้ไปที่ร่มด้านหลังแล้วยักคิ้วให้กัน ผมเบิกตากว้างแล้วอ้าปากพะงาบๆ ก็เมื่อกี้พี่มันเปิดกระจกแล้วโบกมือให้ผมยิกๆ ไอ้เราก็กลัวว่าจะรอนานเลยรีบวิ่งผ่าฝนมาหา โอ้ย นี่ผมทำอะไรเปิ่นๆให้มันเห็นอีกแล้วสินะ
"ไม่บอกชาติหน้าเลยล่ะวะ"
ผมบ่นงุบงิบใส่มันแล้วมุ่ยหน้าใส่ไม่ยอมมองหน้าพี่จีบอีก ไอ้คนขี้แกล้งได้ทุกเวลาทุกสถานการณ์ก็หัวเราะเบาๆก่อนจะออกรถไป ตอนนี้ผมรู้สึกว่าแอร์รถมันหนาวขึ้นทุกขณะจนได้ยินเสียงฟันของตัวเองกระทบกันดังกึกๆ แขนทั้งสองข้างกระชับกอดตัวเองเอาไว้แน่น เชี่ยเอ้ย แอร์รถพี่จีบจะหนาวไปไหนวะเนี่ยเหลือบมองแล้วเหลือบมองอีกก็พบว่ามันเปิดแค่เบอร์หนึ่งเอง
"หนาวเหรอ?"
เสียงทุ้มถามขึ้นขณะที่จอดรถติดไฟแดง ผมพยักหน้าหงึกๆให้ ไม่วายคืนนี้ต้องเป็นไข้แน่ๆ
"รอแป็ป"
พี่จีบบอกผมก่อนจะเอี้ยวตัวไปหยิบเสื้อกันหนาวที่เบาะด้านหลังแล้วเหวี่ยงมาคลุมลงบนตัวผม แต่ตอนนี้ตัวผมเปียกโชกขนาดนี้เดี๋ยวก็ทำเสื้อกันหนาวมันเปียกไปด้วยหรอก คิดได้แบบนั้นก็เลยดันเสื้อกันหนาวออก แต่พี่จีบส่งสายตาดุมาให้
"เอาออกทำไมวะ เดี๋ยวก็หนาวตาย"
"ก็ตัวเปียกอ่ะ เสื้อกันหนาวพี่จะเปียกไปด้วยนะ"
ผมมองเขากลับไป สายตาดุเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นผ่อนคลายลงทันทีแล้วมือหนาก็เอื้อมมาดึงเสื้อกันหนาวคลุมตัวให้ผมแบบเดิม
"ไม่ต้องคิดมาก เสื้อของไอ้ซารังนู่น"
พี่จีบว่าก่อนจะหัวเราะออกมา... ด่ามันได้ไหม ถีบมันตกรถได้หรือเปล่า ไอ้พี่จีบแม่งโคตรกวนตีนเลยไงครับ เสื้อไอ้น้องหมอเหรอ มันจะมาฆ่าผมไหมวะเนี่ย ผมแยกเขี้ยวใส่พี่จีบแม่งเลย ถ้ากระโดดกัดคอได้ผมทำไปแล้วเนี่ย
"พี่จีบแม่ง..."
