ธรรพ์ณธร สุดท้ายผมกับตั้นก็คุยกันได้ไม่นานจริงๆ และตั้นก็พาเมย์กลับไปในทันทีเช่นกัน เขาโมโหผมแค่เพราะว่าผมไม่ตอบคำถามเขา ว่าแม่เขาทำอะไรผิด ผมได้แต่ยืน
“ฟู่” พ่นลมหายใจออกมาจากปลายจมูกโด่งรั้นของผม ตอนนี้ผมกับอิศเรศพากันขึ้นมาที่ห้องพัก ผมเปลี่ยนเป็นสวมเสื้อคลุมอาบน้ำ ในห้องพักที่อิศเรศเลือกมีอ่างสปาน้ำวน ผมเปิดผ้าม่านเพื่อชมวิวรอบกรุงเทพ โรงแรมนี้จัดได้ตั้งอยู่ในย่านธุรกืจ ทำเลดี วิวก็ดีมองเห็นกรุงเทพโดยรอบและเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องราตรี แต่คงจะต้องกระเป๋าหนักหน่อยถ้าจะพักที่นี้ และที่ดินตรงนี้ก็แพงมากแน่นอนที่คนโลภมากอย่างนายดิเรก อยากจะยกให้ลูกสาวเพื่อมาเป็นดองกับตระกูลนี้ แต่ผมเองก็ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะใจกล้ารับหมั้นผู้หญิงคนนั้นเพียงเพราะว่า เพื่อบ้านของเมย์ในราคาแค่สามสิบล้านบาท มันน่าจะมีมากกว่านั้นไหม แต่มันก็คงไม่สำคัญแล้วเพราะว่าเขาก็ถอนหมั้นเธอไปแล้ว และนี้ต้องมาคอยระวังนางจะกลับมาตั้นด้วยวิธีสกปรกอีก แต่ผมเชื่อว่าเขาเชื่อเมย์ และผมก็เห็นว่าเด็กคนนั้นน่าจะเอาตั้นอยู่
“คุณธรรพ์ณธร!” เสียงที่เรียกชื่อผมดังมาจากด้านหลัง น้ำเสียงที่บ่งบอกได้ว่าเขากำลังไม่พอใจผม ถึงได้เรียกชื่อซะเต็มยศขนาดนี้ เพราะปกติจะเรียกคุณท่าน หรือถ้าอยู่กันตามลำพังก็จะเป็นสามี ผมค่อยๆ หันไปมอง คนที่ยืนเพ้งเล็งมองมาที่นิ้วมือที่คีบแก้วบรั่นดีเอาไว้ด้วย
“ผมบอกคุณเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วน่ะ ว่าอย่าดื่มบรันดีหรือวิสกี้ ไวน์ได้นิดหน่อยน่ะครับ คุณนี้ดื้อมากกว่าคุณตั้นซะอีก “คนที่ยืนสวมเสื้อคลุมอยู่เดินตรงมาหาผมพร้อมกับคว้าแก้วไปจากมือผมแต่ผมยื้อเอาไว้
“แค่แก้วเดียว” ผมพูด สายตาผมมองคนที่ตรงหน้า ก่อนจะไปชำเลืองตามองน้ำในอ่างน้ำวน
“อันที่จริง ที่ไร่เราก็มีน่ะ ทำไมคุณภรรยาไม่ชวนลงไปแช่ที่นั่น แต่ดันมาชวนแช่ที่โรงแรมหรูแบบนี้ล่ะ” ผมถามคนตรงหน้าที่ยืนหน้าแดงก่ำ
“แถมวิวทิวทัศน์มองไปก็มีแต่ตึกสูงๆ มองไปก็มีแสงไฟนีออนส่องไปทั่วกรุง หึ” ผมพูดก่อนจะหันไปมองคนที่ยืนอยู่
“แม้ก็อ่างน้ำวนที่ไร่คุณสามี เล่นเอาไปตั้งไว้ที่ตรงกลางแจ้งขนาดนั้น ผมจะกล้าได้อย่างไรละครับ ถึงคุณสามีผมจะบอกว่าไม่มีใครกล้ามองแต่ต้นไม้ก็มี อายนะครับ ภูเขาก็ล้อมรอบอีก” ผมยอมรับว่าผมเอาไปตั้งไว้ที่ระเบียงเหมือนที่บ้านพักของลลิลภัทร์ และมันก็เห็นวิว 360องศา มองไปเห็นวิวภูเขา เห็นไร่ชา แต่ว่าคนนี้กลับไม่กล้าออกไปแช่กับผมสักครั้ง
“ถ้าอย่างนั้นกลับไปจะให้คนยกเข้าไปตั้งด้านในแล้วกัน คราวนี้ห้ามมีข้ออ้างน่ะ “ผมพูดก่อนจะกระดกบรั่นดีไปจนหมดแก้ว พร้อมกับส่งแก้วเปล่าให้คนที่ยืนตรงหน้าถือเอาไว้ ก่อนจะหันหลังและกระตุกเชือกที่คาดเอวเอาไว้ให้หลุด เสื้อคลุมก็หลุดร่วงลงไปกองกับพื้น พร้อมกับก้าวเท้าลงไปในอ่างน้ำวนนั้น ผมชำเลืองตามองคนที่ยืนมองผมผ่านกระจกตรงหน้า เขายืนมองผมจากด้านหลัง
