มาแล้วครับตอนใหม่ อิอิ ไม่ได้หายไปไหนนะครับ
ถ้ามีเวลาก็มาอัพเดตให้กันเสมอ
อย่าลืมติดตามเรื่องอื่นของไรต์ด้วยนะครับ เรื่อง บังเอิญรักโดยตั้งใจ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=65595.0และขอเชิญติดตามไรต์ทางเพจ facebook ตามลิงค์ที่ลายเซ็นนะครับ
ขอบคุณครับ
ตอนที่ 33. ที่เรามีให้นายคือความรัก
เชียงใหม่ในยามนี้ถนนค่อนข้างโล่ง ชายหนุ่มขี่มอเตอร์ไซค์ฮอนด้าขนาดหนึ่งร้อยสิบแรงม้าสีแดงคลุมด้วยผ้าคาดจมูกและทับด้วยหมวกกันน็อคขนาดครึ่งหัวที่ดูอย่างไรก็ไม่สามารถป้องกันคนขับได้ในกรณีเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน รถเลี้ยวไปตามทางในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่จากประตูหน้าลัดเลาะมาจนถึงวงเวียนนาฬิกาหน้าหอพักสี่ชายตรงข้ามกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ รถเลี้ยวซ้ายขับผ่านคณะศึกษาศาสตร์ สระว่ายน้ำ สนามกีฬา คณะเกษตรศาสตร์ และพุ่งตรงไปตามทางทะลุออกที่ถนนนิมมานเหมินทร์
เสียงรถดังราวกับคนไอก่อนที่จะดับเองทั้งที่ยังไม่ได้ดับเครื่อง สงสัยมันจะถูกใช้งานมาหลายปีเกินไปแล้ว นอกจากเสียงโซ่ที่ดังกึกกักแล้วก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง (ถ้าไม่นับว่ารถจะดับเองตอนไม่ได้เร่งเครื่องนะ)
“มาแล้วเหรอ เป็นไงบ้าง” เสียงหนึ่งถามโดยที่ไม่มองมาทางนี้ เจ้าตัวกำลังรดน้ำต้นไม้และตกแต่งร้านก่อนจะเปิดในช่วงเย็น
“ก็ดี แต่ร้อนไปหน่อย”
“กินน้ำก่อนสิ” แล้วเขาก็สั่งพนักงานยกน้ำมาให้ “ใจคอจะไม่ถอดหน้ากากออกเลยเรอะ”
“แหะๆ ลืม” เจ้าตัวยิ้มเจื่อนพลางถอดผ้าคลุมหน้าออก เผยเห็นความหล่อเหลาที่เปล่งประกายชนิดที่ว่าใครเห็นจะต้องเหลียวมองตาเป็นมัน
“นายไปอาบน้ำก่อนปะ เดี๋ยวลงมากินข้าว”
“แล้วนายล่ะ”
“ขอรดน้ำต้นไม้เสร็จก่อน”
“งั้นมา เดี๋ยวช่วย”
“ใครจะกล้าใช้พระเอกหนุ่มรูปหล่อมารดน้ำต้นไม้ได้ล่ะ”
“ทำไมจะไม่ได้ เอามานี่” ชายหนุ่มแย่งสายฉีดน้ำมาปล่อยให้เพื่อนสนิทมองด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก ทั้งคู่เล่นกันเหมือนเด็ก ยื้อแย่งสายฉีดน้ำไปมาจนตัวเปียกโชก เสียงหัวเราะสอดประสานกันราวกับทิ้งโลกไว้เบื้องหลัง
“นายโอเคขึ้นแล้วใช่ไหมภัทร”