"พี่รู้ว่าพี่หล่อ ไม่ต้องชมนะ"
พี่จีบหันมายักคิ้วแล้วยิ้มมุมปากให้กันก่อนจะออกรถไป ผมเบะปากจนเป็นเส้นโค้งกับความหลงตัวเองของมัน แต่จะไม่เถียงหรอกนะเพราะที่เขาพูดมาทั้งหมดมันก็เห็นชัดเจนบนใบหน้าหล่อๆนั่นอยู่แล้ว แต่ผมรู้สึกใจสั่นๆกับการที่พี่จีบพูดเพราะว่ะ อยากให้มันเปลี่ยนมาพูดเพราะๆกับผมบ้าง ต้องทำยังไงนะ
ตอนนี้บีเอ็มลูกรักของพี่จีบจอดนิ่งสนิทอยู่หน้าร้าน IT 's LOVE และในมือของพี่จีบก็ถือร่มคันใหญ่ไว้พร้อมแล้ว ส่วนผมแค่เดินไปไม่ถึงสิบก้าวก็ถึงกันสาดหน้าร้าน แต่พี่จีบดึงแขนผมไว้ตอนจะเปิดประตูรถ แล้วบอกให้ผมนั่งเฉยๆรอพี่เขาเดินอ้อมลงไปรับ จะให้เถียงก็ไม่ไหวเพราะตอนนี้รู้สึกเริ่มมีอาการปวดหัวขึ้นมาแล้ว
เขาเปิดประตูแล้วดันร่มขึ้นสูงแล้วกางมันออกก่อนจะเบียดตัวออกไปและปิดประตูลง ร่างสูงใหญ่เดินมาหยุดที่ข้างประตูรถฝั่งผมก่อนจะเปิดมันออก ผมรีบลงจากรถเบียดตัวเข้าไปอยู่ใต้ร่มคันเดียวกับพี่จีบ แขนแกร่งเกี่ยวคอผมเอาไว้ให้ขยับเข้าใกล้ตัวเองมากขึ้น... ผมอยากขยับออกห่างเพราะตัวเองเปียกแต่ก็ต้องทำใจเมื่อพี่จีบลากผมเดินต่อซะแล้ว ไอ้คนที่มาอาศัยกันสาดร้านพี่จีบหลบฝนก็มองพวกผมด้วยสายตาต่างกันออกไป บางคนมองมาแล้วยิ้มๆ บางคนมองมาก็เบะปากใส่ คือคิดอะไรกันอยู่ครับ ผมกับพี่จีบแค่หลบฝนใต้ร่มคันเดียวกันไหมล่ะ ก็ร่มมันมีคันเดียวเนี่ย!!
ประตูหน้าร้านเปิดออกพร้อมกับร่างของชายหนุ่มหน้าละอ่อน ดวงตาใต้แว่นกรอบดำนั้นเบิกขึ้นเล็กน้อยก่อนเข้าจะวิ่งหายไปทางหลังร้านแล้วกลับมาด้วยผ้าขนหนูผืนใหญ่
"นี่ครับพี่"
พี่จีบปล่อยแขนออกจากมือผมก่อนจะหุบร่มแล้วส่งให้หนุ่มน้อยตรงหน้า เขารับผ้าขนหนูผืนนั้นมาแล้วคลุมลงบนหัวผม
"มึงพาคิสไปข้างบนนะ เดี๋ยวกูตามไป"
พี่จีบหันไปสั่งเด็กคนนั้นที่ผมคาดว่าน่าจะเป็น 'ซารัง' น้องชายคนเล็กของครอบครัว น้องพยักหน้ารับก่อนจะเดินนำผมไปที่บันไดหลังร้านขึ้นสู่บริเวณชั้นสอง ห้องที่น้องพาผมมาเป็นห้องนอนขนาดกลาง ตกแต่งโทนสีอบอุ่นแบบเดียวกับตัวร้านกาแฟไม่มีผิด ภายในห้องมีคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะราคาแพง โซฟาตัวเล็ก เตียงนอนขนาดห้าฟุต และมีตู้เสื้อผ้าขนาดกะทัดรัดวางอยู่มุมห้อง มีห้องน้ำในตัวด้วยนะ ดูรวมๆแล้วหรูกว่าหอผมอีก
"เดี๋ยวผมหาเสื้อผ้าให้เปลี่ยนนะ พี่ไปยืนรอในห้องน้ำได้เลย"
ผมหันไปพยักหน้าให้กับซารังแล้วเดินไปยืนรอในห้องน้ำ ตอนนี้รอยเท้าผมเป็นทางยาวเลยเถอะ น่าเกลียดฉิบหาย ดีนะที่รถพี่จีบเป็นเบาะหนังไม่อย่างนั้นตอนขามาคงได้ไปนั่งบนกระโปรงรถเป็นผีเกาะรถอยู่นั่นล่ะ
"ไอ้ซารัง"
เสียงคุ้นหูดังขึ้นเรียกชื่อน้องชายตัวเอง ผมเกาะขอบประตูห้องน้ำแล้วเอี้ยวตัวออกไปดูก็พบพี่จีบยืนหน้ายุ่งอยู่ ซารังหันกลับไปหาพี่ชายตัวเองพร้อมด้วยในมือถือชุดลำลองไว้ก่อนจะเลิกคิ้วมองพี่ชายตัวเอง
"ว่า?"