“ลงมาซิครับคุณภรรยา เห็นบอกว่าโรงแรมเขาดี ดีเพราะว่าอ่างนี้หรือเปล่า “ผมหันกลับไปพร้อมกับรอยยิ้มและ ผมก็แบมือเรียกคนที่ยืนทำหน้าแดงอยู่ ตอนนี้ผมยืนโดยไม่มีเสื้อผ้าอาภรณ์ใดๆ ปกปิด แกนกายที่กำยำ ซีกแพคที่ได้มาจากการเล่นฟิตเน็ตมันทำให้คนที่ยืนอยู่ มองตาคางไปหลายวิ จนผมต้อง “หมับ” คว้าร่างนั้นเข้ามาใกล้
“คุณท่าน! “คนที่ยืนร้องเรียกผมเสียงหลง
“จะให้อุ้มหรือว่าจะเดินลงมาเองดีล่ะ เลือกเอาน่ะว่าต้องการแบบไหน” คนที่ถูกถามถึงบหน้าแดงทันที ก่อนจะค่อยๆ ดึงเชือกที่คาดเอวไว้ออก ฝ่ามือหนาของผมก็จับเสื้อคลุมนั้น ถอดออกไปทางหัวไหล่ และปล่อยให้ร่วงลงไปกองกับพื้น เผยให้เห็นถึงผิวพรรณที่ดูเรียบเนียนจนน่าลูบไล้ ไม่น่าเชื่อเลยว่าเด็กหนุ่มที่เข้ามาแอบอยู่ในไร่ของผมวันนั้น ที่ดูมอมแมม มีแผลเต็มตัว จากการถูกทำร้ายและการหลบหนีมาและผมก็รับเขาเข้ามาดูแล ภาพเขาในวันนี้เขาเป็นชายหนุ่มที่ดูมีเสน่ห์ ไม่ใช่แค่ผมเท่านั้น ก็กับตั้นลูกชายผมเองเขาก็คงรู้สึกเช่นเดียวกันกับผม แต่เขาคนนี้เลือกผม ไม่ใช่เพราะว่าผมมีบุญคุณแต่เขาเลือกเพราะว่าเขารักผมมากกว่าแต่ถ้าเขาจะเลือกตั้น ผมก็ยินดีนะ แต่อิศเรศบอกผมว่าเขาเลือกผมจากหัวใจของเขา
“ว่าไงครับ “ผมถามคนตรงหน้าอีกครั้ง เขาก็ก้าวเท้าลงมาช้าๆ ผมก็ค่อยย่อตัวลงนั่งในอ่างน้ำวนนั้น อ่างที่ไม่ใหญ่และไม่เล็กจนเกินไป ผมกางมือให้เขาจับเพื่อย่อตัวลงนั่งเช่นกัน
“หมับ” สองมือประสานกันและคนที่ก้าวเท้าลงมาทีหลังก็ย่อตัวลงนั่งคร่อมร่างผมเอาไว้ ในท่านั่งย่องๆ มันทำให้ผมต้องกระหยิ่มยิ้มย่อง ผมก็จับมือเอาสองมือนั้นขึ้นมาครองรอบคอ
“ที่อย่างนี้ทำเป็นเขินอาย ที่ชวนนอนโรงแรมไม่เห็นเขินเลยน่ะ” ผมพูดแซวคนตรงหน้า เขาก็โผเข้ามากอด ริมฝีปากบางๆ นั้นขยับรอการจุมพิตจากผม ริมฝีหนาๆ ของผมประกบจูบหยอกเย้าเล่น ฝ่ามือเรียวดุจดังมือหญิงสาวลูบไล้ไปมาแผ่นอกชายชาตรี มือผมลูบไล้แผ่นหลังที่เรียบเนียน ไม่แพ้สตรีใด ต่อให้ผมไม่เคยสัมผัสก็ตาม มีแค่ผู้หญิงคนนั้นคนเดียวแต่มันไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกอะไรเลย ทำแค่เพราะว่าผมต้องการแก้แค้นแค่นั้น
“แค่อาบน้ำน่ะ ไม่อยากทำในนี้ “ผมกระซิบบางคนที่นั่งคร่อมร่างผมเอาไว้ เขาก็ยิ้มพร้อมกับเทสบู่เหลวมาถูกไปตามแผ่นอกผม อย่างเบามือ ดูจากการลูบไล้นี่มันยั่วยวนหนุ่มที่สูงวัยอย่างผมมิใช่น้อย มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกฮึกเหิมเหมือนได้กลับมาเป็นหนุ่มอีกครั้ง
“เวลาอยู่กับตั้น ทำแบบนี้ไหม” จู่ๆ ผมก็ถามอิศเรศขึ้นมา น้ำเสียงแอบหึง
“ผมบอกคุณสามีแล้วไงล่ะครับ ผมยอมให้แค่ภายนอก ไม่เหมือนคุณที่ผมยอมให้ทั้งกายและใจ แค่นี้ยังไม่เพียงพออีกเหรอครับ “คนที่นั่งลูบไล้ผมไปมา ช้อนตาขึ้นมามองผมก่อนจะหลุบตาลงและทำการควักน้ำมาราดรดกายผม
“หันหลังซิครับ ผมจะได้ถูหลังให้ “คนที่นั่งอยู่สั่งผม ผมก็ต้องเปลี่ยนท่านั่งเป็นนั่งหันหลังให้แทนและหันไปมองลอดช่องผ้าม่าน มองวิวกรุงเทพ เมืองหลวงศรีวิลัย ที่มีแต่แสงสีเสียง ตั้นเลยไม่อยากกลับไปที่ไร่ ไปอยู่ที่นั่น