ภัทรหยุดการเคลื่อนไหวไปชั่วขณะ คำถามที่แฝงไปด้วยความจริงใจและสงสารทำให้เขารู้สึกอ่อนแอลงกระทันหัน จากที่ไม่เคยต้องการความช่วยเหลือจากใคร แต่ตอนนี้เขากลับหนีเรื่องราวบ้าๆและมาพักใจอยู่ที่เชียงใหม่อย่างเงียบเชียบ
เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อสามเดือนก่อน เขาป่วยต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ก่อนที่จะได้สติก็กลายเป็นว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งมาอยู่ข้างๆ จนสุดท้ายก็มีข่าวหลุดออกมาและกระทบหน้าที่การงาน ใบหน้าเขาออกข่าวทุกสำนัก หนังสือซุบซิบดาราขุดคุ้ยจนตัวเขาเองหวั่นใจว่าจะกระทบต่อคนอื่น ภัทรเป๋ไปเลยในตอนนั้น ไม่รู้จะทำอย่างไรเมื่อโฆษณาหลายชิ้นได้โทรมาขอยกเลิก และละครที่ถ่ายทำไว้สองสามเรื่องก็ถูกดองไว้จนกว่าเรื่องจะซาลงไป
ภัทรตัดสินใจมาเชียงใหม่ เมืองนี้ไม่ใช่เมืองที่ดีที่สุด เขาเกิดที่อ.สองพี่น้อง จ. สุพรรณบุรี แต่ไม่รู้จะกลับไปทำไม เมื่อผู้เป็นพ่อก็ไม่ได้เป็นเสาหลักให้ครอบครัว แม่ของเขาเป็นหนึ่งในบรรดาเมียน้อยที่สนองความเจ้าชู้ของพ่อก็เท่านั้น เขาคือผลผลิตของความมักมากนี้ และไม่อยากให้มันลุกลามไปไหนอีก เพราะเขารู้ดีกว่าไม่มีทางจะถ่ายทอดเชื้อร้ายไปให้ผู้หญิงคนไหนได้อีก
และที่เขามาที่นี่ เพราะมีใครคนนี้อยู่...
“เราโอเค” ภัทรยิ้มแบบที่คิดว่าจริงใจที่สุด อีกฝ่ายยิ้มกลับด้วยแววตาที่เจ็บปวด
“ไปอาบน้ำกันเถอะ วันนี้มีของโปรดนายด้วยนะ”
บนเรือนไม้แบบยกสูงตามแบบฉบับคนเหนือ สองหนุ่มทานอาหารกันแบบง่ายๆที่โต๊ะอาหารที่วางไว้ตรงศาลาขนาดย่อมบนเรือน ในถาดมีกับข้าวสองสามอย่าง แต่เมนูโปรดของภัทรคือน้ำพริกข่ากับจอผักกาดใส่หมูสามชั้นและมะขาม เป็นอาหารเหนือขนานแท้ที่เขาเรีกร้องหาทุกวันแบบไม่มีเบื่อ ภัทรตักหมูชิ้นหนึ่งวางที่จานของอีกฝ่าย
“กินเยอะๆ นายดูผอมไปนะ”
“ขอบคุณ” รอยยิ้มสดใสนั้นฉีกกว้าง
“นายอย่ายิ้มแบบนี้สิบั๊มพ์ เราเขิน”
“ยังไม่ชินอีกเหรอ” สำหรับบั๊มพ์แล้ว ภัทรคือผู้ชายที่ทำให้เขารู้สึกหวั่นไหว อยู่ใกล้แล้วใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ความหล่อเหลาของภัทรไม่ได้ส่งผลกับความรู้สึกนี้เท่ากับนิสัยใจคอและความจริงใจที่เคยมีให้ตลอดมา
“ไม่ซะที” ภัทรตอบด้วยความเขิน “แต่เราชอบรอยยิ้มนี้นะ”
“งั้นเรายิ้มให้ทุกวันเลยเป็นไงล่ะ” ภัทรไม่ตอบ เขาส่งยิ้มหวานกลับไปให้ เขี้ยวเสน่ห์เป็นประกายใต้แสงไฟ ฟันขาวเรียงระยับน่ามองพอๆกับใบหน้าที่ไร้ที่ตินั้น