"มึงลงไปรับลูกค้าเลยไป"
ว่าจบก็แย่งเสื้อผ้ามาจากซารังแล้วโบกมือไล่น้องซะอย่างนั้น ซารังเบ้ปากเล็กน้อยก่อนจะหันมาส่งยิ้มหวานให้ผมแล้วเดินออกไปจากห้องโดยไม่พูดอะไร พี่จีบเดินตรงมาหาผมก่อนจะยื่นชุดในมือทั้งหมดมาให้กัน
"อาบน้ำไปเลยนะมึง สระผมด้วย"
ผมมุ่ยหน้าเพราะเมื่อเช้าก็สระผมไปแล้ว.. จะบ้าตาย คนยิ่งขี้เกียจๆสระอยู่
"เมื่อเช้าสระแล้ว"
ผมงึมงำอยู่ในลำคอขืนพูดดังไปโดนไอ้พี่จีบด่าอีกแน่ๆ แต่ก็ไม่พ้นหรอกครับหูมันโคตรจะดีเลย
"แล้วไงวะ ตากฝนมามึงจะไม่สระอีกรอบหรือไง?"
ผมช้อนตามองมันก่อนจะหลุบตาลง เถียงไม่ได้ว่ะก็แค่บ่นเอง ทำไมวันนี้มันต้องดุผมแล้วดุผมอีกวะเนี่ย
"เปล่า แค่บ่นอ่ะ"
"เออๆ จะเอากางเกงในป่ะ มีให้ยืม"
พี่จีบเท้าแขนลงกับขอบประตูห้องน้ำแล้วยกยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้กัน ตอนนี้เหมือนตัวเอกตกอยู่ในฉากละครไทยเลยว่ะ ตอนนางเอกจะเสียตัวให้พระเอก โอ้ย นี่กูฟุ้งซ่านอะไรวะเนี่ย เพราะไอ้ภีมคนเดียวเลย เชี่ย
"ยืมบ้านพี่ดิ!!"
ผมตะโกนใส่มันแล้วถอยหลังพรืดเข้าห้องน้ำ พี่จีบหัวเราะเอิ้กอ้ากจนต้องเอามือกุมท้อง ตลกมากไหม ตลกแดกเลยสินะ ฮ่วย!
"มีตัวใหม่ยังไม่ได้ใช้ มึงคิดว่ากูจะให้ยืมตัวที่กูใส่แล้วหรือไง"
"ปะ เปล่าเว้ย แต่พี่ตัวใหญ่กว่า ผมจะใส่ได้ไงวะ"
รู้ว่าตัวเองต้องหน้าแดงเถือกเพราะความอายแน่ๆเลยยกชุดลำลองขึ้นมาปิดหน้า เสียงที่พูดออกไปก็โคตรอื้ออึงฟังไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่
"ของไอ้ซารังไง"
ผมถลึงตาใส่คนที่ยืนยิ้มร่า อีกแล้ว ของซารังอีกแล้ว มึงไม่คิดว่ามันมากเกินไปหรือยังไง อะไรๆก็ของน้องทั้งนั้น ไม่มีขอก่อนด้วยเถอะ เกิดซารังมันโมโหแล้วเอาแก้วกาแฟปาหัวผมจะทำยังไง
"พี่ไม่คิดจะขอน้องก่อนหรือไง?"
"ทำไมต้องขอวะ มันไม่กล้าขัดใจกูอยู่แล้ว"
พี่จีบพูดก่อนจะยักคิ้วกวนให้กัน เอ้อ ไอ้พ่อคนมีอิทธิพล ไอ้พ่อคนสำคัญของบ้าน อย่าให้รู้นะว่ามึงหงอกับเมีย พ่อจะหัวเราะให้ฟันหัก!