“คิดอะไรอยู่ครับ ” คนที่ถูหลังให้ผมอยู่กระซิบกับผมเบาๆ
“คิดว่าทำไมตั้นถึงไม่ยอมกลับไปอยู่ที่ไร่กับฉัน”
“หนึ่งก็คือเพื่อน สองก็คง”
“ฉันอย่างนั้นหรือ อิศเรศ”
“ครับ คุณตั้นเขาเฝ้าถามผมเสมอว่า แม่เขาผิดอะไร ทำไมคุณไม่บอกเขาไปล่ะครับ ความจริงน่ะครับ”
“มันจะทำให้เขาเจ็บปวดเปล่าๆ ถ้าเขารู้ ปล่อยเอาไว้แบบนี้แหละเรศ “ผมหันมาตอบอิศเรศ ก่อนจะหมุนตัวมาพร้อมกับดึงร่างบางๆ มากอดกระชับและจูบอย่างเร่าร้อน
“ไปต่อกันที่เตียงน่ะ “ผมพูดคนที่กำลังล้างตัวอยู่พร้อมกับปรายตามองผมก่อนจะค่อยๆๆๆลุกขึ้นไปคว้าผ้าเช็ดตัวมาซับน้ำที่ตัวเองก่อนจะก้าวเท้าออกไป ผมก็ลุกขึ้นตามและก้าวเท้าออกไปเช่นกัน ผมยืนให้อิศเรศ เช็ดตัวให้ผม
“คราวนี้สะอาดหมดแล้ว คงรู้ใช่ไหมว่าต้องทำยังไงต่อ” ผมถามคนที่กำลังเช็ดตัวผมให้แห้ง เขาก็เงยหน้าขั้นมองผม รอยยิ้มที่ปรากฎนั้นคือคำตอบว่าเขารู้ดี ผมเดินไปนั่งที่บนเตียงนอนค่อยๆ ถอยหลังไปให้พอมีที่สำหรับอีกคนที่จะตามมาคุกเข่าลงเพื่อจัดการปลุกเร้าความเป็นชายให้กลับมาซู่ซ่าอีกครั้ง ริมฝีปากเล็กที่ชำนาญการนั้น ผมยอมรับว่าผมมีอะไรกับเขาเมื่อเขาอายุ สิบแปดปีบริบูรณ์ ผมได้เอ่ยปากขอเขาเอาไว้ ว่าผมต้องการหลับนอนกับเขา เพราะว่าผมไม่ได้ชอบผู้หญิงมาตั้งนานแล้วและนี่จึงทำให้พ่อผมกับผมไม่เคยลงรอยกัน คุยกันก็ทะเลาะกันเหมือนเช่นผมกับตั้นไม่มีผิดเพี้ยน แต่เหตุผลของผมนั้นพ่อไม่ยอมรับที่ผมเป็นเกย์ แต่เกย์คนนี้ก็ทำให้ผู้หญิงที่พ่อผมรักเป็นหนักหนาท้องมาแล้ว
“อยากเล่นคาวบอยไหม “ผมเอามือลูบหัวคนที่ใช้ลิ้นปลุกเร้าความเป็นชายผมอยู่ มันกำลังชูชันจนรู้สึกได้ว่าพร้อมรบแล้ว เขาเงยหน้าขึ้นมองผม ก่อนจะส่งยิ้มอ่อนๆ มาให้ผม และผมก็ค่อยเอนกายลงนอนราบลง คนที่นั่งคุกเข่าอยู่ก็ดันตัวเอง มานั่งย่องๆ คร่อมผมอยู่ มือที่ประสานกันระหว่างผมกับคนที่อยู่ด้านบน ผมแบมือไปรับเจลหล่อลื่นมาเทใส่นิ้วและทำการ สวนเข้าไปที่ช่องทางรักก่อน เพื่อสร้างความคุ้นเคย จนคนที่นั่งยองๆอยู่ แสดงอาการว่าต้องการมากกว่านั้น ผมจึงจับสะโพกให้ตรงยังแท่งร้อนของผมและคนที่นั่งยองๆ ก็ค่อยๆ ก้นสะโพกลงมาช้าๆ ใบหน้าหยเกนั้นบ่งบอกได้ว่ามันคับแน่นไม่แพ้ในทั้งแรก และค่อยลงทิ้งตัวลงมาช้าๆ เนิบๆ เล่นเอาคนสูงวัยอย่างผมหายใจไม่ทั่วท้องกันเลยทีเดียว มันหย่อนลงมาอย่างต่อเนื่องจนสุด และหยุดสักพัก ไม่นานเมื่อความรู้สึกที่อึดอัดเริ่มเปลี่ยนมาเป็นความรู้สึกเสียวซ่านแทน คนที่คุมเกมอยู่ก็เริ่มขยับขึ้นลง จากช้าและเร็วขึ้น ไม่นานก็
"อ้าห์ อะ อ้าห์ โฮ้วว "เสียงร้องครางดังออกมา ไม่นานทุกอย่างก็เกร็งและกะตุ๊ก น้ำสีขาวขุ่นพุ้งอยู่ภายในกายนั้น คนที่คุมเกมอยู่ รีบหันคว้ากระดาษทิชชูมาซับส่วนที่ไหล่ย้อนออกมาซะก่อนที่จะถอนตัวเองออกช้าๆ ผมก็นอนให้คนที่กำลังเช็ดทำความสะอาดจัดการคราบน้ำกามออกจนหมดสิ้น ก่อนที่เขาจะกลับมาหา
“หมับ” ผมรีบคว้าร่างนั้นเอาไว้และดึงรั้งให้นอนลงข้างๆ ตรงหน้า
“ไม่ให้ผมสวมเสื้อผ้าก่อนเหรอครับ”
“นอนแบบนี้แหละ อยากกอดแบบไม่มีอะไรมาขวางเลย ได้ไหม”