“ขอบใจนายมากนะ”
“ขอบใจเรื่องอะไร” บั๊มพ์ถาม
“ทุกเรื่อง” ภัทรหมายความตามนั้น เขาคงไม่ก้าวผ่านเรื่องแย่ๆมาได้ถ้าไม่มีผู้ชายคนนี้
บั๊มพ์ยิ้ม ส่ายหน้า และตักอาหารให้อีกฝ่าย “นายจะอยู่ที่นี่นานเท่าไหร่ก็ได้นะ ให้คิดว่ามันคือบ้านของนาย”
ภัทรไม่ตอบ ความตื้นตันบีบเค้นในจิตใจจนแทบคลั่ง
“เรารู้จักกันมากี่ปีแล้วนะ”
“ตั้งแต่มอปลาย ตอนนี้ก็เจ็ดแปดปีแล้วล่ะ”
“นายไม่คิดว่าเราเป็นคนแบบในข่าวมั้ยบั๊มพ์”
บั๊มพ์ตอบโดยไม่ต้องคิด “ไม่เลย”
“ขอโทษนะ”
“ขอโทษทำไม”
“ก็ที่ถามนายซ้ำๆทุกวันน่ะสิ นายคงเบื่อ”
“ไม่หรอก” บั๊มพ์สบตาคู่สวยนั้น “เราไม่เคยเบื่อนาย”
“บั๊มพ์”
“หืม”
“ดูดาวสิ คืนนี้ดาวสวยจังเลยเนาะ” ภัทรแหงนมองฟ้า พวกเขาอยู่ชั้นสองบนเรือนไม้ที่ด้านนอกเป็นชานวางโล่ง ทำให้สามารถมองเห็นความสวยงามยามค่ำคืนได้เป็นอย่างดี ตัวบ้านปลูกอยู่ด้านในของเนื้อที่ทั้งหมด โดยมีอีกฝั่งหนึ่งเป็นร้านอาหารเหนือที่บั๊มพ์หลงไหลและมาเปิดกิจการจนปักหลักอยู่ที่นี่
“อืม สวย” บั๊มพ์ตอบ
“เราอยากอยู่ที่นี่กับนายตลอดไปจัง” ภัทรเอ่ยขึ้น
บั๊มพ์ไม่ตอบ เสียงลมพัดกรูปะทะตัวผ่านไป ทั้งคู่ปล่อยให้ความสงบเข้ามาแทนที่บทสนทนา
“เรา...” บั๊มพ์มองไปที่ท้องฟ้าและหันมาสบตาผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า
“ไม่เป็นไรหรอก เราเข้าใจ” มันเป็นแบบนี้มาตลอด ภัทรคิดในใจ บั๊มพ์ไม่เคยให้เขาเข้าใกล้เกินระยะของคำว่าเพื่อน ถึงแม้ว่าต่างก็รู้กันเต็มอกว่าทั้งคู่รู้สึกอย่างไรก็ตาม
“ไม่ นายไม่เข้าใจ”
“ยังไงล่ะ” ภัทรถาม
“ครอบครัวเรา พี่เรา น้องเรา” บั๊มพ์พูดด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด
“อย่ากลัวหรืออายที่จะบอกคนอื่นว่าเราเป็นหรืออยากเป็นอะไร เราต้องเคารพตัวเองให้มาก ถ้าวันนี้เรายังยืนหยัดต่อสู้เพื่อตัวเองไม่ได้ ก็อย่าหวังว่าใครจะมาทำให้เรา” ภัทรพูดแล้วหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุด ปล่อยให้อีกฝ่ายใช้ความคิดเงียบๆ
“แต่พวกเราเป็นผู้ชายนะ นายมองไปรอบๆสิ นี่มันปี 2542 นะ ไม่มีใครยอมรับเรื่องนี้”
“มันไม่สำคัญว่าใครจะยอมรับหรอกบั๊มพ์” ภัทรพ่นควันสีขุ่นออกมาอย่างใจเย็น “มันอยู่ที่นายเองต่างหาก”