"งั้นเอามาเลย ไม่มีใส่กลัวโล่งๆเหมือนกัน"
ผมแบมือไปตรงหน้าไอ้พี่จีบ ฝ่ายนั้นมองมาแล้วยิ้มให้ก่อนจะแปะมือลงมาแล้วตีเบาๆ มันจะชอบสกินชิพมากเกินไปมั้ง ผมหลบมือออกก่อนจะทำหน้ายุ่ง พี่จีบหัวเราะออกมาน้อยๆก่อนจะเดินไปรื้อตู้เสื้อผ้าอีกครั้ง คือผมสงสัยว่าสามคนนี้ใช้ห้องนอนห้องเดียวกันเหรอวะ
"เอาไป"
พี่จีบเดินกลับมาพร้อมยื่นกางเกงในใหม่เอี่ยมมาให้ผม ไม่อยากจะบอกว่ามันเป็นของ Clavin Klein ว่ะ ผมส่ายหน้ารัวเลยเถอะ ไม่มีปัญญาซื้อคืนครับบอกตามตรง
"อะไรของมึงอีก"
พี่จีบชักสีหน้ายุ่งก่อนจะยัดกางเกงในราคาแพงใส่มือผม
"พี่จีบแม่ง... มันแพง ผมไม่มีปัญญาซื้อคืนซารังนะ"
ผมยัดมันคืนใส่มือพี่จีบ ถ้าจะให้ใส่ Clavin Klien ผมยอมเย็นวาบดีกว่าว่ะ ไม่ใช่ไม่อยากใส่ เพราะไม่มีเงินซื้อคืนและกลัวว่าจะคันแพ้ของแพง
"คิดไรมากวะ เดี๋ยวกูซื้อคืนไอ้ซารังเอง เอาไปแล้วไปอาบน้ำ ไข้จะแดกหัวมึงละ"
พี่จีบวางกางเกงในแหมะไว้บนไหล่ผม.. ไม่วางบนหัวเลยล่ะมึงถ้าจะขนาดนี้ แต่แม่งกางเกงในตัวละพันกว่าบาทเลยนะ จะออกเงินให้ผมจริงอ่ะ ไม่ป๋าไปหน่อยเหรอ หรือว่ามันจะจีบผมจริง บ้าน่า ผมส่ายหัวน้อยๆไล่ความคิดพิเรนทร์ของตัวเองออกไป เลยโดนไอ้พี่จีบทักขึ้นมาอีก
"ยืนคิดอะไรอยู่ รีบๆอาบดิวะ เดี๋ยวกูอาบต่อ"
มันขมวดคิ้วยุ่งใส่กัน ผมรู้สึกว่าตั้งแต่มันกลับเข้าร้านแล้วมันดูจะขี้หงุดหงิดแปลกๆ
"โอเคๆ"
ผมไม่อยากทำให้เขาหงุดหงิดมากกว่าเดิมเลยตัดสินใจปิดประตูห้องน้ำแล้วจัดการตัวเองให้เรียบร้อย ไม่อยากจะบอกว่าเสื้อที่ซารังหามาให้นั้นเหมือนชุดเดรสผู้หญิงเลยวะ เชื่ย จะตัวใหญ่ไปไหน ใส่แล้วเกือบคลุมเข่าเลยเถอะ แถมไอ้กางเกงบ็อกเซอร์นี่มันก็หดเข้าไปอยู่ใต้เสื้อเชิ้ตเรียบร้อยแล้วด้วย กูล่ะเห็นตีวเองเป็นนายเอกการ์ตูนวายของญี่ปุ่นเลยไง
ผมเปิดประตูออกไปด้วยท่าทีเก้ๆกังๆเพราะยังอายสภาพตัวเองอยู่ เหลือบมองไอ้พี่จีบที่นั่งอยู่ปลายเตียงก็เจอมันมองมาพอดิบพอดี ตาคมเหมือนจะเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยก่อนจะส่งยิ้มให้กันแล้วเดินเข้ามาหา
"พี่จีบ.. ทำไมเสื้อตัวใหญ่แบบนี้วะ"
ผมถามพร้อมกับกระพือเสื้อที่ใส่อยู่ไปมา ไหล่เสื้อแม่งตกไปไหนต่อไหนแล้วเนี่ย ถ้าไม่ติดกระดุมคอเสื้อมีหวังพี่จีบได้คิดว่าผมอ่อยแน่ๆ
"เสื้อไอ้ไลค์ตอนมันอ้วน มึงใส่แล้วเหมือนสาวๆในหนังเอวีเลยว่ะ"
พี่จีบยิ้มกรุ้มกริ่มจนผมเสียวสันหลังวาบ ลมหายใจอุ่นๆเป่ารดลงบนเส้นผมเปียกชื้นของผม ข้อความของไอ้ภีมฉายชัดในสมองของผมอีกครั้งจนหน้าเริ่มร้อนวูบวาบ แต่ว่าหนังเอวีเหรอ..ไอ้เชี่ยพี่จีบหื่น!