“หึ ไม่ดีกว่ามั้งครับ ผม”
“อายอะไรอีกล่ะ นอนแบบนี้แหละ “ผมพูดกับคนที่นอนมองผม แววตาไร้เดียงสา เขายังเป็นเด็กน้อยของผมตลอดเวลา ไม่ว่าตอนนี้จะอายุเท่าไหร่แล้วก็ตาม
“เรศ” ผมเรียกชื่อเขา
“ฉันว่าจะ ให้สิทธิ์ ภรรยากับเรา” ผมพูดและอิศเรศก็หันมามองหน้าผมด้วยสีหน้ากังวลขึ้นมาทันที
“ผมว่า”
“มันถึงเวลาแล้วเรศ เธอควรได้สิทธิ์นันและฉันจะเชิญผู้หญิงคนนั้นออกแต่จะให้เงินและที่อยู่ให้เขาออกไปพร้อมกับลูกสาวของเขาซะทีเพราะว่ามันถึงเวลาแล้ว” ผมพูด ก่อนจะขมวดค้วมองคนที่ผมกอดเขาเอาไว้
“ผมไม่ได้กังวลเรื่องนั้นหรอกครับ แต่ผมกังวลเรื่องคุณตั้น เขายังแคลงใจเรื่องแม่ของเขาและยิ่งผมกับคุณแบบนี้ด้วย มันยิ่งทำให้เขา”
“ฉันเลือกแล้วเรศ และเราก็เลือกแล้วไม่ใช่หรือ ว่าจะอยู่กับฉัน “ผมถามคนที่นอนใช้นิ้วเขี่ยตามไรขนที่แผ่นอกของผมเบาๆ
“ครับ ผมเลือกแล้ว เลือกที่จะอยู่กับคุณท่านไปจนกว่าผมจะหมดลมหายใจ”
“ดังนั้น เธอคือภรรยาของฉัน ฉันจะจัดการเรื่องเอกสารและติดต่อทนายเพื่อให้เขาจัดการให้ รวมทั้งเรื่องจดทะเบียนคู่สมรสด้วย “ผมพูดบอกคนที่นอนตะแคงมองผม เด็กหนุ่มที่อายุห่างจากผมแถมรุ่นราวคราวลูกผมเลยก็ว่าได้ แก่กว่าตั้นแค่ห้าปีเอง
“เคยรู้สึกอายไหมที่มีแฟนแก่” ผมถามอิศเรศ
“ถามผม คุณไม่แก่เลยนะครับ พละกำลังเหมือนโคถึก ซะด้วยซ้ำ ดังนั้น ไม่เคยรู้สึกอายเลยนะครับ และผมก็ชอบแบบนี้ อาจจะเป็นเพราะว่าผมชอบผู้ชายที่ดูอบอุ่น แบบคุณท่านไงครับ”
“อื้มมมม” มันเป็นคำตอบที่น่าพึงพอใจจนผมต้องก้มลงไปจูบคนเบื้องล่างอย่างเร่าร้อนอีกครั้ง
******
รชานนท์ ผมขับรถกลับมาจากที่ไปนั่งให้ใจของผมสงบลงก่อน ผมชวนเมย์ไปนั่งเล่นทีท่าพระอาทิตย์ ไปนั่งดูเรือสำราญที่ผ่านไปมา ผมเองก็เคยไม่กล้านั่ง ผมรู้สึกกลัวแม่น้ำ กลัวที่ลึกๆ ถามว่าไปทะเลได้ไหมไปแต่จะไม่ล่องเรือไปกลางทะเลเด็ดขาด ผมรู้สึกกลัว การจมน้ำ น่าจะเป็นเพราะว่าตอนเด็กๆ ผมตกน้ำบ่อยมั้ง อันที่จริงก็จำไม่ได้หรอก แม่นมเคยเล่าให้ผมฟัง ว่าผมตกลงไปและพ่อผมไปช่วยผมเข้ามา แต่ผมกลับไม่รู้สึกผูกพันอะไรกับพ่อผมเลยสักนิด มันเหมือนกับว่ามันหายไปจากใจผม
“ตัวเล็ก อาบน้ำกันไหม พี่รู้สึกเหนียวตัวยังไงก็ไม่รู้”
“ก็แน่ล่ะเราไปนั่งตรงริมแม่น้ำแบบนั้น ผมก็รู้สึกน่ะ” ตัวเล็กพูดขณะที่กำลังถอดพวกเครื่องประดับออก ผมเดินเข้าไปช่วยตัวเล็กถอดเช่นกันพวกแหวน พวกนาฬิกาออก จะว่าไปชวนตัวเล็กเล่นอะไรในห้องน้ำดีกว่า ตัวเล็กเดินไปหยิบชุดนอนก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป เมย์หันมามองผมก่อนจะก้าวพ้นเข้าห้องแอบกัดปากนิดนึง นั้นไงเมียเชื้อเชิญ ผมก็รีบถอดเสื้อผ้าออกจนหมดเรียกได้ว่าเดินโท่งๆ ตามเมย์เข้าห้องน้ำไปเช่นเดียวกัน เมย์แค่หันมามองผมก่อนจะก้าวเข้าห้องน้ำไปก่อน
“หมับ” ผมเข้าไปกอดเมย์จากด้านหลัง เมย์เปิดก๊อกน้ำ สายน้ำที่ราดรดลงมา