“แล้วถ้าวันหนึ่งพวกเราไปไม่รอดล่ะ” ภัทรเอื้อมมือมาจับมือใหญ่นั้น ส่งสายตาจริงจังมาประสาน ความอ่อนแอนั้นไม่ได้เกิดมาจากครอบครัวหรือคนอื่น แต่เป็นเพราะบั๊มพ์รู้สึกว่าตัวเองกลัวจะสูญเสียผู้ชายคนนี้ไปต่างหาก และนั่นก็มีเหตุผลมากพอที่จะทำให้เขาหวาดกลัวมาตลอด
“เราก็ไม่ว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น แต่ที่เรารู้คือวันนี้เรารักนาย” ภัทรวางบุหรี่บนที่เขี่ยก่อนเดินมาโอบลำคอหนาของอีกฝ่ายโน้มใบหน้าชิดกับใบหูพ่นลมหายใจที่มีแต่กลิ่นนิโคตินวนเวียน บั๊มพ์หายใจขัด ความเร่าร้อนของภัทรไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดที่จะต้องรับมือ แต่เป็นชื่อเสียงของอีกฝ่ายต่างหาก
“แต่นายเป็นดารานะ...” ภัทรใช้นิ้วปิดปากฝ่ายนั้นไว้
“ชวู่... เราคือภัทร คนที่นายรู้จักมาตั้งแต่สมัยมอปลาย นายก็รู้ไม่ใช่เหรอ”
บั๊มพ์พยักหน้า
“บั๊มพ์...” ภัทรหมุนเก้าอี้ของอีกฝ่ายให้มาประจัญหน้าและนั่งคุกเข่าให้ได้ระยะสายตา
“หืม”
“เป็นแฟนกันนะ เราอาจจะไม่ใช่คนที่ดีพร้อม แต่ที่เรามีให้นายคือความรัก และเราจะสัญญาว่ามันจะเป็นความจริงตลอดไป”
บั๊มพ์ไม่ตอบ ได้แต่จับจ้องไปที่ใบหน้าอันหล่อเหลานั้นเนิ่นนานจนไม่รู้ว่านานเท่าไรแล้ว ทุกอย่างดูเงียบสงัดเมื่อภัทรโน้มใบหน้ามาหา ริมฝีปากได้รูปประกบความลึกเข้ากับปากของเขา ความอบอุ่นเนิบนาบเปลี่ยนเป็นความเร่าร้อน บั๊มพ์ไม่รูตัวเลยว่าถูกอุ้มมาตอนไหน ถูกวางลงเตียงตอนไหน เมื่อสายตาที่ส่งผ่านมานั้นช่างเปี่ยมไปด้วยความรักและหื่นกระหาย บั๊มพ์ยอมถูกกัดกินจนไม่เหลือซาก เมื่อความใหญ่แน่นส่งผ่านสุดทาง บั๊มพ์ถึงได้แน่ใจว่าชีวิตนี้คงจะไม่รักใครได้เท่านี้อีกแล้ว....
***********************************************************************จบตอน....
วันนี้จะขอแนะนำตัวละครอีกตัวหนึ่ง ที่มีบทบาทในเรื่องนี้ไม่มาก
แต่จะเป็นปมไปสู่อีกเรื่องหนึ่ง (ถ้าเป็นแฟนไรต์จริงจะรู้ว่าเรื่องไหนเนอะ)
คนนั้นก็คือ ดาราของเราครับ นายภัทร
ภัทรเป็นคนสุพรรณบุรี เป็นลูกจากเมียคนที่สามของพ่อ แม่เขาเสียนานแล้ว
เลยไม่ได้ติดต่อทางพ่อเลย
ภัทรรักกับบั๊มพ์ ตั้งแต่สมัยเรียน แต่พวกเขาก็ปกปิดไว้ แม้กระทั่งจบมาแล้ว
ภัทรเป็นดาราดัง บั๊มพ์หนีมาเปิดร้านอาหารที่เชียงใหม่ เรื่องราวของทั้งคู่เลยยากจะบรรจบกัน
แต่วันนี้ หลังจากที่รอมา 8 ปี นายภัทรของเราก็สมหวังเสียที
นี่คือ นายภัทรในจินตนาการของผมครับ
หวังว่านายภัทรในความคิดของผมจะถูกใจแฟนๆนะครับ
ขอบคุณที่ติดตามครับ