"หนังเอวีบ้าอะไรวะ ถอยไปเลย ลามกฉิบ"
ผมผลักอกมันแล้วเดินลิ่วๆไปทิ้งตัวลงบนเตียงไม่สนใจว่าอีกคนจะยิ้มหรือหัวเราะอะไรทั้งสิ้น หัวใจเต้นแรงจนแทบกระเด็นออกมาจากอก โคตรจะเกลียดความขี้แกล้งของมันเลยเถอะ ไอ้ที่เข้ามาพูดแล้วหัวเราะทีหลังเนี่ย แกล้งกันชัดๆ
ผมรู้สึกตัวอีกครั้งก็ตอนพี่จีบเข้ามาปลุก ไม่ได้รู้เลยว่าตัวเองเผลอหลับลงบนที่นอนนุ่มๆตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมปรือตามองคนที่ทิ้งตัวลงนั่งข้างๆกัน ฝ่ามืออุ่นทาบทับลงบนหน้าผาก
"คิส มึงไม่สบาย"
ผมหลับตาลงแล้วพยักหน้าเบาๆก่อนจะลืมตาขึ้นช้าๆ ไม่ค่อยถูกกับฝน ทุกทีที่โดนฝนเข้าไปไม่เคยหลีกหนีอาการป่วยได้สักที พี่จีบเลื่อนฝ่ามืออุ่นลงมาแนบที่แก้มและซอกคอของผมก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วหายออกไปจากห้อง ผมขยับตัวนั่งพิงหัวเตียงด้วยร่างกายที่อ่อนล้า อาการปวดหัวเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าแอร์ในห้องนี้หนาวเกินไปหรืออุณหภูมิร่างกายต่ำเกิน ผมดึงผ้าห่มที่ร่นกองอยู่ปลายเท้าขึ้นมาคลุมตัวไว้พร้อมกับเสียงเปิดประตูห้องดังขึ้น พี่จีบกลับมาพร้อมกระปุกยาพาราเซตามอล น้ำเปล่าและแผ่นเจลลดไข้ เขาเดินลงมาทิ้งตัวลงนั่งตำแหน่งเดิมก่อนจะเทยาลงใส่มือแล้วส่งให้ผม
"กินซะ"
เขาบอกแล้วเทยาลงบนฝ่ามือของผมที่หงายอยู่บนตัก แก้วน้ำถูกส่งมาให้ตรงหน้า ผมส่ายหัวเบาๆเพราะไม่ชอบกินยา
"ไม่เอา"
เสียงแหบร้องบอกพร้อมกับปากที่เบะลงเป็นเส้นโค้ง พี่จีบส่งสายตาดุๆมาให้ก่อนจะหยิบยาจากมือผมไป เขาวางแก้วน้ำในมือลงก่อนจะบีบคางผมแล้วส่งยาใส่ปากกัน
"อื้อออ"
ผมครางพร้อมกับสะบัดหน้าออกจากมือแกร่ง ทำท่าจะคายยาทิ้งแต่โดนพี่จีบดุขึ้นก่อน ฮึก
"แดกๆเข้าไป ถ้าคายออกมากูถีบตกเตียง"
"ฮึก"
ผมรีบคว้าแก้วน้ำมาดื่มรวดเดียวจนหมด ปลายลิ้นขมปร่า อยากจะหาลูกอมกินใจจะขาด แล้วก็ได้ตามที่คิดไว้ มือหนาส่งลูกอมรสน้ำผึ้งมะนาวมาให้กัน จากที่ตอนแรกจะโกรธคนขี้บังคับตอนนี้ก็เลยทำได้แค่รับลูกอมมาแกะใส่ปาก