“ตามมาถูหลังให้เมีย” ผมกระซิบ เมย์แค่เหลียวมามองผมก่อนจะหันกลับไป ผมปล่อยให้สายน้ำราดรดที่ศีรษะของผม เมย์หันกลับพร้อมกับบีบยาสระผมใส่ฝ่ามือเล็กๆ นั้นและละเลงลงบนเส้นผมหนาๆ ผมเป็นคนที่ผมเส้นใหญ่และหนา ต้องขยันเข้าร้านตัดผมและต้องเป็นร้านประจำอีกต่างหาก ผมยืนนิ่งปล่อยให้เมย์เป็นคนสระผมให้ผม เนื่องจากเมย์ตัวเล็กกว่าผม ผมเลยต้องย่อตัวลงและก้มหัวลงมาหน่อย ผมยืนใช้มือเท้ากำแพงจนเมย์สระผมให้ผมเรียบร้อย ผมเงยหน้าขึ้นมองคนที่ยืนสระผมตัวเองเช่นกัน
“ขอบคุณนะครับ” ผมกระซิบ ก่อนจะโอบตัวเมย์มากอด สายน้ำที่ราดรดตั้งแต่ศีรษะลงมามันทำให้คนตรงหน้าผมดูเซ็กซี ฟองจากยาสระผม ผมยืนมองเมย์ จนเขาล้างผมเสร็จ และเมย์ก็บีบครีมอาบน้ำใส่ฟองน้ำ ก่อนจะไล่ถูไปตามตัวผม มันเหมือนเมย์กำลังยั่วผมอยู่น่ะ
“ยั่วเฮียหรือเปล่า” ผมถามเมย์ เมย์ไม่พูดได้แต่ช้อนตาขึ้นมองผม ฟองน้ำที่มีสบูเหลวถูวนไปมาตามแผ่นอกของผมและไล่ลงไปตามหน้าท้อง ช่วงนี้ผมตื่นมาโหนบาร์ทุกวัน มีเมียเด็กกว่าต้องฟิตกันหน่อย ตอนนี้ฟองน้ำนั้นเริ่มต่ำลงไปเรื่อยๆ
“แกล้งยั่วเฮียใช่ไหมครับที่รัก" ถามคนที่ยิ้มที่มุมปาก และฟองน้ำมันต่ำลงไปขนถึงส่วนสงวนของผม ถ้ายั่วกันขนาดนี้ ตั้นคงจะไม่ทนเช่นกัน ผมดันเมย์ไปติดกำแพง เอื้อมมือไปกดปิดน้ำก่อนสบู่ที่เกาะตามลำตัวของผมเรียกว่าพองเลยจะดีกว่า ผมใช้มือดันกำแพงไว้ข้างลำตัวของเมย์ ริมฝีปากเมย์เผยอรอรับการจูบของผม ผมก็ไม่รอช้าประกบปากจูบ แบบนุ่มนวล ค่อยๆ เล็มจากริมฝีปากบนและลงมาที่ริมฝีปากล่าง เม้มเล่นบ้าง ก่อนจะครอบจูบริมฝีปากบ้างๆ นั้นมย์ก็จูบผมตอบ กายของผมเริ่มเบียดเสียดที่ร่างกายของเมย์ หน้าท้องของผมสองคนก็เสียดสีกัน ริมปากผมเริ่มซุกไซ้ลงมาที่ซอกคอและไล่ลงมาเรื่อยๆ จนถึงสองจุดเล็กๆ ที่แข็งขึ้นเป็นไต ยิ่งใช้ลิ้นตวัดเลียหยอกเล่นก็ยิ่งแข็งและแอนขึ้น
ผมยอมรับว่าที่ผ่านมาเจอแต่อกตูม และแต่ละคน ก็สัมผัสได้เลยว่า ไม่ใช่ธรรมชาติให้มาสักคน มีบ้างเหมือนกันที่ไม่ได้ทำ ส่วนพี่ปริมน่ะ ทำหมดทั้งตัวเท่าที่ผมรู้ หน้าอกเธอก็ทำมา จับไปไร้ความรู้สึก ไม่เหมือนกับอกแบนๆแบบนี้เลย เล่นเอาผมไม่อยากหยุด ผมค่อยเลื่อนตัวเองลงไปหาหน้าท้องแบนๆ นั้น พรมจูบลงไป ผมเดาว่าเมย์คงหายใจไม่ทั่วท้อง เมย์เกร็งหน้าท้องเป็นครั้งคราว ผมค่อยเลื่อนลงไปจนถึงเมย์น้อยๆ
(ที่ผ่านมาก็ไม่เคยทำให้ใครมาก่อนเลย แม้กระทั่งกับผู้หญิงก็ไม่เคยทำ ยิ่งผู้ชายผมก็ยังไม่เคยทำให้มาก่อน ทั้งที่ผมก็เป็นแฟนกับพี่อิศเรศอยู่ตั้งหลายปียังไม่เคยทำให้ และเมย์นี่ก็คือคนแรกเลยที่ผมยอมทำให้ขนาดนี้ )
ผมค่อยๆ ครอบปากกับเมย์น้อย ที่ดูน่ารักกระจุ๋มกระจิ๋ม เมย์ก็เริ่มโยกเบาๆ ยิ่งทำก็ยิ่งเมามัน จนกระทั่งร่างของเมย์เริ่มกระตุกและน้ำสีขาวขุ่นก็พุ้งกระจายออกมา หลบแทบไม่ทันน่ะผม เห็นตัวเล็กๆ แบบนีพุ้งออกมาราวกับน้ำจากก๊อก ผมเงยหน้าขึ้นมองเมย์
“ตาเฮียบ้างแล้วน่ะเมีย” ผมพูดก่อนจะค่อยๆ ดันตัวเองขึ้นมามองเมย์ ผมก็ยืนเปิดก๊อกน้ำอีกครั้ง เมย์ยืนมองผมกัดปากเซ็กซี่ก่อนจะบีบสบู่ใส่ฟองน้ำและถูตัวเองให้ทั่วเพื่อเพิ่มฟองสบู ผมถูกไปทุกส่วน พอเห็นว่าฟองหนาพอสมควรแล้ว ผมก็ปิดน้ำและโผเข้าไปกอดเมย ร่างกายผมเสียดสีกัน
“อ้าห์ “เมย์เริ่มคราวออกมาเบา ๆ ผมก็ดันเมย์ไปติดกับกำแพงพร้อมกับใช้ฝ่ามือจับเอวเมย์และยกขึ้นผมดันเมย์ไว้กับกำแพง เมย์มองหน้าผมตาแป๋วเลย
“พี่จะทำเบาๆ ครับ “ผมกระซิบบอกเมย์ เมย์ใช้แขนโอบรอบคอผมเอาไว้ ผมจับโคนขาเมย์ให้กางออกเพื่อให้สอดใส่แท่งร้อนของผมให้ตรงกับช่องทางรักของเมย์ ไม่มีเจลในห้องน้ำแต่สบู่ที่ผมใช้ถูตัว ก็น่าจะช่วยให้เกมรักของผมสองคนไม่สะดุด ผมค่อยสอดใส่เข้าไปที่ช่องทางรักของเมย์ช้าๆ และดันเข้าไปเบาๆ
“อ้าห์ พี่ตั้น “เมย์ครางเรียกชื่อผม ผมเห็นมือของเมย์ข้างหนึ่งไปแปะไว้ที่กระจกตู้อาบน้ำ ผมก็โยกสวนเข้าออก
“เฮีย อ้าห์ อื้มม ซี้ด” มีแต่เสียงเมย์ที่ครางเพราะว่าผมมุ่งมั่นโยกอย่างเดียว และต้องทำกิจกรรมนี้อย่างระมัดระวัง เพราะถ้าผิดท่าขึ้นมานี้ได้รับบาดเจ็บเลยน่ะ และถ้าบาดเจ็บจนต้องไปโรงพยาบาลขึ้นมาและเหตุผลที่ต้องบอกหมออาจจะทำให้ผมโดนแก๊งของผม ที่ปากหมานเป็นหลัก พวกมันอาจจะทำให้ผมต้องแทรกแผ่นดินหนีไปเลยก็ได้ แค่คิดก็กลัว ดังนั้นอย่าพลาดจะดีกว่า ฮาๆ
“โอ้ววว โอ้วว อืมมม ซี้ด พี่ตั้น “ดีน่ะที่เป็นในห้องน้ำเมียครางน่าดู จนผมเองก็เริ่มจะทนไม่ไหว ร่างกายเริ่มกระตุก แท่งร้อนก็กระตุกตามเช่นกันและ
“ปึก” เสียงเด้งสวนเข้าไปรอบนี้ผมต้องค้างเอาไว้ เพราะว่าน้ำสีขาวขุ่นกำลังพวยพุ้งออกมา
“อ้าห์!!” เสียงครางลากยาวจากปากผม “ฟู่!” พร้อมกลับพ่นลมหายใจออกมาจากจมูกโด่งๆ ของผม น้ำสีขาวขุ่นไหลย้อนลงไปที่โคนขาอ่อนของเมย์และไหล่ลงที่โคนขาอ่อนของผมเช่นกัน เมย์ก้มลงจูบผม ผมก็จูบเมย์ตอบ ยิ่งนับวันเมย์ก็ยิ่งเร่าร้อน ผมยอมรับเลยว่า พี่ปริมก็สู้ไม่ได้ ผมว่าพี่ปริมแกเซ็กจัดแล้วน่ะแต่ไม่ตอบสนองผมได้ถึงใจเหมือนเมย์เลยสักนิด
“ทำไมมองผมแบบนี้ล่ะเฮีย” เมย์ถามผม
“ขอบคุณน่ะครับ เมย์ทำให้พี่มีความสุขอ่ะครับ”
“จริงอ่ะ” เมย์ถามผมด้วยน้ำเสียงที่แปลกใจ
“จริงครับ มีความสุขมากกว่าทุกคนที่ผ่านมา พี่พึ่งจะรู้น่ะว่าที่ผ่านมาเฮียนี่เลือกเดินทางผิดมาตลอด” ผมพูดปนหัวเราะ ก่อนจะค่อยๆถอนแกนกายผมออกและค่อยๆ ปล่อยเมย์ลงมายืนจนทรงตัวได้ และจูบเมย์อีกครั้ง
“ผมไม่เคยอยู่ในห้องน้ำนานขนาดนี้เลยน่ะเนี๊ยะ นี้ครั้งแรกเลยจริงๆ “เมย์พูดปนหัวเราะ และผมสองคนก็ช่วยกันทำความสะอาดร่างกายอีกครั้ง ก่อนจะพากันออกมาจากห้องน้ำ ผมสวมแค่บอกเซอร์ ตั้งแต่มีเมย์มาอยู่ด้วย ผมสวมแค่นี้ ไม่สวมเสื้อนอน อยากให้เมย์กอดอกอุ่นๆ ของผม
“เมียจ๋าเอานมอุ่นๆ ไหมครับ เฮียทำให้ครับ” ผมถามเมย์
“ขอบคุณครับที่รัก” เมย์บอกผม “ที่รักอย่าลืมเช็ดผมให้แห้งๆ ด้วยน่ะครับ เพราะว่าเวลาที่รักนอนแล้วผมเปียกมันก็จะทำให้หมอนที่รักเปียกไปด้วย และมันจะชื้นไม่ดีน่ะครับ” เมย์บอกผม ผมก็คว้าผ้าขนหนูมาซับน้ำที่หัวผมไปด้วยผมเดินออกมาที่ด้านนอก ส่วนเมย์เขากำลังจัดที่นอนอยู่ และพอผมเดินออกมาก่อน
“เว้ยยย!!” ร้องเสียงหลง ให้กับแขกที่ไม่ได้รับเชิญมันมานั่งรอกับเฟย์ ตอนไหนวะ ไอ้กอล์ฟครับ มันหันมามองหน้าผม นั้งดูทีวีกันราวกับบ้านของตัวเอง