"นอนพักซะ ตื่นเมื่อไหร่ค่อยมาคุยธุระกัน"
ผมพยักหน้าแล้วรับสัมผัสอ่อนโยนของพี่จีบที่ส่งมือมาลูบหัวกันเบาๆ ความรู้สึกดีที่มีคนคอยดูแลอยู่ข้างๆมันดีแบบนี้นี่เอง ปกติแล้วเวลาผมป่วยที่บ้านไม่มาดูแลหรอก เขาจะบอกแค่ให้ผมหายากินแล้วนอนพักเท่านั้น ก็ผมเป็นผู้ชายนี่เนอะ
"คุยก่อนก็ได้"
เสียงแหบๆพูดออกไป พี่จีบมองผมด้วยสายตาอ่อนโยนแล้วส่ายหน้าเบาๆก่อนจะดันให้ผมลงนอนราบกับเตียงก่อนจะดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดจนถึงหน้าอกให้กัน
"นอนพักไปเหอะ กูรอได้ ถ้ามีอะไรโทรเรียกนะ กูไปช่วยไอ้ไลค์ละ"
ก่อนไปพี่จีบจัดแจงติดแผ่นเจลลดไข้ให้ผมแล้วก็เดินออกไปจากห้อง หลังจากนั้นดวงตาก็ทนฝืนพิษไข้ไม่ไหวก่อนจะปิดลงสู่ห้วงนิทรา
--------------------------------------------------
Q & A กับ น้องซารัง
Q : ตกใจไหมตอนที่พี่จีบสั่งให้เราพาคิสขึ้นไปชั้นสอง?
A : นิดหน่อยครับ เพราะปกติไอ้พี่จีบไม่เคยให้ใครขึ้นไปชั้นสองหรอก แม้กระทั่งเพื่อนสนิทตัวเอง เพราะไม่ชอบให้ใครเข้าไปในพี่ที่ส่วนตัว
Q : แล้วแบบนี้น้องซารังไม่คิดว่าพี่จีบแปลกๆเหรอ?
A : แปลกมากครับ... สงสัยว่าพี่ชายผมจะแปลงร่างแล้วหรือเปล่าน้า แต่พี่คิสเขาน่ารักดีนะครับ /ยิ้มเจ้าเล่ห์
ตอนที่ 4 มาแล้วน้า ใครรออยู่บ้างเอ่ย ~ ดูเจ้าน้องคิสสิป่วยจนได้ แถมพี่จีบยังมาดูแลอีก น่าอิจฉาเนอะ
พี่จีบนี่เจ้าเล่ห์จริงๆ ไปขอเบอร์โทรศัพท์น้องจากภีมหน้าตาเฉย แถมยังแอดไลน์อีก นี่เขาเนียนหรือยังไงกันแน่หว่า
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์ติชมกันน้า ไม่คิดว่าจะมีคนอ่านขนาดนี้ มีกำลังใจแต่งต่อเยอะเลย
ปล. อ่านให้สนุกน้า ตอนต่อไปจะรู้ว่าพี่จีบมีธุระอะไรกับน้องคิส ดูสิว่ามันสำคัญถึงขนาดต้องไปรับกันถึงหอไหม
ปล.2 พี่จีบชื่อจริงชื่ออัศวินนะ ส่วนพี่ไลค์ชื่อแม่ทัพ น้องซารังชื่อองครักษ์