“กูมาได้สักพักหนึ่งแล้ว กดกริ่งแล้วไม่มีใครตอบเลยเปิดประตูเข้ามา และได้ยินเสียงเปิดน้ำคงอาบน้ำกันเลยไม่เรียกอ่ะรอ… และก็รอ รอ จน หนึ่งชั่วโมงพอดี” ไอ้กอล์ฟมันพูด ผมก็มองหน้ามันว่ามารอทำไมที่ห้องผมแบบนี่
“กูจะมาบอกว่างานมีปัญหา ให้มึงพากันไปแก้ระบบ ที่โรงพยาบาลว่ะ พรุ่งนี้ด่วน “ไอ้กอล์ฟบอกผม
“เฮีย ร้องทำไมอ่ะ มีอะไรเหรอครับ” เมย์รีบเดินออกมาพร้อมกับผ้าเช็ดผมที่เปียกจากการสระออกมาด้วย แน่นอนมันก็แสดงให้เห็นแล้วว่าผมสองคนเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จกัน
“อ้าวพี่กอล์ฟ เฟย์ มาตอนไหนอ่ะ” เมย์ถามขึ้น
“พี่มา เมื่อ ประมาณหนึ่งชั่วโมงที่แล้วครับ นั่งดูละครหลังข่าวจบไปหลายตอนแล้วครับแต่พี่มาไม่กล้าเรียกเห็นอาบน้ำกันอยู่ “ไอ้กอล์ฟมันพูด เมย์หันมามองหน้าผม ผมก็ยิ้มแหยๆ
“อาบน้ำกันนานเนอะ” เฟย์อีกคน
“โปรโมชั่นใช้น้ำฟรีเหรอ” ไอ้กอล์ฟมันแซวผมสองคน
“เรื่องของกู” ผมตอบมันไปแอบเขินไปด้วยก่อนจะเดินไปนั่งลงและดูเอกสารที่มันปริ้นซ์มาให้ผมดู เมย์ก็เดินไปทำนมอุ่นแทนผม
“พรุ่งนี้เมย์ต้องไปมหา’ลัยว่ะ กูไม่อยากให้เมย์ไปคนเดียวเลยว่ะ “ผมพูด แต่งานก็สำคัญ
“พรุ่งนี้มีสามที่เลยว่ะตั้น ต้องแก้ให้เสร็จว่ะ “ไอ้กอล์ฟพูด พอดีเมย์เดินมารพร้อมกับนมอุ่นๆ ไอ้กอล์ฟมันมองแก้วนมและหันมามองหน้าผม
“เปลี่ยนสไตล์แล้วเหรอ ปกติน้ำเมาเท่านั้นที่จะทำให้มึงหลับสบาย แต่นี่เปลี่ยนมาเป็นน้ำนมแทน” ไอ้กอล์ฟมันพูด ผมอยากจะหาอะไรปาใส่มันแต่ไม่มีเมย์เก็บเอาที่เข้าทางไปหมด
“คุยเรื่องอะไรกันอยู่เหรอครับ “เมย์ถามผมกับไอ้กอล์ฟ
“พรุ่งนี้พี่มีงานน่ะครับ แต่พี่ก็เป็นห่วงเมย์ ที่จะให้เมย์ไปมหา’ ลัยคนเดียว” ผมพูดเมย์หันมามองหน้าผมและกอล์ฟ
“พรุ่งนี้ผมมีเรียนเช้าและวิชาเดียวครับ มีอีกทีตอนเย็นเลยครับ พี่ตั้นให้ผมไปเป็นเพื่อนพี่เมย์ไหมครับ” เฟย์พูดขึ้น ผมหันมามองหน้าเมย์
“ผมแค่ไปทำเรื่องก่อนนะครับพี่ตั้น ไม่นานหรอกเพราะว่าผมเคลียร์ทุกอย่างหมดแล้ว แค่ทำเรื่องและเขาก็จะนัดวันซ้อมรับแค่นั้นเองนะครับ” เมย์พูด
“ให้เฟย์ไปเป็นเพื่อนแล้วกันน่ะเมย์ พี่เป็นห่วงเรานะ พี่ไม่อยากให้ไปคนเดียว “ผมหันไปบอกเมย์ เมย์ก็พยักหน้าตอบผม
“โอเคถ้าอย่างนัน เฟย์มารับเมย์แล้วกันน่ะ”
“ขอบใจน่ะเฟย์ “ผมหันไปขอบใจเฟย์
“ไม่เป็นไรครับ เฮีย ผมน่ะรักพี่เมย์เหมือนพี่….” ผมก็เลิกคิ้วมอง
“พี่ชาย “ค่อยยังชัวผมหน่อย นึกว่าบอกว่าเมย์ผมเป็นพี่สาว
“ถ้าอย่างนั้นกูไปนอนน่ะ ดึกมากแล้ว ยังไม่ได้อาบน้ำเลย และถ้าอาบน้ำอีก คง ได้นอนประมาณเที่ยงคืนพอดี” นั้นไงยังไม่หยุดอีกยังแซวผมอีก ผมหันไปมองเวลาตอนนี้มันแค่สี่ทุ่มครึ้งเอง มันจะอาบนานเกินผมสองคนไปแล้ว
“แบบว่าไม่ต้องใช้ยากูอึดทนนานว่ะ” ไอ้กอล์ฟพูด แม้คนข้างๆ เอียงอายน่าดู
“เหรอ แซวกูตลอดนะพวกมึงน่ะ เดี๋ยวกูให้เฝ้าออฟฟิศอีกคืนเลยพรุ่งนี้น่ะ แซวกู” ผมพูด
“ไม่ได้น่ะ พรุ่งนี้จะพาเฟย์ไปเที่ยว ให้ไอ้พวกนั้นมาอยู่มั้งเลย” ผมพยักหน้าก่อนจะไปเปิดประตูส่งแขกกลับห้องมัน ผมหันมามองเมย์ ก่อนจะเดินกลับมากระดกดื่มนมอุ่นๆ ที่ผสมน้ำผึ้งที่เมย์ทำให้ผมดื่ม เมย์ก็เช็ดซับน้ำที่เส้นผมให้ผมจนแห้ง เส้นผมของผมเส้นใหญ่และหนา เมื่อก่อนขี้เกียจแม่ต้องคอยเช็ดให้ผมตลอด ผมหันมามองเมย์ก่อนจะเปลี่ยนเป็นผมนอนหนุนตักเมย์ เมย์ก็เอามือลูบหัวผมเบาๆ มันเหมือนตอนที่แม่ผมยังอยู่ ผมชอบนอนหนุนตักแม่ผมและให้แม่เอามือลูบหัวผมเล่นจนผมหลับบ้าง หรือบางที่ก็แค่เคลิ้มและแม่ถึงจะไล่ผมไปนอน ผมค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองเมย์ที่ก้มมองผม ทำไมผมถึงได้เห็นเป็นใบหน้าของแม่ผม แม่ลลิลภัทร์ซ้อนเข้ามา ผมค่อยพลิกมานอนหงายมองพร้อมกับยกมือขึ้นแตะใบหน้านั้นเบาๆ
“มัม” ผมเรียกคนที่ผมแตะ
“พี่ต้น นี้เมย์”นั่นแหละผมถึงได้สติ คนที่ผมแตะคือเมย์
“เออ เมย์พี่ขอโทษ
“พี่คิดถึงแม่เหรอครับ” เมย์ถามผม ผมพยักหน้าว่าใช่ เพราะว่าวันนี้เอ่ยถามเรื่องแม่กับพ่อผมไป ผมถึงได้คิดถึงแม่ผมขึ้นมา
“พี่อยากบินที่นั้น เพื่อไปเอารูปเอาของทุกอย่างของแม่พี่กลับมา “ผมพูดกับเมย์
“งั้นเราก็ไปกันซิครับ พ่อพี่ยังไม่ได้ขายไม่ใช่เหรอครับ” เมย์บอกผม
“ไปตอนวันคริสต์มาสไหมครับและช่วงปีใหม่เราค่อยไปหาพ่อพี่กัน “เมย์บอกผม
“ถ้าผมไปกับพี่ ผมก็ต้องขอวีซ่าด้วยใช่ไหมครับ “เมย์ถามผม ผมพยักหน้าว่าใช่แต่ผมไม่ต้องเพราะว่าผมถือสองสัญชาติอยู่น่ะตอนนี้ แม่ผมได้สัญชาติอเมริกันนานแล้วก่อนจะมาอยู่กับพ่อผม
“ยื่นขอวีซ่านะไม่นานหรอกครับเมย์ เดี๋ยวพี่จัดการเอง พี่ให้พี่อิศเรศเขาจัดการให้ และหลังจากนั้นเราก็ไปฮันนี้มูนกันด้วยน่ะ”ผมพูด
“ผมยังไม่เคยไปอเมริกามาก่อนเลยอ่ะพี่ตั้น”
“นี่ไงครับไปกับพี่ เดี๋ยวพี่พาไปเที่ยวครับ “ผมบอกเมย์ แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้ว นี่ผมจะได้พาเมย์ไปหาแม่ลลิลภัทร์ของผมด้วยซิน่ะ แม่ต้องชอบแน่ๆ เพราะว่าเมย์มีอะไรหลายๆ อย่างที่เหมือนแม่ของผม ผมใช้ฝ่ามือผมลูบไล้ใบหน้าของเมย์เบาๆ
“พี่คิดว่าแม่พี่ส่งเมย์มาให้พี่” ผมบอกเมย์ เมย์ก็ยิ้ม
“แม่ปริมนะซิ ส่งผมมาให้พี่น่ะ” เมย์พูด เบรกซะตั้นหัวทิ่มเลย
“ยอมรับว่าแม่ปริม แต่ตอนนี้ตั้นมีแม่เมย์คนเดียวจริงๆ ไม่ไปหาแม่คนไหนแล้ว “ผมพูดออดอ้อนเมย์ เขาก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ๋ให้ผม ผมนอนหนุนตักคุยกันกะหนุงกะหนิงคุยกันทุกเรื่อง ไม่ว่าเรื่องเรียนที่อเมริกาของผมและเรื่องเพื่อนๆ ของผมที่อเมริกา ว่าผมมีเพื่อนคนหนึ่ง มันอ้วนมากและโดนบลูลี่บ่อยๆ จนผมทนไม่ไหว เลยช่วยมันและผมก็มีเรื่องชกต่อยกับคนที่บลูลี่เพื่อนผมคนนั้นจนผมเองก็เกือบโดนไล่ออก และนั้นทำให้ผมได้เห็นหน้าพ่อผมครั้งแรกตั้งแต่ย้ายไปอเมริกา และเพื่อนผมคนนี้ยังมีกรุปเลือดเดียวกับผมอีกน่ะ RH- และเพื่อนคนนี้มันเกิดอุบัติเหตุ ผมเลยเป็นคนที่บริจาคเลือดให้เพื่อนคนนี้อีก ตั้งแต่พอแม่ผมป่วยผมก็ไม่ได้คุยกับเพื่อนผมคนนั้นอีก และก่อนที่ผมจะย้ายมาที่นี้ผมได้ยินพวกเพื่อนๆคนอื่นอบกผมว่า เพื่อนคนนั้นต้องย้ายบ้านไปอีกเมืองตามพ่อแม่ก็เลยขาดการติดต่อไปเลยและผมก็จำชื่อมันไม่ได้อีกด้วย จำได้แต่ว่ามีกรุปเลือดเดียวกับผมแค่นั้นเอง